happy on October 12, 2012, 04:10:50 PM
Silent Hill:Revelation 3D


จัดจำหน่ายโดย      เอ็ม พิคเจอร์ส              
ชื่อภาษาไทย       เมืองห่าผี เรฟเวเลชั่น 3D
ภาพยนตร์แนว      ทริลเลอร์
จากประเทศ      สหรัฐอเมริกา
กำหนดฉาย      25 ตุลาคม 2555 (ฉายจริงก่อนสหรัฐอเมริกา)
ณ โรงภาพยนตร์      ทุกโรงภาพยนตร์
ผู้กำกับ       Michael  J.Bassett (ไมเคิล เจ.บาสเซ็ทท์ )
ผู้อำนวยการสร้าง                Samuel Hadida  (ซามูเอล ฮาดิด้า)    
นักแสดง         Sean Bean (ฌอน บีน)  จาก Lord Of The Rings , ซีรีส์เอชบีโอ Game Of Thrones Adelaide Clemens (อเดเลด เคลเมนส์) จาก X-Men Origins,The Great Gatsby,No One Lives Kit Harington  (คิท แฮริงตัน)  จาก ซีรีส์เอชบีโอ Game Of Thrones Deborah Kara Unger (เด็บราห์ คารา อุงเกอร์) จาก The Game, 88 minutes,          The Samaritan Radha Mitchell (ราดาห์ มิทเชล) จาก Man On Fire, The Crazies, The Frozen Ground Carrie-Anne Moss (แครีย์-แอนน์ มอส) จาก The Matrix, Disturbia, ซีรีส์เอ็นบีซี Chuck Malcolm McDowell (มัลคอล์ม แม็คดูเวล) จาก The Artist ,  A Clockwork Orange

จุดเด่น


               SILENT HILL: REVELATION 3D ที่สร้างขึ้นจากแฟรนไชส์วิดีโอเกมที่น่าตื่นตาตื่นใจเป็นภาคต่อของภาพยนตร์ฮิตSILENT HILL ซึ่งเปิดตัวอันดับหนึ่งในบ็อกซ์ออฟฟิศอเมริกาและกวาดรายได้ไปเกือบ 100 ล้านเหรียญในบ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลก แฟรนไชส์ Silent Hill ของ Konami ที่นำเสนอประสบการณ์สยองขวัญในแบบที่ไม่มีใครทาบติด ได้เกาะกุมใจแฟนๆ มานานกว่าสิบปีและได้นำไปสู่ซีรีส์การ์ตูน นิยายภาพ แอ็คชั่น ฟิกเกอร์สะสมและซาวน์แทร็คจากวงร็อคมากมาย

เรื่องย่อ

               ใน SILENT HILL: REVELATION 3D ฮีทเธอร์ เมสัน (เคลเมนส์) และพ่อของเธอ (บีน) กำลังหลบหนีภยันตรายต่างๆ ที่ตัวเธอเองก็ยังไม่เข้าใจดีนัก ก่อนวันเกิดครบรอบปีที่ 18 ของเธอ ท่ามกลางความทุกข์ทรมานจากฝันร้ายสยดสยองและการหายตัวไปของพ่อเธอ ฮีทเธอร์ได้พบว่าเธอไม่ได้เป็นคนที่เธอคิด และความจริงนี้ก็นำเธอดำดิ่งลงไปสู่โลกของปีศาจร้ายที่อาจจะคุมขังเธอไว้ตลอดกาลก็เป็นได้












ข้อมูลงานสร้าง

               หลายปีมาแล้วที่เฮทเธอร์ เมสันและแฮร์รี พ่อของเธอคอยหลบหนีมาโดยตลอด เพื่อให้พ้นจากภยันตราย ที่เธอยังไม่เข้าใจ ในตอนนี้ ก่อนวันเกิดครบรอบปีที่ 18 ของเธอ เฮทเธอร์ที่ถูกตามหลอนด้วยฝันร้ายที่น่าสะพรึงกลัว และการหายตัวไปของพ่อเธอ ได้รู้ว่าเธอไม่ใช่คนที่ตัวเธอคิด การเปิดเผยนี้นำเธอดำดิ่งเข้าไปในโลกฝันร้าย ที่จะกักขังเธอไว้ในโลกไซเลนท์ ฮิลชั่วนิรันดร์
   SILENT HILL: REVELATION 3D สร้างขึ้นจากแฟรนไชส์เกมเซอร์ไววัลสยองขวัญชื่อดังของโคนามิ แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้พาเราไปไกลเกินกว่าการเป็นแค่ภาพยนตร์ดัดแปลง ด้วยเนื้อเรื่องที่เหมาะสมกับจอเงิน แม้ว่ามันจะเป็นซีเควลของภาคแรก (SILENT HILL ที่กำกับโดยคริสตอฟ แกนส์ ในปี 2006) ผู้ชมกลุ่มใหม่ก็สามารถดูภาคใหม่นี้ได้เลย มันไม่เพียงแต่จะกระตุ้นความเสียวสันหลังวาบเท่านั้น แต่ยังจะโดนใจผู้ชมจำนวนมาก ซึ่งรวมถึงผู้ที่คุ้นเคยกับโลกของ SILENT HILL และผู้ที่เพิ่งค้นพบโลกใบนี้ด้วย
   ซามวล ฮาดีดาได้อำนวยการสร้างภาคนี้และ SILENT HILL ภาคแรก นอกจากนี้ เขายังได้อำนวยการสร้าง RESIDENT EVIL ทุกภาคด้วย เขาตั้งข้อสังเกตว่า “SILENT HILL แตกต่างจากวิดีโอเกมอื่นๆ มันเป็นงานศิลปะที่งดงาม ซึ่งเล่นกับความรู้สึกและมุมมองของเราในแบบที่ไม่เหมือนเกมอื่นๆ ผู้เล่นแต่ละคนจะสัมผัสสิ่งที่ไม่เหมือนกัน มันเป็นเรื่องของชะตากรรม ความลับและปีศาจภายในใจเรา เราเชื่อว่าด้วย SILENT HILL: REVELATION 3D เราจะได้นำประสบการณ์เดียวกันนี้มาสู่ผู้ชมหนังเรื่องนี้ครับ”
   SILENT HILL: REVELATION 3D เขียนบทและกำกับโดยไมเคิล เจ. บาสเซ็ทท์ (SOLOMON KANE, DEATHWATCH) นอกเหนือจากฌอน บีน (LORD OF THE RINGS, GAME OF THRONES) และเด็บราห์ คารา อังเกอร์ (THE GAME, 88 MINUTES, THE SAMARITAN) และการแสดงพิเศษโดยราดาห์ มิทเชล (MAN ON FIRE, THE CRAZIES) แล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังร่วมแสดงโดยนักแสดงดาวรุ่ง อะเดเลด เคลเมนส์ (X-MEN ORIGINS: WOLVERINE รวมถึง THE GREAT GATSBY และ NO ONE LIVES) และคิท แฮร์ริงตัน (GAME OF THRONES) ร่วมด้วยนักแสดงชื่อดังอย่างแครีย์-แอนน์ มอส (MATRIX, DISTURBIA) และมัลคอล์ม แม็คดูเวล (A CLOCKWORK ORANGE, THE ARTIST)


