activity on April 01, 2018, 01:59:44 PM
บาเซโลนา มอเตอร์ อัดแคมเปญกระตุ้นยอดขาย หวังขึ้นแท่นยอดขายเป็นอันดับ 1 อีกครั้งในงานมอเตอร์โชว์ 2018







          บีเอ็มดับเบิลยู บาเซโลนา มอเตอร์ (BMW Barcelona Motor) ศูนย์บริการมาตรฐานและผู้แทนจำหน่ายรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูอย่างเป็นทางการ จัดแคมเปญสุดพิเศษต้อนรับ มหกรรมงานขายรถยนต์ประจำปี ตอกย้ำความแรงของตลาดรถระดับพรีเมียม กับแพ็คเกจสุดคุ้มและข้อเสนอสุดพิเศษที่คุณพลาดไม่ได้ ตั้งแต่วันนี้ – 30 เมษายน 2561 (*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด)
          สำหรับแฟนพันธุ์แท้ของ BMW Motorrad พบกับ Premium Package Campaign
          BMW Motorrad S 1000 XR
          - ฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี*
          - ฟรี จดทะเบียน พรบ*
          - ฟรี กระเป๋าข้างตรงรุ่น*
          - ฟรี ท่อ Akrapovic Slip-on*
          - ฟรี Barcelona Motorrad One Day Trip*

          BMW Motorrad S 1000 RR
          - ดาวน์เพียง 4x,xxx บาท
          - ผ่อนนาน 60 เดือน
          - ผ่อนเดือนละ 16,xxxx บาท

          และสำหรับลูกค้าผู้สนใจ BMW X4 / X5 รับข้อเสนอแคมเปญ "BUY X4/X5 PAY LESS NOW"
          ให้คุณจ่ายน้อยลงกว่าที่เคย กับการเป็นเจ้าของรถ BMW X4 และ BMW X5 พร้อมบัตรกำนัลน้ำมันมูลค่า 50,000บาท เมื่อทำการจองภายในเวลาที่กำหนด และข้อเสนออื่นๆ อาทิ
          - ดอกเบี้ย 0% นาน 6 ปี*
          - ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี*
          - BSI นาน 5 ปี*
          - Warranty นาน 5 ปี*
          พิเศษ ! สำหรับลูกค้า BMW ที่ทำการเปลี่ยนรถในช่วงเวลาที่กำหนดรับส่วนลดเพิ่ม 150,000 บาท และสำหรับรถลูกค้าในแบรนด์อื่นๆ รับส่วนลดเพิ่ม 100,000 บาท*
          นอกจากนี้ยังสามารถพบกับข้อเสนอพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2018 อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม – 8 เมษายน 2561
          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 02-938-7777 ติดตามความเคลื่อนไหว และรายละเอียดกิจกรรมอื่นๆ ได้ที่ Facebbok & Instagram : @BmwBarcelonaMotor

activity on April 01, 2018, 02:00:55 PM
มาสด้าชวนสัมผัสประสบการณ์เหนือระดับกับรถพรีเมี่ยม งานมอเตอร์โชว์ พร้อมอวดโฉมมาสด้า3 และ MX-5 ใหม่



          มาสด้าชวนลูกค้าร่วมสัมผัสประสบการณ์เหนือระดับแบบจัดเต็ม ยิ่งใหญ่ตระการตาในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39 กับการเปิดตัวสุดยอดโมเดลใหม่ 3 รุ่นรวด ได้แก่ New Mazda2 2018 คอลเลคชั่น รถเล็กขวัญใจวัยทีนที่กระแสแรงต่อเนื่องจนก้าวขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งในตลาด เติมความสดใหม่ ใส่ความคุ้มค่าด้วยการเพิ่มอุปกรณ์มาตรฐานมากมายจนล้นคัน แต่ขายราคาเท่าเดิม รุ่นถัดมากับซับคอมแพคคาร์ที่โด่งดังทั่วโลกด้วยยอดขายกว่า 5 ล้านคัน New Mazda3 2018 คอลเลคชั่น เติมเต็มเทคโนโลยีความปลอดภัยรอบทิศทาง และเจ้าตำนานแห่งการขับขี่ที่สนุกสนานเร้าใจกับเสียงเรียกร้องของบรรดาสาวกเกียร์ธรรมดา New Mazda MX-5 เกียร์แมนนวล
          นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลล์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2560 ตลาดรถยนต์นั้นเติบโตไปได้ด้วยดี ปริมาณยอดขายของตลาดรถยนต์ในภาพรวมทั้งปีมีอัตราที่เพิ่มขึ้น 13.3% โดยกลุ่มรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตสูงสุดถึง 23.5% และในปีนี้เศรษฐกิจไทยมีการขยายตัวและปรับตัวดีขึ้นมาตั้งแต่ต้นปี โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการลงทุนของภาครัฐทั้งโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) หรือโครงการรถไฟทางคู่, การพัฒนาท่าอากาศยาน, การส่งออกที่เริ่มขยายตัว, รายได้จากภาคการท่องเที่ยวรวมถึงนโยบายรถยนต์คันแรกที่จบโครงการเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลให้ตลาดรถยนต์นั้นสามารถเติบโตไปในทิศทางที่ดี โดยเฉพาะมาสด้านั้นปีนี้เราตั้งเป้ายอดขายไว้สูงถึง 60,000 คัน และคาดว่างานมอเตอร์โชว์ปีนี้มาสด้าจะมียอดจองทะลุ 5,000 คัน
          สำหรับงานมอเตอร์โชว์ในครั้งนี้ มาสด้าได้นำรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดเพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสเทคโนโลยีอันล้ำสมัย อาทิ รถสปอร์ตเปิดประทุนด้วยระบบไฟฟ้า MX-5 RF เกียร์แมนนวล 6 สปีด พร้อมสีแดงโซลเรดคริสตัล ราคาจำหน่าย 2,820,000 บาท รถอเนกประสงค์ครอสโอเวอร์ CX-3 รถยนต์นั่ง Mazda3 รุ่น 2018 คอลเลคชั่น ภายใต้แนวคิดสุดหรู VISION BEYOND IMAGINATION หรือ มิติใหม่ของความสมบูรณ์แบบที่มีอยู่จริง ที่เพิ่มเทคโนโลยีใหม่ใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมกับระบบแสดงภาพ 360° องศารอบทิศทาง (360° View Monitor) ที่ทำให้ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นตัวรถได้รอบทิศทาง และยังเพิ่มระบบเซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้า 4 จุด เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่มากขึ้น รถยนต์มาสด้า2 ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงจากกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นและยังเป็นรุ่นขายดีตลอดกาลของมาสด้า รวมทั้งรถปิกอัพมาสด้า BT-50 โปร และรถอเนกประสงค์เอสยูวี ALL-NEW MAZDA CX-5 ที่เคยขึ้นครองอันดับหนึ่งของตลาดรถเอสยูวี โดยงานในครั้งนี้ถือเป็นการรวมรถยนต์รุ่นใหม่ที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของมาสด้ามาไว้ในที่เดียวกัน
          มาสด้ายังคงมุ่งมั่นในเรื่องของการเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยี เพื่อให้ลูกค้าเกิดความเพลิดเพลินสนุกสนานในการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบทั้งในเรื่องของ SKYACTIV-VEICLE DYNAMICS ที่ผสานและควบคุมการทำงานของรถทั้งคันให้ทำงานประสานกันอย่างมีประสิทธิภาพ มาพร้อมกับระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ G-VECTORING CONTROL ที่ช่วยควบคุมสมรรถนะในการขับขี่ให้แม่นยำและสมดุล ตามปรัชญา จินบะ-อิตไต นอกจากนี้มาสด้ายังคงพิถีพิถันใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่การออกแบบภายในตัวรถและภายนอกที่พัฒนาแนวคิดการออกแบบ โคโดะ ดีไซน์ ให้โดดเด่นเหนือระดับ ด้วยเส้นสายที่เรียบง่ายแต่แฝงด้วยความโฉบเฉี่ยว ให้ความแรงแต่ประหยัดน้ำมัน
          นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาดของมาสด้า กล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาเราได้แนะนำรถยนต์มาสด้า2 รุ่นปี 2018 คอลเลคชั่น ที่เพิ่มออพชั่นแต่ไม่เพิ่มราคา ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ล่าสุด "EXCITEMENT NEVER ENDS" หรือ "เร้าใจ...ไม่เคยหยุด" ซึ่งได้รับเสียงตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี จนสามารถครองแชมป์อันดับหนึ่งในเซกเม้นท์รถยนต์นั่งขนาดเล็กรวมกับอีโคคาร์ไปครองได้สำเร็จ ในงานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้เราจึงได้เผยโฉมรถยนต์ 3 รุ่นใหม่ ที่ออกแบบด้วยความประณีต สวยงามแต่ยังคงไว้ซึ่งความแรงและการขับขี่ที่สนุกสนานเร้าใจ ได้แก่ มาสด้า3 และรถสปอร์ต MX-5 เกียร์แมนนวล เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างออกไป นอกจากนี้เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมารถยนต์มาสด้า CX-5 ก็ได้ขึ้นแท่นอันดับหนึ่งในส่วนของรถอเนกประสงค์เอสยูวีเป็นครั้งแรก ทำให้มาสด้ามีความมั่นใจว่างานมอเตอร์โชว์ในครั้งนี้จะได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าทุกท่าน และเพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่มอบความไว้วางใจและร่วมเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวมาสด้า มาสด้ามอบข้อเสนอสุดพิเศษกับแคมเปญ "MAZDA AMAZING MONTH"
          มาสด้า2 เงินดาวน์ 25% รับดอกเบี้ยดอกเบี้ยต่ำสุดเพียง 2.15% พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 และฟรีค่าบำรุงรักษานาน 3 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร
          มาสด้า3 เงินดาวน์ 25% รับดอกเบี้ยต่ำสุดเพียง 2.15% พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 และฟรีค่าบำรุงรักษานาน 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร
          มาสด้า CX-3 เงินดาวน์ 25% รับดอกเบี้ยต่ำสุดเพียง 0.66% พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1
          มาสด้า บีที-50 โปร เงินดาวน์ 20% ผ่อนเริ่มต้นเพียง 5,900 บาท พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1
          All-New Mazda CX-5 เงินดาวน์ 25% รับดอกเบี้ยต่ำสุดเพียง 1.99% พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 และฟรีค่าบำรุงรักษานาน 3 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร
          มาสด้า MX-5 พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 และโปรแกรมรับประกันคุณภาพนาน 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร
รถยนต์มาสด้าทุกรุ่นรับฟรีประกันชั้น 1 (Mazda Premium Insurance) ข้อเสนอสุดพิเศษนี้สำหรับลูกค้ามาสด้าทุกโชว์รูมทั่วประเทศ และที่สำคัญเฉพาะลูกค้าที่จองซื้อภายในงานมอเตอร์โชว์ รับเพิ่มลำโพงคุณภาพดีแบรนด์ BOSE จากมาสด้า ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 8 เมษายนศกนี้เท่านั้น
          โปรดติดตามข่าวสารผ่านทาง www.mazda.co.th และ MazdaThailandOfficial Facebook/YouTube/Instagram/LINE
http://www.mazda.co.th

activity on April 01, 2018, 02:01:21 PM
Mazda aiming to give visitors memorable experience with premium vehicle showcase at the Bangkok Motor Show New Mazda3 and MX-5 to be officially unveiled



 Mazda Sales (Thailand) Co., Ltd. pleasingly brings customers to experience the 39th Bangkok International Motor Show. In this event, Mazda will unveil new three models consists of New Mazda2 2018 Collection; teenager favorite compact car which becomes the number one in market by adding freshness and worthiness with fuller options, but no price increase. New Mazda3 2018 Collection a worldwide popular subcompact car achieved sales of 5 million units featuring the safety of 360-degree View Monitor and the legend of the most exciting driving for manual transmission fans; New Mazda MX-5 manual transmission.
Mr. Chanchai Trakarnudomsuk, President of Mazda Sales (Thailand) Co. Ltd., said in 2017 the automobile market enjoyed 13.3% growth, with the passenger car market rising by as much as 23.5%. "This year, the Thai economy has been expanding since the start of the year, with contributing factors being the sizeable investments made by the government such as the Eastern Economic Corridor (EEC) project, the dual railway project and airport renovation, in addition to growing exports, tourism and the completion of the First Car Buyer program," he said. "All these factors enabled the automobile market to take on a path for growth, and for Mazda we have set a sales target of 60,000 units for 2018, with 5,000 orders being placed at this year's Bangkok Motor Show."
          At the Bangkok Motor Show, Mazda will display its latest model and allow visitors to experience the unrivalled technology in Mazda vehicles. The highlight at Mazda's booth is the Mazda MX-5 RF manual in Soul Red Crystal price Bt2,820,000, while other highlights include the CX-3 crossover, which was the Thailand Car of the Year in 2017, Mazda3 2018 Collection featuring the "Vision Beyond Imagination" theme and coming with the latest technologies including 360-degree View Monitor allowing the driver to see the surroundings of the vehicle. In addition, the Mazda3 also gets a 4-point front sensor system for added safety. Meanwhile, the Mazda2, highly popular among young buyers and Mazda's most popular model in Thailand, is also exhibited along with the BT-50 PRO pickup and the all-new Mazda CX-5 that was formerly the leader in the Thai SUV market. The Bangkok Motor Show is considered as the stage where new Mazda models with the latest technologies are displayed.
          Mazda continues to strive in maintaining its technological leadership in order to provide customers with driving perfection, whether through SKYACTIV-VEHICLE DYNAMICS that ensures excellent driving dynamics or the intelligent G-VECTORING CONTROL (GVC) system that further improves performance as well as ride quality to match the "Jinba-Ittai" (rider and horse as one) philosophy.
          In addition, Mazda has given great care to every detail starting from the design stage of the exterior and interior using the KODO design concept that combines simple lines with powerful movement resulting in a highly dynamic appearance.
          Mr. Thee Permpongpanth, Senior Marketing Director, added, "Earlier this year we introduced the Mazda2 2018 Collection that comes with more features but no price increase under the 'Excitement Never Ends' concept. It received strong customer response and was able to clinch the leadership in the small passenger car and eco car segment."
          "At this year's Bangkok Motor Show, Mazda will unveil three new models that have been carefully designed and provides a high level of driving enjoyment – the Mazda3 2018 Collection and the Mazda MX-5 RF," he said, adding that the all-new Mazda CX-5 that was launched in January was able to take the lead in the SUV market for the first time.
          "I am confident at this year's Bangkok Motor Show, Mazda will receive strong interest from customers. In order to thank our customers for their trust and being a member of the Mazda family, we are offering the 'Mazda Amazing Month' sales campaign," he said.
          - Mazda2 25% down 2.15% interest
free insurance 3-year/60,000km free maintenance
          - Mazda3 25% down 2.15% interest
free insurance 5-year/100,000km free maintenance
          - Mazda CX-3 25% down 0.66% interest free insurance
          - Mazda BT-50 PRO 20% down
monthly installment starting at Bt5,900 free insurance
          - All-new Mazda CX-5 25% down 1.99% interest
free insurance 3-year/60,000km free maintenance
          - Mazda MX-5 free insurance 5-year/140,000km warranty

          All models also come with Mazda Premium Insurance. The offers are available at all Mazda showrooms in the country, but those who place orders at the Bangkok Motor Show will get a complimentary BOSE loudspeaker from today until April 8.
http://www.mazda.co.th

          Mazda Thailand Official Facebook/YouTube/Instagram/LINE

activity on April 01, 2018, 02:02:38 PM
ฮอนด้า ชูวิสัยทัศน์ 2030 จัดแสดงเทคโนโลยีแห่งอนาคต ครั้งแรกในประเทศไทย นำโดย “ฮอนด้า คลาริตี้ ฟิวเซลล์” ยนตรกรรมพลังงานไฮโดรเจน “ยูนิ-คับ เบต้า” และ “ฮอนด้า โรโบแคส” ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2018





          บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ชูวิสัยทัศน์ 2030 ของฮอนด้าที่มุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเสริมสร้างศักยภาพการใช้ชีวิตของผู้คนทั้งในด้านการเดินทางและการใช้ชีวิตในรูปแบบต่างๆ โดยจัดแสดงเทคโนโลยีเพื่อการเดินทางและการใช้ชีวิตในโลกอนาคต นำโดย "ฮอนด้า คลาริตี้ ฟิวเซลล์" ยนตรกรรมพลังงานไฮโดรเจนปราศจากไอเสีย "ยูนิ-คับ เบต้า" พาหนะส่วนบุคคลเคลื่อนที่รอบทิศทาง และ "ฮอนด้า โรโบแคส" รถเข็นอัจฉริยะพลังงานไฟฟ้า พร้อมตอกย้ำจิตวิญญาณความสปอร์ตด้วย "ฮอนด้า ซีวิค แฮทช์แบ็ก" สีใหม่ สีแดงแรลลี่ "ฮอนด้า บีอาร์-วี" สปอร์ต แพคเกจ และ "ฮอนด้า บริโอ้ อเมซ" ใหม่ แบล็ก สปอร์ต สเปเชียล เอดิชั่น ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2018
          นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ในปีนี้ บูธฮอนด้า ถือว่าพิเศษกว่าทุกครั้ง เพราะไม่ได้จัดแสดงเพียงแค่ยนตรกรรมรุ่นปัจจุบันเท่านั้น แต่ฮอนด้าได้นำเทคโนโลยีแห่งอนาคตมาให้ทุกท่านได้สัมผัส เพื่อถ่ายทอดวิสัยทัศน์ของฮอนด้า ปี 2030 ที่มุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเสริมสร้างศักยภาพการใช้ชีวิตของผู้คนทั้งในด้านการเดินทางและการใช้ชีวิตในรูปแบบต่างๆ อย่างไม่หยุดยั้งด้วยพลังแห่งความฝัน เพื่อก้าวไปสู่สังคมปลอดมลพิษ (CO2 Free Society) และสังคมปลอดอุบัติเหตุ (Collision Free Society) อีกทั้งเพื่อสร้างความสุขและเพิ่มศักยภาพการใช้ชีวิตในสังคมคุณภาพแห่งโลกอนาคตได้อย่างไร้ขีดจำกัด"
          ปีนี้ภายในบูธฮอนด้า จัดแสดงหลากหลายเทคโนโลยีแห่งอนาคตเพื่อการเดินทางและการใช้ชีวิต โดยในส่วนของเทคโนโลยีเพื่อการเดินทาง ชูไฮไลท์ "ฮอนด้า คลาริตี้ ฟิวเซลล์" ยนตรกรรมพลังงานสะอาดที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานเชื้อเพลิงและปราศจากไอเสีย แต่ยังคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพและความสนุกสนานในการขับขี่ในสไตล์ของฮอนด้า เป็นยนตรกรรมฟิวเซลล์ซีดาน 5 ที่นั่งคันแรกของโลก โดยแผงเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell Stack) ทำหน้าที่เป็นแหล่งพลังงานไฟฟ้า ผสานระบบส่งกำลังให้มีสมรรถนะเทียบเท่ากับเครื่องยนต์ V-6 สามารถวิ่งได้ระยะทางถึงประมาณ 750 กม.* ต่อการเติมไฮโดรเจนเต็มถัง 1 ครั้ง ซึ่งเป็นระยะทางที่ตอบโจทย์การใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน และมีอัตราการประหยัดน้ำมัน (EPA Fuel economy rating) เทียบเท่า 68 ไมล์ต่อน้ำมันหนึ่งแกลลอน (MPGe) (หรือประมาณ 28.3 กิโลเมตร/ลิตร) ทั้งนี้ ฮอนด้า คลาริตี้ ฟิวเซลล์ เป็นหนึ่งใน ฮอนด้า คลาริตี้ ซีรี่ย์ ที่มีเครื่องยนต์ 3 รูปแบบ ได้แก่ คลาริตี้ ปลั๊ก-อิน ไฮบริด คลาริตี้ อิเล็คทริค และคลาริตี้ ฟิวเซลล์ ซึ่งได้รับการพัฒนาบนแพลตฟอร์มเดียวกันตามกลยุทธ์ ทรี อิน วัน แพลตฟอร์ม
          เพื่อตอบสนองวิสัยทัศน์ในการเสริมสร้างศักยภาพการใช้ชีวิตของผู้คน ฮอนด้า ได้พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการใช้ชีวิต ในหลากหลายรูปแบบ ดังเช่นเทคโนโลยีที่ฮอนด้านำมาจัดแสดง ได้แก่ "ยูนิ-คับ เบต้า" (UNI-CUB β) พาหนะส่วนบุคคลรูปแบบใหม่ที่สามารถเคลื่อนที่ได้รอบทิศทางได้อย่างง่ายดายเพียงโน้มน้ำหนักตัวไปในทิศทางที่ต้องการ ซึ่งได้รับการพัฒนาจากเทคโนโลยีควบคุมการทรงตัว (Omni-Direction Driving Wheel System หรือ Honda Omni Traction Drive System) ที่มีอยู่ในหุ่นยนต์อัจฉริยะ "อาซิโม" ตอบโจทย์การใช้งานของผู้คนได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการใช้งานภายในอาคาร เช่น สำนักงาน และห้างสรรพสินค้าและฮอนด้า โรโบแคส (Honda RoboCas) ที่เกิดจากแรงบันดาลใจของวิศวกรผู้ออกแบบรถยนต์ชาวญี่ปุ่นที่มาใช้ชีวิตช่วงหนึ่งอยู่ในประเทศไทยและประทับใจในรถเข็นขายอาหารซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตคนไทย โดยนำไปต่อยอดพัฒนาเป็นรถเข็นอัจฉริยะพลังงานไฟฟ้า นวัตกรรมต้นแบบ ที่สามารถปรับฟังก์ชั่นการใช้งานได้หลายรูปแบบ ซึ่งถือเป็นตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นถึงพลังแห่งความฝันที่ผลักดันให้ฮอนด้ามุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อตอบสนองการใช้ชีวิตในทุกรูปแบบ
          นอกจากนี้ ฮอนด้า ยังนำเสนอนวัตกรรมเพื่อการขับขี่อย่างมั่นใจและเพื่อความปลอดภัยอย่าง "ฮอนด้า คอนเนค" ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ผสานการทำงานกับแอปพลิเคชันบนมือถือสมาร์ทโฟน โดยผู้ขับขี่และรถยนต์สามารถเชื่อมต่อและสื่อสารกันได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส
          พร้อมทั้ง ตอกย้ำจิตวิญญาณความสปอร์ต ด้วยยนตรกรรมที่มาพร้อมความสปอร์ตแบบเต็มขั้น ได้แก่ "ฮอนด้า ซีวิค แฮทช์แบ็ก" สีใหม่ สีแดงแรลลี่ ยนตรกรรมสปอร์ตพรีเมียมแฮทช์แบ็ก มาพร้อมสมรรถนะการขับขี่ที่เร้าใจด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร VTEC TURBO ให้กำลังสูงสุด 173 แรงม้า โดดเด่นด้วยเส้นสายดีไซน์รอบคัน โดยเฉพาะด้านท้ายที่สปอร์ตโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์และเติมเต็มทุกการใช้งานด้วยพื้นที่เบาะนั่งด้านหลังเอนกประสงค์ที่ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ ด้วยราคาจำหน่าย 1,169,000 บาท
          "ฮอนด้า บีอาร์-วี" ยนตรกรรมแอคทีฟสปอร์ตครอสโอเวอร์ ที่เสริมความแกร่งไปอีกขั้นด้วยชุดอุปกรณ์ตกแต่งสปอร์ต แพคเกจ จากโมดูโล อาทิ สปอยเลอร์หลัง ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน แผงใต้กันชนด้านหน้า-หลัง และบันไดข้าง เป็นต้น ด้วยราคาจำหน่ายพิเศษเพียง 29,900 บาท นอกจากนี้ ยังแนะนำรุ่นใหม่ รุ่น V+ ที่เพิ่มความคุ้มค่าด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และความปลอดภัยที่ครบครัน ได้แก่ กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 6.1 นิ้ว กล้องส่องภาพด้านหลัง พร้อมตอบโจทย์ทุกการใช้งานด้วยห้องโดยสารกว้างขวางนั่งสบายและพื้นที่เอนกประสงค์ขนาดใหญ่ ฮอนด้า บีอาร์-วี มีจำหน่าย 2 รุ่น คือ รุ่น V+ ราคา 755,000 บาท และ รุ่น SV ราคา 820,000 บาท
          และ "ฮอนด้า บริโอ้ อเมซ" ใหม่ แบล็ก สปอร์ต สเปเชียล เอดิชั่น อีโคคาร์ระดับพรีเมียม เสริมความสปอร์ตโฉบเฉี่ยว โดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบ Gloss Black และล้ออัลลอยแบบสปอร์ตสีพิเศษ Berlina Black ใหม่ พร้อมมอบอุปกรณ์ตกแต่งโมดูโล ชุด Aero แพคเกจฟรี ได้แก่ ชุดแต่งสเกิร์ตรอบคันแบบสปอร์ต โมดูโล ตกแต่งด้วยลายเส้นสีส้ม และปลอกท่อไอเสียสแตนเลส ฮอนด้า บริโอ้ อเมซ มีจำหน่าย 2 รุ่น คือ รุ่น V ราคา 517,000 บาท และรุ่น BLACK SPORT ราคา 579,000 บาท
          ทั้งนี้ เพื่อแทนคำขอบคุณในความไว้วางใจของลูกค้าที่ทำให้ฮอนด้ามียอดจำหน่ายอันดับ 1 ในตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของประเทศไทย 3 ปีซ้อน ฮอนด้าจึงขอมอบข้อเสนอพิเศษจากแคมเปญ "ฮอนด้า ด้วยรักและขอบคุณ" โดยลูกค้าที่จองรถยนต์ฮอนด้ารุ่นใดก็ได้ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. – 10 เม.ย. 2561 และรับรถภายในวันที่ 30 เม.ย. 2561 จะได้รับสิทธิ์ลุ้นรางวัล รถยนต์ ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด รุ่น HYBRID TECH, รถยนต์ ฮอนด้า ซีอาร์-วี เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ รุ่น DT-EL 4WD และรถยนต์ฮอนด้า ซีวิค รุ่น TURBO RS
          พร้อมรางวัลอื่นๆ รวม 353 รางวัล มูลค่ารวมทั้งสิ้น 10,950,000 บาท โดยลูกค้าที่จองและรับรถในช่วงระยะเวลาแคมเปญ รับบัตรของขวัญฮอนด้ามูลค่า 3,000 บาท พร้อมข้อเสนอพิเศษสำหรับรถยนต์ฮอนด้าทุกรุ่น** อาทิ ลูกค้าที่ดาวน์ 25% ขึ้นไป และผ่อน 12-48 เดือน อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% หรือดาวน์ต่ำ อัตราดอกเบี้ยพิเศษ หรือฟรีประกันภัยชั้น 1 เป็นต้น อีกทั้งแคมเปญพิเศษต่างๆ ได้แก่
          - แคมเปญ "ฮอนด้าช่วยผ่อน" โดยช่วยผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 1,000 บาท และสูงสุดเดือนละ 10,000 บาท นาน 12 เดือน
          - แคมเปญ "รถยนต์เก่าแลกรถยนต์ฮอนด้าใหม่" เพียงนำรถยนต์รุ่นใดยี่ห้อใดก็ได้ มาเปลี่ยนเพื่อซื้อรถยนต์ฮอนด้าคันใหม่ได้ทุกรุ่น พร้อมรับบัตรของขวัญฮอนด้ามูลค่าสูงสุดถึง 10,000 บาท
          - แคมเปญ "เพื่อนแนะนำเพื่อน" ลูกค้าฮอนด้าที่เป็นเจ้าของรถยนต์ ฮอนด้า ซีอาร์-วี แอคคอร์ด และแอคคอร์ด ไฮบริด สามารถแนะนำเพื่อนมาจองและรับรถภายในช่วงระยะเวลาแคมเปญ รุ่นใดก็ได้จาก 3 รุ่น ที่ร่วมแคมเปญ ได้แก่ ซีอาร์-วี แอคคอร์ด และแอคคอร์ด ไฮบริด รับบัตรของขวัญฮอนด้ามูลค่าสูงสุดถึง 12,000 บาท ทั้งผู้แนะนำและผู้ถูกแนะนำ
          - ดอกเบี้ยพิเศษสำหรับเจ้าของรถยนต์ฮอนด้าทุกรุ่น (Honda Loyalty) รับดอกเบี้ยพิเศษลดลง 0.15% จากลูกค้าทั่วไปตามตารางรายการส่งเสริมการขาย เมื่อทำสัญญาเช่าซื้อกับสถาบันการเงินที่ร่วมรายการ**
          พบกับเทคโนโลยีแห่งอนาคตเพื่อการเดินทางและการใช้ชีวิต เพื่อก้าวไปสู่สังคมปลอดมลพิษ (CO2 Free Society) และสังคมปลอดอุบัติเหตุ (Collision Free Society) พร้อมด้วยยนตรกรรมฮอนด้ารวม 12 รุ่น และข้อเสนอพิเศษจากแคมเปญ "ฮอนด้า ด้วยรักและขอบคุณ" ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2018 ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม – 8 เมษายน 2561 ณ บูธ A9 อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี และพบข้อเสนอเดียวกันนี้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ
          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ หรือศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง (Honda Call Center) โทร. 02-341-7777 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.honda.co.th

          หมายเหตุ
          *ข้อมูลจากการทดสอบภายในของฮอนด้าตามโหมดทดสอบของประเทศญี่ปุ่น ภายใต้เงื่อนไขของสภาวะอากาศ สภาพการจราจร และลักษณะการขับขี่ในขณะทดสอบ
          **รายละเอียด และเงื่อนไขต่างๆ เป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ที่ปรึกษาการขาย
ณ โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศและที่บูธฮอนด้าในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39 (The Bangkok International Motor Show 2018) ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม - 8 เมษายน 2561 ณ บูธ A9 อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี

activity on April 01, 2018, 02:03:09 PM
Honda’s Vision 2030 highlights future technologies for the first time in Thailand led by the “Honda Clarity Fuel Cell” Hydrogen vehicle, “UNI-CUB ?” and “Honda RoboCas” at the 39th Bangkok International Motor Show 2018





 Honda Automobile (Thailand) Co., Ltd. is exhibiting its Honda 2030 Vision which aims to develop advanced technologies to enhance the potential of people's lives in terms of mobility and many types of lifestyles led by the "Honda Clarity Fuel Cell" a zero-emission automobile, "UNI-CUB β," new personal mobility device with an omni-directional driving wheel system and "Honda RoboCas," a smart electric multi-function cart. Honda's spirit is being further strengthened with the sporty Honda Civic Hatchback in the new Rallye Red Color, Honda BR-V Sport Package and Honda Brio Amaze Black Sport Edition which will all be on display at The Bangkok International Motor Show 2018.
          Mr. Pitak Pruittisarikorn, Chief Operating Officer, Honda Automobile (Thailand) Co., Ltd., said, "This occasion is very special, and also different from others, because we are not only exhibiting current automobile models, we are also bringing future technologies here for you to explore. This helps to express our 2030 vision, where we aim to develop advanced technologies to enhance the potential of people's lives in terms of mobility and various forms of living with the "Power of Dreams" to move forward to a CO2-Free Society and a Collision-Free Society, creating enjoyment and enhancing the potential of people's lives in society and in a future without boundaries.
          At the Honda Booth this year, Honda is exhibiting many future technologies for mobility and various forms of living. For Mobility Technology, Honda is highlighting the "Honda Clarity Fuel Cell," a zero-emission automobile that runs on hydrogen with superior performance and that is fun to drive and in keeping with the style of Honda. It's the world's first 5-seater sedan equipped with a fuel cell stack as the source of electric power combined with a powertrain system that creates maximum output, the same as a V6 engine, with an approximately 750 km* cruising range on one full tank of hydrogen (EPA Fuel economy rating of 68 miles per gallon of gasoline-equivalent (MPGe) or 28.3 kilometers/liter). The Honda Clarity was developed under a "3-in-1" platform that resulted in three variants for alternative fuel options, the Clarity Plug-in Hybrid, the Clarity Electric, and the Clarity fuel cell.
          To respond to the company's vision to improve people's way of life, Honda has also developed a variety of "Technologies for Living" to deliver joy and more convenience and comfort in everyday life. We are exhibiting some examples here today; the "UNI-CUB β," a new personal mobility device featuring the Honda Omni Traction Drive System, a proprietary balance control technology that originated from Honda's research into "ASIMO" humanoid robots which perfectly answer all user's basic functions especially the use in office buildings and shopping malls.
          And the "Honda RoboCas," which was inspired by a Japanese Honda product engineer who lived in Thailand for a period of time and was impressed with the street vendor carts which we are all familiar with. He then developed a smart electric push cart that can be adapted for many different uses and which truly reflects the Power of Dreams, which pushes us to continue developing technologies to respond to various forms of living.
          In addition, Honda also introduced the innovative "Honda Connect" technology that improves confidence and security when driving by allowing drivers and their cars to communicate with each other via smartphone applications.
          Honda is strengthening its sporty spirit by presenting the premium sporty "Honda Civic Hatchback" in the new Rallye Red color with a 1.5 liter VTEC TURBO engine that generates maximum output of 173 horsepower, sophisticated design details, especially the iconic eye-catching hatchback and foldable back seats, to fulfill all types of functions from various lifestyles at a price of 1,169,000 baht.
          The "Honda BR-V" offers a stronger look of an active sport crossover with the Modulo's Sport Package accessories such as a back spoiler, daytime running lights, front and back bumper guard and side steps at a special price of 29,900 baht. The new V+ variant is also being introduced at this event offering the best value and responding to customers' needs with features for comfort and safety including electric side mirrors, a 6.1-inch touch screen audio system and rearview camera. All variants offer wide cabin space for comfort and enormous utility space. Honda BR-V is available in variants; V+ variant at a price of 755,000 baht and SV variant at a price pf 820,000 baht.
          And lastly, the new "Honda Brio Amaze Black Sport Edition" is a premium eco-car with a sportier look with a new Gloss Black front grille, new Berlina Black alloy wheels and Aero Package which includes Modulo's sporty body skirt, orange line decal and stainless steel exhaust tip. Honda Brio Amaze comes with two variants; V variant for 517,000 baht and Black Sport variant for 579,000 baht.
          Additionally, to thank its customers for their trust, which has resulted in the company retaining the Number 1 position in Thailand's passenger car market for the third year in a row, Honda is pleased to be holding the "Honda, With Love and Thankfulness Campaign" offering special deals to customers who purchase any Honda model from February 10 until April 10, 2018. Those who take delivery of their car by April 30, 2018 will have a chance to win a Honda Accord Hybrid (HYBRID TECH), Honda CR-V (DT-EL 4WD) and Honda CIVIC (TURBO RS), in addition to 353 other prizes worth a total value of 10,950,000 baht. All customers who book and take delivery of any Honda car within the campaign period will also receive a Honda gift voucher worth 3,000 baht. Special deals for all models** include either a minimum 25% down payment along with 12 to 48 installments with a special 1.99% interest rate, or a low down payment with special interest rates, or free first-class car insurance and many additional promotional campaigns such as:
          - The "Installment Support Program" campaign – offers installment support starting from 1,000-10,000 baht per month for 12 months.
          - The "Exchange Your Used Car for a New Honda Car" campaign – customers who purchase any new Honda car can exchange their used car, any brand or model, to receive a maximum 10,000 baht gift voucher.
          - The "Friend Gets Friend" campaign – Honda CR-V, Honda Accord, and Honda Accord Hybrid owners can introduce their friends to order and take delivery of any of these three models within the campaign period to receive a maximum 12,000 baht gift voucher for both parties.
          - The "Honda Loyalty" campaign – offers Honda car owners with special interest rates with a 0.15% deduction from the sales promotion table when the installment contract is made with an associated financial institution**.

          Come and explore Honda's technologies for mobility and living in support of a CO2-Free Society and Collision-Free Society along with 12 Honda automobiles display models and the "Honda, With Love and Thankfulness Campaign" at the 39th Bangkok International Motor Show from March 28 to April 8, 2018 at Booth A9, Challenger Hall 2, Impact Arena, Muang Thong Thani. The same offers are also available at Honda's showrooms nationwide.
          For more information, please contact your nearest Honda showroom, Honda's 24-hr Call Center at 02-341-7777, or visit www.honda.co.th.

