pooklook on May 06, 2012, 12:35:58 PM
คิดๆ เหมือนผู้เขียนมั้ยคะว่าคนเราเดี๋ยวนี้มันดราม่ากันง้ายง่าย โดยเฉพาะใน Social network อย่าง Facebook กับ Twitter นี่แหละ เพราะมันทำให้เราสามารถเขียนอะไรถึงใครโดยไม่ต้องรอให้เจ้าตัวมาอยู่ฟังต่อหน้าซะด้วยซ้ำ ตรงนี้ถ้ามองในแง่ดีมันทำให้เราติดต่อสื่อสารกับเพื่อนง่ายขึ้น แต่ก็เพราะมันง้ายง่ายยย เนี่ยแหละ ก็เลยทำให้บางครั้ง สิ่งที่เราพูด(เขียน)ไปก่อน แล้วค่อยคิดทีหลัง … จะทำให้เกิดรอยร้าวในความสัมพันธ์ชนิดต่อไม่ติดขึ้นมา
บ่นเรื่องเพื่อนลงเน็ต

โอเค เราต้องยอมรับความจริงนะคะว่า ไม่มีมนุษย์คนไหนเพอร์เฟคหรอก ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดามากที่คุณจะไม่พอใจพฤติกรรมบางอย่างของเพื่อน ประเด็นก็คือ คุณไม่ควรเอาเก็บความไม่พอใจนั้นเอาไว้ไม่บอกมันแล้วมาปล่อยลงในเน็ต ลองคิดดูสิว่าถ้าเป็นเรา เปิดเน็ตมาแล้วเจอเพื่อนกำลังด่าเราให้ชาวบ้านชาวช่องรู้ (ถึงจะไม่เอ่ยชื่อตรงๆ ก็เถอะ) เราจะเฟลขนาดไหน

ทางที่ดีนะคะ ถ้าเพื่อนมันทำอะไรให้ไม่พอใจ ควรบอกมันก่อน หรือถ้าบอกแล้วรู้ว่าไม่ได้ผลหรอก แต่ยังคิดจะคบกันต่อ ก็อดทนยอมรับในข้อเสียของมัน (อาจโทรไปกรีดร้องกับเพื่อนอีกคนที่เข้าใจและเก็บความลับได้ก่อน) และหันไปคิดถึงด้านดีๆ ของมันแทน อย่าลืมค่ะว่าตัวเราเองก็มีข้อเสียเหมือนกันแหละ ถ้าเพื่อนมันทนเราได้ เราก็ต้องยอมรับข้อเสียของมันได้เหมือนกันสิ

ไม่พอใจอะไรก็เปรยขึ้นมาลอยๆ (ให้คนอื่นได้เห็นด้วย)
อันนี้คล้ายกับเรื่องข้างบน แต่หนักกว่า กรณีนี้อาจเป็นที่คุณเก็บความไม่พอใจลึกๆ เกี่ยวกับเพื่อนคนนั้นไว้ อยากให้มันรู้ว่าแกทำชั้นเจ็บนะ แกเปลี่ยนแปลงตัวเองซักทีเหอะ แต่ก็ไม่อยากจะพูดออกไปตรงๆ เพราะกลัวมันโกรธ กลัวมันเสียความรู้สึก หรือพูดกันไปหลายรอบแล้วมันก็ยังไม่ยอมเปลี่ยน ไม่ไหวจะเพลีย

พฤติกรรมนี้ผู้เขียนขอใช้คำว่า “ยิงกราด” ค่ะ เพราะการที่คุณพูดลอยๆ ไม่ระบุเป้าหมายเนี่ย มันกระทบถึงคนในวงกว้างเลยนะ อย่างแรกเลยคือเพื่อนในกลุ่มคุณมันต้องรู้สึกแน่ เพียงแต่บางคนอาจเลือกเงียบ บางคนที่ไม่รู้เรื่องอาจระแวงว่า อ้าว ใช่กรูรึเปล่า หรือบางคนอาจเข้ามาแทรก ซึ่งก็ช่วยได้มั่ง ไม่ช่วยมั่ง (แต่ส่วนมากจะช่วยให้บานปลายซะมากกว่า) ปัญหาของคนสองคน หรือหลายๆ คน มันก็จะไม่อยู่แค่คนที่มีความเกี่ยวข้องอีกต่อไป ขอบอกว่าคนยิ่งเยอะ เรื่องก็ยิ่งแยะ
คิดเยอะ ฟุ้งกับสิ่งที่เพื่อนเขียนมากเกินไป

