This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
1
news & activity / Jeban.com ปล่อยแอพ เปิดการตลาดยุคใหม่สร้าง Prosumers
« on: September 28, 2012, 12:24:31 AM »
Jeban.com ปล่อยแอพ เปิดการตลาดยุคใหม่สร้าง Prosumers
จีบันดอทคอมเขย่าตลาดความงาม ปล่อยแอพพลิเคชันกระตุ้นเทรนด์โซเซียลช้อปปิ้ง ก้าวสู่การตลาดแห่งอนาคตในยุคโปรซูเมอร์ส ที่ผู้บริโภคแนะนำสินค้าและบริการระหว่างกันได้อย่างเสรี เพิ่มพลังการตัดสินใจซื้อไว้ที่ปลายนิ้ว คาดดันยอดสมาชิกเพิ่ม 20% สิ้นปีวางเป้ายอดดาวน์โหลดทะลุแสนราย
จีบันดอทคอม (Jeban.com) คอมมูนิตี้ออนไลน์ผู้หญิงอันดับหนึ่งของไทย ขยับไปอีกก้าวจากการให้บริการเว็บไซต์ในรูปแบบผู้ใช้สร้างเนื้อหา (User Generated Content) อย่างเต็มตัว เข้าสู่การเป็นเจ้าของโมบายแอพพลิเคชันแรกในประเทศไทย ที่ผู้บริโภคสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลผลิตภัณฑ์ทางด้านความงามระหว่างกัน และนำไปสู่การตัดสินใจซื้อได้อย่างรวดเร็วตรงใจ อีกทั้งยังเป็นการเปิดช่องทางการตลาดชนิดถึงตัวอีกด้วย
นางจีราภัสร์ อริยบุรุษ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์จีบันดอทคอม เปิดเผยว่า ปัจจุบันผู้บริโภคมีพฤติกรรมการซื้อสินค้าที่เปลี่ยนแปลงไปจากอดีต โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่นิยมค้นหาข้อมูลสินค้าและบริการต่างๆ ก่อนการตัดสินใจ ผ่านทางอินเทอร์เน็ต จากการเข้าไปอ่านความเห็นของผู้ที่เคยใช้สินค้าหรือบริการดังกล่าวมาก่อนหน้า มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคยุคปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางดังกล่าว เป็นเพราะการขยายตัวของเครื่องมือสื่อสารและอุปกรณ์ไอที อาทิ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต รวมถึงการให้บริการอินเทอร์เน็ตที่มีความเร็วสูง และขยายการให้บริการครอบคลุมไปยังพื้นที่ต่างๆ ที่สำคัญ เช่น ห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ร้านกาแฟ แหล่งชุมชน เป็นต้น และบางแห่งยังเป็นการให้บริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
“ปัจจุบันจีบันดอทคอมมีสมาชิกกว่า 120,000 คน โดยเป็นสมาชิกที่แอคทีฟอยู่กว่า 80% ของจำนวนสมาชิกทั้งหมด ทำให้เราเล็งเห็นว่า ความเห็นจากผู้ใช้ในคอมมูนิตี้ของเรานั้น มีผลต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆ อีกทั้งในยุคที่ทุกคนมีสมาร์ทโฟนติดมือ พร้อมที่จะออนไลน์ได้ทุกที่ทุกเวลา ทำให้การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของผู้บริโภคเป็นไปได้ง่ายมากขึ้นด้วย” นางจีราภัสร์ กล่าว
นางจีราภัสร์ กล่าวอีกว่า จากปัจจัยที่อุปกรณ์ไอทีมีอัตราการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ได้มีการสร้างแอพพลิเคชันออกมารองรับกับพฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อให้เข้าถึงแหล่งข้อมูลได้ง่ายมากขี้น โดยในส่วนของจีบันดอทคอมจึงได้เปิดตัวโมบายแอพพลิเคชัน “Jeban On App” เข้ามาเป็นตัวช่วยให้ผู้บริโภคสามารถค้นหาข้อมูลผลิตภัณฑ์ต่างๆ พร้อมเปรียบเทียบก่อนการตัดสินใจซื้อได้ทันที
ทางด้าน นางธุวรักษ์ ปัญญางาม ผู้จัดการฝ่ายการตลาดจีบันดอทคอม กล่าวว่า จีบันดอทคอมเปิดตัว Jeban on app อย่างไม่เป็นทางการไปเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จเกินกว่าที่คาดหมายไว้ โดยเพียงสัปดาห์แรก ยอดการดาวน์โหลดก็สามารถขึ้นสู่อันดับที่ 2 ของ App Store ได้ ปัจจุบันมียอดดาวน์โหลดรวมแล้วกว่า 80,000 ครั้ง จีบันดอทคอมคาดว่า ถึงสิ้นปีนี้จะมีจำนวนผู้ดาวน์โหลดกว่า 100,000 ครั้ง โดยเชื่อว่าจะช่วยเพิ่มจำนวนสมาชิกเว็บไซต์ขึ้น 20% และเพิ่มเพจวิวขึ้นอีก 20%
“ชุมชนออนไลน์นับเป็นศูนย์รวมของผู้ที่มีรสนิยมและความชอบในเรื่องเดียวกัน เมื่อสมาชิกของเว็บไซต์หรือชุมชนออนไลน์นั้นๆ ได้รับข้อมูลที่ดีและเป็นประโยชน์ ก็จะเข้ามาบอกต่อให้กับเพื่อนสมาชิก อย่างกรณีการเลือกซื้อสินค้า เมื่อผู้บริโภคเกิดความประทับใจในผลิตภัณฑ์ใด ก็จะนำข้อมูลมาแชร์ต่ออย่างเสรี รวมถึงมีการให้คะแนนผลิตภัณฑ์นั้นๆ ด้วย ซึ่งนับว่าเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างโปรซูเมอร์ (Prosumers) คือผู้บริโภคที่ยกระดับตัวเองขึ้นมาเป็นผู้เชี่ยวชาญในผลิตภัณฑ์ที่ตัวเองสนใจ” นางธุวรักษ์อธิบาย
“เมื่อโปรซูเมอร์ในชุมชนเข้ามาแบ่งปันข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา และถ้าสมาชิกอื่นๆ เห็นว่าข้อมูลนั้นมีประโยชน์ต่อการตัดสินใจซื้อ จนกลับมาแนะนำต่อ หรือแสดงความเห็นด้านลบ เจ้าของผลิตภัณฑ์ก็จะรู้ฟีดแบคและนำไปพัฒนาสินค้าให้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค ถือเป็นการให้ดีมานด์สร้างซัพพลาย”
“คอมมูนิตี้มีส่วนผลักดันไปสู่โซเซียล ช้อปปิ้ง (Social Shopping) มากขึ้น เมื่อมีผู้นำข้อมูลผลิตภัณฑ์ในส่วน “ยูเซอร์รีวิว” (User Review) ของจีบันดอทคอมไปประกอบการตัดสินใจซื้อ และนำกลับมารีวิว พร้อมทั้งยังรองรับพฤติกรรมแบบ Point-know-buy ของคนรุ่นใหม่ คือเมื่ออยู่ที่จุดขาย-เราก็ค้นหาข้อมูล-และตัดสินใจซื้อ นับเป็นกระแสการบริโภคที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้รูปแบบการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์เปลี่ยนไป โดยจีบันดอทคอมได้สร้างแอพพลิเคชันชุดนี้ไว้ เพื่อตอบสนองการตลาดในยุคหน้า” นางธุวรักษ์อธิบาย
นอกจากนี้ นางจีราภัสร์ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับ Jeban on app นั้น ทำงานผ่านระบบปฎิบัติการ IOS ที่ผู้บริโภคสามารถดาวน์โหลดได้ทาง App Store ของไอโฟน ซึ่งภายในแอพพลิเคชันดังกล่าว เป็นการนำ 2 ฟีเจอร์อันโดดเด่นจากเว็บไซต์จีบันดอทคอม คือ 1.ยูเซอร์รีวิว ที่ให้ผู้ใช้ได้เข้าไปค้นหาผลิตภัณฑ์ความงามที่ต้องการ โดยมีข้อมูลตรงจากแบรนด์หรือผู้นำเข้า พร้อมให้สมาชิกได้ให้คะแนนและแสดงความเห็นได้อย่างเสรี ซึ่งปัจจุบันมีข้อมูลผลิตภัณฑ์ความงามกว่า 30,000 ชิ้น และมีสมาชิกช่วยกันรีวิวไปแล้วกว่า 100,000 ความเห็น และ 2.บิวตี้เช็ค (Beauty Check) ที่ให้สมาชิกได้ถ่ายภาพสไตล์การแต่งตัวในแต่ละวัน พร้อมทั้งติดแท็ก (tag) ที่มาของเสื้อผ้าและเครื่องประดับ และอัพโหลดให้เพื่อนๆ ได้ดูและแสดงความเห็น
อย่างไรก็ดี แอพพลิเคชันของจีบันดอทคอมยังไม่หยุดพัฒนาไปเพียงแค่นี้ ซึ่งนางจีราภัสร์เผยว่า ในอนาคตจะขยายไปสู่ระบบปฏิบัติการอื่นๆ และเพิ่มฟังก์ชันใหม่ๆ ที่รองรับไลฟ์สไตล์ของผู้หญิง โดยกำลังมองหาพันธมิตรร่วมพัฒนาแอพพลิเคชันชุดนี้
สำหรับจีบันดอทคอมเป็นเว็บไซต์คอมมูนิตี้ผู้หญิงอันดับหนึ่งที่มียอดผู้เข้าชมสูงถึง 1.7 ล้านคนต่อเดือน(สถิติจาก Google Analytics) ขณะที่เพจวิวในปัจจุบันอยู่ที่ 9 ล้านเพจวิวต่อเดือน (สถิติจาก Truehits) โดยผู้เข้าชมเว็บไซต์ 95% เป็นเพศหญิง ในจำนวนนี้ 40% เป็นผู้เข้าชมในกลุ่มอายุ 18-25 ปี และอีกประมาณ 30% อายุ 26-30 ปี.
จีบันดอทคอมเขย่าตลาดความงาม ปล่อยแอพพลิเคชันกระตุ้นเทรนด์โซเซียลช้อปปิ้ง ก้าวสู่การตลาดแห่งอนาคตในยุคโปรซูเมอร์ส ที่ผู้บริโภคแนะนำสินค้าและบริการระหว่างกันได้อย่างเสรี เพิ่มพลังการตัดสินใจซื้อไว้ที่ปลายนิ้ว คาดดันยอดสมาชิกเพิ่ม 20% สิ้นปีวางเป้ายอดดาวน์โหลดทะลุแสนราย
จีบันดอทคอม (Jeban.com) คอมมูนิตี้ออนไลน์ผู้หญิงอันดับหนึ่งของไทย ขยับไปอีกก้าวจากการให้บริการเว็บไซต์ในรูปแบบผู้ใช้สร้างเนื้อหา (User Generated Content) อย่างเต็มตัว เข้าสู่การเป็นเจ้าของโมบายแอพพลิเคชันแรกในประเทศไทย ที่ผู้บริโภคสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลผลิตภัณฑ์ทางด้านความงามระหว่างกัน และนำไปสู่การตัดสินใจซื้อได้อย่างรวดเร็วตรงใจ อีกทั้งยังเป็นการเปิดช่องทางการตลาดชนิดถึงตัวอีกด้วย
นางจีราภัสร์ อริยบุรุษ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์จีบันดอทคอม เปิดเผยว่า ปัจจุบันผู้บริโภคมีพฤติกรรมการซื้อสินค้าที่เปลี่ยนแปลงไปจากอดีต โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่นิยมค้นหาข้อมูลสินค้าและบริการต่างๆ ก่อนการตัดสินใจ ผ่านทางอินเทอร์เน็ต จากการเข้าไปอ่านความเห็นของผู้ที่เคยใช้สินค้าหรือบริการดังกล่าวมาก่อนหน้า มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคยุคปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางดังกล่าว เป็นเพราะการขยายตัวของเครื่องมือสื่อสารและอุปกรณ์ไอที อาทิ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต รวมถึงการให้บริการอินเทอร์เน็ตที่มีความเร็วสูง และขยายการให้บริการครอบคลุมไปยังพื้นที่ต่างๆ ที่สำคัญ เช่น ห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ร้านกาแฟ แหล่งชุมชน เป็นต้น และบางแห่งยังเป็นการให้บริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
“ปัจจุบันจีบันดอทคอมมีสมาชิกกว่า 120,000 คน โดยเป็นสมาชิกที่แอคทีฟอยู่กว่า 80% ของจำนวนสมาชิกทั้งหมด ทำให้เราเล็งเห็นว่า ความเห็นจากผู้ใช้ในคอมมูนิตี้ของเรานั้น มีผลต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆ อีกทั้งในยุคที่ทุกคนมีสมาร์ทโฟนติดมือ พร้อมที่จะออนไลน์ได้ทุกที่ทุกเวลา ทำให้การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของผู้บริโภคเป็นไปได้ง่ายมากขึ้นด้วย” นางจีราภัสร์ กล่าว
นางจีราภัสร์ กล่าวอีกว่า จากปัจจัยที่อุปกรณ์ไอทีมีอัตราการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ได้มีการสร้างแอพพลิเคชันออกมารองรับกับพฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อให้เข้าถึงแหล่งข้อมูลได้ง่ายมากขี้น โดยในส่วนของจีบันดอทคอมจึงได้เปิดตัวโมบายแอพพลิเคชัน “Jeban On App” เข้ามาเป็นตัวช่วยให้ผู้บริโภคสามารถค้นหาข้อมูลผลิตภัณฑ์ต่างๆ พร้อมเปรียบเทียบก่อนการตัดสินใจซื้อได้ทันที
ทางด้าน นางธุวรักษ์ ปัญญางาม ผู้จัดการฝ่ายการตลาดจีบันดอทคอม กล่าวว่า จีบันดอทคอมเปิดตัว Jeban on app อย่างไม่เป็นทางการไปเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จเกินกว่าที่คาดหมายไว้ โดยเพียงสัปดาห์แรก ยอดการดาวน์โหลดก็สามารถขึ้นสู่อันดับที่ 2 ของ App Store ได้ ปัจจุบันมียอดดาวน์โหลดรวมแล้วกว่า 80,000 ครั้ง จีบันดอทคอมคาดว่า ถึงสิ้นปีนี้จะมีจำนวนผู้ดาวน์โหลดกว่า 100,000 ครั้ง โดยเชื่อว่าจะช่วยเพิ่มจำนวนสมาชิกเว็บไซต์ขึ้น 20% และเพิ่มเพจวิวขึ้นอีก 20%
“ชุมชนออนไลน์นับเป็นศูนย์รวมของผู้ที่มีรสนิยมและความชอบในเรื่องเดียวกัน เมื่อสมาชิกของเว็บไซต์หรือชุมชนออนไลน์นั้นๆ ได้รับข้อมูลที่ดีและเป็นประโยชน์ ก็จะเข้ามาบอกต่อให้กับเพื่อนสมาชิก อย่างกรณีการเลือกซื้อสินค้า เมื่อผู้บริโภคเกิดความประทับใจในผลิตภัณฑ์ใด ก็จะนำข้อมูลมาแชร์ต่ออย่างเสรี รวมถึงมีการให้คะแนนผลิตภัณฑ์นั้นๆ ด้วย ซึ่งนับว่าเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างโปรซูเมอร์ (Prosumers) คือผู้บริโภคที่ยกระดับตัวเองขึ้นมาเป็นผู้เชี่ยวชาญในผลิตภัณฑ์ที่ตัวเองสนใจ” นางธุวรักษ์อธิบาย
“เมื่อโปรซูเมอร์ในชุมชนเข้ามาแบ่งปันข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา และถ้าสมาชิกอื่นๆ เห็นว่าข้อมูลนั้นมีประโยชน์ต่อการตัดสินใจซื้อ จนกลับมาแนะนำต่อ หรือแสดงความเห็นด้านลบ เจ้าของผลิตภัณฑ์ก็จะรู้ฟีดแบคและนำไปพัฒนาสินค้าให้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค ถือเป็นการให้ดีมานด์สร้างซัพพลาย”
“คอมมูนิตี้มีส่วนผลักดันไปสู่โซเซียล ช้อปปิ้ง (Social Shopping) มากขึ้น เมื่อมีผู้นำข้อมูลผลิตภัณฑ์ในส่วน “ยูเซอร์รีวิว” (User Review) ของจีบันดอทคอมไปประกอบการตัดสินใจซื้อ และนำกลับมารีวิว พร้อมทั้งยังรองรับพฤติกรรมแบบ Point-know-buy ของคนรุ่นใหม่ คือเมื่ออยู่ที่จุดขาย-เราก็ค้นหาข้อมูล-และตัดสินใจซื้อ นับเป็นกระแสการบริโภคที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้รูปแบบการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์เปลี่ยนไป โดยจีบันดอทคอมได้สร้างแอพพลิเคชันชุดนี้ไว้ เพื่อตอบสนองการตลาดในยุคหน้า” นางธุวรักษ์อธิบาย
นอกจากนี้ นางจีราภัสร์ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับ Jeban on app นั้น ทำงานผ่านระบบปฎิบัติการ IOS ที่ผู้บริโภคสามารถดาวน์โหลดได้ทาง App Store ของไอโฟน ซึ่งภายในแอพพลิเคชันดังกล่าว เป็นการนำ 2 ฟีเจอร์อันโดดเด่นจากเว็บไซต์จีบันดอทคอม คือ 1.ยูเซอร์รีวิว ที่ให้ผู้ใช้ได้เข้าไปค้นหาผลิตภัณฑ์ความงามที่ต้องการ โดยมีข้อมูลตรงจากแบรนด์หรือผู้นำเข้า พร้อมให้สมาชิกได้ให้คะแนนและแสดงความเห็นได้อย่างเสรี ซึ่งปัจจุบันมีข้อมูลผลิตภัณฑ์ความงามกว่า 30,000 ชิ้น และมีสมาชิกช่วยกันรีวิวไปแล้วกว่า 100,000 ความเห็น และ 2.บิวตี้เช็ค (Beauty Check) ที่ให้สมาชิกได้ถ่ายภาพสไตล์การแต่งตัวในแต่ละวัน พร้อมทั้งติดแท็ก (tag) ที่มาของเสื้อผ้าและเครื่องประดับ และอัพโหลดให้เพื่อนๆ ได้ดูและแสดงความเห็น
อย่างไรก็ดี แอพพลิเคชันของจีบันดอทคอมยังไม่หยุดพัฒนาไปเพียงแค่นี้ ซึ่งนางจีราภัสร์เผยว่า ในอนาคตจะขยายไปสู่ระบบปฏิบัติการอื่นๆ และเพิ่มฟังก์ชันใหม่ๆ ที่รองรับไลฟ์สไตล์ของผู้หญิง โดยกำลังมองหาพันธมิตรร่วมพัฒนาแอพพลิเคชันชุดนี้
สำหรับจีบันดอทคอมเป็นเว็บไซต์คอมมูนิตี้ผู้หญิงอันดับหนึ่งที่มียอดผู้เข้าชมสูงถึง 1.7 ล้านคนต่อเดือน(สถิติจาก Google Analytics) ขณะที่เพจวิวในปัจจุบันอยู่ที่ 9 ล้านเพจวิวต่อเดือน (สถิติจาก Truehits) โดยผู้เข้าชมเว็บไซต์ 95% เป็นเพศหญิง ในจำนวนนี้ 40% เป็นผู้เข้าชมในกลุ่มอายุ 18-25 ปี และอีกประมาณ 30% อายุ 26-30 ปี.
2
news & activity / เปิดตัวเซ็นทรัลพลาซา สุราษฎร์ธานี และเซ็นทรัลพลาซา ลำปางยิ่งใหญ่ ในเดือนตุลาคม
« on: September 20, 2012, 10:50:02 AM »ซีพีเอ็นย้ำความสำเร็จปักธงศูนย์การค้าแห่งที่ 19 และ 20 ปีนี้ตามแผน
เปิดตัวเซ็นทรัลพลาซา สุราษฎร์ธานี และเซ็นทรัลพลาซา ลำปางยิ่งใหญ่ ในเดือนตุลาคมและพฤศจิกายนนี้
ชูแนวคิดเชิงรุก 3S ขยายธุรกิจแบบก้าวกระโดดทุกปี เป้ารายได้ปีนี้โตประมาณ 30%
กรุงเทพฯ – 19 กันยายน 2555: บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น ปักธงความสำเร็จขยายศูนย์การค้าทั่วประเทศครบ 20 แห่งในปีนี้ ย้ำตำแหน่งผู้นำอันดับ 1 อสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีกไทย ล่าสุดเตรียมเปิดศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา สุราษฎร์ธานี ศูนย์การค้าแห่งที่ 19 ในเดือนตุลาคม
และเซ็นทรัลพลาซา ลำปาง ศูนย์การค้าแห่งที่ 20 ในเดือน พฤศจิกายน พร้อมชูแนวคิดเชิงรุก 3S ขยายธุรกิจโตแบบก้าวกระโดดทุกปี คาดปีนี้ทั้งปีรายได้เติบโตประมาณ 30%
นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารธุรกิจและโครงการก่อสร้างของซีพีเอ็น กล่าวว่า “ซีพีเอ็นจะดำเนินกลยุทธ์เชิงรุก 3S: STRATEGIC MOVE 'รุกเร็ว' เพื่อช่วงชิงโอกาสทางธุรกิจ SECURE PRIME LOCATION หาโลเคชั่นที่ดีมีศักยภาพสูงสุด เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบ และ SYNERGY กับพันธมิตรร้านค้า เพื่อผลักดันให้ธุรกิจสามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดด เป็นยุทธศาสตร์ระยะยาว ซึ่งทุกทำเลที่ซีพีเอ็นขยายไปล้วนเป็นหัวเมืองเศรษฐกิจที่มีความสำคัญทั้งในแง่ยุทธศาสตร์ธุรกิจและการสร้างแบรนด์ของซีพีเอ็นให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน”
ซีพีเอ็นมองว่าจากนี้ไปเศรษฐกิจและการบริโภคของไทยจะดีขึ้น ซึ่งแนวโน้มธุรกิจค้าปลีกมีสัญญาณที่ดีขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมีปัจจัยเกื้อหนุนให้ธุรกิจขยายตัวหลายด้าน ทั้งตัวเลขเศรษฐกิจ รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ โดยซีพีเอ็นมีแผนขยายธุรกิจต่อเนื่องทุกปี ด้วยการเปิดศูนย์การค้าใหม่ปีละประมาณ 3-4 ศูนย์ฯ ด้วยเม็ดเงินลงทุนไม่ต่ำกว่าปีละ 1 หมื่นล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจให้โตแบบก้าวกระโดด เสริมความแข็งแกร่งขององค์กร พร้อมรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558
คุณวัลยา กล่าวว่า “ปีนี้ซีพีเอ็นจะมีศูนย์การค้าครบ 20 แห่ง โดยจะเปิดเซ็นทรัลพลาซา สุราษฎร์ธานี 11 ตุลาคมนี้ และเปิดเซ็นทรัลพลาซา ลำปาง 30 พฤศจิกายนนี้ เซ็นทรัลพลาซา สุราษฎร์ธานี จะเป็นโครงการแรกในภาคใต้ของ ซีพีเอ็นที่มุ่งเข้าไปเติมเต็มความยิ่งใหญ่ครบครันให้ภาคใต้ สุราษฎร์ธานี ถือเป็นจังหวัดศูนย์กลางของภาคใต้ที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจและมีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญระดับโลกที่ดึงนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติปีละหลายล้านคน ส่วนที่ลำปางซึ่งเป็นจังหวัดสำคัญทางเศรษฐกิจการค้า เกษตรกรรม และอุตสาหกรรมของภาคเหนือนั้น จะเป็นการเติมเต็มศักยภาพของซีพีเอ็นในการเป็นเจ้าตลาดในเส้นทางเศรษฐกิจสายสำคัญ Northern Economic Corridor อย่างแท้จริง เพราะซีพีเอ็นมีศูนย์การค้าทั้งในเชียงใหม่ เชียงรายและลำปาง เสริมความแข็งแกร่งครบทุกจุดยุทธศาสตร์สำคัญ”
ศูนย์การค้าของซีพีเอ็นจะเน้นจับกลุ่มลูกค้าวัยทำงาน ครอบครัว คนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์คนเมือง Urban Lifestyle เพราะปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคในภูมิภาคมีความคล้ายคลึงกับคนในเมืองหลวง ซึ่งศูนย์การค้าของซีพีเอ็นจะเข้าไปตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค กลยุทธ์ที่ซีพีเอ็นมุ่งเน้นคือ Synergy กับพันธมิตร Anchor และร้านค้า เพื่อเป็นผู้นำสิ่งใหม่ๆ มาให้กับผู้บริโภคอยู่เสมอ ทั้งเทรนด์ศูนย์การค้ารูปแบบใหม่รวมถึงแบรนด์ยอดนิยม ให้คนในท้องถิ่นได้ “ช้อป ชิม ชิล” แบบเดียวกับนักช้อปในกรุงเทพฯ นอกจากนี้ การเข้าไปลงทุนในจังหวัดต่างๆ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและกระตุ้นการจ้างงาน สร้างรายได้ โดยแต่ละศูนย์ฯ ที่เปิดใหม่จะมีการจ้างงานกว่า 1,000 อัตราขึ้นไป นอกจากนี้ซีพีเอ็นยังมุ่งหวังให้ศูนย์การค้าเป็นสถานที่ที่คนในท้องถิ่นสามารถเข้ามาดำเนินงานของชุมชน เปิดกิจการของตนเองสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น พัฒนาฝีมือแรงงาน รวมถึงศักยภาพในการค้าขาย และการดำเนินธุรกิจได้ด้วย
3
news & activity / อิชิตัน กรีนที ลุ้นรหัสรวยเปรียง 60วัน 60ล้าน
« on: September 18, 2012, 01:51:49 PM »อิชิตัน กรีนที ทุ่ม 120ล้าน สร้างวัตกรรมใหม่การชิงโชค
ลุ้นรหัสรวบเปรี้ยง อิชิตัน 60วัน60ล้าน
[/b]ลุ้นรหัสรวบเปรี้ยง อิชิตัน 60วัน60ล้าน
อิชิตัน กรุ๊ป เปิดเกมรุกตลาดชาเยวโค้งสุดท้าน อัดงบ 120ล่านบาท ส่งหมัดเด็ด บิ๊กแคมเปญแห่งปี ลุ้นรหัสรวบเปรียง อิชิน 60วัน 60ล้าน พร้อมโชคชั้น2 แจก iPhone5 พร้อมกัน 100เครื่อง
ในกรรร่วมสนุกครั้งนี้ โดยการพิมพ์รหัสใต้ฝา UHTภายในกล่อง กดรหัสตามที่พิมพ์ สามารถส่งได้ทุกระบบ AIS DTAC TRUEMOVE ฟรีค่าส่ง หากเป็นผู้โชคดีทางต่างจังหวัด สามารถเปิดค่าเดินทางได้ไม่เกิน 5,000บาท ทั้งหมดนี้ ฟรี ไม่ต้องเสียภาษีหัก ณ.ที่จ่ายแม้แต่บาทเดียว
4
news & activity / ทรู สปาสาขาเซน อาคารเซ็นเวิลด์ ศูนย์การค้าเซน
« on: July 24, 2012, 10:36:00 PM »
ทรู สปา สาขาเซน อาคารเซ็นเวิลด์ ศูนย์การค้าเซน
ทรู สปา – ประกอบไปด้วยบริการระดับพรีเมียมเพื่อความงามตลอดศีรษะจรดปลายเท้า สปาที่เป็นจุดเด่น และเอกลักษณ์ของทรู สปา ได้แก่ The Secret of ZEN, Hot and Cold Stones Therapy, Four Hands Harmony Massage และ Hot Stones Harmony Therapy ผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ร่วมกับการทำสปา เป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงเพื่อผลลัพท์ที่น่าพอใจ อาทิ Jurlique และ Biodroga เป็นต้น รูปแบบการตกแต่งของทรู สปายังอบอวลไปด้วยความหรูหรา ทันสมัย และบรรยากาศเงียบสงบ เหมาะสำหรับการผ่อนคลายทั้งกายและใจ นอกจากนี้ ภายในพื้นที่ของ ทรู สปา ยังประกอบไปด้วย ห้องชุดวีไอพี 4 ห้องพร้อมบริการวารีบำบัด ห้องทรีทเม้นต์ 7 ห้อง ห้องทรีทเม้นต์ใบหน้า 5 ห้อง ห้องนวด 13 ห้อง ห้องนวดแผนไทย ห้องสตีม พร้อมพื้นที่เพื่อการผ่อนคลายอีกมากมาย อาทิ เลาจน์สำหรับสมาชิก สระน้ำวน รวมถึงห้องอาบน้ำ และล็อคเกอร์ (ด้านห้างเซน ชั้น11)
ทรู สปา – ประกอบไปด้วยบริการระดับพรีเมียมเพื่อความงามตลอดศีรษะจรดปลายเท้า สปาที่เป็นจุดเด่น และเอกลักษณ์ของทรู สปา ได้แก่ The Secret of ZEN, Hot and Cold Stones Therapy, Four Hands Harmony Massage และ Hot Stones Harmony Therapy ผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ร่วมกับการทำสปา เป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงเพื่อผลลัพท์ที่น่าพอใจ อาทิ Jurlique และ Biodroga เป็นต้น รูปแบบการตกแต่งของทรู สปายังอบอวลไปด้วยความหรูหรา ทันสมัย และบรรยากาศเงียบสงบ เหมาะสำหรับการผ่อนคลายทั้งกายและใจ นอกจากนี้ ภายในพื้นที่ของ ทรู สปา ยังประกอบไปด้วย ห้องชุดวีไอพี 4 ห้องพร้อมบริการวารีบำบัด ห้องทรีทเม้นต์ 7 ห้อง ห้องทรีทเม้นต์ใบหน้า 5 ห้อง ห้องนวด 13 ห้อง ห้องนวดแผนไทย ห้องสตีม พร้อมพื้นที่เพื่อการผ่อนคลายอีกมากมาย อาทิ เลาจน์สำหรับสมาชิก สระน้ำวน รวมถึงห้องอาบน้ำ และล็อคเกอร์ (ด้านห้างเซน ชั้น11)
5
news & activity / ทรู เอส คลินิกเวชกรรมความงาม สาขา เซนเปิดแล้ว
« on: July 24, 2012, 10:32:21 PM »
ทรู เอส คลินิกเวชกรรม พร้อมเปิดให้บริการแล้วที่ เซน เซ็นทรัลเวิลด์