          Remarks
          * Results from Honda's Internal Product test drive protocol in Japan under the weather, traffic and driving conditions and characteristics during the test.
          ** Rules and Conditions apply. Please contact Honda Sales Consultants at Honda Showrooms nationwide or at the Honda Booth (Booth A9) at The Bangkok International Motor Show 2018 for details. The motor show is taking place from March 28 to April 8, 2018 at Challenger Hall 1-3, IMPACT Arena, Muang Thong Thani.

activity on April 01, 2018, 02:04:28 PM
EA เปิดตัวยานยนต์ไฟฟ้าสัญชาติไทย MINE Mobility โชว์ศักยภาพผลิตรถต้นแบบ 3 รุ่นพร้อมกันในงานมอเตอร์โชว์ 28 มี.ค. – 8 เม.ย. 2561 นี้









          EA โชว์พลังสมองและฝีมือคนไทย เชื่อมโยงธุรกิจพลังงาน เตรียมก้าวสู่ตลาดยานยนต์โดยเปิดตัว MINE Mobility รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบถึง 3 รุ่นพร้อมกัน ด้วยรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยว ทันสมัย ปลอดภัย ไร้มลพิษ และประหยัดพลังงานเป็นเยี่ยม ตอบรับการใช้งานในหลายฟังก์ชั่น
          นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมจัดงานเปิดตัวรถยนต์ต้นแบบที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ จากฝีมือการออกแบบและพัฒนาของทีม R&D ของบริษัทซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นคนไทยทั้งสิ้น โดยได้มุ่งมั่นทำงานกันมาตั้งแต่ปี 2560 จนเป็นที่มั่นใจจนในปลายปี 2560 ได้จัดตั้งบริษัทย่อยขึ้นในชื่อ
          บริษัท ไมน์ โมบิลิตี รีเสิร์ช จำกัด (หรือ MINE Mobility Research Co., Ltd.) เพื่อทำการพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าตลอดจนฟังก์ชั่นต่างๆ ให้สอดรับกับความต้องการของผู้ใช้งาน ก่อนที่จะเริ่มผลิตและจำหน่าย MINE Mobility รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติไทยของเครือ EA ให้ออกสู่ท้องตลาดในอนาคตต่อไป
           งานบางกอก อินเตอร์-เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39 จะจัดขึ้นในวันที่ 28 มีนาคม – 8 เมษายน 2561 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพค เมืองทองธานีMINE Mobility ได้นำรถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบสัญชาติไทย ที่พัฒนาโดยทีมงานคนไทยอย่างแท้จริง มาร่วมแสดงในงานดังกล่าวรวมทั้งสิ้น 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น City EV Concept รุ่น Sport EV Concept และรุ่น MPV EV- Concept เพื่อตอบสนองการใช้งานของผู้ใช้ทุกกลุ่ม ทุกวัย และเป็น Full EV ทั้ง 3 รุ่น โดยจัดแสดงไว้ที่บูธ A15/1 ตั้งแต่เวลา 12.00 – 22.00 น.
          ชื่อ MINE Mobility มีที่มาจากคอนเซปท์ MISSION NO EMISSION พันธกิจไร้มลพิษ ที่มุ่งเน้นการสร้างยานยนต์ที่ไร้มลพิษ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ประหยัดและปลอดภัย ง่ายต่อการบำรุงรักษา ให้ความคุ้มค่าในระยะยาว เพื่อให้คนไทย ได้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าคุณภาพสูงที่ออกแบบและผลิตโดยคนไทยอย่างแท้จริง เพื่อให้ประเทศไทยจะเป็นเมืองนวัตกรรมแห่งอนาคตที่ปราศจากมลพิษ เพื่ออนาคตที่ดีของลูกหลานเราต่อไป

activity on April 01, 2018, 02:05:12 PM
ภาพข่าว: ฮอนด้า จัดแสดงเทคโนโลยีแห่งอนาคต “ฮอนด้า คลาริตี้ ฟิวเซลล์” ยนตรกรรมพลังงานไฮโดรเจน “ยูนิ-คับ เบต้า” และ “ฮอนด้า โรโบแคส” ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2018

          บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด นำโดยนายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร (ขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ และนายณัฏฐ์ ปฏิภานธาดา (ซ้าย) ผู้จัดการทั่วไปส่วนการตลาดและการวางแผนกลยุทธ์ ร่วมเปิดบูธรถยนต์ฮอนด้า ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2018 ที่จัดแสดง 3 ไฮไลท์เทคโนโลยีเพื่อการเดินทางและการใช้ชีวิตในโลกอนาคตของฮอนด้า ทั้ง "ฮอนด้า คลาริตี้ ฟิวเซลล์" ยนตรกรรมพลังงานไฮโดรเจนปราศจากไอเสีย "ยูนิ-คับ เบต้า" พาหนะส่วนบุคคลเคลื่อนที่รอบทิศทาง และ "ฮอนด้า โรโบแคส" รถเข็นอัจฉริยะพลังงานไฟฟ้า ร่วมทั้งเปิดตัวยนตรกรรมคุณภาพที่ตอบโจทย์การใช้งานในทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ขับขี่ ทั้ง "ฮอนด้า ซีวิค แฮทช์แบ็ก" สีใหม่ สีแดงแรลลี่ "ฮอนด้า บีอาร์-วี" สปอร์ต แพคเกจ และ "ฮอนด้า บริโอ้ อเมซ" ใหม่ แบล็ก สปอร์ต สเปเชียล เอดิชั่น


          ภาพจากซ้ายไปขวา
          นายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธาน บริษัท สื่อสากล จำกัด
          นายพัฒนเดช อาสาสรรพกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอดวานซ์ แอคทิวิตี้ จำกัด
          นายบุญชัย คงปักไพศาล ที่ปรึกษา บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)
          นายณัฏฐ์ ปฏิภานธาดา ผู้จัดการทั่วไปส่วนการตลาดและการวางแผนกลยุทธ์ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด
          นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด
          ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานจัดงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์
          นายจรวย ขันมณี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ยานยนต์ สแควร์ กรุ๊ป จำกัด
          นายวิลักษณ์ โหลทอง ประธานกรรมการ บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน)

activity on April 01, 2018, 02:06:02 PM
ฟอร์ดประกาศราคาเรนเจอร์ แร็พเตอร์ ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39





          เรนเจอร์ แร็พเตอร์ สุดยอดรถกระบะออฟโรดความเร็วสูง ประกาศราคาแล้ววันนี้ ที่ 1,699,000 บาท พร้อมเปิดจองที่งานมอเตอร์โชว์และโชว์รูมฟอร์ดทั่วประเทศ
          เรนเจอร์ แร็พเตอร์ มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล Bi-Turbo (เทอร์โบคู่) ขนาด 2.0 ลิตร และเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด พร้อมด้วยโช้คอัพคู่ด้านหน้าและหลังของ Fox Racing Shoxระบบกันสะเทือนหลังแบบใหม่ที่มาพร้อมระบบวัตต์ลิงค์และคอยล์โอเวอร์ช็อค
          พบกับข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับรถยนต์ฟอร์ดทุกรุ่นได้ภายในงานและที่โชว์รูมฟอร์ดทั่วประเทศ

          ฟอร์ดได้ประกาศราคาขายอย่างเป็นทางการสำหรับเรนเจอร์ แร็พเตอร์ ที่ 1,699,000 บาท ภายในงานแถลงข่าวรอบสื่อมวลชนวันนี้ ณ งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39 โดยผู้ที่สนใจสามารถจองรถได้ภายในงาน ซึ่งจะจัดขึ้นจนถึงวันที่ 8 เมษายน 2561 และที่ตัวแทนจำหน่ายฟอร์ดทั่วประเทศ
          เรนเจอร์ แร็พเตอร์ รถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูงจากโรงงานคันแรกและคันเดียวของภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ได้ถูกนำมาจัดแสดงต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกภายในงานมอเตอร์โชว์ปีนี้
          เรนเจอร์ แร็พเตอร์ มาพร้อมสีภายนอกที่โดดเด่นสะดุดตาให้เลือกถึง 5 สี ได้แก่ สีฟ้าไลท์นิ่ง บลู (Lightning Blue) สีแดงเรซ เร้ด (Race Red) สีดำแชโดว์ แบล็ค (Shadow Black)สีขาวโฟรเซ่น ไวท์ (Frozen White) และสีพิเศษเฉพาะของเรนเจอร์ แร็พเตอร์ อย่างสีเทาคองเคอร์ เกรย์ (Conquer Grey)
          "ฟอร์ดรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ต่อยอดความสำเร็จของรถกระบะสายพันธุ์แกร่ง ฟอร์ด เรนเจอร์ ทั้งในประเทศไทยและทั่วภูมิภาค ด้วยสุดยอดรถกระบะเปี่ยมสมรรถนะอย่าง 'เรนเจอร์ แร็พเตอร์' ซึ่งได้ผสานเอกลักษณ์ 'เกิดมาแกร่ง' ของฟอร์ด เรนเจอร์ รถกระบะยอดนิยม เข้ากับดีเอ็นเอของฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการรถกระบะออฟโรด" นางสาวยุคนธร วิเศษโกสิน ประธาน ฟอร์ด อาเซียน และกรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าว
          "เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ถือเป็นที่สุดของฟอร์ด เรนเจอร์ ที่จะมาปฏิวัติและยกระดับตลาดรถกระบะให้กับบรรดาผู้ที่หลงใหลในรถกระบะอีกครั้ง" นางสาวยุคนธร กล่าวเสริม

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์
          เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ผสานการทำงานของขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล Bi-Turbo (เทอร์โบคู่) ขนาด 2.0 ลิตร และเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด มอบพละกำลังในการขับขี่ได้สูงสุดถึง 213แรงม้า และแรงบิดที่มากถึง 500 นิวตันเมตร
          เรนเจอร์ แร็พเตอร์ มาพร้อมโช้คอัพคู่ด้านหน้าและหลังของ Fox Racing Shox ที่มาพร้อมระบบบายพาสภายใน (Internal Bypass) และระบบกันสะเทือนหลังแบบใหม่ รวมถึงระบบวัตต์ลิงค์และคอยล์โอเวอร์ช็อค มอบสมรรถนะและความสามารถในการขับขี่ออฟโรดขั้นสุด พร้อมการทรงตัวที่ดีเยี่ยม
          เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ยังอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยมากมาย รวมถึงระบบ Terrain Management System (TMS) สำหรับการขับขี่ทั้งหมด 6 รูปแบบ เพื่อมอบสมรรถนะการขับขี่อันเหนือชั้นซึ่งรวมถึงโหมดบาฮาที่พร้อมรับกับการขับขี่ออฟโรดสุดเร้าใจ
          การออกแบบภายนอกและภายในของเรนเจอร์ แร็พเตอร์ ช่วยสะท้อนประสิทธิภาพการขับขี่แบบออฟโรดได้อย่างโดดเด่น ด้วยการเลือกใช้สีสันที่ผสานกันอย่างลงตัว มิติต่างๆ ของรถที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ช่วงล่างที่ถูกยกสูงขึ้น รวมถึงการเลือกสรรวัสดุที่คงทนและเหมาะสมสำหรับการขับขี่แบบออฟโรดและการใช้งานในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ โลโก้ฟอร์ดอันสะดุดตา สะกดด้วยตัวพิมพ์ใหญ่ภาษาอังกฤษอันเป็นเอกลักษณ์ที่จัดวางอยู่บนกระจังหน้าอย่างองอาจ ช่วยเน้นรูปลักษณ์ของเรนเจอร์ แร็พเตอร์ ให้ดูดุดันยิ่งขึ้น
          แม้ว่าจะต้องเผชิญกับสภาพเส้นทางที่ท้าทายที่สุด ผู้ขับขี่ยังสามารถควบคุมรถและเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างแม่นยำและฉับไว ด้วยพวงมาลัยแบบพิเศษของเรนเจอร์ แร็พเตอร์ ซึ่งมาพร้อมกับแป้น Paddle Shift ซึ่งผลิตจากแม็กนีเซียมน้ำหนักเบา
          เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ยังมาพร้อมกับแผงกันกระแทกด้านล่างอันเป็นเอกลักษณ์ ช่วยปกป้องห้องเครื่องจากการกระแทกเมื่อมีการขับขี่แบบออฟโรด แผงกันกระแทกนี้ผลิตจากเหล็กกล้า (High-strength steel) ที่มีความหนา 2.3 มิลลิเมตร และมีความทนทานสูงตามมาตรฐานของฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ (Ford Performance)
          นอกจากนั้น เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ยังมีเทคโนโลยีอันชาญฉลาดและคุณสมบัติอันโดดเด่นอื่นๆ ได้แก่ กระจกมองหลังปรับลดแสงอัตโนมัติเทคโนโลยีการตัดเสียงรบกวน (Active Noise Cancellation)ระบบสั่งงานด้วยเสียงซิงค์ 3 (SYNCÒ 3) บนหน้าจอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว พร้อมการเชื่อมต่อบลูทูธและ Wi-Fiระบบแผนที่นำทางแบบสามมิติ (Navigation System)กุญแจรีโมทอัจฉริยะและปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติประตูท้ายรถเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าไฟหน้าแบบโปรเจ็คเตอร์ HIDไฟวิ่งกลางวันแบบ LEDไฟตัดหมอกแบบ LEDบันไดข้างรถผลิตจากอะลูมิเนียมอัลลอยชุดกันชนด้านหน้าที่ได้รับการออกแบบมาสำหรับการขับขี่แบบออฟโรดความเร็วสูงล้อขนาด 17 นิ้ว และยาง All-Terrain BF Goodrich KO2 285/70 R17

ข้อเสนอสุดพิเศษมากมายภายในงานมอเตอร์โชว์
          พบกับข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับรถยนต์ฟอร์ดทุกรุ่นภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39 และตัวแทนจำหน่ายฟอร์ดทั่วประเทศ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
          ฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่น โอเพ่นแค็บ XL+ ดาวน์เพียง 29,000 บาท หรือ ราคาพิเศษ 599,000 บาท พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Ford Ensureฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่น ดับเบิ้ลแค็บ XLT อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% ดาวน์ 25% ผ่อนนาน 48 เดือน พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Ford Ensureฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่น ดับเบิ้ลแค็บ XLS & XLT ดาวน์เพียง 49,999 บาท พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Ford Ensure หรือ อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% ดาวน์ 25% ผ่อนนาน60 เดือนฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่นไวล์ดแทรค อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% ดาวน์ 25% ผ่อนนาน 36 เดือน พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Ford Ensureฟอร์ด เอเวอเรสต์ รุ่น 2.2L ไทเทเนี่ยม 4x2 AT อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Ford Ensureฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต ทุกรุ่น อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% ดาวน์ 25% ผ่อนนาน 60 เดือน พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Ford Ensureฟอร์ด โฟกัส รุ่น สปอร์ต ราคาพิเศษ 999,000 บาท พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Ford Ensure

ข้อมูลเกี่ยวกับฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี
          ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลก มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองเดียร์บอร์น รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยธุรกิจของบริษัท ได้แก่ การออกแบบ ผลิต ทำการตลาด และบริการหลังการขาย สำหรับรถยนต์ รถกระบะ รถเอสยูวี รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ในแบรนด์ฟอร์ด และแบรนด์ลินคอล์นซึ่งเป็นแบรนด์ในตลาดรถหรู รวมถึงให้บริการด้านการเงินผ่านบริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ เครดิต และบริษัทกำลังเดินหน้าสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจรถยนต์พลังงานไฟฟ้า รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติและแผนการสัญจรอัจฉริยะ ฟอร์ดมีพนักงานรวมประมาณ 202,000 คนทั่วโลก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟอร์ด ผลิตภัณฑ์ของฟอร์ด และฟอร์ด มอเตอร์ เครดิต โปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่ www.corporate.ford.com

activity on April 01, 2018, 02:06:45 PM
อีซูซุนำยนตรกรรมรุ่นใหม่ล่าสุดลุยงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39 นำทัพด้วย “ใหม่! อีซูซุ เอ็กซ์-ซีรี่ส์” และรุ่นพิเศษ “อีซูซุมิว-เอ็กซ์ THE ICONIC” ในคอนเซ็ปต์ “สปอร์ตเรซซิ่ง”





          อีซูซุนำยนตรกรรมรุ่นใหม่ล่าสุดร่วมงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39 พร้อมลุยตลาดรถปี 2561 ส่ง "ใหม่! อีซูซุ เอ็กซ์-ซีรี่ส์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์" แรงสุดขีด...เต็มสปีดพันธุ์เอ็กซ์ ไลฟ์สไตล์ปิกอัพเพื่อคนสายพันธุ์สปอร์ต ปรับโฉมใหม่เพิ่มเอกลักษณ์ให้โดดเด่นยิ่งขึ้น ทั้งภายนอกและภายใน นำมาจัดแสดงและจำหน่ายทั้ง 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น Speed สปอร์ตเข้าถึงจิตวิญญาณชาว เรซซิ่ง และครั้งแรกกับทางเลือก ใหม่! Speed Cab4 ปิกอัพสปอร์ต 4 ประตูของคนพันธุ์เท่ พร้อมด้วยรุ่น Hi-Lander สปอร์ตพรีเมี่ยม เท่ หรูหรามีสไตล์ดุจรถยนต์นั่ง นอกจากนี้ ยังนำรถยนต์นั่งอเนกประสงค์สุดหรูรุ่นพิเศษ "อีซูซุมิว-เอ็กซ์ THE ICONIC" ที่มาพร้อมชุดแต่งพิเศษสปอร์ตเท่รอบคัน จับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบรถที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเพื่อตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์การ ขับขี่ พร้อมโชว์ "อีซูซุมิว-เอ็กซ์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์" ตกแต่งพิเศษสีแดง เด่นสง่าบนเวที เท่ทุกมุมมอง พร้อมกิจกรรมสนุกสนานมากมาย และพบกับซูเปอร์พรีเซนเตอร์ของอีซูซุทั้ง 2 ท่าน คุณบอย - ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ และคุณก้อง - สหรัถ สังคปรีชา ที่จะสลับกันมาให้ความเพลิดเพลิน สนุกสนานในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ภายในงานอีกด้วย
          กลุ่มตรีเพชร โดย มร. โทชิอากิ มาเอคาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า "ปีนี้ นับเป็นปีที่สำคัญอีกก้าวหนึ่งของกลุ่มอีซูซุ นั่นคือ การก้าวสู่ปีที่ 61 ของการดำเนินธุรกิจอีซูซุในประเทศไทย ซึ่งเป็นปีแห่งการเริ่มต้นทศวรรษใหม่ อีซูซุไม่เคยคิดที่จะหยุดยั้งการพัฒนาทั้งทางด้านเครื่องยนต์และการดีไซน์รถที่ทันสมัย เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของผู้ใช้รถทั่วโลก สำหรับงานมอเตอร์โชว์ในปีนี้ อีซูซุจึงประเดิมตลาดไตรมาสแรกด้วยการส่ง "ใหม่! อีซูซุ เอ็กซ์-ซีรี่ส์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์" แรงสุดขีด...เต็มสปีดพันธุ์เอ็กซ์ ไลฟ์สไตล์ปิกอัพเพื่อคนสายพันธุ์สปอร์ตเพื่อการขับขี่แบบเรซซิ่งพันธุ์แท้ กับดีไซน์สปอร์ตเหนือชั้น ภายในสีดำ-แดงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และรถยนต์นั่งอเนกประสงค์สุดหรูรุ่นพิเศษ "อีซูซุมิว-เอ็กซ์ THE ICONIC" พร้อมด้วยสุดยอดยนตรกรรมรุ่นอื่น ๆ ในตระกูล "อีซูซุดีแมคซ์ บลูเพาเวอร์" ขีดสุดแห่งนวัตกรรมเปลี่ยนโลกที่ยังคงความแรงต่อเนื่อง โดยนำมาจัดแสดงให้ผู้ที่สนใจเลือกหา และจับจองในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39 เพื่อตอกย้ำความเหนือชั้น ด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่นมีสไตล์ สมรรถนะที่เป็นเยี่ยม ความทนทาน ความประหยัดน้ำมันที่เหนือชั้น"

          สำหรับบูธอีซูซุในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39 นี้ มีรถที่นำมาจัดแสดงหลากหลายรุ่น ประกอบด้วย
          อีซูซุ เอ็กซ์-ซีรี่ส์ รุ่น Speed โดดเด่นไม่ซ้ำใครด้วยการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ที่ตอบรับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ผู้ชื่นชอบความเร้าใจ หลงใหลชีวิตที่มีสีสัน และต้องการสะท้อนตัวตนสปอร์ตโฉบเฉี่ยว ด้วยการขับขี่ "อีซูซุ เอ็กซ์-ซีรี่ส์" รุ่น Speed เพื่อเติมเต็มจิตวิญญาณเรซซิ่งให้แรงถึงขีดสุด...สู่อีกระดับของขุมพลังสปอร์ตที่ไร้ขีดจำกัด
          - ชุดแต่งดีไซน์ใหม่! ที่มาพร้อมกระจังหน้า ชุดแต่งสเกิร์ตรอบคัน และสติกเกอร์คาดหน้า-หลัง พร้อมสัญลักษณ์ X ดีไซน์โฉบเฉี่ยวเร้าใจ ทรงพลังทุกเส้นสาย ดึงดุดทุกสายตาด้วยเส้น Red Line สีแดงสุดสปอร์ต ดีไซน์ต่อเนื่องรับกับไฟหน้าและเส้นสปีดสีแดงยาวรอบคัน สปอร์ตเท่ทุกมุมมอง พร้อมสัญลักษณ์ ISUZU สีแดง
          - ใหม่! ไฟหน้าแบบ Bi-LED เทคโนโลยีสุดล้ำ ให้พื้นที่ความสว่างมากขึ้น และใช้พลังงานน้อยลง สามารถปรับความสูงต่ำได้ 4 ระดับ พร้อม Multifunctional Daylight แบบ Built-in ดีไซน์ใหม่ สปอร์ตลงตัว เป็นทั้งไฟส่องสว่างเวลากลางวัน และไฟหรี่เวลากลางคืน
          - ใหม่! เสาข้างประตูสีดำ Blackout Film เสริมมาดเข้มสไตล์สปอร์ต ในรุ่น Speed Cab4
          - ใหม่! ล้ออัลลอยดีไซน์ล่าสุดสีเทาดำ ขนาด 16 นิ้ว เท่ ดูดีสไตล์สปอร์ต
          - ใหม่! เบาะนั่งสีดำแดง โอบกระชับ ดีไซน์สปอร์ต ลวดลาย Honeycomb เท่ เต็มอารมณ์ พร้อมสัญลักษณ์ X ที่เบาะคู่หน้า
          - ดีไซน์ห้องโดยสารใหม่! ด้วยชุดตกแต่งสีดำ Piano Black Style และผิวสัมผัส Soft Touch เดินด้ายสีแดงสุดสปอร์ต ลงตัวกับชุดโครเมี่ยมประดับช่องแอร์และที่เปิดประตูด้านใน พร้อมสัญลักษณ์ X-SERIES บนแถบสีแดงสุดเท่ที่คอนโซลหน้า และชุดตกแต่งแผงข้างประตูสีแดงลวดลาย Honeycomb สุดสปอร์ต
          ชัดเจนด้วยหน้าปัด Super Vision ดีไซน์แบบ 3D Shape Point พร้อมหน้าจอ Color Display MID เทคโนโลยีล่าสุด และฟังก์ชั่นครบครัน พวงมาลัย Multifunction ดีไซน์หุ้มหนังเดินด้ายแดง พร้อมสัญลักษณ์ ISUZU สีแดง ควบคุมเครื่องเสียงและสั่งการจากบนพวงมาลัย ช่อง USB ชาร์จไฟ 2 จุด หน้า-หลัง ในรุ่น Speed Cab4 และ 1 จุดในรุ่น Speed ระบบ Bluetooth เชื่อมต่อระบบโทรศัพท์ พร้อมฟังก์ชั่น Bluetooth Audio กระหึ่มไปกับ ISUZU SURROUND SOUND SYSTEM ให้มิติเสียงสมจริงกระหึ่มรอบทิศทาง สูงสุดถึง 6 ลำโพง เติมมิติเสียงให้เต็มอารมณ์สปอร์ตยิ่งขึ้น
          อีซูซุ เอ็กซ์-ซีรี่ส์ รุ่น Hi-Lander เติมไลฟ์สไตล์สปอร์ตให้เต็มพลัง ด้วยความหรูหรา เท่แบบมีสไตล์ ให้กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์เป็นเอกลัษณ์ ได้สะท้อนตัวตนสปอร์ตพรีเมี่ยม ด้วยความลงตัวระหว่างการขับขี่ในชีวิตประจำวันกับความสปอร์ตเท่ที่หรูหรามีสไตล์แบบรถยนต์นั่ง
          - ชุดแต่งดีไซน์ใหม่! ที่มาพร้อมกระจังหน้าสุดสปอร์ต ออกแบบลงตัวรับกับสเกิร์ตหน้าดีไซน์เท่ ทรงพลัง สะกดทุกสายตา ด้วยกันชนหน้าสีเทาดำ Front Bumper Garnish ที่ตัดรับกับเส้น Red Line สีแดงสุดสปอร์ต ดีไซน์ยาวต่อเนื่องรับกับไฟหน้าอย่างลงตัว มาพร้อมสติกเกอร์ดีไซน์เท่คาดหน้า-หลัง เติมความโดดเด่นไม่ซ้ำใครและสัญลักษณ์ ISUZU สีแดง เสริมความสปอร์ตให้มีสไตล์
          - ใหม่! ชุดไฟตัดหมอกสีเดียวกับตัวรถ พร้อมกรอบสีเทาดำ ดีไซน์ต่อเนื่องรับกับสเกิร์ตหน้าสปอร์ตเหนือระดับ
          - สปอร์ตบาร์ดีไซน์ใหม่! สีทูโทน เท่ สปอร์ต ดูโฉบเฉี่ยว
          - ใหม่! ไฟหน้าแบบ Bi-LED เทคโนโลยีสุดล้ำ ให้พื้นที่ความสว่างมากขึ้น และใช้พลังงานน้อยลง สามารถปรับความสูงต่ำได้ 4 ระดับ พร้อม Multifunctional Daylight แบบ Built-in ดีไซน์ใหม่ สปอร์ตลงตัว เป็นทั้งไฟส่องสว่างเวลากลางวัน และไฟหรี่เวลากลางคืน
          - ใหม่! เสาข้างประตูสีดำ Blackout Film ให้ความต่อเนื่องสวยงาม เสริมความ พรีเมี่ยมในรุ่น 4 ประตู
          - บันไดข้างดีไซน์ใหม่ แบบชิ้นเดียว พร้อมตกแต่งด้วยขอบสีเงิน ดูสปอร์ตหรู
          - ล้ออัลลอยทูโทนดีไซน์ใหม่! ขนาด 18 นิ้ว เท่สะดุดตา ในรุ่น 4 ประตู
          - ใหม่! เบาะนั่งกึ่งหนังแท้ดีไซน์หรู แบบ Double Layer เพิ่มมิติแห่งดีไซน์ เดินด้ายสีแดงดูสปอร์ตพรีเมี่ยม พร้อมสัญลักษณ์ X-SERIES ที่เบาะคู่หน้า
          - ดีไซน์ห้องโดยสารใหม่! ด้วยชุดตกแต่งสีดำ Piano Black Style และผิวสัมผัสใหม่ Soft Touch เดินด้านสีแดงสุดสปอร์ต หรูหราลงตัวกับชุดโครเมียมประดับช่องแอร์ และที่เปิดประตูด้านใน พร้อมสัญลักษณ์ X-SERIES ที่คอนโซลหน้า หน้าปัด Super Vision ดีไซน์แบบ 3D Shape Point พร้อมหน้าจอ Color Display MID ฟังก์ชั่นครบครัน พวงมาลัย Multifunction ดีไซน์หุ้มหนัง เดินด้ายแดง พร้อมสัญลักษณ์ ISUZU สีแดง ควบคุมเครื่องเสียงและสั่งการจากบนพวงมาลัย ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control ที่สุดของความสะดวกสบายในทุกการเดินทาง Isuzu Media Solution หน้าจอระบบสัมผัสขนาดใหญ่ 7 นิ้ว เชื่อมต่ออุปกรณ์บันเทิงได้หลากหลาย พร้อมระบบบลูทูธ กระหึ่มไปกับ ISUZU SURROUND SOUND SYSTEM ให้มิติเสียงสมจริงกระหึ่มรอบทิศทาง สูงสุดถึง 8 ลำโพง เติมมิติเสียงให้เต็มอารมณ์สปอร์ตยิ่งขึ้นในรุ่น 4 ประตู
          ทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมขีดสุดของสมรรถนะกับนวัตกรรมเปลี่ยนโลก ขุมพลังสปอร์ตสไตล์เอ็กซ์ เครื่องยนต์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ และระบบส่งกำลังสไตล์สปอร์ต โดยทั้งรุ่นเกียร์ออโตเมติก 6 สปีด แบบ Rev Tronic และรุ่นเกียร์ธรรมดา 6 สปีด มาพร้อมโอเวอร์ไดร์ฟ 2 ตำแหน่งที่เกียร์ 5 และ 6 พร้อม Genius Sport Shift ไฟบอกตำแหน่งเกียร์ และแจ้งเตือนการเปลี่ยนเกียร์ รุ่น Speed และ Speed Cab4 มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ ใหม่! แดงเอทนา ไมก้า (ETNA MICA RED) ขาวไซบีเรียน (SIBERIAN WHITE) และ ดำออสเตรเลียนโคล (AUSTRALIAN COAL BLACK) ส่วนรุ่น Hi-Lander 4 ประตู และ 2 ประตู มีให้เลือก 2 สี ขาวมุกเอเวอเรสต์ (EVEREST PEARL WHITE) และ ดำออสเตรเลียนโคล (AUSTRALIAN COAL BLACK)
          "รุ่นพิเศษ! "อีซูซุมิว-เอ็กซ์ THE ICONIC" รถยนต์นั่งอเนกประสงค์สุดหรูรุ่นล่าสุด ที่มาเพิ่มทางเลือกและต่อยอดความแรงของ "The New Isuzu MU-X" ภายใต้นิยาม Signature of Privilege เอกลักษณ์แห่งเอกสิทธิ์ โดยเพิ่มเติมความโฉบเฉี่ยว หรูหรา งดงามทุกรายละเอียด อาทิ สปอร์ตเท่รอบคันกับชุดแต่ง ICONIC STYLE ห้องโดยสารโทนเข้ม LAVA BLACK ขับเน้นอารมณ์สปอร์ต ระบบความบันเทิงพร้อม Built-in Navigator และ Digital TV Tuner และล้ออัลลอย 18" ICONIC CROSS ทำให้เป็นยนตรกรรมไลฟ์สไตล์ที่ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้ใช้รถที่มีสไตล์อันโดดเด่น ไม่ซ้ำใคร มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ 1.9 และ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ ที่ให้การตอบสนองการขับขี่ที่ดี ประหยัดน้ำมัน และรักษาสิ่งแวดล้อม ชุดเกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 2 ล้อ พร้อมช่วงล่างที่นุ่มนวล รวมถึงเทคโนโลยีและฟังก์ชั่นต่างๆ ที่ตอบสนองการใช้ชีวิตยุคใหม่ให้ผู้ใช้รถได้สูงสุดในทุกด้าน โดยมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ ขาวมุกเอเวอร์เรสต์ (Everest Pearl White) และดำออสเตรเลียนโคล (Australian Coal Black)
          "ใหม่สุด! อีซูซุดีแมคซ์ V-Cross MAX 4x4" ขีดสุดแห่งนวัตกรรมเปลี่ยนโลก สปอร์ต ออฟโรดที่พร้อมตอบรับทุกความท้าทาย ดีไซน์ภายนอกใหม่! พร้อมชุดแต่ง MAX 4x4 สีเทาดำรอบคัน ผสานความแกร่งและสปอร์ตเป็นหนึ่งเดียว ดุดัน บึกบึนเต็มขั้น ด้วยโทนสีเทาดำ สไตล์ สปอร์ตออฟโรดตัวจริง ไฟหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Bi-LED พร้อม Multifunctional Daylight ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน พร้อมทำหน้าที่เป็นไฟหรี่เวลากลางคืน กระจังหน้าใหม่พร้อม Engine Hood Garnish ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่แบบทูโทน ขนาด 18 นิ้ว ห้องโดยสารบรรยากาศใหม่! เพิ่มความสะดวกสบายให้ทุกสัมผัส หรูหราทุกรายละเอียด พร้อมสัญลักษณ์ V-Cross ที่เบาะนั่งกึ่งหนังแท้ ทูโทนสีน้ำตาลเทาเดินด้ายสีส้ม

          ล่าสุดอีซูซุยังได้รับรางวัลอันทรงคุณค่าจากการประกาศรางวัล "รางวัลรถยอดเยี่ยมประจำปี 2018" (CAR OF THE YEAR 2018) ได้แก่
          รางวัลรถปิกอัพขับเคลื่อน 2 ล้อ เครื่องยนต์ดีเซลต่ำกว่า 2,500 ซีซี ยอดเยี่ยม
          : อีซูซุดีแมคซ์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์
          รางวัลรถปิกอัพขับเคลื่อน 4 ล้อ เครื่องยนต์ดีเซลต่ำกว่า 3,200 ซีซี ยอดเยี่ยม
          : อีซูซุดีแมคซ์ วีครอส MAX 4x4
          รางวัลรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ขับเคลื่อน 2 ล้อ เครื่องยนต์ดีเซลต่ำกว่า 3,200 ซีซี ยอดเยี่ยม
          : อีซูซุมิว-เอ็กซ์ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์
          รางวัลรถปิกอัพยอดนิยม
          : อีซูซุดีแมคซ์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์
          รางวัลรถปิกอัพที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่สุด
          : อีซูซุดีแมคซ์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์
          รางวัลเครื่องยนต์ดีเซลที่มีนวัตกรรมยอดเยี่ยมที่สุด
          : เครื่องยนต์อีซูซุ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์
          รางวัลรถปิกอัพประหยัดน้ำมันเครื่องยนต์ต่ำกว่า 2,500 ซีซี ยอดเยี่ยม
          : อีซูซุดีแมคซ์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์
          รางวัลโครงการเพื่อสังคมยอดเยี่ยมแห่งปี : โครงการ "อีซูซุให้น้ำ...เพื่อชีวิต"

          พบกับความสุขและความสนุกสนานจากพิธีกรคนดังที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาสร้างความสุขสนุกสนานตลอด 12 วัน อาทิ เป็ก-เปรมณัช แจ็ค-ไรเดอร์ และ มิก-บรมวุฒิ พร้อมกิจกรรมมากมายภายในบูธอีซูซุ เช่น
          โชว์สุดพิเศษจาก 2 ซูเปอร์พรีเซนเตอร์สุดฮอตของอีซูซุ "บอย - ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์" และ "ก้อง - สหรัถ สังคปรีชา"
          การประกวดภาพถ่าย Isuzu Motor Show Photo Contest 2018 ส่งภาพที่ถ่ายจากกล้องถ่ายภาพดิจิตอล (DSLR) หรือกล้องมือถือผ่าน Instagram เพียงใส่ Hashtag #isuzuinstagram ลุ้นรับรางวัลรวมกว่า 200,000 บาท
          ร่วมสัมผัสเกมเสมือนจริงสุดมันส์ Wireless Virtual Reality
          เพียงตอบแบบสอบถาม จะได้รับสิทธิ์ถ่ายภาพลงพวงกุญแจสุดชิค
          สอบถามข้อมูลรถอีซูซุหรือกิจกรรมต่างๆ ภายในงานได้จากสาวๆ i-Girl

          พบกับสุดยอดนวัตกรรมเทคโนโลยีดีเซลแห่งอนาคตครบรุ่นได้ที่บูธอีซูซุ ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39 ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม – 8 เมษายน 2561 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ติดตามข่าวสารของอีซูซุเพิ่มเติมได้ที่ www.isuzu-tis.com หรือ LINE: @isuzuthai

activity on April 01, 2018, 02:07:39 PM
ฮอนด้า ย้ำชัด “WHAT STOPS YOU?” ตอกย้ำผู้นำเทคโนโลยี เผยโฉมจักรยานยนต์ไฟฟ้าและไฮบริด พร้อมเปิดตัวโมเดลใหม่ 8 รุ่น ครั้งแรกในงานมอเตอร์โชว์ 2018