โลกที่ก้าวข้ามแนวภาพยนตร์

               ฮาดีดาตั้งข้อสังเกตว่า “ผู้สร้างเกม Silent Hill ชาวญี่ปุ่นได้ดึงองค์ประกอบจากปรมาจารย์ภาพยนตร์แนวสยองขวัญเพื่อให้ได้วิชวลและผลกระทบทางอารมณ์ที่ยอดเยี่ยมในเกม ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคุณสมบัตินี้มีส่วนสำคัญต่อความสำเร็จของพวกเขาในฐานะหนึ่งในแฟรนไชส์เกมที่มียอดขายสูงสุดตลอดกาล การดัดแปลงของคริสตอฟ แกนส์ในภาคแรกของเราเป็นการแสดงความเคารพที่พิเศษสุดต่อตัวเกมและภาพยนตร์แนวนี้ ครั้งนี้ ผมอยากให้ประสบการณ์ใหม่นี้กลายเป็นสะพานเชื่อมระหว่างความกลัวที่รู้สึกได้ตอนเล่นเกมนี้และความตึงเครียดที่จะเกิดขึ้นตอนเรานั่งเกาะขอบเก้าอี้ในโรงภาพยนตร์ครับ”
   หลังความสำเร็จของภาคแรก โคนามิก็ตอบรับกับไอเดียของโปรเจ็กต์ใหม่ ฮาดีดาและดอน คาร์โมดี้ หุ้นส่วนการอำนวยการสร้างของเขาใน SILENT HILL แค่ต้องตัดสินใจเรื่องวิธีการเท่านั้นเอง และคำตอบเกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติในการพูดคุยกันสบายๆ ที่คอมิก-คอน งานชุมนุมด้านหนังสือการ์ตูนและป๊อป อาร์ตส์ที่ใหญ่ที่สุดในซานดิเอโก ฮาดีดาและไมเคิล เจ. บาสเซ็ทท์ไปที่นั่นเพื่อประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์เรื่อง SOLOMON KANE ฮาดีดาเล่าว่า “ผมรู้ว่าไมเคิลเป็นคอเกม ตอนที่ผมพูดที่คอมิก-คอนว่าผมกำลังเตรียมงาน SILENT HILL ภาคใหม่ เขาก็รู้สึกตื่นเต้นและอยากจะมีส่วนร่วมในทันที” บาสเซ็ทท์เริ่มเขียนบทและเขาก็เขียนบทภาพยนตร์จนเสร็จด้วยเลเยอร์เรื่องราวที่ซับซ้อน ที่ดำเนินไปในหลายมิติและหลายระดับ ฮาดีดาอธิบายว่า “ด้วยความที่เขารู้จักเกมนี้ดี ไมเคิลก็เลยมีทักษะและความชำนาญที่จำเป็นในการพัฒนาแง่มุมต่างๆ ในบท นอกจากนี้ ในฐานะผู้กำกับ เขาเองก็รู้วิธีที่จะเนรมิตชีวิตให้กับวิสัยทัศน์ของเขาบนหน้าจอ องค์ประกอบสำคัญของเรื่องราวนี้คือปฏิสัมพันธ์ระหว่างความจริงที่แปลกต่าง เฮทเธอร์ นางเอกของเรื่อง ต้องรับมือกับความจริงในโลกปัจจุบันของเรา สภาพจิตใจของเธอ ซึ่งอาจจะหรืออาจจะไม่สะท้อนถึงความจริง และโลกคู่ขนานของไซเลนท์ ฮิล เราต้องเล่นกับโลกของไซเลนท์ ฮิล และในขณะเดียวกัน เราก็ต้องดึงผู้ชมลึกเข้าไปในปริศนามากขึ้น ทุกคนสามารถตีความเรื่องราวของเขาหรือเธอได้จนกระทั่งถึงบทสรุปครับ”
   บาสเซ็ทท์อธิบายว่า “ผมสนใจหนังที่มีแง่มุมแบบเมตะฟิสิกส์มากครับ โครงสร้างที่ลึกลับซับซ้อนของไซเลนท์ ฮิล ที่ห้อมล้อมลัทธิวัลทีล, สัญลักษณ์ฮาโล ออฟ เดอะ ซันและเดอะ ซีล ออฟ เมทาทรอน ทำให้เราสามารถสำรวจธีมสำคัญๆ เกี่ยวกับการที่ศาสนาและลัทธิความเชื่อสามารถบ่อนทำลายได้มากแค่ไหน และการที่ศรัทธาสมบูรณ์จริงๆ แล้วคือการไร้ศรัทธา มันเป็นการเดินทางที่พิเศษสุดจริงๆ กับการสำรวจโลกไซเลนท์ ฮิล พยายามที่จะขัดเกลาโลกใบนั้นให้เป็นสิ่งที่ผมต้องการ แล้วมอบประสบการณ์นั้นกลับไปยังแฟนเกม ที่กระตือรือร้นที่จะได้เห็นว่าผมเปลี่ยนแปลงอะไรไปบ้าง แต่ในขณะเดียวกันก็มอบเรื่องราวที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและเข้าใจได้ ซึ่งจะจบบริบูรณ์ในตัวเอง ให้กับผู้ชมกลุ่มใหม่”
   “ตั้งแต่เริ่มต้น เราก็พยายามที่จะก้าวข้ามการเป็นเพียงแค่ภาพยนตร์ที่นำเรื่องราวมาดัดแปลงธรรมดาๆ แม้ว่าเนื้อเรื่องของเกมและภาพยนตร์จะเปรียบเทียบกันได้ มันก็ไม่ได้เหมือนกันเป๊ะๆ แม้ว่าเราจะซื่อตรงต่อเกมภาคสามให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เราก็อยากใช้ตัวละครที่ถูกคริสตอฟ แกนส์และมือเขียนบท โรเจอร์ เอวารีใส่เข้ามาในภาคแรกและพัฒนาตัวละครเหล่านั้นไปจนถึงบทสรุปที่เป็นธรรมชาติ พวกเขาสำคัญต่อการตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องราวของเราและมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อผลกระทบด้านดรามาของเรื่องครับ”
   ไมเคิล เจ. บาสเซ็ทท์และคริสตอฟ แกนส์ได้พบกันเพื่อคุยถึงการพัฒนาเรื่องราว ตัวละครและคอนเซ็ปต์ หลังจากพิจารณาแบบดีไซน์ของสัตว์ประหลาดและคุยกันถึงการเติบโตของตัวละคร โคนามิก็กระตือรือร้นกับไอเดียของบาสเซ็ทท์อย่างยิ่ง บาสเซ็ทท์เล่าว่า “มันวิเศษมากที่ได้นั่งคุยกับพวกเขา บอกเขาถึงเรื่องราวซึ่งจริงๆ แล้วก็เป็นเกมของพวกเขา ที่ผมได้เปลี่ยนแปลง รวมถึงหนังของเราที่ผมสร้างขึ้น และการร่วมมือกันของทุกฝ่ายและพลังงานสร้างสรรค์ของทุกคน อิสระของการสร้างซีเควลคือคุณไม่ต้องประดิษฐ์อะไรขึ้นมาใหม่ ความท้าทายและโอกาสคือคุณจะต้องพัฒนามันไปอีกระดับ นี่คือสิ่งที่เราเชื่อว่าเราได้ทำสำเร็จและโคนามิก็ให้การสนับสนุนเราตลตอทั้งกระบวนการครับ”
   ดอน คาร์โมดี้ตั้งข้อสังเกตว่า “ไมเคิล เจ. บาสเซ็ทท์เป็นแฟนตัวยงของเกม Silent Hill เขารู้รหัสและกลไกของเกมเหล่านั้น และมุมมองของเขาที่มีต่อพวกมันก็เนรมิตชีวิตให้กับเฮทเธอร์ เด็กสาวคนนั้นขึ้นมา เรานำเรื่องราวนี้ไปสู่อีกระดับ พัฒนาช็อตใหม่ๆ และปีศาจใหม่ๆ และพัฒนาบทบาทและแบ็คกราวน์ของตัวละครขึ้นมา มันทำให้เรื่องราวนี้เปิดกว้างสำหรับผู้ชมกลุ่มใหม่ที่อายุน้อยกว่า 25 ปี ซึ่งก็คือกลุ่มผู้ชมที่ดูหนังนั่นแหละครับ พวกเขาสามารถเข้าถึงมุมมองของเฮทเธอร์ และวินเซนต์ คาร์เตอร์ (ที่รับบทโดยคิท แฮร์ริงตัน) ได้”
   ลอเรน ฮาดีดา ผู้ร่วมอำนวยการสร้าง กล่าวเสริมว่า “เราอยากจะนำสิ่งใหม่มาสู่เนื้อหาของเกมเพื่อสร้างความประหลาดใจให้กับผู้ชมที่คุ้นเคยกับโลกใบนี้ แต่ก็พยายามรักษาความซื่อตรงต่อโลกใบนั้นเหมือนกัน SILENT HILL: REVELATION 3D เป็นเรื่องราวการเติบโตที่มืดหม่นมากๆ มันน่าสะพรึงกลัว เป็นฝันร้าย เราต้องการจะสร้างปฏิสัมพันธ์อีกระดับระหว่างผู้ชมและภาพยนตร์ เพื่อลดช่องว่างระหว่างการดูและการเล่น เรามีคอเกมพันธุ์แท้จำนวนมากภายในทีมงานสร้าง โดยเฉพาะตัวผมเอง เรารูว่ามันสำคัญขนาดไหนที่จะดึงผู้ชมจากมุมมองที่ปกติจะเป็นผู้ถูกกระทำของผู้ชมการสร้างหนังเรื่องนี้เป็น 3D กลายเป็นเครื่องมือในการเล่าเรื่องเพื่อทำให้พวกเขาอินไปกับโลกใบนี้ เราคาดว่าผู้ชมจะรู้สึกเหมือนติดกับและกลัวพอๆ กับตัวละครของเรานะครับ!”
« Last Edit: October 17, 2012, 08:02:40 PM by happy »

happy on October 12, 2012, 04:20:24 PM













เหล่าปีศาจร้ายจากเมือง Silent Hill กำลังรอคอยต้อนรับแขกผู้มาเยือน …

               ความจริงที่แปรผันของโลกใน SILENT HILL: REVELATION 3D ประกอบด้วยแง่มุมหนึ่งที่มีชีวิตชีวามากที่สุด นั่นคือการที่ตัวละครได้ค้นพบภาพสะท้อนของความปรารถนาของตัวเอง ความรู้สึกและความกลัวของตัวเองในอีกมิติหนึ่ง อีกมุมมองหนึ่ง
   ไมเคิล เจ. บาสเซ็ทท์อธิบายว่า “นี่เป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่สามารถพบได้ทั้งในเกมและหนัง ความสยองขวัญมีรากเหง้ามาจากจิตใต้สำนึกของคนที่กำลังสัมผัสมันอยู่ สิ่งที่หยั่งรากลึงลงในพวกเราแต่ละคนกลายเป็นเรื่องจริง ดังนั้น ความในใจที่ไม่ได้ถูกเอ่ยออกมาจึงกลายเป็นแรงขับดันเบื้องหลังหนังเรื่องนี้ มันอาจเห็นได้ชัดเจนจากสัตว์ประหลาดและการที่พวกมันกระตุ้นความกลัวและความรู้สึกของเรา ผลที่ได้ก็เป็นสิ่งที่น่าทึ่งครับ”
   “ประเด็นเกี่ยวกับหน้าที่และธรรมชาติของสัตว์ประหลาดในไซเลนท์ ฮิลคือมันไม่ได้เกี่ยวกับสิ่งๆ หนึ่ง” บาสเซ็ทท์กล่าวเสริม “มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับสถานที่นี้ทำอะไรกับจิตใจของคนที่ไปที่นั่นบ้าง และสิ่งนั้นก็จะถูกสะท้อนออกมาภายนอกเพื่อสร้างสัตว์ประหลาดที่พวกเขาจะได้เห็นและสัมผัส โลกของไซเลนท์ ฮิลเป็นโลกที่ซับซ้อน ละเอียดอ่อน และคุณก็จะพยายามทำให้เกิดการตีความและความลึกซึ้งแบบนั้นสำหรับผู้ชมที่อยากจะเห็นสิ่งเหล่านั้นครับ”
   ในการสานต่อผลงานที่เป็นที่ยกย่องอย่างกว้างขวาง ซึ่งปรากฏในภาคแรก แพทริค ทาทูปูลอส ดีไซเนอร์สัตว์ประหลาดและพอล โจนส์ ดีไซเนอร์สเปเชียล เมคอัพและเอฟเฟ็กต์สัตว์ประหลาด ได้ทำงานร่วมกันอีกครั้งเพื่อเนรมิตชีวิตให้กับสัตว์ประหลาดสุดสยองและตัวละครเหล่านี้...


Pyramid Head (ปิรามิด เฮด)

               ปิรามิด เฮด  ที่น่าหวาดหวั่น มีรูปลักษณ์โดดเด่น และเต็มไปด้วยพิษสงอันตราย ปรากฏตัวครั้งแรกในเกม SILENT HILL ภาคสอง ร่างสุดสยองของเขาถูกดัดแปลงเพื่อโลดแล่นบนจอเงินในภาพยนตร์ SILENT HILL โดยคริสตอฟ แกนส์
   “ในเกม เขาเป็นร่างสะท้อนของสภาพจิตใจของตัวละครตัวหนึ่งในโลกใบนั้น” บาสเซ็ทท์กล่าว “ผมใช้เขาอีกครั้งเพราะเขามีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นเหลือเกิน เขามีลักษณะเหมือนกับผู้ประหารนักโทษที่มีชีวิตอยู่ในช่วงศตวรรษที่ 17 ในตอนที่อาณานิคมไซเลนท์ ฮิลถูกก่อตั้งขึ้นเป็นครั้งแรก เขาเป็นตัวแทนของผู้เป็นพ่อ ผู้คุ้มครองอเลสซา สำหรับผมเขาเป็นตัวแทนของความเป็นผู้ชายที่ถูกทำให้สุดโต่ง ซึ่งมีทั้งความรุนแรงและอำนาจครับ”
   เกือบตลอดทั้งเรื่อง เฮทเธอร์ไม่เคยรู้ถึงแรงจูงใจของปิรามิด เฮด  เลย เธอเชื่อว่าเขาเป็นภัยคุกคาม “เขาเป็นข้ารับใช้ของพลังที่สูงส่งกว่า และติดอยู่ในไซเลนท์ ฮิล” บาสเซ็ทท์กล่าว “เขาเป็นผู้เฝ้ามอง เขาเป็นผู้ที่ก้าวข้ามความกลัว ความรุนแรงและความก้าวร้าวแบบฉับพลันและฉาบฉวยของสัตว์ประหลาดในไซเลนท์ ฮิล เขามีวัตถุประสงค์ที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นครับ”
   ผู้ที่รับบทปิรามิด เฮด  คือโรแบร์โต้ แคมพาเนลลา ผู้รับบทนี้ครั้งแรกใน SILENT HILL และกลับมารับบทเดิมอีกครั้งในภาพยนตร์โดยบาสเซ็ทท์ บาสเซ็ทท์อธิบายถึงเหตุผลในการนำตัวเขากลับมาว่า “เขาเป็นแดนเซอร์ แล้วเขาก็เป็นคนออกแบบท่าสัตว์ประหลาดให้กับหนังทั้งเรื่องด้วย มีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมเคยคิดว่า หาคนที่รูปร่างใหญ่กว่านี้ดีกว่า แต่เขาขยับตัวในรูปแบบที่เจ็บปวดเป็นพิเศษ และโรแบร์โต้ก็เข้าใจเรื่องนั้น เราทดลองด้วยการใช้หมวกเฮลเม็ทไฟเบอร์กลาสที่มีน้ำหนักเบากว่า เพราะคุณแทบจะมองไม่เห็นน่ะครับ เราก็เลยต้องสร้างตะแกรงเล็กๆ นี้ขึ้นมาเพื่อทำให้เขามองเห็นนิดๆ
   สิ่งที่เราค้นพบคือมันเป็นเรื่องยากมากๆ สำหรับเขาที่จะแกว่งแขวนระหว่างสวมหมวกเฮลเม็ทใบนั้น เราก็เลยต้องออกแบบท่าต่อสู้อย่างรอบคอบเพื่อทำให้เกิดการเคลื่อนไหวได้อย่างเต็มที่ครับ”


The Nurses (นางพยาบาล)

               ผู้ที่เดินทางในไซเลนท์ ฮิลรู้ดีว่าจะต้องอยู่ให้ไกลจากแม่สาวอันตรายเหล่านี้ แต่โชคร้ายสำหรับวินเซนต์และเฮทเธอร์ ที่การปะทะพวกเธอเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ พยาบาลที่มีรูปร่างหน้าตาพิกลพิการเหล่านี้ จะยืนอยู่นิ่งๆ จนกระทั่งเสียงแม้เพียงแผ่วเบาจะทำให้พวกเธอเข้าสู่โหมดโจมตีทันที
   “นางพยาบาลเป็นตัวละครโปรดของแฟนๆ ครับ” บาสเซ็ทท์กล่าว “พวกเธอเป็นสาวเซ็กซี น่าสยดสยองในชุดลาเท็กซ์รัดรูปประหลาดๆ ที่ต้องการจะผ่าแยกร่างคุณ ผมชอบพวกเธอในหนังภาคแรก และผมก็อยากจะใช้พวกเธอในแบบที่ต่างออกไปนิดๆ ในหนังของผม ด้วยความที่ผมรู้ว่าเราจะได้อยู่ในสภาพแวดล้อมเกี่ยวกับการแพทย์ มันก็เป็นโอกาสให้ผมนำพวกเธอกลับมาอีกครั้งครับ”
   ผู้กำกับไม่ได้เรียกใช้นักแสดงผู้รับบทพยาบาลในภาคแรกเพราะเขาต้องการมองหาผู้หญิงกลุ่มใหม่ที่มี “ความยืดหยุ่นมากกว่า” ในช็อตเปิดเรื่องที่คุณจะได้เห็นนางพยาบาลของผม กล้องจะติดตามภาพของพวกเธอในห้องผ่าตัด ที่สาวๆ จะโก้งโค้งและบิดตัวไปมา มีเพียงแดนเซอร์บางคนเท่านั้นที่ทำแบบนนั้นได้ เราก็เลยใช้แดนเซอร์มากประสบการณ์ ที่สามารถทำท่าทางที่ไม่ธรรมดานิดๆ ให้กับผมได้”
   ในการสร้างลุคของนางพยาบาล พอล โจนส์ ผู้เชี่ยวชาญเอฟเฟ็กต์และทีมงานของเขาต้องระบายสีผิวทุกส่วนที่อยู่นอกเสื้อผ้าของนักแสดงแต่ละคน ก่อนจะให้พวกเธอใส่ชุดคอสตูมและสวมใบหน้าบิดเบี้ยวที่ทำจากลาเท็กซ์ลงไป ดังนั้น อะไรน่ะหรือที่ทำให้นางพยาบาลเป็น “ขวัญใจ” บาสเซ็ทท์เชื่อว่า “มันเป็นการผสมผสานกันของภาพสยดสยอง ลักษณะที่พวกเธอเคลื่อนไหวและเครื่องแบบนางพยาบาล มันทั้งน่าขยะแขยงและเซ็กซี มันเป็นความตึงเครียดที่ย้อนแย้งกันระหว่างไอเดียทั้งสองนี้ นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเธอเป็นสัตว์ประหลาดที่เจ๋งในโลกไซเลนท์ ฮิลเพราะพวกเธอทำสองสิ่งกับคุณพร้อมๆ กัน ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ตรงข้ามกันสุดขั้วเลยครับ”


The Mannequin Monster (สัตว์ประหลาดหุ่นโชว์)

               ระหว่างการเดินทางในไซเลนท์ ฮิล เฮทเธอร์ได้พบกับสัตว์ประหลาดที่เหมือนกับแมงมุม ที่ประกอบร่างขึ้นจากชิ้นส่วนของหุ่นโชว์ มัน “ใช้ชิ้นส่วนหุ่นโชว์เป็นตัวห่อหุ้มและเปลี่ยนเหยื่อให้กลายเป็นหุ่นโชว์ หลังจากนั้น มันก็จะแยกพวกเขาออกเป็นชิ้นๆ และเข้าครอบครองและบงการชิ้นส่วนเหล่านั้น” บาสเซ็ทท์กล่าว “สัตว์ประหลาดหุ่นโชว์ไม่ใช่ตัวละครใหม่ซะทีเดียวเพราะมีการใช้หุ่นโชว์ในเกมอยู่แล้ว มันมีช็อตของพวกมันตรงหน้าต่างหลายช็อตในภาคแรก และผมก็อยากจะผลักดันมันไปอีก มันเป็นสัตว์ประหลาดหุ่นโชว์ในเกมที่ผมชื่นชอบและผมคิดว่าเราสามารถพัฒนาและเสริมแต่งมันขึ้นมา จนได้อะไรที่เป็นส่วนผสมที่แปลกประหลาดระหว่างชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์และพลังงานที่เหมือนกับแมงมุมครับ”
   สัตว์ประหลาดที่มีแขนขามากมายตัวนี้เป็นสัตว์ประหลาดที่สร้างขึ้นด้วยดิจิตอลล้วนๆ ตัวเดียวในเรื่อง “แม้ว่าผมจะอยากสร้างเอฟเฟ็กต์จริงๆ ในกองถ่าย มันก็ไม่มีทางไหนที่เราจะถ่ายทอดความพลิ้วไหวในการเคลื่อนไหวของสัตว์ประหลาดตัวนี้ออกมาได้” บาสเซ็ทท์ยอมรับ “มันมีความงามที่น่าขยะแขยงในตัว และถ้าคุณมองโคลสอัพใกล้ๆ มันก็เป็นงานแสดงศิลป์ที่วิเศษสุด ที่มีรอยแตกและรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ครับ”


มิชชันนารี

                  “มีสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งในหนังของผมซึ่งเป็นสัตว์ประหลาดใหม่ ที่ไม่ได้นำต้นแบบมาจากเกมไหนๆ ก็ตาม” บาสเซ็ทท์พูดถึงสิ่งมีชีวิตเพศหญิงลึกลับใน SILENT HILL: REVELATION 3D ซึ่งเป็นที่รู้จักในนามของมิชชันนารี “มิชชันนารีเป็นตัวแทนของผู้เป็นแม่ ซึ่งบางครั้งก็มีความหมายค่อนข้างตรงตัว ในลักษณะกว้างๆ แล้ว ผมชื่นชอบไอเดียที่ว่าสัตว์ประหลาดตัวนี้จะออกไปเพื่อเปลี่ยนแปลงคุณ ในแบบตรงตัวมากๆ ผมอยากสร้างสัตว์ประหลาดที่ตรงกันข้ามกับเร้ด ปิรามิด ซึ่งก็คือความเป็นชาย ผมคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณมีพลังดุดันของปิรามิดมาปะทะกับความเฉียบคมของคมดาบของมิชชันนารี การที่เธอไม่มีดวงตาเป็นอะไรแบบไซเลนท์ ฮิลมากๆ ครับ”
   แบบดีไซน์ของมิชชันนารีเป็นฝีมือของแพทริค ทาทูปูลอส พอล โจนส์ ผู้เชี่ยวชาญเอฟเฟ็กต์เล่าว่า “หนึ่งในจุดแข็งของแพทริคก็คือเขามักจะคิดดีไซน์ที่โดดเด่นขึ้นมาได้ มิชชันนารี ซึ่งเป็นสุดยอดมือสังหารของไซเลนท์ ฮิล นำเค้าโครงหลวมๆ มาจากหนึ่งในตัวละครจากเกม และถูกดัดแปลงเพื่อให้เหมาะกับเรื่องราวของไมเคิล แต่แบบดีไซน์ของเธอเป็นงานออริจินอลครับ เธอมีใบหน้าที่แทบจะไร้องค์ประกอบ ริมฝีปากเธอเหยียดไปด้านหลังในลักษณะการคำรามตลอดกาล มีดวงตาหลุบภายในโดยไม่มีเปลือกตา และมีสิ่งที่ดูเหมือนกับดักหมีสมัยยุคกลางติดอยู่รอบกะโหลกเธอ โดยมีใบมีดดาบสี่ใบกวัดแกว่งอยู่รอบๆ แก้มและเหนือศีรษะของเธอ แล้วเราก็ติดตั้งใบมีดดาบเข้าไปตามแขนขาของเธอครับ”
   ในการสร้างแบบดีไซน์นี้ให้เป็นจริงสำหรับภาพยนตร์ 3D โจนส์และทีมงานสามสิบชีวิตของเขาได้สร้างศีรษะของมิชชันนารีที่แตกต่างกันยี่สิบแบบ จนกระทั่งเขาได้ศีรษะที่จะดูดีจากทุกมุมมอง ชุดคอสตูมเองก็มาจากชิ้นส่วนต่างๆ กว่าร้อยชุด “ทั้งหมดจากหลายแหล่งครับ” โจนส์บอก “บางอย่างมาจากวัสดุที่ถูกใช้มานานแล้ว และบางอย่างก็เป็นนวัตกรรมที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะ”









Silent Hill: Revelation 3D บทสัมภาษณ์ผู้กำกับ

                ไมเคิล เจ. บาสเซ็ทท์ มือเขียนบทและผู้กำกับ Silent Hill: Revelation 3D ผู้ซึ่งก่อนหน้านี้เคยกำกับ Deathwatch, Wilderness และ Solomon Kane ได้คุยกับเราเกี่ยวกับความท้าทายในการถ่ายทำในระบบ 3D สัตว์ประหลาดตัวใหม่ที่เราจะได้เห็นในภาคนี้ เอฟเฟ็กต์จริงๆ ที่เขาชื่นชอบมากกว่าดิจิตอล เอฟเฟ็กต์และระดับความรุนแรงในเรื่องราว

Q:   หนังภาคนี้มีเรื่องราวต่อจากภาคที่แล้วยังไงบ้าง

A:   หนังของเราห่างจากภาคที่แล้วหกปีครับ ซึ่งก็เป็นช่วงเวลาประมาณเดียวกันสำหรับตัวละครด้วย สิ่งที่ผมพยายามจะทำคือการสร้างซีเควลของภาคแรก มันเป็นการสานต่อเรื่องราวของชารอน ดา ซิลวาและคริสโตเฟอร์ ดา ซิลวา ผมจะอธิบายว่าตอนจบของภาคแรกทำให้เรื่องราวของเราดำเนินต่ออย่างไร นอกจากนี้ หนังเรื่องนี้ยังดัดแปลงจากเกมภาคที่สามอีกด้วย ดังนั้น ถ้าใครเคยเล่นเกมนี้แล้ว พวกเขาก็จะรู้เรื่องแล้วล่ะครับ พวกเขาจะรู้ว่าเราจะพูดถึงเรื่องอะไรบ้าง นอกจากนี้ ผมยังพยายามจะทำให้เรื่องราวนั้นยืนอยู่ได้ด้วยตัวของมันเองด้วย ดังนั้น แม้ว่าคุณจะไม่เคยเล่นเกมนี้ ก็ไม่เป็นไรครับ มันก็ยังเป็นหนังสยองขวัญเยี่ยมๆ ที่มีทุกอย่างที่คุณอยากให้หนังสยองขวัญมี ท้ายที่สุดแล้ว มันก็เป็นเรื่องราวของ ฮีทเธอร์ เมสัน ตัวละครของอะเดเลด เคลเมนส์ และการค้นหาตัวตนที่แท้จริงของตัวเองรวมถึงการค้นหาพ่อของเธอครับ

Q:   แล้วสตูดิโอให้อิสระกับคุณเต็มที่ในการสร้างหนังที่คุณอยากจะทำหรือคุณต้องเจอกับข้อบังคับที่เข้มงวดกันแน่ล่ะ

A:   ผมได้ร่วมงานกับผู้อำนวยการสร้างชาวฝรั่งเศส ซามวล ฮาดีดา เขาเป็นผู้สร้าง Brotherhood of the Wolf, True Romance และ Silent Hill ภาคแรก สิ่งสำคัญเกี่ยวกับแซมมีคือเขาเป็นแฟนพันธุ์แท้ครับ เขาอยากจะทำให้มันตรงกับเกมให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ทั้งโลกใบนั้นและแบบดีไซน์ต่างก็ตรงกับเกม สิ่งที่เป็นประเด็นโต้เถียงกันเสมอคือเราจะทำให้มันรุนแรงและน่าสยดสยองมากแค่ไหน นี่เป็นหนังเรท R นะครับ ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้ส่งมันให้เข้ารับการจัดเรท แต่มันเป็นหนังเรท R แน่ๆ ล่ะ เราไม่ได้ทะเลาะกับสตูดิโอเพราะมันไม่มีสตูดิโอครับ มีอยู่ตอนหนึ่งผมถามเขาว่าใครจะต้องเป็นคนอนุมัติฟุตเตจหนัง แล้วเขาก็บอกผมว่า “ก็มีผมกับคุณนี่แหละ ถ้าเราชอบ มันก็โอเคแล้ว” มันไม่ได้หมายความว่าคนอื่นๆ จะชอบมันทุกคน แต่เราเป็นแฟนแฟรนไชส์นี้และเราก็สร้างหนังเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อตัวเราเองและแฟนคนอื่นๆ นั่นเป็นข้อได้เปรียบสูงสุดครับ ผมไม่เคยสร้างหนังสตูดิโอใหญ่มาก่อน ผมไม่เคยสร้างหนังที่มีทีมงานมากมาย ผมเคยสร้างแค่ซีรีส์หนัง ซึ่งมีผู้คนมากมายเกี่ยวข้อง และการทำให้ทุกคน รวมถึงตัวคุณเองพอใจก็เป็นเรื่องเหนื่อยสายตัวแทบขาด แต่หนังเรื่องนี้ก็เป็นความสุขของผมครับ

Q:   ตอนนี้ คุณตัดต่อเสร็จแล้วใช่มั้ย

A:   ครับ เสร็จแล้วครับ เราใช้เวลาในช่วงโพสต์นานมากเพราะเราถ่ายทำในระบบ 3D เอฟเฟ็กต์ทั้งหมดต้องถูกเรนเดอร์เป็น 3D เราไม่ได้มีทุนมหาศาล เราก็เลยต้องรอบคอบ เราจะทำพลาดไม่ได้ เรามีบริษัทเอฟเฟ็กต์ที่ทำงานให้กับเรา เราใช้เวลาออกแบบเสียงค่อนข้างนานเพราะ Silent Hill เป็นเรื่องของเสียงมากพอๆ กับเรื่องของภาพ ดังนั้น การทำงานในช่วงโพสต์โปรดักชันเลยนานทีเดียวครับ เราได้วันเข้าฉายเป็นเทศกาลฮัลโลวีนของปีนี้ และเราก็พยายามปิดเรื่องต่างๆ ไว้เป็นความลับสำหรับแฟนๆ แต่เราก็เริ่มจะเผยอะไรๆ ออกมาเรื่อยๆ ครับ

Q:     หนังเรื่องนี้รุนแรงแค่ไหน

A:     มันไม่ได้เป็นหนังที่รุนแรงแบบ Saw ครับ สำหรับผม โลกของ Silent Hill เป็นโลกกราฟฟิค ถ้าสภาพจิตใจของคนที่สร้างโลก Silent Hill ของเขาเองมีลักษณะบุบสลาย ภาพพวกนั้นก็จะบุบสลายเหมือนกัน แล้วมันก็มีบางอย่างที่สยดสยองแบบเจ๋งๆ ด้วย มันมีเศษชิ้นเนื้อหลุดออกมา ซึ่งก็สนุกดีนะครับ มันเข้มข้น แต่ก็ไม่ได้สยดสยองไปซะทั้งหมด ผมไม่อยากสร้างหนังที่จะทำให้คนเบือนหน้าหนี นี่ไม่ใช่หนังที่บูชาความสยดสยอง แต่มันเป็นหนังสยองขวัญเชิงจิตวิทยา ซึ่งนั่นคือข้อดีที่สุดของหนังเรื่องนี้ มันเป็นหนังสยองขวัญเชิงจิตวิทยาที่มีกราฟฟิควิเศษสุดโอบอุ้มอยู่ และมีเรื่องราวดีๆ อยู่ตรงกลางครับ

