เรื่องย่อ: เสน่ห์บางกอก
บทประพันธ์โดย : อาจินต์ ปัญจพรรค์ / วิจิตร คุณาวุฒิ
บทโทรทัศน์โดย : ระฆังเงิน
กำกับการแสดงโดย : พนม นพพร / ชัยวุฒิ เทพวงษ์
ผลิตโดย : นพพรโปรโมชั่น แอนด์ พิคเจอร์
ออกอากาศทุกวัน เวลา 18.45 น. ทางช่อง 7 สี
เรื่องย่อ
เสน่ห์บางกอก มนต์ขลังแห่งมหานคร ที่ใครต่อใครต่างพากันใฝ่ฝันที่ได้มาสัมผัสชีวิตในเมืองกรุง บ้างก็พบกับความสำเร็จบ้างก็พบกับความล้มเหลวถูกหลอกลวง กรุงเทพฯ เป็นทั้งสรวงสวรรค์และขุมนรกได้ในเวลาเดียวกันขึ้นอยู่ที่ใครจะเลือกเส้นทางเดิน แต่ไม่ว่าจะอย่างไร บางกอก ก็ยังคงมีมนต์เสน่ห์ชวนให้ใคร ๆ เข้ามาสัมผัส...มิเสื่อมคลาย
บนเวทีคอนเสิร์ตยิ่งใหญ่ แก้วทิพย์ นักร้องลูกทุ่งสาวดาวรุ่งมาแรงกำลังร้องเพลงอย่างสนุกสุดเหวี่ยง คนดูล้นหลาม หลังเวที แพร พนมพร นักร้องหน้าใหม่ และเพิ่งจะได้ขึ้นเวทีคอนเสิร์ตเป็นครั้งแรกเตรียมตัวจะขึ้นร้องเป็นคนต่อไป แพรตื่นเต้นมากจนเดินสะดุดพื้นเวทีล้มลง พร้อมกับเสียงปลุกของ ผึ่ง เพื่อนรัก ที่แท้แพรกำลังฝันนั่นเอง เขาพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อจะได้ไปถึงฝัน เมื่อมีงานประกวดร้องเพลงที่หมู่บ้านข้าง ๆ แต่เหมือนฟ้าไม่เป็นใจไม่ทันที่แพรจะออกไปจากบ้าน กำนันปลั่งก็กลับมาเสียก่อน แพรจึงต้องออกอุบายว่าไม่สบาย แล้วเปลี่ยนตัวกับผึ่งเพื่อนรักของเขาให้มานอนคลุมโปงแทน ส่วนตัวแพรก็กระโดดหน้าต่างหนีไป
ระหว่างทางที่เขาขี่รถมอเตอร์ไซค์เพื่อไปที่งานวัด รถของเขาก็เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวเข้ากับรถมอเตอร์ไซค์ของสไบ สาวจอมแก่นเซี้ยวห้าวราว เมื่อรถของแพรมาเฉี่ยวทำให้ข้าวของตกแตกเสียหายหมด สไบจึงโวยวายใส่แพร แต่ด้วยความรีบแพรไม่มีเวลาคุยจึงขี่รถจะไปงานวัดสไบจึงถีบแพรตกท้องร่อง ทำให้แพรเลอะโคลนเต็มตัว แพรโกรธสไบมาก สายสุนีย์ ลูกสาวเจ้าของโรงสีในหมู่บ้านขับรถกระบะผ่านมาพอดีจึงรับแพรขึ้นรถและพาไปส่ง สไบจึงไปฟ้องกำนันปลั่งที่บ้าน ทำให้กำนันรู้ว่าแพรไม่ได้นอนอยู่ในห้องแต่เป็นผึ่ง
กำนันโกรธมากเมื่อรู้ว่าแพรหนีไปร้องเพลง แพรโกรธแค้นสไบมากที่มาทำลายโอกาสของเขา แพรจะไม่มีวันญาติดีกับสไบอย่างเด็ดขาด เมื่อไม่ได้ประกวดร้องเพลงที่งานวัด แพรจึงแกล้งทำเป็นไม่สนใจร้องเพลงและโกหกพ่อแม่ว่าสอบเอ็นต์ติดต้องใช้เงินลงทะเบียนถึงเงิน2แสน สไบแอบรู้เรื่องที่แพรโกหกนี้จึงบอกให้แพรพูดความจริง ถ้าแพรไม่พูดสไบจะพูดเอง กำนันปลั่งกับแม่ช้อยเข้ามาได้ยินพอดีความจึงแตก เมื่อกำนันกับแม่ช้อยรู้ความจริงว่าแพรไม่ได้เอ็นต์ติด จึงบังคับแพรให้แต่งงานกับสไบทันที
