Recent Posts

Pages: 1 ... 8 9 [10]
91
เปลี่ยนทุกวันฝนพรำให้พิเศษ กับตะเกียงน้ำหอม Maison Berger Paris
และโปรโมชันสุดเอ็กซ์คลูซีฟ




             ในวันที่ฝนพรำ เพียงใช้เครื่องหอมสำหรับบ้าน ก็สามารถเปลี่ยนห้องธรรมดาให้กลายเป็นพื้นที่แห่งความอบอุ่น สร้างประสบการณ์ที่ยกระดับคุณภาพชีวิตในบ้าน ทั้งยังเหมาะสำหรับการให้เป็นของขวัญแทนใจในทุกโอกาส อาทิ วันเกิด วันครบรอบ หรือแสดงความยินดี

             พิเศษยิ่งขึ้น ตั้งแต่วันนี้ – 3 ตุลาคม 2568 Maison Berger Paris แบรนด์เครื่องหอมสำหรับบ้านระดับพรีเมียมจากฝรั่งเศส ที่ครองใจผู้คนทั่วโลก ขอมอบความพิเศษให้คุณสัมผัสกลิ่นหอมที่เปี่ยมเสน่ห์กับแคมเปญที่จะเปลี่ยนทุกช่วงเวลาในบ้านให้เต็มไปด้วยความสุขผ่อนคลาย

             แนะนำชุดตะเกียงคอลเลกชัน Carree สีใหม่ล่าสุด Nude และ Gris พร้อมน้ำหอมกลิ่นที่คุณชื่นชอบสำหรับเติม ขนาด 500 มิลลิลิตร ราคาพิเศษเพียง 1,950 บาท (จากปกติ 2,570 บาท) โดยการออกแบบคอลเลกชันนี้เรียบง่ายซ่อนความหรูหรา เติมเต็มบ้านให้สะอาดตาและทันสมัย

             Carree Gris Lamp ตะเกียงน้ำหอมเฉดสีเทา และ Carree Nude Lamp ตะเกียงน้ำหอมสีนู้ดอมตะ ออกแบบให้มีความเรียบง่ายและกลมกลืน สง่างาม มีเอกลักษณ์ จากโทนสีกลาง ๆ เข้ากับทุกการแต่งบ้าน

             นอกจากนี้ ยังมีตะเกียงน้ำหอมคอลเลกชันอื่น ๆ ให้เลือกอย่างเหมาะสมตามการตกแต่งห้องอีกมากมาย ได้แก่

•   คอลเลกชัน Lolita Lempicka พร้อมน้ำหอม ขนาด 500 มิลลิลิตร ราคาพิเศษเพียง 1,950 บาท

•   คอลเลกชัน Essential พร้อมน้ำหอม ขนาด 500 มิลลิลิตร ราคาพิเศษเพียง 1,950 บาท

•   คอลเลกชัน Spirale พร้อมน้ำหอม ขนาด 500 มิลลิลิตร ราคาพิเศษเพียง 2,250 บาท

•   คอลเลกชัน Terra พร้อมน้ำหอม ขนาด 500 มิลลิลิตร ราคาพิเศษเพียง 2,250 บาท

             ทุกคอลเลกชันคือการผสมผสานระหว่างดีไซน์ที่เปี่ยมศิลปะและกลิ่นหอมอันทรงเสน่ห์จากฝรั่งเศส ไม่ว่าคุณจะมองหาของขวัญเพื่อมอบให้คนที่รัก หรือเพื่อเติมเต็มบรรยากาศภายในบ้าน Maison Berger Paris คือตัวเลือกที่สะท้อนรสนิยมเหนือระดับได้อย่างสมบูรณ์แบบ

             รีบเป็นเจ้าของความหอมอันล้ำค่าได้แล้วตั้งแต่วันนี้ที่ Maison Berger Paris ทุกสาขา และช่องทางออนไลน์
Facebook: MaisonBergerThailand
LINE: @maisonbergerthai
IG: maisonbergerthailand
www.maisonbergerthailand.com
Lazada, Shopee, ShopSabuy และ TikTok

สอบถามโทร. 02-672-2088
92
พิพิธภัณฑ์คนรักรถ ต้อนรับ อนุบาลบ้านสนุกคิด


               พิพิธภัณฑ์คนรักรถ Auto Rendezvous Museum-Bangkok เปิดบ้านต้อนรับ น้องๆ โรงเรียนอนุบาลบ้านสนุกคิด พร้อมครู และผู้ปกครอง จำนวน 23 คน สัมผัสประสบการณ์การเรียนรู้ผ่านประวัติศาสตร์ยานยนต์ ทั้ง 7 ยุค อย่างใกล้ชิด เพื่อเป็นแรงบันดาลใจ จุดประกาย ให้น้องๆ เรียนรู้วิวัฒนาการยานยนต์ อย่างสนุกสนาน เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2568


               หน่วยงานที่สนใจเข้าชมพิพิธภัณฑ์คนรักรถ Auto Rendezvous Museum-Bangkok สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทรศัพท์ 0-2055-8444

[center]









[/center]
93
LifeDee เปิดตัวฟังก์ชันใหม่ แจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยงไข้เลือดออกและดัชนีความร้อน




สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมกับ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จัดงานเปิดตัวแอปพลิเคชัน LifeDee V.2 เพิ่มฟังก์ชันการใช้งาน โดยการนำเอาเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศประยุกต์ใช้ด้านสุขภาพ หรือ GeoHealth แจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยงโรคไข้เลือดออกและการติดตามดัชนีความร้อน” ณ ห้องมิราเคิล แกรนด์ C ชั้น 4 โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร


   

ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการ GISTDA กล่าวว่า แอปพลิเคชัน Life Dee ถือเป็นหนึ่งในความก้าวหน้าสำคัญของ GISTDA ในการนําเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศเข้ามาประยุกต์ใช้ร่วมกับข้อมูลด้านสาธารณสุขเชิงพื้นที่ หรือ Geo-Health โดย Life Dee Version 2  ได้รับการพัฒนาต่อยอดจากเวอร์ชันแรก เพื่อให้สามารถเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพเข้ากับข้อมูลเชิงพื้นที่ได้อย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น




GISTDA ได้เพิ่มขีดความสามารถของแอปพลิเคชัน คือ 1.การวิเคราะห์พื้นที่เสี่ยงของโรคไข้เลือดออก ซึ่งเป็นการบูรณาการข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมที่สกัดจากข้อมูลจากดาวเทียมและข้อมูลด้านสาธารณสุข เพื่อให้ประชาชนสามารถติดตามและป้องกันความเสี่ยงด้านสุขภาพที่เกิดจากสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการแพร่ระบาดของโรคต่างๆ รวมถึงไข้เลือดออก 2.การติดตามดัชนีความร้อนเพื่อแจ้งเตือนประชาชน ที่เป็นการบูรณาการข้อมูลจากเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศร่วมกับข้อมูลจากสถานีตรวจวัดอากาศภาคพื้นดิน พัฒนาระบบแจ้งเตือนดัชนีความร้อน (Heat Index) เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันผลกระทบจากสภาพอากาศร้อน โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงต่อโรคที่เกี่ยวเนื่องกับความร้อน

โดยในปี 2569 Life Dee จะต่อยอดการพัฒนาเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตในการเข้าถึงบริการสาธารณะให้แก่ผู้สูงอายุ และผู้พิการให้สามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะสมและปลอดภัยในที่สาธารณะ ตามมาตรฐานสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการขั้นพื้นฐาน ได้แก่ ที่จอดรถ ทางลาด ป้ายและสัญลักษณ์ การให้บริการข้อมูล และห้องน้ำ







การเปิดตัวแอปพลิเคชันครั้งนี้มีทั้งการบรรยายพิเศษ ตลอดจนการนำเสนอผลงานและตัวอย่างการประยุกต์ใช้จริงของ Life Dee Version 2 พร้อมการเสวนาจากผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิสารสนเทศและด้านสาธารณสุข เพื่อร่วมกันผลักดันการใช้ประโยชน์จาก Geo-Health ให้เป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างความมั่นคงทางสุขภาพและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยในทุกภูมิภาคต่อไป  ผู้อำนวยการ GISTDA กล่าว




ด้าน นายแพทย์ธิติ แสวงธรรม รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวเพิ่มเติมว่า “การพัฒนา Life Dee Version 2 เป็นก้าวสำคัญในการยกระดับการเฝ้าระวัง ป้องกัน และตอบสนองต่อภัยสุขภาพจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในระดับพื้นที่ โดยเฉพาะดัชนีความร้อนและโรคไข้เลือดออกที่จะช่วยให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูล มีความรู้ในการป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะในกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ถือเป็นการเสริมสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพระดับบุคคล และเพิ่มศักยภาพของระบบสาธารณสุขของประเทศไทยให้เข้มแข็งและพร้อมรับมือกับสถานการณ์ในอนาคต”




นวัตกรรมภูมิสารสนเทศเพื่อสุขภาพ (Geo-Health) เป็นการบูรณาการเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ เพื่อพัฒนางานด้านสาธารณสุขเชิงพื้นที่ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและการเข้าถึงบริการสาธารณะของประชาชนไทย พร้อมการรับมือภัยสุขภาพจากสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ผ่านแอปพลิเคชัน Life Dee ภายใต้แนวคิด “สุขภาพดี เริ่มต้นที่แอปไลฟ์ดี” ซึ่งเป็นการผลักดันการใช้ข้อมูลเชิงพื้นที่ร่วมกับข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อเฝ้าระวัง ป้องกัน และรับมือกับโรคภัยต่าง ๆ โดยเฉพาะในยุคที่การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพประชาชน “Life Dee” คือ ก้าวสำคัญของประเทศไทยในการก้าวสู่ยุค GeoHealth ซึ่งเป็นการผสานองค์ความรู้ด้านภูมิสารสนเทศเข้ากับข้อมูลทางการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อทำความเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างพื้นที่ สิ่งแวดล้อม และสุขภาพของประชาชนในเชิงลึก ข้อมูลดังกล่าวช่วยสะท้อนให้เห็นถึงการกระจายตัวของโรค ปัจจัยเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม ตลอดจนความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการสุขภาพ ซึ่งสามารถนำไปใช้วิเคราะห์และกำหนดนโยบายที่ตอบโจทย์พื้นที่ได้อย่างตรงจุด





