“กรมส่งออก” ดันงาน “มหกรรมบันเทิงไทย52” สร้างธุรกิจ - ขยายตลาดบันเทิงไทย

กรมส่งออก” ดันงาน “มหกรรมบันเทิงไทย52” สร้างธุรกิจ - ขยายตลาดบันเทิงไทย สู่ตลาดโลก 







“กรมส่งเสริมการส่งออก” รุกจัดงาน “มหกรรมอุตสาหกรรมบันเทิงไทย 52 หรือ Thailand Entertainment Expo 09” ขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนอุตสาหกรรมบันเทิงไทย 16-20 กันยายนนี้ ณ พารากอน ฮอล์ล หวังกระตุ้นการลงทุนและสร้างเครือข่ายระหว่างประเทศด้านธุรกิจบันเทิง รวมทั้งดึงต่างชาติใช้ไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำหนัง โกยเงินเข้าประเทศ ด้านสมาคมอุตสาหกรรมบันเทิงไทยและ TACGA พร้อมใจดันสยามเมืองยิ้มเป็นหนึ่งในแผนที่โลกของผู้จัดงาน มั่นใจสามารถขยายตลาดแอนิเมชั่นมูลค่า 5-6 พันล้าน เติบโตต่อเนื่อง

                นายประมุข มนตริวัต ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมธุรกิจบริการการส่งออก กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการส่งออกได้จับมือกับหน่วยงานภาครัฐ และกลุ่มธุรกิจบันเทิงภาคเอกชน อาทิ สมาคมอุตสาหกรรมบันเทิงไทย ,สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย, สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งประเทศไทย, สมาคมแอนิเมชั่นและคอมพิวเตอร์กราฟฟิคแห่งประเทศไทย (TACGA) ฯลฯ ร่วมจัดงาน “Thailand Entertainment Expo 2009” หรือ “งานมหกรรมอุตสาหกรรมบันเทิงไทย ครั้งที่ 2” ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 16-20 กันยายน 2552 ที่พารากอน ฮอลล์ ศูนย์การค้าสยาม พารากอน โดยวันที่ 16-17 กันยายน 2552  เป็นวัน Trade Days และในวันที่ 18-20 กันยายน 2552  จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมงาน

                สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อประชาสัมพันธ์ศักยภาพของอุตสาหกรรมบันเทิงไทยในการเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมบันเทิงในเอเชีย รวมทั้งยังเป็นการส่งเสริม  สนับสนุนและกระตุ้นให้ผู้ซื้อ ผู้ลงทุนจากนานาชาติเกิดความสนใจในธุรกิจบันเทิงของประเทศไทยให้มากยิ่งขึ้น ทั้งงาน ภาพยนตร์ โทรทัศน์ วิทยุ งานโฆษณา มัลติมีเดีย และ การ์ตูนแอนิเมชั่น พร้อมทั้งผลักดันให้เกิดการซื้อขายลิขสิทธิ์ต่างๆ ขยายไปยังตลาดต่างประเทศ รวมทั้งการสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นแหล่งถ่ายทำภาพยนตร์ระดับโลก

                "ปีที่แล้วถือเป็นปีแรกของการจัดงานมหกรรมอุตสาหกรรมบันเทิงไทย โดยมีผู้เข้าร่วมงานจำนวน 74 บริษัท 147 คูหา และมีผู้เข้าชมงานทั้งสิ้น 16,785 คน มีเงินหมุนเวียนจากการสั่งซื้อในงานประมาณ 12 ล้านเดอลล่าสหรัฐ และมีมูลค่าการซื้อ-ขายใน 1 ปี ประมาณ 79 ล้านดอลล่าสหรัฐ ซึ่งปีนี้ถือเป็นอีกหนึ่งปีที่อุตสาหกรรมบันเทิงไทยสามารถขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนได้ เป็นการแสดงศักยภาพให้ทั้งผู้ผลิตและผู้สร้างจากต่างประเทศที่เข้ามาร่วมงานได้เห็น หลังจากนั้นจะก่อให้เกิดการร่วมลงทุนและสร้างเครือข่ายระหว่างประเทศทางธุรกิจบันเทิง รวมถึงความร่วมมือการพัฒนาด้านเทคโนโลยีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมากยิ่งขึ้น”

                ทั้งนี้ จากศักยภาพของธุรกิจบันเทิงไทย ไม่ว่าจะเป็นการผลิตสื่อบันเทิงต่างๆ อาทิ ภาพยนตร์ ละคร หรือการให้บริการทางด้านบันเทิง เช่น บริการก่อนการผลิต (Pre-production) บริการการผลิต (Production) บริการหลังการผลิต (Post-production) ตลอดจนการให้บริการแก่กองถ่ายต่างประเทศ ที่เข้ามาใช้สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย สามารถพัฒนาให้เกิดการจ้างงานและเกิดธุริกจต่อเนื่องในอุตสาหกรรมบันเทิงได้ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการนำเข้าเงินตราจากต่างประเทศ กรมส่งเสริมการส่งออกจึงให้การสนับสนุนและส่งเสริมนักธุรกิจไทย ให้มีการส่งออกผลงานไปยังต่างประเทศมากขึ้น และยังกระตุ้นให้นักธุรกิจต่างชาติสนใจผลงาน  และเข้ามาใช้บริการธุรกิจบันเทิงในประเทศไทยมากขึ้นเช่นกัน

                “ประเทศไทยถือเป็นตลาดที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคอาเซียน ด้วยผู้คนที่เปิดกว้างต่อการรับเอาสื่อบันเทิงทุกรูปแบบ พร้อมทั้งมีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมความบันเทิงกันอย่างกว้างขวาง ส่งผลให้ประเทศไทยและบุคลากรในอุตสาหกรรมบันเทิงของไทย สามารถพัฒนาและต่อยอดในการสร้างสรรค์ผลงาน ซึ่งตอบรับต่อความต้องการตามแนวทางธุรกิจบันเทิงในกระแสโลกได้อย่างลงตัว”

