Post by: FB on January 05, 2015, 01:53:57 PM
“ทอรุ้ง จรุงกิจอนันต์” ภรรยา “วาณิช จรุงกิจอนันต์” นักเขียนรางวัลซีไรต์ เจ้าของลิขสิทธิ์ วรรณกรรมแนว “วิจิตรกามา” (EROTIC) เรื่อง “แม่เบี้ย” มอบบทประพันธ์แสนหวงให้ “หม่อมน้อย-ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล” ผู้กำกับชั้นครูสร้างเป็นภาพยนตร์เวอร์ชั่นล่าสุด ด้วยความมั่นใจว่าหม่อมน้อยจะสามารถถ่ายทอดเนื้อหาสาระและบรรยากาศอันงดงามละเอียดอ่อนของบทประพันธ์ ออกมาเป็นภาพยนตร์ได้อย่างวิจิตรบรรจง ทอรุ้งเผยว่า
“หลังจากที่คุณวาณิชเสียชีวิตลง ก็มีผู้สร้างภาพยนตร์และละครโทรทัศน์หลายรายมาติดต่อขอซื้อลิขสิทธิ์เรื่อง ‘แม่เบี้ย’ แต่ดิฉันก็ปฏิเสธไป เพราะค่อนข้างหวงบทประพันธ์เรื่องนี้แต่เมื่อหม่อมน้อยและ ‘เสี่ยเจียง’ (สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ) มาติดต่อก็ตัดสินใจในทันที เพราะเชื่อในฝีมืออันประณีตของหม่อมน้อยและเชื่อถือในผลงานภาพยนตร์ของบริษัสหมงคลฟิล์มว่าจะสร้าง ‘แม่เบี้ย’ ให้เป็นภาพยนตร์ที่สมบูรณ์แบบตามบทประพันธ์”
“แม่เบี้ย” เป็นวรรณกรรมร่วมสมัยแนววิจิตรกามาที่เคยถูกสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้วถึง 2 ครั้ง คือในปี พ.ศ.2532 นำแสดงโดย ลิขิต เอกมงคล และ ภัสสร บุณยเกียรติ ส่วนครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ.2544 นำแสดงโดย อัครา อมาตยกุล และ นภคปภา นาคประสิทธ์
“แม่เบี้ย” ในเวอร์ชั่น 2558 นี้จะถูกตีความใหม่ให้เหมาะสมกับยุคสมัยและกำลังอยู่ในขั้นตอนเตรียมงานสร้างอย่างประณีตพิถีพิถัน
Post by: FB on March 16, 2015, 03:28:51 PM
หลังจากภาพยนตร์เรื่อง “อันดากับฟ้าใส” พ.ศ 2540 ที่ทำให้ “ชาคริต แย้มนาม” แจ้งเกิดเมื่อ 18 ปีที่แล้วจากผลงานกำกับภาพยนตร์ของ “หม่อมน้อย-ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล” ณ พ.ศ. นี้ “ชาคริต แย้มนาม” นักแสดงเจ้าบทบาทได้หวนกลับมาร่วมงานกับหม่อมน้อยอีกครั้งในบท “ชนะชล สุพรรณภูมิ” นักธุรกิจหนุ่มใหญ่ซึ่งโชคชะตาทำให้เขาต้องพบกับความลึกลับของ “งูเห่า” ในเรือนไทยโบราณที่สุพรรณบุรี ในภาพยนตร์แนว “วิจิตรกามา” (Erotic) เรื่อง “แม่เบี้ย” จากวรรณกรรมร่วมสมัยของนักเขียนรางวัลซีไรต์ “วาณิช จรุงกิจอนันต์”
หม่อมน้อยเผยว่า
“บทของ ‘ชนะชล‘ เหมาะสมกับวัยวุฒิและบุคลิกของ ‘ชาคริต’ เป็นอย่างมาก เพราะชนะชลเป็นตัวละครที่มีความซับซ้อนทางอารมณ์ที่ลึกซึ้ง ต้องอาศัยนักแสดงที่มีทักษะและฝีมือในการแสดงขั้นสูง ซึ่งจะเป็นการพลิกบทบาทในการแสดงของชาคริตอย่างที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนทั้งในจอภาพยนตร์และโทรทัศน์”
“แม่เบี้ย” ในเวอร์ชั่น 2558 นี้จะถูกตีความใหม่ให้เหมาะสมกับยุคสมัยและกำลังอยู่ในขั้นตอนเตรียมงานสร้างอย่างประณีตพิถีพิถัน
Post by: FB on March 23, 2015, 12:11:33 PM
ด้วยหน่วยก้านหน้าใสอารมณ์ดีอินเทรนด์แนวดาราเกาหลี “ฮัท-จิรวิชญ์ พงษ์ไพจิตร” ศิลปิน “เดอะ สตาร์ 8” เข้าตา “เสี่ยเจียง-สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ” ประธานกรรมการบริษัทสหมงคลฟิล์มอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เรียกเข้าเซ็นสัญญาเป็นพระเอกในสังกัด โดยเริ่มผลงานแรกในภาพยนตร์แนววิจิตรกามา (Erotic) เรื่อง “แม่เบี้ย” เวอร์ชั่นใหม่ของผู้กำกับชั้นครู “หม่อมน้อย-ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล” โดยรับบทนำคู่กับ “ชาคริต แย้มนาม” ในบทของ “ภาคภูมิ” นักธุรกิจหนุ่มขี้เล่นอารมณ์ดีคนสนิทของ “ชนะชล” (ชาคริต) ผู้นำพาชนะชลไปยังเรือนไทยโบราณอันลึกลับสยองขวัญที่บางปลาม้า สุพรรณบุรี
หม่อมน้อย เผยว่า
“บทของ ‘ภาคภูมิ’ เป็นบทที่สำคัญมาก อาจเรียกได้ว่าเป็นพระเอกอีกคนหนึ่งก็ว่าได้ เป็นบทที่มีความน่ารักขี้เล่นและขำขัน อีกทั้งยังต้องเล่นดราม่าในท้ายเรื่อง ซึ่งผมเห็นว่าคาแร็คเตอร์ของ ‘ฮัท’ ตรงกับภาคภูมิ ใน ‘แม่เบี้ย’ เวอร์ชั่นใหม่นี้ และเชื่อว่าจะสร้างสีสันให้แก่ภาพยนตร์เป็นอย่างมาก”
“ฮัท-จิรวิชญ์ พงษ์ไพจิตร” เข้าวงการบันเทิงด้วยการเป็นศิลปิน “เดอะสตาร์ 8” (พ,ศ.2555) จบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาศิลปะการแสดง จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และเข้าอบรมศิลปะการแสดง กับ “หม่อมน้อย” ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 จนถึงปัจจุบัน
“แม่เบี้ย” เวอร์ชั่นล่าสุดนี้กำลังถ่ายทำอย่างพิถีพิถัน เพื่อเป็นหนึ่งหนังไทยฟอร์มดีปี 2558 ของค่ายสหมงคลฟิล์มที่ไม่ควรพลาดชม
Post by: FB on April 28, 2015, 03:29:28 PM
ผู้กำกับชั้นครู “หม่อมน้อย-ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล” ค้นพบเรือนไทยโบราณนานนับร้อยปีริมแม่น้ำท่าจีนที่ อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ซึ่งตรงตามบทประพันธ์ของนักเขียนซีไรต์ ‘วาณิช จรุงกิจอนันต์’ อย่างปาฎิหาริย์ จึงใช้ปักหลักถ่ายทำภาพยนตร์แนววิจิตรกามา (Erotic) เรื่อง ‘แม่เบี้ย’ เกือบตลอดเรื่อง ซึ่งเรือนไทยหลังนี้จะเป็นโลเกชั่นหลักของภาพยนตร์ อันเป็นที่มาของความลึกลับที่น่าสะพรึงกลัวที่ซ่อนเร้นอยู่ในทุกมุมมืดของบ้านนั้น
หม่อมน้อยเผยว่า
“ผมไม่คิดเลยว่า ในปัจจุบันนี้จะมีเรือนไทยโบราณนานนับร้อยปีริมแม่น้ำที่บางปลาม้าตรงกับบทประพันธ์ ‘แม่เบี้ย’ ของคุณวาณิชมากเช่นนี้ เรือนไทยหลังนี้เป็นสมบัติเก่าแก่ของ ‘คุณอาร์ต วรรณประเสริฐ’ ซึ่งปล่อยให้ร้างนานนับ 3 ปี แต่ยังคงความงดงามวิจิตรบรรจงอย่างสมบูรณ์ สมกับเป็นโลเกชั่นที่สะท้อนศิลปวัฒนธรรมไทยอันล้ำค่าซึ่งถูกทอดทิ้งโดยยุคสมัยที่มนุษย์นิยมวัตถุและเงินตรา”
“แม่เบี้ย” เวอร์ชั่นล่าสุดนี้กำลังถ่ายทำอย่างพิถีพิถัน เพื่อเป็นหนึ่งหนังไทยฟอร์มดีปี 2558 ของค่ายสหมงคลฟิล์มที่ไม่ควรพลาดชม
Post by: FB on May 17, 2015, 08:37:04 AM
เนื่องจากภาพยนตร์แนววิจิตรกามา (Erotic) เรื่อง “แม่เบี้ย” เป็นภาพยนตร์ยุคปัจจุบันในรอบกว่าสิบปีของ “หม่อมน้อย-ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล” ผู้กำกับชั้นครูซึ่งผู้ชมมักจะคุ้นเคยกับผลงานภาพยนตร์แนวพีเรียดย้อนยุคเป็นส่วนใหญ่ เพื่อให้ได้มุมมองใหม่ในแง่ภาพที่นำสมัย หม่อมน้อยจึงใช้ตากล้องมือหนึ่งจากวงการโฆษณา “อุดม วรประคุณ” Technical Advisor Chief Operating Officer บริษัท Camera Corner และ Siamlite มาเป็น “ผู้กำกับภาพ” (Director of Photography) ให้แก่ภาพยนตร์เรื่องนี้
หม่อมน้อยเผยว่า
“ในระยะหลังนี้ผมทำแต่หนังพีเรียด แต่กับเรื่อง ‘แม่เบี้ย’ นี้ ผมต้องการมุมมองที่เก๋ไก๋นำสมัยแบบหนังโฆษณา ซึ่งผมมั่นใจว่าผู้ชมจะได้เห็นภาพที่งดงามประณีตและร่วมสมัยแตกต่างไปจากหนังเรื่องที่ผ่านมาของผม และการตีความใหม่ในแง่บทประพันธ์จะทำให้ ‘แม่เบี้ย’ เวอร์ชั่นนี้แตกต่างไปจากเวอร์ชั่นอื่นๆ อย่างแน่นอน”
เตรียมพบกับ “แม่เบี้ย” เวอร์ชั่นล่าสุด หนึ่งหนังไทยฟอร์มดีปี 2558 ของค่ายสหมงคลฟิล์มที่ไม่ควรพลาดชม...เร็วๆ นี้
Post by: FB on May 28, 2015, 08:21:15 AM
“หม่อมน้อย-ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล” ผู้กำกับภาพยนตร์แนววิจิตรกามา (Erotic) เรื่อง “แม่เบี้ย” จากวรรณกรรมของนักเขียนรางวัลซีไรต์ “วาณิช จรุงกิจอนันต์” เลือก “อ้อม กานต์พิสชา เกตุมณี” รอง Miss Thailand World ปี 2009 รับบท “เมขลา พลับพลา” หญิงปริศนา 2 บุคลิก เจ้าของเรือนไทยลึกลับที่บางปลาม้า สุพรรณบุรี ผู้ผูกพันอย่างเร้นลับกับ “งูเห่ายักษ์” ที่เรือนไทยโบราณแห่งนั้น
หม่อมน้อยเผยว่า
“อ้อม กานต์พิสชา มีบุคลิกลักษณะที่ตรงกับ ‘เมขลา’ ในบทประพันธ์มาก ทั้งใบหน้าและผิวพรรณที่มีความเป็นหญิงไทยโบราณและมีความทันสมัยแบบอินเตอร์ในคนเดียวกัน แบบหญิงสองบุคลิกภาพที่มีความเป็นไทยแบบเร้นลับ และหญิงสมัยใหม่ ไม่แคร์สังคม และที่สำคัญอ้อมมีดวงตาที่ทรงพลังอันลึกลับน่าค้นหา สมกับบทบาทของ ‘เมขลา’ พ.ศ.นี้เป็นอย่างยิ่ง”
เตรียมพบกับ “แม่เบี้ย” เวอร์ชั่นล่าสุด หนึ่งหนังไทยฟอร์มดีปี 2558 ของค่ายสหมงคลฟิล์มที่ไม่ควรพลาดชม...เร็วๆ นี้
Post by: FB on June 11, 2015, 02:59:12 PM
นักแสดงสาวรุ่นใหม่มากความสามารถ “แม็กกี้-อาภา ภาวิไล” บุตรสาวของดาราอาวุโส “อรุณ ภาวิไล” ปลื้มสุดชีวิตที่ได้รับเลือกจาก “หม่อมน้อย-ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล” ผู้กำกับภาพยนตร์แนว วิจิตรกามา (Erotic-อีโรติก) เรื่อง “แม่เบี้ย” ให้รับบท “คุณโกสุม” สตรีผู้ยึดมั่นขนบธรรมเนียมประเพณีของความเป็นไทย และหันหลังให้กับความเปลี่ยนแปลงของโลกสมัยใหม่ จนเธอต้องจบชีวิตลงก่อนวัยอันควร และด้วยดวงจิตแห่งความผูกพันอย่างแรงกล้าในตัว “เมขลา” บุตรสาว และเรือนไทยโบราณริมแม่น้ำที่บางปลาม้า สุพรรณบุรี ทำให้ดวงวิญญาณของเธอไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดในภพใหม่ และยังวนเวียนอยู่ในเรือนไทยโบราณลึกลับแห่งนั้น
หม่อมน้อยเผยว่า
“บท ‘คุณโกสุม’ เป็นบทสำคัญที่ไม่ด้อยไปกว่าบทเมขลา เพราะต้องแสดงทั้งภาพเหตุการณ์สำคัญในอดีตที่มีผลต่อลักษณะนิสัยของเมขลาและยังต้องแสดงเป็นดวงวิญญาณที่มีจิตห่วงใยในการกระทำผิดต่อประเพณีและศีลธรรมของทุกชีวิตที่ก้าวเข้ามาในเรือนโบราณนั้น แม็กกี้มีคุณสมบัติครบถ้วนตามตัวละคร ทั้งความงามแบบหญิงไทยโบราณ และฝีมือทางการแสดงที่ละเอียดอ่อนลึกซึ้ง ผมเชื่อว่าผู้ชมต้องทึ่งในความงามราวกับนางในวรรณคดี และการพลิกบทบาททางการแสดงครั้งใหญ่ของเธอในเรื่องนี้”
เตรียมพบกับ “แม่เบี้ย” งานละเมียดล่าสุดของหม่อมน้อย อีกไม่นานเกินรอ
Post by: FB on June 18, 2015, 02:54:47 PM
ดาวรุ่งพุ่งแรง “ฮัท จิรวิชญ์ พงษ์ไพจิตร” หรือ “ฮัท the star” จากภาพยนตร์แนววิจิตรกามา [EROTIC-อีโรติก] “แม่เบี้ย” ไม่หวั่นภาพลักษณ์เซ็กซี่สตาร์ เพราะเชื่อว่านักแสดงมืออาชีพต้องแสดงอย่างเต็มร้อยทุกบทบาทที่ได้รับมอบหมาย ฮัท เผยหลังจากได้ถ่ายปกนิตยสาร IMAGE (อิมเมจ) ในแนวเซ็กซี่ ซึ่งขายหมดแผงหนังสือภายในวันเดียว เป็นที่ฮือฮาในวงการว่า
“ฮัท ถือ จรรยาบรรณการทำงานในฐานะนักร้อง นักแสดงมืออาชีพว่า ถ้าเรารับงานแล้วไม่ว่าจะเป็นงานแสดง งานร้องเพลง หรืองานถ่ายแบบ ฮัทต้องทำงานนั้นให้ดีที่สุดเท่าที่ขีดความสามารถของเราจะทำได้ และจะต้องตอบโจทย์ของผู้กำกับจนเป็นที่พอใจ ให้เต็มร้อยหรือเกินร้อย โดยเฉพาะภาพยนตร์เรื่อง “แม่เบี้ย” บทบาทของ “ภาคภูมิ” เป็นนักธุรกิจเพลย์บอยมีเลิฟซีนหลายฉาก ซึ่งฮัทต้องถ่ายทอดจิตวิญญาณของตัวละครออกมาให้เหมือนจริงมากที่สุดตามความต้องการของผู้กำกับ เพราะฮัทเชื่อว่า นักแสดงมืออาชีพต้องแสดงเต็มร้อยในทุกบทบาทครับ”
เตรียมพบกับ “แม่เบี้ย” งานละเมียดล่าสุดของหม่อมน้อย อีกไม่นานเกินรอ
Post by: FB on July 02, 2015, 02:49:50 PM
"ฮัท-จิรวิชญ์ พงษ์ไพจิตร" (ฮัท The Star) ดาวรุ่งพุ่งแรงจากภาพยนตร์แนววิจิตรกามาเรื่อง "แม่เบี้ย" ปลื้มฝีมือทางการแสดงของนักแสดงรุ่นพี่ "ชาคริต แย้มนาม" ถึงกับยกให้เป็นเยี่ยงอย่างของนักแสดงมากฝีมือแห่งวงการบันเทิง ฮัทเผยว่า
"ฮัทชื่นชมฝีมือทางการแสดงของพี่เค้าตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งจะได้มีโอกาสร่วมแสดงคู่กับพี่เค้าขนาดนี้ แรกๆ ก็เกร็งเหมือนกัน แต่พี่เค้าเป็นคนสบายๆ เป็นกันเองมาก ทำให้ฮัทเล่นกับพี่เค้าด้วยความสบายใจ ยิ่งเห็นการทำงานแบบมืออาชีพของพี่คริตที่ทำการบ้านมาเป็นอย่างดี ทำให้เวลาเข้าฉากด้วยกัน ฮัทเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ว่า พี่คริต คือ 'ชนะชล' พี่ชายที่เรารักและศรัทธา ทำให้ฮัทคิดว่าวันหนึ่งฮัทจะต้องเป็นนักแสดงที่มีวินัยและมีฝีมือทางการแสดงอย่างพี่คริตให้ได้ครับ"
เตรียมพบกับ "แม่เบี้ย" ผลงานการกำกับล่าสุดของ "หม่อมน้อย-ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล" อีกไม่นานเกินรอ
Post by: FB on July 09, 2015, 07:55:52 PM
คณะหุ่นกระบอก "คลองบางหลวง" ร่วมแสดงศิลปวัฒนธรรมอันงดงามในฉากเปิดเรือนไทยโบราณที่บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ในภาพยนตร์แนววิจิตรกามา (Erotic) เรื่อง "แม่เบี้ย" ของผู้กำกับชั้นครู "หม่อมน้อย-ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล"
หม่อมน้อยเผยว่า
"ฉากเปิดเรือนไทยโบราณนี้เป็นฉากที่ 'ภาคภูมิ' (จิรวิชญ์ พงษ์ไพจิตร) พา 'ชนะชล' (ชาคริต แย้มนาม) มาทัวร์วัฒนธรรมซึ่งจัดโดย 'เมขลา' (กานต์พิสชา เกตุมณี) เจ้าของบริษัทเมขลาทัวร์ ที่เรือนไทยแห่งนี้ ซึ่งจัดโชว์วัฒนธรรมไทยอันล้ำค่า ซึ่งทำให้ชนะชลได้พบเมขลาเป็นครั้งแรก และหลงใหลความงามของเมขลาในชุดไทยโบราณ และวัฒนธรรมไทยอย่างจับจิตจับใจ ในขณะที่คณะหุ่นกระบอกกำลังแสดงเรื่อง 'รามเกียรติ์' ตอน 'นางเมขลาล่อแก้วยักษ์รามสูร' และนอกจากคณะหุ่นกระบอกคลองบางหลวงแล้ว ยังได้รับเกียรติจากนักแสดงละครเวทีจากรัชดาลัยเธียเตอร์มาร่วมแสดงในฉากสำคัญนี้ด้วย โดยใช้เวลาถ่ายทำฉากนี้ถึง 1 วันเต็มๆ เพื่อให้ได้ภาพที่งดงามประณีต อันสะท้อนถึงความงามของวัฒนธรรมไทยได้อย่างชัดเจน"
เตรียมชม "แม่เบี้ย" เวอร์ชั่นล่าสุดนี้ อีกไม่นานเกินรอ
Post by: FB on July 10, 2015, 03:04:29 PM
"รู้กัน...แค่สองคน" - เพลงประกอบภาพยนตร์ แม่เบี้ย [Official Lyric]
หลังจากปล่อยภาพยั่วน้ำลายเรียกเสียงฮือฮากันไปทั่วแล้ว คราวนี้ภาพยนตร์แนววิจิตรกามา (Erotic) เรื่อง "แม่เบี้ย" ของผู้กำกับชั้นครู "หม่อมน้อย-ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล" ก็ได้เวลาปล่อยซิงเกิลเพลงแนว R&B "รู้กัน...แค่สองคน" เพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ร้องโดย "ฮัท-จิรวิชญ์ พงษ์ไพจิตร" ออกมาให้ฟังกันอย่างเคลิบเคลิ้มแล้ว
เพลง "รู้กัน...แค่สองคน" เป็นเพลงที่แต่งขึ้นมาเพื่อสะท้อนอารมณ์รักของหนุ่มสาวสมัยใหม่ที่มีเสรีในสัมพันธภาพอันซ่อนเร้นและมีความเป็นส่วนตัวสูง ซึ่งเราไม่อาจปฏิเสธได้ว่า "ความลับในความรัก" เป็นสมบัติส่วนตัวที่ทรงคุณค่าเฉพาะคนสองคนเท่านั้น
หนุ่มฮัทพูดถึงเพลงล่าสุดของเขาว่า
"เพลง 'รู้กัน...แค่สองคน' เป็นเพลงแนวอาร์แอนด์บีสมัยใหม่ ซึ่งเนื้อหาในเพลงนี้ก็จะพูดถึงเรื่องความลับในความรักที่ขอรู้กันแค่สองคนแค่นั้นก็พอแล้ว ซึ่งมันตรงกับเรื่องราวและตัวละครหลายๆ ตัวในภาพยนตร์ 'แม่เบี้ย' อย่างตัวเมขลา, ชนะชล, ภาคภูมิ หรืออีกหลายๆ ตัวเลย และผมว่ามันก็ยังตรงกับชีวิตจริงของคนในสมัยนี้ที่เปิดกว้างขึ้นในรูปแบบความสัมพันธ์ต่างๆ ประมาณว่าเป็นความลับห้ามบอกใคร ได้โปรดเงียบๆ แล้วก็มีแค่เราสองคนเท่านั้นที่รู้ ไม่ต้องไปสนใจอะไรทั้งนั้น ขอแค่แบบมีความสุขกันสองคนก็พอในช่วงเวลานี้ อารมณ์เพลงก็จะออกแนวขี้เล่นแอบเซ็กซี่ๆ สร้างสีสันและเหมาะกับภาพยนตร์เรื่องนี้มากครับ ฮัทก็พยายามเต็มที่ที่จะถ่ายทอดออกมาให้ดีที่สุดครับ ก็ขอฝากเพลงใหม่นี้ของฮัทด้วยนะครับ รวมถึงภาพยนตร์เรื่อง 'แม่เบี้ย' ด้วยครับ เดือนกันยานี้ได้ดูกันแน่นอนครับ"
เพลง "รู้กัน...แค่สองคน" สามารถหาฟังกันได้แล้วทางคลื่นวิทยุและสื่อออนไลน์ทุกรูปแบบของ "Sahamongkolfilm International" / ฟังเพลงได้ที่ https://youtu.be/0wEUl6rJm4Q
Post by: FB on July 16, 2015, 08:32:22 AM
เพิ่มดีกรีสุดร้อนแรงในภาพยนตร์แนววิจิตรกามา (Erotic) เรื่อง "แม่เบี้ย" ผู้กำกับชั้นครู "หม่อมน้อย-ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล" ดึงดารานายแบบสุดเซ็กซี่ "ต๊อบ-ชัยวัฒน์ ทองแสง" มารับบทเป็น "พจน์" นักธุรกิจและนักการเมืองหนุ่มแห่งสุพรรณบุรี ผู้ชายคนแรกที่มีสัมพันธ์สวาทกับ "เมขลา" (กานต์พิสชา เกตุมณี) และมีความรักอันรุนแรงที่จะครอบครองเมขลาไว้แต่เพียงผู้เดียว จนทำให้เกิดความหายนะในท้ายเรื่อง
หม่อมน้อยเผยว่า
"การที่เลือก 'ต๊อบ ชัยวัฒน์' มารับบทเป็น 'พจน์' เพราะต๊อบมีบุคลิกลักษณะแบบชายไทยที่แท้จริง และเหมาะสมกับลักษณะนิสัยที่มุทะลุ ดุดัน และทรงอำนาจแบบเจ้าพ่อต่างจังหวัด แต่ในส่วนลึกเป็นผู้ชายที่รักเดียวใจเดียว ซึ่งต๊อบเขาปลื้มมากที่ได้รับบทสำคัญนี้"
เตรียมชมความร้อนแรงทะลุจอของทั้งคู่ได้ใน "แม่เบี้ย" เดือนกันยายนนี้
Post by: FB on July 17, 2015, 08:34:21 AM
ทีเซอร์แรก แม่เบี้ย (Official Teaser)
"รู้กัน...แค่สองคน" - เพลงประกอบภาพยนตร์ แม่เบี้ย [Official Lyric]
จากบทประพันธ์อันทรงคุณค่าของนักเขียนรางวัลซีไรต์ "วาณิช จรุงกิจอนันต์" สู่การตีความใหม่และถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์วิจิตรกามาเหมาะกับยุคสมัยในเวอร์ชั่น 2558 โดยผู้กำกับชั้นครู "หม่อมน้อย-ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล" ที่จะพาผู้ชมดิ่งลึกไปกับเรื่องราวความรักเร้นลับและตัณหาราคะดำมืดอันเกินหยั่งถึงของ "เมขลา" สาวสวยล้ำสมัยสุดเซ็กซี่ผู้มีความมั่นใจในตัวเองสูง และใช้ชีวิตอิสระทุกด้านอย่างถึงที่สุด และ "ชนะชล" ชายหนุ่มผู้เพียบพร้อมทั้งรูปสมบัติ, ชาติตระกูล และครอบครัวสมบูรณ์แบบ แต่กลับมาลุ่มหลงอย่างถอนตัวไม่ขึ้นในเสน่ห์อันยั่วยวนใจของเมขลา เจ้าของ "เรือนไทยโบราณ" ที่ซึ่งชนะชลมีความหลังฝังใจต่อปริศนาชีวิตในอดีตของเขาที่ยังไม่อาจคลี่คลาย อันเป็นที่มาของความลึกลับน่าสะพรึงกลัวที่ซ่อนเร้นอยู่ในทุกมุมมืดของบ้านหลังนั้น
"แม่เบี้ย"
17 กันยายนนี้ ในโรงภาพยนตร์
Post by: FB on July 20, 2015, 09:00:18 AM
Mv. "รู้กัน...แค่สองคน" - เพลงประกอบภาพยนตร์ แม่เบี้ย [Official Mv.]
"ฮัท-จิรวิชญ์ พงษ์ไพจิตร" ดาวรุ่งพุ่งแรงจากภาพยนตร์แนววิจิตรกามา (Erotic) เรื่อง "แม่เบี้ย" ของผู้กำกับชั้นครู "หม่อมน้อย-ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล" ทั้งร้องและเล่นมิวสิควิดีโอ "รู้กัน...แค่สองคน" เพลงประกอบภาพยนตร์ในแนว R&B งานนี้หม่อมน้อยได้โดดลงมากำกับ MV เพลงนี้ด้วยตนเองในคอนเซ็ปต์หนุ่มน้อยเพลย์บอยเซ็กซี่ ขี้เล่น แต่จริงใจ ณ โรงถ่าย Studio4 ย่านพหลโยธิน56
โดยเซ็ตแรกเป็นฉากร้องเพลงหน้าไมโครโฟนในฐานะนักร้องโชว์ลีลาการเต้นที่ฝึกซ้อมออกมาอย่างน่ารัก ส่วนเซ็ตที่สองเป็นฉากบนเตียงนอนซึ่งฮัทต้องนอนร้องเพลงนี้บนเตียงนอนสีขาวในลีลาสุดเซ็กซี่ขี้เล่น ซึ่งฮัทสามารถแสดงและถ่ายทอดบทเพลงนี้ออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติเหนือความคาดหมายของผู้กำกับและทีมงาน
เพลง "รู้กัน...แค่สองคน" เป็นเพลงที่แต่งขึ้นมาเพื่อสะท้อนอารมณ์รักของหนุ่มสาวสมัยใหม่ที่มีเสรีในสัมพันธภาพอันซ่อนเร้นและมีความเป็นส่วนตัวสูง ซึ่งเราไม่อาจปฏิเสธได้ว่า "ความลับในความรัก" เป็นสมบัติส่วนตัวที่ทรงคุณค่าเฉพาะคนสองคนเท่านั้น
Post by: FB on July 29, 2015, 08:45:18 AM
นักแสดงเจ้าบทบาทแห่งวงการ “ชาคริต แย้มนาม” ถ่ายทอดบทบาท “ชนะชล” นักธุรกิจไฮโซผู้ประพฤติผิดในศีลธรรม โดยนอกใจภรรยาไปมีสัมพันธ์สวาทกับ “เมขลา” (อ้อม-กานต์พิสชา เกตุมณี) เจ้าของบ้านเรือนไทยโบราณได้อย่างลึกซึ้งกินใจ สมฉายานักแสดงเจ้าบทบาทตลอดกาลในภาพยนตร์เรื่อง “แม่เบี้ย” ของผู้กำกับชั้นครู “หม่อมน้อย-ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล”
หม่อมน้อยเผยว่า
“การถ่ายทอดบท ‘คนบาป’ ได้อย่างแนบเนียนสมจริงไม่ได้ทำง่ายๆ เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบทของ ‘ชนะชล’ และ ‘เมขลา’ ซึ่งเป็นตัวละครที่มีการศึกษาสูง มาจากครอบครัวที่ดี และรู้ดีรู้ชั่ว แต่เพราะเหตุใดตัวละครทั้งสองจึงประพฤติผิดศีลธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม แต่ ‘ชาคริต’ สามารถแสดงให้เห็นธาตุแท้ของมนุษย์ได้อย่างเจ็บปวดทรมาน สะเทือนอารมณ์ได้อย่างยอดเยี่ยม และที่น่าจับตามองก็คือ ‘อ้อม กานต์พิสชา’ ที่สามารถถ่ายทอดบท ‘นางบาป’ ได้อย่างงดงาม ลึกลับ น่าค้นหา ตรงตามบทประพันธ์ของวานิช จรุงกิจอนันต์ จริงๆ”
เตรียมชมเรื่องราวของเหล่าคนบาปใน “แม่เบี้ย” เวอร์ชั่นหม่อมน้อย 17 กันยายนนี้ในโรงภาพยนตร์
Post by: FB on August 06, 2015, 09:24:50 AM
ได้ฤกษ์ดีแถลงข่าวเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วสำหรับ “แม่เบี้ย” ภาพยนตร์วิจิตรกามา (Erotic อีโรติค) ที่ถูกจับตามองมากที่สุดของปีนี้ของผู้กำกับชั้นครู “หม่อมน้อย-ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล” พร้อมล้วงลึกเรื่องราวความรัก, คนบาป และความเร้นลับแห่งอสรพิษ กับนักแสดงครบทีมและผู้กำกับเป็นครั้งแรกอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ณ โรงภาพยนตร์ควอเทียร์ ซีเนอาร์ต ชั้น 4 ศูนย์การค้าดิ เอ็มควอเทียร์ ท่ามกลางกองทัพสื่อมวลชนคับคั่ง
เปิดงานด้วยวิดีโอพรีเซนเทชั่นเรื่องราวของเหล่าตัวละครคนบาป ก่อนที่จะเชิญทีมนักแสดง “ชาคริต แย้มนาม, กานต์พิสชา เกตุมณี, จิรวิชญ์ พงษ์ไพจิตร, อาภา ภาวิไล, ชัยวัฒน์ ทองแสง” และ “ศักราช ฤกษ์ธำรงค์” พร้อมด้วย “หม่อมน้อย” ผู้กำกับฯ ขึ้นมาพูดคุยถึงเบื้องหลังงานสร้าง การถ่ายทอดเนื้อหาสาระและการแสดงของ “แม่เบี้ย” เวอร์ชั่น 2558 นี้ที่เรียกได้ว่าตรงกับแก่นแท้ตามบทประพันธ์ของนักเขียนรางวัลซีไรต์ “วาณิช จรุงกิจอนันต์” มากที่สุดแล้ว
จากนั้นสะกดทุกสายตาด้วย “ตัวอย่างภาพยนตร์ฉบับเต็ม” ที่ฉายโชว์ครั้งแรกต่อสื่อมวลชนและทีมนักแสดงเป็นครั้งแรก ก่อนที่จะปล่อยสู่สาธารณชนอีกครั้งกลางเดือนสิงหาคมนี้ พร้อมปิดท้ายด้วยการถ่ายภาพรวม นำโดย คุณเตือนใจ เตชะรัตนประเสริฐ รองประธานกรรมการบ.สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จก. , คุณนิธิ พัฒนภักดี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายสื่อโฆษณา บ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จก.มหาชน ร่วมถ่ายภาพพร้อมกับผู้กำกับและนักแสดงนำจากภาพยนตร์เรื่อง แม่เบี้ย
และในค่ำคืนวันที่ 14 กันยายนนี้ สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จะจัดฉายภาพยนตร์ “แม่เบี้ย” รอบ Royal Gala Charity Night (รอยัล กาล่า แชริตี้ ไนท์) พร้อมมิวสิคัลโชว์จาก “รัดเกล้า อามระดิษ”, “ฮัท จิรวิชญ์” และ ศิลปินเดอะสตาร์ เพื่อนำรายได้สมทบทุนมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก และมูลนิธิสหมงคลฟิล์ม ติดตามรายละเอียดได้ที่ FB: Sahamongkolfilmint (เฟสบุ๊ค สหมงคลฟิล์มไอเอนที)
เตรียมชมภาพยนตร์วิจิตรกามาสะท้อนเรื่องราวของเหล่าคนบาปใน “แม่เบี้ย” เวอร์ชั่นหม่อมน้อย 17 กันยายนนี้ในโรงภาพยนตร์
Post by: FB on August 07, 2015, 03:34:18 PM
จุดเริ่มต้น-ที่มาที่ไปของ "แม่เบี้ย"
จริงๆ แล้วมันเริ่มจากข่าวที่ว่ามีผู้หญิงแม่ลูกที่มาจากเมืองนอก แต่งชุดไทยแล้วไปเดินในห้างก็มีคนหาว่าบ้า ประเด็นนั้นเป็นประเด็นที่สนใจมาก มันสะท้อนให้เราได้รู้ว่าคนปัจจุบันนั้นคิดอะไรอยู่กับการที่คนแต่งชุดไทยเพราะฉะนั้นเราคิดว่าโลกสมัยใหม่เปลี่ยนไปมาก คนไทยอยู่ในเมืองไทยแต่งชุดไทยมันแปลกกันมาก คนตลกหรือคนว่าโอเวอร์ เราไปญี่ปุ่นไปโตเกียวคนใส่กิโมโนมีแต่คนยกย่อง ทั้งๆ ที่ประเทศญี่ปุ่นเจริญกว่าเราตั้งมากมาย แต่เค้ายังยึดมันกับขนบธรรมเนียมของเค้าไปพร้อมๆ กับความเจริญ มันก็ถูกของเค้า เราก็เลยมีความรู้สึกว่าคนไทยลืมรากเหง้าของตัวเองโดยเฉพาะคนปัจจุบันที่รับวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามาจนลืมรากเหง้าของตัวเอง หรือว่าคนที่เห็นรากเหง้าของเราเองเป็นคนเพี้ยน, ตลก หรือเชยเท่านั้นเองหรือ ซึ่งตรงกับแก่นแท้หรือวรรณกรรม "แม่เบี้ย" ของ "คุณวาณิช จรุงกิจอนันต์" เป็นอย่างยิ่ง ถ้าไปอ่านวรรณกรรมเรื่องนี้จะเห็นว่าไม่ได้พูดถึงความรักหรือความพิศวาสระหว่างชนะชลกับเมขลาโดยมีงูหนึ่งตัว ทำให้ตื่นเต้นอย่างเดียว แต่จริงๆ แล้วแก่นแท้อยู่ที่ว่ารากเหง้าของตัวเองนั้นอยู่ที่ไหน คนไทยกำลังลืมขนบธรรมเนียมประเพณีไทย นิยายนั่นเขียนเมื่อเกือบ 40 ปีที่แล้วนะ ไม่เชยเลย ยิ่งยุคนี้ยิ่งหนักเข้าไปอีก จากข่าวนั้นทำให้เรารู้สึกสะเทือนใจนะว่าคนรุ่นใหม่เห็นความเป็นไทยเป็นเรื่องตลกหรือเรื่องบ้า
มันอาจจะเป็นยุคใหม่หรือเปล่าที่คนไทยไม่ค่อยรู้เรื่องความเป็นไทย
นั่นน่ะสิ ทำไมเราไม่ดูเกาหลี ญี่ปุ่น เป็นตัวอย่างล่ะ ขณะที่เค้าเป็นประเทศที่เจริญกว่าเราตั้งเยอะ เค้าไฮเทคกว่าทุกเรื่อง เศรษฐกิจเค้าก็ดีกว่าทุกอย่าง ดีกว่าหมด ทำไมเค้าถึงเห็นวัฒนธรรมของเค้าเป็นสิ่งที่น่ายกย่อง จริงหรือไม่จริง
การดัดแปลงเนื้อหาจากนิยายสู่ภาพยนตร์
จริงๆ แล้วตอนนึกถึง "แม่เบี้ย" แล้วกลับไปอ่านอีกทีหนึ่ง มันก็ชัดเจนเลยว่าจริงๆ แล้วพี่วาณิชซ่อนสิ่งนี้เอาไว้ เหมือนรู้ว่าอีก 30-40 ปีข้างหน้าคนไทยยิ่งจะไม่เห็นคุณค่าของความเป็นไทยมากขึ้นแล้วก็มากขึ้น เป็นสิ่งที่น่าเสียดาย เพราะเรื่องจริงๆ แล้วจะเป็นเรื่องที่ดำเนิน 7 วันสุดท้ายในชีวิตของชนะชลที่ค้นพบความเป็นตัวเองที่บ้านไทยโบราณหลังนั้นที่บางปลาม้า ริมแม่น้ำสุพรรณ ที่ตรงนั้นเองที่เค้าค้นพบตัวเองว่าเราคือใคร และเค้าหลงใหลในความเป็นไทยอย่างไร รากเหง้าของเค้าเป็นอย่างไร และท้ายสุดก็จบชีวิตลงที่นั่น ซึ่งคนที่ทำภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่เคยนึกถึงตรงนั้นเลย ซึ่งจริงๆ แล้วมันเป็นแก่นแท้ๆ แต่เราไปเน้นเรื่องพิศวาสระหว่างเมขลากับชนะชลเท่านั้น
พอเราอ่านใหม่จริง บรรยากาศเมื่อ 40 ปีที่แล้ว มือถือก็ไม่มีในเรื่อง คอมพิวเตอร์ก็ไม่มี ไฟฟ้าในบ้านเรือนไทยก็ไม่มี ต้องปรับให้เยอะเพื่อที่จะให้เข้ากับยุคปัจจุบัน เราก็เลยต้องปรับอะไรหลายๆ อย่างในบทประพันธ์ แต่ยังรักษารากแก่นแท้เอาไว้ว่าต้องการจะพูดอะไรกับคนอ่าน เพราะฉะนั้นเราต้องมีการสร้างตัวละครใหม่เกิดขึ้นมา มีการเปรียบเทียบระหว่างบ้านเมขลาที่บ้านสุพรรณบุรีกับบรรยากาศในกรุงเทพฯ ที่เป็นไฮเทค เพราะฉะนั้นตัวละครจะมี 2 ฝั่ง คือฝั่งหนึ่งที่จะอยู่กรุงเทพฯ แล้วอีกโลกหนึ่งคือโลกเล็กๆ โลกของบ้านเมขลาที่สุพรรณบุรีที่เค้ารักษาความเป็นไทยไว้ ตัวเมขลาเองเป็นตัวที่เชื่อมระหว่างโลกสมัยใหม่กับโลกสมัยเก่า เรื่องจะพูดถึงตัวละครที่ติดอยู่กับอดีต ทั้งที่ตัวเมขลาเองก็ติดอยู่กับอดีต ชนะชลเองก็ติดอยู่กับอดีต อดีตที่คลุมเครือมากที่ทั้งคู่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
ประเด็นหลักมันก็คือพี่วาณิชกำลังพูดถึงโลกของวัตถุและโลกของจิตใจ บ้านที่สุพรรณเป็นบ้านที่เชื่อด้วยจิตใจ เป็นเรื่องที่เชื่อเรื่องวิญญาณ ขณะที่เมขลาอยู่ใน 2 โลกคือโลกของกรุงเทพฯ แล้วก็โลกของเก่า เธอจึงอยู่ในความก้ำกึ่งของโลกที่ทันสมัยมากและโลกที่เก่ามาก ส่วนชนะชลเองพยายามค้นว่าพ่อแม่จริงๆ ของตัวเองคือใคร เค้าไม่รู้ว่าพ่อแม่เค้าคือใคร เค้ารู้แต่ว่าเป็นเด็กที่ถูกขอมาเลี้ยงแล้วเค้าก็จมน้ำ จนไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้ภาคภูมิต้องพาเค้าไปที่บ้านหลังนั้น บ้านของเมขลาที่สุพรรณบุรี เค้าเกิดอาการเดฌาวู (Deja-Vu) เหมือนกับว่าเคยมาที่นี่ เค้ารักที่นี่ แล้วหลงใหลในความเป็นไทยที่นี่ จริงๆ ซึ่งอันนี้มันเป็นรายละเอียดที่ทุกเวอร์ชั่นของ "แม่เบี้ย" ไม่เคยพูดถึง และไม่พาลึกสู่ภูมิหลังของตัวละคร แต่จะไปเน้นเรื่องพิศวาส ความลึบลับของงู และความตื่นเต้นอย่างเดียว
"แม่เบี้ย" เวอร์ชั่นหม่อมน้อยเป็นอย่างไร
ทุกๆ อย่างมีหมด มีทุกประการอย่างน้อยที่สุดยังไงก็เป็นหนังวิจิตรกามาคืออีโรติก คือความงามของเซ็กซ์เปรียบได้กับฉากอัศจรรย์ของวรรณคดีโบราณที่พูดถึงเรื่องบนเตียงมาก งูคือตัวละครสำคัญของเรื่อง พระเอก-นางเอกของเรื่องตัวจริงคืออะไร มันมีอะไรหลายๆ อย่างที่น่าจะคิดกัน ถ้ามองผิวเผินก็จะมองว่างูเป็นตัวร้าย งูเป็นสิ่งที่ดุร้าย เลวร้ายโดยทั่วๆ ไป แต่งูในตัวละครของพี่วาณิชจะออกมาทุกๆ ครั้งที่ตัวละครทำอะไรที่ไม่ดี ผิดศีลธรรม ซึ่งเรื่องนี้พูดถึงตรงนี้อย่างรุนแรงมาก จริงๆ เรื่องนี้พูดถึงคนผิดศีล จะออกมาการนี้ตลอด หรือจะออกมาฆ่าคนที่ทำบาป เพราะฉะนั้นงูคืออะไร งูจะลึบลับมาก เป็นประเด็นที่น่าดูมากๆ งูในนี้เวอร์ชั่นนี้จะแตกต่างมาก ซึ่งงูในเวอร์ชั่นอื่นๆ จะเป็นงูที่พิศวาส แต่เรื่องนี้จะมีทั้งความน่ารักและความน่ากลัวของงูที่เราเราตีความเป็นงูเห่ายักษ์
คือถ้าเราเอาวรรณกรรมไทยที่ดีมากเรื่องนี้มาทำ เราต้องรักษาแก่นของผู้ประพันธ์เอาไว้ ท่านก็เป็นนักประพันธ์รางวัลซีไรต์ ต้องมีอะไรที่มีคุณค่ามากกว่านิยายธรรมดา "แม่เบี้ย" ไม่ใช่นิยายธรรมดา ท่านเอาความอีโรติก เอาความลึบลับของงู ความลึบลับของบ้านมาเป็นเปลือกนอก แต่จริงๆ แล้วท่านพูดถึงคนบาป และสอนให้คนอย่าทำบาปกรรม เพราะตอนจบก็จะได้เห็นผลการกระทำของตัวละครทุกตัว ไม่ว่าจะเมขลา, ชนะชล หรือว่าใครก็ตามในเรื่องนี้ล้วนเป็นคนบาปทั้งสิ้น ทุกคนก็จะได้รับผลชะตากรรมของตัวเองเป็นการเตือนว่ามนุษย์ต้องดูตัวเองนะ และดูตัวละครในเรื่องแล้วลดทอนบาปของตัวเองลงไป เพราะว่าเราคิดว่าคนในปัจจุบันทำบาปซะจนชิน เป็นเรื่องธรรมดามาก เช่นเรื่องง่ายๆ การโกหกเอาตัวรอด คนสมัยนี้เป็นคนฉลาดหลักแหลม ซึ่งตัวเราเองทุกคนก็เป็น เช่น วันนี้ทำไมมาสาย รถติด จริงๆ ก็โกหกแล้ว จริงๆ อาจตื่นสาย คือโกหกจนเป็นเรื่องธรรมดา เราเลยมีการสร้างตัวละครขึ้นมาเพื่อซับพอร์ตในบทสรุปความร้ายทั้งมวลคือมนุษย์นั่นเอง
ในแง่ของการดำเนินเรื่องคือ 7 วันสุดท้ายในชีวิตของชนะชล ที่เคาท์ดาวน์ลงไปว่าในแต่ละวันเค้าพบอะไรบ้าง เค้าเรียนรู้อะไรบ้าง แล้วท้ายสุดคืออะไร วิธีดูหนังต้องเป็นแบบนี้ ไม่ใช่มาดูพระเอก-นางเอกรักอย่างดูดดื่ม เป็นไปไม่ได้ เป็นคำถามหลายครั้งว่าทำไมไม่เห็นรักกันเลย เราก็เลยบอกว่าอยู่กัน 7 วันจะเอาอะไรมารักกันล่ะ มันไม่ใช่ขวัญเรียมนะ ขวัญเรียมเค้ารักกันมาตั้งแต่เด็ก แล้วนี่ก็ไม่ใช่หนังรัก คนดูต้องเปิดใจดูสิ่งใหม่ มองแม่เบี้ยในมุมมองใหม่ เราก็มาทำแม่เบี้ยเวอร์ชั่นใหม่ที่พี่วาณิชพูดกับสังคมไว้ แก่นแท้ไม่ล้าสมัยเลย
ผู้ชมจะติดกับฉากจำในหนังเวอร์ชั่นเก่าๆ
เราว่าฉากจำ มันเป็นเพราะตอนที่ "คิง สมจริง" ทำเมื่อปี 2544 เขาก็ทำฉากขูดมะพร้าว ซึ่งจริงๆ ในวรรณกรรมก็ไม่มี คือเขาต้องการขายหน้าอก ยกเว้นอย่าง "จันดารา" ที่ถูน้ำแข็ง อันนั้นในบทประพันธ์มันมี เราเอาน้ำแข็งเป็นสำคัญ อันนี้มะพร้าวไม่ได้เป็นสัญลักษณ์บอกอะไร เพียงแต่ขูดแล้วเห็นฐานนมของมะหมี่แค่นั้น เพราะฉะนั้นเราว่าหนังเรื่องนี้มันเห็นมากกว่านั้นอีก เป็นอีโรติกเยอะกว่านั้น
นี่ไงมันเป็นเพราะไปติดกับตรงนั้นก็ดูอันนั้นไป เราจะทำใหม่ทำไม มันตั้งกี่ปีมาแล้ว มันไม่ใช่หนังรีเมกนี่ แล้วจะทำทำไมให้เหมือนเก่า แล้วคุณค่าของมันอยู่แค่นี้เหรอ คุณซื้อตั๋วดูกี่ร้อยบาท เพื่อดูแค่นี้เหรอ คุณไม่เอาคุณค่าว่าหนังสอนอะไรคุณเหรอ สอนตัวคุณให้คุณเห็นสัจธรรมอะไรบางอย่างในชีวิตหรือเห็นข้อบกพร่องของตัวคุณแล้วเอาไปปรับปรุงตัวคุณ ไม่แน่คุณดูหนังเรื่องนี้ คุณอาจพบตัวคุณในตัวละครหลายตัวในนี้ แล้วได้เห็นข้อบกพร่องของเขา เพื่อจะปรับให้เราเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ขึ้น นี่คือหน้าที่ของหนังไม่ใช่เหรอ หนังมีหน้าที่บันเทิงอย่างเดียวเหรอ ไม่ใช่นะ คุณจ่ายเงินเท่าไหร่ 200-300 บาท แล้วก็มาหัวเราะๆ ตื่นเต้นๆ แล้วเดินออกไปอย่างนั้นเหรอ หนังตื้นขนาดนั้นเหรอ ไม่จริง หนังทุกประเภทเลย ไม่ว่าจะเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่หรือหนังอะไรก็ตามก็สอนคุณธรรมหมด เหล่าร้ายผู้อธรรมก็แพ้คนดีหมด หนังทุกเรื่องมันมีคุณธรรมอยู่ในนั้น หรือหนังตลกหลายต่อหลายเรื่อง บางทีเราหัวเราะข้อบกพร่องของตัวเราเองด้วยซ้ำไป แล้วคุณมองภาพยนตร์อย่างไร คุณมองศิลปะภาพยนตร์อย่างไร การดูหนัง การเข้าไปในโรงหนัง การไปอยู่กับคนหลายๆ คน แล้วสมาธิจดจ้องอยู่ในสิ่งเดียวกัน มันเหมือนคุณกำลังฟังธรรมอยู่ใช่ไหม ใช่ ซึ่งผู้กำกับระดับโลกหลายท่านก็คิดแบบนี้
จริงๆ เด็กรุ่นใหม่ก็ไม่รู้จักหนังเรื่อง "แม่เบี้ย"
ก็จะบอกว่า จริงๆ ตอนนี้กี่เปอร์เซนต์ของคนดูภาพยนตร์รู้จักวรรณกรรม "แม่เบี้ย" เราว่าคนคงรู้จักแค่ 5 เปอร์เซนต์เองมั้ง ที่รู้จักจริงๆ เคยอ่านหนังสือจริงๆ หรือเคยดูหนังเก่าจริงๆ คนดูหนังเก่าเขาอายุเท่าไหร่ มันเทียบไม่ได้ เหมือน "แผลเก่า", "ชั่วฟ้าดินสลาย" ทุกอย่างเป็นศูนย์หมด ไม่มีใครจำดีเทลได้ จำเรื่องก็ไม่ได้ จำอะไรก็ไม่ได้สักอย่างเดียว หรือคุณไปจำอะไรก็ไม่รู้ แล้วก็เอามาพูด ไปจำว่าชนะชล-เมขลา จำได้แค่นั้น แผลเก่าก็จำได้แต่ขวัญ-เรียมเท่านั้น แล้วคุณคิดว่าคุณรู้ คุณจำได้ ไม่ใช่เลย คุณจำได้แต่ขูดมะพร้าวจบ แต่การขูดมะพร้าวนั้นคือหนังเรื่อง "แม่เบี้ย" เหรอ มันคือแก่นแท้ของแม่เบี้ยเหรอ ไม่ใช่เลย มันเป็นหนึ่งฉากที่ขายนมผู้หญิงก็จบ ไม่มีความหมายลึกซึ้งอะไรเลย
ฉากอีโรติกในเรื่องนี้เป็นอย่างไร
จริงๆ แล้วฉากอีโรติกในแต่ละฉากจะมีความหมายต่างกัน มันขึ้นอยู่กับตัวละคร ก็มีอยู่ประมาณ 3-4 ฉาก จะเห็นได้ว่าฉากอีโรติกแรกของหนังเป็นฉากภาคภูมิกับสาวใช้ของเมขลาที่ใต้ถุนของบ้านในระหว่างที่ข้างบนมีการแสดงหุ่นกระบอกรามสูร-เมขลา ฉากนั้นเป็นฉากแรกจะเห็นได้ชัดเลยว่าตัวละครภาคภูมิจะเป็นคนมักมากในกาม เป็นคนที่เสรีในเรื่องเพศมาก แล้วตัดสลับกับหุ่นกระบอก ซึ่งอันนี้มีความหมายที่ลึกซึ้งอยู่มาก หุ่นกระบอกเมขลากับรามสูรเป็นสัญลักษณ์ของพายุคือ พายุฝน ฟ้าแลบ ฟ้าร้อง ก็เพราะว่านางเมขลาล่อแก้วรามสูร ฟ้าผ่าก็คือรามสูรขว้างขวานไป มันก็เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เปรียบเทียบได้ระหว่างมนุษย์หญิง-ชายที่มีเคมีตรงกันจริงๆ จึงเกิดขึ้นได้บ่อยๆ อย่างตัวละครภาคภูมิก็จะมีเซ็กส์กับผู้หญิงที่ตัวเองพอใจเท่านั้น แต่สิ่งที่เค้ากระทำเป็นสิ่งที่แย่ที่สุดเพราะว่าเค้ากระทำในเรือนโบราณนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้คุณหรืองูเจ้าปรากฏตัวขึ้นมา แล้วก็ยังเป็นสัญลักษณ์ของชนะชลที่เห็นเมขลาแล้วใจนึกอยากจะทำเช่นนั้น ซึ่งฉากของชนะชลและเมขลาเกิดจากการที่จริงๆ แล้วชนะชลโดนคลุมถุงชนโดนบังคับแต่งงานกับไหมแก้ว มันไม่ได้เกิดขึ้นจากความรัก เวลาที่ชนะชลเจอเมขลาในชุดไทยเค้าหลงใหลในความเป็นไทย หลงใหลในบรรยากาศบ้านนั้นที่ทำให้เกิดความรู้สึกคุ้นเคย มันเหมือนมีพลังงานบางอย่างที่สองคนนี้ดึงดูดกัน มันเลยกระตุ้นทำให้ชนะชลมีความรู้สึกทางเพศกับเมขลาที่ค่อนข้างรุนแรงโดยที่ตัวเองไม่รู้ตัว เพราะฉะนั้นในฉากที่เค้ามีอะไรกันเนี่ยมันเลยเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมาก เพราะความสัมพันธ์ของเมขลาและชนะชลมันมีอดีตที่อยู่ในจิตใต้สำนึกของทั้งคู่เป็นทุนอยู่ มันเลยเป็นฉากที่ค่อนข้างรุนแรงมาก
มันอาจจะเป็นอีกก้าวหนึ่งจริงๆ ที่หนังไทยได้แสดงความงามของสรีระของผู้ชาย-ผู้หญิงมากๆ ในฉากที่นั่งคุยกันโดยที่ผู้หญิงนั่งเปลือยอกหมดเลยหรือผู้ชายก็วับๆ แวมๆ ซึ่งเราก็ไม่ได้จงใจที่จะขายสิ่งเหล่านั้น แต่ในความเป็นจริงพวกเราก็ทำแบบนั้นอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ซึ่งในภาพยนตร์เราก็คิดในพื้นฐานของความเป็นจริงทั้งหมด ก็ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าความคิดคำว่าเซ็กส์ของคนไทยแล้วเป็นอย่างไร มันก็เป็นเรื่องที่เราทำกันอยู่เป็นเรื่องปกตินะ คนที่ไม่ทำเลยคงต้องไปหาจิตแพทย์เป็นอย่างมาก นอกจากเป็นพระหรือสมณเพศ
ภาพยนตร์ทุกเรื่องของเราไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะทำแบบนั้น เพราะฉะนั้นแล้วอยากให้ทั้งคนดูทั้งสื่อเข้าใจด้วยว่ามันไม่ได้ทำง่ายๆ มันต้องมีเหตุผลพอที่จะทำ คนอายุ 60 กว่าแล้วอย่างเราต้องให้คนมาสังวาสแล้วถ่ายกันแค่นั้นเหรอ ก็ไม่ใช่ แต่สิ่งเหล่านี้ทำผ่านชีวิตเรามามากแล้ว คิดด้วยซ้ำว่าเป็นเรื่องธรรมดา หรือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธ์ด้วยซ้ำไป เพราะว่าประเด็นเหล่านี้คนไทยในยุคนี้ในยุคที่การทำงานภาพยนตร์เจริญเติบโตไปมาก พัฒนาไปมากถึงขนาดนี้แล้ว มันน่าจะใจกว้างพอที่จะมองออกว่างานที่ศิลปินอยากจะทำออกมาเพื่อนำเสนอที่จริงแล้วทำเกี่ยวกับพฤติกรรมมนุษย์ผ่านจอออกมานี้ มันมีจุดประสงค์หรือวัตถุประสงค์อย่างไร ซึ่งคนอายุอย่างเราคงไม่ต้องมาทำเล่นๆ หรือว่าทำเอาสนุก มันถึงเวลาแล้วที่เราคิดว่าคนไทยจิตใจน่าจะกว้างขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเสพภาพยนตร์
โลเกชั่นเรื่องนี้เป็นยังไงบ้าง
หลักๆ คือโลเกชั่นบ้านไทย ซึ่งบังเอิญมากเราได้บ้านไทยริมน้ำที่สุพรรณบุรี ที่บางปลาม้าจริงๆ ซึ่งไม่เคยผ่านการถ่ายทำภาพยนตร์หรืออะไรมาก่อนเลย ซึ่งเป็นบ้านเก่าเจ้าของเก่าทำร้านอาหารแล้วเลิกทำไป 3 ปีเลยทิ้งไว้ร้างๆ แบบนั้น เราก็เลยได้ไปรีโนเวทใหม่ ซึ่งสวยเหลือเกิน บรรยากาศก็ดีมาก แล้วเราก็เลยทำให้น่าเชื่อให้สมเป็นบ้านของเมขลาจริงๆ ดูลึบลับ มีอะไรบางอย่างที่มีกระแสคลื่นที่ลึบลับ ก็เหมาะกับบ้านหลังนี้มาก มันสวยมากๆ
มุมมองใหม่ผ่านการถ่ายทำของตากล้องโฆษณา
เรื่องการถ่ายทำครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เราใช้ตากล้องจากวงการโฆษณา คือ "คุณอุดม วรประคุณ" เพราะถ้าสังเกตดีๆ มันกลายเป็นหนังที่ไม่พีเรียดเรื่องแรกของเราในระยะหลังด้วยซ้ำไป เพราะฉะนั้นเราอยากได้มุมมองเก๋ๆ ทันสมัยกับหนังเรื่องนี้ก็เลยใช้ตากล้องโฆษณามาถ่าย ซึ่งก็ทำออกมาได้ดีทีเดียว มันได้แง่มุมใหม่ๆ ซึ่งเราไม่เคยเห็นแล้วเราไม่เคยทำด้วย
คือว่าในส่วนที่เป็นกรุงเทพฯ ทั้งหมด เราใช้เครื่องมืออย่างโดรนมาถ่ายในฉากเปิดเรื่องที่ภาคภูมิขับรถข้ามสะพาน เราใช้เครื่องมือมากขึ้น ให้มันดูทันสมันมากขึ้น หรือการใช้มุมกล้องที่เป็นแฮนด์เฮลในบริษัทของชนะชล แสงที่มองดูเป็นเรื่องทันสมัย ในบ้านชนะชลที่เป็นบ้านในยุคปัจจุบัน ปกติบ้านเราเป็นบ้านพีเรียดหมด การใช้แสงเป็นแสงที่เหมือนจริงในปัจจุบัน เพราะฉะนั้นมุมกล้องต่างๆ เป็นเรื่องทันสมัยกว่าหนังเรื่องอื่นๆ ที่ทำมา เพราะฉะนั้นเราถึงใช้ตากล้องที่มาจากวงการโฆษณา เวลาเมขลาอยู่ที่กรุงเทพฯ เขาจะเป็นผู้หญิงเก๋ๆ แต่พอไปอยู่บ้านที่สุพรรณก็จะดูเป็นไทย เพราะฉะนั้นมันจะมีความแตกต่างระหว่างกรุงเทพฯ ที่ทันสมัยกับบ้านที่สุพรรณที่มีความเป็นไทยมากซึ่งในหนังเรื่องอื่นเราไม่มี ซึ่งอันนี้มุมกล้องต่างๆ มันมีอะไรที่เก๋ไก๋ขึ้นมากว่าเดิมมาก ร่วมสมัยมากขึ้น
ทีมงานเบื้องหลังอื่นๆ
เสื้อผ้า-หน้าผม เราใช้ทีมเดิมหมดเลย เราใช้เสื้อผ้า "โจ้ Surface" (อธิษฐ์ ฐิรกิตติวัฒน์) กับเมคอัพอาจารย์ "ขวด-มนตรี วัดละเอียด" ทุกอย่างเหมือนเดิมหมดเลย แล้วก็คือทำงานเข้าขาแล้ว เสื้อผ้าก็มีทั้งเสื้อผ้าที่ทันสมัยแล้วก็เสื้อผ้าที่เป็นความเป็นไทย โดยที่ผ้าไทยเป็นผ้าไทยที่ทำใหม่แต่ว่ารักษาของเดิมไว้ ราคาแพงมาก เอามาใช้เป็นผ้านุ่งของเมขลา เครื่องประดับก็เป็นของเก่าจริงๆ เป็นของโบราณจริงๆ ทั้งหมด ส่วนเสื้อผ้าฝั่งกรุงเทพฯ ก็มีการดีไซน์ใหม่ทั้งหมด ให้ทันสมัยให้ร่วมสมัยขึ้น ทรงผมมีการดีไซน์พิเศษสำหรับตัวเมขลาเท่านั้น ให้ร่วมสมัยด้วยแล้วก็เป็นตัวของเขาด้วย มีความเป็นศิลปินอยู่ในตัวด้วย ฉากก็เหมือนกัน บ้านเมขลาที่กรุงเทพฯ จะมีความเป็นบ้านศิลปิน เป็นบ้านของอาร์ติส คนจบศิลปากร อันนี้มันมีความพิเศษตรงนั้น
ในส่วนของเพลงและดนตรีประกอบก็มีความละเมียดไม่แพ้ด้านอื่นๆ
ดนตรีประกอบเรื่องก็ทำโดย "อาจารย์ปิติ เกยูรพันธ์" ที่ทำแผลเก่า ซึ่งก็น่าสนใจมาก เพราะว่าดนตรีธีมของเรื่องมีอยู่ 2 ธีม ธีมหนึ่งคือใช้ "เพลงลาวคำหอม" คือเพลงไทยเดิมมาทำใหม่ กับอีกเพลงหนึ่งคือ "เพลงรู้กันแค่สองคน" ซึ่งแต่งใหม่เป็นเพลง R&B ซึ่งทั้ง 2 เพลง ร้องโดย "ฮัท จิรวิชญ์" (ฮัท เดอะสตาร์) ที่เล่นเป็นภาคภูมิ ซึ่งคุณปิติทำออกมาได้ดีมาก ฮัทเองก็ร้องได้เพราะมาก แตกต่างกันมากทั้ง 2 เพลง
"ลาวคำหอม" เป็นเพลงยุคเก่า คุณยายคุณย่าร้องกล่อมลูกหลาน มันเป็นเพลงเหมือนเพลงกล่อมลูก ซึ่งเป็นจิตวิญญาณของตัวเมขลา เป็นจิตวิญญาณของความเป็นไทย ส่วน "รู้กันแค่สองคน" เป็นเพลงใหม่ R&B เป็นเพลงจิตวิญญาณของคนสมัยใหม่คือของผู้มีชู้ เพลงทันสมัยมาก เพื่อที่จะเห็นว่าเรื่องเซ็กส์เป็นเรื่องธรรมดา คือจิตเสรีเรื่องการเป็นชู้กัน มันอยู่ที่ใจมากกว่า แล้วก็เป็นเรื่องความลับนะรู้กันแค่ 2 คน เป็นคอนเซ็ปต์ของคนกรุงเทพฯ คนสมัยใหม่
แง่คิดจาก "แม่เบี้ย" เวอร์ชั่นนี้
จริงๆ หนังเองธาตุแท้จะพูดถึงศีลธรรม ถ้าเกิดดูดีๆ เขาไม่มีการโทษใครว่าใครผิดใครถูก จริงๆ มันอยู่ที่คนดูจะตัดสินเอง เป็นการนำเสนอภาพพฤติกรรมของมนุษย์หลายๆ คน ตัวละครหลายๆ แบบในเรื่องนี้มาให้คนดูได้ดู แล้วก็พิจารณาว่าเราเหมือนใครบ้าง ข้อบกพร่องของเขาแต่ละคนมีข้อบกพร่องในตัวเองบ้างหรือเปล่า ความสนุกของหนังจะอยู่ที่ตรงนี้มากกว่า และอาจจะอยู่ที่การตีความว่างูคืออะไรกันแน่ งูที่เมขลาเรียกว่า "คุณ" มีจริงหรือเปล่า หรือเมขลาคิดไปเอง หรือใครคิดไปเอง
มันมีไดอะล็อกสำคัญที่ลุงทิมพูดกับชนะชลในฉากใกล้จะจบว่า ถ้าคุณเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงมันก็จริง ถ้าคุณเชื่อว่าเรื่องนี้มันไม่จริงมันก็ไม่จริง ทุกอย่างอยู่ที่ใจ เวลาเราศรัทธาเราเชื่ออะไร มันก็มีจริง ถ้าเราไม่ศรัทธาไม่เชื่อก็ไม่มีจริง ถ้าเราศรัทธาในคุณงามความดี คุณงามความดีก็มีจริง ถ้าเราไม่ศรัทธาในคุณงามความดี มันก็ไม่มีคุณงามความดีจริงๆ มันขึ้นอยู่กับคุณที่คุณจะเลือกว่า คุณจะศรัทธาในชีวิตหรือไม่ศรัทธา
การดู "แม่เบี้ย" เวอร์ชั่นนี้ให้สนุก ไม่ติดกับภาพจำเก่าๆ
คุณดูเวอร์ชั่นเก่าคุณจำได้เหรอ จำไม่ได้แล้วจะติดภาพอะไร เขาเรียกว่าอุปาทาน คุณอุปาทานไปเอง จริงๆ ถ้าจะดูภาพยนตร์เรื่องนี้ แนะนำว่าทำใจว่างๆ เปล่าๆ แล้วก็เหมือนแอบดูชีวิตคนแล้วสนุกๆ ไป เหมือนเราแอบดูคนข้างบ้าน แล้วเราเรียนรู้อะไรบ้าง เขาเป็นใครยังไง ลืมเรื่องเก่าให้หมด ไม่ต้องไปรู้ว่า "แม่เบี้ย" คืออะไร ใครเป็นใคร เริ่มใหม่ เป็นศูนย์ แล้วคุณจะได้อะไรเยอะเลย อย่างถ้าคุณมีภาพแม่เบี้ยเก่าแล้ว จิตใจคุณดูเหมือนมันผ่านแว่นตาที่มีสี คุณมีฟิลเตอร์อยู่ที่ตาแล้ว คุณจะมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ชัดเจน มีสีย้อมอยู่แล้วก็จะดูไม่สนุกแล้วก็ดูไม่รู้เรื่อง แล้วมันก็จะกลายเป็นไม่เห็นเหมือนเดิม ซึ่งเราจะเสียเวลา เสียพลังงาน เสียเงิน มาสร้างหนังรีเมกซ้ำๆ ซากๆ อย่างนั้นหรือ แต่ว่าความสนุกมันคงอยู่ที่นี่แหละ คนลักษณะนิสัยต่างๆ มาปรากฏอยู่บนจอ ต่อให้เจเนอร์เรชั่นเก่าที่ไม่รู้จักแม่เบี้ย หรือรู้จักแม่เบี้ยดี ก็จะสนุกกับมุมมองใหม่ และแก่นแท้ที่คุณวาณิชท่านได้เขียนเอาไว้
Post by: FB on August 11, 2015, 03:48:57 PM
“ฮัท-จิรวิชญ์ พงษ์ไพจิตร” นักร้องดาวรุ่งและนักแสดงจากภาพยนตร์เรื่อง “แม่เบี้ย” ปลื้มกระแสตอบรับซิงเกิล "รู้กัน...แค่สองคน" เพลงประกอบภาพยนตร์แนวอาร์แอนด์บี เตรียมพร้อมปล่อยเพลงที่ 2 "ลาวคำหอม" ที่นำมาจากเพลงไทยเดิม เรียบเรียงดนตรีใหม่โดยนักดนตรีชั้นครู "อาจารย์ปิติ เกรยูรพันธ์"
ฮัท เผยว่า
“ฮัทไม่เคยคิดเลยว่ากระแสตอบรับจะดีเกินคาดหวัง ขอขอบคุณทุกคอมเม้นต์ ไม่ว่าจะเป็นในทางบวกหรือทางลบ ฮัทจะได้นำไปปรับปรุงให้ผลงานเพลงของฮัทพัฒนาขึ้น สำหรับตอนนี้ฮัทกำลังเตรียมปล่อยเพลงที่ 2 ซึ่งเป็นเพลงไทยเดิมชื่อ ‘ลาวคำหอม’ ซึ่ง ‘อาจารย์ ปิติ เกยูรพันธ์’ นำมาทำดนตรีใหม่ให้เป็นแนวเพลงรักโรแมนติกซึ่งจะนำมาประกอบฉากรักหวานซึ้งในหนังเรื่องนี้ เพลงนี้เป็นเพลงที่ร้องยากมากครับ และก็ไพเราะมาก ฮัทพยายามทำเพื่อให้ผลงานออกมามีคุณภาพที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ เร็วๆ นี้ได้ฟังกันแน่นอนครับ"
เตรียมฟังและชม MVเพลง "ลาวคำหอม" เพลงรักโรแมนติกจากภาพยนตร์ "แม่เบี้ย" เร็วๆ นี้
ภาพยนตร์วิจิตรกามา “แม่เบี้ย” ของผู้กำกับชั้นครู “หม่อมน้อย-ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล” พร้อมฉาย 17 กันยายนนี้ในโรงภาพยนตร์
ข่าวชิ้นนี้เผยแพร่โดย Thai PR
Post by: FB on August 14, 2015, 08:21:05 AM
ตัวอย่างเต็ม แม่เบี้ย (Official Trailer)
Mv. "รู้กัน...แค่สองคน" - เพลงประกอบภาพยนตร์ แม่เบี้ย [Official Mv.]
จากบทประพันธ์อันทรงคุณค่าของนักเขียนรางวัลซีไรต์ "วาณิช จรุงกิจอนันต์" สู่การตีความใหม่และถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์วิจิตรกามาเหมาะกับยุคสมัยในเวอร์ชั่น 2558 โดยผู้กำกับชั้นครู "หม่อมน้อย-ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล" ที่จะพาผู้ชมดิ่งลึกไปกับเรื่องราวความรักเร้นลับและตัณหาราคะดำมืดอันเกินหยั่งถึงของ "เมขลา" สาวสวยล้ำสมัยสุดเซ็กซี่ผู้มีความมั่นใจในตัวเองสูง และใช้ชีวิตอิสระทุกด้านอย่างถึงที่สุด และ "ชนะชล" ชายหนุ่มผู้เพียบพร้อมทั้งรูปสมบัติ, ชาติตระกูล และครอบครัวสมบูรณ์แบบ แต่กลับมาลุ่มหลงอย่างถอนตัวไม่ขึ้นในเสน่ห์อันยั่วยวนใจของเมขลา ผู้เป็นเจ้าของ "เรือนไทยโบราณ" ที่ซึ่งชนะชลมีความหลังฝังใจต่อปริศนาชีวิตในอดีตของเขาที่ยังไม่อาจคลี่คลาย อันเป็นที่มาของความลึกลับน่าสะพรึงกลัวที่ซ่อนเร้นอยู่ในทุกมุมมืดของบ้านหลังนั้น
"แม่เบี้ย"
17 กันยายนนี้ ในโรงภาพยนตร์
Post by: FB on August 14, 2015, 08:28:25 AM
"สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล" และ "หม่อมน้อย-ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล" ร่วมกับ "พารากอน ซีนีเพล็กซ์" ขอเชิญเฝ้ารับเสด็จ "พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ" ในงาน "แม่เบี้ย Royal Gala Charity Night" ชมภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์การกุศล ร่วมกับเหล่านักแสดง "ชาคริต แย้มนาม, กานต์พิสชา เกตุมณี, จิรวิชญ์ พงษ์ไพจิตร, อาภา ภาวิไล, ชัยวัฒน์ ทองแสง, ศักราช ฤกษ์ธำรงค์ ฯลฯ" พร้อมชมมินิคอนเสิร์ต "ฮัท-รัดเกล้า Musical Show" โดย "รัดเกล้า อามระดิษ" ดีว่าแห่งวงการเพลงและนักร้องหนุ่มดาวรุ่ง "ฮัท-จิรวิชญ์" ซึ่งเป็นการนำเพลงอมตะจากละครเวทีและภาพยนตร์หลายยุคหลายสมัยมานำเสนอในแบบบรอดเวย์โชว์ พร้อมนักร้องรับเชิญและแดนเซอร์เต็มรูปแบบ ในวันจันทร์ที่ 14 กันยายนนี้ เวลา 18.00 น. ณ โรงภาพยนตร์สยามภาวลัย พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ชั้น 6 ศูนย์การค้าสยามพารากอน บัตรราคา 1,000 บาททุกที่นั่ง
รายได้จากการจำหน่ายบัตรและประมูลภาพนิทรรศการ (หลังหักค่าใช้จ่าย) สมทบทุน "มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย"
เริ่มจำหน่ายบัตรวันเสาร์ที่ 15 สิงหาคมนี้เป็นต้นไป ที่โรงภาพยนตร์พารากอน ซีนีเพล็กซ์, ควอเทีย ซีเนอาร์ต, เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน, เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ สุขุมวิท, เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ รัชดาภิเษก และ บ.สหมงคลฟิล์มฯ (10.30 น. - 17.00 น.)
ติดตามรายละเอียดได้ที่ FB: Sahamongkolfilmint และโทร. 02-279-2555 ต่อ 513, 514 เวลาทำการ จันทร์-ศุกร์ 10.00 น. - 18.00 น.
ภาพยนตร์วิจิตรกามา "แม่เบี้ย" ของผู้กำกับชั้นครู "หม่อมน้อย-ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล" พร้อมฉาย 17 กันยายนนี้ในโรงภาพยนตร์
Post by: FB on August 18, 2015, 01:02:23 PM
“หม่อมน้อย-ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล” ทุ่มทุนปิดสะพานพระราม 8 ถ่ายทำฉากเปิดภาพยนตร์แนววิจิตรกามาเรื่อง "แม่เบี้ย" ผลงานกำกับเรื่องล่าสุด โดยใช้อุปกรณ์พิเศษ Drone และ Rig ถ่ายทำเพื่อให้ได้ภาพกรุงเทพฯ และแม่น้ำเจ้าพระยาจากมุมสูงสมกับเป็นมหานครอันทันสมัยยิ่งใหญ่ โดยไม่กระทบผู้ขับขี่ในเส้นทางสัญจรนั้น เพราะวางแผนล่วงหน้าเป็นอย่างดี
หม่อมน้อยเผยว่า
“เพื่อให้ได้ภาพยนตร์ยุคปัจจุบันเรื่องแรกในระยะหลังของผม ผมจึงอยากได้ภาพเปิดเรื่องทันสมัยและยิ่งใหญ่ของกรุงเทพฯ ให้งดงามเทียบกับมหานครนิวยอร์ก จึงปิดสะพานพระราม8 เพื่อใช้อุปกรณ์ถ่ายทำ Rig และ Drone ถ่ายทำฉากนี้โดยผู้กำกับภาพมือหนึ่งจากวงการโฆษณา ‘อุดม วรประคุณ’ ซึ่งตามเนื้อเรื่องเป็นฉากที่ ‘ภาคภูมิ’ (ฮัท-จิรวิชญ์ พงษ์ไพจิตร) ขับรถสปอร์ตเปิดประทุนข้ามสะพานพระราม8 ขณะที่พูดโทรศัพท์อยู่กับ ‘เมขลา’ (อ้อม-กานต์พิสชา เกตุมณี) โดยที่ผมต้องการเปิดภาพจากมุมสูง เป็นการนำผู้ชมเข้าสู่โลกวัตถุอันนำสมัยของกรุงเทพฯ ซึ่งการถ่ายทำวันนั้นราบรื่นไม่มีอุปสรรคใดๆ สามารถเก็บภาพกรุงเทพฯ ได้อย่างยิ่งใหญ่งดงามเกินความคาดหมาย เพราะได้วางแผนในการถ่ายทำมาอย่างดีเพื่อไม่เป็นการรบกวนผู้ใช้รถที่สัญจรบริเวณนั้น โดยเราเลือกวันถ่ายทำในวันที่การจราจรโล่งที่สุด และปิดสะพานเพียง 3 ครั้ง ครั้งละ 7 นาทีเท่านั้น”
เตรียมชมฉากเปิดเรื่องสุดอลังการของกรุงเทพฯ นี้ได้ในภาพยนตร์วิจิตรกามา “แม่เบี้ย” ของผู้กำกับชั้นครู “หม่อมน้อย-ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล” พร้อมฉาย 17 กันยายนนี้ในโรงภาพยนตร์
Post by: FB on August 21, 2015, 02:12:33 PM
ตัวอย่างเต็ม แม่เบี้ย (Official Trailer)
“แม่เบี้ย” ภาพยนตร์แนววิจิตรกามา (Erotic) โดยผู้กำกับชั้นครู “หม่อมน้อย-ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล” ได้ปล่อยโปสเตอร์คาแรคเตอร์ เรื่องราวเบื้องลึกของความรัก ตัณหาราคะ เหล่าคนบาป และความเร้นลับแห่งอสรพิษ
จากบทประพันธ์อันทรงคุณค่าของนักเขียนรางวัลซีไรต์ “วาณิช จรุงกิจอนันต์” สู่การตีความใหม่และถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์ดราม่าอีโรติกอย่างวิจิตรบรรจงและเหมาะกับยุคสมัยในเวอร์ชั่น 2558 โดยผู้กำกับชั้นครู “หม่อมน้อย-ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล” ที่จะพาผู้ชมดิ่งลึกไปกับเรื่องราวของเหล่าคนบาปที่พัวพันกันในความรักเร้นลับและตัณหาราคะดำมืดอันเกินหยั่งถึงของ “เมขลา” สาวสวยล้ำสมัยสุดเซ็กซี่ผู้มีความมั่นใจในตัวเองสูง และใช้ชีวิตอิสระทุกด้านอย่างถึงที่สุด กับ “ชนะชล” ชายหนุ่มผู้เพียบพร้อมทั้งรูปสมบัติ, ชาติตระกูล และครอบครัวสมบูรณ์แบบ แต่กลับมาลุ่มหลงอย่างถอนตัวไม่ขึ้นในเสน่ห์อันยั่วยวนใจของเมขลา-เจ้าของ “เรือนไทยโบราณ” ที่ซึ่งชนะชลมีความหลังฝังใจต่อปริศนาชีวิตในอดีตของเขาที่ยังไม่อาจคลี่คลาย อันเป็นที่มาของความลึกลับน่าสะพรึงกลัวที่ซ่อนเร้นอยู่ในทุกมุมมืดของบ้านหลังนั้น ซึ่งมี “คุณ” (งูเห่ายักษ์) คอยเร้นร่างสอดส่องและปรากฏกายห้ามพฤติกรรมอันผิดศีลธรรมของทั้งคู่ที่นำความหายนะมาสู่ตนและคนรอบข้างอย่างมิอาจหลีกเลี่ยง
รวมถึงสะท้อนรากเหง้าความเป็นไทยผ่านภูมิหลังของตัวละครหลักที่ใช้ชีวิตอยู่ในโลกแห่งวัตถุกับโลกแห่งจิตใจอันเป็นแก่นแท้ของวรรณกรรมและภาพยนตร์เวอร์ชั่นนี้
เตรียมชมความร้อนแรงทะลุจอของทั้งคู่ได้ใน “แม่เบี้ย” 17 กันยายนนี้ ในโรงภาพยนตร์
Post by: FB on August 21, 2015, 02:16:15 PM
ใกล้จะถึงวันแสดง “ฮัท-รัดเกล้า Musical Show” หนึ่งไฮไลต์ของงาน “แม่เบี้ย Royal Gala Charity Night” เข้ามาเต็มที ช่วงนี้ผู้กำกับชั้นครู “หม่อมน้อย-ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล” จึงต้องรวมทีมนักร้อง-นักแสดงซ้อมเข้มกันเกือบทุกวันเลยทีเดียว
มินิคอนเสิร์ตนี้เป็นการแสดงโชว์ของ “รัดเกล้า อามระดิษ” ดีว่าแห่งวงการเพลง และนักร้องหนุ่มดาวรุ่ง “ฮัท-จิรวิชญ์” ซึ่งเป็นการนำเพลงอมตะจากละครเวที และภาพยนตร์หลายยุคหลายสมัย มานำเสนอในแบบ บรอดเวย์โชว์ พร้อมนักร้องรับเชิญ และแดนเซอร์เต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น “อรุณพงศ์ ชัยวินิตย์” (ดิว เดอะสตาร์ 5), “ธัญญรัศม์ ไตรสุทธิวงษ์” (กวาง เดอะสตาร์ 7), “ศุภัคชญา สุขใบเย็น” (เฟรม เดอะสตาร์ 8 ), “นัทธพงศ์ พรมสิงห์” (ดิว เดอะสตาร์ 9), “กันต์ธีร์ ปิติธัญ” (ซีดี เดอะสตาร์10), “ณัฐณิชา ชมดี” (มุก เดอะสตาร์10) และแขกรับเชิญสุดพิเศษที่จะมาร่วมโชว์ในงานนี้ด้วย
รัดเกล้าเป็นตัวแทนพูดถึงงานนี้ว่า
“คือเราทุกคนตั้งใจกันทำงานนี้กันมาก เพราะว่างานนี้เป็นงานการกุศล คืออยากจะให้ท่านผู้ชมได้ความบันเทิงทั้งจากภาพยนตร์และคอนเสิร์ต แล้วก็ได้ร่วมทำบุญด้วยกัน เพราะฉะนั้นนอกจากแง่คิดต่างๆ ที่จะได้จากภาพยนตร์แล้ว ในมินิคอนเสิร์ตเองมันก็จะมีอะไรหลายๆ อย่างที่เราจะได้เห็นว่าในแต่ละยุคสมัยเนี่ยภาพยนตร์เป็นอย่างไร ละครเวทีเป็นอย่างไร แล้วก็แต่ละเรื่องนำเสนออะไร มันก็สะท้อนว่าสังคมในยุคนั้นๆ มีค่านิยมเป็นอย่างไรด้วยนะคะ ตอนนี้พวกเราก็ซ้อมกันอย่างเข้มข้นมากๆ แทบทุกวันเลยค่ะ ยังไงก็ไม่อยากให้พลาดชมกันนะคะ รีบจองบัตรกันได้เลย ขอบคุณค่ะ”
“แม่เบี้ย Royal Gala Charity Night” ชมภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์การกุศลร่วมกับทีมนักแสดง พร้อมชมมินิคอนเสิร์ต “ฮัท-รัดเกล้า Musical Show” จะจัดขึ้นในวันจันทร์ที่ 14 กันยายนนี้ เวลา 18.00 น. ณ โรงภาพยนตร์สยามภาวลัย พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ชั้น 6 ศูนย์การค้าสยามพารากอน บัตรราคา 1,000 บาททุกที่นั่ง
รายได้จากการจำหน่ายบัตรและประมูลภาพนิทรรศการ (หลังหักค่าใช้จ่าย) สมทบทุน “มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย”
จองบัตรได้ที่โรงภาพยนตร์พารากอน ซีนีเพล็กซ์, ควอเทีย ซีเนอาร์ต, เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน, เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ สุขุมวิท, เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ รัชดาภิเษก และ บ.สหมงคลฟิล์มฯ (10.30 น. - 17.00 น.)
ติดตามรายละเอียดได้ที่ FB: Sahamongkolfilmint และโทร. 02-279-2555 ต่อ 513, 514 เวลาทำการ จันทร์-ศุกร์ 10.00 น. - 18.00 น.
ภาพยนตร์วิจิตรกามา “แม่เบี้ย” ของผู้กำกับชั้นครู “หม่อมน้อย-ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล” พร้อมฉาย 17 กันยายนนี้ในโรงภาพยนตร์
Post by: FB on August 27, 2015, 03:51:44 PM
มินิคอนเสิร์ต “ฮัท-รัดเกล้า Musical Show” โดย “รัดเกล้า อามระดิษ” ดีว่าแห่งวงการเพลงไทยและนักร้องหนุ่ม “ฮัท-จิรวิชญ์ พงษ์ไพจิตร” ซึ่งเป็นการนำเพลงอมตะจากละครเวทีและภาพยนตร์หลายยุคหลายสมัยมานำเสนอในแบบบรอดเวย์โชว์ เช่นเพลง Singing in the Rain, บัลลังก์เมฆ, ข้างหลังภาพ, กันและกัน ฯลฯ พร้อมนักร้องรับเชิญและแดนเซอร์เต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น “อรุณพงศ์ ชัยวินิตย์” (ดิว เดอะสตาร์ 5), “ธัญญรัศม์ ไตรสุทธิวงษ์” (กวาง เดอะสตาร์ 7), “ศุภัคชญา สุขใบเย็น” (เฟรม เดอะสตาร์ 8 ), “นัทธพงศ์ พรมสิงห์” (ดิว เดอะสตาร์ 9), “กันต์ธีร์ ปิติธัญ” (ซีดี เดอะสตาร์10), “ณัฐณิชา ชมดี” (มุก เดอะสตาร์10) และแขกรับเชิญสุดพิเศษ “มาริโอ้ เมาเร่อ” นักแสดงหนุ่มมากความสามารถที่จะมาร่วมโชว์ในงานนี้ด้วย
“แม่เบี้ย Royal Gala Charity Night” ชมภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์การกุศลร่วมกับทีมนักแสดง พร้อมชมมินิคอนเสิร์ต “ฮัท-รัดเกล้า Musical Show” จะจัดขึ้นในวันจันทร์ที่ 14 กันยายนนี้ เวลา 18.00 น. ณ โรงภาพยนตร์สยามภาวลัย พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ชั้น 6 ศูนย์การค้าสยามพารากอน บัตรราคา 1,000 บาททุกที่นั่ง
รายได้จากการจำหน่ายบัตรและประมูลภาพนิทรรศการ (หลังหักค่าใช้จ่าย) สมทบทุน “มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย”
จองบัตรได้แล้วที่โรงภาพยนตร์พารากอน ซีนีเพล็กซ์, ควอเทีย ซีเนอาร์ต, เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน, เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ สุขุมวิท, เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ รัชดาภิเษก และ บ.สหมงคลฟิล์มฯ (10.30 น. - 17.00 น.)
ติดตามรายละเอียดได้ที่ FB: Sahamongkolfilmint และโทร. 02-279-2555 ต่อ 513, 514 เวลาทำการ จันทร์-ศุกร์ 10.00 น. - 18.00 น.
ภาพยนตร์วิจิตรกามา “แม่เบี้ย” ของผู้กำกับชั้นครู “หม่อมน้อย-ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล” พร้อมฉาย 17 กันยายนนี้ในโรงภาพยนตร์
Post by: FB on September 02, 2015, 04:02:33 PM
"แม็กกี้-อาภา ภาวิไล" ทุ่มสุดตัวเพื่อเข้าถึงบทบาทของ "คุณโกสุม" กุลสตรีไทยโบราณผู้บูชา "งูเจ้า" ที่สิงสถิตอยู่ที่ต้นกร่างใหญ่กลางป่าหลังเรือนไทยโบราณ โดยลงทุนเปลือยอกเข้าฉากพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์อันเร้นลับในป่าลึกที่อำเภอสามชุก สุพรรณบุรี
"หม่อมน้อย-ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล" ผู้กำกับภาพยนตร์ชั้นครูเผยว่า
"ผมรู้สึกนับถือและชื่นชมสปิริตนักแสดงของแม็กกี้ในการทำงานฉากนี้มาก ขอยกย่องว่าแม็กกี้มีวิญญาณศิลปิน ที่ทุ่มเทชีวิตให้กับศิลปะการแสดงอย่างแท้จริง ฉากนี้เป็นฉากสำคัญที่สุดในเรื่อง โดยเล่าย้อนไปเมื่อ 30 ปีที่ผ่านมา เป็นฉากที่ 'คุณโกสุม' (แม๊กกี้-อาภา) กำลังทำพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์กลางป่าเพื่อถวายตัวเป็นสาวกของ 'งูเจ้า' เพื่อเป็นผู้พิทักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณี และศีลธรรมอันดีงาม โดยมี 'ลุงทิม' (ศักราช ฤกษ์ธำรงค์) ข้าเก่าผู้เฝ้าเรือนโบราณมาแอบเห็นพิธีกรรมอันลึกลับนั้น เราถ่ายทำฉากนี้กลางดึกที่กลางป่า อ.สามชุก สุพรรณบุรี ซึ่งบรรยากาศวังเวงน่าขนลุกสมกับท้องเรื่อง และมีการจำกัดทีมงานถ่ายทำให้น้อยที่สุดเพื่อไม่ให้แม็กกี้มีความกังวลขณะถ่ายทำ และผลลัพธ์ที่ได้ออกมาเราได้ฉากที่งดงามประณีตลึกลับน่าสะพรึงกลัวสมความคาดหวัง"
รอชมฉากสำคัญสุดยอดนี้ได้ในภาพยนตร์วิจิตรกามา "แม่เบี้ย" ของผู้กำกับชั้นครู "หม่อมน้อย-ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล" พร้อมฉาย 17 กันยายนนี้ในโรงภาพยนตร์
Post by: FB on September 14, 2015, 08:21:08 AM
นอกเหนือจากนักแสดงนำอย่าง "ชาคริต แย้มนาม", "อ้อม-กานต์พิสชา เกตุมณี", "ฮัท-จิรวิชญ์ พงษ์ไพจิตร" ฯลฯ แล้ว อีกหนึ่งตัวละครสำคัญของภาพยนตร์วิจิตรกามาเรื่อง "แม่เบี้ย" โดยผู้กำกับ "หม่อมน้อย-ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล" ก็คือ "งู" โดยในเวอร์ชั่นใหม่นี้ งูจะถูกตีความใหม่ให้เป็น "งูเห่ายักษ์" เพื่อเพิ่มความขลังและน่าสะพรึงกลัวโดยใช้งูจริงผสมผสานกับเทคนิคคอมพิวเตอร์กราฟิก
หม่อมน้อยเผยว่า
"งูในเวอร์ชั่นนี้ถูกตีความเป็นงูเจ้าผู้พิทักษ์ศีลธรรมอันดีงามจึงมีอิทธิฤทธิ์เหนืองูเห่าธรรมดา ทำให้มีขนาดใหญ่เล็กต่างกันในแต่ละฉากตามมุมมองของตัวละคร อีกทั้งยังมีอารมณ์และความรู้สึกนึกคิดคล้ายกับมนุษย์จึงมีบทบาทหลากหลายอารมณ์ ทั้งดุร้าย เกรี้ยวกราด และมีมุมดราม่าด้วย ทั้งเศร้าใจ น้อยใจ มีความรัก ความอภัย ซึ่งเป็นอีกมุมหนึ่งซึ่งคนดูจะสะเทือนใจไปกับงูในเวอร์ชั่นนี้"
เตรียมชมการตีความใหม่ของงู อีกหนึ่งสีสันของ "แม่เบี้ย" เวอร์ชั่นหม่อมน้อยนี้ได้ 17 กันยายนนี้ในโรงภาพยนตร์
Post by: FB on September 14, 2015, 08:22:17 AM
Post by: FB on September 20, 2015, 11:20:59 AM
นับเป็นภาพยนตร์ไทยที่มี "ฉากอีโรติก" มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยนักแสดงนำทุกคนในภาพยนตร์เรื่อง "แม่เบี้ย" ไม่ว่าจะเป็น "ชาคริต แย้มนาม", "อ้อม-กานต์พิสชา เกตุมณี", "ฮัท-จิรวิชญ์ พงษ์ไพจิตร", "แม็กกี้-อาภา ภาวิไล" และ "ต๊อบ-ชัยวัฒน์ ทองแสง" ต่างก็ทุ่มเทแสดงฉากอีโรติกด้วยสปิริตของนักแสดงมืออาชีพอย่างเต็มความสามารถจนผู้กำกับภาพยนตร์ชั้นครู "หม่อมน้อย-ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล" ถึงกับซาบซึ้งใจในความตั้งใจจริงของนักแสดงทุกคน
หม่อมน้อยเผยว่า
"การแสดงฉากอีโรติกให้งดงามสมจริงเป็นธรรมชาติไม่ขัดเขินและไม่ดูเป็นลามกอนาจาร เป็นสิ่งที่ยากมากสำหรับนักแสดงทุกคนในโลก แต่นักแสดงทุกคนในภาพยนตร์เรื่อง 'แม่เบี้ย' ต่างทุ่มเทจิตวิญญาณในการเข้าถึงตัวละครที่พวกเขาทุกคนรับบทเป็น 'คนบาป' ด้วยจิตใจอันสูงส่ง ไม่ได้แสดงแบบขาดจิตสำนึกในศิลปะการแสดงชั้นสูง ทุกคนไม่ว่าจะเป็นชาคริต, อ้อม, ฮัท, แม็กกี้ และต๊อบ ต่างสวมวิญญาณเป็นตัวละครในเรื่องจนมีมิติราวกับเป็นคนๆ นั้นจริงๆ และถ่ายทอดออกมาบนจอภาพยนตร์ได้อย่างงดงามประณีต เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางศิลปะ สมควรยกย่องเป็นอย่างยิ่ง"
พร้อมชมหลากหลายฉากอีโรติกอันงดงาม อีกหนึ่งสีสันของ "แม่เบี้ย" เวอร์ชั่นหม่อมน้อยนี้ได้แล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์
Post by: FB on September 23, 2015, 03:08:43 PM
นอกเหนือจากนักแสดงชั้นนำอย่าง "ชาคริต แย้มนาม", "กานต์พิสชา เกตุมณี", "จิรวิชญ์ พงษ์ไพจิตร", "อาภา ภาวิไล" และ "ชัยวัฒน์ ทองแสง" ฯลฯ แล้ว ภาพยนตร์วิจิตรกามาเรื่อง "แม่เบี้ย" ของผู้กำกับภาพยนตร์ชั้นครู "หม่อมน้อย-ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล" ยังผงาดความยิ่งใหญ่ให้สมศักดิ์ศรีวรรณกรรมของนักเขียนรางวัลซีไรต์ "วาณิช จรุงกิจอนันต์" โดยได้ "อนันดา เอเวอริงแฮม", "นิว-ชัยพล จูเลี่ยน พูพาร์ต" และ "รัดเกล้า อามระดิษ" นำทีมนักแสดงรับเชิญเกียรติยศร่วมประชันฝีมือการแสดงกันอย่างคับจอ ไม่ว่าจะเป็น "เพ็ญเพชร เพ็ญกุล", "เกรียงไกร อุณหนันทน์", "พุฒิพงศ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร", "ทองภูมิ สิริพิพัฒน์", กรวิชญ์ สูงกิจบูลย์ (จูเนียร์ เดอะสตาร์ 7), "กรกฎ ตุ่นแก้ว" (อ้น เดอะสตาร์ 9), "นัทธพงศ์ พรมสิงห์" (ดิว เดอะสตาร์ 9), "สุธน บู่สามสาย" (ตั้ม เดอะสตาร์ 10) ฯลฯ รวมทั้งนักแสดงพิเศษจากรัชดาลัย เธียเตอร์ที่มาร่วมสร้างสรรค์บทบาทการแสดงที่สมจริงและยิ่งใหญ่ในภาพยนตร์เรื่องนี้
"แม่เบี้ย" ฉายแล้ววันนี้ ทุกโรงภาพยนตร์
Post by: FB on September 26, 2015, 02:20:52 PM
"แม็กกี้-อาภา ภาวิไล" พิสูจน์ฝีมือการแสดงระดับสูงสุดในชีวิตให้แก่โลกบันเทิงในภาพยนตร์วิจิตรกามาเรื่อง "แม่เบี้ย" ของผู้กำกับภาพยนตร์ชั้นครู "หม่อมน้อย-ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล" ด้วยการทุ่มเทสวมวิญญาณ "คุณโกสุม" กุลสตรีไทยที่ชีวิตมีแต่ความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสได้อย่างงดงามประณีต ลึกซึ้ง เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง เข้าถึงศิลปะการแสดงชั้นสูงได้อย่างไม่มีใครปฏิเสธ และได้รับกระแสชื่นชมเป็นเสียงเดียวกัน
หม่อมน้อย กล่าวว่า
"แม็กกี้ ได้พิสูจน์ฝีมือการแสดงในฐานะนักแสดงทรงคุณค่าและคุณภาพแห่งวงการบันเทิงให้เห็นในภาพยนตร์เรื่อง 'แม่เบี้ย' นี้แล้ว และน่าจับตามองผลงานต่อๆ ไปของเธอเป็นอย่างยิ่ง"
"แม่เบี้ย" ฉายแล้ววันนี้ ทุกโรงภาพยนตร์
Post by: FB on September 29, 2015, 08:20:47 AM
"อนันดา เอเวอริงแฮม" นักแสดงระดับอินเตอร์ผู้คร่ำหวอดในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติทั่วโลก ยก "แม่เบี้ย" ภาพยนตร์วิจิตรกามาเรื่อง "แม่เบี้ย" ของผู้กำกับภาพยนตร์ชั้นครู "หม่อมน้อย-ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล" เป็นภาพยนตร์ระดับอินเตอร์ที่คอหนังต่างประเทศจะต้องชื่นชอบ
อนันดากล่าวว่า
"'แม่เบี้ย' เป็นหนังไทยที่มีมุมมองแปลกใหม่มาก มีความสมัยใหม่แบบหนังอินดี้ มีความเหนือจริง (surreal)(เซอร์เรียล) ผสมกับความเหมือนจริง (realistic)(เรียลิสติก) ได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังมีความลึกลับตื่นเต้น (thriller)(ทริลเลอร์) และมีอารมณ์ขัน (comic)(คอมมิค) สลับกับความ erotic(อีโรติก) ได้อย่างชาญฉลาด เป็นหนังรสชาติใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในหนังไทย เหมือนได้ดูหนังของ Pedro Almodovar (เปโดร อัลโมโดวาร์) ผู้กำกับชาวสเปนระดับโลก ผมเชื่อว่า 'แม่เบี้ย' จะเป็นหนังที่น่าจับตามองบนเวทีเทศกาลหนังระดับโลก"
"แม่เบี้ย" ฉายแล้ววันนี้ ทุกโรงภาพยนตร์
Post by: FB on October 04, 2015, 12:04:52 PM
"หม่อมน้อย-ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล" พอใจในฟีดแบ็กจากคนดูภาพยนตร์แนวจิตรกามาเรื่อง "แม่เบี้ย" คำวิจารณ์มีหลากหลายมุมมอง มีจุดที่คนดูชอบและไม่ชอบต่างกันไป แต่โดยรวมเป็นหนังที่แปลกใหม่น่าติดตามต่างจากภาพยนตร์ไทยในยุคปัจจุบัน
หม่อมน้อยเผยว่า
"ถ้าชอบดูหนังรสชาติแปลกใหม่ก็จะชอบ 'แม่เบี้ย' เพราะผมทำหนังเรื่องนี้แบบ Fusion Food คือมีรสชาติต่างๆ มาผสมผสานกัน ทั้งอีโรติก ลึกลับตื่นเต้น มีความเหมือนจริง และเหนือจริงที่สอดแทรกอารมณ์ขันและดราม่าในหนังเรื่องเดียว ผมเปิดโอกาสให้คนดูใช้ความคิด ตีความด้วยตัวเอง โดยไม่ชี้นำ เพราะจะทำให้คนดูดูหนังแล้วสามารถซึมซาบรสชาติของหนังตามมุมมองและรสนิยมของตัวเอง เปรียบได้กับหนังอินดี้ที่ดูง่ายๆ น่าติดตามและไม่ซับซ้อน"
Post by: FB on November 18, 2015, 03:29:42 PM
"สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล" มอบช่อดอกไม้ร่วมแสดงความยินดีในพิธีรับปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ของผู้กำกับภาพยนตร์ไทยชั้นครู "หม่อมน้อย-หม่อมหลวงพันธุ์เทวนพ เทวกุล" จากสถาบันกันตนา ประจำปีการศึกษา 2557 เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ณ สถาบันกันตนา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม
โดยงานนี้มีลูกศิษย์ในวงการบันเทิงรุ่นใหม่อย่าง "ฮัท-จิรวิชญ์ พงษ์ไพจิตร" และทีมเดอะสตาร์หลายรุ่นมาร่วมแสดงความยินดีในครั้งนี้ด้วย
ล่าสุด "หม่อมน้อย" จะปล่อย DVD "แม่เบี้ย" (Uncut Version) ซึ่งเป็นฉบับตัดต่อใหม่เพิ่มเนื้อหาและฉากอีโรติกมากกว่าเดิมถึงครึ่งชั่วโมงเพื่อให้ผู้ชมได้เต็มอิ่มกับอรรถรสของภาพยนตร์เป็นพิเศษปลายเดือนพ.ย.นี้
Post by: FB on November 27, 2015, 03:41:39 PM
"อัครพล เตชะรัตนประเสริฐ" บิ๊กบอสแห่ง Happy Home Entertainment แอบเซอร์ไพรส์ปาร์ตี้วันเกิดให้ "ฮัท-จิรวิชญ์ พงษ์ไพจิตร" ในโอกาสอายุครบ 24 ปี เมื่อคืนวันที่ 24 พ.ย.นี้ใน Acting Class ของ "หม่อมน้อย-หม่อมหลวงพันธุ์เทวนพ เทวกุล" โดยมี "นิว-ชัยพล จูเลี่ยน พูพาร์ต" พระเอกค่ายสหมงคลฟิล์มร่วมอวยพรด้วย พร้อมมอบ DVD "แม่เบี้ย" ฉบับ Uncut ซึ่งเสร็จสดๆ ร้อนๆ ให้เป็นของขวัญวันเกิด
"อัครพล เตชะรัตนประเสริฐ" เผยว่า
"DVD 'แม่เบี้ย' ฉบับ Uncut นี้เป็นเวอร์ชั่นที่สมบูรณ์ที่สุด มีการตัดต่อสร้างเทคนิคพิเศษทั้งภาพและเสียงใหม่หมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งแฟนคลับของ 'ฮัท จิรวิชญ์' จะไม่ผิดหวังอย่างเด็ดขาด เพราะในเวอร์ชั่นนี้ตัวละคร 'ภาคภูมิ' จะมีบทบาทเพิ่มขึ้นอีกมากทั้งฉากดราม่าและอีโรติก"
DVD "แม่เบี้ย" ฉบับ Uncut วางแผงแล้ววันนี้