โซน 1 กรุงเทพฯ สุขหรรษา มีสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่น่าสนใจเช่น
• พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร
ใน 27 เขตทั่วกรุงเทพฯ มีพิพิธภัณฑ์ประจำทุกเขต เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งข้อมูลท่องเที่ยวของเขตนั้นๆ อาทิ พิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก เขตบางรัก จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ในยุคอดีตที่หาชมได้ยาก พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นกรุงเทพมหานครเขตบางขุนเทียน เป็นเขตเดียวที่มีพื้นที่ติดทะเลอ่าวไทย เป็นระยะทางกว่า 5 กม.มีป่าชายเลนในระบบนิเวศน์ที่สมบูรณ์ผืนสุดท้ายให้มาเรียนรู้ สามารถเช่าจักรยานขี่ไปตามสะพานไม้ที่ทอดผ่านแนวป่าโกงกาง ชมพระอาทิตย์ตกน้ำที่ปลายสะพานได้ด้วย
เปิดบริการ ตั้งแต่เวลา 09.00 น. - 16.30 น. ทุกวันอังคาร - วันอาทิตย์
• เสพงานศิลป์ของศิลปินระดับตำนาน
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบศิลปะร่วมสมัย ที่นี่คือศูนย์รวมผลงานของศิลปินไทยผู้เป็นหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ ศูนย์ประติมากรรมกรุงเทพฯ จัดเก็บและแสดงผลงานประติมากรรมร่วมสมัยไว้กว่า 200 ชิ้น เช่นผลงานของ อ.ศิลป์ พีระศรี, อ.เขียน ยิ้มศิริ, อ.ถวัลย์ ดัชนี, อ.กมล ทัศนาญชลี และ อ.จักรพันธุ์ โปษยกฤต
ตั้งอยู่ที่ ซ.นวลจันทร์ 56 เปิดทุกวันเสาร์ที่ 2 และ 4 ของเดือน
• Little India
ริมถนนจักรเพชร ข้างห้างเอทีเอ็มพาหุรัด มีตรอกแคบๆ ยาวราว 300 เมตร ที่ถูกเรียกขานว่า ลิตเติ้ลอินเดีย เพียงเดินผ่านปากตรอก กลิ่นหอมอวลของกำยาน หน้าตาและการแต่งกายของผู้คนที่เดินไปมาในตรอก ก็บ่งบอกถึงความเป็น “เมืองภารตะน้อยๆ” ได้เป็นอย่างดี นอกจากความสนใจดังกล่าวแล้ว สินค้าหน้าตาแปลกๆ ที่วางขายอยู่เต็มตรอกทั้งของกินของใช้ก็น่าตื่นตาไม่แพ้กัน ทั้งขนม ของขบเคี้ยว บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ผ้าส่าหรี ผ้าปัก กำไลหลากสีประดับกระจกระยิบระยับ หรือรองเท้าปลายงอนเช้งแบบอินเดียแท้ ธูปหอม กำยาน เครื่องบูชาเทพเจ้า และอื่นๆ อีกจิปาถะ ของเกือบทุกอย่างล้วนนำเข้ามาจากอินเดีย ใครที่เคยแต่เดินเที่ยวพาหุรัดหรือเยาวราช ลองเลี้ยวเข้าตรอกเล็กๆ นี้สักครั้ง แล้วจะรู้ว่าเสน่ห์แห่งภารตวิถีนั้นน่าสนใจไม่แพ้ย่านไชน่าทาวน์ที่อยู่ใกล้ๆ กันเลย
โซน 2 แดนสวรรค์ตะวันตก มีสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่น่าสนใจเช่น
• ถนนคนเดินปากแพรก 177 ปี กาญจนบุรี -เดินย้อนไปในอดีต 177 ปีที่ ถนนปากแพรก
