happy on January 26, 2013, 03:03:28 PM
“NVK” เผยยอดขายปิดปี 2555 โตขึ้น 30%
จัดหนักปี 56 ลุยโปรเจกต์รัฐ – โทรคมนาคม

“NVK” พอใจผลประกอบการปี 2555 ยอดขายทะลุ 250 ล้านบาท เปิดปี 2556 เกาะกระแสระบบ 3G-Wi-Fi บูม พร้อมอ้าแขนรับโปรเจกต์รัฐติดตั้งกล้องวงจรปิด คาดดันธุรกิจปีนี้ทะยานขึ้น 40%


               นายฤทธิไกร ขัณฑวีระมงคล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.วี.เค.อินเตอร์ จำกัด (NVK)ผู้นำในตลาดอุปกรณ์เครือข่ายไร้สายในประเทศไทย เปิดเผยว่า “ตลอด 7 ปีที่ผ่านมาบริษัทมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด โดยปี 2555 NVK มียอดขายกว่า 250 ล้านบาทเติบโตเพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับปี 2554 (ยอดขายอยู่ที่ 190 ล้านบาท) ซึ่งได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยอย่างหนักส่งผลให้การลงทุนภาครัฐ เอกชน และการใช้จ่ายภาคครัวเรือนชะลอตัว

               สำหรับในครึ่งปีแรก 2556 นี้ NVK คาดว่าจะมีโครงการภาครัฐจำนวนมากที่ได้รับนโยบายจากรัฐบาลเพื่อบริการอินเตอร์เน็ตไร้สายอย่างทั่วถึงพร้อมติดตั้งระบบกล้องวงจรปิดป้องกันการระบาดของยาเสพติดและลดปัญหาอาชญากรรม ประกอบกับผู้ให้บริการโทรศัทพ์มือถือยังคงเร่งติดตั้งเครือข่ายไร้สายหรือ Wi-Fi เพื่อลดปริมาณข้อมูลที่วิ่งบนเครือข่าย 3G สู่เครือข่าย Wi-Fi (3G Off-load) โดยครึ่งปีแรกคาดว่าตลาดจะมีอัตราการเติบโตราว 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

               ผมมองเมืองไทยจากวันนี้เป็นต้นไป เราจะได้เห็นการลงทุนจุดให้บริการ Wi-Fi Hotspot อย่างต่อเนื่องจากผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตและผู้ให้บริการมือถือทุกราย รวมไปถึงการสอดรับกับแผน SMART THAILAND ของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ด้วยโครงการ Free Wi-Fi และโครงการ OTPC (One Tablet Per Child) ที่จะเป็นแรงผลักดันกระตุ้นให้ผู้ให้บริการจำเป็นต้องสร้างเครือข่ายทั้ง 3G และ Wi-Fi ให้ครอบคลุมพื้นที่ให้มากที่สุด

               แต่โดยความเห็นส่วนตัว มองว่าภาครัฐควรผลักดันให้กระจายไปยังพื้นที่ห่างไกลเพื่อสร้างการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารอย่างเท่าเทียมของประชาชนในชนบทซึ่งจะส่งผลให้ประเทศมีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้นเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านและยังสามารถแข่งขันในตลาด AEC ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย








               ส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เป็นหัวหอกหลักปีนี้ บริษัทเล็งเห็นว่าจากการที่ได้รับแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์กล้องเครือข่ายจาก ACTi ซึ่ง ACTi ได้ให้ความสำคัญกับตลาดในประเทศไทยอย่างมาก

               โดยเป็นประเทศแรกในการเปิดตัวกล้องวงจรปิด (IP Camera) ซีรี่ย์ใหม่ล่าสุดกว่า 70 รุ่น ผมจึงเชื่อว่า IP Camera จาก ACTi จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุดในพอร์ตของเรา โดยปีนี้ NVK ตั้งเป้ายอดขายจาก ACTi ไว้ราว 100 ล้านบาท จากปีที่แล้วที่เริ่มจัดจำหน่ายมาเพียง 4 เดือนมียอดขายถึง 15 ล้านบาท หรือน่าจะมีอัตราการเติบโตกว่า 200% ในพอร์ตนี้

               ขณะเดียวกันกลุ่มอุปกรณ์เครือข่ายไร้สาย ปีนี้ NVK จะให้ความสำคัญต่อตลาดคอนซูเมอร์มากขึ้น โดยมีแผนที่จะเปิดตัว WLAN Router ที่มีความสามารถในการส่งสัญญาณ Wi-Fi ที่มีความเร็วสูงและสามารถครอบคลุมพื้นที่ภายในบ้านได้มากกว่า โดยจะเพิ่มช่องทางการจำหน่ายผ่านร้านไอทีต่างๆ อาทิ BananaIT และประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ ต่อไป โดยตั้งเป้ายอดจำหน่ายไว้ที่ 50,000 ตัวภายในปี 2556




               ด้านภาพรวมตลาดไอที โซลูชั่น ปีนี้ ผมคาดว่าจะมีการเติบโตต่อไป อันเนื่องมาจากนโยบายการลงทุนของภาครัฐ และความคืบหน้าในการให้ใบอนุญาต 3G และ 4G ที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป ส่วนภาคเอกชนนั้นก็มีความจำเป็นต้องลดต้นทุนในการบริหารจัดการ เพื่อรองรับปัญหาค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ซึ่งการลงทุนด้าน IT น่าจะเป็นทางเลือกที่สำคัญอย่างหนึ่งของผู้ประกอบการที่จะช่วยลดต้นทุนได้เป็นอย่างดี

               นอกจากนั้นภาคธุรกิจท่องเที่ยวก็กลับมาคึกคักเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวตะวันตก แต่นักท่องเที่ยวจากเอเชียก็เลือกประเทศไทยเป็นจุดหมายในการพักผ่อนที่สำคัญ ทำให้กลุ่มธุรกิจโรงแรม ต่างเร่งลงทุนทางสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ โดยเฉพาะบริการอินเตอร์เน็ตและกล้องวงจรปิด ซึ่งน่าจะเป็นแรงหนุนให้กลุ่มผลิตภัณฑ์เหล่านี้เติบโตต่อไปอีกด้วย

               ปัจจุบัน NVK จัดจำหน่ายโซลูชั่น สินค้าและบริการ ผ่านตัวแทนจำหน่าย ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศกว่า 400 และกระจายสาขาเพื่อใช้เป็นศูนย์บริการลูกค้าและบริหารการขายในต่างจังหวัดและหัวเมืองใหญ่ไปแล้วถึง 5 สาขาด้วยกัน ได้แก่ เชียงใหม่ พิษณุโลก ขอนแก่น ภูเก็ต และหาดใหญ่ ซึ่งปีที่ผ่านมาตลาดต่างจังหวัดเติบโตดีมาก ยอดขายมีสัดส่วนถึง 40% ของยอดขายรวมเลยทีเดียว

               นายฤทธิไกรกล่าวทิ้งท้ายเป้าหมายธุรกิจในปี 2556 คาดว่าจะมียอดขายราว 350 ล้านบาทจากปีที่แล้ว 250 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโต 40% โดยแบ่งตามหมวดสินค้าเป็น IP CCTV 40%,Network 10%และ WLAN 50%