MSN on September 16, 2013, 11:03:02 PM
ยูนิลีเวอร์  พร้อมผลักดันธุรกิจเครือข่าย ก้าวสู่เวทีระดับโลกภายใต้ชื่อ “ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค” ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปธุรกิจเครือข่ายที่มีศักยภาพเติบโตสูงสุด







ยูนิลิเวอร์  พร้อมผงาดก้าวสู่การเป็นเจ้าแห่งธุรกิจเครือข่ายระดับโลก  ภายใต้ชื่อใหม่ “ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค” เพื่อเป็นการขยายตลาดสู่ต่างประเทศได้ง่าย และเติบโตอย่างรวดเร็ว หลังจากเปิดฉากสร้างความแข็งแกร่งเป็นที่ยอมรับกว่า 10 ปี ภายใต้ชื่อธุรกิจเครือข่าย อาวียองซ์ ในประเทศไทย มาเลเซีย และกัมพูชา โดยชื่อใหม่นี้ ได้ประกาศใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2556 โดยเริ่มต้นที่ประเทศไทย และในเดือนตุลาคมนี้ ที่ประเทศมาเลเซีย กัมพูชา และทยอยใช้ในประเทศต่าง ๆ ต่อไป  โดยตั้งเป้าการเติบโตเพิ่มเป็น 2 เท่าตัว เพื่อสอดคล้อง กับนโยบายยูนิลีเวอร์ ที่ได้ตั้งเป้าเพิ่มขนาดธุรกิจสองเท่าจากรายได้ทั่วโลกในช่วงที่ผ่านมา 4 หมื่นล้านยูโร เป็น 8 หมื่นล้านยูโร  ในอนาคตอันใกล้  พร้อมลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมครึ่งหนึ่ง และสร้างผลเชิงบวกต่อสังคมในการยกระดับสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีและยั่งยืนแก่ประชากรโลก

มร.บาวเค่อ ราวเออร์ส ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทยูนิลีเวอร์ในประเทศไทยและอินโดจีน เผยว่า “ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา  อาวียองซ์  นับเป็นธุรกิจเครือข่ายที่มียอดการเติบโตสูงด้วยคุณภาพของผลิตภัณฑ์  จำนวนของสมาชิกผู้ร่วมธุรกิจ และรูปแบบการทำธุรกิจเครือข่ายที่มีเอกลักษณ์หลากหลายช่องทาง  ทำให้สามารถขยายธุรกิจและมียอดขายเติบโตในตลาดอย่างต่อเนื่องและเพื่อให้ง่ายและสามารถเติบโตอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นในตลาดต่างประเทศ  จึงได้เปลี่ยนชื่อธุรกิจเครือข่ายเป็น “ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค“  ด้วยศักยภาพของยูนิลีเวอร์ที่มีอยู่ทั่วโลกกว่า 100 ปีอย่างมีคุณภาพ มั่นคง มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับทั่วโลก  จึงพร้อมให้การสนับสนุน “ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค” เป็นธุรกิจเครือข่ายที่มีศักยภาพการเติบโตสูงสุดอย่างเต็มที่  ทั้งด้านของระบบ การบริหารจัดการที่ดีในองค์กร การฝึกอบรม นวัตกรรมต่าง ๆ เช่น ล่าสุดกับคอนเซ็ปต์ใหม่ “คอมพลีท อิน แอนด์ เอ้าท์ อัลติเมท บิวตี้” (Complete In & Out Ultimate Beauty) ด้วยผลิตภัณฑ์ดูแลผิวในรูปแบบรับประทานและทาควบคู่กันไป  โดยใช้ส่วนผสมตัวเดียวกัน เป็นต้น”

อย่างไรก็ตาม  ในความท้าท้ายของการก้าวสู่เป้าหมายในการผลักดันให้ “ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค” ก้าวสู่เวทีระดับโลกอย่างเต็มตัวนั้น  มร. ราวเออร์ส กล่าวว่า “ความท้าทายไม่ใช่คิดแค่สิ่งที่ทำแตกต่าง แต่ต้องทำให้ดีในทุกด้าน ทั้งผลประกอบการที่ดี และการสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน”

ด้าน สุชาดา ธีรวชิรกุล ประธานบริหาร ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย  เทรดดิ้ง จำกัด เผยว่า “เพื่อให้ “ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค” สามารถเติบโตขึ้นเป็น 2 เท่า สอดคล้องกับพันธกิจที่ยูนิลีเวอร์ได้วางไว้  “ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค” ต้องขยายธุรกิจไปต่างประเทศเพื่อเพิ่มสมาชิกผู้ร่วมธุรกิจ และกลุ่มลูกค้า โดยอาศัยชื่อเสียง และความมั่นคงของยูนิลีเวอร์ โดยจะรุกหนักด้านการสื่อสารผ่านช่องทางดิจิตอล เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง

ของ “ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค” มากขึ้น อีกหนึ่งปัจจัยคือ การขยายไลน์สินค้า จะมีความหลากหลายเพื่อตอบสนองให้ตรงกับความต้องการของสมาชิก และผู้บริโภค พร้อมทั้งยังได้มีการแบ่งประเภทกลุ่มผลิตภัณฑ์ภายใต้ชื่อต่างๆ เพื่อความชัดเจน ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์สกินแคร์และเพอร์ซันนอลแคร์ โดยจะเป็นสินค้าระดับพรีเมี่ยม ภายใต้ชื่อ  “อาวียองซ์” (aviance), กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ภายใต้ชื่อ “ไวทัลลิตี้” (Vitality), กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพช่องปาก ภายใต้ชื่อ “ไอ-เฟรช” (i-fresh) และกลุ่มผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน ภายใต้ชื่อ “ลีเวอร์ โฮม” (Lever Home)

อีกทั้ง “ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค” มีความพร้อมใน 5 ศักยภาพเพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน สู่ความสำเร็จทุกมิติ และพร้อมยืนอยู่ในระดับแถวหน้าของธุรกิจเครือข่าย ประกอบด้วย ศักยภาพการเติบโตในประเทศ (Local Growth) ด้วยความเชี่ยวชาญ และนวัตกรรมระดับสากลของยูนิลีเวอร์ ทำให้สามารถขยายฐานผู้บริโภค และสมาชิกผู้ร่วมธุรกิจเครือข่าย “ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค” ครอบคลุมทั่วประเทศ เห็นได้ที่ปัจจุบันมีสมาชิกเพิ่มขึ้นเป็น 500,000 รหัส  ซึ่งนับเป็นปีที่สามารถสร้างการเติบโตที่ดีทั้งในแง่สมาชิกผู้ร่วมธุรกิจ และรายได้ที่เพิ่มขึ้น ศักยภาพการเติบโตระดับโลก (Global Growth) ความได้เปรียบที่ยูนิลีเวอร์มีฐานการตลาดอยู่ทั่วโลก จึงเป็นบทบาทสำคัญที่จะส่งเสริมให้  “ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค” ในการขยายตลาดต่างประเทศ จึงนับเป็นธุรกิจเครือข่ายที่มีศักยภาพเติบโตสูงสุด รวมถึงการสร้างโอกาสในการรับผลตอบแทนอย่างไร้พรมแดนให้กับผู้ร่วมธุรกิจ ภายใต้วิสัยทัศน์ในปี 2020 ที่มีเป้าหมายให้ ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค มอบโอกาสเติมเต็มชีวิตในทุกด้านให้เกือบ 3,000 ล้านคนทั่วโลก ศักยภาพการรังสรรค์ผลิตภัณฑ์นวัตกรรม (Product Excellence) ด้วยทุนวิจัยสูงถึง 1,000 ล้านยูโรต่อปี กับศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์มาตรฐานระดับโลก 129 แห่ง ผนวกกับความรู้ของผู้เชี่ยวชาญและนักวิทยาศาสตร์กว่า 6,000 คน ผู้บริโภคจึงมั่นใจได้ในความเป็นเลิศทางนวัตกรรมคุณภาพระดับสากล และผลลัพธ์การใช้ที่แตกต่าง ศักยภาพผลตอบแทนที่คุ้มค่า (Income Growth) ผู้ร่วมธุรกิจเครือข่าย “ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค” จะได้รับผลตอบแทน i12 สุดยอดแผนที่เป็นธรรมชาติ ยั่งยืน ที่มอบรายได้คุ้มค่า จากผลงานทางธุรกิจ และโอกาสในการรับผลตอบแทนจากเครือข่ายทีมงานทั่วโลก ศักยภาพในการพัฒนาตนเองแบบรอบด้าน (Personal Development) จากปรัชญาแนวคิดของยูนิลีเวอร์ ที่หากต้องการให้คนใส่ใจในธุรกิจ เราต้องใส่ใจในคนก่อนนั้น ทำให้ทุกระดับตั้งแต่พนักงาน ผู้บริหาร เหล่าสมาชิกผู้ร่วมธุรกิจเครือข่าย “ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค” จะต้องมีการเรียนรู้ เพื่อสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้ จึงมี “ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค อะคาเดมี” เพื่อพัฒนาทักษะ พัฒนาความเป็นผู้นำ และคุณลักษณะ โดยมีระบบโคชชิ่งจากอัพไลน์ เพื่อให้ผู้ร่วมธุรกิจเครือข่าย “ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค” เติบโตทั้งในด้านธุรกิจ และเติบโตศักยภาพของตนเองแบบรอบด้านไปพร้อมๆ กัน”

