FB on September 08, 2017, 02:21:17 PM
Movie Guide: ผู้กำกับเจ้าของรางวัลออสการ์ โยจิโร่ ทาคิตะ ผนึกกำลัง 3 นักแสดงแถวหน้า นิโนะมิยะ คาซึนาริ , อาโออิ มิยาซากิ , ฮิเดโทชิ นิชิจิมา นำ The Last Recipe สูตรลับเมนูยอดเชฟ



「ラストレシピ ~麒麟の舌の記憶~」予告
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=mJfQ0JOePFU" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=mJfQ0JOePFU</a>

The Last Recipe สูตรลับเมนูยอดเชฟ - Official Trailer [ ตัวอย่าง ซับไทย ]
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=JIelmBG8NCo" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=JIelmBG8NCo</a>

          ภาพยนตร์ทำอาหารทำรายได้ติด TOP 3 ในญี่ปุ่นเข้าฉายในไทย 1 กุมภาพันธ์

​          หากคุณเคยประทับใจในภาพยนตร์ญี่ปุนเจ้าของรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมอย่าง DEPARTURES ปีนี้ โยจิโร่ ทาคิตะ ผู้กำกับ คนเดิมจะกลับมา ทำให้ผู้ชมซึ้งไปกับ ภาพยนตร์ทำอาหารสุดอร่อย ใน The Last Recipe เรื่องราวของ เชฟ ซาซากิ มิตสึรุ รับบทโดย นิโนมิยะ คาซึนาริ เชฟอัจฉริยะ ที่จดจำรสชาติอาหารและวัตถุดิบที่ทำได้ภายในการชิมเพียงครั้งเดียว ซาซากิ มีอาชีพเชฟอาหารเมนูสุดท้าย ให้คนที่กำลังจะตาย ด้วยโชคชะตา ซาซากิ ได้รับการว่าจ้างจากยอดเชฟ ให้ทำอาหารเมนูสุดท้าย ที่อยู่ในความทรงจำของยอดเชฟมาตลอด 70 ปี ซาซากิได้รับข้อเสนอเป็นค่าจ้างที่สูงถึง 50 ล้านเยน โดยมีเงื่อนไขว่า เขาจะต้องตามหาสูตรเมนูอาหารที่หายสาปสูญไปให้เจอ และปรุงรสชาติให้ได้เหมือนต้นฉบับ ซาซากิ จึงเริ่มออกเดินทางเพื่อตามหา รสชาติที่หายไป จนกลายเป็นการเดินทางที่เยียวยาหัวใจตัวเองโดยไม่รู้ตัว

          ด้วยพลอตเรื่องที่ลึกซึ้งกินใจ ทำให้หนังเปิดตัวอันดับ 3 ที่ญี่ปุ่น เป็นรองเพียงแค่ THOR RAKNAROK และ IT เท่านั้น ร่วมด้วยทีมนักแสดงระดับแถวหน้าของญี่ปุ่น นำทีมโดย นิโนะมิยะ คาซึนาริ จาก Letters from Iwo Jima โค อายาโนะ จาก Ajin และ กัสซึ ฮิเดโทชิ นิชิจิมา จาก The Wind Rises ยูทากะ ทาเคอุชิ จาก BLUE AND ROSSO และ อาโออิ มิยาซากิ จาก NANA โดย The Last Recipe ถ่ายทำใน 2 ประเทศทั้งญี่ปุ่นและจีน นักแสดงทุกคนฝึกทำอาหารกับเชฟมิชลินตัวจริง เพื่อถ่ายทอดเมนูอาหารกว่า 112 เมนูในภาพยนตร์ให้ออกมาดูอร่อย เหมือนต้นฉบับมากที่สุด

          The Last Recipe สูตรลับเมนูยอดเชฟ
          1 กุมภาพันธ์ 2018
          เตรียมหัวใจรับความอร่อยพร้อมกันในโรงภาพยนตร์
« Last Edit: December 25, 2017, 03:31:05 PM by FB »

FB on December 27, 2017, 03:42:30 PM
Movie Guide: เจาะใจ 6 นักแสดงนำใน The Last Recipe สูตรลับเมนูยอดเชฟ กำหนดฉาย 1 กุมภาพันธ์ 2018









เบื้องหลังความอร่อยสุดฟิน ! ใน สูตรลับเมนูยอดเชฟ The Last Recipe
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=Kwo-L9kaG4A" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=Kwo-L9kaG4A</a>

