“M-150” คัดเลือกเด็กเก่ง 6 กลุ่มสุดท้าย เข้าชิง “M-150 TV CREATION 2010” ประกวดหนังโฆษณา “ฉีกกรอบ..กล้าคิด กล้าทำ อะไรก็เป็นไปได้”
แบรนด์เครื่องดื่ม M-150 ค่ายโอสถสภา คัดเลือกผลงานคนรุ่นใหม่ที่ฝีมือเข้าตา เข้ารอบชิงชนะเลิศ การประกวดไอเดียสร้างสรรค์สังคมผ่านภาพยนต์โฆษณาความยาว 60 วินาที ในแคมเปญ “M-150 TV CREATION 2010” ภายในแนวคิด “ฉีกกรอบ...กล้าคิด กล้าทำ อะไรก็เป็นไปได้” ชิงรางวัลถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมทุนการศึกษา รวมมูลค่ากว่า 200,000 บาท
นายประธาน ไชยประสิทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท โอสถสภา จำกัด เปิดเผยว่า จากการที่เครื่องดื่ม M-150 ซึ่งเป็นหนึ่งในแบรนด์สินค้าที่มีชื่อเสียงของบริษัทฯ ได้จัดกิจกรรม “M-150 TV CREATION 2010” โดยร่วมกับมหาวิทยาลัยกรุงเทพ จัดโครงการอบรมและประกวดภาพยนตร์โฆษณาความยาว 60 วินาที ปีที่ 4 โดยหัวข้อการส่งผลงาน คือ “ฉีกกรอบ..กล้าคิด กล้าทำ อะไรก็เป็นไปได้” ให้ผู้เข้าอบรมสามารถนำความรู้จากการอบรมดังกล่าว ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อวงการภาพยนตร์โฆษณาในอนาคตได้ด้วย นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมอบรม ยังสามารถส่งผลงานเข้าประกวด เพื่อรับรางวัลถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และเงินทุนการศึกษารวมมูลค่ากว่า 200,000 บาทด้วย โดยขณะนี้กิจกรรมดังกล่าว ได้ผลการคัดเลือกผู้เข้ารอบชิงชนะเลิศ จำนวน 6 ทีมแล้วดังนี้ 1. ทีม Creative Hand จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 2. ทีม วันดีดี จากมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ 3. ทีม ต้มยำ จากมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 4. ทีม บรรเจิด จากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ 5. ทีม กล้าก้าว จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ 6. ทีม โดมิโน Effect จากมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยจะมีการประกาศผลการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศอีกครั้งในวันที่ 10 พฤษภาคม 2553 นี้
“ กิจกรรมเชิง CSR ของทาง M-150 ในครั้งนี้ เราต้องการเจาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่ โดยเป็นโครงการต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 4 โดยปีแรก จัด M-150 TV CREATION 2007 โดยให้ผู้เข้าร่วมอบรม ผลิตสารคดีโทรทัศน์ขนาดสั้น ในหัวข้อ “คนรุ่นใหม่กับความพอเพียง” เพื่อกระตุ้นให้คนทั่วไป ได้สำนึกและปฏิบัติตามแนวพระราชดำริ และร่วมฉลอง 80 พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ปีที่สองจัดโครงการ M-150 TV CREATION 2008 การอบรมและผลิตภาพยนตร์โฆษณาที่นำเนื่อง “คลายร้อนให้โลก” เพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้ใช้พลังสร้างสรรค์ เชิญชวนให้ผู้ชมได้ตระหนักและร่วมใจกันลดโลกร้อนมากขึ้น ส่วนปีก่อนหน้านี้ ได้จัดโครงการ M-150 TV CREATION 2009 อบรมและผลิตสารคดีโทรทัศน์ขนาดสั้น หัวข้อ “ขาดไฟฟ้า ขาดโอกาส” เพื่อให้คนรุ่นใหม่ใช้พลังสร้างสรรค์ ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญและความต้องการไฟฟ้า ของผู้คนในชนบทอันห่างไกล เป็นต้น” นายประธาน กล่าว
คุณร่มเกล้า ถมพิทักษ์ Executive Creative Director บริษัทสปา-ฮาคูโฮโด จำกัด กล่าวว่า โครงการ “M-150 TV CREATION 2010” เป็นการจัดกิจกรรมเพื่อสนับสนุนให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ ให้มีความกล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งโครงการนี้ถือว่าเป็นการเปิดโอกาสให้นิสิต นักศึกษา นำเสนองานโฆษณาในแบบฉีกกรอบ ถือว่าเป็นโจทย์ที่ยากแต่ถือว่าเป็นสิ่งที่ท้าทายความสามารถ เพราะการทำเสนอผลงานเข้าประกวดนั้นถือว่าเป็นการเปิดมุมมอง แนวคิด และวิธีการนำเสนอสิ่งแปลกใหม่ ไม่จำเจกับกรอบความคิดแบบเดิม ๆ และสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ผู้เข้าประกวดจะได้จากโครงการนี้ก็คือ ประสบการณ์การทำงานจริง เพราะกว่าที่จะได้ผลงานออกมาแต่ละชิ้น ผู้เข้าประกวดจะต้องผ่านกระบวนทางความคิด กระบวนการผลิตจริง ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งอยู่นอกเหนือจากตำราเรียนในห้องเรียน
นางสาวศศิวรรณ์ เลิศวิริยะประภา ผู้ประกาศข่าวรายการเช้านี้ที่หมอชิต ในฐานะคณะกรรมตัดสินการประกวด “M-150 TV CREATION 2010” กล่าวเสริมว่า การจัดกิจกรรมของนิสิต นักศึกษา ในปีนี้ จะเห็นได้ว่าผู้เข้าร่วมประกวดมีเพิ่มมากขึ้น โดยปีนี้มีถึง 20 ทีม ซึ่งเชื่อว่าแต่ละคนในแต่ล่ะทีม น่าจะสามารถเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการอบรม และการทำงานผลิตภาพยนต์โฆษณาได้อย่างจริงจัง ตั้งแต่รายละเอียดของการผลิตและกระบวนการทำงาน ซึ่งเป็นประการณ์อันมีค่ามาก เพราะการทำงานกับการเรียนนั้นแตกต่างกัน ซึ่งสิ่งที่ได้รับกลับไปก็คือ ความคิดการทำโฆษณาในเชิงสร้างสรรค์นั่นเอง เนื่องจากผลงานที่นำเสนอมานั้น ต้องผ่านกระบวนความคิด เพื่อให้เกิดไอเดียที่ฉีกแปลกแหวกแนว กล้านำเสนอในมุมมองที่แตกต่าง รวมไปถึงการนำเสนอผลงานชิ้นนั้นออกมาอย่างไรให้สมบูรณ์และให้เป็นตัวเรามากที่สุด เป็นต้น
ด้านนายนรินทร์ เรืองไรเลขา ผู้กำกับโฆษณา บริษัท สารพัดนึก จำกัด อีกหนึ่งในคณะกรรมการตัดสินในการประกวดครั้งนี้ กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดโฆษณานั้นถือว่ามีการแข่งขันกันสูงมาก ดังนั้นการที่ M-150 มีการจัดโครงการเพื่อฝึกอบรมและพัฒนาบุคคลากรเพื่อให้มีความรู้ เกี่ยวกับการสร้างสรรค์สื่อโฆษณาทางโทรทัศน์ดังกล่าว ย่อมเปรียบเสมือนเป็นการคัดกรองบุคลากร หรือผู้ที่ชื่นชอบ และรักในอาชีพนี้ ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งเวทีที่จะให้ได้แสดงผลงาน รวมถึงมุมมองของคนรุ่นใหม่ที่ฉีกกรอบออกไป และเป็นหนทางของการก้าวเข้ามาสู่เส้นทางในวงการโฆษณามืออาชีพจริง ๆ
“สำหรับการแข่งขันในปีนี้เห็นได้ว่า ผู้เข้าร่วมอบรมมีความสนุกจากการร่วมกิจกรรม และเชื่อว่าแนวทางการประกวดมีความเข้มข้นกว่าทุกปี เนื่องจากหัวข้อในการประกวดหนังโฆษณาในปีนี้ คือ “ฉีกกรอบ...กล้าคิด กล้าทำ อะไรก็เป็นไปได้” นับเป็นหัวข้อที่ถือว่าตอบรับกับกระแสของสังคมในปัจจุบัน คือพฤติกรรมของคนไม่ว่าจะเป็นวงการเพลง วงการแฟชั่น จะเห็นได้ว่ามีการนำเสนอผลงานต่าง ๆ ที่ไม่ยึดติดกับกรอบแนวเดิม ๆ ออกมามากมาย อาทิแนวเพลงใหม่ ๆ หรือการแฟชั่นการแต่งตัว ที่ไม่ได้ยึดติดตามกระแสเหมือนแต่ก่อนแล้ว ทำให้เชื่อว่าจะได้เห็นมุมมองความคิดในการนำเสนอผลงานที่หลากหลายและน่าสนใจ ของน้องๆ ที่ร่วมส่งผลงานเข้าประกวดในครั้งนี้ อีกทั้งยังมีในเรื่องของความยากในการนำเสนอผลงานที่ต้องนำเสนอให้แตกต่าง หรือมีมาตรฐานใกล้เคียงกับภาพยนตร์โฆษณาที่ปัจจุบันมีเผยแพร่อยู่ในขณะนี้ จึงนับว่าเป็นโจทย์ที่หินพอสมควร แต่ก็เชื่อว่าจะทำให้การแข่งขันในครั้งนี้เราได้เห็นผลงานที่เด็ด ๆ เป็นการวัดกึ๋นของน้อง ๆ อย่างแท้จริง” นายนรินทร์ กล่าว