MSN on July 31, 2013, 09:26:28 PM
เตรียมพร้อมตื่นตา ตื่นใจไปกับโลกวิทยาศาสตร์ ในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2556


 
          กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) พร้อมจัดงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2556 (National Science and Technology Fair 2013) ภายใต้แนวคิด ‘‘ทันโลกทันวิทย์ จุดประกายความคิด สู่อาเซียน’’ อย่างยิ่งใหญ่ เต็มพื้นที่ไบเทค บางนา พบกับกิจกรรมไฮไลท์ตื่นตา ตื่นใจ ไปกับโลกวิทยาศาสตร์ ระหว่างวันที่ 6 - 21 สิงหาคมนี้ และผนวกงานเทคโนมาร์ท ระหว่าง วันที่ 14 - 18 สิงหาคม ที่ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์

          จัตุรัสวิทยาศาสตร์ อพวช. อาคารจามจุรีสแควร์ - 31 กรกฎาคม 2556 : ดร.พีรพันธุ์ พาลุสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2556 จัดขึ้นเนื่องในสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ โดยกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว “พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย” และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “พระบิดาแห่งเทคโนโลยีของไทย” และ “พระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย” ในปี 2556 ยังถือเป็นการร่วมฉลองปีสากลแห่งความร่วมมือเรื่องน้ำ ตามมติขององค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) จึงได้มีการจัดแสดงนิทรรศการและกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำ เป็นกิจกรรมที่ยิ่งใหญ่แห่งปีระดับประเทศ และแถบภูมิภาคเอเชีย

          การจัดแสดงปีนี้จัดอย่างยิ่งใหญ่ระดับอาเซียน เน้นนำเสนอผลงานความก้าวหน้า และศักยภาพทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมถึงศักยภาพของนักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์ของไทย การจัดงานในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือด้วยดีทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน มากกว่า 150 หน่วยงาน โดยมีหน่วยงาน จากกระทรวงต่างๆ อาทิ กระทรวงกลาโหม, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, กระทรวงศึกษาธิการ, กระทรวงสาธารณสุข, กระทรวงคมนาคม และกระทรวงอุตสาหกรรม, และ 16 หน่วยงานที่อยู่ในสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี , สมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ สภาสมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย ,หน่วยงานเอกชน ชมรมและพิพิธภัณฑ์ต่างๆ สถาบันการศึกษาทั่วประเทศ นิทรรศการต่างประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น จีน รัสเซีย ฝรั่งเศส และออสเตรเลีย รวมทั้ง ผู้ประกอบการ วิสาหกิจชุมชน ในการที่จะนำนวัตกรรมทางด้านวิทยาศาสตร์ การค้นคว้าใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์มาจัดแสดงในงานเป็นจำนวนมากเต็มพื้นที่ไบเทค บางนา ในปีนี้พิเศษกว่าทุกปีจะผนวกงานเทคโนโลยีของไทย (เทคโนมาร์ท) ประจำปี 2556 เป็นนิทรรศการที่จัดแสดงเพื่อเผยแพร่ผลงานทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมของคนไทยและสร้างโอกาสการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมให้เกิดแรงบันดาลใจในการคิดค้นพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์นำไปสู่การพัฒนาประเทศในระยะยาว

          กิจกรรมดังกล่าว จะช่วยกระตุ้นความสนใจทางด้านวิทยาศาสตร์ และนวัตกรรมใหม่ๆ แก่นักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ และประชาชนทั่วไป และเพื่ออัพเดทความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของประเทศ และศักยภาพของนักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์ของไทย พร้อมกับจุดประกายนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ให้ตระหนักถึงความสำคัญและการนำวิทยาศาสตร์ไปใช้ในชีวิตประจำวันของคนไทย และเตรียมพร้อมกับการพัฒนาสู่การเปิดเสรีอาเซียนไปพร้อมๆ กัน

          รศ.ดร.วีระพงษ์ แพสุวรรณ ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวถึง ความยิ่งใหญ่ของงานในครั้งนี้ว่า ภายในงาน มีการแบ่งกิจกรรมออกเป็นหลากหลายโซน บนพื้นที่ 42,000 ตารางเมตร เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าไปมีส่วนร่วม รับสาระความรู้ทางวิทยาศาสตร์ได้ทุกคน

          ตั้งแต่ นิทรรศการเทิดพระเกียรติ นิทรรศการและกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การมอบรางวัลพระราชทานนักวิทยาศาสตร์ไทยดีเด่น การประกวดและแข่งขันทางวิทยาศาสตร์ การประชุม สัมมนา และการแสดงสินค้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พร้อมการนำเอาเทคโนโลยีและมัลติมีเดียใหม่ ๆ มาใช้ในการจัดแสดง เพื่อสร้างประสบการณ์ เปิดมุมมองการเรียนรู้ผ่านสื่อ Interactive กับนิทรรศการรูปแบบ 4D (4 มิติ) เพื่อสร้างความตื่นตา เร้าใจ และสนุกสนาน เพื่อเกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ

          โซนนิทรรศการเทิดพระเกียรติรัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 9 รวมทั้งพระบรมวงศานุวงศ์

          โซนนิทรรศการพลังงานเพื่ออนาคต Hi-Light Live Action Theatre เรื่อง วิกฤติพลังงาน รวมพลังกู้โลก เทคนิคการถ่ายทำบน “กรีนสกรีน” ให้ผู้เข้าชมได้มีส่วนร่วมในการแสดงบทบาท ฮีโร่ช่วยโลกจากวิกฤติพลังงาน

          โซนนิทรรศการ “การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกและสิ่งแวดล้อม” หรือ Climate Change เป็นการนำเสนอสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลกตั้งแต่อดีตจนถึง ปัจจุบัน ซึ่งมีสาเหตุทั้งจากธรรมชาติและน้ำมือมนุษย์ ตลอดจนผลลัพธ์ที่เกิดจากอุณหภูมิที่สูงขึ้น และ ผลกระทบต่าง ๆ ซึ่ง High light ของนิทรรศการนี้ เช่น การ Mapping ลูกโลกที่แสดงการ เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างต่อเนื่อง, เกมส์ Interactive กำจัดก๊าซช่วยโลก เป็นต้น

          โซนนิทรรศการ “วิกฤตอาหาร” Hi-Light เป็นการจำลองเทคโนโลยีฟาร์มหมู ฟาร์มไก่ระบบปิด การจัดแสดงเทคโนโลยีช่วยเพิ่มผลการผลิต

          นิทรรศการ“เทคโนโลยีการแพทย์และยา” โรคภัยไข้เจ็บและโรคอุบัติใหม่, แสดงโรคภัยไข้เจ็บชนิดต่างๆและสาเหตุอันเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ วิวัฒนาการทางการแพทย์ (ครั้งแรกของโลก), แสดง Timeline วิวัฒนาการทางการแพทย์ทั้งเรื่องยาและการรักษาที่เป็นครั้งแรกของโลก เทคโนโลยีในการรักษา, แสดงเทคโนโลยีและกรรมวิธีในการรักษาคนไข้แบบต่างๆทั้งในส่วนของยา, เครื่องมือแพทย์, และแพทย์ทางเลือก 4 นวัตกรรมทางการแพทย์, แสดงงานวิจัยและเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่จะหยุดยั้งโรคภัยไข้เจ็บต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพ Hi-Light เครื่อง Kinetic X-ray เป็นเครื่องมือที่ใช้ Kinetic Sensor จับการเคลื่อนไหวของผู้เล่น แล้วแสดงผลเป็นโครงร่าง (โครงกระดูก) บนหน้าจอ

          นิทรรศการ“ภูมิปัญญาสู่นวัตกรรมการจัดการน้ำ” Hi-Light Simulator เรื่อง การเดินทางของน้ำร่วมผจญภัยตามสายน้ำไปกับ 4D Simulator ที่จะพาผู้ชมไปดูตั้งแต่ต้นกำเนิดของสายน้ำไปจนถึงมหาสมุทร

          นิทรรศการ“เทคโนโลยีสารสนเทศ” นำเสนอทุ่นเตือนภัยสึนามิ เป็นหนึ่งในหลายๆอย่างของเทคโนโลยี ที่นำมาใช้เพื่อการตรวจหาเหตุที่ทำให้เกิดภัยพิบัติ เพื่อจะได้เตือนและเตรียมการป้องกันล่วงหน้า Hi-Light Halogram เทคโนโลยีเพื่อการท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว ถูกต้อง และปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการ

          โซนนิทรรศการ “เทคโนโลยีอุตสาหกรรม” Hi-Light Car Mapping แสดงส่วนประกอบของรถยนต์ที่เชื่อมโยงไปยัง 5 อุตสาหกรรมหลัก ของประเทศ คือ อุตสาหกรรมยาง สิ่งทอ อิเล็กทรอนิกส์พลาสติก และโลหะ

          นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเยาวชน ก็มีให้เลือกหลากหลาย อาทิ การประกวดสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมนักวิทยาศาสตร์น้อย ระดับชั้น ป.5 - ป.6, การแข่งขันกระบวนการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ ระดับมัธยมตอนต้นและตอนปลาย, การประกวดการแสดงทางวิทยาศาสตร์ระดับภูมิภาค และระดับประเทศ, การประกวดวาดภาพการ์ตูน และวาดภาพจินตนาการทางวิทยาศาสตร์ เป็นต้น

          รศ.ดร.วีระพงษ์ กล่าวต่อว่า มหกรรมวิทยาศาสตร์ฯ ในปีนี้ มีการดำเนินการปรับปรุงรูปแบบการจัดแสดงนิทรรศการให้ทันสมัยขึ้น เพิ่มกิจกรรมสำหรับทุกเพศทุกวัย ได้ร่วมสนุกและทดลอง โดยมีนิทรรศการและกิจกรรมเด่นๆ ที่ไม่ควรพลาดจากหน่วยงานต่างๆของกระทรวง อาทิ ในแต่ละหน่วยงานของกระทรวงวิทย์ทั้ง 16 หน่วยงานจะมีกิจกรรมที่น่าสนใจ อาทิ สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ จะมีหัวข้อนิทรรศการ เทคโนโลยีนิวเคลียร์กับการเกษตร โดยมีไฮไลต์ในการช่วยเหลือเกษตรกรไทยให้มีรายได้เพิ่มพูนและผลผลิตที่มีคุณภาพยิ่งขึ้น , สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ หัวข้อนิทรรศการศูนย์เฝ้าระวังทางรังสีโดยมีไฮไลต์กิจกรรมการค้นหารังสีและเฝ้าระวังภัยทางรังสี , สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หัวข้อนิทรรศการปีแห่งดวงหางมีไฮไลต์พิเศษจัดแสดงดาวหางจำลองและจัดแสดงอุกกาบาตนอกโลก , สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ หรือ สวทน. มีหน่วยงานหนึ่ง ชื่อ สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นสูง ได้ร่วมมือกับสถาบันการศึกษา จัดสร้างหลักสูตรเทคโนโลยีวิชาชีพเฉพาะทาง เพื่อเป็นการปูทางพื้นฐานเส้นทางการศึกษาและเส้นทางอาชีพที่รองรับผู้สำเร็จการศึกษา โดยเบื้องต้นจะมีการนำร่องก่อน 4 สาขาวิชา คือ เทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ เทคโนโลยีรถไฟความ เร็วสูงและรถไฟฟ้า นวัตกรรมเพื่อการเกษตรเน้นสาขาการปรับปรุงพันธุ์พืชและการผลิตพันธุ์พืชและเมล็ดพันธุ์ และสาขาเทคโนโลยีชีวภาพและพันธุวิศวกรรมศาสตร์ ได้นำพันธุ์ข้าว ข้าวไรซ์เบอรี่ (Riceberry) ได้จากการผสมข้ามพันธุ์ระหว่างข้าวเจ้าหอมนิลกับข้าวขาวดอกมะลิ 105 ลักษณะเป็นข้าวเจ้าสีม่วงเข้ม รูปร่างเมล็ดเรียวยาวมาโชว์ในงานด้วย , สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย คิดค้นน้ำมันที่สกัดจากสาหร่าย , องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ( อพวช.) มีกิจกรรมนิทรรศการ หัวข้อ SCI on the Move คือ นิทรรศการอินเตอร์แอคทีฟที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันและธรรมชาติรอบตัว นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมของเยาวชนอีกมากมาย อาทิ ประดิษฐ์ตุ๊กตากลิ้งม้วน ประดิษฐ์ภูเขาไฟในขวด ฟองเต้นระบำ เป็นต้น