อนึ่ง ธุรกิจเครือข่าย  “ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค” ประกาศใช้ชื่อใหม่อย่างเป็นทางการตั้งแต่บัดนี้ โดยยังคงมีประเทศไทยเป็นสำนักงานใหญ่ และเป็นศูนย์กลางในการขยายตลาดสู่ต่างประเทศ แม้จะเปลี่ยนเป็นชื่อใหม่ แต่ไม่มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการบริหารภายในแต่อย่างใด เนื่องจากระบบการบริหารงานด้านต่างๆ มีศักยภาพทีดีอยู่แล้ว
« Last Edit: September 19, 2013, 10:36:04 PM by MSN »

MSN on September 23, 2013, 08:38:14 AM
ภาพข่าว: ยูนิลีเวอร์ พร้อมผลักดันธุรกิจเครือข่าย ก้าวสู่เวทีระดับโลก ภายใต้ชื่อ “ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค” ธุรกิจเครือข่ายที่มีศักยภาพเติบโตสูงสุด



           มร.บาวเค่อ ราวเออร์ส ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทยูนิลีเวอร์ในประเทศไทยและอินโดจีน และ สุชาดา ธีรวชิรกุล ประธานบริหาร ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด ร่วมเป็นประธานแถลงข่าว ยูนิลีเวอร์ พร้อมผงาดก้าวสู่การเป็นเจ้าแห่งธุรกิจเครือข่ายระดับโลกที่มีศักยภาพเติบโต สูงสุด ภายใต้ชื่อใหม่ “ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค” ณ โรงแรมเรเนซองส์ ราชประสงค์ โดยจะขยายสู่ตลาดอาเซียนเป็นอันดับต้นๆ และตั้งเป้าการเติบโตเพิ่มเป็น 2 เท่าตัว ก่อนปี 2020

MSN on September 30, 2013, 08:21:22 AM
ภาพข่าว: ฉลองครบรอบ 13 ปี “ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค”



          มร.บาวเค่อ ราวเออร์ส ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทยูนิลีเวอร์ในประเทศไทยและอินโดจีน ให้เกียรติเป็นประธานร่วมตัดเค้กฉลองครบรอบ 13 ปี ธุรกิจเครือข่ายที่มีศักยภาพการเติบโตสูงสุด “ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค” ซึ่งจัดโดย สุชาดา ธีรวชิรกุล ประธานบริหาร ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด ณ บางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทรัล ลาดพร้าว โดยมี มนต์ชัย เดโชจรัสศรี, อดิศรา วัลลภศิริ, ลักขณา อังสาชน, วรวิทย์ ศรชัย, เจน หลุย, อภิวัชร์ วิบูลย์วัฒนกุล และ นาวาอากาศตรี ประกิจ – สุพัตรา หงษ์วิเศษ ร่วมงาน
« Last Edit: September 30, 2013, 08:23:24 AM by MSN »

MSN on September 30, 2013, 08:59:56 AM
ฉลองครบรอบ 13 ปี “ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค” ธุรกิจเครือข่ายที่มีศักยภาพการเติบโตสูงสุด ร่วมยินดีกับผู้บริหารสโมสรเงินล้านประจำปี 2556


 
          นับเป็นปีทองของ “ยูนิลีเวอร์” ที่ถือฤกษ์เดือนกันยายน ประกาศเปลี่ยนชื่อจากธุรกิจเครือข่ายอาวียองซ์ สู่ชื่อใหม่เป็น “ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค” ที่พร้อมจะผงาดนำพาธุรกิจเครือข่ายภายใต้ชื่อใหม่นี้ขยายตลาดสู่ต่างประเทศทั่วโลก และยังเป็นเดือนที่เหล่าผู้ร่วมธุรกิจเครือข่ายยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค นับพันคน จากประเทศไทย มาเลเซีย และกัมพูชา ได้รวมตัวกันเป็นสักขีพยานฉลองแฮปปี้เบิร์ดเดย์ครบรอบ 13 ปี ของการเป็นธุรกิจเครือข่ายที่มีศักยภาพการเติบโตสูงสุด ภายใต้การบริหารงานของ สุชาดา ธีรวชิรกุล ประธานบริหาร ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด แม่ทัพหญิงคนเก่งที่ปีนี้จัดฉลองวันเกิดครบรอบ 13 ปี อย่างยิ่งใหญ่ โดยมี มร.บาวเค่อ ราวเออร์ส ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทยูนิลีเวอร์ในประเทศไทยและอินโดจีน ให้เกียรติเป็นประธานในงาน และยังร่วมมอบโล่รางวัลเกียรติยศแสดงความยินดีให้แก่ผู้บริหารสโมสร 50 ล้าน ร่วมด้วยผู้บริหารสโมสร 10 ล้าน, 5 ล้าน และ 1 ล้าน รวมทั้งสิ้น 37 รหัส ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความปิติยินดี ณ บางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทรัล ลาดพร้าว

