บลจ.กรุงไทยบุก ETF ฮั่งเส็งฮ่องกง ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ IPO หน่วยละ 4 บาท 28พ.ค.- 8มิ.ย.นี้
บลจ.กรุงไทยมั่นใจตลาดการลงทุนใน ETF ส่งกองทุนเปิดเคแทม ฮ่องกง อีทีเอฟ แทร็กเกอร์ ประเดิมกองทุน ETF ที่อ้างอิง “ดัชนีฮั่งเส็ง” กองแรกของประเทศไทย
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทพร้อมเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดเคแทม ฮ่องกง อีทีเอฟ แทร็กเกอร์ (KTAM HONG KONG TRACKER) ภายใต้รหัส HK ซึ่งเป็นกองทุนรวมอีทีเอฟที่อ้างอิง กับ “ดัชนีฮั่งเส็ง” กองทุนแรกของประเทศไทย โดยมีช่วงการเสนอขายแก่นักลงทุนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ในวันที่ 28 พฤษภาคม – 8 มิถุนายน 2555 มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ลงทุนขั้นต่ำ 4,000 บาท (เพิ่มขึ้นป็นทวีคูณของ 400 บาท) กองทุนมีนโยบายเน้นการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Tracker Fund of Hong Kong ในสกุลเงินดอลลาร์ฮ่องกง ทั้งนี้ กองทุนจะเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 19 มิถุนายน 2555 โดยใช้ชื่อย่อในตลาดหลักทรัพย์ว่า HK
จุดเด่นของกองทุน HK คือ ผู้ลงทุนมีโอกาสรับผลตอบแทนเคลื่อนไหวตามกองทุนรวมหลักที่มุ่งสะท้อน ดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกงหลังหักค่าใช้จ่ายของกองทุน โดยให้ความคล่องตัวในการซื้อขายแบบ Real Time ตามราคาในกระดานของตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วยราคาต่อหน่วยคิดเป็นเงินเพียงประมาณ 4 บาท และสามารถทราบราคาซื้อขายได้ทันทีโดยไม่ต้องรอราคาปิดสิ้นวันเหมือนกองทุนรวมอื่นๆ นอกจากนี้ กองทุนยังมีนโยบายจ่ายเงินปันผลได้ไม่เกิน 4 ครั้งต่อปี และมีบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดูแลสภาพคล่อง
ดัชนีฮั่งเส็งประกอบด้วยหุ้นที่มีมูลค่าตลาดและสภาพคล่องสูงที่สุดจำนวน 48 บริษัท ประกอบไปด้วยหุ้นบริษัทฮ่องกง และหุ้นบริษัทจีนที่มีธุรกิจอยู่ในประเทศจีน โดยปัจจุบันสัดส่วนของบริษัทฮ่องกงอยู่ที่ประมาณ 44% ในขณะที่บริษัทจีนมีสัดส่วนรวมอยู่ที่ประมาณ 56%
การลงทุนในกองทุนอีทีเอฟในต่างประเทศนั้น มีตลาดที่กว้างมากเมื่อเทียบกับประเทศไทย โดยตลาดหุ้นฮ่องกงนั้นถือเป็นตลาดที่มีความโดดเด่นและเป็นที่รู้จักดีของนักลงทุนชาวไทยมาโดยตลอด นอกจากนี้ การที่ฮ่องกงเป็นเขตปกครองพิเศษแยกจากประเทศจีน ส่งผลให้ฮ่องกงได้รับประโยชน์โดยตรงจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีน ทั้งในแง่การค้าและการลงทุน ในขณะที่การเป็นเมืองท่าเสรี ที่มีระบบภาษีที่ต่ำและไม่ซับซ้อน รวมถึงมีระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ดีช่วยดึงดูดให้ฮ่องกงเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่สำคัญที่สุดของของเอเซีย โดยปัจจุบันตลาดหุ้นฮ่องกงเป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับ 7 ของโลกและใหญ่เป็นอันดับ 3 ในเอเชีย
ผู้สนใจลงทุนสามารถติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขาทั่วประเทศ และผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุนที่ได้รับการแต่งตั้ง ได้แก่ บล.เคที ซิมิโก้ จำกัด (มหาชน) บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่บลจ.กรุงไทย โทร 02-670-4900 กด 9