          รศ.ดร.วีระพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงวิทย์ฯลฯ พร้อมให้บริการในทุกๆ ด้าน ตั้งแต่ความพร้อมของสถานที่ ระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ระบบจราจรภายในสถานที่ การรักษาความปลอดภัย การปฐมพยาบาล การต้อนรับ และจัดคิวลำดับชมงาน พร้อมเจ้าหน้าที่ที่มีประสบการณ์ในการดูแลและอำนวยความสะดวกแก่นักเรียน เยาวชน และผู้เข้าเยี่ยมชมงานที่มาเป็นหมู่คณะ

          โดยเฉพาะในปีนี้ ทางองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ( อพวช.) ได้ดำเนินการด้านการตลาดล่วงหน้าโดยการเชิญไปยังโรงเรียนต่างๆ กว่า 40,000 โรงเรียนทั่วประเทศ และขณะนี้มียอดจองเข้าชมงานเป็นหมู่คณะ แล้วประมาณ 400,000 คน และคาดว่าในปีนี้จะมีผู้เข้าชมตลอดการจัดงานไม่น้อยกว่า 1.25 ล้านคน นั่นแสดงถึงผลสำเร็จในการจัดงานที่ผ่านมา เป็นที่สร้างความประทับใจแก่ผู้ที่ได้เข้าชมงาน

          รศ.ดร.วีระพงษ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ และทุกหน่วยงานพร้อมแล้ว ที่จะนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์ และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี จัดแสดงแก่ประชาชนทุกคน โดยเฉพาะการที่จะกระตุ้นและสร้างบันดาลใจแก่เยาวชนไทย ในการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เป็นรากฐานสำคัญต่อการใช้ชีวิต และการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในวันข้างหน้า ทั้งนี้ เยาวชน ครอบครัว และประชาชนทั่วไป สามารถเข้าชมงาน “มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2556” ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันที่ 6 - 21 สิงหาคม 2556 เวลา 09.00 - 20.00 น. ณ ไบเทค บางนา และ งานเทคโนมาร์ท ในวันที่ 14 - 18 สิงหาคม ณ ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ เวลา 10.00 – 20.00 น.

          สำหรับโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาที่ต้องการเข้าชมเป็นหมู่คณะ ติดต่อ 02 577 9960

          ส่วนเวลาที่เหมาะสมของการเข้าชมสำหรับประชาชนทั่วไป จันทร์-ศุกร์ เวลา 15.00 - 20.00 น. และเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่ 09.00 – 20.00 น.

          นอกจากนี้ยังสามารถพบกับ 2 พรีเซนเตอร์ของงาน จ่อย (พงศกร เมตตาริกานนท์) และ พลอย ภัทรากร ตั้งศุภกุล) แห่งละครคุณชายรัชชานนท์ได้ภายในงาน ติดตามข้อมูลข่าวสารและรายละเอียดงานได้ที่ www.nstf2013.com / www.facebook.com/nstf2013 / instagram ที่ nst2013thailand call center 1313 และสนใจเข้าชมเป็นหมู่คณะโทร. 02-5779960
« Last Edit: August 01, 2013, 10:05:28 PM by MSN »

MSN on August 05, 2013, 10:04:14 PM
กระทรวงวิทย์ฯ เตรียมจัดงาน มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2556


 
          กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) โดย องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) พร้อมจัดงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2556 (National Science and Technology Fair 2013) ภายใต้แนวคิด ‘‘ทันโลกทันวิทย์ จุดประกายความคิด สู่อาเซียน’’ อย่างยิ่งใหญ่ บนพื้นที่ 42,000 ตารางเมตร เต็มพื้นที่ไบเทค บางนา พบกับกิจกรรมไฮไลท์ตื่นตา ตื่นใจ ไปกับโลกวิทยาศาสตร์ ระหว่างวันที่ 6 - 21 สิงหาคมนี้ และผนวกงานเทคโนมาร์ท ระหว่าง วันที่ 14 - 18 สิงหาคม ที่ลานหน้าเซ็นทรัลเวิรด์

          ภายในงานมีไฮไลท์ที่น่าสนใจไม่ควรพลาด อาทิ นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ ร.4 และ ร.9 นิทรรศการพลังงานเพื่ออนาคต เรื่อง วิกฤติพลังงาน ให้ผู้เข้าชมได้มีส่วนร่วมในการแสดงบทบาท ฮีโร่ช่วยโลกจากวิกฤติพลังงาน นิทรรศการ “ภูมิปัญญาสู่นวัตกรรมการจัดการน้ำ” เรื่อง การเดินทางของน้ำ ร่วมผจญภัยตามสายน้ำไปกับ Simulator ที่จะพาผู้ชมไปดูตั้งแต่ต้นกำเนิดของสายน้ำไปจนถึงมหาสมุทร และนิทรรศการที่น่าสนใจจากไทยและต่างประเทศจำนวนมาก

          นอกจากนี้ยังสามารถพบกับ 2 พรีเซนเตอร์ของงาน เต้ย (พงศกร เมตตาริกานนท์) และ พลอย (ภัทรากร ตั้งศุภกุล) แห่งคุณชายรัชชานนท์ได้ภายในงาน สำหรับโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาที่ต้องการเข้าชมเป็นหมู่คณะ ติดต่อ 02 577 9960 ส่วนเวลาที่เหมาะสมของการเข้าชมสำหรับประชาชนทั่วไป จันทร์-ศุกร์ เวลา 15.00 - 20.00 น. และเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่ 09.00 – 20.00 น.

          ติดตามข้อมูลข่าวสารและรายละเอียดงานได้ที่ www.nstf2013.com / www.facebook.com/nstf2013 / instagram ที่ nst2013thailand call center 1313

MSN on August 09, 2013, 08:52:18 AM
ทันโลก ทันวิทย์ ในงาน“มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2556”










 
          เริ่มแล้วอย่างยิ่งใหญ่งาน “มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2556” ภายใต้แนวคิด “ทันโลกทันวิทย์ จุดประกายความคิด สู่อาเซียน” พบกับกิจกรรมไฮไลท์ทางวิทยาศาสตร์ที่น่าสนใจ “ชิมีร่า” หุ่นยนต์จากจินตนาการที่ผสมผสานสัตว์ 3 สายพันธุ์จากญี่ปุ่น การทำหมันแมลงวันทอง การผลิตน้ำมันที่สกัดจากสาหร่าย และ ตื่นตาตื่นใจกับความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทั้งของไทยและเทศอีกมากมาย พร้อมเปิดตัว 2 พรีเซ็นเตอร์ของงาน เต้ย พงศกร เมตตาริกานนท์ และ พลอย ภัทรากร ตั้งศุภกุล แห่งละครสุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอน คุณชายรัชชานนท์ ที่มาชวนให้อัพเดทวิทยาศาสตร์ในวันเปิดงาน เริ่มแล้ว 6 – 21 สิงหาคม 2556 นี้ เต็มพื้นที่ไบเทค บางนา และ 14 – 18 สิงหาคม 2556 ที่ลานหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์

          ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา - 6 สิงหาคม : ดร. พีรพันธุ์ พาลุสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2556 จัดขึ้นเนื่องในสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ โดยกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว “พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย” และ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพล- อดุลยเดช “พระบิดาแห่งเทคโนโลยีของไทย” และ “พระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย” โดยกิจกรรมนี้นับเป็นกิจกรรมด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศ และในภูมิภาคเอเชีย จากการผนึกกำลังทั้งภาครัฐและเอกชน จากในและต่างประเทศกว่า 150 หน่วยงาน ซึ่งพร้อมนำองค์ความรู้และผลงานที่แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าและศักยภาพทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมมาจัดแสดงให้คนไทยได้ชม เพื่อกระตุ้นความสนใจและเสริมสร้างแรงบันดาลใจในการนำวิทยาศาสตร์ไปต่อยอดเพื่อพัฒนาชีวิต และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศต่อไป

          โดยไฮไลท์สำคัญของปีนี้ยังคงเป็นนิทรรศการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว “พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย” พบกับนิทรรศการย้อนอดีตไปเมื่อร้อยกว่าปีก่อน ย้อนรอยสยามประเทศ เปิดประตูสู่โลกตะวันตก การเปิดรับวิทยาการ และการเริ่มต้นกำหนดเวลามาตรฐาน “หอนาฬิกาภูวดลทัศนัย” และ พระอัจฉริยภาพในการคำนวณการเกิดสุริยุปราคา โดยมีไฮไลท์สำคัญเป็น “เครื่องฉายดาว” และอุปกรณ์มัลติมีเดียซึ่งสามารถแสดงภาพกลุ่มดาวได้อย่างแม่นยำและสวยงาม ขณะเดียวกัน ยังมีนิทรรศการเทิดพระเกียรติที่แสดงให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช “พระบิดาแห่งเทคโนโลยีของไทย” และ “พระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย” ที่ทรงนำเอาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาทดลองประยุกต์ใช้ พบกับนิทรรศการ “บ้านของพ่อ ห้องทดลองมีชีวิต” และโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ รวมทั้งยังมีการนำเสนอผลงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของพระบรมวงศานุวงศ์อีกด้วย

          ที่สำคัญปีนี้ยังเป็นปีสากลแห่งความร่วมมือเรื่องน้ำ ตามมติขององค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) จึงได้จัดให้มีโซนพิเศษที่จัดแสดงนิทรรศการและกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำ อาทิ ล่องนาวาไปกับ “Simulator 4D” ที่จะพาผู้ชมร่วมผจญภัยไปกับการเดินทางของสายน้ำ เริ่มจากหยดน้ำเล็ก ๆ จนถึงมหาสมุทร อีกเรื่องที่พลาดไม่ได้ คือ การสัมผัสกับ “หุ่นยนต์ชิมีร่า” จากประเทศญี่ปุ่น สัตว์ในจินตนาการที่ผสมผสานสัตว์ 3 สายพันธุ์ คือ เสือ แพะ และงู โดยมีความสูงขนาดเท่าคนจริงและเคลื่อนไหวได้ด้วยระบบไฮโดรลิกค์ นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอีกมายมาย อาทิ ห้องปฎิบัติการวิทยาศาสตร์ , ลานกิจกรรมพัฒนา ปัญญาเยาว์ สำหรับเด็กก่อนวัยเรียน , เวทีส่วนกลาง เพื่อจัดกิจกรรมหมุนเวียนตลอดงาน , ลานกิจกรรมประกวดการแข่งขันทางวิทยาศาสตร์ , แสดงผลงานและสิ่งประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตร์ , ห้องฉายภาพยนตร์ทางวิทยาศาสตร์ , กิจกรรมประชุมสัมมนา , กิจกรรมการอบรมสาธิตเพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีสร้างอาชีพ ตลอดจนการแสดงสินค้าเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ อีกมากมาย