          มร.บาวเค่อ ราวเออร์ส ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทยูนิลีเวอร์ในประเทศไทยและอินโดจีน เผยว่า “เป็นอีกหนึ่งครั้งที่ผมรู้สึกยินดีมากๆ ที่ได้มาร่วมงานฉลองครบรอบ 13 ปี ซึ่งที่ผ่านมาได้สร้างความเกรียงไกร ผมขอบคุณในความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจ ของผู้ร่วมธุรกิจเครือข่าย และพนักงานทุกคน และขอชื่นชมผู้นำรวมถึงผู้บริหารสโมสรเงินล้านทุกคนที่ได้ช่วยกันสร้างทำให้ธุรกิจเดินทางมาไกลจนถึงทุกวันนี้ โดยหลังจากการเปลี่ยนชื่อเป็น “ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค” ในครั้งนี้ ผมหวังว่าจะสามารถสร้างการเติบโตไปทั่วโลก ได้เร็วขึ้น ใหญ่ขึ้น และดีมากขึ้น”

          ด้าน สุชาดา ธีรวชิรกุล ประธานบริหาร ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด เผยว่า “ธุรกิจเครือข่าย “ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค” เป็นธุรกิจแห่งการให้ และการส่งต่อ จึงทำให้เราสำเร็จ ที่นี่เชื่อว่าความสำเร็จที่แท้จริงต้องเป็นความสำเร็จที่ครบทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นความมั่งคั่ง สติปัญญา การมีสุขภาพที่ดี และความอบอุ่น เรากำลังจะเติบโตไปพร้อมกับการส่งต่อแบบนี้ไปยังทั่วโลก พวกเรากำลังเป็นจุดเริ่มต้นที่ต้องส่งต่อแบบนี้ สร้างให้เป็นวัฒนธรรมขององค์กร และขยายไปพร้อมๆ กันทั่วโลกค่ะ”

          นอกจากความสุข ความสนุก ที่มีในงานครบรอบ 13 ปี ธุรกิจเครือข่ายที่มีศักยภาพการเติบโตสูงสุด “ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค” ผู้ที่มาร่วมงานยังได้ฟัง 3 ผู้ร่วมธุรกิจเครือข่ายระดับ National Executive Business Associate มาเผยกุญแจดอกสำคัญที่ไขสู่ความสำเร็จบนเส้นทางธุรกิจเครือข่ายอีกด้วย โดย เจอร์รี่ หลุย National Executive Business Associate คนแรกเผยว่า “ยิ่งทำยิ่งหลงรัก หลงรักแล้ว หลงรักอีก เพราะเมื่อหลงรักแล้ว เราก็พร้อมจะทุ่มเทให้กับสิ่งที่ทำ และเมื่อทุ่มเทแล้วแน่นอนว่าจะต้องพบกับความสำเร็จ และเมื่อสำเร็จแล้วก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น และไม่ใช่แค่เราเท่านั้นที่เปลี่ยน แต่คนในครอบครัวของเรา ตระกูลของเราก็จะเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย” ตามมาด้วย National Executive Business Associate คนที่ 2 อภิวัชร์ วิบูลย์วัฒนกุล “การพัฒนาเท่านั้นที่จะทำให้ตัวเราเกิดการเปลี่ยนแปลง เพราะเป็นการดึงศักยภาพตั้งแต่วิธีคิด เพียงแค่คิดชีวิตก็จะเปลี่ยน เพราะมีเพียงตัวเราเท่านั้นที่จะนำพาไปสู่ความสำเร็จ” และ National Executive Business Associate คนล่าสุด นาวาอากาศตรี ประกิจ หงษ์วิเศษ เผยว่า “สิ่งที่ยากที่สุดของการทำธุรกิจเครือข่ายคือการไม่เปิดใจยอมรับ แต่ถ้าอยากประสพความสำเร็จในธุรกิจเครือข่ายนี้ ต้องเปิดใจยอมรับอย่างไม่มีเงื่อนไข เปิดใจยอมรับการถูกปฏิเสธ เปิดใจยอมรับในคุณภาพสินค้า”

