enjoyjam.net
นวัตกรรมยานยนต์ => นวัตกรรมยานยนต์ - รถยนต์ - มอเตอร์ไซต์ - อุปกรณ์เสริม => Topic started by: MSN on November 24, 2014, 11:03:45 PM
-
งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 31 หรือ Thailand International Motor Expo 2014
สถานที่: ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานี
วันที่จัดกิจกรรม: 29 พฤศจิกายน 2557 - 10 ธันวาคม 2557 เวลา 12:00 น.
งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31
Type :Exhibition Public
Date :29 November 2014 - 10 December 2014
Detail :สถานที่จัดงาน: Challenger 1-3
ค่าบัตรผ่านประตู: 100 บาท
งานแสดงเทคโนโลยีใหม่ๆ เกี่ยวกับเครื่องยนต์, รถยนต์และการตกแต่งรถยนต์ทั้งภายในและภายนอก พร้อมโอกาสดีๆ ที่เลือกซื้อรถยนต์และอุปกรณ์เครื่องมือ
28 พฤศจิกายน รอบสื่อมวลชน
29 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม เปิดจำหน่ายบัตรให้ผู้ชมงานทั่วไป
จ. - ศ. 12.00 - 22.00 น..
ส. - อา. และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 11.00 - 22.00 น.
Contact Event Organizer
บริษัท สื่อสากล จำกัด
โทร: 02-641 8444
โทรสาร: 02-641 8480
เว็บไซต์: http://www.autoinfo.co.th/motorexpo
http://www.motorexpo.co.th/2014/
-
รับส่วนลดพิเศษทันที 3,500 บาท ในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป

รับส่วนลดพิเศษทันที 3,500 บาท ในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป เมื่อจองติดฟิล์มฮิวเปอร์ ออพติค ในงาน
รับของสมนาคุณจำนวนจำกัด เฉพาะในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โปเท่านั้น
บริษัท ฮิวเปอร์ ออพติค คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายฟิล์มกันร้อนสำหรับรถยนต์ยี่ห้อ ฮิวเปอร์ ออพติค – ฟิล์มนาโนเซรามิค เทคโนโลยี จากประเทศเยอรมัน – เสนอส่วนลดพิเศษในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 31 หรือ Thailand International Motor Expo 2014 โดยเสนอส่วนลดพิเศษ 3,500 บาทสำหรับผู้จองรถในงาน พร้อมรับของสมนาคุณพิเศษในวันจอง
นายกนต์ธร จตุภัทรพนิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท ฮิวเปอร์ ออพติค คอร์ปอเรชั่น จำกัด คืนกำไรให้ลูกค้าโดยเสนอส่วนลดพิเศษ 3,500 บาทเพื่อเป็นของขวัญต้อนรับปีใหม่ และคาดว่าจะกระตุ้นให้กิจกรรมในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ปีนี้กลับมาคึกคัก หลังจากที่ตลาดฟิล์มตลอดปีที่ผ่าน มาซบเซาลงไปเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ
งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2557 ซึ่งถือเป็นโค้งสุดท้ายของการรุกทางการตลาดรถยนต์และผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องจากรถยนต์ และผนวกกับคนส่วนใหญ่นิยมซื้อรถและจับจ่ายมากขึ้นในช่วงปลายปี งานมอเตอร์ เอ็กซ์โปครั้งนี้จึงน่าจับตามอง
นายกนต์ธร กล่าวว่าฟิล์มฮิวเปอร์ ออฟติค ฟิล์มคุณภาพสูงสัญชาติเยอรมัน มีอัตราเติบโตต่อเนื่องและคาดว่าปีหน้าตลาดฟิล์มกรองแสงรถยนต์โดยรวม น่าจะฟื้นตัวเข้าสู่ภาวะปกติ
-
เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัว The new C-Class BlueTEC HYBRID 2 รุ่นใหม่ พร้อมขนทัพยนตรกรรมหรูหลากรุ่น สร้างสีสันในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ครั้งที่ 31
บริษัท เมอร์เซเดส- เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ยกระดับมาตรฐานของยนตรกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม เปิดตัวรถยนต์ในรุ่น The new C-Class เครื่องยนต์ใหม่ C 300 BlueTEC HYBRID AMG Dynamic และ C 300 BlueTEC HYBRID Estate AMG Dynamic ที่มาช่วยเติมเต็มพอร์ทโฟลิโอของรถยนต์ดีเซลไฮบริดในกลุ่ม Contemporary Luxury ได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมขนทัพขบวนรถยนต์หรูกว่า 24 รุ่น ครบครันในทุกเซ็กเมนต์ มาจัดแสดงในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป หรือมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2557 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานี
มร. ไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เมอร์เซเดส-เบนซ์มุ่งมั่นที่จะนำเสนอ “สิ่งที่ดีที่สุด” ให้กับลูกค้า และผู้บริโภค มาอย่างต่อเนื่อง เราจึงไม่หยุดนิ่งที่จะสร้างสรรค์ยนตรกรรมรุ่นใหม่ๆ ที่สามารถตอบสนองทุกความต้องการ และทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้า รวมถึงพัฒนานวัตกรรมยานยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่ง หัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจของเมอร์เซเดส-เบนซ์มาอย่างยาวนาน ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสะท้อนคุณค่าหลักของแบรนด์ที่ว่า Perfection และ Fascination”
“สำหรับงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป หรือมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31 ในครั้งนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) มีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ตอกย้ำภาพลักษณ์ของความเป็นผู้นำยนตรกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมอีกครั้งด้วยการเปิดตัวรถยนต์ในรุ่น The new C-Class BlueTEC HYBRID ที่มาช่วยเติมเต็มพอร์ทโฟลิโอของรถยนต์ดีเซลไฮบริดในกลุ่ม Contemporary Luxury ได้อย่างครบครัน นอกจากรุ่น The new E 300 BlueTEC HYBRID และ The new S 300 BlueTEC HYBRID นอกจากนี้เรายังได้จัดเตรียมพื้นที่สำหรับจัดแสดงสุดยอดยนตรกรรมหรู กว่า 24 คัน ทั้งในกลุ่ม New Generation Compact Car (NGCC), Contemporary Luxury และ Dream Car ที่มีความโดดเด่นทั้งในด้านรูปลักษณ์ เทคโนโลยี และความปลอดภัยมารวมไว้ในบูธของเรา”
มร. มาร์ทิน ชูลซ์ รองประธานบริหาร ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับไฮไลท์พิเศษของเมอร์เซเดส-เบนซ์ใน งานมอเตอร์เอ็กซ์โปปีนี้ คือ การนำเสนอยนตรกรรมใหม่ในตระกูล C-Class ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลไฮบริดถึง 2 รุ่น อย่าง C 300 BlueTEC HYBRID AMG Dynamic และ C 300 BlueTEC HYBRID Estate AMG Dynamic ถัดมาเป็นรถยนต์ในกลุ่มคอมแพ็ค SUV พรีเมี่ยม อย่าง GLA 200 Urban ที่เพิ่มความดุดันยิ่งขึ้นด้วย Off-road Suspension Package และปิดท้ายด้วย The new generation CLS ยนตรกรรมหรูยอดนิยมพร้อมส่งมอบ ที่ผสานความสง่างามและปราดเปรียวสไตล์รถคูเป้เข้ากับความสะดวกสบายและประโยชน์ใช้สอยของ รถซาลูนเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว”
The new C-Class BlueTEC HYBRID: ผู้นำยนตรกรรมกลุ่มพรีเมี่ยม ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ใหม่ดีเซลไฮบริด
The new C-Class BlueTEC HYBRID ยนตรกรรมรุ่นล่าสุดในตระกูล C-Class ที่เข้ามาเติมเต็ม พอร์ทโฟลิโอของรถยนต์ดีเซลไฮบริดในกลุ่ม Contemporary Luxury ให้ครบครันมากยิ่งขึ้น ด้วยรถยนต์ 2 รุ่นใหม่ C 300 BlueTEC HYBRID AMG Dynamic และ C 300 BlueTEC HYBRID Estate AMG Dynamic โดยทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมกับ เทคโนโลยี HYBRID การทำงานอย่างยอดเยี่ยมของระบบควบคุมพลังงาน ซึ่งทำหน้าที่ในการผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์ดีเซลแบบ 4 สูบกับมอเตอร์ไฟฟ้า และระบบเกียร์ให้เป็นไปโดยอัตโนมัติ ทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการประหยัดเชื้อเพลิงและลดมลพิษทุกครั้งที่ชะลอความเร็วหรือเบรก มอเตอร์ไฟฟ้าจะทำหน้าที่เป็นเจนเนอเรเตอร์แปลงพลังงานจลน์ที่เหลืออยู่ในระบบขับเคลื่อนให้กลายเป็นพลังงานไฟฟ้าสะสมไว้ในแบตเตอรี่ลิเธี่ยม-ไอออน เพื่อเก็บสำรองไว้และนำกลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง ซึ่งรถยนต์รุ่นนี้ยังได้ผ่านมาตรฐานความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงและปริมาณไอเสีย (Euro 6) ที่เข้มงวดอีกด้วย
นอกจากนี้ รถยนต์ทั้ง 2 รุ่นยังได้เพิ่มความสปอร์ตเร้าใจให้มากยิ่งขึ้น ด้วยชุดแต่ง AMG Sports Package ที่ประกอบด้วยล้ออัลลอย AMG แบบ 5 ก้านขนาด 18 นิ้ว ดูโดดเด่นสะดุดตายิ่งขึ้นตั้งแต่ภายนอกด้วย AMG Bodystyling ระบบกันสะเทือนแบบสปอร์ตที่ลดระดับให้ต่ำลง พร้อมกระจังหน้าแบบสปอร์ต มีสัญลักษณ์โลโก้เมอร์เซเดส-เบนซ์ขนาดใหญ่ตรงกลางบน ลาย 2 แถบ ตลอดจนการตกแต่งภายในที่คงไว้ซึ่งความหรูหราแต่ดุดัน ด้วยพวงมาลัย มัลติฟังก์ชั่นแบบสปอร์ตท้ายตัด
C 300 BlueTEC HYBRID AMG Dynamic ล้ำสมัยด้วย ดีไซน์ภายใน ที่ได้รับการออกแบบโดยเน้นความหรูหรา แต่ยังคงความสปอร์ตเอาไว้เช่นเดิม พร้อมโดดเด่นด้วยแผงคอนโซลกลางที่สร้างเป็นชิ้นเดียวกับพนักวางแขน รวมถึง touchpad ที่ติดตั้งบริเวณที่พักแขน ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมการทำงานของอุปกรณ์เครื่องเสียง อาทิ วิทยุ-ซีดี MB Audio 20 ที่บริเวณคอนโซลได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส
ในขณะที่ C 300 BlueTEC HYBRID Estate AMG Dynamic ซึ่งนับเป็นการเปิดตัวเป็น ครั้งแรกในประเทศไทย ด้วยความโดดเด่นในการผสมผสานความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และความสง่างามของรถยนต์แบบซาลูน เข้ากับประสิทธิภาพของการใช้งานในชีวิตประจำวันของรถยนต์แบบเอสเตทได้อย่างลงตัว สำหรับ ห้องโดยสารภายใน ได้ถูกออกแบบให้พร้อม ตอบรับความท้าทายใหม่ๆ ด้วยการดีไซน์พื้นที่ใช้สอยอันกว้างขวางทั้งยังประกอบด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอันทันสมัย จึงตอบสนองทุกความต้องการได้อย่างเหนือชั้น โดย The new C-Class Estate มาพร้อมกับอุปกรณ์ติดตั้งมาตรฐานชุด EASY-PACK tailgate ระบบเปิด-ปิดฝาท้ายอัตโนมัติ ซึ่งทำงานในระบบกลไกกึ่งไฟฟ้า สามารถเปิดได้จากปุ่มควบคุมเบาะนั่งผู้ขับขี่, ฝากระโปรงท้าย หรือจากกุญแจสตาร์ทเครื่องยนต์ และยังสามารถปิดลงอีกครั้งด้วยปุ่มควบคุมที่ฝากระโปรงท้าย รวมถึงแผ่นปิดที่เก็บสัมภาระด้านท้าย แบบดึงกลับ-เลื่อนเปิดขึ้นอัตโนมัติ และระบบ quickfold ซึ่งปรับที่นั่งผู้โดยสารด้านหลังออกเป็น 1/3 : 2/3 ตอนได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย เบาะกลางสามารถพับแยกหรือพับพร้อมกับเบาะตัวอื่นไปด้านหน้า ทำให้รถยนต์รุ่นนี้มีพื้นที่เก็บบรรทุกสัมภาระด้านหลังที่มีความจุถึง 450-1,470 ลิตร สามารถรองรับทุกอุปกรณ์กีฬาและอุปกรณ์ทำงานคู่ใจ ซึ่งตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ขับได้เป็นอย่างดี
The GLA-Class: ท้าทายทุกการเดินทาง ด้วยคอมแพ็ค SUV พรีเมี่ยม ที่มาพร้อม Off-road suspension package
GLA 200 Urban ใหม่ ที่สะท้อนภาพรถยนต์สไตล์ SUV ให้เด่นชัดยิ่งขึ้น ด้วย Off-road suspension package ที่ได้รับการพัฒนาช่วงล่างใหม่แบบออฟโรด ซึ่งทำให้ตัวถังรถยนต์ มีความสูงเพิ่มมากขึ้นถึง 30 มิลลิเมตร พร้อมการปรับเปลี่ยนขนาดล้อมาตรฐานเดิมจาก 18 นิ้ว เป็น 19 นิ้ว เพื่อเพิ่มความสปอร์ต หรูหรา ทว่าดุดันมากขึ้น สำหรับดีไซน์ภายนอกถูกออกแบบด้วยทรวดทรงสไตล์ออฟโรดที่สื่อถึงพลัง และความสุขุมได้อย่างชัดเจน ด้านหน้าโดดเด่นด้วยกระจังหน้าครีบระบายอากาศคู่สีเงินแบบโครเมียมลาย 2 แถบ พร้อมตราสัญลักษณ์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ตรงกลางที่เพิ่มเสน่ห์และความกำยำให้แก่ผู้พบเห็น กันชนด้านหน้าพร้อม ช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ล้อมรอบด้วยโครเมียม ขอบหน้าต่างแบบโครเมียม และ ปลายท่อไอเสียเสริมโครเมียม เป็นรถยนต์ขับเคลื่อน 2 ล้อหน้าที่ให้ความคล่องแคล่วปราดเปรียวขณะขับขี่ มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง ความจุกระบอกสูบ 1,595 ซีซี กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 156 แรงม้า ที่ 5,300 รอบ/นาที แรงบิด 250 นิวตันเมตร ที่ความเร็วรอบ 1,250-4,000 ต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 8.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 215 กม./ชม. และอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 17 กม./ลิตร ขับเคลื่อนด้วยระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติ 7G-DCT พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย นอกจากนั้นพื้นที่บรรทุกสัมภาระยังกว้างถึง 421-1,235 ลิตร ด้วยฝากระโปรงหลังมีขนาดกว้างใหญ่จึงเปิดได้กว้างทำให้สะดวกใน การเคลื่อนย้าย
• GLA 200 Urban (Off-road Suspension) ราคา 2,470,000 บาท
The new generation CLS: ล้ำด้วยดีไซน์ เจิดจรัสอย่างมีชีวิตชีวา
The new generation CLS ยนตรกรรมหรูในกลุ่ม Dream Car ซึ่งประกอบด้วย CLS Coupé รถยนต์สปอร์ตคูเป้ 4 ประตู และ CLS Shooting Brake รถยนต์สปอร์ตแบบ 5 ที่นั่ง อันเกิดจากการผสมผสานระหว่างรถยนต์ Coupé และ Estate อย่างลงตัว โดยทั้งสองรุ่น โดดเด่นด้วย การดีไซน์ภายนอกให้มีความสปอร์ต เร้าใจ และล้ำสมัยมากยิ่งขึ้น ด้วยเส้นสายลวดลายงดงามสไตล์คูเป้อันเป็นเอกลักษณ์, ไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED ที่ทำหน้าที่ควบคุมหลอดไฟแบบ LED จำนวน 24 หลอดต่อไฟ 1 ข้าง ให้ปรับระดับความสว่างอย่างเป็นอิสระจากกัน โดยใช้กล้องอินฟาเรดตรวจจับความเคลื่อนไหวและคำนวณระดับความสว่างอัตโนมัติ ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและการจราจร, กระจังหน้าแบบ Diamond grille รวมถึงกันชนหน้าพร้อม ช่องดักลมขนาดใหญ่ และไฟท้ายรมดำเล็กน้อยที่มาพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานหลายระดับ ตลอดจนกระโปรงหน้าที่ยาว บานหน้าต่างแคบเรียว กระจกหน้าต่างข้างแบบไร้กรอบและหลังคาที่ลาดต่ำลงซึ่งให้บุคลิกที่ปราดเปรียว โฉบเฉี่ยวกว่าเดิม สำหรับดีไซน์ภายในได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยมาพร้อมกับความพิเศษเฉพาะตัว และพื้นที่ภายในรถยนต์ที่กว้างขวาง รวมถึงประโยชน์การใช้สอยที่โดดเด่นมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น จอแสดงผลใหม่ในชุดควบคุมระบบมัลติมีเดียขนาด 8 นิ้ว พร้อมระบบนำทาง, พวงมาลัยแบบสามก้านที่ได้รับการออกแบบใหม่, แผงควบคุมหลักที่คอนโซลกลางที่มีปุ่มควบคุมถึง 4 ปุ่ม เป็นต้น
ยนตรกรรมอื่นๆ ในบูธเมอร์เซเดส-เบนซ์
นอกจากนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์ ยังได้เตรียมขนขบวนสุดยอดยนตรกรรมรวมทั้งสิ้นกว่า 24 คันในทุกเซ็กเมนต์ ทั้งที่เป็นเครื่องยนต์เบนซินและเครื่องยนต์ดีเซล รวมถึงเครื่องยนต์ดีเซลไฮบริด ไม่ว่าจะเป็นตระกูล A-Class, B-Class, C-Class Coupé, E-Class, E-Class Coupé, E-Class Cabriolet, E-Class Estate, CLA-Class, SLK-Class, M-Class และ Vito เป็นต้น
ข้อเสนอพิเศษในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป
นอกจากนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์ ยังได้จัดข้อเสนอพิเศษเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ซื้อและรับมอบรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ยกเว้นรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ Sprinter, Truck และ Bus) ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ธันวาคม 2557 ดังนี้
• ลุ้นสิทธิ์ครอบครอง S 300 BlueTEC HYBRID AMG Premium มูลค่า 6.79 ล้านบาท (หากท่านมีรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์อยู่ในครอบครอง จะได้รับสิทธิ์ชิงโชคเพิ่มอีก 1 สิทธิ์)
• รับฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง ระยะเวลา 1 ปี
• MB Protection (Extended)** ซึ่งสิทธิพิเศษที่ลูกค้าจะได้รับ คือ
- คุ้มครองความเสียหายของรถยนต์สูงสุด 100% ของราคารถ
- มั่นใจกับอะไหล่แท้ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้นาน 7 ปี เมื่อทำประกันภัยต่อเนื่อง
- รับสิทธิ์ในการใช้รถยนต์ทดแทนเมอร์เซเดส-เบนซ์ สูงสุดถึง 20 วันต่อปี ในกรณีที่รถยนต์ของท่านเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการมากกว่า 48 ชั่วโมง และในกรณีเกิดอุบัติเหตุและไม่สามารถขับเคลื่อนได้
- ไม่มีค่าเสียหายส่วนแรก กรณีเกิดอุบัติเหตุและไม่สามารถแจ้งให้ทราบถึงคู่กรณีได้
- คุ้มครองภัยก่อการร้าย
** สำหรับการซื้อเงินสดและจัดไฟแนนซ์ ผ่านเมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) ยกเว้นรถยนต์รุ่น Vito, Viano, Sprinter, Courtesy Car และ Proven Exclusivity
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ขอเชิญท่านพบกับขบวนสุดยอดยนตรกรรมรุ่นใหม่ล่าสุดและยนตรกรรมหลากหลายรุ่นที่มาพร้อมกับเทคโนโลยียานยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อมได้ใน งานมอเตอร์เอ็กซ์โป หรือมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน –10 ธันวาคม 2557 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานี
-
รถมอเตอร์โฮมสุดหรู สัญชาติอังกฤษ “ออโต้ สลีพเพอร์” รุกตลาดประเทศไทย เปิดตัวรถมอเตอร์โฮม 5 รุ่นรวด พร้อมแต่งตั้งตัวเทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ สัมผัสรถจริงได้ ณ บูธ ออโต้ สลีพเพอร์ ในงานมอเตอร์ เอกซ์โป วันที่ 29 พ.ย. - 10 ธ.ค. นี้


“ออโต้ สลีพเพอร์” (Auto Sleepers) รถมอเตอร์โฮมสุดหรู จากประเทศอังกฤษ เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย ส่งขาย 5 รุ่นรวด ได้แก่ สตาตัน โบรตัน วินช์คอมบ์ มัลเวิลน์ และ เบคฟอร์ด ให้ลูกค้าชาวไทยได้เลือกสรรตามความต้องการของการใช้งาน พร้อมแต่งตั้งบริษัท มอเตอร์โฮม แอนด์คาราวาน (ไทยแลนด์) จำกัด เป็นผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ดูแลตลาดในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเดิมโชว์โฉมอวดความหรูหรา ณ บูธ ออโต้ สลีพเพอร์ ในงานมอเตอร์ เอกซ์โป ระหว่างวันที่ 29 พ.ย. ถึง 10 ธ.ค. 2557 นี้ ณ อาคารชาเลนเจอร์ 3 อิมแพค เมืองทองธานี
คุณวิรัช จิตสมานกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท มอเตอร์โฮม แอนด์คาราวาน (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า “ในขณะนี้บริษัทได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้แทนจำหน่ายรถมอเตอร์โฮม “ออโต้ สลีพเพอร์” (Auto Sleepers) อย่างเป็นทางการจากประเทศอังกฤษเรียบร้อยแล้ว พร้อมกันนี้บริษัทได้สั่งนำเข้ารถมอเตอร์โฮมเพื่อมาจำหน่ายในประเทศไทยแล้วเช่นกัน เพราะเรามีความมั่นใจว่ายังมีคนจำนวนหนึ่งมีความต้องการใช้รถประเภทนี้ แต่เนื่องจากในประเทศไทยยังไม่มีใครเริ่มทำการตลาดและดูแลเรื่องบริการหลังการขายอย่างจริงจัง ทำให้คนไทยส่วนหนึ่งที่มีความชอบและมีความต้องการใช้งานต้องไปหารถมาดัดแปลงเพื่อให้สามารถตอบโจทย์การใช้งานของตน
ประกอบกับโดยส่วนตัวเป็นคนชอบรถประเภทนี้ จึงเลือกรถมอเตอร์โฮมของ “ออโต้ สลีพเพอร์” (Auto Sleepers) เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย ซึ่งรถของค่ายนี้ผลิตออกมาด้วยความปราณีต ให้ความสำคัญและใส่ใจในการผลิตทุกขั้นตอน ทำให้รถแต่ละคันเปรียบเสมือนงานศิลปะ และเหตุที่คนทำงานในประเทศอังกฤษจะใช้ชีวิตอยู่กับรถมอเตอร์โฮม พวกเขาจึงเรียนรู้จากประสบการณ์ในการใช้ประโยขน์ให้ได้มากที่สุดกับพื้นที่ภายในรถ ทุกๆ ลูกบาศก์เซนติเมตร ทำให้เรามั่นใจว่าลูกค้าชาวไทยเมื่อได้เห็นและสัมผัสกับรถจะมีความรู้สึกไม่แตกต่างกันอย่างแน่นอน”
ด้านคุณสิทธิชีพ สมเกียรติ ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท มอเตอร์โฮม แอนด์คาราวาน (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า “บริษัทได้สั่งรถมอเตอร์โฮมเข้ามาจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 5 รุ่น ขนาดความสูงของรถอยู่ที่ประมาณ 2.96 เมตร ในรุ่น โลว์ โปรไฟล์ และ 3.1 เมตร ในรุ่น ที่มีห้องนอนเหนือคนขับ ความกว้างประมาณ 2.35 เมตร (หากพับกระจกข้าง) หรือ 2.78 เมตร (นับรวมกระจกข้าง) ความยาวตัวรถ เริ่มที่ประมาณ 5.94 เมตร และ รุ่นที่ใหญ่สุดจะมีความยาวอยู่ที่ 7.29 เมตร ทั้งนี้ความกว้างยาวของตัวรถมีความแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
รถมอเตอร์โฮม “ออโต้ สลีพเพอร์” (Auto Sleepers) ที่เรานำเข้ามาจำหน่ายนี้ เป็นรถที่ใช้เครื่องยนต์และช่วงล่างของเมอร์เซเดส-เบนซ์ จึงมีความนุ่มนวลในการขับขี่ ขับง่ายด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด (7 G Tronic) ทุกรุ่นเป็นเครื่องยนต์ดีเซลมีให้เลือก 2 ขนาด คือ ขนาดเครื่องยนต์ 2200 ซีซี 163 แรงม้า และเครื่องยนต์ V6 3000 ซีซี 190 แรงม้า และอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีในด้านความปลอดภัยด้วย ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ระบบเบรค ABS พร้อม EBD/BAS ระบบ ESP ควบคุมการทรงตัวและ ASR ป้องกันการลื่นไถลขณะออกตัว เพื่อทุกการเดินทางของครอบครัวปลอดภัยสูงสุด และยังพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ ครัวประกอบด้วยเตาแก็ส เตาอบ ไมโครเวฟ ห้องน้ำแยกส่วนจากที่อาบน้ำ ระบบน้ำร้อน/เย็นทุกจุดรอบคัน ระบบปรับอากาศทั้ง ขนะเดินทางและจอด แยกส่วน ที่ควบคุมอุณหภูมิในห้องโดยสารให้สบาย พร้อมความบันแทิงด้วย LED TV ขนาด 24” และ Digital TV DVB-T2 Tuner กันสาดมู่ลี่แบบเก็บได้ แผงโซล่าเซลสำหรับเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 30 วัตต์ และหน้าต่างด้านบนหลังคารถสำหรับรับลมและชมวิว เป็นต้น
“ความแตกต่างในแต่ละรุ่นอยู่ที่ฟังก์ชั่นและการจัดวางอุปกรณ์ต่างๆ ภายใน ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 5.9 ล้านบาท (รุ่นสตาตัน) ในเบื้องต้นตั้งเป้าจำหน่ายไว้ที่ประมาณ 10 คัน ส่วนเรื่องของการจดทะเบียนนั้น ตามระเบียบของกรมขนส่งทางบกแล้วการจดทะเบียนรถมอเตอร์โฮมเหมือนกับการจดทะเบียนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ทั่วไปจึงไม่มีปัญหาแน่นอนในการจดทะเบียน และใบขับขี่ก็สามารถใช้ใบขับขี่ประเภท 1 ที่ใช้กับรถยนต์นั่งทั่วไปในปัจจุบันได้ทันที สำหรับการบริการหลังการขายก็สามารถเข้ารับบริการได้ที่ศูนย์บริการของเมอร์เซเดส-เบนซ์ทุกแห่ง ซึ่งความพร้อมในสิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันถึงความตั้งใจจริงของบริษัทฯ ในการทำตลาด พร้อมสร้างความเชื่อมั่นและไว้วางใจให้กับลูกค้าได้อย่างแน่นอน” คุณสิทธิชีพ กล่าวทิ้งท้าย
รถมอเตอร์โฮม “ออโต้ สลีพเพอร์” (Auto Sleepers) พร้อมให้คุณสัมผัสความสะดวกสบายที่มากับความหรูหราและเปิดรับจอง ณ บูธ “ออโต้ สลีพเพอร์” ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31 หรือ มอเตอร์ เอกซ์โป อาคารชาเลนเจอร์ 3 อิมแพค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – วันที่ 10 ธันวาคม 2557
เกี่ยวกับ Auto-Sleepers
กว่า 50ปี ตั้งแต่ ค.ศ. 1961 ครอบครัว Trevelyan และบุตรชาย 2 คน มองหาหนทางการท่องเที่ยวที่แปลกใหม่ และด้วยความช่างคิด พวกเขาได้สร้างรถมอเตอร์โฮมด้วยตนเองจากรถตู้ Morris J2 เป็นรถที่พาพวกเขาไปเที่ยวทางตอนใต้ของฝรั่งเศสในวันหยุด และจากประสบการณ์จากการสร้างรถต้นแบบ พวกเขานำมาใช้และปรับแต่งการออกแบบใหม่กับรถตู้ Austin ซึ่งนับเป็นรถมอเตอร์โฮมรุ่นที่ 2 ซึ่งได้รับความสนใจจาก Henlys ตัวแทนจัดจำหน่ายรถยนต์ในเมือง Bristol มียอดสั่งซื้อรถของพวกเขาจำนวน5 คัน ทำให้สองพี่น้องตกลงว่าจ้าง Bob Halling เป็นผู้รับช่วงงานต่อ ซึ่งต่อมาในภายหลังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการของบริษัท และ Auto-Sleepers ก็ถือกำเนิดขึ้น และในวันนี้ Auto-Sleepers ยังคงยึดหลักการดำเนินธุรกิจแบบครอบครัว พร้อมใช้บุคคลากรที่มีใจชื่นชอบในรถมอเตอร์โฮมที่มีคุณภาพ
ในปี ค.ศ. 2010 Auto-Sleepers ได้ขยายธุรกิจไปผลิตรถคาราวานที่มีคุณภาพและสเปคสูงและด้วยทักษะการออกแบบและการผลิตที่เรียนรู้มากว่า 50 ปี และการเป็นผู้นำอุตสาหกรรมรถมอเตอร์โฮม ส่งให้ในปัจจุบัน Auto-Sleepers ภายใต้ชื่อแบรนด์ “AS Caravans” สามารถนำเสนอรถคาราวานที่มีความหรูหราได้ถึง 3 รุ่น
Auto-Sleepers มีประสบการณ์กว่า 50 ปี ในการออกแบบและสร้างรถเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าผู้ที่กำลังมองหารถมอเตอร์โฮมที่ดีที่สุดที่สร้างโดยชาวอังกฤษมีฐานการผลิตอยู่ที่ Willersey ในCotswolds ด้วยความภาคภูมิใจในงานฝีมือและการออกแบบรถมอเตอร์โฮมของ Auto-Sleepers และ รถคาราวานของ AS Caravan จะสร้างขึ้นด้วยความปราณีต ความเอาใจใส่ และความตั้งใจอย่างมาก เฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ตกแต่งภายในทันสมัยมีสไตล์ ควบคู่กับคุณภาพและความมีนวัตกรรม ทุกชิ้นสร้างด้วยมือเพื่อความพึงพอใจสูงสุดของผู้ใช้ตลอดไป ด้วยความที่นักออกแบบของเราทำงานและใช้ชีวิตอยู่กับมอเตอร์โฮมและรถคาราวานพวกเขาจึงเรียนรู้จากประสบการณ์ถึงการใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุดจากทุกลูกบาศก์เซนติเมตรของพื้นที่ภายในและนี่เป็นเหตุผลที่ลูกค้าทั้งหลายยังมั่นคงใช้รถของเราตลอดมา
-
ภาพข่าว: สามมิตรฯ ส่ง “ดีเซล CNG อีซูซุ” เจาะตลาดขนส่งทางไกล เปิดตัวครั้งแรกในงาน Motor Expo 2014

