MSN on August 06, 2011, 01:01:27 PM
ครูพี่แนน ขอโอวาท เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ต้อนรับ วันแม่แห่งชาติ
หยิบประเด็น “แม่วัยรุ่น กับเอดส์” ให้สังคมเร่ง “กัน และ แก้”
พร้อมระดมทุนผ่าน Facebook ช่วย “คุณแม่ติดเอดส์ที่ถูกทอดทิ้ง”
 
          “แม่วัยรุ่น” กำลังทวีจำนวนอย่างมากในสังคม ในปี 2553 มีการรายงานจำนวนแม่วัยรุ่นมากถึง 1.5 แสนคน หรือคิดเป็น 10 เปอร์เซ็นต์ของแม่ทั่วไป และที่น่าตกใจที่สุดคือ ไทยมีแม่วัยรุ่น (อายุระหว่าง 13-16) ติดอันดับ 1 ของเอเชีย และอันดับต้นของโลก โดยกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของแม่วัยรุ่นคือการเป็นแม่โดยไม่ได้ตั้งใจ ขาดการวางแผน และขาดความพร้อมในการเป็น “แม่” อย่างแท้จริง ซึ่งส่งผลกระทบต่อสังคมทั้งด้านสถาบันครอบครัวและการเกิดโรคเอดส์
         
ในฐานะครูผู้มีความเกี่ยวข้องกับวัยรุ่นโดยตรง นางสาวอริสรา ธนาปกิจ หรือ ครูพี่แนน รองผู้อำนวยการและหัวหน้าทีมเอ็ดดูเทนเนอร์ โรงเรียนกวดวิชาภาษาอังกฤษเอ็นคอนเส็ปท์ อี แอคเคเดมี่ จึงหยิบประเด็นร้อนของสังคมเรื่อง “แม่วัยรุ่น” ขึ้นมาพูดถึงในโอกาส “วันแม่” โดยนิมนต์พระอุดมประชาทร ท่านเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ผู้อุทิศตนให้กับการช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเอดส์ ที่ส่วนหนึ่งเป็น“คุณแม่วัยรุ่นติดเอดส์ที่ถูกครอบครัวทอดทิ้ง” มาให้โอวาทกับเยาวชนและผู้ปกครอง เพื่อร่วมนำเสนอหนทางป้องกัน แก้ไข ให้กับสถานการณ์ “วิกฤติแม่วัยรุ่นในประเทศไทย”
 
กิจกรรม Maternal Love: เมื่อ”รัก”นี้ไม่มีเงื่อนไข จัดขึ้น ณ โรงเรียนกวดวิชาเอ็นคอนเส็ปท์ สาขาพญาไท ชั้น9 อาคารวรรณสรณ์ เมื่อเร็ว ๆ นี้
 
โดยครูพี่แนน เปิดใจว่า “กิจกรรมนี้มีเป้าหมายที่จะกระตุ้นให้สถาบันครอบครัว ได้สำรวจถึงความรัก และเอาใจใส่ของพ่อแม่ที่มีต่อลูกวัยรุ่นว่า แนบแน่นเพียงพอที่จะเป็นปราการป้องกันไม่ให้ลูกต้องออกไปหาความรักจากคนอื่นหรือยัง  และนำเสนอแนวคิด“หยุดจำนวนแม่วัยรุ่น” เพื่อตอกย้ำเตือนสติเยาวชนให้ฉุกคิดถึงการมีเพศสัมพันธุ์แบบสุ่มเสี่ยงอันจะก่อให้เกิดปัญหาตามมา  โดยถือเอาโอกาสวันแม่ปีนี้มาสะท้อนข้อเท็จจริงและปัญหาอีกด้านหนึ่งของสังคมไทย ที่เกี่ยวข้องกับคำว่า “แม่”  และต้องการรณรงค์ให้โรงเรียนต่าง ๆ นำธรรมะในรูปแบบที่เอื้อให้เยาวชนลงมือปฏิบัติได้จริงไปสอนเด็กในโรงเรียน ให้เด็กรู้จักคำว่า “สติ” มากขึ้น อยากเห็นการสอนธรรมะในรูปแบบที่เอื้อให้เยาวชนได้ลงมือปฏิบัติได้จริง ไม่ใช่แค่ท่องจำ...ตรงนี้น่าจะมีส่วนเสริมสร้างสติและปัญญาให้กับวัยรุ่นได้อีกทางหนึ่ง”
 