แม่ช้อยไปดูดวงให้แพรมาหมอดูบอกว่าแพรจะพ้นเคราะห์ได้และได้เป็นปลัดอำเภอสมใจก็ต้องบวชเสียก่อน กำนันจึงจัดงานบวชแพร และว่าจ้างวงดนตรีลูกทุ่งชื่อดังมาแสดงในงาน ซึ่งก็คือวงของแก้วทิพย์นั่นเอง แก้วทิพย์มากับศักดิ์ชายผู้เป็นทั้งพ่อและผู้จัดการ แพรดีใจมากพยายามตีสนิทแก้วทิพย์ แพรจึงตัดสินใจหนีเข้ากรุงเทพฯ พร้อมขบวนของวงลูกทุ่งแก้วทิพย์โดยขโมยพระสมเด็จของพ่อไปด้วยเพื่อเอาไปขายเอาเงินมาเป็นทุนในการทำเดโมเทปเสนอค่ายเพลง
เมื่อมาถึงกรุงเทพฯ แพรมาขออยู่กับแก้วทิพย์แต่แก้วทิพย์ไม่อยากรับไว้เพราะสำหรับกรุงเทพฯ แล้วแพรนับว่าบ้านนอกมาก แก้วทิพย์มีเสี่ยมาติดพันหลายคนจึงไม่อยากให้ใครเห็นว่าเธอคบหากับเด็กบ้านนอกอย่างแพร แต่ศักดิ์ชายเห็นพระสมเด็จของแพรก็อยากได้จึงยอมรับไว้ให้อยู่ด้วย แพรบอกศักดิ์ชายว่าถ้าอยากได้พระของเขาก็ต้องให้เขาเป็นนักร้องออกอัลบั้มก่อนเขาจึงจะยกพระให้ศักดิ์ชาย ศักดิ์ชายวางแผนปล้นพระจากแพร แต่ปรากฏว่า พระที่แพรขโมยมาเป็นของปลอมคนละองค์กับที่กำนันให้ศักดิ์ชายดู แพรจึงถูกซ้อมแล้วโยนทิ้งข้างถนน
เมื่อกำนันรู้ว่าแพรขโมยพระหนีมากรุงเทพฯ ก็เป็นห่วงมากชวนผึ่ง ลั่นทม แม่ช้อย ตาเอี่ยม เข้ากรุงเทพฯ เพื่อตามหาแพรเมื่อแพรถูกซ้อมแล้วโยนออกมาจากบ้านแก้วทิพย์ ขณะที่แพรสะบักสะบอมนั้น ศศิมาก็มาพบเข้าจึงช่วยเหลือแพร พาแพรไปรักษาตัวที่บ้านเธอ ศศิมาเป็นนักร้องคาเฟ่และเป็นเมียน้อยของสมพลเสี่ยเจ้าของค่ายมวยซึ่งเมื่อเธอตั้งท้องสมพรรู้ก็ไล่เธอออกจากบ้าน แพรรู้เรื่องก็สงสารช่วยดูแลศศิมาอยู่ด้วยกันอย่างพี่น้องคอยพาไปฝากท้องและพาไปหาหมอ
แพรออกหางานทำ ไปรับจ้างขับรถแท็กซี่ เจอคนจี้รถแท็กซี่ แต่โชคดีที่ชัยอดีตนักมวยชื่อดังมาช่วยไว้ได้ทัน ชัยจึงชวนแพรมาทำงานที่ค่ายมวยและเห็นแววของแพรที่จะเป็นนักมวยได้ ชัยแยกจากค่ายเดิมมาเปิดค่ายใหม่ของตัวเอง นักมวยตามชัยมาเยอะทำให้ สมพลเจ้าของค่ายเดิมไม่พอใจ ในวันขึ้นชกที่สนามมวย นักมวยของชัยถูกทำร้ายขึ้นชกไม่ได้ เหลือแค่แพรยังไม่พร้อมขึ้นชก แต่เมื่อได้เจอสไบที่มาดูมวยตามความชอบของเธอ สไบพูดยั่วแพรว่าไม่เป็นลูกผู้ชายไม่สู้คน ด่าว่าแพรต่าง ๆ นา ๆ จนแพรโกรธฮึดสู้และเอาชนะได้ในที่สุด ทำให้แพรดังในชั่วพริบตา มีนักข่าวมาสัมภาษณ์ แพรบอกว่าเขาอยากเป็นนักร้อง