          ตอนที่ได้รับการเสนอให้แสดงเรื่องนี้รู้สึกอย่างไรบ้าง
          นิโนะมิยะ: ดีใจสุดๆ ครับที่ได้แสดงในภาพยนตร์ที่กำกับโดยคุณทาคิตะ พอรู้ว่าได้รับงานนี้ ผมนี่ถึงกับต้องไประบายความดีใจในทวิตเตอร์เลยฮะ (หัวเราะ)
          พอได้อ่านบทแล้ว รู้สึกอย่างไรบ้าง
          นิโนะมิยะ: ต้องบอกว่ากังวลเรื่องการทำอาหารมากเลยทีเดียวครับ เพราะห่างหายจากการทำอาหารไปนานมาก แต่ก่อนเริ่มแสดงเราได้มีการเวิร์คชอบกับทีมเชฟตัวจริงกันก่อน
          คิดว่าบทที่ตัวเองได้รับเป็นอย่างไรบ้าง
          นิโนะมิยะ: ผมพยายามที่จะไม่ทำเป็นตัวละครที่ได้ต้องรับบทมากมายขนาดนั้น แต่จะแสดงโดยสื่อความเป็นตัวตนของผมออกมา ทำให้การแสดงความเป็นตัวเองออกมาเป็นเรื่องที่ไม่ยากเย็นอะไร เพราะฉะนั้น ผมก็เลยตัดสินใจที่ไม่เป็นคนอื่น แต่จะใช้ประสบการณ์ของตัวเองจริงๆ ในการถ่ายทอดบทบาทครับ ซึ่งครั้งนี้ก็ได้ประสบการณ์ร่วมกับ อายาโนะโก มาช่วยออกแบบคาแรคเตอร์ในการแสดงด้วยแหละครับ

          ความประทับใจที่ได้ร่วมงานกับผู้กำกับทาคิตะ
          นิโนะมิยะ: คุณผู้กำกับคนนี้เป็นคนที่คอยอยู่เคียงข้างนักแสดงเสมอ และมีความเข้าใจบรรยากาศในการทำงาน นอกจากนั้นยังให้ความเชื่อมั่นในตัวนักแสดงยิ่งกว่าใครทั้งหมด อย่างตอนที่ผู้กำกับบอกผมว่า "ทำไปเลย ผมไว้ใจคุณ" เพราะงั้นผมเลยทำงานไปได้อย่างสนุกสนาน สมมติว่าถ้าต้องถ่ายทั้งวันทั้งคืน ผมก็คิดไม่ออกว่าตัวเอกจะเล่นตามบทไปตลอดรอดฝั่งได้ยังไง แต่ว่าคราวนี้ ฉากที่ถ่ายช่วงกลางคืนไม่ค่อยมี ผมเลยมีเวลาทบทวนระหว่างกลับบ้าน ซึ่งพอคิดถึงคำว่า "ผมไว้ใจคุณ" ที่ได้รับมา ก็ทำให้คิดว่า "ถ้าเล่นไหลลื่น ผู้กำกับก็คงประหลาดใจ และต้องสั่งคัทออกมาดังๆ แน่ๆ สินะ"
          ที่จริงแล้ว ระหว่างที่กำลังคุยกับผู้กำกับ ผมก็ไปเสนอเกี่ยวกับฉากสุดท้ายของเรื่อง และด้วยความใจกว้างของผู้กำกับ เขาก็ยอมรับ และพูดกับผมว่า "ดีเลยนะเนี่ย มาทำแบบนั้นกันเถอะครับ" ซึ่งมันทำให้ผมคิดว่า "ดีจังเลย ที่ได้พูดออกไป" นอกจากนั้น ทีมงานทุกคนก็ยังให้การยอมรับเป็นอย่างดีครับ
          ความประทับใจที่มีต่ออายาโนะซัง
          นิโนะมิยะ: อายาโนะ เป็นคนที่จริงใจกับงานมากครับ และเขาก็คอยมอบไอเดียใหม่ๆ ให้แก่คนอื่นๆ อยู่เสมอ ซึ่งความประทับใจที่มีต่อเขาก็คือการทำงานอย่างตรงไปตรงมานี่แหละ ซึ่งจุดนี้ก็เป็นจุดที่ผมชอบมากๆ
          ช่วยฝากข้อความถึงทุกคนที่มาชมภาพยนตร์เรื่องนี้หน่อย
          นิโนะมิยะ: ภาพยนตร์เรื่องนี้มีอาหารหลากหลายมากครับ ซึ่งนอกจากอาหารแล้วก็ยังได้เห็นถึงการเติบโตของเด็กหนุ่มคนหนึ่งทีละน้อยๆ ก็อยากให้ทุกคนมาร่วมรับชมการเติบโตที่ว่าในภาพยนตร์ไปพร้อมๆ กันครับ

