CK เสริมแกร่ง เดินหน้าสนับสนุนควบรวม ลั่นพร้อมลุยงานภาครัฐ

CK เสริมแกร่ง เดินหน้าสนับสนุนควบรวม ลั่นพร้อมลุยงานภาครัฐ







        นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ช.การช่างจำกัด (มหาชน) หรือ CK เผยว่า ผลการดำเนินงานงวดปี 2557  บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงาน 2,296 ล้านบาท รายได้ก่อสร้าง 32,858 ล้านบาท บริษัทมี Backlog กว่า  93,583 ล้านบาท ผลประกอบการที่เติบโตอย่างมากในปีนี้มีสาเหตุจาก 2 ปัจจัยหลัก คือ 1) รายได้และกำไรจากงานก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น โดยงานในมือที่มีในปัจจุบันมีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ประมาณ 9.26% ซึ่งเป็นผลมาจากการบริหารจัดการด้านวิศวกรรมและการเงินที่มีประสิทธิภาพของบริษัท และการเลือกรับงานอย่างรอบคอบ  2) กำไรจากการลงทุนในบริษัทในกลุ่ม เช่น BECL, TTW, CKP ซึ่งล้วนแล้วแต่มีผลประกอบการที่โดดเด่น สามารถสร้างเงินปันผลและกำไรจากการลงทุนให้แก่บริษัทอย่างมั่นคง และแสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์การดำเนินงานของบริษัททั้งในด้านของงานก่อสร้างและงานลงทุนพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานต่างๆ ที่มีประสิทธิภาพ และเนื่องจากในปี 2557 บริษัทมีกำไรจึงได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลเท่ากับอัตราหุ้นละ 0.35  บาท เมื่อรวมกับเงินปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 0.20 บาท ทำให้ปีนี้บริษัทจ่ายเงินปันผลเท่ากับหุ้นละ 0.55 บาท

        นายปลิว กล่าวเสริมว่า ในปี 2558 การปรับโครงสร้างการลงทุนที่สำคัญในปีนี้ คือ การควบรวมบริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BECL และ บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BMCL และการขายหุ้นในบริษัทไซยะบุรี พาวเวอร์ จำกัด หรือ XPCL ให้แก่บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด(มหาชน) หรือ CKP ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการเสริมความแข็งแกร่งและศักยภาพให้กับ ช.การช่าง

       การควบรวมกิจการระหว่าง BECL กับ BMCL ที่ประชุมผู้ถือหุ้นของทั้ง 2 บริษัทมีมติเห็นชอบอนุมัติการควบรวมบริษัทในครั้งนี้ โดยผ่านมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2558 ที่ผ่านมา การควบรวมในครั้งนี้จะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อทั้ง BMCL และ BECL จะทำให้บริษัทใหม่ที่เกิดขึ้นเป็นผู้ให้บริการทางด่วนพิเศษฯ และระบบขนส่งมวลชนแบบครบวงจร สามารถขยายและต่อยอดธุรกิจ มีศักยภาพทางการเงิน การดำเนินงานและการแข่งขันที่แข็งแกร่งขึ้น สามารถลงทุนและแข่งขันได้ทั้งในและนอกประเทศ  และจะทำให้เกิดผลตอบแทนการลงทุนที่ดีมากทั้งในระยะสั้นและระยะยาวแก่ผู้ถือหุ้นทุกราย ภายหลังที่บริษัทใหม่ควบรวมเรียบร้อยแล้ว CK จะถือหุ้นในบริษัทใหม่ประมาณ 30% โดย CK สนับสนุนการควบรวมในครั้งนี้อย่างเต็มที่  เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับทั้ง 2 บริษัท ในส่วนของการขายหุ้นของ XPCL ให้แก่ CKP มติประชุมผู้ถือหุ้นของ CKP ได้มีมติอนุมัติให้เข้าซื้อหุ้นของ XPCL ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการดำเนินธุรกิจของ CKP ที่จะเป็นผู้ลงทุนในธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าของกลุ่ม ช.การช่าง รวมทั้งเป็นไปตามแผนการลงทุนในอนาคตของ CKP เนื่องจากการก่อสร้างในเฟสที่ 1 ได้แล้วเสร็จและความเสี่ยงของการก่อสร้างในจุดสำคัญ เช่น การผันน้ำ ได้ผ่านไปแล้ว โดย CKP มองว่าความเสี่ยงด้านการก่อสร้างในปัจจุบันอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้และพิจารณาเห็นว่าเป็นช่วงเวลาที่มีความเหมาะสมในการเข้าซื้อหุ้นของ XPCL จาก CK  ในสัดส่วนร้อยละ 30 ของทุนจดทะเบียน คิดเป็น 805,830,000 หุ้น มีมูลค่ารวม 4,344 ล้านบาท  เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุดให้แก่ผู้ถือหุ้นของ CKP
       
