activity on March 24, 2016, 01:44:24 PM
ซูซูกิเปิดตัว New Suzuki SWIFT Sai Special Edition และ Suzuki ERTIGA Minor Change ในงาน Motor Show 2016









          มร. โยจิ มุโรซากะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวสองยนตรกรรมรุ่นล่าสุด "New Suzuki SWIFT Sai Special Edition มีสไตล์ไม่เคยเปลี่ยน" สปอร์ตคอมแพ็คเจนเนอเรชั่นใหม่ ภายใต้ Iconic Design เอกลักษณ์เฉพาะในแบบ SWIFT ราคา 599,000 บาท พร้อมด้วย "Suzuki ERTIGA Minor Change ทางที่คุณเลือก เพื่อคนที่ คุณรัก" ที่สุดของรถยนต์อเนกประสงค์ 3 แถว 7 ที่นั่ง ดีไซน์สปอร์ตใหม่ ผสมผสานความเรียบหรูและความสะดวกสบายอย่างมีสไตล์ ราคาเริ่มต้น 655,000 บาท พร้อมนำเสนอยนตรกรรมหลากรุ่น อาทิ Suzuki Ciaz นิยามใหม่ที่มากกว่าคำว่าอีโคคาร์ซีดาน Suzuki CELERIO คอมแพ็คคาร์ที่มาพร้อมกับความสามารถเกินตัว และ Suzuki CARRY รถกระบะอเนกประสงค์เพื่อการพาณิชย์ เพื่อตอบทุก Way of Life! ของลูกค้า ในบูธที่เต็มไปด้วยสีสัน ภายใต้ Concept 'Suzuki…Leading to New Colorful Life' พร้อมมอบโปรโมชั่นพิเศษแก่ลูกค้า คาดการณ์ยอดขายกว่า 1,500 คัน ช่วงงานมอเตอร์โชว์
          มร. โยจิ มุโรซากะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ในงานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้ ซูซูกิเตรียมมอบสีสันใหม่ เพื่อสร้าง Excitement ให้แก่ลูกค้ามากมาย ตั้งแต่ การเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดถึง 2 รุ่น คือ 'New Suzuki SWIFT Sai Special Edition มีสไตล์ ไม่เคยเปลี่ยน' คอมแพ็คคาร์ เจนเนอเรชั่นใหม่ ภายใต้แนวคิด Iconic Design เอกลักษณ์เฉพาะแบบ SWIFT โดดเด่นด้วยกระจังหน้าตกแต่งโครเมี่ยมและกันชนดีไซน์ใหม่ ไฟ LED ล้ออลูมิเนียมอัลลอยด์ 16 นิ้วดีไซน์ใหม่ ตกแต่งด้วย SWIFT Sai Emblem รวมถึงฝาถังน้ำมันตกแต่งพิเศษด้วยตัวอักษรญี่ปุ่นแบบคันจิ ภายในสวยสะดุดตา ตกแต่งดีไซน์หรูหราแบบใหม่ พวงมาลัยหุ้มหนังชนิดพิเศษ เบาะนั่งทำจากวัสดุคุณภาพสูงดีไซน์พิเศษ สะดวกสบายด้วยปุ่มควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย อุปกรณ์เชื่อมต่อ USB ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ขับสนุกเร้าใจด้วยเครื่องยนต์ 1.25 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว VVT พร้อมเกียร์ CVT อัตโนมัติ 5 สปีด ประหยัดน้ำมันกว่า 20 กิโลเมตรต่อลิตร รองรับน้ำมัน E20 พร้อมระบบ Paddle Shift ควบคุมเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control ปลอดภัยด้วยถุงลมนิรภัยคู่หน้า SRS ระบบป้องกันล้อล็อค ABS ระบบกระจายแรงเบรคแบบ EBD กุญแจรีโมทพร้อมระบบ Keyless Entry และ Keyless Push Start มาพร้อมกับสีพิเศษใหม่ สีม่วง Moonlight Violet สีแดง Ablaze Red Pearl และสีขาว Snow White Pearl และซูซูกิยังได้เปิดตัว 'Suzuki ERTIGA Minor Change ทางที่คุณเลือก เพื่อคนที่คุณรัก' ที่สุดของรถยนต์อเนกประสงค์ 3 แถว 7 ที่นั่ง ดีไซน์ใหม่แบบสปอร์ตเรียบหรู โดดเด่นด้วยกระจังหน้าและกันชนหน้าดีไซน์ใหม่สปอร์ตโฉบเฉี่ยว ตกแต่งด้วยวัสดุโครเมียม พร้อมไฟ LED และไฟตัดหมอก เสริมสเกิร์ตด้านข้างและด้านหลัง ตกแต่งประตูท้ายด้วยวัสดุโครเมียมดูหรูหรา ภายในเรียบหรูด้วยวัสดุตกแต่งโครเมียมคุณภาพสูงรอบคัน คอนโซลสีทูโทน พวงมาลัยผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง สะดวกสบายด้วยปุ่มควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย ช่องเชื่อมต่อ USB เบาะนั่ง 3 แถว 7 ที่นั่งอเนกประสงค์ ปรับพับได้ ถึง 8 แบบ ระบบปรับอากาศบริเวณที่นั่งแถวที่ 2 ช่องจ่ายไฟสำรอง 12V สองตำแหน่ง บริเวณคอนโซลด้านหน้าและที่นั่งแถวสอง ปลอดภัยด้วยระบบถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า กุญแจนิรภัย Immobilizer โครงสร้างตัวถัง TECT ออกแบบจากเหล็กกล้าน้ำหนักเบาแข็งแกร่งทนทาน ระบบเบรก ABS และ EBD มาพร้อมกับสีใหม่ สีม่วง Pearl Twilight Violet ทั้งนี้ ซูซูกิคาดว่า รถยนต์รุ่นใหม่ทั้ง 2 รุ่น จะสามารถตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ที่มีไลฟ์สไตล์เป็นของตัวเองได้อย่างแน่นอน"
          นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "นอกจากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ทั้ง 2 รุ่น ซูซูกิยังได้นำเสนอและพร้อมจำหน่ายรถยนต์คุณภาพอีกหลายรุ่น อาทิ New Suzuki Ciaz นิยามใหม่ที่มากกว่าคำว่าอีโคคาร์ซีดาน Suzuki CELERIO คอมแพ็คคาร์พร้อมความสามารถเกินตัว และ Suzuki CARRY รถกระบะอเนกประสงค์เพื่อการพาณิชย์สุดคุ้มค่า พร้อมจัดโปรโมชั่นและข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับลูกค้าทุกท่านที่มาเยี่ยมชมที่บูธซูซูกิ ทั้งนี้ซูซูกิคาดการณ์ว่า New Suzuki Ciaz อีโคคาร์ซีดาน และ Suzuki SWIFT สปอร์ตคอมแพ็ค รุ่น GLX, GL และ GA จะยังคงได้รับความนิยมเช่นเคย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง New Suzuki Ciaz นิยามใหม่ที่มากกว่าคำว่าอีโคคาร์ซีดาน มีดีไซน์สปอร์ตสวยเฉียบผสานความหรู ภูมิฐาน ตกแต่งด้วยอุปกรณ์โครเมียมและชุดแต่งโมเดิร์นรอบคัน สปอยเลอร์หลัง สเกิร์ตด้านข้าง ล้ออลูมิเนียมอัลลอยด์ 16 นิ้ว ไฟหน้าฮาโลเจนโปรเจคเตอร์คุณภาพสูง ห้องโดยสารเรียบหรูและกว้างขวางเกินใคร พื้นที่เหนือศีรษะและพื้นที่วางขากว้างสบาย พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายมีความจุถึง 565 ลิตร กว้างกว่ารถรุ่นอื่นในระดับเดียวกัน เบาะหนังคุณภาพสูงสไตล์สปอร์ต พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย ฉลาดล้ำเกินคาดและปลอดภัยกว่าด้วยเทคโนโลยี Suzuki Smart Connect เชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือกับ Apple CarPlay*** สั่งงานโดยใช้เสียงหรือใช้ปลายนิ้วสัมผัสจอ Touch Screen แรงและประหยัดด้วยเครื่องยนต์ K12B 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบ VVT ประหยัดน้ำมันกว่า 20 กิโลเมตรต่อลิตร รองรับน้ำมัน E20 พร้อมกับถุงลมนิรภัยคู่หน้า SRS กุญแจรีโมท พร้อมระบบ Keyless Entry, Keyless Push Start และ Function เปิดฝากระโปรงท้าย ทั้งนี้ ซูซูกิคาดการณ์ว่าจะได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ด้วยยอดจองกว่า 1,500 คัน ในงานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้"
          นอกจากการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เพื่อตอบ Way of Life! ที่หลากหลายของลูกค้าแล้ว ซูซูกิยังได้เดินหน้าทำกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งมุ่งชูกลยุทธ์ Sport Marketing เน้นส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมด้านกีฬา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกีฬาประเภทฟุตบอล ซูซูกิยังคงมอบความสุขให้กับคอลูกหนังโดยเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการใน AFF Suzuki Cup ปี 2016 ซึ่งมีคุณซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง โค้ชฟุตบอลทีมชาติไทยให้เกียรติมาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์เพื่อที่จะถ่ายทอดความเป็นซูซูกิให้ลูกค้าได้เข้าถึงมากยิ่งขึ้น
          ล่าสุดจัดแคมเปญใหญ่ Suzuki Ringside ฟุตบอลยุโรป เอาใจลูกค้ากลุ่มคนรักฟุตบอล เพียงจองและรับรถยนต์ซูซูกิทุกรุ่น มีสิทธิ์ลุ้นบินตรงถึงกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส รับตั๋วเครื่องบิน พร้อมที่พัก และเข้าชมการแข่งขันฟุตบอลยุโรป ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย จำนวนรวม 8 รางวัล มูลค่ารางวัลละ 200,000 บาท รวมมูลค่า 1,600,000 บาท เพียงจองและรับรถยนต์ซูซูกิรุ่นใดก็ได้ที่โชว์รูมซูซูกิทั่วประเทศระหว่างวันที่ 16 มีนาคม – 31 พฤษภาคม 2559 เท่านั้น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมรถยนต์ซูซูกิ หรือ www.suzuki.co.th หรือ www.facebook.com/ officialsuzukimotorthailand
          ในด้านการบริการหลังการขายซูซูกิยังคงยึดแผนยุทธศาสตร์เสริมสร้างความเชื่อมั่นและอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าซูซูกิ ภายใต้แนวคิด 3S คือ Sales, Service, Spare Parts นั่นคือ การแนะนำสินค้าที่มีคุณภาพอย่างเป็นธรรมควบคู่ไปกับการบริการอย่างประทับใจ จำหน่ายอะไหล่แท้จากผู้ผลิต อีกทั้งมุ่งเน้นพัฒนาการบริการหลังการขายพร้อมบริการจัดส่งอะไหล่ภายใต้การบริการภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อตอบรับทุกความต้องการ ซึ่งซูซูกิทุ่มเทมาโดยตลอดกับการฝึกอบรมบุคคลากรด้านการช่างให้กับผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของซูซูกิ เพื่อเพิ่มศักยภาพในด้านการดูแลลูกค้าอย่างดีที่สุดและต่อเนื่อง ตลอดจนโปรแกรมส่งเสริมหลังการขาย (บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง) ซึ่งในปีที่ผ่านมา ซูซูกิมีศูนย์บริการที่ครอบคลุมจำนวน 99 แห่งทั่วประเทศ และมีแผนเพิ่มเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการเป็น 110 แห่งทั่วประเทศไทย ภายในปี 2559 ทั้งนี้เพื่อยกระดับรองรับการก้าวสู่ประชาคมอาเซียนอย่างเต็มตัวของประเทศไทย เพื่อให้ลูกค้าคนพิเศษของเราได้รับผลิตภัณฑ์และการบริการดีที่สุดจากซูซูกิ" นายวัลลภกล่าวท้าย
          โปรโมชั่นพิเศษช่วงงานมอเตอร์โชว์ 2016
           Suzuki CIAZ ทุกรุ่น รับฟรีประกันภัยชั้น 1*, บริการช่วยเหลือฉุกเฉินจากบริษัท เอ จี เอ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด ระยะเวลา 3 ปี, พร้อมรับข้อเสนอพิเศษ อัตราดอกเบี้ย 0 % นานสูงสุด 36 เดือน**
           Suzuki SWIFT ทุกรุ่น รับฟรีประกันภัยชั้น 1*, บริการช่วยเหลือฉุกเฉินจากบริษัท เอ จี เอ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด ระยะเวลา 3 ปี, พร้อมรับข้อเสนอพิเศษ อัตราดอกเบี้ย 0 % นานสูงสุด 12 เดือน**
           Suzuki CELERIO รับฟรีประกันภัยชั้น 1*, บริการช่วยเหลือฉุกเฉินจากบริษัท เอ จี เอ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด ระยะเวลา 3 ปี, พร้อมรับข้อเสนอพิเศษ (ยกเว้นรุ่น GA/MT ไม่เข้าร่วมรายการ) อัตราดอกเบี้ย 0 % นานสูงสุด 12 เดือน**
           Suzuki ERTIGA ทุกรุ่น รับฟรีประกันภัยชั้น 1*, บริการช่วยเหลือฉุกเฉินจากบริษัท เอ จี เอ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด ระยะเวลา 3 ปี, พร้อมรับข้อเสนอพิเศษ อัตราดอกเบี้ย 0 % นานสูงสุด 12 เดือน**
           Suzuki CARRY รับฟรีประกันภัยชั้น 1*
          หมายเหตุ
          1. เงื่อนไขดังกล่าวสำหรับลูกค้าที่ทำการจองและรับรถตั้งแต่วันนี้ถึง 3 เมษายน 2559
          2. *ประกันภัยชั้น 1 ปีแรกไม่รวม พรบ. บุคคลที่ 3 เฉพาะบริษัทประกันที่ร่วมโครงการ คือ บริษัท วิริยะประกันภัย หรือ บริษัท โตเกียวมารีนประกันภัย (ประเทศไทย) เท่านั้น
          3. **เงื่อนไขดังกล่าวสำหรับลูกค้าที่ซื้อเป็นเงินสด หรือเช่าซื้อกับธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด(มหาชน) เท่านั้น
          เครื่องหมายการค้า Apple และ iPhone จดลิขสิทธิ์โดย Apple Inc. ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ *ระบบการใช้งาน Apple CarPlay เป็นลิขสิทธิ์ของ Apple Inc. รองรับการใช้งาน iPhone รุ่นต่างๆ ตามที่ระบุไว้ใน http://www.apple.com/ios/carplay/
          สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Suzuki Call Center จากโทรศัพท์พื้นฐาน โทร. 1800-600-900 และจากโทรศัพท์เคลื่อนที่ โทร.1401-600-900 หรือ www.suzuki.co.th

