ฮีโร่ทีมมวยไทยสมัครเล่นทีมชาติไทย ที่คว้า 8เหรียญทอง 5 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง เดินทางกลับถึงประเทศไทยเรียบร้อยโดยได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากสมาคมมวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย โดยทางพล.อ.ต.มังกร เสมารัตน์ เลขาฯ ไปให้การต้อนรับ พร้อมกับชื่นชมความสำเร็จที่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศชาติ
ทางด้าน อ.วิชิต คะนึงสุขเกษม ผู้จัดการทีมมวยไทยเผยการแข่งขันครั้งนี้หลายชาติพัฒนามากขึ้นกว่าเดิมทั้งยุโรป และ ตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ดีในการผลักดันมวยไทยให้เข้าโอลิมปิกในอนาคตโดยเฉพาะที่ ลอสแองเจลิส ปี2028 ทางด้านอ.สุรัตน์ เสียงหล่อ หัวหน้าโค้ช ยอมรับต่างชาติพัฒนาขึ้น โดยเฉพาะเทคนิคการชกที่ได้คะแนน ซึ่งนักชกไทยจะต้องเร่งปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่าเดิม หลังจากทีมมวยไทยสมัครเล่นทีมชาติไทย ไปสร้างชื่อเสียงในการแข่งขันศึกมวยไทยสมัครเล่นชิงแชมป์โลก 2022 ที่เมืองอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ โดยคว้ามาได้ 8เหรียญทอง 5 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง โดยเมื่อช่วงบ่ายวันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน ที่ผ่านมา ทีมมวยไทยได้เดินทางกลับถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ด้วยสายการบินกาตาร์ แอร์ไลน์ การกลับสู่มาตุภูมิครั้งนี้ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากญาติพี่น้อง โดยสมาคมฯได้ส่ง พล.อ.ต.มังกร เสมารัตน์ เลขาธิการสมาคมไปให้การต้อนรับพร้อมด้วยทีมงานสื่อมวลชนไทยชุดใหญ่ โดยทางพล.อ.ต.มังกร ได้มอบดอกกุหลาบและเงินค่าเดินทางให้กับนักกีฬาและโค้ชทุกคน ก่อนจะชื่นชมผลงานที่ได้สร้างชื่อเสียงให้ประเทศชาติ ทางด้าน ดร.วิชิต คะนึงสุขเกษม ผู้จัดการทีมมวยไทยได้เผยว่า เราได้ทำผลงานที่ยอดเยี่ยมกลับมาโดยได้รางวัลไหว้ครูสวยงามอีกด้วย ต้องบอกว่าต่างชาติเขาเก่งขึ้นกว่าเดิมทั้งยุโรปและตะวันออกกลาง เขาตื่นตัวมากทำให้เราต้องพัฒนาให้ดีกว่าเดิมเช่นกัน แต่ก็ถือเป็นแนวโน้มที่ดีในการที่มวยไทยจะเข้าสู่โอลิมปิกในอนาคตข้างหน้าในปี 2028 ที่ลอสแองเจลิส ส่วนเรื่องการตัดสินก็ถือว่ายุติธรรมแล้ว อ.สุรัตน์ เสียงหล่อ หัวหน้าโค้ช เผยว่า ทีมมวยชุดนี้ตนเป็นคนคัดเลือกเอง แต่ต้องยอมรับว่าต่างชาติเก่งขึ้น เราพัฒนากว่าเดิม ที่เราตามไม่ทันคือเรื่องเทคนิคการชกที่ได้คะแนน เรายังติดเรื่องมวยอาชีพเกินไปซึ่งจะต้องกลับมาแก้ไข จะมัวมาใช้เหลี่ยม หรือ เอาแต่เต้นคุมเกมไม่ได้แล้ว ในส่วนของบรรดานักมวยชื่อดังไม่ว่าจะเป็น สมิงดำ ฉ.อจลบุญ ,กัปปิตัน เพชรยินดีอคาเดมี่ ,คมปฏัก อ.อัจฉริยะ และ โยธิน เอฟเอ.กรุ๊ป เผยว่าดีใจที่ได้มีโอกาสรับใช้ชาติ ซึ่งรูปแบบการชกสมัครเล่นจะเน้นออกอาวุธเป็นหลักผิดกับมวยไทยอาชีพ ซึ่งจะต้องเอามาปรับปรุงแก้ไขโดยเน้นออกอาวุธมากขึ้น ซึ่งในโอกาสต่อไปก็ยังพร้อมที่จะรับใช้ชาติอีกแน่นอน