กำนันและทุกคนที่มาด้วยเห็นแพรทางทีวีในรายการมวยจึงรีบไปหาที่สนามมวย ทั้งหมดจึงได้พบกันต่างดีใจ ทุกคนจึงย้ายไปอยู่ที่ค่ายมวยของชัย แต่ความดีใจของสไบก็ต้องชะงักเมื่อเห็นศศิมาที่กำลังท้องเข้ามาดูแลแพรราวกับเป็นเมียแพรสไบเข้าใจผิดว่าศศิมาเป็นเมียแพร ทำให้เกิดอาการงอนเศร้าอยากกลับศาลาเกวียน
เมื่อนักมวยของสมพลขอย้ายมาอยู่ค่ายของชัยเพิ่มมากขึ้นจากการที่แพรชนะ สมพลจึงยกพวกบุกมาที่ค่ายของชัยและได้เจอศศิมาอยู่กับแพรจึงโกรธคิดว่าแพรเป็นชู้กับเมียน้อยตนเอง ศศิมาเสียใจต่อว่าสมพลเรื่องลูกในท้องทำให้ทุกคนรู้ความจริงว่าเด็กในท้องไม่ใช่ลูกของแพร สไบจึงยอมเข้าใจและไม่หนีกลับศาลาเกวียน ชัยสงสารศศิมา และแอบชอบศศิมาตั้งแต่แรก แต่เพราะคิดว่าเป็นเมียของแพรจึงไม่กล้าแสดงออก แต่ในเมื่อไม่ใช่ ชัยจึงแสดงความรักต่อศศิมาและขอดูแลเธอกับลูก เขาจะรับเป็นพ่อของเด็กเอง
ก้านหนีคดีเผาบ้านเบิ้ม ที่ศาลาเกวียนเข้ามากรุงเทพฯ ก็มาอยู่กับสมพล เป็นนักเลงหัวไม้ประจำค่ายมวย เมื่อเห็นแพรก็ตามมาเล่นงานแพรเพราะแค้นที่สไบหนีจากศาลาเกวียนมาตามหาแพร และได้รู้ว่า สมพลไม่ถูกกับชัย ก้านจึงคิดแผนชั่วทำร้ายทั้งแพรและชัย ตามความฝันของแพรคืนการเป็นนักร้อง สไบก็เห็นดีด้วยจึงเข้าไปสมัครเป็นคนรับใช้ในวงแดนเซอร์ คอยช่วยจัดชุดแดนเซอร์รับใช้คนในวงดนตรี ทำทุกอย่างเพื่อหวังจะใกล้ชิดกับการร้องเพลง
วันหนึ่งเมื่อถึงเวลาแสดงดนตรี นักร้องคั่นเวลาที่ร้องอยู่มาไม่ได้ แพรจึงเสนอตัวร้องแทน เมื่อแพรร้องเพลงจบได้รับเสียงปรบมือจากคนดูอย่างที่ทุกคนคาดไม่ถึง แถมรับพวงมาลัยหน้าเวทีคล้องคอจนล้น สไบยืนดูอยู่หลังเวทีดีใจน้ำตาคลอคิดว่าฝันของแพรต้องเป็นจริงแน่ ๆ หัวหน้าแดนเซอร์เข้ามาชื่นชมบอกแพรอย่าหยุดตัวเองแค่นี้หาหนทางเข้าไปสู่การเป็นดาวให้ได้ แพรจึงไปสมัครประกวดในรายการชุมทางเสียงทอง แต่ก็ตกรอบแรกซุ่มซ้อมกลับเข้าไปประกวดรายการชุมทางเสียงทองใหม่ได้รับรางวัลชนะเลิศ มีค่ายเพลงสนใจอยากออกเทปให้แพร กำนันคัดค้าน จะลากแพรกลับบ้านศาลาเกวียน แพรไม่ยอมกลับ เขาร้องให้กำนันเห็นแก่ความฝันของเขา ชีวิตนี้เขาอยากเป็นนักร้อง สไบเองก็ช่วยพูดกับกำนันให้ยอมใจอ่อน อนุญาติให้แพรได้เป็นนักร้อง กำนันจึงขอสัญญาแลกเปลี่ยนว่า หลังจากเป็นนักร้องแล้ว แพรกับสไบต้องแต่งงานกัน ทั้งสองยอมรับปาก