activity on March 24, 2016, 01:44:56 PM
Suzuki excites the crowds with launches of new Suzuki SWIFT Sai Special Edition and Suzuki ERTIGA Minor Change at Motor Show 2016









          Mr. Yoji Murosaka, President of Suzuki Motor (Thailand) Company Limited, launches two of its latest automotive innovations. "The new Suzuki SWIFT Sai Special Edition, Stylish as Always", is Suzuki's new series of sport compact car in SWIFT's iconic design at the price of 599,000 Baht. The Suzuki ERTIGA Minor Change, Your Choice for Your Loved Ones, is Suzuki's ultimate multi-purpose 3-rows, 7-seats sports vehicle. It stylishly combines minimalistic luxury with convenient facilities at a starting price of only 655,000 Baht. Suzuki is also presenting other series, such as Suzuki Ciaz that redefines the term eco-sedan, Suzuki CELERIO compact car that comes packed with features, and Suzuki CARRY multi-purpose pickup truck for every Way of Life!. All these Suzuki models can be discovered at Suzuki's booth under the concept "Suzuki… Leading to New Colorful Life" with offering the special promotion for customers expecting circulation more than 1,500 units during Motor Show.
          Mr. Yoji Murosaka, President of Suzuki Motor (Thailand) Company Limited said "At this Motor Show, Suzuki will have a few things up leaves for customers' excitement. We are launching two new cars. The new Suzuki SWIFT Sai Special Edition, Stylish as Always, is a new series of compact car made in SWIFT's iconic design. Its highlights include the chromed front grille with newly designed front bumper, LED illumination lights, striking new 16" aluminum alloy wheels, as well as, SWIFT Sai emblem. The fuel tank lid is adorned with the Japanese kanji. The interior looks stunning thanks to new special ornament, exclusive leather steering wheel, specially designed seats made with a high quality material, convenient stereo control right on the steering wheel, USB ports, and automatic air conditioning. Experience a thrilling drive with a 1.25 L, 4-cylinder, 16-valve VVT engine with CVT automatic 5-speed transmission that runs 20 km/L of and supports E20. Enjoy the cruise control with paddle shifts that let the driver control gear shifts easily with touches on buttons built into the steering while. Feel safe with features such as dual SRS airbags in the front, anti-lock braking system (ABS), electronic brakeforce distribution (EBD); and take advantage of the remote-control key with keyless entry and keyless push start systems". The new Suzuki SWIFT Sai Special Edition comes in a variety of new limited color– Moonlight Violet, Ablaze Red Pearl, and Snow White Pearl. Moreover, Suzuki is also launching the Suzuki ERTIGA Minor Change, Your Choice for Your Loved Ones. It is Suzuki's ultimate multi-purpose 3-row 7-seat sporty vehicle with a minimalistic luxurious design. It boasts a fluid new-design chromed sports front grille and bumper with LED headlights and fog lights. The side and back skirts are also included as part of the new design. The back door is chrome plated to give off a luxurious feel. The inside exudes simple elegance with all around chromed parts, two-tone center console, high-quality steering wheel, audio control on the steering wheel, USB ports, seven seats divided into three rows, seven seats configurations, with the capability to adjust 8 styles, second row air conditioning, accessory sockets 12V for front row and second row, dual front SRS airbags, immobilizer key, TECT body designed from light weight steel with strength and durability, anti-lock braking system (ABS), and electronic brake force distribution (EBD). New Suzuki ERTIGA comes in new colors, namely Pearl Twilight Violet, Suzuki is fully confident that these exciting two new models will meet the expectations of the new generation."
          Mr. Wallop Treererkngam, Sales and Marketing Director of Suzuki Motor (Thailand) Company Limited said "In addition to the launch of these two new series, other popular Suzuki models will also be available for sales and inspection, including, new Suzuki Ciaz, Redefining Eco-Sedan; Suzuki CELERIO Compact Car, Capabilities Beyond Size; and Suzuki CARRY multi-purpose pickup truck for worthwhile commercial use. Suzuki will also have a host of arousing promotions and special offers for customers visiting the booth." Suzuki expects that the new Suzuki Ciaz Eco Sedan and Suzuki SWIFT sport compact GLX, GL, and GA to continue to be popular, especially the new Suzuki Ciaz, Redefining Eco-Sedan that offers a luxurious and dignified sporty design, decked out with chromed modern accessories, back spoiler, side skirts, 16" aluminum alloy wheels, high-quality projector halogen headlights, spacious minimalist luxurious cabin with overhead room and plenty of leg room with a large 565 Liters trunk area to impress the discernment of driver, high-quality leather sports seats, and other desirable features. It also comes with Suzuki Smart Connect, which connects your iPhone with Apple CarPlay*** and can be controlled with voice command or the touch screen. The K12B 4-cylinder 16-valve VVT engine runs 20 km/L and supports E20. Its safety features include two SRS airbags in the front, remote control car key with keyless entry and keyless push start, as well as back door opening. In order that, Suzuki expecting the well responsiveness from the customers through car reserving circulation more than 1,500 units in this Motor Show 2016.
          On top of its various innovations that respond favorably to customers' diverse Way of Life!, Suzuki has continuously focused on conducting comprehensive sport marketing campaigns. Especially, football which Suzuki continually supports AFF Suzuki Cup 2016. Mr.Zico Kiettisak Senamueng, Coach of Thailand National Football team, also represents as Suzuki brand's ambassador in order to let the consumers approach Suzuki brand easier.
          The latest one is a big campaign for football enthusiasts called Suzuki Ringside European Football. With a purchase of a Suzuki car at any dealership nationwide, they have a chance to win a trip to Paris, complete with flights, accommodations, and tickets to a quarterfinal game of the Euro 2016. There are a total of eight prizes, worth 200,000 baht each or a total of 1,600,000 baht by just reserve and receive any Suzuki vehicles at Suzuki showrooms nationwide only between 16 March – 31 May 2016. Please ask for more information at Suzuki showrooms or www.suzuki.co.th or Suzuki Motor (Thailand)'s Facebook at www.facebook.com/officialsuzuki motorthailand.
          "In term of After Sales Services, Suzuki strategically enhances the trustworthiness and convenience for the customers with 3S concepts, Sales, Services and Spare Parts, by introducing quality products with impressive services and genuine parts. Assuring the consumers with 24-hour genuine parts delivery. We have training our staff members to increase their efficiency in taking care of customers, leading to their utmost satisfaction with the special program, 24-hour roadside assistance. Last year Suzuki had 99 showrooms nationwide. This year Suzuki planned to expand the dealer network and the showroom number to 110 showrooms nationwide in order to serve consumers' needs as Thailand in a member of AEC now and in order to let our special consumers get the best products and services from Suzuki" added Mr. Wallop.
          Special Promotion at Motor Show 2016
           Suzuki Ciaz all series free 1st class insurance*, emergency service from AGA Services (Thailand) Company Limited for 3 years, and special offer 0% interest up to 36 months**
           Suzuki SWIFT all series free 1st class insurance*, emergency service from AGA Services (Thailand) Company Limited for 3 years, and special offer 0% interest up to 12 months**
           Suzuki CELERIO free 1st class insurance*, emergency service from AGA Services (Thailand) Company Limited for 3 years, and special offer (excluded GA/MT) 0% interest up to 12 months**
           Suzuki ERTIGA all series free 1st class insurance*, emergency service from AGA Services (Thailand) Company Limited for 3 years, and special offer 0% interest up to 12 months**
           Suzuki CARRY free 1st class insurance*
          Notes
          1. Aforementioned conditions only for customers who make the reservation and receive the car since today to 3 April 2016
          2. *1st class insurance not include the act of third person. This condition is only for the joint venture insurance companies as The Viriyah Insurance Public Company Limited or Tokio Marine Life Insurance (Thailand) PCL.
          3. **Aforementioned conditions only for customers who purchase with cash or purchase by installment with Kiatnakin Bank Public Company Limited
          Apple and iPhone are trademarks of Apple Inc., registered in U.S. and other countries. Apple CarPlay is a trademark of Apple Inc. *Apple CarPlay is compatible with iPhone models listed in the following link: http://www.apple.com/ios/carplay/
          For more information, please contact Suzuki Call Center (From landline, call 1800-600-900. From mobile phone, call 1401-600-900 or visit www.suzuki.co.th

activity on March 24, 2016, 01:46:12 PM
ที่สุดแห่งยนตกรรมสุดหรู Airstream Mercedes-Benz ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 37









