happy on February 11, 2022, 12:54:02 AM
วช. จับมือ มทร.รัตนโกสินทร์ ลุยพัฒนาท่องเที่ยวเมืองรอง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ด้วยโมบายแอปฯ


วันนี้ (10 กุมภาพันธ์ 2565) นายธีรวัฒน์ บุญสม ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรม ได้รับมอบหมายจาก ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ นำคณะสื่อมวลชน ลงพื้นที่ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เยี่ยมชมผลงานวิจัยของคณะนักวิจัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีรัตนโกสินทร์ พัฒนาโมบายแอปพลิเคชัน “ท่องเที่ยวโพธาราม” ภายใต้การสนับสนุนทุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยได้รับเกียรติจาก ดร.ฟ้าใส สามารถ​ รองอธิการบดี มทร.รัตนโกสินทร์ และ ดร.สันติ ไทยยืนวงษ์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา มทร.รัตนโกสินทร์ ให้การต้อนรับ พร้อมชวนสัมผัสวิถีชีวิตชุมชน ประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม ผ่านโปรแกรมท่องเที่ยวสุดสร้างสรรค์


ผศ.ดร.สุภัค เผียงสูงเนิน รองผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมงานวิจัย สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ ในฐานะหัวหน้าโครงการ เปิดเผยว่า โครงการ “การพัฒนารูปแบบกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและอาหารพื้นถิ่น โดยใช้โมบายแอปพลิเคชันเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี” เป็นพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาการท่องเที่ยวของจังหวัด ผ่านการนำเทคโนโลยีโมบายแอปพลิเคชัน และชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม นักวิจัยได้ออกแบบเส้นทางและโปรแกรมท่องเที่ยว อาหารพื้นถิ่นและของดีเมืองโพธาราม เป็น 2 โปรแกรม คือ โปรแกรมแบบ One day trip และโปรแกรมแบบ 2 วัน 1 คืน โดยการวิจัยมีการคาดการณ์ว่า นักท่องเที่ยวจะมีการจับจ่ายใช้สอยในเส้นทางท่องเที่ยว ประมาณ 1,000-1,500 บาทต่อคน นับว่าเป็นการสร้างรายได้ให้ประชาชนอำเภอโพธาราม และจังหวัดท่องเที่ยวเมืองรอง ราชบุรี เป็นการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้สามารถอยู่ได้ในยุคใหม่ และสามารถพลิกฟื้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวให้ดีขึ้นได้อีกครั้ง ภายหลังการระบาดโควิด-19​




โดยนักท่องเที่ยวสามารถดาวน์โหลด แอปพลิเคชัน “ท่องเที่ยวโพธาราม” บนระบบแอนดรอยด์ได้ เพื่อใช้เป็นช่องทางดูแหล่งท่องเที่ยวแนะนำ อาหารพื้นถิ่น ที่พัก สถานที่ราชการ และทริปแนะนำต่าง ๆ ในอำเภอโพธาราม ได้อย่างสะดวกสบาย โดยเชื่อมโยงกับโซเชียลมีเดีย และ Google Map อาทิ วัดขนอน ต.สร้อยฟ้า อ.โพธาราม ที่เชิดชูการแสดง “หนังใหญ่”อายุร้อยกว่าปี ให้คนไทยได้ร่วมอนุรักษ์และเรียนรู้หนังใหญ่ ซึ่งได้รับการจดทะเบียนจาก UNESCO วัดคงคาราม ตลาดวิถีไทย-มอญ และโครงการพระราชดำริเขาชะงุ้ม เป็นต้น




ซึ่งขณะนี้ ได้ต่อยอดแอปฯ เป็นปีที่ 2 แล้ว โดยจะพัฒนาเป็น Information tourist gateway ที่มีข้อมูลที่สมบูรณ์มากขึ้น เช่น ข้อมูลการเดินทาง ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว ร้านค้า การจองที่พัก และผลิตภัณฑ์ชุมชน เป็นต้น พร้อมทั้งเพิ่มฟังก์ชันเทคโนโลยี AR เข้าไป ให้เกิดเป็นพิพิธภัณฑ์มีชีวิต บนโมบายแอปพลิเคชัน เช่น การสแกน AR หนังใหญ่ วัดขนอน ซึ่งจะช่วยสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวที่แปลกใหม่ ได้สัมผัสกับแผนการตลาดดิจิทัลที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น เป็นไปได้ว่า นักท่องเที่ยวจะเกิดความต้องการและตัดสินใจเดินทางมาสัมผัสประสบการณ์จริงได้ง่ายมากยิ่งขึ้น โดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดราชบุรี จะเข้ามาร่วมสนับสนุนด้วย




นอกจากนี้ ผู้วิจัยยังได้ออกแบบบรรจุภัณฑ์ เพื่อเพิ่มมูลค่าอาหารพื้นถิ่น และตอบโจทย์การบริโภคสินค้า เพื่อนำกลับไปเป็นของฝาก หรือเพื่อการเดินทางแบบต่อเนื่อง จึงได้ออกแบบกระเป๋าเก็บความเย็น สำหรับบรรจุนมและไอศกรีมจากร้านแดรี่ฮัท สหกรณณ์โคนมหนองโพราชบุรี ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางท่องเที่ยวของโพธาราม พร้อมด้วย การออกแบบกระเป๋าที่ระลึกโพธารามเอนกประสงค์ โดยถอดอัตลักษณ์จุดท่องเที่ยวโพธารามที่สำคัญ เช่น ตลาดเก่าโพธาราม ตลาดด่านขนอน การถอดลวดลายการตอกหนังใหญ่ของวัดขนอน โดยกระเป๋าทั้งสองแบบนี้ ได้คาดการณ์อีกเช่นกันว่า จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยสินค้า และอาหารพื้นถิ่นของนักท่องเที่ยวมากขึ้นประมาณ 200-500 บาทต่อคน อันสร้างประโยชน์ในเชิงเศรษฐกิจให้ชุมชนและจังหวัดได้เป็นอย่างดี




อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี นับว่าเป็นหนึ่งสถานที่ที่มีความหลากหลายทางศิลปวัฒนธรรม มีผู้คนหลายเชื้อชาติอาศัยอยู่ร่วมกัน อาทิ มอญ เขมร ไทย จีน เช่นเดียวกับชุมชนบ้านช้าง ต.สนามชัย อ.โพธาราม อันมีศิลปะประจำท้องถิ่นของตนเอง และพยายามสืบสาน ถ่ายทอดให้แก่นักท่องเที่ยวผู้มาเยือน สร้างความมั่นคงให้กับชุมชนด้วย Soft power ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ผ่านกิจกรรมเชิงวิถีชีวิตและภูมิปัญญา ต่าง ๆ เช่น การศึกษาวิถีทำสมุนไพร สปาสมุนไพร การแสดงและอาหารพื้นถิ่น นอกจากนี้ยังชูนวัตกรรมกระเป๋า”ตานี”เป็นผลิตภัณฑ์ Icon of  Siam สุดสร้างสรรค์ของเมืองไทย


นายธีรวัฒน์ บุญสม ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรม กล่าวว่า ผลงานวิจัยในครั้งนี้ เกิดขึ้นภายใต้แผนงานวิจัย “การพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานรากของจังหวัดท่องเที่ยวเมืองรอง” ที่ วช.ให้การสนับสนุนแก่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั้ง 9 แห่ง เป็นการเชื่อมโยงการใช้ประโยชน์ และหนุนเสริมการขยายผลงานวิจัยสู่การพัฒนาชุมชน การท่องเที่ยวจังหวัดเมืองรอง โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เข้ามามีผลกระทบ ทำให้ทราบว่า งานวิจัยและนวัตกรรม สามารถเข้ามาสนับสนุนและตอบโจทย์ความต้องการของชุมชนและประชาชนได้เป็นอย่างดี ช่วยยกระดับและฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง อีกทั้ง เป็นการส่งเสริมโครงการท่องเที่ยวเมืองรองตามนโยบายของรัฐบาล โดยมุ่งหวังให้เกิดเป็นข้อเสนอแนะเชิงนโยบายสำหรับการท่องเที่ยวเมืองรอง อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี และจังหวัดอื่น ๆ อย่างยั่งยืนต่อไป















« Last Edit: February 11, 2022, 01:02:39 AM by happy »