ความดังของแพรไปถึงหูแก้วทิพย์กับศักดิ์ชาย แก้วทิพย์จึงมาออดอ้อนแพรต่าง ๆ นานาให้ยอมมาเป็นนักร้องในค่ายของเธอ และสร้างสถานการณ์ให้เกิดการเข้าใจผิดกับสไบและกำนัน จนแพรยอมยกเลิกสัญญากับค่ายเดิมไปอยู่กับแก้วทิพย์ สไบเสียใจมาก ตอนนี้แพรไม่เชื่อใครแล้วนอกจากแก้วทิพย์เพราะเธอทำให้แพรเป็นนักร้องดังได้มากกว่านี้เธอสัญญากับเขาว่า จะจัดคอนเสิร์ตใหญ่พร้อมกับเปิดอัลบั้มเพลงใหม่ที่จะส่งให้แพรดังสุด ๆ มันเป็นความฝันของแพร ศักดิ์ชายทำเพลงให้แพรอย่างจริงจัง เพื่อหลอกล่อให้แพรอยู่กับเขาและจะให้แพรแจ้งเกิดเป็นนักร้องลูกทุ่งระดับอินเตอร์ในคอนเสิร์ตครั้งนี้
ศักดิ์ชายขู่กำนันถ้าไม่เอาพระมาให้เขาจะทำลายความฝันของแพรล้มเลิกการแสดงคอนเสิร์ตซึ่งจะทำให้แพรเสียชื่อเสียง เพราะจากยอดขายบัตรล่วงหน้าหลายหมื่นใบแสดงว่าคนดูกำลังรอชมคอนเสิร์ตของแพร กำนันกลัวว่าแพรจะเสียชื่อเสียงจึงยอมเอาพระไปแลก สไบสงสารกำนันจึงแอบไปหาแพรเตือนสติให้แพรตาสว่าง แต่กลับถูกแพรด่าว่าสไบขัดขวางความฝันของเขาและไล่สไบกลับศาลาเกวียน สไบเสียใจมาก
แก้วทิพย์รู้ว่าสไบมาหาแพรก็ไม่พอใจสั่งก้านสั่งสอนสไบโดยจับสไบมาข่มขืน ขณะที่แพรรอเวลาจะขึ้นคอนเสิร์ตเขาได้ยินแก้วทิพย์คุยกับก้านเรื่องให้ไปจับสไบ แพรตกใจจึงรีบออกจากหลังเวทีเพื่อที่จะไปช่วยสไบ ก้านกับพวกฉุดสไบมาที่โกดังร้างแพรกับชัยตามมาพบเกิดการต่อสู้กันแพรพลาดท่าถูกก้านแทง แต่ชัยช่วยแพรไว้ได้ก้านกับพวกถูกชัยอัดสะบักสะบอมหนีไปได้ แพรเขาปกปิดบาดแผลของตัวเองไว้แล้วขึ้นเวทีร้องเพลงบนเวทีคอนเสิร์ต เขาจนจบเพลงพร้อมกับร่างกายของเขาค่อย ๆ ล้มลงกองบนเวที สไบตกใจรีบเข้ามาดูก็พบว่าแพรบาดเจ็บทุกคนจึงรีบนำแพรส่งโรงพยาบาล แก้วทิพย์และก้านถูกตำรวจจับข้อหาจ้างวานให้ทำร้ายสไบและทำร้ายร่างกายแพรจนบาดเจ็บสาหัส แพรต้องนอนโรงพยาบาลอยู่หลายวันโดยมีสไบคอยดูแลอย่างใกล้ชิด
เมื่อเรื่องทุกอย่างคลี่คลาย แพรก็ได้รู้ความจริงว่าใครที่รักและหวังดีต่อเขาจริง ๆ แพรตัดสินใจกลับศาลาเกวียนกับกำนันและสไบ เขาขอสไบแต่งงาน กำนันยอมไปง้องอนนายเบิ้มเพื่อขอสไบให้กับแพร นายเบิ้มกลั่นแกล้งกำนันต่าง ๆ กำนันยอมทำตามนายเบิ้มทุกอย่าง จนนายเบิ้มใจอ่อนยอมยกโทษให้ และยกสไบให้แต่งงานกับแพร
