MSN on December 01, 2012, 04:11:41 PM
ดูคาติ ขนทัพบิ๊กไบด์ โชว์ มอเตอร์ เอ็กซ์ โป 2012


 
          คุณ อภิชาติ ลีนุตพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดูคาทิสติ จำกัด ผู้นําเข้าและจัดจําหน่ายรถจักรยานยนต์ ดูคาติ จากประเทศอิตาลี นําขบวนรถจักรยานยนต์ บิ๊กไบด์ หลากหลายรุ่นร่วมแสดงภายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 29 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – วันที่ 10 ธันวาคมนี้ ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอล์ พร้อมอวดโฉมรถจักรยานยนต์ เอเซียนโมเดล จากโรงงานดูคาติ ประเทศไทย รุ่นมอนสเตอร์ 795 ABS เป็นครั้งแรกภายในงานนี้อีกด้วย

MSN on December 01, 2012, 04:14:40 PM
เมอร์เซเดส-เบนซ์เผยโฉมยนตรกรรมของคนรุ่นใหม่ The new A-Class : The pulse of a new generation






 
             บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กระตุ้นตลาดรถหรูส่งท้ายปี เปิดตัวยนตรกรรมใหม่ The new A-Class รุ่น A 180 Style และ A 250 AMG Sport คอมแพ็คคาร์ เจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด เหนือระดับด้วยดีไซน์ที่จะเปิดประสบการณ์ยานยนต์รูปแบบใหม่ของ เมอร์เซเดส-เบนซ์นับแต่นี้เป็นต้นไป โดยสะท้อนถึงความคล่องแคล่ว ปราดเปรียว ในสไตล์สปอร์ต เหมาะกับทุกจังหวะชีวิตของคนรุ่นใหม่ พร้อมเปิดตัว Pulse ไลฟ์สไตล์เว็บไซต์สุดฮิปใหม่ล่าสุด ที่สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้อย่างแท้จริง
          ดร. อเล็กซานเดอร์ เพาฟเลอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “The new A-Class นับเป็นการสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญในด้านกลยุทธ์การออกแบบของเมอร์เซเดส -เบนซ์ต่อไปในอนาคต รวมถึงสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับรถยนต์ในเซ็กเม้นท์คอมแพ็คคาร์ และยังเป็นรถยนต์ที่เปรียบเสมือนจังหวะชีวิตของคนรุ่นใหม่ ที่มีสไตล์เป็นของตัวเอง รักในความเป็นสปอร์ต ปราดเปรียว คล่องแคล่ว และเพลิดเพลินในการขับขี่ ซึ่งมีให้เลือกตามความต้องการถึง 2 รุ่นด้วยกัน คือ A 180 Style และ A 250 AMG Sport สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์เว็บไซต์สุดฮิบสำหรับกลุ่มยังก์เจเนอเรชั่น Pulse ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์จัดทำขึ้นเพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางการสื่อสารในการอัพเด ทข้อมูลข่าวสารต่างๆ ที่น่าสนใจของกลุ่มคนรุ่นใหม่”
          ดีไซน์ภายนอก – ที่สุดแห่งความเหนือระดับในรถยนต์สไตล์คอมแพ็ค
          เมอร์ เซเดส-เบนซ์ The new A-Class เป็นการปรับโฉมครั้งสำคัญ ที่สะท้อนได้เป็นอย่างดีถึงกลยุทธ์ใหม่ในด้านการออกแบบของเมอร์เซเดส-เบนซ์ โดยใช้ดีไซน์แบบ Two-box ที่สื่อถึงความเป็นสปอร์ต คล่องแคล่ว ปราดเปรียว ด้วยรูปลักษณ์และทรวดทรงอันสวยงาม โดดเด่นด้วยดีไซน์การออกแบบลายเส้นด้านข้างตัวรถแบบพริ้วไหวสะดุดตา โดยกระจังหน้าในรุ่น A 180 Style คาดด้วยลาย 2 แถบเสริมโครเมียม พร้อมสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และในรุ่น A 250 AMG Sport จะเป็นกระจังหน้าใหม่แบบ Diamond Grille โคมไฟหน้าแบบฮาโลเจน ในรุ่น A 180 Style และแบบไบซีนอน (Bi-xenon) ตกแต่งด้วยวงกลมสีแดง รวมทั้ง ไฟ daytime สำหรับขับขี่เวลากลางวัน แบบ LED ในกรอบไฟหน้า ในรุ่น A 250 AMG Sport โดยการออกแบบทั้งหมดนี้ให้ความรู้สึกถึงสรีระของตัวรถที่พริ้วไหวอิสระอย่าง ไร้ขอบเขต ด้วยฝากระโปรงที่โค้งต่ำ ตัวถังที่ออกแบบให้ลู่ลมลาดเอียงไปกับพื้นถนน ดุจประติมากรรมชิ้นเอกที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความสวยงามพริ้วไหวของ ธรรมชาติ สายลมและเกลียวคลื่น นอกจากนี้ด้วยความโดดเด่นด้านดีไซน์ตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่เห็นเด่นชัด ตั้งแต่หลังคารถ ช่วยเติมสัมผัสของความเป็นสปอร์ตให้มากขึ้น โดยเส้นสายทั้งหมดช่วยสร้างมิติและความปราดเปรียวให้กับตัวรถเต็มไปด้วยความ คล่องแคล่ว และสง่างาม
          การตกแต่งภายใน – สัมผัสได้ถึงคุณภาพอันเป็นเลิศจากการคัดสรรวัสดุชั้นเยี่ยม
          การ ตกแต่งภายในของ The new A-Class ได้รับแรงบันดาลใจจากเครื่องบินเจ็ทที่กำลังทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ทำให้ดูทันสมัย ดูมีสีสันมากขึ้น ด้วยการเลือกใช้วัสดุชั้นดี คุณภาพสูง โดยเน้น สีแดงตัดสลับสร้างความโดดเด่นในรุ่น A 250 AMG Sport ได้แก่ ช่องปรับอากาศ 5 ช่อง แบบโครเมียมตกแต่งด้วยวงกลมสีแดงที่แผงคอนโซล พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบสปอร์ต 3 ก้านหุ้มหนัง Nappa ตกแต่งด้วยสีแดง เบาะนั่งแบบสปอร์ตหุ้มหนัง ARTICO สลับ DINAMICA microfibre สีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง เข็มขัดนิรภัยสีแดง เป็นต้น ส่วนในรุ่น A 180 Style จะตกแต่งลวดลายแบบโครเมียม ได้แก่ ช่องปรับอากาศ 5 ช่อง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น พนักวางแขนข้างประตู รวมถึงเบาะนั่งแบบสปอร์ตหุ้มหนัง ARTICO สลับผ้า Larochette สีดำหรือสีเทา ส่วนแผงหน้าปัดดีไซน์แบบสปอร์ตด้วยลายธงตาหมากรุก และใช้มาตรวัดแบบสปอร์ต ตกแต่งพื้นหลังด้วยสีเงิน และก้านบอกตำแหน่งสีแดงในทั้ง 2 รุ่น
          The new A-Class สะท้อนให้เห็นถึงบุคลิกความเป็นสปอร์ตมากขึ้น โดยมิติของตัวรถมีขนาด4,295 x 1,780 x 1,433 มม. (ความยาว x ความกว้าง x ความสูง) ต่ำลงจากรุ่นเดิมถึง 160 มิลลิเมตรโดยเป็นรถยนต์แบบ 5 ที่นั่ง ซึ่งเบาะด้านหลังแม้จะดูเหมือนเบาะที่แบ่งเป็น 2 ที่นั่ง แต่มีพื้นที่รองรับผู้โดยสารได้ถึง 3 คน นอกจากนี้ยังมีพื้นที่เก็บสัมภาระซึ่งมีความจุ 341 ลิตร และหากพับพนักพิงของเบาะหลังจะเพิ่มพื้นที่ความจุเป็น 1,157 ลิตร นอกจากนั้นยังติดตั้ง เครื่องเล่นวิทยุแบบ Audio 20 พร้อมเครื่องเล่นซีดี และช่องเชื่อมต่อเพื่อความบันเทิงทั้ง Aux-in และ USB บริเวณคอนโซลกลาง อีกทั้งสามารถเล่น MP3 ได้ เพื่อให้ความเพลิดเพลินบันเทิงใจขณะขับขี่ รวมทั้งระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ผ่านบลูทูธ เพื่อให้ความสะดวกสบายในการสื่อสารมากยิ่งขึ้น
          พลังขับเคลื่อนอันทรงพลังจากเครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูง
          The new A-Class ยนตรกรรมโฉมใหม่ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินแบบแถวเรียง 4 สูบเทอร์โบ ถ่ายทอดผ่านกำลังเกียร์อัตโนมัติแบบ 7G-DCT พร้อมด้วยฟังก์ชั่น ECO Start/Stop โดยพวงมาลัยเป็นแบบมัลติฟังก์ชั่น พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย
 
รุ่น   เครื่องยนต์   ปริมาตรกระบอกสูบ
(ซีซี)   แรงม้าสูงสุด (แรงม้า/รอบต่อนาที)   แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตรที่ความเร็วรอบต่อนาที)   อัตราเร่ง  0-100 กม./ชม.   ความเร็วสูงสุดโดยประมาณ (กม./ชม.)   อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันโดยเฉลี่ย (กม./ลิตร)
A 180 Style   เบนซิน 4 สูบ
แถวเรียงเทอร์โบ   1,595   122 / 5,000   200 /
1,250-4,000   9.1   202   18.52
A 250 AMG Sport   เบนซิน 4 สูบ
แถวเรียงเทอร์โบ   1,991   211 / 5,500   350 /
1,200-4,000   6.6   240   15.63
           ระบบความปลอดภัยด้วยมาตรฐานขั้นสูง
          เมอร์เซเด ส-เบนซ์ The new A-Class โฉมใหม่นี้มาพร้อมกับเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยต่างๆ ตลอดจนอุปกรณ์แบบครบครันที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้รับความปลอดภัยสูงสุดไม่ว่าจะเป็นกระจก ส่องหลังลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP (Electronic Stability Program) ที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถรักษาทิศทางและการทรงตัวของรถได้อย่างปลอดภัยใน สถานการณ์คับขัน ระบบช่วยเบรก BAS (Brake Assist) ที่จะทำงานร่วมกับระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS (Anti-lock braking system) ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ASR (Acceleration skid control) ที่ช่วยรักษาเสถียรภาพการทรงตัวและการยึดเกาะถนนให้อยู่ในระดับสูงสุด
          เพิ่มความมีชีวิตชีวาและเป็นตัวของตัวเองด้วยชุดแต่งอันหลากหลาย
          The new A-Class มีชุดแต่งให้เลือกตามสไตล์และรสนิยม โดยสามารถเลือกได้ตามความต้องการในแบบฉบับของตัวเอง โดยรุ่น A 180 จะตกแต่งในแบบ Style ในขณะที่ A 250 ตกแต่งแบบ AMG Sport ซึ่งในแต่ละรุ่นจะมีอุปกรณ์ตกแต่งที่แตกต่างกันไป เพื่อเพิ่มความน่าสนใจ และน่าหลงใหลมากยิ่งขึ้น 
 
 A 180 Style ราคา 1,890,000 บาท    A 250 AMG Sport ราคา 2,490,000 บาท
•        เบาะนั่งแบบสปอร์ตหุ้มหนัง ARTICO สลับผ้า Larochette สีดำหรือสีเทา
•        ช่องปรับอากาศแบบโครเมียม
•        ลาย diamond-pattern ที่คอนโซลหน้า
•        ระบบกันสะเทือนแบบคอมฟอร์ท
•        ปลายท่อไอเสียเสริมโครเมียม 2 ท่อ
•        ล้ออัลลอยลาย 5 ก้านคู่ ขนาด 17 นิ้ว
    •        เบาะนั่งแบบสปอร์ตหุ้มหนัง ARTICO สลับ DINAMICA microfibre สีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง
•        ช่องปรับอากาศแบบโครเมียมตกแต่งด้วยวงกลมสีแดง
•        ลาย carbon fibre ที่คอนโซลหน้า
•        เข็มขัดนิรภัยสีแดง
•        ระบบกันสะเทือนแบบสปอร์ตที่ได้รับปรับแต่งเป็นพิเศษจาก AMG
•        ชุดแต่ง AMG (กันชนหน้า กันชนหลัง และสเกิร์ตข้าง )
•        สัญลักษณ์ Sport บริเวณซุ้มล้อหน้า
•        กันชนหน้า-หลังตกแต่งด้วยแถบเส้นสีแดง
•        ชุดคันเร่งและแป้นเบรกแบบสปอร์ต
•        ปลายท่อไอเสียเสริมโครเมียม 2 ท่อ
•        ดิสก์เบรกหน้าแบบมีช่องระบายความร้อน
•        คาลิปเปอร์เบรกสีแดงหน้า-หลัง พร้อมสัญลักษณ์ Mercedes-Benz บนคาลิปเปอร์เบรกหน้า
•        พรมรองพื้นสีดำแบบสปอร์ตตกแต่งด้วยด้ายสีแดง
•        ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG ขนาด 18 นิ้ว

