happy on October 06, 2013, 07:36:08 PM
เคน - โทนี่ ชวนแฟนๆ ร่วมสนับสนุน
โครงการ พีที เติมพลังสัมมาชีพ เพื่อสนับสนุนมูลนิธิพระดาบส


27 กันยายน 2556 – บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบธุรกิจค้าน้ำมันเชื้อเพลิงสำเร็จรูปคุณภาพสูง และผู้ให้บริการสถานีบริการน้ำมัน “พีที” กว่า 700 สาขาทั่วประเทศ จัดงานแถลงข่าวโครงการ“พีที เติมพลังสัมมาชีพ” เป็นปีแรก โดยเป็นโครงการเพื่อสังคมระยะยาวของพีที ที่มุ่งให้การสนับสนุน มูลนิธิพระดาบส องค์กรกุศลสาธารณะที่ดำเนินการสนองพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในการให้โอกาสที่สองของชีวิตแก่ผู้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ แต่เป็นผู้มีความตั้งใจจริง ให้ได้เข้ามาศึกษาวิชาชีพช่างในโรงเรียนพระดาบส ซึ่งโครงการนี้เกิดขึ้นจากการเล็งเห็นความสำคัญของการศึกษาวิชาชีพ อันเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย เพราะเมื่อคนเรามีอาชีพติดตัวแล้ว ย่อมสามารถนำไปสร้างความเจริญ สร้างประโยชน์อีกนานับประการให้แก่ชุมชนและประเทศชาติได้

ทางด้านพีที สถานีบริการน้ำมัน โดย นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการเข้ามาสนับสนุนมูลนิธิพระดาบสในโครงการนี้ว่า ว่า “พีทีเล็งเห็นถึงความสำคัญของการศึกษาเรียนรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้คนไทยได้มีโอกาสเรียนรู้วิชาชีพ ด้วยความเชื่อที่ว่า ‘การมีวิชาชีพนั้น ไปทำอะไรก็ได้ และไปได้ไกลกว่า’ ผู้มีวิชาชีพจึงเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้มีความเข้มแข็งและพัฒนาต่อไปได้ ดังนั้นการสร้างอาชีพจึงเปรียบเสมือนการเติมพลังให้กับแผ่นดิน พีทีจึงมีความประสงค์ที่จะสนับสนุนมูลนิธิพระดาบส ซึ่งเป็นองค์กรสาธารณะกุศลที่ดำเนินการสนองพระราชดำริที่มุ่งช่วยเหลือผู้ขาดโอกาสทางการศึกษา เพื่อให้มีวิชาช่างสำหรับประกอบสัมมาอาชีพและเป็นคนดีในสังคมต่อไป”

