activity on December 02, 2015, 08:36:45 AM
Gossip News : คุณใหม่ – พรนฎา เตชะไพบูลย์ ผู้บริหารหญิงคนเก่งแห่งค่ายเวสปิอาริโอ



          คุณใหม่ – พรนฎา เตชะไพบูลย์ ผู้บริหารหญิงคนเก่งแห่งค่ายเวสปิอาริโอ รุกตลาดรถสองล้อระดับพรีเมี่ยม จัดทัพ "เวสป้า" สกู๊ตเตอร์สัญชาติอิตาลีนับสิบคัน บุกงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ครั้งที่ 32 แถมเตรียมเซอร์ไพรส์ให้กับสาวกสองล้อสุดคลาสสิก ด้วยการเปิดตัว โมเดลใหม่ล่าสุดและรุ่นพิเศษครั้งแรกในประเทศไทยภายในงาน พร้อมเผยโฉม "เวสป้า 946 เอ็มโพริโอ อาร์มานี่" (Vespa 946 Emporio Armani) สุดยอดยนตรกรรมสองล้อลักชัวรี่อย่างเป็นทางการ งานนี้คุณใหม่แอบกระซิบว่า ได้เตรียมข้อเสนอสุดคุ้มและของสมนาคุณแบบพรีเมี่ยมไว้รอต้อนรับผู้ที่สนใจเป็นเจ้าของรถสกู๊ตเตอร์เวสป้าทุกรุ่นภายในงาน ไม่ว่าจะเป็นข้อเสนอดาวน์เริ่มต้นเพียง 5,000 บาท สำหรับรุ่น 125 ซีซี หรือผ่อนเริ่มต้นเพียง 3,701 บาท สำหรับรุ่น 150 ซีซี เป็นต้น

          พบกับบูธ "เวสป้า" พรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์สัญชาติอิตาลีได้ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ครั้งที่ 32 ระหว่างวันที่ 2-13 ธันวาคม 2558 ที่บูธหมายเลข G.01 – 2 อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

activity on December 02, 2015, 08:37:24 AM
เวสป้ารุกตลาดสิ้นปีครั้งยิ่งใหญ่ เปิดคาราวานรถใหม่ 3 รุ่น ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ครั้งที่ 32 พร้อมโปรโมชั่นพิเศษและของพรีเมี่ยมเอาใจคนรักเวสป้าทั่วประเทศ





          บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถพรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์สัญชาติอิตาลี "เวสป้า" และ "พิอาจิโอ" แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย พร้อมรุกตลาดสองล้อสิ้นปีนี้ เปิดคาราวานเวสป้าพร้อมอวดโฉมเวสป้าโมเดลใหม่ล่าสุด "เวสป้า แอลที 125 3Vie" (Vespa LT 125 3Vie) เวสป้ารุ่นพิเศษ "เวสป้า สปริ้นท์ 150 3Vie เวโลเช่ ซีรี่ย์ส" (Vespa Sprint 150 3Vie Veloce Series) และ สุดยอดนวัตกรรมรถสกู๊ตเตอร์เวสป้าแห่งปี "เวสป้า 946 เอ็มโพริโอ อาร์มานี่" (Vespa 946 Emporio Armani) เป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่งานมอเตอร์เอ็กซ์โป ครั้งที่ 32 พร้อมเตรียมเซอร์ไพรส์ให้สาวกสองล้อสุดคลาสสิก ด้วยโปรโมชั่นพิเศษและของพรีเมี่ยมที่ขนมาเอาใจคนรักเวสป้าโดยเฉพาะ

          คุณพรนฎา เตชะไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า "ในไตรมาสสุดท้ายนี้ บริษัทฯ ยังคงใช้แผนและกลยุทธ์ทางการตลาดด้วยการสานต่อแคมเปญ "More Than Just A Ride; It's Vespa Time" นำเสนอโปรโมชั่น กิจกรรมทางการตลาดและแคมเปญพิเศษต่างๆ เพื่อรักษาฐานลูกค้าเก่า นอกจากนี้ยังเน้นกลยุทธ์เปิดตัวโมเดลรถเวสป้ารุ่นพิเศษเพื่อเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ โดยสำหรับงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32หรือ Thailand International Motor Expo 2015 นี้ บริษัทฯ ได้เข้าร่วมจัดแสดงบูธภายใต้คอนเซปต์ Motoplex พร้อมขนคาราวานเวสป้าไปเปิดตัวรถสกู๊ตเตอร์เวสป้าโมเดลใหม่ 3 รุ่น ให้สาวกเวสป้ายลโฉมครั้งแรกในประเทศไทย ได้แก่เวสป้า แอลที 125 3Vie (Vespa LT 125 3Vie) เวสป้าโมเดลใหม่ล่าสุดที่ถือเป็นไฮไลท์ สำหรับผู้ขับขี่ที่ชื่นชอบความสนุกสนาน เวสป้า สปริ้นท์ 150 3Vie เวโลเช่ ซีรี่ย์ส (Vespa Sprint 150 3Vie Veloce Series) เวสป้าโมเดลพิเศษเอาใจกลุ่มคนรักความเร็วด้วยเครื่องยนต์ 150 ซีซี และ เวสป้า 946 เอ็มโพริโอ อาร์มานี่ (Vespa 946Emporio Armani) สุดยอดนวัตกรรมสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมสำหรับสาวกเวสป้าที่ชื่นชอบลักซ์ชัวรี่แบรนด์ นอกจากนี้ยังเสนอโปรโมชั่นสุดพิเศษและของพรีเมี่ยมให้กับผู้ที่สนใจซื้อรถสกู๊ตเตอร์เวสป้าในงานนี้เท่านั้นอีกด้วย"

          พบกับเวสป้ารุ่นใหม่ที่ถือเป็นรุ่นไฮไลท์ที่สุดในงานนี้ เวสป้า แอลที 125 3Vie (Vespa LT 125 3Vie) ที่มาพร้อมกับคอนเซปต์การออกแบบให้เป็นรถสกู๊ตเตอร์ที่ดูสนุกสนาน "เพิ่มสีสันให้ชีวิตในแบบที่คุณเลือกเอง" ผู้ขับขี่สามารถออกแบบดีไซน์รถได้เองด้วยเซ็ตสติ๊กเกอร์ 5 สี ให้คุณวาดลวดลายออกแบบเวสป้าได้ตามใจชอบ สนุกกับสกู๊ตเตอร์คันเก่งและทดสอบจินตนาการของคุณไปพร้อมๆ กัน เวสป้า แอลที 125 3Vie มีให้เลือก 3 สี 3 สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น สีขาว (Urban Bianco) มาในราคาพิเศษช่วงแนะนำ 75,900 บาท สีแดง (Sport Rosso) และสีดำ (Sport Nero)

          ราคาพิเศษช่วงแนะนำ 76,900 บาท นับเป็นเวสป้าราคาย่อมเยาที่สุดที่เคยเปิดตัวออกสู่ตลาดเมืองไทย

          สำหรับ เวสป้า สปริ้นท์ 150 3Vie เวโลเช่ ซีรี่ย์ส (Vespa Sprint 150 3Vie Veloce Series) เป็นเวสป้ารุ่นพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อเอาใจกลุ่มคนรักความเร็วด้วยดีไซน์ลุคสปอร์ต โดยได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจาก "เวสป้า สปริ้นท์ เวโลเช่" (Vespa Sprint Veloce) ในยุค 70 พร้อมเสริมลุคให้ผู้ขับขี่ด้วยสติ๊กเกอร์แถบสีสไตล์สปอร์ตด้านข้างตัวรถ ชิวด์สั้นสีสโม้ค เพลทเหล็กโลโก้ Veloce Series ที่ทำขึ้นพิเศษเฉพาะรุ่นและแต่งเสริมความหล่อด้วยล้อแม็กสีดำที่ให้คุณมั่นใจกว่าใครในทุกเส้นทาง ในราคา 124,900 บาท มี 5 สีให้เลือกตั้งแต่สีขาว (Montebianco) สีแดง(Rosso Dragon) สีดำ (Nero Vulcano) สีเหลือง (Giallo Positano) และสีส้ม (Taormina) พร้อมจำหน่ายในราคา124,900 บาท

          สิ้นสุดการรอคอยสำหรับคนรักเวสป้าชาวไทย เผยโฉมที่สุดแห่งนวัตกรรมการสร้างสรรค์อันโดดเด่นด้วยรถสกู๊ตเตอร์เวสป้าแห่งปี เวสป้า 946 เอ็มโพริโอ อาร์มานี่ (Vespa 946 Emporio Armani) เวสป้ารุ่นสุดพิเศษที่สุดยอดสองแบรนด์ดังจากประเทศอิตาลีอย่างเวสป้าและเอ็มโพริโอ อาร์มานี่ ร่วมกันสร้างสรรค์รถสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมคันนี้ โดยถ่ายทอดอัตลักษณ์ด้านดีไซน์ ความหรูหรา ตลอดจนความพิถีพิถันในทุกรายละเอียดเนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปีของการก่อตั้ง 'จีออร์จีโอ อาร์มานี่' และ 130 ปี ของ 'พิอาจิโอ กรุ๊ป' มีจุดเด่นอยู่ที่โทนสีอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์อาร์มานี่ คือสีที่ผสมผสานสีเทาเข้มเข้ากับสีเหลือบเขียว มาพร้อมกับสุดยอดเทคโนโลยีเพิ่มเติมความสมบูรณ์แบบให้เวสป้ารุ่นพิเศษรุ่นนี้ โดยจัดจำหน่ายในจำนวนจำกัดด้วยราคา 599,000 บาท

          นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังร่วมกับพันธมิตรใจดีอย่างกรุงศรี ออโต้ ลีสซิ่ง จัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้ที่สนใจเป็นเจ้าของรถสกู๊ตเตอร์เวสป้าทุกรุ่นอีกด้วย อาทิ รุ่น 125 cc. ดาวน์เริ่มต้นเพียง 5,000 บาท และผ่อนเริ่มต้นเพียง 2,566 บาทต่อเดือน สำหรับรุ่น 150 cc. ดาวน์เริ่มต้นเพียง 8,000 บาทและผ่อนเริ่มต้นเพียง 3,701 บาทต่อเดือน พร้อมทั้งยังเตรียมของพรีเมี่ยมพิเศษต่างๆ มากมาย เพื่อให้สาวกเวสป้าได้สะสมเป็นคอลเลคชั่นพิเศษกันอย่างจุใจ

activity on December 02, 2015, 08:39:09 AM
เคทีเอ็มจับมือเบิร์นรับเบอร์ครั้งแรกในประเทศไทย เปิดตัวรถ 3 รุ่นใหม่ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ครั้งที่ 32 เกณฑ์กองทัพสีส้มพร้อมลุยทั้งกลุ่มสตรีทและออฟโรดในบูธสไตล์ Ready To Race พร้อมกับโปรโมชั่นและรถราคาพิเศษแบบจัดเต็ม







           บริษัท เบิร์นรับเบอร์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายมอเตอร์ไซค์สัญชาติออสเตรียแบรนด์ "เคทีเอ็ม" แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32 หรือ Thailand International Motor Expo 2015 พร้อมอวดโฉม 2รุ่นใหม่ อาร์ซี 250 (RC 250) และ 250 ดู๊ค (250 Duke) ครั้งแรกในประเทศไทยและ 1 รุ่นไฮไลต์​ 1290 ซุปเปอร์ แอดเวนเจอร์​ (1290 Super Adventure)

          บริษัท เบิร์นรับเบอร์ จำกัด ได้เข้าดำเนินกิจการมอเตอร์ไซค์แบรนด์เคทีเอ็ม (KTM) ตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา พร้อมสานต่อ Core Values 4 ด้าน ของแบรนด์เคทีเอ็ม (KTM) ได้แก่ PURITY (ความบริสุทธิ์ในการดีไซน์) แบรนด์เคทีเอ็มมุ่งเน้นการออกแบบเพื่อสร้างสมรรถนะที่ดีที่สุดสำหรับมอเตอร์ไซค์ในแต่ละรุ่น โดยตัดทอนน้ำหนัก ชิ้นส่วนหรือองค์ประกอบที่เกินความจำเป็นออกเพื่อให้ได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์ที่พร้อมลงสนามในทุกสถานการณ์ PERFORMANCE (สมรรถนะยอดเยี่ยม)สมรรถนะเป็นพื้นฐานสำคัญของแบรนด์เคทีเอ็มภายใต้ปรัชญา "Ready To Race" ADVENTURE(ความน่าตื่นเต้นในการขับขี่) ผู้ขับขี่จะได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ๆ ทุกครั้งที่ขับขี่มอเตอร์ไซค์แบรนด์เคทีเอ็ม เพื่อเพิ่มความท้าทายให้กับตัวผู้ขับขี่ และ EXTREME (ความท้าทายในผลิตภัณฑ์) เคทีเอ็มมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ทุกรุ่นทุกแบบให้สอดคล้องกับ Core Values ทั้ง 4 ด้านของเรา โดยทางเบิร์นรับเบอร์พร้อมรุกตลาดประเทศไทยกับรถมอเตอร์ไซค์ทั้งหมด 12 รุ่นในกลุ่มสตรีทและออฟโรดอย่างเต็มตัว

          คุณภูมินทร์ นิวาตวงศ์ กรรมการบริหาร บริษัท เบิร์นรับเบอร์ จำกัด เปิดเผยว่า "ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสดีที่ทางบริษัทฯ ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทยในฐานะผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์แบรนด์เคทีเอ็ม พร้อมทั้งได้พบกับสาวกแบรนด์สีส้มครั้งแรกอีกด้วย ทั้งนี้บริษัทฯ จะเปิด KTM Flagship Bangkok ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ครั้งแรกที่ประเทศไทย ณ โครงการ เอ แสควร์ ซอยสุขุมวิท 26 เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับสาวกแบรนด์เคทีเอ็มแบบครบวงจรไม่ว่าจะเป็นโชว์รูมผลิตภัณฑ์ ศูนย์บริการ และกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ ที่เราวางแผนและเตรียมพร้อมให้กับผู้หลงใหลแบรนด์สีส้มอย่างเต็มที่ นอกจากนี้เรายังมีความมุ่งมั่นและพร้อมที่จะพัฒนาแบรนด์ให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของเคทีเอ็มและเติบโตอย่างมั่นคงในตลาดมอเตอร์ไซค์ในประเทศไทยภายใต้ปรัชญา "Ready To Race" ในทุกๆ ด้านอีกด้วย"

