พาราเมาท์ พิคเจอร์ส และสกายแดนซ์
ภูมิใจเสนอ
ผลงานสร้างโดยทอม ครูซ/แบ๊ด โรบอท
ทอม ครูซ
MISSION: IMPOSSIBLE – FALLOUT
ผู้ควบคุมงานสร้าง: เดวิด เอลลิสัน, ดานา โกลด์เบิร์ก, ดอน เกรนเจอร์
อำนวยการสร้างโดย: ทอม ครูซ, คริสโตเฟอร์ แม็คควอร์รีย์, เจค ไมเออร์ส, เจ.เจ. อับรามส์
สร้างจากซีรีส์โทรทัศน์ที่สร้างโดยบรูซ เกลเลอร์
เขียนบทและกำกับโดยคริสโตเฟอร์ แม็คควอร์รีย์
นักแสดง: ทอม ครูซ, เฮนรี คาวิล, วิง รามส์, ไซมอน เพ็กก์, รีเบ็กก้า เฟอร์กูสัน, ฌอน แฮร์ริส, แองเจลา บาสเซ็ทท์, วาเนสซา เคอร์บี้,เวส เบนท์ลีย์, เฟรเดอริค ชมิดท์ ร่วมด้วยมิเชลล์ โมนาแกน และอเล็ค บัลด์วิน
ชื่อไทย: มิชชั่น: อิมพอสซิเบิ้ล-ฟอลล์เอ้าท์
วันที่เข้าฉาย: 26 กรกฏาคม 2561
จัดจำหน่าย: บริษัท ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล พิคเจอร์ส (ฟาร์อีสต์) จำกัด
ข้อมูลงานสร้าง
ความปรารถนาดีที่สุดมักจะกลับมาตามหลอกหลอนคุณเสมอ ใน Mission: Impossible – Fallout อีธาน ฮันท์ (ทอม ครูซ) และทีมไอเอ็มเอฟของเขา (อเล็ค บัลด์วิน, ไซมอน เพ็กก์, วิง รามส์) รวมถึงพันธมิตรหน้าตาคุ้นเคย (รีเบ็กก้า เฟอร์กูสัน, มิเชลล์ โมนาแกน) ต้องเร่งรีบแข่งกับเวลาหลังจากที่ภารกิจเกิดความผิดพลาดขึ้นมา นอกจากนี้ เฮนรี คาวิล, แองเจลา บาสเซ็ทท์และวาเนสซา เคอร์บี้ยังร่วมทีมนักแสดงของเรื่องนี้ โดยที่ผู้กำกับคริสโตเฟอร์ แม็คควอร์รีย์ กลับมานั่งแท่นผู้กำกับอีกครั้งหนึ่ง
Mission: Impossible – Fallout นำแสดงโดยทอม ครูซ, เฮนรี คาวิล, วิง รามส์, ไซมอน เพ็กก์, รีเบ็กก้า เฟอร์กูสัน, ฌอน แฮร์ริส, แองเจลา บาสเซ็ทท์, วาเนสซา เคอร์บี้, มิเชลล์ โมนาแกน, เฟรเดอริค ชมิดท์และอเล็ค บัลด์วิน ผู้กำกับภาพคือร็อบ ฮาร์ดี้ ผู้ออกแบบงานสร้างคือปีเตอร์ เวนแฮม ภาพยนตร์เรื่องนี้ลำดับภาพโดยเอ็ดดี้ แฮมิลตัน ผู้ประสานงานฝ่ายสตันท์คือเว้ด อีสต์วู้ด ซูเปอร์ไวเซอร์ฝ่ายสเปเชียล เอฟเฟ็กต์คือนีล คอร์บูลด์และซูเปอร์ไวเซอร์ฝ่ายวิชวล เอฟเฟ็กต์คือโจดี้ จอห์นสัน ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกายคือเจฟฟรีย์ เคอร์แลนด์ ดนตรีโดยลอร์น บัลเฟ
พาราเมาท์ พิคเจอร์ส และสกายแดนซ์ ภูมิใจเสนอ ผลงานสร้างโดยทอม ครูซ/แบ๊ด โรบอท Mission: Impossible – Fallout
