เซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น
“เซ็นทรัลรีเทล” ผู้นำธุรกิจค้าปลีกและห้างสรรพสินค้าชั้นนำอันดับหนึ่งของไทย สร้างประวัติศาสตร์วงการธุรกิจค้าปลีกครั้งยิ่งใหญ่ ขยายฐานธุรกิจการค้าสู่ตลาดยุโรป ลงนามเซ็นสัญญาในข้อตกลงการเข้าซื้อกิจการทั้งหมด กับกลุ่มผู้ถือหุ้นของห้างสรรพสินค้าสุดหรูชื่อดังอันดับ 1 ของอิตาลี “ลา รีนาเชนเต”
นายทศ จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า “บริษัทฯ ได้ลงนามเซ็นสัญญากับกลุ่มผู้ถือหุ้นของ บริษัท ลา รีนาเชนเต จำกัด ที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี เพื่อเข้าซื้อกิจการทั้งหมดของห้างสรรพสินค้าลา รีนาเชนเต (“รีนาเชนเต”) ซึ่งมีมูลค่ารวมทั้งสิ้นกว่า 10,000 ล้านบาท หรือประมาณ 260 ล้านยูโร เป็นที่เรียบร้อยแล้ว”
เซ็นทรัลรีเทล เผยความแกร่งในการขับเคลื่อน ขยายการลงทุนและฐานธุรกิจในยุโรป ศูนย์กลางแฟชั่นชั้นนำของโลก สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้งให้วงการค้าปลีกและประเทศไทย การซื้อกิจการห้างสรรพสินค้า ลา รีนาเชนเต ในประเทศอิตาลีครั้งนี้ ทำให้บริษัทฯ ก้าวสู่ความเป็นผู้นำธุรกิจห้างสรรพสินค้าระดับโลกอย่างแท้จริง โดยขยายแบรนด์ห้างสรรพสินค้าในกลุ่มเซ็นทรัลรีเทล จากเดิม 3แบรนด์ เป็นทั้งหมด 4 แบรนด์ คือ เซ็นทรัล เซน โรบินสัน และ ลา รีนาเชนเต เพิ่มความแข็งแกร่งให้ธุรกิจทั้งในประเทศไทย และประเทศจีน
“รีนาเชนเต” เป็นห้างสุดหรูอันดับหนึ่งของประเทศอิตาลี เป็นที่รู้จักดีสำหรับนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ เนื่องจาก รีนาเชนเต สาขาแฟลกชิปสโตร์ ตั้งอยู่ข้างวิหารดูโอโม สถานที่ท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของมิลาน หลังการเข้าลงทุน เรามีแผนพัฒนาส่งเสริมให้ รีนาเชนเต เป็นแบรนด์ที่รู้จักในฐานะ “เวิลด์คลาส ไลฟ์สไตล์ แบรนด์” (World Class Lifestyle Brand) และแผนการขยายสาขาขนาดใหญ่ (flagship store) ในอิตาลีเพิ่มอีกในเมืองท่องเที่ยวต่างๆ เช่น โรม เวนิส ฟลอเรนซ์ และ เมืองสำคัญอื่นๆ เช่น นาโปลี และ โบโลญญา รวมไปถึงประเทศเพื่อนบ้านอื่นในยุโรป และ เมืองสำคัญหลักๆ ของโลก โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา รีนาเชนเต มีความสัมพันธ์อันดีกับแบรนด์สินค้าแฟชั่นและดีไซน์ ทั้งของอิตาลีและนานาชาติ เราจึงมองว่าความสัมพันธ์ที่ดีเหล่านี้ จะเป็นประโยชน์ในการขยายตลาดใหม่ๆรวมถึงการเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายสินค้า จากอิตาลีทั้งภายในและนอกประเทศ
ด้วยประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญของเซ็นทรัลรีเทล รวมถึงตระกูลจิราธิวัฒน์ ในธุรกิจค้าปลีก โดยเฉพาะห้างสรรพสินค้า ที่สั่งสมมากว่า 60 ปี จะช่วยสนับสนุนการบริหารงานของคณะผู้บริหาร รีนาเชนเต ในปัจจุบัน อีกทั้งช่วยส่งเสริมให้สินค้าคุณภาพและแบรนด์ชั้นนำของอิตาลี มีโอกาสในการขยายตลาดทางการค้าใหม่ๆ ที่มีศักยภาพและมีอัตราการเติบโตที่สูงเพิ่มมากขึ้น
“รีนาเชนเต” เป็นห้างสรรพสินค้าสุดหรูชื่อดังอันดับ1 ของอิตาลี และเป็นห้างที่ดีที่สุดห้างหนึ่งในทวีปยุโรป เปิดกิจการมานานกว่า 150 ปี มีสาขารวมทั้งสิ้น 11 สาขา ตั้งอยู่ตามเมืองสำคัญใหญ่ๆ ทั่วประเทศของอิตาลี ได้แก่ มิลาน (Milan) มอนซา (Monza) แพดัว (Padova) ตูริน (Torino) เจนัว (Genova) ฟลอเรนซ์ (Firenze) กาลยารี (Caglari) ปาแลร์โม (Palermo) คาตาเนีย (Catania) และ โรม (Rome) 2 สาขา จำหน่ายสินค้าแบรนด์ดังหลากหลายประเภท ทั้งสินค้าผู้ชาย เด็กและสตรี เครื่องประดับสุดหรู เครื่องสำอาง ชุดชั้นใน สินค้าภายในบ้าน และตกแต่งภายใน เป็นต้น สำหรับแฟลกชิปสโตร์ อยู่ในเมืองมิลาน