การให้การสนับสนุนมูลนิธิพระดาบสของโครงการ พีที เติมพลังสัมมาชีพ ในปี 2556 นี้ พีทีจะให้การสนับสนุนในแง่ของเงินบริจาคเพื่อเป็นทุนการศึกษาของนักเรียนโรงเรียนพระดาบสทั้งรุ่น ซึ่งค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยของมูลนิธิฯ ต่อนักเรียน 1 คน จะอยู่ที่ 80,000 บาทต่อปี โดยเงินทุนนี้จะเริ่มใช้ในปี 2557 ซึ่งในเบื้องต้นพีทีจะมอบเงินทุนตั้งต้นจำนวน 2 ล้านบาท และตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน จนถึงวันที่ 30 พฤศจิการยน 2556 นี้ พีทีจะให้ลูกค้าผู้ใช้บริการสถานีบริการน้ำมันพีทีที่กระจายอยู่กว่า 700 สาขาทั่วประเทศได้เข้ามามีส่วนร่วมในการบริจาคครั้งนี้ โดยทุกครั้งที่เติมน้ำมันที่สถานีบริการน้ำมันพีที รายได้ทุกๆ 5 สตางค์ต่อลิตร จะถูกนำเข้าสมบททุนกับมูลนิธิและโรงเรียนพระดาบส ภายใต้ โครงการ พีที เติมพลังสัมมาชีพ ทันที ดังนั้นเมื่อสิ้นสุดโครงการปี 2556 นี้ เงินบริจาคทั้งหมดคาดว่าจะรวมเป็นเงินโดยประมาณทั้งสิ้น 17 ล้านบาท เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันที่ 5 ธันวาคม 2556 ทั้งนี้ พีทียังได้วางแผนโครงการในระยะยาว ในปีที่ 2 จะเป็นการสนับสนุนเครื่องมือสำหรับการเรียนการสอนในโรงเรียนพระดาบส เพื่อให้ศิษย์พระดาบสได้มีความคุ้นเคยกับเครื่องมือต่างๆ สำหรับการประกอบอาชีพของตน และในปีที่ 3 จะเป็นการสนับสนุนการสอนวิธีคิดในการทำธุรกิจให้ศิษย์พระดาบส เพื่อเป็นรากฐานในการวางแผนสร้างธุรกิจของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีการวางแผนงานอื่นๆ เพื่อสนับสนุนทางมูลนิธิและศิษย์พระดาบสต่อไปในระยะยาวอีกด้วย นอกจากนั้นแล้วพีทียังอยากเป็นอีกแรงหนึ่งที่มีส่วนช่วยขยายศูนย์โรงเรียนพระดาบสให้กระจายอยู่ในภาคต่างๆ เพื่อการเรียนรู้วิชาชีพครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย

ส่วน ดร. สมยศ เจตน์เจริญรักษ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนพระดาบส เผยถึงการเรียนการสอนในโรงเรียนพระดาบสว่า “โรงเรียนพระดาบสเปิดสอนวิชาชีพระดับ ‘ประกาศนียบัตรพระดาบส’ หลักสูตร 1 ปี ศิษย์พระดาบสที่ผ่านการคัดเลือกเข้ามาจะได้รับโอกาสในการเลือกสาขาที่ตนสนใจเรียน ซึ่งมีให้เลือกทั้งหมด 8 สาขา คือ หลักสูตรวิชาช่างไฟฟ้า หลักสูตรวิชาวิชาชีพช่างอิเล็กทรอนิกส์ หลักสูตรวิชาชีพช่างยนต์ หลักสูตรวิชาชีพการเกษตรพอเพียง หลักสูตรวิชาชีพช่างซ่อมบำรุง หลักสูตรวิชาชีพเคหบริบาล หลักสูตรวิชาชีพช่างไม้เครื่องเรือน และหลักสูตรวิชาชีพช่างเชื่อม โดยการเรียนการสอนมุ่งเน้นให้สามารถนำความรู้และทักษะไปประกอบอาชีพได้จริง ได้ทดลองปฏิบัติกับเครื่องมือด้วยตัวเองจริงๆ โดยมีครูผู้สอนประจำโรงเรียนทั้งหมด 19 คน และดาบสอาสาที่มาจากสถานศึกษาและองค์กรชั้นนำต่างๆ อีกประมาณ 70 คน โดยศิษย์ช่างพระดาบสทุกคนจะต้องเรียนเตรียมช่างเป็นระยะเวลา 3 – 4 เดือน ก่อนเรียนตามหลักสูตร เพื่อฝึกทักษะความรู้พื้นฐานช่างและฝึกความอดทน นอกจากนั้นศิษย์พระดาบสทุกคนจะต้องเรียนวิชาศึกษาทั่วไปและทักษะชีวิตสัปดาห์ละ 1 วัน และต้องผ่านการฝึกงานในสถานประกอบการที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้ศิษย์พระดาบสทุกคนที่จบออกไปมีความเป็นมืออาชีพและเป็นที่ยอมรับ และสามารถทำงานเลี้ยงชีพ ประพฤติตนดีไม่เป็นปัญหาแก่สังคม พร้อมถ่ายทอดความรู้ที่ตนมีให้แก่ผู้อื่นต่อไปได้ โดยในช่วงเดือนมกราคม ถึงมีนาคมของทุกปี จะเป็นช่วงของการรับสมัครศิษย์พระดาบสจากทั่วประเทศ โดยนอกจากผู้สมัครจะต้องมีคุณสมบัติตรงตามที่มูลนิธิได้กำหนดไว้แล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ จะต้องเป็นผู้ที่มีความตั้งใจจริง มีศีลธรรมและวินัยในการดำรงชีวิต พร้อมที่จะอยู่ภายใต้กฎระเบียบของการเข้าอยู่ประจำในโรงเรียนตลอดหลักสูตรสามารถเลิกอบายมุข บุหรี่ สุรา และสิ่งเสพติดทุกชนิด”




