เรื่องย่อ: ดอกแก้ว
บทประพันธ์โดย : ส.อาสนจินดา
กำกับการแสดงโดย : สยาม น่วมเศรษฐี
ผลิตโดย : คำพอดี
ออกอากาศทุกวันจันทร์ - อังคาร เวลา 20.30 น. ทางช่อง 7 สี
เรื่องย่อ
เจ้าพระยาวงษานุวัติ หรือ วงศ์ วงษา บุรุษหนุ่มใหญ่อายุประมาณ 40 ปี มีตำแหน่งเป็นเจ้าเมืองพิจิตรเป็นพ่อม่ายเมียตาย เหลือลูกชายไว้ต่างหน้าคนหนึ่งคือ วันชัย ซึ่งถูกส่งเรียนเมืองนอกตั้งแต่เล็ก เจ้าคุณนั้นด้วยความเป็นม่ายตั้งแต่ยังหนุ่ม จึงได้แม่ช้อย เด็กรับใช้ในบ้านเป็นเมีย แต่ไม่ได้ยกย่องเสมอคุณหญิงภรรยาที่ตายไป แม่ช้อยนั้นยังอายุน้อย เจ้าชู้ จริตจะก้านแพรวพราวมีความทะเยอทะยานมักใหญ่ใฝ่สูง จึงได้เป็นชู้กับ หลวงมนูกิจธรรม ทนายความหนุ่มเจ้าเล่ห์ของเจ้าคุณวงษานั่นเอง วันหนึ่งเจ้าคุณได้ไปพักร้อนที่บ้านดงเมือง เพชรบูรณ์ พร้อมกับช้อยและหลวงมนูฯ แต่ฝากคนทั้ง 2 ให้พักอยู่กับกำนันบ้านป่าแดง ส่วนตนเองไปตั้งเต็นท์อยู่ริมห้วย
ในอาณาเขตไร่บริเวณบ้านกำนันกับคนรับใช้ 1 คน และพรานหนุ่มชื่อ วาด ซึ่งเป็นผู้นำทางเที่ยว พรานวาดนั้นไปหลงรักกิ่ง สาวสวยบ้านป่าแดงลูกสาวยายคอนขี้โรค ซึ่งถูกชาวบ้านกล่าวหาว่าเป็นปอบวาดได้แต่เงื้อ ๆ ง่า ๆ แต่ไม่กล้าบอกรักกิ่งสักครั้ง เพียงแต่คอยให้ความช่วยเหลือเท่าที่จะให้ได้และได้แต่หวังลม ๆ แล้ง ๆ ว่ากิ่งจะมีใจตอบตน วาดไม่รู้ระแคะระคายแม้แต่สักนิดว่ากิ่งนั้นได้ตกเป็นภรรยาของเจ้าวงษาเจ้านายของตนเสียแล้ว
เจ้าคุณวงษาพบกับกิ่งโดยบังเอิญ และได้ให้ความช่วยเหลือด้านเงินทองรักษาแม่ของกิ่งทั้ง 2 ลอบพบปะได้เสียกันจนกระทั่งกิ่งตั้งท้องวาดนั้นหัวใจแทบสลายแต่ก็ต้องจำยอมรับชะตาของตนคอยดูแลให้ความช่วยเหลือกิ่งแทนเจ้าคุณวงษาซึ่งเกิดเป็นไข้ป่าต้องถูกส่งตัวกลับไปรักษาด่วนที่บางกอก
กิ่งแม้จะเป็นทุกข์ห่วงสามี แต่ก็มีความหวังว่า วันหนึงจะได้พบกันโดยหารู้ไม่แม้แต่น้อยว่าช้อยและหลวงมนูฯ ชู้รัก ได้รู้เรื่องราวของกิ่งและเจ้าคุณหมดทุกอย่างแล้ว และได้วางแผนแยกคนทั้ง 2 ให้จากกันตลอดกาลเจ้าคุณและกิ่งพยายามส่งข่าวถึงกัน แต่ก็ถูกหลวงมนูฯ และช้อย จับได้ ทำลายจดหมายหมดทำให้ทั้ง 2 เข้าใจผิดกัน กิ่งท้องโตขึ้นทุกวัน มีเพียงวาดคอยให้ความช่วยเหลือช้อยเองก็ท้องกับหลวงมนูฯ หลวงมนูฯ คิดการชั่ววางแผนกับช้อยจะฆ่าเจ้าคุณ และกันไม่ให้กิ่งได้เข้ามามีส่วนในทรัพย์สมบัติ โดยจะยัดเยียดลูกของตนและช้อยให้เป็นทายาทแทน