ถนนเก่าแก่ อายุยาวนานถึง 177 ปี ทำให้ถนนสายนี้มีสถาปัตยกรรมในอดีตที่สวยงาม เต็มไปด้วยกลิ่นอายแบบตะวันตกผสมผสานตะวันออก พร้อมด้วยประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่า เช่น "โรงแรมสุมิตราคาร" โรงแรมแห่งแรกของจังหวัดกาญจนบุรี ในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่2 ทหารญี่ปุ่นได้เคยมาเช่านอน “บ้านบุญผ่อง แอนด์ บราเดอร์" ก็เป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่สวยงาม เป็นตึก 3 ชั้น ชั้น 2 และชั้น 3 มีระเบียงด้านหน้าบานหน้าต่างคู่ ช่องลมใส่กระจกทึบ ชั้นบนเป็นดาดฟ้า “บ้านชวนพานิช” ลวดลายที่ลูกกรงด้านหน้าเป็นลายแบบจีน “ ร้านบุญเยี่ยมเจียระไน” ก็เป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่สวยงาม นอกจากนี้แล้ว ถนนปากแพรกยังเป็นแหล่งของกิน เป็นศูนย์รวมงานหัตถกรรม แกะสลัก แหล่งจับจ่ายใช้สอยของพื้นเมืองจากฝีมือของชาวบ้าน เช่น ผ้าขาวม้าจากหนองขาว เครื่องจักสานที่ทำจากไม้ไผ่ จากหวาย ซึ่งมีมากในเมืองกาญจน์ นอกจากนี้ยังเป็นที่พบปะของศิลปินทั้งด้านศิลป ดนตรี และการแสดงศิลปะพื้นบ้านต่างๆ เช่นการแสดงโขนจิ๋วของเด็กอนุบาล เรียกว่า ใครอยากโชว์งานศิลปะ อยากเล่นดนตรี ก็มาอวดฝีมือกันได้
• ผ้าขาวม้าร้อยสีที่บ้านหนองขาว กาญจนบุรี - สีสันแฟชั่นเมืองกาญจน์ ที่ไม่แพ้ มิลาน ปารีส
ผ้าขาวม้าร้อยสีบ้านหนองขาว อ.ท่าม่วง กาญจนบุรี เป็นผ้าขาวม้าตาจัก สร้างสรรค์ พลิกแพลงลวดลายของการจักสานมาลงไว้บนผืนผ้า โดยจะทอเป็นลายสานเล็กๆทับซ้อนกับตาขาวม้าใหญ่บนผืนผ้า ผ้าขาวม้าที่นี่เริ่มเป็นที่รู้จักของบุคคลภายนอกทั่วไปเมื่อราว ๑๐ ปีที่แล้ว เมื่อคนต่างถิ่นเดินทางผ่านมาและพบเห็นเข้ากับขบวนแห่นาคของชาวบ้านที่ยิ่งใหญ่ยาวสุดลูกหูลูกตา ชาวบ้านในขบวนต่างสวมใส่เสื้อผ้าหลากสี และไม่ว่าประเพณีใดของบ้านหนองขาวชาวบ้านก็จะพร้อมใจกันแต่งกายด้วยสีสันที่สดใสหลายหลาก
• สวนศิลปะมีเซียม ยิบอินซอย - สวนสวยที่ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้และงานประติมากรรม
คุณมีเซียม ยิบอินซอย ศิลปินชั้นเยี่ยม พ.ศ. 2494 สาขาจิตรกรรมคนแรกของเมืองไทย ด้วยแนวคิดของคุณมีเซียมที่เชื่อว่าประติมากรรมควรอยู่รวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับธรรมชาติได้ก่อให้เกิดสวนศิลปะแห่งนี้ กว่า 30 ปีที่คุณมีเซียมได้อุทิศให้กับงานปั้น ในสวนแห่งนี้จึงเต็มไปด้วยต้นไม้หลากหลายพันธุ์และงานประติมากรรมขนาดต่างๆที่อยู่ผสานกันอย่างงดงาม ภายในสวนมีบ้านหลังเล็กกระทัดรัด หนึ่งชั้น ที่เป็นที่นั่งชมความงามที่ลงตัวของประติมากรรมและธรรมชาติในบั้นปลายชีวิตของคุณมีเซียม ยิบอินซอย
ที่ตั้ง: สวนศิลปะมีเซียม ยิบอินซอย ตั้งอยู่บน ถนนพุทธมณฑล สาย 7 อ.สามพราน จ.นครปฐม
โซน 3 มนต์เสน่ห์ทะเลวัง มีสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่น่าสนใจเช่น
• โครงการ “ชั่งหัวมัน” ในพระราชดำริ - โครงการน่ารักๆ จากในหลวง ของเรา
