Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - Google

Pages: 1 ... 32 33 [34] 35 36 ... 38
496
ออกวางจำหน่ายแล้ว บันทึกการแสดงสด "คอนเสิร์ต เวโลโดรม รีเทิร์นส์" คอนเสิร์ตประวัติศาสตร์ครั้งยิ่งใหญ่ของเมืองไทย ในวาระครบรอบ 30 ปี คาราบาว



          “คอนเสิร์ต เวโลโดรม รีเทิร์นส์” ถือเป็นคอนเสิร์ตที่ประสบความสำเร็จคอนเสิร์ตหนึ่งของบ้านเรา และยังเป็นการสะสาง คอนเสิร์ตครั้งประวัติศาสตร์ “ทำโดยคนไทย” ของ “คาราบาว” เมื่อ 2 ทศวรรษก่อน ซึ่งต้องยุติการแสดงกลางคัน ได้สำเร็จ

          "คอนเสิร์ต เวโลโดรม รีเทิร์นส์" ยังได้สร้างมาตรฐานใหม่ของคอนเสิร์ตไทยขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นโปรดัคชั่น แสง สี เสียง ที่ใช้เทคโนโลยีใหม่สุด การแสดงก็มีการใช้เฮลิคอปเตอร์บินมาประกอบเพลง “ทับหลัง” รายชื่อเพลงที่นำมาเล่นก็ลงตัวมีทั้งเพลงเก่า ใหม่ ซึ้ง สนุก โดยเฉพาะเมดเลย์สามช่า ความยาวเกือบ 30 นาที ที่ขนเอาเพลงฮิตถึง 17 เพลงของ “คาราบาว” มาเรียงร้อยกันแบบสามช่า ที่คนดูในเวโลโดรมถึงกับลุกขึ้นยืนเต้นกันทั้งหมด รวมถึงการขึ้นเวทีร่วมกันครั้งแรกในรอบหลายปีของ อ.ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี และ เขียว คาราบาวเป็นอีกหนึ่งคอนเสิร์ตที่ต้องดู และต้องสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นด้วยตาสดๆ หรือว่าผ่านบันทึกการแสดงสดความประทับใจ ความยิ่งใหญ่ ความสนุกสนาน และประวัติศาสตร์ในครั้งนี้ พร้อมแล้วสำหรับให้เก็บไว้สัมผัสกันนานๆ ในรูปแบบของวีซีดี และดีวีดี บันทึกการแสดงสด "คอนเสิร์ต เวโลโดรม รีเทิร์นส์" ที่มีบทเพลงในคอนเสิร์ตให้ชมครบทุกเพลง พร้อมเพลงพิเศษ “ผู้ปิดทองหลังพระ” และ เบื้องหลังของคอนเสิร์ตในครั้งนี้

          เก็บมาให้ทุกคนได้ร่วมรับรู้ถึงความสมบูรณ์แบบของคอนเสิร์ตในครั้งนั้นกันอย่างเต็มอิ่ม สมกับเป็นคอนเสิร์ตประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่งของวงการเพลงไทย มีวางจำหน่ายแล้ว โดยวอร์นเนอร์ มิวสิค

497
ข่าวภาพยนตร์ / Morning Glory จาก UNITED
« on: June 10, 2011, 11:48:02 AM »
Morning Glory จาก UNITED


 
          United Home Entertainment นำเสนอ Morning Glory “ยำข่าวเช้ากู้เรตติ้ง”
          เรื่องวุ่น ๆ ของห้องข่าวเช้าที่โต๊ะข่าวไหน ๆ ก็ไม่สนุกเท่า
          ผลงานสุดจี๊ดจากผู้กำกับ Nothing Hill โรเจอร์ มิเชลล์ Roger Michell
          และ ผู้เขียนบท The Devil wears Prada
          นำแสดงโดย ราเชล แม็คอาดัมส์
          ไดแอน คีตัน และ แฮร์ริสัน ฟอร์ด
          วันนี้ วีซีดี ดีวีดี และ บลูเรย์

          สำหรับเบ็คกี้ (ราเชล แม็คอาดัมส์, The Notebook) การได้มาทำรายการข่าวโทรทัศน์ในนิวยอร์ค ถือเป็นจุดสูงสุดของความฝัน...จนกระทั่ง สองผู้ประกาศข่าวชื่อดังที่ต้องจับคู่กันอย่าง ไมค์ (แฮร์ริสัน ฟอร์ด, Raiders of the Lost Ark) และ คอลลีน (ไดแอน คีตัน, Something’s Gotta Give) ประกาศสงครามใส่กันทั้งหน้ากล้องและหลังกล้อง แม้การทำรายการทีวีที่ต้องมีทั้งผู้ร่วมงานสุดเพี้ยนและเนื้อหาแหวกแนว จะต้องใช้ปาฏิหาริย์ขั้นเทพ แต่เบ็คกี้ก็พร้อมทมทม ที่จะสร้างชื่อและเปล่งรัศมีสาวเก่งให้เป็นที่ประจักษ์ Morning Glory คือหนังคอมิดี้ที่นักวิจารณ์ขอบอกว่า “หลักแหลม สดใหม่ ยอดเยี่ยม ประทับใจ หนังเรื่องนี้มีครบ”

          ดูรายละเอียดข้อมูลภาพยนตร์เพิ่มเติม www.uhe.co.th

498
“เท่ง เถิดเทิง” อีกหนึ่งขั้วแห่งความสนุกที่ขาดไม่ได้ สัมผัสอีกแง่มุมในอารมณ์ขำปนซึ้งจากผู้กำกับ “หม่ำ จ๊กมก”
 

 
          “เท่ง เถิดเทิง” อีกหนึ่งขั้วแห่งความสนุกที่ขาดไม่ได้ สัมผัสอีกแง่มุมในอารมณ์ขำปนซึ้งจากผู้กำกับ “หม่ำ จ๊กมก” ที่ “เท่ง เถิดเทิง” การันตีอยากให้ทุกคนได้ดู“ใหม่กะหม่ำโดนกะโดน”

          Q. สวัสดีทักทายกันก่อน ทราบมาว่ามีผลงานหนังเรื่องใหม่มาให้แฟนๆ ได้ชมกัน ที่สำคัญเป็นหนังพี่หม่ำกำกับด้วยและพี่เท่งได้รับบทในแบบที่ไม่เคยเล่นมาก่อนด้วย
          T. สวัสดีครับ ผมเท่ง เถิดเทิงครับ กับภาพยนตร์เรื่องใหม่ชื่อน่ารักด้วย ใหม่กะหม่ำโดนกะโดน เป็นผลงานการกำกับเรื่องที่ 9 แล้วของผู้ชายที่ชื่อว่าหม่ำ จ๊กมก เป็นอีกอารมณ์หนึ่งที่พี่หม่ำอยากนำเสนอ เป็นภาพยนตร์ความรักของคนเมืองในยุคปัจจุบัน เรื่องของเพื่อนกับเมีย ผัว และมือที่ 3-4 ที่มันมายุ่งเกี่ยวพันอีรุงตุงนังไปหมด แต่ดูๆ ไปแล้วแอบมีอารมณ์ขำปนซึ้งครับ สำหรับบทบาทที่ได้รับนะครับ รับบทเป็นโกสน พูดได้ว่าเป็นบทที่ไม่เคยได้รับมาก่อน ภาพที่เห็นของเท่งส่วนใหญ่ก็คงต้องเป็นวัยรุ่นหรือไม่ก็นักเลงใช่มั้ยครับ แต่ถ้าดูจากระดับการแต่งตัวที่มาในลุคส์แบบนี้แล้วคงไม่ใช่นักเลงละ เพราะทั้งเรื่องจะเล่นเป็นคนที่แต่งตัวเนี้ยบมากเลย ทุกอย่างต้องเนี้ยบตลอด แล้วเวลาเข้าฉากก็ต้องสุขุม เงียบ พูดเพราะ การศึกษาดี รักสงบ อ่อนโยน เพราะในเรื่องโกสนจะเป็นคนเรียบร้อย เป็นคนไม่เคยมีเรื่องมีราวกับใคร ถามว่าตัวละครตัวนี้สำคัญไหม เป็นตัวละครสำคัญมากเลย เพราะว่าเป็นตัวละครที่ถูกส่งมาเพื่อทดสอบความสัมพันธ์ของตัวละครทั้ง 3 ตัวในเรื่องนั่นคือ หม่ำ ใหม่ ซึ่งเขาเป็นเพื่อนกัน และโหน่งที่เล่นเป็นเมียของพี่หม่ำ ทำให้ต้องพบกับจุดเปลี่ยนในชีวิต แต่จะเป็นอย่างไร ไม่รู้ ไม่บอก ขออุบไว้ก่อน ต้องไปติดตามเอาในภาพยนตร์ ในเรื่องโกสนจะเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากของโหน่ง เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กมัธยมเลย แต่โหน่งเล่นเป็นเมียของพี่หม่ำ ซึ่งตัวพี่หม่ำเองก็จะมีเพื่อนที่สนิทมากคือใหม่ อารมณ์ก็จะประมาณว่าถ้าใหม่คือเพื่อนซี้ปึ้กส์ที่เป็นทุกอย่างของหม่ำ โกสนก็เป็นทุกอย่างของกะเพราที่รับบทโดยโหน่งเช่นกัน แล้วตัวละครทั้งหมด4ตัวละครก็จะมาเกี่ยวพันกัน ด้วยเรื่องราวความรัก ความสุข ความเหงาที่มีทั้งรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ก็ยังคิดว่าเออ คนเขียนบทก็ช่างคิดเนาะ เข้าใจเขียนเรื่องดี เข้ากับเรื่องราวชีวิตผู้คนในยุคปัจจุบันดี

          Q. ตอนที่พี่หม่ำมาชวนเล่นกับที่ได้อ่านบทครั้งแรกรู้สึกอย่างไรบ้าง
          T. ทีแรกพี่หม่ำบอกจะให้เล่นบทเป็นโกสน พอเราฟังชื่อตอนแรก เราคิดว่าจะให้ไปขายก๋วยจั๊บ หรือ เกาเหลาอะไรหรือเปล่า (หัวเราะ) พออ่านบทแล้วไม่ใช่ เราเองก็ไม่เคยรับบทแบบนี้มาก่อน และแน่นอนว่าคนดูก็น่าจะไม่เคยเห็นบทแบบนี้มาก่อน ตอนที่ได้อ่านบทครั้งแรกก็มีความรู้สึกว่าตัวละครตัวนี้น่าสนใจ พอพี่หม่ำบอกบท อธิบายคาแรคเตอร์ตัวละครเท่านั้นแหละ เราก็โอเคเลย ส่วนมากที่ผ่านมาคนก็จะเห็นเท่ง เป็นนักเลงหัวไม้ แต่ในเรื่องนี้จะมาแนวสุภาพเลยตรงกันข้ามเลย ชุดก็เรียบร้อยมาก รองเท้า ดูเนี้ยบเลย ติดกระดุมคอ ทุกฉากต้องแต่งตัวเนี้ยบมาก อารมณ์ก็ต้องสุขุม นุ่มมาก แน่นอนเลยว่าอยากเล่น ตอนอ่านบทเสร็จก็รู้สึกว่าสนุกแล้ว แต่พอได้มาถ่ายทำ ได้สวมบทบาทของตัวละคร ได้เห็นพี่หม่ำเป็นตัวละครแบบนี้ โหน่งก็รับบทแบบนี้ เห็นใหม่เป็นตัวนี้ ก็รู้สึกว่าแปลก สนุกและน่าสนใจดี เชื่อว่าพอท่านผู้ชมได้ดูแล้วจะรู้สึกถึงความสุขแบบอุ่นๆ จะมีกลิ่นไอของความรัก ขำไปอมยิ้มไปดูแล้วรู้สึกว่า ถ้าเหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นกับเราบ้างจะเป็นยังไง

          Q. ทราบมาว่าต้องเล่นเป็นเหมือนคู่ปรับกับพี่หม่ำด้วย
          T.ในภาพยนตร์เรื่องนี้ คุณใหม่กับคุณหม่ำเขาจะเป็นเพื่อนกัน ส่วนผมก็จะสนิทกับโหน่ง แต่ในเรื่องนี้ ผมกับพี่หม่ำเจอกันก็จะไม่ถูกกัน ตัวคาแรคเตอร์ก็ต่างกันแล้ว พี่หม่ำจะเป็นคนใจร้อน อย่างผมก็จะเป็นคนใจเย็น สุขุม เจอกันตั้งแต่ครั้งแรกก็ไม่ถูกกัน และการเจอกันครั้งแรกนั่นแหละ เป็นการปะทุของเรื่องเลย ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะเรา แต่อย่างที่บอกเราไม่เคยรู้เรื่องอะไรเลยทำให้หม่ำกับใหม่ และหม่ำกับโหน่งเกิดเป็นเรื่องพัวพันกันขึ้นมา สนุกครับ และก็มีอารมณ์ซึ้งด้วย เป็นกลิ่นอายของความเป็นจริงในยุคนี้

          Q.บรรยากาศการทำงานของ “หม่ำ เท่ง โหน่ง” มาเจอกันในหนังเรื่องนี้เป็นอย่างไรบ้าง
          T.ทุกครั้งที่เราถ่ายหนังด้วยกัน อารมณ์สดเกิดขึ้นแน่นอน ผู้ช่วยไม่ต้องมาช่วยอะไรเลย บางทีก็เล่นกันยาวมาก และก็สั่งคัทกันเอง แต่ในเรื่องนี้จะเป็นการเจอกันแบบจังๆ เลย ไม่ใช่เจอกันแค่แวบๆ ต่างคนต่างมีคาแรคเตอร์ ต่างคนต่างเชือดเฉือนกัน การอ่านบทก็เป็นการอ่านไกด์ไลน์ว่าเราจะต้องไปไหนกันบ้าง ส่วนไดอาล็อคคืออารมณ์สดหมดเลย แต่คือเราสั่งทุกคนว่าห้ามขำกัน เวลาถ่ายก็มีแอบขำกัน เราก็ขำด้วยนะ ขำอยู่ในเรื่อง ด้วยอารมณ์สดของโหน่ง ของพี่หม่ำ สนุก รู้สึกบางทีอยากจะเข้าฉากให้มันยาวๆ พอคัทแล้วเราก็ยังคุยกับพี่หม่ำเลยว่าฉากนี้สนุกดี พี่หม่ำก็ว่า เออ ฉากนี้ไม่อยากตัดออกเลย มันเสียดาย สนุก อารมณ์สดมันเกิดขึ้น

          Q. ฟังๆ ดูแล้วเหมือนพี่เท่งจะอารมณ์ค้างนะเนี่ยะ
          T. คือจะว่ายังไง ผมหมั่นเขี้ยวมาตั้งแต่ จีวรบินแล้วมั้ง เป็นพระเล่นอะไรไม่ได้เลย แต่พอมาถ่ายวันนี้ มันรู้สึกเหมือนกับปล่อยผี และเราก็อยากเล่นๆ อะไรแบบนี้ ในอารมณ์ของผมของพี่หม่ำที่เป็นผู้กำกับมาแล้ว เราก็จะมองเห็นภาพ อ่านบทก่อนเลยว่าอะไรเป็นยังไง พอมาถ่ายกันจริงก็ถ่ายกันยาวเลย เราเลยรู้สึกว่า สงสัยจะอารมณ์ค้างมาตั้งแต่จีวรบิน เล่นแบบนี้รู้สึกว่ามันไม่มีกรอบไง แต่จีวรบินเราโดนตีกรอบด้วยการเป็นพระ อันนี้คาแรคเตอร์ค่อนข้างชัดเจน เราก็เล่นได้เลย แบบนุ่ม สุขุมนะ แต่มีวาทะที่แบบเชือดเฉือน

          Q. อย่างนี้แล้วเวลาที่ เท่ง เถิดเทิง เข้าฉากกับโหน่ง ชะชะช่ายิ่งไม่ต้องพูดถึง
          T. เวลาเข้าฉาก ไม่ว่าจะเป็นโหน่งหรือพี่หม่ำ ในแก๊ง 3 ช่า ทุกคนเราอยู่กันมานาน โดยเฉพาะโหน่งที่อยู่ด้วยกันมาก่อนแก๊ง 3 ช่าด้วยซ้ำ รู้ใจรู้ไส้รู้พุงกัน แม้กระทั่งในละคร หรือในหนังก็ตาม ต้องเอาไอ้เท่งไอ้โหน่งคู่กัน อยู่ด้วยกัน ถามว่าชอบไหม เราก็ชอบ คือแทบไม่ต้องหามุกอะไร คือมันชิงไหวชิงพริบกันตรงนั้นเลย ตรงหน้ากองเลย แต่เราก็เล่นตามเรื่อง ที่มีสิ่งแวดล้อมที่เห็นจริงๆ โหน่งเป็นผู้หญิงที่เปิดร้านเสริมสวย ก็มีร้านสริมสวยจริงๆ เล่นโยนกันไปโยนกันมา แน่นอนว่าเรารู้ไส้รู้พุงกัน อย่าว่าแต่อ้าปากเห็นลิ้นไก่ ของผมกับโหน่ง อ้าปากก็เห็นลำไส้ใหญ่ เห็นยันกะเพาะเลยละ

          Q. ฟังๆ ดูแล้วบทโกสนกับกะเพรา ต้องเป็นเท่ง เถิดเทิงกับโหน่งชะชะช่าเท่านั้น
          T. บทของโกสนกับกะเพราเนี่ยะ คือถ้าเอาคนอื่นมาเล่น ผมว่าก็น่าเสียดาย คือ ความกลมกล่อมกับความสนุกมันหายไป และมันออกจะดูเป็นแบบเครียดไปเลยนะ และอารมณ์กุ๊กกิ๊กมันจะไม่มี พอเป็นผมกับโหน่งมันเหมือนกับลงตัว และพอเรามาถ่ายจริงๆ ก็แบบว่าใช่ สนุก

          Q. แต่ที่พิเศษและทำให้หน้าหนังดูแตกต่างไปจากหนังเรื่องอื่นๆ ของพี่หม่ำมากๆ เลยก็คือการได้ซุปตาร์ดิวาอย่างใหม่ เจริญปุระมาเป็นนางเอก         
          T. สำหรับภาพยนตร์เรื่อง ใหม่กะหม่ำโดนกะโดน แน่นอน หม่ำจะเป็นใครไปไม่ได้มีอยู่หม่ำเดียว ส่วนใหม่ก็คือ ใหม่ เจริญปุระ ซูเปอร์สตาร์ ซูเปอร์ดิวา ที่มีความหลากหลาย ทั้งในแง่ของความเป็นนักร้อง นักแสดง ละคร ภาพยนตร์ การเดินแบบ เพราะฉะนั้นการที่พี่หม่ำเอาคุณใหม่มาร่วมงานในเรื่องนี้ ตัวผู้กำกับหรือตัวนักแสดงเองก็ต้องคัดแล้วในการรับงานหรือเลือกงานแต่ละชิ้นว่าตัวบทตัวหนังมีอะไรที่น่าสนใจ อย่างที่ผ่านมาเราจะได้เห็นคุณใหม่ยืนถือไมค์บนเวที เย้วๆ แต่ภาพที่จะได้เห็นในภาพยนตร์เรื่องนี้ คุณจะได้เห็นในมุมขำๆ ของคุณใหม่ และโหน่งในเรื่องนี้ไม่ได้เป็นกะเทยนะ เล่นเป็นผู้หญิงเลย จะไม่มีจริตจะก้านดีดดิ้งที่แบบกระเทยวี๊ดวิ๊วเลย ส่วนคาแรคเตอร์ผม ก็ไปดูกันว่าทำไม พี่หม่ำถึงเอาผมมาเล่นเป็นผู้ชายนุ่มๆ สุขุม ไม่หาเรื่องใครค่อนข้างจะสงบเรียบร้อย ซึ่งเป็นเสน่ห์และจุดเด่นคาแรคเตอร์ของตัวละครตัวนี้

          Q. สำหรับภาพรวมของหนังเรื่องใหม่กะหม่ำโดนกะโดน ที่บอกว่าเป็นหนังอุ่นๆ ในแนวตลกโรแมนติกคอมมิดี้แตกต่าจากหนังทุกเรื่องที่ผ่านมาของผู้กำกับที่ชื่อว่าหม่ำ จ๊กมกเป็นอย่างไร
          T. ในแง่ของตลกที่มากำกับหนัง ผมมองว่า แต่ละคนก็จะมีเส้นทางแนวคิดของแต่ละคน บางทีดูหนังดราม่าแล้วเราก็อยากทำหนังดราม่าบ้าง แต่เราก็อย่าหนีตัวเอง คือเราเป็นตลกพอคนดูเห็นเราแล้วก็อยากขำ แล้วแน่นอนหนังเรื่องนี้พี่หม่ำเขาก็อยากจะทำแบบที่เขาอยากทำ คือหนังตลกคอมมิดี้ กลิ่นไอของความรักมาเจือปน มีกลิ่นไอของผู้คนในสังคมนี้ที่มีอยู่จริงไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเพื่อนหรือของแฟน ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องในเมือง เป็นสังคมในเมือง เป็นสังคมยุคปัจจุบัน แน่นอนว่าการตีแผ่เอาเรื่องบางอย่างมาให้ท่านผู้ชมได้ดูได้สัมผัสกัน โดยแฝงความสนุกเอาไว้ และแฝงชีวิตจริง ทำให้มันมีอารมณ์สนุกซึ้งๆ ซึ่งจริงๆ แค่เห็นพี่หม่ำตีหน้าเศร้าก็ขำแล้ว แต่ทุกคนจะอินไปกับพี่หม่ำนะ ผมถึงบอกว่าคนดูจะน้ำตาซึมพร้อมกับอมยิ้ม ไปๆ มาๆ เรื่องนี้ของพี่หม่ำจะค่อนข้างแปลกกว่าทุกเรื่องที่ผ่านมา แตกต่างมากเลย ในบางช็อตในบางซีน จะเห็นในบางมุกของพี่หม่ำ จะเห็นความผิดหวัง และจะเห็นผมในอารมณ์เอิบอิ่มที่สมหวังกับที่สิ่งที่ตัวโกสนต้องการ เห็นสีหน้าของโหน่งที่เล่นเป็นเมียถ่ายทอดความรู้สึกถึงอารมณ์ของตัวบทได้อย่างชัดเจน คือผมว่าดูแล้วน้ำตาแทบจะซึม แต่ซึมไปด้วยพร้อมกับมีการอมยิ้ม เหมือนกับว่าดูๆ ไปเราอาจจะอินเหมือนเป็นตัวละครตัวนี้ไปตามเนื้อเรื่องจะพาไปด้วยอารมณ์ซึ้งอย่างมีความสุขในที่สุดด้วย

          Q. ท้ายนี้การันตีฝีมือการกำกับหนังรักของผู้กำกับคนนี้หน่อย
          T. แน่นอน เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ 9 ของพี่หม่ำแล้ว แต่ละเรื่องก็จะมีลายเซ็นต์ที่ชัดเจน แล้วก็สามารถการันตีความสนุกสนาน ได้ ส่วนในเรื่องนี้ก็จะเสนอในแนวของความรักบ้าง ความรักของคนในเมือง เป็นความรักที่มีอารมณ์ตลกด้วย หลากหลายอารมณ์อยู่ในแง่มุมเดียวกัน อยากจะบอกว่าผู้ชายคนนี้มีแง่มุมอุ่นๆ แบบนี้อยู่ด้วย ซึ่งหลายคนอาจจะไม่รู้ แต่ผมกับโหน่งหรือหลายๆ คนที่คลุกคลีกับพี่หม่ำมาจะรู้กันดี อย่างครั้งหนึ่งเราเคยไปต่างจังหวัดด้วยกัน ผม โหน่ง พี่หม่ำ อยู่ในรถตู้คันเดียวกัน แล้วผมก็ให้เด็กไปซื้อหนังมาสักเรื่องหนึ่ง อยากดูหนังดราม่า ก็ได้เรื่อง จอห์น คิว มาดู ดูได้สักครึ่งเรื่อง ระหว่างรถวิ่งไป มันเป็นภาพที่คนไม่เคยเห็นมาก่อน ผม พี่หม่ำ โหน่ง นั่งดูหนังแล้วน้ำตาไหลไปด้วย โหน่งโทรหาเมีย บอกรีบซื้อหนังเรื่องนี้มาดูด่วนเลย นี่ก็คือมุมหนึ่งที่ทำให้เราอยากทำหนังแนวดราม่าบ้าง แต่ไม่ใช่ว่าจะร้องไห้ทั้งเรื่อง หนีความเป็นตลกรึเปล่าไม่นะ เพราะเราหนีความเป็นตัวเราไม่ได้ ทำหนังแนวดราม่าก็ช่าง ทำหนังแนวซึ้งๆ ก็ช่าง แต่การซึ้งก็ต้องมีการปนยิ้ม ปนความสนุกสนาน โดยที่ได้มาด้วย หม่ำ เท่ง โหน่ง มาเล่นด้วยกัน มันจะร้องไห้ทั้งเรื่องไม่ได้ แน่นอนว่าคนดูต้องอยากเห็นเราในแบบที่ไม่ใช่มาแว๊บๆ ในครั้งนี้แต่ละคน มีคาแรคเตอร์ที่ชัดเจน มาเจอกัน มาเชือดเฉือนกัน อยู่ไลน์ของความเป็นเรื่องที่สนุก ถ่ายแล้วบอกตรงๆว่าไม่อยากหยุด ถ่ายแล้วเราอยากเดินไปทั่ว เพราะว่าเราแต่งตัวหล่อ (หัวเราะ) ไปดูครับแล้วจะได้อะไรหลายๆ อย่างจากผู้ชายคนนี้ครับ ในภาพยนตร์เรื่อง ใหม่กะหม่ำ โดนกะโดน ฟังแล้วดูฉงนนะครับ ไปหาคำตอบกันครับว่า4 คน เป็นอะไรกัน เกี่ยวข้องกันอย่างไร แต่รับรอง สนุก ซึ้ง อมยิ้มครับ

499
3 ซุป’ตาร์ขำก๊ากไอเดียโปสเตอร์ “ใหม่กะหม่ำโดนกะโดน” สุดฮา ทีมงานเนรมิตเตียงใหญ่ยักษ์ขนาด KING SIZE ให้ “ใหม่-โหน่ง” เปิดสมรภูมิศึกชิง “หม่ำ” ยับเยินคาเตียง




 
         ปิดกล้องไปอย่างราบรื่นแถมจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวไปเป็นที่เรียบร้อย วันนี้เลยมีภาพเบื้องหลังการถ่าย “โปสเตอร์-ใหม่กะหม่ำโดนกะโดน”ที่มาพร้อมบรรยากาศสบายๆ รีแล็กซ์สุดๆ แถมได้อารมณ์คอมมิดี้โรแมนติคที่แปลกใหม่ เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ทั้งคึกคักครื้นเครงกันน่าดูเมื่อ 3 ซุปตาร์ระดับแถวหน้าของเมืองไทยอย่าง “หม่ำ-ใหม่-โหน่ง” พร้อมใจกันกระโดดขึ้นเตียงแอ็คท่ากันมันส์สุดชีวิต โดยทีมครีเอทีฟ-อาร์ทไดเรคเตอร์ที่ออกแบบกระแทกไอเดียอันบรรเจิดด้วยการเนรมิตเตียงนอนขนาด King-Size บิ๊กเบิ้มให้ 2 สาว ใหม่ เจริญปุระที่รับบท “ใหม่เพื่อนสนิทชอบเมาปลิ้น” และโหน่ง ชะชะช่า เพราะต้องมาแต่เช้าให้ทีมเมคอัพหน้าผมและฝ่ายเสื้อผ้ามะรุมมะตุ้มแปลงโฉมตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้ากลายเป็น“กะเพรา เมียหม่ำที่แต่งหญิงครบเครื่องแถมขี้หึงมั๊กมั๊ก” กระโดดขึ้นไปเปิดศึกบนเตียงสร้างสถานการณ์ด้วยการใช้หมอนเป็นอาวุธเพื่อแย่งชิง “หม่ำ จ๊กมก” ที่มาในมาดหนุ่มสุขุมลุ่มลึกในชุดนอน อยู่ตรงกลางระหว่างสังเวียนเพราะต้องเป็นฝ่ายเลือกว่า ระหว่างเพื่อนสนิทกับเมียรัก จะต้องเลือกใคร ? ซึ่งเป็น 1 ในหลากหลายไอเดียที่ทั้ง 3 จะต้องแอ็คท่าอินคาแรคเตอร์กันสุดๆ หลังจากผ่านการถ่ายทำในบทดังกล่าวมาแล้วจากการถ่ายทำภาพยนตร์

          งานนี้เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของทั้ง 3 ตลอดการถ่ายทำโปสเตอร์ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ เนื่องจากจะต้องมีการถ่ายทำในหลากแอ็คติ้งหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นแบนเนอร์สิ่งพิมพ์แขวนขนาดใหญ่ในโรงภาพยนตร์ก็มีถึง 5-6 แบบไปแล้ว ยังไม่รวมกับสื่อติดตั้งที่บ่งบอกถึงคาแรคเตอร์ภายใต้คอนเซ็ปต์โดนกันอีก ทำให้หนักตกมาอยู่ที่ทีมเมคอัพจะต้องแปลงโฉมซูเปอร์สตาร์ทั้ง 3 ในแบบฉบับบู๊ฮาโทรมได้อีก ประมาณว่าเหมือนกับเพิ่งผ่านสมรภูมิเจอศึกหนักมาหมาดๆ งานนี้เลยได้เห็นดิว่าสาวอย่างใหม่ เจริญปุระถูกจับทำผมกระเซอะกระเซิง ขนตาหลุดหล่นลงมาแปะบนหน้าชี้โด่ชี้เด่ ปากลิปสติกเลอะแก้มภายใต้คอนเซ็ปท์โดน....ทิ้ง, ส่วนโหน่งชะชะช่า ที่นอกจากแต่งหญิงได้สาวโพดโพดแล้ว ยังต้องแต่งเลอะอีกต่างหาก และโหน่งก็ไม่ทำให้ทีมต้องผิดหวัง และแน่นอนว่าเมื่อกล้องพร้อมไฟมา ตัวตั้งตัวตีอย่างหม่ำเองก็ไม่ด้อยหน้ากว่าใคร ภายใต้คอนเซ็ปท์โดน....แย่ง เพราะต้องมีการทำลายเสื้อ ฉีกขาดเป็นรู แต่งหน้าเลอะประมาณว่าเพิ่งผ่านสมรภูมิการฉุดกระชากมาหมาดๆ ภายใต้ข้อความประจำตัวว่าโดน..... (แต่จะโดนอะไรต้องไปหาความหมายในโรงภาพยนตร์กันเอาเองนะจ๊ะ) และเพื่อให้เห็นภาพแบบชัดเจนแจ่มแจ้งไปเลย งานนี้หม่ำ จ๊กมกเลยถูกจับถอดเสื้อและเอาผ้านวมมาพันรอบตัวโดยปล่อยให้ปลายผ้านวมทั้ง 2 ข้างกำลังถูก 2 สาวแย่งชิงกันพัลวัน แต่ที่ดูเหมือนจะถูกใจสาวใหม่สุดๆ ก็คือการที่ทีมงานยกเตียงตั้งขึ้นและให้ทั้ง3ต้องไปยืนโพสต์แอ็คท่าด้วยการยืนแต่ทำให้เหมือนกับว่านอนอยู่บนเตียงแล้วให้ช่างภาพถ่ายจากมุมมองด้านบน รู้สึกว่าเก๋เท่ห์ซะไม่มี งานนี้ลองมาฟังความเห็นของเหล่าซุปตาร์ทั้งสามถึงความรู้สึกจากการถ่ายทำโปสเตอร์ในวันนี้กันดู

          ใหม่ : ก็ชอบนะคะ วันนี้เป็นฉากเตียงด้วย มันดูออกฝรั่งๆดี ดูเป็นภาพถ่ายที่มีอารมณ์อยู่ในนั้นด้วย เพราะเป็นการถ่ายทำโปสเตอร์ที่แต่ละคนจะต้องคงคาแรคเตอร์ของตัวละครในเรื่องไว้ในภาพๆนี้ อย่างโหน่งนี่ต้องยอมรับเลยว่าแอ็คท่าและแสดงออกมาได้เหมือนกับตัวละครในเรื่องมากๆเลยค่ะ
          โหน่ง : สำหรับผมรู้สึกอึดอัดมากเลยกับการถ่ายทำ เพราะชุดอึดอัดมากเลย เป็นเพราะว่าตอนถ่ายทำน้ำหนักขึ้น ปรากฎว่าพอเอาชุดนี้ซึ่งเป็นชุดเดียวกับที่ใส่ในหนังมาใส่ถ่ายโปสเตอร์กลับกลายเป็นว่าเกือบใส่ชุดไม่ได้
          หม่ำ : ไม่ใช่หรอกเพราะตัวโหน่งอ้วนไง ไม่ได้เกี่ยวกับชุดเลย ชุดนะดีอยู่แล้ว แหมเล่นกินด้วยถ่ายด้วย น้ำหนักก็เลยขึ้นกันทุกคนเลยครับ
          พี่ใหม่ : เหมือนใหม่เลยค่ะ เพราะตั้งแต่ถ่ายเรื่องใหม่กับหม่ำ น้ำหนักขึ้นมา 6 กิโล งบโภชนาการเยอะมากเลยค่ะ
          หม่ำ : จริงๆ แล้วเหมือนเป็นการจำลองฉากในหนังฉากหนึ่งที่เราแสดงด้วยกัน ก็จะมีอารมณ์คล้ายๆอย่างนี้
          โหน่ง : คือเราสองคนในเรื่องใหม่กะโหน่งเราไม่ถูกกัน แต่ไม่ได้เกลียดกันนะ
          หม่ำ : ผู้หญิง 2 คน แย่งกัน ก็ถูกใจครับ นานๆ จะได้ทำหนังแบบนี้ครับ รู้สึกว่าเออ เราคงหน้าตาดีเหมือนกัน เขาสองคนเลยแย่งกัน (หัวเราะ) พูดเล่นครับ จริงๆ ก็เป็นคอนเซปท์ของเรื่องที่เราจะต้องเกี่ยวข้องกับผู้หญิง 2 คนที่เป็นคนสำคัญในชีวิตคือเพื่อนกับเมีย ถ่ายหนังถ่ายโปสเตอร์มาหลายเรื่องก็ยังไม่เคย ถ่ายบนเตียงแบบนี้ หรือกระทั่งต้องมาใส่ชุดนอน แล้วมีฉีกขาดอีก ส่วนใหญ่จะถ่ายสูท รองเท้าหนังเท่ห์ อันนี้ไม่ใช่เลย มีสาวๆ มาแย่งผมกัน แล้วอยู่บนเตียงแบบนี้ ก็สนุกสนานดี
          ใหม่: จริงๆ พี่หม่ำแกก็หล่อเป็นธรรมชาติของแกดีนะ หล่อโดยที่ไม่ต้องแต่ง ผู้หญิงยังแย่งกันขนาดนี้ เพราะฉะนั้น ก็ต้องไปดูกันว่า จริงๆ แล้วมีอะไรลึกๆ ในเรื่องที่มากไปกว่านั้นอีกเยอะมากๆ
          โหน่ง : ชอบครับ ชอบ แปลกดี สนุกครับ แต่มันอึดอัดตอนนั่งบนเตียง ตอนนอนไม่เป็นไร มีครบเลยนั่งนอนยืน
แหมนี่แค่ถ่ายโปสเตอร์ก็ยังสนุกสนานอารมณ์ดีขำกระจายกันขนาดนี้ หนังทั้งเรื่องไม่ต้องห่วงเลยเพราะงานนี้สาวใหม่สมาชิกคนล่าสุดที่เพิ่งได้มีโอกาสร่วมงานกับผู้กำกับหลายร้อยล้านอย่างหม่ำ จ๊กมก ยืนยันว่าทำงานกับพี่หม่ำขำทุกฉากทุกคิว ไม่มีวันไหนที่ไร้เสียงหัวเราะเลยทีเดียว
          ใหม่ : คือใหม่รู้สึกภูมิใจใจตัวพี่หม่ำจริงๆ เขาไม่ใช่แค่ตลกตัวพ่อนะคะ เขามีดีมากไปกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้กำกับก็ดี พิธีกรก็ดี ร้องเพลงก็เริ่ดสะแมนแตน ดีใจและต้องขอบคุณพี่หม่ำที่เลือกใหม่มาเล่น ก็อยากฝากหนังเรื่องใหม่กะหม่ำโดนกะโดนด้วย ก็นานๆ ทีจะได้มาเล่นหนังตลกกับเขา ได้รับเกียรติมาก และเราจะได้เป็นดาวตลกคนใหม่หรือเปล่า
          โหน่ง : โอ้โห อย่างงี้ต้องไปดูกันนะครับ 23 มิถุนายน ใหม่กะหม่ำโดนกะโดน ต้องไปดูกันให้ได้ และเป็นนักร้องสาวร็อคที่โหน่งชื่นชอบมานาน ถือว่าเป็นร็อคตัวแม่เลยนะ ได้มาประกบกับผู้หญิงที่เราชื่นชอบนะ ส่วนตัวพี่หม่ำกับทั้งบ้านก็ชอบพี่ใหม่อยู่แล้ว ก็มาดูกันครับกับอีกบทบาทหนึ่งของพี่ใหม่และรสชาติที่รับรองขำปนซึ้งครับ

500
ทาเคชิ คาเนชิโร่ รับแสดงคิวบู๊ประกบ ดอนนี่ เยน ใน Wu xia (อูเสีย) งานหินที่สุดในชีวิต




 
          เมื่อเอ่ยชื่อ ทาเคชิ คาเนชิโร่ ทุกคนย่อมรู้จักเขาในฐานะ นักแสดงหนุ่มหล่อ แถวหน้าของเอเชียที่มีชื่อเสียงดังไปไกลทั่วโลก ด้วยความสามารถด้านการแสดงที่ดีเยี่ยม และหน้าตาหล่อเหลาที่มัดใจสาวๆได้อยู่หมัด และสำหรับในปีนี้กับภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของเขา Wuxia (อูเสีย) ภาพยนตร์จีนกำลังภายในเพียงเรื่องเดียวที่ได้รับเลือกให้ฉายเปิดตัวในเทศกาลหนังเมืองคานส์ ที่ ทาเคชิ รับบท นักสืบที่ต้องมาไขคดีฆาคกรรมที่เกี่ยวข้องกับนักฆ่าชื่อดังที่ทิ้งอดีตมาใช้ชีวิตสงบเป็น ช่างทำกระดาษ รับบทโดย ดอนนี่ เยน โดยทาเคชิ ได้กล่าวถึงตัวละครของตัวเองว่า “ผมคิดว่าเขาเหมือนกับเจ้าหน้าที่ CSI ในยุคสมัยของราชวงศ์ชิง เขาใช้ความรู้ในเรื่องศิลปะการต่อสู้เข้ามาผสมผสานกับการชันสูตรศพ เพื่อจำลองการต่อสู้ที่เคยเกิดขึ้น เขาเดินทางมาชนบทเพื่อสืบคดีของนักฆ่าชื่อก้องถูกสังหารโดยช่างทำกระดาษ นั้นทำให้เขาสงสัยว่ามีอะไรที่ไม่ชอบมาพากลในตัวผู้ชายคนนี้ ” ซึ่งนี่ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ของเขาในการแสดงหนังจีนกำลังภายใน แต่เขากลับแสดงความหนักใจ และยอมรับว่า นี่คืองานหินที่สุดในชีวิต เมื่อต้องปะทะคิวบู๊กับ แอ็คชั่นสตาร์แห่งยุคอย่าง ดอนนี่ เยน ซึ่งได้รับการยอมรับว่าแสดงฉากแอ็คชั่นได้ดีเยี่ยม ทาเคชิจึงต้องใช้สมาธิและการฝึกฝนอย่างมาก ที่จะแสดงฉากแอ็คชั่นให้เข้าขากับ ดอนนี่ เยน โดยเรื่องราวใน Wuxia (อูเสีย) เป็นเรื่องราวของ ปรมาจารย์กังฟูและยอดนักฆ่า หลิวจินซี (ดอนนี่ เยน) ตัดสินใจล้างมือจากวงการมาใช้ชีวิตสงบสุขเป็นช่างทำกระดาษ แต่แล้วอดีตก็ตามมาหลอกหลอนเมื่อทางการส่ง นักสืบยอดฝีมือ ซูไป๋จิ่ว (ทาเคชิ คาเนชิโร่) มาตามล่าหาตัวเขาไปรับโทษที่เคยก่อไว้
 
          สำหรับ Wuxia (อูเสีย) ถือเป็นอีกความภาคภูมิใจของเอเชีย และ ปีเตอร์ ชาน ที่หนังที่เขาตั้งใจนำเสนอได้รับเลือกและได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากเทศกาลหนังเมืองคานส์ ซึ่งสิ่งที่ถือเป็นปรากฏการณ์แปลกใหม่ที่ถูกหยิบมานำเสนอเป็นครั้งแรกของโลกภาพยนตร์กำลังภายใน ก็คือ ฉากแอ็คชั่นสุดล้ำ ที่จะแสดงให้เห็นอวัยวะภายในที่ถูกทำลายหลังจากต่อสู้ โดย ปีเตอร์ ชานได้เล่าถึงฉากแอ็คชั่นในเรื่องว่า “ผมเคยดูสารคดีตัวหนึ่ง ซึ่งเล่าถึงรายละเอียดของผู้ชายที่ถูกยิงด้วยปืน ได้เห็นทุกเสี้ยววินาทีที่กระสุนพุ่งทะลุผ่านผิวหนัง เข้าไปตัดเส้นเลือดและฝังอยู่ในหัวใจ ผมก็เลยคิดว่าถ้าเราเปลี่ยนมาใช้กับหมัด เตะ ดาบ หรืออาวุธประเภทอื่นล่ะ มันก็คงน่าสนใจเหมือนกัน และก็ไม่เคยมีใครทำมาก่อนกับหนังกำลังภายใน และนั้นคือสิ่งที่คุณจะได้เห็นใน Wuxia”

          สองซุปเปอร์สตาร์แห่งเอเชีย กับการปะทะคิวบู๊สุดล้ำใน
          Wuxia (อูเสีย)
          28 กรกฏาคม นี้ในโรงภาพยนตร์

501
“ดอนนี่ เยน” สุดภูมิใจ รับ บท กวนอู ยอดขุนศึก ใน The Lost Bladesman หนังสามก๊ก ตอนใหม่ จาก 2 ผู้กำกับ Infernal affairs



          มหากาพย์ตำนานวรรณกรรมจีนเรื่องยิ่งใหญ่ อย่าง “สามก๊ก” ไม่ว่าจะหยิบมาสร้างเป็นภาพยนตร์ครั้งใดล้วนยิ่งใหญ่ อลังการ และน่าสนใจทุกครั้ง ล่าสุด ผู้กำกับ และผู้ให้กำเนิด Internal affairs อย่าง เฟลิกซ์ ชอง และ อลัน มัก หยิบตัวละครของ “กวนอู” ขุนศึกคนสำคัญแห่ง “สามก๊ก” มาถ่ายทอด ในภาพยนตร์จีนเรื่องยิ่งใหญ่ “The Lost Bladesman” ซึ่งเป็นตอนที่มีเรื่องราวการต่อสู้ แอ็คชั่น ที่มันส์ที่สุดตอนหนึ่งของสามก๊กเลยก็ว่าได้ เรื่องราวตอนนี้ เป็นตอนที่ดำเนินเรื่องราวเกี่ยวกับ ขุนศึก “กวนอู” ตอน กวนอูฝ่า 5 ด่าน สังหาร 6 ขุนพล เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อ เล่าปี่ ทำศึกแพ้ โจโฉ ที่เมืองชีจิ๋ว สามพี่น้องร่วมสาบานจึงต้องพลัดพรากจากกัน โดย เล่าปี่ ต้องหนีไปอยู่กับ อ้วนเสี้ยว ส่วน เตียวหุย ไปตั้งกองโจร ในขณะที่ กวนอู นั้นถูก โจโฉ ล้อมจับตัวได้ที่เมืองแห้ฝือ โดยให้ เตียวเลี้ยว เกลี้ยกล่อม กวนอู จนยอมเข้ารบด้วย โดย กวนอู มีเงื่อนไข 3 ประการคือ โดยประการสุดท้ายคือ ถ้ากวนอู รู้ว่า เล่าปี่ อยู่แห่งใด ก็จะไปหา เล่าปี่ ท้ายสุด โจโฉ ตกลงตามสัญญาสามข้อจึงได้ กวนอู ไว้ตามต้องการ จนเมื่อ กวนอู รู้ว่า เล่าปี่ อยู่กับ อ้วนเสี้ยว ที่เมืองกิจิ๋ว กวนอู จึงรีบออกตามหา เล่าปี่ ทันที และนั้นก็เป็นที่มาของการเดินทาง 1,000 ลี้ "ฝ่า 5 ด่าน สังหาร 6 ขุนพล" และผู้ที่มารับบท “กวนอู” ตัวละครสำคัญใน “The Lost Bladesman” ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือ แอ๊คชั่นสตาร์อันดับ 1 ของฮ่องกงคนปัจจุบัน “ดอนนี่ เยน” ที่เคยฝากฝีมือมาแล้ว จาก ยิปมัน อาจารย์ บรูซ ลี / เฉินเจิน

          หน้ากากฮีโร่ เป็นต้น โดย ดอนนี่ เยน ให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึก ที่เขาได้รับบทที่ยิ่งใหญ่อย่าง “กวนอู” ว่า “ผมภูมิใจมากที่ได้รับเกียรติให้รับบทนี้ กวนอู เป็นขุนศึกในตำนานที่ยิ่งใหญ่และเป็นที่รู้จัก แต่ผมขอสารภาพว่ารู้จัก กวนอู ไม่เท่ากับหลายคน ผมจึงเริ่มอ่านตำนานสามก๊กตลอดระยะเวลา 3 เดือนก่อนการแสดง ผมต้องทำการบ้านอย่างหนักเพราะ กวนอู มีรูปลักษณ์ที่องอาจและเป็นสัญลักษณ์แห่งคุณธรรม และที่สำคัญคือผมต้องประชันบทกับ เจียงเหวิน ที่รับบทเป็น โจโฉ ซึ่งเขาก็แสดงได้อย่างสุดยอด ผมต้องใช้ความสามารถที่มีทั้งหมดเพื่อให้ตัวเองขึ้นถึงระดับเขา” และนอกจาก “ดอนนี่ เยน จะแสดงนำในภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว เขายังเป็นผู้กำกับคิวบู๊ให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย 14 กรกฎาคม นี้

          คารวะ “กวนอู” ขุนศึกในตำนานแห่งสามก๊กในโรงภาพยนตร์

502
           “ปีเตอร์ ชาน” ผนึกกำลัง ผู้กำกับคู่บุญโจวซิงฉือ พา กู่เทียนเล่อ อู๋จินหยู ฮาหลุดโลก ใน Mr & Mrs Incredible : ฮ้อ...แรง กวาดรายได้ทั่วเอเชีย กว่า 300 ล้านบาท ในวันแรก


 
          แรงสมชื่อ ด้วยความสนุกและแอ็คชั่นมันส์ กับ ภาพยนตร์ Mr & Mrs Incredible : ฮ้อ...แรง เพียงแค่เข้าฉายในวันแรก ช่วงตรุษจีน ก็กวาดรายได้ไปกว่า 300 ล้านบาท ทั่วเอเชีย ทำให้ โปรดิวเซอร์คนเก่ง “ปีเตอร์ ชาน” ยิ้มหน้าบาน ปลื้มสุดๆกับกระแสตอบรับแรงแบบนี้ และ ถือเป็นกำลังใจสำคัญให้กับ “กู่เทียนเล่อ” พระเอกหล่อหน้าหยก ที่พลิกมารับบท ฮาหลุดโลกแบบนี้เป็นครั้งแรก เรียกได้ว่าสอบผ่านแบบเกรดเอ เพราะหลายคนบอกว่า อย่างกับเห็น “โจวซิงฉือ” มาแสดงเอง “ผมตื่นเต้นมากที่ฟีดแบคดีขนาดนี้ ต้องขอบคุณปีเตอร์ ชานที่ให้โอกาส ขอบคุณทีมงานและผู้กำกับ และยังต้องขอบคุณ อู๋จินหยู เธอเป็นมืออาชีพมาก ทำให้การแสดงของผมไหลลื่น และมีมุกตลกสนุกๆ ออกมาตลอด ผมว่าเรื่องนี้บันเทิง 100 เปอร์เซ็นต์เต็มจริงๆ” มาถึงความรู้สึกของ อู๋จินหยู เธอกล่าวว่า “หลายคนคิดว่าฉันจะสบายกับการแสดงแบบนี้ เพราะฉันผ่านหนังตลกมาเยอะ แต่ทุกครั้งฉันก็คิดว่าจะทำยังไง ให้ออกมาแตกต่างและสนุกกว่าเดิม พอดีเรื่องนี้บทบาทที่ได้รับเปิดโอกาสให้ใส่อะไรได้เต็มที่ ทั้งเพี้ยน ทั้งฮา ทั้งบู๊ สนุกมากๆ ยิ่งเห็นรายได้เป็นแบบนี้ ยิ่งดีใจ ก็อยากให้ทุกคนได้ไปสัมผัสความสนุกจากเรื่องนี้กันเยอะๆ ค่ะ”

          และความดีความชอบส่วนหนึ่งของความสนุกใน ภาพยนตร์ Mr & Mrs Incredible : ฮ้อ...แรง ต้องยกให้กับผู้กำกับคนเก่ง “วินเซนต์ ก๊ก” ผู้กำกับคู่บุญ โจวซิงฉือ ที่ถูกโฉลกกับภาพยนตร์แนวนี้มากๆ ประสบความสำเร็จมาแล้วจากภาพยนตร์แนวนี้หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น คนเล็กกุ๊กเทวดา และ สายไม่ลับคังคังโป้ย เป็นต้น และเรื่องล่าสุดก็คือ Mr & Mrs Incredible : ฮ้อ...แรง นั่นเอง และถือว่าเป็นภาพยนตร์แอ็คชั่น คอเมดี้เรื่องแรกในรอบปีนี้ ที่กวาดเงินรายได้ทั่วเอเชียไปมากที่สุด

          Mr & Mrs Incredible : ฮ้อ...แรง เรื่องราวของ คู่ฮีโร่หนุ่มสาว ที่ตัดสินใจลายุทธจักร ออกมาใช้ชีวิตเยี่ยงคนธรรมดา แต่แล้วเหตุการณ์กลับตาลปัตร เมื่อยุทธจักรสูญสิ้นความยุติธรรม เหล่าร้ายเริงอำนาจ เขาทั้งสองจึงต้องคว้าชุดตัวเก่ง หวนคืนสู่เส้นทางฮีโร่อีกครั้ง.....

          9 มิถุนายน นี้ ฮาไปกับซุปเปอร์ฮีโร่สายพันธุ์แปลก ใน โรงภาพยนตร์

503
MOVIE GUIDE: "พุ่มพวง" (เข้าฉาย 21 กรกฎาคม 54)
           “...ก่อนจากบ้านมา เพื่อนมันว่าให้ช้ำทรวง ไปเป็นนักร้องให้เขาล้วง มันเจ็บในทรวงไม่หาย  ไม่เด่นไม่ดังจะไม่หันหลังกลับไป ทุกวันคืนนอนร้องไห้ อีกเมื่อไหร่จะโชคดี...” สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล

          ภู มิ ใจ นำ เ ส น อ

          เรื่องราวของนักร้องสาวขวัญใจ อันเป็นที่รักของคนไทยทั้งประเทศ และถูกยกย่องให้เป็น “ราชินีลูกทุ่ง” เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น สร้างจากเค้าโครงเรื่องจริงและดัดแปลงจากบทประพันธ์ ของ บินหลา สันกาลาคีรี นักเขียนรางวัลซีไรต์ ร่วมถ่ายทอดภาพชีวิตโดย นักร้องสาวเสียงคุณภาพ ผู้คว้ารางวัลชนะเลิศกว่าพันเวที “เปาวลี พรพิมล” รับบทเป็น “พุ่มพวง ดวงจันทร์”  ประกบคู่กับ “ป๋อ-ณัฐวุฒิ สกิดใจ” ผลงานการกำกับภาพยนตร์โดย บัณฑิต ทองดี ควบคุมงานสร้างโดย ปรัชญา ปิ่นแก้ว 21 กรกฎาคมนี้

          <a href="http://www.youtube.com/watch?v=tHQAyBzx-jk" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=tHQAyBzx-jk</a>

504
สำนักพิมพ์โพสต์บุ๊กส์ สำนักพิมพ์ในเครือบริษัท โพสต์ พับลิชชิง จำกัด (มหาชน) จัดงานเปิดตัวหนังสือ “นักเศรษฐศาสตร์สนามบิน”




 
          สำนักพิมพ์โพสต์บุ๊กส์ สำนักพิมพ์ในเครือบริษัท โพสต์ พับลิชชิง จำกัด (มหาชน) จัดงานเปิดตัวหนังสือ “นักเศรษฐศาสตร์สนามบิน” The Airport Economist และสัมภาษณ์พิเศษ ทิม ฮาร์คอร์ต (Tim Harcourt ) นักเขียนนักเศรษฐศาสตร์ระดับโลกชาวออสเตรเลียที่มาเผยยุทธศาสตร์การค้าระหว่างประเทศและวิเคราะห์เศรษฐกิจโลก สำหรับนักลงทุนและผู้ส่งออก ณ ห้องสมุดมารวย อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมดำเนินรายการโดย ดร.รุ่งทิพย์ โชติณภาลัย

           The Airport Economist หรือแปลเป็นฉบับภาษาไทยว่า “นักเศรษฐศาสตร์สนามบิน” กล่าวถึง การเดินทางของนักเศรษฐศาสตร์ระดับโลก ทิม ฮาร์คอร์ต (Tim Harcourt) หัวหน้าเศรษฐกรแห่งสำนักการค้าออสเตรเลียที่เดินทางไปสืบเสาะแสวงหาเรื่องราวความสำเร็จของเศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศและตีแผ่แง่มุมทางเศรษฐกิจของประเทศต่างๆที่เขาได้ไปเยี่ยมเยือน โดยชี้ช่องทางให้เห็นถึงโอกาสของการส่งออกที่มีอยู่และนับวันจะเพิ่มขึ้น จากการที่มีข้อตกลงระหว่างประเทศทั้งทวิภาคีและพหุภาคีและถูกกระตุ้นด้วยความก้าวหน้าทางไอที นอกจากนี้จะได้รับรู้เรื่องราวทั้งประวัติศาสตร์ การเมือง เศรษฐกิจหรือแม้กระทั่งกีฬาและบันเทิง ผ่านมุมมองด้านการค้าและการส่งออกที่เต็มไปด้วยภาษาสนุกสนาน ด้วยชั้นเชิงการเขียนที่เต็มไปด้วยการเล่นคำ ยกตัวอย่างจากสิ่งใกล้ตัวและความเห็นของผู้เขียนที่นำเสนออย่างเข้าใจง่าย

          “ผมหวังว่าผู้อ่านทั้งที่ไม่ใช่ชาวออสเตรเลียและที่ไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์ คงอ่านแล้วสนุก โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักเรียน นักศึกษาทั้งชาวออสเตรเลียและต่างชาติ อาจรู้สึกว่าการค้าและเศรษฐศาสตร์เป็นเรื่องที่น่าสนใจและอาจหันมาพิจารณาทำงานวิชาชีพที่มีมุมมองระหว่างประเทศ นอกจากนี้นักธุรกิจรายเล็กรายน้อยและบรรดาเถ้าแก่หน้าใหม่อาจตัดสินใจลองศึกษา” ทิม ฮาร์คอร์ต (Tim Harcourt ) กล่าว

หนังสือ “นักเศรษฐศาสตร์สนามบิน” จะช่วยเปิดโลกมหัศจรรย์แห่งการค้าและเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศให้กว้างขึ้น เพื่อเป็นแนวทางสำหรับผู้ที่กำลังมองหาโอกาสในการก้าวไปสู่เวทีการค้าระดับโลก รวมทั้งผู้ที่สนใจที่จะเรียนรู้เรื่องเศรษฐศาสตร์การค้าระหว่างประเทศให้มากยิ่งขึ้น

          ร่วมติดตามเรื่องราวทุกแง่มุมเศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศ จากมุมมองของนักเศรษฐศาสตร์ระดับโลก ได้ที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศและที่ www.postbooksonline.com , www.facebook.com/postbooks

505
เปิดตัวพ็อกเก็ตบุ๊คที่รวมทุกเรื่องเฮลท์ “สุขภาพดี กับหมอหมีออนไลน์” จาก Dr.Carebear บล็อกเกอร์สุขภาพสุตฮอต! ยุค โซเชียล มีเดีย



          สมิติเวช เครือโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำของไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พัฒนาไอเดียใหม่ไม่หยุดอยู่กับที่ เปิดตัว พ็อกเก็ตบุ๊คเล่มใหม่จับตลาดคนรักสุขภาพ “สุขภาพดี กับหมอหมีออนไลน์” หนังสือที่รวบรวมทุกบทความดีๆ มีประโยชน์ในการดูแลใส่ใจและป้องกันสุขภาพ ที่เคยอยู่บนโลกออนไลน์ จากนามปากกา Dr.Carebear หรือหมอหมีใจดี ที่ทุกคนรู้จัก มารวมไว้ในเล่มเดียว

          หลังจากที่ สมิติเวช ได้แบ่งปันเรื่องราวและเคล็ดลับต่างๆ ในการดูแลสุขภาพ รวมถึงการดำเนินชีวิตให้ถูกต้องเพื่อการป้องกันให้ตัวเองห่างจากโรค ให้กับหลายๆ คนได้นำไปใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตของตัวเองมาพอสมควร ผ่านกระแสการใช้ Social media ที่มาแรงไม่หยุดอย่าง Facebook หรือ Twitter ผ่านบล็อกเกอร์ที่ชื่อว่า Dr.carebear Samitivej ตั้งแต่ ต้นปี 2553 จากแนวคิดที่ว่า “สุขภาพดีหาซื้อไม่ได้” โดยมองเรื่องของสุขภาพป็นเรื่องหลักที่ทุกคนต้องใส่ใจและดูแลกันเป็นพิเศษ ดูได้จากเทรนด์ของคนทุกรุ่นในยุคนี้ที่การใช้ชีวิตที่มุ่งเน้นสรรหาวิธีการดูแลรักษาสุขภาพด้วยตัวเองมากขึ้น ประกอบกับปัจจุบันนี้โรคภัยต่างๆ เกิดขึ้นเนื่องมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งหลายๆ โรคเป็นโรคที่สามารถป้องกันได้แค่เพียงตระหนักและหันกลับมาสำรวจตัวเองให้ความสำคัญ และการให้เวลาเพื่อการสร้างสุขภาพที่ดีกับตนเอง อย่างเรื่องง่ายๆ อาทิ อาหารการกินที่มีประโยชน์ การออกกำลังกายและพักผ่อน ทั้งๆ ที่ก็ทราบกันดีอยู่แล้วว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งสามารถทำได้ง่ายมากที่สุด แต่ทุกคนก็ยังละเลยที่จะให้ความสำคัญ จะเห็นปัญหากันอีกทีก็เมื่อเกิดความเจ็บป่วยหรือมีโรคมาเยือน แล้วค่อยมาหาทางแก้ไขกันภายหลัง ยกตัวอย่างเช่น มะเร็ง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันสูง โรคหัวใจ และอีกมากมาย ซึ่งเหล่านี้นับเป็นโรครุนแรงทั้งนั้น แต่มันสามารถป้องกันได้ตั้งแต่เนิ่นๆ หมอหมีจึงพยายามที่จะถ่ายทอดบทความความรู้ที่เป็นประโยชน์ให้กับสมาชิกและผู้อ่านมาโดยตลอด

          และในวันนี้ ทุกบทความที่เป็นความรู้ เคล็ดลับ ที่เคยเผยแพร่ไปบนโลกออนไลน์นั้น สมิติเวชได้นำมารวมไว้บนหนังสือ “สุขภาพดี กับหมอหมีออนไลน์” เล่มนี้แล้วอย่างครบถ้วน เพื่อให้คนที่รักและใส่ใจสุขภาพหาอ่านกันได้สะดวกมากยิ่งขึ้นนอกเหนือจากสื่อออนไลน์ เพราะสามารถพกติดตัวไปได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่มีข้อจำกัด ซึ่งภาษาของหมอหมีใจดียังคงน่ารัก อ่านเข้าใจง่าย ไม่น่าเบื่อ เช่นเคย อีกทั้ง รายได้ส่วนหนึ่งจากยอดขายหนังสือยังมอบให้กับ “กองทุนสมิติเวช เพื่อชีวิตใหม่หัวใจเด็ก” กองทุนที่สมิติเวชจัดตั้งขึ้นเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยเด็กโรคหัวใจและครอบครัวที่ขาดปัจจัยทุนทรัพย์ในการผ่าตัด เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวโรกาสครบรอบ 60 ปี พระราชพิธีราชาภิเษกสมรสในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ อีกด้วย

          ท้ายนี้ Dr.Carebear ในฐานะตัวแทนสมิติเวช ขอบขอบคุณ เพื่อน ๆ ทุกคนที่ให้การสนับสนุนมาโดยตลอด ไม่ว่าจะทาง Facebook Twitter หรือเว็บไซต์ต่างๆ ที่คอยติดตามอ่านรวมถึงเข้ามาพูดคุยและทักทายกันโดยตลอด ทำให้เรากลายเป็นกลุ่ม Social network ที่ยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะใน Facebook/drcarebear ที่ในวันนี้เรามีเพื่อนๆ สมาชิกทั้งที่ป็น Fan page และ Personal page รวมแล้วกว่า 5,000 ราย ทำให้ทุกคำถามที่มีคำตอบเหล่านั้นกลายมาเป็นความรู้และเคล็ดลับดีๆ ในการดูแลสุขภาพรวมไว้อยู่ในหนังสือเล่มนี้แล้วอย่างครบถ้วน รวมถึงต้องขอขอบคุณ คุณกาละแมร์/พัชรศรี เบญจมาศ คุณนิหน่า/สุฐิตา และคุณบอล แห่งวง Scrubb สำหรับคำนิยมที่จำกัดความให้กับหนังสือเล่มนี้ด้วย

          ท่านสามารถหาซื้อหนังสือ “สุขภาพดี กับหมอหมีออนไลน์” ได้ที่ ซีเอ็ดบุ๊ค ทุกสาขา วางแผงต้นเดือนเมษายนนี้ และติดตามข่าวสารสุขภาพแบบออนไลน์ ได้ที่ www.facebook/drcarebear

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
ปัญจมา จัดเจน โทร 0-2378-9200 E-mail: punchama.c@samitivej.co.th
สุรัญชนา สิทธิพูล โทร 0-2378-9155 E-mail: ssitthip@samitivej.co.th
วสีนาท สุขทิศ โทร 0-2378-9270   E-mail: waseenat.so@samitivej.co.th

506
“โปเตโต้” สุดซ่า!! เข้าตา “โค้ก”นั่งแท่น “แบรนด์ แอมบาสเดอร์” ระเบิดพลังซ่าให้สุด
 


แร็งส์!! ไม่หยุดฉุดไม่อยู่ซะแล้ว สำหรับวงร็อคหัวมัน “โปเตโต้” เพราะไม่ว่าจะปล่อยซิงเกิ้ลจากอัลบั้มใหม่ออกมากี่เพลง ก็ต้องพุ่งทะยานเป็นเพลงฮิตติดชาร์ตของคลื่นวิทยุทั่วประเทศ ล่าสุดความ “ซ่า” ของ 3 หนุ่ม “ปั๊ป, โอม, กานต์” ยังไปเข้าตาเครื่องดื่มขวัญใจวัยรุ่นอย่าง “โค้ก” จีบมาเป็น “แบรนด์ แอมบาสเดอร์” ล่าสุด หลังจากที่เคยร่วมงานกับโค้กมาเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว สมัยที่ตั้งวงใหม่ๆ โดยครั้งนี้โปเตโต้จะทำหน้าที่ชวนวัยรุ่นมาระเบิดพลังเดินหน้าซ่าให้สุดอย่างสร้างสรรค์ ประเดิมโชว์ความซ่าในภาพยนตร์โฆษณา “อยู่ให้สุดเกมส์ ซ่าให้สุดทาง”

“ปั๊ป” นักร้องนำ เป็นตัวแทนเพื่อนๆ เปิดเผยถึงการได้รับเลือกเป็นแบรนด์ แอมบาสเดอร์ของโค้กว่า “ดีใจมากครับ ที่ได้กลับมาร่วมงานกับโค้กอีกครั้ง โดยพวกเราจะทำหน้าที่ชักชวนวัยรุ่นมาระเบิดพลังเดินหน้าซ่าให้สุดกันตลอดปีนี้ โดยจะเริ่มประเดิมชวนทุกคนมาเติมพลังซ่าสดชื่นด้วยภาพยนตร์โฆษณา “อยู่ให้สุดเกมส์ ซ่าให้สุดทาง” เรื่องราวของเกมส์แข่งขันฟุตบอล ที่ผู้เล่นได้โค้กมาดับกระหาย เลยมีกลับมามีพลังพร้อมสู้อีกครั้ง ซึ่งนอกจากเราทั้ง 3 คน จะร่วมแสดงในโฆษณาชุดนี้แล้ว ยังนำเพลง “วัดใจ” ของซิลลี่ฟูล มาเรียบเรียงใหม่ ให้เป็นแบบฉบับของโปเตโต้ เพื่อใช้ประกอบโฆษณานี้ด้วย รับรองว่าจะต้องถูกใจแฟนๆ แน่นอน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสุดพิเศษต่างๆ ทั้งด้านดนตรี และกีฬา ที่พวกเราจะทำร่วมกับโค้ก และ 4 หนุ่มสุดแนว “เดอะ ริชแมน ทอย” ทูตดนตรีปัจจุบันของโค้ก ไว้รอเพื่อนๆ อยู่อีกเพียบ ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันให้ดี รับรองว่ามีเซอร์ไพรส์สุดซ่ารอทุกคนอยู่แน่นอน”

ติดตามภาพยนตร์โฆษณาชุด “อยู่ให้สุดเกมส์ ซ่าให้สุดทาง” ได้แล้ววันนี้ ทางสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง พร้อมติดตามความเคลื่อนไหวของหลากหลายกิจกรรมสุดซ่าของ “โปเตโต้” ในฐานะแบรนด์ แอมบาสเดอร์ ล่าสุดของโค้ก ได้ทาง www.icoke.co.th และ www.facebook.com/cokethailand 

507
ข่าวบันเทิง / Crank High Voltage
« on: June 08, 2011, 07:03:47 PM »
Crank High Voltage


 
          เริ่มต้นก็บ้าระห่ำ เชฟ เชลิออส (เจสัน สเตแธม) ดิ่งจากเฮลิคอปเตอร์ลงมานอนแน่นิ่งใจกลางกรุงลอสแองเจลิส ร่างที่ยับเยินของเขาก็ถูกยัดใส่ท้ายรถตู้ มันจึงกลับเป็นจุดเริ่มต้นของความดุเดือดครั้งใหม่ที่ปะทะขึ้น เมื่อแก๊งอาชญากรชาวจีนได้ปล้นหัวใจพันธุ์อึดไปจากอกของมือปืนดิบเถื่อน แล้วแทนมันด้วยหัวใจเทียมด้วยความที่อยากได้หัวใจจริงๆคืนมาพร้อมกับชำระแค้นหัวขโมยให้สาสม เชฟ เชลิออส จึงไล่ล่าและชนทุกอย่างที่ขวางหน้า ใครขวางมันต้องแหลก ติดตามชมความบ้าระห่ำในแบบนันสต๊อปแอ็คชั่นได้แล้ววันนี้ในรูปแบบดีวีดีที่แมงป่องทุกสาขา


508
X-MEN: FIRST CLASS (เอ็กซ์-เม็น: รุ่นหนึ่ง) – คำถามและคำตอบ อเล็กซ์ กอนซาเลซ

          นักแสดงทางทีวีและภาพยนตร์ชาวสเปนอย่าง อเล็กซ์ กอนซาเลซ แสดงภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่องแรกด้วยบทนำในภาพยนตร์เรื่อง X-MEN: FIRST CLASS (เอ็กซ์-เม็น: รุ่นหนึ่ง) ให้การสัมภาษณ์ด้วยภาษาอังกฤษในฉากของภาพยนตร์ กอนซาเลซมาแชร์เรื่องราวประสบการณ์ในฐานะนักแสดงของภาพยนตร์แฟรนไชส์เรื่อง X-MEN รุ่นใหม่

          รู้สึกตื่นเต้นแค่ไหนที่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโลก X-MEN?
          ตื่นเต้นมาก นักสแดงทุกคนที่กำลังเริ่มเส้นทางอาชีพ มันถือเป็นความแตกต่างที่ได้แสดงภาพยนตร์แบบนี้ แต่สำหรับนักแสดงชาวสเปน มันค่อนข้างยากอยู่เล็กน้อย โดยเฉพาะนักแสดงชาวสเปนที่มีระดับทักษะภาษาอังกฤษแบบผม!

          แต่ผมรู้สึกตื่นเต้นมากเพราะผมเป็นคนหนึ่งที่คลั่งไคล้ X-MEN และมีความสุขมากที่ได้อยู่ตรงนี้ วันนี้ผมได้ดูการฝึกซ้อมและบางทีผมรู้สึกว่าผมเป็นคนนอก ผมต้องพูดว่า “ไม่เอาน่า ผมอยู่ตรงนี้นะ ผมกำลังแสดงอยู่ ผมไม่ใช่ผู้ชม ผมมีส่วนร่วมด้วยไม่ใช่คนนอก” มันวิเศษจริงๆ

          คุณรู้จัก X-MEN ได้อย่างไร?
          ต้องบอกตามตรงเลยว่าผมไม่ได้อ่านหนังสือการ์ตูนมามากมาย แต่แนนอนว่าผมดูหนังทุกเรื่องมา 2-3 รอบแล้ว ผมเป็นแฟนตัวยงของ X-MEN เลย

          ช่วยเล่าถึงบทบาทของคุณให้ฟังหน่อย
          ตัวละครของผมคือริพไทด์ ริพไทด์ไม่ใช่ตัวร้ายที่มีชื่อเสียงมากมาย แต่ในช่วงแรกเขาเริ่มร่วมมือกับ มิสเตอร์ซินิสเตอร์ ในหนังเขาไม่ได้มีความสัมพันธ์ใดกับมิสเตอร์ซินิสเตอร์เลย ฉะนั้นมันจะไม่เหมือนกับในหนังสือการ์ตูน

          เขาร่วมมือกับเซบาสเตียน ชอว์ รับบทแสดงโดย เควิน เบคอน โดยทั่วไปแล้วเขาสามารถควบคุมกระแสลมได้ เขาสามารถเหวี่ยงกระแสลมได้ด้วยมือของเขา แต่เวลาที่เขาโกรธ เขาสร้างทอร์นาโดขึ้นมารอบตัวเขาได้เลย

          มันสนุกดีนะ แต่ในความเป็นจริงค่อนข้างยากเหมือนกัน ผมต้องเอาตัวเองไปอยู่ในรถเทรลเลอร์ที่กำลังหมุนอยู่ ซึ่งหมุนเร็วมาก ช่วง 15 นาทีแรกมันสนุกดี แต่หลังจากนั้นค่อนข้างอันตรายต่อคนอื่นแล้ว พวกเขาต้องถือร่มเอาไว้ เพราะผมรู้สึกเหมือนผมถูกเหวี่ยงขึ้นไปในทุกวินาที! มันไม่สบายได้ง่ายๆ เลยนะ

          ตัวละครมาจากที่ไหน?
          เขาเป็นชาวแม็กซิกัน มีชื่อว่า จานอส เควสเต็ด ถือเป็นความโชคดีที่ตอนเขากำลังสร้างตัวละครขึ้นมา ผู้เขียน X-MEN เลือกว่าเขาเป็นชาวแม็กซิกัน โชคดีสำหรับผม เพราะผมอยู่ตรงนี้แล้วไง!

          ตัวละครของคุณมีการโมโหบ่อยมั้ย?
          ใช่ เขาเป็นตัวอันตรายมาก แต่รู้มั้ยในทางตรงกันข้ามเขามีความเคารพและอ่อนน้อมมาก สำหรับผมแล้วเขาเหมือนกับทอร์นาโด เวลาที่เราเห็นทอร์นาโดจากที่ไกล มันดูนิ่งสงบ สิ่งเดียวที่เราเห็นคือลักษณะที่เหมือนท่อ แต่เมื่อมันเข้ามาใกล้แล้ว มันอันตรายมากเลย

          ภายในตัวริพไทด์ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและมีความหุนหันมาก เขาดูเหมือนอยู่ภายใต้การควบคุม แต่พอถึงเวลาที่มิสเตอร์ชอว์ส่งสัญญาณให้ผม ผมก็ระเบิดมันออกมาเลย เพราะผมเฝ้ารอท่ะทำให้ทุกคนเห็นอยู่แล้ว เขาค่อนข้างเห็นแก่ตัวและตอนนั้นเขาคือทอร์นาโด เขาสนุกกับมันทุกครั้ง

          พวกเรารู้สึกเจ็บปวดกับพรสวรรค์ของเราอยู่นิดๆ ตอนนี้พวกเขารู้สึกค่อนข้างอายที่เป็นมนุษย์กลายพันธุ์ แต่ผมคิดว่าทุกคนสามารถแยกแยะในหนังเรื่องนี้ได้ เพราะในบางมุมชีวิตพวกเราทุกคนรู้สึกค่อนข้างอ้างว้าง จากนั้นเราจึงค้นหาตัวเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่งดงาม

          สนุกมั้ยที่ได้เล่นเป็นตัวร้าย?
          สนุกครับ เพราะที่สเปนผมได้รับโอกาสให้แสดงเป็นคนดีทุกบทบาทเลย บางทีอาจเป็นเพราะหน้าตาของผม เพราะทุกคนบอกว่าหน้าตาผมเหมือนคนดี ผมไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ผู้กำกับเหมือนจะคิดแบบนั้น! สนุมากที่ได้เล่นเป็นตัวร้ายและมันเป็นการท้าทายความสามารถสำหรับผม มันเป็นโอกาสดีที่ได้แสดงอะไรที่แตกต่าง

          นี่คือทีมนักแสดงขนาดใหญ่ คุณสนุกกับการร่วมงานกับพวกเขามั้ย?
          แน่นอน ไม่ใช่แค่ประเด็นที่ผมกำลังแสดงเรื่อง X-MEN ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่าสำหรับผมมากเท่านั้น แต่เป็นเพราะผมได้อยู่ที่ลอนดอนและพัฒนาภาษาอังกฤษของผม แม้ว่าที่สเปนผมเคยแสดงหนังมาหลายเรื่องแล้ว ผมก็ยังรู้สึกเหมือนได้แสดงหนังเรื่องแรกอีกครั้ง และตอนนี้เป็นการสัมภาษณ์ครั้งแรกของผม

          ผมมีความรู้สึกว่าทุกอย่างกำลังเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งในฐานะนักแสดง เพราะทุกอย่างมีความแตกต่างออกไป มีผู้คน 500 คนในกอง ทุกอย่างแตกต่างไปมากจริงๆ ทุกอย่างมีความยิ่งใหญ่มาก ทุกอย่างเป็นภาษาอังกฤษซึ่งเป็นเรื่องใหญ่สำหรับผม! ผมรู้สึกโชคดีมากที่ได้มาอยู่ที่นี่

          ทุกคนที่สเปนบอกผมว่า “ว้าว คุณกำลังแสดงเรื่อง X-MEN เส้นทางอาชีพของคุณกำลังจะเปลี่ยนไปแล้ว” แต่ผมไม่ได้คิดแบบนั้น ผมหวังแบบนั้นนะแต่ผมไม่อยากคิดว่าจะมีผลลัพธ์แบบนั้น ผมแค่อยากคิดถึงขั้นตอนการทำงาน เพราะขั้นตอนมีความสนุกสนานมาก และบางทีเรื่องการแสดงหนังของผมจะเป็นเรื่องราวที่ผมบอกหลานๆ ผมจะบอกว่า “เมื่อ 50 ปีที่แล้วปู่ของหลานได้แสดงหนังเรื่อง X-MEN ที่ฮอลลีวูดด้วยนะ” หรือบางทีอาจไม่ใช่แบบนั้น แต่ไม่อยากคิดถึงมัน สิ่งเดียวที่ผมอยากทำคืออยู่กับเวลานี้ ที่นี่ ตอนนี้ มันเป็นสิ่งที่วิเศษมากๆ

          คุณได้รับบทบาทได้อย่างไร?
          ตอนนั้นผมกำลังเรียนภาษาอังกฤษที่ประเทศอังกฤษ ผมอยู่ที่นั่น 2 อาทิตย์ช่วงเดือนสิงหาคม ผู้จัดการผมโทรมาบอกว่าผมต้องไปลอนดอนเพื่อออดิชั่นเรื่อง X-MEN มันเป็นการออดิชั่นด้วยภาษาอังกฤษเป็นครั้งแรก ซึ่งผมแทบไม่อยากเชื่อเลย แต่ก็ตอบ “โอเค” ผมจึงมาที่นี่เพื่อทำการออดิชั่น หลังจากนั้น 10 วันผมลืมเรื่องนั้นไปสนิทเลย จริงๆ แล้วผมกำลังถ่ายรูปลงแม็กกาซีนที่สเปน และพบว่าผมต้องไปสนามบินทันทีเพื่อพบกับแมทธิว ซึ่งเป็นผู้กำกับ

          ผมถามว่า “แมทธิวเป็นใคร?” เธอตอบผมว่า “ผู้กำกับเรื่อง X-MEN” หลังจากนั้น 2 ชั่วโมงผมได้มาอยู่ที่ Pinewood เพื่อพูดคุยกับแมทธิว และเมื่อ 2-3 เดือนที่แล้ว ภาษาอังกฤษของผมยังแย่ยิ่งกว่าตอนนี้ สำหรับผมแล้วมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะพูดอะไรสักอย่าง เขามีความอดทนกับผม และเราพูดคุยกันอยู่ประมาณ 15 นาที

          ผู้กำกับการคัดเลือกนักแสดงบอกว่า “กลับบ้านได้แล้ว เราอาจได้พบกันวันศุกร์หน้า” ผมตอบว่า “ได้ครับ มันคงจะดีมาก!” และเธอบอกว่า “ไม่ คุณไม่เข้าใจฉัน คุณต้องไปเก็บกระเป๋าและมาที่นี่ในวันศุกร์หน้า เพราะคุณต้องอยู่ที่นี่ 4 เดือนและต้องแสดงเป็นริพไทด์” ผมไม่อยากเชื่อเลย!

          ในช่วง 2-3 วันผมต้องเก็บกระเป๋าและเดินทางมาที่นี่ อันที่จริงวันนี้ผมกำลังคิดถึงมอเตอร์ไซค์ รถและบ้านของผมที่สเปน เพราะผมคิดได้ว่า “โอ้ ผมทิ้งมอเตอร์ไซค์ไว้นอกบ้าน!” บางทีพอผมกลับไปอาจมีใครขโมยมันไปแล้ว!

          คุณกำลังจะเดินทางไปที่จอร์เจียเพื่อแสดงฉากสุดท้ายใช่มั้ย?
          ใช่ เราจะไปวันศุกร์หน้า มันต้องสนุกแน่เลย เพราะพวกเราทุกคนต้องมีอะไรเล็กๆ น้อยๆ แสดงบนชายหาด ประมาณ 15 หน้าของบทภาพยนตร์ ฉะนั้นมันเป็นฉากใหญ่ แต่มันต้องสนุกแน่เลย

509
X-MEN: FIRST CLASS (เอ็กซ์-เม็น: รุ่นหนึ่ง) – คำถามและคำตอบ เจน โกล์ดแมน

          เจน โกล์ดแมน เป็นนักข่าว ผู้กระจายเสียงทางวิทยุหรือโทรทัศน์ และนักเขียนผู้ประสบความสำเร็จ เจน โกล์ดแมนพลิกความสนใจสู่ด้านการเขียนบทภาพยนตร์ในปี 2007 ตามมาด้วยการพบแมทธิว วอนก์ ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง STARDUST ด้วยการจัดการของเพื่อนทั้งสองฝ่าย ผู้เป็นนักเขียนหนังสืออย่าง นีล ไกแมน

          ภาพยนตร์เรื่อง X-MEN: FIRST CLASS (เอ็กซ์-เม็น: รุ่นหนึ่ง) เป็นการร่วมงานเขียนของทั้งคู่เป็นครั้งที่ 4 หลังภาพยนตร์ของวอนก์เรื่อง STARDUST และ KICK-ASS รวมถึงภาพยนตร์ที่กำกับโดยจอห์น แมดเด็น เรื่อง THE DEBT

          ระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์ในลอนดอนที่ Pinewood Studios โกล์ดแมนนั่งลงเพื่อพูดคุยถึงหน้าที่ของเธอในโลกของ X-MEN

          คุณเข้ามามีส่วนร่วมในภาพยนตร์เรื่อง X-MEN: FIRST CLASS (เอ็กซ์-เม็น: รุ่นหนึ่ง) ได้อย่างไร?
          แมทธิวคุยกับ Fox ถึงความเป็นไปได้ในการกำกับเรื่องนี้ เมื่อเขาเดินหน้าตอบตกลง มันเป็นช่วงที่ร่างภาพยนตร์ที่เขามีอยู่ตอนนั้นยังไม่ได้รับการอนุมัติ พวกเขาดีใจที่แมทธิวจะรับหน้าที่ขุดค้นทิศทางที่แตกต่างในหนัง เขาได้ตัวฉันมาอยู่ในฉากเพื่อจัดการเรื่องนั้นร่วมกับเขา

          มิตรภาพกับแมทธิวที่ตอนนี้กลายเป็นการอ่านบทเก่าถึง 4 บทด้วยกัน ซึ่งลุล่วงไปได้สวยในขั้นปฏิบัติมั้ย?
          มันกลายเป็นมิตรภาพแบบเพื่อน เราทำงานร่วมกันอย่างสนุกสนานและเรารู้สึกสบายใจในการทำงานร่วมกันมาก เราบรรลุจุดประสงค์ในวิธีที่แตกต่างกัน แต่ลงล็อคเข้ากันดีในแง่ของการเอื้อเฟื้อหรือแบ่งปันสิ่งที่เราสามารถให้ได้ และแน่นอนว่ามันยิ่งสบายใจมากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่วิเศษ

          แมทธิวลงมือจัดการทุกสิ่งทุกอย่างจากมุมมองการกำกับหนัง เขามีมุมมองหนังอยู่ในความคิดของเขา ส่วนของฉันจะแตกต่างไปจากเขา แมทธิวมีโครงร่างที่ชัดเจนมาก ในด้านความคิดของฉากและความคิดของฉากแอ็คชั่น ซึ่งเป็นสิ่งที่เราทำด้วยกันทั้งคู่ ส่วนในด้านของบทภาพยนตร์และการพัฒนาตัวละคร ฉันเดาว่านั่นเป็นหน้าที่ของฉันมากกว่า

          แต่ก็มีจุดที่ขัดแย้งกันหลายอย่างและนั่นไม่เคยเหมือนกันเลย หากแมทธิวแนะนำบทภาพยนตร์บางตอนขึ้นมา ฉันก็จะพูดว่า “เอ่อ ขอโทษนะ นั่นมันหน้าที่ฉัน” มันมีความเหมาะสมมากโดยที่เราไม่ต้องวิเคราะห์มันเลย

          คุณเป็นแฟนหนังสือการ์ตูน ฉะนั้นมันรู้สึกอย่างไร ที่มีโอกาสได้แสดงในจักรวาลอันกว้างขวางบนโลกของ X-MEN?
          มันเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก แน่นอนว่าฉันเป็นแฟนหนังสือการ์ตูนของ X-MEN แต่เพราะว่าพวกเขามีการตอกย้ำอยู่หลายครั้ง โดยเฉพาะในช่วงหลายปีนี้ ถือเป็นเรื่องดีที่มีโอกาสย้อนกลับไปหาต้นฉบับแรกจากจุดเริ่มต้น โชคดีที่เรามีต้นฉบับทั้งหมดอยู่ในบ้านขอเรา เพราะมันคือของสะสมอย่างหนึ่งของสามีฉัน! ฉันอยู่ภายใต้คำแนะนำอย่างเคร่งครัดว่ามือของฉันต้องสะอาดตลอดเวลา และเราก็จะเห็นถุงใส่อาหารทุกๆ ที่! แต่มันเป็นความน่าหลงใหลจริงๆ ที่ได้ย้อนกลับไป และฉันอยากมั่นว่าฉันมีการเชื่อมโยงถึงมัน

          สิ่งที่แมทธิวและฉันต่างรู้สึกในฐานะของแฟนหนังสือการ์ตูน คือเมื่อมีนักเขียนหรือศิลปินหน้าใหม่เข้ามาอยู่ในซีรี่ส์ใด ต้องเคารพในสิ่งที่เคยมีมาก่อนเสมอ แต่ก็มีอิสระในการค้นหาแง่มุมอื่นๆ ในส่วนของการยึดติดหลักการมันมีความคลาดเคลื่อนจากหนังสือการ์ตูนมาโดยตลอด ฉันเลยคิดว่าจริงๆ แล้วมัน็ดีที่จะมีระดับความเป็นอิสระ ขณะที่ยังคงเคารพในความเป็นมาของมันด้วย

          ฉากร่วมสมัยดูเหมือนเป็นการทำให้นึกถึงมัลคอล์ม เอ็กซ์ / มาร์ติน ลูเธอร์ คิง ที่เป็นการเปลี่ยนแปลงระหว่างแม็กนีโตและโพรเฟสเซอร์ เอ็กซ์
          แน่นอน ฉันไม่รู้ว่าแรกเริ่มไบรอัน ซิงเกอร์ มีไอเดียของฉากแนวพีเรียดได้อย่างไร แต่ที่แน่ๆ มันเป็นส่วนหนึ่งในความสัมพันธ์ของพวกเขา แถมมันยังเกี่ยวกับการมองผู้คนในช่วงเวลาของชีวิตพวกเขา เมื่อความคิดของพวกเขาเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา และประสบการณ์ที่จะนำพาเราสู่เส้นทางที่เราถูกนำไปสู่อุดมการณ์ของเรา สิ่งที่เกิดขึ้นกับเรากำหนดเส้นทางและวิธีการปฏิบัติต่อผู้อื่น อันที่จริงความคิดนั้นไม่ใช่ถูกหรือผิดอย่างสิ้นเชิง และอันที่จริงการมองจุดที่พวกเขาตัดขวางกันเป็นเรื่องที่น่าหลงใหลมาก นั่นคือสิ่งที่ฉันชอบมากในเรื่อง

          ปฏิกิริยาระหว่างตัวละคร 2 ตัวและสิ่งที่อยู่ข้างเคียงเป็นอย่างไรบ้าง?
          เซบาสเตียน ชอว์ เป็นคนที่ชั่วร้ายมาก แต่ในด้านของเหล่า X-Men มันเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก เพราะยังไม่มีฝ่ายพันธมิตรในช่วงแรกเริ่ม จากนั้นเมื่อมีการพัฒนาขึ้น เราจะได้เห็นทิศทางที่เด็กวัยรุ่นต่างเดินไปข้างหน้า นั่นเป็นเรื่องดีที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความดีที่บริสุทธิ์หรือความเลว

          ในด้านหนึ่ง ด้านชั่วร้ายอย่างที่นึกเอาไว้เป็นสิ่งที่ค่อนข้างสมเหตุสมผล นั่นเป็นสิ่งที่น่าสนใจ เพราะส่วนหนึ่งแล้วมันคือชีวิตจริง ใช่มั้ย? ฉันว่าเควิน เบคอน แสดงได้เลวบริสุทธิ์ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือเราจะเห็นด้านมืดขององค์ประกอบที่เซบาสเตียน ชอว์ ยืนหยัดเพื่อสิ่งที่เขาให้ความสนใจอย่างแท้จริงอยู่ในตัวแม็กนีโต แต่ก็มีองค์ประกอบของสิ่งที่ชาร์ลส์ให้ความสนใจอย่างแท้จริง มันน่าสนุกที่ได้เห็นสิ่งที่ตัวละครตัดสินใจเลือกที่จะเผชิญหน้ากับมั

          คุณสร้างให้ชาณืลส์ ซาเวียร์ เป็นสัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์ เป็นตัวละครที่มีปมอย่างไร?
          ด้วยการร่วมมือกับเจมส์ นั่นเป็นการท้าทายความสามารถของเรามาก กรค้นหาปมในตัวซาเวียร์และทำให้เขาเหมือนมนุษย์หรือเป็นตัวละครที่มีความซับซ้อน ฉันคิดว่าเราจะเห็นได้ชัดเจนว่าเขามีความคิดเหมือนพระเจ้าที่ ความปรารถนาเบื้องลึกของเขาคือการควบคุมทุกน หากเรานำมาปรับใช้ในชีวิตจริง มันไม่ง่ายเลยที่จะดำเนินชีวิตไปด้วยความคิดแบบนั้น ความปรารถนาเบื้องลึกในการเปลี่ยนแปลงผู้คนและหลอมพวกเขาให้เป็นแบบความคิดของเราในสิ่งที่ถูกต้องเหมาะสมจะก่อให้เกิดความขัดแย้งขึ้นมา

          เขาค่อนข้างเหมือนกับโยดาที่อยู่เหนืออารมณ์ และมันน่าสนุกจริงๆ ที่ได้ลองหาระดับตัวละครของเขา ซึ่งเจมส์มีส่วนช่วยได้เป็นอย่างดีตอนที่เขาร่วมลงมือในช่วงแรก เราเขียนบทขึ้นมาใหม่โดยอิงจากการพูดคุยกับเจมส์ เพื่อค้นหาขอบข่ายที่ไกลออกไป เขามีการรับมือได้อย่างดีในตัว เขามีความฉลาดมาก

          คุณแก้ปัญหากับขอบเขตนักแสดงที่จะมาเป็นเหล่ามนุษย์กลายพันธุ์อย่างไร? นั่นเป็นการเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับเรื่องราวหรือคุณใส่ความชอบของตัวเองลงไปในหนัง?

          บอกตามตรงว่าทั้งสองอย่าง ฉันคิดว่ามันมีบางอย่างที่ทำให้เป็นตัวละครที่น่าสนใจอย่างเห็นได้ชัด บางอย่างมีความสมบูรณ์ต่อเรื่องราว และมีบางกรณีหรืออาจเป็นกรณีเดียวที่เขามีพลังวิเศษจนเราต้องมีเขามาอยู่ในเรื่อง!

          Fox มีความสบายใจกับคนที่เรานำมาแสดง นักแสดงหลักของเรื่องเป็นตัวละครที่เรามีความคาดหวังสูง แต่นักแสดงคนอื่นเราสามารถเพิ่มเติมได้ เพราะพวกเขาเป็นตัวละครที่ได้รับความสนใจและมีพลังวิเศษ ความเป็นไปได้ทำให้เรารู้สึกมีความยินดี

          ซึ่งแน่นอนว่าตัวละครต้องมีพัฒนาการไปด้วย ไม่ใช่แค่จับเขามาใส่ในเรื่องอย่างไร้แบบแผน ฉันหวังว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจในเรื่องการตัดสินใจของพวกเขา

          และการมีตัวละคร 2-3 ตัวที่เรารู้จักมาบ้างก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะเราสามารถเข้าถึงพวกเขาได้ พวกเขามาอยู่ในเรื่องราวเป็นครั้งแรกและเป็นผู้ร่วมรู้เห็นกับตัวละครทั้งสองในการก่อตั้งอุดมการณ์ของพวกเขา มันเป็นการตัดสินใจที่ตัวละครไม่รู้เรื่องอะไรในสิ่งที่ทำ ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงมุมมองที่แปลกใหม่ของเรื่องราว

          คุณมีความคิดมั้ยว่ามันจะเป็นอย่างไรต่อไปจากนี้?
          บอกตามตรงว่าเรายังไม่ได้คิดถึงภาคต่อไป มันไม่ใช่เรื่องที่เรามีการพูดถึงกันเลยจริงๆ มันไม่มีวี่แววของการสร้างภาพนี้เพื่อภาคต่อไป ฉันคิดว่ามันเป็นการเสี่ยงเสมอที่จะทำแบบนั้น เราควรสนใจกับการสร้างเรื่องราวที่เราบอกเล่าให้ถูกต้องเหมาะสมจะดีกว่า

510
X-MEN: FIRST CLASS (เอ็กซ์-เม็น: รุ่นหนึ่ง) – คำถามและคำตอบ ไมเคิล แฟสเบ็นเดอร์

          ไมเคิล แฟสเบ็นเดอร์ เป็นนักแสดงชาวไอริชเกิดที่เยอรมัน รับบทนำเป็นครั้งแรกในภาพยนตร์ที่อำนวยการสร้างโดยสตีเฟ่น สปีลเบิร์ก เรื่อง BAND OF BROTHERS เมื่อปี 2001 ภาพยนตร์ซีรี่ส์ที่แสดงร่วมกับเพื่อนร่วมนักแสดงในภาพยนตร์เรื่อง X-MEN: FIRST CLASS (เอ็กซ์-เม็น: รุ่นหนึ่ง) อย่างเจมส์ แม็คอวอย

          เขาเป็นที่รู้จักดีสำหรับผู้ชมทั่วโลกจากบทบาทในมหากาพย์ภาพยนตร์เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2 ผลงานของเคว็นติน ตารานติโน่ เรื่อง INGLOURIOUS BASTERDS โดยรับบทเป็นคนงานชาวอังกฤษและนักวิจารณ์ภาพยนตร์ นายร้อย อาร์ชี่ ไฮค็อกซ์ และในภาพยนตร์สไตล์แอ็คชั่นของแซ็ค สไนเดอร์ เรื่อง 300

          เขาได้รับคำชมจากเหล่านักวิจารณ์สำหรับบทบาทของเขาในภาพยนตร์ของผู้กำกับ สตีฟ แม็คควีน ในปี 2008 เรื่อง HUNGER ที่สร้างขึ้นจากความต้องการหยุดงานประท้วงของผู้ต้องหาชาวไอริชอย่าง บ็อบบี้ แซนด์ส ซึ่งเขารับบทแสดงนำ แฟสเบ็นเดอร์กวาดรางวัล British Independent Film Award สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม บทบาทที่เลื่องชื่อในภาพยนตร์เรื่องอื่น ได้แก่ FISH TANK, EDEN LAKE and JONAH HEX

          แฟสเบ็นเดอร์ร่วมกับเหล่านักแสดงเรื่อง X-MEN: FIRST CLASS (เอ็กซ์-เม็น: รุ่นหนึ่ง) โดยรับบทเป็น เอริค เลห์นเชอร์/แม็กนีโต บทบาทที่ถูกสร้างให้มีชื่อเสียงขึ้นมาโดย เซอร์ เอียน แม็คเคลเล็น ในภาพยนตร์ซีรี่ส์เรื่อง X-MEN สามภาคแรก แฟสเบ็นเดอร์พูดคุยถึงบทบาทของเขาในฉากของภาพยนตร์ที่ลอนดอน

          ภาพยนตร์เรื่อง X-Men เข้ามาหาคุณได้อย่างไร?
          แมทธิว วอนก์ บอกว่าเขาเห็นผมออดิชั่นในภาพยนตร์เรื่องอื่นของเขา จากนั้นคิดว่าผมเหมาะสมกับเรื่องนี้ ผมเลยคุยกับเขาทางโทรศัพท์ พวกเขาส่งบทภาพยนตร์มาให้ซึ่งเป็นความลับสุดยอด มีคนมาพร้อมกับบท รอเราอ่านบท 2-3 ชั่วโมงจากนั้นก็กลับไป ผมเลยได้อ่านและชอบมันมาก ผมเดินทางมาเทสต์หน้ากล้องที่นี่และพยายามทำให้ผู้อำนวยการสร้างมั่นใจ มันเริ่มต้นจากจุดนั้นจริงๆ

          เห็นได้ชัดว่าแม็กนีโตมีความโดดเด่นขึ้นมาในภาพยนตร์เรื่อง X-MEN สามภาคแรกโดย เซอร์ เอียน แม็คเคลเล็น คุณยึดหลักการแสดงมาจากเขาหรือเปล่า?
          ผมดูหนังและได้รับกลิ่นไอของหนัง ผมชอบสิ่งที่เขาแสดงมาก แต่ผมตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะวาดลวดลายใหม่ แน่นอนว่าเราอยากเคารพสิ่งที่คนอื่นเคยแสดงเอาไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ฐานแฟนๆ คลั่งไคล้และยอมรับสิ่งที่เขาเคยแสดงเอาไว้ เขาเป็นนักแสดงที่มีฝีมือ ผมสามารถไปเรียนรู้จากเขาได้ในฐานะเด็กคนหนึ่งและหยิบมันมาใส่ในการแสดงได้ แต่ผมไม่คิดว่าแมทธิวจะรู้สึกดีกับแบบนั้นมากนัก และยิ่งเขาบอกว่าเขาไม่มีปฏิกิริยาต่อสิ่งนั้น ผมคิดว่าเอาล่ะ ผมจะลืมทุกสิ่งทุกอย่างและแสดงไปในแบบของตัวเอง ผมเลยแสดงทุกอย่างที่อยู่ในหนังสือการ์ตูนและบทภาพยนตร์ขึ้นมา

          คุณแสดงแม็กนีโตที่เป็นคนดีใช่มั้ย?
          ผมไม่ได้คิดในถึงเรื่องดีหรือเลว ผมคิดถึงในส่วนของสิ่งที่เขาต้องการและเขาเป็นมีแรงกระตุ้นขนาดไหน รวมถึงลักษณะแนวปฏิบัติที่เขามีในจุดนั้น

          ผมมองว่าเขาเป็นตัวละครที่มีเล่ห์เหลี่ยมมาก นั่นเป็นคำอธิบายในท้ายที่สุด และเขาอยู่ในสถานการร์ที่เขาเหมาะสมแล้วจริงๆ เหมือนกับมนุษย์เผชิญหน้ากับมนุษย์ยุคหิน และเหล่ามนุษย์กลายพันธุ์คือเวอร์ชั่นใหม่ ทุกอย่างที่เขาพูดเป็นสิ่งที่ถูกต้อง

          ประวัติความเป็นมาของมนุษยชาติ คือพวกเราทำลายทุกอย่างไปค่อนข้างมาก ซึ่งรวมถึงตัวเองด้วย เขากล่าวว่านั่นเป็นการทำลายโดยธรรมชาติและเป็นการทำลายเผ่าพันธุ์ตัวเอง มุนษย์กลายพันธุ์คือสิ่งที่รุดหน้า มันรู้สึกได้ถึงสิ่งที่เขากำลังพูดถึง

          คุณสังเกตจากหนังสือการ์ตูนเพื่อให้คำนิยามต่อแม็กนีโตหรือเปล่า?
          ในหนังมีการดึงภูมิหลังของแม็กนีโตมาหลายอย่าง และสิ่งที่น่าสนใจมากคือเขาแต่งงานกับสาวยิปซีที่เขาพบในค่ายกักกัน พวกเขามีลูกด้วยกัน และเขาพยายามใช้ชีวิตแบบมนุษย์ปกติ แต่ความคิดของคนที่บ้าคลั่งกลับมาคุ้มคลั่งอีกครั้ง สุดท้ายลูกชายของเขาถูกเผาทั้งเป็น เขาฆ่าทุกคน และภรรยาได้ทิ้งเขาไป เขาไม่ศรัทธาในความเป็นมนุษย์อีกต่อไป ผมคิดว่านั่นคือสาเหตุของเรื่องนั้น ผมมั่นใจนะ เราไม่ได้สัมผัสกับเรื่องภรรยาและลูกมากนัก แต่นั่นคือสิ่งที่ผมมีอยู่ในจิตใต้สำนึกมาโดยตลอด เขาต้องทำสิ่งนี้ เขาต้องมีการแก้แค้นชอว์

          เควิน เบคอน หยิบอะไรมาใส่ในบทของ ชอว์ บ้าง?
          กล่าวอีกครั้งหนึ่งว่าผมคิดว่าเราคาดหวังกับคนที่เป็นนักแสดง ที่ค้นหาความถูกต้องในสิ่งที่เขาทำเกือบทุกอย่าง และประสบการณ์ที่โชกโชนจากภาพยนตร์ประมาณ 70 เรื่องที่เขาแสดง มันเป็นเรื่องวิเศษที่ได้เห็นคนที่ยังอยู่ในวงการมาเป็นเวลานาน เป็นเรื่องที่ดีมาก เขาแค่ต้องการให้งานสำเร็จเสร็จสิ้น เขาเป็นคนพูดจาว่าง่าย เขาพยายามหาความถูกต้องในทุกฉาก เพราะประเด็นที่ว่านั่นคือโลกแห่งจินตนาการ แต่เราต้องการความหลอน สิ่งที่จับต้องไม่ได้ ให้สองสิ่งนี้ยังคงอยู่อย่างมั่นคงได้มากเท่าที่ทำได้ ทุกอย่างควรดูเหมาะสมน่าพอใจ ทุกอย่างในเรื่องเกิดขึ้นเพื่อเหตุผลบางอย่าง องค์ประกอบที่ดีที่สุดไม่ได้อยู่ที่นั่นเพื่อเป็นเพียงสิ่งที่เข้ามาเติมเต็ม ทุกอย่างอยู่ที่นั่นเพื่อขับเคลื่อนสิ่งต่อไปและอาจเชื่อมโยงกับอีก 3 ฉากถัดมา ซึ่งพบสิ่งเหล่านั้นได้ในฉากเดียว

          คุณสนุกกับฉากของยุค 60 หรือเปล่า?
          มันยอดเยี่ยมเลย เวลาที่เราทำงานอะไรสกอย่างที่มีขนาดใหญ่แบบนี้ องค์ประกอบทุกอย่างที่อยู่ในนั้นมีความสำคัญและยิ่งใหญ่ในการมองผ่านเมื่อเราทำงาน เราสร้างสนามบิน Buenos Aires ขึ้นที่ลอนดอนและมันวิเศษมาก ความงดงามคือมันถูกจุดประกายขึ้นมา และวิธีการถ่ายทำของแมทธิวมันได้อารมณ์ถึงยุค 60 จริงๆ เราได้บรรยากาศของยุค 60 และรวมถึงเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายด้วยแน่นอน มันเป็นเรื่องยอดเยี่ยมที่ลงลึกไปถึงยุคนั้นจริงๆ และนำมันมาสู่โลกของซูเปอร์ฮีโร่ ผมว่ามันเป็นอะไรที่เท่ห์ ตอนนี้เราอยู่ในปี 2010 เพื่อแสดงหนังซูเปอร์ฮีโร่ร่วมสมัย

          การที่ทั้งโลกถูกสร้างขึ้นมาเพื่อคุณ มันมีส่วนช่วยในเรื่องมุมมองการจินตนาการมั้ย?
          ใช่ เหมือนเราต้องเดินหน้าทำให้ได้ เราสวมหมวกหุ้มเกราะและชุดซูเปอร์ฮีโณ่ เราต้องเดินหน้าทำให้ได้ เราอยู่ในความสงสัยใดๆ ในจุดนั้นไม่ได้เลย! [หัวเราะ]

          ภาพยนตร์เหล่านี้เมื่อเปรียบเทียบกับภาพยนตร์อินดี้ขนาดเล็กกว่าที่คุณรู้จักแล้วเป็นอย่างไรบ้าง?
          ในหนังมีผู้คนร่วมแสดงเพียงไม่กี่คน มันไม่ได้เปลี่ยนสิ่งสำคัญและเหตุผลสำคัญของมัน ถึงแม้เราสร้างหน้าอะไรที่เป็นแนวจินตนาการ เราก็ต้องพยายามหาสิ่งที่มีความเป็นจริงหรือเชื่อถือได้ในหนัง เพื่อให้มันได้รับความนิยมอย่างที่สุด หากเราเชื่อว่ามีคนงอโลหะได้จริงๆ … มันเป็นแค่เหตุผลและสิ่งสำคัญแบบเดิม แต่มีผู้คนและงบประมาณจำนวนมาก

          คุณเสร็จสิ้นจากภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ร่วมกับวอนก์, ตารานติโน่, แซ็ค สไนเดอร์ มาแล้ว คุณยังคงร่วมงานกับผู้คนที่มีความสร้างสรรค์อย่างน่าทึ่งอยู่
          แน่นอนครับ ผมมองว่าตัวเองเป็นแขกคนหนึ่งเสมอ ผมชอบที่จะเข้าไปในฉากของหนังทั้ง 2 แบบ ผมชอบเข้าไปในฉากที่ขับเคลื่อนการผจญภัยอย่างยิ่งใหญ่ เช่น SHERLOCK HOLMES ผมสนุกกับมันมาก ผมไปในชมช่วงคริสต์มาส และมันเป็นทุกอย่างที่ผมอยากตักตวงจากหนังเรื่องนี้ ในช่วงอื่นผมอยากไปดูเรื่อง RABBIT PROOF FENCE มันเป็นเหมือนการผสมผสานและความเข้ากัน บางครั้งเมื่อเราออกมาจากการแสดงหนังเรื่องใหญ่ มันก็ดีหากจะสวมกางเกงชั้นในหนังวิ่งไปรอบๆ อย่างที่ผมทำในเรื่อง 300 [หัวเราะ] มันเหมือนที่เราวิ่งไปรอบๆ ตอนอายุ 10 ขวบ เว้นแค่ว่าตอนนี้เรามีฉากทั้งหมด ปืนแก๊บเป็นปืนจริงและเราต้องมีการฝึกซ้มอวิธีการใช้ดาบหรืออะไรก็ตาม!

          ในช่วงซัมเมอร์เต็มไปด้วยหนังซูเปอร์ฮีโร่ อะไรทำให้หนังเรื่องนี้แตกต่างไปจากหนังเรื่องอื่นในความคิดของคุณ?
          มันต้องเป็นหนังที่ดีที่สุด [หัวเราะ] ผมไม่รู้จักโลกของหนังสือการ์ตูนเล่มอื่นจริงๆ แต่ผมคิดว่าความน่าสนใจในเรื่องนี้ แนวคิดที่มนุษย์กลายพันธุ์มีการปฏิวัติ และมนุษยชาติจะตอบสนองต่อสิ่งนั้นอย่างไร มนุษย์เข้าใจว่า “เราควรกวาดล้างพวกเขาก่อนที่พวกเขาจะกวาดล้างเรา” มันมีข้อจำกัดของมนุษย์ที่น่าสนใจหลายอย่าง รวมถึงพฤติกรรมมนุษย์ที่ถูกขุดค้นโดย X-MEN

Pages: 1 ... 32 33 [34] 35 36 ... 38