news on July 19, 2018, 10:16:00 PM


อีริคสันย้ำชัด 5G พร้อมแล้วสำหรับการทำธุรกิจ

•   5G เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญสำหรับการไปสู่ Thailand 4.0 การพัฒนาก้าวกระโดดเข้าสู่ยุคดิจิทัลในหลายภาคส่วนจำเป็นต้องใช้ 5G โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมการผลิดสำหรับอนาคต

•   ประเทศไทยต้องมีการเตรียมความพร้อมในเรื่องของการจัดสรรคลื่นความถี่ ซึ่งเป็นพื้นฐานโครงสร้างที่มีความสำคัญของประเทศ



กรุงเทพฯ - วุฒิชัย วุฒิอุดมเลิศ หัวหน้างานฝ่ายผลิตภัณฑ์โครงข่าย อีริคสัน ประเทศไทย แบ่งปันข้อมูลในหัวข้อ 5Gเพื่อการทำธุรกิจ ในงานสัมมนา 5Gซึ่งจัดโดยสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เมื่อวันที่ 19กรกฎาคม 2561

“4GและIoTเป็นพื้นฐานของ 5Gผู้ให้บริการในประเทศไทยควรมีการเตรียมความพร้อมให้มั่นใจว่าโครงข่าย 4GและIoTที่มีอยู่นั้น พร้อมสำหรับการเปลี่ยนถ่ายสู่ 5G” วุฒิชัยกล่าว “อีริคสันคาดการณ์ว่าในปี2563 จะเริ่มมีการใช้งาน5G ทั่วโลกและภายในปี2566 จะมีผู้ใช้งานบนโครงข่าย5G ถึงหนึ่งพันล้านรายเพื่อที่จะยกระดับการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเทียบเท่ากับ12 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งหมดจะอยู่บนโครงข่าย5G” วุฒิชัยแชร์ข้อมูลจาก Ericsson Mobility Reportฉบับล่าสุดเดือนมิถุนายน 2561

ในปี 2566ปริมาณการใช้ข้อมูลผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่จะเพิ่มขึ้นถึง 8เท่า เป็นจำนวนถึง 107 เอ็กซะไบต์ (EB) ต่อเดือนหรือเทียบเท่ากับผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งหมดทั่วโลกดูวีดีโอสตรีมมิ่งพร้อมกันเป็นเวลา 10 ชั่วโมงติดต่อกัน นอกจากนี้ปริมาณการใช้ข้อมูลทั่วโลกผ่านเครือข่าย 5Gจะมีมากถึงถึง 20เปอร์เซ็นต์ซึ่งมากกว่าการใช้ 4G/3G/2Gในวันนี้รวมกันถึง 1.5เท่า   

5G จะถูกนำมาใช้ในเขตเมืองมีความหนาแน่นของประชากรสูงก่อนเฉกเช่นเดียวกับ 2G, 3G และ 4Gทั้งนี้เนื่องจากต้องการสร้างบริการอินเตอร์ความเร็วสูงทั้งแบบเคลื่อนที่และประจำที่ยกระดับการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและFixed Wireless Accessหลังจากนั้นก็จะถูกนำมาประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ โรงงานอุตสาหกรรม สาธารณูปโภค และสาธารณสุข เป็นต้น

สำหรับประเทศไทย เทคโนโลยี 5G และ IoT จะสามารถเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้ให้บริการได้เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 22 ของรายได้ โดยอุตสาหกรรมการผลิตจะเป็นภาคส่วนที่ผู้ให้บริการสามารถสร้างรายได้จาก 5G ได้มากที่สุด(20 เปอร์เซ็นต์) อุตสาหกรรมด้านพลังงานและสาธารณูปโภค (16 เปอร์เซ็นต์) ตามมาด้วยความปลอดภัยด้านสาธารณะ สุขภาพอนามัย การขนส่ง และด้านสื่อและการบันเทิง (12 เปอร์เซ็นต์)

วุฒิชัยกล่าวว่า “เพื่อที่จะเตรียมความพร้อมสำหรับ 5G นั้น ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมต้องให้ความสำคัญและพูดคุยเกี่ยวกับการจัดสรรคลื่นความถี่ที่เหมาะสม ซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยหลักของระบบการเชื่อมต่อ นอกจากนี้ผู้ให้บริการและภาครัฐควรมองว่าคลื่นความถี่และโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นโครงสร้าง ซึ่งเป็นปัจจัยหลักของชาติ”

“อีริคสัน พร้อมทั้งผลิตภัณฑ์ด้านโครงข่ายและบริการสำหรับ 5G มีความพร้อมที่จะเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ดีที่จะช่วยให้ผู้ให้บริการในประเทศไทยสามารถพัฒนาอย่างก้าวกระโดดเข้าสู่ยุค5G ได้อย่างราบรื่น” วุฒิชัยกล่าวเพิ่มเติม
ที่มาของข้อมูล: Ericsson Mobility Reportฉบับเดือนมิถุนายน 2561

เกี่ยวกับ อีริคสัน
อีริคสัน สนับสนุนผู้ให้บริการด้านการสื่อสารในการสร้างมูลค่าสูงสุดจากการเชื่อมต่อ กลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัทครอบคลุมเครือข่าย (Networks) การบริการดิจิทัล (Digital Services) การบริหารจัดการเครือข่าย (Managed Services) และธุรกิจเกิดใหม่ที่กำลังเติบโต (Emerging Business) และมีความมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือลูกค้าให้มุ่งสู่ระบบดิจิทัล เพิ่มประสิทธิภาพ และมองหารายได้รูปแบบใหม่ การลงทุนเพื่อพัฒนา นวัตกรรมของอีริคสันได้มอบประโยชน์จากระบบโทรศัพท์และเครือข่ายเคลื่อนที่ให้แก่ผู้คนหลายพันล้านคนทั่วโลก อีริคสันจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ในกรุงสต็อกโฮล์ม และใน NASDAQ นครนิวยอร์ค ติดตามข้อมูลข่าวสารของอีริคสันได้ที่ www.ericsson.com