ช.การช่าง ลงนามก่อสร้างสัญญาโรงผลิตน้ำประปา 3,500 ล้านบาท จับมือ TTW บุกพม่า

ช.การช่าง ลงนามก่อสร้างสัญญาโรงผลิตน้ำประปา 3,500 ล้านบาท จับมือ TTW บุกพม่า มั่นใจพื้นฐานแข็งแกร่ง Backlog กว่าแสนล้านบาท ไม่หวั่นเศรษฐกิจชะลอตัว

นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในวันที่ 23 ธันวาคม 2557 บริษัทฯ ได้ลงนามสัญญาออกแบบและก่อสร้างโรงผลิตน้ำประปา ของกลุ่มบริษัท ทีทีดับเบิ้ลยู จำกัด (มหาชน) (TTW) เพื่อขยายกำลังผลิตน้ำประปาในพื้นที่สมุทรสาคร-นครปฐม มูลค่า 3,106 ล้านบาท และพื้นที่ปทุมธานี-รังสิต มูลค่า 392 ล้านบาท มูลค่ารวม 3,498 ล้านบาท โดยงานทั้งหมดใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 2 ปี นอกจากนี้ ช.การช่าง ร่วมกับ TTW อยู่ระหว่างศึกษาและเตรียมการที่จะดำเนินการก่อสร้างโรงผลิตน้ำประปาในประเทศพม่า โดยจะเริ่มที่เมืองเมาะลำใยเป็นแห่งแรก คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในต้นปี 2558 นี้

นายปลิว กล่าวว่า ในปี 2557 นี้ ช.การช่าง มีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง เป็นไปตามเป้าหมาย โดยมั่นใจว่าจะมีรายได้จากงานก่อสร้างทั้งปีเกินกว่า 33,000 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าที่ประมาณการไว้ 30,000 ล้านบาท และมั่นใจว่าจะมีกำไรขั้นต้นจากการดำเนินงานไม่น้อยกว่า 8-10% อย่างแน่นอน นอกจากนี้ ในปีนี้ยังมีกำไรพิเศษจากการขายหุ้นของบริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BMCL) กว่า 1,000 ล้านบาท และการขายหุ้นบริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) กว่า 227 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 4 นี้ รวมถึงเงินปันผลจากบริษัทฯที่ไปลงทุนไว้ อีกกว่า 600 ล้านบาท ทำให้รายได้ทั้งปีของ ช.การช่าง มากกว่า 34,000 ล้านบาท อย่างแน่นอน ในส่วนของงานในมือปีนี้มีงานใหม่กว่า 10,000 ล้านบาท ประกอบไปด้วย งานก่อสร้างโรงไฟฟ้าบางปะอิน เฟส 2 มูลค่ากว่า 4,611 ล้านบาท งานก่อสร้างเพิ่มเติมโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสายสีเขียว มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท และงานก่อสร้างโรงผลิตน้ำประปา มูลค่า 3,498 ล้านบาท  และอยู่ระหว่างรอลงนามงานก่อสร้างระบบสายไฟฟ้าใต้ดินให้แก่การไฟฟ้านครหลวง อีกกว่า 1,100 ล้านบาท ผลการดำเนินงานนี้สะท้อนถึงความแข็งแกร่ง ประสิทธิภาพการดำเนินงานของบริษัทฯ และกลยุทธ์การลงทุนที่บริษัทฯได้เตรียมการไว้เป็นอย่างดี