          รศ.ดร.วีระพงษ์ แพสุวรรณ ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า งานนี้เป็นการผนึกกำลังครั้งยิ่งใหญ่ของ 6 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงกลาโหม , กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ , กระทรวงศึกษาธิการ, กระทรวงสาธารณสุข , กระทรวงคมนาคม , กระทรวงอุตสาหกรรม และอีก 16 หน่วยงานในสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นอกจากนั้น ยังได้รับความร่วมมือจากอีก 7 ประเทศ คือ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ญี่ปุ่น จีน รัสเซีย ฝรั่งเศส และออสเตรเลีย ที่ยินดีนำผลงานความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในประเทศของตนมาจัดแสดงในงานนี้โดยเฉพาะ ประกอบกับมีหน่วยงานอีกมากมาย อาทิ สมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ สภาสมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย มหาวิทยาลัย หน่วยงานเอกชน ชมรม และพิพิธภัณฑ์ต่างๆ รวมทั้งผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน ที่พร้อมนำนวัตกรรมทางด้านวิทยาศาสตร์ การค้นคว้าใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์มาจัดแสดงและให้ความรู้ในงานเป็นจำนวนมาก เต็มพื้นที่บนไบเทค บางนา โดยในส่วนของหน่วยงานเหล่านี้มีไฮไลท์ที่น่าสนใจมากมาย เช่น การจัดแสดงดาวหางจำลอง และการนำอุกกาบาตจากนอกโลกมาโชว์ให้เด็กๆ ได้ชม การผลิตน้ำมันที่สกัดจากสาหร่าย หุ่นยนต์นะโมและรถไฟฟ้า การฉายแสงซินโครตรอน แสงแห่งอนาคต (light for the future) รวมถึงการค้นพบมดชนิดใหม่ของโลกในประเทศไทยที่เพิ่งได้รับพระราชทานนามว่า “มดต้นไม้สิรินธร” เป็นต้น

          รศ.ดร.วีระพงษ์ฯ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า งานมหกรรมวิทยาศาสตร์ฯ ในปีนี้ยังจัดยิ่งใหญ่กว่าทุกปี เนื่องจากได้รวมเอากิจกรรมวันเทคโนโลยีไทย หรืองาน “เทคโนมาร์ท” ที่ปกติจะจัดขึ้นในช่วงวันเทคโนโลยีไทย 19 ตุลาคม ของทุกปี มาอยู่ในงานนี้ด้วย เพื่อให้เกิดความยิ่งใหญ่ในระดับอาเซียน โดยในส่วนนี้กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ จะทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการนำผู้ประกอบการ และผู้ซื้อหรือผู้ใช้เทคโนโลยีมาพบกัน รวมทั้งจัดแสดงนิทรรศการเพื่อเผยแพร่ผลงานทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมของคนไทย ตลอดจนสร้างโอกาสการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อส่งเสริมให้เกิดแรงบันดาลใจในการคิดค้น พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์อันจะเป็นการต่อยอดไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศในระยะยาว ผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมงาน

          ในส่วนนี้ได้ตั้งแต่วันที่ 6 – 21 สิงหาคม 2556 ที่ Hall 6 ไบเทค บางนา และวันที่ 14 – 18 สิงหาคม 2556 ที่ลานหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์

          ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ยังกล่าวตอกย้ำถึงความพร้อมในการบริหารจัดการในทุก ๆ ด้านสำหรับการรองรับผู้เข้าชมที่หลั่งไหลมาเข้าชมงานไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคนในแต่ละปีว่า “กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ และทุกหน่วยงานนี้ร่วมจัดงาน พร้อมแล้วที่จะให้บริการในทุกๆ ด้าน ตั้งแต่ความพร้อมของสถานที่ ระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ระบบจราจรภายใน การรักษาความปลอดภัย การปฐมพยาบาล การต้อนรับ และจัดลำดับการเข้าชมงาน พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ที่มีประสบการณ์ในการดูแลนักเรียน เยาวชน และผู้เข้าเยี่ยมชมงานที่มาเป็นหมู่คณะ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าชมตลอดระยะเวลาของการจัดงานอีกด้วย

          ทั้งนี้ เยาวชน ครอบครัว และประชาชนทั่วไป สามารถเข้าชมงาน “มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2556” ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันที่ 6 - 21 สิงหาคม 2556 เวลา 09.00 - 20.00 น. ณ ไบเทค บางนา และ ในวันที่ 14 - 18 สิงหาคม 2556 ณ ลานหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เวลา 10.00 – 20.00 น. สำหรับโรงเรียนหรือสถาบันต่าง ๆ ที่ต้องการเข้าชมเป็นหมู่คณะ ติดต่อจองเข้าชมได้ที่ โทร. 0 2577 9960

          นอกจากนี้ ยังสามารถพบกับ 2 พรีเซ็นเตอร์ของงาน เต้ย พงศกร เมตตาริกานนท์ และพลอย ภัทรากร ตั้งศุภกุล แห่งละครสุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอนคุณชายรัชชานนท์ ได้ภายในงาน และติดตามข้อมูลข่าวสารและรายละเอียดงานได้ที่ www.nstf2013.com/ www.facebook.com/nstf2013/ instagram ที่ nst2013thailand และ call center 1313

MSN on August 14, 2013, 08:19:41 AM
“ซินโครตรอน” ร่วมโชว์เทคโนโลยี “มหกรรมวิทย์ฯ 56”

 

          สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน ร่วมจัดนิทรรศการ “แสงซินโครตรอน มากคุณประโยชน์ เพิ่มคุณภาพชีวิต” พร้อมแสดงผลงานวิจัยเด่นใน “งานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2556” กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ณ ไบเทคบางนา 6- 21 ส.ค. นี้

          ศาสตราจารย์ นาวาอากาศโท ดร.สราวุฒิ สุจิตจร ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน จ.นครราชสีมา กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยว่า “สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) ได้เข้าร่วมจัดนิทรรศการวิชาการในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2556 ของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-21 สิงหาคม 2556 ณ ศูนย์การจัดแสดงนิทรรศการไบเทค บางนา

          โดยสถาบันฯ ได้รับการจัดสรรพื้นที่ในการจัดนิทรรศการครั้งนี้รวมกว่า 200 ตารางเมตร แบ่งการจัดนิทรรศการที่น่าสนใจออกเป็น 4 โซนหลัก คือ

          โซนที่ 1. การแสดงนิทรรศการแนะนำให้ความรู้เรื่องแสงซินโครตรอน รวมถึงแสดงผลงานวิจัยเด่นจากการใช้เทคโนโลยีแสงซินโครตรอน (Research Highlights) 1. การคัดแยกสายพันธุ์ไก่เนื้อโคราช ด้วยกล้องจุลทรรศน์อินฟราเรด 2.การพัฒนาชุดแสดงผลอักษรเบรลล์ 10 เซลล์ ด้วยแสงซินโครตรอน 3. การตรวจวินิจฉัยโรคมะเร็งตับจากเซรั่ม ด้วยเทคนิคกล้องจุลทรรศน์อินฟราเรด 4. การศึกษาตัวเร่งปฏิกิริยาเชิงแสงด้วยแสงซินโครตรอน เพื่อผลิตไฮโดรเจนจากกระบวนการแยกน้ำ 5. แสงซินโครตรอนกับงานวิจัยด้านอุตสาหกรรม 6. เครื่องเคลือบกระจกฝีมือคนไทย

          โซน ที่ 2. ฐานการทดลองในรูปแบบ (Hands on experiments) เยาวชนจะได้สัมผัสเรียนรู้และทดลองด้วยตัวเอง ซึ่งในส่วนนี้จะมีฐานการทดลองย่อย 5 ฐานการทดลอง ประกอบไปด้วย 1. วงแหวนกระโดดจากแรงแม่เหล็กไฟฟ้า 2. เม็ดโฟมเต้นระบำด้วยคลื่นเสียง 3. รถพลังงานแสงอาทิตย์ 4. มหัศจรรย์ลวดหมุนได้ 5. ตรวจสอบแบงค์ปลอมด้วยแสงยูวี

          โซนที่ 3. เวทีกิจกรรมบนเวที (Science Show) พบกับการตอบคำถาม เล่นเกมส์รับของรางวัลมากมายจาก Pretty สาวสวยที่จะมาให้ความรู้เรื่องแสงซินโครตรอน และการจัดแสดงโชว์วิทยาศาสตร์มากมาย

          โซนที่ 4 ห้องฉายภาพยนตร์ 3 มิติ Mr.Synchrotron เด็กๆ จะได้พบกับพี่ซินโครตรอนกับเพื่อนพ้อง
         
          จึง ขอเชิญชวนประชาชนและเยาวชน เข้าเยี่ยมชมบูธของสถาบันแสงซินโครตรอน ได้ในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2556 ซึ่งจะได้ทั้งความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และได้สัมผัสและเรียนรู้เกี่ยวกับห้องปฏิบัติการแสงสยามแห่งเดียวของไทยและ แห่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน ภายในงานนี้ ศาสตราจารย์ นาวาอากาศโท ดร.สราวุฒิ กล่าวในตอนท้าย

MSN on August 15, 2013, 08:54:55 AM
กองทัพดารา แห่เยี่ยมชมงานงานมหกรรมวิทย์ฯ 2556 อย่างคึกคัก
 




          งานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติประจำปี 2556 เปิดมาได้เพียง 4 วันได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จากเยาวชน นักเรียนและประชาชนทั่วไปหลายหมื่นคนมาเข้าชมนิทรรศการและร่วมกิจกรรมวิทยาศาสตร์ไม่ขาดสายในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีกองทัพดารา นักแสดง ตบเท้ามาร่วม

          ชมงานกันคับคั่ง อาทิ 2 พรีเซนเตอร์ของงาน เต้ย (พงศกร เมตตาริกานนท์) และ พลอย (ภัทรากร ตั้งศุภกุล) แห่งคุณชายรัชชานนท์ สร้างสีสัน โชว์จาก ซัน ประชากร เพิ่มความคึกคัก สนุกสนาน และพบกับความบันเทิงเต็มรูปแบบ ด้วยการแสดงมินิคอนเสิร์ต จากศิลปินดัง “รับเทศกาลวันแม่” เริ่มด้วย
          10 สค. มินิ คอนเสิร์ต ของแหนม รณเดช
          11 สค. มินิ คอนเสิร์ต ของปนัดดา เรืองวุฒิ
          12 สค. พบกับพรีเซนเตอร์ เต้ย-พลอย
          13 สค. มินิ คอนเสิร์ต ของลูกหว้า พิจิกา
          14 สค. มินิคอนเสิร์ต ของโบว์ เอเอฟ 5
          15 สค. มินิคอนเสิร์ต ของซานิ เอเอฟ 6
          16 สค. พบกับพรีเซนเตอร์ เต้ย-พลอย

