MSN on December 18, 2013, 02:04:00 PM
โอกาสใหม่ จากนวัตกรรมออนไลน์สร้างรายได้มั่นคง จากตู้ MyPay

















ตู้เติมรับชำระเงินออนไลน์ ถึงแม้จะให้บริการในที่สาธารณะต่างๆ มานานแล้ว แต่กิจการนี้ย่อมต้องการการพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง ล่าสุด MyPay ผู้ให้บริการตู้ชำระเงินออนไลน์ ได้พัฒนา สร้างจุดเด่นให้ผู้ใช้บริการไม่ต้องยอดเหรียญ และเพิ่มบริการใหม่  เติมโอกาสทำเงินจากตู้นี้ รวมทั้งยังสร้างสรรค์บริการใหม่ๆ อีกได้หลากหลายในอนาคต  MyPay พร้อมแล้วที่จะขยายบริการใกล้ตัวผู้บริโภคให้มากที่สุด โดยเปิดรับตัวแทนจำหน่าย ทั่วประเทศ
ทาง  บริษัท MyPay จำกัด ได้เห็นการเติบโตของธุรกิจตู้เติมเงินมือถือในประเทศไทย และโอกาสที่จะต่อยอดของการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีการชำระเงินระบบอัตโนมัติ จึงได้นำเอาเทคโนโลยีล่าสุดจากต่างประเทศเข้ามาเพื่อสร้างความแตกต่าง คุณธีรวุฒิ ขวัญเมือง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท MyPay  กล่าวว่า “เป้าหมายของทางบริษัท  คือ ต้องการให้บริการที่สามารถอำนวยความสะดวกในการชำระค่าใช้จ่ายต่างๆมากที่สุด ง่ายที่สุด และขจัดอุปสรรคต่างๆที่เคยเกิดขึ้นให้หมดไป  รวมทั้งพัฒนาเพื่อ ขยายช่องทางในการทำรายได้สำหรับผู้ลงทุน ให้มากขึ้นอีกด้วย”

บริการหลากหลาย
ดังนั้น บริการชำระเงินที่ลูกค้าสามารถเลือกทำรายการผ่านตู้บริการMyPay นั้น ได้แก่
1. บริการทางด้านการเติมเงินโทรศัพท์มือถือ AIS, TRUE, DTAC  จ่ายบิลค่ามือถือระบบรายเดือน AIS และอื่นๆ
2. ซื้อรหัสอินเทอร์เน็ทไร้สาย CAT Wifi, 3BB Wifi, TOT ฯลฯ
3. ซื้อรหัสสำหรับเติมเงินในเกมส์ออนไลน์ Winner Online, @Cash , Cookie card, Garena ฯลฯ
4. ซื้อรหัสสำหรับโทรออกต่างประเทศ TollD, CAT PhoneNet, iTalk เป็นต้น
5. บริการเติมเงินออนไลน์ True Money
6. บริการ iTune Gift Card สำหรับซื้อ เพลง และ Application ต่างๆ
7. ซื้อรหัส Skype โทรระหว่างประเทศ เป็นต้น

การบริการรับชำระเงินนี้ ยังเปิดโอกาสให้ธุรกิจต่างๆ ที่ต้องการให้ความาสะดวกกับลูกค้าในการชำระเงินผ่านตู้บริการออนไลน์ ก็สามารถติดต่อกับทางบริษัท MyPay ได้
ซึ่งในขณะเดียวกัน ทีมงานวิศวกรรัฐเซีย ร่วมกับทีมวิศวกรไทย ก็กำลังพัฒนาบริการใหม่ๆ ขึ้นมาอีกตลอดเวลา เพื่อ ให้ตอบสนองกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น

บริการที่แตกต่าง ไม่ต้องใช้เหรียญ
ตู้บริการ MyPay มีจุดเด่นที่แตกต่างไปจากตู้บริการออนไลน์ทั่วไป คือ 
1. ตู้บริการ MyPay ไม่คิดค่าบริการกับลูกค้า สำหรับค่าบริการมือถือ ทำให้ลูกค้าไม่ต้องเตรียมเหรียญมาเพื่อหยอดเพิ่มเติม
2. ตู้เติมเงิน MyPay รับเงินเฉพาะธนบัตรเท่านั้น จึงไม่มีช่องหยอดเหรียญ แต่จะรับชำระเงินจากธนบัตรเท่านั้น ส่วนยอดเงินที่เหลือ จะถูกเก็บเป็นยอดเงินในใบเสร็จ  เพื่อใช้ชำระในครั้งต่อไป ซึ่งวิธีการนี้ จะขจัดอุปสรรคที่ลูกค้าไม่ต้องเตรียมเหรียญ  ทำให้สะดวก  และผู้ลงทุน ไม่ต้องนับเหรียญ และไม่พบปัญหาเหรียญติด เหรียญเต็ม ที่ทำให้เสียโอกาสในการให้บริการอีกต่อไป
3. ใช้ระบบเซอร์เวอร์ทำงาน สามารถใช้บัญชีร่วมกันหลายๆ เครื่องได้ อีกทั้งยังสามารถดูสถานะของตู้ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ทได้อีกด้วย เช่น สามารถดูได้ว่ามียอดเงินในตู้เป็นจำนวนเท่าไร โดยไม่ต้องเปิดตู้
4. ใช้เครื่องรับธนบัตรที่มีประสิทธิภาพสูงจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อลดปัญหาที่จะเกิดขึ้น เช่น สามารถตรวจแบงค์ปลอมได้ มีอุปกรณ์ป้องกัน ไม่ให้พนักงานเก็บเงินจับเงินได้โดยตรง
5. มี Call Center 24 ชม.
6. สามารถเพิ่มจำนวนของบริการหรือสินค้าภายในเครื่องเพิ่มได้ไม่จำกัด ซึ่งจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยที่ผู้ลงทุนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