                นายประมุข กล่าวอีกว่า ไทยมีจุดแข็ง คือ มีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ และความคิดสร้างสรรค์ และยังมีความเป็นศิลปินอยู่ในตัว มีอุปกรณ์ เครื่องมือ ในการถ่ายทำ การตัดต่อและล้างฟิล์มที่ทันสมัย ในขณะที่ค่าบริการในการรับจ้างผลิต และค่าแรงงานของไทยถูกกว่าประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ฮ่องกง สิงค์โปร์ นอกจากนี้ ผลงานของคนไทยยังมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากอุตสาหกรรมบันเทิงไทยมีการแข่งขันสูงระหว่างผู้ประกอบการในประเทศด้วยกันเอง ส่งผลให้ผู้ประกอบการตื่นตัวและมีการพัฒนาต่อเนื่อง

                ด้าน นายปราโมทย์ โชคศิริกุลชัย นายกสมาคมอุตสาหกรรมบันเทิงไทย กล่าวว่า เป้าหมายการจัดงานในปีนี้ คือ ความต้องการสร้างให้ประเทศไทย เข้าไปเป็นหนึ่งแผนที่โลกของการจัดงานอุตสาหกรรมบันเทิงให้ประสบความสำเร็จ และยังเป็นการผลักดันให้เกิดการผนึกกำลังกันระหว่างผู้ประกอบการธุรกิจ บันเทิงหลากหลายสาขา ทั้งในส่วนของภาพยนตร์ เพลง แอนิเมชั่น เพื่อสร้างศักยภาพในการนำเสนอผลงานให้กับต่างชาติได้เห็นว่าประเทศไทยมีความพร้อม และมีความสามารถในหลากหลายสาขาของอุตสาหกรรมบันเทิง

                นอกจากนี้ ยังต้องการผลักดันให้เกิดความร่วมกันระหว่างประเทศเอเชีย อาทิ มาเลเซีย ฮ่องกง อินโดนีเซีย เวียดนาม เพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำงาน และเกิดอำนาจต่อรองเทียบเท่ายุโรปและอเมริกา ในรูปแบบของ "ต้มยำเอเชีย" โดยไทยเองต้องพยายามสร้างงานให้มีความแข็งแกร่ง และมีศักยภาพที่เข้มข้น ในขณะเดียวกันเมื่อประเทศพันธมิตรอื่นๆ ของเราต้องการพัฒนาศักยภาพ ไทยก็พร้อมที่จะเข้าร่วมเพื่อผลักดันให้ผลงานบันเทิงของเอเชีย เป็นที่ยอมรับของตลาดโลกได้ ไม่แพ้เกาหลีใต้และญี่ปุ่น

                ขณะที่ นายลักษณ์ เตชะวันชัย นายกสมาคมแอนิเมชั่นและคอมพิวเตอร์กราฟฟิคแห่งประเทศไทย (TACGA) กล่าวว่า จากนโยบายของภาครัฐ ที่จะพัฒนาให้ไทยเป็น Creative Economy และการเติบโตของอุตสาหกรรมแอนิเมชั่นทั่วโลกที่ขยายตัวต่อเนื่อง การจัดงาน Thailand Entertainment Expo 2009 จึง ถือเป็นการจุดประกายให้เกิดการพัฒนางานในประเทศไทย และยังเป็นการเชิญชวนนักลงทุนชาวต่างชาติ ให้รู้จักประเทศไทยและได้เห็นผลงานของคนไทยมากขึ้น โดยเป้าหมายในเบื้องต้น คือ ต้องการให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในแผนที่โลก ของประเทศที่มีศักยภาพในการจัดงานด้านนี้

                สำหรับ การที่จะผลักดันให้ประเทศไทย อยู่ในแผนที่โลกของการจัดงานได้ เราต้องพัฒนางานของเราให้มีความเข้มแข็ง ขณะที่รัฐเอง ต้องพยายามผลักดันให้การจัดงานครั้งนี้ เกิดผลทางด้านธุรกิจ เกิดการซื้อขาย เกิดการเจรจาการค้า ไม่ใช่เพียงแค่การโชว์ผลงานเพียงอย่างเดียว

                ส่วนของสมาคม TACGA เอง จะพยายามผลักดันให้ตลาดแอนิเมชั่นไทยขยายตัวมากขึ้น จากปัจจุบันที่มีมูลค่าตลาดประมาณ 5-6 พันล้านบาท เติบโตเฉลี่ยปีละ 10% ขณะที่ผลงานของคนไทยได้รับการยอมรับจากต่างชาติอยู่แล้ว หากได้รับการส่งเสริมและผลักดันที่ดี จะทำให้ธุรกิจแอนิเมชั่นของไทยเติบโตต่อเนื่องได้ทุกปี

งานบันเทิงไทยฯ ชูไฮไลท์ “โรงหนัง 4D” กลุ่มผู้ผลิตแอนิเมชั่น เล็งรุกตลาดสร้างมูลค่าเพิ่ม


 
             มหกรรมอุตสาหกรรมบันเทิงไทย ครั้งที่2 เตรียมจุดกระแสหนังทะลุมิติ “โรงภาพยนตร์ 4D หรือโรงภาพยนตร์ 4 มิติ” ชูเป็นหนึ่งในสุดยอดไฮไลท์ภายในงาน ระหว่างวันที่ 16-20 ก.ย.52 นี้ ด้านผู้ผลิตหนังแอนิเมชั่นตื่นตัว เชื่อจะช่วยผลักดันอุตสาหกรรมแอนิเมชั่นของไทยก้าวไกลสู่ตลาดโลก และส่งผลให้มูลค่าตลาดเพิ่มมากขึ้น หลังจากปีที่ผ่านมามีมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท

          สำหรับความคืบหน้าในการเตรียมความพร้อมสำหรับการจัด “งานมหกรรมอุตสาหกรรมบันเทิงไทย ครั้งที่ 2 หรือ Thailand Entertainment Expo 2009” ซึ่งได้มีกำหนดจัดงานขึ้นในระหว่างวันที่ 16-20 กันยายน 2552 นี้ ณ ศูนย์จัดนิทรรศการและการประชุม รอยัล พารากอนฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยหนึ่งในไฮไลท์ที่น่าสนใจภายในงาน คือ “โรงภาพยนตร์ 4D” หรือ บันเทิงไทยทะลุมิติ เป็นการนำเสนอศักยภาพด้านการบันเทิงของไทย ที่ตื่นตาตื่นใจในรูปแบบของ Fantastic 4D Theater ภายใต้ 8 ผลงานสร้างสรรค์ คือ War Show, Fighting Show, Romance Show, Horrow Show, Television Show, Animation Show, Music Show และ Thailand : The Paradise for film โดยมีกำหนดจัดให้ในวันพุธที่ 16 ก.ย – วันศุกร์ที่ 18 ก.ย. จำนวน 5 รอบ เวลา 14.00 – 18.00 น. และวันเสาร์ที่ 19 – วันอาทิตย์ที่ 20 ก.ย. จำนวน 8 รอบ เวลา 11.00 – 18.00 น.

          ทั้งนี้ นายลักษณ์ เตชะวันชัย นายกสมาคมแอนิเมชั่นและคอมพิวเตอร์กราฟฟิคแห่งประเทศไทย หรือ TACGA ได้เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมในการเข้าร่วมงานมหกรรมอุตสาหกรรมบันเทิงไทย ครั้งที่ 2 ว่า ทางสมาคมฯ พร้อมแล้วที่จะโชว์ศักยภาพและฝีมือของคนไทยในการผลิตภาพยนตร์แอนิเมชั่น ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ทั่วไป ภาพยนตร์โฆษณา และเกม ซึ่งปัจจุบันถือผลงานและฝีมือคนไทยนั้นได้รับการยอมรับจากกลุ่มอุตสาหกรรมบันเทิงนานาชาติ ให้เป็น 1 ใน 5 ของผู้ผลิตงานคุณภาพของเอเชีย

          โดยหนึ่งในไฮไลท์ของงาน ที่จะนำโรงภาพยนตร์ 4 มิติ (4D) มาจัดแสดง และแอนิเมชั่นได้นำผลงานมาแสดงด้วยนั้น ตนมองว่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันและส่งเสริมให้กลุ่มภาพยนตร์แอนิเมชั่น ได้รับโอกาสขยายตัวและเติบโตมากยิ่งขึ้น เพราะโรงหนัง 4 มติ เป็นการเพิ่มอรรถรสของการดูหนัง 3 มิติ ซึ่งที่นั่งชมภาพยนตร์ จะต้องมีการควบคุมด้วยระบบเครื่องกล (Mechanic) ที่จะทำให้เก้าอี้มีการเคลื่อนไหว รวมทั้งภายในโรงจะต้องมีการสร้างเอฟเฟกต์ต่างๆ เช่น กลิ่น ไอน้ำ ฯลฯ และทั้งหมดนี้ต้องใช้เงินลงทุนเป็นจำนวนมาก ซึ่งในอนาคตหากบ้านเรามีการลงทุนโรงหนังประเภทนี้ และมีการบริหารจัดการที่ดี เชื่อว่าจะได้รับความนิยมเช่นกัน สุดท้ายจะส่งผลต่อภาพรวมของอุตสาหกรรมแอนิเมชั่นของไทยให้เติบโต เพราะนอกจากจะผลิตเพื่อป้อนตลาดในประเทศแล้วยังเป็นสินค้าส่งออก สร้างเม็ดเงินเข้าประเทศได้อีกด้วย

          “ปัจจุบันการผลิตภาพแอนิเมชั่นของไทยมีแนวโน้มที่ดีมาก โดยในปีที่ผ่านมามีมูลค่าตลาดรวมกว่า 5,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีก่อน 12 เปอร์เซ็นต์ โดยแบ่งเป็นเกม 10 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ คาดว่าในปีนี้จะมีอัตราการเติบโตใกล้เคียงกัน ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ภาครัฐให้การส่งเสริมอุตสาหกรรม Creative Economy ที่พัฒนาบุคลากรทางด้านสร้างสรรค์งานแอนนิเมชั่นและกราฟิก ทำให้มีสถาบันการศึกษาเปิดสอนสาขาด้านแอนิเมชั่นและกราฟฟิคกว่า 20 สถาบัน และมีผู้จบการศึกษาทางด้านนี้ปีละกว่า 2,000 คน”

          อย่างไรก็ตาม สำหรับการจัดงานมหกรรมอุตสาหกรรมบันเทิงไทย ครั้งที่ 2 นี้ สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติหรือซิปป้า และกรมส่งเสริมการส่งออก มีวัตถุประสงค์ต้องการผลักดันให้อุตสาหกรรมบันเทิงไทยก้าวไกลสู่ระดับนานาชาติ พร้อมทั้งสร้างเศรษฐกิจ สร้างรายได้เข้าสู่ประเทศ ซึ่งในส่วนของสมาคมฯ เองก็ได้จัดพื้นที่แสดงจำนวน 10 บูธ โดยจะตกแต่งเป็นสไตล์แกลลอรี่ และถือว่างานนี้จะเป็นเวทีที่ทำให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมบันเทิงของไทยและต่างชาติมาพบกัน และจะสร้างมูลค่าภาพยนตร์แอนิเมชั่นของไทยให้เพิ่มมากขึ้น