ผู้ควบคุมงานสร้างได้แก่เดวิด เอลลิสัน, ดานา โกลด์เบิร์ก, ดอน เกรนเจอร์ ผู้อำนวยการสร้างได้แก่ ทอม ครูซ, คริสโตเฟอร์ แม็คควอร์รีย์, เจค ไมเออร์สและเจ.เจ. อับรามส์ สร้างจากซีรีส์โทรทัศน์ที่สร้างโดยบรูซ เกลเลอร์ เขียนบทและกำกับโดยคริสโตเฟอร์ แม็คควอร์รีย์


เกี่ยวกับงานสร้าง
การเดินทางของอีธาน ฮันท์
ตลอดระยะเวลาสองทศวรรษที่ผ่านมา ทอม ครูซได้อำนวยการสร้าง นำแสดงและแสดงฉากสตันท์ที่น่าตื่นตะลึงที่สุดในแฟรนไชส์ Mission: Impossible ปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมระดับโลกที่กวาดรายได้ไปกว่า 2.8 พันล้านเหรียญทั่วโลก ทำให้มันเป็นหนึ่งในแฟรนไชส์ภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในประวัติศาสตร์ และบัดนี้ เขาได้กลับมารับบท อีธาน ฮันท์ หัวหน้าทีมอิมพอสซิเบิล มิชชัน ฟอร์ซ (ไอเอ็มเอฟ) อีกเป็นครั้งที่หก
ครูซกล่าวว่า Mission: Impossible – Fallout เป็นบทสรุปของภาพยนตร์หลายภาคที่ผ่านมาของแฟรนไชส์นี้ “คุณจะได้เห็นตัวละครต่างๆ ที่ถูกนำกลับมาและเส้นเรื่องต่างๆ ที่ถูกนำมาสู่บทสรุปครับ” เขากล่าว “ในตอนเริ่มต้นเรื่อง หนังสือเรื่อง The Odyssey ถูกเลือกมาด้วยเหตุผลที่เฉพาะเจาะจงมากๆ การเดินทางที่ อีธาน ฮันท์ ตัวละครของผมและทีมของเขาต้องเจอเป็นการเดินทางที่ยาวนาน ที่ได้แรงบันดาลใจและสะท้อนถึงเรื่องราวนั้น มันเป็นเรื่องราวส่วนตัวที่ยิ่งใหญ่ และมันก็มีส่วนเกี่ยวข้องทางอารมณ์มากมายสำหรับตัวละครครับ”
มือเขียนบทและผู้กำกับคริสโตเฟอร์ แม็คควอร์รีย์ตั้งข้อสังเกตว่า ครูซ ผู้เริ่มต้นแฟรนไชส์นี้ในปี 1996 มีความเข้าใจที่ไม่มีใครเทียบเกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้ภาพยนตร์ Mission: Impossible ประสบความสำเร็จ “ทอมเป็นผู้รักษาเปลวเพลิงเอาไว้ เขาเป็นคนทำหนังตามสัญชาตญาณที่อารมณ์อ่อนไหวมากๆ เขารู้จักอีธาน ฮันท์และเขาก็รู้ว่าอะไรที่ทำให้เขาเป็นตัวละครที่มีเสน่ห์ด้วยสัญชาตญาณครับ”
แม็คควอร์รีย์เชื่อว่าหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้แฟรนไชส์นี้ยังคงได้รับความนิยมคือความปรารถนาที่ไม่เคยจืดจางของครูซในการทำให้แต่ละภาคมีความตื่นเต้นและเข้มข้นกว่าภาคที่แล้ว “มันไม่เคยหยุดนิ่งครับ” ผู้กำกับ ผู้ได้กำกับ Mission: Impossible – Rogue Nation ในปี 2015 กล่าว “แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือมันไม่เคยลืมผู้ชม ไม่ว่ายังไง ทอมก็เป็นผู้ให้ความบันเทิง ทุกสิ่งที่เขาทำในหนังคือการพาคุณไปยังที่ต่างๆ ที่คุณไม่เคยไป การแสดงให้คุณเห็นในสิ่งที่คุณไม่เคยเห็น และพาคุณไปสู่ประสบการณ์ต่างๆ ร่วมกับเขาครับ”