ทรู เอส – คลินิกเวชกรรมความงามเพื่อความทันสมัยและสมบูรณ์แบบมากที่สุด โดยมีทีมแพทย์ และพยาบาลผู้เชี่ยวชาญ คอยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสุขภาพความงามทั้งสุภาพบุรุษ และสุภาพสตรี ที่ทรู เอสมีบริการมากมายทั้ง Laser Tone, Vascular Treatment, IPL Photo Rejuvenation, Non-surgical Face Lift, Botox®, VelaSmooth™ Body Recontouring, Arion Alexandrite Hair Removal และล่าสุดกับ 2 ทรีทเม้นต์ Coolsculpting ที่ใช้เทคนิค Cryolipolysis ซึ่งสามารถกำจัดไขมันได้อย่างถาวรโดยการแช่แข็งเซลล์ไขมันไว้ และทรีทเม้นต์ Venus Freeze ที่ช่วยยกกระชับใบหน้า ลดกระจุดด่างดำ และเพิ่มความแข็งแรงของผิว (ด้านห้างเซน ชั้น11)
ทรู เอส – คลินิกเวชกรรมความงามเพื่อความทันสมัยและสมบูรณ์แบบมากที่สุด โดยมีทีมแพทย์ และพยาบาลผู้เชี่ยวชาญ คอยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสุขภาพความงามทั้งสุภาพบุรุษ และสุภาพสตรี ที่ทรู เอสมีบริการมากมายทั้ง Laser Tone, Vascular Treatment, IPL Photo Rejuvenation, Non-surgical Face Lift, Botox®, VelaSmooth™ Body Recontouring, Arion Alexandrite Hair Removal และล่าสุดกับ 2 ทรีทเม้นต์ Coolsculpting ที่ใช้เทคนิค Cryolipolysis ซึ่งสามารถกำจัดไขมันได้อย่างถาวรโดยการแช่แข็งเซลล์ไขมันไว้ และทรีทเม้นต์ Venus Freeze ที่ช่วยยกกระชับใบหน้า ลดกระจุดด่างดำ และเพิ่มความแข็งแรงของผิว (ด้านห้างเซน ชั้น11)
6
news & activity / ทรู ฟิตเนส สาขาเซน อาคารเซ็นเวิลด์ ศูนย์การค้าเซน
« on: July 24, 2012, 10:19:21 PM »
Ture Fitness Zen เปิดให้บริการแล้ว
ทรู ฟิตเนส – ประกอบไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก และเครื่องมืออุปกรณ์ทันสมัยอันหลากหลาย เพื่อจุดประสงค์ในการออกกำลังกายที่แตกต่างกันของลูกค้า เช่น เพื่อบริหารหัวใจ และประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือด หรือเพื่อบริหารความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ เป็นต้น พื้นที่ของบริการในส่วนทรู ฟิตเนส ยังประกอบไปด้วยห้องสตีม โยคะ และบิแครมโยคะร้อนสตูดิโออย่างละ 1 ห้อง แอโรบิคสตูดิโอ 2 ห้อง เวทีมวย และพื้นที่สำหรับกิจกรรมยกน้ำหนัก พาวเวอร์เพลท และคาดิโอเวฟ ทรู ฟิตเนสมีคลาสเรียนมากกว่า 170 คลาสต่ออาทิตย์ให้เลือกสรร ทั้งคลาสแอโรบิค สปินนิ่ง โยคะ และบิแครมโยคะร้อน สำหรับกิจกรรมประเภท 1-Vest, TRX® Suspension Training®, Agility Circuit Training หรือPowerplate® หลังการออกกำลังกาย ลูกค้าทั้งหญิง และชายสามารถใช้บริการห้องอาบน้ำกว่า 50 ห้อง และสามารถนั่งผ่อนคลายภายในเลาจน์สำหรับสมาชิกทั่วไป หรือเลาจน์สำหรับสมาชิกวีไอพีแบล็คการ์ดที่มีเก้าอี้นวด OSIM นอกจากนี้ ทรู ฟิตเนสยังมีบริการเทรนเนอร์ส่วนตัวเพื่อการออกกำลังกายที่ถูกต้อง ด้านความปลอดภัยของทรัพย์สิน ลูกค้าสามารถเก็บของส่วนตัวได้ที่ล็อคเกอร์จำนวนกว่า 680 ยูนิต
ทรู ฟิตเนส – ประกอบไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก และเครื่องมืออุปกรณ์ทันสมัยอันหลากหลาย เพื่อจุดประสงค์ในการออกกำลังกายที่แตกต่างกันของลูกค้า เช่น เพื่อบริหารหัวใจ และประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือด หรือเพื่อบริหารความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ เป็นต้น พื้นที่ของบริการในส่วนทรู ฟิตเนส ยังประกอบไปด้วยห้องสตีม โยคะ และบิแครมโยคะร้อนสตูดิโออย่างละ 1 ห้อง แอโรบิคสตูดิโอ 2 ห้อง เวทีมวย และพื้นที่สำหรับกิจกรรมยกน้ำหนัก พาวเวอร์เพลท และคาดิโอเวฟ ทรู ฟิตเนสมีคลาสเรียนมากกว่า 170 คลาสต่ออาทิตย์ให้เลือกสรร ทั้งคลาสแอโรบิค สปินนิ่ง โยคะ และบิแครมโยคะร้อน สำหรับกิจกรรมประเภท 1-Vest, TRX® Suspension Training®, Agility Circuit Training หรือPowerplate® หลังการออกกำลังกาย ลูกค้าทั้งหญิง และชายสามารถใช้บริการห้องอาบน้ำกว่า 50 ห้อง และสามารถนั่งผ่อนคลายภายในเลาจน์สำหรับสมาชิกทั่วไป หรือเลาจน์สำหรับสมาชิกวีไอพีแบล็คการ์ดที่มีเก้าอี้นวด OSIM นอกจากนี้ ทรู ฟิตเนสยังมีบริการเทรนเนอร์ส่วนตัวเพื่อการออกกำลังกายที่ถูกต้อง ด้านความปลอดภัยของทรัพย์สิน ลูกค้าสามารถเก็บของส่วนตัวได้ที่ล็อคเกอร์จำนวนกว่า 680 ยูนิต
7
news & activity / ธนาคารกสิกรไทย เปิดตัวบัตรพร้อมสมุดคู่ฝากและซอง Hello Kitty
« on: June 15, 2012, 01:21:08 AM »ธนาคารกสิกรไทย เปิดตัวบัตรเดบิตลายล่าสุด Hello Kitty ซึ่งมีทั้งแบบ K-My Debit Card และ K-Max Debit Card
โดยมีทั้งบัตร สมุดคู่ฝาก และซองใส่ลาย Hello Kitty ให้ลูกค้าของธนาคารกสิกรไทยได้เลือกสมัครตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน
โดยมีค่าธรรมเนียมดังต่อไปนี้
K-My Hello Kitty ค่าออกบัตร 300 บาท ค่าธรรมเนียมรายปี 250 บาท
K-Max Hello Kitty ค่าออกบัตร 300 บาท ค่าธรรมเนียมรายปี 550 บาท
ถ้ามี K-Max อยู่แล้ว เปลี่ยนเป็น K-My Hello Kitty 350 บาท เป็น K-Max Hello Kitty 300 บาท
ถ้ามี บัตรเดบิตกสิกรไทย เปลี่ยนเป็น K-My Hello Kitty 300 บาท เป็น K-Max Hello Kitty 600 บาท
สามารถใช้บัญชีเดิมในการสมัครได้ และนอกจากนี้หากสมัครบัตรในงานเปิดตัวบัตร Hello Kitty
ในวันที่ 22 – 24 มิถุนายนที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว โซน D ชั้น 1
100 ท่านแรก จะได้รับกระเป๋าสะพาย Tote Bag Hello Kitty
และลุ้นรับชิงกระเป๋าเดินทาง หรือ กระเป๋า Beautybag Hello Kitty ได้อีกด้วย
โดยมีทั้งบัตร สมุดคู่ฝาก และซองใส่ลาย Hello Kitty ให้ลูกค้าของธนาคารกสิกรไทยได้เลือกสมัครตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน
โดยมีค่าธรรมเนียมดังต่อไปนี้
K-My Hello Kitty ค่าออกบัตร 300 บาท ค่าธรรมเนียมรายปี 250 บาท
K-Max Hello Kitty ค่าออกบัตร 300 บาท ค่าธรรมเนียมรายปี 550 บาท
ถ้ามี K-Max อยู่แล้ว เปลี่ยนเป็น K-My Hello Kitty 350 บาท เป็น K-Max Hello Kitty 300 บาท
ถ้ามี บัตรเดบิตกสิกรไทย เปลี่ยนเป็น K-My Hello Kitty 300 บาท เป็น K-Max Hello Kitty 600 บาท
สามารถใช้บัญชีเดิมในการสมัครได้ และนอกจากนี้หากสมัครบัตรในงานเปิดตัวบัตร Hello Kitty
ในวันที่ 22 – 24 มิถุนายนที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว โซน D ชั้น 1
100 ท่านแรก จะได้รับกระเป๋าสะพาย Tote Bag Hello Kitty
และลุ้นรับชิงกระเป๋าเดินทาง หรือ กระเป๋า Beautybag Hello Kitty ได้อีกด้วย
8
news & activity / ฝาชืตันแลกตัวหนังเอส เอฟ ฟรี 100,00 ใบ
« on: June 12, 2012, 02:21:17 PM »
คอหนังเตรียมเฮลั่น !! เมื่อโรงภาพยนต์ในเครือเอส เอฟ ร่วมกับ อิชิกัน สร้างปรากฏการณ์เขย่าวงการภาพยนต์จัดแคมเปญยิ่งใหญ่ฉลองครบรอบ 1 ปีอิชิตัน ออร์แกนิค กับ "อิชิตัน 1 ปี 1 ฝา ดูหนังฟรี 100,000 ใบ"ให้ลูกค้าเต็มอิ่มความบันเทิงไปกับภาพยนค์ฟอร์ยักษ์ทุกเรื่อง ทุกรอบ เพียงมีฝาอิชิตัน 1 ฝา แลกรับทันทีตั๋วหนัง 1 ใบที่โรงภาพยนต์ในเครือเอส เอฟ ทุกสาขาทั่วประเทศ ดีเดย์เริ่ม 15 มิ.ย.นี้หรือจนกว่าบัตรจะหมด
9
news & activity / ดูซีรีส์ ญี่ปุ่น เกาหลี มาราธอน “JKN SERIES NON-STOP”
« on: June 12, 2012, 02:02:00 PM »
สร้างสถิติโลก ครั้งแรก! กับการแข่งขัน
ดูซีรีส์ ญี่ปุ่น เกาหลี มาราธอน
มากที่สุดในโลก 50 ชั่วโมง
ใน “JKN SERIES NON-STOP”
(เจเคเอ็น ซีรี่ส์ นอนสต๊อป)
รอบชิงชนะเลิศ โดยผู้เข้าแข่งขันกว่า 200 ชีวิต จาก 2,000 คน ร่วมพิชิต...รถยนต์!
งานนี้ จิ๊ก เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์ เข้าร่วมแข่งขัน
พร้อมชมมินิคอนเสิร์ตจาก รุจ เดอะสตาร์,
ชาช่า อริต์ตา รามณรงค์, อะตอม MIC IDOL ร่วมงาน
ในวันศุกร์ที่ 15 มิถุนายน 2555 ตั้งแต่เวลา 11.00 น. เป็นต้นไป
ณ โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า เซ็นทรัลเวิลด์
ดูซีรีส์ ญี่ปุ่น เกาหลี มาราธอน
มากที่สุดในโลก 50 ชั่วโมง
ใน “JKN SERIES NON-STOP”
(เจเคเอ็น ซีรี่ส์ นอนสต๊อป)
รอบชิงชนะเลิศ โดยผู้เข้าแข่งขันกว่า 200 ชีวิต จาก 2,000 คน ร่วมพิชิต...รถยนต์!