          เอ.พี. ฮอนด้า ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย ปักธงเดินเครื่องเต็มกำลังตอกย้ำแชมป์ตลาดตัวจริงต่อเนื่องปีที่ 29 ประกาศจัดเต็มโชว์สุดยอดเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าและไฮบริดครั้งแรกในไทย พร้อมยกทัพรถจักรยานยนต์ที่สุดแห่งนวัตกรรมการขับขี่ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์คนยุค 4.0 ประเดิมความท้าทายครั้งสำคัญ ไฮไลท์พิเศษเปิดตัวรถจักรยานยนต์อย่างเป็นทางการพร้อมกันถึง 8 รุ่น ได้แก่ Honda PCX Electric, Honda PCX Hybrid, All New Honda FORZA, All New Honda Goldwing, New Honda CB1000R, New Honda Africa Twin Adventure Sport, Honda Monkey และ Honda C125 มาพร้อมโปรโมชั่นพิเศษกับข้อเสนอเกินห้ามใจ ภายในงาน "บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2018 ระหว่างวันที่ 28 มีนาคม ถึง 8 เมษายน 2561
          มร.โยอิจิ มิซึทานิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า "นวัตกรรมยานยนต์ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์การใช้งานของคนยุคปัจจุบัน สำหรับจักรยานยนต์ฮอนด้าเอง เรามีวิชั่นปี 2030 ที่จะส่งมอบความสุขให้กับผู้คนเพื่อเพิ่มศักยภาพของการใช้ชีวิตและมุ่งเป็นผู้นำในความก้าวหน้าของการเดินทางมาสู่ทุกคน เพื่อทำให้ชีวิตประจำวันของผู้คนทั่วโลกดีขึ้น จึงนำสู่การปรับตัวในทุกมิติเพื่อผลักดันให้คำว่าดีที่สุดไกลออกไปเรื่อยๆ จึงเป็นที่มาของกลยุทธ์และทิศทางแบรนด์ใหม่ "WHAT STOPS YOU? มุ่งไป อย่าให้อะไรมาหยุด" ที่จะผลักดันทุกก้าวของชีวิต ให้มุ่งไปข้างหน้าด้วยการทำลายข้อจำกัด แก้ปัญหา และทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้กลายเป็นความจริง เช่นเดียวกับรถจักรยานยนต์ฮอนด้าที่ไม่เคยหยุดท้าทายตัวเอง เพื่อสร้างนวัตกรรมและความล้ำหน้าใหม่ ๆ และทำให้ชีวิตประจำวันของผู้คนดีขึ้น ดังนั้นช่วงโค้งสุดท้ายไตรมาสแรก จึงพร้อมนำเสนอเทคโนโลยีสู่อนาคตครั้งแรกของโลกอย่าง Honda PCX Hybrid และการนำ Honda PCX Electric มาตามสัญญาที่เคยกล่าวไว้ว่าจะส่งรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ รวมในครั้งนี้ฮอนด้าเปิดรถรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่พร้อมกันถึง 8 รุ่น พร้อมโปรโมชั่นพิเศษกับข้อเสนอเกินห้ามใจเฉพาะในงานมอเตอร์โชว์นี้เท่านั้น คาดว่าจะสร้างความสนใจจากผู้ร่วมงานได้เป็นอย่างดี"
          นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด กล่าวเสริมว่า "ภายใต้คอนเซ็ปต์แบรนด์ "WHAT STOPS YOU? มุ่งไป อย่าให้อะไรมาหยุด" เราในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยี จึงไม่หยุดสรรค์สร้างนวัตกรรมแห่งอนาคตกับการเปิดตัวครั้งแรกในไทยของ Honda PCX Electric รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อโลกที่ไร้มลพิษ หรือ Zero Emission ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยมาผสานกับรูปทรงปราดเปรียวสุดพรีเมี่ยมของรถอย่างลงตัว อีกทั้งนวัตกรรมแห่งความภาคภูมิใจ Honda PCX Hybrid รถจักรยานยนต์ไฮบริดรายแรกของโลก ที่ยกระดับเทคโนโลยีและประสิทธิภาพการขับขี่ พร้อมหลากหลายฟังก์ชั่นอันชาญฉลาด ซึ่งการส่ง 2 รุ่นข้างต้นสู่ตลาดในทำให้ positioning ของแบรนด์ Honda PCX มีภาพลักษณ์ของผู้นำเทคโนโลยีในกลุ่มรถพรีเมี่ยม เอ.ที.อย่างชัดเจน"
          "โดยปีนี้ ภายในบูธรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ได้จัดแบ่งเป็น 3 โซน คือ 1) โซน Commuter เปิดตัวครั้งแรกกับ All New FORZA ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ "For the Great Prestige" พร้อมให้ประสบการณ์ที่เหนือกว่ากับการขับขี่ล้ำหน้าและดีไซน์ใหม่ที่หรูหราเหนือระดับ ขับขี่คล่องตัวทั้งในเมืองและวันท่องเที่ยว ครบครันทุกฟังก์ชันอันชาญฉลาดเช่นเดียวกับรถยนต์ กระจกบังลมหน้าระบบไฟฟ้าปรับระดับได้ถึง 110 มม. Full LED รอบคัน กระจกมองข้างพับได้พร้อมไฟเลี้ยวไฟหรี่ในตัว พร้อมเทคโนโลยี HSTC ควบคุมล้อหน้า-หลังให้สัมพันธ์กันเพื่อความปลอดภัยยิ่งขึ้นในการขับขี่ เปิดตัวกับราคาแนะนำสุดเร้าใจ 169,000 บาท
          2) โซน BIGBIKE พบกับ 3 รุ่นใหม่ล่าสุด ได้แก่ New Honda CB1000R ที่สุดของรถตระกูล Neo Sports Cafe รถบิ๊กไบค์แนวใหม่ เผยจิตวิญญาณความคราฟต์จากญี่ปุ่น ผสมผสานเทคโนโลยีสปอร์ตที่ล้ำหน้า ด้วยแนวคิด "Japan Crafted คราฟต์ให้สุด เพื่อความเท่...เร้าใจ" เอกลัษณ์ใหม่ของไฟกลมแบบคาเฟ่ ดีไซน์โดดเด่นทุกชิ้นส่วน ทรงพลัง ดุดันแบบสปอร์ต ถือป็นการเติมเต็มและตอบสนองความต้องการในตระกูล Neo Sports Cafe ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ส่วนอีกรุ่นคือ All New Honda Goldwing โฉมใหม่ล่าสุด ถือเป็นที่สุดแห่งรถแกรนด์ทัวร์ริ่ง และโฉมใหม่นี้ถือเป็นการปรับเปลี่ยนที่ยิ่งใหญ่ในรอบ 17 ปี ที่มาด้วยรูปลักษณ์ใหม่ Luxury Touring พร้อมเครื่องยนต์ใหม่ขุมพลัง 1,800cc. 6 สูบแบบแนวนอนใหม่ ขับขี่โฉบเฉี่ยวคล่องตัว ระบบเกียร์ DCT 7 SPEED เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์ฟังก์ชั่นที่หรูหราสะดวกสบาย อัดแน่นด้วยที่สุดแห่งนวัตกรรมแห่งตำนานรถแกรนด์ทัวร์ริ่งอย่างแท้จริง และอีกรุ่นคือ New Honda Africa Twin Adventure Sport ฉลองครบรอบ 30 ปี ด้วยรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยว styling ที่ดุดัน พร้อมฟังก์ชั่นที่ครบครันพร้อมลุยในทุกสถานการณ์
          3) ปิดท้ายด้วยโซน CUB House (คับ เฮ้าส์) ที่ซึ่งส่งมอบคุณค่า Culture . Unique . Bike กับความท้าท้ายในการเปิดตัวธุรกิจใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าปัจจุบันที่คุณค่ารถจักรยานยนต์ไม่ใช่ยานพาหนะ แต่คือความสุขที่ได้จากการครอบครองและสะสม โดยในงานเราได้ยกร้านเสมือนจริง CUB House Co-Creation Lifestyle Space พื้นที่ที่เปิดมุมมองไลฟ์สไตล์ผ่านแก่นแท้ของการใช้ชีวิตที่ให้มาสนุก ด้วยวัฒนธรรมการสร้างสรรค์เรื่องราว ผสานความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ออกแบบได้ ผ่านรถจักรยานยนต์ที่มีคุณค่าระดับตำนาน ควบรวมกับเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแฟชั่น อาหารและเครื่องดื่ม ที่พร้อมส่งมอบประสบการณ์ใหม่ให้ได้ใช้ชีวิตอย่างปรนเปรอและสุขกับการได้สร้างสรรค์เรื่องราวที่สะท้อนวิถีแห่งตัวตนอย่างชัดเจน โดยร้านจริงบนย่านเอกมัย ซอย 3 เปิดให้บริการเป็นที่เรียบร้อย และจะ Grand Opening อย่างเป็นทางการในวันที่ 20 เมษายนนี้"
          "และเพิ่มเติมเต็มความเอ็กซ์คลูซีฟ ฮอนด้ายังได้เปิดตัวรถจักรยานยนต์ระดับตำนาน 2 รุ่น จะจำหน่ายเฉพาะ CUB House เท่านั้น ได้แก่ Honda Monkey 125 ที่มาพร้อมไฟหน้าแบบกลม ถังน้ำมันเหล็กทั้งชิ้นที่ถูกผลิตขึ้นด้วยกรรมวิธีพิเศษ ตัวถังพ่นสี Glossy ผสมเมทาลิก LED Negative Meter เพิ่มลูกเล่น ด้วย LED Graphic Monkey Face ถูกออกแบบมาเพื่อรถ Honda Monkey คันนี้โดยเฉพาะ ด้วยราคา 99,000 บาท และอีกรุ่นคือ Honda C125 รถที่คงไว้ด้วยความ Original และดีไซน์ที่คงไว้ซึ่งความเป็นตำนานจาก Honda Super Cub C100 ที่โด่งดังในยุค 60s' Honda C125 ถูกบรรจงสร้างอย่างพิถีพิถันโดยผู้ออกแบบตัวจริงจากฮอนด้า เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวให้คนที่ได้เป็นเจ้าของได้ภาคภูมิใจที่ได้ครอบครองตำนานที่ยังมีชีวิตกับราคา 89,000 บาท พิเศษสุดในช่วงงานมอเตอร์โชว์ครั้งที่ 39 นี้ เราขอเอาใจสาวกและแฟนๆรถจักรยานยนต์ระดับตำนานของฮอนด้า ด้วยราคาสุดพิเศษ Honda Monkey กับราคา 94,900 บาท และ Honda C125 กับราคา 84,900 บาท และรับฟรี CUB House Premium Box ยิ่งไปกว่านั้นในโซนร้าน CUB House ยังมีโซนสำหรับให้ลูกค้าได้สนุกกับการสร้างสรรค์รถในแบบเฉพาะตัว กับโซน D.I.Y. Start by us, Finish by you ที่รวมของแต่งจากแบรนด์ Custom ชั้นนำ อย่าง Bell, Bikers, G-Craft, Kitaco, Moriwaki, H2C For Cub House ซึ่งทั้ง 5 แบรนด์ก็ได้มาร่วมจัดแสดงและตกแต่งรถโชว์ พร้อมจำหน่ายราคาพิเศษในงานครั้งนี้ด้วย"
          "นอกจากนี้ ฮอนด้ายังได้ เปิดตัวแอพลิเคชั่นไลน์บิสซิเนสคอนเนค (Line Business Connect) เพื่อการเชื่อมต่อและใกล้ชิดกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุคดิจิตอลแบบ 1 to 1 เพื่อให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจสูงสุด ประเดิมเปิดให้บริการผ่านแอพลิเคชั่นไลน์ในธุรกิจ CUB House เป็นที่แรก ผู้สนใจสามารถ Add Friend "@Hondamotorcycleth" โดยจะได้รับสิทธิพิเศษในงาน รวมถีงการบอกเล่าข้อมูลไลฟ์ไตล์ สินค้า และบริการภายของร้าน CUB House ให้ทราบก่อนไปสถานที่จริงที่เอกมัยได้อีกด้วย"

          สนใจเยี่ยมชมบูธรถจักรยานยนต์ฮอนด้าได้ที่บูธ M4 ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 39 ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม ถึงวันที่ 8 เมษายน 2561 ที่ชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี ติดตามรายละเอียดและโปรโมชั่นสุดพิเศษของรถรุ่นต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่ www.aphonda.co.th, www.facebook.com/hondamotorcyclethailand ฮอนด้าบิ๊กไบค์ https://www.facebook.com/HondaBigBikeTH และ CUB House https://www.facebook.com/cubhousebyhonda

activity on April 01, 2018, 02:08:05 PM
Honda Launch New Brand Campaign “WHAT STOPS YOU?”





 Strengthen Its Leadership in Technology by Launching PCX Electric and PCX Hybrid; 8 Models Will Be Premiered at Motor Show 2018

          A.P. Honda Co., Ltd., distributor of Honda motorcycles in Thailand, is going full steam to maintain its leadership for the 29th year in motorcycle industry, with a grand exhibition that includes a display of technology on electric and hybrid scooters for the first time in Thailand. A collection of motorcycles with cutting-edge riding technology for the changing lifestyle in 4.0 era, highlighting new 8 models. The new models are: Honda PCX Electric, Honda PCX Hybrid, All New FORZA, All New Honda Goldwing, New Honda CB1000R, New Honda Africa Twin Adventure Sport, Honda Monkey and Honda C125, all comes with promotions that you can't resist, will be launched at Bangkok International Motor Show 2018 from March 28 to April 8, 2018.
          Mr. Yoichi Mizutani, President of A.P. Honda Co., Ltd., stated "innovations in automotive have been developed to meet the demands of the contemporary users. For Honda, we have a vision for 2030 to deliver the happiness to users and to improve their quality of life, as well as to bring the development in travelling to everyone. Our aim is to improve daily life of the people around the world, resulting in an adjustment and reach out to the new strategy and trend in "WHAT STOPS YOU?". Under the new concept, everyone is encouraged to move forward and eliminate all the obstacles and to make any impossibility possible. Similarly, Honda motorcycle has never stopped challenging ourselves, to innovate and facilitate contemporary lifestyle. Reaching the end of the first quarter, Honda is proud to world-premier the technology of Honda PCX Hybrid, as promised, to the world at the Motor Show 2018. At the same time, 8 new models, which will be launched, come with promotions you can't resist. The promotion is designed especially for the motor show visitors and expects to be well accepted by the visitors."
          Mr. Suchart Arunsaengroj, Vice President of A.P. Honda Co., Ltd., added "We are ready to present a new concept and design under "WHAT STOPS YOU?". As a leader in technology, Honda is offering our technology from tomorrow that has gone up to another level. Honda PCX Electric – the zero-emission motorcycle – will be launched with a combination of technology and sleek design and Honda PCX Hybrid – the world's first hybrid that raise the bar for technology and riding performance – that comes with intelligent function. Both will strengthen the position of the Honda PCX as the premium A.T. motorcycle.
          "This year, Honda Motorcycle Booth will be divided into three zones. First is the Commuter Zone that will welcome visitors with the launch of All New FORZA. With a concept of "For the Great Prestige", the model offers exceptional riding experience and new luxury design, which has been made for a flexible city ride and comfortable day-trip. The model comes with an intelligent function, borrowed from a car, including automatic front shield that can be adjusted up to 110mm, surround full LED, foldable side mirrors with built-in winker lights, and HSTC technology to control the front and rear tires for a better security. Suggested retail price is 169,000 baht.
          "Second, the BIGBIKE zone features 3 new models which are New Honda CB1000R – top of the Neo Sports Cafe class that combines the soul of the Japanese craft with cutting-edge technology under the "Japan Crafted" concept. The model comes with cafe-style round front light and well-blended but bold sport design that has been created for those with great passion with the Neo Sports Cafe. Next is All New Honda Goldwing – top of the grand touring class, which comes with the first grand change in 17 years. The new luxury-touring model comes with 1,800cc engine, 6-horizontal-cylinder, DCT gear system, 7 speed, and luxury functions. The new model is also equipped with latest innovation for grand touring class. The last is New Honda Africa Twin Adventure Sport celebrating its 30th anniversary with its styling but bold look and full functions for all rides.
          "Third, the CUB House, aimed to deliver the unique bike culture, has been launched to cater to the demands of the contemporary users who don't consider their motorcycles as a vehicle, but a happiness of ownership. A replica of CUB House Co-Creation Lifestyle Space will be created to display the core of the true living, culture of story-creation, combined with personal identity, displayed through the motorcycle, fashion, food and drinks. Experience the actual store on Ekamai Soi 3 now. A grand opening will be held on April 20.
          "To make the CUB House more exclusive, two of the legendary models will be only available at the House are Honda Monkey 125 and Honda C125. The first comes with round front light, seamless metal fuel tank, and glossy-paint body, LED negative meter, and LED graphic Monkey Face that has been especially designed for Honda Monkey. Suggested retail price is 99,000 baht. The latter, Honda C125, maintains its original design, borrowed from Honda Super Cub C100 – the famous scooter from the 1960's. Designers from Honda have carefully designed the model, to represent the pride of the owner who wish to own a legend at 89,000 baht. Special prices to be offered at the 39th Motor Show are 94,900 baht for Honda Monkey and 84,900 baht for Honda C125. CUB House premium box will also be given to visitors at CUB House. D.I.Y. Start by Us, Finish by You corner will bring all the accessories from such leading custom brands as Bell, Bikers, G-Craft, Kitaco, Moriwaki, H2C for CUB House. Items from the five brands will be displayed and offered at special prices at the motor show.
          "Moreover, an application, Line Business Connect, has been launched to bring Honda closer to the users on the one-on-one contact and to learn their digital lifestyle, as well as to satisfy them. The Line app will be launched and used via CUB House. Interested users may add "@Hondamotorcycleth" as a friend, to be able to enjoy the privileges and access the updates on lifestyle products and information, which will be available at the physical store at CUB House in Ekamai, before anyone else.