     ด้านพระอุดมประชาทร ท่านเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ได้ให้ข้อคิดว่า “ ในอนาคตคิดว่าจะมีเด็กวัยรุ่นผู้หญิงติดเชื้อเอชไอวีเพิ่มมากขึ้น เพราะไม่มีโอกาสป้องกันตัวเองได้ ทุกวันนี้ที่วัดพระบาทน้ำพุ มีผู้หญิงเสียชีวิตกว่าหมื่นคน ประเด็นที่น่าเป็นห่วงคือเด็กที่ฐานะยากจน ครอบครัวแตกแยก มักขาดความรัก ความอบอุ่น
 
รวมทั้งครอบครัวที่พ่อแม่ไม่มีเวลาอบรมสั่งสอนลูกให้แต่เงิน ทำให้เด็กเดินไปสู่การรักสนุกสนาน ปล่อยเนื้อปล่อยตัว ที่วัดก็มีกรณีเด็กผู้หญิงมากมาย ที่เริ่มมีความรักตั้งแต่อายุยังน้อยหรืออยู่มัธยมต้น มีแฟนแล้วก็เลิกไปเรื่อย ๆ จนคุณค่าในตัวเองเริ่มหมดไป ไม่เหลือค่า ยิ่งยุคสมัยนี้คนนิยมวัตถุสิ่งของกันมาก ทำให้เด็กหลายคนยอมเอาตัวเข้าแลกเพื่อได้มาซึ่งความสุขจากวัตถุ แล้วในที่สุดก็ต้องจบลงด้วยการเป็นแม่ตั้งแต่ยังวัยรุ่น”
 
     “ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเยาวชน ขาดวิจารณญาณในการคิดอย่างสุขุม รอบคอบ ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุให้เด็กผู้หญิงทำผิดพลาดได้ง่าย ๆ นำไปสู่การติดเชื้อเอดส์ หรือไปสู่การเป็นแม่ใจบาป ต้องทำแท้ง ... ไม่ว่าเด็กจะเก่ง จะฉลาดเรียนแค่ไหน เวลามีความรักเหมือนคนตาบอดหมดเลย กลายเป็นคนประมาท และพลาด ...หลวงพ่ออยากจะฝากนักเรียนว่า อนาคตข้างหน้า มันไม่ได้ก้าวเดินมาหาเรา แต่เราต้องก้าวเดินไปหาความสำเร็จที่รอเราอยู่ จึงต้องก้าวเดินอย่างระวัง เพราะจิตใจวัยรุ่นมันรุ่มร้อนต้องถามตัวเองว่าเรามีความลุ่มหลงอยู่หรือเปล่า แล้วสร้างสติให้มั่น ในประเทศไทยมีข้อมูลว่าเอดส์ระบาดรุนแรงที่สุดในกลุ่มวัยรุ่นอายุ 13 – 16 ปี เพียงแต่เรายังมองไม่เห็น เพราะเอดส์ยังไม่ออกอาการทันที ใช้เวลา 4 – 5 ปี หรือมากกว่านั้นจึงจะรู้ตัวว่าเป็นเอดส์ ”
 
          ทั้งนี้ ครูพี่แนน ยังได้ทำหน้าที่เป็นพิธีกรถามคำถามให้กับผู้สนใจ โดยหนึ่งในคำถามมีว่า “หากวัยรุ่นบางคนต้องรับบทบาทแม่ จะมีหลักธรรมอะไรมาใช้กับชีวิตหรือครองสติ”
          ซึ่ง พระอุดมประชาทร ได้ตอบว่า “มี 2 ด้านของการใช้ชีวิตคือ การใช้หัวใจดูแลความรัก ทารกที่เกิดมาเป็นสิ่งสวยงาม ต้องรักลูก ดูแล และให้กำลังใจ บางทีเด็กที่เกิดมาอาจจะกลายเป็นบุคคลสำคัญของโลกในอนาคตก็ได้ อย่าคิดร้าย หรือไปปิดกั้นอีกชีวิตหนึ่งด้วยการฆ่า  และส่วนที่สองคือ การเป็นคนขยันทำมาหากินเพื่อดำรงชีวิต หากเราพลาดพลั้งไปแล้ว เกิดตั้งครรภ์ขึ้นมาขณะเรียนหนังสืออยู่ เราจะกลับไปเรียนก็ไม่สายเกินไป หรือไม่ก็หางานที่สุจริตทำ หาจุดลงตัวให้กับตัวเอง คนเราหากไม่เกียจคร้านก็ไม่อดตาย”
               
