ซาบีน่าบุกตลาดชุดชั้นในเด็กเต็มพิกัดรุกเปิดตัว ‘ซาบีนี่ อันเดอร์ เดอะ ซี’ ดันยอด 60 ล้านบาท
ซาบีน่า บุกตลาดชุดชั้นในเด็ก พาคุณหนูลุยโลกใต้ทะเลกับลวดลายบนคอลเลคชั่นใหม่ “ซาบีนี่ อันเดอร์ เดอะ ซี” จับกลุ่มสาวแรกรุ่นอายุ 6-12 ปี มุ่งหน้าสานต่อ โครงการ ซาบีนี่ แคมป์ บาย ซาบีน่า รุ่น 3 ตอน “Under the Sea รหัสลับ...พิทักษ์โลกใต้ทะเล” ตามหาทูตน้อยนักอนุรักษ์ หวังปลูกฝังให้เด็กรักษ์สิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศวิทยา ใต้ท้องทะเล คาดช่วยดันเป้ายอดขายชุดชั้นในซาบีนี่ทั้งปีได้ 130 ล้านบาท
นายอมรเทพ อสีปัญญา ผู้อำนวยการสายงานขาย และการตลาดในประเทศ บริษัทซาบีน่า จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายชุดชั้นในสตรี ภายใต้แบรนด์ “ซาบีน่า” เปิดเผยถึงแผนการทำตลาดชุดชั้นในเด็ก ภายใต้แบรนด์ ซาบีนี่ (Sabinie) ในปีนี้ว่า บริษัทฯ ได้เปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ภายใต้ชื่อ “ซาบีนี่ อันเดอร์ เดอะ ซี” (Sabinie Under The Sea) ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างบริษัทฯ กับบริษัท สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล กรุงเทพ จำกัด ที่จะมุ่งสนับสนุนในเรื่องการเรียนรู้ ชีวิตโลกใต้ทะเล พร้อมทั้งปลูกฝังและสร้างจิตสำนึก ให้มีส่วนช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมใต้ทะเล ให้กับเยาวชน อีกทั้งยังสานต่อแรงบันดาลใจ ออกแบบชุดชั้นในเป็นลวดลายหนูน้อยซาบีนี่ มาพร้อมกับเหล่าผองเพื่อนสัตว์น้ำในโลกแห่งท้องทะเล โดยคอลเลคชั่นดังกล่าวจะจับกลุ่มเด็กผู้หญิงที่มีอายุ ระหว่าง 6-12 ปี วางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม ผ่านช่องทางจำหน่ายในแผนกชุดชั้นในตามห้างสรรพสินค้า และดิสเคาน์สโตร์ทุกสาขาทั่วประเทศ รวมถึงซาบีน่า ช้อปทั้ง 7 สาขาอีกด้วย
ทั้งนี้ ชุดชั้นในคอลเลคชั่น “ซาบีนี่ อันเดอร์ เดอะ ซี” ประกอบด้วยชุดชั้นในสำหรับเด็ก ที่เป็นเสื้อกล้าม แบบครึ่งตัว - เต็มตัว กางเกงขาสั้น วางจำหน่ายในราคา 230 - 300 บาท และกางเกงในบรรจุแพ็ค จำนวน 3 ชิ้น วางจำหน่ายในราคา 290 บาท
ส่วนแผนทำตลาดนั้น บริษัทฯ จะทำกิจกรรมและประชาสัมพันธ์เพื่อสื่อสารการตลาดไปยังกลุ่มลูกค้า เอาใจคุณหนูๆ โดยสานต่อโครงการ Sabinie Camp ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 3 โดยตั้งชื่อกิจกรรมอย่างน่ารัก และ สอดคล้องกับคอลเลคชั่นล่าสุด คือ Sabinie Camp by Sabina รุ่น 3 ตอน “Under the Sea รหัสลับ...พิทักษ์โลกใต้ทะเล” เปิดโอกาสให้คุณหนูๆ ที่มีอายุระหว่าง 6 - 12 ปี โหวตทะเลที่ชื่นชอบและอยากไปท่องเที่ยวมากที่สุด รวมถึงสัตว์ทะเลที่อยากพบมากที่สุด เพื่อคัดเลือกทูตน้อยผู้โชคดี จำนวน 50 คน โดยสามารถรับใบสมัคร เพื่อลงคะแนนโหวตได้ที่ เคาน์เตอร์ซาบีน่า ณ ห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศ หรือ ดาวน์โหลดได้ที่
www.sabina.co.th และส่งใบสมัคร พร้อมรูปถ่ายตัวเอง มาที่ ฝ่ายโครงการ Sabinie Camp เลขที่ 932 ถนนประชาชื่น แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ 10800 หรือทาง Email Address:
sabiniecamp@gmail.com ตั้งแต่วันนี้ – 30 เมษายน 2552 สามารถสอบถาม รายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ Sabina Call Center 02 422 9430
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะประกาศผลฑูตน้อยที่ผ่านการคัดเลือกจำนวน 50 คน ในวันที่ 12 พฤษภาคม 2552 ที่จะได้เข้าร่วมโครงการฯ ดังกล่าว เพื่อได้ร่วมเป็นหนึ่ง ในการเรียนรู้ตะลุยโลกใต้ทะเล และค้นหาความมหัศจรรย์ของธรรมชาติทางทะเล กับหนูน้อย Sabinie ในวันเสาร์ที่ 23 พฤษภาคม 2552 ที่ฐานทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ซึ่งจะทำให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ และมีส่วนช่วยในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และธรรมชาติทางทะเล โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
นอกจากนี้ ยังมีการทำโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย สำหรับผู้ที่สมัคร 100 คนแรก จะได้รับ Sabinie Gift Voucher ใช้เป็นส่วนลดในการซื้อสินค้าชุดชั้นในซาบีนี่ และหากลูกค้าซื้อสินค้าชุดชั้นในซาบีนี่ คอลเลคชั่น อันเดอร์ เดอะ ซี ครบตั้งแต่ 800 บาท หรือสมาชิกซาบีน่า ซื้อครบเพียง 400 บาท รับฟรีซาบีนี่ ไดอารี่ 1 เล่ม ตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม ถึง 31 พฤษภาคม 2552 พร้อมกันนี้ ยังได้ทำโปรโมชั่นต่อเนื่อง ร่วมกับสยาม โอเชี่ยน เวิร์ล ให้กับลูกค้าที่ซื้อชุดชั้นในซาบีนี่ อันเดอร์ เดอะ ซี ตั้งแต่ 800 บาทขึ้นไป รับบัตรส่วนลดในการเข้าชม สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล แบบครอบครัว 1 ชุด หรือบัตรลด 100 บาท จำนวน 4 ใบ 1 ชุด รวมมูลค่าส่วนลดต่อชุด 400 บาท ตั้งแต่วันที่ 27 เมษายนจนถึง 31 กรกฎาคมนี้อีกด้วย
“แผนการทำตลาดชุดชั้นในซาบีนี่ในครั้งนี้ เราได้ตระหนักถึงกลุ่มเยาวชนที่จะเป็นพลังสำคัญในการช่วยกันดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อม จึงต้องการปลูกฝังค่านิยมในเรื่องสิ่งแวดล้อมให้กับเด็กๆ เพื่อในอนาคตตจะได้ร่วมกันดูแลสิ่งแวดล้อมในท้องทะเลไม่ให้ถูกทำลายจนส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์วิทยาของสัตว์น้ำที่อาศัยอยู่ในทะเล” นายอมรเทพ กล่าว
สำหรับเป้าหมายยอดขายชุดชั้นในสำหรับเด็ก “ซาบีนี่” คอลเลคชั่น “อันเดอร์ เดอะ ซี” นั้น บริษัทฯ คาดว่า จะสามารถทำได้ 60 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยผลักดันยอดขายชุดชั้นในภายใต้แบรนด์ซาบีนี่ในปีนี้ที่ตั้งไว้ที่ 130 ล้านบาท ให้ได้ตามเป้าที่วางไว้ ขณะที่คาดว่ายอดขายรวมของบริษัทฯ ในปีนี้จะอยู่ที่ 1,100 ล้านบาท