happy on November 24, 2016, 08:22:54 PM
มหกรรมเรือสำราญและมารีน่า ไทยแลนด์ ยอชท์ โชว์ ครั้งที่ 2
กลับมาสร้างความยิ่งใหญ่อีกครั้ง
พบกัน 15-18 ธันวาคมนี้ ที่ อ่าวปอ แกรนด์มารีน่า ภูเก็ต

ร่วมสัมผัสขบวนซูเปอร์ยอชท์ กีฬาทางน้ำระดับหรู สินค้าลักชัวรี่ และงานสังสรรค์ของบุคคลระดับวีไอพี
รัฐบาลไทยร่วมหนุนมหกรรมมารีน่า ผลักดันภูเก็ตเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางทะลแห่งเอเชีย

บรรยายภาพ (จากซ้าย) แอนดี้ เทรดเวลล์ กรรมการผู้จัดการ งานไทยแลนด์ ยอชท์ โชว์ กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และนพดล ภาคพรต รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ถ่ายภาพร่วมกันในงานแถลงข่าวและพรีวิวรอบสื่อมวลชน มหกรรมเรือสำราญและมารีน่าไทยแลนด์ ยอช์ท โชว์ 2016 ณ โรงแรม บันยันทรี กรุงเทพฯ

มหกรรมเรือสำราญและมารีน่า ไทยแลนด์ ยอชท์ โชว์ ครั้งที่ 2 ประจำปี 2559 กำหนดจัดขึ้นอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 15-18 ธันวาคม 2559 ณ อ่าวปอ แกรนด์มารีน่า ภูเก็ต โดยได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยพันธมิตรหลักการจัดงานคือกระทรวงคมนาคม และ กรมเจ้าท่า ร่วมนำเสนอความยิ่งใหญ่ของอุตสาหกรรมมารีน่าระดับหรูในเมืองไทยที่รวบรวมเรือยอชท์และเรือใบระดับพรีเมียร์ รวมถึงซูเปอร์ยอชท์ และแบรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์ระดับหรูอย่างครบครัน สืบเนื่องจากความสำเร็จอันงดงามของการจัดงานในครั้งแรก ทำให้แบรนด์ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายชั้นนำระดับโลกจำนวนมาก ต่างยืนยันจะนำผลิตภัณฑ์ไฮเอนด์ระดับซูเปอร์ลักชัวรี่มาจัดแสดง เพื่อสร้างสีสันให้งานในปีนี้ยิ่งทวีความยิ่งใหญ่ตระการตากว่าครั้งที่ผ่านมา

ภายในงานแถลงข่าวไทยแลนด์ ยอชท์ โชว์ 2016 ที่กรุงเทพฯ วันนี้ได้รับเกียรติจาก นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายนพดล ภาคพรต รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, มร.แอนดี้ เทรดเวลล์ กรรมการผู้จัดการ งานไทยแลนด์ ยอชท์ โชว์ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ข้าราชการระดับสูงและนักธุรกิจชั้นนำเข้าร่วมงาน เพื่อประกาศการจัดงานอย่างเป็นทางการในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ และแสดงจุดยืนร่วมกันในการพัฒนาให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของธุรกิจการท่องเที่ยวทางทะเลแห่งเอเชียในอนาคต

ประเทศไทยจะได้รับประโยชน์ทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล จากการพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทางทะเล โดยมีหลักฐานระบุชัดเจนว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแบบเรือยอชท์มีการใช้จ่ายสูงกว่าการท่องเที่ยวในรูปแบบอื่นๆ ซึ่งโดยเฉลี่ย ซูเปอร์ยอชท์จะมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 1-2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 35.45 – 70.9 ล้านบาท) ต่อหนึ่งฤดูกาลในประเทศที่จอดเทียบท่า



นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า การสนับสนุนของรัฐบาลต่องานครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากส่งผลกระทบอย่างมากถึงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทางทะเลและประโยชน์ของพี่น้องประชาชนโดยรวม “เราเชื่อมั่นว่า งานไทยแลนด์ ยอชท์ โชว์ จะช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย และจะนำมาซึ่งผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจโดยตรงแก่ธุรกิจต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเป็นการส่งเสริมการสร้างงานที่ก่อให้เกิดรายได้อย่างยั่งยืน และการพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐานในพื้นที่ไปพร้อมๆ กัน” 

นายนพดล ภาคพรต รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวย้ำถึงบทบาทของงานไทยแลนด์ ยอชท์ โชว์ในการส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวระดับหรูว่า “การจัดงานในครั้งนี้เป็นไปตามแผนวิสาหกิจของ ททท. ที่ต้องการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวกลุ่มศักยภาพสูง และเป็นยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศไทยให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับคุณภาพ ททท. มั่นใจว่าการจัดงานมหกรรมเรือสำราญและมารีน่า  ครั้งที่ 2 (Thailand Yacht Show 2nd Edition) ที่จะเกิดขึ้นในเดือนธันวาคมนี้ จะทำให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวกลุ่มเรือสำราญที่สำคัญของภูมิภาค โดยคาดว่าจะมีส่วนในการกระตุ้นอัตราการนำเรือสำราญเข้ามาท่องเที่ยว และทำธุรกิจต่างๆ ในประเทศไทยได้ไม่ต่ำกว่า 2,500 ลำ ในปี 2560 ซึ่งจะสามารถส่งผลให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจประมาณ 7,000 ล้านบาทในธุรกิจที่เกี่ยวข้องทั้งหมด” 