           มร. มาร์ทิน ชูลซ์ รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “การเปิดตัว The new A-Class เป็นการทำตลาดรถยนต์ คอมแพ็คคาร์ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชอบความเป็นสปอร์ต รักความสนุกสนาน มีความเป็นตัวของเอง นอกจากนี้ยังได้จัดทำเว็บไซต์ไลฟ์สไตล์สุดฮิป www.pulsethailand.com ซึ่งนำเสนอเนื้อหาและข้อมูลที่เป็นที่สนใจของกลุ่มคนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีไซน์ เทคโนโลยี หรือความบันเทิงต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าดังกล่าว ซึ่งที่ผ่านมาเราได้ให้ความสำคัญกับการใช้สื่อดิจิตอลผ่านช่องทางสังคมออ นไลน์อย่าง facebook, instagram และ twitter ในการเป็นศูนย์กลางเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและอัพเดทข้อมูลข่าวสารความ เคลื่อนไหวต่างๆ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีมาโดยตลอด”
ดร. เพาฟเลอร์ กล่าวสรุปว่า “การปรับโฉมใหม่ของ The new A-Class ครั้งนี้นับเป็นการคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดและเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ นอกจากนี้ยังเป็นการพัฒนาอีกขั้นของการออกแบบยนตรกรรมต่อไปในอนาคต ซึ่งเราได้สร้างความประทับใจและความมั่นใจให้กับลูกค้าผ่านการบริการหลังการ ขายและการใส่ใจและดูแลลูกค้าที่เป็นเลิศ ด้วยการรับประกัน 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และสิทธิพิเศษ Star Assist โปรแกรมพิเศษที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง โดยลูกค้าของเราจะได้รับประสบการณ์เหล่านี้โดยตรงจากโชว์รูมและศูนย์บริการ มาตรฐานรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการ 30 แห่งทั่วประเทศ”

MSN on December 01, 2012, 04:15:57 PM
ทาทา ฉลอง 5 ปี นำ “เมกาพิกเซล” สุดล้ำโชว์โฉมครั้งแรกในเอเชีย พร้อมเปิดตัวกระบะพาณิชย์สุดคุ้มค่า “ทาทา ซีนอน แม็กซ์ ซีเอ็นจี”






 
          ทา ทา มอเตอร์ส ประเทศไทย ฉลอง 5 ปี นำ ซิตี้คาร์ คอนเซ็ปต์ ทาทา เมกาพิกเซล โชว์โฉมครั้งแรกในเอเชีย ในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 29 พร้อมเปิดตัวกระบะพาณิชย์รุ่นใหม่ ทาทา ซีนอน แม็กซ์ ซีเอ็นจึ คุ้มค่าคุ้มราคายิ่งกว่าเดิม ขณะที่ ทาทา ซีนอน ไจแอนท์ เฮฟวี่ ดิวตี้ ที่เพิ่งลงตลาด 2 รุ่นรวดเมื่อเร็วๆ นี้ ก็พร้อมมาให้เลือกสรรความคุ้มค่าในการใช้งานร่วมกับรถกระบะพาณิชย์ของทาทา อีกหลากหลายรุ่น ในงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2012

          เมกาพิกเซลโชว์โฉมครั้งแรกในเอเชีย
          บริษัท ทาทา มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ฉลองการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยเป็นปีที่ 5 ลงทุนนำรถ ทาทา เมกาพิกเซล (TATA Megapixel) ซิตี้คาร์ คอนเซ็ปต์ พลังงานไฟฟ้า แบบ 4 ที่นั่ง มาจัดแสดงเป็นครั้งแรกในประเทศไทย และเป็นครั้งแรกที่ เมกาพิกเซล ยานยนต์แห่งอนาคตมาโชว์โฉมในทวีปเอเชีย ในงาน ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์เอ็กซ์โป 2012 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง วันที่ 10 ธันวาคม 2555 นี้
          ทาทา เมกาพิกเซล เป็นคอนเซปต์คาร์ ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี ลิเธียมไอออน ที่ทำงานร่วมกับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ใช้น้ำมันเบนซิน ในการชาร์จกำลังไฟเข้าแบตเตอรี่อย่างต่อเนื่อง ทำให้ เมกาพิกเซล สามารถใช้งานได้ในระยะทางมากกว่า 900 กิโลเมตร จากน้ำมันเพียง 1 ถัง และยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยค่าไอเสียเพียง 22 กรัมต่อกิโลเมตร และมีอัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 100 กิโลเมตรต่อลิตร
          จุดเด่นของ ทาทา เมกาพิกเซล คือ ความเป็นรถซิตี้คาร์ที่มีความคล่องตัวสูง เหมาะสำหรับการใช้งานในเมืองใหญ่ๆทั่วโลก ที่มีการจราจรหนาแน่น มีปริมาณรถมาก การจอดรถหรือกลับรถทำได้ลำบาก ซึ่ง ทาทา เมกาพิกเซล ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ซีโร่เทิร์น” (Zero Turn) มีระบบขับเคลื่อนควบคุมทั้ง 4 ล้อ ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแยกอิสระสำหรับแต่ละล้อ ทำให้เมกาพิกเซลมีรัศมีวงเลี้ยวแคบเพียง 2.8 เมตร หรือสามารถเลี้ยวกลับรถได้ง่ายบนถนนเพียง 1 เลนหรือการเข้าจอดแบบจอดเทียบก็จะสามารถทำได้อย่างสะดวกรวดเร็วเนื่องจาก ล้อทั้ง 4 สามารถบังคับเลี้ยวทำมุม “ที่ 0 องศา” จากแนว 90 องศาของล้อรถ พร้อมระบบนำร่องช่วยเหลือในการจอด ทำให้เมกาพิกเซลสามารถใช้ด้านข้างของรถเทียบจอดไปหาแนวบาทวิถีได้ทันที โดยไม่ต้องเดินหน้า-ถอยหลัง ซึ่งนั่นเป็นที่มาของคำว่า “ซีโร่ เทิร์น” ที่ทำให้ เมกาพิกเซลมีความคล่องตัวสูงมาก

          นอกจากนี้ ทาทา เมกาพิกเซล ยังพรั่งพร้อมด้วยการออกแบบและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทั้งการออกแบบที่ผสมผสานความภูมิฐานเฉพาะตัวทั้งสีสัน กราฟฟิก หรือวัสดุในการประกอบต่างๆ กับความงดงามและทันสมัยในระดับสากล หลังคาแบบพาโนรามิค ช่วยเพิ่มมุมมองภายในห้องโดยสารให้ดูกว้างขวางมากยิ่งขึ้นส่วนประตูเลื่อน แบบ Double-sliding ที่แนบไปกับด้านข้างตัวรถ ทำให้การเข้าออกตัวรถของ ทาทา เมกาพิเซล เป็นไปอย่างง่ายดายสะดวกสบาย พร้อมให้ทัศนวิสัยที่เหนือกว่า
          ที่สำคัญ เมกาพิกเซล ยังได้รับการออกแบบให้ผู้ขับขี่สามารถใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าควบคู่ไปกับการ ใช้งานรถยนต์ได้มากขึ้นและสะดวกสบายยิ่งขึ้น จากแผงคอนโซลที่ออกแบบให้สามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์เคลื่อนที่ภายในรถ พร้อมจอภาพแบบทัชสกรีนขนาดใหญ่ที่เป็นเสมือนแผงหน้าปัด และศูนย์กลางควบคุมอุปกรณ์ ฟังก์ชั่น หรือเช็คข้อมูลต่างๆ ของรถ เช่น อุณหภูมิ ระบบปรับอากาศ รูปแบบการขับขี่ หรือ ข้อมูลสมรรถนะของรถ
          กระบะพาณิชย์ใหม่สุดคุ้ม “ซีนอน แม็กซ์ ซีเอ็นจี”
          นอก จาก ทาทา เมกาพิกเซล ที่มาโชว์โฉมเป็นครั้งแรกในประเทศไทยและทวีปเอเชียแล้ว ทาง ทาทา มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังใช้เวที มอเตอร์เอ็กซ์โป ครั้งที่ 29 นี้ แสดงจุดยืนที่จะดำเนินธุรกิจในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องและมั่นคง พร้อมพัฒนาคุณภาพในทุกๆ ด้านรวมไปถึงสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ มาสนองการใช้งานอันหลากหลายรูปแบบของลูกค้าในประเทศ ด้วยการเปิดตัว รถกระบะเพื่อการพาณิชย์รุ่นใหม่ล่าสุด
          ทาทา ซีนอน แม็กซ์ ซีเอ็นจี (Xenon MaxCNG) กระบะแบบตอนครึ่ง เครื่องยนต์ “ซีเอ็นจีพลัส” ขนาด 2.1 ลิตร เป็นเครื่องซีเอ็นจี 100% ทั้งระบบ ที่มีความทนทานมากขึ้นและนำเสนอความคุ้มค่าคุ้มราคามากยิ่งขึ้น หลังจากเมื่อปลายปี 2554 ที่ผ่านมา ทาทา มอเตอร์ส ส่ง ซีนอน แม็กซ์แค็บ เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตรลงตลาดและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
          ทา ทา ซีนอน แม็กซ์ ซีเอ็นจี ยังมาพร้อมกับถังบรรจุก๊าซซีเอ็นจี 3 ถัง รวม 199 ลิตร ที่สามารถวิ่งได้ในระยะทางมากกว่า 350 กิโลเมตร จากการบรรจุก๊าซเต็มทั้ง 3 ถัง ใน 1 ครั้ง ซึ่งทำให้ ทาทา ซีนอน แม็กซ์ ซีเอ็นจี เป็นรถที่ให้ความคุ้มค่าคุ้มราคามากยิ่งขึ้น ทั้งจาก การเป็นกระบะพื้นเรียบที่บรรทุกสินค้าในการดำเนินธุรกิจได้อย่างเต็มความจุ ความสะดวกรวดเร็วในการขนถ่ายสินค้าจากฝากระบะที่เปิดได้ทั้ง 3 ด้าน อัตราสิ้นเปลืองและค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงมีราคาต่ำ ประหยัดเวลาในการเดินทาง ขนส่ง ไม่ต้องเสียเวลาในการแวะเติมก๊าซซีเอ็นจีบ่อยครั้ง ทำรอบในการขนส่งได้มากขึ้น นั่นจึงทำให้ ทาทา ซีนอน แม็กซ์ ซีเอ็นจี เป็นคำตอบของความคุ้มค่าคุ้มราคายิ่งขึ้นอย่างแท้จริง และจากการเป็นกระบะแบบตอนครึ่ง ที่สามารถขนคนขนของได้มากขึ้น ทำให้ ซีนอน แม็กซ์ซีเอ็นจี มีความอเนกประสงค์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการนำเป็นใช้ดำเนินธุรกิจขนส่งสินค้า การนำไปใช้งานช่าง งานค้าขาย ธุรกิจขนาดย่อม หรือ นำไปใช้เป็นรถครอบครัว ท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดหรือว่างเว้นจากการทำงาน

          ซีนอน ไจแอนท์ เฮฟวี่ ดิวตี้ ดีไซน์สำหรับใช้งานหนัก
          ทา ทา มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังมีรถกระบะเพื่อการพาณิชย์สำหรับงานหนัก มาให้ลูกค้าเลือกใช้งานอีก 2 รุ่น คือ ทาทา ซีนอน ไจแอนท์ เฮฟวี่ ดิวตี้ (Xenon Giant Heavy Duty)เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร 140 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที พร้อมให้แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร อย่างต่อเนื่องแบบ flat torque ที่รอบต่ำตั้งแต่ 1,700-2,700 รอบ/นาที พร้อมระบบส่งกำลังแบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และ ทาทา ซีนอน เฮฟวี่ ดิวตี้ ซีเอ็นจี พลัส (Xenon Heavy Duty CNG+) เครื่องยนต์ซีเอ็นจีพลัส 2.1 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 101 แรงม้า ที่ 5,000 รอบ/นาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 161 นิวตันเมตร ที่ 3,750 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด
          ทา ทา ซีนอน เฮฟวี่ ดิวตี้ ทั้ง 2 รุ่น มีความทนทานต่อการใช้งานหนัก จากการติดตั้งเพลาหลังบรรทุกหนักแบบ เฮฟวี่ ดิวตี้ พร้อมแหนบบรรทุก 9 ชั้น ทำให้ ทาทา ซีนอน เฮฟวี่ ดิวตี้ ซีเอ็นจีพลัส เป็นรถกระบะเพื่อการพาณิชย์ที่ตอบโจทย์ด้านความคุ้มค่าคุ้มราคาอย่างแท้จริง ในการนำไปใช้ในการดำเนินธุรกิจ ที่นอกจากจะให้ความแข็งแรงทนทานมากกว่าโดยไม่ต้องนำไปดัดแปลงชิ้นส่วนเอง แล้ว ยังเป็นกระบะพื้นเรียบที่ไม่ติดซุ้มล้อ เพิ่มความสามารถในการบรรทุกได้มากยิ่งขึ้น จึงทำรอบได้ดีและประหยัดยิ่งกว่า และในรุ่น เฮฟวี่ ดิวตี้ ซีเอ็นจีพลัส ที่ใช้เชื้อเพลิงราคาถูกอย่างก๊าซซีเอ็นจี ทำให้ ทาทา ซีนอน เฮฟวี่ ดิวตี้ ซีเอ็นจีพลัส ให้ความคุ้มค่าคุ้มราคาที่เหนือใคร
          ทาทา ซีนอน เฮฟวี่ดิวตี้ ทั้ง 2 รุ่น ได้รับการออกแบบจากโรงงาน ให้มีมาตรฐานเหมาะสมสำหรับการใช้งานหนัก ทำให้ไม่เกิดปัญหาต่างๆ ดังกล่าว และมีค่าบำรุงรักษาต่ำ เนื่องจากอุปกรณ์ทุกชิ้นได้รับการออกแบบให้รองรับการใช้งานหนักและยังคง สมรรถนะในการขับขี่ที่ปลอดภัย และยังให้การรับประกันคุณภาพนาน 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร
          ทาทาจัดเต็มขนรถพาณิชย์หลากรุ่นให้เลือกใช้งาน
          ทา ทา มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังพร้อมนำรถเพื่อการพาณิชย์หลากหลายรุ่นหลากหลายรูปแบบ มาให้ลูกค้าได้เลือกชมภายในงาน ไม่ว่าจะเป็น ทาทา ซีนอน แม็กซ์แค็บ (Xenon MaxCab) เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีหลังจากเปิดตัวไปเมื่อปลายที่ผ่านมา หรือ รถเพื่อการพาณิชย์ยอดนิยมอย่าง ทาทา ไจแอนท์ ซูเปอร์เอซ (Giant Super ACE) เครื่องยนต์ดีเซล 1.4 ลิตร กระบะอเนกประสงค์ ทาทา ซีนอน ทั้งแบบ ตอนครึ่งและสองตอน และรถเพื่อการพาณิชย์ขนาดใหญ่อย่าง รถหัวลาก ทาทา โนวัส (TATA Novus) ที่ได้รับความสนใจจากธุรกิจขนส่ง อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ มาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงกระบะเพื่อการพาณิชย์ของทาทา ที่ถูกนำไปติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมเพื่อความเหมาะสมในการนำไปใช้งานดำเนิน ธุรกิจจากการนำไปติดตั้งไฮดรอลิกยกกระบะ เพื่อความสะดวกในการเทสินค้า เช่น หิน ทราย ฯลฯ