          กิจกรรมในครั้งนี้ ยังได้รับความสนใจจากทั้งเยาวชน ผู้ปกครอง และบุคคลที่สนใจทั่วไปเข้าร่วมงาน รวมทั้งนางจำเนียร วงศ์กิตติพร หนึ่งในผู้ปกครองของนักเรียนที่มาร่วมกิจกรรม เปิดใจว่า “ฟังแล้วตกใจว่าประเทศไทยมีคนติดเอดส์เป็นดันดับหนึ่ง ซึ่งมันน่ากลัว กลับบ้านไปต้องดูแลกันมากขึ้น ไม่ใช่สอนแต่ลูกสาว ลูกชายก็ต้องสอนให้รู้จักให้เกียรติผู้หญิง ...ดิฉันไม่เห็นด้วยกับการทำแท้ง ควรเอาความรักและการให้อภัยเป็นสำคัญ ที่บ้านจะคุยกันอย่างไม่ปิดกั้นเรื่องเพศ สอนลูกทุกอย่างเรื่องการดูแลตัวเอง” นอกจากนี้เธอยังบอกด้วยว่า “ภาวะเสี่ยงแบบนี้จะไม่เกิดขึ้น หากคนในครอบครัวรู้จักรักและเข้าใจกัน” 
 
เช่นเดียวกับ น้องฟิลลี่ – นายวัชรวิชญ์ จิรวงศาพันธุ์ นักเรียนชั้นม.5 โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ที่มาร่วมกิจกรรม และได้กล่าวว่า “ได้ความรู้เยอะมากเกี่ยวกับโรคเอดส์ รู้ว่ามันไม่ได้เกิดเพียงข้ามวัน กว่าจะแสดงผลใช้เวลาหลายปี ฟังแล้วก็กลัวมากยิ่งขึ้นว่าเราต้องระวัง ผมขอฝากเพื่อนผู้ชายว่า รักสนุกไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป ก่อนทำควรคิดให้ดี ให้รักษาศีลข้อ 3 ไว้จะได้ไม่เป็นโรคเหมือนคนที่วัดพระบาทน้ำพุ”
 
          ด้านน้องฟิวส์ – นางสาวณฌกร ตีระวัฒนประภา ชั้น ม.6 ประธานชม V Teen โรงเรียนสตรีวิทยา2 ซึ่งเป็นอาสาสมัครทำงานเพื่อสังคมมากว่า 3 ปี บอกว่า จะนำเรื่องราวอุทาหรณ์ต่างๆไปเล่าให้น้องๆที่ชมรมฟัง เกี่ยวกับการเลือกคนรักว่าต้องคิดให้รอบคอบ คิดให้เยอะ เพราะเมื่อปัญหาเกิดขึ้นจะส่งผลกระทบกับคนรอบข้างด้วย  “ประทับใจคำสอนของพระอาจารย์ที่บอกว่า ชีวิตนี้อย่าคิดสั้น ชีวิตเรามีค่ามากกว่า ปัญหามีทางออกอยู่ที่เราจะมองหาทางออกหรือเปล่า ส่วนตัวแล้วหนูคิดว่าเราต้องรู้ว่าเรากำลังเรียน ไม่ควรหมกมุ่นเรื่องอื่น พ่อสอนว่าช่วงนี้เป็นวัยคึกคะนอง ไม่มีใครมาจริงจังกับเราหรอก เมื่อถึงเวลาสมควรความรักจะเข้ามาหาเราเอง ไม่ใช่วิ่งตามมันค่ะ”
         
          ทั้งนี้ ครูพี่แนน ยังดำเนินการสานต่อกิจกรรมนี้อย่างต่อเนื่องตลอดเดือนสิงหาคมนี้ โดยมีการเปิดหัวข้อ “แม่วัยรุ่น” และ “แนวทางป้องกัน แก้ไขปัญหาแม่วัยรุ่น และเอดส์ในวัยรุ่น” ผ่านเฟซบุ๊ก www.facebook.com/enconcept เพื่อให้วัยรุ่นได้เข้ามาร่วมกันนำเสนอความคิดเห็น รวมทั้งมีการเปิดรับเงิน บริจาคเพื่อระดมทุนนำความเชื่อเหลือไปสู่ “คุณแม่ติดเอดส์ที่ถูกทอดทิ้ง” และกำลังพักรักษาตัวอยู่ ณ วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรีอีกด้วย โดยเงินบริจาคทั้งหมดจะส่งมอบให้กับท่านเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ในเดือนกันยายน ศกนี้
 
          สำหรับผู้ที่ต้องการทำบุญสามารถร่วมบุญได้ ตั้งแต่วันนี้ – วันที่ 4 กันยายนนี้  โดยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม 02-736-3636