          สำหรับรถที่บริษัทฯ นำมาเปิดตัวในครั้งนี้มี 3 รุ่น ดังนี้

          เคทีเอ็ม 1290 ซุปเปอร์ แอดเวนเจอร์​ (KTM 1290 Super Adventure) รถรุ่นไฮไลต์ในปี 2015 ของแบรนด์เคทีเอ็ม ที่มาพร้อมกับ Standard Equipment Package เพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย พร้อมทั้ง ติตตั้งระบบไฟฟ้า และอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยแบบครบวงจรที่ดีที่สุดในตลาดรถจักรยานยนต์ในปัจจุบัน อาทิ WP Suspension ระบบ MSC (Motorcycle Stability Control) ระบบ MTC Traction Control ระบบ Cruise Control เป็นต้น ซึ่งอุปกรณ์และแอคเซสเซอรี่ทั้งหมดที่มากับรถคันนี้ทำให้ เคทีเอ็ม 1290 ซุปเปอร์ แอดเวนเจอร์​ เป็นรถที่มีความปลอดภัยสูงที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์กำลังสูงสุดเหมาะสำหรับการขับขี่ท่องเที่ยวแบบ Enduro ซึ่งหาคู่เปรียบเทียบได้ยาก

          อาร์ซี 250 (RC 250) และ 250 ดู๊ค (250 Duke) แบรนด์เคทีเอ็มพร้อมขยายตลาดในกลุ่มรถมอเตอร์ไซค์แบบสตรีท โดยการเพิ่มมอเตอร์ไซค์รุ่น อาร์ซี 250 (RC 250) และ 250 ดู๊ค (250 Duke)ถึงแม้ อาร์ซี 200 (RC 200) และ 200 ดู๊ค ที่จัดจำหน่ายแล้วจะได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลกเป็นอย่างดี เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ขนาดเครื่องยนต์ขนาดกลางที่ต้องการความเร็วในการเข้าโค้งที่เร้าใจและสมรรถนะที่เยี่ยมยอดเวลาเบรคลึกและยังคงขับขี่โดยใช้ความเร็วได้นานขึ้น โดยทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมกับน้ำหนักรถสุทธิเพียง 139 กิโลกรัม สำหรับ 250 Duke และ147 กิโลกรัม ในรุ่น RC 250 ซึ่งด้วยน้ำหนักที่เบาลงนี้ทำให้ตอบโจทย์ผู้ขับขี่ที่ต้องการเพิ่มสมรรถนะในการเข้าโค้งด้วยการใช้ความเร็วสูงสุดและเพิ่มความสามารถในการเบรคชะลอความเร็วของรถช้าที่สุดตลอดจนการทำให้รถทรงตัวอยู่ได้นานที่สุดอีกด้วย ทั้ง 2 รุ่นใหม่นี้ จึงถือเป็นรถมอเตอร์ไซค์อีกทางเลือกหนึ่งที่ตอบสนองการขับขี่ได้อย่างสมบูรณ์แบบสำหรับสมรรถนะในรถขนาด 250 ซีซี ที่มีความน่าเชื่อถือ คงทน และใช้ขับขี่ได้จริงไม่ว่าจะเป็นการขับขี่เพื่อเดินทางไปทำงานในแต่ละวันหรือเป็นกิจกรรมอดิเรกที่โปรดปรานในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์หรือเพียงเพื่อใช้เดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ทำให้มอเตอร์ไซค์ เคทีเอ็มรุ่น RC 250 และ 250 Duke ใหม่นี้ถือเป็นต้นกำเนิดของมาตรฐานรถขนาด 250 ซีซีไปแล้ว

          นอกจากนี้ทางเคทีเอ็มยังได้นำเสนอโปรโมชั่นพิเศษมากมายให้เฉพาะกับผู้ที่มาร่วมงานมหกรรมยานยนต์ในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นราคาพิเศษช่วงแนะนำ ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งและกิ๊ฟท์เซ็ตจากกลุ่ม แอคเซสเซอรี่ของเคทีเอ็ม PowerWear และ PowerParts พร้อมทั้งข้อเสนอพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย สามารถพบกับเราได้ที่บูธหมายเลข G01-1 และสามารถติดตามข่าวสารและข้อมูลต่างๆ ของเคทีเอ็มได้ทางwww.KTM.com หรือทางช่องทาง Facebook (www.facebook.com/KTMThailandOfficial)

activity on December 02, 2015, 02:03:35 PM
วอลโว่ ผู้นำด้านนวัตกรรมยานยนต์ เผยโฉม V40 T5 R-Limited พร้อมจัดโปรโมชั่นแรงส่งท้ายปี









          วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จัดความแรงส่งท้ายปี ด้วยการเปิดตัว V40 T5 R Limited รถแฮทช์แบคระดับพรีเมี่ยมรุ่นล่าสุด ที่เสริมสมรรถนะด้วยเครื่องยนต์ใหม่ Drive-E Powertrain และ Polestar Performance มาในมาดคมเข้มด้วยชุดแต่งครบครัน พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยรุ่นล่าสุดปกป้องทั้งผู้อยู่ในรถและผู้ร่วมใช้ถนน มีจำหน่ายเพียง 28 คันในราคาพิเศษ นอกจากนี้ยังเตรียมมอบโปรโมชั่นแรงตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 ธันวาคม ประกอบด้วยโปรแกรมดอกเบี้ย 0% ผ่อนนาน 5 ปี และโปรโมชั่นเลือกวอลโว่คันที่ชอบ จากคู่ที่ใช่ในราคาเดียว พร้อมข้อเสนอเพิ่มการประกันคุณภาพจาก 3 ปี เป็น 5 ปี หรือ 100,000 ก.ม. ผู้ที่สนใจสามารถพบกับข้อเสนอดี ๆ ของวอลโว่ได้ที่ บูธ B10 งาน Motor Expo 2015 และที่โชว์รูมทั่วประเทศ
          นางสาวแอเน็ต แอนเดอร์สัน กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ในช่วงเวลาแห่งความสุขในเดือนธันวาคมนี้ บริษัทได้ออกแคมเปญสุดพิเศษเป็นของขวัญส่งท้ายปีแก่ลูกค้า เพื่อให้การตัดสินใจเป็นเจ้าของรถยนต์หรูที่เปี่ยมด้วยสมรรถนะและเทคโนโลยีความปลอดภัยเป็นเรื่องง่ายขึ้น"
          หลังจากวอลโว่ V40 ใหม่ ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จัดรถแฮทช์แบ็คหรูรุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น มาเอาใจผู้ที่ชื่นชอบรถหรูคอมแพ็คท์แรงสูงโดยเฉพาะ ด้วยวอลโว่ V40 T5 R-Limited ซึ่งเปี่ยมด้วยคุณลักษณะ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ใหม่ Drive-E Powertrain?ที่มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา แต่ให้พลังแรง ประหยัดน้ำมัน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นกว่าเดิม เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดพร้อม Paddle Shift นอกจากนี้ยังเสริมความเร้าใจด้วยชุดเพิ่มสมรรถนะ Polestar Performance บูสท์กำลังจาก 220 แรงม้า เป็น 245 แรงม้าให้แรงเกินพิกัด รวมทั้งมอบอุปกรณ์ชุดแต่งภายนอกภายในมาให้อย่างครบครัน
          วอลโว่ V40 T5 R-Limited สะกดทุกสายตาด้วยรูปลักษณ์หรูหราสง่างาม ผสานความกะทัดรัดและปราดเปรียวของรถยนต์คอมแพคกับคุณสมบัติของรถรุ่นใหญ่ การออกแบบรถให้ความสำคัญกับผู้ขับขี่และผู้โดยสารตามแนวคิด "Designed around You" ให้ทุกคนได้รับความพึงพอใจที่สุดตลอดการเดินทาง ผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับมาตรวัดบนหน้าปัดแบบกราฟิกได้ตามต้องการ รวมทั้งยังมีเทคโนโลยีทันสมัยมากมายทั้งในด้านความปลอดภัย และระบบสนับสนุนเช่นเดียวกับที่มีในรถรุ่นใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง IntelliSafe City Safety ที่ดูแลทุกชีวิตในรถและนอกรถวอลโว่ให้ปลอดภัย ช่วยแจ้งเตือนและหยุดรถเมื่อพบว่ามีโอกาสปะทะกับรถด้วยกัน แม้ในกรณีที่รถวิ่งมาเร็วเกินกว่าจะหยุดได้ทัน ก็จะช่วยบรรเทาความรุนแรงได้ ทั้งยังมีเครื่องยนต์ที่ผ่านมาตรฐานยูโร 5 และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยสามารถรองรับน้ำมัน E20 วอลโว่ V40 T5 R-Limited มีจำหน่ายในจำนวนจำกัดเพียง 28 คัน ราคา 1,999,000 บาท

          คุณลักษณ์พิเศษในรถยนต์วอลโว่ V40 T5 R-Limited ประกอบด้วย
          เครื่องยนต์และระบบส่งกำลังใหม่ Volvo Drive-E Powertrains รุ่น T5 รุ่น T5 ขนาด 2 ลิตร 4 สูบไดเร็คอินเจ็คชั่น พร้อมเทอร์โบชาร์จ ให้แรงม้าสูงสุด 220 ตัวที่ 5,500 รอบต่อนาที และแรงบิดที่ 350 นิวตันเมตรในช่วง 1,500-4,000 รอบต่อนาที จึงตอบสนองได้ทันใจในทุกรอบเครื่อง อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 6.4 วินาที ขณะเดียวกันก็ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำเพียง 137 กรัมต่อกิโลเมตร พร้อมทั้งประหยัดน้ำมันได้อย่างน่าทึ่ง โดยสามารถวิ่งเฉลี่ยใน-นอกเมือง 16.9 ก.ม. ต่อลิตร
          เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อม Sport Mode และ Paddle Shift
          Sensus Connect ระบบที่ใช้สื่อสารกับรถและเชื่อมต่อกับโลกอินเตอร์เน็ตแบบไม่ขาดตอน
          ล้ออะลูมิเนียม Midir 7.5x18" Diamond Cut สีดำมันวาว ขนาด 225/40 R18
          แผงกันกระแทกใต้กันชนหลังสีดำเข้ม ดีไซน์พิเศษพร้อมท่อไอเสียแบบคู่
          แป้นคันเร่งแบบสปอร์ต
          ชุดฝาครอบกระจกมองข้างสีดำ
          สติกเกอร์ข้างรถลายสปอร์ต
          เพิ่มสัญลักษณ์ความสปอร์ตด้วย โลโก้ R-Limited
          สีภายนอก ice white (สีขาว)

          พิเศษสุดสำหรับผู้ที่รักการขับขี่แบบสปอร์ตเร้าใจ วอลโว่ได้เตรียมชุดเพิ่มสมรรถนะ Polestar Performance Optimisation มูลค่า 57,400 บาท เพิ่มพลังแรงจาก 220 แรงม้า เป็น 245 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที ติดตั้งให้กับลูกค้าฟรีเมื่อออกรถ Volvo V40 T5 R-Limited ในงาน Motor Expo 2015
          ทั้งนี้ ผู้ที่ซื้อ วอลโว่ V40 T5 R-Limited จะได้รับ certificate ออกโดยวอลโว่ ในการยืนยันเอกสิทธิ์ในการครอบครองรถรุ่นผลิตจำนวนจำกัดข้างต้นทุกคัน

          นอกจากนี้ วอลโว่ ยังมอบข้อเสนอสุดพิเศษท้ายปี ดังต่อไปนี้
          เป็นเจ้าของรถยนต์วอลโว่รุ่น XC60 (T5 และ D4) ด้วยอัตราดอกเบี้ย 0 % นาน 60 เดือน พร้อม Volvo maintenance ฟรี 5 ปี หรือ 100,000 กม. Volvo Warranty ฟรี 3 ปี หรือ 100,000 กม. และอุ่นใจด้วยบริการให้ความช่วยเหลือ Volvo Assistance เป็นเวลา 3 ปี
          โปรโมชั่น เลือกวอลโว่คันที่ชอบ จากคู่ที่ใช่ ได้ในราคาเดียว ให้ผู้ที่สนใจได้เลือกเป็นเจ้าของ ได้แก่
          เลือก วอลโว่ S60T4F (S) สปอร์ตซีดาน หรือ วอลโว่ V40 Cross Country รถพรีเมื่ยมแฮทช์แบ็ค 5 ประตู ในราคาเดียวกัน 1,920,000 บาท พร้อม Volvo Maintenance ฟรี 5 ปี หรือ 100,000 กม. Volvo Warranty ฟรี 3 ปี หรือ 100,000 กม. และอุ่นใจด้วยบริการให้ความช่วยเหลือ Volvo Assistance เป็นเวลา 3 ปี
          พิเศษในรุ่น S60 T4F (S) รับประกันคุณภาพ (Volvo Warranty Plus) เพิ่มอีก 2 ปี รวมเป็น 5 ปี หรือ
100,000 กม.
          เลือกวอลโว่ S80 D4 รถซีดานโอ่อ่าหรูหรา หรือ S60 T5 สปอร์ตซีดานในราคาเดียวกัน 2,449,000 บาท พร้อม Volvo Maintenance ฟรี 5 ปี หรือ 100,000 กม. Volvo Warranty ฟรี 3 ปี หรือ 100,000 กม. และอุ่นใจด้วยบริการให้ความช่วยเหลือ Volvo Assistance เป็นเวลา 3 ปี
          วอลโว่ V60 T4F สปอร์ต เอสเตท มาในราคาพิเศษ เพียง 1,999,000 บาท รับประกันคุณภาพ (Volvo Warranty Plus) เพิ่มอีก 2 ปี รวมเป็น 5 ปี หรือ 100,000 กม. Volvo Maintenance ฟรี 5 ปี หรือ 100,000 กม. และอุ่นใจด้วยบริการช่วยเหลือ Volvo Assistance เป็นเวลา 3 ปี

          นอกจากนี้ ในบูธวอลโว่ที่ Motor Expo วอลโว่มีการจัดมุมกิจกรรม วอลโว่ ไลฟ์ เพนท์ ให้ผู้ที่สนใจได้ทดลองฉีดสเปรย์ล่องหนเวลากลางวัน ที่สะท้อนแสงไฟในที่มืด ทำให้ผู้ร่วมใช้ถนนมองเห็นผู้ขับขี่จักรยานได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ขับขี่จักรยานช่วงกลางคืน
          วอลโว่ ไลฟ์ เพนท์ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Intellisafe ระบบแจ้งเตือนและหยุดรถ เมื่อมีโอกาสชนกับรถคันอื่น คนขี่จักรยาน หรือคนเดินถนน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีเพื่อการเดินทางสู่เป้าหมายที่วอลโว่ตั้งไว้ว่าภายในปี ค.ศ. 2020 จะต้องไม่มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บสาหัสในรถวอลโว่รุ่นใหม่

activity on December 02, 2015, 02:04:21 PM
Volvo – The Innovation Leader Introduces V40 T5 R-Limited and Great Offers for Year-End Excitement









   The year-end is a hot season for luxury car enthusiasts, as Volvo Car (Thailand) unveils the Volvo V40 T5 R-Limited and a series of value-packed promotions on several models. With only 28 units available, the Volvo V40 T5 R-Limited is fitted with great features such as a new engine Drive-E Powertrain, Polestar Performance and interior and exterior accessories. It comes with state-of-the-art safety technology to protect people inside the car and those sharing the road. As for other models, Volvo has prepared great New Year gifts for its customers, such as 0% interest during 60 months, special prices for selected models and an extension of the Volvo Warranty period from 3 to 5 years or 100,000 km on several models. Interested buyers can avail of Volvo's exceptional offers from now until 31 December at The Motor Expo 2015 and Volvo showrooms nationwide.
          Ms. Anette Andersson, Managing Director of Volvo Car (Thailand) said: "During the festive season in December, Volvo is pleased to offer year-end presents to the Thai consumers. Our special promotions will make it even easier for car buyers to own a luxury car with augmented safety standards and high performance."
          After the success of the All New Volvo V40, Volvo has created the V40 T5 R-Limited, the new premium hatchback loaded with characteristics to please luxury compact car aficionados. Optimised with a new engine Drive-E powertrain and 8-speed Adaptive Automatic with Geartronic Paddle-shift, the V40 boasts class-leading driving dynamics. In addition, its performance is boosted to another level with Polestar Performance technology, pushing its horse power from 220 to 245. Interior and exterior accessories have been tastefully fitted to add flair to the unbeatable style.
          The V40 T5 R-Limited is fully developed according to Volvo's human-centric, Designed Around You strategy. The driver-centric approach is enhanced with a new, fully graphic instrument cluster that allows the driver to personalize instrument layout and the information provided. The New Volvo V40 T5 R-Limited also boasts class-leading driving dynamics, thanks to focused attention to a number of vital areas. Adding several new high-tech features to a full deck of safety and support systems from larger models makes the V40 the safest and the most hi-tech car in the segment. One of the outstanding features is IntelliSafe-City Safety technology that applies full autobrakes when it detects an oncoming collision with other vehicles. In case the speed is too high to come to a complete stop, the system will help decrease the damage and injuries. Volvo V40 T5 R-Limited has also passed EURO 5 standards and can run with E20 fuel. This latest Limited Edition from Volvo comes with an irresistible price tag of 1.999 million Baht.