สำหรับ Mission: Impossible – Fallout แม็คควอร์รีย์กระตือร้นในการล้วงลึกเข้าไปในแง่มุมมที่มืดหม่นและมีความเป็นมนุษย์มากกว่าของตัวละครเอกของเรื่อง “อีธานมีความลึกลับนิดๆ เสมอครับ” เขาตั้งข้อสังเกต “ครั้งนี้ ผมอยากจะล้วงเข้าไปในหัวของเขามากขึ้นและสัมผัสถึงความผูกพันที่เขามีต่อคนอื่นๆ ชื่อเรื่องนี้ไม่ได้หมายถึงการระเบิดนิวเคลียร์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงผลลัพธ์ที่ตรงข้ามกับความปรารถนาดีทั้งหมดของอีธานด้วย เขาเดินเข้าไปในสถานการณ์ที่อยู่เหนือการควบคุม และเขาก็ต้องผ่านมันไปให้ได้แม้ว่าเขาจะรู้ว่าตัวเองถูกบงการอยู่ก็ตาม”
หัวใจสำคัญของเรื่องราวนี้คือการตัดสินใจที่เจ็บปวดของฮันท์ ที่ตามมาหลอกหลอนเขา ไมเออร์สอธิบายว่า “ในตอนแรก เราพบว่าอีธานกำลังตกที่นั่งลำบาก เขาได้ทำผิดพลาด และเขาก็เจอกับเรื่องต่างๆ ในอดีต ที่มีผลกระทบทางอารมณ์ เขาต้องตัดสินใจว่า เขาจะช่วยเพื่อนและครอบครัว หรือจะช่วยคนเป็นล้านๆ คนจากอำนาจทำลายล้างที่เขากำลังต่อสู้อยู่ เขาจะต้องทำการล้วงลึกเข้าไปในจิตวิญญาณของตัวเองครับ”
ครูซสวมบทตัวละครตัวนี้ในแบบที่นักแสดงแอ็กชันน้อยคนนักจะทำ ผู้อำนวยการสร้างเจค ไมเออร์สกล่าวเสริม “ทอมไม่เพียงแต่ใส่ดรามาที่ยอดเยี่ยมเข้าไปในบทนี้เท่านั้น แต่เขายังมีทักษะทางกายภาพที่จะทำในสิ่งต่างๆ ที่นักแสดงคนอื่นทำไม่ได้ด้วย ทั้งด้วยการฝึกฝนและความกล้าหาญ ผมคิดว่าคุณสามารถแบ่งแยกแฟรนไชส์แอ็กชันอื่นๆ ส่วนใหญ่จากดาราของเรื่องได้ แต่ถ้าไมมีทอม ก็ไม่มีอีธาน ฮันท์ครับ อย่างน้อยก็ไม่ใช่อีธาน ฮันท์ที่ผู้ชมทั่วโลกให้การยอมรับแบบนี้”
ผู้กำกับหวนคืน
ตามคำขอของครูซ แม็คควอร์รีย์กลายเป็นผู้กำกับคนแรกที่ได้กลับมากำกับ Mission: Impossible เป็นครั้งที่สอง “หนึ่งในองค์ประกอบที่เป็นสัญลักษณ์ของแฟรนไชส์นี้คือการมีผู้กำกับแตกต่างกันไปในแต่ละภาค” แม็คควอร์รีย์อธิบาย “ตอนที่ทอมขอให้ผมกลับมากำกับภาคนี้ ผมก็บอกว่าผมจะทำภายใต้เงื่อนไขที่ผมจะสามารถรักษาจิตวิญญาณของธรรมเนียมนั้นไว้ด้วยการเปลี่ยนแปลงภาษาภาพวิชวลจากภาคที่แล้ว ผมอยากให้คนที่ดู Rogue Nation และ Fallout รู้สึกเหมือนมีคนสองคนกำกับมันน่ะครับ”