สสปน.หนุนบันเทิงไทยฯ เป็นฮับแห่งเอเชีย เดินสายโรดโชว์ อวดศักยภาพฝีมือคนไทย


 
             สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. ผนึกกำลัง กรมส่งเสริมการส่งออก เร่งเครื่องโรดโชว์บันเทิงไทยฯ อวดศักยภาพรุกตลาดเอเชีย คาดหวังเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมบันเทิงของภูมิภาคในอนาคต ตอกย้ำความสำเร็จงานบันเทิงไทยฯ ครั้งที่ 2 จะช่วยกระตุ้นเม็ดเงินการลงทุนจากต่างชาติ พร้อมสร้างเครือข่ายธุรกิจบันเทิงระหว่างประเทศเติบโตต่อเนื่อง 

          นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายการแสดงสินค้านานาชาติ และรักษาการผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. กล่าวว่า ปีนี้ถือเป็นปีแรกที่ทาง สสปน. ได้เข้ามามีส่วนสนับสนุน “งานมหกรรมอุตสาหกรรมบันเทิงไทย ครั้งที่ 2 หรือ Thailand Entertainment Expo 2009” ภายหลังจากการลงนาม MOU ระหว่างกรมส่งเสริมการส่งออก และสสปน.เองก็ได้สนับสนุนงาน Trade fair ของกรมฯ ผ่านกิจกรรมทางการตลาดผ่านทาง Marketing Representatives ของ สสปน. ในประเทศกลุ่มอาเซียน ได้แก่ จีน อินเดีย สิงคโปร์ และเวียดนาม ได้ทำการประชาสัมพันธ์ผ่านตัวแทนทางการตลาดเหล่านี้ พร้อมทั้งได้จัดกิจกรรมโรดโชว์ครอบคลุมเมืองหลักๆในจีน อินเดีย และเวียดนาม ระหว่างเดือนกรกฎาคม ถึงสิงหาคม 2552 นี้ เพื่อนำผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้า สร้างเครือข่ายกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการดึงนักธุรกิจ และนักลงทุนจากต่างชาติมาเข้าร่วมงาน

          สำหรับงานมหกรรมอุตสาหกรรมบันเทิงไทย ได้เริ่มจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปีที่ผ่านมา และจากข้อมูล ของทางกรมส่งเสริมการส่งออก  มีผู้เข้าร่วมงานจำนวน 74 บริษัท 147 คูหา และมีผู้เข้าชมงานทั้งสิ้นกว่า 16,000 คน มีเงินหมุนเวียนจากการสั่งซื้อในงานประมาณ 12 ล้านเดอลล่าสหรัฐ และมีมูลค่าการซื้อ-ขายใน 1 ปี ประมาณ 79 ล้านดอลล่าสหรัฐ โดยคาดว่าปีนี้จะเป็นอีกหนึ่งปีที่อุตสาหกรรมบันเทิงของไทย จะสามารถขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนได้ เป็นการแสดงศักยภาพทั้งผู้ผลิตและผู้สร้างจากต่างประเทศที่เข้ามาร่วมงานได้เห็น เชื่อว่างานดังกล่าวฯ จะก่อให้เกิดการร่วมลงทุนและสร้างเครือข่ายระหว่างประเทศทางธุรกิจบันเทิง รวมถึงความร่วมมือการพัฒนาด้านเทคโนโลยีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมากยิ่งขึ้น

          “ตามคาดการณ์ของกรมส่งเสริมการส่งออกในปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมแสดงสินค้าจากไทยประมาณ 70-80 บริษัท จำนวน 130 คูหา และผู้ประกอบการจากต่างประเทศประมาณ 10-15 บริษัท จำนวน 20 คูหา ในฐานะหน่วยงานภาครัฐที่มีพันธกิจหลักในการส่งเสริม และสนับสนุน อุตสาหกรรมการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติของไทย สสปน. อยากกระตุ้นให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในวงการอุตสาหกรรมบันเทิงไทย ให้ความสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อการจัดงานในครั้งนี้ เพื่อผลักดันงานสู่ความสำเร็จอย่างที่ได้ตั้งเป้าไว้”

          นางศุภวรรณ ยังได้กล่าวอีกว่า ในฐานะที่ สสปน. ผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการของงานมหกรรมอุตสาหกรรมบันเทิงไทย ครั้งที่ 2  คาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่างานในครั้งนี้จะมีส่วนช่วยประชาสัมพันธ์ศักยภาพของอุตสาหกรรมบันเทิงไทย ในการเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมบันเทิงในเอเชีย รวมทั้งยังเป็นการส่งเสริม สนับสนุนและกระตุ้นให้ผู้ซื้อ ผู้ลงทุนจากนานาชาติเกิดความสนใจในธุรกิจบันเทิงของประเทศไทยให้มากยิ่งขึ้น ทั้งงาน ภาพยนตร์ โทรทัศน์ วิทยุ งานโฆษณา มัลติมีเดีย และการ์ตูนแอนิเมชั่น พร้อมทั้งผลักดันให้เกิดการซื้อขายลิขสิทธิ์ต่างๆ ขยายไปยังตลาดต่างประเทศ รวมทั้งการสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นแหล่งถ่ายทำภาพยนตร์ระดับโลกอีกด้วย

“กรมส่งเสริมการส่งออก” ร่วมกับ “KOFICE” ดึงสุดยอดศิลปินไทย – เกาหลีวัยจี๊ด







          “กอล์ฟ – ไมค์ , ไอซ์ , น้ำชา , ชายน์นี่ , คาร่า , ไรอัน พารัน”
          โชว์ฟรีคอนเสิร์ต ผสานความสัมพันธ์ไทย – เกาหลี ! ! !
          ในงาน “มหกรรมอุตสาหกรรมบันเทิงไทย 2552”

