จีเอ็ม และเอสเอไอซี ประกาศการร่วมทุน เพื่อขยายกิจการในตลาดเอเชีย
ร่วมก่อตั้งบริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส เอสเอไอซี อินเวสต์เมนต์ ลิมิเต็ด บนเกาะฮ่องกง
เดินหน้ายกระดับทรัพยากรบริษัทในอินเดียพร้อมส่งแผนกลยุทธ์ใหม่เจาะตลาดประเทศเศรษฐกิจที่กำลังเติบโต
เซี่ยงไฮ้ – กลุ่มบริษัท เซี่ยงไฮ้ ออโตโมทีฟ อินดัสตรี หรือ เอสเอไอซี และบริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอมพานี ประกาศการขยายความร่วมมือเพื่อพัฒนาและขยายการลงทุนในประเทศเศรษฐกิจกำลังเติบโตในภูมิภาคเอเชีย
จีเอ็ม และเอสเอไอซี ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่ปัจจุบันมีธุรกิจร่วมทุนอยู่ถึง 8 บริษัทในประเทศจีน ได้บรรลุข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการลงทุนร่วมกันในสัดส่วน 50-50 ด้วยการก่อตั้งบริษัท
เจนเนอรัล มอเตอร์ส เอสเอไอซี อินเวสต์เมนต์ ลิมิเต็ด (General Motors SAIC Investment Limited) โดยมีศูนย์กลางการปฏิบัติงานอยู่ในฮ่องกง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับการขยายกิจการของบริษัท นอกจากนี้ยังได้ประกาศแผนกลยุทธ์การยกระดับทรัพยากรในด้านต่างๆ เพื่อสนับสนุนความร่วมมือในการขยายกิจการดังกล่าวไปยังตลาดประเทศเศรษฐกิจที่กำลังเติบโตทั่วเอเชียโดยเริ่มจากอินเดียเป็นที่แรก
ด้วยพื้นฐานของตลาดอินเดียอันประกอบด้วยศักยภาพอันเข้มแข็งในการเจริญเติบโตของอุตสาหกรรม ยานยนต์ในระยะยาว ทั้ง จีเอ็ม และเอสเอไอซี ได้ร่วมกันพัฒนากลยุทธ์สำหรับการลงทุนเพื่อตลาดส่วนนี้ โดยเน้นการใช้ประโยชน์จากโรงงานผลิตยานพาหนะ 2 แห่งของจีเอ็ม และโรงงานผลิตเครื่องยนต์ขับเคลื่อนพาวเวอร์เทรนในประเทศอินเดีย รวมถึงเครือข่ายการจัดจำหน่ายรถยนต์ของจีเอ็มที่มีอยู่แล้วภายในประเทศ เพื่อสร้างความร่วมมือทางธุรกิจรูปแบบใหม่ให้มีความมั่นคงยิ่งขึ้น
รถยนต์โมเดลเล็กจากจีเอ็ม เซี่ยงไฮ้ และยานยนต์เพื่อการพาณิชย์ขนาดย่อมของ เอสเอไอซี-จีเอ็ม-วู่หลิง ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตร่วมทุนของจีเอ็ม และเอสเอไอซี ในประเทศจีน จะถูกผลิตขึ้นเพื่อการจำหน่ายในตลาดอินเดีย โดยรถยนต์เหล่านี้จะได้รับการรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสายผลิตภัณฑ์ยานยนต์ที่ขายในตลาดทั่วโลกของจีเอ็ม เพื่อยังผลให้จีเอ็ม อินเดีย สามารถถีบตัวขึ้นมาเป็นตลาดที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในเซกต์เมนต์ของรถโมเดลเล็กนี้ได้อย่างชัดเจน การก่อตั้งบริษัทร่วมทุนในอินเดียครั้งนี้คาดว่าจะได้รับการสรุปแล้วเสร็จอย่างเป็นทางการภายในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2553 และทางจีเอ็มเชื่อว่าการผลิตรถยนต์หลากหลายโมเดลเพิ่มเติม รวมถึงศักยภาพในการเติบโตของกิจการจะมีส่วนผลักดันให้เกิดอัตราการจ้างงานที่สูงขึ้นในประเทศอินเดีย
“ความผันผวนของเศรษฐกิจทั่วโลกได้สร้างโอกาสใหม่ๆ มากมายให้กับตลาดประเทศเศรษฐกิจกำลังเติบโตใหม่” มร. หู เหมาหยวน กรรมการของเอสเอไอซี ให้ความเห็น “ด้วยแนวทางการยกระดับทรัพยากรอันเป็นข้อได้เปรียบในแต่ละด้านสำหรับบริษัทร่วมทุนในจีนของเรา ทำให้ทั้ง เอสเอไอซี และจีเอ็ม สามารถรั้งตำแหน่งอันแข็งแกร่งในอุตสาหกรรมเพื่อการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่สามารถแข่งขันได้ดีออกสู่ตลาดนอกประเทศจีน อีกทั้งยังตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในอินเดียและตลาดที่มีศักยภาพสูงอื่นๆ ได้อย่างตรงจุด”
“กว่าทศวรรษที่ผ่านมา จีเอ็ม และเอสเอไอซี ได้ร่วมกันสร้างหนึ่งในความร่วมมือทางธุรกิจในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก” มร. นิค ไรลีย์ รองประธานบริหารของจีเอ็ม และประธานกรรมการ จีเอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล โอเปอเรชั่นส์ (จีเอ็มไอโอ) กล่าว “โดยทั้งสองบริษัทได้ตัดสินใจร่วมกันว่าขณะนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมในการสานต่อความร่วมมือที่มีความก้าวหน้าไปกว่ากิจการภายในประเทศจีนเพื่อเป็นการพัฒนาความสัมพันธ์ทางด้านธุรกิจของเราให้มีความเจริญก้าวหน้าตามนโยบายการสร้างความเติบโตทางธุรกิจในระยะยาวของแต่ละบริษัท”
ทั้งสองบริษัทได้บรรลุถึงข้อตกลงที่ทางจีเอ็มจะทำการปันส่วน 1 เปอร์เซนต์ของผลประโยชน์จากจีเอ็ม เซี่ยงไฮ้ให้กับเอสเอไอซี มอเตอร์ ซึ่งเป็นข้อผูกพันที่จะช่วยให้ทางบริษัทยานยนต์ชั้นนำของประเทศจีนสามารถรวมผลกำไรจากจีเอ็มเข้ากับทางเอสเอไอซี มอเตอร์ได้ โดยจะเอื้อประโยชน์ให้ทางนักลงทุนผู้มีความสนใจได้เข้าใจถึงสภาพการณ์ของธุรกิจร่วมทุนนี้ได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น โดยฝ่ายบริหารของจีเอ็ม เซี่ยงไฮ้ จะยังคงเป็นผู้ดำเนินการรับผิดชอบในส่วนของโครงสร้างการจัดการของกิจการที่มีอยู่รวมถึงภาคการปฏิบัติการของบริษัทร่วมทุนใหม่นี้อีกด้วย
จีเอ็ม และเอสเอไอซี ได้ริเริ่มความร่วมมือซึ่งกันและกันเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2540 ซึ่งในขณะนั้นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ทั้งสองได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัท จีเอ็ม เซี่ยงไฮ้และบริษัท แพน เอเชีย เทคนิคอล ออโตโมทีฟ เซ็นเตอร์ (PATAC) อันเป็นบริษัทร่วมทุนทางด้านวิศวกรรมและการออกแบบ หลังจากนั้นได้มีการเปิดตัวธุรกิจร่วมทุนอีกถึง 6 บริษัท อาทิ เอสเอไอซี-จีเอ็ม-วู่หลิง จีเอ็มเอซี-เอสเอไอซี ออโตโมทีฟ ไฟแนนซ์ คอมพานี – บริษัทด้านการเงินเพื่อธุรกิจยานยนต์ที่ได้รับการอนุมัติแห่งแรกของประเทศจีน และเซี่ยงไฮ้ ออนสตาร์ เทเลเมติคส์ – บริษัทให้บริการด้านความปลอดภัยภายในยานพาหนะ รวมถึงความมั่นคงและการสื่อสารสำหรับรถยนต์จากจีเอ็ม เซี่ยงไฮ้ในบางรุ่น โดยจะเริ่มเปิดดำเนินการในเดือนนี้เป็นต้นไป
ตั้งแต่เริ่มการผลิตทั่วไปในปี 2542 ยอดขายของจีเอ็ม เซี่ยงไฮ้ได้เติบโตขึ้นมากกว่า 22 เท่า โดยเมื่อสิ้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาของปีนี้ จีเอ็ม เซี่ยงไฮ้ สามารถทำยอดขายรถยนต์ภายในประเทศรวมถึง 2,973,411 คัน สำหรับบริษัท เอสเอไอซี-จีเอ็ม-วู่หลิง นับตั้งแต่การก่อตั้งบริษัทเมื่อปี 2545 สามารถสร้างความเติบโตของยอดขายภายในประเทศได้มากกว่า 4 เท่า และจนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน ปี 2552 นี้ มียอดจัดจำหน่ายรถยนต์รวมคิดเป็น 3,384,848 คัน โดยบริษัทได้รับการจัดอันดับให้เป็นผู้ผลิตรถเพื่อการพาณิชย์ขนาดย่อมชั้นนำ 3 ปีซ้อนของจีน นอกจากนี้ ทาง PATAC ยังได้มีบทบาทสำคัญในการยกระดับนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ยานยนต์ในตลาดโลกสำหรับบริษัทร่วมทุนทั้งสองที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดท้องถิ่นต่างๆ รวมถึงกฎข้อบังคับและข้อกำหนดในการขับขี่
เกี่ยวกับ เจนเนอรัล มอเตอร์ส: เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอมพานี หนึ่งในบริษัทผู้ผลิตรถที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2451 ปัจจุบันมีการผลิตรถยนต์และรถปิกอัพใน 34 ประเทศ สำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองดีทรอยท์ โดยมีพนักงาน 209,000 คนในทุกภูมิภาคสำคัญทั่วโลก มีการจำหน่าย และการบริการใน 140 ประเทศ ภายใต้แบรนด์ชื่อดัง ทั้ง บูอิค คาดิลแลค เชฟโรเลต จีเอ็มซี จีเอ็มแดวู โฮลเดน โอเปิล วอกซ์ฮอลล์ และวูลิง ตลาดที่ใหญ่ที่สุดของจีเอ็ม อยู่ในสหรัฐอเมริกา ตามมาด้วยจีน บราซิล สหราชอาณาจักร แคนาดา รัสเซีย และเยอรมนี ขณะที่ออนสตาร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทภายใต้เครือจีเอ็ม ก็ถือเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมความปลอดภัย ความมั่นคง และข้อมูลด้านยานยนต์ เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอมพานี เป็นบริษัทที่ก่อตั้งมาจากหน่วยงานที่แข็งแกร่งที่สุดของเจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม 2552 และเอกสารอ้างอิงสำหรับช่วงก่อนหน้านี้ และข่าวสารอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานของเจนเนอรัล มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่นเดิม สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเข้าเยี่ยมชมที่
www.gm.com