94
PDPC คว้ารางวัล "เลิศรัฐ" ปี 2568 ยืนหนึ่งบริการประชาชนยุคดิจิทัล


สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) หรือ PDPC คว้ารางวัล "เลิศรัฐ" สาขาบริการภาครัฐ ประเภท "ขับเคลื่อนเห็นผล" ระดับดี จากสำนักงาน ก.พ.ร. ประจำปี 2568 สะท้อนความสำเร็จในการยกระดับการบริการประชาชนที่ทันสมัย โปร่งใส และมีมาตรฐาน

เบื้องหลังความสำเร็จนี้ มาจากผลงานของ ศูนย์บริการประชาชน (PDPA Center) ที่ถูกยกเป็น "หัวใจ" ของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพราะทำหน้าที่รอบด้าน ทั้งรับเรื่องร้องเรียน ให้คำปรึกษา เผยแพร่ความรู้ และพัฒนาระบบบริการ ให้เข้าถึงง่ายในทุกช่องทาง ถือเป็นโมเดลที่ช่วยเชื่อมโยงประชาชนกับการใช้กฎหมาย PDPA อย่างจับต้องได้จริง

ในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล "พ.ต.อ. สุรพงศ์ เปล่งขำ" กล่าวถึงรางวัลนี้ว่า "นี่คือความสำเร็จของทั้งองค์กร ไม่ใช่เพียงใครคนใดคนหนึ่ง เราพยายามขับเคลื่อนการบังคับใช้กฎหมายโดยมุ่งให้ประชาชนมั่นใจว่าหากข้อมูลส่วนบุคคลถูกละเมิด จะมีที่พึ่งที่เข้าถึงได้และได้รับการดูแลอย่างเป็นธรรม"

การได้รับรางวัลเลิศรัฐ เป็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนว่า PDPC กำลังเดินหน้าในเส้นทางที่ถูกต้อง โดย PDPA Center เป็น 1 ใน 33 ผลงานจากทั่วประเทศที่ได้รับการยอมรับในปีนี้ และยังสะท้อนภาพลักษณ์องค์กรที่ได้เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนยุคดิจิทัล ว่า "ข้อมูลส่วนบุคคล" ไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่เป็นสิทธิที่ทุกคนจะได้รับการคุ้มครองอย่างแท้จริง
95
มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ลงพื้นที่บรรเทาทุกข์ แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบภัย
มอบเงินและกระเช้าปลอบขวัญผู้บาดเจ็บ พร้อมมอบเงินช่วยเหลือกรณีบ้านพังทั้งหลัง
และช่วยเหลือค่าฌาปนกิจแก่ญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุดินโคลนถล่มและน้ำป่าไหลหลาก
ที่บ้านปางอุ๋ง อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่





วานนี้ (วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ พร้อมด้วย นายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย นำทีมลงพื้นที่หมู่บ้านปางอุ๋ง อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุดินโคลนถล่มและน้ำป่าไหลหลาก โดยแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบ รวม 200 ชุด รวมทั้ง มอบเงินปลอบขวัญให้แก่ผู้บาดเจ็บรวม 4 รายๆ ละ 5,000 บาท พร้อมกระเช้าสุขภาพ มอบเงินช่วยเหลือให้แก่ผู้ที่บ้านเรือนพังเสียหายทั้งหลัง รวม 34 หลังๆ ละ 12,000 บาท และมอบเงินค่าฌาปนกิจให้แก่ญาติผู้เสียชีวิตรวม 3 รายๆ ละ 20,000 บาท รวมงบประมาณการช่วยเหลือในครั้งนี้ทั้งสิ้น 594,800 บาท (ห้าแสนเก้าหมื่นสี่พันแปดร้อยบาทถ้วน) โดยมี นายเกรียงศักดิ์ บุญตาปวน นายอำเภอแม่แจ่ม พร้อมด้วย คณะมูลนิธิเชียงใหม่สามัคคีการกุศล จังหวัดเชียงใหม่ เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี







มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง  ขอขอบพระคุณผู้มีจิตศรัทธาที่ร่วมบริจาคทรัพย์ เครื่องอุปโภคบริโภค สมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยต่าง ๆ ขอบุญบารมีหลวงปู่ไต้ฮง (ไต้ฮงกง) ส่งผลให้ท่านและครอบครัว มีความสุขความเจริญตลอดไป ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่ เฟซบุ๊ก แฟนเพจwww.facebook.com/atpohtecktung หรือดูรายละเอียดช่องทางที่สะดวกได้ที่ https://linktr.ee/pohtecktung

ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”

## มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ##
#แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418
#ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน








96
House of Wisdom จับมือ Woody World จัดเวทีสุดเอ็กซ์คลูซีฟ เปิดวิสัยทัศน์ผู้บริหาร OpenAI เยือนไทยครั้งแรก!


            เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2568 กรุงเทพฯ House of Wisdom ร่วมกับ Woody World ตอกย้ำบทบาท “คลับแห่งความรู้ ไม่รู้จบ” ผ่านเวทีเสวนาสุดเอ็กซ์คลูซีฟ “AI LEAP: Turning Today’s Disruption into Tomorrow’s Advantage” ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยได้รับเกียรติจากคุณ Jason Kwon, Chief Strategy Officer ของ OpenAI เดินทางมาเยือนไทยเป็นครั้งแรก ร่วมถ่ายทอดวิสัยทัศน์ด้านอนาคตของ AI เคียงข้างคุณเรืองโรจน์ พูนผล (กระทิง), Group Chairman ของ KBTG ผู้นำด้านเทคโนโลยีและ Startup Ecosystem ของภูมิภาค เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดำเนินรายการโดย วุฒิธร มิลินทจินดา (วู้ดดี้) พิธีกรมากความสามารถ เมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา ณ How Club โรงแรม SO/ Bangkok