          “กรมส่งเสริมการส่งออก (DEP) กระทรวงพาณิชย์”  เดินเครื่องลุยกิจกรรมสุดยิ่งใหญ่ประจำปี กับ “งานมหกรรมอุตสาหกรรมบันเทิงไทย ประจำปี 2552 (Thailand Entertainment Expo 2009)”  ซึ่งจะจัดขึ้น ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ในวันที่ 16 – 17 กันยายนที่จะถึงนี้   โดยกิจกรรมดังกล่าว...เป็นกิจกรรมที่ได้มีการจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี  ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการก่อให้เกิดรายได้เข้าประเทศ โดยเกิดการขยายตลาดส่งออกอุตสาหกรรมบันเทิงไทยไปต่างประเทศได้กว้างมากขึ้น  ทำให้เกิดการกระตุ้นให้มีการซื้อ – ขาย  การลงทุนในอุตสาหกรรมบันเทิงไทยเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก

          โดยภายในงาน นอกจากจะมีการจัดบูธนิทรรศการจากค่ายหนัง ค่ายเพลง ค่ายละคร และบริษัทในวงการบันเทิงไทยต่าง ๆ มากมายดั่งเช่นทุกปีแล้ว  ในปีนี้จะมีความพิเศษมากกว่าทุกปี เพราะ “กรมส่งเสริมการส่งออก (DEP) กระทรวงพาณิชย์” ได้ร่วมมือกับ “มูลนิธิเพื่อการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างประเทศของเกาหลี (KOFICE)”  นำสุดยอดบรรดาศิลปินวัยรุ่นทั้งไทย และเกาหลีใต้ ร่วมโชว์ฟรีคอนเสิร์ต ภายใต้ชื่อว่า “คอนเสิร์ตความสัมพันธ์ไทย – เกาหลี (Thai – Korea’s Friends Concert)” ไม่ว่าจะเป็นศิลปินไทยวัยมันอย่าง กอล์ฟ ไมค์ , ไอซ์ ศรันยู และน้ำชา   พร้อมทั้งศิลปินทางฝั่งแดนโสม อาทิ  วงชายน์นี่ (SHINee) , วงคาร่า (Kara ศิลปินเกิร์ล แบนด์ชื่อดังของเกาหลีใต้) , Jaeng-E Traditional Percussion Performance Team (กลุ่มโชว์กลองวัฒนธรรมโดยศิลปินหญิง 9 คน) และหนุ่มไรอัน (Ryan) จากวงพารัน (Paran) ที่วันนี้ขอพกความมั่นใจฉายเดี่ยวเป็นครั้งแรก ! ! !  เพื่อผสานความสัมพันธ์ระหว่างไทย และเกาหลีใต้ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น   โดยกิจกรรมคอนเสิร์ตจะจัดขึ้น ณ พาร์ค  พารากอน (Parc Paragon) ในวันพฤหัสบดี ที่ 17 กันยายน ที่จะถึงนี้ ตั้งแต่เวลา 1 ทุ่มเป็นต้นไป...

          โดยทั้งนี้...วัยโจ๋ วัยมัน วัยจี๊ดทั้งหลาย ที่สนใจเข้าร่วมชมคอนเสิร์ตในครั้งนี้ สามารถร่วมรับบัตรแบบฟรี ๆ ได้ โดยการไปเล่นเกมเพื่อรับบัตรที่บูธของสมาคมอุตสาหกรรมบันเทิงไทย และบูธของสมาคมอุตสาหกรรมเพลงไทย ภายในงานมหกรรมอุตสาหกรรมบันเทิงไทย (Thailand Entertainment Expo 2009)  ในวันที่ 16 – 17 กันยายนนี้ ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน   หรือสามารถร่วมเล่นเกมเพื่อชิงบัตรเข้างานได้ตามสื่อชั้นนำต่าง ๆ ของประเทศ..

Department of Export Promotion tags team with Thai Entertainment Industry debut “Thailand Entertainment Expo 2009”, the greatest platform ever for global Entertainment Industry
 
             Department of Export Promotion, Ministry of Commerce has cooperated with Thai public and private entertainment business, including Thai Entertainment Industry Association, Thai Film Director Association, Thai Film Industry Association, The Federation of National Films Association of Thailand, and Thai Animation and Computer Graphics Association (TACGA) to launch “Thailand Entertainment Expo 2009”.

          The expo takes aim at driving and promoting Thailand entertainment business as a hub in Southeast Asia and to stimulate foreign investment between Thailand and other countries particularly in entertainment sectors including film, television shows, animation and related businesses and services. Thanks to the comprehensive resources in Thailand and facilities for specialists, shooting locations, recording studios and etc. Thailand has been step up into international entertainment scenes already.
“Thailand Entertainment Expo 2009” commencing on 16 –20 September 2009 at The Royal Paragon Hall, Siam Paragon Complex, Bangkok, 16-17 September 2009 for Trade day, and 18-20 September 2009 for Public.