เจ้าคุณได้ยินเรื่องราวทั้งหมดจึงคิดป้องกันทรัพย์สมบัติให้ลูกโดยเขียนพินัยกรรมยกสมบัติครึ่งหนึ่งจากที่ให้วันชัยให้กับทายาทผู้ที่ถือจดหมายลายเซ็นเจ้าคุณมาด้วย เจ้าคุณได้พับพินัยกรรมชิ้นเล็ก ๆ นี้ใส่ไว้ในปลอกกระสุนลูกสุดท้ายในปืนด้ามทองประจำตัว
ช้อยและหลวงมนูฯ นั้นกำลังย่ามใจในแผนการ และมักใช้ห้องสมุดในการพบปะกัน เจ้าพระยาวงษาจับได้คาหนังคาเขา หลวงมนูฯ จึงตัดสินใจยิงทิ้ง ขณะนั้นเองเป็นเวลาเดียวกับที่วาดเดินทางมาหาเจ้าคุณด้วยความโกรธแค้นที่ทอดทิ้งกิ่ง วาดได้บุกเข้ามาพอดี จึงถูกหลวงมนูฯ ยิงด้วยเช่นกันหลวงมนูฯ รีบพาช้อยออกไป แล้วแจ้ง หมื่นท้าวกำแหง ซึ่งเป็นนายตำรวจให้มาจับวาด โดยใส่ร้ายว่าวาดเป็นคนร้ายตามมาฆ่าเจ้าคุณด้วยความแค้นที่เจ้าคุณได้กิ่งแล้วทอดทิ้ง
ด้านเจ้าคุณก่อนตายได้มอบปืนให้วาดนำไปให้กิ่งเพื่อมอบแก่ลูก ซึ่งเกิดจากกิ่ง แต่ยังสั่งเสียไม่เสร็จก็ขาดใจตาย วาดรีบหนีไปทั้ง ๆ ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส หลักฐานทั้งหมดดูจะมัดมือกิ่งและวาดว่าเป็นฆาตรกร ตามมาฆ่าเจ้าคุณด้วยความแค้น หมื่นท้าวฯ พบพินัยกรรมของเจ้าคุณในห้องสมุดจ่าหน้าซองว่า อีก 20 ปี จึงให้เปิดพินัยกรรมต่อหน้าคนในตระกูลวงษา
วาดนั้นนำปืนด้ามทองหนีมาจนถึงกระท่อมกิ่ง เล่าทุกอย่างให้กิ่งฟัง มอบปืนให้และบอกให้กิ่งรีบพาลูกหนีไป เพราะอย่างไรเสียหลวงมนูฯ จะต้องตามมาฆ่าปิดปากแน่ ๆ เมื่อวาดได้ทำหน้าที่ของตนเรียบร้อยแล้วจึงได้ขาดใจตายกิ่งกระเซอะกระเซิงอุ้มลูกหนีการตามล่าของหลวงมนูฯ และตำรวจมาพบกับมหาโจรชื่อ เม่น เคราแดง เม่นได้ช่วยกิ่งและลูกไว้ ขับไล่หลวงมนูฯ และตำรวจกลับไปโดยประกาศต่อหน้าตำรวจว่า หลวงมนูฯ นั่นแหละเป็นฆาตรกรเห็นแก่ความดีมีน้ำใจของกิ่งเปลี่ยนมาเป็นความรักแบบน้องสาว กิ่งจึงได้อยู่อย่างสงบสุข เลี้ยงลูกสาวของตนและลูกชายกำพร้าแม่ของเม่นให้เติบโตขึ้นมาพร้อม ๆ กัน
ลูกสาวของกิ่งได้ชื่อว่า แก้ว ตามชื่อ ดอกแก้ว ดอกไม้ที่เจ้าคุณวงษาโปรดปรานเป็นพิเศษส่วนลูกเม่นชื่อ ไม้ มีความสูงใหญ่และบ้าระห่ำผิดมนุษย์ทั่ว ๆ ไป ไม้นั้นรักแก้วอย่างทะนุถนอมบูชาคอยปกป้องแก้วจากอันตรายทุกอย่าง แม้จะแลกกับชีวิตของตนก็ยอม ส่วนเม่นนั้นกิ่งได้ขอร้องให้กลับตัวเป็นพลเมืองดี ทำมาหากินอย่างสุจริตในอาณาจักรของตนเอง