            ประเทศไทยกำลังยกระดับบทบาทสู่การเป็นผู้นำด้านการนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้งาน ChatGPT - OpenAI เปิดเผยว่า จำนวนผู้ใช้งาน ChatGPT รายสัปดาห์ในไทย เพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่าในรอบปีที่ผ่านมา สะท้อนถึงศักยภาพและความพร้อมของไทยในการก้าวสู่โลกอนาคตแห่ง เทคโนโลยี

            งาน OpenAI Forum ครั้งแรกในประเทศไทยนี้ ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก โดยมีนักธุรกิจชั้นแนวหน้ากว่า 100 คนเข้าร่วม อาทิ คุณน้อง กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร, คุณตุ๊ก นภัสนันท์ พรรณนิภา, คุณอู๊ด อัญชลิน พรรณิภา, คุณเต้ ภูริต ภิรมย์ภักดี, คุณเบ๊นซ์ วรภัทร ชวนะนิกุล, คุณ สุรชัย พุฒิกุลางกูร, คุณหนุ่ม สินชัย ลาภศิริผล และ คุณโจ้ ธนา เทียนอัจฉริยะ เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับการเติบโตของ AI และบทบาทของไทยบนเวทีโลก


            คุณ Jason Kwon, Chief Strategy Officer ของ OpenAI กล่าวในงานว่า “การมองโลกในแง่ดีและความสามารถ ในการปรับตัวของคนไทย” คือ “แต้มต่อเชิงการแข่งขัน” ของคนไทยที่เอื้อต่อการก้าวสู่ยุค AI และยังเสริมว่า คนไทยกำลังยอมรับที่จะใช้ AI เป็นเครื่องมือสำคัญเพื่อเสริมศักยภาพและเปิดโอกาสใหม่ ๆ ทั้งในด้านการศึกษา การดูแลสุขภาพ ความคิดสร้างสรรค์ และการเป็นผู้ประกอบการ AI เพื่อการเติบโตของทุกคน

            คุณเรืองโรจน์ พูนผล (กระทิง) ได้กล่าวถึง AI ในฐานะเครื่องมือเพื่อสร้างความเท่าเทียม ว่า “เทคโนโลยีต้องเป็น สะพาน ไม่ใช่กำแพง AI จะช่วยลดช่องว่างทางโอกาส เปิดทางให้คนรุ่นใหม่เรียนรู้ สร้างสรรค์ และเข้าถึงความรู้ได้ อย่างเท่าเทียม”


            ประเทศไทย ดินแดนแห่งนักสร้างสรรค์และนักนวัตกรรม ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ประเทศไทยเป็นหนึ่งในผู้ใช้งานเทคโนโลยีรุ่นแรก ไม่ว่าจะเป็น Mobile Banking หรือ Social Media และวันนี้ ความคล่องตัวนั้นได้ขยายมาถึง AI ซึ่งทำให้ไทยอยู่ในจุดที่พร้อมจะเป็นผู้นำในการผสาน AI เข้ากับชีวิตประจำวันและอุตสาหกรรมอนาคต “คนไทยเรียนรู้เร็ว ปรับตัวเก่ง สิ่งนี้อยู่ใน DNA ของเรา” – เรืองโรจน์ พูนผล เขายังกล่าวเสริมว่า ความคิดสร้างสรรค์ในระดับโลกของคนไทย ทำให้เราสามารถสร้างผลงานด้านโฆษณา และคอนเทนต์ที่ได้รับรางวัลมากมาย และเมื่อรวมเข้ากับ AI ไทยพร้อมจะก้าวสู่ความเป็นผู้นำในเวทีใหม่ของความ คิดสร้างสรรค์

            พลังของคนรุ่นใหม่: คลื่นลูกใหม่แห่ง AI ข้อมูลล่าสุดจาก OpenAI ระบุว่า การยอมรับ AI อย่างรวดเร็วในประเทศไทย มาจาก คนรุ่นใหม่อายุ 18–24 ปี ที่ใช้ ChatGPT ครอบคลุมทั้งการทำงานและชีวิตประจำวัน โดยกรณีใช้งานยอดนิยม 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. การแปลภาษา 2. การขอคำแนะนำเชิงปฏิบัติ (How-to) 3. การเรียนรู้และการติว 4.การดูแลตนเอง 5. การเขียนเชิงสร้างสรรค์


            วางรากฐานเพื่ออนาคต AI ที่ยั่งยืน เวที OpenAI Forum ครั้งนี้ตอกย้ำว่า การยอมรับ AI ของประเทศไทยไม่ได้เป็นเพียงการใช้งานในฐานะผู้บริโภค แต่ยังสะท้อนถึง พลังของคนรุ่นใหม่ การกำกับดูแลที่แข็งแรง และความมุ่งมั่นในการสร้างความเท่าเทียม ซึ่งทั้งหมดนี้กำลังกลายเป็น รากฐานสำคัญที่จะนำพาประเทศไปสู่ระบบนิเวศ AI ที่มั่นคงและยั่งยืน

            ผู้สนใจสามารถรับชมวิดีโองานเสวนาฉบับเต็ม พร้อมเนื้อหาและมุมมองเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์ด้านล่าง https://youtu.be/EsrKSspzvUQ
97
“ฮิกะ” จารึกชื่อครองแชมป์ ชินฮาน ดงแฮ โอเพ่น สองสมัย “แดนไท” ดีสุดอันดับ 4 ร่วม


คาซูกิ ฮิกะ


แดนไท บุญมา


ริชาร์ด ที.ลี.