          กระทั่งถึงเวลาแห่งความปลาบปลื้มกับพิธีมอบโล่เกียรติยศให้แก่ผู้ร่วมธุรกิจเครือข่าย “ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค” ที่ได้เข้าสู่ทำเนียบผู้บริหารสโมสรเงินล้าน ที่ในปีนี้มีผู้ร่วมธุรกิจเครือข่ายเข้าสู่ทำเนียบรวม 37 รหัส ตั้งแต่ผู้บริหารสโมสร 1 ล้าน, ผู้บริหารสโมสร 5 ล้าน ผู้บริหารสโมสร 10 ล้าน ที่เปิดตัวเฉิดฉายมาบนรถเมอร์เซเดส-เบนซ์คันงามสุดอลังการ และที่สุดของค่ำคืนในครั้งนี้ กับโล่รางวัลเกียรติยศที่มอบให้แก่ ธนวัฒน์ เรืองสว่าง และสุพิชฌาย์ ไชยวัฒน์ ผู้บริหารสโมสร 50 ล้าน ที่ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์สปอร์ตสีเงินเปิดประทุนขึ้นรับรางวัล พร้อมเผยความสำเร็จที่ทำให้สามารถเข้าสู่สโมสร 50 ล้านว่า “อย่าลืมความฝัน อย่าลืมเป้าหมาย ลงมือทำให้เต็มที่ เชื่อมั่นให้สุดหัวใจ ว่าเราทำได้ เราทำได้ เราสำเร็จได้”

          รอยยิ้มและเสียงหัวเราะแห่งความสุข จะยังไม่จบลง เพราะผู้ร่วมธุรกิจเครือข่าย “ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค” พร้อมแล้วที่จะสร้างตำนานแห่งความเกรียงไกร ของการเป็นธุรกิจเครือข่ายที่มีศักยภาพการเติบโตสูงสุดให้ทั่วโลกต้องจารึก....

MSN on October 02, 2013, 02:57:42 PM
Unilever Network Global Summit 2013



          4 ผู้นำจาก 3 ชาติ ร่วมแชร์วิสัยทัศน์ความสำเร็จหลากหลายแง่มุม ในงาน Unilever Network Global Summit 2013

          นับเป็นงานใหญ่ที่พลพรรคชาว ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค (Unilver Network) ธุรกิจเครือข่ายที่มีศักยภาพการเติบโตสูงสุด ไม่พลาด!!! กับงานสัมมนา “ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค โกลบอล ซัมมิท 2013 (Unilever Network Global Summit 2013)” งานที่รวมผู้ร่วมธุรกิจระดับผู้นำถึง 3 ชาติ จากประเทศไทย, มาเลเซีย และกัมพูชา นับพันคน จัดโดย สุชาดา ธีรวชิรกุล ประธานบริหาร ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด แม่ทัพหญิงคนเก่ง ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัล ลาดพร้าว พร้อมแขกรับเชิญคนสำคัญ Mr.Maarten van der Weijden นักกีฬาว่ายน้ำมาราธอนเหรียญทองโอลิมปิก 2008 กรุงปักกิ่ง ที่บินตรงจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่มาร่วมเผยเรื่องราวจากหนุ่มโชคร้ายเป็นมะเร็งในเม็ดเลือดขาว แต่สามารถพลิกวิกฤตจนคว้าเหรียญทองโอลิมปิกได้ โดยมี มร.บาวเค่อ ราวเออร์ส ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทยูนิลีเวอร์ในประเทศไทยและอินโดจีน เป็นประธานในงาน

          Mr.Maarten van der Weijden นักกีฬาว่ายน้ำมาราธอนเหรียญทองโอลิมปิก 2008 กรุงปักกิ่ง เผยว่า “เพราะชอบว่ายน้ำ และรู้สึกว่าตัวเองทำได้ดี ประกอบกับคำพูดของพ่อผมที่บอกเสมอว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรา เป็นผลมาจากการที่เราเลือก และยิ่งเราตั้งใจ ทุ่มเท เราก็จะประสพความสำเร็จในสิ่งนั้น ผมจึงมุ่งมั่นว่ายน้ำตลอดมา จนอายุ 19 ปี สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อผมป่วยเป็นมะเร็งในเม็ดเลือดขาว ผมถามพ่อว่า ทำไมถึงเกิดเรื่องนี้ขึ้นกับผม ในเมื่อผมไม่ได้เลือกที่จะเป็นมะเร็ง พ่อกลับตอบว่า เรื่องเจ็บป่วยเป็นสิ่งที่เราบังคับไม่ได้ แต่เป็นเรื่องของโชคชะตา ตอนนั้นผมรู้สึกท้อแท้ ผมทำทุกวันให้เหมือนเป็นวันสุดท้ายของผม ไม่มีความหวัง ไม่ตั้งเป้าหมายใดๆ จนวันหนึ่งพ่อของผมถามผมชวนให้ผมคิดทำสิ่งที่ตัวเองรัก ผมจึงได้กลับมาว่ายน้ำอีกครั้ง ด้วยการตั้งเป้าหมายชนะตัวเองด้วยการ ทำลายสถิติของตัวเอง