งานไทยแลนด์ ยอช์ท โชว์ นำเสนอโดยผู้จัดงานสิงคโปร์ ยอช์ท โชว์ ซึ่งทั้งสองงานถือเป็นกิจกรรมครั้งสำคัญในอุตสาหกรรมมารีน่าระดับภูมิภาค ในขณะที่สิงคโปร์เป็นศูนย์กลางธุรกิจหลักของเอเชียซึ่งเต็มไปด้วยนักธุรกิจผู้มั่งคั่งจากทั่วภูมิภาค ประเทศไทยถือเป็นจุดหมายปลายทางด้านธุรกิจเรือยอชท์ที่ใหญ่และดีเยี่ยมที่สุด ด้วยจุดแข็งด้านบริการต้อนรับชั้นเลิศและภูมิประเทศที่สวยงามโดดเด่นเหมาะสมกับการล่องเรืออย่างมาก ทำให้ มร. เทรดเวลล์เชื่อมั่นว่า ประเทศไทยจะสามารถก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางธุรกิจเรือยอชท์ได้อย่างง่ายดายซึ่งนักเดินทางสามารถมาจอดเทียบท่าและเพลิดเพลินกับกิจกรรมไลฟ์สไตล์ได้ที่นี่ โดย มร. เทรดเวลล์ยังมีความมุ่งมั่นในการจัดงานที่ชัดเจนว่า “เราต้องการทำให้ประเทศไทยเป็นมหานครแห่งเรือยอชท์และเรือใบแห่งเอเชีย และเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมช่วงฤดูหนาวของกลุ่มเจ้าของเรือซูเปอร์ยอชท์ระดับโลก ปัจจุบันมีเรือซูเปอร์ยอชท์ 5,000 ลำที่มีราคาสูงเกิน 30 ลำ แต่มีเพียง 35 ลำที่มาเยือนเมืองไทยในฤดูหนาวที่ผ่านมา ซึ่งภายในระยะเวลา 2-3 ปีนี้ เราจะเพิ่มจำนวนเรือที่มาเยือนให้มากถึง 200 ลำ เพื่อดึงดูดการใช้จ่ายเงินดอลลาร์ที่นี่แทนแถบแคริบเบี้ยน”   







งานไทยแลนด์ ยอชท์ โชว์ ครั้งแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีแบรนด์ชั้นนำมากกว่า 70 แบรนด์มาจัดแสดงสินค้าและบริการ ด้วยจำนวนเรือยอชท์และเรือใบระดับไฮเอนด์มากกว่า 40 ลำ ดึงดูดผู้เข้าชมงานถึง 4,700 คน สำหรับการจัดงานในครั้งที่ 2 นี้จะมีทัพเรือยอชท์ระดับพรีเมียร์และแบรนด์ระดับหรู รวมถึงกิจกรรมที่น่าสนใจตั้งแต่การจัดแสดงซูเปอร์ยอชท์และการเปิดตัวเรือรุ่นล่าสุดอีกมากมาย เพื่อมอบความยิ่งใหญ่ตระการที่สมบูรณ์แบบ โดยผู้เข้าชมงานยังสามารถสัมผัสและทดสอบการแล่นเรือใบและล่องเรือยอชท์ของแบรนด์ชั้นนำอย่าง Lee Marine, Boat Lagoon Yachting, Simpson Marine, Asia Marine, Multihull Solutions, Hong Seh, Leopard Catamarans and BURGESS Yachts ฯลฯ โดยหนึ่งในไฮไลท์ของงานครั้งนี้คือการต้อนรับการกลับมาของเรือ Ocean Emerald ซึ่งเป็นเรือระดับมาสเตอร์พีซออกแบบโดยนอร์แมน ฟอสเตอร์ ถือเป็นสุดยอดเรือยอช์ทแนวร่วมสมัยที่เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันและบริการมื้ออาหารระดับหรูบนเรือโดยเชฟระดับมิเชลินสตาร์ รวมถึงการจัดแสดงเรือ Forwin ซูเปอร์ยอช์ทรุ่น Sanlorenzo 46Steel ที่ผลิตในประเทศอิตาลีกับการปรับรูปโฉมใหม่หมดจด และการเปิดตัวเรือ Galeon 460 Flybridge รุ่นใหม่ล่าสุดครั้งแรกของเอเชียภายในงานครั้งนี้

ด้วยทำเลการจัดงานที่ดีเยี่ยมของ อ่าวปอ แกรนด์มารีน่า ที่ออกสู่อ่างพังงาได้อย่างสะดวกสบาย และบริการจากเรือระดับหรูมากมายที่เข้าร่วมในงานนี้ ทำให้ผู้ซื้อรายใหญ่สามารถโดยสารล่องเรือชมความงดงามของท้องทะเลได้ทุกวันตลอดการจัดงาน โดย HYPE เรือคาตามารันยอดนิยม จะให้บริการในรูปแบบของเลานจ์ลอยน้ำสุดหรู พาล่องทะเลรอบเช้าทุกวัน เพื่อไปชมเกาะต่างๆ ที่สวยงามในอ่าวพังงา พร้อมกิจกรรมบนเรือมากมาย ทั้งการว่ายน้ำและดำน้ำสน็อกเกิล ถือเป็นการอุ่นเครื่องก่อนที่งานในแต่ละวันจะเริ่มต้นขึ้น รวมถึงการกลับมาอีกครั้งกับโซนกีฬาทางน้ำเอ็กซ์ตรีมสุดมันส์ Demonstration Platform ให้เพื่อมอบความสนุกสนานกับเครื่องเล่นแนวใหม่มากมาย ตั้งแต่ฟลายบอร์ดไปจนถึงเจ็ตสกี หรือเพลิดเพลินกับการแล่นเรือใบไปจนถึงแพดเดิลบอร์ดจาก Java Yachting หนึ่งในพันธมิตรจัดงานครั้งนี้