จุดเด่นของตู้เติมเงิน MyPay นอกจากจะมีระบบโปรแกรมที่ดีรองรับแล้ว ยังมีการพัฒนาเมนูหลายภาษา (คือ อังกฤษ, รัสเซีย, เยอรมัน, ไทย) โดยตัวตู้ได้รับการออกแบบอย่างสวยงามน่าใช้ ดึงดูดผู้ใช้บริการที่ผ่านไปมา จึงเหมาะสำหรับการติดตั้งในศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า อาคารชุด โรงแรม ศูนย์ธุรกิจ  นิคมอุตสาหกรรม โรงงาน สถานศึกษา แหล่งท่องเที่ยว สถานีรถโดยสาร  สนามบิน ร้านมินิมาร์ท  ร้านอาหาร ศูนย์อาหาร ร้านค้าต่างๆ  และสถานที่ชุมชนต่างๆ เป็นต้น

ความสำเร็จที่ผ่านมา
คุณธีรวุฒิ ผู้อำนวยการ ฝ่ายการตลาดของ MyPay  เล่าถึงความสำเร็จ ว่า “บริษัทของเราได้เริ่มทดลองตลาด ติดตั้งตู้ MyPay ที่พัทยา ปรากฏว่าได้รับการตอบรับดีมาก  เพราะลูกค้าชอบ ในด้านความเร็ว และความง่ายในการใช้งาน ทำให้มียอดที่เติมเงิน เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทางบริษัทจึงได้ขยายการติดตั้งเพิ่มขึ้นอีกทั่วพัทยา จนปัจจุบันมีให้บริการมากกว่า 200 ตู้แล้ว หลังจากนั้น ก็มีการขยายการติดตั้งตู้ MyPay ในพื้นที่ภูเก็ต โดยนักลงทุนท่านหนึ่ง ที่เห็นความสำเร็จจากที่พัทยา จึงนำตู้บริการออนไลน์นี้มาขยายในจังหวัดภูเก็ต ในระยะเวลา 1 ปี จนปัจจุบันมีตู้ MyPay ให้บริการกว่า 150 ตู้แล้ว”

สำหรับในกรุงเทพเอง ก็มีตู้ MyPay ติดตั้งให้บริการ มากกว่า 200 ซึ่งมีทั้งที่เป็นของบริษัทเอง และของผู้ลงทุน อยู่ที่ Family mart , Top Supermarket, เมเจอร์เอกมัย เมเจอร์รัชโยธิน สถานีรถไฟใต้ดิน(MRT) เอสพลานาทแคราย เจเจมอล มหาวิทยาลัยกรุงเทพ และแหล่งชุมชนทั่วไป 
ทำให้ขณะนี้ มียอดผู้ใช้บริการตู้ออนไลน์ MyPay แล้วมากกว่าหนึ่งแสนหมายเลข โดยคิดเป็นยอดเงินกว่า 10 ล้านบาทต่อเดือน จากตู้บริการประมาณ 400 ตู้เท่านั้น  ซึ่งเป้าหมายต่อไป ทางบริษัทตั้งเป้าที่จะขยายตู้นี้ ออกไปทั่วประเทศ มากกว่า 2000 ตู้ ภายในปี 2557

การลงทุน ไม่ยาก
จากสถิติของการให้บริการ ที่ผ่านมา ยอดเงินที่ผู้ใช้จ่ายผ่านตู้เฉลี่ยอยู่ที่ 60-100 บาทต่อครั้ง ประมาณ 30 ครั้งต่อวัน ซึ่งหากคำนวณรวมกับรายได้ที่เกิดจากการจ่ายบิลแล้วแล้ว จะให้เวลาคืนทุนประมาณ 1 ปี
สำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มรายได้จากตู้ MyPay , ต้องการเป็นตัวแทนจำหน่าย ในเขตพื้นที่ของตน ขณะนี้ MyPay   กำลังเปิดรับผู้สนใจลงทุนในทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย โดยจำหน่ายในราคาไม่สูงเกินไปเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนสามารถคืนทุนได้ด้วยเวลาอันสั้น ใน 2 รูปแบบ หลักๆ คือ เป็นเจ้าของตู้เอง หรือเป็นตัวแทนจำหน่าย