ต่อมาแก้วได้พบปืนด้ามทองโดยบังเอิญ และพยายามคาดคั้นถามเรื่องราวต่าง ๆ จากกิ่งกิ่งจำเป็นต้องเล่าเรื่องราวแต่หนหลังให้แก้วฟัง แก้วจดจำชื่อของช้อยและหลวงมนูฯ ด้วยความแค้นพร้อมทั้งเชื่อมั่นว่า พ่อต้องการให้ตนใช้ปืนด้ามทองซึ่งเหลือกระสุนเพียงนัดเดียวแก้แค้นแทนพ่อ
จวบจนเมื่อสบโอกาสเม่นจำเป็นต้องอพยพอาณาจักรของตนออกไปจากที่แห่งนั้นเพราะไปมีเรื่องกับผู้มีอิทธิพล และผู้มีอิทธิพลนั้นได้ไปแจ้งทางอำเภอไว้ ทางอำเภอจะเข้ามาจับเม่นซึ่งกลับตนแล้ว จึงต้องคิดหนีไปหาตั้งรกรากใหม่แทนที่จะต่อสู้ และระหว่างการอพยพนั้นเองแก้วได้ขโมยปืนด้ามทองและชวนไม้หนีไปบางกอก เพื่อแก้แค้นแทนพ่อ
ระหว่างนั้นเป็นระยะสงครามโลกครั้งที่ 2 ทั้ง 2 มาถึงบางกอกอย่างกะเร่อกะร่า โดยแก้วหอบกระบุงซึ่งซ่อนปืนไว้ติดตัวตลอดเวลา ทำให้เป็นจุดสนใจของพวกมิจฉาชีพ กลุ่มโจรกลุ่มหนึ่งวางแผนหลอกทั้ง 2 หวังปล้น แต่ก็ถูกไม้และแก้วตอบโต้หนีกระเจิงไป ไม้และแก้วได้พบกับ ร.ต.ท. กำแหงลูกชายหมื่นท้าวกำแหง ผู้เจริญรอยเป็นตำรวจตามพ่อ กำแหงเอื้อเฟื้อให้ที่พักในฐานะที่แก้วและไม้ เป็นพลเมืองดีช่วยตำรวจ แต่ทั้ง 2 ปฏิเสธเพราะต้องการตามหาหลวงมนูฯ
โชคชะตาบันดาลให้แก้วและไม้ ได้มีโอกาสช่วยวันชัย ลูกชายของเจ้าคุณฯกับคุณหญิงภรรยาแรกซึ่งมีฐานะเป็นพี่ชายแก้ว วันชัยเกิดถูกชะตาและเมตตาแก้วตามสัญชาตญาณครั้งแรกแก้วปฏิเสธ แต่พอรู้ว่าวันชัยนั้นนามสกุล วงษา จึงเปลี่ยนใจตามไป ทางฝ่ายหลวงมนูฯตลอดหลายปีที่ผ่านมา มักฝันร้ายว่าถูกทวงเอาชีวิตจากทายาทเจ้าคุณฯ ผู้มีปืนด้ามทอง เมื่อรู้ว่าแก้วและไม้ มาอาศัยอยู่ให้เกิดความสังหรณ์และไม่ชอบหน้า จึงสมคบกับช้อยคอยกลั่นแกล้งตลอดเวลา แต่ก็ได้วันชัยคอยปกป้องตลอดเวลายิ่งทำให้ทั้ง 2 ไม่พอใจมากขึ้น
สำหรับลูกสาวของช้อยและหลวงมนูฯ นั้นชื่อ ชไมพร ชไมพรเป็นคนสวยแต่ถือตัว เย่อหยิ่งด้วยหลงคิดว่าตนเป็นลูกเจ้าพระยาวงษานุวัติ ดูถูกแม้กระทั่งหลวงมนูฯ เพราะคิดว่าเป็นลูกจ้างทำให้หลวงมนูฯ น้อยเนื้อต่ำใจตลอดเวลา ช้อยต้องคอยปลอบโยนให้กำลังใจ ซึ่งยิ่งทำให้ชไมพรไม่พอใจพ่อแท้ ๆ ของตัวยิ่งขึ้น ส่วนวันชัยนั้นมีคู่หมั้นสาวสวยชื่อ รุ่งลักษมี เป็นสาวสังคมฟุ้งเฟ้อชอบเที่ยวเตร่ รุ่งลักษมีมีพี่ชายรูปหล่อสำอางชื่อ ราชันย์ พินิจพงศักดา เป็นนักเรียนนอกเช่นกันและเป็นเพื่อนของวันชัยด้วยจึงเนื้อหอมเป็นที่หมายปองของสาว ๆ รวมทั้งชไมพร ซึ่งฝากเนื้อฝากตัวสนิทสนมเป็นคอเดียวกับรุ่งลักษมี แต่ราชันย์เอ็นดูชไมพรเช่นน้องสาวเท่านั้น
