หนังสือใหม่: นิทานนิสัยดี
"นิทานนิสัยดี" เป็นนิทานภาพ นำเสนอเรื่องราวระหว่างเพื่อนที่สนุกสนานมุ่งหวังให้เด็กๆ ซึมซับลักษณะนิสัยที่ดี ฝึกให้เด็กได้คิดวิเคราะห์ลักษณะนิสัยของตัวละครแต่ละตัว พร้อมทั้งแยกแยะได้ว่า พฤติกรรมใดควรทำและพฤติกรรมใดไม่ควรทำ ตามความเชื่อของนักเขียนผู้มีชื่อเสียงชาวจีน "หยางหงอิง"ที่ว่า "เด็กนิสัยดีจะเติบโตอย่างมีอนาคตที่ดี" ซึ่งนอกจากเรื่องราวสนุกสนานน่าติดตามแล้ว ยังมีภาพประกอบที่สวยงามสดสเหมาะกับเด็กๆในการเรียนรู้เป็นอย่างยิ่ง จัดพิมพ์เป็น 2 ชุด มี 10 เล่ม
ความโดดเด่นของนิทานชุดนี้ คือ มีเนื้อหาส่งเสริมทักษะสมองเพื่อชีวิตที่สำเร็จ Executive Functions (EF) ซึ่งเป็นกระบวนการในสมองส่วนหน้าของมนุษย์ทุกคน ที่ใช้ในการคิด รู้สึก และกำหนดการกระทำ ซึ่งได้รับการฝึกฝนพัฒนาจนเป็นทักษะสมอง ทำให้ "คิดเป็น ทำเป็น เรียนรู้เป็น แก้ปัญหาเป็น อยู่กับคนอื่นเป็น และมีความสุขเป็น"
โดยเฉพาะ "ฝันหวานบ้านคุกกี้" นั้น ได้รับเลือกจากคณะกรรมการคัดสรรหนังสือเด็ก สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย ว่ามีเนื้อหาที่ช่วยส่งเสริมทักษะสมอง EF ของเด็ก เพื่อฝึกฝนทักษะทั้งการริเริ่มวางแผน มีกระบวนการคิดไตร่ตรองอย่างรอบคอบ และลงมือปฏิบัติจริงจนประสบความสำเร็จ (Initiating, Planning & Organizing, Goal-directed Persistence และ Inhibitory Control)
1.ไปโรงเรียนกันเถอะ เรื่องนี้เน้นเรื่องการสร้างความสุขโดยการคิดบวกและการมองโลกในแง่ดี โดยนำเสนอเรื่องราวของหมูปุ๊กลุกในวันเปิดเทอมวันแรก เขามีเพื่อนคือ หมีปุย หมาบ๊อก แมวเหมียว และสองพี่น้องกระต่ายฟองและฝ้าย ที่เรียนหนังสือวิชาต่างๆ ด้วยกัน แต่ด้วยความหิว ทำให้หมูปุ๊กลุกตอบคำถามโดยนึกถึงแต่ของกิน เพื่อนๆ ต่างก็หัวเราะเยาะเขา แต่หมูปุ๊กลุกก็ไม่ถือโกรธ นั่นเป็นเพราะหมูปุ๊กลุกเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี
2.ก้อนเมฆห้าสี เรื่องนี้เน้นการอยู่ร่วมกันและการแบ่งปัน โดยนำเสนอเรื่องราวของหมูปุ๊กลุกและเพื่อนๆ ที่ต่างรอคอยการกลับมาของแม่ของหมีปุย ที่สัญญาว่าจะซื้อของเล่นมาให้พวกเขา พวกเขาจึงไปรอแม่หมีที่หน้าหมู่บ้าน และแล้วพวกเขาก็เห็นก้อนเมฆห้าสีลอยมาแต่ไกล ซึ่งก็คือลูกโป่งห้าสีที่คุณแม่ของหมีปุยซื้อมาให้จากในเมือง หมาบ๊อก แมวเหมียว สองพี่น้องกระต่ายฟองและฝ้ายได้ลอยไปบนฟ้าพร้อมลูกโป่งคนละใบ มีเพียงหมีปุยและหมูปุ๊กลุกเท่านั้นที่ลอยไม่ขึ้น พวกเขาทั้งหมดจึงแบ่งปันลูกโป่งให้กับหมีปุยและหมูปุ๊กลุก เพื่อที่พวกเขาจะลอยขึ้นฟ้าได้ในที่สุด