          บทสัมภาษณ์ : คุณนิชิจิมะ ฮิเดโทชิ นักแสดงผู้รับบท ยามางาตะ นาโอทาโร่
          คำถาม : บรรยากาศในกองถ่ายของคุณทาคิตะเป็นอย่างไรบ้าง
          นิชิจิมะ : ในตอนที่ถ่ายทำ แต่ล่ะฉากเนี่ยมันยากมากๆ เลยแหละครับ แต่พอเริ่มถ่ายทำผมก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันยากอย่างที่คิดครับ ทีมงานทุกคนมีพลังงานเหลือล้นมาก ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น ทุกคนก็ใจเย็นและช่วยกันแก้ไขปัญหาให้ผ่านไปได้อย่างราบรื่น เป็นกองถ่ายที่สบายๆ และสนุกมากจริงๆ ครับ ลายละเอียดการออกแบบนั้นมีไปจนถึงชุดมีดในครัวการดีไซส์มันยอดเยี่ยมไปเลยครับยังไงก็ตามทุกๆ พอมาถึงฉากที่สนุกๆ เขาอยากจะเพิ่มความสมจริงในการมากขึ้นอีกครับ แล้วก็การเข้าฉากทุกวันเป็นอะไรที่สนุกมาก เป็นความประทับใจที่ทำให้ผมมีกำลังใจในการทำงานครับ
          คำถาม : ได้ร่วมงานกับผู้กำกับทาคิตะรู้สึกยังไงบ้าง
          นิชิจิมะ : ผู้กำกับทาคิตะ เป็นคนที่ร่าเริงและอ่อนโยนมากครับ เขาเป็นผู้กำกับที่ใส่ใจนักแสดงมาก มันเป็นเรื่องที่ดีมากที่ได้ร่วมงานกับเขา รู้ว่านักแสดงแต่ล่ะคนรู้สึกยังไง และหลายๆ ครั้งเขาก็ให้คำแนะนำในการแสดงด้วย "มันเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ และง่ายๆ" ที่เขาทำในกองถ่ายครับ
          คำถาม : คุณได้รับคำแนะนำในการสร้างตัวละคร นาโอทาโร่ จากผู้กำกับยังไงบ้างครับ
          นิชิจิมะ : "บางครั้งตัวละครนี้ก็อาจจะโดนทำร้ายจิตใจ ทำให้รู้สึกไม่ดี แต่พื้นฐานของตัวละครนี้ เขาเป็นคนที่รักในการทำอาหารและดีใจกับการที่ได้ค้นพบรสชาติใหม่ๆ ในอาหาร รวมถึงอะไรใหม่ๆ ด้วย" ก็ประมาณนี้แหละครับ "ผมเข้าใจแหละว่าคุณคงกังวลใจอยู่ไม่น้อย แต่ให้คิดซะว่า ฉันได้มีความสุขเมื่อได้ทานอาหารและได้ค้นพบรสชาติใหม่ๆ ในอาหาร รวมถึงอะไรใหม่ๆ ด้วย" ผมยังจำคำแนะนำนั้นได้ดีเลยล่ะครับ
          คำถาม : แล้วคุณสร้างบุคลิกของตัวละคร นาโอทาโร่ ขึ้นมายังไงบ้างครับ
          นิชิจิมะ : ผมคิดว่า เขาเป็นตัวละครที่มีความมุ่งมั่นที่จะเดินไปยังเป้าหมายด้วยพลังที่มีทั้งหมดครับ ผมได้สัมผัสถึงความยากลำบากมากมายที่เกิดขึ้นในชีวิตของเขา ซึ่งบางครั้งผมก็รู้สึกว่าเขาแบกรับมันไม่ไหวแต่ก็ไม่สามารถแสดงความรู้สึกนั้นออกมาได้ด้วยซ้ำไป หนึ่งในนั้นคือการที่จะเป็นคนทำอาหารที่โด่งดัง แม้ว่า เรื่องราวจะดูน่าเศร้า แต่ผู้กำกับทาคิตะ ก็ทำให้มันดูเป็น Positive และสดใส แล้วก็เวลาที่คุณนิชิฮาตะและคุณคาเนมัตสึ ฝึกซ้อมทุกคนต่างก็ช่วยคิดช่วยทำว่าจะให้มันออกมาเป็นอย่างไร และตอนที่เขาพูดว่า "ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ" มันเป็นคำพูดที่ผมรู้สึกว่า ไม่ได้แค่พูดมาและจากไปอย่างไร้ค่าแต่เป็นการที่ทำให้รู้ว่า เราทุกคนทำงานเป็นทีมเดียวกันและจะช่วยกันซึ่งกันและกัน
          คำถาม : การฝึกทำอาหารเป็นอย่างไรบ้างครับ
          นิชิจิมะ : ตอนที่ได้ยินฉากที่ลองให้ทำอาหารดู ผมก็มีสับสนบ้างนิดหน่อย แต่ผมเองก็พยายามฝึกทำอาหารด้วยตัวเองเหมือนกันครับ ครูที่ควบคุมทีมฮัตโตริที่กำลังทำอาหารอยู่พวกเขาสุดยอดมาก ตอนพวกครูเขาสอนก็สนุกมากเลยครับ รสชาติของอาหารน่ะ ดูแค่ในวีดีโอหรือรูปมันไม่รู้หรอก ผมคิดว่าการอุทิศตัวเพื่อการปรุงอาหารมันเป็นเรื่องที่ดีมากเลยล่ะ แต่ก็ต้องยอมรับว่ารสชาตินั้น มันอร่อยจริงๆ นั่นแหละ การใช้ตามอง ส่วนประกอบอาหารที่ใช้และรสชาติคือการทำอาหารที่ดีที่สุดแล้วล่ะครับ
          คำถาม : ความประทับใจที่ได้เล่นคู่กับคุณมิยาซากินี้เป็นยังไงบ้างครับ?
          นิชิจิมะ : ก็ไม่ได้แสดงร่วมกันมานานมากแล้ว ทำให้ผมเลยกลับมาคิดอีกครั้งว่า [คนๆ นี้น่ะ ไม่ว่าจะอะไรก็สามารถทำได้หมดรึเปล่านะ] จริงๆ แล้วการเข้าใจมนุษย์เราอย่างลึกซึ้งนั้น ต้องดูตอนที่ใช้เซนส์กับสถานการณ์ตอนไหนถึงจะดีที่สุดครับ ตอนไม่อยู่ในสายตาเขาจะทำอะไรบ้าง จะประพฤติตัวยังไง พอมาคิดๆ ดูแล้วเนี่ยมัน (สุดยอดไปเลยน่า~) น่ะครับ ยังไงก็ถ้ามีโอกาส ก็อยากแสดงร่วมกันอีกครับ
          คำถาม : ไฮไลท์ของผลงานชิ้นนี้คืออะไรครับ
          นิชิจิมะ : มันคือการผสมผสานระหว่าง 2 ยุคอาหาร กับ ความชอบ นั่นแหละครับ ที่ทำให้มันออกมามีเสน่ห์มากๆเลย แน่นอนว่า การที่ทั้ง 2 รุ่นและขอบเขตนั้น มารวมกันได้เนี่ย คือ อาหารที่ออกมา ครับ โดยส่วนตัวผมคิดว่ามันมีเสน่ห์มากๆ ที่คนทำอาหารทำนั้นคือการเชื่อมต่อเรื่องราวจากยุคสู่ยุคนั้นเองครับ

          ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้อ่านบท ผมก็สัมผัสได้ถึงความหอมหวลของบรรดาเครื่องปรุงต่างๆ และมองเห็นแต่ละฉากๆ ได้อย่างชัดเจนมากๆ ยิ่งเรื่องนี้เป็นงานกำกับของคุณทาคิตะด้วยแล้ว ผมเลยคิดว่าถ้าส่งความรู้สึกไปถึงผู้ชมทุกคนได้ก็คงดีมากๆ และก็ถือเป็นบรรยากาศที่ดีมากที่ได้กลับมาร่วมงานกับคุณนิโนะมิยะอีกครั้ง
          ตัวละครยานากิซาวะเป็นคนเลือดร้อน แข็งกร้าว ลุ่มลึก แต่บางครั้งก็ความอดทนต่ำ ถ้าต้องเพื่อคนที่รัก ก็อยากให้ทุกคนได้ไปชมภาพยนตร์กัน แต่ระหว่างที่ดู ขอร้องว่าอย่าหิวตามนะครับ ไม่อย่างนั้นเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ แค่มีอารมณ์ร่วมไปกับเรื่องราวก็พอครับ

          ตอนที่มาที่กองถ่ายและได้เห็นทุกคนคอยต้อนรับด้วยรอยยิ้ม ทำให้ทุกวันฉันสงบใจลงได้มาก และฉันรู้สึกจริงๆ นะว่าระยะเวลาที่ได้ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้มันแค่ชั่วพริบตาเท่านั้นเอง นอกจากนี้ ฉันก็อยากร่วมงานกับผู้กำกับทาคิตะต่อไปอีกค่ะ
          ในบทจะมีประโยคที่ชิสึพูดว่า "คนเราจำเป็นต้องเสียสละบางสิ่ง เพื่อให้บางอย่างสำเร็จ" แต่ฉันคิดว่าเธอไม่ได้จะสื่อคำว่า "เสียสละ" ในแง่ลบหรอกค่ะ นั่นก็เพราะเธอเป็นคนที่พร้อมทำอะไรก็ตามเพื่อสนับสนุนคนที่เธอรักแม้เพียงน้อยนิด ดังนั้น ในฉากที่คุณนิชิจิมะต้องทำอาหาร ฉันจึงรู้สึกนับถือและคอยเฝ้ามองแผ่นหลังของเขาค่ะ

          ผมรู้สึกเศร้าใจทุกครั้งเมื่อคิดว่าช่วงเวลาที่จะได้ร่วมงานกับนักแสดงทุกท่าน ผู้กำกับทาคิตะ รวมถึงทีมงานทุกคนจะไม่หวนกลับมาอีกแล้ว ผมอยากไปออกกองทุกวัน ครั้งหนึ่ง คุณนิชิจิมะเคยพูดกับผมว่า "ไม่ต้องกลัวว่าจะแสดงออกมาได้ไม่ดี แค่ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ก็พอ" ผมจึงแสดงเป็นคามาตะด้วยความระมัดระวังครับ และถือเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้แสดงภาพยนตร์ที่คุณทาคิตะเป็นผู้กำกับ ยิ่งตอนที่เขาเรียกชื่อผมครั้งแรกนี่น้ำตาแทบจะไหลออกมาให้ได้เลยล่ะครับ และจากงานนี้ก็ทำให้ผมได้เรียนรู้สิ่งที่น่าสนใจมากมาย และถึงแม้ว่าจะไม่ได้เข้าฉากร่วมกับคุณนิโนะมิยะ แต่แค่ได้แสดงภาพยนตร์เรื่องเดียวกัน ก็ถือว่าความฝันของผมเป็นจริงแล้วครับ

          ความเชื่อมโยงระหว่างคนหนึ่งและอีกคน ความสำคัญของการได้คิดถึงใครบางคน ตัวตนของตัวเอง ล้วนสามารถเกิดขึ้นได้โดย "การทำอาหาร" ตัวละครมิยาเกะถือว่ามีบทบาทสำคัญต่อเรื่องราว เป็นเหมือนคนคอยตีกรอบให้กับความเป็นไปที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์ ในระหว่างการถ่ายทำ ผมรู้สึกสนุกมากๆ ที่ได้รับบทเป็นทหาร อีกทั้งผู้กำกับทาคิตะก็เป็นคนที่มีพลังงานล้นเหลือที่พร้อมจะรังสรรค์ผลงานชิ้นเอกที่สุดจะน่าตื่นตาตื่นใจขึ้นมา คำว่า "อาหารญี่ปุ่นยิ่งใหญ่หนึ่งในใต้หล้า" นั้นเป็นคำกล่าวที่งดงาม เปล่งประกายและเลอค่า ทว่าในความเป็นจริง หนทางไปสู่คำกล่าวนี้ช่างเรียบง่าย นอกจากนี้ ผมอยากเห็นมากๆ เลยครับว่าคุณนิโนะมิยะจะถ่ายทอดเรื่องราวออกมาอย่างไร