          กระทั่งมีโอกาสได้เจอกับโค้ชซึ่งชักชวนให้มาอยู่ร่วมทีม โค้ชถามผมว่าอะไรคือเป้าหมายในชีวิตของผม ผมกลับตอบโค้ชไปว่า ผมแค่ต้องการทำลายสถิติของตัวเองเท่านั้น ก่อนถึงการแข่งขันโอลิมปิกเป็นเวลา 1 ปี ที่ผมต้องฟิตร่างกายให้พร้อมมากกว่าคนอื่น เพราะต้องสร้างเม็ดเลือดแดงให้แก่ร่างกายมากที่สุด เพื่อขจัดความเหนื่อยล้า ไม่ว่าจะเป็นการกินอยู่ในเต็นท์แอดทิจูด การว่ายน้ำในระดับที่สูงก่วาน้ำทะเล เพียงเพื่อต้องการสร้างศักยภาพและทำลายสถิติของตัวเอง กระทั่งถึงการแข่งขัน ในหมู่บ้านนักีฬาผมได้มีโอกาสเห็นนักกีฬาชาติอื่นที่เก่งๆ แต่พลาดหวังจากการแข่งขัน คนเหล่านั้นพร่ำพูดแต่ว่าทำไมเขาถึงไม่ได้เหรียญทอง ทั้งที่เขาทุ่มเทและตั้งใจ แต่ผมกลับรู้สึกสงบ เพราะเป้าหมายของผมไม่ได้อยู่ที่เหรียญทอง แต่อยู่ที่การเดิมพันกับตัวเองมากกว่า ที่ต้องการทำลายสถิติตัวเอง

          ในการแข่งขันว่ายน้ำมาราธอน 10 กม. แม้ว่าผมจะเตรียมความพร้อมมาดี แต่ผมกับโค้ชยังมีการวางแผนในหลายขั้นตอน ทั้งการว่ายเพื่อออมแรง โดยจะไม่เร่งว่ายตั้งแต่ออกสตาร์ท รวมถึงการให้อาหาร ที่ทุกคนจะต้องมารวมตัวกันที่จุดๆ หนึ่ง แต่ผมนัดแนะกับโค้ชที่จะว่ายแซงเลยออกไปแล้วค่อยให้ จากที่ว่ายอยู่ตำแหน่งท้ายๆ ก็เริ่มแซงขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งกลาง และเริ่มมาอยู่ในตำแหน่งต้นๆ เวลานั้นผมมองเห็นนักกีฬาที่ลงแข่งด้วยกันหน้าเริ่มแดง เพราะเขาใช้พลังงานเยอะ โดยผมให้เขาว่ายแซงผม เพื่อที่ผมจะอาศัยลู่น้ำเพื่อว่ายตามเขา ซึ่งจะเป็นการช่วยผ่อนแรง จนเมื่อเข้ามาอยู่ในระยะ 100 ม. สุดท้าย ที่ตอนนั้นผมเริ่มว่ายฉีกออกจากกลุ่ม โดยที่อีก 2-3 คน กำลังว่ายบี้กัน เร่งความเร็วสุดฤทธิ์ ในตอนนั้นผมไม่ได้คิดถึงผลที่จะเกิดขึ้น แต่ผมคิดถึงหน้าที่ของผม หน้าที่ที่ต้องตั้งใจว่าย และว่ายให้ดีที่สุด ในนาทีนั้นที่ผมเห็นพวกเขากำลังชุลมุนกันอยู่ ผมจึงเร่งว่ายใส่ความเร็วเต็มที่ และในที่สุดผลปรากฏว่าผมเข้าเส้นชัยเป็นที่ 1 คว้าเหรียญทองโอลิมปิกว่ายน้ำมาราธอน 10 กม. ชายมาครอง แม้ว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับชีวิตเรา เป็นสิ่งที่เราเลือก แบบที่พ่อสอน หากบวกกับความตั้งใจ ทุ่มเท วางแผน สิ ที่จะทำให้เราไปถึงจุดหมายที่เราต้องการได้”