วันหนึ่งราชันย์ได้มาพบดอกแก้ว จึงเกิดความพอใจในความสวยบริสุทธิ์ ทั้งดอกแก้วเองก็พอใจราชันย์เช่นกัน ท่ามกลางความไม่พอใจของไม้ ยิ่งร้ายไปกว่านั้น ช้อย รุ่งลักษมี และชไมพร ได้วางแผนกลั่นแกล้งดอกแก้วต่าง ๆ นานา แต่อุปสรรคทั้งหมดกลับทำให้ราชันย์และดอกแก้วรักกันยิ่งขึ้นจนกระทั่งวันหนึ่งดอกแก้วได้ตกเป็นของราชันย์ ไม้รู้เข้าหัวใจแทบสลายแต่ก็จำยอมรับความพ่ายแพ้แต่โดยดี
เมื่อมาถึงขั้นนี้ ช้อย ชไมพร และรุ่งลักษมี จึงได้วางแผนใส่ร้ายว่าไม้กับแก้วเป็นสามีภรรยากัน ราชันย์หูเบาเชื่อทันทีถึงกับตัดขาดแก้วแก้วได้รับความทุกข์ทรมานมากซ้ำยังตั้งท้องไม้แก้แค้นชไมพรซึ่งเป็นตัวตั้งตัวตี โดยลอบปีนเข้าหาและปลุกปล้ำชไมพร ขณะที่อยู่ด้วยกัน ไม้ได้ยินหลวงมนูฯ พูดปรึกษากับช้อย ไม้และชไมพรเลยได้รับทราบความจริงทั้งหมด ไม้ทั้งเยาะเย้ยชไมพร ชไมพรได้รับบทเรียนจึงเริ่มรู้สึกตัวขณะนั้นหลวงมนูฯ จับได้จึงร่วมมือกับคนใช้ทำร้ายไม้จนความจำเสื่อม ลืมทุกอย่างที่ได้ยินมาจนหมดส่วนชไมพรก็ไม่กล้าพูด
เม่น เคราแดง ได้เดินทางมาบางกอกเพื่อรับลูกและหลานกลับ ได้พบกับความพ่ายแพ้ของแก้วและไม้ จึงปลอบโยนแล้วพากลับบ้าน แต่หลวงมนูฯ ได้ส่งคนตามไปติดต่อกับโจรอีกกลุ่มให้ปลอมเป็นตำรวจไปเผาฆ่าทุก ๆ คนในหมู่บ้านเม่น ทุกคนตายหมดเว้นแก้วกับไม้ซึ่งหนีออกมาได้ไม้ประสบอุบัติเหตุความทรงจำกลับคืนมา ทั้ง 2 จึงตัดสินใจกลับบางกอกอีกครั้งเพื่อทวงสิทธิ์ของแก้วและแก้แค้นให้เจ้าคุณ
แก้วและไม้มาถึงในเวลารดน้ำสังข์ระหว่าง ราชันย์และชไมพร พอดีแก้วยกปืนด้ามทองจะยิงหลวงมนูฯ แต่ไม้เข้าขวางไว้ โดยไม่ยอมให้แก้วต้องเป็นฆาตกรไม้ประกาศว่าชไมพรเป็นเมียตน ท่ามกลางความตกตะลึงของทุก ๆ คนหลวงมนูฯ แค้นสุดขีด จึงยิงไม้ ไม้ทรุดล้มลงแต่ได้คว้าปืนด้ามทองยิงหลวงมนูฯ ปรากฏว่ากระสุนด้านหลวงมนูฯ จึงยิงซ้ำ ส่วนกระสุนที่ด้านนั้น เมื่อกระทบพื้นได้หักแยกออกจากกัน ทำให้เห็นว่าภายในมีกระดาษบรรจุไว้แทนดินปืน
ไม้รวบรวมกำลังหยิบมาอ่าน ปรากฏว่าเป็นพินัยกรรมนั่นเอง ความจริงทุกอย่างจึงได้เปิดเผยขึ้นหลวงมนูฯ ผิดหวังจนเป็นบ้ายิงแม้กระทั่งชไมพร ลูกแท้ ๆ ตาย เมื่อทุกอย่างจบสิ้นลง หลวงมนูฯถูก ร.ต.ท. กำแหง ยิงตาย ส่วนไม้ก่อนสิ้นใจได้ฝากแก้วไว้กับราชันย์ โดยบอกให้ราชันย์รักและทุนถนอมแก้วแทนตนตลอดไป…..