เคน-ภูภูมิ พงศ์ภาณุ ชมสาธิตจากศิษย์พระดาบส


แบรนด์แอมบาสเดอร์ และเคน-โทนี่ ร่วมมอบอุปกรณ์ช่างให้กับโรงเรียนพระดาบส

นอกจากนี้ มูลนิธิพระดาบสยังได้มีศิลปินที่มีจิตอาสาเพื่อเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ในการประชาสัมพันธ์มูลนิธิฯ ให้แพร่หลาย อาทิ สำราญ ช่วยจำแนก (อี๊ด วงฟลาย), ฝันดี-ฝันเด่น จรรยาธนากร, นิธิชัย ยศอมรสุนทร (หยวน ดราก้อนไฟว์), ศรัณย์ ศิริลักษณ์ (พอร์ช นักแสดงช่อง 7 สี), มาลีวัลย์ เจมีน่า, และ ศิรพันธ์ วัฒนจินดา (นุ่น นักแสดงสาวชื่อดัง) ทั้งนี้ในวันเปิดตัวโครงการยังได้แขกรับเชิญพิเศษ เคน-ภูภูมิ พงศ์ภาณุ และโทนี่ รากแก่น พร้อมพิธีกรสาวสวย จอย-รินรณี ศรีเพ็ญ มาร่วมพูดคุยถึงมุมมองของแต่ละท่านเกี่ยวกับความสำคัญและโอกาสของการศึกษาวิชาชีพ


สำราญ ช่วยจำแนก (อี๊ด วงฟลาย) แบรนด์แอมบาสเดอร์มูลนิธิประดาบสพาชมสาขาช่างไม้

โดย คุณสำราญ ช่วยจำแนก (อี๊ด วงฟลาย) กล่าวถึงการร่วมงานครั้งนี้ว่า “วิชาชีพ เป็นการศึกษาที่เร็วที่สุด ตรงจุดที่สุด เมื่อเรียนจบก็มีงานรองรับ มีจุดหมายชัดเจน ผมมีโอกาสเข้ามาเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ของมูลนิธิพระดาบสปีนี้ก็เข้าสู่ปีที่ 7 แล้ว คอยเป็นตัวแทนบอกเล่าเรื่องราวของมูลนิธิ โรงเรียน และศิษย์พระดาบสแก่บุคคลภายนอก ผมรู้สึกดีใจมากที่ในระยะหลังๆ นี้เราเห็นมูลนิธิพระดาบสค่อยๆ เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น คือ มีคนรู้จักและเห็นถึงความสำคัญของมูลนิธิพระดาบสโครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มากขึ้น โดยเฉพาะล่าสุดรัฐบาลได้เริ่มสร้างแนวทางการเพิ่มสัดส่วนของนักเรียนสายอาชีพ นั่นเป็นเพราะแรงงานสายอาชีพคือส่วนสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะการเติบโตทางเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมต่างๆ แรงงานสายอาชีพจึงเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน ในขณะประเทศเรายังคงขาดแคลนแรงงานเหล่านี้ ดังนั้นการให้การศึกษาวิชาชีพแก่คนด้อยโอกาสเหล่านี้นอกจากจะเป็นการสร้างอาชีพติดตัวให้พวกเขาแล้ว ยังสร้างโอกาสในการทำงาน และอาจมอบชีวิตใหม่ให้กับพวกเขาอีกด้วย”