สกอตต์ วินเซนต์

14 กันยายน 2568 – คาซูกิ ฮิกะ อดีตแชมป์ปี 2022 จากญี่ปุ่น จารึกชื่อเป็นนักกอล์ฟคนที่ 5 ที่สามารถครองแชมป์ ชินฮาน ดงแฮ โอเพ่น เป็นสมัยที่สอง หลังจบด้วยสกอร์รวม 18 อันเดอร์พาร์ 270 ที่สนามแจ๊ค นิกคลอส กอล์ฟ คลับ ในเมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา ขณะที่ แดนไท บุญมา ทำผลงานดีรั้งอันดับ 4 ร่วม ด้วยสกอร์รวม 16 อันเดอร์พาร์ 272 (ภาพ: Asian Tour)

เอเชียน ทัวร์ ร่วมกับ โคเรียน กอล์ฟ ทัวร์ และ เจแปน กอล์ฟ ทัวร์ จัดศึกไตรแซงชั่นรายการ “ชินฮาน ดงแฮ โอเพ่น” ครั้งที่ 41 ซึ่งเป็นการแข่งขันรายการที่ 10 ของตารางเอเชียน ทัวร์ ฤดูกาล 2025 ชิงเงินรางวัลรวม 1,500 ล้านวอน หรือประมาณ 34.3 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 11-14 กันยายนที่ผ่านมา ณ สนามแจ๊ค นิกคลอส กอล์ฟ คลับ ระยะ 7,470 หลา พาร์ 72 ในเมืองอินชอน  ประเทศเกาหลีใต้ โดยมีผู้เล่นชาวไทยผ่านเข้ารอบมาได้ 7 คน


รอบสุดท้ายของการแข่งขัน คาซูกิ ฮิกะ นักกอล์ฟชาวญี่ปุ่นวัย 30 ปี อดีตแชมป์รายการนี้เมื่อปี 2022 และผู้นำจากรอบที่สาม ออกสตาร์ทเยี่ยมทำ 4 เบอร์ดี้ติดใน 4 หลุมแรก รวมกับอีก 1 เบอร์ดี้ที่หลุม 7  ก่อนเสียโบกี้เดียวที่หลุม 13 พาร์ 3 จบ 18 หลุมเข้ามา 4 อันเดอร์พาร์ 68 สกอร์รวมสี่วัน 18 อันเดอร์พาร์ 270 คว้าแชมป์ไปครองอีกครั้ง พร้อมรับเงินรางวัล 194,500 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 6.2 ล้านบาท โดยเฉือนชนะสองโปรจอมแกร่งอย่าง ริชาร์ด ที.ลี. อดีตแชมป์รายการนี้เมื่อปี 2017 จากแคนาดา และสกอตต์ วินเซนต์ มือหนึ่งเอเชียน ทัวร์ ออร์เดอร์ ออฟ เมอริต จากซิมบับเว เพียงสโตรคเดียว

ฮิกะ อดีตมือหนึ่งเงินรางวัลสะสมของเจแปนกอล์ฟทัวร์ปี 2022 เผยหลังกลายเป็นนักกอล์ฟคนที่ 5 ที่สามารถครองแชมป์ชินฮาน ดงแฮ โอเพ่น เป็นสมัยที่สอง และยังเป็นชัยชนะในเจแปนทัวร์รายการที่ 8 ของตัวเองว่า “รู้สึกโล่งใจมากที่ชนะได้ เพราะเกมเริ่มยากขึ้นนิดหน่อย พลาดไปหลายช็อตและกดดันมากในช่วงเก้าหลุมหลัง ผมดีใจที่เกมของผมยังดีอยู่ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมชนะการแข่งขันสองครั้ง ผมคิดว่าผมมีนักสู้อยู่ในตัวนะ แต่มันก็พูดยาก ผมมักจะขึ้นนำในรายการที่ผมชนะ ท่ามกลางแรงกดดันจากผู้เล่นคนอื่นๆ”


ขณะที่นักกอล์ฟไทยผลงานดีสุดเป็น แดนไท บุญมา ผู้นำร่วมรอบแรก รอบสุดท้ายหวดเข้ามา 4 อันเดอร์พาร์ 68 จากการทำ 7 เบอร์ดี้ เสียไป 3 โบกี้ สกอร์รวมสี่วัน 16 อันเดอร์พาร์ 272 จบอันดับ 4 ร่วมกับ ไทชิ โค โปรแถวหน้าของฮ่องกง รับเงินรางวัลไปคนละประมาณ 1.5 ล้านบาท

