happy on May 04, 2018, 07:44:04 PM
“depa” ร่วมกับ “RISE” และ “สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง”
เปิดตัวโครงการ Startup FastTrack “Go inter with depa”


                       สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ร่วมกับ สถาบันเร่งสปีดนวัตกรรมองค์กรและสตาร์ทอัพ (RISE) และ สำนักบริหารงานวิจัยและนวัตกรรม สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (KRIS) เปิดตัวโครงการ Startup FastTrack “Go inter with depa” เพื่อส่งเสริมการสร้างสตาร์ทอัพไทย ก้าวสู่เวทีโลก ซึ่งสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ depa มีหน้าที่หลักในการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย และสนับสนุนการเกิดสตาร์ทอัพสัญชาติไทย รวมถึงการพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัลและนวัตกรรม และการนำเทคโนโลยีไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์กับเศรษฐกิจ สังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ depa ยังมีบทบาทสำคัญในการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ สนับสนุนการลงทุนเกี่ยวกับอุตสาหกรรมหรือนวัตกรรมดิจิทัล ส่งเสริมการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน การพัฒนากำลังคนดิจิทัล เร่งรัดและติดตามการพัฒนาระเบียบ กฎหมายและมาตรการในการปกป้องลิขสิทธิ์ด้านดิจิทัลอีกด้วย


นายฉัตรชัย คุณปิติลักษณ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (กลุ่มงานเศรษฐกิจดิจิทัล) หรือ depa

                       นายฉัตรชัย คุณปิติลักษณ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (กลุ่มงานเศรษฐกิจดิจิทัล) หรือ depa กล่าวว่า ผู้ประกอบการดิจิทัลสตาร์ทอัพ มีความสำคัญกับประเทศไทยเป็นอย่างมาก เพราะจากข้อมูลสถิติทั่วโลกของประเทศที่มีรายได้สูง แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการสตาร์ทอัพเป็นตัวเร่งการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ แต่สำหรับประเทศไทย สตาร์อัพไทย ยังต้องการการส่งเสริมศักยภาพ เพื่อแข่งขันในตลาดโลก ซึ่ง depa ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการส่งเสริมสตาร์ทอัพไทย และรับทราบเกี่ยวกับข้อจำกัดต่าง ๆ นำไปสู่การวางแผนการส่งเสริม จึงได้กำหนดแนวทางการส่งเสริมสตาร์ทอัพไทยออกมา ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมการสร้างเครือข่าย การจับคู่ธุรกิจ ส่งเสริมการตลาดทั้งในและต่างประเทศ การสนับสนุนเงินทุน การสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) ให้เอื้อต่อการเจริญเติบโตของสตาร์ทอัพไทย อาทิ Maker Space, Test labs, Big data & Analytics system เป็นต้น ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างศักยภาพของผู้ประกอบการดิจิทัลให้อยู่รอด แข็งแกร่งและสามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้

                       และในโอกาสนี้ จึงเป็นที่มาของการสนับสนุนโครงการ Startup Fast Track “Go inter with depa” เพื่อส่งเสริมขยายธุรกิจการค้า การลงทุน การสร้างเครือข่าย (Networking) ให้กับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมนวัตกรรมดิจิทัล สร้างช่องทางเผยแพร่ข้อมูลด้านการตลาด อันเป็นประโยชน์ต่อการเพิ่มมูลค่าการซื้อขายและการประชาสัมพันธ์ผู้ประกอบการให้เป็นที่รู้จักทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผ่านกิจกรรมการจับคู่ธุรกิจ


รศ.ดร.สมยศ เกียรติวนิชวิไล รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