          Other features of the Volvo V40 T5 R-Limited include:
          New T5 two-litre four-cylinder Drive-E powertrains engine, producing an impressive power of 220 HP at 5,500 rpm and significant torque of 350 Nm at 1,500-4,000 rpm, so responsive at every range. The car can accelerate from 0-100 km/ hour in only 6.4 seconds while the CO2 emissions are kept as low as 137 g/km; average fuel consumption of combined city and highway driving is excellent at 16.9 km/ litre.
New 8-speed Automatic Gearbox with Sport Mode and Paddle Shift
          Volvo Sensus Connect for uninterrupted communication between the driver, the car and the world
7.5x18" diamond cut Midir Wheel Kit size 225/40 R18Rear diffuser with double end pipe
          Sport pedal pad
          Black Mirror Cover
          Sporty Stripe on the edges of rear doors
          R-Limited Emblem
          Unique exterior colour, Ice White
          Each of the 28 Volvo V40 T5 R-Limited Edition units, purchased during the Motor Expo 2015, will be fitted with the exceptional Polestar Performance system, worth 57,400 Baht, making the horse power jump from 220 to 245 at 5,500 rpm. It will also come with a special Limited Edition certificate.
?
          In addition, there are super exclusive promotions, as follows:
          Volvo XC60 (T5 & D4)
          Enjoy 0% interest rate for 60 months
          Free: Volvo Maintenance for 5 years/100,000 km, Volvo Warranty for 3 years/100,000 km and Volvo Assistance for 3 years
          Choose Your Favourite Volvo from the Attractive Price Match Offers:
          Own Volvo Sport Sedan S60 T4F or the premium 5-door hatchback Volvo V40 Cross Country at the price of 1,920,000 baht with Free: Volvo Maintenance 5 years/ 100,000 km, Volvo Warranty for 3 years/ 100,000 km and Volvo Assistance for 3 years
          Special Bonus for S60 T4F(S), customers will receive another 2 years of Volvo Warranty Plus on top. So their Warranty period covers 5 years/ 100,000 km.
          Own the luxury sedan Volvo S80 D4 or the S60 T5 sport sedan at the price of 2,449,000 baht with Free: Volvo Maintenance 5 years/ 100,000 km, Volvo Warranty for 3 years/ 100,000 km and Volvo Assistance for 3 years
          Own Volvo V60 T4F at the special price of 1,999,000 baht with Free: Volvo Maintenance 5 years/ 100,000 km, Volvo Warranty for 5 years/ 100,000 km (3 years + 2 years from Volvo Warranty Plus) and Volvo Assistance for 3 years

          Apart from the eye-catching car display, an activity corner for Volvo Life Paint has been set up at Volvo's Motor Expo booth, where visitors are invited to try this amazing spray. Volvo Life Paint is a unique reflective spray that is invisible by daylight, but glows brightly in direct glare of car headlights in the dark. It helps increase road safety for bikers, and raise awareness on how important it is to be visible, especially at night. The product is inspired by "IntelliSafe", a magnificent Volvo technology that applies full brakes when an oncoming collision with cars, bikers and pedestrians is detected. This is one of several innovations that puts Volvo on its path to Vision 2020, aiming for zero deaths and no serious injuries in a new Volvo car by the year 2020.

activity on December 02, 2015, 02:06:01 PM
นิสสันสะท้อนผู้นำนวัตกรรมที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจ ส่งรถยนต์ 3 รุ่นแรง ใหม่ เอ็กซ์เทรล ไฮบริด, เอ็นพี 300 นาวารา สปอร์ตเทค และซิลฟี ดีไอจี เทอร์โบ ร่วมงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2558 พร้อมอัดโปรโมชั่นแรง ตั้งเป้าส่วนแบ่งการตลาดในงาน 10%









          บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมยานยนต์ที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจ (Innovation that excites) เดินหน้านโยบายการขายและการตลาดเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง ส่งรถยนต์ 3 รุ่นใหม่ล่าสุด ทั้ง นิสสัน เอ็กซ์เทรล ไฮบริด ใหม่ เอสยูวี ไฮบริดที่ทรงพลังที่สุด, นิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา สปอร์ตเทค กระบะพันธุ์แกร่ง 190 แรงม้า ด้วยดีไซน์สปอร์ตใหม่ ปรับโฉมเพิ่มอารมณ์สปอร์ตรอบคัน และ นิสสัน ซิลฟี ดีไอจี เทอร์โบ ใหม่ ที่สะดวกสบาย หรูหรา และให้สมรรถนะการขับขี่แบบสปอร์ตซีดาน เปิดตัวและจำหน่ายที่งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 32 หรือ ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2015 ระหว่างวันที่ 2 ถึง 13 ธันวาคม 2558 ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิทแพ็คเมืองทองธานี พร้อมจัดโปรโมชั่นพิเศษ โดยตั้งเป้าส่วนแบ่งการตลาดในงาน 10%
          นายคะซุทากะ นัมบุ ประธาน บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า "ในฐานะบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลก และผู้นำนวัตกรรมยานยนต์ที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจ ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 32 นิสสันยังคงสะท้อนให้ผู้มาเยี่ยมชมงาน ได้เห็นถึงความเป็นผู้นำเทคโนโลยีรถยนต์ที่เหนือชั้น มีสมรรถนะสูง ประสิทธิภาพและสามารถตอบสนองทุกการใช้งาน ทั้งยังให้ความสะดวกสบายกับทุกคนในห้องโดยสาร ให้ความสนุกสนานในการขับขี่ และมีเทคโนโลยีความปลอดภัยครบครัน โดยไฮไลต์ในงานนี้ นิสสันได้นำรถยนต์ 3 รุ่น ที่โดดเด่นใน คือ นิสสัน เอ็กซ์เทรล ไฮบริด ใหม่, นิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา สปอร์ตเทค ใหม่, และนิสสันซิลฟี ดีไอจี เทอร์โบ มาเปิดตัวให้กับสาธารณชนอย่างเป็นทางการ ซึ่งคาดว่าจะได้รับความสนใจอย่างสูง เช่นเดียวกันกับรถยนต์อีโคคาร์รุ่นยอดนิยมของนิสสัน ทั้งมาร์ชและอัลเมร่า ที่นอกจากจะได้รับการปรับโฉมให้มีความสดใหม่ก่อนหน้านี้ โดยในงานครั้งนี้ นิสสันยังได้เพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าผู้สนใจรถยนต์อีโคคาร์ทั้งสองด้วยสีพิเศษนั่นคิอ สีม่วงพลัม (Plum) ทีให้ความโฉบเฉี่ยว เร้าใจ อีกด้วย
          สำหรับนิสสัน เอ็กซ์เทรล ไฮบริด ใหม่ ซึ่งเป็นรถเอสยูวีไฮบริดที่มีสมรรถนะสูง ตอบทุกโจทย์ความสมบูรณ์แบบของชีวิต ที่นิสสันภูมิใจนำเสนอให้ลูกค้าในครั้งนี้ มาพร้อมเทคโนโลยีเต็มพิกัด และมีราคาที่สมเหตุสมผล โดยมีให้เลือก 3 รุ่น ราคาเริ่มต้นตั้งแต่1,249,000 บาท ส่วนเทคโนโลยีที่โดดเด่นในรุ่นนี้ คือ เทคโนโลยี เพียวไดร์ฟไฮบริด ที่มาพร้อมระบบคลัทช์คู่อัจฉริยะ (Intelligence Dual Clutch System) เอกสิทธิ์เฉพาะของนิสสัน ที่ผสานทั้งด้านสมรรถนะและความสนุกสนานในการขับขี่ได้อย่างลงตัว สามารถให้กำลังและแรงบิดอย่างเยี่ยมยอดเหนือกว่าเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร นับเป็นรถที่มีอัตราการประหยัดเชื้อเพลิงที่โดดเด่นที่สุดในคลาสโดยประหยัดกว่าเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ถึง 20% ทั้งยังสามารถขับเคลื่อนด้วยการทำงานของเครื่องยนต์ร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าได้ที่ความเร็วสูงถึง 120 km/h ให้ความเงียบและความนุ่มนวลในการตัดต่อกำลัง ซึ่งนิสสันมีความมั่นใจในสมรรถนะทุกด้านของรถยนต์รุ่นนี้อย่างยิ่ง และเชื่อว่าลูกค้าจะประทับใจกับประสบการณ์ที่แตกต่างอย่างเหนือระดับ ในเอ็กซ์เทรล ไฮบริด อย่างแน่นอน โดยเฉพาะลูกค้าคนรุ่นใหม่ที่มีความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อม
          ทั้งนี้ภายในงาน นิสสันยังจะได้จัดแสดงการทำงานของเทคโนโลยี นิสสัน เพียวไดรฟ์ไฮบริด ผ่านแท่นเครื่องยนต์ตัวอย่างที่นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้ผู้ชมงานได้เห็นการออกแบบและโครงสร้างของเทคโนโลยี "ไฮบริดคลัทช์คู่อัจฉริยะ" อย่างใกล้ชิด
          อีกหนึ่งไฮไลต์ของบูธนิสสัน ที่เชื่อว่าจะได้รับความสนใจอย่างสูง คือ การเปิดตัว นิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา สปอร์ตเทค ใหม่เป็นครั้งแรก ซึ่งเสริมทัพมาเพื่อตอบสนองลูกค้าที่รอคอยและต้องการรถกระบะที่ให้อารมณ์สปอร์ตปราดเปรียวดุดันและมีความแรงที่เหนือชั้น โดยนิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา สปอร์ตเทค มีพละกำลังเครื่องยนต์สูงถึง 190 แรงม้า ขณะที่ดีไซน์ถูกปรับโฉม ให้มีความเท่ห์ทุกองศา ด้วยชุดแต่งสไตล์สปอร์ตรอบคัน ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าและกรอบไฟตัดหมอกสี Smoke Chrome พร้อมกับสเกิร์ตหน้าและบันไดข้างแบบสปอร์ต กันชนท้ายสี Smoke Chrome พร้อมสัญลักษณ์ Sportech มาพร้อมล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ต 18" ลายใหม่, Sport Roll Bar พร้อมสัญลักษณ์ Sportech, เสาอากาศแบบ Shark Fin ยังคงช่วงล่าง Mono-frame chassis อันเป็นเอกลักษณ์ของนิสสันที่แข็งแกร่งตามมาตรฐานโลก เพิ่มความสะดวกสบายให้คุณทุกเส้นทางด้วยห้องโดยสารที่กว้างขวาง เสริมความหรูสไตล์สปอร์ตด้วยเบาะหนังทูโทนที่ปรับได้ 8 ทิศทาง พวงมาลัยแบบ 3 ก้านและหัวเกียร์หุ้มหนัง พร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ตอบรับทุกความสะดวกสบายครบครันได้อย่างลงตัว เช่น ปุ่มสตาร์ทพร้อมกุญแจอัจฉริยะ ระบบปรับอากาศแบบแยกอุณหภูมิซ้ายขวา ช่องแอร์ด้านหลังสำหรับผู้โดยสารแถวหลังให้ทุกการเดินทางสะดวกสบายและผ่อนคลาย พร้อมกล้องมองหลังในทุกรุ่นเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยจากเทคโนโลยีเหนือระดับจากนิสสัน
          นิสสันยังเติมเต็มความสปอร์ตเร้าใจ ด้วยการนำรถยนต์นิสสัน ซิลฟี ดีไอจี เทอร์โบ ตอบสนองลูกค้าที่ต้องการรถยนต์แบบซีดานที่ให้ความหรูหรา แต่มีความสปอร์ตและแรงเร้าใจ โดยหลังจากเปิดตัวเมื่อกลางเดือนตุลาคม ได้รับเสียงตอบรับจากสื่อมวลชนเป็นอย่างดีในฐานะ "สปอร์ตหรูที่แรงเกินตัว" ให้สมรรถนะการขับขี่ที่แรงเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร จากเครื่องยนต์ MR16DDT ขนาด 1.6 ลิตร หัวฉีดไดเร็ค อินเจคชั่น ระบบวาล์วแปรผันคู่ พร้อมเทอร์โบชาร์จเจอร์ ที่ให้กำลังได้สูงสุดถึง 190 แรงม้าที่ 5,600 รอบ/นาที โดยให้แรงบิดแบบต่อเนื่องสูงสุดถึง 240 นิวตันเมตร ในช่วงรอบเครื่องยนต์ตั้งแต่ 2,400-5,200 รอบ/นาที ขณะเดียวกันยังคงความหรูหรา สะดวกสบาย เช่นการติดตั้งซันรูฟควบคุมด้วยไฟฟ้า รวมถึงเสริมระบบความปลอดภัย ระบบควบคุมการขับขี่และทรงตัวต่างๆ อย่างครบครัน ด้วย ไม่ว่าจะเป็น ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (Vehicle Dynamic Control) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control System) ควบคู่ไปกับการทำงานของระบบเบรกป้องกันล้อล็อค, พร้อมถุงลมนิรภัย 6 จุดโดยเพิ่มถุงลมนิรภัยด้านข้าง (Side Airbags) และ ม่านนิรภัยด้านข้าง (Curtain Airbags) พร้อมระบบล็อคประตูอัตโนมัติ เซ็นเซอร์ถอยจอดและกล้องมองหลัง
          "ทั้งนี้ ภายในงานนิสสันได้ยกขบวนรถนิสสันมาจัดแสดงรวมทั้งสิ้น 7 รุ่น 19 คัน ด้วยกัน ประกอบด้วย นิสสัน เทียน่า นิสสัน ซิลฟี ทั้งรุ่นใหม่ ดีไอจี เทอร์โบ และรุ่นเอสวีที่เพิ่มขึ้นใหม่ นิสสัน มาร์ช และ นิสสัน อัลเมร่า รถอีโค คาร์ ซีดาน ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทย ที่มาพร้อมสีพิเศษ ครั้งแรกกับสีม่วงพลัม นิสสัน จู๊ค โตเกียวอิดิชั่น ผู้นำตลาดรถ ครอสโอเวอร์ด้วยคาแรคเตอร์แตกต่างไม่เหมือนใคร พร้อมชุดแต่งพิเศษ สั่งตรงจากประเทศญี่ปุ่นอย่างมีสไตล์ถึง 10 ชิ้น นิสสัน เอ็กซ์เทรล ทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร และ 2.5 ลิตร นิสสัน เอ็กซ์เทรล ไฮบริด ใหม่ และนิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา ทั้งรุ่นธรรมดา และสปอร์ตเทค ใหม่"
          สำหรับบูธของนิสสัน ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32 จัดแสดงภายใต้แนวคิดนวัตกรรมที่สร้างความตื่นเต้น เร้าใจ หรือ Innovation that excites บนพื้นที่ 1,452 ตารางเมตร ถูกออกแบบภายใต้วงแหวนแห่งประสบการณ์ ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ด้านดีไซน์ของบูธนิสสันทั่วโลก โดยภายในบูธนิสสัน ผู้ชมงานยังจะได้สัมผัสนวัตกรรมการใช้กลิ่นหอมของอโรมาที่กระจายอยู่โดยบริเวณรอบๆ ทำให้ผู้เข้าชมงานเกิดความรู้สึกสงบและผ่อนคลาย ภายใต้บรรยากาศความคึกคักของงานภายในบูธนิสสันอีกด้วย
          "ในส่วนของโปรโมชั่นพิเศษ** ทางนิสสันได้เตรียมแคมเปญที่หลากหลาย ตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า อาทิ ข้อเสนอพิเศษสำหรับ นิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา รับฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี, ฟรี ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง TOUGH PACKAGE (เฉพาะรุ่น) และยังสามารถเลือกรับข้อเสนอไม่ว่าจะเป็นดาวน์ต่ำสุด 19,999 บาท พร้อมฟรีค่าบำรุงรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร หรือเลือกผ่อนต่อเดือนสบายๆ เริ่มต้นเพียง 3,999 บาท และถูกใจมากขึ้นด้วยข้อเสนอเพิ่มมูลค่ารถเก่าเมื่อแลกซื้อรถใหม่ (Trade-in bonus) สูงสุด 35,000 บาท หรือข้อเสนอพิเศษสำหรับ นิสสัน เอ็กซ์เทรล รวมทั้ง เอ็กซ์เทรล ไฮบริด ใหม่ ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี และฟรี ค่าบำรุงรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร พร้อมอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.79% และข้อเสนอพิเศษสุดเร้าใจสำหรับนิสสัน ซิลฟี รวมถึง ซิลฟี ดีไอจี เทอร์โบ* เลือกรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% หรือฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี และผ่อนเริ่มต้นเพียง 5,888 บาท และหลากหลายข้อเสนอที่ดีที่สุดแห่งปีกับนิสสันทุกรุ่น รวมทั้งเพิ่มความสบายใจให้กับลูกค้านิสสัน ด้วยเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการ ที่ได้มาตรฐานพร้อมช่างผู้ชำนาญกว่า 213 แห่ง ครอบคลุม 77 จังหวัด ทั่วประเทศ"
          ผู้ที่สนใจรถนิสสันพร้อมข้อเสนอพิเศษ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บูธนิสสัน ที่งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32 ระหว่างวันที่ 2 ถึง 13 ธันวาคม 2558 หรือที่ผู้จำหน่ายรถยนต์นิสสันทั่วประเทศ หรือที่ Call Center หมายเลข 02 401 9600