High-Lights : Thailand Entertainment Expo 2009
· Business to Business trade (B2B): focus on Japan, Korea, Taiwan
· “4D Theatre” represents interesting capacity of Thai entertainment industry in fantastic 4D underneath eight shows, which are War Show, Fighting Show, Romance Show, Horror Show, Television Show, Animation Show, Music Show, and Thailand: The Paradise for film. All will be on 16-18 September 2009 between 02.00p.m.-06.00p.m., and on 19 September 2009 at 11.00a.m.-06.00p.m.
· “Film Financing Forum” for Entertainment Industry to present source of film production” by SMEs Bank and Islamic Bank
· “The Color of Thai Music” : The forum to present Thai Music and its capability to compete in the world markets
· “Behind the scene; from the world Software Animation competitions” by SIPA: what’s behind and inspiration of the winner of the World Software Animation competitions
· The special talk show: “Thai Music to the World Markets”
· “Film Education; Young route for young blood on the Entertainment industry”
· “Cover Dance contest”
· The greatest concert from Paradox, Playground, 7 Days and Nice to meet you

Thailand Entertainment Expo 2009 Seminar
· “New Media, new Channel” By Ogilvy and Leo Bernard

“มหกรรมบันเทิงไทย 52”  เริ่มแล้วสุดอลังการ !!!  คนบันเทิงไทย-เทศ แห่ร่วมงานคึกคัก, กระหึ่ม 16-20 ก.ย. นี้ ณ สยามพารากอน

“กรมส่งเสริมการส่งออก”   ผนึกกลุ่มธุรกิจบันเทิงไทยจัดงาน  “ มหกรรมอุตสาหกรรมบันเทิงไทย  2552 หรือ Thailand Entertainment Expo 2009 ” ร่วมอวดศักยภาพผลงานของคนวงการบันเทิง และผลักดันอุตสาหกรรมบันเทิงไทยรุกสู่ตลาดต่างประเทศมากขึ้น พบกับกิจกรรมอันหลากหลาย  และการรวมตัวครั้งสำคัญกลุ่มอุตสาหกรรมบันเทิงทุกสาขา  เช่น  ภาพยนตร์ ,เพลง, แอนนิเมชั่น ฯลฯ  พร้อมด้วยคอนเสริ์ตจากศิลปินชื่อดังทั้งในและต่างประเทศ  ระหว่างวันที่ 16-20 ก.ย.นี้ ณ สยามพารากอน

          นายประมุข มนตริวัต ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมธุรกิจบริการการส่งออก กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการจัด “งานมหกรรมอุตสาหกรรมบันเทิงไทย 2552  หรือ Thailand Entertainment Expo2009”  ถือเป็นครั้ง 2 ซึ่งจากความสำเร็จครั้งที่ผ่านมา ที่มีผู้เข้าร่วมงาน 74 บริษัท มีเงินหมุนเวียนจากการสั่งซื้อในงานประมาณ 12 ล้านเดอลล่าสหรัฐ และมีมูลค่าการซื้อ-ขายใน 1 ปี ประมาณ 79 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งปีนี้เราพยายามให้มีการซื้อขายสินค้าให้มากขึ้น โดยมีจำนวนผู้ร่วมออกบูธประมาณ 125 บริษัท

สำหรับ การจัดงานมหกรรมอุตสาหกรรมบันเทิงไทย ครั้งที่ 2 นี้ มีกำหนดจัดงานขึ้นในระหว่างวันที่ 16-20 กันยายน 2552 ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. ณ พารากอน ฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน เพื่อประชาสัมพันธ์ศักยภาพผลงานการผลิตของอุตสาหกรรมบันเทิงไทยให้ประจักษ์ในเวทีระดับสากล และผลักดันให้เมืองไทยได้เป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมบันเทิงในเอเชีย รวมทั้งกระตุ้นการค้า การลงทุน โดยดึงนักลงทุนจากต่างประเทศที่สนใจเปิดเป็นเวทีการซื้อขายลิขสิทธ์ ตลอดจนผลักดันให้เมืองไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ระดับโลก เพื่องานบันเทิงในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น ภาพยนตร์  โทรทัศน์  วิทยุ งานโฆษณา มัลติมีเดีย การ์ตูนแอนิเมชั่น ฯลฯ 

“ประเทศไทยถือว่าเป็นตลาดที่สำคัญแห่งหนึ่งในภูมิภาคอาเซียน โดยมีจุดแข็ง คือ มีบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ มีประสบการณ์และความคิดสร้างสรรค์ และยังมีความเป็นศิลปินอยู่ในตัว มีอุปกรณ์และเครื่องมือในการถ่ายทำที่ทันสมัย ในขณะที่ค่าบริการในการรับจ้างผลิตและค่าแรงงานของไทยถูกกว่าประเทศเพื่อนบ้านมาก ดังนั้นโอกาสที่ธุรกิจบันเทิงของไทยจะเติบโตจึงมีอีกมาก” นายประมุข กล่าว

อย่างไรก็ตาม  ภายในงานนอกจากจะมีการจัดบูธนิทรรศการจากค่ายหนัง  ค่ายเพลง  ค่ายละคร
แล้ว  ในปีนี้ “กรมส่งเสริมการส่งออก” ยังได้ร่วมมือกับ “มูลนิธิเพื่อการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างประเทศของเกาหลี (KOFICE)”  นำสุดยอดบรรดาศิลปินวัยรุ่นทั้งไทย และเกาหลีใต้ ร่วมโชว์ฟรีคอนเสิร์ต โดยมีศิลปินไทย กอล์ฟ ไมค์ , ไอซ์ ศรันยู และน้ำชา   พร้อมด้วยโชว์ศิลปินจากเกาหลี อาทิ  วงชายน์นี่ (SHINee) , วงคารา (Kara ศิลปินเกิร์ล แบนด์ชื่อดังของเกาหลีใต้) , Jaeng-E Traditional Percussion Performance Team (กลุ่มโชว์กลองวัฒนธรรมโดยศิลปินหญิง 9 คน) และหนุ่มไรอัน (Ryan) จากวงพารัน (Paran) โดยกิจกรรมคอนเสิร์ตจะจัดขึ้นในวันพฤหัสบดี ที่ 17 ก.ย.นี้ ณ พาร์ค  พารากอน (Parc Paragon)   