นายสุรยุทธิ์ โพธิ์ศิริสุข กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามมิตร กรีนพาวเวอร์ จำกัด หรือ SGP ผู้ผลิตและจำหน่ายรถกระบะซีเอ็นจีแบรนด์ไทยมาตรฐานระดับโลก เตรียมเผยโฉม “ดีเซล CNG อีซูซุ” ด้วยเทคโนโลยี “PTT DIESEL CNG” ครั้งแรกในประเทศไทย ในงาน Motor Expo 2014 หรือ มหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 31
พร้อมข้อเสนอและกิจกรรมสุดพิเศษมากมาย ตอกย้ำความเป็นผู้ผลิต รถกระบะดีเซล CNG รายเดียวในประเทศไทย ที่ได้รับความไว้วางใจจาก ปตท.และค่ายรถชั้นนำ ตอบสนองความต้องการผู้ใช้รถกระบะเชิงพาณิชย์ มีโอกาสได้ใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพการใช้ พลังงานสูง ประหยัดเชื้อเพลิง สะดวกต่อการใช้งาน และวิ่งได้ระยะทางไกล
ชมตัวจริงและสัมผัสเทคโนโลยีเพื่อผู้ประกอบการด้านขนส่งได้ที่บูธสามมิตร กรีนพาวเวอร์ B14 ชาเลนเจอร์ 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 30 พ.ย.-10 ธ.ค. 2557
-
ฮอนด้า นำยนตรกรรม 15 รุ่น จัดแสดงในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31 ชูไฮไลท์ เอชอาร์-วี ใหม่ ที่สุดแห่งยนตรกรรมสปอร์ตครอสโอเวอร์ระดับพรีเมียม
บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมงานมหกรรม ยานยนต์ ครั้งที่ 31 นำเสนอแนวคิด ‘Drive to the Next Enjoyment’ จัดแสดงยนตรกรรมมากถึง 15 รุ่น เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า ชูไฮไลท์ ฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่ ที่สุดแห่งยนตกรรมสปอร์ตครอสโอเวอร์ระดับพรีเมียม ที่เพิ่งเปิดตัวในประเทศไทยเป็นประเทศแรกในภูมิภาคอาเซียน ร่วมด้วย ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ และ ฮอนด้า โมบิลิโอ สีส้มซันเซ็ตใหม่ ที่จัดแสดงในงานนี้เป็นครั้งแรก พร้อมแคมเปญพิเศษและกิจกรรมมากมาย ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคม 2557 ณ บูธ A14 อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ในปีนี้ฮอนด้านำเสนอบูธภายใต้แนวคิด ‘Drive to the Next Enjoyment’ เพื่อสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการสร้างความสุขและความสนุกสนานในการขับขี่ให้กับลูกค้าผ่านยนตรกรรมฮอนด้าที่นำมาจัดแสดงมากถึง 15 รุ่น รวมทั้งสิ้น 25 คัน โดยมีรถยนต์ไฮไลท์ คือ ฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่ ที่สุดแห่งยนตรกรรมสปอร์ตครอสโอเวอร์ระดับพรีเมียม ที่จะมาสร้างมิติใหม่ให้กับตลาดรถยนต์ประเทศไทย และ ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มองหารถสปอร์ตอเนกประสงค์ทางเลือกใหม่ที่ลงตัวกับทุกความต้องการที่หลากหลาย
ซึ่งภายหลังการเปิดตัวเพียง 10 วัน ก็ได้รับกระแสการตอบรับที่ดีจากลูกค้า โดยมียอดจองแล้วกว่า 4,000 คัน นอกจากนี้ยังมี ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ ที่มาพร้อมกับรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยว หรูหรา ผสานความแข็งแกร่งสไตล์สปอร์ตยิ่งขึ้น และ ฮอนด้า โมบิลิโอ ที่มาพร้อมกับสีส้มซันเซ็ตใหม่ พร้อมด้วยรถยนต์ฮอนด้าอีกหลายรุ่นที่สามารถตอบทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้อย่างครบครัน ซึ่งฮอนด้าจัดเตรียมไว้ให้ผู้เข้าชมงานได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด”
ฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่ ยนตรกรรมสปอร์ตครอสโอเวอร์ระดับพรีเมียม ซึ่งได้รับการพัฒนาให้เป็นที่สุดในทุก ๆด้าน ทั้งดีไซน์สไตล์สปอร์ต ภายในกว้างขวางสะดวกสบาย ฟังก์ชั่นการใช้งานระดับพรีเมียม สมรรถนะการขับขี่ทรงพลังด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร พร้อมระบบเกียร์ CVT ใหม่ ที่พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม ให้การขับขี่ที่เร้าใจและเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น รองรับพลังงานทางเลือก E85 และครบครันมาตรฐานความปลอดภัยที่ล้ำสมัย
นอกจากนี้ ยังมี ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ ที่มาพร้อมกับรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยว หรูหรา ผสานความแข็งแกร่งสไตล์สปอร์ตยิ่งขึ้น ด้วยไฟหน้าพร้อม Daytime Running Light กระจังหน้าและกันชนหน้า-หลังดีไซน์ใหม่ เครื่องยนต์ใหม่ขนาด 2.4 ลิตร ที่พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม และระบบเกียร์ CVT ใหม่ อีกทั้งยังมีอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยที่เหนือระดับด้วยระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) และยังเพิ่มระบบความปลอดภัยมาตรฐานใหม่ให้ครบครันยิ่งขึ้นในทุกรุ่น และฮอนด้า โมบิลิโอ รถยนต์อเนกประสงค์ขนาดซับคอมแพคท์ เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร ซึ่งมีทั้งแบบเบาะที่นั่งสองแถว และสามแถว ตอบรับทุกการใช้งานที่หลากหลายด้วยพื้นที่อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ และสามารถปรับเปลี่ยนได้หลายรูปแบบ มาพร้อมสีใหม่สีส้มซันเซ็ต ที่นำมาจัดแสดงในงานนี้เป็นครั้งแรก
และในโอกาสที่กลุ่มบริษัทฮอนด้าครบรอบ 50 ปีของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยในปี 2557 นี้ เพื่อแทนคำขอบคุณลูกค้าชาวไทยทุกคนที่ให้การสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่อง ฮอนด้าได้มอบแคมเปญสุดพิเศษ "ฮอนด้า 50 ปี แฮปปี้ 50 ล้าน" แก่ลูกค้าที่จองและออกรถยนต์ฮอนด้าทุกรุ่น ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2557 โดยจะได้รับสิทธิ์ร่วมลุ้นรางวัลทุกเดือน อาทิ ทองคำแท่งหนัก 1 กิโลกรัม รถยนต์ฮอนด้า โมบิลิโอ ทีวีโฮมเธียเตอร์ รถจักรยานยนต์ฮอนด้า และโทรศัพท์ไอโฟน 6 พลัส ซึ่งผลการจับรางวัลครั้งที่ 1 ประจำเดือนตุลาคมที่ผ่านมา รางวัลทองคำแท่ง 99.99% น้ำหนัก 1 กิโลกรัม หนัก 65.5 บาท มูลค่ารางวัลละ 1,300,000 บาท จำนวน 1 รางวัล ผู้โชคดีคือ คุณสุนีย์ ต่างงาม รางวัลรถยนต์ฮอนด้า โมบิลิโอ รุ่น RS AT สีขาวออร์คิด (มุก) มูลค่ารางวัลละ 749,000 บาท จำนวน 2 รางวัล ผู้โชคดีได้แก่ คุณโสริตา ทิพย์สันเทียะ และคุณอุมาพร รอดวิลัย และรางวัลอื่น ๆ รวมอีกกว่า 200 รางวัล ซึ่งสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้โชคดีได้ที่ www.honda.co.th
สำหรับลูกค้าที่สนใจจองและออกรถยนต์ฮอนด้าทุกรุ่น ภายใน 31 ธันวาคมนี้ ยังสามารถร่วมลุ้นรางวัลจากแคมเปญดังกล่าวได้อีก 2 ครั้ง ในการจับรางวัลประจำเดือนพฤศจิกายน และธันวาคม นอกจากนี้ยังมีสิทธิ์ลุ้นรางวัลพิเศษแพ็กเกจ “เที่ยวญี่ปุ่นทั้งครอบครัว” ครอบครัวละ 4 ท่าน จำนวน 50 รางวัล รวมรางวัลตลอดแคมเปญทั้งสิ้น 659 รางวัล มูลค่ากว่า 50 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอพิเศษสำหรับรถยนต์ฮอนด้าทุกรุ่น ทั้งภายในงานและที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ อาทิ
- บริโอ้ และ บริโอ้ อเมซ ดอกเบี้ย 0% พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1
- ซิตี้ และ ซิตี้ ซีเอ็นจี ดอกเบี้ย 0% หรือดาวน์ 0 บาท หรือเลือกผ่อน 0 บาท 3 เดือน หรือฟรีประกันภัยชั้น 1
- แจ๊ซ ดอกเบี้ยต่ำ 1.99% หรือฟรีประกันภัยชั้น 1 หรือเลือกผ่อนเพียง 4,102 บาทต่อเดือน
- ซีวิค ดอกเบี้ยต่ำ 1.39% หรือฟรีประกันภัยชั้น 1
- แอคคอร์ด รุ่น 2.4L ดอกเบี้ยต่ำ 1.39% หรือฟรีประกันภัยชั้น 1
- แอคคอร์ด ไฮบริด ดอกเบี้ยต่ำ 1.99% หรือฟรีประกันภัยชั้น 1
- ฟรีด ดอกเบี้ยต่ำ 0.79% พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1
- โอดิสซีย์ รุ่น E ดอกเบี้ยต่ำ 1.99%
- พิเศษสุดกับโปรแกรม “ฮอนด้า อัลติเมท แคร์” ที่เพิ่มเวลารับประกับคุณภาพรถยนต์เป็น 5 ปี (เฉพาะรุ่น)
- พิเศษสำหรับเจ้าของรถยนต์ฮอนด้าทุกรุ่น รับทันทีดอกเบี้ยพิเศษ 2.09% สำหรับ เอชอาร์-วี ใหม่ ซีอาร์-วี ใหม่ และ โมบิลิโอ
ภายในงานฮอนด้ายังมีกิจกรรมพิเศษโดยนักร้อง นักแสดง จากสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ที่จะมาสร้างสีสันความบันเทิง และร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมการแข่งขัน Honda LPGA THAILAND 2015 ที่บูธฮอนด้า ในวันที่ 30 พฤศจิกายน วันที่ 5, 6 และ 10 ธันวาคม สำหรับผู้ที่ชื่นชอบกีฬากอล์ฟ หากจองรถยนต์ฮอนด้ารุ่นใดก็ได้ภายในงาน 100 ท่านแรก รับสิทธิ์เข้าร่วมกิจกรรม Honda Exclusive Golf Challenge 2015 วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2558 เพื่อคัดเลือกผู้โชคดีเข้าไปดวลวงสวิงกับนักกอล์ฟหญิงระดับโลกในกิจกรรม Honda LPGA THAILAND 2015 ในรอบ Pro-Am
ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บูธฮอนด้าภายในงาน หรือที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ หรือ www.honda.co.th
-
Honda presents 15 models of automobiles, highlights its all-new Honda HR-V, a Premium Sport Crossover,at the 31st Thailand International Motor Expo
Honda Automobile (Thailand) Co., Ltd. is joining the 31st Thailand International Motor Expo under the theme of “Drive to the Next Enjoyment”, showing 15 models of Honda automobiles that meet the needs of all customers’ lifestyles. The highlight at the Honda Pavilion is the all-new Honda HR-V, a Premium Sport Crossover for which Thailand is the first country to launch this model in the ASEAN region; as well as the all-new Honda CR-V; and the Honda Mobilio, available in a new Sporty Sunset Orange II color, which is being displayed at this event for the first time. In addition, there are many special promotions and fun activities during the expo, which runs from 29 November until 10 December 2014 at the Honda Pavilion, Booth A14, IMPACT Challenger Hall 1-3.
Mr. Pitak Pruittisarikorn, Chief Operating Officer of Honda Automobile (Thailand) Co., Ltd., said, “At this year’s Motor Expo, Honda is proudly presenting our pavilion under the theme of ‘Drive to the Next Enjoyment‘, reflecting our strong commitment to creating happiness and offering fun-to-drive Honda cars that perfectly fulfill the various lifestyle preferences of customers. You’ll experience our display of 15 different models of Honda automobiles, with a total 25 vehicles. Our highlight this year is the all-new Honda HR-V, a Premium Sport Crossover that sets a new benchmark for the Thai automobile market. It is a new choice for those who are looking for a SUV vehicle that perfectly matches their various needs. The all-new Honda HR-V has already received a great welcome from Thai customers with more than 4,000 bookings in just 10 days after the launch. We are also featuring the all-new Honda CR-V that comes with a sleek and luxurious design reflecting its bold and sporty attributes, and the Honda Mobilio that comes in the new Sporty Sunset Orange II color, along with other Honda automobiles that are also on display for visitors to experience up close.”
The all-new Honda HR-V was developed by integrating the best in every angle including the perfect meeting of the sporty exterior design and spacious interior, maximum comfort, premium functions, and high performance. It is powered by a 1.8-litre engine together with a new Continuously Variable Transmission developed under Honda’s Earth Dreams Technology to deliver exciting driving and greater fuel efficiency. The engine is compatible with E85 fuel. The all-new Honda HR-V is also equipped with a full range of advanced safety technologies.
Also, there is the new Honda CR-V, a stylish sport utility vehicle (SUV) with a sleek and luxurious design featuring new headlights and LED Daytime Running Lights; and new front and rear bumpers. It is powered by a new 2.4-litre engine developed under Honda’s Earth Dreams Technology along with the new Continuously Variable Transmission. It also comes with advanced safety technology including Honda LaneWatch and an extensive range of standard safety features in all variants.
The Honda Mobilio, a sub-compact multi-utility vehicle powered by a 1.5-litre engine, is available in 2-row and 3-row seat variants, both with a large utility space and multi-adjustable functions for various uses. It is now available in the new Sporty Sunset Orange II color, displayed at this event for the first time.
On the occasion of Honda’s 50th anniversary in Thailand, Honda has introduced a special campaign called “Honda 50 Years, Happy 50 Million Baht” to express our gratitude to our Thai customers for their continuous trust and tremendous support. Customers who purchase any Honda model from today until 31 December 2014 will get a chance to win one of many prizes every month such as a 1-kilogram gold bar; Honda Mobilio; home theater and television sets; Honda motorcycles; and iPhone 6 Plus smart phones. In the first October prize draw, Khun Sunee Tangngam was the lucky winner of a 1-kilogram gold bar with 99.99% purity and 65.5-baht weight, worth 1.3 million baht. Two prizes of a Honda Mobilio RS AT in White Orchid (Pearl), each worth 749,000 baht, went to Khun Sorita Tipsantia and Khun Aumaphon Rotwilai. For the list of 200 other prize winners, please check at www.honda.co.th.
Customers who purchase any Honda model from today until 31 December 2014 will also get another two chances to win a prize in the November and December draws. In addition, they will qualify to win a special prize of a “Family Trip to Japan”, with 50 prizes of a trip for four members of the family. There are a total of 659 prizes in the campaign worth a total value of more than 50 million baht.
There are also many special promotions for all Honda automobile models at the Motor Expo and also at Honda showrooms nationwide. These privileges vary according to model:
- The Brio and the Brio Amaze come with 0% interest plus free first-class car insurance.
- The City and City CNG come with 0% interest or a 0-Baht down payment; a 3-month 0-Baht installment; or free first-class car insurance.
- The Jazz comes with 1.99% interest or free first-class car insurance; or an installment of 4,102 baht per month.
- The Civic comes with 1.39% interest or free first-class car insurance.
- The Accord 2.4L comes with 1.39% interest or free first-class car insurance.
- The Accord Hybrid comes with 1.99% interest or free first-class car insurance.
- The Freed comes with 0.79% interest plus free first-class car insurance.
- The Odyssey E variant comes with 1.99% interest.
- The “Honda Ultimate Care” campaign offers an extra 5-year warranty for selected models only.
- All Honda car owners will get a special offer of only 2.09% interest for the all-new HR-V, all-new CR-V, and Mobilio.
There will be an interesting range of entertainment provided by singers and Channel 7 TV stars, who will also join in activities at the Honda Pavilion on 30 November, and 5, 6 and 10 December, to promote the “Honda LPGA THAILAND 2015”. The first 100 customers who book a Honda automobile at the Expo will be eligible to join the Honda Exclusive Golf Challenge 2015 on 6 February 2015, with lucky candidates selected to join a golf game with world-class women golfers in the Honda LPGA THAILAND 2015 Pro-Am round.
For further information, please visit Honda’s pavilion at the 31st Bangkok International Motor Expo, Honda's showrooms nationwide, or www.honda.co.th
-
สิ้นสุดการรอคอย! Ducati Scrambler พร้อมให้คุณ Express Yourself ในราคาสุดชิล!

Ducati Scrambler บิ๊กไบค์แบรนด์น้องใหม่ดีไซน์ร่วมสมัย เอาใจหนุ่มสาวสาวกบิ๊กไบค์ เปิดราคา 4 รุ่นแบบชิลๆ ประกาศความเป็นตัวตนให้โลกได้รู้ แบบไหนสไตล์คุณ พร้อมรับโปรโมชั่นหลากหลายรุ่น ในงาน Motor Expo 2014
อภิชาติ ลีนุตพงษ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ดูคาทิสติ จำกัด หรือดูคาติไทยแลนด์ กล่าวถึงแบรนด์บิ๊กไบค์น้องใหม่ว่า “Ducati Scrambler คืออีกหนึ่งแบรนด์ของดูคาติ ที่บริษัทฯ เพิ่งจัดงานเปิดตัวในธีมงานสนุกๆ มันส์ๆ ตามคาแรกเตอร์รถ โดยมีไฮไลท์อยู่ที่ทางเข้างานด้วยการสไลเดอร์และการรูดเสานักดับเพลิงลงไปร่วมงานที่บริเวณลานด้านหน้าเซ็นทรัลเวิลด์เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ซึ่งถือได้ว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดย Scrambler เป็นรถที่เคยผลิตขึ้นในปี 1962 และได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในยุคฮิปปี้ที่อเมริกา ในวันนี้ ดูคาติจึงได้นำรถ Scrambler มาผลิตขึ้นอีกครั้ง โดยนำเอกลักษณ์ของรถต้นแบบมาผสมผสานเทคโนโลยีและดีไซน์ปัจจุบัน จนกลายเป็นรถ Ducati Scrambler ที่มีดีไซน์ร่วมสมัย ขับขี่ง่าย ด้วยการออกแบบแฮนด์ที่กว้าง และเบาะนั่งที่รองรับสรีระทั้งผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้าย จึงตอบโจทย์ความต้องการของสาวกบิ๊กไบค์ รวมถึงผู้ที่สนใจอยากจะเริ่มต้นขี่บิ๊กไบค์ทั้งผู้ชายและผู้หญิง โดย Ducati Scrambler จะมี 4 รุ่น ได้แก่ Ducati Scrambler Icon, Ducati Scrambler Full Throttle, Ducati Scrambler Classic และ Ducati Scrambler Urban Enduro นอกจากนี้ Ducati Scrambler ยังเป็นรถที่สามารถ Customize ได้ง่าย ตามสไตล์ใครสไตล์มัน ตามคอนเซปต์ “Express Yourself”
ทั้งนี้ ราคาของรถ Ducati Scrambler ถือได้ว่าค่อนข้างตอบโจทย์ผู้บริโภคทั้ง 4 รุ่น โดย Ducati Scrambler Icon สีแดง จะอยู่ที่ 369,900 บาท ส่วนสีเหลืองจะอยู่ที่ 374,900 บาท ส่วนอีก 3 รุ่น ที่ดูคาติได้ตกแต่งขึ้นเป็นพิเศษ ได้แก่ 1) Ducati Scrambler Full Throttle ที่มีดีไซน์สไตล์รถแข่ง มาพร้อมท่อ Slip-On จาก Termignoni ให้คุณโดดเด่นทั้งบนถนนและในสนามแข่ง 2) Ducati Scrambler Classic โดดเด่นด้วยสีส้ม “Orange Sunshine” และแถบคาดกลางถังสีดำ ใช้โลโก้คล้ายคลึงกับรถดั้งเดิมมากที่สุด มีเอกลักษณ์โดดเด่นตามแบบฉบับเดียวกับรถในยุคปี 70 และ 3) Ducati Scrambler Urban Enduro งานออกแบบสไตล์ Post-heritage สีเขียว “Wild Green” หรือสีเขียวทหาร เสริมภาพลักษณ์ของรถแนวออฟโรดคันนี้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งทั้งสามรุ่นดังกล่าวจะมีราคาอยู่ที่ 419,900 บาท
นอกจากนี้ ดูคาติยังมีแคมเปญพิเศษสำหรับผู้ที่มาเยี่ยมชมบูธดูคาติในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2014 อีกหลายรุ่น ดังนี้
แคมเปญรุ่น Monster รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 2.99% เมื่อดาวน์เริ่มต้น 20% รับชุดไฟเลี้ยว LED หน้าหลัง, Tank Pad และ Ducati Cash Voucher มูลค่า 5,000 บาท จดทะเบียนฟรี พร้อมค่าดูแลค่าบำรุงรักษานาน 2 ปี หรือ 12,000 กม. และรับหมวกกันน็อค Suomy SR Sport Dovizioso สำหรับลูกค้าที่ทำการจองรถรุ่น Monster S2R และรุ่น Monster S2R S Ti ในงาน Motor Expo ทั้งนี้ สามารถเลือกแคมเปญบอลลูน โดยแต่ละรุ่นมีรายละเอียดดังนี้
-Monster 796 Corse Stripe ดาวน์ 89,990 บาท ผ่อนเดือนละ 6,997 บาท (48 เดือน) บอลลูน 99,990 บาท
-Monster S2R ดาวน์ 94,900 บาท ผ่อนเดือนละุ 6,997 บาท (48 เดือน) บอลลูน 109,990 บาท
-Monster S2R S Ti ดาวน์ 99,900 บาท ผ่อนเดือนละ 7,878 บาท (48 เดือน) บอลลูน 119,990 บาท มาพร้อมท่อ Termignoni Slip On, Short tailed (ท้ายสั้น)
นอกจากนี้ สำหรับท่านที่เลือกแคมเปญบอลลูน จะได้รับชุดไฟเลี้ยว LED หน้า-หลัง, Tank Pad ฟรีค่าบำรุงรักษา 2 ปี หรือ 12,000 กิโลเมตร พร้อมจดทะเบียนและประกันภัยชั้น 1 และรับหมวกกันน็อค Suomy SR Sport Dovizioso สำหรับลูกค้าที่ทำการจองรถรุ่น Monster S2R และรุ่น Monster S2R S Ti ในงาน Motor Expo
แคมเปญรุ่น Hypermotard รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 3.99% เมื่อดาวน์เริ่มต้นที่ 20% รับฟรี Tank Pad และ Ducati Cash Voucher มูลค่า 10,000 บาท ทั้งนี้ สามารถเลือกแคมเปญบอลลูน โดยแต่ละรุ่นมีรายละเอียดดังนี้
-Hypermotard ดาวน์ 89,990 บาท ผ่อนเดือนละ 7,988 บาท (48 เดือน) บอลลูน 110,000 บาท รับ Tank Pad พร้อมจดทะเบียนและประกันภัยชั้น 1
-Hyperstrada ดาวน์ 99,990 บาท ผ่อนเดือนละ 8,788 บาท (48 เดือน) บอลลูน 129,000 บาท รับ Tank Pad พร้อมจดทะเบียนและประกันภัยชั้น 1
แคมเปญรุ่น Multistrada
-Multistrada 1200 ABS ราคาจำหน่ายพิเศษ 799,000 บาท รับฟรี Tank Pad
-Multistrada 1200S Touring ราคาจำหน่ายพิเศษ 999,900 บาท รับฟรี Tank Pad และรับสิทธิ์ในการซื้อชุดสี Matt Chrome และ Touring Grey ราคาพิเศษ 29,000 บาท พร้อมจดทะเบียนและประกันภัยชั้น 1
แคมเปญรุ่น Panigale
-899 Panigale ราคารวมท่อ Termignoni Slip - On เพียง 757,900 บาท (จากราคาจาหน่ายมาตรฐาน 749,000 บาท)
-1199 Panigale ABS ดาวน์ 390,000 บาท ผ่อนเดือนละ 19,788 บาท (48 เดือน) บอลลูน 299,000 บาท รับ Ducati Cash Back มูลค่า 200,000 บาท พร้อมจดทะเบียนและประกันภัยชั้น 1
-1199 Panigale S ABS ดาวน์ 400,000 บาท ผ่อนเดือนละ 27,490 บาท (48 เดือน) บอลลูน 389,000 บาทรับ Ducati Cash Back มูลค่า 300,000 บาท พร้อมจดทะเบียนและประกันภัยชั้น 1
แคมเปญรุ่น Diavel
-Diavel Dark ดาวน์ 199,000 บาท ผ่อนเดือนละ 13,898 บาท (48 เดือน) บอลลูน 199,000 บาท รับ Tank Pad, Ducati Cash Back มูลค่า 20,000 บาท และสิทธิ์ในการซื้อ Forged Aluminum Rims ราคาพิเศษ 39,000 บาท พร้อมจดทะเบียนและประกันภัยชั้น 1
-Diavel Carbon Red / Carbon White ดาวน์ 199,000 บาท ผ่อนเดือนละ 16,797 บาท (48 เดือน) บอลลูน 249,000 บาท รับ Tank Pad, Ducati Cash Back มูลค่า 20,000 บาท และสิทธิ์ในการซื้อ Forged Aluminum Rims ราคาพิเศษ 39,000 บาท พร้อมจดทะเบียนและประกันภัยชั้น 1
แคมเปญรุ่น StreetFighter
-Streetfighter 848 MY 15 ดาวน์ 169,000 บาท ผ่อนเดือนละ 12,900 บาท (48 เดือน) บอลลูน 239,000 บาท รับชุดไฟเลี้ยว LED หน้าหลัง, Short Tailed (ท้ายสั้น), Tank Pad พร้อมจดทะเบียนและประกันภัยชั้น 1 หรือเลือกดาวน์เริ่มต้นที่ 20% รับชุดไฟเลี้ยว LED หน้าหลัง, Short Tailed (ท้ายสั้น), Tank Pad และ Ducati Cash Voucher มูลค่า 15,000 บาท
-
ฮอนด้าเปิดตัวรถใหม่อีก 3 รุ่นรุกตลาดรถบิ๊กไบค์ไตรมาสสุดท้าย



ฮอนด้าเปิดตัวรถใหม่อีก 3 รุ่นรุกตลาดรถบิ๊กไบค์ไตรมาสสุดท้าย นำโดย Goldwing 40th Anniversary Edition, CBR1000RR Champion Special และ New CB500X Minor Change พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 14
เอ.พี.ฮอนด้า ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าบิ๊กไบค์ในประเทศไทย โหมรุกตลาดบิ๊กไบค์ไตรมาสสุดท้ายของปีด้วยการเปิดตัวรถใหม่พร้อมกันทีเดียว 3 รุ่นได้แก่ Honda GoldWing 40th Anniversary Edition ฉลองครบรอบ 40 ปีรถตระกูลโกลด์วิง, Honda CBR1000RR Champion Special และ New Honda CB500X Minor Change พร้อมมอบข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับผู้ที่ซื้อรถฮอนด้าบิ๊กไบค์ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2014 ที่บูธ G04 อิมแพค ชาลเลนเจอร์ฮอลล์ 3 เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคม 2557
นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ กรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าบิ๊กไบค์ในประเทศไทยเปิดเผยว่า “ตลาดรถบิ๊กไบค์ในเมืองไทยปี 2014 ยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยยอดจดทะเบียนในช่วง 10 เดือนแรกของปีอยู่ที่ประมาณ 13,600 คัน เติบโตขึ้นประมาณ 22% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ในขณะที่ฮอนด้ามีตัวเลขอยู่ที่ 4,400 คัน เติบโตขึ้นประมาณ 85% โดยปัจจัยหลักที่ทำให้รถฮอนด้าบิ๊กไบค์ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนั้นมาจากการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ที่ผลิตในประเทศโดยเฉพาะตระกูล 650Series เช่นเดียวกับการขยายเครือข่ายศูนย์บริการฮอนด้าบิ๊กวิงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของบริการหลังการขายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยล่าสุดนี้ เรามีศูนย์ฮอนด้าบิ๊กวิงอยู่ 10 แห่งและมีแผนจะเพิ่มอีก 1 แห่ง รวมเป็น 11 แห่งในเร็วๆนี้”
“ในส่วนของการทำตลาดของฮอนด้าในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ภายใต้คอนเซปต์ Honda Bigbike Excites The World เราพร้อมกระตุ้นความต้องการของลูกค้าด้วยการเปิดตัวรถบิ๊กไบค์นำเข้ารุ่นใหม่อีก 2 รุ่นคือ Honda Gold Wing เวอร์ชันพิเศษฉลองครบรอบ 40 ปีของรถตระกูล GoldWing และ Honda CBR1000RR รุ่นพิเศษลายแชมป์โลกปีล่าสุด ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2014 พร้อมกันนี้เรายังได้เปิดตัว New Honda CB500X ที่ได้รับการปรับลุคให้มีความโฉบเฉี่ยว และทันสมัยยิ่งขึ้นไปอีก คาดว่าจะได้รับการตอบรับอย่างดีจากแฟนๆบิ๊กไบค์ที่กำลังมองหาความท้าทายใหม่ๆ”
Honda GoldWing 40th Anniversary Edition เป็นบิ๊กไบค์ทัวริ่งรุ่นพิเศษที่จัดทำขึ้นในโอกาสครบรอบ 40 ปีของรถในตระกูลโกลด์วิง มีดีไซน์หรูหรา โดดเด่น เสริมความเป็นเอ็กซ์คลูซีฟด้วยเอ็มเบลม 40th Anniversary เอกสิทธิ์เฉพาะของรถรุ่นนี้ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 6 สูบนอน ขนาด 1,800cc. พร้อมด้วยระบบครูซคอนโทรลและเกียร์ถอยหลังเพื่อความสะดวกสบายในการขับขี่ ปลอดภัยด้วยระบบถุงลมนิรภัย มีให้เลือก 3 สีได้แก่ สีดำกราไฟต์ สีขาวเพิร์ลแกลร์ วางจำหน่ายที่ราคา 1,320,000 บาท และสีแดงพิเศษแคนดี้โพรมิเนนซ์เรด ราคา 1,360,000 บาท
ในขณะที่ Honda CBR1000RR Champion Special คือซูเปอร์สปอร์ตที่ได้รับการออกแบบเพื่อเฉลิมฉลองที่ฮอนด้าคว้าแชมป์การแข่งขันโมโตจีพีปี 2014 โดดเด่นด้วยดีไซน์แบบ Repsol Replica สืบทอดสายพันธ์ความแรงจากสนามแข่งโมโตจีพี พร้อมสัญลักษณ์หมายเลข 93 ของมาร์ค มาร์เกวซ แชมป์โลกคนล่าสุด ทะยานแรงด้วยเครื่องยนต์ DOHC 4 สูบเรียง ขนาด 1,000cc. หัวฉีด PGM-DSFI ที่พัฒนาขึ้นสำหรับรถซูเปอร์สปอร์ตเท่านั้น นุ่มนวลด้วยระบบกันสะเทือนหลังแบบ Unit Pro-Link พร้อม Balance Free Rear Cushion ปรับระดับความนุ่มได้ดั่งใจ ปลอดภัยด้วยระบบป้องกันท้ายสะบัด Slipper Clutch เตรียมเปิดรับจองเร็วๆนี้
สำหรับ New Honda CB500X Minor Change ได้รับการออกแบบลวดลายกราฟิกใหม่ให้มีความโดดเด่น โฉบเฉี่ยวยิ่งกว่าเดิม ทะยานไปกับเครื่องยนต์ 2 สูบ ขนาด 500cc. ระบบกันสะเทือนหลังแบบ Pro-Link ปรับได้ 9 ระดับ ปลอดภัยด้วยระบบเบรก ABS มีให้เลือก 3 สีใหม่ ได้แก่ ดำด้านกันพาวเดอร์เมทัลลิก, ขาวด้านเพิร์ลซัมมิท และสีแดงมิลเลนเนียมเรด ราคา 215,000 บาท
นอกจากการเปิดตัวรถใหม่ทั้ง 3 รุ่นแล้ว เอ.พี.ฮอนด้ายังได้จัดแสดงรถฮอนด้าบิ๊กไบค์อีกหลายรุ่นให้ผู้ที่สนใจได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด อาทิ Honda NM4, CB1100EX, F6B, F6C, VFR1200X, CTX1300, NC750X, CTX700, 500Series, 650Series รวมถึงรถแต่งพิเศษจาก H2C, Mugen และ Moriwaki
เอ.พี.ฮอนด้าเปิดตัวพร้อมรับจอง Honda GoldWing 40th Anniversary Edition และ Honda CB500X เป็นครั้งแรกที่บูธฮอนด้าบิ๊กไบค์ หมายเลข G04 ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2014 อิมแพคชาลเลนเจอร์ฮอลล์ 3 เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคม 2557 พร้อมมอบข้อเสนอพิเศษสำหรับผู้ที่ซื้อรถฮอนด้าบิ๊กไบค์ภายในงาน ฟรีประกันภัยชั้น 1 ฟรี พรบ.และค่าจดทะเบียน พร้อมรับของสมนาคุณพิเศษเฉพาะรุ่น
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมและข่าวสารของฮอนด้าบิ๊กไบค์ได้ที่เว็บไซต์ www.hondabigbike.com พร้อมร่วมสนุกกับกิจกรรมต่างๆได้ที่แฟนเพจของฮอนด้าบิ๊กไบค์ www.facebook.com/HondaBigBike และอินสตราแกรม IG:HondaBigBike
-
Honda Launches 3 New Big Bikes to Boost the Last Quarter



Honda Launches 3 New Big Bikes to Boost the Last Quarter GoldWing 40th Anniversary Edition, CBR1000RR Champion Special, New CB500X Minor Change And special offers at Motor Expo 14
AP Honda, the official Honda Big Bike distributor in Thailand, boosts the last quarter with 3 new models at Motor Expo 2014; Honda GoldWing 40th Anniversary Edition, Honda CBR1000RR Champion Special, and New Honda CB500X Minor Change, at G04 booth Impact Challenger Hall 3, Muangthong Thani between November 28 and December 10, 2014. Customers buying new Honda BigBike will get special offers available only at the expo.
“Thailand’s big bike market is still growing in 2014. The number of new registration in the first 10 months this year increases 22% year-on-year to 13,600 units. Honda Big big bike sales increase 85% to 4,400 units. The positive factor that immensely boosted the growth of Honda BigBike are the launch of locally manufactured series particularly the 650Series and the expansion of Honda BigWing nationwide that offers efficient after-sales service. Currently, there are 10 Honda BigWing Centers, with 1 expected to open very soon,” said Suchart Arunsaengroj, director of AP Honda Co Ltd, the official Honda BigBike distributor in Thailand.
“To boost the market in the last quarter, our Honda BigBike Excites The World concept is ready to stimulate the customers' demands with 2 imported models; Honda GoldWing 40th Anniversary Edition and Honda CBR1000RR Champion Special to be available at Motor Expo 2014. The New Honda CB500X, with minor changes for a more modern and sleek look to please the fans, also launched at the expo.”
Honda GoldWing 40th Anniversary Edition is the special version of touring model to celebrate the 4 decades of Gold Wing Series. With 1800cc, 6 cylinder engine, the model comes with cruise control, airbag, and reverse gear for a better ride. Price is Bt1,320,000 for the 3 color options; black, graphite, and pearl white; and Bt1,360,000 for special color edition, candy prominence red.
Honda CBR1000RR Champion Special is the super sport model that swept the champion trophy at MotoGP 2014. With its outstanding design, Repsol Replica, the model inherits the power of the MotoGP racing circuit and latest world champion Mark Marquez's No 93 in its engine. The model comes with DOHC 4 cylinder engine, 1,000cc, PGM-DSFI which has been developed only for super sport bike, Unit Pro-Link and Balance Free Rear Cushion, as well as Slipper Clutch. The model will be available for secure very soon
New Honda CB500X Minor Change comes with new graphic which makes it even more outstanding and sleek. The 2 cylinder and 500cc engine is equipped with 9-level adjustable Pro-Link and ABS. The 3 color options are gun powder metallic matte black, pearl summit matte white, and millennium red. All available at Bt215,000.
Apart from the 3 launched, AP Honda will also bring other models for exhibition which are Honda NM4, CB1100EX, F6B, F6C, VFR1200X, CTX1300, NC750X, CTX700, 500Series, and 650Series, as well as customized bikes by accessories from H2C, Mugen, and Moriwaki.
Honda GoldWing 40th Anniversary Edition and Honda CB500X are ready for secure at Honda Big Bike booth (G04 Booth) at Motor Expo 2014 held at Impact Challenger Hall 3 Muangthong Thani, from November 28 until December 10, 2014. Special offers prepared for customers who buy a new Honda Big Bike at the expo are one-year first-class vehicle insurance, compulsory insurance, registration fee, and special gifts for each mode
For more information and updates on Honda BigBike, visit www.hondabigbike.com. For events and activities, visit www.facebook.com/HondaBigBike and IG:HondaBigBike
-
ฟอร์ด เซอไพรส์ผู้เข้าชมงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ด้วยการจัดแสดง ฟอร์ด มัสแตงและโปรโมชั่นพิเศษส่งท้ายปี
- ตื่นตากับการจัดแสดง ฟอร์ด มัสแตง ครั้งแรกในประเทศไทย โดยเป็นส่วนหนึ่งของวาระการเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีของรถ Pony car ที่ถือเป็นไอคอนของวงการรถยนต์
- พร้อมจัดทัพรถระดับแนวหน้าทุกรุ่น ทั้ง เรนเจอร์ เอคโค่สปอร์ต เฟียสต้าและโฟกัส มาแสดงในงาน
- พบกับแคมเปญ ‘Y-E-S – Year-End-Sales’ มอบข้อเสนอสุดคุ้มส่งท้ายปีตลอดระยะเวลาการจัดงาน




วันนี้ ฟอร์ด ประเทศไทย สร้างสีสันการเปิดตัวในงานมหกรรมยานยนต์ มอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 31 อย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการจัดแสดงรถฟอร์ด มัสแตง ที่ถือเป็นไอคอนแห่งวงการรถยนต์ พร้อมจัดทัพรถยนต์แนวหน้าระดับโลกทุกรุ่น รวมถึงนวัตกรรมที่แสดงถึงความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของฟอร์ด
ฟอร์ด นำฟอร์ด มัสแตง ซึ่งติดตั้งเครื่องยนต์ EcoBoost 2.3 ลิตร มาจัดแสดงเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยเป็นส่วนหนึ่งของวาระการฉลองครบรอบ 50 ปีของรถมัสแตง เพื่อให้ผู้ที่เข้าชมบูธฟอร์ดได้สัมผัสกับรถที่เป็นไอคอนแห่งวัฒนธรรมร่วมสมัยอย่างใกล้ชิด
ฟอร์ด ยังตอกย้ำความมุ่งมั่นในการนำเสนอรถยนต์ระดับโลกแก่ลูกค้าในประเทศไทยผ่านการจัดแสดงรถยนต์ระดับโลกทุกรุ่น ทั้ง ฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต รถอเนกประสงค์สำหรับคนเมืองที่ผสมผสานความคล่องแคล่ว ราคาที่เหมาะสมและการประหยัดน้ำมันของรถขนาดเล็กเข้ากับความเอนกประสงค์และความกว้างขวางของรถอเนกประสงค์ได้อย่างลงตัว รถกระบะพันธุ์แกร่ง ฟอร์ด เรนเจอร์ ที่เป็นรถรุ่นที่ขายดีที่สุดของฟอร์ดในประเทศไทย ด้วยความแข็งแกร่ง พร้อมสมรรถนะอันเป็นเลิศ เทคโนโลยีอัจฉริยะ ความปลอดภัย การประหยัดน้ำมันและความสะดวกสบาย ฟอร์ด เฟียสต้า รถยนต์นั่งขนาดเล็กแบบสปอร์ต ที่ได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์ EcoBoost ขนาด 1.0 ลิตร ซึ่งได้รับรางวัลเครื่องยนต์ยอดเยี่ยมระดับโลก และฟอร์ด โฟกัส ที่ได้รับการติดตั้งเทคโนโลยีอัจฉริยะซึ่งติดตั้งในรถเซกเมนต์นี้เป็นครั้งแรก ไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ และระบบช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำ
“เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้เข้าชมบูธฟอร์ดในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งนี้จะได้สัมผัสกับบูธในรูปแบบ อินเทอร์แอ็คทีฟของเรา รวมถึงรถยนต์ระดับแนวหน้าทุกรุ่นที่จำหน่ายในประเทศไทยและร่วมฉลองวาระครบรอบ 50 ปีของฟอร์ด มัสแตง” นางสาวยุคนธร วิเศษโกสิน กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าว “รถระดับโลกของเราทุกรุ่นจะยังคงเชื่อมต่อกับผู้บริโภคชาวไทยในรูปแบบใหม่ๆ ควบคู่ไปกับการก้าวไปข้างหน้าอย่างแข็งแกร่งด้วยการพัฒนานวัตกรรมด้านยานยนต์อย่างต่อเนื่อง”
บูธของฟอร์ดยังจะจัดแสดงมุมต่างๆ ในรูปแบบอินเทอร์แอ็คทีฟ ไม่ว่าจะเป็นมุมเทคโนโลยีเครื่องยนต์ EcoBoost ที่จะแสดงข้อมูลของเครื่องยนต์ EcoBoost อย่างละเอียด เรนเจอร์ เซฟตี้ โซน ที่สื่อถึงแนวคิดหลัก 4 ประการของแบรนด์ฟอร์ด ซึ่งประกอบด้วยความมีคุณภาพ (Quality) การประหยัดน้ำมัน (Green) ความปลอดภัย (Safe) และเทคโนโลยีอัจฉริยะ (Smart) และพื้นที่จัดแสดงนวัตกรรมด้านบริการหลังการขายของฟอร์ด ที่แสดงถึงความมุ่งมั่นในการมอบประสบการณ์ที่เป็นเลิศด้านบริการหลังการขายระดับโลกให้แก่ลูกค้าฟอร์ดในประเทศไทย
ข้อเสนอสุดพิเศษ
ฟอร์ดเตรียมข้อเสนอสุดพิเศษจากแคมเปญ ‘Y-E-S – Year-End-Sales’ กับ 2 โปรโมชั่นสุดคุ้ม “ดอกเบี้ย 0%” หรือ “ส่วนลดเท่าเงินดาวน์” สำหรับรถยนต์ระดับโลกของฟอร์ดภายในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งนี้
สำหรับผู้ที่สนใจรถฟอร์ด โฟกัส สามารถเลือกโปรโมชั่นส่วนลดเท่าเงินดาวน์สูงสุดถึง 130,000 บาท สำหรับรุ่นแอมเบียนท์ และส่วนลดสูงสุด 100,000 บาท สำหรับรุ่นอื่นๆ หรือเลือกรับโปรโมชั่นดอกเบี้ย 0% เมื่อดาวน์ 25% และผ่อนนาน 45 เดือน พร้อมประกันภัยชั้นหนึ่งฟรีและโปรแกรม “Ford Premium Care” สำหรับฟอร์ด โฟกัส ทุกรุ่น
ฟอร์ด เรนเจอร์ มาพร้อมข้อเสนอส่วนลดเท่าเงินดาวน์สูงสุด 90,000 บาท หรือโปรโมชั่นผ่อนสบายดอกเบี้ย 0% ผ่อนนาน 60 เดือน เมื่อดาวน์ 25% สำหรับเรนเจอร์ รุ่น XL
สำหรับลูกค้าที่สนใจเป็นเจ้าของ ฟอร์ด เฟียสต้า เครื่องยนต์ EcoBoost เทอร์โบ ฟอร์ดมอบข้อเสนอโปรโมชั่นส่วนลดเท่าเงินดาวน์สูงสุด 50,000 บาท หรือโปรโมชั่นดอกเบี้ย 0% และผ่อนนานถึง 60 เดือนเมื่อดาวน์ 25% นอกจากนี้ ฟอร์ดยังเตรียมของที่ระลึกเพื่อมอบให้กับลูกค้า 2,000 ท่านแรกที่สนใจทดลองขับรถฟอร์ด เฟียสต้า เครื่องยนต์ EcoBoost เทอร์โบ ภายในงาน
โปรโมชั่นพิเศษสำหรับรถยนต์นั่งอเนกประสงค์สำหรับคนเมือง ฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต ทั้งรุ่นแอมเบียนท์และ เทรนด์ สามารถเลือกรับส่วนลดเท่าเงินดาวน์สูงสุด 40,000 บาท หรือเลือกโปรโมชั่นผ่อนสบาย ดอกเบี้ย 0% ผ่อนนาน 36 เดือน เมื่อดาวน์ 25%
ส่วนผู้ที่สนใจฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต รุ่นไทเทเนียม เลือกรับข้อเสนอส่วนลดเท่าเงินดาวน์สูงสุด 20,000 บาท หรือโปรโมชั่นผ่อนสบายดอกเบี้ย 0% ผ่อนนาน 24 เดือน เมื่อดาวน์ 25%
ฟอร์ดยังเตรียมข้อเสนอพิเศษสำหรับรถฟอร์ดรุ่นอื่นๆ มานำเสนออย่างครบครัน อาทิ ส่วนลดเท่าเงินดาวน์สูงสุด 90,000 บาท สำหรับฟอร์ด เอเวอเรสต์ และฟอร์ด เฟียสต้า เฉพาะรุ่น
-
Ford Delights Thailand International Motor Expo 2014 Visitors with Display of Mustang and Special Year-End Offers
- The Mustang is on display for the first time in Thailand, as part of the company’s 50th Anniversary celebration for its iconic pony car
- Ford is showcasing its full line-up of segment-leading vehicles, including the Ranger, EcoSport, Fiesta and Focus
- Special deals from the ‘Y-E-S’ - Year-End-Sales - Campaign will be on offer through Expo dates




Ford Thailand today kicked off the 31st Thailand International Motor Expo with a special treat for visitors – the iconic Ford Mustang displayed on its stand, in addition to its full lineup of segment-leading global vehicles.
The 2.3-litre EcoBoost Mustang is being displayed in Thailand for the first time as part of the Company’s global celebration of the nameplate’s 50th Anniversary. Expo-goers can get an up close and personal viewing of a vehicle that has become an enduring icon of automotive and popular culture.
Additionally, Ford is highlighting its commitment to delivering segment-defining vehicles by showcasing its full vehicle range. These include the EcoSport urban SUV that combines the agility, affordability and fuel efficiency of a compact car with the flexibility and spaciousness of a sport utility vehicle; the versatile Ranger, Ford’s best-selling nameplate in Thailand with its combination of toughness, capability, smart technologies, safety, fuel economy and comfort; the sporty Fiesta, featuring Ford’s award-winning 1.0-litre EcoBoost engine; and the Focus, featuring first-in-market technologies such as Active Park Assist and Active City Stop.
“We’re looking forward to Expo visitors coming to our stand to experience our interactive displays, our full Ford vehicle lineup, and join in our global 50th Anniversary celebration of the Mustang,” said Yukontorn ‘Vickie’ Wisadkosin, managing director, Ford Thailand. “Our robust range of global Ford vehicles continues to connect with Thai customers in new ways as we continue to go further with our product-led transformation.”
The Ford stand also features interactive exhibits such as an in-depth display of the EcoBoost engine and a Ranger Safety Zone, demonstrating the company’s brand pillars of quality, green, safety and smart technologies. There is also an interactive display of Ford’s innovative after-sales services to emphasize the ongoing transformation of Ford’s customer experience in Thailand.
Special Promotions
Special offers currently available through the ‘Y-E-S’ Year-End-Sales Campaign, including zero-percent interest or matching of down payment on segment-leading vehicles in Thailand, will be highlighted during the Expo.
Ford is matching down payments up to THB 130,000 on the Focus Ambiente and up to THB 100,000 on all other Focus models. Customers can also choose zero-percent interest for 48 months with 25 percent down payment, including free first-class insurance and Ford Premium Care service on any Focus model.
Ford will match down payments up to THB 90,000 on the Ranger XL model, or zero-percent interest for 60 months with 25 percent down payment.
For customers purchasing a Fiesta EcoBoost Turbo, Ford will match down payments up to THB 50,000, or offer zero-percent interest for 60 months with 25 percent down. The first 2,000 visitors to test drive the Fiesta EcoBoost Turbo will also receive a Ford souvenir.
Ford has attractive promotions for various models of the all-new EcoSport urban SUV. On both the Ambiente and Trend models, customers can select a matching of their down payments up to THB 40,000 or zero percent interest for 36 months with 25 percent down payment.
For the Titanium model, Ford is matching down payments up to THB 20,000 or providing zero percent interest for 24 months with 25 percent down payment.
Ford is also offering exclusive deals on other models, such as matching of down payments up to THB 90,000 on the Everest and select models of the Fiesta.
-
เอ็มจี เดินหน้าส่ง เอ็มจี 6 สีใหม่ พร้อมเผยโฉมรถยนต์ซับคอมแพ็ค “MG3” ครั้งแรกในไทยที่งานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2014




บริษัทเอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด และบริษัทเอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ “เอ็มจี” แบรนด์รถยนต์สัญชาติอังกฤษที่กำลังฉลองวาระครบรอบ 90 ปีของแบรนด์ในปีนี้ เตรียมรุกตลาดไทยอย่างต่อเนื่อง หลังเปิดตัวและทำตลาดรถยนต์ขนาดซี-เซ็กเมนต์รุ่น “MG6” ในตลาดรถยนต์ไทยไปตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับจากลูกค้าและแฟนเอ็มจีในประเทศไทยเป็นอย่างดี โดยเตรียมส่งรถยนต์เอ็มจี 6 สีใหม่ Black Top Design สีขาวหลังคาดำ พร้อมจำหน่ายครั้งแรกในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปเป็นต้นไป พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษอีกมากมาย นอกจากนี้ เอ็มจี ยังเผยโฉม “MG3” รถยนต์ซับคอมแพ็คขนาดบี-เซ็กเมนต์ เพื่อลงทำตลาดอย่างเต็มตัวในปีหน้า
มร.หวู่ ฮวน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย กล่าวว่า “บริษัทรู้สึกดีใจที่ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคชาวไทยเป็นอย่างดี หลังจากเปิดตัว MG6 ไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปปีนี้ เอ็มจีพร้อมแล้วที่จะเดินหน้าต่อไป ด้วยการรุกตลาดบี-เซ็กเมนต์อย่างต่อเนื่องด้วยรถยนต์น้องใหม่ “MG3” เพื่อลุยตลาดอย่างเต็มตัวในปีหน้า ทั้งนี้เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าว่าเรามีการลงทุนอย่างต่อเนื่องในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยอย่างแท้จริง เพื่อให้มีผลิตภัณฑ์ที่ได้คุณภาพออกมาตอบสนองลูกค้าครบทุกเซ็กเม้นต์”
“การเผยโฉมรถยนต์รุ่น MG3 ของเอ็มจีที่งานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2014 นี้ ถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยรถยนต์ MG3 นั้น ได้รับการออกแบบตามแนวคิด ‘บริท ไดนามิก’ มาตรฐานใหม่ในการขับขี่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ ความสนุก (FUN) เอาใจกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่เพื่อตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ในทุกการใช้งาน โดย MG3 มีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ รุ่นแฮทช์แบ็ค 5 และรุ่นครอส (Xross) 5 ประตู เราเชื่อมั่นในศักยภาพของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และมั่นใจว่ารถยนต์ของเอ็มจีจะก้าวมาเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่จะครองใจผู้บริโภคชาวไทยที่มองหาความแตกต่าง ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างลงตัว พร้อมบริการหลังการขายและเครือข่ายตัวแทนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยศักยภาพ” มร.หวู่ ฮวน กล่าวต่อ
ในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2014 เอ็มจียังนำเสนอรถยนต์ MG6 รุ่นสีพิเศษ สีขาวหลังคาดำ ‘MG6 Black Top Design’ สุดหรูหรา เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการฉลองครบรอบ 90 ปีของแบรนด์ โดยเริ่มจำหน่ายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2014 เป็นต้นไป เอ็มจี 6 มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร พร้อมเทอร์โบชารจ์และเครื่องยนต์ธรรมดา ที่ให้ความรู้สึกตามแนวคิด บริท ไดนามิก ทั้ง 4 ด้านไม่ว่าจะเป็น การขับขี่ที่สนุกและเป็นอิสระ (Performance) การออกแบบที่ล้ำสมัยสะท้อนตัวตนของนักขับ (Design) ระบบการควบคุมรถได้ดั่งใจ (Handling) และความปลอดภัยระดับสากล (Safety) ทำให้ เอ็มจี 6 ได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ชนะ Auto Express 2014 Driver Power award ในสาขาการควบคุมรถยอดเยี่ยม (Best Handling) อีกด้วย นับว่าเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของเอ็มจีที่ได้นำรถยนต์มาตรฐานคุณภาพยุโรปมาให้ผู้บริโภคชาวไทยได้ครอบครอง
อีกหนึ่งไฮไลต์พิเศษที่หาชมได้ยากที่เอ็มจีนำมาให้ผู้บริโภคชาวไทยได้ชมกันคือการแสดงชุด “Trickline” ที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าเยี่ยมชมบูธของเอ็มจีที่งานมอเตอร์เอ็กซ์โปได้สัมผัสกับความมันส์ของการผสมผสานสมดุลของกีฬาเอ็กซ์ตรีม เข้ากับบีทอันเร้าใจ อิสระของการเคลื่อนไหวบนเส้นเชือก ท้าทายแรงโน้มถ่วง โดยนักแสดงจากทีม Gibbon ที่มีชื่อเสียงทั่วโลก สะท้อนภาพลักษณ์ความสนุกสนานและความอิสระในสไตล์ของรถยนต์เอ็มจีได้อย่างชัดเจน
นอกจากนี้ เอ็มจี ยังได้เตรียมโปรโมชั่นพิเศษส่งท้ายปีอีก 6 รายการที่ลูกค้าจะได้พบที่งานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2014 และที่โชว์รูมเอ็มจีทุกสาขาทั่วประเทศ มีทั้งโปรโมชั่นผ่อน 0% 48 เดือน ฟรีประกันภัยชั้น 1 เป็นเวลา 1 ปีเต็ม ระบบนำทางอัจฉริยะ* (Navigator system) กล้องมองหลัง* เครื่องเล่นดีวีดี* พร้อมรับสิทธิ์ลุ้นไอโฟน 6 จำนวนทั้งหมด 90 เครื่อง (* มีเฉพาะรุ่น X Trim เท่านั้น)
ผู้บริโภคยังมั่นใจได้กับบริการหลังการขายที่ได้มาตรฐาน อาทิเช่น การรับประกันรถยนต์ 4 ปีหรือ 120,000 กิโลเมตร บริการ MG Roadside Assistant ตลอด 24 ชั่วโมง บริการโมบายเซอร์วิส 24 ชั่วโมง โดยลูกค้าที่จับจอง MG6 ทุกรุ่นภายในงาน ยังจะได้รับนาฬิกา MG 90th Anniversary Edition Watch ในวันรับรถเป็นของขวัญสุดพิเศษอีกด้วย
-
MG Unveils “MG3” and Introduces MG6 Black Top Design At the Motor Expo 2014




SAIC Motor-CP Ltd and MG Sales (Thailand) Ltd, manufacturer and distributors of “MG”, a leading British car brand that is celebrating its 90th anniversary this year, set to excite the upcoming Motor Expo 2014 and Thailand’s B-segment car market with the unveiling of its “MG3” hatchback. The unveiling comes after MG has marketed its C-segment model MG6 in mid-2014 and received a warm welcome from Thai consumers and MG fans across the country. The Motor Expo also sets to mark the 90th year for the brand with a launch of “MG6 Black Top Design” scheduled to be available exclusively at the event onwards, together with lots of promotional offers, while the MG3 will be available next year.
Mr. Wu Huan, President, SAIC Motor – CP Co., Ltd., the manufacturer and distributor of MG cars in Thailand, said, “Since our debut in Thailand with the MG6 launch this year, we have received overwhelming responses from the Thai market which drove strong growth for our business here. As a result, we are more than ready to move on and be fully committed to the market through the launch of our new B-segment model “MG3” which is set to be unveiled at the Motor Expo 2014 and will be available for consumers next year. Our concrete investment plan and product launch are the strong proof of our commitment to Thailand.”
“The unveiling of MG3 at Motor Expo 2014 also marks its debut in Thailand. Based on the “Brit Dynamic”, MG3 comes in a Fun concept for customers who want to design their own lifestyle and live their lives to the fullest. MG3 is available in two variants – 5-door Hatchback and Xross. MG has strong confidence in the potential of Thailand’s automotive industry, our ability to better address Thai consumers’ needs and lifestyles as well as a good distribution network and after-sales services,” said Mr. Wu Huan.
At the Motor Expo 2014, MG makes a premiere of MG6 Black Top Design to celebrate the 90th anniversary of the brand. The elegant Black Top Design will first be available at the event. The MG6 comes equipped with a 1.8-litre engine with Turbocharger providing an unmatched ‘performance’ that allows drivers to feel free and have fun driving an eye-catching “design” that reflects the personality of the driver, superior “handling,” and international standard of “safety.” Altogether, these qualities make MG a fun and safe car to take control. In addition, it is these qualities that make MG6 to be named the winner of the UK Auto Express 2014 Driver Power Award for Best Handling.
To enhance visitors’ experience at the Motor Expo 2014, MG has also prepared the “Trickline” performance, a rare performance by the world’s leading Trickline team. The art of balancing one’s body on a single rope combined with a spectacular performance will reflect MG3’s fun and spiritual driving experience.
MG has also designs 6 very special offers for customers who buy an MG car at the Motor Expo 2014 or any MG showroom nationwide during this period. The special offers include 0% interest for 48 months, Free 1st Class insurance for 1 year, free navigation system*, free rear-view camera*, DVD player* and a chance to be one of the lucky 90 winners of an iPhone 6. (*only for the X Trim edition)
After-sales services include 4 years or 120,000 km warranty, 24-hour MG roadside assistant and 24-hour MG mobile service. All bookings will get a special 90th Anniversary Edition Watch from MG on the delivery date as well.
-
แม็คซัส วางตำแหน่งสินค้าเจาะกลุ่มองค์กร กลุ่มครอบครัวใหญ่ พร้อมโชว์รถพยาบาลต้นแบบ ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป




บริษัท แม็คซัส มอเตอร์ ( ไทยแลนด์ ) จำกัด ในเครือเจริญ โภคภัณฑ์ โชว์รถตู้เม็คซัส V80 ซึ่งถือเป็นรถตู้เซ็กเม้นต์ใหม่ GPV Grand Passenger Van เป็นรถตู้โดยสารที่มีขนาดใหญ่กว่ารถตู้ทั่วไปที่มีอยู่ในตลาดรถยนต์ของประเทศไทย ชูจุดขาย ใหญ่ สบาย ปลอดภัย มาจัดแสดงในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2014 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคม ศกนี้ เจาะลูกค้ากลุ่มองค์กร กลุ่มครอบครัวใหญ่ พร้อมโชว์รถพยาบาลต้นแบบยกระดับมาตรฐานเดียวกับรถพยาบาลในยุโรป และอเมริกา
นายอภิเชต สีตกะลิน ประธานบริษัท แม็คซัส มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า “รถตู้แม็คซัส คือรถตู้เซ็กเม้นต์ใหม่ GPV Grand Passenger Van มีขนาดใหญ่กว่ารถตู้ทั่วไปในประเทศไทย มีความอเนกประสงค์พร้อมตอบสนองการใช้งานที่หลากหลาย โดยเฉพาะการนำไปดัดแปลงเป็นรถรูปแบบต่างๆ อาทิ ตกแต่งเบาะที่นั่งเป็น VIP ในรถรุ่น V80 Grand Euro ด้วยความที่เป็นรถขนาดใหญ่จึงสามารถติดตั้งที่นั่งรถเข็นซูเปอร์ซีทไฮโดรลิคสำหรับอำนวยความสะดวกให้ผู้สูงอายุ หรือนำไปตกแต่งเพื่อเป็นรถใช้งานในรุ่น V80 Grand Tourer เจาะกลุ่มลูกค้าองค์กรใหญ่ โดยจะเริ่มขยายตลาดจากบริษัทในเครือซีพีก่อน จากนั้นจึงค่อยๆ ต่อยอดไปยังกลุ่มลูกค้า โรงเรียน, กลุ่มอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว, หน่วยงานราชการ, รัฐวิสาหกิจ, นิคมอุตสาหกรรม และ กองทัพ ฯลฯ โดยพิเศษสำหรับงานมอเตอร์ เอ็กซ์โปในครั้งนี้ เราได้จัดแสดงรถพยาบาล ซึ่งเป็นการยกระดับมาตรฐานรถพยาบาลในประเทศไทย ให้ได้ใช้รถที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถทำงานเพื่อช่วยเหลือเหตุฉุกเฉินได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งกลุ่มโรงพยาบาลนับเป็นกลุ่มลูกค้าสำคัญของแม็คซัส มีตลาดอยู่ประมาณปีละกว่า 2 พันคัน”
แม็คซัส V80 ให้ความสำคัญเรื่องของปลอดภัยตามมาตรฐานรถยุโรป อาทิดิสก์เบรก 4 ล้อ ABS, EBD, BA แอร์แบ็คคู่หน้า โครงสร้างตัวถังนิรภัยรอบคัน วางเครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรลของบ็อช พร้อมเทอร์โบแปรผัน ความจุ 2.5 ลิตร 136 แรงม้า 330 นิวตันเมตร
ภายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2014 แม็คซัส ได้จัดแสดงรถรุ่นตกแต่งพิเศษ ถึง 3 รุ่น ประกอบด้วย
1. รถพยาบาล แม็คซัส วี80 เป็นรถพยาบาลที่ให้ความปลอดภัยสูงสุด และมีขนาดที่ใหญ่กว่าได้ตามมาตรฐานยุโรป บุคลากรทางการแพทย์ทำงานได้สะดวก และเต็มประสิทธิภาพ สื่อให้ลูกค้ากลุ่มโรงพยาบาลเห็นถึงอรรถประโยชน์ ที่ได้รับจากความใหญ่ สบาย ปลอดภัย ซึ่งในต่างประเทศให้ความสำคัญมากเมื่อต้องนำรถมาดัดแปลงเพื่อใช้ในกิจการพิเศษประเภท
2. แม็คซัส วี80 แกรนด์ทัวเรอร์ ตกแต่งเพื่อเป็นรถใช้งาน แต่ยังคงความสะดวกสบาย ด้วยห้องโดยสารที่ใหญ่กว้างขวางกว่า ภายในสูงถึง 1.71 เมตร ให้ความโปร่ง โล่งสบาย ติดตั้งเบาะผิวสัมผัสหนังแท้ จอ LCD พร้อม DVD สามารถดูหนังฟังเพลงผ่านช่อง USB ได้อย่างสะดวก กล้องมองหลัง บันไดไฟฟ้าออโต้ พร้อมรางเลื่อนปรับเบาะแถวสุดท้าย เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้อย่างจุใจ โดยยังคงความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสารในทุกที่นั่ง ด้วยพื้นที่ว่างสำหรับวางเท้าที่กว้างกว่ารถตู้ทั่วไปในท้องตลาด
3. แม็คซัส วี80 แกรนด์ยูโร รถตู้ 11 ที่นั่ง ระดับแกรนด์วีไอพี ตกแต่งครบครันหรูหราอย่างมีระดับ ด้วยเบาะผิวสัมผัสหนังแท้ เบาะแถวที่ 2 ปรับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมที่พักเท้า ติดตั้งระบบเครื่องเสียง โฮมเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ครบครัน เพื่อความเพลิดเพลินในทุกการเดินทาง โดยกั้นส่วนระหว่างห้องโดยสาร และห้องคนขับด้วยกระจกนิรภัยขึ้นลงด้วยไฟฟ้า เพิ่มความเป็นส่วนตัว หรือประชุมงานสำคัญระหว่างการเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย พร้อมบันไดไฟฟ้าออโต้ กล้องมองหลังช่วยให้จอดได้ง่ายขึ้น เหนือระดับด้วยช่วงล่างแบบถุงลม Air Suspension พร้อมรถตกแต่งพิเศษติดตั้งที่นั่งรถเข็นซูเปอร์ซีทไฮโดรลิคสำหรับอำนวยความสะดวกให้ผู้สูงอายุ
“การนำรถพยาบาลมาโชว์ในงานนี้ ถือเป็นการบุกตลาดที่แตกต่าง เน้นรูปแบบไดเร็คเซลส์เจาะตรงไปยังกลุ่มเป้าหมาย ลูกค้ากลุ่มโรงพยาบาลได้เห็นรถคันจริง ช่วยให้เราสามารถปิดการขายได้ง่ายขึ้น และกลยุทธ์การตลาดที่สำคัญที่แม็คซัสใช้เจาะตลาดคือการใช้ Experiential Marketing มาช่วยสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้าได้สัมผัสรถอย่างใกล้ชิด นำรถไปให้ลูกค้าได้ทดลองใช้งานจริง ผลปรากฎว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ซึ่งเรามั่นใจว่าการบุกตลาดของแม็คซัสในครั้งนี้ ผนวกกับความมั่นคง และศักยภาพของเครือ เจริญโภคภัณฑ์ การให้บริการทั้งก่อนและหลังการขายโดยผู้จำหน่ายทั้งในกรุงเทพ ปริมณฑล และตามหัวเมืองใหญ่ทั้ง 18 แห่งทั่วประเทศ จะสามารถตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าได้อย่างดีที่สุด” นายอภิเชต กล่าวสรุป
-
Maxus showcasing three V80 derivatives at 31st Motor Expo




Maxus Motor (Thailand) Co. Ltd., a division of the Charoen Pokphand (CP) Group, is highlighting three versions of the Maxus V80 large van at the 31st Thailand International Motor Expo at the Challenger Hall, Muanthong Thani from November 29 to December 4.
The V80 opens up a new segment in the Thai automobile market namely the GPV (Grand Passenger Van) segment, offering larger interior and higher safety levels. Target customers for the V80 are fleet customers as well as large families.
Taking center stage at the Maxus booth is the V80 ambulance concept that boasts similarly high standards as ambulance vehicles in Europe and the United States.
Mr. Abhichet Sitalakin, president of Maxus Motor (Thailand) Co. Ltd., said, “The Maxus V80 opens up a new GPV (Grand Passenger Van) segment in Thailand. Along with its larger size, it boasts outstanding multi-purpose capability, especially when customized for various uses. Examples include the hydraulic Superseat for the elderly fitted to the V80 Grand Euro or custom V80 Grand Tourer which is targeted at large organization customers.”
According to Abhichet, initial customers will be within the CP Group, before expanding to schools, tourism industry, government agencies, state enterprises, industrial estates, armed forces, etc.
“At the Motor Expo, we are displaying an ambulance concept that significantly raises the standards of ambulances in Thailand with its larger size, allowing medical personnel to carry out their duty more conveniently and effectively,” he said, adding that hospitals are an important customer group for Maxus.
The Maxus V80 carries European safety standards and come with 4-wheel ABS brakes with EBD (Electronic Brakeforce Distribution) and BA (Brake Assist), dual front SRS airbags, and all-round safety body structure.
Power comes from a 2.5-liter diesel engine with common-rail injection from Bosch, along with variable geometry turbocharger, capable of developing some 136 horsepower and 330Nm of torque.
At the Motor Expo 2014, Maxus is displaying three customized models as follows:
1. Maxus V80 Ambulance
This ambulance concept represents another important selling point for the Maxus V80 that differentiates itself from competitors in the Thai market. In overseas markets, the Maxus van is often customized for various uses such as ambulances, school buses, police vehicles and armored vehicles, etc. By displaying the V80 Ambulance Concept, Maxus is able to communicate to customers about the benefits derived from the larger size, as well as higher comfort and safety levels of the V80. These are qualities that customers in overseas markets consider when selecting a vehicle for customization purposes.
2. Maxus V80 Grand Euro
The Maxus V80 Grand Euro is an 11-seater VIP limousine that is fully furnished with high-quality materials such as genuine leather upholstery, electrically-adjustable second-row Ottoman seats (with legrest) and a fully-loaded entertainment system. The driver and passenger compartment is divided with an electric-powered glass partition that helps increase privacy. Automatic side steps are electrically-operated allowing for easy entry and exit, while the rearview camera offers easier parking maneuvers.
3. Maxus V80 Grand Tourer
The V80 is customized for a wider use while maintaining the high levels of comfort, thanks to its exceptionally spacious interior providing a 1.71-meter cabin height. Seats are upholstered with genuine leather and entertainment system includes a LCD screen with DVD player and USB input. Other standard features include rearview camera and automatic electric side steps. The last-row seats come with sliding mechanism allowing for plenty of luggage room, while maintaining high comfort for passengers. Occupants also get more legroom in every seat than other vans in the market due to the V80’s larger cabin.
“Displaying an ambulance at this event is a unique marketing offensive, and we concentrate on creating direct sales opportunities with target customer groups. For example when hospital customers see the real ambulance, it is easier to finalize the sale. Another important strategy for Maxus in penetrating the market is ‘Experimental Marketing’ that helps create close customer experience with the vehicle. We take the vehicles directly to the customers to use in daily life and we have received tremendous response,” Abhichet said.
“We are confident that the market offensive by Maxus, along with the strong foundation and potential of the Charoen Pokphand Group, and the excellent pre- and after-sales services provided by Maxus dealerships in Bangkok, its perimeters and upcountry in the 18 major provinces in Thailand, will help our brand respond effectively to customer wants and needs,” he added.
-
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย จัดแสดงยนตรกรรมสายพันธุ์ สปอร์ตระดับพรีเมี่ยม เปิดตัว the all-new BMW M4 Coupe และ the all-new BMW X6 xDrive30d M Sport ครั้งแรกในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 31




The all-new BMW X6 xDrive30d M Sport มอบคำจำกัดความของยุคใหม่แห่งยนตรกรรมสไตล์ Sport Activity Coupé พร้อมด้วยเทคโนโลยีขุมกำลังดีเซลอันล้ำสมัย และชุดแต่ง M Sport เน้นความปราดเปรียวที่ลงตัวระหว่างสมรรถนะและประสิทธิภาพเหนือระดับ
The all-new BMW M4 Coupé สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับดีไซน์ทรงพลังเพื่อสุนทรียภาพแห่งการขับขี่ที่เพิ่มยิ่งขึ้น
พบกับขบวนรถยนต์และมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู รวมถึงมินิ กว่า 30 รุ่น พร้อมกับข้อเสนอสุดพิเศษแห่งปี
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ตอกย้ำความเป็นผู้นำนวัตกรรมแห่งยนตรกรรมระดับ พรีเมี่ยม จัดทัพยานยนต์สไตล์สปอร์ตสุดหรูมาแสดงในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 31 พร้อมด้วยข้อเสนอและแคมเปญสุดพิเศษ นำโดย the all-new BMW X6 xDrive30d M Sport, the all-new BMW M4 Coupe, the new BMW X3 และ the all-new BMW 428i Gran Coupe M Sport รวมถึงยนตรกรรมที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุดแห่งปี บีเอ็มดับเบิลยู i8 สำหรับบูธมินิ พบกับมินิ แฮทช์ 5 ประตูใหม่, มินิ แฮทช์ 3 ประตูใหม่ และโฉมใหม่ของรถมินิรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุด มินิ คันทรี่แมน พร้อมมอเตอร์ไซค์สายพันธุ์ซูเปอร์สปอร์ต บีเอ็มดับเบิลยู เอส 1000 อาร์อาร์ ซึ่งได้รับการพัฒนาใหม่หมดทั้งในด้านของการออกแบบและวิศวกรรม พร้อมยกระดับกำลังเครื่องยนต์และเทคโนโลยี ที่บูธของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ภายในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 31 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคม 2557 นี้
The all-new BMW M4 Coupe
ในฐานะรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูตระกูล M ที่นำวิศวกรรมการลดน้ำหนักตัวถังมาใช้จากเจเนอเรชั่นหนึ่งไปสู่อีกขั้นของนวัตกรรม The all-new BMW M4 Coupe พร้อมที่จะพุ่งทะยานผ่านทุกโค้ง เนิน และทุกจุดในสนามแข่ง พร้อมทั้งรักษาตำแหน่งผู้นำระดับโลกของตลาดรถยนต์ในกลุ่มเดียวกันที่สืบทอดมาหลายทศวรรษของบีเอ็มดับเบิลยู M อีกด้วย
“M4” เป็นชื่อที่สื่อถึงรถยนต์ในตระกูล M รุ่นใหม่ล่าสุด สำหรับเครื่องยนต์ซึ่งถือเป็นหัวใจของโมเดล M ทุกรุ่นนั้นมาพร้อมกับเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 6 สูบ ในห้องเครื่องของ The all-new BMW M4 Coupe มอบสมรรถนะการขับขี่ความเร็วสูงด้วยความแข็งแกร่งของเทคโนโลยีเทอร์โบชาร์จ และมอบกำลังสูงถึง 431 แรงม้า โดยมีแรงบิดสูงสุดที่ 550 นิวตันเมตร ที่ 1,850-5,500 รอบต่อนาที หรือมากกว่าแรงบิดสูงสุดของบีเอ็มดับเบิลยู M3 ในรุ่นก่อนหน้านี้ กว่าร้อยละ 40 ขณะเดียวกับขุมกำลังของบีเอ็มดับเบิลยู M4 ยังประสบความสำเร็จในการลดการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและการปล่อยก๊าซ CO2 ลงเกือบร้อยละ 25 The all-new BMW M4 Coupe สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม.ต่อชม.ได้ภายในเวลาเพียง 4.1 วินาทีด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบคลัชท์คู่ 7 สปีด
หัวใจแห่งความสำเร็จของสมรรถภาพทรงพลังสูงสุดและประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมเกิดขึ้นได้ จากการ ลดน้ำหนักของตัวรถได้มากกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 80 กิโลกรัม ส่งผลให้ The all-new BMW M4 Coupe สร้างมาตรฐานใหม่ทั้งในด้านแนวคิดโดยรวมและการตอบสนองที่แม่นยำและความคล่องตัว ด้วยดีไซน์อัจฉริยะที่คัดเลือกวัสดุที่มีน้ำหนักเบา ซึ่งรวมถึงการนำวัสดุพลาสติกเสริมใยคาร์บอน (CFRP) และอะลูมิเนียมมาใช้เป็นส่วนประกอบของโครงแชสซีและตัวถัง โดยเฉพาะหลังคาของ The all-new BMW M4 Coupe ที่สร้างจากวัสดุคาร์บอนเสริมใยทั้งหมด
The all-new BMW X6 xDrive30d M Sport
รถสปอร์ตเอนกประสงค์สไตล์คูเป้ The all-new BMW X6 เป็น Sports Activity Coupe เจเนอเรชั่นที่สองของ บีเอ็มดับเบิลยู ที่มาพร้อมกับดีไซน์ใหม่และอุปกรณ์มาตรฐานสุดพิเศษ ส่งผลให้บีเอ็มดับเบิลยู X6 เจเนอเรชั่นที่สองนี้ตอบสนองจิตวิญญาณสไตล์สปอร์ตได้ดียิ่งขึ้น ดีไซน์ของตัวรถ The all-new BMW X6 นี้ยังผสมผสานความแข็งแกร่งของยนตรกรรมบีเอ็มดับเบิลยูตระกูล Sport Activity เข้ากับความหรูหราสไตล์สปอร์ตของรูปทรงคูเป้ในแบบฉบับบีเอ็มดับเบิลยูอย่างลงตัว เกิดเป็นรถสปอร์ตเอนกประสงค์สไตล์คูเป้อันสมบูรณ์แบบ ด้วยดีไซน์เอกลักษณ์ต่างๆ ทั้งกระโปรงหน้าและฐานล้อที่ยาว ระยะห่างระหว่างกันชนกับล้อหน้าที่สั้น การออกแบบห้องโดยสารที่ลาดไปด้านหลัง ขณะที่ขอบหน้าต่างที่อยู่สูงและซุ้มล้อขนาดใหญ่คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของรถยนต์ตระกูล X ของบีเอ็มดับเบิลยู
ความทะมัดทะแมงสุดแกร่งของ the all-new BMW X6 เป็นภาพลักษณ์ที่โดดเด่น แสดงถึงการออกแบบที่ใส่ใจทุกรายละเอียด โดยเฉพาะการออกแบบในส่วนต่างๆ ที่ช่วยให้ตัวรถลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์มากยิ่งขึ้น เช่น ช่องดักอากาศ air deflector บริเวณซุ้มล้อหน้า ช่องอากาศ Air Curtain ร่วมกับระบบควบคุมอากาศสู่ห้องเผาไหม้ air intake ที่อยู่บริเวณกระโปรงหน้า และช่องทางเดินระบายอากาศ Air Breathers บริเวณบังโคลน ช่วยลดแรงต้านของอากาศบริเวณซุ้มล้อหน้าอย่างทรงประสิทธิภาพ
รูปลักษณ์ด้านข้างของ the all-new BMW X6 ก็ได้รับการออกแบบให้โฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้นเช่นกัน ด้วยเส้นสายคมชัดที่สะกดทุกสายตา รูปทรงแหลมเรียวสุดปราดเปรียวถูกขับเน้นให้โดดเด่นซึ่งเป็นดีไซน์ของรุ่นนี้โดยเฉพาะ เกิดเป็นเส้นสายข้างตัวรถสองเส้น เส้นแรกลากยาวจากซุ้มล้อหน้าราบรื่นเป็นเส้นเดียวกันจรดมือจับของประตูหลัง ขณะที่เส้นสายที่สองลากต่อจากระดับที่ต่ำกว่าและตวัดขึ้นยาวจรดไฟท้าย
คุณลักษณะอันทรงพลังของ Sports Activity Coupé ได้รับการเน้นให้ชัดเจนยิ่งขึ้นด้วยชุดแต่ง M Sport ซึ่งประกอบด้วย ชุดแต่งขอบบีเอ็มดับเบิลยู Individual High-gloss Shadow Line ล้ออัลลอย M น้ำหนักเบาขนาด 20 นิ้ว พร้อมช่วงล่าง Adaptive M นอกจากนี้ยังมาพร้อมดีไซน์ที่เก็บทุกรายละเอียดของสไตล์สปอร์ต ได้แก่ กาบประตูอะลูมิเนียมประทับโลโก้ M หลังคา BMW Individual สีดำแอนทราไซต์ เบาะนั่งแบบสปอร์ตปรับด้วยระบบไฟฟ้าสำหรับที่นั่งคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า และพวงมาลัยหนังแบบ M ทั้งหมดนี้นำเอาจิตวิญญาณการขับขี่สไตล์สปอร์ตมาสู่ดีไซน์ภายในของ the all-new BMW X6 อย่างลงตัว เช่นเดียวกันกับกุญแจรถดีไซน์สุดพิเศษลวดลาย M Sport อีกด้วย
The all-new BMW X6 xDrive30d ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบแถวเรียงที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ด้วยกำลังถึง 218 แรงม้า และ BMW xDrive ระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะของบีเอ็มดับเบิลยูแบบ all-wheel drive รวมถึงเกียร์อัตโนมัติ Steptronic Sport Automatic 8 สปีด และอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานที่ลดลงอยู่ที่ 16.7 กม.ต่อลิตร
The new BMW X3
The new BMW X3 สานต่อความสำเร็จของรถ SAV ขนาดกลาง ที่มาพร้อมสมรรถนะใหม่ของเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อน
The new BMW X3 ได้รับการปรับรูปลักษณ์ภายนอกอันทรงพลังให้โดดเด่นขึ้นกว่าเดิมด้วยไฟหน้า วงแหวนคู่แบบใหม่ (ไฟหน้าแบบ LED เฉพาะในรุ่น Highline), กระจังหน้าไตคู่ปรับโฉมให้สะดุดตากว่าเคย, กันชนหน้าและหลังแบบปรับโฉมใหม่ พร้อมทั้งกระจกข้างที่ได้รับการเพิ่มสัญญาณไฟเลี้ยว ฟีเจอร์ทั้งหมด โดดเด่นขึ้นจากดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูตระกูล X
นอกจากนี้ The new BMW X3 ยังมาพร้อมกับสีตัวถังภายนอกใหม่ ดีไซน์หุ้มหนังที่ได้รับการปรับเปลี่ยนรวมถึงขอบและเส้นสายภายในห้องโดยสารและล้ออัลลอย ทั้งหมดได้รับการนิยามใหม่ให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้ขับขี่แต่ละคนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ช่วยให้ผู้เป็นเจ้าของยนตรกรรมหรู The new BMW X3 ซึมซับความแข็งแกร่งปราดเปรียวของความเป็น SAV ได้อย่างเต็มที่ ในส่วนของประตูท้าย
มาพร้อมฟังก์ชั่นเปิดอัตโนมัติ ซึ่งมาเสริมทัพความสามารถรอบด้านสุดประทับใจของบีเอ็มดับเบิลยู X3 ให้เพิ่มขึ้นอีกระดับ
เทคโนโลยีเครื่องยนต์อันล้ำสมัย BMW TwinPower Turbo สำหรับทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล ยังคงรับประกันสมรรถภาพที่โดดเด่นพร้อมประสิทธิภาพในการประหยัดเชื้อเพลิงที่ดีเยี่ยมเช่นเคย
The all-new BMW 428i Gran Coupé M Sport
The all-new BMW 428i Gran Coupé M Sport ผสานรูปทรงที่ปราดเปรียวกับฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลายและพื้นที่กว้างขวางยิ่งขึ้นสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง จุดเด่นที่แตกต่างจากรุ่นคูเป้ 2 ประตูคือ The all-new BMW 428i Gran Coupé M Sport มอบความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสารขณะขึ้น-ลงรถด้วยตัวถังแบบ 4 ประตู ซึ่งประตูทั้งสี่เป็นประตูแบบไร้ขอบ และได้รับการออกแบบตามสไตล์ของรถยนต์
คูเป้ขนาดกลางของบีเอ็มดับเบิลยู
The all-new BMW 428i Gran Coupé M Sport มาพร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบ ขุมกำลังภายในห้องเครื่องแบบใหม่ล่าสุด สร้างสมดุลที่ลงตัวระหว่างสมรรถนะแบบสปอร์ตกับประสิทธิภาพยอดเยี่ยม ด้วยเทคโนโลยีเครื่องยนต์บีเอ็มดับเบิลยู TwinPower Turbo The all-new BMW 428i Gran Coupé M Sport จึงสามารถเร่งเครื่องด้วยความเร็วสูง ด้วยกำลังแรงม้าเปี่ยมสมรรถภาพ ขณะที่ลดอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานและการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อีกด้วย ความจุ 2 ลิตรของเครื่องยนต์มอบแรงม้าสูงสุดที่ 218 แรงม้าที่ 5,000-6,000 รอบต่อนาที โดยมีแรงบิดสูงสุดที่ 350 นิวตันเมตร ที่ 1,250 และ 4,800 รอบต่อนาที และใช้เวลาเพียง 6 วินาทีในการเร่งความเร็วจาก 0-100 กม.ต่อชม.
The all-new BMW 428i Gran Coupé M Sport ยังเพิ่มการตอบสนองที่ฉับไวต่อทุกการขับขี่ ส่งผลให้การควบคุมรถเป็นไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำมอบความเพลิดเพลินขณะขับขี่แบบไร้กังวล นอกจากนี้ใน The all-new BMW 428i Gran Coupé M Sport ยังมาพร้อมอุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆ เช่นช่วงล่าง M Adaptive Suspension ไฟหน้าแบบ LED และสุดยอดระบบเครื่องเสียง Harman Kardon surround ที่ช่วยเพิ่มสุนทรียแห่งการขับขี่
บีเอ็มดับเบิลยู i8
บีเอ็มดับเบิลยู i8 เป็นรถสปอร์ตระบบปลั๊ก-อินไฮบริดคันแรกของโลก โดยเมื่อขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสามารถขับเคลื่อนได้เป็นระยะทาง 37 กิโลเมตร ตามมาตรฐานการทดสอบของอียู และในโหมดสปอร์ต ยังสามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ภายในเวลาเพียง 4.4 วินาที โดยมีความเร็วสูงสุดที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
และสำหรับการขับขี่ประจำวัน บีเอ็มดับเบิลยู i8 มีอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานเพียง 20 กิโลเมตรต่อลิตร เมื่อขับขี่ในเมือง และประมาณ 14.28 กิโลเมตรต่อลิตร เมื่อขับขี่บนทางหลวง หากขับขี่ในระยะทางไกลด้วยความเร็วสูง มีอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานอยู่ที่ประมาณ 12.5 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งเกือบเทียบเท่ากับรถยนต์คอมแพ็ค
ห้องโดยสารผลิตจากพลาสติกเสริมเส้นใยคาร์บอน (carbon fibre-reinforced plastic หรือ CFRP) ซึ่งมีน้ำหนักที่เบากว่าเหล็ก 50 เปอร์เซ็นต์ และเบากว่าอะลูมิเนียมประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ แต่ยังคงแข็งแกร่งในระดับเดียวกันหรือดีกว่า
แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนประจุสูงยังสามารถชาร์จไฟจากไฟบ้านหรือจากบีเอ็มดับเบิลยู i Wallbox โดยระยะเวลาในการชาร์จไฟอยู่ระหว่างน้อยกว่า 2 ชั่วโมงหรือถึงประมาณ 3 ชั่วโมง
The New MINI Hatch 5-Door
รถมินิ แฮทช์ 5 ประตูคันแรกเดินทางมาถึงประเทศไทยอย่างเป็นทางการ นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของแบรนด์มินิ ที่รหัสแฮทช์ยอดนิยมได้เพิ่มประตูสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง The New MINI Hatch 5-Door รวมสุดยอดประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนาน เอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร และการปรับปรุงที่เพิ่มขึ้นจากรุ่น 3 ประตู ด้วยการเน้นประสิทธิภาพการใช้งานจริงและความสะดวกสบายของห้องโดยสารที่เพิ่มมาจากฐานล้อที่ขยายยาวขึ้น ผู้โดยสารตอนหลังมีพื้นที่กว้างขวางขึ้นถึง 72 มิลลิเมตรสำหรับระยะวางขาเมื่อเทียบกับมินิ แฮทช์ รุ่น 3 ประตู ไม่เพียงเท่านั้น พื้นที่ที่เพิ่มขึ้นยังหมายถึงเบาะนั่งที่สามสำหรับผู้โดยสารตอนหลังอีกด้วย สำหรับประตูด้านหลังทั้งสองที่เพิ่มเข้ามาช่วยให้การขึ้น-ลงสะดวกสบายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
The New MINI Hatch 5-Door รุ่นคูเปอร์ ดี มาพร้อมกับประสิทธิภาพในการประหยัดเชื้อเพลิงที่ 25.6 กม.ต่อลิตร และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ 99-102 กรัมต่อกิโลเมตร ในขณะที่ มินิ
คูเปอร์ เอส แฮทช์ 5 ประตู สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม.ต่อชม.ได้ภายใน 6.8 วินาทีเท่านั้น
The New MINI Hatch 5-Door มีเครื่องยนต์เทคโนโลยี MINI TwinPower Turbo ให้เลือกสรรถึง 4 แบบด้วยกัน ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร สำหรับ the new MINI Cooper Hatch 5-door เครื่องยนต์ดีเซล 3 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร สำหรับ the new MINI Cooper D Hatch 5-door รวมถึงรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2 ลิตรใน the new MINI Cooper S Hatch 5-door ซึ่งให้กำลังได้มากถึง 192 แรงม้า และ The new MINI Cooper SD Hatch 5-door ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 2 ลิตร มอบกำลังที่ 170 แรงม้า
The New MINI Countryman
โฉมใหม่ล่าสุดสำหรับรถมินิ 4 ประตูคันแรกที่มาพร้อมประตูท้ายขนาดใหญ่ เบาะนั่งสำหรับ 5 ท่าน และระบบขับเคลื่อนแบบ all-wheel drive สำหรับ the new MINI Cooper SD ALL4 ส่วน The New MINI Countryman โดดเด่นในด้านความสามารถและการใช้งานแบบเอนกประสงค์เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่ไม่หยุดนิ่ง การพัฒนาปรับเปลี่ยนดีไซน์เฉพาะจุดช่วยเน้นย้ำสมรรถภาพยอดเยี่ยมขณะขับขี่และเพิ่มการประหยัดพลังงานรวมถึงลดการปล่อยก๊าซคาร์บอกไดออกไซด์อีกด้วย
สำหรับการตกแต่งภายในได้รับการปรับเพิ่มในทุกรายละเอียดเพื่อความเพลิดเพลินขณะเดินทางที่มากขึ้นและตอกย้ำความเหนือระดับของมินิผ่านแผงหน้าปัดแสดงมาตรวัดสีเข้ม ปุ่มควบคุมระบบการระบายอากาศทำจากวัสดุโครม เบาะที่นั่งสำหรับ 5 ท่าน และเบาะหลังที่สามารถปรับระดับได้ โดยสามารถเอนในแนวยาวได้ถึง 13 เซนติเมตร เบาะซึ่งรองรับช่วงหลังสามารถปรับเอียงและพับแยกได้ในอัตราส่วน 40:20:40 สำหรับห้องเก็บสัมภาระมีความจุที่สามารถขยายได้จาก 350 ลิตร เป็น 1,170 ลิตรอีกด้วย
The new MINI Countryman ทุกรุ่นมอบความสบายใจให้แก่ลูกค้านานกว่าที่เคย ด้วยโปรแกรมบำรุงรักษา MINI Service Inclusive หรือ MSI ที่เพิ่มระยะเวลาคุ้มครองการบำรุงรักษา รวมเป็น 5 ปี หรือ 50,000 กม.
MINI 3-Door Hatch
The new MINI ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องภายหลังจากประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นเมื่อได้รับการเปิดตัวสู่ตลาด เช่นเดียวกันกับความหลากหลายของเครื่องยนต์ที่เพิ่มขึ้นสำหรับรถที่เป็นนิยามใหม่ของคำว่าคลาสสิกในรูปแบบของรถหรูขนาดกะทัดรัด แฟนๆ มินิสามารถเลือกเครื่องยนต์แบบใหม่ได้ทั้ง The new MINI Cooper SD เครื่องยนต์ดีเซลที่ทรงพลังที่สุดและเครื่องยนต์เบนซินล่าสุด The new MINI One เครื่องยนต์ทั้งสองแบบล่าสุดที่มาเสริมทัพ The new MINI แบบ 3 ประตูมอบส่วนผสมที่ ลงตัวระหว่างประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนานและประสิทธิภาพการประหยัดเชื้อเพลิง
เครื่องยนต์เจเนอเรชั่นใหม่ทั้งแบบ 3 และ 4 กระบอกสูบ และเทคโนโลยี MINI TwinPower Turbo เป็นหัวใจสำคัญที่มอบความคล่องแคล่วปราดเปรียวและประสิทธิภาพให้กับ MINI 3-Door Hatch โดยเครื่องยนต์ใหม่ของ The new MINI Cooper SD นับเป็นเครื่องยนต์ดีเซลที่ทรงพลังที่สุดของแบรนด์มินิเท่าที่เคยมีมา เครื่องยนต์ 4 สูบ ความจุ 2 ลิตรนี้สร้างกำลังได้มากถึง 125 กิโลวัตต์/170 แรงม้า และมอบแรงบิดสูงสุดที่ 360 นิวตันเมตรที่รอบเครื่องยนต์ 1,500 รอบต่อนาที ด้วยสมรรถนะทรงพลังของเครื่องยนต์ดีเซลใหม่นี้ The new MINI Cooper SD สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 7.2 วินาที
สำหรับ The new MINI One เทคโนโลยีขุมกำลังอันล้ำสมัยได้มอบที่สุดแห่งประสบการณ์ยามขับขี่ควบคู่กับประสิทธิภาพยอดเยี่ยม เครื่องยนต์เบนซินของ The new MINI One มอบกำลังขับเคลื่อนด้วยแรงบิดสูงสุด 180 นิวตันเมตรที่ 1,400 รอบต่อนาที และใช้เวลา 10.2 วินาทีในการเร่งเครื่องจาก 0-100 กม./ชม. โดยมีอัตราการประหยัดพลังงานอยู่ที่ 20.4 กิโลเมตร/ลิตร ขณะที่อัตราการปล่อยก๊าซ CO2 อยู่ระหว่าง 112-114 กรัมต่อกิโลเมตร
The New BMW S 1000 RR
มอเตอร์ไซค์สายพันธุ์สปอร์ตของบีเอ็มดับเบิลยูรุ่นล่าสุด The New BMW S 1000 RR เปิดตัวเป็น ครั้งแรกในประเทศไทย ณ งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31 ด้วยแรงบิดสูงสุด 113 นิวตันเมตร และกำลังเครื่องยนต์ที่ 199 แรงม้า ซึ่งไม่เพียงมอบสมรรถนะที่เฉียบคมแต่รวมถึงการใส่ใจในทุกรายละเอียดเพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่ดีที่สุดให้กับผู้ขี่ในทุกสถานการณ์ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในชีวิตประจำวัน หรือโลดแล่นไปตามโค้งของถนน ไปจนถึงการเร่งแซงบนสนามแข่ง
ความเป็นเลิศในทุกด้านของ The New BMW S 1000 RR เปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณสปอร์ตและความแข็งแกร่งดุดัน ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีการขับขี่ที่ล้ำสมัยที่สุด Dynamic Damping Control (DDC)
ใน 3 โหมด ได้แก่ โหมด Comfort โหมด Normal และ โหมด Sport ตอบสนองทุกเส้นทางและทุกรูปแบบการขับขี่
บีเอ็มดับเบิลยู
- The all-new BMW X6 xDrive30d M Sport: ยังไม่ระบุ
- The all-new BMW M4 Coupé: ยังไม่ระบุ
- The new BMW X3 xDrive20i: 3,099,000 บาท
- The new BMW X3 xDrive20d Highline: 3,499,000 บาท
- The all-new BMW 428i Gran Coupé M Sport: 4,649,000 บาท
- BMW i8: เริ่มต้นที่ 11,899,000 บาท
- BMW 116i M Sport: 1,999,000 บาท
- BMW X1 sDrive18i Sport (พร้อมระบบนำทาง): 2,249,000 บาท
- BMW 320i: เริ่มต้นที่ 2,249,000 บาท
- BMW 320d Gran Turismo Sport/Luxury: เริ่มต้นที่ 3,199,000 บาท
- BMW 528i M Sport: 3,799,000 บาท
- BMW 525d Luxury: 3,899,000 บาท
BMW ActiveHybrid 7 L: เริ่มต้นที่ 8,299,000 บาท
มินิ
- The new MINI Hatch 5-Door: เริ่มต้นที่ 2,230,000 บาท
- The new MINI Countryman: เริ่มต้นที่ 1,870,000 บาท
- MINI Hatch 3-Door: เริ่มต้นที่ 1,940,000 บาท
บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด
- The new BMW S 1000 RR: ยังไม่ระบุ
- BMW F 800 R: 440,000 บาท
- BMW F 800 GS: 530,000 บาท
ข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยูภายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31**
พบกับข้อเสนอที่ดีที่สุดสำหรับเหล่าคนรักบีเอ็มดับเบิลยู สำหรับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 1 และ บีเอ็มดับเบิลยู X1 กับแคมเปญที่ทำให้ลูกค้าเป็นเจ้าของบีเอ็มดับเบิลยูด้วยความสบายใจกับทางเลือก ในการผ่อนชำระสุดพิเศษ
*แคมเปญดอกเบี้ย 0% สำหรับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู 116i M Sport ที่ชำระแบบไม่มียอดบอลลูน และวางเงินดาวน์ร้อยละ 30 รวมถึงผ่อนชำระทั้งหมด 48 งวด
*ผ่อนชำระเริ่มต้นเพียง 14,900 บาทต่อเดือนเป็นเวลา 48 งวด โดยมียอดบอลลูน สำหรับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู X1 sDrive18i หรือ บีเอ็มดับเบิลยู X1 sDrive18i Sport หรือ xLine
*โอกาสพิเศษในการเป็นหนึ่งในผู้โชคดีร่วมเดินทางไปกับ Endless Journey ของบีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ณ มุติมายา เขาใหญ่, ดาราเทวี เชียงใหม่ และ ศรีพันวา ภูเก็ต (สอบถามรายละเอียดได้ที่ผู้จำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยูอย่างเป็นทางการ)
* ข้อเสนอสำหรับลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยูที่ผ่อนชำระรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและเซ็นสัญญากับทางบีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส เท่านั้น ทั้งนี้ บีเอ็มดับเบิลยู ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) สงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
**ข้อเสนอดังกล่าวสำหรับลูกค้าที่ทำการจองรถยนต์ภายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31 และรับส่งมอบรถยนต์ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2557 นี้เท่านั้น
ของสมนาคุณพิเศษสำหรับมินิ
สำหรับลูกค้ามินิ 100 ท่านแรกที่จอง MINI Countryman, MINI Paceman, MINI Hatch 3 ประตู และ MINI Hatch 5 ประตู ในรุ่นที่กำหนด ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31 และรับส่งมอบรถภายใน 31 ธันวาคม 2557 จะได้รับระบบนำทางแบบพกพา Garmin nuvi® 3592LM และกล้องติดรถยนต์ Garmin GDR 33 Driving Recorder
ชุดแต่งพิเศษสำหรับ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด
นอกจากแนะนำรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่แล้ว บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ยังเพิ่มผลิตภัณฑ์ในกลุ่มอุปกรณ์ตกแต่งเพื่อเอาใจแฟนๆ ยนตรกรรมสองล้อของบีเอ็มดับเบิลยูอีกด้วย โดยในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31 บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด นำเสนอชุดแต่งสำหรับบีเอ็มดับเบิลยู F 800 GS ถึง 3 ชุดด้วยกัน ได้แก่ City Package, Touring Package, และ Adventure Package
ของสมนาคุณพิเศษสำหรับลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยูภายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31**
สำหรับลูกค้าที่จองรถยนต์ บีเอ็มดับเบิลยู X1, บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3 และ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3 Gran Turismo (ยกเว้น บีเอ็มดับเบิลยู X1 sDrive18i, บีเอ็มดับเบิลยู 320i และบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3 Touring) จะได้รับ iPhone 6 รุ่น 16 GB
สำหรับลูกค้าที่จองรถยนต์ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 5, บีเอ็มดับเบิลยู X3 และรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูรุ่นนำเข้า (ยกเว้น บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 5 Touring, บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 2, บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 4 ทุกรุ่น, บีเอ็มดับเบิลยู Z4 และบีเอ็มดับเบิลยู X5) จะได้รับ iPhone 6 รุ่น 64 GB
สำหรับลูกค้าที่จองรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 7 และบีเอ็มดับเบิลยู ActiveHybrid 7 L (ยกเว้น บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 7 รุ่นก่อนปรับโฉม และบีเอ็มดับเบิลยู 730Ld Business) จะได้รับ iPhone 6 Plus รุ่น 128 GB
**ข้อเสนอดังกล่าวสำหรับลูกค้าที่ทำการจองรถยนต์ภายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31 และรับส่งมอบรถยนต์ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2557 นี้เท่านั้น บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทยขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
-
BMW presents the sporty heart of premium: the all-new BMW M4 Coupe and the all-new BMW X6 xDrive30d M Sport make their debut at Motor Expo 2014




The all-new BMW X6 xDrive30d M Sport defines a new era for the Sport Activity Coup้, featuring a state-of-the-art diesel engine and M Sport package for an athletic alliance of power and efficiency.
The all-new BMW M4 Coup้ once again sets a benchmark for powerful design that contributes even more driving pleasure.
Over 30 BMW, MINI, and Motorrad variants on display, with special offers available
BMW Group Thailand reinforces its leadership position in premium automobile innovation by introducing a glittering selection of sporty yet luxurious models at Motor Expo 2014. The exciting lineup includes the all-new BMW X6 xDrive30d M Sport, the all-new BMW M4 Coupé, the new BMW X3 and the all-new BMW 428i Gran Coupé M Sport as well as the most talked-about car of the year, BMW i8. In the mean time, the MINI booth will be showcasing the new MINI Hatch 5-Door, the MINI Hatch 3-Door and the new incarnation of a fan favorite, the new MINI Countryman. BMW’s supersport bike, the new BMW S 1000 RR, will also be on hand to bring the racing spirit to BMW booth visitors. The best deals and promotions will be available at Motor Expo 2014, which is being held during 28 November-10 December 2014 at IMPACT Challenger, Muang Thong Thani.
The all-new BMW M4 Coupé
As the first-ever BMW M cars to feature engineered-in curb weight reduction from one generation to the next, the all-new M4 Coupé stand poised to attack corners, hills, and braking zones, and will vigorously defend BMW M’s decades-strong position as segment leader around the world.
The “M4” badge is a reference to the model series that provides the basis for the all-new M model. The engine is the heart of every M model, and the new turbocharged six-cylinder unit fitted in the all-new BMW M4 Coupe combines the virtues of a high-revving naturally aspirated unit with the strengths of turbocharger technology.The all-new BMW M4 Coupé produces a maximum output of 431 hp. Its peak torque of 550 Nm at 1,850-5,500 rpm is available across a wide rev band and outstrips the figure recorded by the outgoing BMW M3 by roughly 40 percent. And yet the engine also achieves a reduction in fuel consumption and emissions of nearly 25 percent. The all-new BMW M4 Coupé sprints from 0 to 100 km/h in 4.1 seconds with 7-speed M Double Clutch Transmission.
In the interest of maximizing dynamic ability and ensuring excellent efficiency, weight savings of around 80 kilograms have been achieved over a comparably equipped predecessor model. The BMW M4 Coupé sets new standards in terms of overall concept, precision and agility, thanks to the rigorous application of intelligent lightweight design measures. These include the increased use of lightweight materials such as carbon-fiber-reinforced plastic (CFRP) and aluminum for a number of chassis and body components. Indeed, the model features a carbon-fiber roof.
The all-new BMW X6 xDrive30d M Sport
The all-new BMW X6 Sports Activity Coupé, BMW’s second generation Sports Activity Coupé, comes with a suitably exclusive roster of standard equipment that goes well beyond the previous model.
The design of the all-new BMW X6 body combines the robust presence of a BMW Sports Activity Vehicle with the hallmark sporting elegance of the brand’s coupés to create an unmistakably athletic appearance. The long hood, long wheelbase, short front overhang and set-back passenger compartment are characteristic design features of a BMW. Its high window sill and large wheel arches highlight the Sports Activity Coupé’s ties to the BMW SAV family.
Among the other ingredients in the extroverted, athletic looks of the all-new BMW X6 are the clearly visible details designed to optimize the car’s aerodynamics. They include the air deflectors on the front wheel arches, the Air Curtains integrated into the outer air intakes of the front apron and the Air Breathers in the fenders, which team up to reduce turbulence in the front wheel arches.
The side view of the all-new BMW X6 is likewise defined by eye-catching lines and sharply-drawn contours. The wedge shape of the silhouette is accentuated by a model-specific interpretation of the double swage lines. Emerging from the front wheel arches, the first rises steadily up along the new BMW X6 to the rear door handles. A second swage line sets out on a lower path, extending in a dynamic sweep into the rear lights.
The dynamic character of the Sports Activity Coupé is accentuated by M Sport package which includes BMW Individual High-gloss Shadow Line trim, 20 inch M light-alloy wheels, as well as the specially-tuned Adaptive M suspension. Meticulous design refines truly athletic looks in the all-new BMW X6: aluminum door sill strips bearing the M logo and the anthracite-colored BMW Individual roof liner, electrically adjustable sports seats for the driver and front passenger, and M leather steering wheel all combine to bring an intense aura of sporty driving to the interior of the all-new BMW X6. A specially-designed car key is also part of M Sport.
The powertrain variants of the all-new BMW X6 xDrive30d feaure an in-line six-cylinder disel engine with BMW TwinPower Turbo technology and 218 horsepower. The model comes with BMW xDrive, the company’s intelligent all-wheel drive system and 8-speed Steptronic Sport Automatic transmission. Fuel consumption has been cut to 16.7 km./l.
The new BMW X3 continues the success of the mid-sized SAV lineage with a host of enhancements which include new engine and drivetrain options.
The new BMW X3 cuts a visually more powerful figure with its new, modified twin-circular headlights (LED headlights are standards for Highline model version), a more eye-catching kidney grille, new front and rear bumpers, and exterior mirrors with integrated turn signal indicators – all of which shine a figurative spotlight on the signature BMW X model design features.
New exterior colors, upholstery designs, interior trim strips and light-alloy wheels enable even more refined individualization. The new BMW X3 allows owners to lend greater emphasis still to the dynamic and robust SAV character of the BMW X3. The automatic operation of tailgate further enhances the already impressive functionality of the BMW X3.
The state-of-the-art engines with BMW TwinPower Turbo technology, available in both petrol and diesel varaints, guarantee outstanding performance combined with low fuel consumption as always.
The all-new BMW 428i Gran Coupé M Sport
The all-new BMW 428i Gran Coupé M Sport combines a dynamic and sleek silhouette with additional functionality and more spaciousness in the rear passenger compartment. In contrast to a two-door coupé, the all-new BMW 428i Gran Coupé M Sport offers passengers easier access when entering or leaving the vehicle thanks to the four-door configuration. The doors are frameless, having the characteristic design features of BMW midsize coupés.
As the new powertrain variant, the all-new BMW 428i Gran Coupé M Sport boasts four cylinders and the ideal balance between sportiness and efficiency. The BMW TwinPower Turbo engine combines high-revving characteristics and high-performance output with low fuel consumption and reduced emissions. The 2.0-liter engine delivers a maximum power output of 218 hp, which is reached between 5,000 and 6,500 rpm. Peak torque of 350 Nm is generated between 1,250 rpm and 4,800 rpm. The new BMW 428i Gran Coupé sprints from 0 to 100 km/h in just 6 seconds.
The all-new BMW 428i Gran Coupé M Sport responds directly to steering inputs, resulting in nimble handling and effortless cornering. Standard equipment includes M Adaptive Suspension, LED headlights and the Harman Kardon surround sound system.
BMW i8
The BMW i8 is the world’s first plug-in hybrid sports car. In zero-emission all-electric mode, the BMW i8 has a top speed of 120 km/h and a range of 37 kilometres within the EU test cycle. In Sport mode the BMW i8 offers acceleration from 0 to 100 km/h in 4.4 seconds. Top speed with combined performance is 250 km/h.
In everyday commuting, the BMW i8 returns fuel consumption below 20 km/litre around town, less than 14.28 km/litre in extra-urban or motorway driving, and, during longer-distance operation at higher speeds, below 12.5 km/litre – approximately the emission values of a compact car.
The lightweight high-tech material carbon-fibre-reinforced plastic (CFRP) passenger cell brings weight saving of 50% over steel and approximately 30% over aluminium, with equivalent or improved strength.A lithium-ion high-voltage battery can be recharged at a household power socket or with the BMW i Wallbox. Charging times range from less than two hours up to three hours.
The New MINI Hatch 5-Door
The first-ever MINI Hatch with five doors officially arrives in Thailand, the first time in the history of the brand that the Hatch has been offered with two rear doors. The new model combines the hallmark driving fun, distinctive character and refinement of its three door sibling with enhanced practicality and interior comfort thanks to the extended wheelbase. Rear passengers now have 72 millimetres more legroom compared to the 3-Door Hatch, while the increased space also provides room for a third seat in the back row. The two rear doors make access to the expanded rear seating more comfortable.
The new MINI Cooper D Hatch 5-door offer fuel economy of 25.6 Km/litre while CO2 emissions is within 99-102 g/km. The new MINI Cooper S Hatch 5-door sprints 0 to 100 km/h in just 6.8 secs.
There are four model variants with MINI TwinPower Turbo Technology to choose from. The new MINI Cooper Hatch 5-Door comes with 3-cylinder 1.5 litre petrol engine and the new MINI Cooper D Hatch 5-door comes with 3-cylinder 1.5 litre diesel engine. The output of the 4-cylinder 2.0 litre petrol engine in the new MINI Cooper S Hatch 5-door is 192 hp. The new MINI Cooper SD Hatch 5-door is powered by an 170 hp 4-cylinder 2.0 litre diesel engine.
The New MINI Countryman
New version of the first MINI with four doors, a large tailgate, five seats and all-wheel drive for the new MINI Cooper SD ALL4. The new Countryman hones its profile as an all-round talent for versatile mobility and an active lifestyle. Selective design modifications further enhance driving performance figures and optimise fuel consumption and emissions.
Refined details, optimised acoustic comfort and reinforced premium characteristics in the interior include dark dials for road speed and engine speed; ventilation controls with chrome applications;
five seats and exceptional variability with rear seats that can be shifted 13 centimetres longitudinally, backrests that are tilt-adjustable and foldable in a 40:20:40 split; luggage compartment volume can be extended from 350 to as much as 1,170 litres.
MINI Service Inclusive (MSI) is now offered up to 5 years or 50,000 km, offering peace of mind for MINI customers.
MINI 3-Door Hatch
The new MINI remains on course for growth. After its successful market launch, the engine range for the new original in the small car premium segment continues to expand. The selection will include the new MINI Cooper SD as the most powerful diesel variant and the new entry-level petrol engine model MINI One. Both newcomers offer an impressively favourable balance between driving fun and fuel consumption.
The new engine generation with three or four cylinders and MINI TwinPower Turbo Technology is a clear boost for both agility and efficiency in the new version of the MINI. The engine in the new MINI Cooper SD is the most powerful diesel ever in a vehicle of the MINI brand. The 2.0-litre 4-cylinder engine generates a peak output of 125 kW/170 hp, putting its maximum torque of 360 Newton metres on stream at 1,500 rpm. Thanks to the pulling power of the new diesel engine, the MINI Cooper SD completes the sprint from zero to 100 km/h in 7.2 seconds.
In the new MINI One, too, cutting-edge engine technology ensures that hallmark driving fun is combined with exemplary efficiency. The entry-level variant among the petrol engines also offers spontaneous power delivery, with a maximum torque of 180 Newton metres going on stream at
1,400 rpm. The new MINI One reaches the 100 km/h mark from standing in 10.2 seconds. Its average fuel consumption is 20.4 km/litre, while the relevant CO2 emissions rating is between 112 and 114 grams per kilometre.
The New BMW S 1000 RR
The new BMW S 1000 RR is receiving its Thailand premiere at the Motor Expo 2014, with refined torque delivery and peak torque of 113 Nm from the powerhouse of 199 hp. Besides even sharper performance, particular attention has been paid to rider-friendliness. Whether for everyday riding, flitting through bends on country roads or being put through its paces on the race track – the new
S 1000 RR excels in every respect. The dynamic riding quality with its sporty, aggressive feel is given further impact by the most innovative riding technology, Dynamic Damping Control (DDC) with 3 modes available – Comfort, Normal, and sport – to suit every route and riding style.
BMW
The all-new BMW X6 xDrive30d M Sport: Price to be announced
The all-new BMW M4 Coupé: Price to be announced
The new BMW X3 xDrive20i : 3,099,000 Baht
The new BMW X3 xDrive20d Highline: 3,499,000 Baht
The all-new BMW 428i Gran Coupé M Sport: 4,649,000 Baht
BMW i8: starting from 11,899,000 Baht
BMW 116i M Sport: 1,999,000 Baht
BMW X1 sDrive18i Sport (with navigation) : 2,249,000 Baht
BMW 320i : starting from 2,249,000 Baht
BMW 320d Gran Turismo Sport/Luxury : starting from 3,199,000 Baht
BMW 528i M Sport : 3,799,000 Baht
BMW 525d Luxury : 3,899,000 Baht
BMW ActiveHybrid 7 L : starting from 8,299,000 Baht
MINI
The new MINI Hatch 5-Door: starting from 2,230,000 Baht
The new MINI Countryman: starting from 1,870,000 Baht
MINI Hatch 3-Door: starting from 1,940,000 Baht
BMW Motorrad
The new BMW S 1000 RR: Price to be announced
BMW F 800 R : 440,000 Baht
BMW F 800 GS : 530,000 Baht
Special campaign offers at the Motor Expo 2014**
Customers can enjoy the best deals at Motor Expo 2014 on BMW 1 Series and BMW X1, letting buyers feel at ease with a convenient installment solution:
*The 0% interest offer is applicable for customers who purchase the BMW 116i M Sport with Hire Purchase Program (no balloon) upon down payment of 30%, 48 payment terms.
*Monthly installments starting at 14,900 Baht in 48 payment terms (with balloon) is applicable for customers who purchase the BMW X1 sDrive18i or BMW X1 sDrive18i Sport or xLine.
Win a chance for the Endless Journey with BMW Financial Services. Lucky draw prizes are accommodations at Muthi Maya@Khaoyai, Dhara Dhevi@Chiangmai and Sri Panwa@Phuket. Please check detail and conditions with BMW authorized dealers.
*Special offers as above are exclusively avaiable from BMW Financial Services only. BMW Leasing (Thailand) reserves the right to change terms and conditions without prior notice.
**This offer is valid for customers who place booking deposits on the aforementioned models during the Motor Expo 2014 event and have the car handed over within 31st December, 2014.
Special campaign for MINI
At the Motor Expo 2014 only, the first 100 customers to reserve a MINI Countryman, MINI Paceman, MINI 3-Door Hatch, MINI 5-Door Hatch and take delivery before the 31st of December 2014 will receive a Garmin nuvi® 3592LM portable navigation system as well as a Garmin GDR 33 Driving Recorder.
?
Special accessories packages for BMW Motorrad
Apart from introducing a new model, BMW Motorrad is also expanding the accessories line up to please all hardcore fans. At the 2014 Thailand Motor Expo BMW Motorrad offers three special accessories packages for the BMW F800GS: the City Package, Touring Package, and Adventure Package.
Special gifts for BMW at the Motor Expo 2014**
For BMW X1, BMW 3 Series and BMW 3 Series Gran Turismo (excluding BMW X1 sDrive18i, BMW 320i and BMW 3 Series Touring), customers will be eligible for iPhone 6 16 GB.
For BMW 5 Series, BMW X3 and CBU models (excluding BMW 5 Series Touring, BMW 2 Series, all BMW 4 Series, BMW Z4 and BMW X5), customers will be eligible for iPhone 6 64 GB.
For all BMW 7 Series and BMW ActiveHybrid 7 L (excluding BMW 7 Series pre LCI and BMW 730Ld Business), customers will be eligible for iPhone 6 Plus 128 GB.
**This offer is valid for customers who place booking deposits during the Motor Expo 2014 event and have the car handed over within 31st December, 2014. BMW reserves the right to change criteria, terms and conditions without prior notice.
-
เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัว The new C-Class BlueTEC HYBRID 2 รุ่นใหม่ พร้อมขนทัพยนตรกรรมหรูหลากรุ่น สร้างสีสันในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ครั้งที่ 31




บริษัท เมอร์เซเดส- เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ยกระดับมาตรฐานของยนตรกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม เปิดตัวรถยนต์ในรุ่น The new C-Class เครื่องยนต์ใหม่ C 300 BlueTEC HYBRID AMG Dynamic และ C 300 BlueTEC HYBRID Estate AMG Dynamic ที่มาช่วยเติมเต็มพอร์ทโฟลิโอของรถยนต์ดีเซลไฮบริดในกลุ่ม Contemporary Luxury ได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมขนทัพขบวนรถยนต์หรูกว่า 24 รุ่น ครบครันในทุกเซ็กเมนต์ มาจัดแสดงในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป หรือมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31 ระหว่าง วันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2557 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานี
มร. ไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เมอร์เซเดส-เบนซ์มุ่งมั่นที่จะนำเสนอ “สิ่งที่ดีที่สุด” ให้กับลูกค้า และผู้บริโภค มาอย่างต่อเนื่อง เราจึงไม่หยุดนิ่งที่จะสร้างสรรค์ยนตรกรรมรุ่นใหม่ๆ ที่สามารถตอบสนองทุกความต้องการ และทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้า รวมถึงพัฒนานวัตกรรมยานยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่ง หัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจของเมอร์เซเดส-เบนซ์มาอย่างยาวนาน ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสะท้อนคุณค่าหลักของแบรนด์ที่ว่า Perfection และ Fascination”
“สำหรับงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป หรือมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31 ในครั้งนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) มีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ตอกย้ำภาพลักษณ์ของความเป็นผู้นำยนตรกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมอีกครั้งด้วยการเปิดตัวรถยนต์ในรุ่น The new C-Class BlueTEC HYBRID ที่มาช่วยเติมเต็มพอร์ทโฟลิโอของรถยนต์ดีเซลไฮบริดในกลุ่ม Contemporary Luxury ได้อย่างครบครัน นอกจากรุ่น The new E 300 BlueTEC HYBRID และ The new S 300 BlueTEC HYBRID นอกจากนี้เรายังได้จัดเตรียมพื้นที่สำหรับจัดแสดงสุดยอดยนตรกรรมหรู กว่า 24 คัน ทั้งในกลุ่ม New Generation Compact Car (NGCC), Contemporary Luxury และ Dream Car ที่มีความโดดเด่นทั้งในด้านรูปลักษณ์ เทคโนโลยี และความปลอดภัยมารวมไว้ในบูธของเรา”
มร. มาร์ทิน ชูลซ์ รองประธานบริหาร ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับไฮไลท์พิเศษของเมอร์เซเดส-เบนซ์ใน งานมอเตอร์เอ็กซ์โปปีนี้ คือ การนำเสนอยนตรกรรมใหม่ในตระกูล C-Class ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลไฮบริดถึง 2 รุ่น อย่าง C 300 BlueTEC HYBRID AMG Dynamic และ C 300 BlueTEC HYBRID Estate AMG Dynamic ถัดมาเป็นรถยนต์ในกลุ่มคอมแพ็ค SUV พรีเมี่ยม อย่าง GLA 200 Urban ที่เพิ่มความดุดันยิ่งขึ้นด้วย Off-road Suspension Package และปิดท้ายด้วย The new generation CLS ยนตรกรรมหรูยอดนิยมพร้อมส่งมอบ ที่ผสานความสง่างามและปราดเปรียวสไตล์รถคูเป้เข้ากับความสะดวกสบายและประโยชน์ใช้สอยของ รถซาลูนเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว”
The new C-Class BlueTEC HYBRID: ผู้นำยนตรกรรมกลุ่มพรีเมี่ยม ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ใหม่ดีเซลไฮบริด
The new C-Class BlueTEC HYBRID ยนตรกรรมรุ่นล่าสุดในตระกูล C-Class ที่เข้ามาเติมเต็ม พอร์ทโฟลิโอของรถยนต์ดีเซลไฮบริดในกลุ่ม Contemporary Luxury ให้ครบครันมากยิ่งขึ้น ด้วยรถยนต์ 2 รุ่นใหม่ C 300 BlueTEC HYBRID AMG Dynamic และ C 300 BlueTEC HYBRID Estate AMG Dynamic โดยทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมกับ เทคโนโลยี HYBRID การทำงานอย่างยอดเยี่ยมของระบบควบคุมพลังงาน ซึ่งทำหน้าที่ในการผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์ดีเซลแบบ 4 สูบกับมอเตอร์ไฟฟ้า และระบบเกียร์ให้เป็นไปโดยอัตโนมัติ ทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการประหยัดเชื้อเพลิงและลดมลพิษทุกครั้งที่ชะลอความเร็วหรือเบรก มอเตอร์ไฟฟ้าจะทำหน้าที่เป็นเจนเนอเรเตอร์แปลงพลังงานจลน์ที่เหลืออยู่ในระบบขับเคลื่อนให้กลายเป็นพลังงานไฟฟ้าสะสมไว้ในแบตเตอรี่ลิเธี่ยม-ไอออน เพื่อเก็บสำรองไว้และนำกลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง ซึ่งรถยนต์รุ่นนี้ยังได้ผ่านมาตรฐานความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงและปริมาณไอเสีย (Euro 6) ที่เข้มงวดอีกด้วย
นอกจากนี้ รถยนต์ทั้ง 2 รุ่นยังได้เพิ่มความสปอร์ตเร้าใจให้มากยิ่งขึ้น ด้วยชุดแต่ง AMG Sports Package ที่ประกอบด้วยล้ออัลลอย AMG แบบ 5 ก้านขนาด 18 นิ้ว ดูโดดเด่นสะดุดตายิ่งขึ้นตั้งแต่ภายนอกด้วย AMG Bodystyling ระบบกันสะเทือนแบบสปอร์ตที่ลดระดับให้ต่ำลง พร้อมกระจังหน้าแบบสปอร์ต มีสัญลักษณ์โลโก้เมอร์เซเดส-เบนซ์ขนาดใหญ่ตรงกลางบน ลาย 2 แถบ ตลอดจนการตกแต่งภายในที่คงไว้ซึ่งความหรูหราแต่ดุดัน ด้วยพวงมาลัย มัลติฟังก์ชั่นแบบสปอร์ตท้ายตัด
C 300 BlueTEC HYBRID AMG Dynamic ล้ำสมัยด้วย ดีไซน์ภายใน ที่ได้รับการออกแบบโดยเน้นความหรูหรา แต่ยังคงความสปอร์ตเอาไว้เช่นเดิม พร้อมโดดเด่นด้วยแผงคอนโซลกลางที่สร้างเป็นชิ้นเดียวกับพนักวางแขน รวมถึง touchpad ที่ติดตั้งบริเวณที่พักแขน ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมการทำงานของอุปกรณ์เครื่องเสียง อาทิ วิทยุ-ซีดี MB Audio 20 ที่บริเวณคอนโซลได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส
ในขณะที่ C 300 BlueTEC HYBRID Estate AMG Dynamic ซึ่งนับเป็นการเปิดตัวเป็น ครั้งแรกในประเทศไทย ด้วยความโดดเด่นในการผสมผสานความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และความสง่างามของรถยนต์แบบซาลูน เข้ากับประสิทธิภาพของการใช้งานในชีวิตประจำวันของรถยนต์แบบเอสเตทได้อย่างลงตัว สำหรับ ห้องโดยสารภายใน ได้ถูกออกแบบให้พร้อม ตอบรับความท้าทายใหม่ๆ ด้วยการดีไซน์พื้นที่ใช้สอยอันกว้างขวางทั้งยังประกอบด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอันทันสมัย จึงตอบสนองทุกความต้องการได้อย่างเหนือชั้น โดย The new C-Class Estate มาพร้อมกับอุปกรณ์ติดตั้งมาตรฐานชุด EASY-PACK tailgate ระบบเปิด-ปิดฝาท้ายอัตโนมัติ ซึ่งทำงานในระบบกลไกกึ่งไฟฟ้า สามารถเปิดได้จากปุ่มควบคุมเบาะนั่งผู้ขับขี่, ฝากระโปรงท้าย หรือจากกุญแจสตาร์ทเครื่องยนต์ และยังสามารถปิดลงอีกครั้งด้วยปุ่มควบคุมที่ฝากระโปรงท้าย รวมถึงแผ่นปิดที่เก็บสัมภาระด้านท้าย แบบดึงกลับ-เลื่อนเปิดขึ้นอัตโนมัติ และระบบ quickfold ซึ่งปรับที่นั่งผู้โดยสารด้านหลังออกเป็น 1/3 : 2/3 ตอนได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย เบาะกลางสามารถพับแยกหรือพับพร้อมกับเบาะตัวอื่นไปด้านหน้า ทำให้รถยนต์รุ่นนี้มีพื้นที่เก็บบรรทุกสัมภาระด้านหลังที่มีความจุถึง 450-1,470 ลิตร สามารถรองรับทุกอุปกรณ์กีฬาและอุปกรณ์ทำงานคู่ใจ ซึ่งตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ขับได้เป็นอย่างดี
- C 300 BlueTEC HYBRID AMG Dynamic ราคา 3,190,000 บาท
- C 300 BlueTEC HYBRID Estate AMG Dynamic ราคา 3,390,000 บาท
The GLA-Class: ท้าทายทุกการเดินทาง ด้วยคอมแพ็ค SUV พรีเมี่ยม ที่มาพร้อม Off-road suspension package
GLA 200 Urban ใหม่ ที่สะท้อนภาพรถยนต์สไตล์ SUV ให้เด่นชัดยิ่งขึ้น ด้วย Off-road suspension package ที่ได้รับการพัฒนาช่วงล่างใหม่แบบออฟโรด ซึ่งทำให้ตัวถังรถยนต์ มีความสูงเพิ่มมากขึ้นถึง 30 มิลลิเมตร พร้อมการปรับเปลี่ยนขนาดล้อมาตรฐานเดิมจาก 18 นิ้ว เป็น 19 นิ้ว เพื่อเพิ่มความสปอร์ต หรูหรา ทว่าดุดันมากขึ้น สำหรับดีไซน์ภายนอกถูกออกแบบด้วยทรวดทรงสไตล์ออฟโรดที่สื่อถึงพลัง และความสุขุมได้อย่างชัดเจน ด้านหน้าโดดเด่นด้วยกระจังหน้าครีบระบายอากาศคู่สีเงินแบบโครเมียมลาย 2 แถบ พร้อมตราสัญลักษณ์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ตรงกลางที่เพิ่มเสน่ห์และความกำยำให้แก่ผู้พบเห็น กันชนด้านหน้าพร้อม ช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ล้อมรอบด้วยโครเมียม ขอบหน้าต่างแบบโครเมียม และ ปลายท่อไอเสียเสริมโครเมียม เป็นรถยนต์ขับเคลื่อน 2 ล้อหน้าที่ให้ความคล่องแคล่วปราดเปรียวขณะขับขี่ มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง ความจุกระบอกสูบ 1,595 ซีซี กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 156 แรงม้า ที่ 5,300 รอบ/นาที แรงบิด 250 นิวตันเมตร ที่ความเร็วรอบ 1,250-4,000 ต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 8.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 215 กม./ชม. และอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 17 กม./ลิตร ขับเคลื่อนด้วยระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติ 7G-DCT พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย นอกจากนั้นพื้นที่บรรทุกสัมภาระยังกว้างถึง 421-1,235 ลิตร ด้วยฝากระโปรงหลังมีขนาดกว้างใหญ่จึงเปิดได้กว้างทำให้สะดวกใน การเคลื่อนย้าย
- GLA 200 Urban (Off-road Suspension) ราคา 2,470,000 บาท
The new generation CLS: ล้ำด้วยดีไซน์ เจิดจรัสอย่างมีชีวิตชีวา
The new generation CLS ยนตรกรรมหรูในกลุ่ม Dream Car ซึ่งประกอบด้วย CLS Coupé รถยนต์สปอร์ตคูเป้ 4 ประตู และ CLS Shooting Brake รถยนต์สปอร์ตแบบ 5 ที่นั่ง อันเกิดจากการผสมผสานระหว่างรถยนต์ Coupé และ Estate อย่างลงตัว โดยทั้งสองรุ่น โดดเด่นด้วย การดีไซน์ภายนอกให้มีความสปอร์ต เร้าใจ และล้ำสมัยมากยิ่งขึ้น ด้วยเส้นสายลวดลายงดงามสไตล์คูเป้อันเป็นเอกลักษณ์, ไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED ที่ทำหน้าที่ควบคุมหลอดไฟแบบ LED จำนวน 24 หลอดต่อไฟ 1 ข้าง ให้ปรับระดับความสว่างอย่างเป็นอิสระจากกัน โดยใช้กล้องอินฟาเรดตรวจจับความเคลื่อนไหวและคำนวณระดับความสว่างอัตโนมัติ ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและการจราจร, กระจังหน้าแบบ Diamond grille รวมถึงกันชนหน้าพร้อม ช่องดักลมขนาดใหญ่ และไฟท้ายรมดำเล็กน้อยที่มาพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานหลายระดับ ตลอดจนกระโปรงหน้าที่ยาว บานหน้าต่างแคบเรียว กระจกหน้าต่างข้างแบบไร้กรอบและหลังคาที่ลาดต่ำลงซึ่งให้บุคลิกที่ปราดเปรียว โฉบเฉี่ยวกว่าเดิม สำหรับดีไซน์ภายในได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยมาพร้อมกับความพิเศษเฉพาะตัว และพื้นที่ภายในรถยนต์ที่กว้างขวาง รวมถึงประโยชน์การใช้สอยที่โดดเด่นมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น จอแสดงผลใหม่ในชุดควบคุมระบบมัลติมีเดียขนาด 8 นิ้ว พร้อมระบบนำทาง, พวงมาลัยแบบสามก้านที่ได้รับการออกแบบใหม่, แผงควบคุมหลักที่คอนโซลกลางที่มีปุ่มควบคุมถึง 4 ปุ่ม เป็นต้น
- CLS 250 CDI Exclusive ราคา 4,490,000 บาท
- CLS 250 CDI AMG Premium ราคา 4,990,000 บาท
- CLS 250 CDI Shooting Brake AMG Premium ราคา 5,090,000 บาท
พร้อมข้อเสนอพิเศษด้วยการพร้อมส่งมอบทันทีภายในปี 2557 นี้
ยนตรกรรมอื่นๆ ในบูธเมอร์เซเดส-เบนซ์
นอกจากนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์ ยังได้เตรียมขนขบวนสุดยอดยนตรกรรมรวมทั้งสิ้นกว่า 24 คันในทุกเซ็กเมนต์ ทั้งที่เป็นเครื่องยนต์เบนซินและเครื่องยนต์ดีเซล รวมถึงเครื่องยนต์ดีเซลไฮบริด ไม่ว่าจะเป็นตระกูล A-Class, B-Class, C-Class Coupé, E-Class, E-Class Coupé, E-Class Cabriolet, E-Class Estate, CLA-Class, SLK-Class, M-Class และ Vito เป็นต้น
ข้อเสนอพิเศษในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป
นอกจากนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์ ยังได้จัดข้อเสนอพิเศษเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ซื้อและรับมอบรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ยกเว้นรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ Sprinter, Truck และ Bus) ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ธันวาคม 2557 ดังนี้
- ลุ้นสิทธิ์ครอบครอง S 300 BlueTEC HYBRID AMG Premium มูลค่า 6.79 ล้านบาท (หากท่านมีรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์อยู่ในครอบครอง จะได้รับสิทธิ์ชิงโชคเพิ่มอีก 1 สิทธิ์)
- รับฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง ระยะเวลา 1 ปี
- MB Protection (Extended)** ซึ่งสิทธิพิเศษที่ลูกค้าจะได้รับ คือ
- คุ้มครองความเสียหายของรถยนต์สูงสุด 100% ของราคารถ
- มั่นใจกับอะไหล่แท้ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้นาน 7 ปี เมื่อทำประกันภัยต่อเนื่อง
- รับสิทธิ์ในการใช้รถยนต์ทดแทนเมอร์เซเดส-เบนซ์ สูงสุดถึง 20 วันต่อปี ในกรณีที่รถยนต์ของท่านเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการมากกว่า 48 ชั่วโมง และในกรณีเกิดอุบัติเหตุและไม่สามารถขับเคลื่อนได้
- ไม่มีค่าเสียหายส่วนแรก กรณีเกิดอุบัติเหตุและไม่สามารถแจ้งให้ทราบถึงคู่กรณีได้
- คุ้มครองภัยก่อการร้าย
** สำหรับการซื้อเงินสดและจัดไฟแนนซ์ ผ่านเมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) ยกเว้นรถยนต์รุ่น Vito, Viano, Sprinter, Courtesy Car และ Proven Exclusivity
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ขอเชิญท่านพบกับขบวนสุดยอดยนตรกรรมรุ่นใหม่ล่าสุดและยนตรกรรมหลากหลายรุ่นที่มาพร้อมกับเทคโนโลยียานยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อมได้ใน งานมอเตอร์เอ็กซ์โป หรือมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน –10 ธันวาคม 2557 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานี
-
คาวาซากิ เปิดตัวสุดยอดเทคโนโลยี Big Bike เอาใจแฟนพันธุ์แท้รถสปอร์ตทั่วโลก




บริษัท คาวาซากิ มอเตอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำแห่งเทคโนโลยีรถจักรยานยนต์ สร้างความ ฮือฮาอีกครั้งด้วยการเปิดตัว “Kawasaki Ninja H2” สุดยอดรถจักรยานยนต์ระดับโลก หนึ่งในโปรเจคใหญ่ฉลองครบรอบ 30 ปี คาวาซากิในงาน Motor Expo 2014 เพื่อเอาใจผู้ที่ชื่นชอบความเร็ว ความแรง ในสายพันธ์ Big bike ขนานแท้
มร.ยาสุชิ คาวาคามิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คาวาซากิ มอเตอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “คาวาซากิ” มีแนวทางในการทำตลาดโดยการส่งผ่านความเชื่อมั่น และความภาคภูมิใจในทุกผลิตภัณฑ์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Feel Kawasaki” เพื่อความสุขที่เร้าใจ ในผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายรูปแบบ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นของคาวาซากิในตลาดโลก และเรามีความภูมิใจที่จะนำเสนอ “Kawasaki Ninja H2” หนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่สุดยอดที่สุดให้กับตลาดประเทศไทย
สำหรับรถจักรยานยนต์ Kawasaki Ninja H2 ซึ่งถือเป็นไฮไลท์ของงาน Motor Expo 2014 และเป็นการจัดโชว์ ครั้งแรกในประเทศไทย โดยเจ้าสปอร์ตคันนี้ได้รับการถ่ายทอดสุดยอดเทคโนโลยี และการออกแบบมาจาก Ninja H2R รถแข่งสมรรถนะสูง ด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีชั้นยอดจาก Kawasaki Heavy Industries Group เพื่อให้ Ninja H2 เป็นรถสปอร์ตที่ใช้งานได้บนท้องถนนอย่างเต็มประสิทธิภาพ ด้วยพละกำลังของเครื่องยนต์ 998 ซีซี ทำงานร่วมกับระบบ Super Charger ที่ ให้พละกำลังมากถึง 200 แรงม้า และสามารถขับขี่ได้อย่างมั่นใจด้วยระบบ KTRC (Kawasaki Traction Control) ระบบป้องกันการลื่นไถลที่สามารถปรับระดับได้ตามสภาพการใช้งานให้เหมาะสม ผสมผสานกับการออกแบบให้รับมือกับความเร็วทุกรูปแบบ และเจ้าซูเปอร์สปอร์ตคันนี้ที่สามารถตอบโจทย์ของผู้ที่ชื่นชอบเทคโนโลยียานยนต์สมรรถนะสูง ผสมผสานกับ ศิลปการออกแบบที่ลงตัว
รุ่นต่อมาที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งคือ Kawasaki 1400GTR ABS รถซูเปอร์สปอร์ตสำหรับการขับขี่ระยะทางไกล ด้วยสมรรถนะเครื่องยนต์ 1,352 ซีซี ที่มาพร้อมเทคโนโลยีครบครัน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นระบบ Power Mode ที่ให้การขับขี่ได้อย่างนุ่มนวลในรอบความเร็วต่ำ ระบบป้องกันการลื่นไถล(KTRC) ระบบเบรคแบบสัมพันธ์หน้า-หลัง(K-ACT ABS) Wind Screen ปรับระดับด้วยไฟฟ้า และที่ขาดไม่ได้ในรถระดับ First Class คือ ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์โดยไม่ต้องใช้กุญแจ (KIPASS) พร้อมด้วยกระเป๋าข้างบรรจุสัมภาระในการเดินทางแบบเต็มพิกัด เบาะนั่งสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารนุ่มสบายรับกับรูปทรงของเจ้า 1400GTR ได้เป็นอย่างดี ถือได้ว่ารถคันนี้ถูกใจนักเดินทางและผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติถึงไหนถึงกัน และนี่คือรถมอเตอร์ไซค์ Big Bike สำหรับนักเดินทางตัวจริง
อีกรุ่นหนึ่งที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น คือ Kawasaki Vulcan S ABS รถสปอร์ตครุยเซอร์ 649 ซีซี ที่มีรูปทรงฉีกแนวจาก รถสไตล์ครุยเซอร์ทั่วไป โดยมีการออกแบบให้มีรูปทรงสไตล์สปอร์ต ด้วยเครื่องยนต์แบบลูกสูบคู่ (Parallel Twin) พร้อมกับ การออกแบบระบบรองรับน้ำหนักให้รับกับโครงรถเสมือนเป็นหนึ่งเดียวกัน ซึ่งทำให้ Kawasaki Vulcan S ABS คันนี้มี ความทันสมัยกว่ารถสไตล์ครุยเซอร์ทั่ว ๆ ไป ซึ่งได้มีการเปิดตัวไปในงาน Intermot Show ประเทศเยอรมัน และได้รับเสียง ตอบรับมากทีเดียว อีกทั้ง Kawasaki Vulcan S ABS ตัวนี้ออกแบบได้อย่างลงตัวด้วยความสบายในท่วงท่าการขับขี่ พร้อมการ ปรับระดับที่พักเท้าได้ถึง 3 ระดับ เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ของคุณยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าตลาดรถแนวครุยเซอร์ต้องร้อนฉ่าอย่างแน่นอนเมื่อได้ยลโฉมของ Kawasaki Vulcan S ABS คันนี้
อีกรุ่นที่นำมาอวดโฉม เปิดตัวใหม่ล่าสุดของรถตระกูล Z คือ Kawasaki Z300 ABS รถ Naked ที่ถูกจับตามองเป็นอย่างมากในขณะนี้ ซึ่งมีการปรับปรุงสมรรถนะให้แรงเร้าใจด้วยพละกำลังที่เพิ่มขึ้นเป็น 296 ระบบซีซี พร้อมทั้Slipper Clutch แบบเดียวกับที่ใช้ในสนามแข่ง และเพิ่มความปลอดภัยขึ้นไปอีกระดับด้วยระบบเบรค ABS ที่จะทำให้การขับขี่ของคุณสนุก สนานและเร้าใจมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ภายในบูทคาวาซากิยังมีรถจักรยานยนต์รุ่นอื่นๆมาจัดแสดงหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นรถตระกูล Ninjja ซึ่งมีทั้ง Ninja 250SL ABS, Ninja 300 ABS, Ninja 650 ABS, Ninja 1000 ABS, Ninja ZX-14R ABS รวมถึงตระกูล Z อย่าง Z250, Z250SL ABS, Z800, Z1000 ABS และรถจากตระกูล Versys อย่าง Versys 650 ABS และ Versys 1000 อีกทั้งรถสไตล์ Naked อย่างเจ้า ER-6n ABS ก็มีอวดโฉมอวดที่บูทคาวาซากิ และยังมี KSR Mini Super Sport Bike 3 รุ่น 3 สไตล์ มาอวดโฉมสีใหม่ให้กลุ่มวัยรุ่นได้เฮกันแน่นอน
คาวาซากิขอเชิญทุกท่านร่วมสัมผัสสุดยอดนวัตกรรมยานยนต์ ที่โดดเด่นทั้งรูปลักษณ์ เทคโนโลยี และคุณภาพได้ที่ บูทคาวาซากิ ในงาน Motor Expo 2014 ครั้งที่ 31 ณ Impact Challenger 1-3 เมืองทองธานี ในวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2557
ติดตามข่าวสารรถจักรยานยนต์คาวาซากิได้ที่ www.kawasaki.co.th, www.facebook.com/kawasakimotorsthailand ,www.facebook.com/kawasakiladythailand
-
ซูซูกิเปิดตัว New Suzuki SWIFT RX สปอร์ตคอมแพ็ครุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมอวดโฉม Suzuki HUSTLER และ Suzuki LAPIN CHOCOLAT มอบโปรโมชั่นสุดพิเศษช่วงงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2014



เปิดตัว “New Suzuki SWIFT RX ชีวิต...สนุกได้อีก” อัดฟังก์ชั่นพิเศษ – Paddle Shift, Cruise Control, ไฟหน้า HID และชุดไฟท้ายดีไซน์ใหม่โฉบเฉี่ยว,และสปอยเลอร์หลัง ยกระดับความสปอร์ตอีกขั้น ชูดีไซน์โดดเด่น สมรรถนะเหนือชั้นพร้อมความประหยัด
จัดแสดง Suzuki HUSTLER สุดยอดเทคโนโลยียานยนต์อเนกประสงค์ขนาดเล็ก ดีไซน์ล้ำสมัยครบครันอรรถประโยชน์ เจ้าของรางวัล 2015 RJC Car of the Year Award และจัดแสดง Suzuki LAPIN CHOCOLAT รถยนต์นั่งขนาดเล็กที่มีดีไซน์คลาสสิกร่วมสมัย
พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษในงานช่วงมอเตอร์เอ็กซ์โป 2014
บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างสรรค์ยนตกรรมระดับโลก เปิดตัว “New Suzuki SWIFT RX ชีวิต...สนุกได้อีก” ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31 (Thailand International Motor Expo 2014) เพิ่มฟังก์ชั่นและสมรรถนะที่เหนือกว่าอีกขั้นด้วย Paddle Shift, Cruise Control, ไฟหน้า HID และชุดไฟท้ายดีไซน์ใหม่สปอร์ตโฉบฉี่ยว, และสปอยเลอร์หลัง ชูดีไซน์โดดเด่น สมรรถนะเหนือชั้นที่มาพร้อมกับความประหยัด เปิดตัวด้วยราคาโดนใจ 599,000 บาท พร้อมสิทธิพิเศษมากมาย นอกจากนี้ยังได้เผยโฉม Suzuki HUSTLER mini SUV สุดยอดเทคโนโลยียานยนต์อเนกประสงค์ขนาดเล็กที่มีดีไซน์ล้ำสมัยครบครันด้วยฟังก์ชั่นและอรรถประโยชน์มากมาย ได้รับรางวัล 2015 RJC Car of the Year Award และอีกหนึ่งไฮไลท์ ซูซูกิได้อวดโฉม Suzuki LAPIN CHOCOLAT (ซูซูกิ ลาแปง ช็อกโกแลต) รถยนต์นั่งขนาดเล็กที่โดดเด่นด้วยดีไซน์คลาสสิกร่วมสมัย มีความน่ารักโดนใจคนทุกวัย เกิดเป็นกระแสฮิตฮอต เป็นที่ประทับใจและเป็นที่กล่าวขวัญในโลกออนไลน์และโซเชียลมีเดียเป็นอย่างมาก และในช่วงงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2014 ซูซูกิยังพร้อมมอบโปรโมชั่นสุดพิเศษให้แก่ลูกค้าทุกท่านอีกด้วย คาดการณ์ยอดจองในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งนี้รวม1,000 คัน
นายทาคายูคิ ซูกิยามา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ที่ผ่านมา ซูซูกิได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถและความเชี่ยวชาญในการสร้างสรรค์ยานยนต์ที่มีคุณภาพ เติมเต็มทุก Way of Life! ทุกไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิตของผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง ด้วยรถยนต์นั่งที่มีรูปลักษณ์โดดเด่น สมรรถนะโดนใจผู้บริโภค เหมาะสมกับการใช้งานจริงในยุคปัจจุบัน ประหยัดพลังงานเป็นเยี่ยม เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ Suzuki SWIFT สปอร์ตคอมแพ็คยอดนิยมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร และ Suzuki CELERIO คอมแพ็คคาร์ที่เซอร์ไพรส์ทุกคนด้วยความสามารถเกินตัว นอกจากนี้ซูซูกิยังได้พิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพอันดีเยี่ยมในการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพสูงในการประหยัดพลังงาน จากโรงงานของซูซูกิในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบัน ซูซูกิได้ผลิตรถยนต์คุณภาพพร้อมจำหน่ายทั้งในประเทศไทย เอเชีย ยุโรป และทั่วโลก และยังได้เดินหน้าขยายโชว์รูมและศูนย์บริการอย่างต่อเนื่องเพื่อครอบคลุมการขายและการให้บริการทั่วประเทศ
นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31 ครั้งนี้ ซูซูกิได้เปิดตัว “New Suzuki SWIFT RX” เสริมทัพ Suzuki SWIFT รุ่น GLX, GL, และ GA ที่วางตลาดอยู่ในปัจจุบันและยังคงได้รับความนิยมอยู่อย่างต่อเนื่อง โดย New Suzuki SWIFT RX รุ่นใหม่นี้ได้รับการปรับโฉมใหม่ให้มีความโดดเด่นเร้าใจขึ้นอีกขั้น ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ชีวิต...สนุกได้อีก” สามารถตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการความชัดเจนของตัวตน ให้อารมณ์สปอร์ตอีกขั้น สนุกตื่นเต้นสะใจยิ่งกว่า ด้วยเครื่องยนต์ 1.25 ลิตร ขับสนุกเร้าใจและประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง เพิ่มฟังก์ชั่นและสมรรถนะที่เหนือกว่าอีกขั้นด้วย Paddle Shift, Cruise Control, ไฟหน้า HID และชุดไฟท้ายดีไซน์ใหม่สปอร์ตโฉบเฉี่ยว, สปอยเลอร์หลังดีไซน์สปอร์ต, เบาะนั่งทำจากวัสดุคุณภาพสูง, และพวงมาลัยหุ้มหนังชนิดพิเศษ มีระบบ Keyless Entry และ Keyless Push Start, ชุดสวิทช์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย, ชุดเชื่อมต่อ USB, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังเพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยให้กับ Suzuki SWIFT ทุกรุ่น (รุ่น RX ใหม่, รุ่น GLX, GL และ GA) ด้วยถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า, ระบบป้องกันล้อล็อค ABS สี่ล้อ พร้อมระบบกระจายแรงเบรกอิเลคโทรนิกส์ EBD ซึ่งลูกค้าที่สนใจสามารถสัมผัสและทดลองขับ New Suzuki SWIFT RX ซึ่งมาพร้อมกับสีใหม่ 3 สี คือ สีแดง สีขาว และสีดำ ด้วยราคาโดนใจ 599,000 บาท ได้ที่งานมอเตอร์เอ็กซ์โปและผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศ พร้อมรับเงื่อนไขสุดพิเศษในงาน
และเพื่อตอกย้ำความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31ครั้งนี้ ซูซูกิได้แสดงความเป็นผู้นำเทคโนโลยียานยนต์ขนาดเล็กด้วยการจัดแสดงรถยนต์ในเซ็กเมนต์ Kei Car ได้แก่ Suzuki HUSTLER ใหม่ mini SUV 660ซีซี ดีไซน์ล้ำสมัย ตอบไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ อเนกประสงค์ ห้องโดยสารกว้างขวาง ครบอรรถประโยชน์ ได้รับรางวัล 2015 RJC Car of the Year Award และ Suzuki LAPIN CHOCOLAT (ซูซูกิ ลาแปง ช็อกโกแลต) 660ซีซี ใหม่ รถยนต์นั่งขนาดเล็กดีไซน์คลาสสิกร่วมสมัยและเป็นที่ชื่นชอบในโลกออนไลน์ ตบท้ายด้วยการจัดแสดง Suzuki CELERIO แต่งพิเศษ ต้นแบบ Suzuki CELERIO ที่ยิ่งแต่งยิ่งดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยวเร้าใจ เป็นอีกหนึ่งสีสันของบูธซูซูกิ
นายวัลลภกล่าวเพิ่มเติมว่า “ตลอดปีนี้ซูซูกิเดินหน้าทำกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง อาทิ มีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ All New Suzuki CELERIO พร้อมด้วยการจัดกิจกรรมทดลองขับเพื่อให้สื่อมวลชนและลูกค้าได้เกิดประสบการณ์และความประทับใจในการขับขี่จริง และบอกต่อ และซูซูกิได้เดินกลยุทธ์ด้านสปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง โดยได้ร่วมเป็นสปอนเซอร์การแข่งขันฟุตบอลรายการใหญ่ AFF Suzuki Cup 2014 พร้อมจัดกิจกรรมขอบคุณผู้ที่สนใจทดลองขับ All New Suzuki CELERIO ที่ผู้แทนจำหน่ายซูซูกิทั่วประเทศช่วงก่อนวันที่ 30 พฤศจิกายน 2557 ด้วยการเปิดโอกาสให้ลุ้นรางวัลพิเศษ ตั๋วเครื่องบินพร้อมที่พัก เพื่อร่วมชมการแข่งขันฟุตบอล AFF Suzuki Cup 2014 รอบชิงชนะเลิศ จำนวน 10 รางวัลๆ ละ 50,000 บาท (รางวัลละ 2 ที่นั่ง) รวมมูลค่า 500,000 บาท พร้อมโทรศัพท์ iPhone6 16 GB จำนวน 10 รางวัลๆ ละ 23,900 บาท รวมมูลค่าทั้งสิ้น 239,500 บาท (ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง www.suzuki.co.th) และซูซูกิยังได้เตรียมจัดการแข่งขัน “Suzuki CELERIO Eco Champion” เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำเทคโนโลยีรถยนต์ประหยัดพลังงาน และเพื่อเฟ้นหาสุดยอดผู้ใช้งานจริงจากทั่วประเทศที่สามารถขับประหยัดน้ำมันด้วยค่าเฉลี่ยอัตราการใช้เชื้อเพลิงต่ำที่สุด เป็นการพิสูจน์สมรรถนะความประหยัดของ All New Suzuki CELERIO สร้างความมั่นใจในเรื่องความประหยัดน้ำมันและประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ที่เหนือกว่า ทั้งยังเป็นการสานสัมพันธ์อันดีกับกลุ่มลูกค้าอีกด้วย โดยมีกำหนดการรับสมัคร ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2557 ถึง วันที่ 11 มกราคม 2558 ณ ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ซูซูกิทั่วประเทศ สำหรับผู้สนใจสามารถขอรับใบสมัครได้ที่โชว์รูมซูซูกิทั่วประเทศ หรือ ดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ www.suzuki.co.th เพื่อร่วมแข่งขันและชิงรางวัลเงินสดสูงสุดมูลค่า 100,000 บาท นอกจากนี้ ซูซูกิได้เดินหน้าขยายเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายโดยเน้นคุณภาพงานบริการก่อนและหลังการขายเพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า กับศูนย์บริการมาตรฐาน พร้อมอะไหล่แท้ราคามาตรฐาน”
จากการทุ่มเทพัฒนาผลิตภัณฑ์และคุณภาพการให้บริการตลอดมา ซูซูกิมั่นใจว่าจะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า และผลักดันให้ซูซูกิเดินหน้าสู่เป้าหมายและความสำเร็จได้อย่างต่อเนื่อง และคาดการณ์ยอดจองในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งนี้รวม 1,000 คัน
เชิญสัมผัสและทดลองขับรถยนต์คุณภาพทุกรุ่นของซูซูกิ ได้ที่บูธรถยนต์ซูซูกิ ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31 พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษ
โปรโมชั่นพิเศษช่วงงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31
Suzuki SWIFT ทุกรุ่น รับฟรีประกันชั้น1* (พร้อมรับส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่ง มูลค่า 8,000 บาท)
Suzuki CELERIO รับฟรีประกันชั้น1* (พร้อมรับดอกเบี้ย 0% นาน 48 งวด หรือ เลือกรับอุปกรณ์ตกแต่ง มูลค่า 30,000 บาท**)
Suzuki ERTIGA รับฟรีประกันชั้น1* (พร้อมรับดอกเบี้ย 0% นาน 48 งวด หรือ เลือกรับอุปกรณ์ตกแต่ง มูลค่า 40,000 บาท**)
Suzuki CARRY รับฟรีประกันชั้น 1* (พร้อมรับส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่ง มูลค่า 18,000 บาท)
หมายเหตุ
1. *ประกันภัยชั้น 1 ปีแรก ไม่รวมพรบ. บุคคลที่ 3 ทุนประกัน 80% ของมูลค่ารถ, เฉพาะบริษัทประกันที่ร่วมโครงการ คือ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด หรือ บริษัท โตเกียวมารีนประกันภัย จำกัด เท่านั้น
2. **ดอกเบี้ย 0% เฉพาะลูกค้าที่ดาวน์ 25% ขึ้นไป ระยะเวลาผ่อนชำระ 48 เดือน
3. ฟรีบริการช่วยเหลือรถเสียฉุกเฉิน 24 ชม. ทุกรุ่นยกเว้นรุ่น Suzuki CARRY
4. เงื่อนไขโปรโมชั่นทุกรุ่นดังกล่าวสำหรับลูกค้าที่จองและรับรถไม่เกิน 31 ธันวาคม 2557
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center จากโทรศัพท์พื้นฐาน โทร. 1800-600-900 จากโทรศัพท์เคลื่อนที่ โทร.1401-600-900 และ www.suzuki.co.th
-
Suzuki launches New Suzuki SWIFT RX sport compact Showcasing Suzuki HUSTLER and Suzuki LAPIN CHOCOLAT Offering special promotion at Motor Expo 2014



Launching “New Suzuki SWIFT RX, Life…Made Even More Exciting”, completed with a range of newly enhanced functions and performance including Paddle Shift, Cruise Control, HID Front Lamps and Sporty Tail Lamps, and accessorized with Rear Spoiler. Giving more sport feelings. Emphasizing on superior performance and fuel efficiency.
Showcasing Suzuki HUSTLER, mini-SUV with Suzuki’s high technology, coming with distinctive design and outstanding color, boasting its all-round versatility and benefits which earned the prestigious 2015 RJC Car of the Year Award. And Suzuki LAPIN CHOCOLAT, the distinctively designed compact car that has created ‘talk of the town’ throughout the cyberspace with its strikingly classic, yet contemporary, appearances.
Offering special promotion at Motor Expo 2014
Suzuki Motor (Thailand) Co., Ltd., a world’s leading car manufacturer, has announced the unveiling of “Suzuki SWIFT RX…Life Made Even More Exciting” at this year’s Thailand International Motor Expo 2014. The new model comes complete with a range of newly enhanced functions and performance including Paddle Shift, Cruise Control, HID Front Lamps and Sporty Tail Lamps, and accessorized with Rear Spoiler. The new SWIFT RX aims to win the hearts of customers with its superior performance and fuel efficiency, with an impressive price at B. 599,000 with special offers. Besides that, Suzuki HUSTLER the all-new mini-SUV with distinctive design by Suzuki is also being introduced, boasting its all-round versatility and benefits which earned the prestigious 2015 RJC Car of the Year Award. Another showcasing is Suzuki LAPIN CHOCOLAT, the distinctively designed compact car that has created ‘talk of the town’ throughout the cyberspace with its strikingly classic, yet contemporary, appearances. During the Motor Expo 2014 period, Suzuki also offers special promotion to all customers. And, Suzuki expects 1,000 units of booking after the event.
Mr. Takayuki Sugiyama, President of Suzuki Motor (Thailand) Co., Ltd. said that over recent years, Suzuki has been highly successful in positioning itself as a car maker, fulfilling people’s Way of Life!, with a distinct expertise in creating unique motoring marvels that cater superbly to the demands of modern-day consumers both in terms of unmistakable designs and outstanding performance, fuel efficient and environmental friendly, for instance, Suzuki SWIFT, a unique and popular sport compact; and Suzuki CELERIO, new compact that always surprises everyone with its beyond expectation performance. Moreover, Suzuki has clearly demonstrated its production capabilities to manufacture various models of high-performance, fuel-efficient automobiles – many of which are being marketed not only in Thailand, but also exported to Asia, Europe and other markets around the world. At the same time, Suzuki also rapidly expands the dealership network to cover nationwide sales and services.
Mr. Wallop Treererkngam, Sales and Marketing Director, Suzuki Motor (Thailand) Co. Ltd. said that, at the 31st Motor Expo, the “New Suzuki SWIFT RX” is launched, in addition to the current models of Suzuki SWIFT GLX, GL, and GA model which are still popular in the market. The New Suzuki SWIFT RX is newly developed, to be more unique and giving more exciting feelings, under the concept of “Life…Made Even More Exciting”, making it appealing to independent individuals who know exactly what they want in life. The new model commands an even sportier performance and greater fuel efficiency with 1.25L engine, fun to drive and fuel efficient, fitted with a host of advanced performance and new features including Paddle Shift, Cruise Control, HID Front Lamps, and Sporty Tail Lamps, accessorized with Rear Spoiler, Passenger Seats made of high-quality materials, and, a Steering Wheel wrapped in a special kind of leather; Keyless Entry and Keyless Push Start, steering wheel audio control, USB connectivity, automatic air-conditioning system. Feel secured with Suzuki’s high safety standard with SRS Airbags, ABS and EBD in all Suzuki SWIFT models (RX, GLX, GL and GA model). The customers can experience and have a test drive of New Suzuki SWIFT RX, coming with 3 colors – Red, white and black, with an attractive price at B. 599,000 at the Motor Expo and all dealers nationwide, and receiving special privileges at the Motor Expo event.
At this year’s Motor Expo, Suzuki has once again underlined its leading expertise in compact automobiles with showcasing Suzuki HUSTLER 660cc mini-SUV as reference exhibit, blazing a new trail in the “Kei Car” segment.Suzuki HUSTLER turns heads your way with remarkable designs with a super-spacious passenger cabin and a full range of features, and earned the prestigious 2015 RJC Car of the Year Award. And showcasing, Suzuki LAPIN CHOCOLAT 660cc as reference exhibit, the distinctively designed compact car with its strikingly classic, yet contemporary, characteristics. Suzuki also exhibits Suzuki CELERIO specially accessorized to be sportier for this event. All the customers can feel and touch all highlights at Suzuki booth.
Mr. Wallop added “Throughout the year 2014, Suzuki has maintained its emphasis on continuous marketing activities, examples, launching new model such as All New Suzuki CELERIO to Thai market, arranging test drive activities with media members and prospects to create an impressive driving experience and word of mouth. Especially in the field of sports marketing, Suzuki continues to be the official sponsor of the popular AFF Suzuki Cup 2014 football tournament. Prospective customers who came for a test drive of the All-New Suzuki CELERIO at any Suzuki showrooms nationwide, before November 30 this year, were also given a chance to win package tours including air tickets, accommodation and access to the AFF Suzuki Cup 2014 Finals, offering 10 prizes at B. 50,000 each (2 lucky winners per 1 prize), totally B. 500,000; 10 prizes of iPhone6 16 GB valued B. 23,900 each, totally B. 239,500. (more details please visit www.suzuki.co.th) Moreover, Suzuki prepares to arrange “Suzuki CELERIO Eco Champion” to emphasize the positioning of fuel saving technology leader, and to search for the best users who can drive at the best fuel consumption. This arrangement will prove that All New Suzuki CELERIO is delivering superior driving performance with higher fuel saving efficiency, and Suzuki can also create good customer relationship. The users can apply since December 1, 2014 till January 11, 2015 at Suzuki showrooms nationwide. Download the application at www.suzuki.co.th to join the contest and try best to win up to B. 100,000 cash. Besides this, Suzuki aims to focus on before and after-sales services, with service centers and genuine spare parts, to create customer satisfaction.
From Suzuki’s dedication to develop products and service quality through years, Suzuki feels confident in building customer’s trustworthiness, driving Suzuki to step forward to reach future goals and achieve future success. At this time, Suzuki anticipates 1,000 units of booking at The Motor Expo.
Experience and test drive all Suzuki quality cars at Suzuki booth, 31st Motor Expo, and get special privileges.
Promotion at 31st Motor Expo
? Suzuki SWIFT: Free 1st class insurance* (with B. 8,000 special discount for the accessories)
? Suzuki CELERIO: Free 1st class insurance* (0% interest for 48 installment, or get accessories valued B. 30,000**)
? Suzuki ERTIGA: Free 1st class insurance* (0% interest for 48 installment, or get accessories valued B. 40,000**)
? Suzuki CARRY: Free 1st class insurance* and B. 18,000 special discount for the accessories
Remark
? *Free 1st class insurance in the 1st year, not including the Protection for Motor Vehicle Accident Victims Act, the sum assure amount is at 80% of the vehicle value, only with The Viriyah Insurance Co., Ltd. or Tokio Marine Insurance (Thailand) Public Company Limited.
? ** 0% interest rate for customer who pay 25% of down payment and 48 months installment
? Free 24 hours roadside assistance, except Suzuki CARRY.
? Promotion above is available for the customers who book and receive the car not later than December 31, 2014.
For more information, please contact Suzuki Motor (Thailand) Co., Ltd. (From landline, call 1800-600-900. From mobile phone, call 1400-600-900) or visit www.suzuki.co.th
-
มิตซูบิชิ ดีเดย์!! พร้อมขาย “ไทรทัน ใหม่” ในงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป




มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยึดเวทีมอเตอร์ เอ็กซ์โป ประกาศเปิดตัว “ไทรทัน ใหม่” รถกระบะที่มาพร้อมนวัตกรรมเครื่องยนต์ “ไมเวค คลีน ดีเซล อลูมินัม อัลลอย บล็อก” ขนาด 2.4 ลิตร ครั้งแรกกับการติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลพลังงานสะอาดในรถกระบะ แรงจัด 181 แรงม้า ทนแกร่ง น้ำหนักเบา ให้สมรรถนะสูง แต่ประหยัดน้ำมันกว่าเดิม 20% พร้อมขนสุดยอดนวัตกรรมจากมิตซูบิชิรุ่นต่างๆ ร่วมโชว์คับคั่ง พลาดไม่ได้กับข้อเสนอเด็ดส่งท้ายปลายปีทั้งดอกเบี้ยต่ำสุด 0% พร้อมประกันภัยชั้นหนึ่งและข้อเสนอพิเศษอื่นๆ อีกเพียบ เริ่มแล้ววันนี้ในงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป และที่โชว์รูมผู้จำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิ 213 แห่งทั่วประเทศ
มร. มาซะฮิโกะ อุเอะกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศเปิดตัวรถยนต์ มิตซูบิชิ “ไทรทัน ใหม่” อย่างเป็นทางการกับสาธารณชนครั้งแรกของโลกในงาน มหกรรมยานยนต์ หรือ มอเตอร์เอ็กซ์โป ครั้งที่ 31 ณ ชาแลนเจอร์ ฮอล์ เมืองทองธานี 29 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคมนี้ พร้อมนำรถยนต์มิตซูบิชิรุ่นต่างๆ ร่วมโชว์คับคั่ง ทั้ง มิตซูบิชิ มิราจ และมิตซูบิชิ แอททราจ รถยนต์อีโคคาร์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจากตลาดเมืองไทย รวมไปถึง มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ รถยนต์ที่มาพร้อมสมรรถนะและความอัจฉริยะในการขับขี่ และมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต “แรลลี่ คาร์” ที่เข้าร่วมการแข่งขัน FIA Asia Cross Country Rally 2014 บนเส้นทางไทย-กัมพูชาเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มาร่วมโชว์ในงาน พร้อมเตรียมข้อเสนอพิเศษมอบให้กับลูกค้าที่จองรถในงาน ทั้งดอกเบี้ยต่ำเริ่มต้นที่ 0% หรือเลือกดาวน์ต่ำเริ่มต้นที่ 29,000 บาท และข้อเสนออื่นๆ อีกมากมาย และพบกับ “ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ ผลดี” พรีเซ็นเตอร์ของมิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ และนานา ไรบีนา พร้อม เวย์ ไทเทเนียม ซึ่งจะมาร่วมทำกิจกรรมกับลูกค้ารถยนต์มิตซูบิชิในงานอีกด้วย
ทั้งนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ได้จัดงานแถลงข่าวเพื่อแนะนำรถยนต์มิตซูบิชิ “ไทรทัน ใหม่” กับสื่อมวลชนชาวไทยอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยได้รับกระแสการตอบรับเป็นอย่างดีทั้งในเรื่องของการออกแบบ ความสะดวกสบายของห้องโดยสาร ความปลอดภัย และสมรรถนะจากเครื่องยนต์ใหม่ สำหรับ “ไทรทัน ใหม่” เป็นเจนเนอเรชั่นที่ 5 ของรถกระบะมิตซูบิชิที่ได้รับการพัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์การเป็นที่สุดของรถกระบะอเนกประสงค์แบบสปอร์ต “Ultimate Sport Utility Truck” ที่ไม่ได้จำกัดแค่เพียงการบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ แต่ยังรวมไปถึงความสะดวกสบายอย่างรถยนต์นั่งสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันด้วยแนวคิด “เปลี่ยน ...ทุกความเชื่อ” กับนวัตกรรมยานยนต์ที่ให้ประสบการณ์ใหม่ในการขับขี่ ด้วยคุณสมบัติหลัก 3 ประการ คือ
“สมรรถนะสูงแต่ประหยัด” ครั้งแรกในรถกระบะกับการติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล ประสิทธิภาพสูง รหัส 4N15 “ไมเวค คลีน ดีเซล” ขนาด 2.4 ลิตร พร้อมเสื้อสูบและฝาสูบแบบอลูมินัม อัลลอย บล็อก ที่ให้กำลังแรงจัดเต็มขุมพลังสูงสุดถึง 181 แรงม้า ทนทานแข็งแกร่ง มีน้ำหนักเบา แต่ให้การประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นเยี่ยม โดยประหยัดมากขึ้นถึง 20% และยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้นเช่นกัน
“ความสะดวกสบาย” จากห้องโดยสารที่ออกแบบให้มีพื้นที่กว้างนั่งสะดวกสบายอย่างรถยนต์นั่ง เงียบยิ่งขึ้นด้วยระบบลดเสียงรบกวนตลอดการเดินทาง ครบครันด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานที่ทันสมัย รวมทั้งระบบช่วงล่างใหม่ลดแรงสะเทือน และตัวถังที่ออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่ง่ายต่อการขับขี่ ซึ่งช่วยทำให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารเพลิดเพลินตลอดการเดินทาง
“ความปลอดภัยสูง” จากโครงสร้างตัวถังนิรภัย RISE Body และการเพิ่มประสิทธิภาพของโครงสร้างตัวถังด้วยส่วนรับแรงกระแทกผลิตจากเหล็กที่มีความแข็งแรงเป็นพิเศษ High Tensile Steel พร้อมระบบความปลอดภัยครบครันช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารรู้สึกมั่นใจและปลอดภัยมากขึ้นตลอดการขับขี่
ข้อเสนอพิเศษ สำหรับลูกค้าที่จองรถยนต์มิตซูบิชิในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป และที่ผู้จำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิทั่วประเทศตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2557
รุ่น และ ข้อเสนอพิเศษ
มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่
(เฉพาะรุ่นดับเบื้ลแค็บ พลัส และดับเบิ้ลแค็บขับเคลื่อน 4 ล้อ)
· รับข้อเสนอส่วนลดพิเศษช่วงเปิดตัว
· ฟรีประกันภัยชั้น 1 พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง
มิตซูบิชิ มิราจ
· ดอกเบี้ย 0% (ดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน) หรือดาวน์ต่ำเริ่มต้นที่ 29,000 บาท*
· ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง
มิตซูบิชิ แอททราจ
· ดอกเบี้ย 0% (ดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน) หรือดาวน์ต่ำเริ่มต้นที่ 39,000 บาท*
· ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง
· รับฟรีบัตรกำนัลมูลค่า 10,000 บาท (เฉพาะรุ่น GLS Ltd. และ GLS)**
มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์
· ดอกเบี้ย 0.99% (ดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน) หรือดาวน์ต่ำเริ่มต้นที่ 89,000 บาท*
· ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง
มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต
· ดอกเบี้ย 0% (ดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน) หรือดาวน์ต่ำเริ่มต้นที่ 59,000 บาท **
· ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง
· รับฟรีบัตรกำนัลมูลค่า 10,000 บาท**
* สำหรับผ้ที่จองรถและรับรถภายในวันที่ 1 พฤศจิกายน ถึง 31 ธันวาคม 2557
** เฉพาะลูกค้าที่จองรถภายในวันที่ 10 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคม 2557 และรับรถภายในวันที่ 31 ธ.ค. 2557
ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถาบันการเงินที่ร่วมรายการ บริษัทขอสงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขด้วยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
ข้อเสนอพิเศษเฉพาะในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 31
· พิเศษ…!! สำหรับลูกค้าที่จอง ไทรทัน ใหม่ 1,500 คันแรก รับฟรีสติกเกอร์คาร์บอนติดเสาประตูกลาง อุปกรณ์ตกแต่งแท้จากมิตซูบิชิ มูลค่า 610 บาท พร้อมบริการติดตั้งฟรี และรับส่วนลด 20 % สำหรับการซื้ออุปกรณ์ตกแต่งมิตซูบิชิอีก 2 รายการ (เฉพาะรายการที่บริษัทฯกำหนด)
· รับทันที...!! ผ้าขนหนู มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ เมื่อทดลองขับมิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่
· พบและร่วมทำกิจกรรมกับพรีเซ็นเตอร์รถยนต์มิตซูบิชิ
- เจษฎาภรณ์ ผลดี พรีเซ็นเตอร์มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ 29 พ.ย. 2557
- นานา ไรบีนา และ เวย์-ไทเทเนียม จากภาพยนต์โฆษณามิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต 10 ธ.ค. 2557
-
Mitsubishi Motors starts the official sales of “All New Triton” in Motor Expo




Mitsubishi Motors Thailand announced today that the one-ton pickup truck “All New Triton” will be public launched in Motor Expo 2014 along with showing full lineup of Mitsubishi car. The new models is powered by a new 2.4-Liter MIVEC Clean Diesel engine that provides 181 horsepower from the durable yet lightweight high-efficiency engine offering the outstanding performance and fuel efficiency of 20% improved from previous model. Low interest rate starting at 0%, free 1st class insurance and others will also be specially offered to booking customers at the Motor Expo 2014 and 213 dealers nationwide.
Mr. Masahiko Ueki, President of Mitsubishi Motors (Thailand) Company Limited (MMTh), unveils that MMTh make debut the All New Triton in Thailand at the 31st Motor Expo 2014 held at Challenger Hall Muangthong Thani from November 29 through December 10. Alongside All New Triton, there will be Mirage and Attrage, which become the most popular among Eco car segment, Lancer EX and Pajero Sport which was special modified for FIA Asia Cross Country Rally 2014 held in last August. The company will offer the special sales campaign to customers who book the car during the period with low interest rate starting at 0% or low down payment at 29,000 Baht and other special offers. Moreover, the presenter of All New Triton, Jesdaporn Pholdee, famous actor and Pajero Sport presenter, Nana Rybena and Way Thaitanium will join activities at Mitsubishi showcase during the event and many activities will be provided at Mitsubishi booth.
After press conference on November 18, 2014, the All New Triton received very good feedback in term of its design, comfort, safety and performance from the new engine. The “All New Triton” is the 5th generation of Mitsubishi Pickup Truck which has been developed to an “Ultimate Sport Utility Truck” theme, combining the comfort of an SUV with the functionality and reliability of a pickup that will satisfy the needs of people with the new driving experience from 3 major qualities;
· “High Performance yet Economy” provided by new aluminum alloy block 4N15 MIVEC Clean Diesel engine which realizes 181 horsepower, low fuel consumption 20% up from previous model and low emissions.
· “Comfort and Convenience”, in the spacious and comfortable passenger cabin, the sedan-like interior is quiet with the noise reduction system, convenient with the state-of-the-art functions, and with the new suspension system, the ride is smooth and compliant. The aerodynamically enhanced body enables the pleasant driving experience for the drivers and the passengers.
· “High Safety” performance provided by high-rigidity compartment structure “RISE Body, High Tensile Steel and vehicle safety system to protect the important fellow passengers.
Specially offer for booking customers at the Motor Expo 2014 and 213 dealers nationwide from now until December 31, 2014
Model
Special Offer
Mitsubishi All New Triton
(Double Cab Plus and Double Cab 4 WD only)
· Special introductory price for launch period
· Free 1st Class insurance and 24 hour road side assistance
Mitsubishi Mirage
· Special interest rate at 0 % * (Down payment 25 % and 48 months installment) Or Low down payment from 29,000 baht.*
· Free 1st Class insurance and 24 hour road side assistance
Mitsubishi Attrage
· Special interest rate at 0% * (Down payment 25 % and 48 months installment) Or Low down payment from 39,000 baht.*
· Free 1st Class insurance and 24 hour road side assistance
· Free gift voucher value 10,000 baht. (GLS Ltd. and GLS only)**
Mitsubishi Lancer EX
· Special interest rate at 0.99%* (Down payment 25 % and 48 months installment) Or Low down payment from 89,000 baht.*
· Free 1st Class insurance and 24 hour road side assistance
Mitsubishi Pajero Sport
· Special interest rate at 0% * (Down payment 25 % and 48 months installment) Or Low down payment from 59,000 baht.**
· Free 1st Class insurance and 24 hour road side assistance
· Free gift voucher value 10,000 baht. **
* For customers who book the car during 1 November to 31 December, 2014
** For customers who book the car during 10 November to 10 December and receive the car by 31 December 2014
Special offer for customers who book at the Motor Expo 2014
· For first 1,500 booking customers of All New Triton get free B-Pillar decoration foil worth 610 baht and special 20% discount on second and third items.
· Get free towel when test drive All New Triton
· Special activity with Mitsubishi presenter
- Jesdaporn Pholdee, Presenter of All New Triton on November 29,2014.
- Nana Rybena and Way Thaitanium from Pajero Sport TV commercial on December 10,2014.
-
The wait is over! Ducati Scrambler announced its shockingly accessible price