          หมายเหตุ*อุปกรณ์มาตรฐานอาจแตกต่างกันในแต่ละรุ่น ** ข้อเสนอเฉพาะรุ่น มีข้อกำหนดและเงื่อนไข

activity on December 02, 2015, 02:07:24 PM
จักรยานยนต์ไทรอัมพ์ เปิดตัวทายาทบอนเนวิลล์ใหม่ 5 รุ่น ครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิก ที่งาน Motor Expo 2015









          ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ประเทศไทย) เผยโฉมรถจักรยานยนต์ตระกูลบอนเนวิลล์อันเลื่องชื่อ ที่กลับมาอีกครั้งพร้อมความเร้าใจของ 5 รุ่นใหม่ สตรีท ทวิน บอนเนวิลล์ T120 และ T120 แบล็ค และ ทรักซ์ตัน และ ทรักซ์ตัน R เปิดตัวเป็นครั้งแรกในเอเชีย แปซิฟิก ที่งาน Motor Expo 2015 ทั้ง 5 รุ่นมีเอกลักษณ์ดั้งเดิมของไทรอัมพ์ บอนเนวิลล์อย่างครบถ้วน พร้อมด้วยสมรรถนะและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย โดยแต่ละรุ่นจะทยอยเข้าโชว์รูมจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ในช่วงเวลาต่างๆ กันในปี พ.ศ. 2559 เริ่มต้นจากสตรีท ทวินจะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนมกราคมนี้ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสั่งจองรถจักรยานยนต์ทั้ง 5 รุ่น ล่วงหน้า ได้ที่งาน Motor Expo 2015 ในราคาพิเศษ
          ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ เป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์สัญชาติอังกฤษที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง มีประวัติศาสตร์มายาวนานกว่าหนึ่งศตวรรษ นับตั้งแต่การก่อตั้งบริษัท ไทรอัมพ์ได้สร้างผลงานการผลิตรถจักรยานยนต์ที่โดดเด่น สร้างสถิติไว้มากมาย และได้รับเลือกเป็นรถจักรยานยนต์คู่กายของนักแข่งชั้นนำของโลกและผู้ที่มีชื่อเสียงมากมาย ด้วยสมรรถนะเป็นเยี่ยม ตอบรับการสั่งการได้อย่างแม่นยำ และรูปลักษณ์ที่สวยคลาสสิค
          สำหรับบอนเนวิลล์รุ่นล่าสุด ไทรอัมพ์ได้ทำการออกแบบรถจักรยานยนต์เหล่านี้ขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ใช้เวลานานถึง 4 ปีเต็มในการพัฒนางานออกแบบ งานวิศวกรรม ไปจนถึงการผลิต

          เผยโฉมบอนเนวิลล์ใหม่
          ไทรอัมพ์ บอนเนวิลล์ ใหม่ ทั้ง 5 รุ่น มาพร้อมกับเอกลักษณ์ความเป็นบอนเนวิลล์เต็มร้อย ดีไซน์ที่เสริมให้เฉียบคมยิ่งขึ้น และสมรรถนะสุดล้ำ
          รุ่น สตรีท ทวิน ถือเป็นรถตระกูลบอนเนวิลล์ที่มีดีไซน์ร่วมสมัยที่สุด ให้ความเพลิดเพลินในการขับขี่และควบคุมง่ายสำหรับนักบิดรุ่นใหม่ เปี่ยมด้วยสมรรถนะเครื่องยนต์แรงบิดสูงขนาด 900 ซีซี พร้อมเสียงคำรามที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ บอนเนวิลล์ สตรีท ทวิน มีงานออกแบบในสไตล์เรียบง่าย ทั้งยังขับขี่คล่องแคล่วเหนือชั้น จึงถือเป็นรถที่สมบูรณ์แบบสำหรับนักบิดยุคใหม่ และนักแต่งมอเตอร์ไซค์ รถรุ่นนี้มีแรงบิดสูงสุดถึง 80 นิวตันเมตรที่รอบต่ำเพียง 3200 รอบ/นาที ซึ่งเหนือกว่าเครื่องยนต์บอนเนวิลล์รุ่นก่อนหน้าถึง 18% จึงส่งแรงบิดได้เต็มพลังต่อเนื่องในทุกจังหวะ
          ส่วนผู้ที่โหยหารูปลักษณ์ของบอนเนวิลล์ในสไตล์ดั้งเดิมจากปี 1959 ก็จะประทับใจไปกับบอนเนวิลล์ T120 และ T120 แบล็ค ที่ไทรอัมพ์ได้บรรจงสรรสร้างในทุกรายละเอียดให้คงความคลาสสิกไว้อย่างครบถ้วน พร้อมด้วยสมรรถนะในแบบมอเตอร์ไซค์โมเดิร์นคลาสสิกพันธุ์แท้ กับเครื่องยนต์แรงบิดสูงรุ่นใหม่ขนาด 1200 ซีซี และตัวถังแบบ twin throttle นอกจากนี้ บอนเนวิลล์ T120 และ T120 แบล็ค ยังถูกพัฒนามาให้ตอบสนองทุกความต้องการในการขับขี่แบบโมเดิร์นคลาสสิก กับแรงบิดมหาศาลถึง 105 นิวตันเมตรที่ 3100 รอบ/นาที ซึ่งสูงกว่าเครื่องยนต์ในรุ่น T100 ถึง 54%
          สำหรับรถจักรยานยนต์สมรรถนะสูงในสไตล์ "cafe racer" แบบโมเดิร์น คลาสสิกอย่าง ทรักซ์ตัน และ ทรักซ์ตัน R มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 1200 ซีซี ระบบเบรกและการควบคุมที่ทรงประสิทธิภาพ เพื่อการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ ภายใต้รูปลักษณ์คลาสสิกอย่างสมชื่อบอนเนวิลล์ ตอบสนองในฉับพลัน ให้แรงบิดสูงสุด 108 นิวตันเมตรที่ 5000 รอบ/นาที ซึ่งสูงกว่าเครื่องยนต์ทรักซ์ตันรุ่นก่อนหน้าถึง 57%

          ดีไซน์เท่สะดุดตาและขับขี่คล่องตัวกว่าเดิม
          บอนเนวิลล์รุ่นใหม่ทุกคันมีงานออกแบบที่ได้รับการปรับเปลี่ยนให้ดูประณีต โฉบเฉี่ยว เปี่ยมด้วยพลังมากกว่าที่เคย สร้างขึ้นจากแรงบันดาลใจจากบอนเนวิลล์รุ่นคลาสสิกรุ่นเจ้าตำนานปี 1968 และรุ่นดั้งเดิมปี 1959 ไทรอัมพ์ บอนเนวิลล์ ใหม่ มีเทคโนโลยีล่าสุดที่ช่วยเสริมประสบการณ์การขับขี่ให้ตอบสนองอย่างรวดเร็วและปลอดภัยกว่าที่เคย โดยไม่ทิ้งลักษณะเฉพาะตัวของแต่ละรุ่น เทคโนโลยีเหล่านี้ ได้แก่ ABS ระบบเบรกป้องกันล้อล็อคตาย ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี คลัทช์กันการลื่นไถล (slip assist clutch), ride-by-wire throttle และrider mode (เฉพาะรุ่น T120, T120 แบล็ค, ทรักซ์ตัน R และทรักซ์ตัน) ไฟท้าย LED (ทุกรุ่น) ไฟหน้า LED DRL (เฉพาะรุ่นเครื่องยนต์ 1200 ซีซี ในประเทศที่กฎหมายอนุญาตเท่านั้น) พอร์ท USB สำหรับชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และระบบกันขโมยแบบ immobilizer
          ช่วงล่างได้รับการออกแบบขึ้นใหม่หมดสำหรับแต่ละรุ่น โดยมีระบบกันสะเทือนและ geometry ใหม่และคลัทช์กันการลื่นไถลรุ่นใหม่ติดตั้งมาด้วยเช่นกัน เพื่อให้นักบิดสามารถควบคุมบอนเนวิลล์ ใหม่ ทุกคันได้อย่างแม่นยำ มั่นคง และคล่องตัวอย่างเป็นเอกลักษณ์ ทั้งยังเหมาะสมกับการขับขี่เป็นเวลานาน

          พร้อมปรับแต่งให้สะท้อนความเป็นคุณ
          ในโอกาสนี้ ไทรอัมพ์ยังได้เปิดตัวชุดอุปกรณ์เสริมพิเศษสำหรับจักรยานยนต์ตระกูลบอนเนวิลล์โดยเฉพาะ มีอุปกรณ์ตกแต่งและอุปกรณ์พิเศษคุณภาพสูงให้เลือกมากถึง 470 รายการ จึงทำให้การสร้างสรรค์มอเตอร์ไซค์คันพิเศษของคุณเองกลายเป็นเรื่องง่าย อุปกรณ์เสริมเหล่านี้มีทั้งชุดท่อไอเสียใหม่จาก Vance & Hines ชุดอุปกรณ์ถอดบังโคลน เบาะนั่ง และไฟขนาดเล็กทรงหัวกระสุน(compact bullet indicators) เป็นต้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักบิด เราได้รวบรวมอุปกรณ์เสริมเหล่านี้ไว้เป็นชุดให้เลือกซื้อ สำหรับนักบิดที่ต้องการจุดเริ่มในการปรับแต่งรถบอนเนวิลล์ของตนเอง หรืออาจสั่งให้ตัวแทนจำหน่ายติดตั้งอุปกรณ์กับรถมาทั้งชุดเลยก็ได้เช่นกัน

          นอกจากที่งาน Motor Expo 2015 ผู้ที่สนใจ สามารถพบกับจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ได้ที่ โชว์รูม ไทรอัมพ์ บริทไบค์ RCA และ ไทรอัมพ์ รังสิต ที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัดมี 5 สาขา ที่ไทรอัมพ์ บริทไบค์ เชียงใหม่ ไทรอัมพ์ วัฒนายนต์แคปปิตอล ขอนแก่น ไทรอัมพ์ M2 มอเตอร์สปอร์ต อุบลราชธานี ไทรอัมพ์ สะพานทอง มอเตอร์ ภูเก็ต และไทรอัมพ์ พันธ์ช่างทอง หาดใหญ่

activity on December 02, 2015, 02:07:59 PM
Five New Triumph Bonneville Motorcycles Make APAC Debut at Motor Expo 2015









          More beautiful, more powerful, more capable.