          ไม่เพียงเท่านี้ ภายในงานสัมมนา “ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค โกลบอล ซัมมิท 2013” ยังได้ฟังวิสัยทัศน์และเรื่องราวความสำเร็จที่หลายหลายแง่มุมของผู้ร่วมธุรกิจยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค ระดับผู้นำ ถึง 4 ท่านจาก 3 ชาติด้วยกัน เริ่มจาก ปารณีย์ บู้หลง Regional Executive Business Associate จากประเทศไทยที่มาเผยเรื่องราวความสวยนั้นเปลี่ยนชีวิตได้ว่า “จากคนที่ไม่ค่อยได้ดูแลตัวเอง เพราะต้องทำงานหนัก วันหนึ่งเมื่อได้รู้จักกับธุรกิจเครือข่ายยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค จากเพื่อนเก่าที่มาเยี่ยมในวันที่คลอดลูก ทำให้เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของเขา ที่ดูดีขึ้น จึงเริ่มสนใจและสมัครเป็นผู้ร่วมธุรกิจทันที และเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์จนมีคนทักว่าดูดี ดูสวยขึ้น พร้อมกับมีคนเริ่มสนใจ ดิฉันจึงเริ่มมีรายได้เข้ามาในกระเป๋า และยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดิฉันจึงยิ่งใช้ผลิตภัณฑ์ชนิดที่เรียกว่าใช้อย่างบ้าคลั่ง เพื่อต้องการให้ตัวเองดูดี จนเมื่อเกิดวิกฤตขึ้นเพราะสามีซึ่งรับราชการตำรวจถูกยิงอาการสาหัส ดิฉันเครียดและแอบร้องไห้คนเดียว แต่ธุรกิจยังคงดำเนินต่อ พร้อมๆ กับคำวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานา ว่าสามีนอนป่วย แต่ดิฉันกลับแต่งตัวสวย เพราะดิฉันเชื่อว่ายิ่งเราดูดี ก็ยิ่งจะมีคนอยากเข้ามาพูดคุย ยิ่งเป็นโอกาสในการทำธุรกิจ เพราะผลิตภัณฑ์จะเป็นตัวบอกคุณภาพของมันเอง และดิฉันมองผลิตภัณฑ์มากกว่าเป็นผลิตภัณฑ์ แต่มองเห็นอนาคต เห็นโอกาส เห็นการศึกษาของลูก เห็นบ้าน เห็นรถ จากวันนั้นผ่านมา 7 ปี เพราะธุรกิจเครือข่ายยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค ที่ทำให้ดิฉันสวยขึ้น และยังมีคุณภาพชีวิตที่ดีตาม เพาะดิฉันมั่นใจในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และลงมือทำเดี๋ยวนี้ ประกอบกับเราอยู่ในบริษัทที่น่าเชื่อถือ จึงทำให้ดิฉันประสพความสำเร็จถึงทุกวันนี้คะ”

          ในขณะที่หนุ่มหล่อจากกัมพูชา Mr.Thaw Sokheng Group Executive Business Associate ที่มุ่งมั่นจะสร้างฐานะให้ได้ก่อนอายุ 20 ปี เผยว่า “ผมเป็นเด็กเกเรครับ โดดเรียน วันๆ เอาแต่เที่ยวเล่น และขอเงินแม่ใช้ จนแม่ว่าเงินทองมันหายากนะ ผมจึงเริ่มหางานทำ จนได้มาเจอกับธุรกิจเครือข่ายยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจของบริษัท ยูนิลีเวอร์ ที่มีคนอยากทำงานด้วยมากที่สุด ยิ่งผมไม่มีประสบการณ์ แต่ไม่เป็นอุปสรรคของการทำธุรกิจนี้ ในเดือนแรกผมรับรายได้ 383 เหรียญต่อเดือน ซึ่งยังมากกว่าเงินเดือนของเด็กจบใหม่ที่มีรายได้แค่ 100 กว่าเหรียญเท่านั้น ผมอยู่ในธุรกิจเครือข่ายนี้มา 3 ปี จนล่าสุดรายได้ผมอยู่ที่ 3,861 เหรียญ ซึ่งรายได้ขนาดนี้จะต้องเป็น

          คนที่จบปริญญาโท หรือมีประสบการณ์การทำงานมาไม่ต่ำกว่า 20-30 ปีเท่านั้น จากที่เคยขอเงินแม่ใช้ แต่ตอนนี้ผมให้เงินแม่ 1,000 เหรียญต่อเดือน ธุรกิจนี้ไม่เพียงสร้างความมั่งคั่งให้แก่ผม แต่ยังเปิดโอกาสให้ผมได้เป็นลูกกตัญญู ยิ่งตอนนี้กัมพูชากำลังเร่งพัฒนา จะดีแค่ไหนหากธุรกิจเครือข่ายยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค จะสามารถเปลี่ยนคุณภาพชีวิตคนในกัมพูชาให้ดีขึ้น 1% จาก 17 ล้านคนทั่วประเทศ ที่จะมีโอกาสได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและร่ำรวยขึ้นไปพร้อมๆ กับเรา”