นั่นเป็นเรื่องที่ยอมรับได้สำหรับครูซ ผู้มีความชื่นชมต่อความสามารถของแม็คควอร์รีย์ในฐานะผู้กำกับเนื่องจากทั้งคู่ได้ร่วมงานกันเป็นครั้งแรกในภาพยนตร์แอ็กชันทริลเลอร์ปี 2012 เรื่อง Jack Reacher “ผมชอบการได้ทำงานร่วมกับแม็คคิวครับ” ครูซกล่าว “เขามีความสามารถมาก เขาอยากจะเปลี่ยนแปลงสไตล์วิชวลเพื่อให้ดูเหมือนว่าคนอื่นเป็นคนกำกับ และเขาก็ทำสำเร็จ แต่มันก็ยังคงมีความคิดอ่านด้านการเล่าเรื่องที่เด่นชัดในแบบของเขา ผมชอบความแข็งกร้าวของหนังเรื่องนี้และตัวละครในเรื่อง เราทุ่มเทกันเต็มที่ ผมอดใจรอให้ผู้ชมได้ดูหนังเรื่องนี้ไม่ไหวเลยครับ”
ระหว่างการร่วมงานกันในภาพยนตร์แอ็กชันฟอร์มยักษ์ทั้งสามเรื่อง แม็คควอร์รีย์และครูซได้พัฒนาสายสัมพันธ์ส่วนตัวและหน้าที่การงานที่ใกล้ชิด “พวกเขามีวิธีการสื่อสารทางลัดที่ยอดเยี่ยมครับ” ไมเออร์สตั้งข้อสังเกต “แม็คควอร์รีย์เป็นคนที่ทอมไว้ใจและรู้สึกสบายใจเวลาอยู่ด้วย พวกเขาสองคนมักทำงานในสิ่งต่างๆ และเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ เสมอ ซึ่งทำให้การอำนวยการสร้างยากขึ้น แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันก็ทำให้หนังดีขึ้นเยอะครับ”
สมกับชื่อเสียงของเขา แม็คควอร์รีย์ เจ้าของรางวัลออสการ์จากบทภาพยนตร์เรื่อง The Usual Suspects ยังคงปรับเปลี่ยนเรื่องราวหลายครั้งแม้แต่ระหว่างการถ่ายทำ “คริสทำให้บทหนังเรื่องนี้มีชีวิตชีวาครับ” เฮนรี คาวิล นักแสดงหนุ่มกล่าว “เขาเป็นมือเขียนบทที่เก่งมากๆ และฉลาดๆ ในเรื่องของตัวละคร เขาฉลาดมากในการนำตัวละครเหล่านั้นไปอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียดสุดๆ ที่พวกเขาจะรอดชีวิตได้ด้วยการเติบโต ปรับตัวหรือพัฒนาขึ้น ในฐานะนักแสดง ผมค่อนข้างจะชื่นชอบเรื่องนั้นเพราะคุณจะเคลื่อนไหวและปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา เหมือนกับมนุษย์เราในชีวิตจริงนี่ล่ะครับ”
นักแสดงหญิง รีเบ็กก้า เฟอร์กูสันกล่าวเห็นพ้องด้วย “มันเป็นวิธีถ่ายทำแบบใหม่สำหรับฉันค่ะ ฉันชอบมันเพราะมันทำให้คุณตื่นตัวอยู่เสมอ คุณก็แค่ต้องปลอยวางและคอยควบคุมตัวละครของคุณเองค่ะ”