เป็นเมืองแห่งแฟชั่น (Fashion Capital City) ของโลก และยังเป็นแหล่งช็อปปิ้งหลักของทวีปยุโรป สาขานี้พรั่งพร้อมไปด้วยสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำระดับโลกมากมาย อาทิ Louis Vuitton , Christian Dior, Fendi, Gucci, Bottega Veneta, Balenciaga, Valentino, Dolce & Gabbana, Armani, Zegna, Chloe, Miu Miu, Marc Jacobs เป็นต้น อีกทั้งยังสร้างสรรค์ “Design Supermarket” แผนกที่คัดสรรสินค้าดีไซน์เก๋แปลกใหม่ หลากหลาย การจัดวางสินค้าถูกออกแบบในลักษณะ Shop in Shop แบ่งหมวดหมู่อย่างชัดเจน สร้างความความโดดเด่นให้กับสินค้าในรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร ลูกค้าที่เข้ามาใน Design Supermarket จะได้รับประสบการณ์ช็อปปิ้งที่แปลกใหม่ อย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน แผนกนี้จึงถือได้ว่าเป็นแผนกที่เป็นจุดดึงดูดของ รีนาเชนเต อีกจุดหนึ่ง
ในปี 53 ที่ผ่านมา รีนาเชนเต มียอดขายรวมทั้งสิ้น 350 ล้านยูโร (คิดเป็นมูลค่าประมาณ 15,000 ล้านบาท) ด้วยความโดดเด่นในการคัดสรรสินค้าและแบรนด์ชั้นนำ ประกอบกับการปรับรูปแบบและดีไซน์ของห้างฯ ให้ทันสมัย ทำให้ธุรกิจมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เนื่องมาจากการบริหารธุรกิจที่ดีเยี่ยมของคณะผู้บริหารที่มากด้วยความสามารถและประสบการณ์ ภายใต้การนำโดย นายวิททอริโอ ราดิเช (Vittorio Radice) Chief Executive Officer (CEO) ผู้มีชื่อเสียงและประสบการณ์ในวงการห้างสรรพสินค้าทั่วโลกมา
กว่า 20 ปี จากผลสำเร็จในการวางแผนกลยุทธ์ ปรับปรุงการบริหารจัดการแบบรอบด้านทั้งในการจัดซื้อสินค้า การขาย โอเปอเรชั่น และการตลาด (Turnaround) ให้ห้างสรรพสินค้า เซลฟริดจส์ (Selfridges) ที่ประเทศอังกฤษให้มีรายได้ และผลกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงได้ถูกทาบทามให้เข้าร่วมงานกับห้างรีนาเชนเต นอกจากนี้ นายราดิเช ยังเคยดำรงตำแหน่ง กรรมการบริหาร (Executive Director) ของ Marks and Spencer และ กรรมการผู้จัดการ (Managing Director) ของ Habitat International
อีกหนึ่งผู้บริหารที่มีประสบการณ์ และความสามารถสูง ที่ทำให้รีนาเชนเต เติบโต คือนายอัลเบอโต้ บัลดัน ( Alberto Baldan) Managing Director เข้าร่วมงานกับห้างรีนาเชนเต ตั้งแต่ปี พศ.2512 เคยดำรงตำแหน่ง Managing Director ของบริษัท Conforma Italy และยังมีประสบการณ์ในการบริหารธุรกิจ Hypermarket มานานว่า 10 ปี
ตั้งแต่ปี พ.ศ.2548 คณะผู้บริหารชุดปัจจุบันได้ดำเนินกลยุทธ์ ปรับปรุงห้างฯ ให้ทันสมัย อย่างไม่หยุดนิ่ง มีลักษณะการออกแบบห้างสรรพสินค้าในเชิงนวัตกรรม ด้วยรูปแบบล้ำสมัย รวมถึงการนำเสนอสินค้าใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ถือว่าเป็นการนำประสบการณ์ด้านการช้อปปิ้งมานำเสนอกับลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ห้างรีนาเชนเต ในปัจจุบันเป็นห้างสรรพสินค้าที่มีคุณภาพมากที่สุดอีกแห่งสำหรับการช็อปปิ้งของโลก
นายทศ กล่าวทิ้งท้ายว่า “การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายการขยายธุรกิจโดยการซื้อ ควบรวมกิจการ (Mergers & Acquisitions) ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดด บริษัทฯ ยังคงมองหาโอกาสในการลงทุนในลักษณะนี้อีกต่อไปทั้งในประเทศไทย จีน ประเทศในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ และยุโรป เรามีความมุ่งมั่นที่จะเติบโต ขยายธุรกิจและพัฒนาการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง จากนี้ เซ็นทรัลได้เข้าสู่การแข่งขันระดับโลก เราจะมีสิ่งใหม่ๆ นวัตกรรมใหม่ๆ มานำเสนอให้ลูกค้าในแบบที่ยากจะมีผู้ใดแข่งขัน หรือเทียบเคียงได้”