Ducati Scrambler, the new contemporary brand by the legendary Italian motorcycle producer from Bologna, has announced the retail price for all the 4 models to entice the men and women who have the heart for big bike and a desire to express their true self, together with various promotion campaigns in the Motor Expo 2014.
Mr. Apichat Leenutaphong, Managing Director of Ducatisti Co. Ltd. or Ducati Thailand, revealed “the Ducati Scrambler is a newly introduced brand under Ducati, which Ducati Thailand has in early November convened the one-of-a-kind, talk-of-the-town launch party that fully conveyed the fun character of the brand by having the guests slide down the 5 meters tall slider or down the firemen’ pole in order for them to enter into the main event’s area at the Central World. The feedback we’ve received from the market has been spectacular. Given that Ducati Scrambler is one of the most successful motorcycles since its inception in 1962, and its core characters relate closely to the hippy movement in the America. Today, with the reinterpretation of the original Ducati Scrambler, Ducati design team has introduced the 2015 Scrambler with present day’s technologies with a touch of contemporary designs. The wide handle bar and long seat have enabled the Ducati Scrambler easy to ride, therefore it appeals to the demand of many big bike customers, both male and female. Ducati Scrambler comes in 4 versions; Scrambler Icon, Scramble Full Throttle, Scrambler Classic and Scrambler Urban Enduro. In addition, the Ducati Scrambler is easily customizable, making it the ultimate tool for self-expression.
Ducati Scrambler Icon will have a price tag of 369,900THB for the red, while the yellow Icon will be 374,900THB. While, the three special accessorized versions, Scramble Full Throttle, Scrambler Classic and Scrambler Urban Enduro, that Ducati has created to represent the starting point for which the customers can customize their Ducati Scramblers will have a price tag of 419,900THB.
Moreover, Ducati has prepared a very special end-of-year campaign for those attending the Motor Expo 2014, which includes;
Monster Campaign: Special interest rate 2.99% , Starting down payment at 20%, get free LED turn indicators, tank pad, Ducati Cash Voucher 5,000THB, free registration fee, 1st class insurance (1 year), and Ducati Worry fee package for 2 years or 12,000 km. For the customer who booking for the Monster S2R or Monster S2R S Ti in the Motor Expo 2014 Event, they will get more free Suomy SR Sport Dovizioso helmet worth 24,000THB. But more than that, balloon campaigns are available for the Monster Model as follows:
- Monster 796 Corse Stripe : Down 89,900THB / monthly installment 6,997THB (48 months) / Balloon 99,990THB
- Monster S2R : Down 94,900THB / monthly installment 6,997THB (48 months) / Balloon 109,990THB
- Monster S2R S Ti : Down 99,900THB / monthly installment 7,848THB (48 months) / Balloon 119,990THB, come with Termignoni Titanium Slip-on Exhaust, Short tailed license plate get
free LED turn indicators, tank pad, Ducati Worry Fee package for 2 years or 12,000km, Included registration fee and 1st class insurance (1 year). For the customer who booking for balloon campaign of Monster S2R or Monster S2R S Ti in the Motor Expo 2014 Event, they will get more free Suomy SR Sport Dovizioso helmet worth 24,000THB.
Hypermotard and Hyperstrada Campaign: Special interest rate 3.99%, Starting down payment at 20%, get free tank pad and Ducati Cash Voucher in the value of 10,000THB. In addition, balloon campaigns are available for Hypermotard and Hyperstrada, as follows:
- Hypermotard: Down 99,990THB / monthly installment 7,988THB (48 months) / Balloon 110,000THB include free tank pad, registration and 1-class insurance (1 year)
- Hyperstrada: Down 99,990THB / monthly installment 8,788THB (48 months) / Balloon 129,000THB include free tank pad, registration fee and 1-class insurance (1 year)
Multistrada Campaign:
- Multistrada 1200 ABS : special price of 799,000THB with free tank pad
- Multistrada 1200S Touring : special price of 999,900THB with free tank pad, registration, free 1-class insurance (1 year) and option to purchase the Matt Chrome or Touring Grey color kit at a special price of 29,000THB
Panigale Campaign:
- 899 Panigale : Come with Termignoni slip-on exhaust at a price of 757,900THB
- 1199 Panigale ABS : Down 390,000THB / monthly installment 19,788THB (48 months) / Balloon 299,000THB/ Included free Ducati Cash Back in the value of 200,000THB, free registration fee and 1-class insurance (1 year)
- 1199 Panigale S ABS : Down 400,000THB / monthly installment 27,490THB (48 months) / Balloon 398,000THB / Include free Ducati Cash Back in the value of 300,000THB, free registration fee and 1st insurance (1 year)
Diavel Campaign:
- Diavel Dark : Down 199,000THB / monthly installment 13,898THB (48 months) / Balloon 199,000THB/ Include free tank pad, Ducati Cash Back in the value of 20,000THB, option to purchase Forged Aluminum Wheels at a special price of 39,000THB, free registration fee and 1st class insurance (1 year)
- Diavel Carbon Red / Carbon White : Down 199,000THB / monthly installment 16,797THB (48 months) / Balloon 249,000THB/ Include free tank pad, Ducati Cash Back in the value of 20,000THB, option to purchase Forged Aluminum Wheels at a special price of 39,000THB, free registration fee and free 1st class insurance (1 year)
StreetFighter Campaign:
- StreetFighter 848 Model Year 2015 : Down 169,000THB / monthly installment 12,900THB (48 months) / Balloon 239,000THB/ Include LED turn indicators, short tailed license plate, tank pad, free registration fee and 1st class insurance (1 year) ; or
-Starting Down payment at 20%, get LED turn indicators, short tailed license plate, tank pad, and Ducati Cash Voucher in the value of 15,000THB
-
Proton นำรถยนต์เข้าร่วมงาน “Motor Expo 2014”




รถยนต์ Proton ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในประเทศไทย ในระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมาและปีนี้รถยนต์ Proton ก้าวขึ้นสู่ปีที่ 8 ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทั้งจากลูกค้าและสื่อมวลชน ทำให้ Proton เป็นที่ยอมรับได้อย่างไม่น่าแปลกใจ ด้วยเทคโนโลยีล่าสุด รังสรรค์ผลงานการออกแบบรถทุกคัน ให้มีระบบควบคุมบังคับและระบบกันสะเทือนที่เหนือชั้นด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีโดยทีมวิศวกรของรถ Lotus จากประเทศอังกฤษ ทำให้มีศักยภาพสูงและคุ้มค่าด้วยระบบขับเคลื่อนที่สมบูรณ์แบบ
สำหรับงาน Motor Expo 2014 นี้ จะเป็นอีกครั้งที่ทางบริษัท พระนครโอโตเซลส์ จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ Proton ในประเทศไทย นำรถยนต์ Proton มาร่วมแสดงภายในงานเป็นปีที่ 8 ติดต่อกัน เริ่มต้นที่ Proton Exora สุดยอดรถอเนกประสงค์ MPV 7 ที่นั่ง Proton Preve’ สปอร์ตซีดานทางเลือกใหม่ และ Proton Suprima S สปอร์ตแฮทแบ็ค 5 ประตูสำหรับคนหัวใจสปอร์ต
Proton Exora มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร รหัส แคมโปร CFE ( CamPro Charge Fuel Efficiency) แบบ 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบชาร์จเจอร์และอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 138 แรงม้า ที่ 5,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 205 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 - 4,000 รอบต่อนาที ทำให้สมรรถนะของเครื่องยนต์เทียบเท่ากับเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร เพิ่มพลังในการเร่งแซงได้มากขึ้น ผสานกับระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ช่วยประหยัดน้ำมัน อีกทั้งเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่และการตอบสนองของรถยนต์มั่นคงแม่นยำยิ่งขึ้น ในขณะที่กำลังของเครื่องยนต์ไม่ลดลง ราคาเริ่มต้นเพียง 788,000 บาท
Proton Preve’ มีจำหน่าย 3 รุ่นคือ Standard, Executive และ Premium ทุกรุ่น มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร โดยในรุ่น Standard และ Executive ใช้เครื่องยนต์รหัส CAMPRO IAFM+ ให้กำลังสูงสุดที่ 109 แรงม้า ที่ 5750 รอบต่อนาที ส่วนในรุ่น Premium ใช้เครื่องยนต์ CAMPRO CFE ( CamPro Charge Fuel Efficiency) แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงถึง 138 แรงม้า ที่ 5,000 รอบต่อนาที แรงบิด 205นิวตัน –เมตร ที่ 2,000-4,000 รอบต่อนาที ผสานกับระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ช่วยประหยัดน้ำมัน อีกทั้งเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่และการตอบสนองของรถยนต์มั่นคงแม่นยำยิ่งขึ้น ในขณะที่กำลังของเครื่องยนต์ไม่ลดลง ราคาเริ่มต้นเพียง 625,000 บาท
Proton Suprima S มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุดที่ 138 แรงม้า ที่ 5,000 รอบต่อนาที แรงบิด 205 นิวตันเมตร ที่ 2,000-4,000 รอบต่อนาที ผสานกับระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT 7 สปีด เพิ่มสรรถนะการขับขี่ด้วยเทคโนโลยี LOTUS RIDE and Handling ราคา 829,000 บาท
และทาง Proton ยังจัดแคมเปญใหม่สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ Proton ดังนี้
Suprima S
- ข้อเสนอพิเศษมูลค่า 100,000 บาท
Preve’
- ดอกเบี้ย 0% ผ่อนนาน 72 เดือน
Exora
- ดอกเบี้ย 0% ผ่อนนาน 60 เดือน
และทั้ง 3 รุ่นยังแถมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี
สิทธิพิเศษเฉพาะผู้ที่จองรถภายในงาน Motor Expo 2014 หรือ โชว์รูมโปรตอนทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคม 2557 เท่านั้น
-
รถยนต์ฮุนไดมอบของขวัญรับปีใหม่กว่า 30 รางวัลมูลค่ารวม 400,000 บาท ระหว่างงาน Motor Expo 2014 พร้อมสัมผัสนวัตกรรม “อมตะดีไซน์แห่งอนาคต” กับรถสปอร์ตคูเป้ประตูปีกผีเสื้อ ต้นแบบ HND-9




ลุ้นโชครางวัลใหญ่สูงสุดมูลค่า 100,000 บาท เมื่อซื้อรถยนต์ฮุนไดทุกรุ่น
พบกับความคุ้มค่าอีกระดับกับ All-New Hyundai Elantra Sport 1.8 GLE รุ่นพิเศษ Motor Expo เพิ่มเครื่องเล่น DVD หน้าจอแบบสัมผัส ระบบนำทาง Navigator และกล้องช่วยจอด Parking Cameraในราคาพิเศษ
ฮุนได H-1 รถยนต์ที่คนไทยให้ความมั่นใจกับยอดจำหน่าย 7 ปี กว่า20,000 คัน วันนี้รับฟรี ประกันภัยชั้น 1และรถพร้อมส่งมอบ
บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายรถยนต์ฮุนไดอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เตรียมรับโค้งสุดท้ายตอบแทนลูกค้าที่ให้ความเชื่อมั่นและสนับสนุนรถยนต์ฮุนไดด้วยดีมาโดยตลอดกับแคมเปญพิเศษ “ส่งความสุขรับปีใหม่” พร้อมลุ้นรับบัตรของขวัญกว่า 30 รายการ รวมมูลค่า 400,000 บาท เมื่อซื้อรถยนต์ฮุนไดทุกรุ่น ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2557 เพื่อต้อนรับเทศกาลปีใหม่ที่ลูกค้าฮุนไดจะเลือกซื้อรถยนต์สำหรับการเดินทางกันไปทั้งครอบครัว ซึ่งนอกจากสิทธิ์ในการลุ้นรางวัลพิเศษแล้ว รถยนต์ฮุนไดรุ่นต่างๆยังมีโปรโมชั่นพิเศษต้อนรับผู้ซื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31” หรือ งาน Thailand International Motor Expo 2014 ที่ฮุนไดเตรียมรถยนต์ไว้พร้อมทุกรุ่นให้ทุกคนได้สัมผัส โดยมีรายละเอียดของเงื่อนไขพิเศษดังนี้
ฮุนได H-1 Series รับฟรีประกันภัยชั้น 1 และรถพร้อมส่งมอบ
ฮุนได Grand Starex VIP และ Premium รับฟรีประกันภัยชั้น 1
ฮุนได Tucson รับดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% ผ่อนนาน 48 เดือน และประกันภัยชั้น 1
ฮุนได Veloster และ Veloster Sport Turbo รับดอกเบี้ย 0% 48 เดือน และ 36 เดือน
ฮุนได Elantra Sport ทุกรุ่น รับฟรีประกันภัยชั้น 1 และในช่วงมหกรรมยานยนต์นี้เท่านั้น พบกับ Elantra Sport 1.8 GLE รุ่นพิเศษ Motor Expo ที่ยกระดับความคุ้มค่าคุ้มราคา โอกาสเดียวเท่านั้นกับเครื่องเล่น DVD หน้าจอแบบสัมผัส ระบบนำทาง Navigator และกล้องช่วยจอด Parking Camera ในราคาสุดพิเศษ
ความสำเร็จจากรถยนต์ฮุนได H-1 ตลอดเวลา 7 ปี คือเครื่องยืนยันถึงคุณภาพ และความพึงพอใจในเทคโนโลยีของฮุนได และความสำเร็จของการเปิดตัว All-New Hyundai Elantra Sport ทั้ง 3 รุ่น ยังต่อยอดความแรงอย่างต่อเนื่องด้วยราคาเริ่มต้นในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด เพียง 749,000 บาท เท่านั้น
เป็นอีกปีที่ฮุนไดขอยืนยัน “พัฒนาการที่ก้าวไปข้างหน้า” ในงานมหกรรมยานยนต์ ด้วยรถต้นแบบรหัสร้อน HND-9 รถสปอร์ตระดับพรีเมี่ยมแห่งอนาคตที่ถูกสร้างสรรค์อย่างชาญฉลาดและมีรสนิยมภายใต้แนวคิด Fluidic Sculpture Design รุ่นล่าสุดที่สะท้อนแบรนด์ฮุนได สู่ความเป็นรถสปอร์ตอย่างเต็มภาคภูมิด้วยเส้นสายที่เฉียบคมมีเอกลักษณ์ และสมรรถนะเครื่องยนต์ที่เร้าใจจนต้องตะลึง
Concept Car
Hyundai HND-9 คือผลงานการออกแบบ และพัฒนา ภายใต้การดูแลของศูนย์วิจัยและพัฒนารถยนต์ฮุนได ณ เมืองนัมยาง ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งการออกแบบเกิดขึ้นภายใต้การผสมผสาน ความหรูหรา ความคลาสสิก ความเป็นรถสปอร์ตคูเป้ระดับพรีเมี่ยม และรายละเอียดที่ซับซ้อนไว้ในหนึ่งเดียวอย่างเยี่ยมยอด และท้าทายด้วยแพล็ตฟอร์มของรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหลัง และมีช่วงหน้ายาวให้ความรู้สึกของยานยนต์สปอร์ตรสนิยมอมตะได้อย่างแท้จริง
สมรรถนะ และการออกแบบภายนอก
มิติภายนอกบ่งบอกความเป็นรถสปอร์ตคูเป้ขับเคลื่อนล้อหลังระดับพรีเมี่ยมที่พร้อมจะท้าทายทุกสายตา ด้วยความโมเดิร์นที่แฝงความเป็นอมตะไว้อย่างลงตัวด้วยความยาว 4,695 มม ความกว้าง 1,890 มม และความสูง 1,340 มม พร้อมฐานล้อระดับ 2,860 มม ให้ความสปอร์ตปราดเปรียวบนความคลาสสิกของยนตรกรรมตั้งแต่แรกเห็น
เครื่องยนต์เบนซินขนาด 3.3 ลิตร หัวฉีดตรง GDI พร้อมระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์เจอร์ พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด คือตัวแทนของเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และความเร้าใจในทุกจังหวะความเร็วที่อัดแน่นไปด้วยพลังขับเคลื่อนสูงสุด 370 แรงม้า เส้นสายที่เฉียบคมพาดยาวตั้งแต่ไฟหน้าดีไซน์ดุดันจรดฝากระโปรงท้าย สะดุดตาด้วยกระจังหน้า 6 เหลี่ยมที่ทรงพลัง และประตูซ้าย/ขวาที่เปิดขึ้นแบบ “ปีกผีเสื้อ” สานต่ออิมเมจของรถสปอร์ตคลาสสิกได้อย่างลงตัว.....เติมเต็มความดุดันด้วยท่อไอเสียคู่ ทั้งด้านซ้ายและด้านขวา พร้อมล้ออัลลอยผสมคาร์บอนขนาด 22 นิ้ว
ภายใน
การออกแบบภายในของ Hyundai HND-9 คือการสานต่อความโดดเด่นของการออกแบบภายนอกที่หรูหรา และสปอร์ต ซึ่งถูกกำหนดไว้อย่างลงตัวด้วย องค์ประกอบสำคัญ 3 ส่วน อันได้แก่ เส้นสายที่โดดเด่น ความหรูหราที่เกินบรรยาย และความล้ำสมัยไฮเทคในทุกสัมผัส
เส้นสายที่โดดเด่น – คือผลงานการออกแบบที่ตกผลึกมาจากแนวคิด Fluidic Sculpture Design ที่เป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์ฮุนได
ความหรูหราเกินบรรยาย – คือความรู้สึกที่สัมผัสได้จากทุกสายตา และผิวสัมผัสบนความมีระดับของทุกวัสดุที่ได้รับการเลือกสรร
ความล้ำสมัยไฮเทค – กำหนดประสบการณ์ในความสบายและความเร้าใจในทุกช่วงความเร็ว เบาะนั่งออกแบบพิเศษที่ให้สีที่แตกต่างกันไปจากมุมมองที่แตกต่าง โดยในส่วนของผู้ขับขี่ถูกออกแบบให้จำลองลักษณะของค็อกพิทเครื่องบินที่ให้ความคล่องตัวสูง มีรสนิยม และไดนามิกสำหรับทุกสไตล์การขับขี่
Hyundai HND-9 คือบทสรุปของการพัฒนารถยนต์ที่เข้าถึงแนวคิดที่ล้ำสมัยในการสร้างประสบการณ์ และความภาคภูมิใจในการเป็นเจ้าของรถยนต์ฮุนไดที่ผู้คนทั่วโลกต่างตั้งตารอคอยผลงาน โปรดักชั่นคาร์ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้
รถโชว์ในงาน
All-New Hyundai Elantra Sport
คือผลงานชิ้นสำคัญของการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากฮุนไดที่ยกระดับรูปลักษณ์และความมีรสนิยมทั้งภายนอก และภายในอย่างชัดเจนด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และเพิ่มสมรรถนะมากมาย All-New Hyundai Elantra มีทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น 1.8GL รุ่น 1.8GLE และ รุ่น 1.8GLS Navi ทั้ง 3 รุ่นใช้เครื่องยนต์ 1,800 ซีซี มาตรฐานยูโร 4 พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ที่ให้กำลังสูงสุดถึง 150 แรงม้าที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 178 นิวตันเมตรที่ 4,700 รอบต่อนาที ความเร็วสูงสุด 202กม./ชม. โดดเด่นเหนือใครในระดับ 1,800 ซีซี ที่จำหน่ายในประเทศไทย ทำให้เป็นรถยนต์ที่ขับสนุกเต็มสมรรถนะ และสะดวกสบายเกินความเป็นคอมแพ็คซีดาน หรือ C segment จนสัมผัสได้ถึง “ความคุ้มค่าคุ้มราคา”
รุ่น 1.8 GLS Navi ซึ่งเป็นรุ่นสูงสุด มาพร้อมอุปกรณ์ระดับพรีเมี่ยมมากมาย เหนือชั้นกว่าด้วยสมรรถนะ และความสะดวกสบายในการเดินทาง พร้อมระบบความปลอดภัยที่มาอย่างครบครัน อาทิ ระบบควบคุมเสถียรภาพ (ESP) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TCS) ระบบจัดการเสถียรภาพ (VSM) และอุปกรณ์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกอีกมากมาย รวมถึงระบบนำทาง GPS Navigation ที่ช่วยให้คุณไปถึงจุดหมายได้อย่างง่ายดาย
รุ่น 1.8 GLE เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่เพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์มาตรฐานมากมายในระดับราคาที่คุ้มค่ามาก พบรุ่นพิเศษ ที่เพิ่มเครื่องเล่น DVD หน้าจอแบบสัมผัส ระบบนำทาง Navigator และกล้องช่วยจอด Parking Camera เฉพาะในงาน Motor Expo 2014 เท่านั้นในราคาพิเศษ นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ที่โดดเด่นดังต่อไปนี้ ระบบพวงมาลัยอัจฉริยะ Flex Steer เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone พร้อมช่องแอร์ในห้องโดยสารตอนหลัง และระบบฟอกอากาศ Clean Air เบาะนั่งแบบหนังแท้และหนังสังเคราะห์ ระบบ Smart Entry และระบบ Button Start System ระบบที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ Auto Rain Sensor ระบบไฟหน้าอัตโนมัติ Auto light control projector พร้อม LED light guide ระบบเครื่องเสียงแบบจอสัมผัส Touch-screen พร้อมการเชื่อมต่อแบบ Bluetooth ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว พวงมาลัย และหัวเกียร์หุ้มหนังแท้ เบาะนั่งตอนหลังพับได้แบบ 60:40 พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง หรือ tilt & telescopic steering wheel และถุงลมนิรภัยคู่หน้า
รุ่นมาตรฐาน 1.8 GL โดดเด่นด้วยล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว ไฟหน้าแบบ multi-reflector พร้อม LED light guide ถุงลมนิรภัยคู่หน้า พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง หรือ tilt & telescopic steering wheel เบาะนั่งทรงสปอร์ตหุ้มด้วยวัสดุที่ทำจากผ้า และกุญแจแบบพับเก็บได้พร้อมรีโมทในตัว
The New Hyundai Grand Starex VIP และ Premium
The New Hyundai Grand Starex VIP รถยนต์ระดับ Super Luxury MPV แบบ 7 ที่นั่งแท้ๆ จากโรงงาน ที่เหนือกว่าในทุกการเดินทาง ด้วยระบบอำนวยความสะดวกเพิ่มความบันเทิงอย่างครบครัน ใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร เทอร์โบดีเซล คอมมอลเรล รองรับมาตรฐานยูโร 4 เกียร์อัตโนมัติแบบ 5 สปีด พร้อมโหมดแมนนวลให้กำลังสูงสุดที่ 175 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดที่ 441 นิวตันเมตร
The Grand Starex VIP มาพร้อมกระจังหน้าใหม่ กันชนหน้าแบบลักชัวรี่ กึ่งสปอร์ต กันชนหลังดีไซน์ใหม่ และกาบข้างแบบสีโทนเดียวแบบสเกิร์ตในตัว ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วลายใหม่พร้อมยางขนาด 235/60/17 ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้างแบบ LED เบาะ Super VIP 1 คู่ ปรับเอนนอนและปรับที่พักขาด้วยไฟฟ้า เบาะหนังแท้ลายใหม่พร้อมหมอนรองศีรษะแบบ Butterfly ที่ ให้ความสบาย และรองรับศีรษะได้ดีกว่าเดิม
โดดเด่นที่สุดในรุ่น VIP คือเคาน์เตอร์สไตล์ใหม่ที่ออกแบบมาให้ดูมีรสนิยมแบบ European Styling มากขึ้นด้วยการออกแบบใหม่หมดในทุกสัดส่วน เพิ่มความหรูหราด้วยการเลือกสรรวัสดุที่มีคุณภาพและความทนทานมากขึ้นจนรู้สึกได้ นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มสเป็คของอุปกรณ์ความบันเทิงที่ใช้ คือ จอ LCD เพิ่มขึ้นจากขนาด 19 นิ้วเป็น 22 นิ้ว แบบ Full-HD และเครื่องเสียงจาก Kenwood ที่เพิ่มคุณภาพเสียงให้เหนือระดับขึ้นไปกว่าเดิม
The New Grand Starex Premium มาพร้อมความลงตัวกับพื้นที่ใช้สอยและความสบายส่วนตัวในรูปแบบ 7 ที่นั่งซึ่งไร้เคาท์เตอร์กั้นกลางห้องโดยสาร แต่ทดแทนด้วยระบบความบันเทิงแนวใหม่ซึ่งประกอบไปด้วย จอ LCD แบบพับเก็บได้ด้วยไฟฟ้าติดเพดานขนาด 10.1 นิ้ว ต่อเชื่อมกับเครื่องเล่น DVD head unit ด้านหน้าซึ่งสิ่งที่ผู้ใช้ได้รับคือที่นั่งแถวหน้าด้านคนขับที่มีอิสระในการปรับตำแหน่ง และความสบายบนที่นั่ง Double Super VIP Seats ที่ปรับจังหวะล็อกเลือกตำแหน่งบนรางเลื่อนนิรภัยคู่ได้มากกว่าเดิม ทำให้ความสบายส่วนตัวของผู้โดยสารบนเบาะนั่ง Double Super VIP Seats เหนือกว่ารถยนต์ Luxury MPV ขนาด 7 ที่นั่งรุ่นอื่นอย่างสัมผัสได้
อุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆที่พบใน The New Grand Starex VIP and Premium ได้แก่
เครื่องยนต์ 2500 ซีซี เทอร์โบดีเซลคอมมอน รองรับมาตรฐานยูโร 4 ให้กำลังสูงสุดที่ 175 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดที่ 441 นิวตันเมตร ที่ 2000 – 2250 รอบต่อนาที
เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด พร้อมโหมดแมนนวล สร้าง engine brake ในยามที่ต้องการ และเพิ่ม traction ยามเข้าโค้งในรูปแบบที่รถ Luxury MPV ขนาดใหญ่ต้องการ
เบาะนั่ง Double Super VIP Seats ให้ความสบายที่พิเศษกว่า ปรับเอนนอนและที่รองรับต้นขาด้วยไฟฟ้า และปรับเลื่อนตำแหน่งบนรางเลื่อนนิรภัยได้มากกว่าเดิม
พวงมาลัยแบบ Multi-function ปรับเครื่องเสียงให้ความสะดวกสูงสุด
กระจกมองข้างซ้ายขวาปรับ และพับด้วยไฟฟ้า
กล้องส่องหลังช่วยให้การจอดรถปลอดภัยไร้กังวล
พื้นที่เก็บสัมภาระตอนหลังสามารถปรับขยายให้รองรับการใช้งานได้เพียงการเลื่อนเบาะเท่านั้น สะดวกสบายเหนือความคาดหมาย
ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 17 นิ้ว และยางขนาด 235/60 R17
ระบบเบรค ABS
กุญแจรีโมท พร้อมระบบเซ็นทรัลล็อกและสัญญาณกันขโมย
ตกแต่งภายในด้วยลายไม้ใหม่ สวย มีระดับ
ไฟตัดหมอก เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง
ระบบนำทางเนวิเกเตอร์
The New Hyundai H-1 Deluxe
The New Hyundai H-1 Deluxe มาพร้อมกระจังหน้าที่โดดเด่นและมีบุคลิกมากขึ้น กันชนหน้าดีไซน์ใหม่ และไฟตัดหมอกที่เติมเต็มอารมณ์สปอร์ต หรูหราอย่างมีระดับ กาบข้างและล้ออัลลอยด์ 16 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ ด้านหลังมาพร้อมกันชน และที่จับฝาท้ายใหม่แบบโครเมี่ยม อุปกรณ์ภายในมาพร้อมด้วยระบบเครื่องเสียงแบบใหม่และระบบนำทาง คอนโซลตกแต่งด้วยลายไม้บ่งบอกถึงรสนิยม และเพิ่มความหรูหราด้วยเบาะหุ้มหนังแท้ลายใหม่ ในราคา 1,599,000 บาท
อุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆที่พบใน The New Hyundai H-1 Deluxe ได้แก่
เครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรลเทอร์โบแบบใหม่ 2.5 ลิตร ด้วยระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จเจอร์แบบแปรผัน (VGT) พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ มาตรฐานการควบคุมมลพิษ EURO4 ให้กำลังสูงสุด 175 แรงม้า และแรงบิดมหาศาลถึง 441 นิวตัน-เมตร ถ่ายทอดลงถนนด้วย ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง
เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด พร้อม Sequential Mode
ระบบมัลติฟังค์ชั่นที่พวงมาลัย
เครื่องเล่น DVD และจอภาพ LCD ขนาด 10.1 นิ้ว
เบาะนั่งในห้องโดยสาร 12 ที่นั่ง บนรางเลื่อนนิรภัย และเบาะ VIP ที่หมุนได้ 180 องศา ที่เปิดกว้าง จินตนาการในการปรับเปลี่ยนตำแหน่งเบาะให้ลงตัวในทุกความต้องการ
กระจกประตูห้องโดยสารแบบเลื่อนได้
ดิสก์เบรค 4 ล้อ และระบบ ABS
ระบบช่วงล่างหน้า-หลัง: แมคเฟอร์สันสตรัท และ คอยล์สปริงพร้อมแขนยึด 5 จุด
ประตูห้องโดยสารเปิดสไลด์ 2 ข้าง
The New Hyundai H-1 Elite
The New Hyundai H-1 Elite เป็นอีกทางเลือกใหม่ของผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์สไตล์ Luxury MPV ที่รวมเอาความโดดเด่นของอุปกรณ์และสเป็คมาตรฐานในรุ่น H-1 Deluxe ซึ่งเป็นรุ่นสูงสุดของรถยนต์ในไลน์ Hyundai H-1 Series มาผสมผสานเป็นความคุ้มค่าที่ลงตัว สามารถตอบสนองความต้องการของครอบครัวพรีเมี่ยมยุคใหม่ ที่เน้นความคุ้มค่าคุ้มราคา ความหรูหราในราคาที่โดนใจ และการใช้งานที่ดีเยี่ยมจากเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลคอมมอนเรล ขนาด 2.5 ลิตร 175 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ซึ่งเป็นเครื่องยนต์เดียวกับที่มีอยู่ใน H-1 Deluxe จึงมั่นใจได้ในสมรรถนะที่เหนือชั้น ความประหยัดน้ำมันและความคล่องตัวในการใช้งาน “H-1 Elite” เป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มาจากเซ็กเมนท์อื่นๆ ที่ต้องการยกระดับมาสู่ความสบาย และความปลอดภัยที่เหนือกว่าจาก MPV แบบ full-size ขนาดใหญ่ เพื่อประโยชน์ในการใช้งานที่มากยิ่งขึ้น พร้อมออปชั่นและราคาที่คุ้มค่ากว่าอย่างเห็นได้ชัด โดย “H-1 Elite” ประกอบขึ้นที่หนึ่งในโรงงานชั้นนำของฮุนไดในภูมิภาคอาเซียน ตั้งอยู่ที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นโรงงานเดียวที่ประกอบรถยนต์ฮุนไดรุ่นที่ขายดีเป็นอันดับสองในประเทศไทย คือ Grand Starex VIP และ Grand Starex Premium หรือรถยนต์ Super Luxury MPV 7 ที่นั่งแท้ๆจากโรงงาน ที่ให้ความสบายส่วนตัวที่มากกว่า
อุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆที่พบใน The New Hyundai H-1 Elite ได้แก่
ประตูหลังแบบสไลด์สองข้าง เปิดปิดเบาแรง
เบาะโดยสารแบบ 12 ที่นั่ง ภายในขนาดใหญ่
รางเลื่อนนิรภัย 3 แถว ปรับตำแหน่งได้ละเอียดแม่นยำ
เบาะ VIP หมุนได้ 180 องศา 1 คู่ ปรับเปลี่ยนห้องโดยสารเป็น ห้องนั่งเล่น หรือสำนักงาน
เคลื่อนที่ภายในพริบตา
เบาะหุ้มหนังแท้ ยกระดับความหรูหรา
คอนโซลกลางตกแต่งลายไม้
ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย
ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว
?
The New Hyundai Tucson
The New Hyundai Tucson 2.0D 4WD คือผลงานการพัฒนารถยนต์ที่เป็นการ “เติมเต็ม” ในเรื่องของรูปลักษณ์ภายนอก อุปกรณ์ความสบายต่างๆ และสมรรถนะเครื่องยนต์ที่ขยับขึ้นไปอีกระดับจาก 177 แรงม้า เป็น 184 แรงม้า ที่แรงบิดเท่าเดิมที่ 392 นิวตัน-เมตร จากเครื่องยนต์ขนาด 2,000 ซีซี เทอร์โบดีเซล คอมมอนเรล ไดเร็คอินเจ็คชั่น และเมื่อประกบกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด แท้ๆ พร้อม Sequential Shift Mode ก็ยิ่งให้อัตราเร่งที่ดีขึ้น ในขณะที่ประหยัดในแบบที่สัมผัสได้เมื่อเลือกขับขี่อย่างเหมาะสม ภายนอกโดดเด่นด้วยไฟหน้าใหม่แบบ Bi-Function HID Projector ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไฟท้ายล้ำสมัยด้วย LED ในรูปแบบ Combination lamp ที่ออกแบบการส่องสว่างได้อย่างแตกต่างและทันสมัย นอกจากนี้ยังมีการปรับขนาดล้ออัลลอยจาก 16 นิ้ว เป็น 17 นิ้ว ลายใหม่ พร้อมยาง 225/60/R17 เครื่องเล่น DVD พร้อมจอ LCD screen ที่เชื่อมต่อความบันเทิงผ่านช่องต่อ USB/AUX ระบบนำทาง GPS ที่แม่นยำ และให้ความสะดวกในทุกเส้นทาง
อุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆที่พบใน The New Tucson ไมเนอร์เชนจ์ ได้แก่
ระบบ Smart Entry และปุ่มสตาร์ททันสมัย
ระบบไฟเลี้ยวแบบ On-Touch มีระดับ
ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
ระบบรักษาเสถียรภาพรถยนต์ ESP (Electronic Stability Program)
ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรค ABS (Anti-Lock Braking System)
ระบบป้องกันการพลิกคว่ำ ROP (Roll-Over Protection)
ระบบช่วยชะลอความเร็วขณะลงทางลาดชัน DBC (Down-Hill Brake Control)
ระบบป้องกันรถไหลขณะขึ้นทางลาดชัน HAC (Hill-Start Assist Control)
ความสูงจากพื้นระดับ 170 มม. ที่ช่วยให้การขับขี่ผ่านอุปสรรคเป็นไปอย่างคล่องตัวทั้งบนทางเรียบ และเส้นทางที่นอกพื้นผิวถนน
The New Hyundai Veloster and Veloster Sport Turbo
ความโดดเด่นของ Hyundai Veloster มีดังนี้
สปอร์ตแฮทช์แบ็ก ดีไซน์ประตูแบบ 2 + 1 โดดเด่นด้วยประตูที่ 3 ทางด้านหลังซ้าย ประตูอัจฉริยะที่มาพร้อมมือจับประตูแบบ Integrated ที่ซ่อนอย่างกลมกลืน
- เครื่องยนต์ให้กำลังสูงสุด 130 แรงม้า ที่ 6,300 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 157 นิวตัน-เมตร ที่ 4,850 รอบต่อนาที (มาตรฐานไอเสีย ยูโร 4) พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Sequential Shift
ความเร็วสูงสุด 190 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 11.5 วินาที
ระบบช่วงล่างหน้า – หลัง แบบ แมคเฟอร์สันสตรัท และ ทอร์ชั่นบีม CTBA
ระบบกุญแจอัจฉริยะ Smart Key และระบบ Button Start
พวงมาลัยเพาเวอร์ผ่อนแรงด้วยระบบมอเตอร์ไฟฟ้า
ระบบเบรค ABS ระบบเพิ่มแรงเบรคในภาวะฉุกเฉิน BA และระบบกระจายแรงเบรค EBD
พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง และระบบควบคุมโทรศัพท์และเครื่องเสียง พร้อมกับ Paddle Shift เปลี่ยนเกียร์ด้านหลังพวงมาลัย
ล้ออัลลอยด์ 17 นิ้ว พร้อมยาง 215/45 R 17
จอ LCD แบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว
โครงสร้างนิรภัยแบบ High – Tensile Steel สำหรับเสากลางและจุดสำคัญต่างๆทั่วตัวรถ
ความโดดเด่นของ Hyundai Veloster Sport Turbo มีดังนี้
สปอร์ต แฮทช์แบ็ก ดีไซน์ประตูแบบ 2 + 1 โดดเด่นด้วยประตูที่ 3 ทางด้านหลังซ้าย ประตูอัจฉริยะที่มาพร้อมกับมือจับประตูแบบ Integrated ที่ซ่อนอย่างกลมกลืน
กำลังสูงสุด 186 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 265 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500 – 4,500 รอบต่อนาที
ระบบเทอร์โบอัดอากาศแบบ Twin-Scroll Turbocharger (ประสิทธิภาพดีขึ้น 7 – 8% และประหยัดเชื้อเพลิงดีขึ้นกว่าธรรมดาถึง 5% )
ความเร็วสูงสุด 214 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 8.1 วินาที
ระบบช่วงล่างหน้า –หลัง แบบแมคเฟอร์สันสตรัท และ ทอร์ชั่นบีม CTBA
หลังคาแก้ว Panoramic Sunroof
ระบบล็อคความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control
เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า พร้อมระบบดันหลัง Lumbar Support
ระบบกุญแจอัจฉริยะ Smart Key และระบบ Button Start
พวงมาลัยเพาเวอร์ผ่อนแรงด้วยระบบมอเตอร์ไฟฟ้า
ระบบควบคุมเสถียรภาพ ESP ระบบเสริมสมรรถนะการควบคุมพวงมาลัย VSM ระบบแทรคชั่นคอนโทรล TCS และระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC
ระบบเบรค ABS ระบบเพิ่มแรงเบรคในภาวะฉุกเฉิน BA และระบบกระจายแรงเบรค EBD
ล้ออัลลอยด์ 18 นิ้ว พร้อมยาง 215/40 R 18
โครงสร้างนิรภัยแบบ High – Tensile Steel สำหรับเสากลางและจุดสำคัญต่างๆทั่วตัวรถ
-
Hyundai Motor (Thailand) celebrates New Year during Thailand International Motor Expo 2014 with special raffle draw campaign for a chance to win gift vouchers worth 400,000 baht in total