MSN on December 01, 2012, 04:17:11 PM
ฟอร์ด เปิดตัว เทอริทอรี่ ใหม่ และ เรนเจอร์ เบนซิน ใหม่ ณ งานมหกรรมยานยนต์ มอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 29


 
          วันนี้ ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี โดยนายแมท แบรทลีย์ ประธาน ฟอร์ด อาเซียน และนางสาวยุคนธร วิเศษโกสิน รองประธานฝ่ายการตลาด การขายและการบริการ เปิดตัวรถสองรุ่นใหม่ ภายในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 29 ได้แก่ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ รุ่นเครื่องยนต์ เบนซิน 2.5 ลิตร วีซีที และ ฟอร์ด เทอริทอรี่ ใหม่ รถยนต์นั่งอเนกประสงค์ระดับพรีเมี่ยม รุ่นเครื่องยนต์ดูราทอร์ค ทีดีซีไอ วี6 ขนาด 2.7 ลิตร จากประเทศออสเตรเลีย

          โดย ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ รุ่นเครื่องยนต์ เบนซิน 2.5 ลิตร วีซีที มีราคาจำหน่าย อยู่ที่ 609,000 บาท

          โดย ฟอร์ด เทอริทอรี่ ใหม่ รถยนต์นั่งอเนกประสงค์ระดับพรีเมี่ยม ขนาดเจ็ดที่นั่ง จากประเทศออสเตรเลีย ประกอบด้วย เครื่องยนต์ดูราทอร์ค ทีดีซีไอ วี 6 ขนาด 2.7 ลิตร พร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ที่ให้แรงม้าสูงสุด 190 แรงม้า และ แรงบิดสูงสุด 440 นิวตัน-เมตร พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ออลวีลไดรฟ์ (AWD ด้วยราคาจำหน่าย 2,990,000 บาท

          ใน โอกาสฉลองการเปิดตัว ฟอร์ด เทอริทอรี่ ในประเทศไทย นายพาที สารสิน นักธุรกิจชื่อดัง มีกำหนดเข้าร่วมงาน ณ บูธฟอร์ด ในวันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม นอกจากนี้ นายพาที ยังรับหน้าที่เป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ ฟอร์ด เทอริทอรี่ ในประเทศไทย

          ฟอร์ดยังพร้อมมอบข้อเสนอสุดพิเศษมากมาย ภายในงานมหกรรมยานยนต์ และศูนย์จำหน่ายฟอร์ดทั่วประเทศ ถึงสิ้นปี รวมถึงสิทธิลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่า 100,000 บาท เมื่อสั่งจองฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ รวมถึง ฟอร์ด เฟียสต้า ทุกรุ่น

MSN on December 01, 2012, 04:18:36 PM
สามมิตร กรีนพาวเวอร์เผยโฉมรถกระบะสายพันธุ์ใหม่ “ก้านกล้วยเต็มเหนี่ยว” กับเทคโนโลยี 4 ถัง 2 ระบบ ในงาน Motor Expo 2012



          สามมิตร กรีนพาวเวอร์เผยโฉมรถกระบะสายพันธุ์ใหม่ “ก้านกล้วยเต็มเหนี่ยว” กับเทคโนโลยี 4 ถัง 2 ระบบ ในงาน Motor Expo 2012 จุใจ คุ้มค่า บรรทุกมากขึ้น 4 เท่า วิ่งไกลกว่า 450 กม.

          สามมิตร กรีนพาวเวอร์ ตอกย้ำความสำเร็จของรถกระบะก้านกล้วย ด้วยการเปิดตัวน้องใหม่ “กระบะก้านกล้วยเต็มเหนี่ยว” เป็นครั้งแรกในงาน Motor Expo 2012 โชว์จุดเด่นเทคโนโลยี 4 ถัง 2 ระบบ ตอบโจทย์การบรรทุกระยะทางไกลได้กว่า 450 กิโลเมตร ไม่ต้องเติมก๊าซบ่อย ประหยัดเวลาการขนส่ง จุใจคุ้มค่ากับการบรรทุกได้มากขึ้น 4 เท่า พร้อมประตูเปิด-ปิด 3 ด้าน ช่วยให้เคลื่อนย้ายสินค้าสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น
          นายสุรยุทธิ์ โพธิ์ศิริสุข กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามมิตร กรีนพาวเวอร์ จำกัด เปิดเผยว่า จากความต้องการของลูกค้าในปัจจุบัน ซึ่งให้ความสำคัญกับการเลือกใช้งานรถกระบะที่มีสมรรถนะสูงขึ้น ทั้งในด้านของพื้นที่การบรรทุกและความสามารถในการวิ่งได้ระยะทางไกล โดยไม่ต้องเสียเวลาเติมก๊าซบ่อยๆ ปัจจัยดังกล่าวถือเป็นแรงผลักดันให้สามมิตร กรีนพาวเวอร์เร่งคิดค้นพัฒนานวัตกรรม “รถกระบะก้านกล้วยเต็มเหนี่ยว”อีกหนึ่งยนตรกรรมแบรนด์ไทยมาตรฐานโลก เพื่อตอบสนองความต้องการพื้นที่การบรรทุกมากเป็นพิเศษโดยชูจุดเด่นในเรื่อง ของเทคโนโลยีการติดตั้งก๊าซซีเอ็นจี 4 ถัง 2 ระบบ ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ด้วยการติดตั้ง 3 ถังบนแชสซี และวางถังที่ 4 ไว้บนหลังคารถ ทำให้ไม่เสียพื้นที่ในการบรรทุกอีกทั้ง ยังมีโครงสร้างการยึดตัวถังก๊าซกับตู้กระบะด้านหลังอย่างแน่นหนา จึงมั่นใจได้ว่าสามารถขับขี่ได้อย่างปลอดภัยตลอดเส้นทาง
          “เรา เข้าใจถึงความต้องการของลูกค้า จึงได้พัฒนารถกระบะก้านกล้วยเต็มเหนี่ยวขึ้นมา โดยออกแบบให้สามารถบรรทุกได้เต็มประสิทธิภาพ มากกว่ารถกระบะทั่วไปถึง 4 เท่า และวิ่งได้เต็มเหนี่ยวมากขึ้นเป็นระยะทางกว่า 450 กิโลเมตรไม่ต้องเสียเวลาในการเติมก๊าซบ่อยๆ จึงช่วยเพิ่มศักยภาพการขนส่งให้รวดเร็ว ตรงเวลา ขณะที่ประตูตู้บรรทุกก็สามารถเปิด-ปิดได้ทั้ง 3 ด้าน ทำให้สะดวกในการเคลื่อนย้ายสินค้า ถือเป็นคำตอบของการโลจิสติกส์ที่จุใจคุ้มค่าอย่างแท้จริง” นายสุรยุทธิ์ กล่าว
          ร่วมพิสูจน์สมรรถนะสูงสุดในการบรรทุกระยะทางไกลของรถ กระบะก้านกล้วยเต็มเหนี่ยว ได้เป็นครั้งแรกในงาน Motor Expo 2012 ที่บูธสามมิตร กรีนพาวเวอร์ เลขที่ B 15 โซนรถยนต์ ตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย.- 10 ธ.ค. นี้ ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี

MSN on December 01, 2012, 04:20:08 PM
ฮอนด้านำยนตรกรรมครบ 13 รุ่น ตอบโจทย์ความต้องการทุกระดับ และไลฟ์สไตล์ ร่วมงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 29




 
          - เสนอแนวคิด The Combination of Joys ที่แสดงถึงการกลับมาอย่างแข็งแกร่ง และพร้อมที่จะร่วมส่งมอบความสุขให้สังคมไทย ผ่านยนตรกรรมทั้ง 13 รุ่น เพื่อตอบสนองทุกความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้า
          - บริโอ้ อเมซ อีโคคาร์ ซีดานใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัว เป็นไฮไลท์ที่นำมาจัดแสดงพร้อมแคมเปญสุดพิเศษ สมการสุข สุดเซอร์ไพร์ส 3 ชั้น วันนี้ถึง 31 ธ.ค. 2555 เท่านั้น
          - พบกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟกับหมากและญาญ่า คู่ขวัญพรีเซนเตอร์ บริโอ้ วันที่ 2 ธันวาคม และบี้ สุกฤษฏิ์ พรีเซนเตอร์ บริโอ้ อเมซ จะมาร่วมส่งมอบสมการความสุขใหม่ ที่บูธฮอนด้า วันที่ 7 ธันวาคม
          - แนะนำ HondaLink นวัตกรรมแอพพลิเคชั่นรถยนต์อัจฉริยะแห่งอนาคต

          บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29 นำเสนอแนวคิด The Combination of Joys ที่รวมยนตรกรรมครบทั้ง 13 รุ่นมาจัดแสดง ซึ่งมีรถยนต์รุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวในปีนี้ถึง 10 รุ่น และร่วมด้วย บริโอ้ อเมซ อีโคคาร์ ซีดาน ใหม่ล่าสุด ที่พัฒนาขึ้นสำหรับตลาดเอเชียโดยเฉพาะ และเพิ่งเปิดตัวในไทยเป็นประเทศแรกให้ผู้เข้าชมงานสัมผัสอย่างใกล้ชิด พร้อมแคมเปญพิเศษสมการสุข สุดเซอร์ไพรส์ ฉลองส่งท้ายปี 2555 ก่อนปิดโครงการรถยนต์คันแรก

          นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร รองประธานอาวุโส บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "สำหรับงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29 นี้ เป็นการแสดงถึงการกลับมาอย่างแข็งแกร่งของฮอนด้า โดยได้นำเสนอยนตรกรรมครบทุกรุ่น ภายใต้แนวคิด The Combination of Joys ที่ฮอนด้าพร้อมอย่างเต็มที่ในการส่งมอบความสุขให้กับลูกค้า และผู้สนใจที่มาเยี่ยมชมบูทฮอนด้า โดยในงานนี้ผู้เข้าชมงานจะได้พบกับรถยนต์ฮอนด้าถึง 13 รุ่น เพื่อตอบความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกัน ครบทุกไลฟ์สไตล์ โดยไฮไลท์ของงานนี้ ฮอนด้าได้นำรถยนต์ ฮอนด้า บริโอ้ อเมซ ซึ่งเป็นรถยนต์อีโคคาร์รุ่นที่ 2 ที่ต่อยอดการพัฒนาจากบริโอ้ ของทีม R&D ในประเทศไทย ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างวิศวกรญี่ปุ่นและไทย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทั้งในประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียอย่างแท้จริง มาจัดแสดงให้ลูกค้าได้ร่วมสัมผัสอย่างใกล้ชิดอีกด้วย” นายพิทักษ์กล่าว

          บริ โอ้ อเมซ พัฒนาด้วยแนวคิด “สมาร์ท ไมโคร ลีมูซีน” คือการออกแบบภายนอกที่มีสไตล์โฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว แต่มีพื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย มาพร้อมเครื่องยนต์ SOHC i-VTEC ขนาด 1.2 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว 90 แรงม้า ให้การขับขี่อย่างสนุกในทุกอารมณ์ แต่มีการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ดีเยี่ยมถึง 20 กิโลเมตร/ลิตร เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานมลพิษระดับ EURO4 ระบบพวงมาลัยแบบแร็คแอนด์พีเนียนและเพาเวอร์ผ่อนแรงแบบไฟฟ้า (EPS) รัศมีวงเลี้ยวแคบสุดเพียง 4.6 เมตร ให้ความคล่องตัวในการขับขี่มีระบบความปลอดภัยอย่างครบครัน ด้วยโครงสร้างตัวถังนิรภัย G-CON เสริมโครงสร้างเหล็กกล้าพิเศษ ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบกระจายแรงเบรค (EBD) ถุงลมอัจฉริยะด้านคนขับแบบ i-SRS และผู้โดยสารด้านหน้า SRS ปกป้องผู้โดยสารจากการชนด้านหน้าและด้านข้างของตัวรถตามมาตรฐาน UNECE ในทุกรุ่น

          บริโอ้ อเมซ จึงเป็นสมการความสุขใหม่จากฮอนด้า ที่ผสานความต้องการที่แตกต่างและหลากหลายได้อย่างลงตัว คือ คล่องตัวแต่กว้างสบาย ขับสนุกแต่ประหยัดน้ำมัน และเป็นอีโคคาร์ที่มีความปลอดภัยครบครัน

          ในโอกาสต้อนรับ การเปิดตัวบริโอ้ อเมซ ฮอนด้ายังได้จัดแคมเปญ บริโอ้ อเมซ สมการสุข สุดเซอร์ไพรส์ ฉลองส่งท้ายปี 2555 พิเศษสุดสำหรับลูกค้าที่จองรถตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธันวาคม 2555 มอบเซอร์ไพรส์ถึง 3 ขั้น