                       รศ.ดร.สมยศ เกียรติวนิชวิไล รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กล่าวว่า สถาบันฯ ตระหนักถึงความสำคัญของความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคอุตสาหกรรมดิจิทัล เพื่อพัฒนาบุคลากรของประเทศ สนับสนุนการวิจัยและพัฒนา ตลอดจนพัฒนาองค์ความรู้อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง อันจะนำไปสู่การถ่ายทอดและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความรู้และเทคโนโลยี ที่มีความพร้อมที่จะเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการ ตามแนวทางการส่งเสริมผู้ประกอบการดิจิทัลสตาร์ทอัพในการมุ่งเน้นส่งเสริมและสนับสนุนพัฒนาผู้ประกอบการดิจิทัลสตาร์ทอัพ เพื่อเป็น New Engines of Growth ที่จะสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย รวมทั้งสถาบันฯ มีความพร้อมทางด้านบุคลากร เครื่องมือวิจัยและพัฒนา และห้องปฏิบัติการที่ทันสมัย จึงร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) และสถาบันเร่งสปีดนวัตกรรมองค์กรและสตาร์ทอัพ (RISE) เพื่อช่วยแก้ปัญหาและปลดล็อคศักยภาพขององค์กรและสตาร์ทอัพให้เร็วที่สุด ซึ่งความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในการเปิดตัวโครงการ Startup Fast Track “Go inter with depa” ครั้งนี้ จะช่วยสร้างการรับรู้เกี่ยวกับการพัฒนาและสร้างผู้ประกอบการดิจิทัลสตาร์ทอัพไทยเพื่อก้าวสู่เวทีโลก


นางสาวหญิง จิตติพัฒนกุลชัย ผู้ร่วมก่อตั้ง RISE สถาบันเร่งสปีดนวัตกรรมองค์กรและสตาร์ทอัพ

                       นางสาวหญิง จิตติพัฒนกุลชัย ผู้ร่วมก่อตั้ง RISE สถาบันเร่งสปีดนวัตกรรมองค์กรและสตาร์ทอัพ กล่าวว่าขณะนี้อยู่ในช่วงเปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมโครงการ Startup Fast Track “Go inter with depa” โดยมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย กลุ่มนักศึกษา บุคคลทั่วไป และผู้ประกอบการดิจิทัลสตาร์ทอัพ จากนั้นจะมีกิจกรรม Roadshow 4 ภาค ได้แก่ ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคอีสาน เพื่อสร้างการรับรู้ของโครงการฯ ให้แก่ผู้ที่สนใจในจังหวัดอื่น ๆ ด้วย

                       สำหรับคุณสมบัติของผู้สมัคร ต้องมีจำนวนไม่เกิน 5 คนต่อทีม มีสัญชาติไทย โดยผลงานอย่างน้อยต้องมี Minimum Viable Product  (MVP) แล้ว สามารถเข้าร่วมกิจกรรมเร่งพัฒนาศักยภาพ (Bootcamp) เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ได้ โดยจะประกาศผล 10 ทีม ที่ได้เข้าร่วมโครงการผ่านเว็บไซต์ ในวันที่ 1 มิถุนายน 2561 และหลังจากผ่านกระบวนการเร่งพัฒนาศักยภาพ จะมีการเชิญนักลงทุนตัวจริงมาให้ความคิดเห็นกับสตาร์ทอัพ ทั้ง 10 ทีม เพื่อเป็นการสร้างความพร้อมและความมั่นใจให้กับทีมที่ผ่านการคัดเลือก เพื่อก้าวสู่เวทีการนำเสนอผลงานระดับสากล รวมทั้งทีมที่มีผลงานดีเด่น จะมีโอกาสได้ไปแสดงผลงานต่อหน้านักลงทุนในงาน ECHELON ASIA SUMMIT 2018 by e27 ซึ่งเป็นงานที่รวบรวมสตาร์ทอัพ เทคโนโลยีและนักลงทุนระดับโลก เป็นเวลา 4 วัน 3 คืน ที่ประเทศสิงคโปร์ เพื่อเพิ่มช่องในการหาแหล่งเงินทุน ทำให้สามารถขยายธุรกิจแบบก้าวกระโดดได้ และเป็นที่รู้จักเพิ่มฐานลูกค้าทั่วภูมิภาค  สมัครได้ที่ www.riseaccel.com/startupfasttrack ตั้งแต่วันนี้จนถึง 27 พฤษภาคม 2561












ดร รัชนี กุลยานนท์ รักษาการผู้อำนวยการสำนักวิจัยและนวัตกรรมพระจอมเกล้า สจล