“ปี 2557 นี้แม้ว่าในประเทศจะมีปัญหาการเมืองและปัญหาเศรษฐกิจจะชะลอตัว รวมทั้งมีผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจโลก งานก่อสร้างต่างๆ ของภาครัฐเป็นไปด้วยความล่าช้า แต่โดยรวมถือว่าไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ  เพราะปัจจุบันบริษัทฯ มี Backlog  ในมือกว่า 100,000   ล้านบาท เพียงพอเป็นรายได้ก่อสร้างได้อีก 4 ปี มีรายได้จากเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอและมีงานใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ในส่วนงานในมือที่ดำเนินการอยู่มีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก เช่น โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย ช่วงสนามไชย – ท่าพระ มีความก้าวหน้ากว่า 60% แล้ว โดยขณะนี้อุโมงค์รถไฟฟ้าอุโมงค์แรกได้ขุดเจาะลอดแม่น้ำเจ้าพระยาแล้วเสร็จ และกำลังจะเริ่มขุดเจาะอุโมงค์ที่สอง โดยคาดว่างานจะแล้วเสร็จทั้งหมดในปี 2559 โครงการจัดซื้อระบบรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่ – บางซื่อ บริษัทฯได้เริ่มผลิตขบวนรถไฟฟ้าแล้วที่ประเทศญี่ปุ่น  โดยให้บริษัท J-TREC (Japan Transport Engineering Company) ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถไฟฟ้าความเร็วสูง Bullet Train ที่มีความเชี่ยวชาญในประเทศญี่ปุ่น เป็นผู้ดำเนินการ โดยคาดว่ารถไฟฟ้าขบวนแรกจะส่งมาถึงประเทศไทยในปลายปี 2558 ก่อนจะเริ่มทดสอบระบบ โดยคาดว่า BMCL จะเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการได้กลางปี 2559 และเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการได้ในเดือนสิงหาคม 2559 ส่วนโครงการสำคัญอื่นๆ เช่น โครงการไซยะบุรี มีความก้าวหน้ากว่า 45% โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ มีความก้าวหน้ากว่า 50%”

นายปลิว กล่าวเสริมว่า กลยุทธ์การดำเนินงานของ ช.การช่าง ถือเป็นจุดแข็งที่ทำให้ ช.การช่างเดินหน้าในธุรกิจก่อสร้างและพัฒนาระบบสาธารณูปโภคได้อย่างมั่นคงและแข็งแกร่งโดยบริษัทฯเป็นทั้งผู้รับเหมาก่อสร้างและผู้พัฒนาโครงการที่มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ในส่วนของแผนการลงทุนและดำเนินธุรกิจในปี 2558 บริษัทฯ จะเข้าร่วมแข่งขันในการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐอย่างเต็มที่ เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม สายสีชมพู โครงการรถไฟทางคู่ โครงการมอร์เตอร์เวย์  โดยมั่นใจว่าจะได้ส่วนแบ่งงานก่อสร้างกว่า 20-25% ของงานทั้งหมด และพร้อมที่จะเข้าร่วมลงทุนดำเนินการในโครงการของภาครัฐแบบ PPP ทั้งโครงการทางด่วน รถไฟฟ้า โรงไฟฟ้า น้ำประปา โดยมีบริษัทในกลุ่ม BECL, BMCL, TTW และ CKP เป็นผู้ร่วมดำเนินการ ในต้นปี 2558 นี้คาดว่างานสัมปทานเดินรถ โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย จะได้ข้อสรุปอย่างแน่นอน ซึ่ง ช.การช่าง ร่วมกับ BMCL มั่นใจว่าจะสามารถเร่งรัดดำเนินการโครงการนี้เปิดให้บริการแก่ประชาชนได้โดยเร็วที่สุด 

ปัจจุบันบริษัทฯได้รับความสนใจจากนักลงทุน ทั้งนักลงทุนรายใหญ่ นักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศเป็นจำนวนมาก  ในปีที่ผ่านมาบริษัทฯได้ไป Road Show ที่ประเทศสิงคโปร์ ฮ่องกงและมาเลเซีย และได้รับผลการตอบรับเป็นอย่างดี โดยล่าสุดบริษัทฯ บริษัทฯได้จัดอันดับเข้าสู่ SET50 ทำให้หุ้นของบริษัทฯเป็นที่สนใจของ
23นักลงทุนและสถาบันต่างๆ เป็นอย่างมาก