          ขั้นที่ 1 รับสิทธิ์ให้เลือก 3 ทางเลือก คือ
          1. ดอกเบี้ยต่ำสุดเพียง 1.49%
          2. ดาวน์ต่ำสุด 59,999 บาท แถมฟรีประกันภัยชั้น 1 หรือ
          3 ผ่อนต่ำสุด 3,813 บาทต่อเดือน แถมฟรีประกันภัยชั้น 1
          ขั้นที่ 2 รับฟรีกระเป๋าเดินทางขนาด 20 นิ้วมูลค่า 2,500 บาท
          ขั้น ที่ 3 รับสิทธิ์ลุ้น ฮอนด้า คลิก 125i มูลค่า 46,500 บาท แจกทุกวัน วันละคันรวม 39 คัน ผู้ที่จองก่อน มีสิทธิ์ลุ้นทุกวัน จนถึงสิ้นปี 2555

          จาก การเปิดตัว บริโอ้ อเมซ ทำให้ในปัจจุบันฮอนด้ามีรถยนต์ที่เข้าร่วมโครงการรถยนต์คันแรกมากที่สุดถึง 6 รุ่น ได้แก่ ซิตี้ ซิตี้ ซีเอ็นจี แจ๊ซ แจ๊ซ ไฮบริด บริโอ้ และบริโอ้ อเมซ ซึ่งได้นำมาจัดแสดงที่บูธ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับกลุ่มลูกค้ารถยนต์คันแรก ได้เลือกชมและตัดสินใจก่อนปิดโครงการฯ สิ้นปีนี้ด้วย

          นอก จากนี้ฮอนด้ายังได้จัดแสดงรถยนต์ที่สามารถรองรับพลังงานทางเลือกหลากหลายถึง 3 ประเภทใน 4 รุ่นคือ E85 ในรุ่น ซีวิค และซีอาร์-วี รถยนต์ไฮบริด รุ่นแจ๊ซ ไฮบริด และแก๊สธรรมชาติในซิตี้ ซีเอ็นจี ทั้งยังมี ฟรีด แอคคอร์ด รวมถึงกลุ่มรถยนต์นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นอีก 3 รุ่น คือ โอดิสซีย์ และ สเตปแวกอน สปาด้า ซึ่งเป็นรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ระดับหรู และซีอาร์-ซีร์ รถสปอร์ตไฮบริดที่เหมาะกับการใช้งานได้ทุกวัน

          ภายในงาน ฮอนด้ายังได้นำแอพพลิเคชั่น HondaLink นวัตกรรมเทคโนโลยีรถยนต์อัจฉริยะแห่งอนาคต ที่จะช่วยเชื่อมโยงให้ผู้ขับขี่เข้าถึงข้อมูลที่สำคัญของรถได้ทุกเวลาบน สมาร์ทโฟน พร้อมบริการเพื่ออำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง ซึ่งถือได้ว่าเป็น “มิติใหม่ของมิตรภาพ” ที่เกิดขึ้นระหว่างคุณและรถ มาจัดแสดงเพื่อให้สื่อมวลชนและผู้เข้าชมงานได้ทดลองสัมผัสในงานนี้ โดยแอพพลิเคชั่น HondaLink ได้รับการพัฒนาให้มีฟังก์ชั่นที่หลากหลายรองรับการใช้งานบนสมาร์ทโฟน อาทิ การบันทึกข้อมูลรถยนต์ส่วนตัว การบันทึกสถิติข้อมูลประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง การค้นหาพิกัดตำแหน่งเพื่อให้ความช่วยเหลือฉุกเฉิน ระบบแจ้งเตือนเกี่ยวกับการดูแลรักษารถยนต์ ระบบเนวิเกเตอร์พร้อมโปรแกรมแนะนำเส้นทางอัจฉริยะ นอกจากนี้ HondaLink ยังเชื่อมโยงการติดต่อสื่อสารระหว่างฮอนด้าและลูกค้า ให้ไม่พลาดถึงข้อมูล และสิทธิพิเศษต่างๆ ด้วย โดยจะเปิดตัวในประเทศไทยเป็นแห่งแรกในเอเชีย เร็วๆ นี้

          ในโอกาสพิเศษนี้ ฮอนด้ายังได้จัดกิจกรรม Meet & Greet สุดเอ็กซ์คลูซีฟ พบกับหมากและญาญ่า คู่ขวัญพรีเซนเตอร์บริโอ้ในวันที่ 2 ธันวาคม (เวลา 16.30-16.45 น.และ 18.15 – 18.30 น.) และพบกับหนุ่มสุดฮอต บี้ สุกฤษฏิ์ พรีเซนเตอร์บริโอ้ อเมซ ที่จะมาเปิดสมการความสุขให้กับลูกค้าและผู้ที่มาร่วมงาน ในวันที่ 7 ธันวาคม (เวลา 18.00 - 18.15 น.)

          สำหรับลูกค้าที่สนใจ สามารถสอบถามรายละเอียดต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่ฮอนด้าภายในงาน และที่โชว์รูมพร้อมศูนย์บริการฮอนด้าทั่วประเทศ

MSN on December 01, 2012, 04:21:30 PM
โตโยต้าแนะนำ รถยนต์รุ่นใหม่ 2 รุ่น คัมรี่ 2.0G Extremo และไฮลักซ์ วีโก้ TRD Sportivo






   
          นาย นิกร ประเสริฐสม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แถลงข่าวเปิดบูธโตโยต้า ภายใต้แนวคิด “Dynamic Stripe” พร้อมแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่และ รุ่นพิเศษของโตโยต้า ในงาน “ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์เอ็กซ์โป” ครั้งที่ 29 ในระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคม 2555 ที่ อาคาร ชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี

          บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เข้าร่วมแสดงนวัตกรรมยานยนต์ล้ำสมัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม บนพื้นที่ 2,000 ตารางเมตร ภายใต้แนวคิด “Dynamic Stripe” ที่สื่อถึงเส้นทางแห่งพลัง ความสุข ความอบอุ่นและความคิดสร้างสรรค์ ที่โตโยต้าได้ส่งมอบความสุขและรอยยิ้มให้แก่คนไทย โดยทั้งหมดนี้เป็นการเติมความผูกพันที่ยาวนานไม่รู้จบให้กับคนไทยและสังคม ไทยตลอดไป ซึ่งภายในบูธได้จัดแสดงรถยนต์หลากหลายรุ่นเพื่อตอบสนองทุกความต้องการของ ลูกค้า โดยได้นำรถยนต์โตโยต้ามาจัดเเสดงทั้งสิ้น 27 คัน ซึ่งมีรถยนต์รุ่นพิเศษใหม่ล่าสุดที่มาแนะนำเป็นครั้งแรกในงานนี้ถึง 2 รุ่น คือ โตโยต้า คัมรี่ 2.0G Extremo และ โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ TRD Sportivo พร้อมได้นำ โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส รุ่น 1.8 ลิตร ใหม่ ที่รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอลE85 มาจัดแสดงเช่นกัน ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายของโตโยต้าที่ต้องการตอบสนองลูกค้า ทุกกลุ่ม

          รถยนต์โตโยต้ารุ่นล่าสุดที่เปิดตัวในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปครั้งที่ 29

          โตโยต้า คัมรี่ 2.0G Extremo

          ทาง เลือกสำหรับลูกค้าที่ชื่นชอบ การตกแต่งรถสไตล์สปอร์ตแต่ยังคงไว้ซึ่งความหรูหรา ภูมิฐาน ในแบบโตโยต้า คัมรี่ โดยมีสีภายนอกให้เลือก 2 สี สีขาวมุกและสีดำ ภายในมี 2 โทนสีให้เลือกทั้งเบจและดำ

          ภายนอก
          - ไฟหน้าและไฟท้ายรมดำ...เข้ม ตั้งแต่ไฟหน้าจรดไฟท้าย (สำหรับรุ่นภายในสีดำ)
          - ชุดสเกิร์ตรอบคันด้านหน้า ด้านข้าง ด้านหลัง และ สปอยเลอร์…เพิ่มความรู้สึกโฉบเฉี่ยว เร้าใจ
          - สัญลักษณ์ Extremo ด้านข้างและหลัง… สะท้อนสไตล์ที่เหนือระดับ
          ภายใน
          - พรมปูพื้นลายพิเศษ Extremo…เอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร
          - ภายในเบาะหนังสีดำ…บ่งบอกรสนิยมที่มีสไตล์ในตัวคุณ (สำหรับรุ่นภายในสีดำ)
          - เครื่องเล่น DVD 1 แผ่น หน้าจอแบบสัมผัส พร้อมระบบนำทาง ช่องต่อ AUX และรองรับบริการ smart G-BOOK…มั่นใจและเพลิดเพลินทุกการเดินทาง
          ราคา(สำหรับสีขาวมุกราคาเพิ่ม 10,000 บาท)
          - 2.0G Extremo 1,359,000 บาท
         
          โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ TRD Sportivo

          สุด ยอดรถกระบะยอดนิยมที่ติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งสไตล์สปอร์ตรอบคันทั้งภายนอกและ ภายในรวมถึงระบบกันสะเทือนด้านหน้าเเละหลัง ที่ได้รับการปรับปรุงให้มีความสปอร์ตมากยิ่งขึ้น มีทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ รุ่นสมาร์ทแค็บ แบบขับเคลื่อน 2ล้อ 2.5E รุ่นสมาร์ทแค็บ พรีรันเนอร์ 2.5E ABS และรุ่นดับเบิลแค็บ พรีรันเนอร์ 2.5E ABS A/T

          ภายนอก
          - ชุดแต่งสเกิร์ตด้านหน้า และไฟส่องสว่างขณะวิ่งในตอนกลางวันแบบ LED***...ให้ความรู้สึกเร้าใจ และปลอดภัย ตลอดการขับขี่
          - ชุดแต่งรอบคันด้วยสเกิร์ตด้านข้างและด้านหลัง*…บาดทุกหัวใจ
          - กระจังหน้าและกระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ พร้อมสัญลักษณ์ TRD Sportivo…เข้มเต็มขั้น กับอารมณ์สปอร์ต
          - ชุดแต่งตกแต่งกันชนหลังและบันไดข้างสีดำ***…เพิ่มความสง่างาม
          - สติ๊กเกอร์โลโก้ TRD…บ่งบอกความเป็นสปอร์ตเต็มขั้น
          - ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว* และ 17 นิ้ว** ดีไซน์ใหม่…โลดแล่น และเร้าใจ
          ภายใน
          - สีภายในห้องโดยสารแบบทูโทนสีเทาเข้มและสีครีม...ให้ความรู้สึกที่แตกต่าง
          - แผงคอนโซลหน้าลายไม้สีดำ ตกแต่งด้วยแถบสีส้ม...ดีไซน์โดดเด่น นำสมัย
          - พวงมาลัยหุ้มหนังแบบ 4 ก้าน เดินด้ายสีส้มพร้อมลายไม้สีดำ***…เพิ่มความรู้สึกเข้ม และเสริมสมรรถนะการขับขี่
          - หัวเกียร์หุ้มหนังเดินด้ายส้ม**…ผสานความหรูหราและดุดันได้อย่างลงตัว
          - กล่องเก็บคอนโซลกลางหุ้มหนัง เดินด้ายส้ม…สะดวกสบายกับพื้นที่เก็บของที่มีสไตล์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร
          - เบาะผ้าสีดำและสีส้มพร้อมโลโก้ TRD …เสริมสไตล์สปอร์ตให้สมบูรณ์แบบ
          - เครื่องเสียง DVD จอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมบลูทูธ รองรับไฟล์ MP3/WMA และระบบ smart G-BOOK**...เต็มรูปแบบความบันเทิงตลอดการเดินทาง
          ระบบช่วงล่างใหม่ DTS PLUS
          - โช็คอัพและคอยล์สปริงด้านหน้า พร้อมโช็คอัพและแหนบซ้อนด้านหลังของ TRD sportivo...ที่ปรับลดความสูงลง 30 มม.* เพื่อระบบการทรงตัวที่เหนือชั้น
          ราคา(สำหรับสีเมทัลลิกราคาเพิ่ม 7,000 บาท)
          สมาร์ทแค็บ ขับเคลื่อน 2ล้อ 2.5E TRD Sportivo 692,000 บาท
          สมาร์ทแค็บ พรีรันเนอร์ 2.5E (ABS) TRD Sportivo 757,000 บาท
          ดับเบิลแค็บ พรีรันเนอร์ 2.5E เกียร์อัตโนมัติ (ABS) TRD Sportivo 898,000 บาท

          เชิญ สัมผัสและทดลองขับรถยนต์โตโยต้า ในงาน “ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โป” ครั้งที่ 29 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคม 2555 ที่ ศูนย์แสดงสินค้า และนิทรรศการนานาชาติ อิมแพ็ค เมืองทองธานี
 
          * (เฉพาะรุ่น รุ่นสมาร์ทแค็บ แบบขับเคลื่อน2ล้อ 2.5E เท่านั้น)
          ** (เฉพาะรุ่น รุ่นดับเบิ้ลแค็บ พรีรันเนอร์ 2.5E ABS A/T เท่านั้น)
          *** (ยกเว้นรุ่น รุ่นสมาร์ทแค็บ แบบขับเคลื่อน2ล้อ 2.5E เท่านั้น)

MSN on December 01, 2012, 04:23:14 PM
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ขนทัพรถครบไลน์ พร้อมแคมเปญ “จัดให้” ร่วมงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 29