          บริษัท แอร์สตรีม บาย คาร์แมกซ์ พระราม 9 (ไทยแลนด์) จำกัด โดย คุณชัชชัย สิทธิเดชชาญชัย กับรถยนต์อเนกประสงค์บนความหรูหรา เพื่อการเดินทางที่สะดวกสบายแบบเฟิร์สคลาส Airstream Mercedes-Benz รถยนต์อเนกประสงค์สุดหรูระดับ VIP พวงมาลัยขวาที่เดียวในโลก โดยล่าสุดได้นำสุดยอดยนตรกรรมของโลกภายใต้ คอนเซ็ปต์ Roll With The Best Airstream and Mercedes-Benz เข้าร่วมใน งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล
          มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 37 ซึ่งถือเป็นปีที่สอง ที่ได้นำยนตกรรมสุดหรูมาจัดแสดงเพื่อให้ประชาชนได้สัมผัส หลังจากการจัดแสดงในปีที่ผ่านมาได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม
          โดยงานนี้ บริษัท แอร์สตรีม บาย คาร์แมกซ์ พระราม9 (ไทยแลนด์) จำกัด ได้นำรถหรูอเนกประสงค์ Airstream มาอวดโฉมกัน 2 รุ่น ได้แก่ Touring Coach (รุ่น Interstate EXT) รถยนต์อเนกประสงค์ที่ยกระดับความเป็นสุดยอดนวัตกรรม VIP โดยมีการจดทะเบียนเป็นรถเก๋ง และ Travel Trailer รถบ้านแบบกึ่งพ่วงที่ทางบริษัทฯ ถือเป็นผู้จำหน่ายรถในรูปแบบดังกล่าวเพียงผู้เดียวในประเทศไทย
          Airstream รุ่น Touring Coach (รุ่น Interstate EXT) ด้วยขนาดใหญ่พิเศษ สูง 2.9 เมตร กว้าง 2.0 เมตร ยาว 7.43 เมตร ลงตัวด้วยการออกแบบภายนอกที่ทันสมัยและภายในแสนอบอุ่น Airstream รุ่นนี้เป็นยนตรกรรมที่ผสมผสานความร่วมมือระหว่าง Mercedes Benz เยอรมัน และ Airstream INC., สหรัฐอเมริกา ซึ่งนำมาพัฒนาฟังก์ชั่นการใช้ประโยชน์ ให้หรูหรา ทันสมัย ตามสไตล์ Airstream ที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานกว่า 84 ปี รถยนต์อเนกประสงค์ Airstream รุ่น Interstate EXT สามารถตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ได้เป็นอย่างดีจาก เครื่องยนต์ Mercedes-Benz 3.OL V6 Turbo Diesel ประหยัดน้ำมัน เกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ (7G-TRONIC) ที่สามารถควบคุมได้ทุกจังหวะการเดินทาง พร้อมคุณสมบัติด้านความปลอดภัย ทำให้การขับขี่ ราบรื่นและปลอดภัย อาทิ ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ระบบช่วยเตือนเพื่อป้องกันการชน พร้อมด้วยระบบเซ็นเซอร์ช่วยในการนำรถเข้าจอดพร้อมเสียงสัญญาณเตือนเมื่อเข้าใกล้สิ่งกีดขวางโปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ
          ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่รักการเดินทางและเหมาะสำหรับชีวิตประจำวันของคนเมือง ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่หรูหราและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทั้งห้องน้ำ ชุดครัว เตียงนอนขนาดใหญ่
          Airstream รุ่น Travel Trailer
          สุดยอดแห่งความหรูหราและมีเอกลักษณ์ที่มีพื้นฐานมาจากการออกแบบอากาศยาน ตัวถังอลูมิเนียมทั้งคัน น้ำหนักเบา ลักษณะโค้งมน ไม่สร้างแรงต้านทานขณะลากจูง ออกแบบด้วยโครงสร้าง Semi-Monocoque ผสมผสานระหว่างโครงสร้างภายในและภายนอกโดยใช้ผนังด้านนอกตัวถังช่วยรับน้ำหนักของโครงสร้างเหมือนรูปแบบ
          การสร้างเครื่องบิน โดยมีขนาดความยาว 4 ขนาด เริ่มจาก ขนาด 16 ฟุต , ขนาด 23 ฟุต , ขนาด 27 ฟุตและขนาด 30 ฟุต ซึ่งทุกขนาดได้รับการออกแบบอย่างหรูหราแตกต่างกันตามไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ แต่ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและตอบโจทย์ทุกลักษณะการใช้งาน
          Airstream รถยนต์อเนกประสงค์สุดหรูระดับ VIP พร้อมให้ผู้ที่สนใจสามารถมาสัมผัสความหรูหราแบบมีระดับและเปิดจองอย่างเป็นทางการที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 37 ณ บริเวณ บูธ A18 อาคารชาเลนเจอร์ 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 23 มีนาคม– 3 เมษายน 2559

activity on March 24, 2016, 01:47:52 PM
แอสตัน มาร์ติน เปิดตัวไฮไลท์รุ่นพิเศษ DB11 เผยโฉมครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิก ในงานบางกอก อินเตอร์เนอร์ชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2016









          แอสตัน มาร์ติน แบงคอก ภายใต้บริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด หรือ เอ็มจีซี-เอเชีย (MGC-ASIA) เปิดตัวยนตกรรมรุ่นพิเศษ DB10 และ DB11 ครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิก ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2016 หลังจากเผยโฉมครั้งแรกในโลกในงาน Geneva Motor show เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
          นายคมกริช นงค์สวัสดิ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เฮอริเทจ มอเตอร์ เซลส์ แอนด์ เซอร์วิสเซส (ไทยแลนด์) จำกัด ภายใต้บริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด หรือ เอ็มจีซี-เอเชีย (MGC-ASIA) กล่าวว่า
          "ปีนี้เป็นปีที่พิเศษสุดสำหรับ แอสตัน มาร์ติน ในงานมอเตอร์โชว์ 2016 ที่แอสตัน มาร์ติน ได้นำ ไฮไลท์พิเศษมาเปิดตัวถึงสองรุ่นให้เศรษฐีไทยได้สัมผัสก่อนใครในเอเชีย ได้แก่ แอสตัน มาร์ติน DB10ซึ่งรุ่นนี้ผลิตขึ้นมาเพียง 10 คันเท่านั้น สำหรับใช้ในภาพยนตร์เจมส์บอนด์ 007 ภาคล่าสุดสเปกเตอร์ เพื่อให้ผู้ร่วมงานได้รับชมรถคันจริงเป็นครั้งแรก ซึ่งเหลืออยู่เพียงคันเดียวในโลกหลังจากการถ่ายทำภาพยนตร์ และอีกหนึ่งรุ่นสุดพิเศษนั่นก็คือ แอสตัน มาร์ติน DB11 ที่จะมาเผยโฉมเป็นครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิก โดย DB11 เป็นรถยนต์รุ่นแรกภายใต้แผนก้าวสู่ศตวรรษที่ 2 ของแอสตัน มาร์ติน และเป็นรถตระกูลดีบีที่แรงที่สุดเท่าที่ แอสตัน มาร์ติน เคยผลิตมา"
          Aston Martin DB11: ทายาทรุ่นล่าสุดของตระกูลอันเลื่องชื่อ
          โดดเด่นด้วยดีไซน์ใหม่ล่าสุดอันเป็นเอกลักษณ์ และระบบพลศาสตร์ระดับแนวหน้า ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V12 ทวินเทอร์โบ 5.2 ลิตร รุ่นล่าสุดจาก Aston Martin ด้วยโครงสร้างอะลูมิเนียมแบบเชื่อมเป็นชิ้นเดียวที่เบาขึ้น แกร่งขึ้น และประหยัดพื้นที่มากขึ้น DB11 จึงเป็นยนตรกรรม DB อันเปี่ยมด้วยสมรรถนะ ประสิทธิภาพ และความปราดเปรียวมากที่สุดเท่าที่ Aston Martin เคยมีมา และนี่คือยนตรกรรมชั้นนำรุ่นล่าสุดจาก Aston Martin นับตั้งแต่มีการเปิดตัว DB9 เมื่อปี 2003
          DB11 คือภาพสะท้อนดีไซน์ยุคใหม่ของ Aston Martin และหลักชัยล่าสุดแห่งการเดินทางเพื่อตามหาสุนทรียะอันตราตรึง ซึ่งได้เคยให้กำเนิดยนตรกรรมอันเป็นเอกลักษณ์มาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น DB2/4, DB5 และล่าสุด DB10 ที่ได้รับการสร้างสรรค์ให้เป็นพาหนะคู่ใจของ James Bond โดยเฉพาะ DB11 ผสานรูปทรงกับฟังก์ชั่นการทำงานต่างๆ ได้อย่างลงตัวภายใต้ดีไซน์รูปแบบใหม่อันเป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะฝากระโปรงหน้าแบบบานพับด้านหน้าดีไซน์เปลือกหอย ไฟหน้า LED อันโดดเด่น และกระจังหน้าที่ตอกย้ำภาพลักษณ์แห่ง Aston Martin อย่างชัดเจน สะกดทุกสายตาด้วยแผ่นหลังคารถที่เดินแนวจากเสา A ถึงเสา C อย่างพลิ้วไหวไม่สะดุด ต่อไปถึงท้ายรถกับฝากระโปรงท้ายแบบโค้งที่สอดประสานเข้ากับไฟท้ายอันโดดเด่นได้อย่างกลมกลืน ให้ภาพลักษณ์แบบใหม่ที่ไม่ซ้ำแบบใคร
          หัวใจที่สูบฉีด DB11 ให้ขับเคลื่อนนั้นอยู่ใต้ฝากระโปรงหน้าเช่นเดียวกับยนตรกรรม Aston Martin ทุกรุ่น แต่สิ่งที่แตกต่างจากรุ่นอื่นๆ ก่อนหน้านี้ ได้แก่ เครื่องยนต์ทวินเทอร์โบ V12 5.2 ลิตร ผลงานออกแบบของ Aston Martin ที่มาพร้อมขุมพลัง 608PS1 (600BHP1) และแรงบิด 700Nm1 จึงขับเคลื่อนให้ DB11 เป็นยนตรกรรม DB ที่เปี่ยมพลังมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา ทั้งยังปราดเปรียวและรวดเร็วอย่างเหนือชั้นด้วยความเร็วสูงสุดถึง 200 ไมล์/ชม.1 และเร่งความเร็วจาก 0 เป็น 62 ไมล์/ชม. ได้ในเวลาเพียง 3.9 วินาที1 ผสานสมรรถนะจากระบบสั่งการอัจฉริยะและเทคโนโลยีหยุด-เดินเครื่องอัตโนมัติเพื่อประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
          เพื่อให้ใช้ประโยชน์จากโครงสร้างตัวถังแบบใหม่และขุมพลังเต็มเปี่ยมจากเครื่องยนต์ทวินเทอร์โบ V12 รุ่นใหม่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทั้งแชสซี ระบบกันสะเทือน ระบบบังคับเลี้ยว และระบบอิเล็กทรอนิกส์ของ DB11 ล้วนออกแบบขึ้นใหม่เพื่อให้รองรับเทคโนโลยีรุ่นใหม่โดยเฉพาะโหมดขับเคลื่อนที่เลือกได้หลายรูปแบบ - GT, Sport และ Sport Plus - ช่วยกระตุ้นการทำงานของเครื่องยนต์, เกียร์ ZF อัตโนมัติความเร็ว 8 ระดับ, พวงมาลัยเพาเวอร์ระบบไฟฟ้ารุ่นใหม่ และระบบ Torque Vectoring ให้การตอบสนองได้อย่างฉับไว ด้วยการเบรกพร้อมกับเพิ่มความมั่นคงของระบบกันสะเทือนแบบปรับระดับได้ เพื่อสัมผัสแห่งความคล่องตัวอันเหนือกว่า ผลที่ได้คือประสบการณ์การขับขี่ที่ผสานความสบายในการขับอย่างเหนือชั้นเข้ากับความคล่องตัวตามแบบฉบับของรถสปอร์ตได้อย่างลงตัว เพื่อสมรรถนะแห่งความปราดเปรียวอันไร้ขีดจำกัด
          "ในขณะเดียวกัน แอสตัน มาร์ติน แบงคอก ไม่ได้หยุดนิ่งที่จะขยายธุรกิจไปยังตลาดอาเซียน (ASEAN) ซึ่งขณะนี้ก็เป็นที่ยืนยันจาก Aston Martin Lagonda (HQ) ที่ให้ความไว้วางใจ และมอบหมายให้เอ็มจีซี-เอเชีย เป็นผู้รับผิดชอบและขยายตลาด แอสตัน มาร์ติน ไปยังประเทศเวียดนามและกัมพูชา ซึ่งจะเริ่มดำเนินการได้ภายในปี 2016 นี้อย่างแน่นอน ซึ่งเป้าหมายการลงทุนขั้นแรกวางไว้ประมาณ 12-15 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับการสร้างโชว์รูมและศูนย์บริการแบบครบวงจร ในการขยายธุรกิจดังกล่าว ทางบริษัทฯ จะใช้สำนักงานที่เมืองไทยเป็นศูนย์กลางขับเคลื่อน ซึ่งคาดหมายว่าตลาดรถยนต์แอสตัน มาร์ติน จะเติบโตขึ้นไม่น้อยกว่า 20% ในปี 2559 นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะเปิดโชว์รูมแอสตัน มาร์ติน แบบครบวงจรที่จังหวัดภูเก็ตในเดือนเมษายนนี้ เพื่อรองรับการเติบโตและความต้องการของลูกค้าในพื้นที่อีกด้วย" นายคมกริช กล่าวเพิ่มเติม
          พบกับที่สุดของไฮลักชัวรี่สปอร์ตคาร์สัญชาติอังกฤษ แอสตัน มาร์ตินได้ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 37ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 3 เมษายน 2559 ณ ชาเลนเจอร์ 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

activity on March 24, 2016, 01:48:36 PM
DB 11 – A NEW CHAPTER IN ASTON MARTIN’S HISTORTO BE UNVEILED – FOR THE FIRST TIME IN ASIA PACIFIC – AT THE 37TH BANGKOK INTERNATIONAL MOTOR SHOW 2016