          The Last Recipe สูตรลับเมนูยอดเชฟ ถ่ายทอดเรื่องราวของ นิโนะมิยะ คาซึนาริ รับบทเชฟ ซาซากิ มิตสึรุ เชฟอัจฉริยะ ที่จดจำรสชาติอาหารและวัตถุดิบที่ทำได้ภายในการชิมเพียงครั้งเดียว ซาซากิ มีอาชีพเชฟอาหารเมนูสุดท้าย ให้คนที่กำลังจะตาย เพราะเมนูสุดท้ายมักจะเป็นอาหารที่มีคุณค่าในใจค่าตัวของเขาจึงสูงถึง 1 ล้านเยน ซาซากิ ต้องการที่จะนำเงินทั้งหมด ไปกอบกู้ร้านอาหารของตัวเองที่กำลังจะถูกยึด

          ด้วยโชคชะตา ซาซากิ ได้รับการว่าจ้างจากยอดเชฟ ให้ทำอาหารเมนูสุดท้าย ที่อยู่ในความทรงจำของยอดเชฟมาตลอด 70 ปี ซาซากิได้รับข้อเสนอเป็นค่าจ้างที่สูงถึง 50 ล้านเยน โดยมีเงื่อนไขว่า เขาจะต้องตามหาสูตรเมนูอาหารที่หายสาปสูญไปให้เจอ และปรุงรสชาติให้ได้เหมือนต้นฉบับ ซาซากิ จึงเริ่มออกเดินทางเพื่อตามหา รสชาติที่หายไป จนกลายเป็นการเดินทางที่เยียวยาหัวใจตัวเองโดยไม่รู้ตัว

          1 กุมภาพันธ์ พิสูจน์ความยอดเยี่ยม
          ของภาพยนตร์จากฝีมือผู้กำกับรางวัลออสการ์ โยจิโร่ ทาคิตะ ( DEPARTURES )
« Last Edit: December 30, 2017, 01:57:43 PM by FB »

FB on January 09, 2018, 03:41:31 PM
เปิดกองถ่าย The Last Recipe สูตรลับเมนูยอดเชฟ คุยกับผู้กำกับเจ้าของรางวัล ออสการ์ โยจิโร่ ทาคิตะ