          พบกับกิจกรรมไฮไลท์ตื่นตา ตื่นใจ ไปกับโลกวิทยาศาสตร์และสนุกสนานบันเทิงไปกับเหล่าดาราที่ผลัดกันมาเยี่ยมชมสร้างความบันเทิงได้ที่งาน งานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2556 ตั้งแต่วันนี้จนถึง 21 สิงหาคมนี้ที่ไบเทค บางนา

MSN on August 15, 2013, 09:00:24 AM
พบสุดยอดเก้าอี้เข็นคนไข้ ที่เป็นฝีมือคนไทย ในงานมหกรรมวิทย์ 2556 ที่ไบเทค บางนา




          งานมหกรรมกระทรวงวิทย์ฯ 2556 เปิดโซนเทคโนโลยีทางการแพทย์อย่างสุดยอด พบกับรายละเอียดวิวัฒนาการทางการแพทย์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และเชิญชมนวัตกรรมเครื่อง MRI และเครื่อง CT SCAN จำลองเสมือนจริง สามารถตรวจค้นเซลล์มะเร็งในร่างกาย พร้อมชมเก้าอี้เข็นคนไข้ฝีมือคนไทย พร้อมสรรสาระด้านการแพทย์หลากรูปแบบที่ ไบเทค บางนา

          การจัดงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ในปีนี้ มีหลากหลายโซนที่น่าสนใจมากมาย โดยเฉพาะโซนการแสดงด้านนวัตกรรมทางการแพทย์ โดยองค์ประกอบของโซนนี้อยู่ที่การเผยแพร่เรื่องราววิวัฒนาการทางการแพทย์ของบุคคลสำคัญของโลก ตั้งแต่ก่อนสมัยคริสตกาลไปจนถึงปัจจุบัน อาทิ ฮิมโฮเทป (Imhotep) ชาวอียิปต์ ถือเป็นเทพเจ้าทางการแพทย์ที่เขียนตำราแพทย์ลงบนกระดาษที่ชื่อว่า “ดิอีเบอร์ปาปิรุส” หรือในปี 1628 มีนักวิทยาศาสตร์ชื่อ วิลเลียม ฮาร์วี ผู้ค้นพบว่าเลือดของเรามีการไหลเวียนไปในทางเดียวกันและมีการไหลเวียนในหลอดเลือด และฮาร์วี ก็เรียก “หัวใจ” เป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่ปั้มหรือสูบฉีดเลือดไปทั่วร่างกาย ซึ่งผู้ชมงานจะได้เพลิดเพลินกับความรู้เพิ่มเติมประวัติศาสตร์วิวัฒนาการทางการแพทย์ในอดีตจนถึงปัจจุบัน และบุคคลสำคัญทางการแพทย์ที่มีชื่อเสียงที่มีบทบาทสำคัญทำให้วงการแพทย์เจริญก้าวหน้าเป็นที่ยอมรับอย่างสากล

          นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงเทคโนโลยีและอุปกรณ์ในการรักษา โดยเฉพาะการให้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องตรวจสุขภาพ MRI และเครื่องตรวจมวลสภาวะของกระดูก CT SCAN ที่ใช้ตรวจโรคร้ายแรงได้อย่างละเอียด อาทิ การตรวจก้อนเนื้องอกของมะเร็งและอวัยวะภายในต่างๆ การตรวจต่อมน้ำเหลือง การตรวจรอยแตกร้าวของกระดูกหักหรือข้อต่อต่างๆ ซึ่งมีการจำลองตัวเครื่องเสมือนจริงมาให้ชมกันอย่างใกล้ชิด รวมถึงได้จำลองการทำงานให้คนไข้สอดตัวผ่านอุโมงค์ (MRI) ที่ใช้ในการตรวจหาโรคร้าย ที่ให้ผลที่ชัดเจนแม่นยำ แต่ไม่ส่งผลต่อร่างกายของคนไข้แต่อย่างใด

          ในโซนนี้ ยังมีการจัดแสดงเก้าอี้เข็นคนไข้ ที่เป็นฝีมือคนไทย ซึ่งได้มีการพัฒาโดยทีมนักศึกษาและคณาจารย์จากคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตธัญบุรี ซึ่งเป็นเก้าอี้เข็นคนไข้ ที่ผลิตในประเทศ แต่มีประสิทธิภาพการใช้งานได้ดี มีสมรรถนะการใช้งานคงทน แต่เมื่อราคาถูกกว่าสินค้าที่ผลิตจากต่างประเทศเกือบเท่าตัว ซึ่งถือเป็นการช่วยให้คนไข้ ให้มีทางเลือกในราคาที่เหมาะสม ภายในโซน ยังมีการจัดแสดงยาสมุนไพร และต้นไม้สมุนไพรหลากหลายชนิด มีการจัดนิทรรศการการให้

          ความรู้เกี่ยวกับวงการแพทย์แผนไทย ที่ให้รายละเอียดเรื่องราวของ การนวดแผนไทย การนวดประคบ รวมถึงมีสวนสมุนไพรจำลอง ที่นำพืชสมุนไพร ที่มีฤทธิ์ในการรักษาต่างๆ ซึ่งเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยขนานแท้ ที่คนรุ่นใหม่ๆ อาจจะไม่ทราบว่าจะใช้รักษาโรคได้ ซึ่งมีพืชหลากหลายชนิด ที่เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะพืชผักสวนครัว แต่มีสรรพคุณในการรักษาโรคต่างๆ ได้ อาทิ เช่น กระเพา กระเจี้ยบ ต้นไม้กระทืบโรง เป็นต้น อื่นๆ ที่น่าสนใจอย่างเช่น นิทรรสการเทคโนโลยีทางการแพทย์ในอนาคตข้างหน้า อย่างเช่น เรื่องของเซลล์ต้นกำเนิดสเต็มเซลล์ และนวัตกรมการรักษาจากเซลล์ต้นกำเนิด หรือในเรื่องของศาสตร์ทางด้านการฝังเข็ม ซึ่งจัดโดยการแพทย์แผนจีน จากมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ การแสดงหุ่นกายวิภาคร่างกายมนุษย์ โดยการแพทย์อายุรเวท มหาวิทยาลัยรังสิต ทั้งนี้เทคโนโลยีและสาระความรู้ที่หลากหลายเหล่านี้ รอให้คุณได้สัมผัส ได้แล้วที่งานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2556 ได้แล้วที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนาและนิทรรศการเทคโนมาร์ทวันที่ 14-18 สิงหาคม 2556 ณ ลานเซ็นทรัลเวิลด์

MSN on August 16, 2013, 08:50:11 AM
Bosch CCTV ร่วมกิจกรรมงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติประจำปี 2556








 
งานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติประจำปี 2556 จัดโดยกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด "ทันโลก ทันวิทย์ จุดประกายความคิด สู่อาเซียน" เพื่อจุดประกายให้เยาวชนไทย มีความสนใจวิทยาศาสตร์มากขึ้น เนื่องจากเป็นความรู้พื้นฐานในการพัฒนานวัตกรรม พร้อมมอบรางวัลให้แก่สิ่งประดิษฐ์ฝีมือคนไทยมีตั้งแต่วันที่ 6–21 สิงหาคมนี้ เวลา 09.00 – 20.00 น. ณ ศูนย์การแสดงสินค้าไบเทค บางนา         

บริษัท โรเบิร์ต บ๊อช จำกัด โดยฝ่ายระบบรักษาความปลอดภัย Bosch ได้ร่วมกิจกรรมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ด้วยการเป็นส่วนหนึ่งของการให้ความรู้แก่เยาวชน และผู้เข้าร่วมชมงานด้วยการสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของพลังงานไฟฟ้า ภายในบูทของ กฟผ. ได้มีการจำลองห้องเพื่อเห็นถึงบรรยากาศของการใช้พลังงานไฟฟ้า โดย Bosch ได้ใช้นำเทคโนโลยีกล้องวงจรปิด (CCTV) รุ่น DINION starlight HD 720p กล้อง HD ที่มีการทำงานด้วยความไวแสงสูงสุด และทำงานได้ดีในสภาวะแสงน้อย ซึ่งกล้องนี้จะจับภาพห้องจำลองในสภาวะที่ไม่มีพลังงานไฟฟ้ามาใช้ เพื่อผู้เยี่ยมชมห้องจำลองได้ตระหนึกถึงความสำคัญของพลังงานไฟฟ้า นอกจากนี้ ภายในบูธของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยจะมีกิจกรรม บอร์ดนิทรรศการที่น่าสนใจ และของที่ระลึกอีกมากมาย เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับ นิวเคลียร์ ถ่านหิน และพลังงานทดแทน โดยน้ำมัน ถ่านหิน และแก๊สธรรมชาติที่ต่างก็มีอยู่จำกัดและหมดไป ดังนั้นพลังงานทดแทน จึงเป็นเรื่องที่ต้องเตรียมไว้ ก่อนที่จะเกิดวิกฤติพลังงาน

MSN on August 16, 2013, 08:51:26 AM
“กังหันลมแนวแกนตั้ง” นวัตกรรมเพื่อพลังงานทางเลือกในงานมหกรรมวิทย์ 2556 ติดตั้งได้ทุกพื้นที่ ผลิตไฟได้ตลอดเวลา
 
 
 
          งานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติประจำปี 2556 เป็นงานมหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและในแถบอาเซียน ที่พลาดไม่ได้เป็นศูนย์รวมความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมการคิดค้นใหม่ๆ ที่พัฒนาขึ้นมาทุกปี

          ภายในปีนี้ผู้ร่วมงานนอกจากจะได้พบกับประสบการณ์ใหม่ที่หน่วยงานต่างๆ นำมาวิจัยความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ นวัตกรรมการคิดค้นเรื่องพลังงานทางเลือกก็มีจุดไฮไลต์ที่น่าสนใจไม่น้อยพลังงาน เทคโนโลยีเพื่ออนาคต กระแสพลังงานทางเลือกที่เคยเป็นแค่ “ทางเลือกเล็กๆ” ปัจจุบันกำลังกลายเป็นทางเลือกที่ขยายใหญ่ขึ้น อันเนื่องมาจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นของสังคม ทั้งการใช้แก๊ส LPG หรือ NGV เพื่อการขนส่ง และการใช้พลังงานธรรมชาติเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า เช่น โซลาร์เซลล์ และพลังงานลม

          “กังหันลมแนวแกนตั้ง” เป็นนวัตกรรมเพื่อการผลิตกระแสไฟฟ้าล่าสุด ที่ถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นโดย สำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีร่วมกับสถาบันไทย-เยอรมัน และ บริษัท ไทย ไดนามิค มาสเตอร์ จำกัด ร่วมกับภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้านการวิจัยและออกแบบด้วยวัตถุประสงค์เพื่อการพัฒนาเทคโนโลยีขึ้นใช้เองภายในประเทศ และต้องการนำพลังงานลมมาใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า