โครงการ “ชั่งหัวมัน” ในพระราชดำริ ตั้งอยู่ที่ บ้านหนองคอกไก่ ต.เขากระปุก อ.ท่ายาง จ. เพชรบุรี เป็นโครงการในพระราชดำริล่าสุดของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โครงการนี้เป็นเสมือนแปลงทดลองปลูกพืชเศรษฐกิจในท้องถิ่น อันได้แก่ มะนาว มะพร้าว ชมพู่เพชร และพืชไร่พืชสวนต่างๆอีกมากมาย มีการขุดบ่อ (หรือในโครงการคือเขื่อน)เก็บกักน้ำ มีกังหันและโซล่าเซลเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า เพื่อเป็นแบบทดลองตัวอย่างแก่เกษตรกรโดยรอบ เพื่อเพิ่มคุณภาพให้ผลผลิตแบบพึ่งพาตัวเอง
หลายคนอาจจะสงสัยถึงชื่อโครงการที่ฟังดูแปลกหู ที่มาของชื่อนี้ มาจากครั้งที่ในหลวงเสด็จมาที่ที่ดินนี้ครั้งแรกๆ มีชาวบ้านเอาหัวมันมาถวาย แต่ในหลวงทรงลืมเอาหัวมันกลับไปด้วย พอเสด็จกลับมาที่ที่ดินนี้อีกครั้ง หัวมันนั้นก็เริ่มงอกขึ้นมา เมื่อถึงเวลาพระองค์ได้พระราชทานชื่อโครงการนี้ว่า "โครงการชั่งหัวมัน" สะท้อนถึงพระราชอารมณ์ขันโดยแท้ แต่อีกนัยหนึ่งก็คือ ถึงแม้หัวมันจะอยู่บนตาชั่ง ไม่มีดิน ไม่มีน้ำ ก็ยังงอกได้ เพราะฉะนั้น ที่ดินที่นี่ก็ต้องปลูกพืชขึ้นได้เช่นกัน ถ้าเรารู้วิธี อยากให้ทุกคนมาที่ยวชมดู จะได้สร้างเสริมความรู้และความสนุกสมดั่งชื่อของโครงการ
• วาฬบรูด้า หาดบ่อนอก - ดูเจ้าปลาวาฬ หนึ่งในพันธุ์ที่หายากที่สุดในโลก
วาฬบรูดาที่หาดบ่อนอก เป็นสัตว์เลือดอุ่นเลี้ยงลูกด้วยนมที่ใกล้จะสูญพันธุ์ มักแหวกว่ายมาหาอาหารและอวดพฤติกรรมการกินของมันที่หาดบ่อนอกแห่งนี้ เราจะมีโอกาสเห็นได้ราวเดือน ส.ค.- ต.ค. ลักษณะลำตัวมีสีเทาดำ จุดเด่นอยู่ที่ครีบหลัง มีรูปโค้งอยู่ค่อนไปทางด้านปลายหาง แพนหางวางตัวตามแนวราบ และมีรอยเว้าเข้าตรงกึ่งกลาง ครีบคู่หน้ามีปลายแหลม.....อยากให้พาเด็กๆมาดูตัวจริงสักครั้ง มาสร้างเสริมประสบการณ์อันมีค่านอกห้องเรียน
• ฝูงค่างแว่นถิ่นใต้ เขาล้อมหมวก อ่าวมะนาว - เจ้าค่างตัวน้อยที่จะมาเป็นขวัญใจตัวใหม่ของคุณ
เจ้าค่างแว่นเป็นสัตว์ตระกูลลิงที่อาศัยเฉพาะในป่าดงดิบทางภาคใต้ของประเทศไทย วันนี้มันได้กลายเป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยว ณ กองบิน ๕๓ บริเวณเขาล้อมหมวก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าพ่อเขาล้อมหมวกอันเป็นที่เคารพบูชาของประชาชนทั่วไป ฝูงค่างแว่นจำนวนนับร้อยที่นี่ นิสัยน่ารักและเป็นมิตร เมื่อเห็นนักท่องเที่ยวเดินทางมาก็จะลงมานั่งใกล้ ๆ คอยรับอาหารจากมือ โดยปกติพวกมันจะลงมาในตอนเช้าและกลับขึ้นป่าเมื่อแสงดวงอาทิตย์เริ่มร้อนเพื่อหลบแสงแดด บางครั้งอาจจะลงมาในตอนเย็นก่อนค่ำ
โซน 4 เที่ยวท่องล่องชมวิถีชุมชน มีสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่น่าสนใจเช่น
• ตลาดโบราณระแหง 100 ปี ปทุมธานี - เดินชมตลาดรางวัลดีเด่น