 
          มิ ตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย นำยนตรกรรมจากมิตซูบิชิ ทั้งไทรทัน และปาเจโร สปอร์ต รุ่นปี 2013 มิราจ ใหม่ และแลนเซอร์ อีเอ็กซ์ ร่วมงานมอเตอร์ส เอ็กซ์โป ครั้งที่ 29 พร้อมส่งข้อเสนอเด็ดดอกเบี้ยเริ่มต้น 0.77% ตั้งเป้ายอดจองตลอดงาน 6,500 คัน
          มร.โนบุยูกิ มูราฮาชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงการเข้าร่วมงานมหกรรมยายนยนต์ หรือ มอเตอร์เอ็กซ์โป ครั้งที่ 29 ซึ่งจะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2555 นี้ว่า บริษัทจะมีการแนะนำรถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต รุ่นปี 2013 ซึ่งมาพร้อมแนวคิด “All on Demands”พร้อมด้วยรถยนต์มิตซูบิชิ ไทรทัน รุ่นปี 2013 ซึ่งมาพร้อมแนวคิด“เชื่อในพลัง มั่นในสไตล์” และมิตซูบิชิ มิราจ ใหม่ รถยนต์อีโคคาร์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจากตลาดเมืองไทยซึ่งเป็นผลมาจาก “ความกะทัดรัด” “ราคาที่สามารถเป็นเจ้าของได้” และ “การประหยัดน้ำมันเป็นเยี่ยม” ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วจากสื่อมวลชนสายรถยนต์ในเมืองไทย รวมไปถึง มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ รถยนต์ที่มาพร้อมสมรรถนะและความอัจฉริยะในการขับขี่มาร่วมโชว์ในงาน พร้อมกันนี้บริษัทยังได้เตรียมข้อเสนอพิเศษ “มิตซูบิชิ จัดให้” มอบให้กับลูกค้าที่ของรถในงาน โดยเฉพาะลูกค้าที่ซื้อรถยนต์มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ จะได้รับข้อเสนอดอกเบี้ยเริ่มต้นที่ 0.77%หรือเลือกรับข้อเสนอรถเก่าแลกรถใหม่เพิ่มมูลค่า 50,000 บาทในขณะที่รุ่นอื่นๆ ยังมาพร้อมข้อเสนอดีๆ อีกมากมาย โดยตั้งเป้ายอดจองในงานไว้ที่ 6,500 คันนอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีแผนจะเชิญ “นิชคุณ” ซึ่งเป็นพรีเซ็นเตอร์ของมิตซูบิชิ มิราจ ใหม่ มาร่วมทำกิจกรรมกับลูกค้ารถยนต์มิตซูบิชิ ในงานอีกด้วย
          “ใน ช่วงครึ่งปีหลังที่ผ่านมายอดจำหน่ายรถยนต์ของมิตซูบิชิมีแนวโน้มการฟื้น ตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาด โดยมิตซูบิชิมียอดขายสูงกว่า 10,000 คันมาโดยตลอดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และทำให้ยอดขายรวมสะสม 10 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่กว่า 100,000 คันซึ่งถือได้ว่าเป็นตัวเลขสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของบริษัทซึ่งเป็นผลมาจาก รถยนต์มิตซูบิชิ มิราจ ใหม่ ที่ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี ในขณะที่ยอดขายไทรทัน และ ปาเจโร สปอร์ต ต่างก็ยังคงมียอดขายที่น่าพอใจ ในส่วนของการเข้าร่วมงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ในปีนี้นั้นเราได้เตรียมนำรถยนต์มิตซูบิชิทุกรุ่นร่วมโชว์ พร้อมข้อเสนอพิเศษ “มิตซูบิชิ จัดให้” ที่ให้ทั้งดอกเบี้ยต่ำสุดพิเศษเริ่มต้นที่ 0.77%และข้อเสนอพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง ฟรีค่าบำรุงรักษา 30,000 กิโลเมตรแรก และฟรีค่าแรง 100,000 กิโลเมตร”
          “ทั้งนี้ จากนโยบายรถคันแรกของรัฐบาลซึ่งกำลังจะสิ้นสุดลงในสิ้นปีนี้ โดยมิตซูบิชิ มิราจ ได้รับสิทธิ์คืนภาษีสูงสุดที่ 77,000 บาท และ มิตซูบิชิ ไทรทัน ได้รับสิทธิ์คืนภาษีสูงสุดที่ 91,000 บาท พร้อมทั้งความหลากหลายของรถยนต์มิตซูบิชิ ประกอบกับข้อเสนอพิเศษที่เรามอบให้ ผมเชื่อว่าเราจะมียอดจองในงานรวมทั้งสิ้นกว่า 6,500 คัน อย่างแน่นอน” มร.มูราฮาชิกล่าว
          รถยนต์มิตซูบิชิ ในงานมหกรรมยานยนต์ มอเตอร์เอ็กซ์โป ครั้งที่ 29
          มิตซูบิชิ ไทรทัน รุ่นปี 2013           
          สำหรับมิตซูบิชิไทรทันมาพร้อมแนวคิด “เชื่อในพลัง มั่นในสไตล์” จากการปรับปรุงรูปลักษณ์ภายนอกให้ลงตัวมากยิ่งขึ้น พร้อมเพิ่มอารมณ์สปอร์ตให้กับการตกแต่งภายในด้วยโทนสีดำ การติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน อาทิระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) ระบบควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัยพร้อมอุปกรณ์ความบันเทิงพร้อมสรรพไม่ว่าจะ เป็นเครื่องเล่น DVD,VCD,CD MP3 รุ่นใหม่ที่ง่ายต่อการใช้งานและช่องต่อ USB สามารถเชื่อมต่อ iPod/iPhone ได้
          มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต รุ่นปี 2013
          มิ ตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต มาพร้อมแนวคิด “All on Demands” ที่โดดเด่นด้วยระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ ตอบทุกไลฟ์สไตล์ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่มาพร้อมสมรรถนะที่ตอบสนองทุกความต้องการด้วยระบบ SS4 (Super Select 4WD)ซึ่งเป็นระบบเดียวกันกับที่ใช้ในรถมิตซูบิชิ ปาเจโร เอสยูวี ระดับหรู ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงจากสนามแข่งขันแรลลี่ระดับตำนานของโลก ถือเป็นหนึ่งหนึ่งเดียวในรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่สามารถปรับเปลี่ยนการขับขี่ได้ 4 รูปแบบตามความต้องการและสภาพถนนจึงให้การประหยัดน้ำมันและเพิ่มความปลอดภัย ในการขับขี่ พร้อมการออกแบบภายนอกและภายในให้ตอบรับกับทุกความต้องการโดยมาพร้อมกล้องมอง ภาพหลังเพิ่มความสะดวกและปลอดภัยขณะถอย และสัญญาณกะระยะขณะถอยหลังแบบ 4 จุดการออกแบบภายในโทนสีดำ พร้อมติดตั้งระบบนำทางอันชาญฉลาด (เนวิเกเตอร์) รูปแบบใหม่รองรับการแสดงภาพแผนที่แบบ 3 มิติ และจอภาพแบบ WIDE Screen ขนาดใหญ่10.2 นิ้วสำหรับผู้โดยสารตอนหลังนอกจากนี้ยังมีช่องต่อ USB สามารถเชื่อมต่อ iPod/iPhone และฮาร์ดดิสก์ (Hard disk) แบบพกพาได้
          มิตซูบิชิ มิราจ ใหม่
          มิ ตซูบิชิ “มิราจ” ใหม่ เป็นรถยนต์ขนาดเล็กประหยัดพลังงานรุ่นแรกในสายผลิตภัณฑ์ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่ถูกผลิตขึ้นภายใต้โครงการโกลบอล สมอลล์ ที่สามารถตอบสนองความต้องการรถยนต์ของตลาดในประเทศเศรษฐกิจใหม่ที่มีความ ต้องการรถยนต์สูงขึ้น รวมไปถึงในประเทศที่พัฒนาแล้วซึ่งมีความสนใจในรถยนต์ขนาดเล็กตามแนวโน้มด้าน พลังงานและความตื่นตัวเรื่องสิ่งแวดล้อม ซึ่งให้ทั้งความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสูงสุด ง่ายต่อการขับขี่ ถึงพร้อมด้วยสมรรถนะ ความลงตัวในการออกแบบ และคุณภาพที่เป็นเยี่ยมเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดในการขับขี่ มาพร้อม5 รุ่น พร้อม 8 สีให้เลือก กับราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 380,000 บาทถึง 546,000 บาท ทั้งนี้ภายหลังจากการแนะนำอย่างเป็นทางการครั้งแรกของโลกในเมืองไทยเมื่อ เดือนมีนาคมที่ผ่านมา มิตซูบิชิ มิราจได้ถูกส่งไปจำหน่ายยังยังประเทศต่างๆ ทั้งในภูมิภาคอาเซียน ญี่ปุ่น ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีแผนจะแนะนำในภูมิภาคยุโรป ออสเตรเลีย และภูมิภาคอื่นๆ ต่อไป
          มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์
          มิ ตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ มาพร้อมความอัจฉริยะในการขับขี่และสมรรถนะที่เป็นเยี่ยม ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 2 ขนาด ที่ให้ทั้งสมรรถนะและการประหยัดน้ำมันเป็นเยี่ยม ได้แก่ เครื่องยนต์ Flexible Fuel Vehicle หรือ FFV ขนาด 1.8 ลิตร รองรับการใช้น้ำมันได้หลากหลายตั้งแต่เบนซินธรรมดาไปจนถึงน้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี 85 และเครื่องยนต์ ขนาด 2.0 ลิตร รองรับถึงน้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี 20
          ข้อเสนอพิเศษ “มิตซูบิชิ จัดให้”           
          สำหรับลูกค้าที่จองรถยนต์มิตซูบิชิ ทุกรุ่น ตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคมนี้
          ฟรี…ประกันภัยชั้นหนึ่ง Diamond Insurance นาน 1 ปี พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง
          ฟรี...ค่าบำรุงรักษาสูงสุด 30,000 กิโลเมตรแรก หรือระยะไม่เกิน 18 เดือน แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน
          ฟรี... ค่าแรง 100,000 กิโลเมตร หรือ 36 เดือน แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน (เป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุในสมุดรับบริการและคู่มือการใช้รถ)
          ข้อเสนอพิเศษสำหรับรถยนต์มิตซูบิชิมีดังต่อไปนี้;
 
รุ่น   ข้อเสนอพิเศษ
 1. มิตซูบิชิ มิราจ ใหม่           ดาวน์ต่ำเริ่มต้นที่ 38,000 บาท (เงื่อนไขเงินดาวน์ 10%)
        ผ่อนเริ่มต้นที่ 3,999 บาท (เงื่อนไขเงินดาวน์ 30% ผ่อน 84 เดือน)
        รับส่วนลดเงินคืนภาษีรถคันแรกสูงสุด 77,000 บาท (รายละเอียดเป็นไปตามเงื่อนไขของโครงการรถยนต์คันแรกของรัฐบาล)
 2. มิตซูบิชิ ไทรทัน           รุ่นเมกะแค็บ รับข้อเสนอรถเก่าแลกรถใหม่ เพิ่มมูลค่า 30,000 บาท หรือรับฟรีบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 30,000 บาท ยกเว้นรุ่น เมกะแค็บ CNG
        รุ่นดับเบิ้ลแค็บ รับข้อเสนอดอกเบี้ยต่ำ 1.59%* (ดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน)
        รับส่วนลดเงินคืนภาษีรถคันแรกสูงสุด 91,000 บาท (รายละเอียดเป็นไปตามเงื่อนไขของโครงการรถยนต์คันแรกของรัฐบาล)
3. มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต          ดอกเบี้ยต่ำ 1.79%* (ดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน) ยกเว้นรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน
4. มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์            ดอกเบี้ยต่ำ 0.77%*(ดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน) หรือ รับข้อเสนอรถเก่าแลกรถใหม่ เพิ่มมูลค่า 50,000 บาท
       
 
 *           ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถาบันการเงินที่ร่วมรายการ
          สำหรับ ลูกค้าที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมรถยนต์มิตซูบิชิ ทั่วประเทศ หรือ ติดต่อมิตซูบิชิคอลล์เซ็นเตอร์Mitsubishi Call Center โทร. 1800 900 009 ฟรี เฉพาะโทรศัพท์พื้นฐาน และโทรศัพท์เคลื่อนที่เครือข่าย AIS ในวันจันทร์-เสาร์ เวลา 8:30 -17:00 หรือที่เว็บไซต์ www.mitsubishi-motors.co.th

MSN on December 01, 2012, 04:26:49 PM
เลกซัสเชิญร่วมสัมผัสยานยนต์แห่งอนาคต กับรถสปอร์ตต้นแบบสุดล้ำ Lexus LF-LC



          นายศิตชัย จีระธัญญาสกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แถลงข่าวเปิดบูธ เลกซัส ภายใต้แนวคิด “First Finest and Future” พร้อมนำเสนอนวัตกรรมยานยนต์เเห่งอนาคตของเลกซัส กับรถยนต์ต้นแบบ LF-LC เเละรถยนต์เลกซัสหลากหลายรุ่น ในงาน “ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โป” ครั้งที่ 29 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคม 2555 ที่ อาคาร ชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี “เลกซัสกรุ๊ป” เข้าร่วมแสดงยานยนต์ระดับหรูในนาม เลกซัส ภายใต้แนวคิด “First Finest and Future” ที่สะท้อนถึงความเป็นรถยนต์ที่มีคุณภาพระดับสูง หรูหรา สะดวกสบายเหนือระดับ โดดเด่นในเรื่องความปลอดภัยและด้านการออกแบบ ล้ำหน้าไปกับเทคโนโลยี การขับขี่ที่ทันสมัย ทั้งจากเครื่องยนต์เบนซิน และระบบไฮบริด ที่มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
          เพื่อให้ผู้ เข้าร่วมงานได้เห็นภาพของพัฒนาการได้อย่างชัดเจน จึงได้ทำการแบ่งพื้นที่จัดแสดงออกเป็น 4 โซนหลัก โดยโซนแรกได้จัดแสดง รถยนต์ต้นแบบสุดล้ำ Lexus LF-LC โซนที่สองจัดแสดงรุ่นที่เป็นไฮไลท์ของงาน LS 460 ใหม่ โซนที่สามจัดแสดงรถยนต์ไฮบริดทุกรุ่นของ เลกซัส และโซนสุดท้ายที่จัดแสดงรถยนต์ ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินทุกรุ่น
          นอก จากนี้ภายในบูธได้จัดแสดงอุปกรณ์ตกแต่ง การเลือกสีรถและสีเบาะ ที่สามารถเพิ่มความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้ไม่เหมือนใคร และพื้นที่รับรองลูกค้าสุดพิเศษ (VIP Lounge) ที่ให้บริการสำหรับลูกค้า คนพิเศษในการให้คำปรึกษาส่วนตัว เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าทุกท่าน นอกจากนี้สำหรับลูกค้าที่มีความประสงค์ที่จะสัมผัสประสบการณ์อันเหนือระดับ ของรถยนต์เลกซัส สามารถทดลองขับ ได้ภายในงาน

          รถยนต์ที่นำมาจัดแสดง
          LF – LC สุดยอดยนตรกรรมล้ำสมัย รถสปอร์ตไฮบริด
          รถสปอร์ตต้นแบบสุดล้ำ LF-LC ที่ออกแบบให้
          เครื่องยนต์วางหน้า ขับเคลื่อนล้อหลัง โดดเด่น ด้วยระบบ
          Lexus Hybrid Drive ผสมผสานรูปลักษณ์ภายนอกที่ดุดัน
          และภายในที่โฉบเฉี่ยวเร้าใจได้อย่างลงตัว

          Lexus LS ที่สุดของรถยนต์นั่งระดับสูง
          เลก ซัส LS ใหม่ สุดยอดยนตรกรรมที่พัฒนา ภายใต้ปรัชญาการแสวงหาความสมบูรณ์แบบ ได้รับการปรับปรุงในรายละเอียดอย่างพิถีพิถัน โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูดุดัน แต่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์เฉพาะภายในของเลกซัส ที่เงียบ ประณีต และหรูหรา

          GS 250 รถสปอร์ตซีดานระดับโลก
          รถ สปอร์ตซีดานสุดหรู ที่ได้รับการพัฒนาให้มีความพิเศษยิ่งขึ้นในทุกๆด้าน พร้อมนำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัย และสมรรถนะอันเหนือชั้น สะท้อนปรัชญาการออกแบบ “L-finesse” ใหม่ ของเลกซัส ให้สัมผัสที่หรูหรา เร้าใจ สปอร์ต และล้ำสมัย

          RX270 เหนือระดับ ล้ำสมัย ตอบสนองทุกความต้องการแห่งการขับขี่
          ยนตรก รรม SUV ระดับหรูที่ดีที่สุด พร้อมด้วยนวัตกรรมอันทันสมัย นำมาซึ่งนิยามใหม่ของสมรรถนะอันทรงพลัง ความสะดวกสบายสูงสุด รวมถึงความประณีตพิถีพิถันใน ทุกรายละเอียด ตอบสนองความต้องการ ในทุกการเดินทาง

          CT200h สุดยนตรกรรมไฮบริด ลักชัวรี่แฮทช์แบค
          ยนตรก รรม “ไฮบริดแฮทช์แบคคันแรกของโลก” ที่ออกแบบ ให้มีเส้นสายที่คมกริบ หนักแน่น มีเอกลักษณ์เฉพาะ ตอบรับกับทุกแบบฉบับในการขับขี่ เสริมด้วยสวิตช์ควบคุมโหมดการขับขี่ Drive Mode Select ที่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ดั่งใจ รถยนต์เลกซัสทุกรุ่นที่ซื้อจากผู้แทนจำหน่ายเลกซัสอย่างเป็นทางการจะได้รับ การรับประกัน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง พร้อมรับสิทธิ์เป็นสมาชิก LEXUS Club พร้อมเพิ่มความอุ่นใจในทุกการเดินทางด้วย เลกซัส เซอร์วิส คอร์เนอร์ ทั้ง 10 แห่ง ทั่วประเทศ เลือกเป็นเจ้าของ...ยานยนต์แห่งความหรูหราสมบูรณ์แบบจากผู้แทนจำหน่าย เลกซัส อย่างเป็นทางการทั้ง 3 แห่ง ได้แก่
          - บริษัท เล็กซ์ซัส กรุงเทพ จำกัด (พระราม 9) โทรศัพท์ 0 2716 8999
          - บริษัท เลกซัส สุขุมวิท จำกัด (สุขุมวิท 18) โทรศัพท์ 0 2260 8123
          - บริษัท เลกซัส ออโต้ซิตี้ จำกัด (รามอินทรา กม. 2) โทรศัพท์ 0 2521 1111

MSN on December 01, 2012, 04:28:40 PM
DAD มีดีมาอวด เปิดตัวรถใหม่ 4 รุ่น สนั่นMotor Expo





          DAD หรือ กลุ่มดีเอดี ยนตรกิจ คิดการใหญ่เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่พร้อมกันถึง 4 รุ่น “MTM Audi R8 Spyder”, “MTM Audi Q5 FACELIFT”, “MTM Audi Q3” และ “DEVA Mercury” หวังสร้างกระแสในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป พร้อมขนกองทัพรถยนต์มาให้เลือกมากมายครอบคลุมทุกเซกเมนต์นำทีมโดย รถแฟชั่นคาร์ยอดนิยมอย่าง “Citroen DS3” ประกบคู่กับเอนกประสงค์รุ่นใหญ่ “Citroen Jumper” ส่วน “Skoda” ไม่น้อยหน้ายกทีมมาครบทั้ง “Fabia RS”, “Yeti”, “Superb” , Superb Combi พร้อมเผยรุ่นพิเศษ “Superb Cheny” เหนืออื่นใด อัดแคมเปญสะท้านมอเตอร์เอ็กซ์โป หวังมัดใจลูกค้า
          นาง สาว วิชชุดา ลีนุตพงษ์ รองประธานกรรมการ บริษัท ไดเรกชันนอล ออโตโมบิลส์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด หรือกลุ่มดีเอดี ยนตรกิจ ผู้นำเข้า ผู้จัดจำหน่ายและผู้ให้บริการหลังการขายรถยนต์ ยี่ห้อ “ซีตรอง” “เอ็มทีเอ็ม” “สโกด้า” “สปายเกอร์” และ “เดวา” อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับการเข้าร่วมแสดงรถยนต์ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคม 2555 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานี บริษัทฯ ได้นำแบรนด์รถยนต์ในเครือเข้าร่วมแสดงถึง 4 แบรนด์ ได้แก่ ซีตรอง เดวา เอ็มทีเอ็ม และ สโกด้า
          ความพิเศษของการเข้าร่วมจัดแสดง รถยนต์ในปีนี้ของเครือ ดีเอดี ยนตรกิจ คือ การนำมาแสดง และเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดพร้อมกันถึง 4 รุ่น ได้แก่ MTM Audi R8 Spyder, MTM Audi Q5 FACELIFT, NEW MTM Audi Q3 และ DEVA Mercury ทั้งนี้บริษัทยังได้จับมือกับพันธมิตรมอบแคมเปญสุดพิเศษอีกหลายรายการด้วย
          “การ ที่เรามีรถยนต์รุ่นใหม่ เปิดตัวพร้อมกันถึง 4 รุ่นในคราวเดียวกัน ถือเป็นโอกาสพิเศษสุดของลูกค้าในการเลือกเป็นเจ้าของยนตกรรม ที่เปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีและความล้ำสมัย ทั้งด้านนดีไซน์และการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งสามารถสะท้อนความเป็นตัวตนของผู้ที่ครอบครองได้เป็นอย่างดี” นางสาววิชชุดากล่าว
          สำหรับแบรนด์รถยนต์ เดวา(DEVA) หลังจากที่บริษัทฯ ได้ทำตลาดมา 1 ปีกับรถเพื่อการพาณิชย์รุ่นแรกคือ “เฮอคิวลิส” (Hercules) และ เฮอคิวลิส พลัส (Hercules Plus) ซึ่งกลุ่มผู้ประกอบการขนส่ง ได้ให้การตอบรับเป็นอย่างดี โดยในปีนี้บริษัทฯ เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ “เมอร์คิวรี่” (Mercury)
          “เราเชื่อว่า เมอร์คิวรี่ จะเข้ามาเติมเต็มให้กับตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ของไทยที่ยังคงมีสัดส่วนการขาย ที่ค่อนข้างสูงในตลาดรถยนต์โดยรวมของประเทศไทย และด้วยราคาขายของเมอร์คิวรี่ที่ 699,000 บาท น่าจะมีส่วนช่วยทำให้เมอร์คิวรี่ ประสบความสำเร็จเช่นเดียวกันกับรุ่น เฮอคิวลิส” นางสาววิชชุดากล่าว
          ทั้งนี้ แบรนด์เดวายังได้จัดแคมเปญพิเศษที่ไม่มีรถยนต์เพื่อการพาณิชย์รายใดกล้าให้ มาก่อน เพื่อเป็นการขอบคุณและสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้รถยนต์เดวาทุกคัน
          ส่วน ความน่าสนใจในแบรนด์ เอ็มทีเอ็ม( MTM) สำหรับงานมหกรรมยานยนต์ครั้งนี้ จะมีการนำมาแสดงและเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่พร้อมกันถึง 3 รุ่นคือ MTM Audi R8 Spyder, MTM Audi Q5 FACELIFT, NEW MTM Audi Q3
          สำหรับ MTM Audi R8 Spyder จะเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกของโฉมเปิดประทุน จากรถยนต์สายพันธ์แรงจากตระกูลอาร์8 โดยมากับพิกัดความแรงระดับซุปเปอร์คาร์ ที่ได้รับการปรับปรุงสมรรถนะให้ดีขึ้นจากเอ็มทีเอ็ม ซึ่งเป็นสำนักแต่งรถคู่บารมีของรถยนต์ออดี้และโฟล์คสวาเกนกรุ๊ป
          ทั้ง นี้ในส่วนของ MTM Audi Q5 FACELIFT จะเป็นการเปิดตัวของรุ่นไมเนอร์เชนจ์ ที่ได้รับการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ใหม่ให้มีความโฉบเฉี่ยวและทันสมัยมากขึ้น พร้อมกับการเสริมความแรงและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเพิ่มเติมจากโฉมก่อนหน้า
          ท้ายสุดกับ NEW MTM Audi Q3 รถยนต์เอนกประสงค์น้องเล็กรุ่นใหม่ล่าสุดที่จะมาตอบสนองไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ ของการขับขี่ใน
รูป แบบของเอสยูวี ที่มีทั้งความสมบุกสมบัน ความคล่องตัว ผสานอย่างกลมกลืนกับเทคโนโลยีอันล้ำสมัย และ เหนือกว่าด้วยการปรับแต่งเครื่องยนต์ให้มีสมรรถนะดีและสมบูรณ์ที่สุด
          อย่าง ไรก็ตามนอกจากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่แล้ว เอ็มทีเอ็ม ยังได้จัดแคมเปญที่เหนือกว่าใคร เพื่อให้คุณได้เป็นเจ้าของรถยนต์เอ็มทีเอ็มได้อย่างสบายใจตลอดระยะเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กม.อีกด้วย พร้อมบัตรเติมน้ำมันฟรี 2 ปี หรือ 100,000 บาท
          นาง สาววิชชุดา กล่าวว่า สำหรับแบรนด์ สโกด้า (SKODA) จะมีการเปิดตัว “สโกด้า ซุปเพิร์บ เชอนี่” (Skoda Superb Cheny) รถยนต์รุ่นพิเศษที่ได้รับการตกแต่งเสริมความดุดัน ด้วยโคมไฟหน้า-หลังรมดำ คิ้วเสกิร์ตสีดำรอบคัน และแม็กลายพิเศษสีรมดำ พร้อมกับขบวนของรถยนต์สโกด้าที่มาอวดโฉมครบทุกรุ่นไม่ว่าจะเป็น ฟาเบีย อาร์เอส, เยติ, ซุปเพิร์บ ซีดาน และ ซุปเพิร์บ คอมบิ และพลาดไม่ได้กับแคมเปญสุดเร้าใจจากสโกด้าที่จะทำให้คุณไม่พลาดการเป็นเจ้า ของยนตกรรมแห่งความคุ้มค่าจากยุโรปแบรนด์นี้
          เหนืออื่นใด สำหรับรถยนต์ในเครือ ดีเอดี ยนตรกิจ ทุกแบรนด์ จะได้รับสิทธิ ผ่อนดาวน์0% 10 เดือน สูงสุด 100,000 บาท กับบัตรเครดิตธนาคารธนชาต หรือ รับที่พักในเครือ โรงแรม GLODEN TULIP HUAHIN ฟรี เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต ของ ธนาคาร กรุงศรีอยุธยา 200,000 บาทขึ้นไป (โปรโมชั่น พิเศษนี้เฉพาะผู้จองซื้อรถยนต์ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 29 นี้เท่านั้น)

MSN on December 01, 2012, 04:30:06 PM
ซีตรองยกทัพรถขายดี DS3และJumperลุยMotor Expo อัดแคมเปญ ฟรีบัตรเติมน้ำมันพร้อมช่วยเหลือฉุกเฉิน