กำนันเมื่อหมดหวังที่จะมีลูกชายเป็นปลัดอำเภอ ก็หันมาทุ่มเทให้ลูกสะใภ้แทน กำนันส่งสไบไปเรียนมหาวิทยาลัยจนจบรัฐศาสตร์และกลายเป็นปลัดอำเภอหญิงคนแรกของศาลาเกวียนเป็นที่ภาคภูมิใจของทุกคน แพรกลายเป็นนักร้องลูกทุ่งชื่อดังที่ประกาศตนว่าแต่งงานแล้ว ไม่ว่าไปไหนเขาก็ต้องแนะนำให้ใคร ๆ รู้จักว่าสไบเป็นเมียของเขาเสมอจนเป็นที่ชื่นชมของวงการ
รายชื่อนักแสดง
ศรัณย์ ศิริลักษณ์ รับบทเป็น แพร
ป่านทอง บุญทอง รับบทเป็น สไบ
ณัฏฐ์ ทิวไผ่งาม รับบทเป็น ผึ่ง
ธันย์ชนก ฤทธินาคา รับบทเป็น ลั่นทม
นนทพันธ์ ใจกันทา รับบทเป็น ครูวิชัย
ฐิตินันท์ สุวรรณถาวร รับบทเป็น สายสุนีย์
ภาณุ สุวรรณโณ รับบทเป็น ก้าน
สุรวุฑ ไหมกัน รับบทเป็น สมพล
ไชย ขุนศรีรักษา รับบทเป็น ศักดิ์ชาย
ดารัณ ฐิตะกวิน รับบทเป็น แม่ช้อย
อติมา ธนเสนีวัฒน์ รับบทเป็น กิมลั้ง
เอกพันธ์ บันลือฤทธิ์ รับบทเป็น กำนันปลั่ง
สุรชัย สมบัติเจริญ รับบทเป็น นายเบิ้ม
กวินตรา โพธิจักร รับบทเป็น แก้วทิพย์
เขาทราย กาแล็กซี่ รับบทเป็น ชัย
กลศ อัธเสรี รับบทเป็น สุธี
สิริลภัส กองตระการ รับบทเป็น ศศิมล
ชวนภ โพธิ์ประเสริฐ รับบทเป็น ชิด
บริพันธ์ ชัยภูมิ รับบทเป็น เอี่ยม
ชาติชาย จินดา รับบทเป็น มิ่ง
จำเริญ สมบูรณ์ รับบทเป็น ติ๋ม
ณรงค์ศักดิ์ ปักษี รับบทเป็น บิ๊ก
นพรุจ ประภาศิริ รับบทเป็น ชอบ
อิทธิศักดิ์ เลิศชาญโรจน์ รับบทเป็น เปี๊ยก
ยิ่งใหญ่ เพิ่มสกุล รับบทเป็น อาโก
สดใส รุ่งโพธิ์ทอง รับบทเป็น ครูเพลง
บุญโทน คนหนุ่ม รับบทเป็น บุญโทน
วรินทร์พร วิสัย รับบทเป็น นิดหน่อย
ศราวุธ ศุขรัตน์ รับบทเป็น ต้อยติ่ง
วาโย เกียรติกนก รับบทเป็น มาลัย
ภัสรา อภิรักษ์ลี้พล รับบทเป็น สายบัว
ธันยรัตน์ ไทยยิ่ง รับบทเป็น ดอกแก้ว
กัลยดา ชัยมงคล รับบทเป็น แดนเซอร์
วราภรณ์ บุญเกื้อ รับบทเป็น แดนเซอร์
กชกร ส่งแสงเติม รับบทเป็น แดนเซอร์
อรวิสา ทิวไผ่งาม รับบทเป็น แดนเซอร์
ปิยะธาดา คำคล้าย รับบทเป็น สำริด
พิมพ์ชนก เลี่ยนกัตวา รับบทเป็น มด
วีรินท์ เชยอรุณ รับบทเป็น ชะเอม
พูลทรัพย์ บุญจ่าย รับบทเป็น แจ่ม
ชุติมา ทั่งศรี รับบทเป็น รัศมี
กฤษณะ เกษศิริ รับบทเป็น นคร
ณัฐดนัย ชนิตร์วัฒน์ รับบทเป็น อุ้ย