pooklook on April 09, 2012, 08:26:41 PM



 โถ ใส่บิสกิตประจำออฟฟิศคุณมีแต่รอยนิ้วมือเปรอะเปื้อนไปหมดรึเปล่า แล้วพอบ่ายสามโมง คุณก็กระเด้งจากเก้าอี้โดย อัตโนมัติแล้วไปซื้อของว่างใช่มั้ย

 จากผลสำรวจในออสเตรเลีย คนทำงานกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ต่างบอกว่าความเครียดจากการ ทำงานทำให้พวกเขาห่างไกลจากอาหารสุขภาพ เราจึงต้องหาวิธีรับมือที่ต่อให้งานหนักแค่ไหนก็ไม่สามารถทำให้คุณไขว้เขว จากการไดเอ็ตได้

    1. อาหารโฮมเมด

          ทำอาหารสุขภาพไปกินที่ออฟฟิศ หรือหากไม่มีเวลาทำก็ซื้อสลัดไปกินเป็นมื้อเที่ยงสิ หรือซื้อแช่ตู้เย็นตุนไว้ หากอยาก เพิ่มโปรตีนก็ให้เติมไข่ต้มเนื้อไก่ฉีก หรือปลาทูน่าลงไปด้วย อาหารที่เตรียมง่าย ๆ ก็ทำให้สุขภาพดีและหุ่นสวยได้

    2. โปรตีนคือเพื่อนของคุณ

         ไม่กินอาหารจำพวกแป้งมากเกินไปในมื้อกลางวัน เพราะคาร์โบไฮเดรตช่วยเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดได้ และนั่นเป็นต้น ตอของความหิวในตอนบ่ายที่ทำให้คุณวิ่งไปหาโหลบิสกิตในที่สุด โปรตีนจะไปช่วยระงับให้น้ำตาลเดินทางไปยังกระแสเลือด ได้ช้าลง จึงควบคุมไม่ให้น้ำตาลในเลือดไปทำให้คุณรู้สึกโหยหาของกินอีกในยามบ่าย เมื่อคุณหิวน้อยลงก็มีโอกาสต่ำลงที่จะ เลือกของว่างซึ่งมีน้ำตาลสูงมากิน

    3. อย่างดมื้อเช้าในยามเร่งรีบ

         เรารู้ว่าตอนเช้าคุณรีบมาก แต่จำไว้ว่าคนที่ไม่กินอาหารเช้ามักจะกินของว่างจุกจิกในช่วงก่อนเที่ยง หรือกินมากเกิน อัตราในมื้อกลางวัน หากคุณรีบมากให้ชงเครื่องโปรตีนกับกล้วยปั่นไปดื่มระหว่างเดินทาง หรือแวะซื้ออาหารเช้าง่าย ๆ ไปกินก็ได้

    4. นอนหลับให้เต็มอิ่ม

         อย่าประเมินคุณค่าของการนอนหลับสนิทในตอนกลางคืนต่ำไปเชียวนะ เมื่อคุณนอนไม่เพียงพอ เรื่องราวสารพัดที่ต้อง เจอในยามเช้า ก็จะทำให้คุณเหนื่อยและพุ่งไปหาของกิน โดยที่คุณอาจจะยังไม่ทันหิวเลยด้วยซ้ำ

    5. อย่าเผลอใจไปกับตัณหา

        ในที่นี้เราหมายถึงอาหารนะ คนเรามักติดกับดักเพราะอาหารขยะ แล้วก็ยากที่จะทำใจไม่ให้ซื้อได้ เรามักคิดว่าลูกกวาด และช็อกโกแลตที่เราซื้อนั้นมีไวเผื่อยามฉุกเฉินเท่านั้น ทางที่ดีเลิกซื้อของหวานจุกจิกพวกนี้ซะ แล้วซื้อของขบเคี้ยวที่มี ประโยชน์มาประจำโต๊ะไว้คลายหิวดีกว่า

    6. เตรียมตัวให้ดี

        หากคุณต้องอยู่ทำงานจนดึก อย่ารอให้ตัวเองรู้สึกหิวจัดในตอนหนึ่งทุ่มแล้วค่อยคิดถึงอาหารเย็นล่ะ เมื่อความหิวโจมตี คุณมักรู้สึกอยากกินอาหารที่มีแคลอรีสูง เตรียมตัวสำหรับการทำงานหามรุ่งหามค่ำให้ดี ด้วยการแอบออกไปซื้ออาหารเย็น เตรียมเอาไว้

    7. กาแฟที่ดื่มปลอดภัยแค่ไหนกัน

        เมื่อพูดถึงเครื่องดื่ม ในวันหนึ่ง ๆ คุณดื่มกาแฟกี่แก้ว ลาเต้และคาปูชิโน่นั้นให้แคลอรี 224 แคลอรี นี่ยังไม่รวมน้ำตาลนะ ควรจำกัดปริมาณไม่ให้ดื่มกาแฟเกินวันละหนึ่งแก้ว และเลือกแบบปลอดครีมซึ่งจะได้แคลอรีลดลง 75 เปอร์เซ็นต์จากกาแฟที่ ใส่ครีม

    8. เข้าประชุมก็ยัง (ไม่เลิก) กิน

        หากคุณรู้ว่าจะต้องเข้าประชุม โดยที่มีของว่างหวาน ๆ แคลอรีสูงวางล่อใจอยู่ ก็คว้าแอปเปิ้ล หรือของว่างจำพวกธัญพืช เข้าไปแทนดีกว่านะ

    9. เครื่องดื่มก็นับแคลอรีได้นะจ๊ะ

         อย่าคิดว่าเครื่องดื่มจะทำให้คุณอ้วนน้อยกว่าอาหารในเครื่องดื่มก็มีแคลอรี สูงได้ ชาเย็นและโกโก้นั้นถือว่าต้องห้ามเลย แม้แต่น้ำผลไม้ก็ยังมีน้ำตาลเช่นกัน และยังไม่มีไฟเบอร์เหลือที่จะช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มนานขึ้นได้ เมื่อคุณกระหายน้ำ น้ำเปล่า คือ เพื่อนที่ดีที่สุด ทั้งปลอดแคลอรีแล้วยังเป็นการประหยัดไปด้วยในตัว

    10. กลเม็ดเก่า ๆ แต่เก๋านะ

         เรามักจะกินอาหารหมดอย่างรวดเร็วระหว่างที่ตายังจ้องหน้าจอคอมพ์ โดยไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าคุณกำลังกินอะไรอยู่ พยายามใช้เวลาสัก 10 นาที (แม้จะยังนั่งที่โต๊ะ) ไม่คิดถึงอะไรนอกจากอาหารที่กินอยู่ เมื่อคุณกินอาหารอย่างรีบเร่ง ตัว สัญญาณที่ต้องทำหน้าที่ส่งความรู้สึกว่าคุณอิ่มแล้วนั้นจะไปถึงสมองได้ไม่ เร็วพอ แล้วนั่นก็ทำให้คุณพลั้งเผลอกินมากเกินไปจน จุก

     Tip   อย่า คิดว่าสแน็กบาร์และสมูธตี้ผลไม้ทั้งหมดจะให้แคลอรีต่ำนะ เพราะหากมีน้ำตาลปริมาณสูง ก็ยังเป็นภัยต่อความมั่น คงของหุ่นและน้ำหนักคุณอยู่ดีนั่นแหละ

ที่มา ... Lisa