ด้าน คุณเคน-ภูภูมิ พงศ์ภาณุ พระเอกหนุ่มสุดฮอตที่เคยมีชีวิตวัยเด็กอาศัยอยู่ในต่างจังหวัด กล่าวเสริมว่า “ตอนเด็กๆ ผมอยู่ต่างจังหวัด เป็นคนจังหวัดสิงห์บุรี พอโตขึ้นมาหน่อยประมาณขึ้นชั้นมัธยม 1 ก็มีโอกาสได้เข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ และมีโอกาสได้เข้ามาทำงานในวงการบันเทิง ได้ทำงานที่ผมรัก และได้เรียนรู้วิชาการแสดงจากครูเก่งๆ หลายท่าน ทำให้ผมมาถึงวันนี้ได้ การที่ผมเคยอยู่ต่างจังหวัดทำให้ผมเห็นถึงความสำคัญของ ‘โอกาส’ เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถได้รับโอกาสเหล่านี้ ยังมีคนอีกมากที่อยากเรียนแต่ไม่ได้เรียน มูลนิธิพระดาบสจึงเป็นเหมือนโอกาสที่สองของชีวิต ให้ผู้ที่ด้อยโอกาสได้เรียนรู้วิชาชีพ และสามารถนำความรู้ความสามารถที่เขามีไปต่อยอดทำอะไรได้อีกมากมาย อยากเชิญชวนพี่น้องๆ มาร่วมช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสเหล่านี้ผ่านการสนับสนุนมูลนิธิพระดาบส หรือง่ายๆ เพียงแค่เข้าไปเติมน้ำมันที่ปั๊มพีทีก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนครั้งนี้แล้วครับ”


คุณโทนี่ รากแก่น แฮร์สไตล์สิสหนุ่มหล่อชื่อดัง ที่ยังควบตำแหน่งเป็นพระเอกหนุ่มมากความสามารถ กล่าวว่า “การศึกษาวิชาชีพเป็นทางเลือกอย่างหนึ่งที่เพิ่มโอกาสให้ตัวเอง เพราะการมีวิชาชีพทำให้คุณสามารถเลี้ยงชีพได้ แต่การมีวิชาชีพและเป็นมืออาชีพสามารถทำให้คุณไปไกลได้กว่าที่คุณคิด การที่จะเป็นมืออาชีพนั้นได้นั้นต้องมี 2 สิ่ง นั่นคือ ใจที่มุ่งมั่นและรักในสิ่งที่ทำ บวกกับโอกาสที่ได้เรียนรู้จากผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ ได้ทำ ได้อยู่กับสิ่งนั้นจริงๆ อย่างตัวผมเองกว่าจะมาถึงทุกวันนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่าย ผมเคยฝึกเป็นลูกมือช่างทำผมที่ออสเตรเลียอยู่เป็นปีๆ ฝึกใช้ทักษะ กับอุปกรณ์ทำผมต่างๆ ต้องฝึกฝนบ่อยๆ ตัดบ่อยๆ ยิ่งบ่อยยิ่งดี และติดตาม เทรนด์แฟชั่นอยู่เสมอ จนมีวิชาชีพติดตัวพร้อมกับความเชี่ยวชาญให้คนอื่นยอมรับว่าเราคือ มืออาชีพ นั่นทำให้ผมได้มีโอกาสทำงานที่ท้าทายและคาดไม่ถึงอีกมากมาย ผมคิดว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่ดีจึงอยากให้ทุกๆ คนช่วยกันบอกต่อโอกาสที่ดีนี้ต่อไปยังผู้ด้อยโอกาสที่มีความตั้งใจและสนใจอยากมีความรู้วิชาชีพให้เข้ามาสมัครเป็นศิษย์พระดาบสครับ”