          ภาพยนตร์เรื่องนี้มีการแบ่งออกเป็นสองช่วง แล้วจะรวมทั้งสองยุคนี้เข้าด้วยกันอย่างไร
          ผู้กำกับ: การเล่าเรื่องราวจากสองยุคสองสมัยในเวลาเดียวกันถือเป็นส่วนที่ยากที่สุดของภาพยนตร์เรื่องนี้ครับ โดยสองยุคที่ว่านั้นก็เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 70 ปีก่อนและเรื่องราวที่เป็นไปในปัจจุบัน โดยเราจะเชื่อมมันเข้าด้วยกันผ่านทางการทำอาหารครับ ซึ่งนอกจากเรื่องอาหารแล้ว สิ่งสำคัญของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือจิตใจและความเป็นมนุษย์ และเพราะมีคำว่ายุคสมัยเข้ามาเกี่ยวข้อง ผมเลยคิดว่ามันเป็นการดีที่เราจะได้เห็นการใช้ชีวิตของคนสมัยก่อน และเติบโตมาเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ฝังอยู่ใน DNA ของชาวญี่ปุ่นทุกคน ซึ่งไม่ว่าจะไปที่ไหนๆ ก็สามารถพบเจอได้ครับ
          ในด้านนักแสดง คุณนิชิจิมะได้รับบทเป็นชาวญี่ปุ่นยุคเก่าผู้เพียบพร้อม ในขณะที่คุณนิโนะมิยะต้องรับบทเป็นเหมือนตัวแทนของคนสมัยใหม่ที่มีความเห็นแก่ตัว ซึ่งผมมองว่ามันน่าสนใจมากที่เราจะได้เห็นปฏิกิริยาที่ทั้งสองตัวละครนี้มีต่อกันครับ         
          เพราะอะไรที่ไม่ค่อยเข้าไปกำหนดอะไรนักแสดง
          ผู้กำกับ: คุณนิโนะมิยะเป็นคนที่ทำผลงานออกมาได้ดีมากอยู่แล้ว ในช่วงระหว่างที่ซ้อม พวกเราจะคุยกันเกี่ยวกับฉากและตัวละครตลอด ซึ่งก็ทำให้ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างหลากหลายมากๆ คือเราสามารถพูดคุยถึงความต้องการจริงๆ ต่อกันได้อย่างเต็มที่ครับ
          สำหรับคุณนิชิจิมะนั้นก็เป็นคนที่เฉียบขาด ก็เลยไม่ต้องคุยอะไรกันมาก แค่แนะนำไปนิดหน่อยว่าอยากจะทำภาพยนตร์ที่เคารพจิตวิญญาณความเป็นนักทำอาหารก็รู้เรื่องแล้วครับ ส่วนคุณอายาโนะ เขาเป็นคนที่ตรงไปตรงมา ซึ่งเราก็ได้คุยเกี่ยวกับฉากเสียน้ำตาสำคัญๆ ด้วยกันอยู่บ่อยครั้ง คุณนิชิฮาตะเองก็ทำได้ดีครับ เพราะเขาสามารถแสดงอารมณ์ความรู้สึกที่ต้องแบกรับบางอย่างเอาไว้ออกมาได้ดีมาก เขาจะอ่านบทจนมั่นใจและแสดงออกมาได้อย่างไม่มีบิดพลิ้ว ส่วนด้านอาโออิจังเราต่างคุ้นเคยกันดีแล้วผ่านการร่วมในเรื่องอื่นๆ ครับ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวล ผมอยากจะบอกว่าดีใจที่ได้มีโอกาสร่วมงานกับทีมงานที่ดีทุกคน ดีใจที่ได้ร่วมงานกับนักแสดงคุณภาพทุกท่าน รวมถึงดีใจที่การทำงานดำเนินไปอย่างราบรื่นภายใต้กรอบเวลาที่กำหนดเอาไว้ครับ
          สิ่งล้ำค่าของภาพยนตร์เรื่องนี้คืออะไร
          ผู้กำกับ: ผมอยากจะทำภาพยนตร์ที่เมื่อมองย้อนกลับมาแล้วจะไม่เสียใจภายหลัง ดังนั้น ตั้งแต่การเตรียมฉากต่างๆ ผมจึงคิดเยอะมาก เพราะทุกๆ องค์ประกอบล้วนสำคัญทั้งสิ้น และผมก็ต้องเลือกเทคที่ดีที่สุดก่อนที่จะสั่งคัท คือในการทำงาน ทุกๆ วันย่อมมีการเปลี่ยนแปลงครับ หลายๆ อย่างก็มาเร็วไปเร็ว ผมจึงต้องเตรียมพร้อมให้ดี เรื่องราวของภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่มีผิดหรือว่าถูก ต้องอาศัยการตีความที่เฉียบคมและลึกซึ้ง ผ่านการมองภาพและเรื่องราวที่หลากหลาย และสร้างเป็นข้อสรุปของตัวเองขึ้นมาครับ
          ในเมื่อภาพยนตร์เรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวในสมัยก่อนด้วย ตั้งใจถ่ายทอดช่วงเวลานั้นออกมาอย่างไร
          ผู้กำกับ: ตั้งแต่ที่วาดภาพช่วงเวลาในปี 1930 ขึ้นในใจ ผมก็นึกถึงช่วงเวลาที่มีผู้คนหลากหลายใช้ชีวิตอยู่รวมกัน อยากจะบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในยุคนั้นออกมาตามความเป็นจริง ซึ่งมันจะดีมากถ้าภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ทำให้ทุกคนได้รู้จัก "แมนจูเรียในสมัยก่อน" รวมถึงผมอยากบอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิตของคนในยุคนั้นออกมาอย่างสมบูรณ์ครับ

FB on January 19, 2018, 09:04:08 AM
Movie Guide: 7 เกร็ดห้ามพลาดจาก The Last Recipe สูตรลับเมนูยอดเชฟ ภาพยนตร์ที่ได้รับการจัดอันดับจาก Japan Time ให้ติด 1 ใน 5 ภาพยนตร์ญี่ปุ่นที่ดีที่สุดในปี 2017







          1. Last Recipe – Kirin no Shita no Kioku หรือชื่อไทยว่า สูตรลับเมนูยอดเชฟ สร้างจากนิยายของ เคอิชิ ทานากะ ที่เล่าเรื่องราวของเชฟผู้มีความสามารถจดจำรสชาติอาหารได้แม่นยำจากการชิมเพียงครั้งเดียวจนทำอาหารได้เหมือนต้นฉบับ แต่อยู่ในยุคที่ห่างกันกว่า 100 ปี
          2. The Last Recipe คือภาพยนตร์เปิดตัวอันดับ 3 ในญี่ปุ่น รองจากหนังฮอลลีวู้ดเรื่องดังอย่าง Thor: Ragnarok และ iT เท่านั้น
          3. ผกก. โยจิโระ ทาคิตะ ผู้กำกับที่ทั่วโลกยกย่องในฝีมือ หลังคว้ารางวัลออสการ์ภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมในปี 2008 จากภาพยนตร์เรื่อง Departures
          4. นักแสดงทุกคนต่างได้ฝึกทำอาหารด้วยตนเองทั้งสิ้น เผื่อให้ดูสมจริงและสมบทบาทมากที่สุด
          5. นิโนะมิยะ คาซึนาริ เริ่มเรียนทำอาหารอย่างจริงจังจากนักวิจารณ์ ฮาโตริ ยูคิโอ เขาเป็นคนถนัดซ้ายแต่ต้องฝึกฝนการใช้มีดด้วยมือข้างขวาให้เหมือนตัวละคร จนระหว่างถ่ายทำได้รับบาดเจ็บจากการใช้มีด
          6. หนังเรื่องนี้เล่าถึงช่วงเวลา 2 ยุค ในปี 1930 และ 2000 ของญี่ปุ่น ทำให้ผู้ชมได้พบเมนูอาหารที่เป็นเอกลักษณ์และหาชมได้ยากจากที่อื่น
          7. เมนูอาหารในภาพยนตร์เรื่องมีมากกว่า 112 เมนู ซึ่งอาหารแต่ละจานสามารถบอกเล่าวิถีชีวิต ความสัมพันธ์ของแต่ละตัวละครออกมาได้อย่างอบอุ่นและสมบูรณ์แบบ

          The Last Recipe สูตรลับเมนูยอดเชฟ
          1 กุมภาพันธ์ ในโรงภาพยนตร์

FB on January 28, 2018, 02:14:23 PM
Movie Guide: นิโนมิยะ คาซึนาริ นำทีมนักแสดงตัวพ่อสุดหล่อจากญี่ปุ่น ยูทากะ ทาเคโนะอุจิ นิชิจิมะ ฮิเดโทชิ โก อายาโนะ แสดงบทบาทสุดยอดเชฟใน The Last Recipe สูตรลับเมนูยอดเชฟ









          The Last Recipe สูตรลับเมนูยอดเชฟ เป็นผลงานการกำกับโดย ทาคิตะ โยจิโร่ ผู้กำกับ เจ้าของรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศจากภาพยนตร์เรื่อง DEPARTURES โดยในภาพยนตร์เรื่องล่าสุด The Last Recipe ได้ นิโนะมิยะ คาซึนาริ รับบทเชฟ ซาซากิ มิตสึรุ เชฟอัจฉริยะ ที่จดจำรสชาติอาหารและวัตถุดิบที่ทำได้ภายในการชิมเพียงครั้งเดียว ซาซากิ มีอาชีพเชฟอาหารเมนูสุดท้าย ให้คนที่กำลังจะตาย ด้วยโชคชะตา ซาซากิ ได้รับการว่าจ้างจากยอดเชฟ ให้ทำอาหารเมนูสุดท้าย ที่อยู่ในความทรงจำของยอดเชฟมาตลอด 70 ปี ซาซากิได้รับข้อเสนอเป็นค่าจ้างที่สูงถึง 50 ล้านเยน โดยมีเงื่อนไขว่า เขาจะต้องตามหาสูตรเมนูอาหารที่หายสาปสูญไปให้เจอ และปรุงรสชาติให้ได้เหมือนต้นฉบับ ซาซากิ จึงเริ่มออกเดินทางเพื่อตามหา รสชาติที่หายไป จนกลายเป็นการเดินทางที่เยียวยาหัวใจตัวเองโดยไม่รู้ตัว

          ด้วยพลอตเรื่องที่ลึกซึ้งกินใจ ทำให้หนังเปิดตัวอันดับ 3 ที่ญี่ปุ่น เป็นรองเพียงแค่ THOR RAKNAROK และ IT เท่านั้น ร่วมด้วยทีมนักแสดงระดับแถวหน้าของญี่ปุ่น นำทีมโดย นิโนะมิยะ คาซึนาริ จาก Letters from Iwo Jima โก อายาโนะ จาก กัสซึ ฮิเดโทชิ นิชิจิมา จาก The Wind Rises ยูทากะ ทาเคโนะอุชจิ จาก ซีรีย์ With Love และ อาโออิ มิยาซากิ จาก NANA

          โดย The Last Recipe ถ่ายทำใน 2 ประเทศทั้งญี่ปุ่นและจีน นักแสดงทุกคนฝึกทำอาหารกับเชฟมิชลินตัวจริง เพื่อถ่ายทอดเมนูอาหารกว่า 112 เมนูในภาพยนตร์ให้ออกมาดูอร่อย เหมือนต้นฉบับมากที่สุด ภาพยนตร์แบ่งเรื่องราวออกเป็นสองยุค ในยุคปี 2002 จะเน้นไปที่เรื่องราวของซาซากิ มิตสึรุ ที่ได้ได้นิโนะมิยะ คาซึนาริ และยุคปี 1930 ที่เป็นเรื่องราวของยามากาตะ นาโอะทาโร่ รับบทโดยนิชิจิมะ ฮิเดโทชิ ซึ่งการถ่ายทำแต่ละฉากก็ใช้เวลาร่วมเดือน โดยฉากของภาพยนตร์จะเป็นโตเกียวในศตวรรษที่ 21 และแมนจูเรียช่วงก่อนสงครามโลก ซึ่งด้วยฉากของเรื่องราวมีขนาดใหญ่ จึงต้องมีการถ่ายทำแยกเหมือนเป็นภาพยนตร์สองเรื่องอย่างพิถีพิถันต่อเนื่องกันไป

          1 กุมภาพันธ์นี้ เตรียมหัวใจรับความอร่อยพร้อมกันในโรงภาพยนตร์

FB on January 30, 2018, 03:55:29 PM
ทุกเสียงการันตีความซึ้ง เชฟฟาง ณัฐพงศ์ , กันน์ ( The Face Men ) นำทีมคนรักอาหรญี่ปุ่น ยืนยัน The Last Recipe สูตรลับเมนูยอดเชฟ หนังญี่ปุ่นที่ประทับใจแห่งปี