           Luxury British car Aston Martin is making history at the 37th Bangkok International Motor Show 2016 with the debut – for the first time in Asia Pacific – of none other than DB11, the latest in an illustrious bloodline, the first product launched under Aston Martin's 'Second Century' plan; and an authentic, dynamic sporting GT in the finest Aston Martin tradition.
          "In addition to the ultimately luxurious DB11, we are very excited to be showcasing amongst other models – DB10 – which "starred" in the latest James Bond thriller "Spectre", said Mr Komkrit Nongsawat, General Manager, Heritage Motor Sales and Services (Thailand) Co., Ltd., a subsidiary of MGC-ASIA, who is the sole dealer of Aston Martin in Thailand. "The Aston Martin booth at this year's Bangkok International Motor Show is guaranteed to draw crowds of discerning sports car aficionados like no other with these two extraordinary models."
          "DB11 is the most powerful, most efficient and most dynamically gifted DB model in Aston Martin's history making it the most significant new Aston Martin since the introduction of the DB9 in 2003, and I'm extremely thrilled for the DB fans in Thailand who will be the first to experience this milestone DB model, " added Mr. Komkrit.
          Aston Martin DB11: The latest in an illustrious bloodline
          DB11 is the absolute embodiment of what an Aston Martin should be combining both exceptional design with the latest technology throughout. A brand new bonded aluminium platform, clever aerodynamics, a new characterful twin-turbo V12 and class-leading infotainment systems are just a few aspects which make this the sports car that will proudly spearhead Aston Martin's second century plan.
          Heralding a new design era for Aston Martin, DB11 is the latest landmark in a remarkable aesthetic journey; one that gave us icons such as the DB2/4, DB5 and, most recently, the DB10 developed specifically for James Bond. DB11 re-imagines the relationship between form and function with a series of fresh design signatures. Foremost amongst these are the front-hinging clamshell bonnet, distinctive LED headlights and accentuated lines of the iconic Aston Martin grille.
          Like every Aston Martin, the heart of the DB11 is found beneath the bonnet, though unlike any Aston Martin before it, the DB11's heart is a 5.2-litre twin-turbocharged V12. Designed in-house this engine develops 608PS1 (600BHP1) and 700Nm1 of torque, making DB11 the most power production DB model ever. Naturally, it is the most dynamic and most accelerative too, with a top speed of 200mph and a 0-62mph time of just 3.9 sec.
          To exploit the advantages of its new body structure and harness the immense performance of the new twin-turbo V12 engine, the DB11's chassis, suspension, steering and electronics have been re-imagined and key new technologies embraced. Multiple driver-selectable dynamic modes – GT, Sport and Sport Plus – progressively intensiify the response of the engine, 8-speed automatic ZF transmission together wih the new electric power steering and Torque Vectoring by braking while increasing the firmness of the adaptive damping for a greater sense of agility. The result is a driving experience that combines exemplary ride comfort and true sports car agility, for an extraordinary breadth of dynamic capability.
          "At the same time Aston Martin Bangkok has continued with its expansion to ASEAN; and Aston Martin Lagonda (HQ) has entrusted MGC- Asia with the responsibility of expanding the Aston Martin market to Vietnam and Cambodia within 2016 with an initial investment of approximately USD 12-15 million.
          The construction of a showroom and a full-scale service centre will further support this expansion as the Bangkok office will be used as base to push further business growth. The Aston Martin market is expected to grow at least 20% in 2016. We also plan to open a full-service Aston Martin showroom in Phuket this April to better serve customers in the area," added Mr. Komkrit.
          The irresistible magnetism, ultimate luxury creations will be displayed at Aston Martin Booth, the 37th Bangkok International Motor show 2016, Challenger3, Impact Muang Thong Thani during on March 23rd until April 3rd,2016.

activity on March 24, 2016, 01:49:49 PM
แบบคูเป้ ราคาเริ่มต้นที่ 31.5 ล้านบาท และสไปเดอร์ เริ่มต้นที่ 32.5 ล้านบาท โดยบริษัท นิช คาร์ กรุ๊ป จำกัด ตัวแทนจำหน่ายแมคลาเรนอย่างเป็นทางการในประเทศไทย โทร 02-321-1111





          รถยนต์รุ่น 650S Spider และ Coupe มีประสิทธิภาพทางเครื่องยนต์ที่เหมือนกัน และใช้เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบรุ่นพิเศษของ McLaren M838T ซึ่งให้กำลัง 650 แรงม้า (641 แรงม้าเพลา) และ แรงบิด 678 นิวตันเมตร (500 ฟุต-ปอนด์) ซึ่งหมายถึงสามารถเร่งความเร็ว 0-100 กม./ชม. (62 ไมล์/ชม.) ได้ในเวลาเพียง 3 วินาที และ 0-200 กม./ชม. (124 ไมล์/ชม.) เพียง 8.6 วินาที โดยช้ากว่ารุ่นติดตั้งแบบ fixed-head เพียง 0.2 วินาที และสามารถทำความเร็วสูงสุดที่ 329 กม./ชม. (204 ไมล์/ชม.) ส่วนอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและการปล่อยไอเสียจะอยู่ระดับเดียวกับรุ่น 650S Spider คือที่ 24.2 ไมล์ต่อแกลลอน (11.7 ลิตร/100 กม.) ตามอัตราการใช้เชื้อเพลิงรวมหน่วยยูโร และอัตราไอเสียที่ 275 กรัม/กม.
          แบรนด์คู่แข่งมักจะไม่นำเสนอยานยนต์สมรรถนะสูงที่มีประสิทธิภาพเท่ากันในรูปแบบรถยนต์เปิดประทุน เนื่องจากอาจก่อให้เกิดความยุ่งยากสำหรับระบบเปิดประทุนได้ โดยรถเปิดประทุนเหล่านั้นจะมีน้ำหนักมากกว่าและมีความแข็งเกร็งต่อแรงบิดต่ำกว่า ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อการควบคุมและการขับขี่
          ทว่า ด้วยการใช้โครงรถที่เป็นวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์แบบ MonoCell ซึ่งเป็นหัวใจของรุ่นแมคลาเรน 650S จึงไม่จำเป็นต้องมีการเสริมความทนทานหรือเพิ่มความแข็งแรงในตัวฝาปิดด้านบนแต่อย่างใด ทั้งยังทำให้ยานยนต์ 650S Spider มีความสามารถในการควบคุมและการขับขี่ที่ดีเยี่ยมและมีรูปทรงเป็นแนวเส้นตรงอันสง่างาม โดยยานยนต์ 650S Spider มีน้ำหนักรวม 1,370 กก. (ขณะไม่เติมเชื้อเพลิง) และเพิ่มขึ้นเพียง 40 กก. เมื่อเป็นแบบรถคูเป้ ซึ่งเกิดจากการเพิ่มชิ้นส่วนหลังคาแข็งแบบพับและกลไกส่วนหลังคา หากก็ยังถือว่ามีน้ำหนักที่เบากว่ารถยนต์รุ่นอื่นในคลาสเดียวกัน
          หลังคาแข็งแบบพับสองชิ้นสามารถปรับขึ้นและลงได้ภายในเวลา 17 วินาที โดยปรับได้ทั้งในขณะหยุดนิ่งและขณะรถเคลื่อนด้วยความเร็วสูงถึง 30 กม./ชม. (19 ไมล์/ชม.)
          ยานยนต์ 650S Spider ยังใช้กระจกหน้าต่างหลังแบบฉนวนเหมือนกับรุ่น 12C Spider ซึ่งทำงานแยกส่วนกับหลังคารถ โดยเมื่อปิดหลังคาลง กระจกหน้าต่างหลังจะทำหน้าที่เป็นตัวเบี่ยงลมเพื่อป้องกันแรงกระแทกกับห้องโดยสาร ส่วนเมื่อเปิดหลังคา สามารถปรับหน้าต่างกระจกหลังลงได้เพื่อเพิ่มเสียงกระหึ่มของเครื่องยนต์และสร้างอรรถรสในการขับขี่แก่ห้องโดยสาร โดยเฉพาะการเปิดเพียงครึ่งเดียวเพื่อสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ของการขับขี่ท่ามกลางสายฝน เมื่อพับหลังคาลง แผ่นหลังคาจะถูกเก็บในแผงคลุมที่มีสีเดียวกับตัวรถโดยทำงานร่วมกับโครงค้ำคู่ด้านหลัง เมื่อยกหลังคาขึ้น พื้นที่ว่างใต้แผงคลุมยังสามารถปรับใช้เป็นพื้นที่เก็บของเพิ่มเติมได้
          นอกเหนือจากสมรรถนะระดับรถแข่งที่เปิดประทุนได้ ยานยนต์รุ่น 650S Coupe และ 650 Spider ยังตกแต่งด้วยวัสดุหรูหราคุณภาพเยี่ยม โดยตัวเบรกของรุ่น 650S ใช้วัสดุแบบคาร์บอนเซรามิกคู่กับล้ออัลลอยน้ำหนักเบาที่หุ้มด้วยยาง Pirelli P Zero Corsa นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบนำทางของ IRIS และระบบโทรศัพท์ผ่านสัญญาณบลูทูธ วิทยุระบบดิจิตัล DAB ในยุโรป (วิทยุดาวเทียม SIRIUS ในอเมริกาเหนือ) ระบบเชื่อมต่อออนไลน์แบบไร้สาย โดยติดตั้งระบบเครื่องเสียงและการสั่งงานด้วยเสียงเป็นมาตรฐานในรถยนต์ทุกรุ่น ส่วนห้องโดยสารภายในตกแต่งด้วยผ้าอัลแคนทาร่า (Alcantara) ทั้งหมด

activity on March 24, 2016, 01:50:32 PM
Coupe starting at 31.5 million baht and spider starting at 32.5 million baht By Niche Cars Group, the sole authorised dealer for McLaren in Thailand , Tel. 02-321-1111.





