happy on April 20, 2017, 09:38:48 PM
ดีแทค ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2560 มีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง

20 เมษายน 2560 – ดีแทครายงานกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน (นิยามจากกำไรก่อนหักดอกเบี้ยจ่าย ภาษีนิติบุคคล ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย หรือ EBITDA ลบด้วยค่าใช้จ่ายในการลงทุน หรือCAPEX) ในไตรมาส 1/2560 ที่แข็งแกร่งคิดเป็น 2.4 พันล้านบาท โดยรายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่าย (IC) และกำไรสุทธิฟื้นตัวจากไตรมาสก่อนโดยอยู่ที่ 1.62 หมื่นล้านบาท และ 229 ล้านบาท ตามลำดับ
 
ในไตรมาสที่ 1/2560 EBITDA อยู่ที่ 6.9 พันล้านบาท ลดลง 5.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน อันเป็นผลมาจากการอุดหนุนค่าอุปกรณ์มือถือ และค่าใช่จ่ายการดำเนินงานของโครงข่าย (Network OPEX) อัตรากำไรก่อนหักดอกเบี้ยจ่าย ภาษีนิติบุคคล ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA Margin) เพิ่มขึ้น 110bps จากปีก่อน คิดเป็น 34.9% ของรายได้รวม ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายยังคงเพิ่มขึ้นเนื่องจากการลงทุนในโครงข่ายอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 1/2560 ลดลง 82% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน อย่างไรก็ตาม กระแสเงินสดจากการดำเนินงานยังคงแข็งแกร่งที่ 2.4 พันล้านบาท ลดลงจาก 2.6 พันล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน
 
ไตรมาส 1/2560 ดีแทคยังคงลงทุนอย่างหนักในโครงข่ายเพื่อรองรับการเติบโตของความต้องการใช้บริการข้อมูล จำนวนสถานีฐานเพิ่มขึ้น 17,500 สถานีจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมีการขยายโครงข่าย 4G อย่างต่อเนื่อง และลูกค้าได้สัมผัสกับประสบการณ์การใช้อินเทอร์เน็ตบนมือถือที่ดีขึ้นบนเครือข่ายของดีแทค นอกเหนือจากนี้ ดีแทคได้สร้างปรากฏการณ์ด้วยการนำซูเปอร์สตาร์ชื่อดังมาเป็นตัวแทนถ่ายทอดประสบการณ์ Super 4G ที่ลื่นไหล ไม่สะดุด เป็นครั้งแรกบนภาพยนตร์โฆษณาทางทีวีและแคมเปญตามสื่อดิจิทัลต่างๆ ในชุด "ลื่น...จ๊ะ" เพื่อเสริมสร้างการรับรู้ภาพลักษณ์ของโครงข่าย ความพอใจของลูกค้าต่อคุณภาพโครงข่ายดีแทคที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการสำรวจของหลายบริษัท อีกทั้งดีแทคยังได้เปิดตัวแบรนด์แพลตฟอร์ม 'FLIP IT – แค่พลิก ชีวิตก็ง่าย' เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับตำแหน่งทางการตลาด และสร้างความแตกต่างฉีกตัวเองจากบริษัทคู่แข่งต่างๆ รวมถึงการเปิดตัวของแพ็กเกจ "Go โน ลิมิต" และซิมเติมเงิน "Go เพลิน" 

แคมเปญทั้งสองได้ช่วยสนับสนุนการเติบโตในส่วนของรายได้จากบริการระบบรายเดือน โดยมีจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นทั้งสิ้น 195,000 เลขหมายระหว่างไตรมาสแรกของปี 2560 นอกเหนือจากนี้ ในส่วนของรายได้จากบริการระบบเติมเงินเริ่มที่จะมีเสถียรภาพดังเห็นได้จากรายได้เฉลี่ยจากการให้บริการต่อวันที่ค่อนข้างคงที่เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน

นอกจากนี้ ดีแทคได้ปรับปรุงโปรแกรมดีแทค รีวอร์ด เพื่อสร้างความภักดีต่อสินค้าให้กับผู้ใช้บริการดีแทค และในเวลาเดียวกันเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของการใช้จ่ายให้ดีขึ้นดังเห็นได้จากค่าใช้จ่ายทางการขายและการตลาดที่ลดลง

ณ สิ้นไตรมาสที่ 1/2560 ฐานจำนวนผู้ใช้บริการอยู่ที่ 24.3 ล้านเลขหมาย มากกว่า 96% ของจำนวนนี้ได้ลงทะเบียนภายใต้ดีแทคไตรเน็ต (DTN) เรียบร้อยแล้ว ซึ่งดีแทคไตรเน็ตเป็นบริษัทย่อยที่ถือใบอนุญาตให้บริการคลื่น 2100 MHz จาก กสทช. รายได้จากการให้บริการข้อมูลยังคงเติบโตแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง คิดเป็น 64% ของรายได้รวมจากการให้บริการไม่รวม IC ดีแทคถือครองคลื่นความถี่ที่แข็งแกร่งโดยมีแบนด์วิดท์กว้างถึง 50 MHz และให้บริการ Super 4G บนคลื่น 1800MHz กว้างสุด 20 MHz บนคลื่นเดียว ทำให้ดีแทคอยู่ในสถานะที่ดีที่สามารถรองรับการเติบโตของความต้องการด้านข้อมูลและสามารถให้บริการไร้สายที่ดีที่สุดต่อลูกค้าบนเทคโนโลยีโครงข่าย 2G/3G/4G