CH. Karnchang signs Bt 3,500-million water treatment plant expansion projects Partnering with TTW to expand to Myanmar, confident on strong fundamentals with backlog of over Bt 100,000 million despite economic slowdown

Mr. Plew Trivisvavet, Chief Executive Officer, CH. Karnchang Public Company Limited (CK) revealed that the company signed a construction contract on 23 December 2014 with Thai Tap Water Supply Public Company Limited (TTW) for Water Treatment Plant Capacity Expansion project worth Bt 3,498 for service area Samut Sakhon-Nakorn Pathom and Pathumthani-Rangsit worth Bt 3,106 million and Bt 392 million respectively, to be completed in 2-year duration. The company also partners with TTW to conduct feasibility study on developing water treatment plant in Myanmar starting at Molamyai with clear direction to be confirmed in early 2015.

Plew added that the company had strong operating performance for 2014 with earnings of over         Bt 33,000 million for the entire year, better than previously anticipated earnings of Bt 30,000 million, with a gross profit of 8 – 10%. CK also recorded special profit of over Bt 1,000 million from the selling of Bangkok Metro Company Limited (BMCL)’s shares, and over Bt 227 million from the selling of CK Power’s shares in the fourth quarter, as well as Bt 600 million from dividend from the investment in other companies.  The company is confident that total annual revenue will exceed Bt 34,000 million. New backlog of over Bt 10,000 million for 2014 comprises Bangpa-in Cogeneration Power Plant Project 2 (BIC 2) worth Bt 4,611 million, the additional works of the MRT Blue Line and Green Line worth over Bt 2,000 million and water treatment plant capacity expansion project worth over Bt 3,498 million, and to-be-signed MEA underground cable installation project worth over Bt 1,100 million. These achievements reflect the company’s strength, operating efficiency and well-planned investment strategy.     

“Despite the domestic political and economic challenges, global economic slowdown which cause impact and delay to the government’s infrastructure projects in 2014, CH. Karnchang has not seen a major impact. Our current backlog of over Bt 100,000 million is sufficient to sustain our construction business for the next four years. Our revenue from dividend is stable and we continue to acquire new large-scale projects. The current construction projects are progressing as planned. The construction of the MRT Blue Line Extension from Sanam Chai to Tha Phra Stations is now 60% complete, with construction of the first underground tunnel crossing Chao Phraya River now finished and the second tunnel excavation started and scheduled to be completed in 2016.   As for the procurement of rolling stock for the MRT Purple Line (Bang Yai -Bang Sue Section), the train production in Japan has started by J-TREC (Japan Transport Engineering Company), the leading manufacturer of high-speed bullet train, and the first train will be delivered to Thailand in the end of 2015 for installation and test run.       It was anticipated that BMCL will open the Bang Yai -Bang Sue Section for trial service in the middle of 2016 and start commercial operation in August 2016.  Xayaburi Hydroelectric Power Project in Lao PDR is now 45% complete and the MRT Green Line - Bearing – Samutprakarn Section now 50% complete,” said Plew.

“Operating strategy is the key strength of CK in moving forward in the construction and infrastructure development businesses with stable and effective manners as a leading, contractor and infrastructure developer with extensive experience and international standard. Looking ahead in 2015, the company will gear full steam ahead in bidding for new infrastructure projects including the MRT Orange Line and Pink Line, dual-track railways and motorways, with confidence to acquire 20 – 25% share of these projects. CK is also ready to invest in the infrastructure project as Public-Private Partnership (PPP) through its subsidiaries including BECL, BMCL, TTW and CKP in expressway, mass transit line, power plant and water treatment plant projects.  In the beginning of 2015, the concession of operation of the MRT Blue Line Extension will be finalized and CK along with BMCL will employ their best efforts to expedite its operation,” added Plew.

Currently CK has received continued interest from many major investment groups and institutional investors, both local and international. The recent road shows in Singapore, Hong Kong and Malaysia were highly successful. CK is also listed in the SET50 Index, making its shares gaining momentum among individual and institutional investors.