          ซี ตรอง นำขบวนรถยนต์สุดแนว กระหื่มมอเตอร์เอ็กซ์โป 2012 ทั้ง DS3 และ Jumper พร้อมกับการอัดแคมเปญสะท้านวงการ รับประกันและฟรีค่าบำรุงดูแลรักษาเป็นระยะเวลา 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร พร้อมมอบบริการช่วยเหลือฉุกเฉินฟรี 1 ปีอีกด้วย จับมือบัตรเครดิตมอบฟรีบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 1,000 บาท
          นาย เต็ม ทรงเจริญ ผู้จัดการทั่วไป รถยนต์ ซีตรอง กล่าวว่า สำหรับการเข้าร่วมแสดงรถยนต์ในงานมหกรรมยานยนต์ หรือMotor Expo ครั้งที่ 29 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคม 2555 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานี บริษัทฯ ได้นำรถยนต์ซีตรองรุ่น ดีเอส3(DS3) และจัมเปอร์(Jumper) เข้าร่วมแสดงเต็มพื้นที่
          ทั้งนี้บริษัท ยังได้จัดแคมเปญพิเศษสุดสำหรับงานนี้โดยเฉพาะได้แก่ การมอบการรับประกันและดูแลรักษาเป็นเวลา 3 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตร (DAD SECURE PROGRAM) ให้กับรถยนต์ซีตรองทุกคันพร้อมกันนี้ ยังมอบบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี เป็นระยะเวลา 1 ปีเต็ม ยิ่งไปกว่านั้นหากชำระเงินดาวน์ด้วยบัตรเครดิตธนชาตตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป จะได้รับบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 1,000 บาทอีกด้วย
          “เรา เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้า เนื่องจากแคมเปญดังกล่าวถือเป็นโอกาสทองของผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของรถยนต์ ซีตรอง ซึ่งจะทำให้ท่านปลอดภาระการใช้จ่ายจาก DAD SECURE PROGRAM ซึ่งเน้น ในด้านการบำรุงดูแลรักษาเป็นเวลาถึง 3 ปีเต็มหรือ 100,000 กิโลเมตร ทั้งนี้ยังได้รับการบริการช่วยเหลือฉุกเฉินเพิ่มเติมอีก นับว่าเป็นความพิเศษที่สุดที่ซีตรองเคยจัดให้กับลูกค้า” นายเต็มกล่าว         
          สำหรับ ดีเอส3 จะมากับทางเลือกใน รุ่น 1.6วีทีไอ CITROEN DS3 SO CHIC เครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร VTi 4 สูบ 16 วาล์ว ที่เป็นการพัฒนาร่วมกันระหว่าง PSA(เปอร์โยและซีตรอง) และ BMW ซึ่งให้พละกำลังสูงสุดถึง 120 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 160 นิวตันเมตรที่ 4,200 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีดพร้อมระบบ Tiptonic ให้ความสนุกในการขับขี่ได้เฉกเช่นเกียร์ธรรมดา ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว และท่อไอเสียทรงสปอร์ต เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกคัน
          ขณะ ที่อีกหนึ่งทางเลือกกับความประหยัดในรุ่น ดีเอส3 1.4 CITROEN DS3 CHIC ที่มากับเครื่องยนต์ขนาด 1.4 ลิตร 16 วาล์ว ที่มีกำลังสูงสุด 95 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 135 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบ/นาที
          สำหรับ ความปลอดภัยซีตรอง ดีเอส3 มีบรรจุไว้อย่างครบครันตามสไตล์รถยุโรปทั้ง ดิสก์เบรก4 ล้อที่มากับระบบเบรก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD และระบบเสริมแรงเบรก EBAถุงลมนิรภัย พวงมาลับแบบแรคแอนด์พิเนี่ยนพร้อมปั๊มไฟฟ้า รัศมีวงเลี้ยวแคบสุดเพียง 5.2 เมตร ระบบช่วงล่างหน้า แบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท หลังแบบอิสระ คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง
          ส่วน ซีตรอง จัมเปอร์ (JUMPER) รถยนต์แบบอเนกประสงค์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเซกเมนต์ ซึ่งการมี ระยะห่างระหว่างล้อหน้าและหลัง ความยาว และความสูงแตกต่างหลายรูปแบบ ทำให้เป็นเรื่องที่ง่ายที่จะค้นหาซีตรอง จัมเปอร์ ให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ซีตรอง จัมเปอร์ L2H1 มากับขนาดตัวถังที่ยาว 5,413 มม. แต่สูงเพียง 2,254 มม. กว้าง2,050 มม. โดยบรรจุเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.2 ลิตร เทอร์โบ 4 สูบ 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 120 แรงม้าที่ 3500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตรที่ 2000 รอบต่อนาที
ส่วนซีตรอง จัมเปอร์ L1H1 มากับขนาดตัวถังสั้นกว่ารุ่นอื่น โดยมีความยาว 4,963 มม. กว้าง2,050 มม. สูง 2,254 มม. เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.2 ลิตร เทอร์โบ 4 สูบ 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 120 แรงม้าที่ 3500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตรที่ 2000 รอบต่อนาที ภายในตกแต่งด้วยเบาะนั่งหนังแท้ 11 ที่นั่ง จอ LCDพร้อมระบบเครื่องเสียงสมบูรณ์แบบ บันไดเลื่อนข้างประตูอัตโนมัติ
          เหนือ อื่นใด สำหรับรถยนต์ในเครือ ดีเอดี ยนตรกิจ ทุกแบรนด์ จะได้รับสิทธิ ผ่อนดาวน์0% 10 เดือน สูงสุด 100,000 บาท กับบัตรเครดิตธนาคารธนชาต หรือ รับที่พักในเครือ โรงแรม GLODEN TULIP HUAHIN ฟรี เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต ของ ธนาคาร กรุงศรีอยุธยา 200,000 บาทขึ้นไป (โปรโมชั่น พิเศษนี้เฉพาะผู้จองซื้อรถยนต์ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 29 นี้เท่านั้น.)

MSN on December 01, 2012, 04:31:09 PM
เชฟโรเลต ดึงแฟนฟุตบอลสู่เกมที่สวยงามในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป


 
          - เชฟโรเลต เป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการของสองสโมสรฟุตบอลระดับตำนานอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และลิเวอร์พูล
          - อวดโฉมรถรุ่นพิเศษและสร้างสรรค์บูธภายใต้แนวคิดเกมฟุตบอลที่งานไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2012

          เชฟ โรเลต ใช้เกมการแข่งขันฟุตบอลเป็นแนวคิดหลักในการสร้างสรรค์บูธภายในงานไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2012 พร้อมยกทัพยานยนต์อวดโฉมครบครันทุกรุ่น ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสนับสนุนกีฬายอดนิยมที่สุดในโลกอย่างฟุตบอล

          “ความ ปรารถนาของเรา คือการเชื่อมโยงอารมณ์ของแฟนฟุตบอลให้สัมผัสกับเกมการแข่งขันอันสวยงามและ ผู้เล่นที่พวกเขารักได้อย่างใกล้ชิดมากขึ้นกว่าเดิม” มร. มาร์ติน แอพเฟล ประธานกรรมการ ประจำประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และลิเวอร์พูล เป็นสโมสรที่ได้รับความนิยมทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศไทย ผมมั่นใจว่าการเป็นพันธมิตรกับสองสโมสรดังกล่าวจะช่วยยกระดับแบรนด์เชฟโรเลต ได้เป็นอย่างดี เรามุ่งมั่นเดินหน้าไปพร้อมกับเกมการแข่งขันฟุตบอลอย่างเต็มที่ที่สุด”

          เชฟโรเลต โซนิค ซีดาน จำนวนสองคันถูกหุ้มตัวถังสีแดงอวดโฉมให้ผู้เยี่ยมชมได้ถ่ายภาพอยู่ในบูธ
          เชฟ โรเลต ภายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ซึ่งรถรุ่นพิเศษนี้แสดงถึงวิสัยทัศน์การเป็นพันธมิตรของเชฟโรเลตกับสองสโมสร ระดับตำนาน ขณะที่สมรรถนะการควบคุมของโซนิค ยังสอดคล้องกับพลังและจิตวิญญาณของทั้งสองสโมสรซึ่งอยู่ในใจแฟนฟุตบอลชาวไทย นอกจากนี้ แฟนบอลทุกคนยังมีโอกาสสัมผัสกับ “โซนฟุตบอล” ภายในบูธเชฟโรเลต อีกด้วย

          เชฟโรเลต ลงนามในสัญญาข้อตกลงเป็นพันธมิตรระยะยาวกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษเมื่อต้นปีที ผ่านมา ถือเป็นการจับมือกันระหว่างหนึ่งในแบรนด์ด้านกีฬาที่ได้รับการยกย่องมากที่ สุดกับหนึ่งในแบรนด์รถยนต์ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดและยาวนานที่สุดใน อุตสาหกรรมยานยนต์

          การเป็นผู้สนับสนุนหลักทีมฟุตบอลระดับ โลกครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 101 ปีของเชฟโรเลต นั้น มีเป้าหมายเพิ่มประสบการณ์การรับชมกีฬาให้แก่แฟนฟุตบอล โดยความสัมพันธ์เก้าปีเต็มกับแมนฯ ยูไนเต็ดนั้นเริ่มต้นเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นอกเหนือจากการจับมือกับทีมปีศาจแดงเพื่อดึงแฟนบอลให้ใกล้ชิดมากขึ้นแล้ว เชฟโรเลต ยังประกาศเซ็นสัญญาเป็นพันธมิตรกับสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล เป็นเวลาสี่ปีเต็มเมื่อเดือนกรกฎาคม โดยสัญญาจะสิ้นสุดในฤดูกาลแข่งขันพรีเมียร์ลีกปี 2015/16 ข้อตกลงดังกล่าวจะช่วยเพิ่มภาพลักษณ์ของแบรนด์เชฟโรเลต ในสนามแอนฟิลด์ รังเหย้าอันโด่งดังของลิเวอร์พูล พร้อมกับมีกิจกรรมต่างๆร่วมกับนักเตะของทีมหงส์แดงด้วย

          ขณะ เดียวกัน โลโก้ “โบว์ไท” ของเชฟโรเลต จะประทับอยู่บนหน้าอกเสื้อของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตั้งแต่ฤดูกาลแข่งขัน 2014 เป็นต้นไป เชฟโรเลต นับเป็นสปอนเซอร์หน้าอกเสื้อรายที่ห้าในประวัติศาสตร์ 134 ปีของทีมปีศาจแดง ขณะที่เบาะนั่งบริเวณซุ้มของสตาฟโค๊ชและผู้เล่นสำรองในสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ดก็ประทับโลโก้เชฟโรเลต เช่นกัน ถือเป็นความภาคภูมิใจของเชฟโรเลต ที่ได้เป็นพันธมิตรกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรฟุตบอลอันเต็มเปี่ยมด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ ความหลงใหลและความมั่นคง

          ภายในงานไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2012 ผู้เข้าชมบูธเชฟโรเลต ยังมีโอกาสถ่ายภาพกับเบาะที่นั่งที่มีโลโก้เชฟโรเลต และภ่ายภาพร่วมกับภาพเสมือนจริงของนักเตะ โดยจะมีการแบ่งปันภาพจากบูธเชฟโรเลต ส่งตรงถึงเวบไซต์เครือข่ายสังคมโซเชียลมีเดียของเชฟโรเลต อีกด้วย

MSN on December 01, 2012, 04:32:44 PM
เดวา ตอกย้ำความสำเร็จ ส่ง “เมอร์คิวรี่” ลุยตลาดเพิ่ม



          เด วา เดินหน้าลุยตลาดรถเพื่อการพาณิชย์เพิ่ม ส่งน้องใหม่ “เมอร์คิวรี่” (Mercury) รถบรรทุก 6 ล้อ แบบหัวเก๋งพร้อมแชสซี ชูจุดเด่น เครื่องยนต์ เบนซิน ที่สามารถติดตั้ง และรองรับ แก๊ส LPG เพื่อเป็นทางเลือก การประหยัดค่าพลังงานในการขนส่ง บรรทุกของได้มากถึง 3.5 ตันเหนือกว่าคู่แข่งทุกรายในตลาด เคาะราคาสุดเร้าใจ 6.99 แสนบาท เชื่อได้รับการตอบรับดีจากกลุ่มผู้ประกอบการ พร้อมอัดแคมเปญฉลองครบรอบ 1 ปี “เฮอร์คิวลิส” แถมฟรีติดตั้งแก๊ส LPG และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน สร้างความเชื่อมั่นในทุกการเดินทาง
          นายธวัชชัย ธวัชธนไพศาล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ดีเอดี ออโต จำกัด กล่าวว่า หลังจากที่ เดวา เปิดตัวแนะนำแบรนด์ พร้อมกับการเปิดตัวรถยนต์รุ่น เฮอร์คิวลิส (DEVA HERCULES) เป็นระยะเวลา 1 ปี เดวาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เกินความคาดหมายจากผู้บริโภคชาวไทย โดยเฉพาะกลุ่มของผู้ประกอบการในเชิงพาณิชย์
          ในระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมาของการทำตลาดรถยนต์เดวา รุ่นเฮอร์คิวลิส มียอดสั่งซื้อสูงถึงเกือบ 1,000 คัน ขณะที่บริษัทฯ ได้ทยอยส่งมอบรถยนต์ เฮอร์คิวลิส ให้กับลูกค้าไปแล้วกว่า 600 คันทั่วประเทศ
          สำหรับ ตลาดรถยนต์ของประเทศไทย เกินกว่า 50% เป็นตลาดของรถเพื่อการพาณิชย์ ซึ่ง เดวา มองเห็นความต้องการที่ยังมีอยู่มากของตลาดในส่วนนี้ จึงได้พัฒนารถรุ่นใหม่ล่าสุด เดวา เมอร์คิวรี่ (DEVA MERCURY) รถยนต์บรรทุกแบบ หัวเก๋ง พร้อม แซสซี 6 ล้อ พิกัดบรรทุกขนาด 3.5 ตัน เพื่อให้เป็นทางเลือกใหม่ของผู้บริโภคและผู้ประกอบการของไทย
          เครื่อง ยนต์เป็นแบบ เบนซินขนาด 2.7 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุด 115 กิโลวัตต์ที่ 4800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 235 นิวตันเมตร ที่ 4000 รอบต่อนาที พร้อมมาตรฐาน ไอเสีย ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ยูโร 4 และเป็นเครื่องยนต์ที่ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีทางด้านวิศวกรรมจากญี่ปุ่น จึงไม่ต้องกังวลเรื่องของการหาอะไหล่ทดแทน
          สำหรับระบบส่งกำลัง จะเป็นแบบเกียร์ธรรมดาเดินหน้า 5 สปีด ระบบเบรก ไฮดรอลิค 2 วงจร พร้อมหม้อลมเบรกผ่อนแรง ด้านหน้าเป็น ดิสก์เบรก ด้านหลังเป็นดรัมเบรค เดวา เมอร์คิวรี่ จะเปิดตัวด้วยราคา 699,000 บาท
          นายธวัชชัย กล่าวว่า ในส่วนของรุ่น เฮอร์คิวลิส บริษัทได้จัดทำแคมเปญพิเศษเพื่อฉลองครบรอบ 1 ปีของการทำตลาด โดยจะมอบการติดตั้งแก๊สระบบ LPG ของยี่ห้อ Versus ให้ฟรี มูลค่า 32,000 บาท พร้อมกับการให้บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรีเป็นระยะเวลา 1 ปี สำหรับรถยนต์เฮอร์คิวลิสทุกคันที่จองภายในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งนี้
          นอก จากนั้น บริษัทฯ ยังได้ให้การรับประกันพร้อมกับการบำรุงดูแลรักษาจาก DAD SECURE PROGRAM ฟรีเป็นระยะเวลา 3 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตร เพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษอีกด้วย
          เหนืออื่นใด สำหรับรถยนต์ในเครือ ดีเอดี ยนตรกิจ ทุกแบรนด์ จะได้รับสิทธิ ผ่อนดาวน์0% 10 เดือน สูงสุด 100,000 บาท กับบัตรเครดิตธนาคารธนชาต หรือ รับที่พักในเครือ โรงแรม GLODEN TULIP HUAHIN ฟรี เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต ของ ธนาคาร กรุงศรีอยุธยา 200,000 บาทขึ้นไป (โปรโมชั่น พิเศษนี้เฉพาะผู้จองซื้อรถยนต์ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 29 นี้เท่านั้น
          พบ กับ เดวา เฮอร์คิวลิสและเมอร์คิวรี่ ได้ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 29 นี้ ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน-10 ธันวาคม ศกนี้ หรือ พบข้อมูลต่างๆ ได้ทาง www.deva-auto.com

MSN on December 01, 2012, 04:33:52 PM
MTM จัดเต็มเปิดใหม่ 3 รุ่น R8 Spyder,Q5,Q3 สนองลูกค้ารักแรง



          เอ็ม ทีเอ็ม (MTM) ตอบสนองความต้องการของลูกค้าเท้าหนัก เปิดตัวรถแรงรุ่นใหม่ 3 โมเดลรวด ทั้ง เอ็มทีเอ็ม ออดี้ อาร์8 สปายเดอร์ (MTM Audi R8 Spyder) ด้วยเวอร์ชั่นเปิดประทุน เอาใจรุ่นใหญ่หัวใจสปอร์ตรับลมหนาวปีนี้ ส่วนเอ็มทีเอ็ม ออดี้ คิว5 เฟสลิฟท์ (MTM Audi Q5 FACELIFT) มากับโฉมไมเนอร์เชนจ์ที่เติมความสดใสใหม่ ชู เอ็มทีเอ็ม ออดี้ คิว3(MTM Audi Q3)เอาใจคนรุ่นใหม่ ที่ไม่ชอบตามใคร ด้วยความแรงและคล่องตัวตามแบบฉบับของเอ็มทีเอ็ม พร้อมเสริมด้วยแคมเปญสุดเร้าใจ รับประกันพร้อมฟรีค่าดูแลตลอด 5 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตร จองในงาน เติมน้ำมันฟรี 2 ปี หรือ มูลค่า 100,000 บาท
          นาย กิตติภัฏ เฉลยทรัยพ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัทเอ็มทีเอ็ม มอเตอเรน เทคนิค ไมเยอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้แทนจำหน่ายและให้บริการรถยนต์ เอ็มทีเอ็ม(MTM) อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย กล่าวว่า ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 29 นี้ บริษัท ฯ ได้แนะนำรถยนต์รุ่นใหม่พร้อมกันถึง 3 รุ่น ได้แก่ เอ็มทีเอ็ม ออดี้ อาร์8 สปายเดอร์ (MTM Audi R8 Spyder), เอ็มทีเอ็ม ออดี้ คิว5 เฟสลิฟท์ (MTM Audi Q5 FACELIFT) และ เอ็มทีเอ็ม ออดี้ คิว3(MTM Audi Q3)
          “เรา มีความภาคภูมิใจในการนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดทั้ง 3 โมเดลจากเอ็มทีเอ็ม เรามีความเชื่อมั่นว่า จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภคชาวไทย ที่ชื่นชอบรถยนต์สมรรถนะสูง เนื่องจากก่อนหน้าที่จะเปิดตัวเราได้รับการสอบถามถึงรถรุ่นดังกล่าวอย่างต่อ เนื่องจากกลุ่มลูกค้าของเรา” นายกิตติภัฏ กล่าว
          ทั้งนี้แคมเปญ พิเศษสำหรับผู้ที่จองซื้อรถเอ็มทีเอ็ม ภายในงานนี้ จะได้รับการรับประกันพร้อมบริการดูแลรักษาฟรี ตลอดระยะเวลา 5 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตร แล้วแต่สิ่งใดจะถึงก่อน นอกจากนั้นยังจะได้รับบัตรเติมน้ำมันฟรี มูลค่าสูงถึง 100,000 บาท อีกด้วย
สำหรับ เอ็มทีเอ็ม ออดี้ อาร์8 สปายเดอร์ จะเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกของรุ่น เปิดประทุน ในตระกูล อาร์8 ที่ถือว่าเป็นซุปเปอร์คาร์รุ่นใหญ่สุดของเอ็มทีเอ็ม
          ซึ่ง เอ็มทีเอ็ม ออดี้ อาร์8 สปายเดอร์ จะมากับเครื่องยนต์แบบเบนซิน วี10 ที่ให้พละกำลังสูงสุดถึ ง 606 แรงม้าในรุ่นมาตรฐาน โดยยังสามารถเพิ่มเติมระดับความแรงให้มากขึ้นได้ตามความต้องการของลูกค้า ขณะที่ออปชั่นและอุปกรณ์ต่างๆ ลูกค้าสามารถเลือกสั่งได้ตามความต้องการนอกเหนือจาก ออปชั่น มาตรฐานที่ติดมาให้จากโรงงาน
          ส่วน เอ็มทีเอ็ม ออดี้ คิว5 เฟสลิฟท์ จะมากับโฉมไมเนอร์เชนจ์ ที่ได้รับการปรับเปลี่ยนเพื่อเพิ่มเติมความทันสมัยและความสดใหม่ให้กับคิว5 โดยรูปโฉมภายนอกได้รับการปรับเปลี่ยนใหม่หลายรายการอาทิเช่น โคมไฟหน้าและหลังรุ่นใหม่ กระจังหน้าปรับลายใหม่ให้มีความดุดันมากขึ้น ล้อแม็กลายใหม่ขนาด 19 นิ้ว เป็นต้น
          ด้านของเครื่องยนต์จะทำ ตลาดในรุ่น เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.0 ลิตร TDI ผสานการทำงานด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Quattro อันเลื่องชื่อ พร้อมส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ S tronic ให้พละกำลังสูงสุดถึง 205แรงม้า แรงบิดสูงสุด 420 นิวเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 8.4 วินาที ให้ความสนุกทุกสภาพการขับขี่
          ทั้งยังประหยัดเชื้อเพลิง ด้วยอัตราการบริโภคน้ำมันเฉลี่ย 47.1 ไมล์ต่อแกลลอน (ในเมือง 41.5 ไมล์ต่อแกลลอน นอกเมือง 50.4 ไมล์ต่อแกลลอน) และยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยการผ่านค่ามาตรฐานไอเสียระดับ ยูโร5 ที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพียง 159 กรัมต่อกิโลเมตรเท่านั้น
          ขณะ ที่ เอ็มทีเอ็ม ออดี้ คิว3 ใหม่ รถยนต์เอนกประสงค์ขนาดกระทัดรัดน้องใหม่ล่าสุดของทางเอ็มทีเอ็ม ที่จะมาตอบสนองไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในรูปแบบใหม่ของกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบรถ สมรรถนะสูง แต่ยังอยากได้รถที่คล่องตัวอีกด้วย โดยไม่อยากได้รถที่มีขนาดใหญ่มากจนเกินความจำเป็น
          เอ็มทีเอ็ม ออดี้ คิว3 มากับทางเลือกของเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร TFSI ผสานการทำงานด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Quattro อันเลื่องชื่อ พร้อมส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีดS tronic ให้พละกำลังสูงสุด 270 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 390 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 6.4 วินาทีเท่านั้น
          ด้านอัตราการบริโภคน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 36.7 ไมล์ต่อแกลลอน (ในเมือง 27.7 ไมล์ต่อแกลลอน นอกเมือง 44.1 ไมล์ต่อแกลลอน) และยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ระดับต่ำ เพียง 179 กรัมต่อกิโลเมตรเท่านั้น
          เหนืออื่นใด สำหรับรถยนต์ในเครือ ดีเอดี ยนตรกิจ ทุกแบรนด์ จะได้รับสิทธิ ผ่อนดาวน์0% 10 เดือน สูงสุด 100,000 บาท กับบัตรเครดิตธนาคารธนชาต หรือ รับที่พักในเครือ โรงแรม GLODEN TULIP HUAHIN ฟรี เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต ของ ธนาคาร กรุงศรีอยุธยา 200,000 บาทขึ้นไป (โปรโมชั่น พิเศษนี้เฉพาะผู้จองซื้อรถยนต์ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 29 นี้เท่านั้น.)

MSN on December 01, 2012, 04:34:48 PM
LUMMA DESIGN



          บริษัท ทีเอสแอล ออโต้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดตัว Lumma Design ชุดแต่งสำหรับ Porsche จากประเทศเยอรมนีเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29 โดย Lumma Design เป็นชุดแต่งที่ครอบคลุมรถยนต์ปอร์เช่เกือบทุกรุ่น ซึ่งในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29 นี้ทีเอสแอลก็ได้นำ Porsche Cayenne S Hybrid ชุดแต่ง Lumma Design CLR 558 GT มาจัดแสดงให้ได้ยลโฉมและจับจองเป็นเจ้าของกันอย่างใกล้ชิด
          นับ เป็นเวลากว่า 20 ปีแล้วที่ Lumma Design ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นหนึ่งในสำนักตกแต่งรถยนต์ที่สามารถอัพเกรด และปรับแต่งเครื่องยนต์ให้มีสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมไม่ต่างอะไรกับรถที่ใช้วิ่ง ในสนามแข่ง เช่นเดียวกับการเติบโตของบริษัทที่ไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนาชุดแต่งให้มี ประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม สามารถตอบสนองความต้องการของรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ได้
          Lumma Design เป็นชุดแต่งที่มีบุคลิกลักษณะที่ไม่จำกัด และปัจจุบันได้ขยายโปรแกรมการตกแต่งรถยนต์เพิ่มเติมขึ้นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ Porsche Cayenne รถซูเปอร์คาร์สายพันธุ์ SUV ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดรถยนต์ของเมืองไทย ซึ่งจุดเด่นของชุดแต่ง Lumma Design อยู่ที่การให้อิสระกับลูกค้าในการออกแบบรถด้วยตนเองโดยไม่มีข้อจำกัดใดๆ และสิ่งนี้ก็แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายของชุดแต่งนี้ นอกจากนี้ Lumma Design ยังได้มีการกำหนดมาตรฐานใหม่ให้รถมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น รวมถึงรูปลักษณ์ที่ดูสง่างามแต่แฝงไว้ด้วยความสปอร์ต
          สำหรับ Cayenne S Hybrid by Lumma Design CLR 558 GT รุ่นใหม่ล่าสุดที่ผลิตจากโรงงาน ในเมือง Winterlingen จะมีพละกำลังเพิ่มขึ้นถึง 450 แรงม้า ซึ่ง Lumma Design ได้ออกแบบชุดแต่งของ Cayenne S Hybrid ให้มีความหลากหลายทั้งในเรื่องของสีและวัสดุต่างๆ โดยเฉพาะสีของตัวรถที่จะสร้างความประทับใจให้กับผู้ที่พบเห็น เช่น สีขาวและสีดำเงา ทั้งนี้ ในส่วนของอุปกรณ์ภายนอกตัวรถใช้วัสดุที่ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ ล้ออัลลอย Lumma Racing ที่มีขนาดตั้งแต่ 22 นิ้วขึ้นไป ซึ่งได้รับการฉีดพ่นด้วยสีเดียวกันกับตัวรถ และท่อไอเสียคู่ซ้าย-ขวา ด้านอุปกรณ์ภายในเป็นงานฝีมือที่ทำจากวัสดุคุณภาพสูงอย่างหนังแท้ Alcantara ตัดกับอะลูมิเนียม ไม่ว่าจะเป็น พรมปูพื้น วัสดุบุหลังคา รวมทั้งการปักโลโก้ Lumma ไว้ที่หมอนรองศรีษะของเบาะนั่งสีเบจ
อย่างไรก็ ตาม Lumma Design ไม่ได้เน้นเพียงแค่การตกแต่งให้รถแต่ละคันมีรูปลักษณ์ที่มีความเป็นสปอร์ต มากขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่ Lumma Design จะยังคงไว้ซึ่งรูปแบบของความหรูหราตามแบบฉบับเดิมที่เพิ่มเติมสมรรถนะให้รถ มีพละกำลังในการขับเคลื่อนมากยิ่งขึ้น

          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : แผนกประชาสัมพันธ์ บริษัท ทีเอสแอล ออโต้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด
          คุณสรรศิริ ศิริโชตินันท์ (นก) โทรศัพท์ 084 361 4810 / E-mail: sansiri_s@tsl.co.th
          คุณภีมสินี รัตน์อ่อน (พลอย) โทรศัพท์ 085 488 9129 / E-mail: peemsinee_r@tsl.co.th