sianbun on February 08, 2010, 04:18:56 PM
ผลสำรวจผู้บริหารไอทีในเอเชียแปซิฟิค ชี้ การขับเคลื่อนแอพพลิเคชันและ

คลาวด์คอมพิวติ้ง จำเป็นยิ่งสำหรับธุรกิจ

การศึกษาจากฟรอสต์แอนด์ซัลลิแวน ชี้ให้เห็นถึงความสัมพันธ์อย่างชัดเจน ระหว่างการขับเคลื่อนแอพพลิเคชัน

คลาวด์คอมพิวติ้ง และความคล่องตัวของธุรกิจ

กรุงเทพฯ – 8 กุมพาพันธ์ 2553 - F5 เน็ตเวิร์กส์ อิงก์ ผู้นำระดับโลกด้านแพลตฟอร์มระบบเครือข่ายอัจฉริยะเพื่อการขับเคลื่อนแอพพลิเคชัน เปิดเผยผลสำรวจจาก ฟรอสต์แอนด์ซัลลิแวน เกี่ยวกับมุมมองขององค์กรธุรกิจเรื่องการขับเคลื่อนแอพพลิเคชัน และคลาวด์คอมพิวติ้ง รวมถึงความเข้าใจในเทคโนโลยีซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นต่อเรื่องนี้

 

ผลสำรวจพบว่า ซีไอโอและผู้บริหารระดับสูงด้านไอทีในเอเชียแปซิฟิค (APAC) ตระหนักว่าเว็บแอพพลิเคชันนั้นสำคัญอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจ และตระหนักดีถึงภัยจากการโจมตีผ่านเว็บ ทำให้ระบบความปลอดภัยกลายเป็นเรื่องน่ากังวลมากที่สุด

ผลสำรวจยังชี้ให้เห็นว่า องค์กรยังมีความสับสนระหว่างช่องโหว่บนระบบเครือข่ายกับการโจมตีเว็บแอพพลิเคชัน โดยเฉพาะการสับสนเรื่องความสามารถของไฟร์วอลล์สำหรับระบบเครือข่าย กับไฟร์วอลล์สำหรับเว็บแอพพลิเคชัน ซึ่งทำหน้าที่แตกต่างกัน

หลายองค์กรมองการเพิ่มแบนด์วิธเป็นช่องทางในการแก้ไขปัญหาเรื่องสมรรถนะในการทำงานของแอพพลิเคชัน ทั้งที่แนวทางดังกล่าวไม่ได้ช่วยตอบโจทย์แบบตรงจุดในเรื่องปัญหาที่เกิดจากระยะห่างในการรับส่งข้อมูลระหว่างต้นทางกับปลายทาง นั่นหมายความว่าองค์กรหลายแห่งยังไม่สามารถแก้ปัญหาความล่าช้าในการให้บริการแอพพลิเคชัน

 

มร. ซอง ตัง ยี รองประธานภาคพื้นเอเชียแปซิฟิคของ F5 เน็ตเวิร์กส์ กล่าวว่า "แอพพลิเคชันนับเป็นสิ่งสำคัญสำหรับองค์กรธุรกิจในปัจจุบัน ดังนั้นผู้บริหารจึงจำเป็นต้องเลือกแนวทางที่เหมาะสม ในการนำเครื่องมือเชิงกลยุทธ์มาช่วยควบคุม และรับทราบถึงสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการปกป้องแอพพลิเคชัน การเพิ่มความพร้อมในการให้บริการ หรือเรื่องสมรรถนะของแอพพลิเคชันก็ตาม วัตถุประสงค์ทางธุรกิจเหล่านี้จะบรรลุได้ก็ต่อเมื่อโซลูชันที่ใช้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ด้านแพลตฟอร์มระบบเครือข่ายอัจฉริยะเพื่อการขับเคลื่อนแอพพลิเคชัน (Application Delivery Networking) หรือ เอดีเอ็น ซึ่งให้รายละเอียดและความสามารถในการควบคุมดูแลการรับส่งข้อมูลระหว่างกันของผู้ใช้ และแอพพลิเคชันเซิร์ฟเวอร์ได้อย่างครบถ้วน"

 

มร. นิทิน บัท รองประธานอาวุโสฝ่ายไอซีที บริษัท ฟรอสต์แอนด์ซัลลิแวน กล่าวเพิ่มเติมว่า "เมื่อการควบรวมของเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในโลกไอที แนวคิดในเรื่องโหลดบาลานซ์สำหรับเซิร์ฟเวอร์ จึงถูกพัฒนาต่อยอดอย่าง

 

 

รวดเร็วจนกลายเป็นระบบควบคุมการขับเคลื่อนแอพพลิเคชัน (Application Delivery Controller) เนื่องจากระบบดังกล่าวให้ความสามารถที่มากกว่าฟังก์ชันพื้นฐานทั่วไป และพร้อมรองรับปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนแอพพลิเคชันครบถ้วนทั้ง 3 ส่วน อันได้แก่ ความพร้อมของระบบ ความปลอดภัยของระบบ และสมรรถนะของระบบ" โดยกล่าวเสริมว่า “ในประเด็นของคลาวด์คอมพิวติ้ง ผลสำรวจได้แสดงให้เห็นว่าองค์กรหลายแห่งให้การยอมรับคลาวด์คอมพิวติ้งในฐานะผู้เปิดโอกาสทางธุรกิจ ส่วนประเด็นหลักที่อาจส่งผลกระทบต่อการนำคลาวด์ฯ มาใช้เป็นเครื่องมือทางธุรกิจหลัก คือเรื่องความปลอดภัยและการควบคุมการเข้าถึงระบบ”

 

ภาพรวมจากการสำรวจ

-          ซีไอโอและผู้บริหารระดับสูงกว่า 73 เปอร์เซ็นต์ ต้องการโซลูชันที่มีความสามารถในการทำงานได้สองอย่างหรือมากกว่านั้นบนแพลตฟอร์มเดียวกัน โดยเฉพาะเรื่องการทำโหลดบาลานซ์สำหรับโกลบอลเซิร์ฟเวอร์ และเรื่องระบบรักษาความปลอดภัย

-          กว่า 44 เปอร์เซ็นต์เชื่อว่า การเพิ่มแบนด์วิธให้แก่ระบบถือเป็นทางออกที่ดีที่สุดในการเพิ่มสมรรถนะการทำงานของแอพพลิเคชัน ซึ่งนับเป็นเรื่องที่ไม่สอดคล้องระหว่างความต้องการใช้งานกับเทคโนโลยีที่เลือกใช้

-          กว่า 61 เปอร์เซ็นต์เชื่อว่า ไฟร์วอลล์สำหรับระบบเครือข่ายสามารถป้องกันการโจมตีเว็บได้ และ 23 เปอร์เซ็นต์ชี้ว่าการติดตั้งโซลูชันด้าน IDS/IPS เพื่อตรวจจับและป้องกันการบุกรุกระบบนั้น เป็นแนวทางในการรับมือกับการโจมตีบนเว็บ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าองค์กรยังไม่ค่อยเข้าใจถึงแนวทางในการสร้างความปลอดภัยให้กับแอพพลิเคชัน

-          องค์กรหลายแห่งเชื่อว่าคลาวด์คอมพิวติ้งจะเพิ่มความปราดเปรียวด้านธุรกิจ และให้ความคล่องตัวในการจัดการกับค่าใช้จ่ายได้ อย่างไรก็ดีกว่าครึ่งหนึ่งมองว่าประเด็นเรื่องความปลอดภัยยังเป็นอุปสรรคสำคัญในการนำคลาวด์คอมพิวติ้งมาใช้อย่างจริงจัง

เกี่ยวกับการสำรวจ

การสำรวจครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจาก F5 เพื่อให้เข้าใจถึงมุมมองของผู้ใช้ที่มีต่อการขับเคลื่อนแอพพลิเคชันและการประมวลผลแบบคลาวด์ อันเกี่ยวเนื่องกับความจำเป็นทางธุรกิจ และความเข้าใจในอิทธิพลทางเทคโนโลยีที่มีต่อความจำเป็นเหล่านี้ โดยได้สำรวจองค์กรกว่า 300 แห่ง ใน 6 ตลาด ในประเทศออสเตรเลีย จีน ฮ่องกง อินเดีย สิงคโปร์ และเกาหลีใต้ ครอบคลุมกลุ่มอุตสาหกรรม 5 กลุ่มหลัก ได้แก่ ด้านการเงิน การสื่อสารโทรคมนาคม หน่วยงานภาครัฐ อุตสาหกรรมการผลิต และด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยผู้บริหารที่เข้าร่วมการสำรวจครั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้บริหารฝ่ายไอที ซึ่งมีอิทธิพลสำคัญในการตัดสินใจเลือกใช้โครงสร้างระบบไอทีในองค์กร

เกี่ยวกับ F5 เน็ตเวิร์กส์

F5 เน็ตเวิร์กส์ ผู้นำระดับโลกด้านแพลตฟอร์มอัจฉริยะเพื่อการขับเคลื่อนแอพพลิเคชัน มุ่งเน้นที่การสร้างความมั่นใจว่าการขับเคลื่อนแอพพลิเคชันจะดำเนินไปอย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และมีความน่าเชื่อถือ  โดยโครงข่ายระบบโครงสร้างที่ยืดหยุ่นของ F5 ช่วยให้ใช้นวัตกรรมที่เกิดจากการผลักดันของชุมชนได้ ช่วยยกระดับระบบไอทีขององค์กรธุรกิจให้มีความคล่องตัว และสามารถนำเสนอบริการได้แบบไดนามิกได้ ซึ่งเป็นการสร้างคุณค่าที่แท้จริงให้แก่ธุรกิจ  วิสัยทัศน์ด้านการขับเคลื่อนแอพพลิเคชันและข้อมูลด้วยการผสานรวมการทำงานเป็นหนึ่งเดียว (Unified Application and Data Delivery) ของ F5 ช่วยให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจปรับใช้โซลูชันระบบขับเคลื่อนแอพพลิเคชันได้โดยไม่ต้องพิจารณาเงื่อนไขอื่นล่วงหน้า ซึ่งนับเป็นการกำหนดนิยามใหม่ในการบริหารจัดการทรัพยากรไอที เช่น แอพพลิเคชัน เซิร์ฟเวอร์ สตอเรจ และระบบเครือข่าย ให้ทำงานได้สอดคล้องในทิศทางเดียวกัน เพื่อรวมศูนย์การขับเคลื่อนแอพพลิเคชันและช่วยลดค่าใช้จ่าย ทั้งองค์กรเอ็นเตอร์ไพร์ซ ผู้ให้บริการต่างๆ รวมถึงผู้ให้บริการด้านเนื้อหาบนเว็บ 2.0 ต่างเชื่อมั่นว่า F5 สามารถช่วยให้แอพพลิเคชันของตนทำงานได้อย่างต่อเนื่อง  F5  หากสนใจข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเรียกดูได้จากเว็บไซต์ www.f5.com

F5 เป็นเครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายบริการของ F5 เน็ตเวิร์กส์ อิงก์ ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ สำหรับชื่อผลิตภัณฑ์และชื่อบริษัทอื่นๆ นั้นอาจเป็นเครื่องหมายการค้าของผู้เป็นเจ้าของที่เกี่ยวข้องในสิทธิ์ดังกล่าว