ตลาดโบราณระแหง 100 ปี ปทุมธานีได้รับรางวัลชุมชนอนุรักษ์ดีเด่น จากสมาคมสถาปนิกสยาม สิ่งที่พลาดไม่ได้เมื่อมาถึงคือ แวะร้าน แป โภชนา ซึ่งเปิดขายมาเกือบ 70 ปี กินปลาช่อนแดดเดียว ต้มยำขาหมู แล้วต้องต่อด้วย “กวยบะ” คล้ายปอเปี๊ยะ คล้ายหอยจ้อ แต่ทำจากเนื้อหมู เป็นอาหารแต้จิ๋วที่ว่ากันว่าหากินในไทยได้ที่นี่ที่เดียวเท่านั้น
• ตลาดน้ำคลองบางน้อย วัดเกาะแก้ว อ.บางคณฑี สมุทรสงคราม - ชมวัตถุโบราณล้ำค่าจากใต้แม่น้ำแม่กลอง
ชมพิพิธภัณฑ์ตั้งเซียมฮะ หรือ “บ้านไหพันใบ” ที่รวมข้าวของเครื่องใช้ในสมัยโบราณกว่า 3,000 ชิ้น ที่เก็บได้จากแม่น้ำแม่กลอง ห้องแถวที่นี่ปลูกด้วยไม้เรียงรายเลียบคลอง บ้านเรือนเก่าแก่ งดงาม ยังไม่สร้างใหม่ด้วยปูน ให้อารมณ์ที่พึงถวิลหานัก แล้วอย่าลืมชิม โรตีแต้จิ๋ว เจ้าเดียวในประเทศไทย
• บ้านบางเสด็จ อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง - ชื่นชมวิถีชีวิตวัฒนธรรม ผ่านการบอกเล่าจากเหล่าตุ๊กตาตัวน้อย
บ้านบางเสด็จ (ศูนย์ตุ๊กตาชาววังในพระบรมราชินูปถัมภ์) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ซึ่งสมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงส่งเสริมให้ชาวบ้านทำตุ๊กตาชาววังเป็นอาชีพเสริม ภายในหมู่บ้านบางเสด็จนี้ นอกจากจะได้ชมทัศนียภาพอันร่มรื่นและสวยงามริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาแล้ว ยังสามารถชมการปั้นตุ๊กตาชาววังจากบ้านเรือนราษฎรละแวกนั้นได้อย่างเป็นกันเอง ตุ๊กตาชาววังเป็นประดิษฐกรรมดินเหนียวที่สวยงาม แสดงให้เห็นวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนและวัฒนธรรมประเพณีไทยต่างๆเช่น การปั้นเป็นรูปการละเล่นของเด็กไทย วงมโหรีปี่พาทย์ หรือรูปผลไม้ไทยหลากหลายชนิดซึ่งล้วนมีความสวยงามน่ารักและเหมาะที่จะซื้อเป็นของฝากหรือของที่ระลึกเป็นอย่างยิ่ง
โซน 5 เที่ยวเมืองเก่าเล่าประวัติศาสตร์ มีสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่น่าสนใจเช่น
• วัดนางกุย จ.พระนครศรีอยุธยา - สักการะหลวงพ่ออารมณ์ดีแห่งอยุธยา
หลวงพ่อยิ้ม เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่แกะจากไม้สักทอง และลงรักปิดทอง จากคำบอกเล่าของคนเก่าแก่ว่า สมัยก่อน หลวงพ่อยิ้มได้ลอยมาตามแม่น้ำเจ้าพระยามาติดอยู่หน้าวัด ทางเจ้าอาวาสจึงได้อัญเชิญหลวงพ่อยิ้มมาประดิษฐานตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
• พายเรืออีโปง ล่องแม่น้ำที่สุพรรณบุรี - ชื่นชมวิถีชีวิตชาวสุพรรณริมแม่น้ำ
ล่องเรือรับลมให้เย็นใจไปในท่ามกลางสองฝั่งแม่น้ำสุพรรณบุรี ผ่านโรงสีหลายแห่ง บ่งบอกให้รู้ว่าย่านนี้อุดมสมบูรณ์ด้วยนาข้าว เห็นชาวบ้านนั่งตกปลา บ้างก็ลอยเรือมาทอดแห สมกับคำว่า “ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว” จริงๆ เรือจะผ่าน “เรือนไทยสาคร” เรือนไทยอายุนับร้อยปี ที่เต็มไปด้วยข้าวของเครื่องใช้โบราณ ให้คนรุ่นหลังได้ชมและเรียนรู้ความเป็นมาของสิ่งเหล่านั้น สามารถเลือกพักโฮมสเตย์ได้ เพื่อสัมผัสวิถีไทยเดิมอย่างลึกซึ้ง หลังจากนั้นจะหัดพายเรืออีโปง หรือเดินเก็บผลไม้ในสวนก็ได้
• บางแม่หม้าย อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี – บ้านไทยไร้รั้วกั้น แต่อยู่กันได้อย่างสุขใจ
โฮมสเตย์เรือนไทยอายุกว่า 100 ปี กว่าร้อยหลัง เชื่อมต่อกันด้วยชานแล่นจากบ้านสู่บ้านโดยไม่ต้องเหยียบพื้น แสดงถึงความสัมพันธ์ฉันพี่น้องที่รั้วบ้านไม่มีความจำเป็น และยังแก้ปัญหาการสัญจรเวลาน้ำท่วมได้ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมนั่งรถอีแต๋นชมทุ่ง ลงเรือมาดชมคลองและอย่าลืมซื้อไม้กวาด 100 ปี ของดีประจำตำบล ในปี 2550 ชุมชนนี้ยังได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ประเภทรางวัลชุมชนดีเด่นทางด้านการท่องเที่ยวอีกด้วย
โซน 6 ผจญภัยหัวใจสีเขียว มีสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่น่าสนใจเช่น
• เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา จ.ลพบุรี - ชมน้ำหยดแรกก่อนไหลลงสู่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
ชมน้ำตกสามสายต้นกำเนิดของน้ำหยดแรกจากลำน้ำสนธิที่ไหลลงสู่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ แล้วมานั่งรถอีต๊อก ล่องแพ มุดถ้ำ ย่ำน้ำตก ชมทุ่งดอกกระเจียวพันธุ์ยักษ์ เรียนรู้พืชพรรณไม้นานาชนิด ดูนกและผีเสื้อ นอนดูดาวกลางผืนป่าที่สมบูรณ์ที่สุดของลพบุรี ถ้านักท่องเที่ยวคนไหนโชคดีอาจได้เจอร่องรอยเลียงผาอีกด้วย
• บางตะบูน จ.เพชรบุรี - เรียนรู้วิถีชีวิตชาวเลที่บางตะบูน
ที่นี่เป็นจุดที่แม่น้ำบางตะบูนหรือคลองบางตะบูน ซึ่งแยกสาขาจากแม่น้ำเพชรบุรีบริเวณวัดคุ้งตำหนัก ไหลออกสู่ทะเล ภูมิประเทศทั่วไปเป็นหาดโคลนปกคลุมด้วยป่าชายเลนสมบูรณ์ผืนใหญ่ หมู่บ้านประมงบางตะบูนตั้งเรียงรายอยู่สองฝั่งแม่น้ำบางตะบูน ชาวบ้านส่วนใหญ่ทำประมงพื้นบ้าน เลี้ยงหอยแครง หอยแมลงภู่ บางส่วนก็เผาถ่านไม้โกงกาง หรือเย็บจาก นักท่องเที่ยวสามารถมาชมวิถีชีวิต พร้อมชิมอาหารทะเลสดๆรสชาติอร่อยได้
• ชิมขนมกะเหรี่ยง จ.กาญจนบุรี
ขนมทองโยะ ขนมพื้นบ้านของชาวกะเหรี่ยง หาทานได้ที่ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ทำจาก ข้าวเหนียว งาดำและเกลือ นำไปทอด กรอบนอกนุ่มใน ทานกับนมข้นหวานหรือน้ำผึ้งก็ได้ ยิ่งเพิ่มรสชาติให้อร่อย
นอกจากนี้แล้ว โครงการ “เที่ยวหลากหลายสไตล์ภาคกลาง – ใหม่กว่านี้มีที่ไหน” ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆที่น่าสนใจอีกมาก สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.เที่ยวภาคกลาง.com (
www.tiewpakklang.com) หรือสอบถามข้อมูลการท่องเที่ยวได้ที่ โทร 1672 เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย