MSN on June 14, 2016, 09:17:59 AM
“วิชัย” คิง เพาเวอร์ ซื้อหุ้นไทยแอร์เอเชีย ร่วมกันสยายปีกต่อยอดธุรกิจ ธรรศพลฐ์เดินหน้าบริหารต่อบุคคลในภาพจากซ้ายไปขวา
1-2. นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ , นายวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์, นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย
3. นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ , นายวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์, นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย, นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และรองประธานกรรมการบริหารธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
4. นายวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์, นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย
5. พนักงานคิง เพาเวอร์, นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ , นายวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์, นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย, นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และรองประธานกรรมการบริหารธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) , พนักงานไทยแอร์ เอเชีย
6. พนักงานคิง เพาเวอร์ และพนักงานไทยแอร์ เอเชีย วิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานกรรมการกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ และครอบครัว ประกาศซื้อหุ้น บมจ. เอเชีย เอวิเอชั่น หรือ AAV (ซึ่งเป็นบริษัทที่ถือหุ้นร้อยละ 55 ของไทยแอร์เอเชีย) ในสัดส่วนร้อยละ 39 มูลค่ารวมประมาณ7,945 ล้านบาท จากธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ และครอบครัว หวังผนึกกำลัง 2 บริษัทยักษ์ใหญ่แห่งอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและคมนาคมเติบโตไปด้วยกัน โดยมีธรรศพลฐ์เดินหน้าบริหารไทยแอร์เอเชียต่อ และยืนยันแผนการขยายธุรกิจตามเป้าหมายเดิม
นายวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานกรรมการกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ เปิดเผยถึงเหตุผลในการเข้าซื้อหุ้น AAV ว่าเป็นการลงทุนในระยะยาวให้กับตนเองและครอบครัว ซึ่งคิดว่าจะสามารถใช้ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของเครือข่ายการค้าของ กลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ จากการทำธุรกิจในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมาต่อยอดและส่งเสริมซึ่งกันและกันกับธุรกิจของไทยแอร์เอเชีย เพื่อให้เติบโตต่ออย่างมั่นคง
โดยการเข้าซื้อหุ้น AAV ในครั้งนี้นายวิชัยได้มอบหมายให้นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา นายอภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา และนายสมบัตร เดชาพานิชกุล เข้ามารับตำแหน่งคณะกรรมการบริษัทเพื่อร่วมกำหนดวิสัยทัศน์และนโยบายกับไทยแอร์เอเชีย ร่วมกันกับการบริหารของนายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์และผู้บริหารชุดเดิม
ทั้งนี้ภายหลังจากการซื้อขายหุ้น AAV เสร็จสมบูรณ์ เพื่อให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ. 12/2554 เรื่องหลักเกณฑ์เงื่อนไข และวิธีการในการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ นายวิชัยจะทำคำเสนอซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของกิจการ (Mandatory Tender Offer) ส่วนที่เหลือจากผู้ถือหุ้นอื่นๆ ประมาณร้อยละ 60 ของหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมดของ AAV โดยมีราคาเสนอซื้อที่ 4.20 บาทต่อหุ้น มูลค่ารวมประมาณ 12,000 ล้านบาท โดยมีธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นที่ปรึกษาและสนับสนุนทางการเงิน ในการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ และได้ทำการยื่นแบบประกาศเจตนาในการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ (แบบ 247-3 ) แก่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ในช่วงเช้าของวันที่ 14 มิถุนายน นี้แล้ว พร้อมทั้งคาดว่าจะยื่นคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (แบบ247-4)อย่างเป็นทางการ ได้ในวันที่ 23 มิถุนายน นี้