          กังหันลมแบบแนวแกนตั้ง มีความสูงประมาณสามเมตร และใบพัดซึ่งเป็นไฟเบอร์จำนวนสามใบยาวประมาณสองเมตร โดยมีหลักการทำงานเช่นเดียวกับกังหันลมทั่วไปคือ ใช้ลมในการหมุนใบพัดและเปลี่ยนพลังงานจลน์ให้เป็นพลังงานไฟฟ้าด้วยเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ติดอยู่กับแกนหมุนของกังหันลม และมีการติดตั้งเครื่องควบคุมกระแสไฟฟ้า เพื่อทำให้กระแสไฟฟ้าที่ได้มีค่าคงที่ ซึ่งกระแสไฟฟ้าที่ได้สามารถนำไปใช้ได้โดยตรงหรือผ่านเครื่องแปลงกระแสไฟฟ้าเพื่อชาร์จเข้าสู่แบตเตอรี่

          ข้อดีของกังหันลมแนวแกนตั้งนี้คือ แกนหมุนตั้งฉากกับทิศทางลมทำให้สามารถรับลมได้ทุกทิศทาง สามารถผลิตไฟฟ้าได้ด้วยความเร็วลมต่ำเพียง 1-7 เมตร/วินาที มีเสียงรบกวนต่ำ มีความแข็งแรงทนทางสูงอายุการใช้งานนานหลายสิบปี ติดตั้งได้ทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ที่มีลมแรงหรือไม่ก็ตาม โดยกังหันลม 1 ตัวสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 2 กิโลวัตต์ เพียงพอสำหรับการใช้งานในบ้าน สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้กำลังไฟสูงมาก

          ขณะนี้กังหันลมแนวแกนตั้งถือว่ายังอยู่ระหว่างการพัฒนา ยังไม่มีการจำหน่าย แต่ผู้สนใจสามารถไปชมและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในส่วนของการแสดงเทคโนโลยีเครื่องจักรกล ภายในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ปี 2556 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 21 สิงหาคม 2556 นี้ และงานเทคโนมาร์ทวันที่ 14-18 สิงหาคมนี้ ณ ลานเซ็นทรัลเวิร์ล

MSN on August 16, 2013, 08:52:38 AM
ภาพข่าว: ซัมซุงรับโล่ห์ร่วมสนับสนุนมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2556


 
           นายสมพงษ์ คัมภีริชยา ผู้จัดการฝ่ายการตลาดกลุ่มธุรกิจลูกค้าองค์กร บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด (ขวา) ขึ้นรับโล่ห์จากดร.พีรพันธุ์ พาลุสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ซ้าย) ในโอกาสที่ซัมซุงให้การสนับสนุนมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2556 พร้อมร่วมจัดแสดงนิทรรศการซัมซุง สมาร์ท สคูล (Samsung Smart School) หนึ่งในโซลูชันเพื่อพัฒนาการศึกษาจากซัมซุง เพื่อสร้างบรรทัดฐานใหม่ของการศึกษาแบบอินเตอร์แอคทีฟในยุคดิจิตอล พร้อมมุ่งมั่นร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับการเรียนการสอนพื้นฐานสู่ความเป็นเลิศของการศึกษาไทย นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจากดร.พีรพันธุ์ เยี่ยมชมนิทรรศการที่บูธซัมซุงอีกด้วย

          ทั้งนี้ งานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2556 จัดขึ้น ไปจนถึงวันที่ 21 สิงหาคม 2556 ณ ไบเทค บางนา โดยขอเชิญชวนเยาวชนที่สนใจร่วมเยี่ยมชมบูธซัมซุง ได้ตลอดระยะเวลาการจัดงาน ตั้งแต่เวลา 9.00-20.00 น.

MSN on August 16, 2013, 09:26:02 AM
มหกรรมงานวิทย์ฯ ปีนี้ ดาราศาสตร์จัดหนักทั้งดาวหาง อุกกาบาตนอกโลก แถมยกท้องฟ้าจำลองยักต์และห้องควบคุมกล้องโทรทรรศน์ระยะไกลตั้งกลางไบเทค




 
           สถาบันวิจัยดาราศาสตร์(องค์การมหาชน) (สดร.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดมสุดยอด นิทรรศการความรู้ เทคโนโลยีและกิจกรรมดาราศาสตร์ ร่วมเฉลิมฉลองการมาเยือนของ “ดาวหางไอซอน” ปลายปีนี้ ชวนสัมผัส “อุกกาบาต” แท้ๆ อายุมากกว่า 4,000 ปี ยกท้องฟ้าจำลองยักษ์มาตั้งกลางไบเทค และพิเศษสุด!! พลาดไม่ได้กับ

          “ห้องควบคุมกล้องโทรทรรศน์ระยะไกล” ที่สามารถควบคุมกล้องโทรทรรศ์ที่ประเทศชิลีได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส และอีกหลากหลายนิทรรศการและกิจกรรมทางดาราศาสตร์ ณ Hall 101 “มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติประจำปี 2556 ระหว่างวันที่ 6-21 สิงหาคม 2556 ณ ศูนย์นืทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา

          นานาสาระเกี่ยวกับ “ดาวหาง”
          พบกับ “ดาวหางจำลอง” ต้อนรับการมาเยือนของดาวหางไอซอน ดาวหางแห่งศตวรรษที่คาดว่าจะสว่างกว่าดวงจันทร์ และอาจมองเห็นได้ในเวลากลางวัน นิทรรศการหลากหลายความรู้เกี่ยวกับดาวหางเพื่อร่วมฉลอง 2013 Year of Comets ปีแห่งอย่างง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง ทุกเสาร์ อาทิตย์ ที่บูธสถาบันฯ

          อุกาบาต
          สัมผัสวัตถุจากฟากฟ้า “อุกกาบาต” จากนอกโลก (Campo del Cielo) ของแท้ !!! ที่มีองค์ประกอบหลักเป็นเหล็กและนิเกิล ตกมาสู่พื้นโลกเมื่อประมาณ 4,000-5,000 ปีที่แล้ว พบในประเทศอาร์เจนตินา ห่างจากกรุงบัวโนสไอเรส ประมาณ 1,000 กิโลเมตร พิเศษ!!! แจกอุกกาบาตของแท้จากอาร์เจนตินาทุกวันที่บูธสถาบันฯ

          ดาราศาสตร์กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
          สาระความรู้เกี่ยวกับดาราศาสตร์กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเกิดยุคน้ำแข็ง (Ice Ages) และภาวะโลกร้อน

          นิทรรศการ “มหัศจรรย์ภาพถ่ายทางดาราศาสตร์”
          ตื่นตาตื่นเต้นใจกับความอลังการของมหัศจรรย์ภาพถ่ายทางดาราศาสตร์ฝีมือคนไทย ที่กว่าจะได้มาแต่ละภาพล้วนต้องใช้วิทยายุทธรอบด้าน ทั้งความรู้ทางดาราศาสตร์ เทคนิคการถ่ายภาพและการประมวลผลภาพ พิเศษ!!! กับการบันทึกภาพความประทับใจกับวัตถุอวกาศในห้วงลึกด้วยเทคโนโลยีของกล้องดิจิตอลที่สามารถแชร์กับสมารท์โฟนและอัพโหลดใน Social Network ได้ทันที

          ห้องควบคุมกล้องโทรทรรศน์ระยะไกล
          ยก “ห้องควบคุมกล้องจุลโทรทรรศน์” จากดอยอินทนนท์มาไว้กลางไบเทค ด้วยระบบควบคุมกล้องโทรทรรศน์ระยะไกลที่สามารถควบคุมการหมุนของโดม การหมุนตามพิกัดดาวของกล้องโทรทรรศน์ 2.4 เมตร ที่หอดูดาวแห่งชาติ จังหวัดเชียงใหม่ และกล้องโทรทรรศน์ที่ประเทศชิลี เปิดโอกาสให้น้องๆ สามารถควบคุมการทำงานของกล้องโทรทรรศน์ที่ตั้งอยู่อีกซีกโลกได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส
ท้องฟ้าจำลองยักษ์

          เปิดประสบการณ์ท่องเอกภพไปกับท้องฟ้าจำลองภายใน Digital Dome ขนาดยักษ์จากประเทศรัสเซีย เส้นผ่านศูนย์กลาง 10 เมตร ชมภาพยนต์สามมิติเกี่ยวกับเอกภพ ระบบสุริยะ ภารกิจบนดวงจันทร์ ผ่านระบบท้องฟ้าจำลองดิจอตอลที่ทันสมัยที่สุดในระบบ Analogue of Digital IMAX

          กล้องโทรทรรศน์สะท้อนแสงแบบริชชี-เครเทียน
          กล้องโทรทรรศน์สะท้อนแสง ขนาดผ่านศูนย์กลาง 0.5 เมตร ที่มีความทันสมัยมีขีดความสามารถสูง ค้นหาและติดตามวัตถุท้องฟ้าได่อย่างแม่นยำ ซึ่งจะนำไปติดตั้ง ณ หอดูดาวเฉลิมพนะเกียรติฯ ภูมิภาคสำหรับประชาชนทั้ง 5 แห่ง ได้แก่ นครราชสีมา ฉะเชิงเทรา สงขลา ขอนแก่น และพิษณุโลก

          กิจกรรมเวทีกลาง
          วันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคมคม 2556 เวลา 11:00 น.         
          11:00 น. My Inspiration โดย พี่ไอเดีย “ดรัณภพ พวงสมบัติ” รองยุวทูตดาราศาสตร์ปี 2553 ผู้หลงใหลความมหัศจรรย์ของดวงดาวตั้งแต่ 5 ขวบ ที่ใฝ่ฝันที่จะสร้างสรรค์สื่อเพื่อเสริมภูมิความรุ้ทางวิทยาศาสตร์ให่แก่สังคมไทย
          วันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม 2556 เวลา 11:00 น.
          เผยโฉมผู้ได้รับรางวัลจาการประกวดจากการภาพถ่ายทางดาราศาสตร์ “มหัศจรรย์ภาพถ่ายทางดาราศาสตร์” ประจำปี 2556 ในพิธีมอบรางวัลการประกวดภาพถ่ายทางดาราศาสตร์
          วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม 2556 เวลา 11:00 น.
          สนุกสนานอย่างมีสาระกับ Talk Show สุดพิเศษโดย “ป๋องแป๋ง” แฟนพันธ์แท้นักวิทยาศาสตร์เอกของโลก กับหัวข้อ “Bad Astronomy”
          วันอังคารที่ 20 สิงหาคม 2556 เวลา 10:00-15:00o น.
          พบกับเยาวชนผู้นำแห่งนาริททั้ง 8 ที่จะขึ้นเวทีแสดงความสามารถด้านการสื่อสารวิทยาศาสตร์ เพื่อชิงชนะเลิศ”ยุวทูตดาราศาสตร์ ประจำปี 2556”
          เวลา 14:00น. พิธีประกาศผลและมอบรางวัล ”ยุวทูตดาราศาสตร์ ประจำปี 2556”

          กิจกรรมบูธสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ
          ร่วมสนุกกับกิจกรรม “ดาวหาง..ทำเองได้”
          วันเสาร์ที่ 10 ส.ค. 56 เวลา 11:00/13.00 น.
          วันอาทิตย์ที่ 11 ส.ค. 56 เวลา 11:00/13.00 น.
          วันเสาร์ที่ 17 ส.ค. 56 เวลา 13.00 น.
          วันอาทิตย์ที่ 18 ส.ค เวลา 11:00/13.00 น.
          ร่วมสนุกกับ NARIT

          เพียงแค่มาถ่ายรูปภายในบูธ NARIT แล้วแชร์ภาพผ่าน Facebook ในกลุ่ม “สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ” หรือ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ Fan Page หรือแชร์ภาพทาง Twitter โดยติด #NARIT # SciFest2013 นำมาแสดงที่บูธก็รับของที่ระลึกเก๋ๆได้ทันที

MSN on August 16, 2013, 09:27:41 AM
กระทรวงวิทย์ฯ โชว์ เครื่องตอกเม็ดยาอัตโนมัติ สุดยอดนวัตกรรมแบรนด์ไทย




 
          งานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติประจำปี 2566 เปิดตัวเทคโนโลยีอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลสุดล้ำหวังเป็นต้นแบบให้ผู้ประกอบการไทยนำไปพัฒนาต่อยอดนวัตกรรมทางด้านอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลเพื่อพาแบรนด์ไทยก้าวไกลสู่อาเซียน

          หนึ่งในนวัตกรรมที่น่าจับตามอง เครื่องตอกเม็ดยาแบบหมุนรอบพร้อมระบบวัดแรงและปรับน้ำหนักเม็ดยาแบบอัตโนมัติ ซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศ สาขา เครื่องจักรกลการผลิตยอดเยี่ยมแห่งปี เนื่องจากนวัตกรรมการตอกเม็ดยาจะทำให้การผลิตเม็ดยาออกมามีน้ำหนักเท่ากันทุกเม็ด ทำให้ยาอยู่ในมาตรฐานที่กำหนดและสามารถคัดเม็ดยาที่เสียออกหรือป้องกันเม็ดยาที่ไม่ได้มาตรฐานปนกับเม็ดยามาตรฐานได้ นวัตกรรมนี้มีส่วนช่วยให้ผู้ป่วยได้รับยาที่ได้น้ำหนักมาตรฐานเท่ากันทุกเม็ดช่วยลดความเสี่ยงจากการรับยาเกินขนาด

          นายสมบูรณ์ ปูคะทา ฝ่ายเทคนิค บริษัท เอ็น อาร์ อินดัสตรี จำกัด ผู้ผลิตและคิดค้นนวัตกรรมเครื่องตอกเม็ดยาแบบอัตโนมัติเป็นรายแรกในประเทศไทย กล่าวว่าเครื่องดังกล่าวสามารถที่จะใช้งานได้ทั้งการตอกยาเม็ดแบบอุตสาหกรรมและการตอกยาเม็ดในงานวิจัย สามารถผลิตเม็ดยาน้ำหนักเท่ากันทุกเม็ด 100% ในขณะที่เครื่องตอกเม็ดยาระบบอื่นจะใช้การสุ่มเม็ดยาทำให้เม็ดยาที่ผลิตออกมาน้ำหนักมากน้อยแต่ต่างกัน ส่งผลให้ผู้ป่วยรับยาในขนาดไม่เท่ากัน ทำให้บริษัทมองเห็นปัญหาและคิดค้นเครื่องตอกเม็ดยาแบบอัตโนมัติขึ้นมาสามารถผลิตเม็ดยาได้รอบละ 50 เม็ดภายใน 1นาทีจะผลิตได้ 4-5 พันเม็ด ปัจจุบันเครื่องดังกล่าวมีวางจำหน่ายแล้ว ผู้ที่สนใจสามารถเข้ามาชมการทำงานของเครื่องได้ที่งานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2556 ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 21 สิงหาคม ณ Hall 106ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา

          นอกจากนี้ ภายในโซนจะแสดงให้เห็นถึง การพัฒนานวัตกรรมสร้างเครื่องจักรแบรนด์ไทย เรียนรู้กระบวนการสร้างเครื่องจักรด้วยวิศวกรรมย้อนรอย เริ่มตั้งแต่นำเข้าเครื่องจักรต้นแบบจากต่างประเทศ แล้วถอดแบบสร้างองค์ความรู้ นำมาพัฒนาและออกแบบใหม่ด้วยวัสดุภายในประเทศจนถึงสร้างต้นแบบเครื่องจักรภายใต้แบรนด์ไทย เช่น รถเกี่ยวข้าวรุ่นเอ็ม เค อมตะ 2555 ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศเครื่องจักรกลการเกษตรเป็นรถเกี่ยวข้าวที่ออกแบบและพัฒนาโดยฝีมือคนไทย ใช้เทคโนโลยีการผลิตสามารถถอดแยกประกอบได้ จึงง่ายต่อการซ่อมบำรุงหรือจะนำมาติดตั้งกับชุดหน้าเกี่ยวข้าวโพดได้

          และระบบกระเบื้องหลังคาพลังงานแสงอาทิตย์ ได้รับรางวัลที่ 1 สาขาเครื่องจักรกลด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมเป็นการพัฒนาระบบ Solar System ที่เป็นกระเบื้องหลังคาที่สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้

          นอกจากนี้ยังมีโซนนิทรรศการเทคโนโลยีอุตสาหกรรมระดับสูงที่นำเสนอในเรื่อง การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทย อุตสาหกรรมยาง อุตสาหกรรมสิ่งทอ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมพลาสติก อุตสาหกรรมโลหะ ตื่นตาตื่นใจกับ Car Mapping ที่แสดงส่วนประกอบของรถยนต์ ที่เชื่อมโยงไปยัง 5 อุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ อุตสาหกรรมยาง สิ่งทอ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ พลาสติก และโลหะ พร้อมเห็นถึงการพัฒนาองค์ความรู้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อใช้ใน กระบวนการผลิตต่างๆ อุตสาหกรรมในอนาคต

          ผู้สนใจสามารถมาเข้าชมนิทรรศการดังกล่าวได้ในโซน “เทคโนโลยีเครื่องจักรกล” Hall 106 ภายในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ปี 2556 ตั้งแต่วันนี้จนถึง 21 สิงหาคม 2556 นี้ ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา และนิทรรศการเทคโนมาร์ทวันที่ 14-18 สิงหาคม 2556 ณ ลานเซ็นทรัลเวิลด์

MSN on August 17, 2013, 09:47:56 PM
เรียนรู้แบบ Edutainment ในนิทรรศการพลังงานเพื่ออนาคต งานมหกรรมวิทย์ฯ 2556









           แม้คนส่วนใหญ่จะรับรู้ว่า ทรัพยากรด้านพลังงานของประเทศไทย กำลังเข้าสู่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ อันเนื่องจากมาจากพลังงานไฟฟ้า และพลังงานน้ำมัน ซึ่งเป็นพลังงานหลัก ไม่สามารถผลิตได้เพียงพอกับความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น แต่พฤติกรรมการใช้พลังงานของคนส่วนใหญ่ ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งอาจเป็นเพราะความเคยชิน และยังไม่เกิดความตระหนักรู้ในการอนุรักษ์พลังงาน ให้สามารถบริหารการจัดการพลังงาน ได้แม้ในช่วงวิกฤติ งาน “มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ปี 2556” ส่วนของนิทรรศการพลังงานเพื่ออนาคต ได้นำเสนอเรื่องพลังงานในด้านต่างๆ อย่างครอบคลุม เพื่อนำไปเป็นข้อคิดในการใช้พลังงานอย่างรู้ค่าและการนำพลังงานในอนาคตมาใช้

          โดยแบ่งนิทรรศการออกเป็น 4 ส่วนคือ
          1.Energy Zone แหล่งพลังงานสำคัญของโลก
          2.Energy Crisis วิกฤตพลังงานและแนวทางแก้ไข
          3.Energy in Daily Life สถานการณ์พลังงานในชีวิตประจำวัน
          4.Energy for the Future เทคโนโลยีด้านพลังงานในอนาคต

          โดยในส่วน Energy Zone ได้นำเสนอพลังงานสำคัญที่เป็นพลังงานหลักของคนทั้งโลก ทั้งต้นกำเนิด กระบวนการผลิต และเทคโนโลยีในการผลิต ได้แก่ พลังงานไฟฟ้าจากพลังน้ำ,น้ำมันและแก๊สจากฟอสซิล, การผลิตไฟฟ้าจากกระแสลม,โซลาร์เซลล์

          ถัดมาคือส่วนของ Energy for the Future นำเสนอเทคโนโลยีพลังงานเพื่ออนาคต อาทิ เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน ซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า ,ไบโอดีเซล ซึ่งเป็นพลังงานทดแทนจากพืช เช่น สบู่ดำ ปาล์ม,ฮีเลียม-3 ไอโซโทปไม่แผ่รังสีที่สามารถนำไปใช้ในการสร้างพลังงานนิวเคลียร์ได้ ซึ่งมีปริมาณถึง 1 ล้านตันบนดวงจันทร์

          ส่วนนิทรรศการที่ต้องใช้เวลาในการชมมากที่สุดคือ Energy in Daily Life ซึ่งใช้กระดาษลังมาต่อกันเป็นโครงสร้างขนาดใหญ่ และติดป้ายความรู้ที่น่าสนใจหลายสิบป้าย อาทิ การกดลิฟต์แต่ละครั้งสูญเสียพลังงานถึง 7 บาท,ปิดแอร์ช่วง 06.00-08.00 น. ลดการใช้พลังงานได้ 4,363 วัตต์/ชั่วโมง ปิดแอร์ช่วง 16.00-18.00 น.ลดได้อีก 5,560 วัตต์/ชั่วโมง,การซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้า ใช้น้ำเฉลี่ย 100 ลิตร/ครั้ง,แอร์ขนาด 12,000 บีทียู ใช้ไฟฟ้าเท่ากับพัดลมจำนวน 16-20 ตัว,ถ้ารถยนต์ทุกคันงดการใช้งานสัปดาห์ละ 1 วัน จะประหยัดค่าน้ำมันให้ประเทศชาติได้ถึง 145,000 ล้านบาท/ปี ฯลฯ

          และในส่วนของ Energy Crisis เป็นส่วนของ High Light ซึ่งมีผู้ให้ความสนใจเป็นจำนวนมากตลอดเวลา เพราะมีกิจกรรมที่เรียกว่า Live Action Theatre “วิกฤตพลังงาน รวมพลังกู้โลก” โดยให้ผู้มาชมงาน ได้มีส่วนร่วมแสดงในบทบาทฮีโร่ผู้ช่วยโลกจากวิกฤตพลังงาน ด้วยการถ่ายทำบน “กรีนสกรีน” และใช้เทคนิคพิเศษ ทำให้ผู้แสดงไปปรากฏในภาพยนตร์

          ในตอนแรก ผู้มาชมงานจะต้อง Action หน้ากรีนสกรีนตามที่ทีมงานสาธิต จากนั้น ไปนั่งรอในโรงภาพยนตร์ เพียงครู่เดียว ผู้มาชมงานก็จะได้กลายเป็นนักแสดง เป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์ที่ช่วยกระตุ้นจิตสำนึกในการร่วมอนุรักษ์พลังงานเพื่อโลก

          น้องๆ จากโรงเรียนสมุทรปราการ กล่าวว่า สนุกมากที่ได้มาร่วมกิจกรรมนี้ เพราะพี่ๆ ทีมงานมีความเป็นกันเอง และตื่นเต้นที่ได้เห็นตัวเองและเพื่อนๆ ปรากฎบนจอ “สนุกมากค่ะ ตื่นเต้นด้วย พี่ๆ เขาขำ แสดงไปก็หัวเราะไป แล้วเวลาได้เห็นตัวเองกับเพื่อนบนจอก็ตื่นเต้น รู้สึกภูมิใจ แล้วก็ได้ความรู้เรื่องการช่วยกันประหยัดพลังงานด้วยค่ะ”

          ด้านน้องๆ จากโรงเรียนอักษรพัทยา กล่าวว่า สนุกและได้ความรู้ว่า โลกเรากำลังจะแย่เพราะพลังงานกำลังจะหมดไป เราจึงต้องมาช่วยกัน ประหยัดพลังงาน “ก็สนุกค่ะ ได้ทำท่าต่างๆ แล้วก็ได้เห็นตัวเองแสดง แล้วก็ได้ความรู้อย่างเช่น ต้องไม่เปิดไฟทิ้งไว้ ต้องช่วยกันใช้พลังงานอย่างประหยัด”

          ร่วมเรียนรู้เรื่องวิกฤตพลังงาน การอนุรักษ์พลังงาน และพลังงานในอนาคต ได้ในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2556 ตั้งแต่วันนี้จนถึง 21 สิงหาคม 2556 เวลา 09.00 - 20.00 น. ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา และ งานเทคโนมาร์ท ตั้งแต่วันนี้ถึง 18 สิงหาคม 2556 ณ ลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิร์ล เวลา 10.00 – 20.00 น. สำหรับโรงเรียนหรือสถาบันต่าง ๆ ที่ต้องการเข้าชมเป็นหมู่คณะ ติดต่อจองเข้าชมได้ที่ โทร. 0 2577 9960 Call Center 1313

MSN on August 20, 2013, 08:19:14 AM
พาเที่ยวชมงานมหกรรมวิทย์ 2556 รวม “ไฮไลท์” ที่น่าสนใจ









          งานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ปี 2556 นี้ จัดเต็มพื้นที่ศูนย์นิทรรศการไบเทค บางนา และขยายพื้นที่จัดงานเทคโนโลยีและนวัตกรรมของไทยมาจัดที่หน้าลานเซ็นทรัลเวิลด์ด้วย ซึ่งเหลือเวลาอีกไม่กี่วันก็จะจบงาน มีหลายส่วนในงานที่น่าสนใจ หากครอบครัวใดพาบุตรหลานไปชมก็จะได้ทั้งความรู้และความสนุกสนาน ถ้าอยากรู้ว่ามีอะไรเด่นๆ ในงานที่น่าดูบ้าง สกู๊ปนี้รวบรวมมาให้ทั้งหมดแล้ว

          เริ่มตั้งแต่ประตูทางเข้าคือ “นิทรรรศการเทิดพระเกียรติ” ซึ่งมีโรงภาพยนตร์ขนาดใหญ่ฉายเรื่องราวของพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ขณะที่นิทรรศการติดกันนั้นเป็นนิทรรศการเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 “พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย” ซึ่งนำเสนอพระราชกรณียกิจในการวางรากฐานด้านวิทยาศาสตร์ของประเทศ โดยผสมผสานการฉายภาพเข้ากับรูปแบบสถาปัตยกรรมต้นรัตนโกสินทร์

          วนไปด้านซ้าย “นิทรรศการนวัตกรรมการจัดการน้ำ” มีโรงภาพยนตร์ซิมูเลชั่น “ผจญภัยไปกับสายน้ำ” ให้ผู้เข้าชมได้มีส่วนร่วมตื่นเต้นไปพร้อมๆ กับการชมภาพยนตร์ติดกับนิทรรศการนวัตกรรมการจัดการน้ำ คือ “นิทรรศการสาหร่าย” ซึ่งมีตัวอย่างสาหร่ายนานาชนิดมาจัดแสดง พร้อมนำเสนอประโยชน์ต่างๆ ของสาหร่าย

          ตรงขึ้นไปในส่วนของนิทรรศการของเอกชน ในส่วนของ “การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย” มีการแจกการ์ดใบเล็กๆ ที่ใช้เทคโนโลยี Augmented Reality ใช้ไอโฟนส่องแล้วจะปรากฎภาพ 3 มิติขึ้นบนการ์ดเดินเลี้ยวไปทางขวามือ นิทรรศการ “Science Illustrated” นิทรรศการเกี่ยวกับไดโนเสาร์ที่ดึงความสนใจตั้งแต่แรกเห็น เด็กหลายคนมุ่งตรงมาที่นี่เป็นที่แรกใกล้ๆ กันนั้นเอง คือพระเอกของงาน “หุ่นยนต์มังกร” และ “หุ่นยนต์คิเมร่า” ซึ่งขยับเขยื้อนได้เหมือนมีชีวิตจริง มีคนรุมล้อมถ่ายรูปอยู่ตลอดเวลา ถ้าให้ดี อย่าลืมแวะไปศึกษาข้อมูลของเทคโนโลยีหุ่นยนต์ประกอบด้วย

          เลี้ยวกลับลงมาด้านล่าง “นิทรรศการแสงซินโครตรอน”เป็นอีกส่วนที่น่าเดินชม เนื่องจากแสงซินโครตรอนมีประโยชน์หลายด้าน และยังมีกิจกรรมวิทยาศาสตร์ให้น้องๆ ได้ทดลองทำเดินลงบันไดข้ามมาอีกด้านของงาน มี “นิทรรศการพลังงานเพื่ออนาคต”ซึ่งมีกิจกรรมให้ร่วมแสดง Live Action Theatre ด้วยเทคนิคกรีนสกรีน เพียงแค่ทำท่าตามที่ทีมงานแนะนำ และไปรอชมในโรงภาพยนตร์ น้องๆ ก็จะได้เป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์เพื่อร่วมกันประหยัดพลังงานทันทีติดกันนั้นเป็น “นิทรรศการเทคโนโลยีด้านการแพทย์” ซึ่งมีไฮไลท์คือ “Kinetic X-Rays” ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้เซนเซอร์จับการเคลื่อนไหวของผู้เล่น แล้วแสดงเป็นโครงร่างที่หน้าจอ

          ด้านหลังสุดเป็น “นิทรรศการภูมิอากาศโลก” ซึ่งมีการนำเสนอเนื้อหาด้วย Ineractive multimedia เช่น การฉายวีดีโอบนจอ 360 องศาซึ่งสามารถดูได้โดยรอบ

          เดินมาตามทางเชื่อมสู่โถงอีกด้านหนึ่งของนิทรรศการ จะพบกับ “นิทรรศการรางวัลเทคโนโลยีเครื่องจักรกลยอดเยี่ยม ประจำปี 2556” ซึ่งมีเครื่องจักรที่น่าสนใจมากมาย และติดกันนั้นเป็น “นิทรรศการเทคโนโลยีอุตสาหกรรม” ซึ่งมีการแสดง visual ว่ารถยนต์หนึ่งคัน ต้องประกอบด้วยอะไรบ้างจึงจะออกมาเป็นรถให้เราขับ

          ข้างกันนั้นเป็น “นิทรรศการวิกตอาหาร” นำเสนอเรื่องของอาหารที่เป็นปัญหาใหญ่ของโลก และทางออกของปัญหา ทั้งในส่วนของสังคมและในส่วนของการบริโภคของแต่ละบุคคล

          หากใครต้องการชมในส่วน “นิทรรศการเทคโนโลยีเพื่อชุมชน” ก็ต้องมาที่ลานด้านหน้าเซนทรัลเวิลด์ ซึ่งนำเสนอผ่านเรื่องเล่าความสำเร็จของ 32 หมู่บ้านซึ่งทางกระทรวงวิทย์ฯ ได้เข้าไปสนับสนุนให้นำเทคโนโลยีเข้าไปพัฒนา เช่น การเพาะเห็ด ข้าว ข้าวโพด ,การแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร ,การแปรรูปสมุนไพร เช่น สบู่ตาลโตนด,เตาแกลบชีวมวล,การจัดการของเสียจากปาล์ม ฯลฯ ซึ่งนอกจากนิทรรศการที่น่าสนใจแล้ว ยังสามารถเลือกซื้อสินค้าที่ชุมชนนำมาจำหน่ายภายในงานได้อีกด้วย

          มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ปี 2556 จัดพร้อมกัน 2 แห่งคือ ไบเทค บางนา วันที่ 6-21 สิงหาคม 2556 และลานหน้าเซนทรัลเวิลด์ วันที่ 14-18 สิงหาคม 2556 ไฮไลท์ในงานทั้งหมดนี้ ไม่อาจหาชมได้จากที่อื่น หากพลาดงานครั้งนี้ ต้องรอไปอีกปีหน้า
« Last Edit: August 20, 2013, 08:21:39 AM by MSN »

MSN on August 20, 2013, 08:22:52 AM
ด้วยภูมิปัญญาและนวัตกรรมการจัดการน้ำ สู่ยุคใหม่ของการจัดการน้ำ ในงานมหกรรมวิทย์ฯ 2556







          “น้ำ” ในฐานะทรัพยากรอย่างหนึ่ง เคยอุดมสมบูรณ์อย่างยิ่ง จนกระทั่งทำให้เราคิดไปว่า น้ำไม่มีทางจะหมดสิ้นไป แต่ทุกวันนี้ เราเริ่มตระหนักรู้แล้วว่า น้ำคือทรัพยากรที่มีจำกัด ใช้แล้วหมดไป ไม่ได้มีมากมายเหลือกินเหลือใช้อีกแล้ว เพราะประชากรนั้นเพิ่มมากขึ้น แต่น้ำกลับมีจำนวนเท่าเดิม

          แม้ว่าในอดีต น้ำไม่เคยขาดแคลน แต่การมาของน้ำก็เป็นฤดูกาล อีกทั้งในแต่ละพื้นที่ก็มีปริมาณน้ำไม่เท่ากัน ผู้คนในอดีตจึงเรียนรู้วิธีการจัดการน้ำ ขนส่งน้ำ กักเก็บน้ำ อนุรักษ์น้ำด้วยวิธีการต่างๆ และวิธีการเหล่านั้นยังคงมีประสิทธิภาพมาจนถึงปัจจุบัน

          ในงานมหกรรมวิทยาศาสต์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ปี 2556 ซึ่งจัดขึ้นที่ไบเทค บางนา ระหว่างวันที่ 6-21 สิงหาคม 2556 ได้มีการจัดนิทรรศการ “ภูมิปัญญาสู่นวัตกรรมการจัดการน้ำ”ขึ้น เพื่อนำเสนอความสำคัญของน้ำ และการจัดการน้ำด้วยภูมิปัญญาซึ่งพัฒนามาสู่นวัตกรรมการจัดการน้ำในรูปแบบต่างๆ การบริหารจัดการน้ำในช่วงวิกฤติ โดยแบ่งการนำเสนอออกเป็น 4 ส่วน ได้แก่

          1. Water is life นำเสนอความสำคัญและคุณสมบัติของน้ำ
          2. A Journey of water แสดงการเดินทางของหยุดน้ำที่สัมพันธ์กับวัฒนธรรมและการบริหารจัดการ
          3. Water Management นำเสนอการบริหารจัดการน้ำของภาครัฐตามแนวพระราชดำริ
          4. Water Technology นำเสนอเทคโนโลยีเกี่ยวกับน้ำ

          โดยในส่วนของ Water is life หรือ “น้ำคือชีวิต”นั้น นิทรรศการได้นำเสนอความสำคัญและคุณสมบัติของน้ำที่น่าสนใจ เช่น ป่าไม้ต้นน้ำของประเทศไทยเหลือไม่ถึงร้อยละ 37 หรือ ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้น้ำของชาวกรุงเทพฯ ที่มีค่าเฉลี่ยสูงถึงคนละ 265 ลิตรต่อวัน ขณะที่ชาวฮ่องกงมีการใช้น้ำเฉลี่ยเพียงคนละ 112 ลิตรต่อวัน แสดงให้เห็นว่า คนกรุงเทพฯ ใช้น้ำในปริมาณที่สูงมาก

          ส่วนของ A Journey of water เป็นการจำลองเส้นทางของน้ำที่สัมพันธ์กับวัฒนธรรมและการบริหารจัดการ เช่น ทางน้ำผ่าน(ฟลัดเวย์) ซึ่งเป็นเส้นทางลัดที่ช่วยผันน้ำที่ไหลบ่ามาปริมาณมาก ให้ไปตามทางน้ำเพื่อลงสู่ทะเลโดยเร็ว เป็นการป้องกันไม่ให้น้ำท่วมพื้นที่เศรษฐกิจชั้นใน , การสร้างเขื่อน สร้างฝาย เพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้ประโยชน์ในยามขาดแคลน, การทำฝนหลวง(Artificial Rain) ซึ่งเป็นกรรมวิธีการเหนี่ยวนำน้ำจากฟ้า โดยใช้เครื่องบินบรรจุสารเคมีขึ้นไปโปรยในท้องฟ้าเพื่อให้เกิดปฏิกิริยากับอุณหภูมิและความชื้นจนเกิดเป็นฝนตกลงมาในตำแหน่งที่ต้องการ ฯลฯ

          ส่วนถัดมาก็คือนิทรรศการ Water Management ซึ่งนำเสนอการบริหารจัดการน้ำของภาครัฐตามแนวพระราชดำริ มีข้อมูลที่น่าสนใจคือ แนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นการบริหารจัดการน้ำตามธรรมชาติตั้งแต่ต้นน้ำ สู่กลางน้ำ และระบายออกทางปลายน้ำ โดยต้นน้ำ จะเป็นการปลูกป่า สร้างฝาย ,กลางน้ำ จะเป็นการบริหารน้ำในเขื่อน ปรับซ่อมบำรุงประตูน้ำ และปลายน้ำ จะเป็นการสร้างแนวกั้นน้ำล้อมพื้นที่สำคัญ เพิ่มความสามารถในการระบายน้ำ รวมทั้งในส่วนของภาครัฐเอง หลังจากมหาอุทกภัยปี 2554ก็ได้เริ่มโครงการออกแบบและก่อสร้างระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างบูรณาการ อาทิ การจัดทำทางผันน้ำ,การปรับปรุงพื้นที่เกษตรชลประทาน,การจัดทำระบบคลังข้อมูลเพื่อการพยากรณ์และเตือนภัย ฯลฯ

          และนิทรรศการในส่วนของ Water Technology นำเสนอเทคโนโลยีเกี่ยวกับน้ำที่น่าสนใจ อาทิ เครื่องผลิตไฮโดรเจนจากน้ำ เพื่อให้ความร้อนสูงไม่มีเขม่าควัน ซึ่งนำไปใช้ในอุตสาหกรรมจิวเวลลี่, ชุดกรองน้ำดื่มพกพา Life Straw ซึ่งใช้ระบบทางจุลชีววิทยาในการกรองน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติให้กลายเป็นน้ำสะอาดบริโภคได้, เครื่องผลิตน้ำจากความชื้นในอากาศ ซึ่งใช้พลังงานไฟฟ้าดึงเอาความชื้นจากอากาศมาผลิตเป็นน้ำพร้อมดื่ม มีกำลังการผลิต 12-25 ลิตรต่อวัน

          โดยเฉพาะไฮไลท์ของงานซึ่งมีคนรอคิวยาว คือ ซิมูเลชั่น “การเดินทางของสายน้ำ” โรงภาพยนตร์ขนาดเล็ก ที่ผู้ชมทุกคนจะได้รับความสนุกสนานตื่นเต้นไปพร้อมๆ กับภาพและเสียง โดยเก้าอี้นั่งที่เคลื่อนไหวด้วยระบบไฮโดรลิกจะให้ความรู้สึกร่วม เสมือนผู้ชมได้ผจญภัยไปกับสายน้ำที่เดินทางจากแหล่งน้ำธรรมชาติ ไปสู่ทะเล

          น้องๆ จากโรงเรียนเพรักษมาตา จังหวัดระยอง ผลัดกันเล่าให้ฟังว่า “ในซิมูเลชั่นก็จะมีเขื่อน มีการสำรวจน้ำ มีทางระบายน้ำ เราก็ได้เดินทางร่วมกับสายน้ำ จากที่เก็บน้ำไปจนถึงป่าชายเลน เหมือนกับเราได้ล่องเรือไปตามเส้นทางน้ำ รู้สึกสนุก ตื่นเต้นมาก ชอบมาก ทำให้เราได้รู้ว่า กว่าน้ำจะไปถึงเขื่อน ต้องผ่านอะไรมาบ้าง เหมือนได้ผจญภัยไปด้วยกัน”

          ส่วนรัตนา เทพยศ จากสมุทรปราการ กล่าวว่า ซิมูเลชั่น ทำให้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางของน้ำ และเหตุผลที่ต้องเก็บกักน้ำ “ได้ชมเรื่องการปล่อยน้ำจากเขื่อน ไปสู่ป่าชายเลน ทำให้เราได้รู้ว่า เราเก็บกักน้ำไปเพื่ออะไร น้ำจากธรรมชาติเดินทางมาอย่างไร ”

          ร่วมเรียนรู้เรื่องน้ำและร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการจัดการน้ำ ได้ในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2556 ตั้งแต่วันนี้จนถึง 21 สิงหาคม 2556 เวลา 09.00 - 20.00 น. ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา และงานเทคโนมาร์ท ตั้งแต่วันนี้ถึง 18 สิงหาคม 2556 ณ ลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิร์ล เวลา 10.00 – 20.00 น. สำหรับโรงเรียนหรือสถาบันต่าง ๆ ที่ต้องการเข้าชมเป็นหมู่คณะ ติดต่อจองเข้าชมได้ที่ โทร. 0 2577 9960 Call Center 1313

MSN on August 20, 2013, 08:26:25 AM
กระทรวงวิทย์ฯ เปิดตัว “เครื่องทดสอบอะคูสติกอิมิชชั่นเพื่อตรวจสอบถังบรรจุแก๊ส NGV” เป็นครั้งแรกเพื่อตรวจหาการรั่วซึมของถังบรรจุแก๊สได้ทุกชนิด
 

 
          กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมกับสำนักวิจัยและบริการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และศูนย์วิจัยโลหะวิทยา แอลพีเอ็น (ประเทศไทย) จำกัด แถลงข่าวเปิดตัว “เครื่องทดสอบอะคูสติกอิมิชชั่นเพื่อตรวจสอบถังบรรจุแก๊ส NGV” เป็นเครื่องมือทดสอบ AE ที่ยังไม่เคยผลิตขึ้นใช้ในประเทศไทยเป็นครั้งแรก สร้างขึ้นเพื่อทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศที่มีราคาแพง และมีค่าใช้จ่ายในการสอบเทียบสูง ในงานเทคโนโลยีและนวัตกรรมของไทยหรือเทคโนมาร์ท เนื่องในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2556 ณ เวทีกลาง ลานกิจกรรมหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์กรุงเทพมหานคร

          นางนิตยา พัฒนรัชต์ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมและถ่ายทอดเทคโนโลยี สำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยว่า ปัญหาเรื่องพลังงานนับวันจะทวีความรุนแรงมากขึ้น การใช้เชื้อเพลิงทดแทน โดยเฉพาะแก๊ส NGV จึงเป็นสิ่งที่ทุกภาคส่วนให้ความสนใจ และการใช้แก๊ส NGV ก็มีส่วนประกอบที่สำคัญคือถังบรรจุ ซึ่งต้องมีความแข็งแรง ทนทาน ได้มาตรฐาน กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จึงได้ร่วมกับสำนักวิจัยและบริการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และศูนย์วิจัยโลหะวิทยา แอลพีเอ็น (ประเทศไทย) จำกัด สร้างเครื่องมือทดสอบอะคูสติกอิมิชชั่นเพื่อตรวจสอบถังบรรจุแก๊ส NGV ซึ่งส่วนหนึ่งของความสำเร็จภายใต้โครงการวิจัยและพัฒนาเครื่องจักรกลอุปกรณ์ด้วยวิธีวิศวกรรมสร้างสรรค์คุณค่า โดยการสร้างเครื่องมือทดสอบ AE นี้เป็นเครื่องมือที่ยังไม่เคยผลิตขึ้นใช้ในประเทศไทย สร้างขึ้นเพื่อทดแทนการซื้อเครื่องมือจากต่างประเทศที่มีราคาแพง และมีค่าใช้จ่ายในการสอบเทียบสูง การสั่งซื้อและสั่งซ่อมต้องส่งกลับไปยังต่างประเทศซึ่งต้องใช้เวลานานอาจทำให้การทดสอบมีความล่าช้าเมื่อเครื่องมีการชำรุดในขณะใช้งาน

          นอกจากนี้ยังได้ทำการดัดแปลงให้มีจุดเด่นมากกว่าเครื่องมือที่มีใช้ในต่างประเทศ โดยการพัฒนาโปรแกรมสำเร็จรูปเพื่อใช้ตรวจสอบถังบรรจุแก๊ส NGV เพื่อการขนส่ง หรือถังบรรจุแก๊สชนิดอื่นๆ ได้ทุกชนิด โดยใช้ขั้นตอนการทดสอบและวิธีการประเมินผลตามมาตรฐาน ISO ซึ่งผลจากการพัฒนาจะทำให้เครื่องมือการทดสอบ AE มีราคาถูกและมีการเขียนโปรแกรมให้สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกและถูกต้อง จะทำให้ลดข้อจำกัดเรื่องค่าใช้จ่ายและการขาดแคลนบุคลากรลง นอกจากจะเป็นการผลักดันให้ใช้กันอย่างแพร่หลายในประเทศไทยแล้ว ยังสามารถผลักดันให้มีการนำไปใช้ในแถบทวีปเอเชียและอเมริกาใต้ได้อีกต่อไป

          ประเทศไทยมีความต้องการใช้เครื่องจักรกลที่มีประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในเชิงธุรกิจ ทำให้ต้องมีการนำเข้าเครื่องจักรและอุปกรณ์มาจากต่างประเทศ ในมูลค่าที่เพิ่มสูงขึ้นทุกปี เป็นเหตุให้ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีและผู้เชี่ยวชาญต่างชาติในการซ่อมบำรุง ทำให้เสียเวลาและค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก ดังนั้น การวิจัยและพัฒนาเครื่องจักรกลอุปกรณ์ด้วยวิธีวิศวกรรมสร้างสรรค์คุณค่าจึงมีความจำเป็นและเร่งด่วนในการดำเนินการเพื่อทดแทนการนำเข้าและลดดุลการค้าของประเทศ ทั้งนี้ หากพัฒนาไปถึงขั้นที่ผลิตออกจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ได้ ก็จะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ผลิต ในการลดต้นทุนการผลิต ตลอดจนสามารถสร้างมาตรฐานและความปลอดภัยให้กับแรงงานในอุตสาหกรรมไทยซึ่งการพัฒนา “เครื่องทดสอบอะคูสติกอิมิชชั่นเพื่อตรวจสอบถังบรรจุแก๊ส NGV” ที่แถลงข่าวเปิดตัวในวันนี้ ก็เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จภายใต้โครงการดังกล่าว