ข้อนี้สอดรับกันอย่างมากกับข้อยิงกราด ถ้าคนในกลุ่มคุณมีทั้งคนที่ชอบฟุ้ง และชอบเปรยนะ โอ้ม่ายยยย – -“ ลักษณะของการคิดเยอะจนฟุ้งคือ ชอบแปลความหมายของสิ่งที่เพื่อนเขียน หรือไม่ได้เขียน หรือจินตนาการว่า ที่มันเขียนออกมาอย่างเนี่ย เพราะมันโกรธใช่มั้ย มันกำลังด่าเราอยู่รึเปล่า…พอเห๊อะ

ข้อเสียอย่างมากของ Social network คือ มักเป็นการสื่อสารด้วยตัวอักษรมากกว่าคำพูด ซึ่งตัวหนังสือทั้งหลายมันไม่มีน้ำเสียง เราจึงแทบบอกไม่ได้เลยว่า ข้อความที่เขียนออกมานั้น ผู้เขียนเขียนด้วยความรู้สึกยังไง คิดอะไรอยู่ มีความหมายซ่อนเร้นในนั้นรึเปล่า คือบางทีก็มี บางทีก็ไม่ ไม่มีใครรู้ได้นอกจากคนที่มันเขียนออกมา
ดังนั้น ผู้เขียนแนะนำว่าอย่าไปพยายามหาความหมายในสิ่งที่เพื่อนไม่ได้เขียนออกมาเลยค่ะ มันเขียนอะไรปล่อยมัน หรือถ้าสงสัยมากจริงๆ ว่ามันหมายความถึงเรารึเปล่า แนะนำให้ โทรไปถามหรือถามหลังไมค์เลยค่ะว่าใช่เรามั้ย แต่แนะนำให้ถามแบบได้ยินเสียงเลยนะ จะได้ไม่ต้องมานั่งสงสัยกันอีก

จริงๆ แล้วนอกจาก 3 อย่างนี้ อะไรในเน็ตที่อาจทำให้ทะเลาะกันได้อีกก็มีพวก บอกเพื่อนว่าไม่สบายเลยไม่ไปตามนัด แต่ดันอัพสเตตัสซะลั้ลลา อัพรูปถ่ายอนาถๆ แล้วแทคเพื่อนโดยไม่ดูกาลเทศะ หรือพิมพ์ล้อเล่นอะไรไปโดยไม่คิด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้เขียนว่าเรื่องพวกนี้ก็คล้ายๆ กับเรื่องในชีวิตจริงแหละค่ะ ที่มันก็มีผิดใจกันได้ เพียงแต่สิ่งที่ผู้เขียนอยากจะเน้นก็คือ “การสื่อสารระหว่างกัน” ต่างหาก เพราะส่วนมากแล้ว เวลาปัญหาบานปลายเนี่ย สิ่งที่เป็นชนวนจริงๆ มักจะไม่เท่าไหร่หรอก มันจะไปงอกเอาระหว่างทางมากกว่า มันขึ้นอยู่กับตัวคุณเลยล่ะ ว่าคุณเลือกจะพูด จะเก็บ หรือจะสื่อสารกันอย่างไร

อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนก็ไม่ได้บอกว่าให้คุณต้องเก็บความเสียใจ ความไม่พอใจเอาไว้อย่างเดียวหรอกนะคะ ปัญหาระหว่างเพื่อนมีทางออกหลายอย่าง บางอย่างพูดตรงได้ผล บางอย่างก็ต้องทำอย่างนิ่มนวลและมีคนช่วย ผู้เขียนคงไม่อาจบอกได้หมดว่า ทางไหนบ้างเป็นทางที่ถูก แต่ค่อนข้างรับประกันได้ว่าทางที่เพิ่งเขียนมาเนี่ย ไม่เวิ้กชัวร์ๆ – -“
 
 


 
ที่มา:  .goodlywomen.com