ดีแทคยังคงประเมินแนวโน้มปีพ.ศ. 2560 ดังนี้ (1) รายได้จากการบริการไม่รวม IC อยู่ในระดับเดียวกันกับปีก่อน (2) EBITDA อย่างน้อยอยู่ในระดับเดียวกันกับปีก่อน และ (3) CAPEX อยู่ในช่วง 1.7 – 2  หมื่นล้านบาท


นายลาร์ส นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า "เรายังคงเห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องของรายได้จากการให้บริการข้อมูลและส่วนของรายได้จากบริการระบบรายเดือน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องของคุณภาพโครงข่ายและการรับรู้ภาพลักษณ์ของเรา ในส่วนของรายได้จากบริการระบบเติมเงินเริ่มที่จะมีเสถียรภาพดังเห็นได้จากการเติบโตของรายได้เฉลี่ยต่อวันที่ค่อนข้างคงที่เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน การเปิดตัวแคมเปญภาพยนตร์โฆษณาในชุด "ลื่น...จ๊ะ" และแบรนด์แพลตฟอร์ม 'FLIP IT – แค่พลิก ชีวิตก็ง่าย' ได้ช่วยส่งเสริมความแข็งแกร่งของการรับรู้ภาพลักษณ์ของโครงข่าย และตำแหน่งทางการตลาดของเรา และยังช่วยทำให้ดีแทคเป็นแบรนด์ดิจิทัลอันดับ 1 ของประเทศไทยภายในปีพ.ศ. 2563 นอกเหนือจากนี้ เรายังคงลงทุนอย่างหนักในโครงข่ายเพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าของเราจะได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้บริการอินเทอร์เน็ตบนมือถือ ท้ายที่สุดนี้ค่ากระแสเงินสดและฐานะทางการเงินของเรายังคงแข็งแกร่ง"



dtac continues to deliver strong operating cash flow

April 20, 2017 – dtac reports a solid operating cash flow (defined as EBITDA – CAPEX) of THB2.4 billion in the first quarter of 2017. Service revenues excluding IC and net profit rebounded from last quarter to THB 16.2 billion and THB 229 million, respectively.
 
EBITDA amounted to THB 6.9 billion in the first quarter of 2017, declining 5.9%YoY as a result of higher handset subsidies and network OPEX. EBITDA margin improved 110bps from last year to reach 34.9% of total revenues. Depreciation and amortization expenses continued to rise due to continuous investment in the network. Consequently, net profit for Q117 declined 82% from the same period last year. However, operating cash flow remained solid at THB 2.4 billion, down from THB 2.6 billion in the same period last year.
 
In the first quarter of 2017, dtac continued to invest heavily in the network to serve increasing demand for data services. The number of base stations increased 17.5k from the same period last year. 4G network continued to expand and customers enjoyed better mobile Internet experiences on our network. Furthermore, dtac launched the 'Smoothest' advertising campaign to strengthen network perception. Customers' satisfaction with our network quality continued to improve as indicated by several third-party surveys. Moreover, dtac introduced the 'Flip It' brand platform to solidify its market position and differentiate itself from competitors, together with the launch of 'Go No Limit' price plans and 'Go Plearn' prepaid SIM.
 
Both campaigns helped to sustain strong growth in postpaid segment, with 195k net additional subscribers, and data service during the first quarter of 2017. In addition, prepaid segment started to stabilize as indicated by flattish QoQ development of average daily service revenues.
Furthermore, dtac has revamped its dtac Reward program in order to build loyalty among the subscriber base, and at the same time improve the efficiency of its spending, as shown by lower selling and marketing expenses.
 
At the end of the first quarter, total subscriber base stood at 24.3 million, more than 96% of which had already been registered under DTN, a subsidiary holding the 2.1GHz license from NBTC. Revenue from data services continues to grow strongly, reaching 64% of service revenues excluding IC. dtac, with a strong spectrum portfolio of 50MHz bandwidth and the largest contiguous bandwidth in the 1800MHz frequency band, is well positioned to capture the growth of data demand and provide best wireless services to its customer base on 2G/3G/4G technologies.
 
dtac maintains the outlook for 2017, comprising (1) service revenue excluding IC at the same level as last year, (2) EBITDA at least at the same level as last year, and (3) CAPEX in the range of THB 17 – 20 billion.


Lars Norling, dtac's Chief Executive Officer, said "We continue to see strong growth in revenues from data services and postpaid segment, which indicates the continuing improvement in our network quality and perception. Our prepaid segment also starts stabilizing as indicated by a flattish QoQ development in average daily revenue. The launch of the 'Smoothest' network advertising campaign and the 'Flip It' brand platform will further strengthen our network perception and market position, and help make dtac become the No. 1 digital brand in Thailand in 2020.  Moreover, we continue investing heavily in our network to ensure that our customers have the best mobile Internet experience. Finally, our cash flow and financial position remain strong."