ส่วนผู้เล่นชาวไทยอีก 6 คน ทำผลงานดังนี้ สดมภ์ แก้วกาญจนา หวด 5 อันเดอร์พาร์ 67 สกอร์รวม 11 อันเดอร์พาร์ 277 จบอันดับ 12 ร่วม, สาริศ สุวรรณรัตน์ พลาดตีเกิน 3 โอเวอร์พาร์ 75 หล่นไปอยู่อันดับ 30 ร่วมด้วยสกอร์รวม 9 อันเดอร์พาร์ 279, ภูมิ ศักดิ์แสนศิลป์ เก็บ 2 อันเดอร์พาร์ 70 สกอร์รวม 6 อันเดอร์พาร์ 282 เท่ากับ สุธีพัทธ์ ประทีปเธียรชัย ที่ทำ 1 โอเวอร์พาร์ 73 ทั้งคู่อยู่ในกลุ่มอันดับ 42 ร่วม, อติรุจ วินัยเจริญชัย ตีมาอีเวนพาร์ 72 สกอร์รวม 1 โอเวอร์พาร์ 289 รั้งอันดับ 64 ร่วม และนิติธร ทิพย์พงษ์ ตีเกินอีก 5 โอเวอร์พาร์ 77 สกอร์รวม 7 โอเวอร์พาร์ 295 จบอันดับ 72

ติดตามข่าวสารของเอเชียน ทัวร์ ได้ที่เว็บไซต์  www.asiantour.com และเฟซบุค Asian Tour
98
“แดนไท-สาริศ” ขยับตามผู้นำสองสโตรคกอล์ฟ “ชินฮาน ดงแฮ โอเพ่น” รอบสาม


แดนไท บุญมา


สาริศ สุวรรณรัตน์


คาซูกิ ฮิกะ


สกอตต์ วินเซนต์

13 กันยายน 2568 – แดนไท บุญมา และ สาริศ สุวรรณรัตน์ เร่งเครื่องหวดคนละ 6 อันเดอร์พาร์ 66 ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 3 ร่วมด้วยสกอร์รวม 12 อันเดอร์พาร์ 204 หลังจบรอบสามกอล์ฟ “ชินฮาน ดงแฮ โอเพ่น” ที่สนามแจ๊ค นิกคลอส กอล์ฟ คลับ ในเมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา ตามหลัง คาซูกิ ฮิกะ อดีตแชมป์ปี 2022 จากญี่ปุ่น สองสโตรค (ภาพ: Asian Tour)

เอเชียน ทัวร์ ร่วมกับ โคเรียน กอล์ฟ ทัวร์ และ เจแปน กอล์ฟ ทัวร์ จัดศึกไตรแซงชั่นรายการ “ชินฮาน ดงแฮ โอเพ่น” ครั้งที่ 41 ซึ่งเป็นการแข่งขันรายการที่ 10 ของตารางเอเชียน ทัวร์ ฤดูกาล 2025 ชิงเงินรางวัลรวม 1,500 ล้านวอน หรือประมาณ 34.3 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 11-14 กันยายนนี้ ที่สนามแจ๊ค นิกคลอส กอล์ฟ คลับ ระยะ 7,470 หลา พาร์ 72 ในเมืองอินชอน  ประเทศเกาหลีใต้ มีผู้เล่นชาวไทยผ่านเข้ารอบมาได้ 7 คน โดยแชมป์จะได้รับเงินรางวัล 194,500 เหรียญสหรัฐ หรือราว 6.2 ล้านบาท

รอบที่สามของการแข่งขัน โปรเซฟ-สาริศ สุวรรณรัตน์ แชมป์วอลโว่ ไชน่า โอเพ่น 2023 รักษาฟอร์มดีต่อเนื่อง หวด 1 อีเกิ้ล กับ 4 เบอร์ดี้ โดยไม่เสียแม้โบกี้เดียว จบ 18 หลุมเข้ามา 6 อันเดอร์พาร์ 66 เท่ากับ แดนไท บุญมา ผู้นำร่วมรอบแรก ที่ทำ 7 เบอร์ดี้ เสียโบกี้เดียว รวมสามวันมีคนละ 12 อันเดอร์พาร์ 204 ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 3 ร่วมกับ ริชาร์ด ที.ลี. อดีตแชมป์รายการนี้เมื่อปี 2017 จากแคนาดา, ไทชิ โค โปรแถวหน้าของฮ่องกง และไทกิ โยชิดะ จากญี่ปุ่น โดยทั้งห้าคนมีสกอร์ตามหลังผู้นำเพียงสองสโตรค

ขณะที่ตำแหน่งจ่าฝูงเปลี่ยนมือเป็นของ คาซูกิ ฮิกะ อดีตแชมป์รายการนี้เมื่อปี 2022 ชาวญี่ปุ่น ที่ระเบิดฟอร์มร้อนแรงหวดวันเดียว 7 อันเดอร์พาร์ 65 แซงขึ้นมานำเดี่ยวด้วยสกอร์รวม 14 อันเดอร์พาร์ 202 โดยมี สกอตต์ วินเซนต์ จากซิมบับเว ซึ่งกำลังรั้งตำแหน่งผู้นำในตารางคะแนนสะสมเอเชียน ทัวร์ ออร์เดอร์ ออฟ เมอริต หวด 7 อันเดอร์เช่นเดียวกัน ขยับขึ้นมาไล่จี้เพียงสโตรคเดียว

ฮิกะ เผยถึงการลุ้นเป็นนักกอล์ฟคนที่ 5 ที่สามารถครองแชมป์รายการนี้เป็นสมัยที่สองว่า “วันนี้ผมเล่นได้ดีมาก ผมเสียโบกี้เดียวเพราะไดรฟ์ออกไปซ้ายแล้วไปตกที่ข้างรากไม้พอดี ทำให้เล่นไม่ได้ แต่ผมก็ยังให้โอกาสตัวเองทำพาร์ได้ สรุปแล้วเป็นรอบที่ไม่เครียดเลย ส่วนพรุ่งนี้ผมอาจจะมีเปลี่ยนแผนการเล่นบ้าง แต่จะพยายามไม่ฝืนอะไร และดูว่าคนอื่นๆ ในกลุ่มเล่นกันอย่างไร  เนื่องจากสกอร์ค่อนข้างสูสี หลายคนจึงมีโอกาสชนะ ผมแค่อยากจะคุมเกมให้ดีและหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่อาจทำให้ผมเสียตำแหน่งผู้นำ” เขากล่าวเสริม

ทางด้านนักกอล์ฟไทยอีก 5 คน ทำสกอร์ดังนี้ สุธีพัทธ์ ประทีปเธียรชัย เจ้าของสี่แชมป์เอเชียน ทัวร์ เก็บเพิ่มอีก 4 อันเดอร์พาร์ 68 สกอร์รวม 7 อันเดอร์พาร์ 209 อยู่อันดับ 25 ร่วม, สดมภ์ แก้วกาญจนา หวด 5 อันเดอร์พาร์ 67 สกอร์รวม 6 อันเดอร์พาร์ 210 อยู่อันดับ 30 ร่วม, ภูมิ ศักดิ์แสนศิลป์ ตีเข้ามา 3 อันเดอร์พาร์ 69 สกอร์รวม 4 อันเดอร์พาร์ 212 อันดับ 40 ร่วม, อติรุจ วินัยเจริญชัย ตีเกิน 2 โอเวอร์พาร์ 74 สกอร์รวม 1 โอเวอร์พาร์ 217 รั้งอันดับ 66 ร่วม และนิติธร ทิพย์พงษ์ พลาดตีเกินถึง 5 โอเวอร์พาร์ 77 หล่นไปอยู่อันดับ 71 ด้วยสกอร์รวม 2 โอเวอร์พาร์ 218

ติดตามข่าวสารของเอเชียน ทัวร์ ได้ที่เว็บไซต์  www.asiantour.com และเฟซบุค Asian Tour
99
ได้คู่ชิงโค้งสุดท้ายแล้ว!  "อนันตชัย" ดวลอาวุธ "ยอดเหล็กแหลม" รอบชิงชนะเลิศ ใครจะเป็นเสือตัวที่ 24 ตัวต่อไป


            ศึกมวยรอบปูนเสือ มวยไทยพันธุ์แท้ ครั้งที่ 24 (รอบรองชนะเลิศ) เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2568 ที่เวทีมวยช่อง 7HD โดยก่อนชก นายณรงค์เดช ช่วยภักดี สจ.เขต1 คลองท่อม กระบี่ พร้อมด้วย นายณรงค์ศักดิ์ เอียดเกลี้ยง รองประธานสภา องค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ ให้เกียรติขึ้นคล้องพวงมาลัยเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับนักมวยทั้งสองคู่บนเวที คู่ระหว่าง อนันตชัย ลานนาวอเตอร์ไซค์ (แดง) พบกับ ก้องสนั่น ส.เทียนโพธิ์ (น้ำเงิน) พิกัด 112 ปอนด์ และคู่ระหว่าง พลายพยัคฆ์ ทต.พลับพลานารายณ์ (แดง) พบกับ ยอดเหล็กแหลม พ.พิมพ์อร (น้ำเงิน) พิกัด 112 ปอนด์

ผลการแข่งขันมวยรอบปูนเสือ (รอบรองชนะเลิศ) มีดังนี้




คู่ที่ 1. อนันตชัย ลานนาวอเตอร์ไซด์ (แดง) พบกับ ก้องสนั่น ส.เทียนโพธิ์ (น้ำเงิน) อนันตขัย มวยขวาสูงยาวเข่าในเหนียวแน่น ด้าน ก้องสนั่น มวยซ้ายอาชีพเตะหนักต่อยหนักรุนแรง อนันตชัย เดินเข้าหาเตะขวาลำตัวหนักๆทำเอา ก้องสนั่น ถึงกับสดุ้งพยามเดินเตะซ้ายลำตัวแถมมีศอกที่อันตรายแต่ความชัดเจนรุนแรง อนัยตชัย ทำได้ช้ดเจนผิดกับ ก้องสนั่น ออกอาการวืดวาดกลับโดน อนันตชัย จับคอตีเข่าเน้นๆ หนักๆ แม้ ก้องสนั่น จะออกมาใช้หมัดอย่างเดียวแต่ไม่เข้าเป้าครบยก อนันตชัย เผ็นฝ่ายชนะคะแนน ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศทันที ส่วน ก้องสนั่น เข้าไปชิงที่ 3




คู่ที่ 2. พลายพยัคฆ์ ทต.พลับพลานารายณ์ (แดง) พบกับ ยอดเหล็กแหลม พ.พิมพ์อร (พ.พิมพ์อร) พลายพยัคฆ์ มวยขวาเตี้ยสั้นหมัดหนัก ด้าน ยอดเหล็กแหลม มวยซ้ายสูงยาวเข่าแหลมปล้ำในรุนแรง เดินเข้าหาเตะซ้ายลำตัวหนักๆ พลายพยัคฆ์ พยามเตะขวาต่อยหมัดแต่ไม่รุนแรงกลับโดน ยอดเหล็กแหลม เดินปล้ำในจับคอตีเข่าเป็นชุดหนักทำเอา พลายพยัคฆ์ ถึงกับออกอาการกระทั่งต้นยก3 ยอดเหล็กแหลม ได้จังหวะเข้าจับคอตีเข่าเน้นๆ เป็นชุดทำเอา พลายพยัคฆ์ ทิ้งตัวลงไปนอนให้กรรมการนับ10 ทำให้ ยอดเหล็กแหลม ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศทันที ส่วน พลายพยัคฆ์ เข้าไปชิงที่ 3






            สำหรับศึกมวยรอบปูนเสือ มวยไทยพันธุ์แท้ ครั้งที่ 24 (รอบชิงชนะเลิศ) เปิดดวลอาวุธกันในวันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม 2568 รอบชิงชนะเลิศ คู่ระหว่าง อนันตชัย ลานนาวอเตอร์ไซด์ ดวลกับ ยอดเหล็กแหลม พ.พิมพ์อร ทั้งคู่เดินทางมาถึงโค้งสุดท้าย! ใครจะคว้าแชมป์ศึกมวยรอบปูนเสือ มวยไทยพันธุ์แท้ ครั้งที่ 24 ใครจะเป็นเสือตัวที่ 24 ตัวต่อไป และ ชิงอันดับ 3 คู่ระหว่าง ก้องสนั่น ส.เทียนโพธิ์ ดวลกับ พลายพยัคฆ์ ทต.พลับพลานารายณ์ นักชกทั้งสองคู่พร้อมเสิร์ฟความมันส์ให้แฟนมวยรอบปูนเสือเตรียมส่งแรงใจเชียร์ มาเชียร์กันได้ที่เวทีมวยช่อง 7 HD ห้ามพลาดเด็ดขาด!






            แฟนๆ คอมวยไทย ศึกมวยรอบปูนเสือ มวยไทยพันธุ์แท้ ครั้งที่ 24 (รอบชิงชนะเลิศ) มาเชียร์กันให้สนั่นบนสังเวียนผืนผ้าใบได้ที่เวทีมวยช่อง 7 HD ในวันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม 2568 ถ่ายทอดสดทางช่อง 7HD ตั้งแต่เวลา 14.30 น. เป็นต้นไป
100
มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมงานมหาบุญ ในงาน# ประเพณีทิ้งกระจาด ประจำปี 2568




ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ล่วงลับ พร้อมทำทานให้ผู้ยากไร้
ระหว่างวันนี้ - 19 กันยายน พ.ศ. 2568 


โดยสามารถร่วมทำบุญได้ตามช่องทางดังนี้ :-

สักการะหลวงปู่ไต้ฮงและทำบุญบริจาคข้าวสาร ได้ที่ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ

วันที่ 23 สิงหาคม - 17 กันยายน 2568
เวลา 07.00 - 19.00 น.

วันที่ 18 กันยายน 2568
เวลา 07.00 - 16.00 น.

ทำบุญบริจาคข้าวสารผ่าน
เว็บไซต์ทิ้งกระจาดออนไลน์ : 
https://pttfny.net/newsh


โอนผ่าน บ/ช ออมทรัพย์ชื่อ บ/ช มูลนิธิฮั่วเคี้ยวป่อเต๊กเซี่ยงตึ้ง หรือมูลนิธิปอเต็กตึ้ง

- ธ.กสิกรไทย เสือป่า
เลขที่ 027-2-07939-0

- ธ.กรุงเทพ พลับพลาไชย
เลขที่ 001-0-00370-5

- ธ.กรุงไทย ราชวงศ์ บี
เลขที่ 004-1-00811-1

- ธ.ไทยพาณิชย์ เฉลิมนคร
เลขที่ 037-2-56513-4

- ธ.กรุงศรีอยุธยา สามแยก
เลขที่ 046–1-00810-9

- ธนาคารทหารไทยธนชาต
เลขที่ 091-2-28500-4




กำหนดแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ยากไร้  :-

วันที่ 26 สิงหาคม 2568
เวลา 10.00 - 12.00 น.
ที่สุสานมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ต.โรงเข้ อ.บ้านแพ้ว # จังหวัดสมุทรสาคร

วันที่ 12 กันยายน 2568
เวลา 10.00 - 12.00 น.
ที่คลินิกการประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว สาขาศรีราชา # จังหวัดชลบุรี

วันที่ 19 กันยายน 2568
เวลา 06.00 - 12.00 น.
ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย #กรุงเทพฯ

# ทิ้งกระจาดมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง # สักการะหลวงปู่ไต้ฮง 
# ทำบุญให้ผู้ล่วงลับทำทานให้ผู้ยากไร้
Pages: 1 ... 8 9 [10]