งานนี้ จิ๊ก เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์ เข้าร่วมแข่งขัน
พร้อมชมมินิคอนเสิร์ตจาก รุจ เดอะสตาร์,
ชาช่า อริต์ตา รามณรงค์, อะตอม MIC IDOL ร่วมงาน
ในวันศุกร์ที่ 15 มิถุนายน 2555 ตั้งแต่เวลา 11.00 น. เป็นต้นไป
ณ โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า เซ็นทรัลเวิลด์
10
news & activity / นิทรรศการแห่งประวัติศาสตร์โลก 100 ปี ไททานิค ที่ เซ็นทรัลเวิล ไลฟ์
« on: June 04, 2012, 11:20:53 PM »“100 ปี ไททานิค” นิทรรศการแห่งประวัติศาสตร์โลก
เป็นเวลา 100 ปี ที่เรือสำราญลำประวัติศาสตร์ “ไททานิค” ได้จมลงสู่มหาสมุทรแอตแลนติก และได้ทิ้งความยิ่งใหญ่ของประวัติศาสตร์ให้โลกได้จารึก ซึ่งเรื่องราวของ “ไททานิค” ได้กลับมามีชีวิตบอกเล่าเรื่องราวผ่านชิ้นส่วนจริงที่กู้ได้จากซากเรือที่สงบนิ่งใต้มหาสมุทร ในรูปแบบนิทรรศการสื่อผสม ที่คนไทยจะได้สัมผัสเป็นครั้งแรก
Titanic: The Artifact Exhibition ถือกำเนิดขึ้นจากการนำวัตถุกว่า 300 ชิ้นที่กู้จากซากเรือไททานิคมาจัดแสดงในลอนดอน ซึ่งเป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวของการจัดแสดงเพื่อการศึกษาและคุณค่าทางอารมณ์ ที่เหมาะสำหรับคนทุกวัย
เรื่องราวการเดินทางของเรือไททานิค จะทำให้คุณได้เรียนรู้เรื่องราวต่างๆอย่างมากมาย ทั้ง เทคโนโลยี, ความกล้าหาญ, มนุษยธรรมที่แลกด้วยเกียรติยศ และความพยายามอย่างยิ่งยวดของมนุษย์ในการเผชิญหน้ากับโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ โดยนิทรรศการได้ถ่ายทอดเรื่องราวของบุคคลที่น่าสนใจผ่านสิ่งของจริงและเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ
ขวดน้ำหอมที่ประณีต,ชิ้นส่วนจากประเทศจีนมีโลโก้ของไวท์สตาร์ไลน์ และวัตถุอื่น ๆ อีกมากมายที่เก็บรวบรวมจากซากเรือ จะนำคุณไปสัมผัสกับความสะเทือนอารมณ์ของชีวิตที่สิ้นสุดลงอย่างกะทันหันและการเปลี่ยนไปตลอดกาล อันเกิดจากโศกนาฏกรรมทางทะเลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของโลก
สัมผัสหลากหลายมุมของเรื่องราวความยิ่งใหญ่ พร้อมสัมผัสของจริง ในนิทรรศการระดับสากล (9 มิ.ย – 2 กันยายน เซ็นทรัลเวิล ไลฟ์)
11
news & activity / “สยาม วินเทจ” ศูนย์การค้าแฟชั่นแห่งใหม่สไตล์วินเทจแห่งเดียวของเมืองไทย
« on: May 31, 2012, 11:40:59 PM »“สยาม วินเทจ” ศูนย์การค้าแฟชั่นแห่งใหม่สไตล์วินเทจแห่งเดียวของเมืองไทย
ชวนหลงใหลไปกับมนต์เสน่ห์ย้อนยุค ที่ผสมผสานกับแฟชั่นสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว
ชวนหลงใหลไปกับมนต์เสน่ห์ย้อนยุค ที่ผสมผสานกับแฟชั่นสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว
“สยาม วินเทจ” (Siam Vintage) เกิดขึ้นจากแนวคิดของผู้บริหารรุ่นใหม่ไฟแรงอย่าง “ไกรสิทธิ์ ทารมย์” ที่อยากจะประกาศให้ทั้งโลกรู้ว่า “วินเทจไม่เคยตาย และเป็นสไตล์ที่ได้รับความนิยมเสมอ” จึงเป็นที่มาของการเนรมิตสถานที่ใจกลางสยาม สแควร์ ให้กลายเป็นแหล่งรวมสินค้าแฟชั่นหลากหลายชนิดสไตล์วินเทจ และเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายที่กำลังวิ่งตามเทรนด์แฟชั่น แต่ในขณะเดียวกันก็พยายามค้นหาสไตล์ของตัวเอง
ไกรสิทธิ์ ทารมย์ เปิดเผยว่า “ด้วยความคิดริเร่มที่อยากจะมีโครงการคอมมิวนิตี้มอลล์เล็กๆ ที่แตกต่างและมีเอกลักษณ์เฉาะตัว ประกอบกับความชอบในสไตล์วินเทจจึงทำให้พื้นที่ชั้น 2 ของ By-Pass (ตรงข้ามศูนย์หนังสือจุฬา) ถูกเนรมิตรใกลายเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่รวมร้านค้าระดับพรีเมี่ยมกว่า 30 ร้านค้าจากดีไซเนอร์ไทยชื่อดัง อาทิ
Again&Again โดยแอมป์-มาสิริ ตามสกุล, Him+Her โดยพลอย หอวัง, กระเป๋าแบรนด์เนม “Secret Weapon” โดยคริส หอวัง ภายในศูนย์การค้าได้ถูกออกแบบอย่างหรูหราทุกระเบียบนิ้ว และตกแต่งด้วยความประณีต พร้อมทั้งสินค้าแฟชั่นจากแบรนด์ดังๆ ระดับโลกอีกมากมายโดยมีสินค้าให้เลือกซื้อหลากหลายประเภท เช่น แว่นตา, เสื้อผ้า, กระเป๋า, รองเท้า, เครื่องประดับ สำหรับทผู้หญิงและผู้ชาย นอกจากโซนซ้อปปิ้งสุดหรูแล้ว ยังมีร้านอาหาร และ Wine – Cocktail Bar ในบรรยากาศเฉพาะของสยามวินเทจไว้รอรับบริการตอบโจย์ทุกความต้องการของแฟชั่นนิสต้า
ไกรสิทธิ์ ทารมย์ เปิดเผยว่า “ด้วยความคิดริเร่มที่อยากจะมีโครงการคอมมิวนิตี้มอลล์เล็กๆ ที่แตกต่างและมีเอกลักษณ์เฉาะตัว ประกอบกับความชอบในสไตล์วินเทจจึงทำให้พื้นที่ชั้น 2 ของ By-Pass (ตรงข้ามศูนย์หนังสือจุฬา) ถูกเนรมิตรใกลายเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่รวมร้านค้าระดับพรีเมี่ยมกว่า 30 ร้านค้าจากดีไซเนอร์ไทยชื่อดัง อาทิ
Again&Again โดยแอมป์-มาสิริ ตามสกุล, Him+Her โดยพลอย หอวัง, กระเป๋าแบรนด์เนม “Secret Weapon” โดยคริส หอวัง ภายในศูนย์การค้าได้ถูกออกแบบอย่างหรูหราทุกระเบียบนิ้ว และตกแต่งด้วยความประณีต พร้อมทั้งสินค้าแฟชั่นจากแบรนด์ดังๆ ระดับโลกอีกมากมายโดยมีสินค้าให้เลือกซื้อหลากหลายประเภท เช่น แว่นตา, เสื้อผ้า, กระเป๋า, รองเท้า, เครื่องประดับ สำหรับทผู้หญิงและผู้ชาย นอกจากโซนซ้อปปิ้งสุดหรูแล้ว ยังมีร้านอาหาร และ Wine – Cocktail Bar ในบรรยากาศเฉพาะของสยามวินเทจไว้รอรับบริการตอบโจย์ทุกความต้องการของแฟชั่นนิสต้า
โครงการสยามวินเทจ (Siam Vintage) ตั้งอยู่ในสยามสแควร์ ย่านซ้อปปิ้งที่ทันสมัยที่สุดในเมืองไทย อยู่ระหว่างสยามสแควร์ซอย 9 และ 10 บริเวณตรงข้ามศูนย์หนังสือจุฬา คุณจะหลงไหลไปกับมนต์เสน่ห์ของความวินเทจ ที่ผสมผสานระหว่างบรรยากาศย้อนยุค และความทันสมัยได้อย่างลงตัว พบกับสินค้าแฟชั่นที่หาที่ไหนไม่ได้ มีเฉพาะที่นี่ที่เดียวเท่านั้น พร้อมลิ้มลองอาหารและเครื่องดื่มในบรรยากาศวินเทจ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/SiamVintageShopping หรือhttps://twitter.com/#!/SiamVintage และทางเว็ปไซค์
http://www.siam-vintage.com/
12
news & activity / เปิดยุทธศาสตร์แบรนด์ เอ็ม บี เค กรุ๊ป
« on: May 29, 2012, 11:25:54 PM »
เปิดยุทธศาสตร์แบรนด์ เอ็ม บี เค กรุ๊ป
ชู 8 กลุ่มธุรกิจภายใต้พันธสัญญา
“มอบความสุข ความสำเร็จกับทุกชีวิตทุกวัย”
กรุงเทพ 29 พ.ค. 55 – เอ็ม บี เค กรุ๊ป นำ 8 กลุ่มธุรกิจ เปิดยุทธศาสตร์สร้างคอร์ปอเรทแบรนด์
ก้าวสู่ความยิ่งใหญ่ ตั้งเป้า 3 ปี ติดอันดับแบรนด์ไทยในใจคนทุกวัย ชูแนวทาง มอบความสุข ความสำเร็จให้กับทุกชีวิตทุกวัย
นายสุเวทย์ ธีรวชิรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เอ็ม บี เค กรุ๊ป ได้มีการเปิดตัวแบรนด์ เพื่อให้ทั้ง 8 กลุ่มธุรกิจ สามารถส่งมอบบริการที่เป็นมาตรฐานให้กับผู้บริโภค โดยมีการปรับเปลี่ยนองค์ประกอบต่างๆ เพื่อสื่อสาร เพื่อช่วยสร้างความชัดเจนในแบรนด์ของ เอ็ม บี เค กรุ๊ป ไปสู่สาธารณชนในวงกว้าง โดยใช้สัญลักษณ์หลักคือ “V of Victory” ซึ่งตัววี เป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะ เส้นสายของสัญลักษณ์นี้เป็นลักษณะตวัดขึ้น ซึ่งสื่อถึงการเจริญเติบโต ก้าวหน้าอย่างไม่หยุดนิ่งด้วย
นายสุเวทย์ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี บริษัทฯ เป็นผู้ประกอบธุรกิจระดับแนวหน้าของประเทศไทย โดยมุ่งเน้นธุรกิจที่สนับสนุนการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และการท่องเที่ยวเป็นหลัก มีบริษัทต่างๆ กว่า 50 แห่งที่ดำเนินธุรกิจที่หลากหลาย ในขณะนี้ได้มีการแบ่งธุรกิจออกเป็น 8 กลุ่มเพื่อสร้างความชัดเจน และความแข็งแรงของคอร์ปอเรทแบรนด์ และสร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มผู้บริโภค โดยวางตำแหน่งทางธุรกิจของ เอ็ม บี เค กรุ๊ป ว่าเป็นกลุ่มธุรกิจเพื่อการเติบโตและความสุขของชีวิตทุกวัย ที่มีประสบการณ์และมีความเป็นมืออาชีพ ซึ่งยึดหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี ซื่อสัตย์ ยุติธรรม เพื่อสร้างสรรค์ความสุขความสำเร็จให้กับทุกชีวิตทุกวัย โดยมีการปรับ ทิศทางการสื่อสารผ่านการประชาสัมพันธ์ทั้งภายในและภายนอกองค์กร รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการตลาดภายใต้ชื่อของเอ็ม บี เค กรุ๊ป
“ทางเอ็ม บี เค กรุ๊ป ได้วางนโยบายธุรกิจระยะยาวโดยเน้นการสร้างแบรนด์ที่แข็งแรง และมีความเชื่อมั่นว่าในระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า แบรนด์เอ็ม บี เค กรุ๊ปภายใต้พันธสัญญา คือ มอบความสุขความสำเร็จให้กับทุกชีวิตทุกวัย จะเป็นแบรนด์ที่ดีแบรนด์หนึ่งของประเทศไทยที่ลูกค้า และคู่ค้าจดจำและนึกถึงตลอดไป” นายสุเวทย์กล่าว
สำหรับภาพรวมการดำเนินธุรกิจ นายสุเวทย์ กล่าวปิดท้ายว่า ผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมาบริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) มีผลประกอบการเติบโตตามเป้าที่วางไว้ แม้ว่าในปี 2554 จะมีเหตุการณ์น้ำท่วมทำให้เกิดการชะลอตัวในการจับจ่ายใช้สอยของลูกค้า แต่บริษัทฯก็ไม่ได้รับผลกระทบมากนักแต่อย่างใด สามารถดำเนินธุรกิจในเครือทั้ง 8 กลุ่ม ได้ตามปกติทำให้บริษัทฯ มีรายได้รวมในปี 2554 ประมาณ 8,500 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 5% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยธุรกิจศูนย์การค้ายังคงเป็นรายได้หลักสัดส่วนประมาณ 43% ของธุรกิจในเครือทั้งหมด สำหรับปี 2555 คาดว่ารายได้ทั้งปีจะมีรายได้รวม 9,000 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโต 6% ทั้งนี้ได้วางงบปี 2555 ไว้ 3,200 ล้านบาท เพื่อพัฒนาธุรกิจในเครือ 8 ธุรกิจและเตรียมเปิดตลาดสินค้าไทยสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community : AEC) ในปี 2558 อีกด้วย
******************************************
ข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์เอ็ม บี เค กรุ๊ป
พันธสัญญา
“มอบความสุขความสำเร็จกับทุกชีวิตทุกวัย : Happiness and Achievement For All of Age”
แบรนด์ดี เอ็น เอ
การเป็นผู้ประกอบการที่มีประสบการณ์และความเป็นมืออาชีพยึดถือหลักธรรมมาภิบาล ซื่อสัตย์ ยุติธรรม ในการสร้างความสุขความสำเร็จกับทุกชีวิตทุกวัย
รายชื่อผู้บริหาร
ผู้บริหารในทั้ง 8 กลุ่มธุรกิจมีหน้าที่ดูแล บริหารจัดการ รวมถึงผลักดันให้ธุรกิจดำเนินงานอย่าง มีประสิทธิภาพ ซึ่งประกอบด้วย
1. คุณศักดิ์ชัย เก่งกิจโกศล กรรมการผู้จัดการธุรกิจศูนย์การค้า
2. คุณอาทร วนาสันตกุล รักษาการกรรมการผู้จัดการธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยว
3. คุณสมบูรณ์ วงศ์รัศมี กรรมการผู้จัดการธุรกิจกอล์ฟ,กรรมการผู้จัดการธุรกิจการเงิน และ
กรรมการผู้จัดการธุรกิจอื่นๆ
4. คุณหัชพงศ์ โภคัย กรรมการผู้จัดการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
5. คุณสมเกียรติ มรรคยาธร กรรมการผู้จัดการธุรกิจข้าว
6. คุณเกษมสุข จงมั่นคง กรรมการผู้จัดการธุรกิจสนับสนุน
ตำแหน่งของแบรนด์
1. กลุ่มธุรกิจศูนย์การค้า : เพื่อความสุขแห่งชีวิตที่ทันสมัย
ได้แก่ ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ศูนย์การค้าพาราไดซ์พาร์ค และเดอะไนน์ เซ็นเตอร์ พระราม 9
2. กลุ่มธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยว : เพื่อเติมเต็มความสุขและความสำเร็จ
ได้แก่ โรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส โรงแรมเชอราตันกระบี่ บีช รีสอร์ท โรงแรมลยานะ รีสอร์ท แอนด์ สปา โรงแรมทินิดี ระนอง โรงแรม ทินิดี ภูเก็ต และ MBK Leisure ซึ่งดำเนินธุรกิจการให้บริการจำหน่ายบัตรโดยสารเครื่องบิน รวมถึงให้บริการด้านการท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งการให้บริการจองรถเช่า ห้องพักโรงแรมทั้งโลก และบริการด้านการขอวีซjk
3. กลุ่มธุรกิจกอล์ฟ : เพื่อความสุขสนุกที่ไปด้วยกัน
ได้แก่ The Loch Palm Golf Course The Red Mountain Golf Course จ.ภูเก็ต และสนามกอล์ฟ ริเวอร์เดล กอล์ฟ คลับ จังหวัดปทุมธานี
4. กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ : เพื่อคุณภาพและความสุขของชีวิต
ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย โดยพัฒนาเป็นโครงการที่อยู่อาศัย พัฒนาที่ดินเพื่อขาย นอกจากนี้ยังรับบริหารทรัพย์สินรอการขาย รับบริหารอาคารและชุมชน ซึ่งบริหารงาน โดยบริษัท แปลนเอสเตท จำกัด
5. กลุ่มธุรกิจข้าว : เพื่อสุขภาพและความสุขในครอบครัว
ดำเนินธุรกิจโดยบริษัทปทุมไรซมิล แอนด์ แกรนารี จำกัด(มหาชน) มีธุรกิจหลักคือผลิตและจำหน่ายข้าวสารภายในประเทศและส่งออกภายใต้ชื่อข้าวมาบุญครอง ข้าวมาบุญครองพลัส และข้าวกล้องหอมมะลินูทรากาบาไรซ์
6. กลุ่มธุรกิจการเงิน : เพื่อความมั่นคงและความสุข
ได้แก่การบริการสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับชาวต่างประเทศและสินเชื่อระยะสั้นสำหรับวงเงินประเภท Bridging Loan และให้บริการสินเชื่อรถจักรยานยนต์ใหม่ ที่มีสภาพคล่องในการซื้อขายสูง รวมทั้งบริการหลังการขายควบคู่กัน
7. กลุ่มธุรกิจอื่นๆ : เพื่อความสุขบริบูรณ์
ได้แก่ ศูนย์ประมูลรถยนต์ “Apple Auto Auction” โดยเป็นศูนย์ประมูลรถยนต์และรถจักรยานยนต์มือสองครบวงจรที่นำเทคโนโลยีในการประมูลผ่านระบบออนไลน์มาใช้เป็นแห่งแรกของประเทศไทยและธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รวมทั้งอะไหล่และศูนย์ซ่อมบำรุงของยามาฮ่า
8. กลุ่มธุรกิจสนับสนุน : เพื่อศักยภาพแห่งความสุข
เป็นศูนย์กลางการให้บริการสนับสนุนการดำเนินงานของทุกกลุ่มธุรกิจ เช่น ด้านการจัดฝึกอบรมและพัฒนาบุคคลากร
ชู 8 กลุ่มธุรกิจภายใต้พันธสัญญา
“มอบความสุข ความสำเร็จกับทุกชีวิตทุกวัย”
กรุงเทพ 29 พ.ค. 55 – เอ็ม บี เค กรุ๊ป นำ 8 กลุ่มธุรกิจ เปิดยุทธศาสตร์สร้างคอร์ปอเรทแบรนด์
ก้าวสู่ความยิ่งใหญ่ ตั้งเป้า 3 ปี ติดอันดับแบรนด์ไทยในใจคนทุกวัย ชูแนวทาง มอบความสุข ความสำเร็จให้กับทุกชีวิตทุกวัย
นายสุเวทย์ ธีรวชิรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เอ็ม บี เค กรุ๊ป ได้มีการเปิดตัวแบรนด์ เพื่อให้ทั้ง 8 กลุ่มธุรกิจ สามารถส่งมอบบริการที่เป็นมาตรฐานให้กับผู้บริโภค โดยมีการปรับเปลี่ยนองค์ประกอบต่างๆ เพื่อสื่อสาร เพื่อช่วยสร้างความชัดเจนในแบรนด์ของ เอ็ม บี เค กรุ๊ป ไปสู่สาธารณชนในวงกว้าง โดยใช้สัญลักษณ์หลักคือ “V of Victory” ซึ่งตัววี เป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะ เส้นสายของสัญลักษณ์นี้เป็นลักษณะตวัดขึ้น ซึ่งสื่อถึงการเจริญเติบโต ก้าวหน้าอย่างไม่หยุดนิ่งด้วย
นายสุเวทย์ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี บริษัทฯ เป็นผู้ประกอบธุรกิจระดับแนวหน้าของประเทศไทย โดยมุ่งเน้นธุรกิจที่สนับสนุนการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และการท่องเที่ยวเป็นหลัก มีบริษัทต่างๆ กว่า 50 แห่งที่ดำเนินธุรกิจที่หลากหลาย ในขณะนี้ได้มีการแบ่งธุรกิจออกเป็น 8 กลุ่มเพื่อสร้างความชัดเจน และความแข็งแรงของคอร์ปอเรทแบรนด์ และสร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มผู้บริโภค โดยวางตำแหน่งทางธุรกิจของ เอ็ม บี เค กรุ๊ป ว่าเป็นกลุ่มธุรกิจเพื่อการเติบโตและความสุขของชีวิตทุกวัย ที่มีประสบการณ์และมีความเป็นมืออาชีพ ซึ่งยึดหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี ซื่อสัตย์ ยุติธรรม เพื่อสร้างสรรค์ความสุขความสำเร็จให้กับทุกชีวิตทุกวัย โดยมีการปรับ ทิศทางการสื่อสารผ่านการประชาสัมพันธ์ทั้งภายในและภายนอกองค์กร รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการตลาดภายใต้ชื่อของเอ็ม บี เค กรุ๊ป
“ทางเอ็ม บี เค กรุ๊ป ได้วางนโยบายธุรกิจระยะยาวโดยเน้นการสร้างแบรนด์ที่แข็งแรง และมีความเชื่อมั่นว่าในระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า แบรนด์เอ็ม บี เค กรุ๊ปภายใต้พันธสัญญา คือ มอบความสุขความสำเร็จให้กับทุกชีวิตทุกวัย จะเป็นแบรนด์ที่ดีแบรนด์หนึ่งของประเทศไทยที่ลูกค้า และคู่ค้าจดจำและนึกถึงตลอดไป” นายสุเวทย์กล่าว
สำหรับภาพรวมการดำเนินธุรกิจ นายสุเวทย์ กล่าวปิดท้ายว่า ผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมาบริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) มีผลประกอบการเติบโตตามเป้าที่วางไว้ แม้ว่าในปี 2554 จะมีเหตุการณ์น้ำท่วมทำให้เกิดการชะลอตัวในการจับจ่ายใช้สอยของลูกค้า แต่บริษัทฯก็ไม่ได้รับผลกระทบมากนักแต่อย่างใด สามารถดำเนินธุรกิจในเครือทั้ง 8 กลุ่ม ได้ตามปกติทำให้บริษัทฯ มีรายได้รวมในปี 2554 ประมาณ 8,500 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 5% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยธุรกิจศูนย์การค้ายังคงเป็นรายได้หลักสัดส่วนประมาณ 43% ของธุรกิจในเครือทั้งหมด สำหรับปี 2555 คาดว่ารายได้ทั้งปีจะมีรายได้รวม 9,000 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโต 6% ทั้งนี้ได้วางงบปี 2555 ไว้ 3,200 ล้านบาท เพื่อพัฒนาธุรกิจในเครือ 8 ธุรกิจและเตรียมเปิดตลาดสินค้าไทยสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community : AEC) ในปี 2558 อีกด้วย
******************************************
ข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์เอ็ม บี เค กรุ๊ป
พันธสัญญา
“มอบความสุขความสำเร็จกับทุกชีวิตทุกวัย : Happiness and Achievement For All of Age”
แบรนด์ดี เอ็น เอ
การเป็นผู้ประกอบการที่มีประสบการณ์และความเป็นมืออาชีพยึดถือหลักธรรมมาภิบาล ซื่อสัตย์ ยุติธรรม ในการสร้างความสุขความสำเร็จกับทุกชีวิตทุกวัย
รายชื่อผู้บริหาร
ผู้บริหารในทั้ง 8 กลุ่มธุรกิจมีหน้าที่ดูแล บริหารจัดการ รวมถึงผลักดันให้ธุรกิจดำเนินงานอย่าง มีประสิทธิภาพ ซึ่งประกอบด้วย
1. คุณศักดิ์ชัย เก่งกิจโกศล กรรมการผู้จัดการธุรกิจศูนย์การค้า
2. คุณอาทร วนาสันตกุล รักษาการกรรมการผู้จัดการธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยว
3. คุณสมบูรณ์ วงศ์รัศมี กรรมการผู้จัดการธุรกิจกอล์ฟ,กรรมการผู้จัดการธุรกิจการเงิน และ
กรรมการผู้จัดการธุรกิจอื่นๆ
4. คุณหัชพงศ์ โภคัย กรรมการผู้จัดการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
5. คุณสมเกียรติ มรรคยาธร กรรมการผู้จัดการธุรกิจข้าว
6. คุณเกษมสุข จงมั่นคง กรรมการผู้จัดการธุรกิจสนับสนุน
ตำแหน่งของแบรนด์
1. กลุ่มธุรกิจศูนย์การค้า : เพื่อความสุขแห่งชีวิตที่ทันสมัย
ได้แก่ ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ศูนย์การค้าพาราไดซ์พาร์ค และเดอะไนน์ เซ็นเตอร์ พระราม 9
2. กลุ่มธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยว : เพื่อเติมเต็มความสุขและความสำเร็จ
ได้แก่ โรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส โรงแรมเชอราตันกระบี่ บีช รีสอร์ท โรงแรมลยานะ รีสอร์ท แอนด์ สปา โรงแรมทินิดี ระนอง โรงแรม ทินิดี ภูเก็ต และ MBK Leisure ซึ่งดำเนินธุรกิจการให้บริการจำหน่ายบัตรโดยสารเครื่องบิน รวมถึงให้บริการด้านการท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งการให้บริการจองรถเช่า ห้องพักโรงแรมทั้งโลก และบริการด้านการขอวีซjk
3. กลุ่มธุรกิจกอล์ฟ : เพื่อความสุขสนุกที่ไปด้วยกัน
ได้แก่ The Loch Palm Golf Course The Red Mountain Golf Course จ.ภูเก็ต และสนามกอล์ฟ ริเวอร์เดล กอล์ฟ คลับ จังหวัดปทุมธานี
4. กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ : เพื่อคุณภาพและความสุขของชีวิต
ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย โดยพัฒนาเป็นโครงการที่อยู่อาศัย พัฒนาที่ดินเพื่อขาย นอกจากนี้ยังรับบริหารทรัพย์สินรอการขาย รับบริหารอาคารและชุมชน ซึ่งบริหารงาน โดยบริษัท แปลนเอสเตท จำกัด
5. กลุ่มธุรกิจข้าว : เพื่อสุขภาพและความสุขในครอบครัว
ดำเนินธุรกิจโดยบริษัทปทุมไรซมิล แอนด์ แกรนารี จำกัด(มหาชน) มีธุรกิจหลักคือผลิตและจำหน่ายข้าวสารภายในประเทศและส่งออกภายใต้ชื่อข้าวมาบุญครอง ข้าวมาบุญครองพลัส และข้าวกล้องหอมมะลินูทรากาบาไรซ์
6. กลุ่มธุรกิจการเงิน : เพื่อความมั่นคงและความสุข
ได้แก่การบริการสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับชาวต่างประเทศและสินเชื่อระยะสั้นสำหรับวงเงินประเภท Bridging Loan และให้บริการสินเชื่อรถจักรยานยนต์ใหม่ ที่มีสภาพคล่องในการซื้อขายสูง รวมทั้งบริการหลังการขายควบคู่กัน
7. กลุ่มธุรกิจอื่นๆ : เพื่อความสุขบริบูรณ์
ได้แก่ ศูนย์ประมูลรถยนต์ “Apple Auto Auction” โดยเป็นศูนย์ประมูลรถยนต์และรถจักรยานยนต์มือสองครบวงจรที่นำเทคโนโลยีในการประมูลผ่านระบบออนไลน์มาใช้เป็นแห่งแรกของประเทศไทยและธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รวมทั้งอะไหล่และศูนย์ซ่อมบำรุงของยามาฮ่า
8. กลุ่มธุรกิจสนับสนุน : เพื่อศักยภาพแห่งความสุข
เป็นศูนย์กลางการให้บริการสนับสนุนการดำเนินงานของทุกกลุ่มธุรกิจ เช่น ด้านการจัดฝึกอบรมและพัฒนาบุคคลากร
13
news & activity / เปิดตัวแบรนด์สินค้าใหม่ Hollywood by MTI
« on: May 29, 2012, 11:14:06 PM »
บริษัท เมคอัพเทคนิคอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เป็นผู้จำหน่ายเครื่องสำอาง ภายใต้เครื่องหมายการค้า MTI และเป็นผู้ประกอบการ โรงเรียนสอนศิลปการแต่งหน้า MTI รวมถึงการบริการแต่งหน้า โดย MAKE UP ARTIST มืออาชีพ ซึ่งเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับเป็นอย่างดีในวงการบันเทิง ด้วยรางวัลเกียรติยศมากมาย
โดยในปี พ.ศ. 2555 นี้ เนื่องในโอกาส บริษัท MTI ครบรอบ 30 ปี จึงทำการแถลงข่าว เปิดตัวแบรนด์สินค้าใหม่ Hollywood by MTI
ภายในงานได้รับเกียรติ จาก คุณทิพาภรณ์ โชควัฒนา รองประธานกรรมการ บ. เมคอัพเทคนิคอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (MTI) เป็นประธานในพิธี และ อ. พรรณอร แสงอาทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บ. เมคอัพเทคนิคอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (MTI) กล่าวเปิดงาน โดยมี พ.ต. วันชนะ สวัสดี เป็นพิธีกรตลอดงาน
ตามด้วยการแสดง เปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง Hollywood by MTI จาก 4 นางแบบ และการเปิดตัวของ Brand Ambassador คุณณัฐนันท์ วิกิตเศรษฐ์
รวมถึงการสัมภาษณ์ คุณสุวรรณี อรรถคำภีวงศ์ กรรมการบริหาร บ. เมคอัพเทคนิคอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (MTI) ผู้ดูแลและกำกับผลิตภัณฑ์ Hollywood by MTI และอ. พรรณอร แสงอาทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บ.ฯ ถึงที่มา ของผลิตภัณฑ์
โดยในปี พ.ศ. 2555 นี้ เนื่องในโอกาส บริษัท MTI ครบรอบ 30 ปี จึงทำการแถลงข่าว เปิดตัวแบรนด์สินค้าใหม่ Hollywood by MTI
ภายในงานได้รับเกียรติ จาก คุณทิพาภรณ์ โชควัฒนา รองประธานกรรมการ บ. เมคอัพเทคนิคอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (MTI) เป็นประธานในพิธี และ อ. พรรณอร แสงอาทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บ. เมคอัพเทคนิคอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (MTI) กล่าวเปิดงาน โดยมี พ.ต. วันชนะ สวัสดี เป็นพิธีกรตลอดงาน
ตามด้วยการแสดง เปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง Hollywood by MTI จาก 4 นางแบบ และการเปิดตัวของ Brand Ambassador คุณณัฐนันท์ วิกิตเศรษฐ์
รวมถึงการสัมภาษณ์ คุณสุวรรณี อรรถคำภีวงศ์ กรรมการบริหาร บ. เมคอัพเทคนิคอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (MTI) ผู้ดูแลและกำกับผลิตภัณฑ์ Hollywood by MTI และอ. พรรณอร แสงอาทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บ.ฯ ถึงที่มา ของผลิตภัณฑ์
14
news & activity / เปิดตัวมิสซิสฟิลด์ “Mrs.Fields” คุกกี้อบสด
« on: May 28, 2012, 12:53:13 AM »ดีเคเอสเอช จัดงานแถลงข่าวเปิดตัว มิสซิสฟิลด์ “Mrs.Fields” คุกกี้อบสด ครั้งแรกในเมืองไทย
ด้วย บริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการด้านการขยายตลาดเพื่อสร้างคุณค่าให้สินค้าอย่างครบวงจร ครอบคลุมผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภค ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบอุตสาหกรรม และเทคโนโลยี และในปี 2555 นี้ บริษัทได้มีการขยายการลงทุนในกลุ่มของฟู้ดรีเทล จะแถลงข่าวเปิดตัวคุกกี้แบรนด์ Mrs.Fields หรือ มิสซิสฟิลด์ ซึ่งได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของแบรนด์ Mrs.Fields ว่า เป็นที่ยอมรับจากหลายประเทศทั่วโลก ในเรื่องคุกกี้ว่าอร่อยที่สุด
15
news & activity / สวนน้ำการ์ตูนเน็ตเวิร์ค อะเมโซน แห่งแรกของโลกในไทย
« on: May 23, 2012, 10:33:36 PM »
ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากภาครัฐให้เกียรติมาร่วม
งานมากมาย เพื่อแสดงความสนับสนุนอย่างเต็มที่กับการเปิดตัวของ สวนน้ำการ์ตูนเน็ตเวิร์คแห่งแรกของโลก ภายใต้
ชื่อ Cartoon Network AMAZONE ในโอกาสนี้ นาวาอากาศเอก อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยว่า “เชื่อว่าคนไทยทุกคนจะต้องมีความสุขกับโครงการที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ ซึ่งไม่เพียงแต่จะเป็นโครงการสวนน้ำการ์ตูนเน็ตเวิร์คแห่งแรกของโลกที่จะมาเปิดที่เมืองไทย แต่ยังจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจ เป็นแหล่งผจญภัยแห่งใหม่ของโลกที่จะคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวจาก ทั้งในไทยและจากต่างประเทศอีกด้วย”
“โครงการสวนน้ำ Cartoon Network AMAZONE ได้ตอกย้ำอีกครั้งกับตำแหน่งผู้นำของประเทศไทย ในฐานะศูนย์กลางแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำของภูมิภาค นอกจากนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจสำคัญให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในโครงการต่างๆ ในประเทศไทยเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาล”
นางสาววราภรณ์ เฉยสอาด ผู้อำนวยการศูนย์บริการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน กล่าวว่า “นี่เป็นโอกาสครั้งสำคัญสำหรับประเทศไทยที่จะขึ้นเป็นผู้นำของโลกในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและโครงสร้างพื้นฐาน โดยการได้เข้าร่วมเป็นหุ้นส่วนกับบริษัทบันเทิงชั้นนำของโลก ด้วยเงินลงทุนจำนวนมหาศาลในเฟสแรกของโครงการสวนน้ำ Cartoon Network AMAZONE ได้ก่อให้เกิดการสร้างงานเป็นจำนวนหลายร้อยอัตรา และได้ตอกย้ำจุดยืนของประเทศไทย ในฐานะที่เป็นประเทศที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการลงทุนในโครงการแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก”
โครงการสวนน้ำแห่งใหม่นี้จะเปิดอย่างเป็นทางการในปี 2556 และได้รับการยกย่องให้เป็นสัญลักษณ์แห่งการท่องเที่ยวของไทยสำหรับคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างรูปลักษณ์ที่เป็นสากลเข้ากับแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นธรรมชาติของไทย
ด้านนายบริสุทธิ์ ประสพทรัพย์ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า โครงการสวนน้ำ Cartoon Network AMAZONE จะกลายเป็นแม่เหล็กอย่างดีที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างชาติให้มาเที่ยวที่เมืองไทย ในขณะเดียวกันก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นแห่งใหม่สำหรับตลาดท่องเที่ยวในประเทศ ซึ่งเรามีความยินดีอย่างยิ่งในการต้อนรับโครงการดังกล่าว ที่จะมาสร้างสีสันและเป็นแหล่งท่องเที่ยวแม่เหล็กแห่งใหม่ของไทย
“จากประมาณการนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเข้ามาเที่ยวเมืองไทยในปีนี้ ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีสูงถึง 20 ล้านคน เราเชื่อว่าการเปิดตัวของสวนน้ำ Cartoon Network AMAZONE ในปีหน้า จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์และประชาสัมพันธ์ ประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากขึ้นในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งนี้ เรายินดีที่จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่กับบริษัทผู้พัฒนาโครงการและบริษัทการ์ตูนเน็ตเวิร์ค และช่วยในส่วนของการส่งเสริมการตลาดเพื่อให้แน่ใจว่ากลุ่มเป้าหมายได้รับทราบถึงโอกาสอันดีในครั้งนี้ด้วย”
ชื่อโครงการสวนน้ำ Cartoon Network AMAZONE ได้แนวคิดมาจากบรรยากาศป่าฝนอันอุดมสมบูรณ์ของป่าอเมซอน ที่มาพร้อมกับบรรดาการ์ตูนฮีโร่ยอดฮิตจากซีรีส์การ์ตูนดังก้องโลก อาทิ Ben 10, The Powerpuff Girls, Johnny Bravo, The Amazing World of Gumball และอีกคับคั่ง
สวนน้ำ Cartoon Network AMAZONE ประกอบไปด้วยเครื่องเล่นสุดระทึกที่เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่โดยเฉพาะ เริ่มจากสระว่ายน้ำครอบครัวขนาดมหึมาที่จำลองให้เหมือนคลื่นทะเล ผจญภัยกับแม่น้ำสายคดเคี้ยว ตื่นเต้นเร้าใจกับสไลเดอร์สปีดเรซซิ่ง ล่องแพสุดมันส์ทั้งครอบครัวกับ Family raft rides และเด็กๆ จะได้สนุกสนานกับประสบการณ์ตื่นเต้นเร้าใจกับเครื่องเล่นป้อมปราการน้ำระบบอินเตอร์แอคทีฟที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
มร. ซันนี่ ซาฮา รองประธานอาวุโสและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เทอร์เนอร์ บรอดแคสติ้ง ซิสเต็ม เอเชียแปซิฟิค อิงค์ กล่าวว่า “เรารู้สึกขอบคุณเป็นอย่างยิ่งต่อคนไทยและรัฐบาล ที่ได้ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่แก่โครงการสวนน้ำของเรา ประเทศไทยซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก ถือว่ามีคุณลักษณะหลายอย่างที่คล้ายคลึงกับการ์ตูนเน็ตเวิร์ค นั่นคือ เราต่างก็เป็นที่ที่เหมาะสำหรับการเฉลิมฉลองมิตรภาพและครอบครัว และยังเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนสนุกสนานและผจญภัยไปกับประสบการณ์ความบันเทิงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวอีกด้วย ทั้งนี้ เรามีความภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้เลือกประเทศไทยให้เป็นฉากหลังที่แสนวิเศษสำหรับโครงการสวนน้ำ Cartoon Network AMAZONE ของเรา”
โครงการสวนน้ำฯ พัฒนาโดยบริษัท Amazon Falls จำกัด ซึ่งเป็นผู้พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำ ตั้งอยู่ในประเทศไทย
มร. เลียแคท ดันจิ ประธานบริษัท Amazon Falls จำกัด กล่าวว่า “เรารู้สึกตื้นตันเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากทั้งบีโอไอและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และเราเชื่อว่าความเชื่อมั่นที่ทั้งสองหน่วยงานมีต่อโครงการของเรา จะทำให้โครงการนี้เดินหน้าประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน เนื่องจากประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าดึงดูดใจมากที่สุด ซึ่งการเกิดขึ้นของแหล่งท่องเที่ยวสไตล์รีสอร์ทแนวใหม่นี้ จะเป็นการสร้างมิติใหม่ให้แก่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยที่มีความอุดมสมบูรณ์อยู่แล้วให้ดียิ่งๆ ขึ้น”
โครงการสวนน้ำ Cartoon Network AMAZONE กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดยความร่วมมือกับบริษัท Amazon Falls ผู้พัฒนาโครงการรีสอร์ทและสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย ซึ่งเฟสแรกอยู่ในระหว่างการก่อสร้างด้วยเงินลงทุนกว่า 1 พันล้านบาท และเมื่อแล้วเสร็จจะกินเนื้อที่ 14 เอเคอร์ (ประมาณ 35 ไร่) ครอบคลุมตลอดแนวชายหาดที่แสนสวยงามของตำบลบางเสร่ ซึ่งจัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่บรรดานักท่องเที่ยวจากทั้งไทยและต่างประเทศพากันมาเที่ยวชมมาหลายทศวรรษแล้ว โครงการดังกล่าวตั้งเป้าดึงดูดนักท่องเที่ยวประมาณ 800,000 รายต่อปี ในช่วงปีแรก และเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้จังหวัดชลบุรีกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำของไทย รองจากกรุงเทพฯ ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จ จะเปิดดำเนินการได้ในปี 2556
งานมากมาย เพื่อแสดงความสนับสนุนอย่างเต็มที่กับการเปิดตัวของ สวนน้ำการ์ตูนเน็ตเวิร์คแห่งแรกของโลก ภายใต้
ชื่อ Cartoon Network AMAZONE ในโอกาสนี้ นาวาอากาศเอก อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยว่า “เชื่อว่าคนไทยทุกคนจะต้องมีความสุขกับโครงการที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ ซึ่งไม่เพียงแต่จะเป็นโครงการสวนน้ำการ์ตูนเน็ตเวิร์คแห่งแรกของโลกที่จะมาเปิดที่เมืองไทย แต่ยังจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจ เป็นแหล่งผจญภัยแห่งใหม่ของโลกที่จะคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวจาก ทั้งในไทยและจากต่างประเทศอีกด้วย”
“โครงการสวนน้ำ Cartoon Network AMAZONE ได้ตอกย้ำอีกครั้งกับตำแหน่งผู้นำของประเทศไทย ในฐานะศูนย์กลางแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำของภูมิภาค นอกจากนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจสำคัญให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในโครงการต่างๆ ในประเทศไทยเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาล”
นางสาววราภรณ์ เฉยสอาด ผู้อำนวยการศูนย์บริการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน กล่าวว่า “นี่เป็นโอกาสครั้งสำคัญสำหรับประเทศไทยที่จะขึ้นเป็นผู้นำของโลกในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและโครงสร้างพื้นฐาน โดยการได้เข้าร่วมเป็นหุ้นส่วนกับบริษัทบันเทิงชั้นนำของโลก ด้วยเงินลงทุนจำนวนมหาศาลในเฟสแรกของโครงการสวนน้ำ Cartoon Network AMAZONE ได้ก่อให้เกิดการสร้างงานเป็นจำนวนหลายร้อยอัตรา และได้ตอกย้ำจุดยืนของประเทศไทย ในฐานะที่เป็นประเทศที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการลงทุนในโครงการแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก”
โครงการสวนน้ำแห่งใหม่นี้จะเปิดอย่างเป็นทางการในปี 2556 และได้รับการยกย่องให้เป็นสัญลักษณ์แห่งการท่องเที่ยวของไทยสำหรับคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างรูปลักษณ์ที่เป็นสากลเข้ากับแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นธรรมชาติของไทย
ด้านนายบริสุทธิ์ ประสพทรัพย์ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า โครงการสวนน้ำ Cartoon Network AMAZONE จะกลายเป็นแม่เหล็กอย่างดีที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างชาติให้มาเที่ยวที่เมืองไทย ในขณะเดียวกันก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นแห่งใหม่สำหรับตลาดท่องเที่ยวในประเทศ ซึ่งเรามีความยินดีอย่างยิ่งในการต้อนรับโครงการดังกล่าว ที่จะมาสร้างสีสันและเป็นแหล่งท่องเที่ยวแม่เหล็กแห่งใหม่ของไทย
“จากประมาณการนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเข้ามาเที่ยวเมืองไทยในปีนี้ ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีสูงถึง 20 ล้านคน เราเชื่อว่าการเปิดตัวของสวนน้ำ Cartoon Network AMAZONE ในปีหน้า จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์และประชาสัมพันธ์ ประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากขึ้นในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งนี้ เรายินดีที่จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่กับบริษัทผู้พัฒนาโครงการและบริษัทการ์ตูนเน็ตเวิร์ค และช่วยในส่วนของการส่งเสริมการตลาดเพื่อให้แน่ใจว่ากลุ่มเป้าหมายได้รับทราบถึงโอกาสอันดีในครั้งนี้ด้วย”
ชื่อโครงการสวนน้ำ Cartoon Network AMAZONE ได้แนวคิดมาจากบรรยากาศป่าฝนอันอุดมสมบูรณ์ของป่าอเมซอน ที่มาพร้อมกับบรรดาการ์ตูนฮีโร่ยอดฮิตจากซีรีส์การ์ตูนดังก้องโลก อาทิ Ben 10, The Powerpuff Girls, Johnny Bravo, The Amazing World of Gumball และอีกคับคั่ง
สวนน้ำ Cartoon Network AMAZONE ประกอบไปด้วยเครื่องเล่นสุดระทึกที่เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่โดยเฉพาะ เริ่มจากสระว่ายน้ำครอบครัวขนาดมหึมาที่จำลองให้เหมือนคลื่นทะเล ผจญภัยกับแม่น้ำสายคดเคี้ยว ตื่นเต้นเร้าใจกับสไลเดอร์สปีดเรซซิ่ง ล่องแพสุดมันส์ทั้งครอบครัวกับ Family raft rides และเด็กๆ จะได้สนุกสนานกับประสบการณ์ตื่นเต้นเร้าใจกับเครื่องเล่นป้อมปราการน้ำระบบอินเตอร์แอคทีฟที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
มร. ซันนี่ ซาฮา รองประธานอาวุโสและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เทอร์เนอร์ บรอดแคสติ้ง ซิสเต็ม เอเชียแปซิฟิค อิงค์ กล่าวว่า “เรารู้สึกขอบคุณเป็นอย่างยิ่งต่อคนไทยและรัฐบาล ที่ได้ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่แก่โครงการสวนน้ำของเรา ประเทศไทยซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก ถือว่ามีคุณลักษณะหลายอย่างที่คล้ายคลึงกับการ์ตูนเน็ตเวิร์ค นั่นคือ เราต่างก็เป็นที่ที่เหมาะสำหรับการเฉลิมฉลองมิตรภาพและครอบครัว และยังเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนสนุกสนานและผจญภัยไปกับประสบการณ์ความบันเทิงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวอีกด้วย ทั้งนี้ เรามีความภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้เลือกประเทศไทยให้เป็นฉากหลังที่แสนวิเศษสำหรับโครงการสวนน้ำ Cartoon Network AMAZONE ของเรา”
โครงการสวนน้ำฯ พัฒนาโดยบริษัท Amazon Falls จำกัด ซึ่งเป็นผู้พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำ ตั้งอยู่ในประเทศไทย
มร. เลียแคท ดันจิ ประธานบริษัท Amazon Falls จำกัด กล่าวว่า “เรารู้สึกตื้นตันเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากทั้งบีโอไอและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และเราเชื่อว่าความเชื่อมั่นที่ทั้งสองหน่วยงานมีต่อโครงการของเรา จะทำให้โครงการนี้เดินหน้าประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน เนื่องจากประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าดึงดูดใจมากที่สุด ซึ่งการเกิดขึ้นของแหล่งท่องเที่ยวสไตล์รีสอร์ทแนวใหม่นี้ จะเป็นการสร้างมิติใหม่ให้แก่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยที่มีความอุดมสมบูรณ์อยู่แล้วให้ดียิ่งๆ ขึ้น”
โครงการสวนน้ำ Cartoon Network AMAZONE กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดยความร่วมมือกับบริษัท Amazon Falls ผู้พัฒนาโครงการรีสอร์ทและสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย ซึ่งเฟสแรกอยู่ในระหว่างการก่อสร้างด้วยเงินลงทุนกว่า 1 พันล้านบาท และเมื่อแล้วเสร็จจะกินเนื้อที่ 14 เอเคอร์ (ประมาณ 35 ไร่) ครอบคลุมตลอดแนวชายหาดที่แสนสวยงามของตำบลบางเสร่ ซึ่งจัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่บรรดานักท่องเที่ยวจากทั้งไทยและต่างประเทศพากันมาเที่ยวชมมาหลายทศวรรษแล้ว โครงการดังกล่าวตั้งเป้าดึงดูดนักท่องเที่ยวประมาณ 800,000 รายต่อปี ในช่วงปีแรก และเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้จังหวัดชลบุรีกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำของไทย รองจากกรุงเทพฯ ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จ จะเปิดดำเนินการได้ในปี 2556