Q:     เราคิดว่าแฟนๆ จะต้องชอบแบบนั้นแน่ๆ

A:     เราไม่ได้ใส่ความสยดสยองเข้าไปเพื่อให้มันสยดสยองเพียงอย่างเดียว มันมีภาพหนึ่งในหนังเรื่องนี้ที่คงจะทำให้คุณตื่นตระหนก แต่ผมก็ทิ้งมันไว้ในหนังเพราะมันเจ๋งมากๆ น่ะครับ

Q:    คุณช่วยพูดถึงจำนวนเอฟเฟ็กต์จริงๆ เมื่อเปรียบเทียบกับเอฟเฟ็กต์ ดิจิตอลโดยประมาณได้มั้ย

A:     ผมสามารถให้จำนวนที่แท้จริงกับคุณได้เลยล่ะ มันมีสัตว์ประหลาดดิจิตอลเพียงแค่ตัวเดียว เราไม่สามารถทำแบบอื่นได้ ซึ่งสัตว์ประหลาดตัวนั้นเจ๋งมากๆ มันเป็นตัวที่เราโชว์ที่งานคอมิก-คอนนั่นแหละครับ มันมีชื่อว่าสัตว์ประหลาดหุ่นจำลอง เพราะมันทำจากชิ้นส่วนต่างๆ ของหุ่นจำลองที่ลุกขึ้นมามีชีวิต มันมีแขนขายาวเฟื้อยเหมือนแมงมุม ซึ่งการสร้างสัตว์ประหลาดตัวนี้ขึ้นมาจริงๆ เป็นเรื่องยากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับตารางเวลาที่เรามี ส่วนของอย่างอื่นเป็นของจริง ที่อาจมีการแต่งแต้มสีสันด้วยดิจิตอลอยู่บ้าง แต่ทั้งหมดเป็นคนสวมชุดคอสตูมและเมคอัพครับ ผมชอบอะไรแบบนั้น เมื่อเธอเข้าไปในไซเลนท์ ฮิล มันจะมีทั้งหมอกและฝุ่นขี้เถ้า ฝุ่นขี้เถ้านั้นเป็นดิจิตอล เพราะเราสร้างมันด้วยวิธีอื่นไม่ได้ นี่เป็นหนังที่ใช้ของจริงครับ

Q:     และนั่นก็เป็นสิ่งที่แฟนๆ อยากจะเห็น

A:     สิ่งสำคัญคือเราทำงานกับสารเคมีที่ซับซ้อนมากขึ้นเยอะ ลาเท็กซ์และยางจะดูดีขึ้นเยอะต่อหน้ากล้อง ดังนั้น บางครั้ง คุณก็อาจจะเห็นรอยยับย่นในชุดคอสตูมหรืออะไรแบบนั้น แต่มันก็ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณไม่จำเป็นต้องขัดเกลาทุกอย่างให้เนี้ยบหรอก เพราะมันเป็นของจริงครับ

Q:     การถ่ายทำในระบบ 3D ก่อให้เกิดความท้าทายอะไรเป็นพิเศษรึเปล่า

A:     การถ่ายทำในระบบ 3D เป็นความท้าทายพิเศษจริงๆ ครับ มันมีการถกเถียงกันอย่างจริงจังว่าเราจะถ่ายทำมันเป็น 3D เลย หรือค่อยเปลี่ยนมันในช่วงโพสต์โปรดักชัน แต่ถ้าคุณจะสร้างมันให้เป็นหนัง 3D ทั้งที คุณก็ควรจะทำให้มันถูกต้องสิครับ ตอนที่ผมถ่ายทำหนังเรื่องนี้เมื่อประมาณปีก่อน มันมีเทคโนโลยีนี้เข้ามาแล้ว แต่กล้องยังคงมีขนาดใหญ่อยู่ โดยมันจะมีกล้องสองตัวตั้งอยู่ข้างกัน แทนตาซ้ายและตาขวา กล้องแบบสเตดี้ไม่สามารถรับน้ำหนักริกกลไกลขนาดใหญ่ขนาดนั้นด้วย ส่วนกล้องแฮนด์เฮลด์ก็ควบคุมได้ยากถ้ามันถูกวางอยู่ชิดกัน มันอาจจะถูกปัดให้เสียสมดุลได้ง่ายๆ ดังนั้น ผมก็เลยไม่สามารถใช้งานเครื่องมือสนุกๆ บางอย่างที่ผมมักจะใช้ในฐานะผู้กำกับได้ แต่คุณก็จะมีอีกมิติหนึ่งให้ทำงาน มันเป็นแค่การทำให้แน่ใจว่าความท้าทายนั้นจะได้ผล การทำงานกับระบบ 3D เป็นเรื่องที่ยากมากๆ แต่ผมคิดว่าสำหรับสิ่งแวดล้อมของไซเลนท์ ฮิลแล้ว มันเป็นเรื่องคุ้มค่าครับ

Q:     ผลงานถัดไปสำหรับคุณคืออะไร

A:     ผมเพิ่งเสร็จจากงานซีรีส์ในแอฟริกาใต้สำหรับซีนีแมกซ์-เอชบีโอที่มีชื่อว่า Strike Back ผมอาจจะกลับไปถ่ายทำซีรีส์นี้เพิ่มเติมอีกในปีหน้า ระยะนี้ ผมมีงานค่อนข้างสม่ำเสมอ ผมก็เลยอยากจะหยุดพักซักสองสามเดือน เพื่อเขียนบทออริจินอลสำหรับตัวเอง หรือสร้างแฟรนไชส์ของผมเองน่ะครับ ผมอยากจะสร้าง Solomon Kane อีกซักภาค เรากำลังคุยกันถึงวิธีที่จะสานต่อการผจญภัยของเขาต่อไปอยู่น่ะครับ
« Last Edit: October 17, 2012, 08:15:01 PM by happy »