นอกจากนี้ ยังมี “โรงภาพยนตร์ 4D” หรือ บันเทิงไทยทะลุมิติ เป็นการนำเสนอศักยภาพด้านการบันเทิงของไทย ที่ตื่นตาตื่นใจในรูปแบบของ Fantastic 4D Theater จัดให้ชมในวันที่ 17–18 ก.ย.52 เวลา 14.00–18.00 น.และวันที่ 19 – 20 ก.ย. 52 เวลา 11.00–18.00 น.  และการจัดสัมมนาหลากหลายหัวข้อ อาทิ TV Thai In Asian โดย Workpoint Entertainment  , Software Animation โดย SIPA , Flim Finance สานฝันคนบันเทิง (SME Bank, ธนาคารอิสลาม)     และการแข่งขันเต้น Cover Dance Contest
พร้อมชมคอนเสริ์ตจากวง  Play Ground   วันที่ 18 ก.ย.52  / เวลา 18.00 - 20.00 น. Paradox, Abuse The Youth, Midnight, Pianismo วันที่ 19 ก.ย. 52  เวลา 18.00 - 20.00 น และ 7 Days & Nice 2 You วันที่ 20 ก.ย. / เวลา 18.00 - 20.00 น

   ด้าน นายปราโมทย์ โชคศิริกุลชัย นายกสมาคมอุตสาหกรรมบันเทิงไทย ตอกย้ำถึงการจัดงานในครั้งนี้ว่า เป็นการโชว์ศักยภาพของกลุ่มธุรกิจบันเทิงของไทย ปัจจุบันการผลิตสื่อบันเทิงของไทยได้รับการยอมรับมากขึ้น โดยเฉพาะงานโฆษณาที่อยู่ใน 3 ลำดับแรกของโลก ดังนั้นการจัดงานครั้งนี้ ทางสมาคมฯ จึงพยายามดึงคนให้เข้ามาร่วมงานให้มากที่สุด โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจบันเทิงในเอเชีย ที่จะต้องมีการผนึกกำลังกัน เพื่อสร้างมูลค่าตลาดให้แข็งแกร่งมากขึ้นซึ่งในการจัดงานครั้งนี้ มีเป้าหมาย คือ การสร้าง Image หรือภาพลักษณ์ของอุตสาหกรรมบันเทิงไทยที่จะได้กลับมาอย่างมหาศาล

“ในปีนี้เราได้เชิญผู้ผลิตจากเกาหลีมาร่วมออกงานด้วย เพื่อสามารถแข่งขันกับยุโรปหรืออเมริกาได้ เพราะลำพังเพียงไทยหรือญี่ปุ่นหรือเกาหลีจัดเอง ก็จะเป็นงานเล็กๆ ผู้ผลิตทั่วโลกไม่ค่อยสนใจ แต่เมื่อเอเชียรวมกัน ก็จะทำให้ตลาดมีขนาดใหญ่และมีสินค้าหลากหลายมากขึ้น สำหรับความเป็นไปได้ที่ไทยจะเป็นศูนย์กลางบันเทิงเอเชียนั้นเราคงต้องใช้ระยะเวลา เพราะตลาดภายในประเทศยังมีขนาดเล็ก ดังนั้นการรวมกลุ่มของเอเชียน่าจะเป็นสูตรสำเร็จหนึ่ง ที่มีความเป็นไปได้ที่จะทำให้อุตสาหกรรมบันเทิงไทยแข็งแกร่งขึ้นในที่สุด” นายปราโมทย์ กล่าว

    ขณะที่ นายจาฤก กัลย์จาฤก นายกสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ กล่าวเสริมว่าตนเชื่อมั่นว่าการจัดงานครั้งนี้ จะเป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้ทั่วโลกรู้จักไทย เพราะไทยมีความพร้อมหลายด้าน ทั้งในแง่ของบุคลากรและนวัตกรรมการผลิตและเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่า มาตรฐานการผลิตของไทยอยู่ในระดับมาตรฐานฮอลลีวู้ดเลยทีเดียว ขอเพียงให้ภาครัฐเข้ามาสนับสนุนให้เป็นรูปธรรม เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ เช่น เกาหลี,มาเลเซีย หรือสิงคโปร์ เป็นต้น

“เราเห็นด้วยอย่างยิ่งกับเจตนาในการจัดงาน ที่จะผลักดันอุตสาหกรรมบันเทิงไทยก้าวไปสู่ระดับนานาชาติเพื่อพัฒนาให้เป็น “ฮับ” ของเอเชีย แต่อยากให้ภาครัฐมองภาพรวมและทำความเข้าใจกับอุตสาหกรรมด้านนี้อย่างลึกซึ้ง เพราะมีความเป็นเอกเทศ ด้วยการรับฟังความคิดเห็นของผู้ประกอบการในแนวทางและวิธีการจัดงานให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ รวมทั้งผลักดันให้รัฐบาลบรรจุอุตสาหกรรมด้านนี้ให้อยู่ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติทั้งแผน 10 และแผน 11 ตลอดจนผลักดันการแก้ไขกฎหมายด้านการละเมิดลิขสิทธิ์ และการจัดตั้งองค์กรมหาชน เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ตาม พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ปี 2551 ด้วย”

นอกจากนี้นายจาฤก ยังได้กล่าวถึงภาพรวมของของตลาดภาพยนตร์ในปัจจุบัน ว่า มีอัตราการเติบโตอยู่ในระดับ 5-10% โดยในปี 2550 มีภาพยนตร์ไทยออกฉาย 47 เรื่อง ในปี 2551 จำนวน 50 เรื่อง และในปี 2552 มีภาพยนตร์สร้างออกฉาย (Line Up) จำนวน 55 เรื่อง ทั้งๆ ที่ต้องเผชิญกับปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์อย่างหนัก หากรัฐบาลสามารถขจัดปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ได้ อุตสาหกรรมภาพยนตร์จะเติบโตได้เป็นเท่าตัว หรือ 100% รวมทั้งสร้างรายได้ให้กับประเทศได้นับแสนล้านบาทต่อปี

สมาคมแอนิเมชั่นไทยร่วมดัน Creative Economy แท็กทีมร่วมงาน Thailand Entertainment Expo 2009
 
   

          หลังจากรัฐบาลมีนโยบายบรรจุแนวความคิดเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ “ไทยสร้างสรรค์ ไทยเข้มแข็ง” ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  “Creative Economy” จึงกลายเป็นเรื่องสำคัญที่กำหนดทิศทางเศรษฐกิจของประเทศไทย และแอนิเมชั่น ก็เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลัก ที่จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจ รัฐจึงให้การสนับสนุนอย่างดี ผ่านทางสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์กรมหาชน) หรือ ซิป้า และ กรมส่งเสริมการส่งออก

          สมาคมผู้ประกอบการแอนิเมชั่นและคอมพิวเตอร์กราฟิกส์ไทย (TACGA) จึงเดินเครื่องแท็กทีมกับอีกหลายสมาคมในอุตสาหกรรมบันเทิงไทย อวดศักยภาพในงาน Thailand Entertainment Expo 2009 ที่จัดขึ้นช่วงวันที่ 16-20 กันยายน 2552 ณ พารากอนฮอล ชั้น 5 สยามพารากอน 

          Thailand Entertainment Expo 2009 ครั้งนี้ จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 แล้ว โดยวันที่ 16-17 กันยายน เป็นวันเจรจาธุรกิจ และวันที่ 18-20 กันยายน จะเปิดให้ผู้สนใจทั่วไปเข้าชม ภายใน 2 วันแรก พบว่า นักลงทุนจากต่างประเทศ ให้ความสนใจผลงานแอนิเมชั่นฝีมือคนไทยเป็นอย่างมาก ผู้ประกอบการไทย ต่างขนเอาผลงานมาโชว์ และเปิดเจรจาธุรกิจซื้อขายคอนเทนท์กับนักลงทุนต่างประเทศ



          เริ่มจาก IMD IMAGINE DESIGN เจ้าของผลงาน ”ป่วนตำนานนิทานอีสป”  การ์ตูนซีรีส์ที่โด่งดังจากช่อง 7  IMAGIMAX ที่ขนเอาเทคโนโลยีแอนิเมชั่น 4 มิติ มาโชว์ในงาน  Homerun Entertainment เจ้าของผลงาน “4 Angies สี่สาวแสนซน” และ “Doggadoop” ที่โด่งดังจากช่อง 3 และออกฉายไปแล้วหลายประเทศทั่วโลก  2-Spot Communication เจ้าของคาแรคเตอร์ขวัญใจวัยรุ่นอย่าง Bloody Bunny ที่ขายลิขสิทธิ์ไปแล้วทั่วโลก TIGA กับผลงานล่าสุด Coco Rabbit ที่จะออกฉายทางโทรทัศน์เร็วๆ นี้  55 Gift กับหลากหลายสินค้าเครื่องเขียนอิงคาแรคเตอร์ Teapot สตูดิโอน้องใหม่ที่มีผลงานระดับอินเตอร์ และอีกหลายบริษัทที่มาร่วมออกบู้ธ และเจรจาธุรกิจกันอย่างคึกคัก

          นายลักษมณ์ เตชะวันชัย นายกสมาคมผู้ประกอบการแอนิเมชั่นและคอมพิวเตอร์กราฟิกส์ไทย กล่าวย้ำถึงความสำคัญ ที่รัฐจะต้องให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมแอนิเมชั่นไทย ไว้อย่างน่าสนใจว่า “พวกเรารู้สึกตื่นเต้นมากที่รัฐบาลประกาศส่งเสริมเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ อย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม จะเห็นได้ว่าอุตสาหกรรมนี้ในโลกและแม้แต่ในประเทศก็ยังมีการเติบโตอยู่ ถึงแม้เศรษฐกิจโดยทั่วไปจะอยู่ในสภาวะถดถอยก็ตาม ทำให้แสดงถึงการเดินมาในทิศทางที่ถูกของการนำเอาความสร้างสรรค์มาสร้างรายได้เข้าประเทศ และแอนิเมชั่นซึ่งใช้จินตนาการและความสร้างสรรค์ล้วนๆ โดยใช้ทรัพยากรมนุษย์เป็นส่วนผสมหลักจะเป็นพลังที่สำคัญในการสร้างรายได้เข้าประเทศต่อไปอย่างแน่นอน   นอกจากนี้ ทางสมาคมฯ ซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างดียิ่งจากสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟท์แวร์แห่งชาติ ยังได้ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงาน Bangkok International Animation Film Festival (BKKIAF2009) ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 ถึง 30 กันยายน 2552 ก็จะแสดงศักยภาพในการเป็นเวทีโชว์ผลงานแอนิเมชั่นสากลระดับโลกอีกด้วย”

          และนี่คือตัวอย่างของสมาคมผู้ประกอบการไทย ที่เข้มแข็ง และพร้อมทำงานร่วมกับหน่วยงานรัฐบาล ภายใต้ระบบเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ ในการสร้างอุตสาหกรรมแอนิเมชั่นไทย ให้สยายปีกทัดเทียมนานาชาติและได้รับการยอมรับจากตลาดทั่วโลก เพื่อให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ในภูมิภาคเอเชียและระดับโลกต่อไป
 
          สอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมที่ คุณดิว บริษัท โฮมรัน เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด 0-2651-1288-90
          สมาคมผู้ประกอบการแอนิเมชั่นและคอมพิวเตอร์กราฟิกส์ไทย (TACGA)