          ด้านหนุ่มใหญ่ Mr.Simon Hew Group Executive Business Associate จากมาเลเซีย ผู้มีจิตวิญญาณของการเป็นนักธุรกิจเผยว่า “คุณพ่อปลูกฝังว่าต้องเป็นเจ้าของธุรกิจครับ แต่ต้องไม่ใช่ธุรกิจขายก๋วยเตี๋ยวของครอบครัว ผมจึงผ่านการเป็นเจ้าของธุรกิจมามากมาย ทั้งเป็นเจ้าของโรงพิมพ์ เจ้าของไนท์คลับ แต่ก็ยังไม่ตอบโจทย์เรื่องของรายได้ และความอิสระของการใช้ชีวิต จนเมื่อได้มารู้จักกับธุรกิจเครือข่ายยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค ที่แห่งนี้เขาเห็นคุณค่าในตัวผม และช่วยเหลือที่จะทำให้ผมนั้นบรรลุความฝันที่ตั้งไว้ ด้วยความน่าเชื่อถือของบริษัท รวมถึงการมีนักวิทยาศาสตร์ที่พร้อมวิจัยเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพอยู่ทั่วโลก ทำให้ผมยิ่งเชื่อมั่นในศักยภาพของธุรกิจเครือข่ายยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค จะทำให้ผมประสพความสำเร็จได้ไม่ยาก ผมฝันอยากเปิดอาวียองซ์ ช็อป 30 แห่งในมาเลเซีย เพื่อที่คนมาเลเซียจะได้มีโอกาสใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ รวมถึงยังได้แบ่งปันความสำเร็จให้แก่คนอื่นๆ เพราะธุรกิจเครือข่ายยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค เป็นธุรกิจแห่งการให้และการส่งต่อ เพื่อให้คนอื่นๆ ได้เดินตามฝัน และมุ่งมั่นทำฝันนั้นให้เป็นจริง”

          ปิดท้ายงานด้วยตัวแทนจากประเทศไทย เจอร์รี่ หลุย National Executive Business Associate คนแรก ที่มาเผยถึงภารกิจที่เป็นไปได้ว่า “ถ้าคุณใส่ความหมายที่ดี สร้างทัศนคติที่ดี ให้แก่ธุรกิจเครือข่าย คุณก็จะทำธุรกิจได้อย่างมีความสุขทุกวัน มีพลังในการทำงาน ถ้าคุณทำธุรกิจแล้วรู้สึกว่า ยิ่งทำยิ่งเหนื่อย ผมว่าคุณมาผิดทาง แต่สำหรับผมที่ยิ่งทำธุรกิจ ยิ่งมีความสุข ยิ่งทำยิ่งได้เพื่อนยิ่งได้องค์กร เพราะผมหลงรักในธุรกิจเครือข่ายยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค และทำธุรกิจด้วยหัวใจ และพร้อมที่จะขยายธุรกิจเครือข่ายยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค ให้เติบโตขึ้นเรื่อยๆ เพียงแค่คุณทำในสิ่งที่รัก และรักในสิ่งที่ทำ แล้วทุกอย่างที่คุณคิดว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ มันก็จะเป็นไปได้เอง”

          อัดแน่นไปด้วยบุคคลที่ประสพความสำเร็จอย่างแท้จริง สำหรับงานสัมมนา “ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค โกลบอล ซัมมิท 2013” ทำเอาผู้ร่วมธุรกิจเครือข่ายยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค ปลื้มปิติเป็นอย่างมาก เห็นได้จากรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ และพบกับงานดีๆ เช่นนี้ได้อีกในโอกาสหน้า

MSN on October 03, 2013, 09:15:21 PM
ภาพข่าว: ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค จัดงานสัมมนา Global Summit 2013



          มร.บาวเค่อ ราวเออร์ส ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทยูนิลีเวอร์ในประเทศไทยและอินโดจีน ให้เกียรติเป็นประธานในงานสัมมนา “ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค โกลบอล ซัมมิท 2013 (Unilever Network Global Summit 2013)” จัดโดย สุชาดา ธีรวชิรกุล ประธานบริหาร ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด โดยมีระดับผู้นำของธุรกิจเครือข่ายยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์คกว่า 1,000 คน จากประเทศไทย, มาเลเซีย และกัมพูชา ร่วมสัมมนา พร้อมฟัง Mr.Maarten van der Weijden นักกีฬาว่ายน้ำมาราธอนเหรียญทองโอลิมปิก 2008 กรุงปักกิ่ง เผยเรื่องราวการพลิกวิกฤตจนคว้าเหรียญทองโอลิมปิก ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัล ลาดพร้าว
« Last Edit: October 03, 2013, 09:33:15 PM by MSN »