          The McLaren 650S Spider is mechanically identical to the 650S Coupe and is fitted with the unique McLaren M838T twin turbo V8 engine, producing 650PS (641 bhp) and 678 Nm (500 lb ft). This means a 0-100 km/h (62 mph) sprint of 3.0 seconds, identical to the Coupe, and 200 km/h (124 mph) is reached in 8.6 seconds, only 0.2 seconds shy of the fixed-head model. Maximum speed is 329 km/h mph (204 mph). Fuel consumption and emissions remain the same for the 650S Spider, returning 24.2 mpg (11.7 l/100km) on the EU combined cycle and 275 g/km.
          Most competitors do not offer high performance iterations as convertibles due to the compromises that invariably plague open-roof cars. These models will be heavier and have substantially less torsional rigidity, to the detriment of handling and ride.
          The carbon fibre MonoCell chassis at the heart of the McLaren 650S requires no additional strengthening or reinforcing in open-top guise, and gives the 650S Spider identical handling and ride, and virtually identical straight-line performance figures. The overall weight of the 650S Spider is 1,370 kg (dry), an increase of only 40 kg over the Coupe, with this additional mass coming from the Retractable Hard Top and roof mechanism, and is less than any other car in its class.
          The two-piece Retractable Hard Top can be automatically raised or lower in less than 17 seconds, and can be activated while stationary or at any speed up to 30km/h (19mph).
          As with the 12C Spider, the 650S Spider uses a heated glass rear window, operating independently of the roof. With the roof down, the rear window acts as a wind deflector, reducing cabin buffeting. Roof up, the rear screen can be lowered to allow more engine noise – and driving drama – into the cabin, and for a semi-open top driving experience even when it is raining. When down, the roof is stowed beneath a body-coloured hard tonneau cover incorporated in the twin rear buttresses. With the roof raised, the area beneath the tonneau cover can be used as additional luggage space.
          Rather than being a stripped out road racer, the 650S Coupe and 650 Spider models are fitted with a high level of luxury equipment as standard. Carbon ceramic brakes sit behind unique '650' lightweight alloy wheels shod with Pirelli P Zero™ Corsa tyres, IRIS satellite navigation with Bluetooth telephony, DAB digital radio in Europe (SIRIUS satellite radio in North America), wireless tethering, audio streaming and voice control are all fitted as standard, and the cabin is fully trimmed in Alcantara.

activity on March 24, 2016, 01:51:52 PM
Motor show 2016 คาวาซากิได้จัดแสดงรถจักรยานยนต์โดยแบ่งออกเป็น 4 โซนเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายตามธีมของงาน









          คาวาซากิได้จัดแสดงรถจักรยานยนต์โดยแบ่งออกเป็น 4 โซนเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายตามธีมของงาน พร้อมทั้งถ่ายทอดความสนุกสนานจากการใช้งานรถจักรยานยนต์ประเภทต่างๆ โดยแบ่งตามโซนดังนี้
          Ninja Zone
          Kawasaki Ninja ZX-10R 10R ผู้นำรถจักรยานยนต์สไตล์ Super Sports จัดแสดงในรูปแบบของ "Pit Box Concept" ที่ให้ภาพลักษณ์ของ Kawasaki Racing Team Ninja ZX-10R เครื่องจักรสายพันธุ์แชมป์เปี่ยมไปด้วยสุดยอดสมรรถนะและสามารถควบคุมได้ง่ายขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง ดีกรีแชมป์ในรายการ "FIM Superbike Championship 2015" ซึ่งภาพเหล่านี้ยังตราตรึงในความทรงจำของเราทุกคน Ninja ZX10-R แสดงให้เราเห็นถึงศักยภาพจากการคว้าชัยอย่างสมบูรณ์แบบที่สนามบุรีรัมย์
          ในปีนี้คาวาซากิส่ง 2 นักบิดไทย เอกชัย เซี่ยงหว่อง และ เบญจมินไทย ฟอร์ต ลงทำการสู้ศึกในรายการ "Thailand Championship ปี 2016" ในรุ่น Super Bike (SB1) และในรุ่น Super Stock (ST1) นอกจากนี้แล้วคาวาซากิยังได้จัดนำรถ Ninja 300 Champion Machine จากรายการ "Kawasaki Road Racing Championship" มาจัดแสดงให้ทุกท่านได้รับชมกัน และเพิ่มการแข่งขันรุ่น Ninja ZX10R บรรจุอยู่ในโปรแกรมการแข่งขันของ Kawasaki Road racing Championship และมีการจัด Fun Ride Circuitสำหรับนักแข่งมือใหม่อีกด้วย
          Z zone
          "Z style" เกิดขึ้นจากการผสมผสานระหว่างหลักปรัชญาที่สั่งสมมาอย่างยาวนานและวัฒนธรรมสมัยใหม่
          "Z" คือตัวตนของคาวาซากิ ประวัติศาสตร์ของ Z มีมายาวนานมากกว่าตระกูลนินจา หากเรากล่าวถึงตระกูล Z เราคงจะต้องย้อนอดีตไปถึงโมเดลในตำนานอย่าง "Z1" ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์ที่ทำความเร็วได้สูงสุดในยุคสมัยนั้นด้วยเครื่องยนต์ 900cc 4 สูบ Double overhead camshaft ในรูปโฉมสุดเท่ห์ "Z" เป็นตัวอักษรตัวสุดท้ายในอักษรภาษาอังกฤษ ซึ่งหมายถึง "ความเป็นที่สุด" และหมายเลข 1เป็นตัวเลขตัวแรก ดังนั้น "Z1" เป็นโมเดลที่ยอดเยี่ยมที่สุดของโลก ณ เวลานั้นอย่างแท้จริง และทำให้ผู้ขับขี่จำนวนไม่น้อยรู้สึกภาคภูมิใจที่มีโอกาสได้เป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์รุ่นที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก ปรากฏการณ์นี้กลายมาเป็นหลักปรัชญาและถูกถ่ายทอดลงมารุ่นสู่รุ่นจนมาถึง รุ่น Z1000 ที่ถูกพัฒนาขึ้นตามหลัก "ปรัชญา ซุโกมิ" ที่คุณคาวาคามิกล่าวถึงเมื่อซักครู่ และคำว่า "Super Naked" นั้นถูกสรรสร้างขึ้นมาเพื่อ Z1000
          รถในตระกูล Z ไม่ได้มีเพียง Z1000 เท่านั้น ด้วยความหลากหลายของรถตระกูล Z จึงทำให้มีกลุ่มผู้ใช้งาน Z ที่หลากหลายในประเทศไทย ความสนุกสนานที่ได้รับจากรถตระกูล Z นั้นแตกกันไปตามลักษณะของผู้ใช้งานแต่ละคน อย่างไรก็ตามเราสามารถเห็นถึงจุดร่วมที่เหมือนกันของผู้ใช้งาน Z นั่นก็คือความพึงพอใจและความภาคภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าของรถตระกูล Z และผู้ใช้งาน Z แต่ละคนได้สร้างวัฒนธรรมใหม่ที่เรียกว่า "Z style" ขึ้นมาเป็นเรื่องยากหากเราจะอธิบายด้วยคำพูด ประโยค หรือ รูปภาพ ดังนั้นทางเราจะขอแนะนำตัวตนของ "Z Style" ผ่าน "Z photo contest" กิจกรรมใหม่ของเรา
          Versys และ KLX Zone
          สำหรับโซน Versys และ KLX ถือเป็นการเปิดประสบการณ์ความท้าทายและความสนุกสนานในการขับขี่ พื้นที่นี้ถูกจัดเตรียมไว้สำหรับการท่องเที่ยวในสถานที่ที่แปลกใหม่ แตกต่าง และน่าสนใจ พร้อมทั้งผจญภัยไปกับรถจักรยานยนต์สไตล์ Off-Road และ Touring พร้อมที่จะนำเสนอประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์การใช้งานในทุกเส้นทาง (ในชีวิตจริง) ผู้ใช้งานรถจักรยานยนต์ทุกท่านต่างรู้ถึงความสนุกสนานจากการท่องเที่ยวและเดินทางไปยังที่ต่างๆ ด้วยรถจักรยานยนต์ ซึ่งในประเทศไทยนั้นมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าอัศจรรย์อยู่มากมาย คาวาซากิจึงมีความประสงค์ที่จะรวบรวมประสบการณ์การเดินทางของทุกท่านและนำเสนอสิ่งเหล่านั้นผ่านทางกิจกรรม Kawasaki Thailand Discovery
          การแข่งขัน Off Road เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นเร้าใจสำหรับคนรักรถจักรยานยนต์ คาวาซากิจะจัดการแข่งขัน Off Road Endurance ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก เพื่อมอบความสนุกสนานให้กับนักแข่งที่มาเข้าร่วมการแข่งขัน ทั้งนักแข่งมากประสบการณ์รวมไปถึงนักแข่งมือใหม่ด้วยเช่นกัน
          คาวาซากิยังมีผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นอยู่อีกมากมาย เราจะมีการจัดแสดงรถที่มาพร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำของคาวาซากิ เช่น Super charged machine "Ninja H2" รถรุ่นที่มีซีซีสูงที่สุด ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของเรา "1400GTR" "Ninja ZX-14R" และ WSBK 2015 champion machine "Ninja ZX10R" ถูกนำมาจัดแสดง ณ ที่แห่งนี้ด้วยเช่นกัน
          เราขอเชิญทุกท่านเข้าร่วมชมรถจักรยานยนต์คาวาซากิที่บูธคาวาซากิในงาน Bangkok International Motor Show ครั้งที่ 37 ซึ่งถูกจัดขึ้นที่เมืองทองธานีในวันที่ 23 มีนาคม – 3 เมษายน 2559 ทุกท่านสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารและกิจกรรมของคาวาซากิได้ที่เว็บไซต์ www.kawasaki.co.th หรือ www.facebook.com/KawasakiMotorsThailand

activity on March 24, 2016, 01:52:47 PM
Motor show 2016 Kawasaki divides a booth into four according to a theme in order to meet a variety of needs.









          Kawasaki divides a booth into four according to a theme in order to meet a variety of needs. We are going to introduce our model together with the way of fun by each different category.
          First above Ninja zone…
          Please feel Kawasaki racing world in this zone. The leading Super Sports Ninja ZX10R presented in the form of "Pit Box Concept" , similar to Kawasaki Racing Team… Ninja ZX-10R Champion Machine, which has high performance and can be controlled easily while riding at high speed…It has a degree as the owner of a throne of champion from the race "FIM Superbike Championship 2015". It is still fresh in our mind, Ninja ZX 10R proved its potential with perfect victory in Buriram
          In this year, Kawasaki sends its 2 Thai riders, Mr. Aekachai Siangwong and Mr. Benjaminthai Fort, to fight in "Thailand Championship 2016" with the motorcycles model Super Bike (SB1) and Super Stock (ST1), too. Besides that, Kawasaki also brings its Ninja 300 Champion Machine from the race "Kawasaki Road Racing Championship". This year's program of Kawasaki Road racing Championship we will have new class for Ninja ZX10R. And for non experienced riders we will conduct a Fun ride in circuit.
          Next is in Z zone.
          Here we will coordinate a legend philosophy and a new culture "Z style".
          "Z" is an identity of Kawasaki itself. A history of Z brand is older than Ninja brand. When we are talking about Z brand, we have to get in touch to a legend model "Z1". Z1, it was a fastest motorcycle at that era with 900cc 4sylinder engine in the extremely beautiful form. "Z" is a last character in alphabet and means "Ultimate", 1 is first number, literally "Z1" was a best model in the world. And a lot of riders were proudly being owner of this world best model.Z1 These phenomenon turned into a philosophy and it has been passed down to later generations our current model Z1000 having "Sugomi philosophy" as what Mr. Kawakami stated earlier. And the word of "Super Naked" was created for Z1000.
          The model has been called Z are not only Z1000. With a variety of Z models, there are varieties of Z riders are being in Thailand. The joyful with Z model are individually different by each own color. However what we can see in common is Z riders satisfied proudly being owner of Z models. And each Z riders are creating new culture that we called "Z style". It is not easy to illustrate by a word, sentence or images. So we are going to introduce these individual "Z style" through our new activity Z photo contest.
          For Versys & KLX Zone…to open up the experience of challenging and fun ridding…the area is provided for the new, unique and interesting touring & adventure with off-road and touring style motorcycles. We are ready to provide you the new experience and response to all journeys in real.
          Every rider knows how fun touring and journey by motorcycle. And there are a lot of amazing natural resources in Thailand. Kawasaki would like to gather your experience of journey and introduce it through the activity of Kawasaki Thailand Discovery.
          And off road race is another excitement event for motorcycle lovers. Kawasaki will organize off road endurance race which is popular in the world and a joyful for not only experienced riders but for beginners.
          Let's enjoy an extra ordinal experience through off road run.
          Kawasaki still has many outstanding products, we also displayed the models which contained Kawasaki's advanced technology such like Super charged machine "Ninja H2", highest displacement model among our motorcycle, "1400GTR", "Ninja ZX-14R", and again 2015 WSBK champion machine "Ninja ZX10R" is displayed here too.
          May we invite you to see Kawasaki motorcycles…the leading technological machines…here at Kawasaki booth at the 37th Bangkok International Motor Show held at Muanthong Thani from 23 March – 3 April 2016. You may also follow our news  and Kawasaki activities at www.kawasaki.co.th or www.facebook.com/KawasakiMotorsThailand

activity on March 24, 2016, 01:54:14 PM
เดินหน้าเต็มกำลัง!!GPX Racing ขนทัพรถสัญชาติไทย สู่ งาน Motor Show 2016









          เริ่มแล้ว!! กับงาน The 37th Bangkok International Motor Show หรืองานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ งานนี้ค่ายรถของคนไทยอย่าง GPX Racing ก็ไม่พลาด ขนทัพรถสุดโดนใจมาอวดโฉมให้ผู้เข้าชมภายในงานได้หลงใหลกับรูปลักษณ์ที่โดดเด่น เร้าใจกันอีกเช่นเคย ตื่นตาตื่นใจกันไปตั้งแต่ดีไซน์บูทที่อลังการกว่าทุกงานที่ผ่านมา เผยภาพลักษณ์ใหม่สุดร้อนแรง กับสีแดง-ดำ ประจำแบรนด์ GPX Racing
          สร้างความเซอร์ไพรส์กับงานเปิดบูทสุดตื่นตา ในวันงานรอบสื่อมวลชนที่ 22 มีนาคม ที่ผ่านมานี้ ที่ได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิในวงการยานยนต์ตบเท้าเข้าร่วมงาน แถมยังได้นักแสดงสาวมากความสามารถ อย่าง อุ้ม - ลักขณา วัธนวงส์ศิริ ร่วมเป็นแขกรับเชิญพิเศษ โดยมี ปั้นจั่น-ปรมะ อิ่มอโนทัย รับหน้าที่เป็นพิธีกรดำเนินงานในครั้งนี้ด้วย
          ทำเอาได้รับเสียงฮือฮาไปกับการเปิดตัว รถ New Model ในรหัส รุ่น "Legend 150" ซึ่งหลังจากที่ GPX Racing
          ได้ทำการเปิดตัวรถคลาสสิคในสไตล์คาเฟ่ เรเซอร์ อย่างเจ้า Legend พิกัด 200 ซีซี กันไปแล้ว จนได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลาม งานนี้ขอส่งอีกหนึ่งรุ่นตามกันมาติดๆ ในรหัสรุ่น Legend 150 ซีซี ที่มาในสไตล์แทรคเกอร์สุดเร้าใจ ไม่แพ้รุ่นก่อน เรียกได้ว่าเป็นกำไรของผู้บริโภคที่มีตัวเลือกเพิ่มเข้ามาให้ได้เลือกสรร กับราคาเปิดตัวอย่างเป็นทางการของเจ้า Legend ทั้งสองรุ่น ที่บอกเลยว่า เห็นแล้วถึงกับต้องร้องว้าว! สนนราคารุ่น Legend 200 ซีซี ที่ราคา 67,500 บาท และ รุ่น Legend 150 ซีซี ที่ราคา 55,800 บาท เท่านั้น!
          สุดเซอร์ไพรส์!!! กับการเปิดตัวรถ New Concept ในรหัส "Demon Scrambler" กับไอเดียการพัฒนาต่อยอดมาจากรุ่น Demon รถสุดฮิตประจำค่าย GPX Racing ที่งานนี้ทางค่ายขอจับมือกับดีไซน์เนอร์ชาวอิตาลีในการออกแบบผลงานชิ้นนี้ และถูกสานต่อผลงาน เข้าสู่กระบวนการผลิตโดยคนไทยอย่างเต็มรูปแบบ เริ่มจากการสเก็ตภาพ , การขึ้น Clay หรือขึ้นแบบจำลองดินน้ำมัน , การทำภาพจำลอง 3D ตลอดจนกระบวนการทำ CNC จนได้ออกมาเป็นรถ New Concept ในรหัส Demon Scrambler อย่างที่เราได้เห็นกันอยู่นี้เอง งานนี้ทางค่ายเผยว่าเจ้า Demon Scrambler นี้ เป็นอีกหนึ่งผลงานที่ต้องการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความสามารถของคนไทยอย่างพวกเรา! แต่ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าจะมีการผลิตออกมาจำหน่ายในอนาคตหรือไม่
          และนอกจากรุ่นที่ได้ทำการเปิดตัวใหม่กันแล้ว ยังขนทัพรถสุดเท่จากทางค่ายมาให้ได้ยลโฉมกันอีกมากมาย ทั้งรุ่น Legend 200 , Demon 125 และ CR5 200 ที่งานนี้ขนกันมาทั้งแบบฉบับดั้งเดิมและตัวแต่งจัดเต็มจากหลากหลายสำนักแต่งชื่อดัง อาทิ ZEUS, BoranClassic, Maker Bike Titanium, Murazaki Shop, 55Bike, LMC Racing และ MDF
          แล้วมาสัมผัสรูปโฉมสุดโดนใจกับมอเตอร์ไซค์สัญชาติไทยสุดเท่ พร้อมรับข้อเสนอเด็ดๆ กับโปรโมชั่นสุดพิเศษกันได้แล้ววันนี้! ถึง วันที่ 3 เมษายน 2559 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1 – 3 อิมแพค เมืองทองธานี ที่บูท GPX Racing รหัสบูท C5 นะจ๊ะ! แล้วเจอกัน!

activity on March 24, 2016, 01:55:22 PM
เชฟโรเลตเผยโฉม โคโลราโด เอ็กซ์ตรีม และเทรลเบลเซอร์ พรีเมียร์ ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2016 ครั้งที่ 37









          โคโลราโด เอ็กซ์ตรีม และเทรลเบลเซอร์ พรีเมียร์ กำหนดทิศทางใหม่อันน่าตื่นเต้นของตลาดรถกระบะและรถเอสยูวีเชฟโรเลต แคปติวา รุ่นปี 2016 เป็นรถเอสยูวีรุ่นแรกในประเทศไทยที่รองรับแอปเปิล คาร์เพลย์โปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าและผู้เข้าชมงานตั้งแต่วันนี้ถึงสิ้นเดือนเมษายน
          เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทยเผยโฉมโคโลราโด เอ็กซ์ตรีม (Colorado Xtreme) และเทรลเบลเซอร์ พรีเมียร์ (Trailblazer Premier) ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2016 ครั้งที่ 37 Show vehicle ทั้งสองคันนี้จะเป็นตัวกำหนดทิศทางใหม่อันน่าตื่นเต้นของเชฟโรเลตในการทำตลาดรถกระบะและรถเอสยูวีในประเทศไทย พร้อมเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้สัมผัสแนวทางการออกแบบของเชฟโรเลตในอนาคต
          มาร์คอส เพอร์ตี้ กรรมการผู้จัดการ จีเอ็ม ประเทศไทย และเชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย กล่าวระหว่างงานแถลงข่าวที่บูธเชฟโรเลตภายในงานมอเตอร์โชว์ว่า "Show vehicle ทั้งสองรุ่นได้รับการออกแบบขึ้นมาอย่างสร้างสรรค์ เพื่อยกระดับความน่าตื่นเต้นและเพิ่มอารมณ์ความเป็นรถกระบะและรถเอสยูวี ซึ่งเซกเมนท์ที่มีความสำคัญ ตลอดจนเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของเชฟโรเลตที่มีต่อตลาดรถในประเทศไทย"
          คุณวันชนะ อูนากูล ผู้อำนวยการทั่วไปฝ่ายวิศวกรรม จีเอ็ม ประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า "เรานำเสนอรถสองคันที่พัฒนาบนโครงสร้างแพลทฟอร์มเดียวกัน ซึ่งรถทั้งสองคันนี้มีบุคลิกที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง นั่นเป็นการแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงศักยภาพและความสามารถที่จะปรับตัวได้ของแพลทฟอร์มดังกล่าว"
          โคโลราโด เอ็กซ์ตรีม แสดงถึงความเป็นรถกระบะอเมริกันพันธุ์แกร่ง โดดเด่นด้วยสกู๊ปดักลมบนฝากระโปรง บันไดข้าง สปอร์ตบาร์ ตลอดจนซาฟารี บาร์ เน้นประโยชน์ใช้สอย ศักยภาพ และความแข็งแกร่ง ความบึกบึนของเอ็กซ์ตรีมยังถูกถ่ายทอดเข้าสู่ห้องโดยสารด้วยมาตรวัดเสริม และอุปกรณ์ตกแต่งอย่างมือจับฝั่งผู้โดยสารบนแดชบอร์ด และมาตรวัดระดับความเอียง
          ความลุยของเอ็กซ์ตรีมยังรวมถึงยางออฟโรดเต็มรูปแบบขนาด 18 นิ้ว หน้าจอทัชสกรีนขนาดแปดนิ้ว และระบบมายลิงค์รุ่นล่าสุดที่รองรับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อแอปเปิล คาร์เพลย์ และแอนดรอยด์ ออโต้
ขณะที่เทรลเบลเซอร์ พรีเมียร์ เป็นรถเอสยูวีที่ออกแบบมาเพื่อครอบครัวที่ชื่นชอบการเดินทางบนเส้นทางแปลกใหม่ แต่ยังต้องการความสะดวกสบายและความหรูหรา เทรลเบลเซอร์ พรีเมียร์มีความนุ่มนวลและละเอียดอ่อนกว่าโคโลราโด เอ็กซ์ตรีมในแง่ของสีสันและวัสดุ เน้นย้ำความหรูหราด้วยการใช้โครเมียมโทนสีสว่างและวัสดุระดับพรีเมียมอย่างไม้ออสเตรเลียที่คัดสรรและผลิตด้วยมือ
          ด้วยความใส่ใจสูงสุดต่อความสะดวกสบายของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ภายในห้องโดยสารเทรลเบลเซอร์ พรีเมียร์ได้รับการตกแต่งและประกอบด้วยคุณภาพเหนือระดับ การใช้สี วัสดุ และพื้นผิวที่มีความละเอียดและมีเอกลักษณ์สร้างความรู้สึกพรีเมียมในแบบที่ไม่ได้พบเห็นบ่อยครั้งนักสำหรับเซกเมนท์นี้ เทคนิคและกระบวนการตกแต่ง อย่างการขลิบขอบผ้าแบบพิเศษ และการตัดเย็บตาข่ายด้านหลังเบาะที่นั่งผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้วยมือช่วยเพิ่มบรรยากาศระดับพรีเมียมสุดพิเศษภายในห้องโดยสาร
          นอกจาก Show vehicle ทั้งสองคัน ผู้เยี่ยมชมบูธเชฟโรเลตจะได้สัมผัสกับเชฟโรเลต แคปติวา รุ่นปี 2016 โฉมใหม่ซึ่งเป็นรถเอสยูวีรุ่นแรกในประเทศไทยที่รองรับแอปเปิล คาร์เพลย์ผ่านระบบมายลิงค์แสดงข้อมูลผ่านหน้าจอทัชสกรีนขนาดเจ็ดนิ้ว ใช้กราฟฟิกที่มีสีสันชัดเจน ไอคอนที่อ่านง่ายขึ้น และทำงานเร็วขึ้น 30 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มความสะดวกสบาย ไม่พลาดทุกการติดต่อสื่อสาร ผู้ขับขี่สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องละมือจากพวงมาลัยผ่านการสั่งงานด้วยเสียงทั้งการโทรศัพท์และการส่งข้อความ
          แคปติวายังเป็นรถรุ่นแรกของเชฟโรเลตที่มาพร้อมระบบแจ้งเตือนมุมอับสายตา (Side Blind Zone Alert) ระบบแจ้งเตือนการจราจรและสิ่งกีดขวางด้านหลัง (Rear Cross Traffic Alert) เพื่อการขับขี่ที่สะดวกสบายและปลอดภัยมากขึ้น
          หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนที่สุดคือการออกแบบกระจังหน้าแบบดูอัลพอร์ทใหม่ ที่มาพร้อมกับไฟส่องสว่างขณะขับขี่เวลากลางวันในตัวแบบแอลอีดี รวมถึงไฟตัดหมอกที่กันชนด้านหน้า นอกจากนี้ยังมีการปรับตำแหน่งของโบว์ไทสัญลักษณ์ของเชฟโรเลตให้สูงขึ้นอีกด้วย เมื่อมองในภาพรวม แคปติวามีรูปลักษณ์ที่สดใหม่ขึ้น เต็มไปด้วยเทคโนโลยีและความรู้สึกร่วมสมัย
          การพัฒนาด้านเทคโนโลยียังรวมไปถึงความสามารถในการตรวจสอบแรงดันลมยางแบบแยกส่วนแต่ละล้อได้ นอกจากนี้ผู้ขับขี่ยังสามารถปรับเปลี่ยนข้อมูลได้จากสวิทช์ด้านข้างพวงมาลัย สวิทช์บนคอนโซลเรืองแสงสีขาวช่วยเพิ่มวิสัยทัศน์ และถูกปรับตำแหน่งเพื่อความสะดวกสบายตามหลักการยศาสตร์ของผู้ขับขี่
          ในงานมอเตอร์โชว์ เชฟโรเลตยังจัดแสดงเทรลเบลเซอร์ รถอเนกประสงค์ยอดนิยมรุ่นพิเศษที่มีชื่อว่า เทรลเบลเซอร์ เออร์แบน แพ็ค II (Trailblazer Urban Pack II) ซึ่งถูกตกแต่งเพิ่มเติม เพิ่มความแข็งแกร่งในขณะเดียวกันยังคงรักษาภาพลักษณ์ความหรูหราของตัวรถไว้เช่นเดิม โดยการติดตั้งสปอยเลอร์บนหลังคาสีเดียวกับตัวรถ พลาสติกกันรอยที่กันชนหลัง อุปกรณ์ตกแต่งประตูข้างแบบโครเมียม ไฟส่องสว่างขณะขับขี่กลางวันแบบแอลอีดี ล้ออัลลอยสีทูโทน และจอมอนิเตอร์แอลอีดีขนาด 10.1 นิ้วบนเพดานภายในห้องโดยสาร
          เทรลเบลเซอร์ เออร์แบน แพ็ค II มีจำหน่ายในรุ่น 2.8 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อนสี่ล้อ LTZ1 มีสามสีให้เลือก ได้แก่ สีขาว Summit White สีดำ Black Sapphire และสีน้ำตาล Auburn Brown โดยมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 1,512,000 บาท
          นอกจากความอลังการของ Show vehicle และรถรุ่นใหม่ที่เชฟโรเลตนำมาจัดแสดง ผู้เยี่ยมชมบูธเชฟโรเลตและลูกค้าจะได้เพลินเพลินไปกับมุมอุปกรณ์ตกแต่งสำหรับรถเชฟโรเลตภายในงาน และโปรโมชั่นสุดพิเศษ โดยเฉพาะแคมเปญรถเก่าแลกซื้อรถใหม่ (trade-in program) ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง
          ลูกค้าที่นำรถทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ มาแลกซื้อรถเชฟโรเลต จะได้รับส่วนลดเพิ่มจากราคาประเมินรถคันเก่า สำหรับเป็นส่วนลดแลกซื้อรถเชฟโรเลตคันใหม่มูลค่าสูงสุดถึง 50,000 บาท และรับส่วนลดเงินสดสูงสุดถึง 20,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยต่ำสุด 0.49 เปอร์เซ็นต์ และประกันภัยชั้นหนึ่งฟรี
          พิเศษสุดสำหรับลูกค้าที่จองรถภายในงานมอเตอร์โชว์หรือที่ศูนย์ผู้จัดจำหน่ายเชฟโรเลตทั่วประเทศระหว่างวันที่ 21 มีนาคมถึง 3 เมษายน 2559 และรับมอบรถภายในวันที่ 30 เมษายน 2559 จะได้รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติมฟรีทุกค่าใช้จ่าย หรือเลือกรับส่วนลดเงินสดเพิ่มสูงสุด 10,000 บาท และรับกระเป๋าเดินทางสุดหรูของเชฟโรเลตมูลค่า 3,000 บาท
          นอกจากนี้สำหรับลูกค้าที่จองรถเชฟโรเลตระหว่างวันที่ 8 มีนาคมถึง 30 เมษายน 2559 จะได้รับสิทธิ์ลุ้นรางวัลพิเศษบินลัดฟ้าสู่ประเทศอังกฤษ รับประทานอาหารค่ำท่ามกลางบรรยากาศสุดหรูในเชฟโรเลต เซนเทนเนียล สวีท ชมเกมการแข่งขันของทีมปีศาจแดง และพบปะกับนักเตะของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างใกล้ชิด
          ผู้เยี่ยมชมงานและลูกค้าเชฟโรเลตจะได้รับของขวัญที่ระลึก อาทิ กระเป๋าผ้าหรือแก้วจากเชฟโรเลต เมื่อลงทะเบียนภายในงาน และรับคูปองจากแมคโดนัลด์เมื่อทดลองขับ
พบยนตรกรรมอันน่าตื่นเต้นภายในบูธเชฟโรเลต A12 อิมแพ็ค ชาลเลนเจอร์ เมืองทองธานี
          งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมระหว่างวันที่ 23 มีนาคมถึง 3 เมษายน 2559 ตั้งแต่เวลา 12.00 – 22.00 น.ในวันธรรมดา และ 11.00 – 22.00 น. ในช่วงสุดสัปดาห์