          For interested public, please visit M4 Booth at Bangkok International Motor Show 2018, from March 28 to April 8, 2018 at Challenger Hall, Impact Muang Thong Thani. For more information, visit www.aphonda.co.t, www.facebook.com/hondamotorcyclethailand, https://www.facebook.com/HondaBigBikeTH for Honda big bike, and https://www.facebook.com/cubhousebyhonda for CUB HOUSE.

activity on April 01, 2018, 02:09:31 PM
โซนี่ไทย เสริมแกร่งผู้นำเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ Hi-Resolution Audio ด้วยการส่งสุดยอดผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องเสียงในรถยนต์ 3 รุ่นใหม่ล่าสุด เปิดมิติใหม่แห่งการฟังเพลงคุณภาพสูงอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยแนวคิด “Music in Motion” ในงานมอเตอร์โชว์ 2018









          บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด เดินหน้าขยายฐานและเสริมทัพความแข็งแกร่งตลาดเครื่องเสียงติดรถยนต์ภายใต้แนวคิด "Music in Motion" เพื่อตอกย้ำจุดยืนการเป็นผู้นำเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ Hi-Resolution Audio หรือ Hi-Res Audio ("ไฮ-เรส ออดิโอ") พร้อมเปิดมิติใหม่ให้กับผู้รักในการฟังเสียงเพลงคุณภาพสูงในรถยนต์อย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปิดตัวสุดยอดผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเครื่องเสียงติดรถยนต์ระดับไฮเรสออดิโอ รุ่นใหม่ล่าสุดพร้อมกันถึง 3 รุ่นทั้ง XAV-AX5000 ซึ่งเป็น AV Receiver ที่ให้พลังเสียงหนักแน่นยิ่งกว่าเดิมด้วยเทคโนโลยีสุดพิเศษจากโซนี่ พร้อมกับจอสัมผัสขนาดใหญ่ถึง 6.95 นิ้ว ทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนทั้งแพลตฟอร์มแอนดรอยด์ และแอปเปิ้ล ผ่านฟังก์ชั่น Apple CarPlay และ Android Auto รวมถึง XM-GS6DSP แอมป์พลิฟลายเออร์แบบ 6 แชนแนล และ XS-GS1631C ลำโพงแยกชิ้น 3 ทาง ในงานมอเตอร์โชว์ที่จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 27 มีนาคม ถึง 8 เมษายน ศกนี้ ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1 อิมแพ็คเมืองทองธานี โดยเครื่องเสียง ติดรถยนต์รุ่นใหม่นี้จะมาพร้อมจุดเด่นของเทคโนโลยีภาพและเสียงที่มีคุณสมบัติพิเศษมากมาย เพื่อมอบประสบการณ์ในการฟังเสียงดนตรีจากไฟล์เพลงดิจิตอลคุณภาพสูงอย่างเต็มอรรถรส ด้วยรายละเอียดหมดจดคมชัดในทุกย่านเสียงยิ่งขึ้น
          มร. เท็ตซูทากะ ซูดะ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์ บ. โซนี่ ไทย จ.ก. กล่าวว่า "โซนี่ยังคงมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ในการฟังเพลงในรถยนต์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า ด้วยการคิดค้นและสร้างสรรค์นวัตกรรมล้ำสมัยมาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการของผู้ที่ชื่นชอบการฟังเพลงได้เพลิดเพลินกับเสียงเพลงคุณภาพสูง ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางเป็นเวลานาน และผู้ที่อยู่ระหว่างการเดินทางให้ดียิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตลาดไฮเรสออดิโอและธุรกิจเครื่องเสียงในรถยนต์ วันนี้โซนี่จึงภูมิใจอย่างยิ่งที่มีโอกาสนำเสนอผลิตภัณฑ์เครื่องเสียงติดรถยนต์ไฮเรสออดิโอที่พัฒนาขึ้นใหม่ล่าสุด ที่งานมอเตอร์โชว์ 2018 อาทิ XAV-AX5000 ซึ่งเป็นเครื่องเล่น AV Receiver ที่มาพร้อมกับจอสัมผัสขนาดใหญ่ถึง 6.95 นิ้ว ทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนทั้งแพลตฟอร์มแอนดรอยด์ และแอปเปิ้ล ผ่านฟังก์ชั่น Apple CarPlay และ Android Auto, XM-GS6DSP แอมป์พลิฟลายเออร์แบบ 6 แชนแนล รวมถึง XS-GS1631C ลำโพงแยกชิ้น 3 ทาง และผลิตภัณฑ์ไฮเรสออดิโอเพื่อความบันเทิงที่ครบครันมากมายหลายรุ่น"
          ผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มเครื่องเสียงรถยนต์ที่จัดแสดงภายในงาน Motor Show 2018
          - เครื่องรับสัญญาณ AV Receiver XAV-AX5000
          นวัตกรรมเครื่องเล่นมีเดียรีซีฟเวอร์อัจฉริยะในรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดจากโซนี่ ที่มาพร้อมกับจุดเด่นของหน้าจอแสดงผลระบบสัมผัสขนาดใหญ่ถึง 6.95 นิ้ว ที่มีความคมชัดสมจริงและตอบสนองได้อย่างฉับไว พร้อมรองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนทั้งแพลตฟอร์มแอนดรอยด์ และแอปเปิ้ล ผ่านฟังก์ชั่น Apple CarPlay และ Android Auto ทำให้การใช้งานสมาร์ทโฟนต่าง ๆ ง่ายขึ้นแม้อยู่บนท้องถนน ทุกอย่างจะปรากฎบนจอสัมผัสขนาดใหญ่ ทั้งยังสามารถเชื่อมต่อกับกล้องหลังรถ ทำให้เมื่อเข้าเกียร์ จะสามารถสลับเป็นภาพจากกล้องหลังอัตโนมัติ เพื่อแสดงบนหน้าจอได้อย่างสะดวกและง่ายดายอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น XAV-AX5000 ยังมาพร้อมกับสุดยอดเทคโนโลยีด้านเสียงคุณภาพมากมาย อาทิ ระบบ Dynamic Reality Amp 2 และ EXTRA BASS ที่จะทำให้คุณดื่มด่ำไปกับเสียงดนตรีทุกย่านความถี่ได้อย่างคมชัดและเบสทรงพลัง ทั้งยังสามารถปรับแต่งเสียงให้ดังกระหึ่มได้ตามความชอบส่วนตัวด้วยระบบปรับแต่งอีควอไลเซอร์ 10-band (EQ10) และ Dynamic Stage Organizer (DSO) ขณะที่ตัวบอดี้ผลิตจากอลูมิเนียม และได้รับการออกแบบใหม่เพื่อให้ประหยัดพื้นที่มากกว่ารุ่นเดิมถึง 25% ทั้งยังสามารถอ่านไฟล์เพลง Hi-Res Audio ตระกูล FLAC ผ่าน USB เพื่อให้คุณสามารถฟังเพลงโปรดที่คุณชื่นชอบได้อย่างง่ายดาย โดยจะวางจำหน่ายในเดือนพฤษภาคม 2561
          - 6 Chanel Amplifier XM-GS6DSP
          เป็นเครื่องขยายเสียงแบบ 6 แชนแนล ที่ได้รับการออกแบบอย่างโดดเด่นในดีไซน์ขนาดเล็กเพื่อให้คุณไม่เสียพื้นที่ใช้สอยภายในห้องโดยสารหรือท้ายรถของคุณ แต่สามาถถ่ายทอดพลังเสียงจากเคลื่อนเล่นอย่างสมบูรณ์แบบ โดยมาพร้อมกำลังขับสูงสุด 780 วัตต์ ทำให้สนุกไปกับพลังเสียงเบสดั่งกระหึ่มต่อเนื่องตลอดการเดินทาง และสามารถสตรีมมิ่งเพลงผ่านบลูทูธแบบสเตอริโอคุณภาพสูงโดยไม่ต้องผ่านเครื่องเล่นวิทยุ จึงไม่ต้องเสียเวลาเปลี่ยนเครื่องเล่นเดิมที่ติดตั้งมาพร้อมกับรถยนต์ นอกจากนี้ ยังสามารถปรับแต่งเสียงด้วย DSP ผ่านโทรศัพท์มือถือได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น รวมถึงมี Time Alignment ช่วยในการควบคุมการตั้งค่าลำโพงและเสียงให้เป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น
          - XS-GS1631C           
          นับเป็นลำโพงระดับพรีเมี่ยมจากตระกูล GS ซีรีส์ โดยเป็นลำโพงแบบแยกชิ้น 3 ทาง ที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเพื่อมอบประสบการณ์ฟังเสียงเพลงสุดพิเศษในแบบที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนตลอดการเดินทาง ด้วยไดร์ฟเวอร์เสียงกลางขนาด 8 ซม. ที่พัฒนาขึ้นใหม่ล่าสุด พร้อมทั้งเพิ่มลำโพง Midrange เพื่อแยกรายละเอียดของเสียงให้คมชัดยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกรวยลำโพงไฟเบอร์ MRC และทวีตเตอร์แบบ Soft Dome ที่จะทำให้คุณผู้ฟังได้เพลิดเพลินไปกับรายละเอียดของเสียงที่สดใสและเบสทุ้มลึกยิ่งขึ้น โดยสามารถใช้งานร่วมกับลำโพงรุ่น XM-GS6DSP เพื่อเพิ่มสุนทรียภาพในการฟังเพลงได้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นอีกด้วย
          พร้อมกันนี้ ภายในงานโซนี่ยังได้จับมือกับร้าน Powersound V.9 บางแสน ชลบุรี ร้านผู้แทนจำหน่ายที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติการันตีในผลงานมากมาย ได้จัดแสดงผลิตภัณฑ์ไฮเรสออดิโออื่น ๆ อย่างครบครันทุกรูปแบบการใช้งานตั้งแต่ในบ้าน ไปจนถึงการพกพาไปใช้งานในที่ต่าง ๆ โดยจะแบ่งการจัดแสดงสินค้าออกเป็น 3 โซน ตามประเภทการใช้งานของลูกค้า ดังนี้
          1.โซน Hi-Resolution สำหรับลูกค้ากลุ่ม Audiophile ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพและรายละเอียดเสียง
          2.โซน Extra Bass สำหรับลูกค้าที่ชอบฟังเพลงที่ให้เสียงกระหึ่ม โดยเน้นเสียงเบสที่หนักแน่น           
          3.โซน Connectivity สำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการเชื่อมต่อและใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ ผ่านสมาร์ทโฟน ขณะเดียวกันยังสามารถ Mix and Match ได้ตามความชื่นชอบและรสนิยมของผู้ใช้
          ยิ่งไปกว่านั้น โซนี่ยังได้จัดเตรียมแพ็คเกจพร้อมส่วนลดพิเศษมากมายเฉพาะในงานมอเตอร์โชว์เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างครอบคลุม อาทิ ฟรีค่าติดตั้ง และผ่อนชำระ 0% นาน 10 เดือน รวมทั้งรับของสมนาคุณพิเศษอีกมากมาย และรับสิทธิ์ลุ้นรางวัลพิเศษเมื่อซื้อแพ็คเกจติดตั้งในงาน ผ่านทางเฟซบุ๊คของโซนี่ไทย และ Powersound V.9 ตามเงื่อนไขที่กำหนด พร้อมกิจกรรมมากมายให้ร่วมสนุกรับของที่ระลึกกันทุกวันที่บูธอีกด้วย
          สำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องเสียงรถยนต์ทุกรุ่น พร้อมวางจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ข้อมูลโซนี่ โทร 02-715-6100 หรือเยี่ยมชม www.sony.co.th

activity on April 01, 2018, 02:10:32 PM
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ส่งรถยนต์หรูกลุ่มดรีมคาร์ The new CLS The E-Class Coupe และ The GLC Coupe พร้อมด้วย The S-Class รุ่นประกอบในประเทศ บุกงานมอเตอร์ โชว์ ครั้งที่ 39







          บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ตอกย้ำความเป็นอันดับหนึ่งวงการรถยนต์หรูเมืองไทย ส่งรถยนต์ 4 รุ่นล่าสุด ทั้งในกลุ่มดรีมคาร์ อย่าง The new CLS 300 d AMG Premium สุดยอดยนตรกรรมสปอร์ตรุ่นใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและดีไซน์อันงดงาม The E 200 Coupe AMG Dynamic สปอร์ตคูเป้ 2 ประตู 4 ที่นั่ง ที่มอบ ความกว้างขวางและสะดวกสบายสูงสุดแก่ผู้โดยสาร GLC 250 4MATIC Coupe ยนตรกรรมที่ผสานความอเนกประสงค์ของรถยนต์สไตล์เอสยูวีและความสปอร์ต โฉบเฉี่ยว ของรถยนต์คูเป้ เข้าไว้ด้วยกัน รวมถึงยนตรกรรมหรูอัจฉริยะ The S 350 d Exclusive และ The S 350 d AMG Premium รุ่นประกอบในประเทศ ที่สุดแห่งความสง่า เติมเต็มประสบการณ์แห่งการขับขี่สำหรับผู้นำให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น พร้อมรถยนต์คันพิเศษ "GLA Millennials' Voices Edition" ผลงานการเพ้นท์ภาพของศิลปินกราฟิตี้ชื่อดัง "อเล็กซ์ เฟส" รวมทั้งยนตรกรรมหรูรวมกว่า 28 คัน ครบครันในทุกเซ็กเมนต์ มาจัดแสดงภายในงาน "บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ โชว์ ครั้งที่ 39" ระหว่างวันที่ 28 มีนาคม ถึง 8 เมษายน 2561 นี้ ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี
          มร.ไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "บริษัทฯ ดำเนินงานภายใต้ความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอ "สิ่งที่ดีที่สุด" ให้กับลูกค้าทั้งในวันนี้และวันข้างหน้า พร้อมให้ความสำคัญกับการนำเสนอยนตรกรรมที่หลากหลาย พร้อมตอบสนองทุกความต้องการของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี ซึ่งสำหรับภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ โชว์ ครั้งที่ 39 ทางบริษัทฯ ได้ทำการออกแบบบูธที่มีการแบ่งโซนของรถยนต์ทั้งในกลุ่มและแบรนด์ต่างๆ เป็นจำนวน 5 โซนอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น แบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ในกลุ่ม Compact Car, Contemporary Luxury Sedans & Dream Car, SUV และแบรนด์เทคโนโลยีกับรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด EQ – Electric Intelligence by Mercedes-Benz รวมถึงแบรนด์รถยนต์สปอร์ตสมรรถนะสูง อย่าง Mercedes-AMG มาให้กลุ่มลูกค้าได้เห็นถึงจุดเด่นและ ความแตกต่างของรถยนต์ในแต่ละกลุ่มได้ดียิ่งขึ้น"
          มร.ไมเคิล กล่าวเพิ่มเติมว่า "ภายในงานจัดแสดงรถยนต์ครั้งนี้ ทางบริษัทฯ ได้นำเสนอรถยนต์ในกลุ่ม Dream Car สำหรับกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบความหรูหราสไตล์สปอร์ต ซึ่งจากการตอบรับ อย่างดีเยี่ยมในรถยนต์กลุ่มนี้ในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทฯ มียอดขายเฉพาะกลุ่ม Dream Car เพิ่มขึ้นกว่า 13% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ดังนั้น เพื่อสานต่อในความสำเร็จนี้ เราจึงได้นำเสนอรถยนต์รุ่นที่ 3 ในตระกูล CLS อย่าง The new CLS 300 d AMG Premium สุดยอดยนตรกรรมสปอร์ตรุ่นใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและดีไซน์อันงดงามที่จะช่วยเสริมรากฐานและเอกลักษณ์ของรถยนต์ตระกูลนี้ให้แข็งแกร่งขึ้นไปอีกขั้น พร้อมด้วยรถยนต์ The E-Class Coupe รุ่น E 200 Coupe AMG Dynamic สปอร์ตคูเป้ 2 ประตู 4 ที่นั่ง ที่มอบความกว้างขวางและสะดวกสบายสูงสุดแก่ผู้โดยสาร ที่มาพร้อมกับความสมรรถนะเร้าใจของเครื่องยนต์เบนซิน 1,991 ซีซี และ GLC 250 4MATIC Coupe ยนตรกรรมที่ผสานความอเนกประสงค์ของรถยนต์สไตล์เอสยูวีและความสปอร์ต โฉบเฉี่ยว ของรถยนต์คูเป้เข้าไว้ด้วยกัน และอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญอย่าง The S-Class รุ่นประกอบในประเทศ ที่สุดแห่งความสง่า เติมเต็มประสบการณ์แห่งการขับขี่สำหรับผู้นำให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น โดยในครั้งนี้มานำเสนอให้ลูกค้าได้เลือกสรรกันถึง 2 รุ่นย่อย คือ The S 350 d Exclusive และ The S 350 d AMG Premium"
          มร.ฟรังค์ ชไตน์อัคเคอร์ รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "นอกจากนี้ เรายังได้สานต่อโปรเจ็คท์ #GrowupLikeThis ที่เกิดจากการนำอินไซท์ของกลุ่มคนมิลเลนเนียลที่มีความเชื่อมั่นในศักยภาพตนเองสูงโดยเฉพาะใน "ความเป็นผู้ใหญ่" ที่ชอบแสดงความคิดและทัศนคติในแบบของตัวเอง (Self-express) แต่ในบางครั้งสิ่งเหล่านี้ มักถูกคนในสังคมมองข้ามไป ผ่านการนำรถยนต์ "GLA Millennials' Voices Edition" รถยนต์ Mercedes-Benz GLA 250 AMG Dynamic คันพิเศษที่ได้รับการสร้างสรรค์ผลงานเพ้นท์ภาพจากศิลปินกราฟิตี้ชื่อดัง "อเล็กซ์ เฟส" หรือ "พัชรพล แตงรื่น" เพื่อเป็นเหมือนกระบอกเสียงให้กับคนยุคมิลเลนเนียลในการแสดงออกทางความคิดและมุมมองการใช้ชีวิตของพวกเขา โดยถ่ายทอดแรงบันดาลใจผ่านคาแรคเตอร์ "เด็กน้อยสามตาหน้าบึ้ง" ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของ Alex Face มาจัดแสดงให้บุคคลทั่วไปได้ชมภายในงานอีกด้วย"
          "นอกเหนือจากขบวนรถยนต์มากมายที่นำมาจัดแสดงในงาน "บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์" ครั้งที่ 39 เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังได้นำรถยนต์รุ่นอื่นๆ ในกลุ่ม Compact Car, Contemporary Luxury Sedans, Dream Car, SUV และ Mercedes-AMG อีกกว่า 20 รุ่น มาจัดแสดง เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกชมกันอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ทางแบรนด์ยังได้เตรียมข้อเสนอพิเศษสุดเพื่อเป็นการขอบคุณแก่ลูกค้าที่สนใจรถยนต์ The C-Class ทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็น C 350 e Avantgarde, C 350 e Exclusive และ C 350 e AMG Dynamic พร้อมรับรถภายในเดือนมีนาคม 2561 นี้ สามารถผ่อนชำระรถยนต์ด้วยอัตราดอกเบี้ย 0% เป็นระยะเวลา 4 ปี พร้อมรับฟรีประกันชั้น 1 MB Protection ระยะเวลา 1 ปีอีกด้วย" มร.ฟรังค์ กล่าวปิดท้าย
          ข้อมูลผลิตภัณฑ์ The new CLS 300 d AMG Premium
          สำหรับ ดีไซน์ภายนอก ของ The new CLS 300 d AMG Premium มีจุดเด่นอยู่ที่กระจังหน้าแบบ diamond-pattern grille ที่มีเส้นตัดแบ่งเส้นเดียวอันเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์แบบคูเป้ของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ พร้อมเส้นสายที่ดูกว้างและมีลักษณะทอดตัวลงไปที่พื้น คล้ายกับลักษณะของ Mercedes-AMG GT นอกจากนี้ รถยนต์รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับหลังคาซันรูฟเลื่อนเปิด – ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า, กันชนหน้า – หลัง และสเกิร์ตดีไซน์สปอร์ตจาก AMG, สัญลักษณ์ Mercedes-Benz บนคาลิปเปอร์เบรก, ล้ออัลลอยสปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 19" อีกทั้งยังมีชุดไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED และไฟท้ายแบบ LED พร้อมเทคโนโลยีไฟเบอร์ออฟติก
ดีไซน์ภายในห้องโดยสารของ The new CLS 300 d AMG Premium นั้นหรูหราเรียบง่าย แต่เพิ่มความพิเศษด้วยการติดตั้งไฟประดับที่ช่องลมของเครื่องปรับอากาศ เพื่อเสริมรูปลักษณ์ของช่องลมที่ดูคล้ายเครื่องยนต์ของเครื่องบินเจ็ทให้ดูโดดเด่นและสวยงามมากยิ่งขึ้น พร้อมเสริมลูกเล่นด้วยการเปลี่ยนสีเมื่อมีการปรับอุณหภูมิ รวมถึงการออกแบบแผงหน้าปัดสำหรับผู้ขับขี่แบบดิจิทัล ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกรูปแบบการแสดงผลของแผงหน้าปัดได้ 3 แบบ เพื่อให้เหมาะกับความรู้สึกขณะขับขี่ หรือให้เข้ากับการตกแต่งภายในห้องโดยสาร
          นอกจากนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้มีการออกแบบเบาะที่นั่งสำหรับรถยนต์ตระกูลซีแอลเอสรุ่นใหม่โดยเฉพาะ พร้อมปรับการจัดวางเบาะที่นั่งของ The new CLS เป็นแบบ 5 ที่นั่งเป็นครั้งแรก โดยวัสดุหุ้มเบาะและฝีเข็มสำหรับทั้งเบาะที่นั่งคู่หน้าและเบาะที่นั่งตอนหลังที่อยู่ในตำแหน่งตรงกับเบาะที่นั่งตอนหน้าถูกจัดวางให้เหมือนกันทุกประการ เพื่อสร้างความรู้สึกให้คล้ายกับรถสปอร์ต 1 ที่นั่ง เบาะที่นั่งตอนหลังยังสามารถพับลงแบบ 40/20/40 ได้เพื่อขยายความจุของกระโปรงหลังที่มีความจุสูงถึง 520 ลิตร, เบาะที่นั่งคู่หน้าสามารถปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมหน่วยบันทึกความจำ, พวงมาลัยพาวเวอร์แบบมัลติฟังก์ชั่นแบบสปอร์ต 3 ก้านท้ายตัดที่ปรับน้ำหนักตามความเร็วรถด้วยระบบไฟฟ้า หุ้มหนัง nappa พร้อมปุ่มควบคุมแบบ Touch Control, ระบบ AUDIO 20 GPS และหน้าจอแสดงผลข้อมูลแบบ widescreen cockpit ขนาด 12.3 นิ้วต่อกัน 2 จอ, ระบบควบคุมและสั่งงานด้วย touchpad, กาบบันไดเรืองแสงพร้อมสัญลักษณ์ Mercedes-Benz, ชุดคันเร่งและแป้นเบรกแบบสปอร์ต อีกทั้งยังสามารถเลือกสีของไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสารได้ถึง 64 สี (Premium ambient lighting)
          ด้านความปลอดภัยและเทคโนโลยี โดดเด่นด้วยระบบ DYNAMIC SELECT ที่มีโหมดการขับขี่อันหลากหลาย ซึ่งทำให้ผู้เป็นเจ้าของสามารถสัมผัสถึงการขับขี่แบบเร้าใจหรือการขับขี่แบบนุ่มสบายตลอดการเดินทางได้ในคันเดียว, ระบบกุญแจ KEYLESS-GO พร้อม HAND-FREE ACCESS, ระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า (Head-up display), ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMATIC แบบ 2-Zone, ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Adaptive Highbeam Assist), ระบบปรับโคมไฟหน้ารถตามการเลี้ยวของพวงมาลัย ALS (Active Light System), ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Parking Pilot including Active Parking Assist), ระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า (Active Distance Assist DISTRONIC), ระบบ นำทาง (navigation system), ระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester(R) Surround Sound System, ฟังก์ชันเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ Apple CarPlay(TM) & Android Auto และระบบ Bluetooth สำหรับเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่
          The new CLS 300 d AMG Premium มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 4 สูบ ระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9G-TRONIC และระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Steering - wheel Gearshift Paddles) ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างรวดเร็ว ควบคุมแรงเหวี่ยงจากการทำงานของเครื่องยนต์ให้ต่ำลง ช่วยให้สมรรถนะการขับขี่นุ่มนวลและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
           The new CLS 300 d AMG Premium ราคา 4,980,000 บาท
          ข้อมูลผลิตภัณฑ์ The E 200 Coupe AMG Dynamic
          สำหรับ ดีไซน์ภายนอก ของ The E 200 Coupe AMG Dynamic สปอร์ตคูเป้หรูล้ำสมัย ภายใต้คอนเซ็ปต์ Sensual Purity ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์พัฒนาและออกแบบ เพื่อให้ได้ยานยนต์ที่มีรูปทรงสปอร์ต โฉบเฉี่ยวดุดันมากขึ้น สะท้อนเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED ที่รับกับกระจังหน้าแบบ diamond grille ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ รถยนต์รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับหลังคาซันรูฟเลื่อนเปิด – ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า, บานหน้าต่างแบบไร้ขอบที่สามารถเปิดขึ้น-ลงได้ ทั้งบานหน้าและบานหลัง, กันชนหน้า – หลัง และสเกิร์ตดีไซน์สปอร์ตจาก AMG, สัญลักษณ์ Mercedes-Benz บนคาลิปเปอร์เบรก, ล้ออัลลอยสปอร์ตจาก AMG สี high-gloss black พร้อม high-sheen finish แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 19"
          ดีไซน์ภายใน เป็นการผสมผสานระหว่างความโฉบเฉี่ยวของรถสปอร์ต และความเรียบหรูในแบบของเมอร์เซเดส-เบนซ์ The E 200 Coupe AMG Dynamic โดดเด่นด้วยพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสปอร์ตท้ายตัด พร้อมปุ่มควบคุมแบบสัมผัส คอนโซลด้านหน้าและด้านบนของแผงข้างประตูตกแต่งด้วยอะลูมิเนียมลาย crystal grain และคอนโซลกลางตกแต่งด้วยลายไม้ black open-pore black ash จอแสดงผลความละเอียดสูง แบบ widescreen cockpit ที่กว้างพิเศษถึง 31.2 ซม. (12.3 นิ้ว) รับกับดีไซน์คมเข้มของช่องระบบปรับอากาศใหม่ ที่ได้รับแรงบันดาลใจ มาจากรูปทรงใบพัดของเครื่องยนต์อากาศยาน พร้อมพื้นที่ห้องโดยสารที่กว้างขวางมากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มสุนทรียภาพของการเดินทางด้วยระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester(R) และระบบไฟในห้องโดยสารที่ปรับสีได้ถึง 64 สี
          ด้านความปลอดภัยและเทคโนโลยี สำหรับรถยนต์รุ่นนี้ ประกอบด้วยระบบรักษาความปลอดภัยและเทคโนโลยีมากมายที่ช่วยให้การขับขี่สะดวกสบายขึ้น อาทิ ระบบ DYNAMIC SELECT ที่มีโหมดการขับขี่ให้เลือกถึง 5 แบบ คือ ECO, Comfort, Sport, Sport+ และ Individual, ระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ (Active Brake Assist) ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Parking Pilot including Active Parking Assist) ระบบกุญแจแบบ KEYLESS-GO พร้อมฟังก์ชันเปิด-ปิดฝากระโปรงโดยไม่ต้องใช้มือ (HAND-FREE ACCESS) ระบบป้อนเข็มขัดนิรภัยอัตโนมัติ สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า (automatic belt feeders) ฟังก์ชันเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการ iOS (Apple Car Play(TM)) และ Android Auto
          The E 200 Coupe AMG Dynamic มาพร้อมกับ ระบบเกียร์อัตโนมัติชุดใหม่ 9G-TRONIC ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างรวดเร็ว สมรรถนะการขับขี่ที่ดีขึ้น และช่วยให้อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงลดลง
           The E 200 Coupe AMG Dynamic ราคา 4,390,000 บาท
          ข้อมูลผลิตภัณฑ์ The S-Class รุ่นประกอบในประเทศ
          สำหรับ The S-Class รุ่นประกอบในประเทศ มีมาให้ลูกค้าได้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ The S 350 d Exclusive และ The S 350 d AMG Premium โดยดีไซน์ภายนอก ของทั้ง 2 รุ่น หรูหราทันสมัยด้วยกระจังหน้าแบบ 3 ก้าน งามสง่าด้วยไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี ULTRA RANGE ที่ส่องสว่างได้ไกลถึง 650 เมตรโดยอัตโนมัติหากไม่พบรถยนต์ที่ วิ่งสวนทางมา รวมถึงไฟ daytime สำหรับขับขี่กลางวันแบบ LED 3 เส้น รับกับกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ และไฟท้ายแบบ LED พร้อมเทคโนโลยีไฟเบอร์ออฟติก โดย The S 350 d Exclusive จะมาพร้อมกับล้ออัลลอยแบบ multi-spoke ขนาด 19 นิ้ว ในขณะที่ The S 350 d AMG Premium จะมาพร้อมกับกันชนหน้า-หลังและสเกิร์ตข้าง ดีไซน์สปอร์ตจาก AMG และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 10-spoke ขนาด 20 นิ้ว
          ดีไซน์ภายใน รวมถึงบริเวณห้องโดยสารของ The S-Class สร้างนิยามอีกขั้นของ ความสะดวกสบาย ด้วยระบบ ENERGIZING Comfort Control ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัวเป็นครั้งแรกของโลก โดยเทคโนโลยีนี้จะควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน เช่น การปรับโทนสีของไฟภายในห้องโดยสาร Premium Ambient Light ระบบปรับอากาศ ระบบเครื่องเสียง รวมถึงโปรแกรมนวดของเบาะที่นั่งด้านหลัง 6 แบบ เพื่อช่วยให้คุณผ่อนคลายตลอดการเดินทาง พร้อมการตกแต่งภายในด้วยวัสดุคุณภาพเยี่ยม รวมถึงที่นั่งตอนหลังที่มาพร้อมกับ Chauffeur Seat Package ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้แก่ผู้บริหารซึ่งเป็นผู้โดยสารด้านหลังได้มากยิ่งขึ้น จากการปรับเลื่อนเบาะที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้าไปด้านหน้าได้อีก 4 ซม. และเลื่อนขึ้นด้านบนได้อีก 3.7 ซม. จากตำแหน่งปกติ ทำให้มีพื้นที่วางขาสำหรับผู้โดยสารตอนหลังเพิ่มขึ้น โดย The S 350 d Exclusive จะมาพร้อมกับพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบ 3 ก้าน หุ้มหนัง nappa พร้อมปุ่มควบคุมแบบ touch control ในขณะที่ The S 350 d AMG Premium จะมาพร้อมกับพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสปอร์ต 3 ก้านท้ายตัด หุ้มหนัง nappa พร้อมปุ่มควบคุมแบบ touch control ผ้าหลังคาและแผงบังแดดด้านหน้า หุ้มด้วย DINAMICA microfibre
          สำหรับเทคโนโลยีและระบบมัลติมีเดีย มาพร้อมกับระบบปรับรูปแบบการขับขี่ DYNAMIC SELECT ระบบแผนที่นำทาง ฟังก์ชั่นเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ Apple CarPlay(TM) & Android Auto ระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย สำหรับที่นั่งด้านหน้า ระบบเสียง รอบทิศทาง Burmester(R) surround sound system ระบบความบันเทิงสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง พร้อมจอแสดงผล 2 ตำแหน่ง โดย The S 350 d AMG Premium จะมีระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า (Head-up display) เพิ่มเติม
           The E 200 Coupe AMG Dynamic ราคา 4,390,000 บาท
          ข้อมูลผลิตภัณฑ์ The S-Class รุ่นประกอบในประเทศ         
          สำหรับ The S-Class รุ่นประกอบในประเทศ มีมาให้ลูกค้าได้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ The S 350 d Exclusive และ The S 350 d AMG Premium โดยดีไซน์ภายนอก ของทั้ง 2 รุ่น หรูหราทันสมัยด้วยกระจังหน้าแบบ 3 ก้าน งามสง่าด้วยไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี ULTRA RANGE ที่ส่องสว่างได้ไกลถึง 650 เมตรโดยอัตโนมัติหากไม่พบรถยนต์ที่ วิ่งสวนทางมา รวมถึงไฟ daytime สำหรับขับขี่กลางวันแบบ LED 3 เส้น รับกับกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ และไฟท้ายแบบ LED พร้อมเทคโนโลยีไฟเบอร์ออฟติก โดย The S 350 d Exclusive จะมาพร้อมกับล้ออัลลอยแบบ multi-spoke ขนาด 19 นิ้ว ในขณะที่ The S 350 d AMG Premium จะมาพร้อมกับกันชนหน้า-หลังและสเกิร์ตข้าง ดีไซน์สปอร์ตจาก AMG และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 10-spoke ขนาด 20 นิ้ว
          ดีไซน์ภายใน รวมถึงบริเวณห้องโดยสารของ The S-Class สร้างนิยามอีกขั้นของ ความสะดวกสบาย ด้วยระบบ ENERGIZING Comfort Control ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัวเป็นครั้งแรกของโลก โดยเทคโนโลยีนี้จะควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน เช่น การปรับโทนสีของไฟภายในห้องโดยสาร Premium Ambient Light ระบบปรับอากาศ ระบบเครื่องเสียง รวมถึงโปรแกรมนวดของเบาะที่นั่งด้านหลัง 6 แบบ เพื่อช่วยให้คุณผ่อนคลายตลอดการเดินทาง พร้อมการตกแต่งภายในด้วยวัสดุคุณภาพเยี่ยม รวมถึงที่นั่งตอนหลังที่มาพร้อมกับ Chauffeur Seat Package ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้แก่ผู้บริหารซึ่งเป็นผู้โดยสารด้านหลังได้มากยิ่งขึ้น จากการปรับเลื่อนเบาะที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้าไปด้านหน้าได้อีก 4 ซม. และเลื่อนขึ้นด้านบนได้อีก 3.7 ซม. จากตำแหน่งปกติ ทำให้มีพื้นที่วางขาสำหรับผู้โดยสารตอนหลังเพิ่มขึ้น โดย The S 350 d Exclusive จะมาพร้อมกับพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบ 3 ก้าน หุ้มหนัง nappa พร้อมปุ่มควบคุมแบบ touch control ในขณะที่ The S 350 d AMG Premium จะมาพร้อมกับพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสปอร์ต 3 ก้านท้ายตัด หุ้มหนัง nappa พร้อมปุ่มควบคุมแบบ touch control ผ้าหลังคาและแผงบังแดดด้านหน้า หุ้มด้วย DINAMICA microfibre
          สำหรับเทคโนโลยีและระบบมัลติมีเดีย มาพร้อมกับระบบปรับรูปแบบการขับขี่ DYNAMIC SELECT ระบบแผนที่นำทาง ฟังก์ชั่นเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ Apple CarPlay(TM) & Android Auto ระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย สำหรับที่นั่งด้านหน้า ระบบเสียง รอบทิศทาง Burmester(R) surround sound system ระบบความบันเทิงสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง พร้อมจอแสดงผล 2 ตำแหน่ง โดย The S 350 d AMG Premium จะมีระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า (Head-up display) เพิ่มเติม

activity on April 01, 2018, 02:11:47 PM
Mercedes-Benz presenting Its Best in the 39th BIMS: Actualizing Dream Car Legacy with the New CLS, the E-Class Coupe, and the GLC Coupe; Expanding the S-Class with LOCAL PRODUCTION Version







Mercedes-Benz (Thailand) Limited reiterates its premium car supremacy with the launch of its four latest models. The category of Dream Car is perfected by the new CLS 300 d AMG Premium positioned as a meticulous incorporation of groundbreaking innovations and a flawless design language, the E 200 Coupe AMG Dynamic with a 4-seater sport coupe platform highlighting agile characteristics and spaciousness, as well as the GLC 250 4MATIC Coupe which prioritizes both the utility of an SUV and sporty touches of a coupe. At the same time, Mercedes-Benz's local production hits a new level with the inclusion of the S 350 d Exclusive and the S 350 d AMG Premium which are cleverly positioned as two cutting-edge variants of the S-Class crafted to fulfill the driving desire of persons who always stay ahead of others. Mercedes-Benz's pavilion is additionally vivified with the presence of "The GLA Millennials' Voices Edition", a compact SUV exclusively painted by respected graffiti artist "Alex Face". 28 models across all product segments await customers and visitors at "The 39th Bangkok International Motor Show"— at IMPACT Challenger, Muang Thong Thani, from 28 March to 8 April 2018.
          Mr. Michael Grewe, President and CEO of Mercedes-Benz (Thailand) Limited, began: "Under 'THE BEST' philosophy, we always strive to deliver our finest to customers today and tomorrow to satisfy all needs with our comprehensive product portfolio. For the convenience of customers and for a clear product differentiation, our exhibition pavilion for the 39th Bangkok International Motor Show is divided into five dedicated zones based on products and their positioning under Mercedes-Benz brand- namely Compact Car, Contemporary Luxury Sedans & Dream Car, SUV, EQ – Electric Intelligence by Mercedes-Benz for plug-in hybrid vehicles, and Mercedes-AMG for high-performance sport vehicles."
          "At this celebrated annual car show, Mercedes-Benz is delighted to showcase a combination of sportiness and elegance with new models in the Dream Car category. With a tremendously positive market response, our year-on-year sales in this particular product category increased by 13 percent last year. To maintain the momentum, we proudly present the new CLS 300 d AMG Premium as a third member of the CLS family. It is packed with state-of-the-art design and pathfinding innovations which flawlessly sustain the remarkable characteristics of vehicles in the CLS. Moreover, the E-Class Coupe family is simultaneously expanded with the release of the E 200 Coupe AMG Dynamic, our 2-door, 4-seater sport coupe with an impressive 1,911 cc petrol engine and a comfortable cabin. We also take this opportunity to unveil the GLC 250 4MATIC Coupe which is widely recognized as an archetypal utilitarian SUV and a mood-arousing coupe combined into one. Aside from these models, Mercedes-Benz is also delighted to reveal the local production version of the S-Class namely the S 350 d Exclusive and the S 350 d AMG Premium. Customers who always lead the game can feel both admirable driving styles and agility from any of the two LOCAL PRODUCTION variants," explained Mr. Grewe.
          Mr. Frank Steinacher, Vice President of Sales and Marketing, Mercedes-Benz (Thailand) Limited, continued: "The '#GrowupLikeThis' campaign is also being held at the 39th Bangkok International Motor Show. The campaign is grounded on insights of millennial generation consumers who trust in their potential, believe in their 'adulthood', and love to express themselves. These views are depicted on a uniquely-painted Mercedes-Benz GLA 250 AMG Dynamic called 'The GLA Millennials' Voices Edition' by an eye-catching graffiti of 'Patcharaphol Tangreun' or 'Alex Face'. The center of this exclusively painted premium compact SUV, to be displayed at our exhibition stand, is the signature character of Alex Face called 'a grumpy, three-eyed kid' which acts as a simile of a mouthpiece echoing voices of millennials who always try to express their views and lifestyles."
          "In addition to new models, the pavilion of Mercedes-Benz at the 39th Bangkok International Motor Show also houses more than 20 vehicles in all key product categories of Mercedes-Benz, namely Compact Car, Contemporary Luxury Sedans, Dream Car, SUV and Mercedes-AMG for consideration of customers and visitors. To thank our customers for their trust and support, Mercedes-Benz will offer a four-year payment plan with no interest and a one-year complimentary MB Protection premium insurance package to every customer who chooses selected models in the C-Class lineup, including the C 350 e Avantgarde, the C 350 e Exclusive, and the C 350 e AMG Dynamic. This offer is for vehicles delivered by the end of March 2018," concluded Mr. Steinacher.
          The new CLS 300 d AMG Premium
          The new CLS 300 d AMG Premium catches attention with its photogenic exterior. Striking front-end features include the diamond-pattern grille typical of Mercedes-Benz coupes, with a single louvre. The silhouette of the radiator grille widens towards the base, resembling the contours of the grille on the Mercedes-AMG GT. Other highlights include an electronically-operated panoramic sunroof, AMG-designed front and rear bumpers as well as side skirts, calipers imprinted with Mercedes-Benz Star, five twin-spoke, 19-inch sport alloy wheels made by AMG, MULTIBEAM LED headlamps, and LED with fibre optic tail lamps.
          The luxurious interior of this third generation of CLS impresses with its clear basic lines, and echoes the sensual, flowing contours of the exterior. As a new highlight of the ambient lighting, the illuminated air vents are reminiscent of jet aircraft turbines. When the temperature setting of the air conditioning system is changed, it briefly changes color to show the temperature. In the fully digital cockpit, the driver is able to configure the information content according to need and the driving situation. Three different styles can be selected depending on preference, mood or to suit the interior appointments.
          The seats were designed exclusively for this model series, introducing a five-seat arrangement to the CLS for the first time. The outer seats in the rear have the same appearance as the front seats, creating a sporty single-seat impression. Front seats can be electronically adjusted and occupants can save preferences with a memory function. The backrests can be folded down when required in a 40/20/40 ratio, expanding the generous 520 litres luggage compartment. The driver will also be impressed with a multi-function, nappa-covered, flattened bottom sport steering wheel with electronically-controlled weight adjustor according to the vehicle's current speed and a touch control panel. The AUDIO 20 GPS is a standard infotainment, widescreen cockpit with two 12.3-inch displays. Other key appointments include a touchpad controller, illuminated doorsills with Mercedes-Benz Star, sporty pedals, and the Premium Ambient Lighting system which offers 64 preset cabin ambient colors to suit every occupant's desire.
          The new CLS 300 d AMG Premium features a host of Safety systems and Innovations. The intelligent DYNAMIC SELECT impresses the driver with many selectable driving presets to fulfill various driving conditions—from energetic to pure comfort. Aside from innovative driving selector, Mercedes-Benz refines the latest generation CLS with KEYLESS-GO vehicle entry system plus HAND-FREE ACCESS functionality, a 2-Zone THERMATIC automatic climate control, Adaptive Highbeam Assist, Active Light System (ALS) so headlamps and their beams can adapt to the vehicle's turning angle, Parking Pilot including Active Parking Assist, Active Distance Assist DISTRONIC for a safe tailgating distance, and a preinstalled navigation system. Burmester(R) Surround Sound System is standard along with an in-cabin connectivity system with compatibility for Apple CarPlay(TM) and Android Auto, as well as a Bluetooth receiver for smart device pairing.
          The new CLS 300 d AMG Premium uses a 4-cylinder engine mated with the 9G-TRONIC 9-speed automatic transmission and a steering wheel gearshift paddle for convenience in gear shifting. The engine is engineered to maximize efficiency as well as driving comfort while centrifugal force is tactfully minimized.

The new CLS 300 d AMG Premium is priced at 4,980,000 Baht

The E 200 Coupe AMG Dynamic
The exterior of the E 200 Coupe AMG Dynamic, positioned as a technologically-advanced sport coupe, is influenced by the concept of Sensual Purity emphasizing sporty and tough vehicular design. Its shines with a set of MULTIBEAM LED headlamps matching with a low-positioned diamond grille. Other appointments include an electronically-operated panoramic sunroof, frameless and independently-operated side windows, AMG bumpers on the front and rear as well as AMG skirts, a Mercedes star on brake calipers, and 19-inch five twin-spoke alloy wheels painted in high-gloss black and coated with high-sheen finish made by AMG.

The interior of the E-Class Coupe embodies the synthesis of sporty emotion and luxurious intelligence found in all previous sport coupe models from Mercedes-Benz. The E 200 Coupe AMG Dynamic impresses the driver with a multi-function flattened-bottom sport steering wheel incorporated with a touch control panel. Front console and top of door panels are decorated with crystal grain aluminum finish while the central console is decorated with open-pore black ash wooden surface. A 12.3 inches high-resolution widescreen cockpit is a standard central display designed to match with new air vents inspired by air turbines used in modern-day airplanes. A wide cabin is further uplifted with Burmester(R) sound system and a 64-color ambient light system.
On safety and technologies, the E-Class Coupe comes with a host of innovative technologies and safety equipment for riding pleasure. The DYNAMIC SELECT, for example, introduces the driver to five fine-tuned vehicle settings namely ECO, Comfort, Sport, Sport+, and Individual. Other notable safety and assistance systems are Active Brake Assist, Parking Pilot including Active Parking Assist, KEYLESS-GO vehicle entry system, HAND-FREE ACCESS for loading compartment, and automatic belt feeders for driver and front occupant. The E 200 Coupe AMG Dynamic offers asmart device connectivity compatible with both Apple CarPlay(TM) and Android Auto.
The E 200 Coupe AMG Dynamic uses the new 9G-TRONIC transmission system for agility, fast gear changes, low engine revs, and efficiency.
 
The E 200 Coupe AMG Dynamic is priced at 4,390,000 Baht

The LOCAL PRODUCTION S-Class
Mercedes-Benz is pleased to present two locally-made variants of the S-Class, namely the S 350 d Exclusive and the S 350 d AMG Premium. In terms of exterior, both are magnificently furnished with an all-new three-spoke radiator grille and matching MULTIBEAM LED headlamps with matching three strips of LED daytime running lights. Equipped with the ULTRA RANGE highbeam technology, the headlamps can also automatically go as far as 650 metres if oncoming vehicles are not detected. The fibre optic tail lamps are standard for both models. On alloy wheels, the S 350 d Exclusive uses 19-inch multi-spoke wheels while the S 350 d AMG Premium uses AMG 20-inch 10-spoke alloy wheels as well as AMG-made sport front bumper, rear bumper, and side skirts.

Interior, particularly the cabin, of the S-Class sets new standards when it comes to comfort and well-being. Making its world debut is the ENERGIZING comfort control. It integrates different comfort functions—such as the Premium Ambient Light cabin hue control, the sound system, and all six selectable massage packages for rear occupants—into one, easy to operate system to ensure a pleasing journey. Rear occupants will be unprecedentedly relaxed with the inclusion of the Chauffeur Seat Package as standard. With the package, total rear space can be swiftly widened since both front seats can be pushed forward by up to 4 cm. and 3.7 cm. in terms of height., resulting in wider legroom for passengers at the back. The S 350 d Exclusive offers a three-spoke multi-function steering wheel with nappa leather cover and touch control panel while the S 350 d AMG Premium takes maneuverability to a new level with a three-spoke, flattened-bottom, nappa sport steering wheel incorporated with a touch control panel. DINAMICA Microfibre-covered sun shades on the front and fabric roof are exclusive to the S 350 d AMG Premium.

Class-leading technologies and multimedia systems for the S-Class LOCAL PRODUCTION models are the DYNAMIC SELECT driving preset controller, a preinstalled navigation system. Apple CarPlay(TM) and Android Auto compatibility, a wireless charging pad for driver and passenger on the front and a superb cinematic experience from the Burmester(R) surround sound system and the inclusion of two personal screens. The S 350 d AMG Premium comes preinstalled with a Head-up display for a best-in-class driving experience.
 
The S 350 d Exclusive is priced at 6,390,000 Baht
The S 350 d AMG Premium is priced at 6,990,000 Baht

The GLC Coupe
The GLC 250 4MATIC Coupe AMG Plus is the definitive answer to every lifestyle as it is a powerful, dynamic SUV combining the sportiness and emotions of a coupe and strong off-road credentials. The exterior attracts attention with a large radiator grille with a centrally positioned Mercedes star. Its striking LED headlamps with LED Intelligent Light System also integrates LED fibre-optic daytime running lights. The side view and roof lines are reinforced by an impression of power and elegance from the gently sloping dropping line. At the rear, an exhaust system, with two decorative chromium tailpipes, is tailored to match the preinstalled AMG bodystyling kit (front and rear aprons), 20-inch multi-spoke alloy wheels by AMG, Aluminium-look Running boards with rubber studs made from stainless steel. the GLC 250 d 4MATIC Coupe AMG Plus also features an electric sliding sunroof as standard.

Distinctive interior elements of the GLC Coupe are the dashboard and the center console with its flowing lines as a large, one-piece console panel. ARTICO leather is chosen as upholstery for door panels and main console. A flattened bottom sport steering wheel with weight adjustment function based on the car's speed is used as default to maximize a sporty appetite. Another key parametre for the sporty characteristics of the GLC Coupe is the use of SPORT and SPORT+ suspension setups, ECO start/stop system, KEYLESS-GO vehicle entry system, and a 2-Zone THERMATIC climate control, AIR BALANCE ventilation function. The rear bench can be 1:3 or 2:3 folded for extra loading room. For a pleasing, connected journey, Mercedes-Benz offer astonishing systems on board such as Burmester(R) surround sound system, Apple CarPlay(TM) compatibility, a touchpad, and a Pre-installation SD-Card navigation, as well as a forward-thinking Head-up display.

Safety systems and technologies in the GLC Coupe include the advanced "Mercedes-Benz Intelligent Drive" system ensuring safety for everyone in the cabin. It comprehensively integrates individual cutting-edge safety systems and class-leading assistance systems into a centralized system for protection right before, upon, and after an accident. Examples of connected systems under Mercedes-Benz Intelligent Drive are PRE-SAFE(R) system, Electronic Stability Program - ESP(R), ADAPTIVE BRAKE with HOLD Function and Hill-start Assist, Distance Pilot DISTRONIC for tailgating, Active Parking Assist, 360-degree cameras, and many more.

activity on April 01, 2018, 02:13:15 PM
จากัวร์ เอฟ-ไทป์ 300 แรงม้า เครื่องยนต์ใหม่ เปิดตัวและวางจำหน่ายครั้งแรก ในประเทศไทย ณ งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2018







           บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์อย่างเป็นทางการ เปิดตัวและวางจำหน่าย จากัวร์ เอฟ-ไทป์ 300 แรงม้า (Jaguar F-Type 300 PS) มาพร้อมเครื่องยนต์ใหม่ Ingenium เบนซิน 2.0 ลิตร 4 สูบ เทอร์โบ ให้สมรรถนะสูงสุด 300 แรงม้า พร้อมระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด
          จากัวร์ เอฟ-ไทป์ คูเป้ 300 แรงม้า เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ราคา 6,999,000 บาท
          Jaguar F-TYPE 300 PS 2.0-litre Coupe
          เครื่องยนต์ Ingenium เบนซิน 2.0 ลิตรใหม่ เป็นเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้พลังงานเชื้อเพลิง แต่ยังคงให้พลังและขับขี่ได้อย่างราบรื่นทันใจตามที่นักขับต้องการ มีพื้นฐานจากบล็อกลูกสูบอลูมิเนียม ที่มีผนังบาง ปลอกสูบที่ทำจากเหล็กหล่อเพื่อให้มีน้ำหนักเบา เชื้อเพลิงเข้ามานั้นมีความแม่นยำและเหมาะสม เทอร์โบชาร์จที่พัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงสามารถเรียกทอร์คสูงได้ตั้งแต่ในช่วงรอบเครื่องต่ำ และให้ทอร์คสูงสุดในรอบเครื่องกว้าง ทำให้ระบบเครื่องยนต์เรียกพลังและตอบสนองผู้ขับขี่ได้ทันใจ ด้วยเครื่องยนต์ที่มีพละกำลังแรงถึง 300 แรงม้า เรียกพลังจากแรงบิดสูงถึง 400 นิวตัน-เมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ได้ในเวลาเพียง 5.7 วินาที อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 13.8 กิโลเมตรต่อลิตร และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) 163 กรัมต่อกิโลเมตร
          ทีมวิศวกรให้ความสำคัญกับการพัฒนาเครื่องยนต์ให้มีน้ำหนักเบาลงแต่ยังคงรักษาจุดเด่นสำคัญของเครื่อง โดยยกเลิกตัวเครื่องเดิมที่ทำจากเหล็กและเปลี่ยนมาใช้เป็นอลูมิเนียมซึ่งมีน้ำหนักเบาลง 20-30 กิโลกรัม มีเบ้าสูบที่แข็งแกร่ง เพลา balancer แบบคู่ที่ช่วยลดการสั่นสะเทือน นอกจากเครื่องยนต์จะมีน้ำหนักเบา ประหยัดน้ำมัน และมีสมรรถนะสูงกว่าเครื่องยนต์รุ่นก่อนแล้ว รอบของการเช็คระยะแต่ละครั้งยาวนานขึ้น เกิดจากการพัฒนาหลายๆ ด้าน เช่น ลูกสูบที่มีแรงเสียดทานน้อยช่วยลดการใช้เชื้อเพลิง การใช้น้ำมันคุณภาพสูง ระบบกรองที่มีประสิทธิภาพซึ่งจะทำให้เกิดประโยชน์ต่างๆ เช่น ระบบเผาไหม้ที่สะอาดยิ่งขึ้น ปริมาณฝุ่นละอองจากแต่ละสูบน้อยลง ทำให้น้ำมันเครื่องไม่สกปรกง่าย เทคโนโลยีใหม่ยังช่วยลดการปนเปื้อนในแต่ละลูกสูบด้วย ดังนั้นไส้กรองและน้ำมันหล่อลื่นจะสะอาดและใช้งานได้นานขึ้น
          นายชาญชัย มหันตคุณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "จากัวร์ เอฟ-ไทป์ ได้รับการยอมรับมาอย่างยาวนานในประสิทธิภาพและสมรรถนะของรถ จากรางวัลการันตีคุณภาพและสมรรถนะมาแล้ว 160 รางวัลทั่วโลก ด้วยความสมดุลของการออกแบบรถยนต์ที่ยอดเยี่ยมกับสมรรถนะที่น่าทึ่งและการขับเคลื่อนอันทรงพลัง รวมถึงรถยนต์ที่มีโครงสร้างแบบคูเป้ด้วย ทำให้ จากัวร์ เอฟ-ไทป์ มีความแตกต่างจากรถยนต์ประเภทเดียวกันอย่างโดดเด่น และในวันนี้เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของตลาดประเทศไทยเราจึงเปิดตัวและวางจำหน่าย จากัวร์ เอฟ-ไทป์ เครื่องยนต์ใหม่ Ingenium เบนซิน 2.0 ลิตร 4 สูบ เทอร์โบ ให้สมรรถนะสูงสุด 300 แรงม้า ในราคาที่น่าจับจองเป็นเจ้าของ ด้วยราคา 6,999,000 บาท พร้อมแคมเปญ Worry-Free Program ให้ความคุ้มค่ากับการรับประกันนาน 5 ปี บริการซ่อมบำรุงฟรี 5 ปี และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอดเวลานาน 5 ปี และพิเศษสุดสำหรับลูกค้าที่จองรถยนต์ จากัวร์ เอฟ-ไทป์ ภายในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39 รับฟรีแพ็คเกจโปรแกรมเยี่ยมชมโรงงานผลิตรถยนต์จากัวร์ ร่วมสัมผัสประวัติศาสตร์หน้าสำคัญๆ ของแบรนด์ และร่วมงาน Goodwood Festival of Speed 2018 ณ ประเทศอังกฤษ"
          นายชาญชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39 นอกจากการเปิดตัว จากัวร์ เอฟ-ไทป์ 300 แรงม้า ทางจากัวร์ยังมีสมาชิกใหม่ล่าสุด เดอะ นิว จากัวร์ อี-เพช (The New Jaguar E-Pace) รถยนต์คอมแพกต์เอสยูวีที่ออกแบบจากรถยนต์สปอร์ต เอฟ-ไทป์ เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยด้วยราคาพิเศษช่วงแนะนำ 3,500,000 บาท พร้อมแคมเปญ "Worry-Free Program" ให้ความคุ้มค่ากับการรับประกันนาน 5 ปี บริการซ่อมบำรุงฟรี 5 ปี และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอดเวลานาน 5 ปี สำหรับลูกค้าที่จองภายในงาน พร้อมบริการรถทดสอบสำหรับทุกท่านที่สนใจทดลองขับรถยนต์รุ่นนี้"
          พบกับรถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์ พร้อมข้อเสนอพิเศษรถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์ ทุกรุ่น ยกเว้นรุ่นเดอะ นิว จากัวร์ อี-เพช (The New Jaguar E-Pace) ในอัตราดอกเบี้ย 0% นาน 24 เดือน พร้อมแคมเปญ "Worry-Free Program" ให้ความคุ้มค่ากับการรับประกันนาน 5 ปี บริการซ่อมบำรุงฟรี 5 ปี และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอดเวลานาน 5 ปี ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39 ระหว่างวันที่ 28 มีนาคม - 8 เมษายน 2561 อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1 เมืองทองธานี