ด้านนายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่าได้ตัดสินใจขายหุ้น AAV ในส่วนของตนเองและครอบครัว จากเดิมในสัดส่วนร้อยละ 44 ให้กับคุณวิชัยและครอบครัวศรีวัฒนประภาในสัดส่วนร้อยละ 39 ในราคา 4.20 บาทต่อหุ้น รวมกว่า 1,892 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าประมาณ 7,945ล้านบาท ซึ่งราคาดังกล่าวเป็นราคาที่สะท้อนถึงข้อจำกัดการถือครองหุ้นของสายการบินในประเทศไทย ตามกฏหมายอันเกี่ยวกับการเดินอากาศ ที่ได้กำหนดสัดส่วนการถือครองหุ้นว่า ผู้ถือหุ้นต้องเป็นบุคคลธรรมดาสัญชาติไทย ไม่น้อยกว่าร้อยละ 51 ซึ่งข้อจำกัดนี้ทำให้ยากที่จะหาผู้ที่มีความประสงค์และมีกำลังซื้อสูงพอที่จะซื้อหุ้น AAV เป็นจำนวนมากดังกล่าวได้
อย่างไรก็ตาม นายธรรศพลฐ์ยังคงถือหุ้นอยู่ที่ร้อยละ 5และมองว่าเป็นโอกาสดีของไทยแอร์เอเชียที่ได้พันธมิตรที่แข็งแกร่งมากในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมาช่วยต่อยอดธุรกิจให้เติบโตและมั่นคงขึ้น
"ขอให้ความมั่นใจว่า ผมและทีมงานผู้บริหารสายการบินยังคงทำหน้าที่บริหารของไทยแอร์เอเชียต่อไป และยังทุ่มเทในการทำงานเต็มที่เหมือนวันแรกที่เข้ามาบุกเบิกตลาดสายการบินราคาประหยัดในประเทศไทยเมื่อ 13 ปีก่อนและผ่านบทพิสูจน์มากมาย โดยไทยแอร์เอเชียยังยืนยันการลงทุนเพื่อการเติบโตตามแผนปี 2559 นี้ โดยจะรับเครื่องบินจนครบ 51 ลำ คาดการณ์ผู้โดยสารอยู่ที่ 17 ล้านคน พร้อมเจาะตลาดอาเซียน จีนและอินเดีย ซึ่งในส่วนนี้คาดว่าจะได้ความแข็งแกร่งของนายวิชัย และกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ เข้ามาช่วยสนับสนุนการขยายธุรกิจให้เติบโตในอัตราเร่งที่อาจจะมากกว่าเดิม
ทั้งนี้นายธรรศพลฐ์กล่าวว่า การซื้อขายหุ้นครั้งนี้ ทางโทนี่ เฟอร์นานเดส ผู้ก่อตั้งกลุ่มสายการบินแอร์เอเชียรับทราบและมีความเห็นสอดคล้องในการทำงานร่วมกันมองหาโอกาสใหม่เพื่อการเติบโต ที่มั่นคงกับนายวิชัยและครอบครัว รวมทั้งกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ ซึ่งเป็นองค์กรที่มีศักยภาพการบริหาร มีเครือข่ายการค้าการลงทุนที่เข้มแข็ง มีฐานะทางการเงินที่มั่นคง และเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับระดับโลก
นายโทนี่ เฟอร์นานเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มสายการบินแอร์เอเชีย กล่าวว่า การลงทุนที่เกิดขึ้นดังกล่าวเป็นการพิสูจน์ไทยแอร์เอเชียเป็นบริษัทที่มีมูลค่าเหมาะสมกับการลงทุน จากการที่มีครอบครัวนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จให้ความสนใจเข้ามาลงทุน การผสานพลังระหว่างแอร์เอเชียและกลุ่มคิง เพาเวอร์ บริษัทผู้ให้บริการสินค้าปลอดภาษีของประเทศไทย จะเป็นการเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจให้เติบโตขึ้น และเราก็พร้อมที่จะทำงานร่วมกัน ไม่ใช่แค่เพียงในประเทศไทย แต่จะขยายครอบคลุมไปทั่วภูมิภาคอาเซียน
ด้านนายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ ซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งคณะกรรมการบริษัทของ AAV และไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า ทั้ง2 บริษัทยังดำเนินนโยบายในธุรกิจหลักที่เข้มแข็ง แต่จะร่วมกันสร้างโอกาสใหม่ในธุรกิจ โดยเฉพาะการมีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ในตลาดประเทศจีนและกลุ่มอาเซียน ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งไทยแอร์เอเชียก็เป็นสายการบินที่มีเส้นทางบินเชื่อมไทย-จีน และขนส่งผู้โดยสารจีนมากที่สุดเช่นกัน การเพิ่มช่องทางจำหน่ายและกระจายสินค้าในธุรกิจค้าปลีกของกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ รวมทั้งการพัฒนาแบรนด์ร่วมกันในระดับนานาชาติ อย่างไรก็ตามความร่วมมือที่เกิดขึ้นจะยังตอกย้ำการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดทั้งด้านการช็อปปิ้งและการเดินทาง ด้วยมาตรฐานยอมรับที่เป็นสากล
« Last Edit: June 14, 2016, 10:58:50 PM by MSN »
Logged