1. สำหรับการเป็นเจ้าของตู้เอง ทางบริษัทจะจำหน่ายตู้ MyPay ในราคาประมาณตู้ละ 69,000 บาท ซึ่งผู้ลงทุนสามารถเลือก ชำระเงินสด หรือใช้ระบบผ่อนชำระได้  โดยเจ้าของตู้เองจะมีรายได้จาก
-รายได้จากค่า Commission 5% ของยอดการจ่ายค่ามือถือทุกค่าย
-รายได้จากบริการอื่นๆ นอกเหนือจากบริการมือถือ เฉลี่ย 10%
-รายได้ของทุกบิล 5 บาทต่อบิล
-รายได้จากการขายโฆษณาที่แสดงบนหน้าจอ

2.  ส่วนการเป็นตัวแทนจำหน่าย สามารถเป็นตัวแทนจำหน่ายแบบอิสระ และได้รับส่วนต่างพิเศษได้ หรือ การเป็นตัวแทนประจำเขตพื้นที่ ที่ได้รับสิทธิพิเศษในการสนับสนุนจากทีมงานส่วนกลาง
ตัวแทนจำหน่าย จะมีโอกาส สร้างรายได้จาก
- การขายตู้บริการ MyPay
- การเข้าบริการลูกค้าเจ้าของตู้ เมื่อมีการร้องขอจากเจ้าของตู้หลังระยะประกัน
-จากการขายโฆษณาที่แสดงบนหน้าจอ

คุณ สัจจวัจน์ สิงห์ศรีกาญจน์ ผู้ลงทุนทำตู้บริการออนไลน์ MyPay รายหนึ่งเล่าว่า “สาเหตุที่มาลงทุนทำตู้ชำระเงินMyPay เพราะเห็นว่า เป็นการลงทุนในระยะยาว เป็นตู้ที่มีอนาคต มีความแตกต่าง และหลากหลายบริการ ทำให้ผมมีความมั่นใจว่า MyPay จะเติบโตขึ้นไปอีก และผมก็อยากจะประสบความสำเร็จไปกับบริษัทนี้ด้วย”

โอกาสใหม่ จากนวัตกรรมออนไลน์
คุณวิโรจน์ ฤกษ์ศิริวรรณ อุปนายกสมาคมธุรกิจหยอดเหรียญไทย ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับ ธุรกิจออนไลน์ว่า “การเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยี จากระบบ 2G ไปสู่ 3G ทำให้การเติบโตของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับออนไลน์มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด กว่า 100-150% เช่นเดียวกันกับ ตู้บริการออนไลน์ ยังเป็นธุรกิจที่สดใส เนื่องจาก การบริการด้านเสียงหรือการพูดคุยผ่านโทรศัพท์จะน้อยลง แต่การบริการด้านข้อมูลต่างๆ หรือการใช้บริการผ่านอินเตอร์เน็ท หรือ ออนไลน์ ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้มากกว่า ดังนั้น การปรับตัวของผู้ผลิต พร้อมทั้งให้ความสำคัญลงทุนด้านเทคโนโลยี จะสามารถสร้างโอกาสใหม่ขึ้นมาได้  อย่างเช่น นวัตกรรมใหม่ๆจากตู้ออนไลน์ ที่ขยายบริการ การขายโฆษณา การใช้เป็นช่องทางให้คูปองส่วนลดต่างๆ  การรับชำระเงินแบบไม่ต้องใช้คนบริการ ณ จุดขาย และ บริการออนไลน์ที่สนองความต้องการเจาะจงในเขตชุมนุนนั้นๆ เป็นต้น”
ถึงแม้ว่าขณะนี้ จะมีตู้เติมเงินอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ถ้าเป็นตู้ที่สามารถชำระบิลต่างๆได้ มีน้อยมากๆ และการแข่งขันยังไม่สูงนักจึงทำให้มีช่องว่างในการเข้ามาทำธุรกิจได้อีกมาก จะเห็นว่าบริการชำระบิลส่วนใหญ่ จะใช้คนในการทำงานอยู่เสมอ ซึ่งในปัจจุบัน ประเทศไทยมีปัญหาด้านแรงงานมากขึ้น การจ้างงานทำให้ต้นทุนสูง ตู้ชำระเงินออนไลน์จะจึงเข้ามาตอบโจทย์ตรงนี้ ได้ ทำให้ธุรกิจด้านนี้เกิดการตื่นตัวและเติมโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีอนาคต
« Last Edit: December 18, 2013, 02:08:20 PM by MSN »