activity on March 24, 2016, 01:55:56 PM
Chevrolet Unveils Colorado Xtreme and Trailblazer Premier at 37th Bangkok International Motor Show









          Show vehicles hint at exciting new direction for Thai pickup truck and SUV market 2016 Chevrolet Captiva on display is first SUV in Thailand to support Apple CarPlaySpecial promotions offered for customers and visitors through end of April
          Chevrolet Sales Thailand today unveiled at the 37th Bangkok International Motor Show two show vehicles that hint at an exciting new direction for the automaker's popular pickup truck and SUV in the Thai market. The Colorado Xtreme and Trailblazer Premier also offer a strong hint about Chevrolet's future design direction.
          GM Thailand and Chevrolet Sales Thailand Managing Director Marcos Purty said, "These show vehicles were created to inject excitement and passion into the critical pickup truck and SUV segments, and reinforce Chevrolet's commitment to the Thai market."
          Vanchana Unakul, general director of Engineering for GM Thailand and Southeast Asia, added: "The two vehicles have the same platform but completely different personalities. The show trucks are an exploration into the platform's significant potential and versatility."
          The Colorado Xtreme delivers on the promise of a tough American pickup truck. With its dramatic engine hood scoop, side plates on the sports bar and safari bar, it looks purposeful, capable and tough. The Xtreme's ruggedness continues inside through new auxiliary gauges and accessories such as a passenger grab handle on the side of the instrument panel and the inclusion of an inclinometer.
          Other details on the Xtreme include 18-inch full-mud terrain tires, an 8-inch color touch screen, and the latest MyLink system equipped with the latest Apple CarPlay® and Android Auto connectivity technology.
          The Trailblazer Premier is an SUV designed for families that love to escape the beaten path but in the comfort of luxurious sophistication. It is subtle and softer in terms of color and materials. This is emphasized through the use of bright chrome and premium materials such as Australian timber that was hand-picked and crafted.
          With driver and passenger comfort at the forefront, the trim and execution of the Trailblazer Premier's interior have been taken to the next level. The unique use of color, texture and materials creates a premium feel not usually found in the segment. New trim techniques and processes such as bespoke piping on seat trims and handmade netting on the back of the driver and front passenger seats add to the tailored and premium feel of the vehicle.
          In addition to the show vehicles, visitors to Chevrolet's booth will meet the new 2016 Chevrolet Captiva SUV. It is the first SUV in Thailand that supports Apple CarPlay®, via its enhanced, 7-inch capacitive MyLink touch screen with more colorful and legible graphics and icons. It is 30 percent faster than before, for more convenience. It also allows for hands-free operation via voice commands for calling and sending messages.
          In addition, the Captiva is the first Chevrolet model with Side Blind Zone Alert and Rear Cross Traffic Alert, for easier and safer driving.
          One of the most noticeable changes to the exterior of the 2016 Captiva is the treatment to the front end, which is more compact and has integrated LED daytime running lights. The front grille has also been redesigned, with the Chevrolet bowtie repositioned on the upper section of the signature dual-port grille. The overall treatment gives the SUV a refreshed, high-tech and contemporary feel.
          Inside, driver information can be customized via switches next to the steering wheel. Other enhancements include individual tire pressure readings, and reconfigured and white-backlit center stack buttons, for better visibility and driver ergonomics.
          At the motor show, Chevrolet is also showcasing a special edition of the popular Trailblazer SUV. The Trailblazer Urban Pack II is adorned with additional design features that add to the ruggedness without impacting the vehicle's premium and sophisticated appearance. New features on the Trailblazer Urban Pack II include a body-colored, roof-mounted rear spoiler; an anti-scratch rear bumper; chrome door trims; LED daytime running lights; two-tone alloy wheels; and a 10.1-inch roof-mounted LED monitor.
          The Urban Pack II is available on the Trailblazer 2.8L AT 4WD LTZ1. It comes with a choice of three body colors: Summit White, Black Sapphire and Auburn Brown. The Trailblazer Urban Pack II is available for THB 1,512,000.
          In addition to seeing exciting new models and show vehicles, visitors to Chevrolet's booth can check out the Chevrolet accessories zone and special promotions in conjunction with the motor show, particularly the ever-popular trade-in program.
          Customers who trade in their existing vehicles (all brands and models) for a new Chevrolet will receive an additional discount of up to THB 50,000 and cash discount of up to THB 20,000 with a minimum 0.49 percent interest rate and free first-class insurance.
          Those who book vehicles during the motor show period of March 21 to April 3 at Chevrolet's booth or Chevrolet showrooms nationwide will also get an all-free expenses deal or additional cash discount of THB 10,000 and Chevrolet premium luggage valued at THB 3,000, with delivery by April 30.
          Additionally, those who book Chevrolet vehicles at the motor show or at Chevrolet dealers nationwide through April 30 can participate in a contest with the chance to win two tickets to Manchester, England, to dine in the luxurious Chevrolet Centennial Suite at Old Trafford stadium during a Manchester United match and meet members of the team.
          Visitors and customers who register at Chevrolet's motor show booth will receive gifts such as a spun bond bag or double-walled glass. Additionally, those who test drive Chevrolet vehicles during the motor show period will receive a free McDonald's Value Meal voucher.
          Chevrolet's booth is located at A12, Impact Challenger Muangthong Thani. The 37th Bangkok International Motor Show is open to the public from March 23 to April 3. Opening hours are 12:00 noon-10:00 p.m. on weekdays and 11:00 a.m.-10:00 p.m. on weekends.

activity on March 24, 2016, 01:57:34 PM
รอยัล เอนฟิลด์ ส่งทัพจักรยานยนต์สัญชาติอังกฤษร่วมงานมอเตอร์โชว์ 2016









          รอยัล เอนฟิลด์ แบรนด์รถจักรยานยนต์คลาสสิคสัญชาติอังกฤษ เผยภาพรวมการเติบโตในตลาดไทย ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2016
          เน้นย้ำการบริการครบวงจรหลังการขายที่เข้าถึงกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ได้มากขึ้น
          หลังจากได้รับการตอบรับจากงานเปิดตัวศูนย์บริการและตัวแทนจำหน่ายรอยัล เอนฟิลด์ ทองหล่อ ที่ซอยสุขุมวิท 55 (ตรงข้ามซอยทองหล่อ23) ช่วงต้นปีที่ผ่านมา รอยัล เอนฟิลด์ แบรนด์รถจักรยานยนต์สัญชาติอังกฤษ พร้อมนำเสนอรถจักรยานยนต์ทุกรุ่นทุกแบบที่พร้อมจำหน่ายในไทย พร้อมเครื่องแต่งกายและอุปกรณ์ตกแต่งเสริม เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้ใช้รถจักรยานยนต์ขนาดกลางภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 37
          หลังจากประกาศเปิดตัวเป็นครั้งแรกในประเทศไทยพร้อมเผยกลยุทธ์สร้างการเติบโตและมุ่งเน้นความเป็นผู้นำระดับโลกในตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดกลาง (เครื่องยนต์ 250-750 ซีซี) เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2559 ที่ผ่านมา รอยัล เอนฟิลด์ได้เปิดตัวศูนย์บริการและตัวแทนจำหน่ายแห่งแรกในประเทศไทยที่ซอยสุขุมวิท 55 (ตรงข้ามซอยทองหล่อ23) ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เฉพาะกลุ่ม ซึ่งภายในพื้นที่โชว์รูมมีการดิสเพลย์รถรอยัล เอนฟิลด์ทุกรุ่น ได้แก่ รอยัล เอ็นฟิลด์ รุ่นคอนติเนนตัล จีที (Continental GT) แนวคาเฟ่เรเซอร์ รุ่นคลาสสิค โครม (Classic Chrome) รุ่นคลาสสิค (Classic) 500 ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์แนวสตรีทเรโทร โด่งดังด้วยรูปลักษณ์ยุคหลังสงคราม ที่มีความงามเป็นอมตะ และ รุ่นบุลเล็ต (Bullet) 500 ซึ่งเป็นรุ่นเอกลักษณ์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกของรอยัล เอนฟิลด์ และได้รับการผลิตมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ พ.ศ. 2475 พร้อมประวัติความเป็นมาที่มีจุดเริ่มต้นในประเทศอังกฤษ รวมถึงมีบริการรถทดสอบสำหรับลูกค้าที่สนใจครบทุกรุ่น
          ม.ล.พลอยนภัส ลีนุตพงษ์ กรรมการบริหาร บริษัท เจเนอร์รัล ออโต้ ซัพพลาย จำกัด กล่าวว่า "หลังจากเปิดศูนย์บริการและตัวแทนจำหน่ายรอยัล เอนฟิลด์ ทองหล่อแห่งแรกในประเทศไทย ก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มผู้ขับขี่จักรยานยนต์เฉพาะกลุ่ม รวมไปถึงสร้างความสนใจให้ผู้ที่กำลังมองหารถจักรยานยนต์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ เพื่อสะท้อนรสนิยมส่วนตัวและเข้าถึงง่ายมากขึ้น ซึ่งทางรอยัล เอนฟิลด์ตั้งใจมอบประสบการณ์การขับขี่มอเตอร์ไซค์ที่แท้จริง (Pure Motorcycling) นั่นคืออิสรภาพ หรือความเป็นอิสระจากพันธนาการทั้งปวง มีแต่คุณและเครื่องจักรที่กำลังโลดแล่นอยู่บนเส้นทางที่คุณกำหนดเอง"
          ทั้งนี้ ด้านการบริการหลังการขายในส่วนการดูแลบำรุงรักษาและซ่อมแซม ทางรอยัล เอนฟิลด์มีทีมช่างยนตร์มืออาชีพที่มีฝีมือและได้รับการอบรมจากบริษัทแม่ โดยปัจจุบันมี 4 แท่นซ่อม จึงสามารถรองรับรถที่นำเข้ามารับบริการได้ถึง 500 คันต่อเดือน ซึ่งทางบริษัทฯ มีเครื่องมือสำหรับการดูแลรถแต่ละรุ่นที่นำเข้าจากบริษัทแม่โดยเฉพาะ อีกทั้งยังมีความพร้อมในเรื่องของอะไหล่รถ โดยค่าบริการและค่าอะไหล่ต่างๆ ตอบโจทย์รถจักรยานยนต์ขนาดกลางที่เหมาะสำหรับการใช้งานได้ทุกวัน อาทิเช่น โช้ค ผ้าเบรค หรือไฟเลี้ยว ที่ล้วนแต่เป็นอะไหล่ที่มีคุณภาพ แต่ราคาตอบโจทย์ผู้บริโภค ซึ่งหากเปรียบเทียบกับรถมอเตอร์ไชค์ในตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดกลางระดับเดียวกัน รอยัล เอนฟิลด์ มีค่าบำรุงรักษาที่เข้าถึงได้ง่าย และด้วยคุณภาพของอะไหล่ที่สามารถมอบความมั่นใจให้แก่ลูกค้าได้เป็นอย่างดี
          ปัจจุบัน ประเทศไทย มีฐานของผู้ชื่นชอบรถจักรยานยนต์คลาสสิคที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีผู้ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะในการเดินทางระหว่างบ้านและที่ทำงานในแต่ละวันสูงถึง 1.6 ล้านคน โดยในประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในตลาดรถมอเตอร์ไซค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก จึงเป็นตลาดที่รอยัล เอนฟิลด์ ให้ความสำคัญอย่างมาก นอกจากนี้ยังถือเป็นตลาด Leisure Motorcycling ที่ก้าวหน้ามากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย ทางรอยัล เอนฟิลด์ได้มองเห็นโอกาสที่ดีในการแนะนำ รอยัล เอนฟิลด์ มาสู่กลุ่มลูกค้าในประเทศไทย ด้วยการนำเสนอรถมอเตอร์ไซค์สไตล์คลาสสิคของรอยัล เอนฟิลด์ ที่ใช้งานง่าย รวมทั้งมีความพร้อมในการให้บริการด้านของแต่ง เครื่องแต่งกาย อะไหล่ และการบริการหลังการขายแบบครบวงจร
          ราคารถมจักรยานยนต์รอยัล เอนฟิลด์ที่พร้อมจำหน่ายในตลาดประเทศไทยมีดังนี้
          รุ่นคอนติเนนตัล จีที (Continental GT) 219,800 บาท
          รุ่นคลาสสิค โครม (Classic Chrome) 198,800 บาท         
          รุ่นคลาสสิค (Classic) 189,800 บาท
          รุ่นบุลเล็ต (Bullet) 179,800 บาท
          ผู้สนใจสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ รอยัล เอนฟิลด์ ทั้งในด้านผลิตภัณฑ์ ประวัติศาสตร์ และกิจกรรมต่างๆ ได้ที่ www.royalenfield.com/thai และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในสังคมของรอยัล เอนฟิลด์ ได้ที่เฟซบุค https://www.facebook.com/RoyalEnfieldThaiOfficial/ และ https://www.facebook.com/royalenfieldsocietythailand รวมทั้งติดตาม รอยัล เอนฟิลด์ ได้ทางทวิตเตอร์ @royalenfield และอินสตาแกรม @royalenfield

activity on March 24, 2016, 02:00:19 PM
Royal Enfield showcases British Motorcycles at 2016 Motor Show









          Royal Enfield, the classic British motorcycles brand, unveil its overall performance in Thailand at 2016 Bangkok International Motor Show
          Highlight on integrated aftersales services made accessible to riders
          Royal Enfield, the fastest growing motorcycle brand in the world, after successfully launching its first retail operations in Thailand, is ready to showcase its complete finest range of classic British motorcycles and Gear range to cater to mid-size motorcycle lovers at 37th Bangkok International Motor Show.
          Following the announcement of its first entry into Thailand and a view to become the leader in global mid-sized motorcycle segment (250-750 cc), Royal Enfield launched its first exclusive brand store with authorized dealership and integrated service center in Thailand in Sukhumvit 55 Road (opposite Thonglor 23). The positive feedback has been widely received, especially from specific riders demographic. In the brand store, the full range of Royal Enfield motorcycles are displayed including the Continental GT 535cc caf racer, the Classic Chrome and Classic 500, Royal Enfield's retro street model, known for its post war, timeless styling, and the Bullet, world's oldest motorcycle in continuous production since 1932.
          "After the grand opening of Royal Enfield Thonglor, the first dealer and service center in Thailand, we have received great feedback from specific riders including those who are interested in unique motorcycles that reflect their personal style and preferences that are approachable and unintimidating. Royal Enfield has a commitment to offer Pure Motorcycling riding experience which is a freedom from all boundaries. It is only you and the engine on your chosen journey." said ML Ploynapat Leenutaphong, Executive Director of General Auto Supply
          For aftersales service and maintenance aspects, Royal Enfield Thailand has prepared highly-skilled mechanic team trained with the global Royal Enfield standards. The four service bays are set up to support up to 500 motorcycles per month, using imported original tools and parts from Royal Enfield to service all models. The brand has set reasonable pricing for services, maintenance and parts to suit mid-size motorcycles appropriate for daily use. All spare parts are high quality yet accessible for consumers. In comparison to other mid-size motorcycles, Royal Enfield offers friendly prices while giving the assurance of highest quality to customers.
          Thailand currently has growing classic motorcycle fan base and home to one of the most enthusiastic and seasoned riding communities in the world. With 1.6 million daily motorcycle users who commute daily, Thailand is considered one of the biggest motorcycle markets in the world, and one of the key markets for Royal Enfield. With its aspirational yet accessible range of motorcycles suitable for riding within the city, as well as long-distance rides during weekend, the 115 years old iconic motorcycle brand intends to revolutionize and reinvigorate the mid-size motorcycle segment in Thailand by offering approachable classic motorcycle with complete range of apparels and accessories, including purpose-built protective riding gear and lifestyle gear, motorcycle spare parts and complete integrated aftersales services.
          The Royal Enfield motorcycles are available in Thailand in the following prices:
The Bullet is available at a price of THB 179,800 for 500cc. The Classic 500 is available for THB 189,800 and Classic Chrome for THB 198,800. The Royal Enfield Continental GT 535cc caf racer is available at a price of THB 219,800.

activity on March 24, 2016, 02:00:26 PM
Royal Enfield showcases British Motorcycles at 2016 Motor Show









          Royal Enfield, the classic British motorcycles brand, unveil its overall performance in Thailand at 2016 Bangkok International Motor Show
          Highlight on integrated aftersales services made accessible to riders
          Royal Enfield, the fastest growing motorcycle brand in the world, after successfully launching its first retail operations in Thailand, is ready to showcase its complete finest range of classic British motorcycles and Gear range to cater to mid-size motorcycle lovers at 37th Bangkok International Motor Show.
          Following the announcement of its first entry into Thailand and a view to become the leader in global mid-sized motorcycle segment (250-750 cc), Royal Enfield launched its first exclusive brand store with authorized dealership and integrated service center in Thailand in Sukhumvit 55 Road (opposite Thonglor 23). The positive feedback has been widely received, especially from specific riders demographic. In the brand store, the full range of Royal Enfield motorcycles are displayed including the Continental GT 535cc caf racer, the Classic Chrome and Classic 500, Royal Enfield's retro street model, known for its post war, timeless styling, and the Bullet, world's oldest motorcycle in continuous production since 1932.
          "After the grand opening of Royal Enfield Thonglor, the first dealer and service center in Thailand, we have received great feedback from specific riders including those who are interested in unique motorcycles that reflect their personal style and preferences that are approachable and unintimidating. Royal Enfield has a commitment to offer Pure Motorcycling riding experience which is a freedom from all boundaries. It is only you and the engine on your chosen journey." said ML Ploynapat Leenutaphong, Executive Director of General Auto Supply
          For aftersales service and maintenance aspects, Royal Enfield Thailand has prepared highly-skilled mechanic team trained with the global Royal Enfield standards. The four service bays are set up to support up to 500 motorcycles per month, using imported original tools and parts from Royal Enfield to service all models. The brand has set reasonable pricing for services, maintenance and parts to suit mid-size motorcycles appropriate for daily use. All spare parts are high quality yet accessible for consumers. In comparison to other mid-size motorcycles, Royal Enfield offers friendly prices while giving the assurance of highest quality to customers.
          Thailand currently has growing classic motorcycle fan base and home to one of the most enthusiastic and seasoned riding communities in the world. With 1.6 million daily motorcycle users who commute daily, Thailand is considered one of the biggest motorcycle markets in the world, and one of the key markets for Royal Enfield. With its aspirational yet accessible range of motorcycles suitable for riding within the city, as well as long-distance rides during weekend, the 115 years old iconic motorcycle brand intends to revolutionize and reinvigorate the mid-size motorcycle segment in Thailand by offering approachable classic motorcycle with complete range of apparels and accessories, including purpose-built protective riding gear and lifestyle gear, motorcycle spare parts and complete integrated aftersales services.
          The Royal Enfield motorcycles are available in Thailand in the following prices:
The Bullet is available at a price of THB 179,800 for 500cc. The Classic 500 is available for THB 189,800 and Classic Chrome for THB 198,800. The Royal Enfield Continental GT 535cc caf racer is available at a price of THB 219,800.