3.ฝันหวานบ้านคุกกี้ เรื่องนี้เน้นการเห็นคุณค่าในตัวผู้อื่น เมื่อหมูปุ๊กลุกและหมีปุยช่วยกันนำคุกกี้รสช็อกโกแลตไปประกอบเป็นบ้านคุกกี้ พวกเขาชอบอาศัยอยู่ที่นั่นเพราะได้นอนหลับฝันหวาน วันหนึ่ง หนูจีจีกับหนูเจเจอยากเข้าไปในบ้านคุกกี้ จึงมาขอนอนด้วย แต่หมีปุยไม่เชื่อใจว่าเจ้าหนูทั้งสองจะไม่แทะบ้านคุกกี้ ตรงข้ามกับหมูปุ๊กลุกที่รับประกันกับหมีปุยว่าจีจีกับเจเจจะไม่แทะบ้านอย่างแน่นอน ด้วยความไว้ใจของหมูปุ๊กลุกทำให้เจ้าหนูทั้งสองอดทนไม่แทะบ้านคุกกี้ได้ ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับหมีปุยอย่างมาก
4.เสียงกรนทรงพลัง เรื่องนี้เน้นความกล้าในการยอมรับข้อบกพร่องของตนเอง เพื่อให้ได้ชมพระอาทิตย์ยามเช้า หมูปุ๊กลุก หมีปุย หมาบ๊อก แมวเหมียว สองพี่น้องกระต่ายฟองและฝ้าย ต้องไปค้างคืนบนภูเขา เสียงกรนของหมูปุ๊กลุกทำให้เพื่อนๆ นอนไม่หลับ เพื่อนๆ จึงหามหมูปุ๊กลุกไปนอนนอกบ้าน แต่ข้อเสียที่หมูปุ๊กลุกนอนกรนกลับช่วยให้เพื่อนๆ รอดปลอดภัยจากหมาป่าสีฝุ่นที่จะมาจับสองพี่น้องกระต่ายฟองและฝ้ายไปกิน และเสียงกรนยังช่วยปลุกเพื่อนๆ ให้ตื่นทันเวลาดูพระอาทิตย์ขึ้นด้วย
5.หนังสือเปลี่ยนสมอง เรื่องนี้เน้นให้เห็นคุณค่าของหนังสือที่ช่วยบ่มเพาะความรู้และช่วยให้เกิดความคิดดีๆ โดยนำเสนอเรื่องราวของหมูปุ๊กลุกที่แนะนำให้หนูอุยเปลี่ยนนิสัยขี้ขโมยของตัวเอง เขาช่วยให้หนูอุยได้เข้าไปในห้องหนังสือของแมวเหมียว เพื่อหาวิธีเปลี่ยนนิสัย หนูอุยแทะหนังสือของแมวเหมียวไปพลางคิดได้ไปพลาง และแล้วหนูอุยก็เปลี่ยนนิสัยของตัวเองได้ เพื่อนๆ ของหนูอุยอยากเปลี่ยนสมองเหมือนหนูอุย เมื่อแมวเหมียวรู้เรื่องจึงเต็มใจพาหนูอุยและเพื่อนๆ เข้าไปในห้องหนังสือของตัวเอง เพื่อให้พวกเขาได้อ่านหนังสือและเปลี่ยนนิสัยของตัวเองได้สำเร็จ
6.ตัวโน้ตจอมซน เรื่องนี้เน้นให้เห็นพลังชีวิตของเด็กๆ ที่เปี่ยมไปด้วยความเฉลียวฉลาดและความใสซื่อบริสุทธิ์ โดยนำเสนอเรื่องราวของลูกเจี๊ยบทั้งเจ็ดเป็นเด็กที่ซนมาก แม่ไก่จึงอยากหาคุณครูมาสอนหนังสือให้ แต่ไม่ว่าจะเป็นแมวเหมียวแสนฉลาดหรือหมาบ๊อกที่เก่งกาจล้วนถูกเหล่าลูกเจี๊ยบกลั่นแกล้งจนหนีไป แต่ทุกครั้งที่หมูปุ๊กลุกมาสอนหนังสือจะไม่มีใครซนเลย ลูกเจี๊ยบทั้งเจ็ดจึงตั้งใจเรียนและอยู่ในความสงบ นั่นเป็นเพราะหมูปุ๊กลุกเข้าใจธรรมชาติของเหล่าลูกเจี๊ยบได้มากกว่าใคร
7. ปิกนิกอลเวง เรื่องนี้เน้นให้เห็นคุณค่าของการแบ่งปัน,การช่วยเหลือกันและกัน หมูปุ๊กลุก หมีปุย แมวเหมียว หมาบ๊อกและสองพี่น้องกระต่ายฟองและฝ้าย ตกลงใจกันว่าจะไปปิกนิกกันที่ริมทะเลสาบแสงจันทร์ แต่หมูปุ๊กลุกมาสายทำให้เพื่อนๆเดินทางไปก่อน จิ้งจอกขนแดงลอบขโมยอาหารของหมีปุยและเพื่อนๆมา อีกทั้งขุดหลุมพรางเอาไว้ หมูปุ๊กลุกตามมาทีหลังช่วยเหลือเพื่อนๆไว้ได้ทัน ทำให้เพื่อนๆซาบซึ้งใจอย่างมาก8. น้ำพุแห่งความสุข เรื่องนี้เน้นให้เห็นคุณค่าของความมุ่งมั่น พยายาม ที่นำมาซึ่งความสำเร็จหมู่บ้านแสนสุขกำลังประสบกับภัยแล้ง แมวเหมียวนึกได้ว่าเคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับต้นไม้โบราณในหมู่บ้านที่มีตาน้ำอยู่ แต่พวกเขาต้องไปนำรหัสลับจากต้นไม้เทพพันปีกลับมาเพื่อเลื่อนแผ่นหินเปิดตาน้ำ ไม่ว่าใครที่นำรหัสลับกลับมาล้วนผิดหมด แต่กลับเป็นหมูปุ๊กลุกที่ใครก็คาดไม่ถึง เขาสามารถท่องรหัสลับได้ถูกต้อง และเปิดตาน้ำได้สำเร็จ ทำให้หมู่บ้านแสนสุขกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
9. แม่ไก่ฟักไข่เป็ด เรื่องนี้เน้นให้เห็นคุณค่าของความสามัคคี และการอยู่ร่วมกัน โดยนำเสนอเรื่องราวของแม่ไก่และแม่เป็ดที่มักทะเลาะกันเป็นประจำ กระทั่งวันหนึ่ง หมูปุ๊กลุกจึงหลอกแม่ไก่ว่าลูกเจี๊ยบตกน้ำ แม่ไก่ที่ว่ายน้ำไม่เป็นได้รับความช่วยเหลือจากแม่เป็ด ทำให้แม่ไก่เริ่มมองแม่เป็ดในด้านดีขึ้น ต่อมาเมื่อแม่ไก่ถึงเวลากกไข่ หมูปุ๊กลุกเห็นไข่เป็ดถูกทิ้งไว้ในพงหญ้า จึงแอบนำไข่เป็ดไปให้แม่ไก่กก แม่ไก่ประหลาดใจมากที่เห็นลูกเป็ดฟักออกมา แต่เธอก็ดูแลลูกเป็ดอย่างดี แม่เป็ดทราบเรื่องเข้าก็ซาบซึ้งในน้ำใจของแม่ไก่เช่นกัน
10. เพื่อนใหม่แสนดี เรื่องนี้เน้นให้เห็นคุณค่าของความมีน้ำใจ และการยอมรับข้อแตกต่างทางกายภาพของผู้อื่น โดยนำเสนอเรื่องราวของ เรนโบว์สุนัขจิ้งจอกน้อยตัวหนึ่งที่ไม่กล้าไปโรงเรียน เนื่องจากเธอมีหูเพียงข้างเดียวและขาเป๋ หมูปุ๊กลุกและหมีปุย ให้กำลังใจเธอสุดความสามารถ เมื่อเรนโบว์ยอมไปโรงเรียนตอนแรกเธอร้องไห้ด้วยความกลัว แต่เมื่อได้เจอเพื่อนใหม่แล้ว ทำให้เธอรู้ว่าไม่มีใครรังเกียจเธอเลย อีกทั้งเพื่อนๆ ยังให้การต้อนรับเธอเป็นอย่างดี โรงเรียนแสนสุขนี้จึงไม่น่ากลัวอีกต่อไป
สำนักพิมพ์ทองเกษม เล็งเห็นความสำคัญของการส่งเสริมพฤติกรรมและลักษณะนิสัยที่ดีให้เกิดขึ้นในเด็กทุกคน เพื่อพัฒนาทักษะสมองของเด็กๆ ทั้ง 9 ด้าน เพื่อให้เด็กๆ สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม และเป็นคนดีที่สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข