เอ็ม พิคเจอร์ส คว้า บีม ศรัณญู รับตำแหน่ง Movie Ambassador Crank High Volta
พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน / “เอ็ม พิคเจอร์ส” ปรับแผนโครงสร้างธุรกิจมุ่งสู่ธุรกิจบันเทิงแบบครบวงจร พร้อมลุยภาพยนตร์แอ๊คชั่น เปิดตัว CRANK HIGH VOLTAGE แครงก์ คนคลั่ง.. ไฟแรงสูง ชู “บีม – ศรัณยู” มูฟวี่ แอมบาสซาเดอร์คนแรกของเมืองไทย พร้อมทุ่มงบการตลาดรวมกว่า 100 ล้านบาท หวังดันยอดรายได้รวมทุกธุรกิจพุ่งทยาน 2,000-2,500 ล้านบาท
นายเผด็จ หงษ์ฟ้า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า จากการที่บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีฐานะเป็นบริษัทโฮลดิ้ง ในปี 2551 ที่ผ่านมา ได้มีการรวม กับ บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส จำกัด โดยมี บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ดำเนินธุรกิจการนำเข้าลิขสิทธิ์ภาพยนตร์จากต่างประเทศ เข้ามาบริหารจัดการสิทธิให้กับโรงภาพยนตร์ในลักษณะส่วนแบ่งรายได้ รวมถึงการจำหน่ายลิขสิทธิ์ให้กับผู้ผลิต ดีวีดี วีซีดี บลูเรย์ และการจำหน่ายลิขสิทธิ์ภาพยนตร์แก่ ฟรีทีวี เคเบิ้ลทีวี ซึ่งในการเพิ่ม บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส จำกัด เข้ามานี้ ถือว่าเป็นการปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งสำคัญ โดยมีการเจริญเติบโตทางด้านรายได้เพิ่มขึ้นสูงถึง 116 % จากปี 2550 และสำหรับปี 2551 ที่ผ่านมาบริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์ด้านธุรกิจ ด้านการบริหาร ด้านการบริการ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้รับความพึงพอใจสูงสุด พร้อมมุ่งสู่ธุรกิจบันเทิงด้านภาพยนตร์ที่เป็นสื่อราคาถูก ถือเป็นตัวเลือกในอันดับต้นๆ ของผู้บริโภค นอกจากนี้บริษัทยังมุ่งมั่นที่จะเสาะแสวงหาโอกาสทางธุรกิจที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างครบวงจร โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่ต้นปี 2552 เป็นต้นมา
อนึ่งการดำเนินธุรกิจของ บริษัท เอ็มพิคเจอร์ส จำกัด ในปีนี้จนถึงกลางปีหน้า ซึ่งได้เตรียมทยอยเปิดตัวหนังดังมากมายกว่า 15 เรื่อง และแต่ละเรื่องจะมีการทำตลาดแตกต่างกันออกไป เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคออกมาจับจ่ายใช้สอยกับความบันเทิงราคาถูก ภายใต้ภาพรวมเศรษฐกิจที่ยังไม่เสถียรภาพ โดยล่าสุดได้ทุ่มงบประมาณกว่า 15 ล้านบาท เปิดตัวหนังแอ๊คชั่นฟอร์มยักษ์ CRANK HIGH VOLTAGE แครงก์ คนคลั่ง.. ไฟแรงสูง นำแสดงโดย “เจสัน สเตแธม” (The Transporter, Crank), “เอมี สมาร์ท” (Road Trip, Mirrors) ร่วมด้วยนักแสดงสมทบชื่อดังอย่าง “คลิฟตัน คอลลินส์ จูเนียร์” (จาก STAR TREK ภาคล่าสุด) และ นักแสดงสาวสวยสุดเซ็กซี่ของเอเชีย “ไป่หลิง”...
ทั้งนี้ยังคว้าเอาหนุ่มฮอต “บีม” ศรัณยู ประชากริช ดีเจ นักแสดง และพิธีกรดาวรุ่งชื่อดัง รับหน้าที่มูฟวี่ แอมบาสซาเดอร์คนแรกของเมืองไทย เพื่อเป็นตัวแทนถ่ายทอดเรื่องราวของนักแสดงนำในเรื่อง ผู้มีความเหมาะสมกับบุคลิก และมีภาพลักษณ์พระเอกนักสู้ตามแบบฉบับหนังเรื่อง CRANK HIGH VOLTAGE...แครงก์ คนคลั่ง ไฟแรงสูง
ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำการตลาดแบบ Viral Marketing โดยมีการติดป้ายวลีสั้นๆ ว่า “สงกรานต์นี้.. เล่น “น้ำ” ระวัง “ไฟ”” ทั่วสยามสแควร์ให้คนสงสัย หลังจากนั้นไม่นาน ทางทีมงานจะเผยชื่อ และติดภาพโปสเตอร์หนังเรื่อง CRANK HIGH VOLTAGE แครงก์ คนคลั่ง.. ไฟแรงสูง เพื่อโปรโมทภาพยนตร์ให้ทุกคนได้ร่วมลุ้นความหมายกับประโยคคำพูดสุดระทึก ทั้งยังเน้นการทำกิจกรรมการตลาดกับกลุ่มลูกค้าทางตรง เพื่อให้เกิดกระแสการรับรู้ และสร้างประสบการณ์ร่วม (Movie Experience) ทำให้กลุ่มเป้าหมายร่วมลุ้น อยากติดตามหาคำตอบ ซึ่งจะมีขบวน Crank Gangster มาแจกของที่ระลึก และของรางวัลต่างๆ จากภาพยนตร์ในแหล่งศูนย์รวมวัยรุ่นยอดฮิตมากมาย โดยในช่วงเทศกาลสงกรานต์จะมีการประชาสัมพันธ์ผ่านขบวนดังกล่าวออกมาร่วมตระเวนเล่นน้ำ แจกของที่ระลึกตามสถานที่ต่างๆ อาทิ ถนนสีลม, ถนนข้าวสาร, สยามสแควร์ เป็นต้น โดยมี “บีม” ศรัณยู ประชากริช ดีเจ นักแสดง และพิธีกรดาวรุ่งชื่อดังเข้าร่วมกิจกรรมด้วย ซึ่งภาพยนตร์ดังกล่าวมีกำหนดฉายวันพฤหัสบดีที่ 16 เมษายนนี้ ทุกโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ
CRANK HIGH VOLTAGE
แครงก์ ไฮ โฝลทิจ
จัดจำหน่ายโดย บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส จำกัด
ชื่อภาษาไทย แครงก์ คนคลั่ง..ไฟแรงสูง
เว็ปไซด์
www.crankhighvoltage.comภาพยนตร์แนว แอ็คชั่น
จากประเทศ สหรัฐอเมริกา
กำหนดฉาย 16 เมษายน 2552
ณ โรงภาพยนตร์ ทุกโรงภาพยนตร์
นักแสดง Jaason Statham (The Transporter, The Bank Job),
Amy Smart (Road Trip, Mirrors)
ผู้กำกับ Mark Develdine (Crank, Game), Bryan Taylor (Crank, Game)
จุดเด่น “แครงก์ คนคลั่ง..ไฟแรงสูง” เป็นภาพยนตร์ภาคต่อของภาพยนตร์แอ็คชั่นสุดมันส์ “คนโคม่า วิ่ง / คลั่ง / ฆ่า” กลับมาทวีความคลั่งทะลุขีด การันตีความเดือดด้วยทีมผู้สร้างจากภาคแรกแบบครบทีม พร้อมนักแสดงจอมอึด “เจสัน สเตแธม” ที่กลับมารับบทเดิมอีกครั้ง
เรื่องย่อ
ความดุเดือดครั้งใหม่ปะทุขึ้น เมื่อแก๊งอาชญากรชาวจีนปล้นหัวใจพันธุ์อึดไปจากอกของมือปืนดิบเถื่อนอย่าง เชฟ เชลิออส (เจสัน สเตแธม) แล้วแทนที่ด้วยหัวใจเทียมซึ่งอาศัยพลังงานจากแบตเตอรี่ ด้วยความที่อยากได้หัวใจจริงๆ คืนมา พร้อมกับชำระแค้นหัวขโมยให้สาสม งานนี้มือสังหารตาน้ำข้าวสุดระห่ำจึงต้องไล่ล่าสายฟ้าแลบไปทั่วลอสแองเจลิส ชนทุกอย่างที่ขวางหน้า ใครกล้าขวาง...มันต้องแหลก
CRANK HIGH VOLTAGE
- ข้อมูลงานสร้าง -
เลคชอร์ เอนเทอร์เทนเมนท์ และ ไลออนส์เกต พิกเจอร์ส ภูมิใจเสนอ Crank High Voltage ควบคุมงานสร้างโดย ทอม โรเซนเบิร์ก, แกรี ลุคเคซี, สกิป วิลเลียมสัน และ ริชาร์ด ไรท์ ประสานพลังเขียนบทและกำกับภาพยนตร์โดย มาร์ก เนเวิลดีน และไบรอัน เทย์เลอร์
ความดุเดือดครั้งใหม่ปะทุขึ้น เมื่อแก๊งอาชญากรชาวจีนปล้นหัวใจพันธุ์อึดไปจากอกของมือปืนดิบเถื่อนอย่าง เชฟ เชลิออส (เจสัน สเตแธม) แล้วแทนที่ด้วยหัวใจเทียมซึ่งอาศัยพลังงานจากแบตเตอรี่ ด้วยความที่อยากได้หัวใจจริงๆ คืนมา พร้อมกับชำระแค้นหัวขโมยให้สาสม งานนี้มือสังหารตาน้ำข้าวสุดระห่ำจึงต้องไล่ล่าสายฟ้าแลบไปทั่วลอสแองเจลิส ชนทุกอย่างที่ขวางหน้า ใครกล้าขวาง...มันต้องแหลก
เรื่องราวใน Crank High Voltage เขียนและกำกับโดย มาร์ก เนเวิลดีน กับ ไบรอัน เทย์เลอร์ ซึ่งอยู่เบื้องหลัง Crank หนังสุดฮิตในปี 2006 รวมไปถึงหนังที่กำลังจะเข้าฉายเรื่อง Game (นำแสดงโดย เจอราร์ด บัตเลอร์)
เจสัน สเตแธม (The Transporter, The Bank Job) กลับมารับบทนำเป็นมือปืนสุดระห่ำ เชฟ เชลิออส อีกครั้ง นอกจากนี้ นักแสดงที่เคยรับบทในภาคแรกเมื่อปี 2006 ไม่ว่าจะเป็น เอมี สมาร์ท (Road Trip, Mirrors) ในบท อีฟ, ดไวท์ โยแค่ม (Sling Blade) ในบท ด็อกเตอร์ ไมลส์ และ เอเฟรน รามิเรซ (Napoleon Dynamite) ต่างก็กลับมารับบทเดิมในหนังภาคต่อเช่นกัน พร้อมด้วยนักแสดงสมทบความดุเดือดอย่าง คลิฟตัน คอลลินส์ จูเนียร์ (Capote, ภาคก่อนของ Star Trek ซึ่งกำลังจะเข้าฉาย) และ ไป่หลิง (Red Corner, Love Ranch ที่กำลังจะได้ชมกัน)
ทีมเบื้องหลังอื่นๆ ได้แก่ แบรนดอน ทรอสต์ (ผลงานที่กำลังจะออกฉายคือ Pulse 2) รับหน้าที่ผู้คุมงานภาพ, เจอร์รี เฟลมมิง (Crank และผลงานที่กำลังจะออกฉายคือ Game) รับหน้าที่ผู้ออกแบบงานสร้าง และ เดย์นา พิงค์ (Tenacious D in the Pick of Destiny) เป็นผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย
Crank High Voltage จัดจำหน่ายในอเมริกาเหนือโดย ไลออนส์เกต และจัดจำหน่ายทั่วโลกโดย เลคชอร์ เอนเทอร์เทนเมนท์
เรื่องย่อ
Crank High Voltage เริ่มต้นก็บู๊ระห่ำต่อจากไคลแม็กซ์ของ Crank ทันที นั่นคือ หลังจากที่ เชฟ เชลิออส (เจสัน สเตแธม) มือปืนท้าตายไร้สังกัดทิ้งดิ่งจากเฮลิคอปเตอร์ลงมานอนแน่นิ่งอยู่บนสี่แยกอันแสนวุ่นวายใจกลางกรุงลอสแองเจลิส ร่างที่ยับเยินของเขาก็ถูกยัดใส่ท้ายรถตู้ของแก๊งอาชญากรจากเอเชีย
สามเดือนต่อมา เชฟตื่นขึ้นอีกครั้งในขณะที่นอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียงผ่าตัด อันเป็นเตียงเดียวกับที่ศัลยแพทย์ชาวจีนเคลื่อนย้ายหัวใจของเขาและปลูกถ่ายหัวใจเทียมซึ่งอาศัยพลังงานจากแบตเตอรี่เข้าไปแทน
เขานอนนิ่งเพื่อประเมินสถานการณ์เลวร้ายอยู่สักพัก ก็ลุกขึ้นมาลุยแหลกจนหลุดพ้นออกมาจากการถูกกักตัวได้ และนี่คืออีกครั้งที่เขาต้องวิ่งเพื่ออยู่รอด
ทว่าสถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก หลังจากที่เชฟรู้ว่าหัวใจเทียมนั้นมีอายุการใช้งานจำกัดถ้าไม่ชาร์จแบตเตอรี่สม่ำเสมอ แต่เขากลับซวยทำเข็มขัดติดตั้งแบตเตอรี่หาย จึงต้องพึ่งอุปกรณ์ชิ้นใหม่ของเพื่อนซี้ ด็อกเตอร์ ไมลส์ (ดไวท์ โยแค่ม) ก่อนจะลุยต่อไปบนเส้นทางของความอยู่รอด พร้อมๆ กับชาร์จไฟให้หัวใจทุกวิถีทาง ตั้งแต่เอานิ้วแหย่ปลั๊กไฟไปจนถึงเสียดสีร่างกาย ทุกๆ อย่างเป็นไปได้ทั้งนั้น
ตลอด 12 ชั่วโมงของวันในฤดูร้อนอันแสนบ้าคลั่ง เชฟซอกแซกตามหาหัวใจที่ถูกฉกไปทั่วทั้งเมือง ระหว่างทาง พอได้พบกับแฟนสาวคนเดิม คือ อีฟ (เอมี สมาร์ท) ก็เกี่ยวเธอมาร่วมเสี่ยงตายด้วย เขาวิ่งทะลุทะลวงจนวายป่วงไปทั้งเมือง มีปฏิสัมพันธ์กับทั้งหมู่มิตร ศัตรูคู่อาฆาต หรือแม้แต่คนบ้า โดยที่ใครหรืออะไรที่ขวางหน้าเป็นต้องพินาศไปตามๆ กัน
แต่กระนั้น ศัตรูตัวร้ายก็ยังดาหน้าเข้ามา ไม่ว่าจะเป็น หนุ่มแม็กซิกันทรงเสน่ห์หัวหน้าแก๊งอาชญากร เอล อูรอน (คลิฟตัน คอลลินส์ จูเนียร์) ผู้ซึ่งยึดถือความสัตย์ซื่อเป็นกฎเหล็ก รวมไปถึงสมุนของแก๊ง ลอส วาโตส ภายใต้คำสั่งของ เอล อูรอน และองค์กรลับจากแดนมังกร นำโดยชายชราปริศนาอายุร่วมร้อยปี นามว่า ปุน ด็อง (เดวิด คาราดีน)
กว่าจะเป็นภาพยนตร์
ในส่วนของการสร้างภาพยนตร์เรื่อง Crank High Voltage ทีมผู้สร้างต้องแบกภาระหนักหน่วงเป็นอย่างยิ่ง นั่นคือ ความเหนือชั้นกว่า Crank ภาคแรก ทั้งมุกเด็ด แก่นแท้ สไตล์ภาพที่แปลกแหวกแนว หรือแม้แต่รูปแบบ นัน-สต๊อป แอ็กชั่น
เนื่องเพราะ Crank ในปี 2006 ประสบความสำเร็จถล่มทลายจากการที่ผู้ได้ชมในโรงภาพยนตร์พูดกันไปปากต่อปาก – ซึ่งปัจจุบันได้ก้าวขึ้นสู่ทำเนียบหนังคัลต์สุดคลาสสิกไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย – คู่หูผู้สร้างสรรเรื่องราว คือ มาร์ก เนเวิลดีน และ ไบรอัน เทย์เลอร์ พอใจมาก ถึงขนาดอยากจะสืบสานเรื่องราวของมือปืนรับจ้าง เชฟ เชลิออส ต่อไป
มาร์ก เนเวิลดีน ทบทวน “ทีมผู้คุมงานสร้างตื่นเต้นกับความสำเร็จของ Crank มากจริงๆ ครับ” ไบรอันกล่าวเสริม “ตอนที่ Crank เข้าฉายในโรง มันเจ๋งมากทีเดียว ต่อมา พอหนังกลายเป็นดีวีดี มันยิ่งเจ๋งเกินคาดขึ้นไปอีก เราทุกคนตื่นเต้นกันใหญ่ และเริ่มคิดว่าจะต้องสร้างภาคต่อเสียแล้ว”
เทย์เลอร์ยอมรับว่าแรกเริ่มเดิมทีเขากับเนเวิลดีนไม่เคยคาดหมายเลยว่าจะได้ลงลึกคลุกคลีกับหนังภาคต่อขนาดนี้ “อันที่จริงแล้ว เราเขียน Crank 2 ขึ้นมาเพื่อให้ใครสักคนกำกับน่ะครับ” เทย์เลอร์เล่า “เราเขียนบทขึ้นมาตามที่ได้รับมอบหมาย คือคิดแค่ว่าต้องตั้งใจเขียนให้เต็มที่ เสร็จแล้วก็ไปทำอย่างอื่นต่อ แต่ก่อนที่จะเขียนบทเสร็จ เรากลับทั้งรักทั้งหวงมัน ถึงขนาดไม่อยากให้ใครมาแตะต้องมันเลย ในที่สุดก็กลับไปที่เลคชอร์แล้วบอกไปตรงๆ ว่า ‘เราอยากทำหนังเรื่องนี้ เราจำเป็นต้องกำกับมันด้วยตัวของเราเอง เพราะไม่มีใครกำกับได้แน่ๆ’ นั่นคือจุดเริ่มต้นของทุกอย่างครับ ต่อมาบทก็มีชีวิตโลดแล่นทันที”
“ในส่วนของ Crank ภาคแรก มาร์กและไบรอันแค่อยากทำหนังสักเรื่องที่พระเอกตายตอนจบและคนดูต้องไม่เชื่อว่าเรื่องราวเหล่านั้นจะเกิดขึ้นได้จริง” นี่เป็นคำบอกเล่าของผู้คุมงานสร้าง สกิป วิลเลียมสัน ผู้ซึ่งผลักดันส่งเสริม เนเวิลดีน และ เทย์เลอร์ มาตั้งแต่แรกเริ่ม รวมถึงพาทั้งสองไปพูดคุยกับทางเลคชอร์ “พวกเขาเป็นสุดยอดนักเขียนอยู่แล้วครับ น่าจะสรรหาไอเดียใหม่ๆ มาใส่ในหนังเรื่องที่สองได้ง่ายๆ และในที่สุด พวกเขาก็พาหนังภาคต่อไปถึงจุดสูงสุดได้จริงๆ”
อย่างไรก็ตาม ในตอนจบของ Crank เชฟ เชลิออส ดับดิ้นสิ้นชีวิตไปแล้ว ดังนั้น หนังจะเริ่มจากตรงไหนและดำเนินไปอย่างไร นั่นคือความท้าทายสำหรับเนเวิลดีนและเทย์เลอร์เป็นอย่างยิ่ง
“สำหรับ Crank High Voltage เราไม่ต้องการหนังที่ย้อนไปเล่าเรื่องราวส่วนนั้นส่วนนี้ก่อนที่เขาจะตาย หรือแบบที่การตกลงมาจากเฮลิคอปเตอร์คือฝันไปนี่ก็ไม่เอา และที่ไม่เอาแน่ๆ คือสร้างหนังภาคก่อนย้อนไปถึงเรื่องราวตอนที่เขาเป็นเด็กๆ” เนเวิลดีนชี้แจง “แต่เราอยากให้หนังเรื่องนี้เป็นภาคต่อจริงๆ คือเริ่มขึ้นที่ตอนจบของภาคแรกน่ะครับ ดังนั้น ฉากแรกใน Crank High Voltage จะต้องเป็นฉากสุดท้ายใน Crank และจากนั้นเรื่องค่อยดำเนินต่อไป”
ผู้คุมงานสร้าง เดวิด รูบิน อธิบาย “ตราบที่คนดูเชื่อมั่นว่าพระเอกยังมีชีวิตอยู่ โอกาสที่จะมีหนังภาคต่อก็ยังเป็นไปได้สูง มาร์กกับไบรอันเป็นพวกมีความบ้าหลุดโลกอยู่ในตัวครับ พวกเขาอยู่กับมันจนชิน แล้วก็ดึงความบ้านั้นมาใช้ในงาน บทภาพยนตร์เรื่องนี้ไงครับสะท้อนความบ้าหลุดโลกของทั้งคู่ออกมาเต็มๆ คือจริงๆ แล้วถ้ามองย้อนไปที่ Crank ก็จะเห็นว่าความตายน่ะเป็นแค่สภาวะหนึ่งของจิตเท่านั้นเองครับ เมื่อตอนที่ใครต่อใครบอกกับเนเวิลดีนและเทย์เลอร์ว่าไม่มีทางสร้างภาคต่อได้หรอก นั่นกลับยิ่งกลายเป็นแรงผลักดันให้ทั้งคู่รีบคิดรีบทำให้สำเร็จ ซึ่งไม่ใช่แค่สำเร็จเท่านั้น แต่สำเร็จอย่างดีเยี่ยมและไม่ต้องทุ่มทุนสร้างมหาศาลเสียด้วย”
ในส่วนของเนเวิลดีนและเทย์เลอร์นั้น การเขียนบท Crank High Voltage ถือว่าง่ายกว่าภาคแรกเสียอีก หลักๆ ก็เพราะไม่จำเป็นต้องสร้างโลกใบใหม่ให้ตัวละครโลดแล่น เนื่องจากโลกใบเดิมเป็นรูปเป็นร่างเหมาะสมกับเรื่องราวดีอยู่แล้ว
ไบรอัน เทย์เลอร์ อธิบายว่า “ถ้าพูดถึงต้นฉบับภาคแรก เราไม่รู้หรอกครับว่า เจสัน สเตแธม เป็นผู้ชายแบบไหน หรือ เอมี สมาร์ท เป็นผู้หญิงยังไง หรือแม้แต่เอเฟรนและนักแสดงคนอื่นๆ ก็ตามเถอะ ว่ากันง่ายๆ ก็คือเราสร้างตัวละครแต่ละตัวขึ้นมาจากความไม่รู้ ตัวละครที่สเตแธมรับบทในภาคแรกน่ะเป็นผู้ชายใช้ชีวิตในแอลเอ เราไม่ได้ตั้งใจให้เขาเป็นหนุ่มอังกฤษหรอกครับ แต่แล้วเราหาหนุ่มอเมริกันดุๆ เถื่อนๆ ที่สมบทบาทไม่ได้ ก็เลยต้องข้ามน้ำข้ามทะเลไปดึงตัวเขามา พอมาถึงภาคต่อ ทุกอย่างลงตัวขึ้นครับ เพราะเราเขียนบทเฉพาะเจาะจงไปที่เจสัน เขาไม่ต้องทำอะไรมากเลยแค่ฆ่าและฆ่าเท่านั้น ส่วนตัวละครอื่นๆ ก็คล้ายๆ กันครับ ทุกอย่างดูง่ายไปหมดเหมือนขี่จักรยานลงมาจากเนินเขา เพราะเรารู้แล้วว่ากำลังเขียนอะไรเพื่อใคร นักแสดงทุกคนรู้จักตัวละครของพวกเขา ส่วนเราก็รู้จักตัวละครแต่ละตัวเป็นอย่างดี งานนี้เราเขียนบทให้ตัวละครพูดกับตัวเองซะเป็นส่วนมากครับ อะไรก็ตามที่เจสันพูดจะสื่อว่าเขาเป็นผู้ชายธรรมดาๆ คนหนึ่ง ซึ่งเราไม่ได้เขียนไว้ในภาคแรกเลยแม้แต่นิดเดียว”
ในขณะที่เนเวิลดีนกล่าวถึงการเขียนบทว่า สิ่งหนึ่งที่พวกเขาต้องการทำคือขยายทุกๆ องค์ประกอบของเรื่อง – ไม่ว่าจะเป็นฉากแอ็กชั่นหรือฉากเซ็กส์ก็ตาม – ซึ่งจะผสมกลมกลืนไหลลื่นไปกับอารมณ์ขันในแบบเฉพาะของพวกเขา “แก่นแท้ของ Crank High Voltage” เนเวิลดีน อธิบายต่อ “คือเรื่องราวของชายที่พยายามตามหาหัวใจของตัวเอง เขาพุ่งทะยานไปข้างหน้าก็เพราะอยากได้หัวใจของตัวเองคืนมา ใครๆ ก็ต้องตามหาหัวใจตัวเองกันทั้งนั้นไม่ใช่หรือครับ?”
นักแสดง
แรกเริ่มเดิมที สตูดิโอและทีมผู้สร้างภาพยนตร์ตระหนักดีว่าการสร้างภาคต่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคต่อที่เริ่มต้นจากฉากสุดท้ายของหนังภาคแรก ย่อมจำเป็นต้องใช้นักแสดงชุดเดิม ที่สำคัญคือ นักแสดงบู๊ระห่ำจากเกาะอังกฤษ เจสัน สเตแธม
“ถ้าให้กล่าวถึงเจสัน เราเชื่อครับว่ากำลังกำกับหนังที่เขาเองก็อยากร่วมแสดง” มาร์ก เนเวิลดีน เล่า “เวลาที่เราเขียนบทเฉพาะเจาะจงให้ใครสักคนแสดง ต้องหวังอยู่แล้วครับว่าจะได้นักแสดงคนนั้นมาร่วมงานด้วยจริงๆ ยิ่งถ้าเป็นหนังภาคต่อด้วยแล้ว ก็ยิ่งจำเป็นต้องได้นักแสดงชุดเดิมกลับมาร่วมงานให้มากที่สุด หรือไม่แน่ว่าคนดูส่วนใหญ่อาจจะไม่ใส่ใจตรงส่วนนี้ก็ได้ครับ”
ไบรอัน เทย์เลอร์ กล่าวเสริม “ไม่ต้องสงสัยเลยครับว่าเราตั้งใจเขียนหนังสักเรื่องให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในขณะเดียวกันก็หวังไปด้วยว่าถ้าเรารักมัน ทุกๆ คนก็คงจะรักมันด้วยเหมือนกัน อย่างเจสันนี่ หลังจากที่เขาได้บทไปแล้ว เขาส่งข้อความเป็นประโยคเด็ดๆ ในบทมาหาเราวันละเจ็ดสิบแปดสิบข้อความทีเดียว เรียกว่าคลั่งไคล้บทของเราจนแทบจะเป็นบ้าไปเลย เจสันบอกกับเราว่า Crank คืองานชิ้นหนึ่งที่สนุกที่สุดเท่าที่เคยทำมาในอาชีพนักแสดง อีกอย่างที่อยากให้ใครๆ รู้คือเมื่อไหร่ก็ตามที่พวกผมสองคนรวมทีมกับเจสัน เราจะกลายเป็นทีมที่ทุ่มเทและกระตือรือร้นตลอดเวลาแบบหาตัวจับยากจริงๆ ครับ”
ผู้คุมงานสร้าง สกิป วิลเลียมสัน เผยว่าครั้งแรกที่พูดคุยกับเจสันเกี่ยวกับการสร้างภาคต่อ เจสันยังเหมือนลังเลอยู่บ้าง “แต่พอเราส่งบทให้เขาอ่าน เขากลับมาหาเราแล้วบอกว่า ‘รู้มั้ย! นี่เป็นบทที่เจ๋งที่สุดเท่าที่ผมเคยอ่านมา” วิลเลียมสันยังจำได้ “เขาตกลงแสดงตั้งแต่เดี๋ยวนั้นเลยครับ”
ผู้คุมงานสร้าง เดวิด รูบิน เล่าต่อไปว่า “ผมไม่เคยลืมวันแรกของการถ่ายทำเลยครับ ประหลาดใจมากตอนที่เจสันเข้าฉาก เขาเดินไปหน้ากล้อง พอผู้กำกับฯสั่งแอ็กชั่น เขาก็เปลี่ยนกลับมาเป็นเชฟคนเดิมทันที เหมือนกับเราเพิ่งถ่ายทำหนังภาคแรกเสร็จไปเมื่อวานยังไงยังงั้น ผมงงเป็นไก่ตาแตกไปเลยที่เห็นเขากลายร่างกลับมาเป็นตัวละครแบบสายฟ้าแลบ”
ไม่ว่าจะเป็น Crank หรือภาพยนตร์อีกหลายๆ เรื่อง สเตแธมผู้มีทักษะทางกีฬาชั้นเลิศ รักการผจญภัย รวมถึงเป็นอดีตนักกีฬากระโดดน้ำทีมชาติอังกฤษ จะสนุกสนานเป็นอย่างยิ่งเมื่อมีโอกาสแสดงบทเสี่ยงตายด้วยตัวเอง
หลังจากที่ได้เจสันกลับมาเป็นตัวยืน นักแสดงดาวเด่นอีกคนอย่าง เอมี สมาร์ท ซึ่งเคยรับบท อีฟ ไลดอน แฟนสาวของ เชฟ เชลิออส ก็กลับสมทบ โดยที่บทบาทและเรื่องราวของเธอจะก่อให้เกิดการพลิกผันในหนังภาคต่อนี้ด้วย กล่าวคือ ตลอดระยะเวลาสามเดือนที่ไม่มีเชฟอยู่เคียงข้าง เป็นช่วงเวลาอันโหดร้ายสำหรับอีฟมากทีเดียว ต่อเมื่อเชฟกลับมาหา เขาถึงได้รู้ว่าเธอต้องทำมาหาเลี้ยงชีพด้วยการเป็นนางระบำเปลื้องผ้าในบาร์โกโรโกโส มิหนำซ้ำ ยังต้องออกเดตกับตัวน่ารังเกียจอย่าง แรนดี ซึ่งรับบทโดย คอรีย์ ไฮม์
“ตัวละครของ เอมี สมาร์ท จะพัฒนาไปจากภาคแรกเป็นอย่างมาก” เนเวิลดีนบอก “เธอไม่เคยลืมเขาเลยครับ เธอยังตระหนักอยู่เสมอว่าครั้งหนึ่งเคยมีความสุขกับผู้ชายดิบเถื่อน และค่อยๆ ซึมซับความเถื่อนนั้นทีละเล็กละน้อย หลังจากที่เธอคิดว่าเขาคงตายไปแล้ว ก็เริ่มเลี้ยงดูตัวเองอย่างจริงจัง ตัดสินใจเต้นกินรำกินอยู่ในบาร์เปลื้องผ้าเพื่อแลกกับเงินสองพันดอลล่าร์ต่อคืน ที่สำคัญ เธอเคยเห็นแฟนหนุ่มบู๊ล้างผลาญมาแล้วจนชินตา ต่อมาก็เริ่มพัฒนาทักษะบู๊ของตัวเองจนกระทั่งได้ที่และใช้ได้จริง”
“เธอมีพัฒนาการอย่างชัดเจนค่ะ” สมาร์ทกล่าว “เธอไม่ใช่เต่าที่หดหัวอยู่แต่ในกระดองอย่างภาคแรกอีกแล้ว เธอเติบโตขึ้นมาก กล้าคิดกล้าทำมากขึ้นด้วย และลองทำทุกอย่างที่เคยเห็นเชฟทำ เธอกลายเป็นพวกเถื่อนถ่อยและมีความสุขกับสิ่งที่เธอเป็นค่ะ”
“พวกเราประทับใจเอมีมากจริงๆ ครับ เธอทำหลายสิ่งหลายอย่างใน Crank ภาคแรกซึ่งไม่เคยทำในหนังเรื่องไหนมาก่อน” เทย์เลอร์เผย “พอมาถึง Crank High Voltage เราเพิ่มพลังให้กับตัวละครที่เธอแสดงจนแข็งแกร่งขึ้นอีกมากครับ”
สมาร์ทเล่าต่อ “จริงๆ แล้วที่เธอดิบเถื่อนและเติบโตขึ้นกว่าเก่าน่ะก็เพราะเธอรู้สึกเหมือนถูกทรยศโดยผู้ชายที่เธอไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่าเขาทำงานอะไร แค่แวะมาหาแล้วก็ไป เป็นอย่างนี้มาตลอดค่ะ แต่เธอก็ยังเห็นโลกเป็นสีชมพูไม่เคยเปลี่ยน ถึงแม้ว่าเธอจะตกอยู่ในดงอันตราย ก็ไม่เข้าใจหรอกค่ะว่านั่นคืออันตราย”
“นอกจากนี้ เอมีก็ยังรู้สึกดีมากที่ได้ร่วมงานกับเจสัน” สกิป วิลเลียมสัน บอก “พวกเขาเข้ากันได้เป็นอย่างดีครับ ในเมื่อเจสันกลับมาแสดงอีกครั้ง นั่นแสดงว่าหนังภาคที่สองก็จำเป็นต้องมีเธอด้วยเช่นกัน เราสร้างหนังภาคต่อโดยไม่มีเธอไม่ได้ หรือถ้าจะให้เปลี่ยนแฟนสาวของเชฟเป็นคนใหม่ ผมว่าหนังคงดูบ้าบอมากทีเดียว ก็เธอกับเจสันน่ะผูกพันกันเหนียวแน่นจนแยกกันไม่ออกแล้วนี่ครับ เนเวิลดีนและเทย์เลอร์เป็นคนบอกเธอเกี่ยวกับบทบาทที่ต้องแสดง และอธิบายให้เธอฟังว่าเรื่องราวจะเต็มไปด้วยอารมณ์ขัน แต่ไม่ไร้สาระหรือต่ำต้อยด้อยค่า ต้องบอกว่านี่เป็นหนังที่สนุกสุดยอดจริงๆ นะครับ ที่สำคัญคือ เธอเข้าใจมุกต่างๆ ของเรา เพราะแต่เดิมเธอเป็นนักแสดงตลกอยู่แล้วนั่นเอง”
“เธอเป็นนักแสดงตลกชั้นเยี่ยม เธอมองเห็นอารมณ์ขันที่แทรกอยู่ในหนัง” รูบินกล่าวเสริม “เธอยอมรับอารมณ์ขันในบทได้ เข้าใจโทนเรื่องของ Crank ภาคนี้เป็นอย่างดีครับ ในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเจสันก็เติบโตมั่นคงมาก มองแล้วเห็นแต่ความสดชื่นร่าเริงกับความสนุกสนาน รับรองว่าคนดูจะต้องหัวเราะคิกๆ แน่ๆ ตอนที่เห็นทั้งคู่เข้าฉากร่วมกัน”
“เหตุจูงใจที่พาฉันกลับมาแสดงในหนังภาคต่อก็ไม่ต่างจากตอนที่ตัดสินใจแสดงในภาคแรกหรอกค่ะ” สมาร์ทเผย “ไม่ว่าจะเป็นความอุกอาจ ความสนุก หรือแม้แต่ความเป็นที่สุดของที่สุด ที่สำคัญ ไม่มีช่วงเวลาหมองหม่นเลย นอกจากนี้ เราคือผู้กำหนดตัวเองว่าจะทำทุกอย่างเองหรือไม่ทำอะไรเลย สุดท้าย ฉันก็ทุ่มให้หนังสุดตัวไปเลยค่ะ ฉันตัดสินใจแสดงฉากเสี่ยงตายหลายๆ ฉากด้วยตัวเอง ส่วนหนึ่งก็เพราะฉันเห็นว่าน่าสนุกดีออก หนังเรื่องนี้เหมือนหยิบหนังภาคแรกมาคูณสิบน่ะค่ะ ฉันได้เต้นระบำเปลื้องผ้า ได้ทำท่าทางเลียนแบบภาพในตำรากามสูตรบนหลังม้า แถมยังได้เตะก้นแรนดีอีกต่างหาก ส่วนที่นอกเหนือไปจากนี้ก็คือต้องทุ่มเทแรงกาย เสี่ยงตายกันตลอดเวลาค่ะ แต่ทั้งหมดที่กล่าวมา ฉันสนุกนะ สนุกมากจริงๆ รอบๆ ตัวมีแต่นักแสดงชายทั้งนั้น สนุกมากค่ะที่ได้กลับมาแสดงอีกครั้ง เรียกว่าเป็นสุดยอดแห่งการผจญภัยก็ได้ค่ะ”