        ในส่วนของแผนการลงทุนและการดำเนินธุรกิจในปี 2558 ช.การช่าง ร่วมกับบริษัทในกลุ่ม ได้จัดเตรียมความพร้อมทุกด้านไว้ครบถ้วน ทั้งทรัพยากรบุคลากร การเงิน พันธมิตรต่างๆพร้อมที่จะลงทุนดำเนินการโครงการต่างๆทั้งในและต่างประเทศ โดยจะเข้าร่วมประมูล โครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐอย่างเต็มที่ เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม สายสีชมพู โครงการรถไฟทางคู่ โครงการมอเตอร์เวย์  โดยมั่นใจว่าจะได้ส่วนแบ่งงานก่อสร้างกว่า 20-25% ของงานทั้งหมด และพร้อมที่จะเข้าร่วมลงทุนดำเนินการในโครงการของภาครัฐแบบ PPP ทั้งโครงการทางด่วน รถไฟฟ้า โรงไฟฟ้า น้ำประปา โดยมีบริษัทในกลุ่ม BECL, BMCL, TTW และ CKP เป็นผู้ร่วมดำเนินการ ในปี 2558 นี้คาดว่างานสัมปทานเดินรถ โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย จะได้ข้อสรุปอย่างแน่นอน ซึ่ง ช.การช่าง ร่วมกับ BMCL มั่นใจว่าจะสามารถเร่งรัดดำเนินการโครงการนี้เปิดให้บริการแก่ประชาชนได้โดยเร็วที่สุด  ส่วนงานต่างประเทศโดยเฉพาะพม่าและลาวซึ่งเป็น 2 ประเทศเป้าหมายสำคัญที่มีการเจริญเติบโตของธุรกิจสาธารณูปโภคเป็นอย่างมาก โดย TTW อยู่ระหว่างศึกษาโครงการและคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในปี 2558 นี้

         สำหรับปี 2558 มีการลงนามสัญญาโครงการก่อสร้างอาคารศูนย์การแพทย์พร้อมระบบสาธารณูปการมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กับ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง มูลค่า 1,477 ล้านบาท เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2558 ที่ผ่านมา

CK strengthens business growth through merger, ready to take on more government projects







Mr. Plew Trivisvavet, Chief Executive Officer, CH. Karnchang Public Company Limited (CK) revealed the company’s fiscal 2014 performance with earnings of Bt 32,858 million and operating profit of Bt 2,296 million with backlog of over Bt 93,583 million. The strong performance was due to the growth of revenue and profit from contraction works with gross profit of 9.26% from work-in-hand gained through efficient engineering and financial management, as well as prudent project selection; and the earnings and profit from the investment in the company’s subsidiaries e.g., Bangkok Expressway Plc (BECL), TTW and CK Power, all generated a stable strong dividend and profit. The outstanding operating results also reflect the company’s stable growth and management strategy in both its construction business and investment in infrastructure projects. CK agreed to pay an annual dividend of Bt 0.55 per share for 2014 performance.   

CK’s major investment restructuring plans in 2015 are the merger between Bangkok Expressway Plc (BECL) and Bangkok Metro Plc (BMCL) and the selling of CK’s stocks to Xayaburi Power Co., Ltd. (XPCL) to CK Power Plc (CKP) which are essential in strengthening the company’s leadership position and capability.The shareholders’ meeting of BECL and BMCL on 2 April 2015 approved the BECL-BMCL merger plan. The BECL-BMCL merger gives optimal benefits to the two companies as the newly formed company will be a comprehensive expressway and mass transit service provider with enhanced capacity, financial position, operating efficiency and competitive edge, and can better compete and seize investment opportunities, domestically and overseas. The new company is also expected to generate excellent investment yields, both short-term and long-term.   CK will hold 30% stake in the new company and fully supported the merger for the strengthened capacity of the two companies.

The CKP shareholders’ meeting already approved the purchase of XPCL shares from CK, which is in line with CK’s intention to position CKP as key investor in electricity generation and distribution businesses and in accordance with CKP’s future investment plan.   As currently the construction of Xayaburi project phase 1 is completed, the construction risk in critical parts like diversion facility is now overcome and the engineering risk is now under control.  It is also the right time for CKP to purchase XPCL shares from CK in order to generate good investment yield for CKP shareholders. CKP agreed to purchase 30% stake in XPCL from CK, equal to 805,830,000 shares worth totally Bt 4,344 million, which is an appropriate price and benefits both companies.

As for the investment and business direction in 2015, CK and its subsidiaries have deployed all resources, work force, finance as well as partnerships required in investing in new projects both domestically and overseas. The company will gear full steam ahead in bidding for new infrastructure projects including the MRT Orange Line and Pink Line, dual-track railways and motorways, with confidence to acquire 20 – 25% share of these projects. CK is also ready to invest in infrastructure project as Public-Private Partnership (PPP) through its subsidiaries including BECL, BMCL, TTW and CKP in expressway, mass transit line, power plant and water treatment plant projects.  In 2015, the concession of operation of the MRT Blue Line Extension will be finalized and CK along with BMCL will employ their best efforts to expedite its operation. As for the investment in overseas, two key markets are Myanmar and Laos where infrastructure development is seeing a high growth rate. TTW is currently conducting a feasibility study and a clear direction will be seen later this year.

CK recently signed new agreement for the construction of medical center and utilities for Mae Fah Luang University worth Bt 1,477 million on 21 April 2015.