           มงคล ซีนีม่า และ โรงภาพยนตร์ พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ร่วมจัดงานเปิดตัว ภาพยนตร์สุดประทับใจที่มีอาหารเป็นสื่อกลางความรักที่ยิ่งใหญ่ ในงานเปิดตัว ภาพยนตร์ "The Last Recipe สูตรลับเมนูยอดเชฟ" ภาพยนตร์ญี่ปุ่น ที่ได้ผู้กำกับฝีมือดี ยากิตะ โยจิโร่ เจ้าของรางวัลออสการ์เพียง 1 เดียวของประเทศญี่ปุ่น จากภาพยนตร์เรื่อง Departures มารับหน้าที่กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ โดย The Last Recipe ได้เล่าเรื่องราวของ เชฟ ซาซากิ มิตสึรุ รับบทโดย นิโนมิยะ คาซึนาริ เชฟอัจฉริยะ ที่จดจำรสชาติอาหารและวัตถุดิบที่ทำได้ภายในการชิมเพียงครั้งเดียว ซาซากิ มีอาชีพเชฟอาหารเมนูสุดท้าย ให้คนที่กำลังจะตาย ด้วยโชคชะตา ซาซากิ ได้รับการว่าจ้างจากยอดเชฟ ให้ทำอาหารเมนูสุดท้าย ที่อยู่ในความทรงจำของยอดเชฟมาตลอด 70 ปี ซาซากิได้รับข้อเสนอเป็นค่าจ้างที่สูงถึง 50 ล้านเยน โดยมีเงื่อนไขว่า เขาจะต้องตามหาสูตรเมนูอาหารที่หายสาปสูญไปให้เจอ และปรุงรสชาติให้ได้เหมือนต้นฉบับ ซาซากิ จึงเริ่มออกเดินทางเพื่อตามหา รสชาติที่หายไป จนกลายเป็นการเดินทางที่เยียวยาหัวใจตัวเองโดยไม่รู้ตัว

          โดยในงานเปิดตัวภาพยนตร์เต็มไปด้วยบรรยากาศคนรักหนังญี่ปุ่นและผู้ที่ชื่นชอบภาพยนตร์เกี่ยวกับอาหารมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง และก่อนชมทาพยนตร์ยังได้มี โชว์ทำอาหารญี่ปุ่นเมนูพิเศษจากร้านโชนันที่ผสมผสานความอร่อยไว้อย่างลงตัว มีโดย คุณเกรท สพล เชฟฟาง ณัฐพงศ์ และ คุณมิวซ์ ณัฐวิทย์ ร่วมแสดงโชว์

          " ผมไม่ค่อยได้ดูหนังในโรงภาพยนตร์ แต่หลังจากดูหนังเรื่องนี้ พบว่านี่คือหนังที่พิเศษมากมีเรื่องอาหารที่น่าทึ่ง และที่มากกว่านั้นคือเรื่องความสัมพันธ์ของผู้คนหนังซึ้งมากครับ " เชฟฟาง ณัฐพงศ์
          " มีซึ้งหลายฉาก เกรทว่าหนังดีกว่าที่เห็นในตัวอย่างเยอะมากสมแล้วที่ได้ ผู้กำกับ รางวัลออสการ์จาก Departures มากำกับ " คุณเกรท สพล
          " สนุกมากครับ ตายังแดงร้องไห้หลายฉากมาก ที่สำคัญอย่าปล่อยให้ท้องหิวก่อนดูหนังเรื่องนี้ เขาถ่ายอาหารได้น่ากินจริง ๆ " คุณมิวซ์ ณัฐวิทย์
          " ชอบที่ได้เห็นเทคนิคการทำอาหารหลายอย่าง คนรักอาหารห้ามพลาดจริง ๆ ครับเรื่องนี้ " คุณ กันน์ ( The Face Men )
          " นี่ไม่ใช่แค่หนังอาหารหรือหนังครอบครัว 8/10 หนังดีกว่าที่คิด " - อวยไส้แตกแหกไส้ฉีก"
          "8/10 แทรกข้อคิดเกี่ยวกับความสำคัญของครอบครัวและมิตรภาพได้อย่างกินใจ " -ทำเรื่องเล่นให้เป็นเรื่องใหญ่
          " หนังมีดีมากกว่าหนังอาหารช่วงท้าย ๆ ทำเอา น้ำตาซึม " โอกาวะ ชินทาโร่
          " ถ่ายอาหารได้สวยมากกจนท้องหิว แถมเชฟในหนังหล่อทุกคนเลยจ้า คุ้มค่า ! " แมวตัวนั้นนั่งดูหนังบนแถว C
          " นิโนะมิยะ แสดงดีคุ้มค่าที่รอคอย แฟนคลับไม่ผิดหวังแน่นอน " - AMNOS THAILAND

          " The Last Recipe สูตรลับเมนูยอดเชฟ " 1 กุมภาพันธ์ ในโรงภาพยนตร์

FB on February 04, 2018, 02:18:52 PM
The Last Recipe หนังโคตรดีอบอุ่นเกินกว่าที่คิด
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=Uhjz1Z3mgow" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=Uhjz1Z3mgow</a>