พันเอกหญิง ท่านผู้หญิง จิตรวดี จุลานนท์ เลขาธิการมูลนิธิพระดาบส ให้เกียรติเป็นประธานร่วมกับ นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบธุรกิจค้าน้ำมันเชื้อเพลิงสำเร็จรูปคุณภาพสูง และผู้ให้บริการสถานีบริการน้ำมัน “พีที” กว่า 700 สาขาทั่วประเทศ จัดงานแถลงข่าวโครงการ “พีที เติมพลังสัมมาชีพ” โครงการเพื่อสังคมพีที ที่มุ่งให้การสนับสนุนมูลนิธิพระดาบส องค์กรกุศลสาธารณะที่ดำเนินการสนองพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โดยรายได้ทุกๆ 5 สตางค์ต่อลิตร จะถูกนำเข้าสมบททุน และคาดว่าจะรวบรวมเงินบริจาคได้ทั้งสิ้น 17 ล้านบาท เมื่อสิ้นสุดโครงการในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2556 นี้ โดยมีแบรนด์แอมบาสเดอร์มูลนิธิพระดาบส สำราญ ช่วยจำแนก (อี๊ด วงฟลาย) และฝันเด่น จรรยาธนากร พร้อมสองหนุ่มแขกรับเชิญพิเศษ โทนี่ รากแก่น และเคน-ภูภูมิ พงศ์ภาณุ รวมถึง จอย-รินรณี ศรีเพ็ญ เข้าร่วมงานด้วย ณ สำนักงานมูลนิธิพระดาบส ถนนสามเสน กรุงเทพฯ เมื่อเร็วๆ นี้




คุณสำราญ ช่วยจำแนก (อี๊ด วงฟลาย) และฝันเด่น จรรยาธนากรแบรนด์ แอมบาสซาเดอร์ของมูลนิธิพระดาบส


คุณสำราญ ช่วยจำแนก (อี๊ด วงฟลาย) ชมการเรียนภาคปฏิบัติของนักเรียนพระดาบส
« Last Edit: October 06, 2013, 07:53:41 PM by happy »

happy on October 06, 2013, 08:05:15 PM
โครงการ พีที เติมพลังสัมมาชีพ

ที่มาและความสำคัญของโครงการ

               บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี  จำกัด (มหาชน) ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการเรียนรู้ด้านวิชาชีพของประเทศไทย ด้วยความเชื่อที่ว่า “การมีวิชาชีพนั้น ไปทำอะไรก็ได้ และไปได้ไกลกว่าที่คุณคิด” จึงมีความประสงค์ที่จะสนับสนุนมูลนิธิพระดาบส ซึ่งเป็นองค์กรกุศลสาธารณะที่ดำเนินการสนองพระราชดำริ โดยมุ่งช่วยเหลือผู้ขาดโอกาสทางการศึกษา เพื่อให้มีวิชาช่างสำหรับประกอบอาชีพและเป็นคนดี โดยมีโรงเรียนพระดาบสเป็นโรงเรียนของมูลนิธิ ที่ให้การอบรมวิชาชีพและจรรยาบรรณช่าง ระเบียบวินัย ให้ศิษย์พระดาบสได้รับความรู้นำไปประกอบสัมมาชีพ พึ่งพาตนเองได้ ซึ่งการเข้ามาเป็นศิษย์พระดาบสหรือที่เรียกกันว่า “ศิษย์พระดาบส” นั้น จะต้องผ่านการการสมัครคัดเลือก โดยเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติตามที่โรงเรียนได้กำหนด ใน 1 รุ่นจะสามารถรับนักเรียนได้ทั้งหมด 150 คน ทั้งนี้การฝึกอบรมในโรงเรียนพระดาบสเป็นกิจกุศลสสาธารณะ ศิษย์พระดาบสไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในเรื่องของที่พักอาศัย อาหาร และค่าเล่าเรียน โดยเงินทุนที่นำมาใช้ในการ    ดำเงินงานของมูลนิธิพระดาบสจะมาจากการระดมทุนสนับสนุนจากผู้มีจิตกุศล หน่วยงาน หรือบริษัทต่างๆ ที่มีความประสงค์ที่จะสนับสนุนมูลนิธิพระดาบส

               โรงเรียนพระดาบสเปิดสอนวิชาชีพระดับ  “ประกาศนียบัตรพระดาบส” หลักสูตร 1 ปี ใน 8 สาขาวิชาชีพ ประกอบด้วย

1. หลักสูตรวิชาชีพช่างไฟฟ้า
2. หลักสูตรวิชาชีพช่างอิเล็กทรอนิกส์
3. หลักสูตรวิชาชีพช่างยนต์
4. หลักสูตรวิชาชีพการเกษตรพอเพียง
5. หลักสูตรวิชาชีพช่างซ่อมบำรุง
6. หลักสูตรวิชาชีพเคหบริบาล
7. หลักสูตรวิชาชีพช่างไม้เครื่องเรือน
8. หลักสูตรวิชาชีพช่างเชื่อม


               บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี  จำกัด (มหาชน) มีความประสงค์อย่างแรงกล้าที่จะเข้าเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนเงินทุนของมูลนิธิพระดาบสให้สามารถสานต่อพันธกิจของโครงการในพระราชดำริ อันเป็นประโยชน์ต่อการศึกษา ซึ่งถือเป็นฟันเฟืองที่สำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไปได้อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังมีความประสงค์ที่จะช่วยเหลือมูลนิธิพระดาบสในด้านการประชาสัมพันธ์ให้มูลนิธิฯ เป็นที่รู้จักมากขึ้น เพื่อให้ประชาชนทั่วไปเห็นถึงความสำคัญของการศึกษา โดยเฉพาะการศึกษาวิชาชีพ

วัตถุประสงค์ของโครงการ

               1.เพื่อสนับสนุนมูลนิธิพระดาบสในแง่ของเงินทุน
2.เพื่อเป็นการให้ลูกค้าผู้ใช้บริการที่สถานีบริการน้ำมันพีที ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการบริจาค เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 5 ธันวาคม มหาราช
3.เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์มูลนิธิพระดาบส ในพระบรมราชูปถัมภ์
4.เพื่อเป็นการวางรากฐานการสนับสนุนมูลนิธิพระดาบสโดยบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) แบบยั่งยืนในระยะยาว


รายละเอียดของโครงการ

               การสนับสนุนของ โครงการ พีที เติมพลังสัมมาชีพ ในปี 2556 นี้ จะสนับสนุนมูลนิธิพระดาบสในแง่ของเงินทุน โดยบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) จะมอบเงินบริจาคเพื่อเป็นเงินทุนการศึกษาของนักเรียนโรงเรียนพระดาบสทั้งรุ่น ที่มูลนิธิฯ ต้องใช้จ่ายตลอดปีการศึกษา (ซึ่งเริ่มใช้ในปีการศึกษา 2557) จากนั้นโครงการ พีที เติมพลังสัมมาชีพ จะให้ลูกค้าผู้ใช้บริการที่สถานีบริการน้ำมันพีทีกว่า 700 สาชา ทั่วประเทศ เข้ามามีส่วนร่วมในการบริจาคครั้งนี้ โดยรายได้ทุกๆ 5 สตางค์ต่อลิตร จากทุกครั้งที่เติมน้ำมันที่สถานีบริการน้ำมันพีที จะถูกนำเข้าสมทบทุนกับโครงการ พีที เติมพลังสัมมาชีพ ภายในระยะเวลาตั้งแต่เริ่มต้นโครงการในวันที่ 1 กันยายน จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2556 (ระยะเวลา 3 เดือน) ซึ่งเงินบริจาคทั้งหมดจะรวมเป็นเงินโดยประมาณทั้งสิ้น 17 ล้านบาท ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 5 ธันวาคม 2556

               นอกจากนี้โครงการ พีที เติมพลังสัมมาชีพ ยังให้การสนับสนุนมูลนิธิพระดาบสในแง่ของการประชาสัมพันธ์ให้มูลนิธิฯ เป็นที่รู้จักมากขึ้น เพื่อเป็นการสร้างโอกาสและแรงบันดาลใจให้แก่ผู้ที่ด้อยโอกาสที่มีความสนใจในการศึกษาวิชาชีพ ได้เห็นว่ายังมีโอกาสในการศึกษา และการมีวิชาชีพนั้น จะเป็นประโยชน์ต่อตัวเขา เพื่อใช้เลี้ยงปากท้อง ทำให้เขาสามารถต่อความก้าวหน้าและมั่นคงมาสู่ชีวิต ไปทำอะไรก็ได้ และไปได้ไกลกว่าที่คิดอีกด้วย อีกเพื่อให้ประชาชนทั่วไปเห็นถึงความสำคัญของการศึกษา โดยเฉพาะการศึกษาวิชาชีพ และให้บุคคลทั่วไป หน่วยงาน หรือบริษัทที่มีจิตกุศลเข้ามาให้การสนับสนุนให้มูลนิธิฯ สามารถดำเนินกิจการได้ต่อไป

               โดยการสนับสนุนของโครงการ พีที เติมพลังสัมมาชีพ ปี 2556 นี้ สามารถแบ่งเป็น 2 ช่วงด้วยกัน คือ

ช่วงที่ 1 ปลายเดือนสิงหาคม – กันยายน 2556 เป็นช่วงของการเริ่มต้นโครงการ จึงเป็นการสร้างรับรู้และให้ความรู้เกี่ยวกับมูลนิธิพระดาบสแก่ประชาชนทั่วไป พร้อมกับสร้างการรับรู้ถึงโครงการ พีที เติมพลังสัมมาชีพ ผ่านการให้สัมภาษณ์ของประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) และประธานมูลนิธิพระดาบสเกี่ยวกับโครงการ และการจัดงานแถลงข่าวโครงการ พีที เติมพลังสัมมาชีพ
 
ช่วงที่ 2 ปลายเดือนกันยายน – พฤศจิกายน 2556 เป็นช่วงของการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนทั่วไปให้เข้ามามีส่วนบริจาคสมบททุนเข้าโครงการผ่านการเติมน้ำมันที่สถานีบริการน้ำมันพีที ทั่วประเทศ ผ่านการให้สัมภาษณ์ของประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) เกี่ยวกับโครงการและการติดตามยอดเงินบริจาค หนังโฆษณาที่จัดทำเพื่อการประชาสัมพันธ์มูลนิธิฯในมุมมองของการสร้างแรงบันดาลใจโดยศิษย์พระดาบส การประชาสัมพันธ์ในสื่อ ณ จุดให้บริการที่สถานีน้ำมันพีที และการประชาสัมพันธ์ทางออนไลน์


               บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี  จำกัด (มหาชน) ได้วางแนวทางการดำเนินโครงการ พีที เติมพลังสัมมาชีพ สำหรับการต่อยอดโครงการในระยะยาว เพื่อให้โครงการดำเนินไปอย่างยั่งยืนและสร้างประโยชน์แก่สังคมได้ อย่างแท้จริง โดยมีแนวทางสำหรับปีต่อๆ ไปดังนี้

ปีที่ 2 พีที สนับสนุนเครื่องมือสำหรับการเรียนการสอนในโรงเรียนพระดาบส เพื่อให้ศิษย์พระดาบสได้มีความคุ้นเคยกับเครื่องมือต่างๆ สำหรับประกอบอาชีพของตน

ปีที่ 3 พีที สอนวิธีคิดและแผนประกอบธุรกิจให้ศิษย์พระดาบส

ปีที่ 4 พีทีมอบสิทธิและโอกาสในการใช้พื้นที่ของสถานีบริการน้ำมันที่พีที ที่เป็นเจ้าของและเป็นผู้บริหารงาน เอง (CO-CO) เพื่อประกอบธุรกิจร้านค้า


*หมายเหตุ รูปแบบของกิจกรรมและการสนับสนุนอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม และสถานการณ์ที่เกิดขึ้น