          Triumph Motorcycles (Thailand) unveils 5 motorcycles from the next generation of the iconic Bonneville for the first time in Asia Pacific, at Thailand's Motor Expo 2015. During the event, big bike enthusiasts will have a chance to experience the classic British super bikes: Street Twin, Bonneville T120 and T120 Black and Thruxton and Thruxton R, all with 100% authentic Bonneville character plus exceptional capability and performance. Each model is scheduled to hit the showrooms nationwide at different periods in 2016, with Street Twin being the first to arrive in January. Owning one of these great motorcycles has just come a step closer as all 5 Bonneville models can now be pre-booked at The Motor Expo 2016, with irresistible offers.
          Triumph Motorcycles is a very successful British brand with over 100 years of history. Since its inception, Triumph has always had its own distinctive appeal and a history of creating bikes that become design classics and record holders, chosen by famous motorcyclists of the past for legendary handling, style, and character.
          The new Bonneville model line up
          The new generation of Bonneville was a four-year project that started from the ground up, calling on an unprecedented scale of design, engineering and manufacturing skills. The Street Twin is Triumph Motorcycles' most contemporary, fun and accessible model, powered by an all-new high torque 900cc engine. With its unique character, distinctive sound, stripped-back styling and dynamic riding experience, the new Street Twin is the perfect Bonneville for today's rider and the perfect starting point for personalisation. Its 900cc high torque engine delivers a massive peak torque figure of 80Nm at a low 3200 rpm – which is an amazing 18% more than the previous generation, delivered low down and across the whole rev range.
          The timeless style and iconic character of the original 1959 model is reborn in the classy and authentic Bonneville T120 and effortlessly cool Bonneville T120 Black. Both are crafted to the highest standard of detailing, quality and finish, and matched by the capability and performance of a truly modern classic. They are powered by the all-new Bonneville 1200cc high torque engine, enhanced by beautiful, authentically-styled, twin throttle bodies.
          The new 1200cc Thruxton and Thruxton R are the real deal. With genuine poise, power and performance, they are the ultimate modern classic cafe racers. Both with beautifully imposing and authentic styling, they have the power, braking, performance and handling to live up to their legendary name.

          More Beautiful and More Capable
          The new motorcycles are more refined, sharper, tighter and crafted, applying styling cues faithfully taken from the classic Bonneville bikes, such the 1968 Bonneville and the 1959 original. The inclusion of rider-focused technology has been implemented with care to deliver an engaged and safer ride, without compromising the style or character of the bikes - this includes ABS, traction control, slip assist clutch, ride-by-wire throttle and rider modes (T120, T120 Black, Thruxton R and Thruxton), distinctive LED rear lights on all models and LED DRL headlights on all the 1200s (where legislation allows), USB charging socket and an engine immobiliser.
          A completely new, ground up chassis design unique to each motorcycle, incorporates all-new suspension and geometry, so all of the new models deliver stunning handling, stability and neutrality tailored to the style and character of each motorcycle, making them easier to ride for longer. This is particularly true when combined with the light action of the new slip assist clutch.

          More ways to make your own Bonneville yours
          The new Bonneville custom accessories range is also being launched, with over 470 stylish, high- quality accessories. This includes new exhausts from Vance & Hines and a garage full of custom-inspired parts, from mudguard removal kits, to bench seats and beautiful compact bullet indicators, to name a few. To make it easier, a set of exciting 'inspiration' kits was created to use as the starting point for riders to create their own Bonneville custom, or to have fitted by their Triumph dealer.

          Interested customers can also contact any of the 7 Triumph Motorcycles outlets nationwide: Triumph Britbike RCA and Triumph Rangsit in Bangkok and 5 upcountry - Triumph Britbike Chiang Mai, Triumph Khon Kaen, Triumph Ubon Ratchathani, Triumph Hatyai and Triumph Phuket.

activity on December 02, 2015, 02:11:00 PM
ยูไนเต็ด มอเตอร์สฯ ปรับกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ เบนเข็มจับกลุ่มลูกค้ามุ่งหวังกลุ่มใหม่ ขาย “ตงฟง-โฟตอน” รุกตลาดฟู้ดทรัค-ฟลีตรถตู้รับจ้างป้ายเหลือง









          ยูไนเต็ด มอเตอร์ส ปรับกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ ตงฟง-โฟตอน มุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงขึ้น รายได้มั่นคง โดย เดินหน้าจัดคอนเซ็ปต์ ฟู้ดทรัค สำหรับตงฟง เน้นกลุ่มคนรุ่นใหม่ นักลงทุนอิสระ และกลุ่มคนรายได้คงที่ซึ่งอยากหารายได้เพิ่ม เชื่อมั่นมีกำลังซื้อ เสริมความมั่นคงให้ตนเอง ด้านโฟตอน จัดโปรโมชั่น ตอบรับกระแส รถตู้ดีเซลที่เริ่มกลับมาได้รับความสนใจ จากราคาน้ำมันที่ถูกลง เชื่อมั่นเครื่องยนต์คัมมินส์ จากสหรัฐฯ สร้างความมั่นใจให้ผู้ประกอบการรถตู้รับจ้าง นำไปใช้ประกอบอาชีพขนส่งมวลชนได้เป็นอย่างดี คาดยอดขายแบรนด์ตงฟงในงานไม่ต่ำกว่า 80 คัน มั่นใจปีนี้คว้าเป้าหมาย 1,200 คันแน่นอน ในส่วนรถตู้โฟตอน คาดยอดไม่ต่ำกว่า 50 คันในงาน และปิดเป้าที่ 300 คันได้สำหรับปี 2558

          นายพิทยา ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ยูไนเต็ด มอเตอร์ส จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถกระบะเชิงพาณิชย์ขนาดเล็ก แบรนด์ตงฟงและรถตู้อเนกประสงค์ 16 ที่นั่ง แบรนด์โฟตอน เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัท ได้ทำการปรับกลยุทธ์การตลาดในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์รถที่จำหน่ายใหม่ทั้ง รถกระบะเชิงพาณิชย์ขนาดเล็กตงฟงและรถตู้ 16 ที่นั่งแบรนด์ โฟตอน ทั้ง 2 แบรนด์จะมุ่งเน้นจำหน่ายให้แก่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีกำลังซื้อสูง และมีจุดประสงค์ในการใช้รถชัดเจน กล่าวคือในรถกระบะเล็กตงฟง จะเน้นจัดจำหน่ายในรูปแบบของรถฟู้ดทรัคสำเร็จรูป ต่อหลังคามาตรฐานออกไปจากบริษัทเพื่อใช้ในการประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ต่างๆได้ในทันที ในขณะที่รถตู้โฟตอน 16 ที่นั่ง จะมุ่งจำหน่ายไปยังกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการขนส่งและรับจ้างเป็นหลัก โดยมีเป้าหมายคือ กลุ่มลูกค้าที่บริการรถให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวตามโรงแรม กลุ่มขนส่งนักเรียนตามโรงเรียนนานาชาติและเอกชน และกลุ่มขนส่งพนักงานตามนิคมอุตสาหกรรม หรือตามบริษัทต่างๆ

          ทางบริษัท เล็งเห็นถึงความเป็นไปได้ทางธุรกิจแบบใหม่ที่มั่นคงและยั่งยืน ในรูปแบบของฟู้ดทรัค หรือ รถขายอาหาร-เครื่องดื่ม ซึ่งเป็นกระแส และกำลังได้รับความนิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่ นักลงทุนอิสระ และคนที่คิดหารายได้เสริม ซึ่งบริษัทมองว่ากลุ่มลูกค้าดังกล่าว มีจุดประสงค์และความมุ่งมั่นชัดเจนในการซื้อรถ และด้วยเอกลักษณ์ของการลงทุนน้อย และต้นทุนคงที่ต่ำ ของการเป็นเจ้าของรถกระบะตงฟง ทำให้ธุรกิจการขายอาหารเคลื่อนที่ มีความเป็นไปได้ทางธุรกิจมากขึ้น อีกทั้งกระแสของฟู้ดทรัคทำให้ลูกค้าสามารถเพิ่มมูลค่าของอาหารได้ กอปรกับเลือกทำเลได้เอง ส่งผลให้มีกำไรเหลือเก็บเดือนหนึ่งหลายหมื่นบาท นับว่าเป็นการลงทุนหรืออาชีพเสริมที่น่าสนใจเลยทีเดียว บริษัทจึงได้หันมามุ่งเน้นการขาย

          รถกระบะตงฟงในรูปแบบของฟู้ดทรัคสำเร็จรูป เพื่อทำให้ลูกค้าคนต่อๆไปมีความสะดวกในการมีฟู้ดทรัคเป็นของตัวเองกับตงฟง อีกทั้งยังมีนโยบายในการร่วมมือกับบริษัทแฟรนไชส์ต่างๆ เพื่อเป็นไอเดียธุรกิจเริ่มต้นให้กับลูกค้าอีกด้วย

          ​ สำหรับโฟตอนรถตู้โดยสาร ขนาด 16 ที่นั่ง ทางบริษัทเล็งเห็นถึงโอกาสของรถตู้พลังงานดีเซล ซึ่งกลับมาได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการอีกครั้ง โดยเดิมตลาดจะนิยมก๊าซธรรมชาติ NGV แต่เมื่อราคาน้ำมันมีการปรับตัวลงค่อนข้างมาก ผู้ประกอบการรถตู้รับจ้าง เริ่มกลับมาสนใจพลังงานดีเซล ซึ่งมีความสะดวกในการเติมเชื้อเพลิง ประกอบกับน้ำมันช่วยให้รถมีกำลังขับเคลื่อนที่ดีกว่า กลุ่มลูกค้าประกอบการประเภทนี้กำลังมองหารถตู้ที่มีคุณภาพ ประหยัดพลังงานและราคาไม่แพง เพื่อใช้ในการรับจ้างขนส่งมวลชน ซึ่งทางบริษัทมองว่าเครื่องยนต์คุณภาพอย่างคัมมินส์ มีชื่อเสียงในด้านความทนทาน และกำลังขับเคลื่อน ดังนั้นรถตู้โฟตอนน่าจะตอบโจทย์ของผู้ประกอบการเหล่านี้ได้อย่างตรงประเด็นและชัดเจนมาก

          ในช่วงสิ้นปีนี้นับเป็นโอกาสที่ดี ที่ภาวะการซื้อขายในอุตสาหกรรมยานยนต์กำลังกลับมาคึกคัก บริษัทจึงได้เข้าร่วมงานจัดแสดงรถยนต์ มหกรรมยานยนต์ ระหว่างวันที่ 1-10 ธันวาคม 2558 ซึ่งจัดให้มีขึ้นที่ ชาเลนเจอร์ ฮอล์ เมืองทองธานี บริษัทคาดว่าจะทำยอดขายรถทั้ง 2 แบรนด์ได้ตามเป้าหมาย และ เชื่อว่ากลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ของ ยูไนเต็ด มอเตอร์ส จะสามารถตอบโจทย์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ของลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ทั้ง 2 กลุ่มได้อย่างแน่นอน โดยคาดว่ารถกระบะตงฟงน่าจะมียอดจองไม่ต่ำกว่า 80 คัน และจบสิ้นปีตงฟงต้องทำยอดขายรวมได้ถึง 1,200 คัน ในขณะที่รถตู้โฟตอนคาดหวังยอดประมาณ 50 คัน สำหรับในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งนี้ และต้องปิดเป้าขายในปี 2558 ได้ถึง 300 คัน นายพิทยากล่าว

activity on December 02, 2015, 02:12:12 PM
ฮอนด้า เผยโฉม “บีอาร์-วี” แอคทีฟสปอร์ตครอสโอเวอร์ใหม่ ครั้งแรกอย่างไม่เป็นทางการ ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32



          บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด?นำโดยนายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ (ที่ 2 จากขวา) และนายสมภพ ปฏิภานธาดา ผู้จัดการทั่วไปส่วนการตลาด (ที่ 2 จากซ้าย) ตอกย้ำความเป็นผู้นำในการนำเสนอรถยนต์สปอร์ตอเนกประสงค์ที่ครอบคลุมในทุกระดับ ด้วยการเผยโฉม ฮอนด้า บีอาร์-วี ใหม่ เป็นครั้งแรกภายในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 32 ก่อนจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในต้นปีหน้า

          ฮอนด้า บีอาร์-วี ใหม่ เป็นยนตรกรรมแอคทีฟสปอร์ตครอสโอเวอร์ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของรถเอสยูวีที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าในระดับคอมแพคท์และซับคอมแพคท์ โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ที่แข็งแกร่งสไตล์สปอร์ต และช่วงล่างยกสูง ตอบทุกเส้นทางที่ท้าทาย มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร SOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว 117 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที ด้วยแรงบิดสูงสุด 146 นิวตัน ที่ 4,700 รอบต่อนาที มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม รองรับพลังงานทางเลือก E85 สะดวกสบายด้วยพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง ทั้งยังเป็นรถเอสยูวีรุ่นแรกในระดับนี้ที่นำเสนอเบาะนั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง ที่สามารถปรับพับได้หลากหลายรูปแบบ นอกจากนี้ยังมีรุ่นเบาะนั่ง 2 แถว 5 ที่นั่ง ให้พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายที่กว้างขวางยิ่งขึ้น พร้อมฟังก์ชั่นและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอันล้ำสมัย ให้ความอุ่นใจในทุกการเดินทางด้วยมาตรฐานความปลอดภัย ที่เหนือระดับและครบครัน

          ผู้สนใจสามารถร่วมสัมผัสยนตรกรรมฮอนด้า พร้อมแคมเปญและข้อเสนอสุดพิเศษจากฮอนด้าได้ที่งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 32 ณ บูธ A14 อาคารชาเลนเจอร์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันนี้ - 13 ธันวาคม 2558 หรือติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.honda.co.th

activity on December 02, 2015, 02:13:43 PM
จากัวร์ แลนด์โรเวอร์เปิดตัวยนตรกรรมหรู 4 รุ่นใหม่อย่างเป็นทางการ พร้อมโปรโมชั่นพิเศษในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32









          จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ นำเสนอรถยนต์ 4 รุ่นใหม่สู่ตลาดรถหรูเมืองไทยอย่างเป็นทางการ ได้แก่ ดิ ออล-นิว จากัวร์ เอ็กซ์อี, เรนจ์โรเวอร์ สปอร์ต ไฮบริด, เรนจ์โรเวอร์ ไฮบริด และเรนจ์โรเวอร์ อีโวค รุ่นปี 2016
          ดิ ออล-นิว จากัวร์ เอ็กซ์อี รถสปอร์ตซาลูนที่มอบสุดยอดแห่งนวัตกรรม สมรรถนะการขับขี่และดีไซน์ที่งามสง่า ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษที่ 3,999,000 บาท สำหรับรุ่น R-Sport เฉพาะในงานเท่านั้น
          เรนจ์โรเวอร์ สปอร์ต ไฮบริด และ เรนจ์โรเวอร์ ไฮบริด รถไฮบริดเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นแรกของโลกที่เปิดตัวในประเทศไทย มาพร้อมกับเทคโนโลยีไฮบริดแท้ด้วยสมรรถนะแลนด์โรเวอร์อย่างเต็มขั้น
          เรนจ์โรเวอร์ อีโวค รุ่นปี 2016 รถยนต์ขายดีอันดับหนึ่งที่มาพร้อมดีไซน์และเทคโนโลยีสุดล้ำ
          เชิญทดลองขับทดสอบสมรรถนะเหนือระดับของรุ่นต่างๆ ได้แก่ ดิ ออล-นิว จากัวร์ เอ็กซ์อี, เดอะ นิว แลนด์โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี่ สปอร์ต และ เรนจ์ โรเวอร์ อีโวค 2016
          พบกับโปรโมชั่นและข้อเสนอสุดพิเศษในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 32 เรนจ์โรเวอร์ อีโวค รุ่นปี 2016 เริ่มต้นที่ 3,999,000 บาท สำหรับรุ่น SE Plus, ดอกเบี้ยพิเศษ 1.99%* และเงินดาวน์ขั้นต่ำที่ 35% ผ่อนนาน 48 เดือน พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษาตัวรถฟรี 3 ปี** พร้อมด้วยส่วนลด 15% สำหรับผลิตภัณฑ์ส่งเสริมการขาย และอุปกรณ์ตกแต่ง พร้อมฟรีค่าติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่ง

          จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ เปิดตัวยนตรกรรมหรูสัญชาติอังกฤษ 4 รุ่นใหม่อย่างเป็นทางการ ณ งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 32 (The 32th Thailand International Motor Expo 2015) ที่บูธหมายเลข B04 ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 ระหว่างวันที่ 2-13 ธันวาคม 2558 โดยในงานนี้ ซิตี้ ออโต้โมบิล นำเสนอสุดยอดยานยนต์สมรรถนะสูงจากจากัวร์ แลนด์โรเวอร์หลากหลายรุ่น เพื่อให้ครอบคลุมทุกความต้องการของไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างสำหรับผู้บริโภคระดับสูงในเมืองไทย
          ชาญชัย มหันตคุณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิตี้ ออโต้โมบิล จำกัด กล่าวว่า "จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ คือผู้นำในตลาดรถยนต์หรูและเอสยูวีระดับโลก และเพื่อตอบสนองความต้องการของไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของลูกค้าในประเทศไทย เราจึงมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้เปิดตัวยานยนต์หรูรุ่นใหม่ทั้ง 4 รุ่นในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งนี้ เพื่อมอบโอกาสให้ลูกค้าที่กำลังมองหายานยนต์ในฝัน ได้สัมผัสและเป็นเจ้าของสุดยอดยนตรกรรมที่โดดเด่นทั้งในด้านรูปลักษณ์ การออกแบบห้องโดยสารภายในที่หรูหราสง่างาม รวมไปถึงเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่และอุปกรณ์อันล้ำสมัยที่หาไม่ได้จากรถยนต์แบรนด์อื่น"
          ดิ ออล-นิว จากัวร์ เอ็กซ์อี รถสปอร์ตซาลูนที่มอบสุดยอดแห่งนวัตกรรม สมรรถนะการขับขี่และดีไซน์ที่งามสง่า
          จากัวร์ เอ็กซ์อี ได้รับคำยกย่องจากสื่อมวลชนสายรถยนต์จากทั่วยุโรปว่าเป็นรถซาลูนหรูขนาดกลางระดับ
          พรีเมี่ยมที่ดีที่สุด และสำหรับเมืองไทย จากัวร์ เอ็กซ์อี เป็นรถยนต์ที่ตอบสนองความต้องการของนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่หลงใหลในความเร็วและรูปลักษณ์ที่สวยงามของรถยนต์สปอร์ต 4 ประตูในราคาที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังโดดเด่น

          ด้วยการออกแบบห้องโดยสารที่หรูหราและภูมิฐาน พร้อมประสิทธิภาพการปล่อยไอเสียต่ำ โดยยังคงสมรรถนะในการขับขี่แบบรถสปอร์ตได้อย่างสมบูรณ์ จากัวร์ เอ็กซ์อี จึงเป็นรถยนต์สปอร์ตซาลูนสำหรับนักธุรกิจรุ่นใหม่อย่างแท้จริง โดย จากัวร์ เอ็กซ์อี เปิดตัวที่ประเทศไทยในรุ่น ดิ ออล-นิว จากัวร์ เอ็กซ์อี R-sport และดิ ออล-นิว จากัวร์ เอ็กซ์อี Portfolio เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ซึ่งมอบการขับขี่ที่ราบรื่นและเร็วแรงเต็มสมรรถนะ
          ดิ ออล-นิว จากัวร์ เอ็กซ์อี มาพร้อมกับข้อเสนอสุดพิเศษเฉพาะในงานมหกรรมยานยนต์ ที่ 3,999,000 บาท ในรุ่น R-Sport
          จากัวร์ คือผู้นำด้านการใช้โครงสร้างอะลูมิเนียมกับรถยนต์มานานกว่า 10 ปี โดย จากัวร์ เอ็กซ์อี ยังเป็นรถยนต์รุ่นแรกของจากัวร์ที่ใช้สถาปัตยกรรมโครงสร้างอลูมิเนียมรุ่นใหม่ทั้งหมด ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาจากอุตสาหกรรมอากาศยานเพื่อมอบสมรรถนะอันยอดเยี่ยม โครงสร้างรูปแบบนี้ถือว่ามีความสมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับยานยนต์ที่เน้นสมรรถนะการขับขี่ ทั้งยังมอบสัดส่วนการกระจายน้ำหนักใกล้เคียงอัตราส่วน 50:50 ซึ่งถือว่าที่ดีเยี่ยมที่สุด โครงสร้างน้ำหนักเบายังเสริมประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมัน และลดการปล่อยไอเสียต่ำสุดที่ 99 กรัมต่อกิโลเมตรและยังช่วยให้ จากัวร์ เอ็กซ์อี ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 237 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยทีเดียว
          นอกจากระบบความบันเทิงหลากหลายและระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง จากัวร์ เอ็กซ์อี ยังมาพร้อมกับจอเลเซอร์แบบ Head-up Display (HUD) ที่ให้การแสดงผลแบบจอกว้างพร้อมความคมชัดและคุณภาพสีระดับสูง สำหรับการแสดงข้อมูลต่างๆ อาทิ ความเร็วและการนำทางที่ชัดเจนโดยไม่รบกวนสายตาในขณะขับขี่
          เรนจ์ โรเวอร์ สปอร์ต ไฮบริด และ เรนจ์ โรเวอร์ ไฮบริด
          รถยนต์ไฮบริดเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นแรกของโลกที่เปิดตัวในประเทศไทย มาพร้อมกับเทคโนโลยีไฮบริดแท้ด้วยสมรรถนะแลนด์โรเวอร์อย่างเต็มขั้น
          เรนจ์โรเวอร์ สปอร์ต ไฮบริด และ เรนจ์โรเวอร์ ไฮบริด เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของงานเปิดตัวในปีนี้ โดยเป็นยานยนต์ที่ได้รับการออกแบบและวางระบบวิศวกรรมเพื่อมอบสมรรถนะและการใช้งานแบบอเนกประสงค์อย่างเหนือชั้น ผสานเทคโนโลยีไฮบริดเข้ากับโครงรถชั้นเลิศ จึงทำให้ยานยนต์เรนจ์โรเวอร์ทั้งสองรุ่นพร้อมบุกตะลุยไปกับคุณในทุกสภาวะ โดดเด่นทั้งในด้านความสูงท้องรถ มุมเงยและมุมในการขึ้นทางชัน ทั้งยังพร้อมลุยน้ำลึกระดับสูงสุดที่ 850 มม. ด้วยสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมในทุกองศาจากเครื่องยนต์ไฮบริดแท้ 100% พร้อมสุดยอดสมรรถนะจากแลนด์โรเวอร์อย่างสมบูรณ์แบบ
          โดยรถทั้งสองรุ่นนำเครื่องยนต์ดีเซล LR-SDV6 ขนาด 3.0 ลิตร มาใช้เป็นครั้งแรก มอบกำลังเครื่องถึง 340 แรงม้า ผสมผสานที่สุดแห่งความเร็ว โดยปล่อยไอเสียต่ำและประหยัดเชื้อเพลิงสูงสุด จึงนับเป็นเทคโนโลยีการขับเคลื่อนแห่งอนาคตที่แท้จริง เรนจ์โรเวอร์ทั้งสองรุ่นยังมาพร้อมฟังก์ชั่นพิเศษมากมาย อาทิ ระบบเปิด-ปิดประตูท้ายอัตโนมัติ (Gesture Tailgate Technology), ระบบปรับความสูงตัวรถอัตโนมัติ (Automatic Access Height), ระบบการปรับรูปแบบการขับขี่ตามสภาพถนนใหม่ล่าสุด (Terrain Response 2), ระบบควบคุมความเร็วตามสภาพถนน (All Terrain Progress Control) และระบบความบันเทิงภายในห้องโดยสารด้านหลังที่มาพร้อมรีโมตควบคุม (รวมไปถึงหูฟังไร้สายสองชุด และช่องยูเอสบีหนึ่งช่องบริเวณที่นั่งแถวสอง) พร้อมด้วยจอสกรีนขนาด 8 นิ้ว
          เรนจ์ โรเวอร์ และ เรนจ์ โรเวอร์ สปอร์ต ไฮบริด มาพร้อม 4 โหมดการขับขี่ที่ผู้ใช้สามารถเลือกใช้งานได้ ทั้ง โหมด Electric Vehicle (EV) On, โหมด Electric Vehicle (EV) Off, โหมดสปอร์ต (ซึ่งสามารถเร่งแรงบิดได้เพียงสะกิดคันเร่งเบาๆเท่านั้น) และ โหมดหยุด/สตาร์ท อัตโนมัติ ซึ่งช่วยเพิ่มการชาร์จประจุให้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม เรนจ์โรเวอร์ ไฮบริด มาพร้อมระบบกันสะเทือนแบบอากาศสี่มุมรุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งมอบสมดุลของล้อและการทรงตัวที่ดีเยี่ยม

          เรนจ์โรเวอร์ อีโวค รถยนต์ขายดีอันดับหนึ่งพร้อมดีไซน์ใหม่สุดล้ำ
          ที่สุดแห่งสมรรถนะและการออกแบบจาก เรนจ์โรเวอร์ อีโวค ยานยนต์รุ่นยอดนิยมจากแลนด์โรเวอร์ กับการเปลี่ยนรูปโฉมใหม่ในรุ่นปี 2016 เพื่อเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งนี้ ซึ่งนอกเหนือจากสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้น เทคโนโลยีเพื่อความบันเทิงและความปลอดภัยชั้นเยี่ยมที่ทำให้ เรนจ์โรเวอร์ อีโวค ประสบความสำเร็จด้านยอดขายมาแล้วทั่วโลก เรนจ์โรเวอร์ อีโวค รุ่นปี 2016 ยังมอบความโดดเด่นยิ่งกว่าด้วยการออกแบบภายในห้องโดยสารใหม่ด้วยวัสดุชั้นเยี่ยมเพื่อมอบความหรูหราและสะดวกสบายที่เป็นเลิศยิ่งขึ้น สะกดทุกสายตาด้วยภาพลักษณ์ที่ภูมิฐานจากแผงกันชนดีไซน์ใหม่ ตะแกรงหน้าอันโฉบเฉี่ยวสองรูปแบบ ผสานไฟหน้าแอลอีดีและล้ออัลลอยใหม่ล่าสุดที่มีให้เลือกถึง 3 แบบ สำหรับประเทศไทย เรนจ์โรเวอร์ อีโวค รุ่นปี 2016 นำเสนอ 2 รุ่นด้วยกัน คือ SE Plus และ HSE Dynamic เพื่อมอบสุดยอดประสบการณ์การขับขี่ด้วยเทคโนโลยีแห่งยานยนต์และภาพลักษณ์ที่หรูหราเปี่ยมเสน่ห์ โดยมาพร้อมกับทางเลือกชุดอุปกรณ์เสริมสีดำ (Black Pack accessories)

          มอบข้อเสนอสุดพิเศษในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป
          ชาญชัย มหันตคุณ กล่าวเสริมว่า ''นอกจากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ในงานมหกรรมยานยนต์ ซิตี้ ออโต้โมบิล ยังขอมอบข้อเสนอสุดพิเศษแก่ผู้ที่สั่งจองภายในงาน ไม่ว่าจะเป็นดอกเบี้ย 1.99%* เงินดาวน์ขั้นต่ำที่ 35% ผ่อนนาน 48 เดือน และโปรแกรมบำรุงรักษาตัวรถฟรี 3 ปี** เรนจ์โรเวอร์ อีโวค รุ่นปี 2016 SE Plus ยังให้คุณเป็นเจ้าของได้ในราคาเริ่มต้นเพียง 3,999,000 บาท และข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับ ดิ ออล-นิว จากกัวร์ เอ็กซ์อี R-Sport ที่ 3,999,000 บาท เฉพาะในงานมหกรรมยานยนต์นี้เท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อเป็นการมอบประสบการณ์สุดพิเศษแก่ลูกค้าของเรา เรายังเปิดให้จองคิวทดสอบสมรรถนะรถยนต์ทั้งสามรุ่นล่าสุด ได้แก่ ดิ ออล-นิว จากัวร์ เอ็กซ์อี, เดอะ นิว แลนด์โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี่ สปอร์ต และ เรนจ์โรเวอร์ อีโวค รุ่นปี 2016 รวมทั้งจัดแสดงรถรุ่นอื่นๆภายในงาน ได้แก่ จากัวร์ เอ็กซ์เจ, จากัวร์ เอฟ-ไทป์ คอนเวอร์ทิเบิล (ในสี Firesand) และ เดอะ นิว แลนด์โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี่ สปอร์ต อีกด้วย นอกจากนี้ เรายังมอบส่วนลด 15% สำหรับผลิตภัณฑ์ส่งเสริมการขาย และอุปกรณ์ตกแต่ง พร้อมฟรีค่าติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่ง สำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าภายในงาน"
          "สำหรับช่วงปลายปีนี้ไปจนถึงปี 2559 เราต้องการมอบประสบการณ์สุดพิเศษให้ผู้ใช้จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ โดยมุ่งเน้นกิจกรรมลูกค้าสัมพันธ์เพื่อดึงดูดความสนใจลูกค้ารายใหม่ที่ต้องการร่วมสัมผัสประสบการณ์ในแบบฉบับ จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ ผ่านกิจกรรมที่น่าสนใจ งานโร้ดโชว์ และกิจกรรมที่ชวนให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมกับแบรนด์ของเรามากขึ้น โดยเมื่อเร็วๆนี้ เราได้เปิดตัวโชว์รูมและศูนย์บริการที่พระราม 4 ซึ่งถือเป็นโชว์รูมและศูนย์บริการแฟล็กชิพของจากัวร์ แลนด์โรเวอร์ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก นำเสนอการบริการสำหรับรถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์แบบครบวงจร ซึ่งครบครันทั้งบริการซ่อมบำรุงตัวถังอะลูมิเนียมตามมาตรฐานอังกฤษ ช่องซ่อมปลอดฝุ่น รวมไปถึงเครื่องดึงตัวถัง เป็นต้น ศูนย์บริการแห่งนี้ยังเป็นศูนย์บริการที่นำเครื่องวินิจฉัยตัวถังรุ่นใหม่ล่าสุดมาใช้เป็นแห่งแรกในเอเชียแปซิฟิก เราจึงมีความมั่นใจว่าลูกค้าที่ซื้อรถจาก ซิตี้ ออโต้โมบิล ซึ่งเป็นผู้แทนจำหน่ายรถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์อย่างเป็นทางการในประเทศไทย จะได้รับการบริการหลังการขายมีคุณภาพในทุกระดับ
          สำหรับลูกค้าที่สนใจจองคิวการทดสอบสมรรถนะรถยนต์รุ่น ดิ ออล-นิว จากัวร์ เอ็กซ์อี, เดอะ นิว แลนด์โรเวอร์ดิสคัฟเวอรี่ สปอร์ต และ เรนจ์โรเวอร์ อีโวค รุ่นปี 2016 สามารถลงทะเบียนได้โดยตรงที่บูธจากัวร์ แลนด์โรเวอร์ หมายเลข B04 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
ราคารถยนต์ 4 รุ่นล่าสุด (เฉพาะรุ่นที่จำหน่ายในประเทศไทย)
          ดิ ออล-นิว จากัวร์ เอ็กซ์อี
          ดิ ออล-นิว จากัวร์ เอ็กซ์อี R-sport เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร (จำนวนจำกัด) 3,999,000 บาท
          ดิ ออล-นิว จากัวร์ เอ็กซ์อี Portfolio เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร 4,799,000 บาท
          เรนจ์ โรเวอร์ สปอร์ต ไฮบริด
          เรนจ์โรเวอร์ สปอร์ต ไฮบริด HSE Dynamic Pack SDV6 เครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร 8,999,000 บาท
          เรนจ์โรเวอร์ สปอร์ต ไฮบริด HSE Dynamic เครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร 14,599,000 บาท
          เรนจ์โรเวอร์ สปอร์ต ไฮบริด Autobiography เครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร 14,999,000 บาท
          เรนจ์ โรเวอร์ ไฮบริด
          เรนจ์โรเวอร์ ไฮบริด Autobiography SDV6 เครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร 13,399,000 บาท
          เรนจ์ โรเวอร์ อีโวค 2016
          เรนจ์โรเวอร์ อีโวค SE Plus SD4 เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร (จำนวนจำกัด) 3,999,000 บาท
          เรนจ์โรเวอร์ อีโวค HSE Dynamic SD4 เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร 4,999,000 บาท
          * สำหรับรถยนต์ จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ทุกรุ่น
          **เฉพาะบางรุ่นเท่านั้น

activity on December 02, 2015, 02:14:51 PM
ภาพข่าว: จากัวร์ แลนด์โรเวอร์เปิดตัวยนตรกรรมหรู 4 รุ่นใหม่อย่างเป็นทางการ พร้อมโปรโมชั่นพิเศษในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32



          ชาญชัย มหันตคุณ (ที่ 4 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิตี้ ออโต้โมบิล จำกัด เปิดตัวรถยนต์ 4 รุ่นใหม่สู่ตลาดรถหรูเมืองไทยอย่างเป็นทางการ ได้แก่ ดิ ออล-นิว จากัวร์ เอ็กซ์อี, เรนจ์โรเวอร์ สปอร์ต ไฮบริด, เรนจ์โรเวอร์ ไฮบริด และเรนจ์โรเวอร์ อีโวค รุ่นปี 2016 ภายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32 ณ อิมแพ็คเมืองทองธานี โดยมีชลัทชัย ปภัสร์พงษ์ รองประธานกรรมการผู้จัดการ และ ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานกรรมการบริษัทสื่อสากล จำกัด ให้เกียรติร่วมถ่ายภาพ

activity on December 02, 2015, 02:16:26 PM
นิชคาร์กรุ๊ป เปิดตัวแลมโบร์กินี ฮูราแคน แอลพี 610-4 และ ฮูราแคน แอลพี 580-2 โมเดลใหม่ล่าสุด









          นิชคาร์กรุ๊ป ผู้นำเข้ารถยนต์ระดับซุปเปอร์คาร์ สปอร์ตคาร์ ไฮเปอร์คาร์ และตัวแทนจำหน่ายแลมโบร์กินีอย่างเป็นทางการในประเทศไทย เปิดตัวสองโมเดลใหม่ล่าสุดจากค่ายกระทิงดุ "ฮูราแคน แอลพี 610-4 Spyder" และ เครื่องยนต์ขับเคลื่อนสองล้อ "ฮูราแคน แอลพี 580-2 Coupe" ในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2015 ระหว่างวันที่ 2-13 ธันวาคม 2558 ณ บูธ B03 อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี และประกาศเปิดรับจองทั้งสองรุ่น พร้อมส่งมอบ ไตรมาสแรก พ.ศ. 2559
          ฮูราแคน แอลพี 610-4 Spyder ราคาเริ่มต้นที่ 26,800,000 บาท และ "ฮูราแคน แอลพี 580 -2 Coupe" ราคาเริ่มต้นที่ 22,500,000 บาท
          คุณวิทวัส ชินบารมี กรรมการผู้จัดการ นิชคาร์กรุ๊ป กล่าวว่า "นิชคาร์กรุ๊ปได้รับความไว้วางใจ ในการเป็นตัวแทนจำหน่ายซุปเปอร์คาร์ในประเทศไทยยาวนาน กว่า 30 ปี ลูกค้าจึงมั่นใจได้อย่างเต็มเปี่ยม ในการบริการอย่างผู้ชำนาญการ ตั้งแต่กระบวนการขาย ตลอดจนการส่งมอบและบริการหลังการขาย พร้อมแฟลกชิพสโตร์แลมโบร์กินีขนาดใหญ่ ในพื้นที่โชว์รูมของนิชคาร์กรุ๊ป ถนนมอเตอร์เวย์ นอกจากนี้ เรายังร่วมกับแลมโบร์กินีคลับ ประเทศไทย จัดกิจกรรมเพื่อลูกค้า อย่างต่อเนื่อง เพื่อมอบความสนุกสนานในการขับ ให้แก่ลูกค้าสูงสุด"
          ฮูราแคน แอลพี 610-4 Spyder ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ได้รับการพัฒนาให้การขับเป็นไปด้วยความราบลื่นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมื่อใช้โหมด Strada ในการขับบนถนนหลัก ไฮไลท์อยู่ที่ประสิทธิภาพอันทรงพลังยิ่งขึ้น การเพิ่มอีกระดับของความหรูหรา สามารถขับได้ทุกวัน
          ฮูราแคน แอลพี 610-4 ยังมีสีให้เลือกมากขึ้น รถโมเดลมาตรฐานมาพร้อมกับเบาะหนังบุตั้งแต่ที่จับประตูถึงด้านบนของคอนโซล ช่องระบายอากาศใช้สีดำด้านสร้างความหรูหรา
          นอกจากนี้ โปรแกรม Ad Personam อันโด่งดังของแบรนด์แลมโบร์กินี ยังนำเสนออุปกรณ์ตกแต่งเสริมที่มีให้เลือกเพิ่มขึ้น เพื่อให้ผู้ขับได้ครอบครองรถที่สะท้อนความเป็นตัวตนสูงสุด อาทิ ระบบเสียง Sensonum ขนาดกำลัง 390 วัตต์ RMS พร้อมเครื่องขยายเสียงสิบช่องทาง และ ลำโพงสิบตัว รูปหกเหลี่ยม ประทับตรา Sensonum แบบพิเศษสุดสำหรับ ฮูราแคน แอลพี 610-4 โดยเฉพาะ หรือเลือกเปลี่ยนมาใช้ระบบท่อไอเสียสปอร์ตที่จะมาพร้อมสีดำมันวาว สร้างความทรงพลัง ไฟ LED ใหม่ ในห้องเครื่อง สามารถเปลี่ยนมาใช้ร่วมกับห้องเครื่องคาร์บอนไฟเบอร์ และฝากระโปรงเครื่องยนต์แบบโปร่งใส หรือสามารถเพิ่มระบบล็อคความเร็วขับขี่ หรือเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ หรือ เลือกเพิ่มสายชาร์จแบตในรถยนต์ขนาด 12 V หรือเลือกเพิ่มที่วางแก้วได้
          ฮูราแคน แอลพี 580-2 Coupe ใช้ระบบขับเคลื่อนสองล้อ ที่ล้อหลัง เครื่องยนต์ V10 ขนาด 5.2 ลิตร พร้อมน้ำหนักตัวรถที่เบาลง เพียง 1,389 กก. เบากว่าเครื่องยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อถึง 33 กก. ขนาดกำลัง 426 กิโลวัตต์/580 แรงม้า แรงบิด 540 นิวตันเมตร 75% ของแรงบิดที่ 1,000 รอบต่อนาที สามารถเร่งที่ความเร็ว 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.4 วินาที และเร่งได้สูงสุด 320 กม./ชม.
          อัตราส่วนกระจายน้ำหนักด้านหน้าและหลังอยู่ที่ 40/60 ลดแรงเฉื่อยบนเพลาหน้า และมีการติดตั้งการจัดการพลังงานใหม่ทั้งหมด รวมถึง ปรับปรุงระบบกันสะเทือน ตั้งค่าพวงมาลัยใหม่ โดยสามารถเลือกการขับแบบ STRADA, SPORT และ CORSA เพื่อการขับราบลื่นยิ่งขึ้นตามรูปแบบการขับที่แตกต่างกัน
          ในด้านการออกแบบ ฮูราแคน แอลพี 580-2 Coupe เกิดจากการทำงานร่วมกันระหว่างนักออกแบบ Centro Stile และผู้เชี่ยวชาญด้านอากาศพลศาสตร์ของแลมโบร์กินี โดยรูปลักษณ์มีความทันสมัยมากขึ้น แตกต่างจากเครื่องยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อ อย่างชัดเจน ช่องรับอากาศด้านหน้าได้รับการปรับให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อเพิ่มแรงกดให้กับล้อหน้า เสริมด้วยสปอยเลอร์หลัง และดิฟฟิวเซอร์ด้านหลัง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของอากาศด้านหลังตัวรถได้อย่างเต็มที่
          ฮูราแคน แอลพี 610-4 Spyder และ ฮูราแคน แอลพี 580-2 Coupe ใช้ระบบหยุดการทำงานของกระบอกสูบ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องยนต์เป็นครั้งแรก ในเครื่องยนต์ V10 โดย 5 สูบ จากทั้งหมด 10 กระบอกสูบจะหยุดทำงาน เมื่อเครื่องยนต์ไม่ได้ใช้งานเต็มกำลัง และจะสวิตซ์กลับมาที่ระบบ 10 สูบ เมื่อมีการเร่งเครื่องยนต์ ระบบนี้จะช่วยประหยัดอัตราการเผาผลาญเชื้อเพลิงและการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ สำหรับ ฮูราแคน แอลพี 610-4 Spyder ได้กว่า 283 ก./กม. และ 278 ก./กม. สำหรับ ฮูราแคน แอลพี 580-2 Coupe
          ผู้ขับ ยังสามารถปรับแต่ง ฮูราแคน แอลพี 580-2 Coupe ทั้งภายใน และภายนอกตัวถังได้อย่างไร้ขีดจำกัด ด้วยโปรแกรม Ad Personam โดยโมเดลมาตรฐาน ติดตั้ง Infotainment System II พร้อมแผงหน้าปัดความละเอียดสูง ขนาด 12.3 นิ้ว

          หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแลมโบร์กินี ฮูราแคน แอลพี 610-4 Spyder และ ฮูราแคน แอลพี 580-2 Coupe สามารถติดต่อ นิชคาร์กรุ๊ป ที่ โทร 02-321-1111 โดยเปิดบริการทุกวัน จันทร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 8.30 – 17.30 น.

activity on December 02, 2015, 02:17:10 PM
Debut of two Lamborghini Huracan models in Bangkok









  Niche Cars Group, Thailand's leading high end distributor of elite automotive brands, and the sole authorised dealer for Lamborghini in Thailand, debuts two latest Huracán models: Lamborghini Huracán LP 610-4 Spyder and Lamborghini Huracán LP 580-2 Coupe at Motor Expo 2015 between 2-13 December at Challenger Hall, IMPACT Muang Thong Thani. With pricing starting at 26,800,000 THB for Lamborghini Huracán LP 610-4 and 22,500,000 THB for Lamborghini Huracán LP 580-2, both models are available to order now at Niche Cars Group Tel. 02-321-1111 with deliveries starting Q1 of 2016.
          Mr. Vittawat Chinabarramee, Managing Director of Niche Cars Group said "Niche Cars Group has been in supercars business for almost 30 years. Supercars lovers can be fully assured in our expertise. We have large Lamborghini flagship store located at Motorway, km 1. We also regularly hold special activities together with Lamborghini Club Thailand to deliver the fun driving experience for our customers"
          Huracán LP 610-4 offers the new contents which focus on efficiency, drivability and luxury and are already available with the 2016 model year. A fine-tuning of the electronically controlled 4WD system provides a neutral and even more improved driving behavior, particularly in STRADA mode.
          The offer in the color and trim of the Huracán has been significantly enlarged. Interior refinements as standard include leather to door handles and the upper parts of the center console. Air vents are now painted in exclusive matt black.
          Lamborghini Ad Personam, the brand's customization program, has also added the availability of interior personalization, as well as exterior options including heritage colors and matt paints. The full Ad Personam program provides for owners wishing to further customize their cars to their unique personal tastes.
          The options program has been further extended. New options available include Lamborghini's Sensonum audio system. The system delivers 390 Watts RMS, with a ten-channel amplifier and a range of ten loudspeakers in hexagonal-shaped grilles and the exclusive Sensonum badge.
          Lamborghini's optional sports exhaust system, which can be specified with a style package for high gloss black tailpipes, is now available in all markets worldwide.
          New LED lighting in the engine compartment can be combined with the optional transparent engine bonnet and carbon fiber engine compartment. Cruise Control can be specified, and a travel pack provides additional storage nets front and rear, an additional 12V lighter and cupholders.
          Lamborghini Huracán LP 580-2, a two-wheel drive version of the Huracán coupe, has been engineered and tuned for an essential driving experience. With its naturally aspirated V10 5.2 l engine sending 426 kW / 580 hp to the rear axle, the Huracán LP 580-2's dry weight is just 1,389 kg, thus 33 kg lighter than the four-wheel-drive version.
          Weight distribution is biased 40% at the front / 60% at the rear, reducing inertia on the front axle. An entirely new power management set-up, encompassing modified suspension, new steering set-up and recalibrated stability and traction controls connects the driver as directly as possible with the road. The selectable Lamborghini driving modes STRADA, SPORT and CORSA are tuned to provide oversteering characteristics, emphasizing authentic rear-wheel drive behavior.
          The Lamborghini Huracán LP 580-2 is clearly different from its four wheeldrive stable mate. The front and rear of the Huracán LP 580-2 have been redesigned, accenting a young, fresh and more assertive look and highlighting the aeronautic styling.
          Each design detail of the Lamborghini Huracán LP 580-2 celebrates the aesthetic of function; the result of a close collaboration between the Centro Stile designers and Lamborghini's aerodynamic experts. The large, newly formed front air intakes specifically direct the cooling air and headwind to increase down pressure on the front axle. The spoiler lip at the rear works together with the rising diffuser in the underbody to improve airflow around the rear of the car – the Huracán does not require a movable rear spoiler.
          The LP 580-2 is available in the full range of Huracán external and internal colors and trims. In addition, through Lamborghini's personalization program Ad Personam, the options for external and internal colors are limitless.
          As standard, both Huracán LP 610-4 and LP 580-2 include cylinder deactivation to improve engine efficiency; the first time this function is included in a naturally aspirated V10 engine. When full engine capacity is not required, five of the ten cylinders are temporarily deactivated by switching off one cylinder bank. When the driver accelerates, the system switches back instantaneously to ten-cylinder mode, while being virtually impossible to detect by the driver.

          For more information, please contact Niche Cars Group at 02-321-111. Or visit Lamborghini flagship store at Motorway, km 1 which is open every day from 8.30 – 17.30 hr.

activity on December 02, 2015, 02:19:01 PM
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส แนะนำ “มิราจ ใหม่” รุ่นปี 2016 ในงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 32









          มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เปิดตัว "มิตซูบิชิ มิราจ ใหม่ : ให้คุณมากกว่าที่คิด" โดดเด่นด้วยดีไซน์ใหม่ที่สปอร์ตยิ่งขึ้น พร้อมระบบเสริมความปลอดภัยอัจฉริยะที่ติดตั้งเป็นครั้งแรกในรถอีโค คาร์ และประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 23.8 กิโลเมตรต่อลิตร*1 ตั้งราคาขายที่ 383,000 – 567,000 บาท โดยรับจองในงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 32 ระหว่างวันที่ 1-13 ธันวาคม นี้ ที่ อิมแพ็ค เมืองทองธานี และที่โชว์รูมรถยนต์มิตซูบิชิ 223 แห่งทั่วประเทศตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และมีกำหนดส่งมอบลูกค้าตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นไป
          มร. โมะริคาซุ ชกคิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศเปิดตัว "มิตซูบิชิ มิราจ ใหม่ รุ่นปี 2016" ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32: Thailand International Motor Expo 2015 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี พร้อมเปิดรับจองในงานและที่โชว์รูมรถยนต์มิตซูบิชิ 223 แห่ง ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยมีกำหนดส่งมอบรถให้กับลูกค้าตั้งแต่เดือนมกราคม 2559 เป็นต้นไป
          สำหรับ มิตซูบิชิ "มิราจ" ใหม่ เป็นรถยนต์ขนาดเล็กประหยัดพลังงานรุ่นแรกในสายผลิตภัณฑ์ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ภายใต้โครงการโกลบอล สมอลล์ ที่ถูกผลิตขึ้น ณ โรงงานใหม่แห่งที่ 3 ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี และเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกของโลกในประเทศไทยในเดือนมีนาคม 2555 ในฐานะรถยนต์อีโค คาร์ โดยในเดือนตุลาคมที่ผ่านมารถรุ่นดังกล่าวมียอดขายในกว่า 93 ประเทศทั่วโลกแล้วกว่า 320,000 คัน ในจำนวนดังกล่าวเป็นยอดขายภายในประเทศไทยกว่า 83,000 คัน
          สำหรับมิตซูบิชิ มิราจ ใหม่ รุ่นปี 2016 มาพร้อมแนวคิด "ให้คุณมากกว่าที่คิด" ด้วย 3 คุณสมบัติหลัก ; "Stylish" – โดดเด่นด้วยการออกแบบภายนอกและภายในใหม่ตามแนวคิด "Spicy Small" และเพิ่มสีมาตรฐานใหม่ 3 สี คือ สีแดง (Red Wine) สีส้ม (Sunrise Orange) สีเทาไทเทเนียม (Titanium Grey); "Smart Safety" – ครบครันด้วยระบบเสริมความปลอดภัยอัจฉริยะที่ติดตั้งเป็นครั้งแรกในรถอีโค คาร์ ; และ "Saving" –ประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 23.8 กิโลเมตรต่อลิตร*1 เหนือกว่ารถในระดับเดียวกัน (ในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน) และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำสุดเพียง 98 กรัม ต่อกิโลเมตร*2
          ทั้งนี้ มิตซูบิชิ มิราจ ใหม่ รุ่นปี 2016 ถือว่ามีคุณสมบัติซึ่งผ่านข้อกำหนดทางเทคนิคของรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล หรือ อีโค คาร์ รุ่นที่ 2 ที่ระบุว่าจะต้องมีอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงไม่เกิน 4.3 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร และมีมาตรฐานมลพิษระดับ EURO 5 ตลอดจนมีปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไม่เกิน 100 กรัมต่อ 1 กิโลเมตร รวมทั้งมีคุณสมบัติในการป้องกันผู้โดยสารกรณีที่เกิดอุบัติเหตุการชนด้านหน้าและด้านข้างของตัวรถ และติดตั้งระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันก่อนเกิดเหตุ (Active Safety)
          1 :จากผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการตาม Combine Mode ที่ระบุไว้ในข้อกำหนดทางเทคนิค UNECE Reg.101 Rev. 02 ในรุ่น GLX CVT
          2 :จากผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการที่วัดตามหลักเกณฑ์ที่ระบุในข้อกำหนดทางเทคนิค UNECE Reg.101 Rev. 02 ในรุ่น GLX CVT

          ภาพรวมของผลิตภัณฑ์ : มิตซูบิชิ มิราจ ใหม่ รุ่นปี 2016
          "Stylish"…ให้มากกว่าความโดดเด่นด้วยดีไซน์ใหม่ที่สปอร์ตกว่า โฉบเฉี่ยว ปราดเปรียวทุกองศา
          - มิตซูบิชิ มิราจ ใหม่ ได้รับการปรับโฉมภายนอกเพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ใหม่ที่สปอร์ตยิ่งขึ้น ด้วยการออกแบบด้านหน้าใหม่ ทั้งกระโปรงหน้า กระจังหน้า และกันชนหน้า-หลัง พร้อมการตกแต่งด้านล่างกระจังหน้าแบบโครเมียม และไฟท้ายแบบ LED โดยในรุ่น GLS-LTD และ GLS มีการติดตั้งไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ Bi-XENON HID ไฟหรี่แบบสเปคตรัม LED ไฟตัดหมอกหน้า และสปอยเลอร์หลังแบบใหม่พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED ซึ่งช่วยให้การไหลเวียนของอากาศดีขึ้นตามหลักอากาศพลศาสตร์และช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ รวมทั้งล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว แบบทูโทน ลายใหม่
          - สีตัวถังใหม่ 3 สี คือ สีแดง (Wine Red) สีส้ม (Sunrise Orange) และสีเทาไทเทเนียม (Titanium Grey)
          - การตกแต่งวัสดุภายในโทนสีดำแบบ Piano Black บริเวณแผงคอนโซลหน้า ฐานเกียร์ และแผงประตู โดยในรุ่น GLS-LTD และ GLS มาพร้อมเบาะผ้าสีดำลายใหม่เย็บด้ายสีเงินเพิ่มความสปอร์ตยิ่งขึ้น พวงมาลัยหุ้มหนังแบบ 3 ก้าน ออกแบบใหม่เพื่อความกระชับมือขึ้นพร้อมการตกแต่งด้วยโครเมี่ยมผสมผสานกับวัสดุสีดำแบบ Piano Black และมาตรวัดการขับขี่แบบ Semi-High Contrast (ยกเว้นรุ่น GL) รวมทั้งเพิ่มฟังก์ชั่นที่สะดวกต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น อาทิ ระบบควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัยมาพร้อมระบบควบคุมการสั่งงานด้วยเสียงและปุ่มรับสาย-วางสายที่พวงมาลัยในรุ่น GLS และ GLX

          "Smart Safety"…ให้มากกว่าความมั่นใจด้วยระบบเสริมความปลอดภัยอัจฉริยะที่มีครั้งแรกในรถอีโคคาร์
          - ในรุ่น GLS-LTD และ GLS มีการติดตั้งระบบเสริมความปลอดภัยอัจฉริยะที่ถือเป็นครั้งแรกในอีโคคาร์
          o ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (ที่ความเร็วต่ำ) (FCM-LS : Forward Collision Mitigation System-Low Speed Range) ใช้คลื่นเลเซอร์เรดาร์ในการประเมินระยะห่างจากรถยนต์คันหน้าหากพบว่ามีความเสี่ยงที่จะชนรถยนต์คันหน้าในช่องทางเดียวกัน ระบบจะทำการเตือนและช่วยชะลอความเร็ว ที่ความเร็วโดยประมาณไม่เกิน 30 กม.ต่อชั่วโมง
          o ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะ เมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว (เฉพาะด้านหน้า) (RMS-FORWARD : Radar Sensing Misacceleration Mitigation System-Forward) โดยระบบจะตรวจจับวัตถุด้านหน้าหากมีการเหยียบคันเร่งผิดพลาดอย่างรุนแรงและรวดเร็ว ระบบจะทำการเตือนและตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะอัตโนมัติเพื่อให้ผู้ขับขี่เบรกรถได้ทันซึ่งจะช่วยลดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการชน ที่ความเร็วโดยประมาณไม่เกิน 10 กม.ต่อชั่วโมง โดยมีระยะห่างด้านหน้าโดยประมาณไม่เกิน 4 เมตร
          - มิตซูบิชิ มิราจ ใหม่ ทุกรุ่นติดตั้งระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ASC-Active Stability Control) และระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA-Hill Start Assist System) รวมทั้งเสริมความมั่นใจในการขับขี่ด้วยระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS-Anti Lock Braking System) ระบบกระจายแรงดันน้ำมันเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EBD-Electronic Brake Force Distribution) และระบบเสริมแรงเบรก (BA-Brake Assist) ตลอดจนถุงลมนิรภัยคู่หน้าและเข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับและระบบผ่อนแรงอัตโนมัติ ELR 3 จุด 2 ตำแหน่งซึ่งในรุ่น GLS-LTD และ GLS เป็นแบบ 2 ทิศทาง (ด้านคนขับ)
          - ให้ความปลอดภัยสูงสุดจากโครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ RISE Body (Reinforced Impact Safety Evolution) ช่วยซับและลดแรงกระแทกจากการชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการเพิ่มประสิทธิภาพของโครงสร้างตัวถังด้วยส่วนรับแรงกระแทกผลิตจากเหล็กที่มีความแข็งแรงเป็นพิเศษ "High Tensile Steel" ช่วยลดการยุบของห้องโดยสารจากการชน

          "Saving"…ให้มากกว่าความประหยัดด้วยอัตราประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 23.8 กิโลเมตรต่อลิตร*1
          - มิตซูบิชิ มิราจ ใหม่ ยังคงโดดเด่นในเรื่องการประหยัดน้ำมันที่เหนือกว่ารถในระดับเดียวกัน (ในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน) โดยประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 23.8 กิโลเมตรต่อลิตร*1 นอกจากนี้ยังปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำสุดเพียง 98 กรัม ต่อกิโลเมตร*2 จากการลดทอนแรงเสียดทานในเครื่องยนต์ลงด้วยการติดตั้งแหวนลูกสูบเคลือบสารคาร์บอนชนิดใหม่ พร้อมโซ่ไทม์มิ่งออกแบบใหม่ รวมทั้งติดตั้งระบบควบคุมอัลเทอเนเตอร์เพื่อลดแรงต้านกรณีแบตเตอรี่เต็ม
          - ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร แบบ 3 สูบ DOHC MIVEC 12 Valve ซึ่งมีทั้งระบบเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และระบบเกียร์อัตโนมัติ INVECS-III CVTพร้อมระบบ INC (Idle Neutral Control) ที่ช่วยควบคุมและตัดกำลังไปยังเพลาขับโดยอัตโนมัติเมื่อเหยียบเบรก และระบบ G-SENSOR ที่ช่วยควบคุมการเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ให้มีความแม่นยำมากขึ้นในทางลาดชัน
          - มาตรฐานมลพิษ ระดับ 5

          รุ่นรถและราคามิตซูบิชิ "มิราจ" ใหม่ มีทั้งหมด 4 รุ่นหลัก โดยตั้งราคาขายเริ่มต้นอยู่ที่ 383,000 – 567,000 บาท
รุ่นรถราคา (บาท)
          (1) GLS -LTD เกียร์อัตโนมัติ 567,000
          (2) GLS เกียร์อัตโนมัติ 539,000
          (3) GLX เกียร์อัตโนมัติ 473,000 เกียร์ธรรมดา 439,000
          (4) GL เกียร์ธรรมดา 383,000

          * ราคาเพิ่ม 5,000 บาทสำหรับสีขาวมุก ไวท์เพิร์ล (White Pearl)
          สีตัวถัง
          (1) สีแดง - Wine Red (สีมาตรฐานใหม่)
          (2) สีส้ม - Sunrise Orange (สีมาตรฐานใหม่)
          (3) สีเทา - Titanium Gray (สีมาตรฐานใหม่)
          (4) สีฟ้า - Cerulean Blue Mica
          (5) สีขาวมุก - White Pearl
          (6) สีดำ - Black Mica

          ข้อมูลการขาย :
          - งานเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานมหกรรมยานยนต์:ครั้งที่ 32 2 – 13 ธันวาคม
          (วันสื่อมวลชน 1ธันวาคม วันประชาชนทั่วไปตั้งแต่วันที่ 2-13 ธันวาคม)
          - เปิดจองที่โชว์รูมรถยนต์มิตซูบิชิทั่วประเทศ 1 ธันวาคม เป็นต้นไป
          - เริ่มส่งมอบรถให้ลูกค้า มกราคม เป็นต้นไป

          · สำหรับลูกค้าที่สนใจชมหรือทดลองขับรถยนต์มิตซูบิชิรุ่นต่างๆ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ผู้จำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิทั่วประเทศ หรือ มิตซูบิชิ Call Center หมายเลขโทรศัพท์ 1800 900 009 หรือ โทร. 02-529-9500 ทุกวันจันทร์ - เสาร์ ระหว่างเวลา 8.30-17.00 น.

          · ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้ที่
          Website : http://www.mitsubishi-motors.co.th
          Facebook : https://www.facebook.com/MitsubishiMotorsTH
          Instagram : @MitsubishiMotors_Thailand
          Youtube Channel : Mitsubishi Motors Thailand