Concept car HND-9 to showcase technological advancement & classic futuristic design to confirm Hyundai as world’s fastest growing automobile brand
Booking customers to get chance to win 100,000 baht jackpot prize
Introducing All-New Hyundai Elantra Sport 1.8 GLE Motor Expo Edition that comes with DVD player, touchscreen, Navigator and Parking Camera at special price
Special campaign for Hyundai H-1 Series to celebrate accumulated sales of over 20,000 units
Hyundai Motor (Thailand) Co., Ltd., sole distributor and importer of Hyundai vehicles in Thailand, thanks customers for trusting in Hyundai brand and products with special pre-New Year campaign to offer a chance to win over 30 gift vouchers worth 400,000 baht in total. The campaign will last until December 30, 2014 and will be applicable to customers buying any Hyundai vehicles at the showrooms and during the 31st Thailand International Motor Expo.
In addition, each Hyundai models will also come with its individual campaign to further benefit the customers. Details of the individual campaign are as follows:
Hyundai H-1 series: free insurance and delivery availability
Hyundai Grand Starex VIP and Premium: free insurance
Hyundai Tucson 4WD: 0.99% interest for 48 months and free insurance
Hyundai Veloster and Veloster Sport Turbo: 0% interest for 48 and 36 months respectively and free insurance
Hyundai Elantra Sport: free insurance and introduction of Elantra Sport 1.8GLE Motor Expo Edition which comes with DVD player, touch screen, Navigator and Parking Camera at special price
The success of Hyundai H-1 for the past 7 years has been a solid proof of trust in the product and brand by premium Thai customers who pay serious attention to quality and value for money. With ample supply, Hyundai Motor (Thailand) is confident that H-1 buyers will have no problem waiting for delivery.
All-New Hyundai Elantra Sport, 1,800 cc 150 horse power with 6-speed automatic transmission, continues to attract C segment car buyers with special starting price of 749,000 baht.
A testimony of technological advancement and evolution, Hyundai HND-9 concept vehicle will welcome all the guests of Thailand International Motor Expo 2014 at Hyundai’s center stage. The latest sports coupe concept car has been created to combine the classic sports car beauty with futuristic styling to complement the powerful engine that can be used in real life.
Concept Car
Hyundai HND-9 is the product of Hyundai R&D center in Namyang, South Korea whose details are as follows:
Exterior/Performance
The vehicle, with its dramatic, long hood and wheelbase, has an overall length of 4,695mm, width of 1,890mm and height of 1,340mm with a 2,860mm wheelbase. Equipped with 3.3-liter turbo GDi engine and 8-speed auto transmission, HND-9 delivers a maximum output of 370ps, while its exterior design exudes a befitting image of the powerful performance.
Fluidic yet sleek character lines that stretch from headlamp to trunk, voluminous, powerful car body and a striking, wide hexagonal-shaped radiator grille enhance the vehicle’s high performance image.
Moreover, butterfly doors, sculptural rear combination lamps, and dual tailpipes placed on both sides, give the car a sleek, futuristic look. Twenty-two inch alloy wheels – mixed with carbon materials - also contribute to great styling, while lowering its weight.
Interior
Like its exterior, the interior styling of the HND-9 was designed to deliver a modern, luxurious driving experience. Three key concepts were embedded into the interior design to realize this goal: spiral sculpture, elegance and high-tech interface
Based on the spiral sculpture concept - derived from Hyundai’s Fluidic Sculpture design philosophy - dynamic and distinctive spiral-shaped metal lines frame the entire interior in a speedy and rhythmical way, creating a unique layout. The seats are made of sporty yet luxurious mesh, and depending on which angle they are seen from, they project different colors, exuding elegance and mystique. The driver-oriented, high-tech interface is modeled after a cockpit, offering both improved functionality and aesthetics, optimized for dynamic driving.
?
Show Car
All-New Hyundai Elantra Sport
All-New Hyundai Elantra Sport is a result of significant product enhancement which fine-tuned several aspects including key exterior and interior designs and features. All-New Hyundai Elantra Sport launched in 3 versions GL, GLE and GLS Navi with 1,800 cc engine and 6-speed automatic transmission that delivers maximum output of 150 horsepower to put this car above its class for greater comfort and driving satisfaction; and of course, higher value for money which has been one of the most important factors in choosing .
The top version 1.8 GLS Navi comes with full premium equipment line up as ESP, VSM and HAC package Greater stability, traction and vehicle control with hill-assist control which are mostly found in more expensive vehicles including the GPS Navigation that support to the modern luxurious lifestyle, traveling convenience and safety with touch-screen effects that put you in another league passenger car class
The 1.8 GLE -Introducing All-New Hyundai Elantra Sport 1.8 GLE Motor Expo Edition that comes with DVD player, touchscreen, Navigator and Parking Camera at special price with a highlights features including Flex Steer System, Dual Zone Auto air-conditioner with rear air vent and Clean Air (air purifier), leather and synthetic leather-covered seats, Smart Entry & Button Start System, Auto Rain Sensor, Auto light control projector headlamps with light guide, Touch-screen head unit with Bluetooth, 17-inch sport alloy wheels, leather-covered steering wheel and shift knob, 60:40 folded rear seats, tilt & telescopic steering wheel and dual front airbags.
The entry 1.8 GL comes with 16-inch alloy wheels, multi-reflector headlamps and LED light guide, dual front airbags, tilt & telescopic steering wheel, cloth seats and remote folding key.
The New Hyundai Grand Starex VIP
The New Hyundai Grand Starex VIP Minor Change is the Super Luxury 7-seater full-size MPV fitted with the new 2.5-liter turbo-diesel commonrail EURO 4 engine that delivers maximum output of 175 horsepower and maximum torque of 441 newton-meter. Power is transferred to the rear wheels via 5-speed automatic transmission with manual mode.
The Grand Starex VIP Minor Change is outstanding with new chrome-highlighted front grille, new front bumper, new rear bumper, new side garnish, new 17-inch alloy wheels with 235/60/17 tires, LED repeaters on side-view mirrors, and electrically adjusted Double VIP seats, which now come with new leather seat pattern and Butterfly headrests.
The newly designed and developed Entertainment Counter is the highlight of the VIP version. It comes with a European-styling design and high-end materials for more luxurious look and feel. The 19-inch LCD screen is now upgraded to 22-inch in Full-HD while the sound system is provided by Kenwood.
The New Hyundai Grand Starex Premium
The New Grand Starex Premium Minor Change comes with more personal space for additional personal comfort. The Entertainment Counter is replaced for extra space the 10.1-inch roof-mounted LCD screen, DVD head unit. Other interior comfort features also include Double Super VIP Seats and driver’s seat that can be declined to suit the physical comfort of the driver. It also has an interior ambience that suits family users instead of the more business and corporate-look as appreciated in the Grand Starex VIP. The Super VIP Seats are mounted on the safety rails and can be adjusted to more positions than before for optimum space arrangement or practical comfort for you and your family.
Other outstanding features that can be found in the New Grand Starex VIP and Premium Minor Change include:
2.5-liter turbo diesel commonrail euro 4 engine delivering maximum output of 175 horse power and impressively high torque output of 441 newton meter at 2000 – 2250 rpm
5-speed automatic transmission with manual mode for extra engine brake and more traction when required to enhance braking and road handling capabilities
Double Super VIP Seats with butterfly headrests and new leather covers provide unmatched comfort and relaxation with electrically adjusted recliner and thigh support
Multi-function steering wheel connects to the vehicle’s audio system
Electrically adjusted and folded side-view mirrors
Rear-view camera for safety and convenient parking
Flexible cargo compartment area with seats on all rows adjustable for suitable positions
Newly designed 17-inch alloy wheels and 235/60 R17 tires
ABS
Remote control key for central locking and anti-theft alarm
New front center fascia
Elegant wood trim
Fog lamps for additional safety
Navigator (GPS)
The New Hyundai Tucson
The New Hyundai Tucson 2.0D 4WD is clearly an intelligent product improvement whose highlights include new CRDi engine producing 184 horsepower (torque of 392 newton-meter) instead of 177 in the previous version; new front HID projector headlight and rear LED combination lamps; new 17-inch alloy wheels; new sports dials and new reclining rear seats. The Tucson 2.0D 4WD Minor Change also comes with DVD head unit with LCD screen and navigator system.
The Uniquely Sexy Tucson 2.0D 4WD is outstanding in terms of design, comfort & utility, road handling, engine performance and driving enjoyment.
Other features of the Minor Change Sexy SUV include:
Metal top with roof rails
6-speed automatic transmission with manual shift mode for acceleration and effective engine braking when cornering or going downhill
The advanced Electronic Stability Program (ESP) package which includes Electronic Stability Program (ESP), Downhill Brake Control (DBC), Hill-start Assist Control (HAC), ABS, EBD and BA
Multi-function steering wheel for easy sound-system command
New 17-inch alloy wheels
X-Shape interior and dash with European brown leather trim
Active headrests
ROP (roll-over prevention system)
Button Start System
The Smart Key system for most convenient entry without remote struggling
Advanced Start Button – new benchmark in today’s driving
AUX and USB plug-in with iPod hook up
Parking sensor & parking camera
The New Hyundai H-1 Elite
The New Hyundai H-1 Elite is the entry model of the H-1 Series that enjoys the standard specifications of the top-of-the-line H-1 Deluxe, which is currently the best-selling H-1 version since its launch in 2009. The powerful and economical 2.5-liter turbo diesel CRDi engine that comes with 5-speed automatic transmission in a rear-wheel drive format – which is the same with that of the top version Deluxe – has proven to be the choice of luxury MPV users for its all-round impressive performance and practicality for harmonious ownership experience.
“This new H-1 version certainly adds not only a new variety to the current H-1 Series but also create a new attraction to the luxury MPV segment, whose popularity is growing significantly and continuously due to the obvious advantages of the vehicles, which include space, safety, functionality and engine capabilities to outperform sedan-based vehicles,” said Mr. Hideki Yanagisawa, President of Hyundai Motor (Thailand).
“The H-1 Elite is developed and decorated to suit the tastes of modern-premium Thai families who are expecting the basic strength of the H-1 Series but at a more attractive price positioning to help them migrate from sedan-based vehicles or even smaller MPVs for longer use and greater value for money,” he added.
The featured highlights of the New Hyundai H-1 Elite are as follows:
Double sliding doors
12-seater configuration
Safety rails on all 3 rows
Swivel VIP seats to make for living room and mobile office
Leather interior
Wood trim
Remote control on steering wheel
16-inch classy alloy wheels
The New Hyundai H-1 Deluxe
The New Hyundai H-1 Deluxe has luxurious front grille, front bumper, rear bumper, rear garnish, side garnishes, center console fascia, wood trims, leather seats, complete entertainment equipment and 16-inch alloy wheels with a retail price of 1,599,000 baht.
Other standard features of the new Hyundai H-1 Deluxe include:
New generation 2.5-liter turbo-diesel common rail EURO4 engine with VGT turbo charger & intercooler that delivers maximum power output of 175 horsepower and maximum torque of 441 newton-meter (rear-wheel drive system)
5-speed automatic transmission with Sequential Mode
Multi-function steering wheel
DVD player and 10.1-inch LCD screen for optimum entertainment
Navigator system (GPS)
12-seater configuration with swivel seats for enhanced comfort
Flush glass
All-wheel disc brake with ABS
McPherson Struts (front) and 5-link coil-spring (rear)
Double sliding doors
Safety rails for multiple seating adjustments to suit different needs
Front airbags (dual)
Leather interior
Elegant wood trim
Remote control on steering wheel
16-inch classy alloy wheels
Parking camera
The New Hyundai Veloster and Veloster Sport Turbo
Veloster
The 2 + 1 Sport Hatchback Design offers the look and feel as well as cruising performance of a true sports car while allowing the rear passengers to move in and out comfortably through the + 1 rear door on the left side.
130 horsepower/6,300 rpm and 157 newton meter torque at 4,850 rpm (EURO4)
6-speed automatic transmission (Torque converter with sequential shift)
Top speed: 190 km/h and 0-100 km/h acceleration within 11.5 seconds (Hyundai factory information under certain conditions)
Cd. value: 0.32
Suspension: McPherson strut (front) and Coupled Torsion Beam Axle (CTBA) (rear)
Button Start and Smart Key Systems
Motor-driven power steering (MDPS)
ABS, EBD and BA
All-wheel disc brakes
Reach and rake steering wheel with sound system controller and turn radius: 5.2 meters
17-inch alloy wheels and 215/45/R17 tires
Sporty front grille design for pure dynamism
Dual exhaust tips
60:40 foldable split rear seats
Parking sensor
7-inch LCD touchscreen
Aluminum sport pedals
Dual front airbags
Automatic headlights with escort lamps
Fog lamps
Bluetooth phone interface
Immobilizer key
High body strength: High-tensile steel structure at the B-pillar cross member
Veloster Sport Turbo
The 2 + 1 Sport Hatchback Design offers the look and feel as well as cruising performance of a true sports car while allowing the rear passengers to move in and out comfortably through the + 1 rear door on the left side.
Powerful engine 186 horsepower/5,500 rpm and 265 newton meter torque between 1,500-4,500 rpm (EURO5)
Turbo charger system: twin-scroll turbo charger for 7-8% better efficiency and 5% more economical
Specially designed front grille (large hexagonal grille), front bumper, front fog lamps, rear bumpers, rear dual exhaust tips and larger front disc brakes.
Cd. value: 0.32
6-speed automatic transmission (Torque converter with sequential shift)
Top speed: 214 km/h and 0-100 km/h acceleration within 8.1 seconds (Hyundai factory information under certain conditions)
Suspension: McPherson strut (front) and Coupled Torsion Beam Axle (CTBA) (rear)
Panoramic sunroof
Cruise control
Super vision cluster dials
Sport leather power seat & lumbar support for driver
Button Start and Smart Key Systems
Motor-driven power steering (MDPS)
ESP with VSM and TCS
ABS, EBD and BA
HAC (hill-start assist control)
All-wheel disc brakes
Reach and rake steering wheel with sound system controller and turn radius: 5.2 meters
Paddle shifters at the steering wheel
18-inch alloy wheels with chrome inserts and 215/40/R18 tires
60:40 foldable split rear seats
Parking sensor
7-inch LCD touchscreen
Aluminum sport pedals
Dual front airbags + side airbags + curtain airbags
Automatic headlights with escort lamps
Bluetooth phone interface
Immobilizer key
Rain sensor
Heated side mirrors
Front seat warmer
High body strength: High-tensile steel structure at the B-pillar cross member
-
Experience inclusive luxury motoring with Jaguar Land Rover’s 1:1:1 promotion at Thailand International Motor Expo 2014




Thailand International Motor Expo: 29 Nov to 10 Dec 2014. VIP & Press Day 28 November.
Booth B12
- Jaguar Land Rover unveil its exclusive 1:1:1 promotion – highly attractive year end promotion
- Highlight Model s featuring Global -winning “F-Type V 8 S/C Convertible” and one of the most versatile luxury vehicles in the world the “Range Rover Sport”
Jaguar Land Rover is pleased to unveil its exclusive 1:1:1 promotion for this year’s Thailand International Motor Expo 2014, to be held at IMPACT Muang Thong Thani, Bangkok. Buyers benefit from one year’s free insurance, one year’s free fuel and one year’s free maintenance when purchasing any Jaguar Land Rover model, bringing in a new era of “cost free” luxury motoring in Thailand. The promotion also brings a 5-year warranty (factory warranty 3 years / 100,000kms. 2 year extension to 5 years /150,000kms and conditions apply), five years financing and 24-hour roadside assistance, the British luxury brand’s expression of dedication to customers in Thailand. As an added value, customers also will a receive 15% discount on all accessories as well as free installation. With a new showroom and service centre at Rama 4 scheduled for a soft opening in Q1, 2015, Jaguar Land Rover is fully committed to serving new and existing customers in Thailand.
To coincide with the Thailand International Motor Expo 2014, Jaguar Land Rover has also launched an on-line express pre-register platform at www.howaliveareyou.asia for Jaguar and www.landrover-asia.com for Land Rover on which participants will receive an exclusive gift from Costa Coffee at the Jaguar Land Rover booth.
The Thailand International Motor Expo itself will showcase four Jaguars including highlight model : the global award-winning F-Type V8 S/C Convertible, XJ 2.0i, XF 2.0i with bike carrying accessories and
XF 2.2i under the theme “A Luxury Sports Car & Saloon Icon”. Jaguar will also be offering fans a one time chance to test drive a Jaguar XJ. From Land Rover, visitors can discover the most versatile luxury vehicles in the world, including the popular and versatile Range Rover Sport, Range Rover Evoque, Range Rover and Freelander models.
Guests are welcome to visit the JLR booth at Motor Expo booth B12 and discuss purchasing, finance, after care and vehicle personalisation with a Jaguar or Land Rover sales specialist. Discover a new world of “cost-free” luxury British motoring and other unique Jaguar Land Rover sales promotions, only at Thailand International Motor Expo 2014.
Further product and technical information is available at www.landroverthailand.com and www.jaguarthailand.com
-
ซูบารุ ส่งพรีเมียมครอสโอเวอร์ “All-New Subaru Outback” โฉมใหม่ เปิดตัวครั้งแรกในไทย พร้อมจัดกิจกรรมระดับโลก และรับข้อเสนอสุดพิเศษ ภายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31




บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ซูบารุอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ประกาศเปิดตัวรถยนต์พรีเมียมครอสโอเวอร์ “ซูบารุ เอาท์แบ็ค” โฉมใหม่ ที่สาวกซูบารุต่างตั้งตารอคอย ภายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31 ณ อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 เมืองทองธานี
การเปิดตัวในครั้งนี้ถือเป็นการเปิดตัวรถยนต์ใหม่ในระดับภูมิภาค ครั้งแรกที่จัดขึ้นในประเทศไทย โดยรถยนต์รถยนต์ ซูบารุ เอาท์แบ็ค ใหม่ ถือเป็นคอนเซปต์ของรถยนต์ครอสโอเวอร์ที่มีความโดดเด่น ซึ่งได้รวมการเป็นรถโดยสารที่มีความสามารถในการขับขี่ทางไกลได้อย่างสะดวกสบาย และห้องโดยสารที่กว้างขวางแบบรถเอสยูวีเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งนี้ ในการพัฒนารถยนต์ ซูบารุ เอาท์แบ็ค รุ่นล่าสุดนี้ ซูบารุได้สร้างสรรค์รถยนต์ครอสโอเวอร์นี้ โดยยังคงความเป็นรถยนต์ที่มีสมรรถนะในระดับแถวหน้า ความสามารถในการขับขี่สี่ล้อแบบสมมาตร และการคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุดรอบด้านของผู้ขับขี่และผู้โดยสารอย่างต่อเนื่อง
คุณสมบัติของรถยนต์ ซูบารุ เอาท์แบ็ค ใหม่:
แชสซี พวงมาลัย ระบบช่วงล่างและเบรค ที่มีการปรับปรุงใหม่
ลุคใหม่ของความเป็นรถยนต์ครอสโอเวอร์ ด้วยรูปทรงตัวถังที่หนา ล้อใหญ่ขึ้น และบังโคลนรถที่ดูมีความดุดัน และสปอร์ตยิ่งขึ้น
ปรับปรุงประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นสำหรับการขับขี่สมบุกสมบันแบบออฟโรด ด้วยระบบการขับขี่สี่ล้อแบบสมมาตร (Symmetrical All-Wheel Drive ) และระบบ X-MODE
ปรับปรุงระบบความปลอดภัยทั้งแบบ Active และ Passive
ซูบารุ เอาท์แบ็ค มาพร้อมลุคใหม่ ที่มีความโดดเด่นของการเป็นรถยนต์ครอสโอเวอร์ ด้วยรูปทรงตัวถังที่หนา และแข็งแกร่งขึ้น ล้อใหญ่ขึ้น และบังโคลนรถที่ดูมีความดุดัน และสปอร์ตยิ่งขึ้น ด้วยความละเมียดละไมใส่ใจในทุกลายละเอียดในการขึ้นโครงตัวถัง ที่เน้นย้ำถึงคุณภาพและความมีระดับ ที่มีในรถยนต์ซูบารุทุกรุ่น
“รถยนต์ “ซูบารุ เอาท์แบ็ค” ที่มีการเปิดตัวในวันนี้ ถือเป็นรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพโดดเด่น โดยได้รวมเอาความหรูหรา และนวัตกรรมเทคโนโลยีของซูบารุเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ ประสิทธิภาพเครื่องยนต์ และความปลอดภัยอย่างเหนือชั้น เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารถยนต์ซูบารุ เอาท์แบ็คจะเป็นรถรุ่นใหม่ที่มอบความคุ้มค่าสูงสุด” มร.เกลน ตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ตันจงอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าว
โดยพร้อมๆ ไปกับการเปิดตัวรถยนต์ ซูบารุ เอาท์แบ็ค ใหม่ ภายในงาน ซูบารุ ยังได้นำรถยนต์ซูบารุ เอ็กซ์วี รุ่นใหม่ ที่เพิ่งมีการเปิดตัวรุ่นย่อย และรุ่นพิเศษไปเมื่อเร็วๆนี้ คือ ซูบารุ เอ็กซ์วี เอสทีไอ ที่มาพร้อมชุดแต่งจากสำนักเเอสทีไออันเลื่องชื่อ เพื่อสุนทรียศาสตร์ของการเป็นรถยนต์เอสยูวีสำหรับชีวิตในเมือง โดยการปรับปรุงเหล่านี้ มอบประสิทธิภาพในการควบคุมการขับขี่ หลักอากาศพลศาสตร์ และการกระจายน้ำหนักของรถยนต์ได้ดีเยี่ยมยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ซูบารุ ยังขนทัพรถยนต์ทั้งหมดที่มีการจำหน่ายอยู่ในปัจจุบันมาจัดแสดงภายในงาน ได้แก่ Subaru BRZ, WRX, WRX STI และ Forester อีกด้วย
นอกจากรถยนต์รุ่นดังกล่าวข้างต้น ซูบารุ ยังได้นำรถยนต์รุ่นพิเศษอีกถึงสองรุ่นมาจัดแสดงภายในงาน เพื่อแสดงให้เห็นถึงการพัฒนาด้านเทคโนโลยีของรถยนต์ซูบารุ ได้แก่ The Forester Cutaway Model และ Subaru VIZIV รถยนต์คอนเซ็ปต์คาร์สุดล้ำ โดยรถยนต์ในรุ่น The Forester Cutaway Model นั้น ได้แสดงให้เห็นถึงกระบวนการทางความคิด เบื้องหลังวิศวกรรม เทคโนโลยี และการออกแบบของซูบารุ ซึ่งถูกถ่ายทอดไปยังรถยนต์รุ่นที่ได้รับความนิยมนี้ เพื่อสุนทรียภาพของผู้ขับขี่ ด้านรถยนต์ Subaru VIZIV ซึ่งเป็นรถคอนเซ็ปต์คาร์นั้น ถือเป็นคอนเซ็ปต์ของรถยนต์ครอสโอเวอร์รุ่นอนาคต ที่เป็นตัวแทนของเทคโนโลยี และแนวทางการออกแบบใหม่ ที่จะนำพาให้แบรนด์ของซูบารุทะยานไปข้างหน้าในอนาคต
ภายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31 ลูกค้าของซูบารุ ยังจะพบข้อเสนอสุดพิเศษในการเป็นเจ้าของรถยนต์ซูบารุในรุ่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ดอกเบี้ยต่ำ โปรแกรมการรับซื้อคืนรถยนต์ และฟรีประกันภัยรถยนต์ชั้นหนึ่ง ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม ศกนี้
และไฮไลท์ สุดตื่นเต้นระดับโลกที่ซูบารุได้นำมามอบให้กับผู้เข้าชมงานในครั้งนี้อีกครั้ง ได้แก่ การโชว์ขับรถผาดโผนระดับตำนาน ที่มีความแม่นยำของ รัส สวิฟต์ หนึ่งในสตั้นท์แมนที่มีชื่อเสียงของโลก ที่จะกลับมาเมืองไทยอีกครั้ง โดยความพิเศษของการโชว์ในประเทศไทยในปีนี้ คือการนำเอารถรุ่นใหม่ล่าสุดที่มีการเปิดตัวในปีนี้ ได้แก่ Subaru XV – STI Performance ใหม่ รถยนต์ Subaru WRX และ WRX STI มาใช้เป็นรถที่แสดงในการขับขี่ผาดโผนเป็นครั้งแรก ขอเชิญพบกับการโชว์อันน่าตื่นตาตื่นใจของ รัส สวิฟท์ ได้ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้ง ที่ 31 ซึ่งจะแสดงให้ประชาชนทั่วไปได้ชม โดยเปิดการแสดงถึงวันละสามรอบ ในรอบเวลา 15.00 น. 17.00 น. และ 19.00 น. ระหว่างวันที่ 5-7 ธันวาคม ศกนี้
พบกับรถยนต์ซูบารุภายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31 ที่บูธหมายเลข A07 อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์หรือเยี่ยมชมโชว์รูมรถยนต์ซูบารุ ทุกสาขาทั่วประเทศ ได้แก่ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล – เสรีไทย ,ปิ่นเกล้า, วิภาวดี, บางนา ,ถนนเพชรบุรี, พระราม2, พระราม 2, พระราม 3, นนทบุรี, ปทุมธานี และชลบุรี / ภาคเหนือ – เชียงใหม่, เชียงใหม่ (สารภี), เชียงราย / ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ – นครราชสีมา, นครราชสีมา (ปักธงชัย), ขอนแก่น / ภาคใต้ – สุราษฎร์ธานี, สุราษฎร์ธานี (ไชยา), ภูเก็ต ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเข้าไปที่เว็บไซต์ www.motorimage.net/TH
-
SUBARU DEBUTS ALL-NEW OUTBACK IN THAILAND




Subaru all set to impress with exciting activities
TC Subaru (Thailand) Co. Ltd., the authorized distributor of Subaru vehicles in Thailand, today launched the highly anticipated Subaru Outback at the 31st Thailand Motor Expo 2014 at Impact, Muang Thong Thani.
Showcased for the first time in Thailand and around the region, the all-new Subaru Outback is a unique crossover concept that combines passenger-car comfort with the long-distance capabilities and load space of an SUV. While developing the latest generation Outback, Subaru has consistently sought to deliver a crossover with class leading performance, AWD handling capabilities and all round driver and passenger safety.
The all-new Outback features:
Revamped chassis, steering, suspension and brakes
New crossover look with a bold body shape, bigger tires and muscular fenders
Enhanced off-road performance with Symmetrical AWD system and X-MODE
Improved Active and Passive safety systems
The all-new Outback features a new distinct crossover look with a bold, rugged body shape, bigger tires and muscular fenders. Meticulously crafted, the expressive body panels accentuate the sense of quality and class to be expected from any Subaru.
“The all-new Outback provides customers with second to none performance, safety and luxury,” said Mr Glenn Tan, Executive Director, Tan Chong International Ltd. “The new model combines luxury with innovative Subaru technologies that enhance the driving experience, efficiency and safety. We hope this will make the Outback an excellent value statement for customers in Thailand.”
Alongside the all-new Outback, Subaru will also be showcasing the recently launched Subaru XV – STI Performance edition, which comes fitted with an STI kit that enhances the aesthetics of the urban SUV. These improvements help achieve better handling, aerodynamics and weight distribution of the car, enhancing the driving experience. Subaru will also be showcasing their current model line-up - Subaru BRZ, WRX STI, Forester 2.0 XT, Forester 2.0i-L, Subaru XV 2.0i and Subaru XV SPORTS during this Motor Expo.
Subaru will also be displaying two special models to showcase the development of Subaru’s technology - the Forester Cutaway model and Subaru VIZIV Concept. The Forester Cutaway model shows the thought process behind Subaru’s engineering, technology & design that has gone into the popular model for the enjoyment of the driver. Subaru VIZIV Concept is a future-generation crossover concept that represents the new design direction and technologies that will take the Subaru brand into the future.
Subaru customers can get to enjoy special deals when they purchase a Subaru during the Thailand Motor Expo 2014 period. From 29 November till 10 December, promotions may include low interest rate schemes, buyback guarantee programme and complimentary First Class motor insurance for the various Subaru models in the line-up.
Back by popular demand, Russ Swift, world renowned stunt driver, will return to Thailand to perform his signature precision driving stunts. Russ has electrified crowds with his repertoire of trademark gravity-defying car stunts, which include Reverse Spinning, Handbrake Parking, Drifting and Doughnuts. For the first time in Thailand, the new Subaru XV – STI Performance, Subaru WRX and WRX STI will be introduced as the stunt cars. The Subaru Russ Swift Stunt Show will be conducted three times a day (3.00pm, 5.00pm and 7.00pm) from 5 – 7 December for the public.
The Subaru booth is located at A07, Challenger Hall at the 31st Thailand Motor Expo 2014. TC Subaru (Thailand) currently has showrooms located across the country – Bangkok and suburban; Serithai, Pinklao, Vibhavadi, Bangna, Petchaburi Rd., Rama 2, Rama 3, Nonthaburi ,Pathumthani and Chonburi, Northern; Chiangmai, Chiangmai (Saraphi) Chiangrai, North-Eastern; Nakhonratchasima, Nakhonratchasima (Pakthongchai), Khonkaen, Southern; Suratthani, Suratthani (Chaiya), Phuket. For more information, visit www.motorimage.net/TH.
-
โฟตอน-คัมมินส์ เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ครั้งแรกในไทยกับ “โคลัมบัส” รถตู้ 16 ที่นั่ง ชูจุดเด่นเครื่องยนต์คัมมินส์ จากอเมริกา เคาะราคาเปิดตัวเพียง 859,000 บาท!!



จากการที่บริษัทตงฟง มอเตอร์ส (ประเทศไทย) ได้มีการผลิตและจัดจำหน่ายรถยนต์ ตงฟงในตลาดประเทศไทยมากว่า 5 ปี ทางบริษัทเล็งเห็นถึงการตอบรับรถยนต์แบรนด์จีนที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ของผู้บริโภคในไทย โดยเฉพาะตลาดรถยนต์พาณิชย์ ซึ่งปัจจัยเรื่องราคา และ ความประหยัด มีผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้รถของผู้ประกอบการ โดยที่ผ่านมา รถยนต์ตงฟง ได้มีการขยายเครือข่ายศูนย์บริการไปมากกว่า 45 แห่งทั่วประเทศ ครอบคลุมกว่า 37 จังหวัด อีกทั้งการประกอบในประเทศ และใช้ชิ้นส่วนของไทย มีผลบวกอย่างยิ่งต่อการตอบรับของผู้ซื้อ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเติบโตของรถยนต์แบรนด์จีน ที่สามารถโตได้ ถ้ามุ่งเน้นในคุณภาพและบริการหลังการขาย ทั้งนี้ ทางบริษัทเล็งเห็นถึงโอกาสของรถยนต์แบรนด์จีน ในเซกเมนท์รถยนต์พาณิชย์อื่นๆ นอกเหนือจากรถเชิงพาณิชย์เล็กที่แบรนด์ตงฟงทำตลาดอยู่ อาทิเช่น เซกเมนท์รถตู้เพื่อการพาณิชย์ ซึ่งมีมูลค่าตลาดที่ใหญ่ แต่มีผลิตภัณฑ์ให้เลือกใช้อยู่น้อยรุ่น
นายพิทยา ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตงฟง มอเตอร์ส (ประเทศไทย) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ขนาดเล็กภายใต้แบรนด์ตงฟง เปิดเผยว่า “ทางบริษัทได้รับสิทธิ์การเป็น ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย รถตู้เพื่อการพาณิชย์ ยี่ห้อ โฟตอน-คัมมินส์ แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะมุ่งเน้นการทำตลาดรถตู้เชิงพาณิชย์ ที่มีคุณภาพสูง ใช้เทคโนโลยีต่างชาติ ในราคาที่คุ้มค้า ผ่านทางผู้แทนจำหน่ายมาตรฐาน กว่า 21 สาขาทั่วประเทศ โดยตั้งเป้า 1,000 คันในปี 2558”
โฟตอน-คัมมินส์ เป็นแบรนด์รถยนต์ในเครือ ปักกิ่ง ออโตโมทีพ หรือ BAIC หนึ่งในสี่ ผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของจีน ผู้ผลิตรถยนต์ฮุนไดและเมอร์ซีดีสเบนซ์ในจีน และเป็นผู้ผลิตที่มียอดผลิตและยอดขายรถยนต์เชิงพาณิชย์เป็นอันดับหนึ่งในจีนอีกด้วย ค่ายรถยนต์โฟตอน-คัมมินส์ นั้นโดยชูจุดเด่นที่การใช้เทคโนโลยีระดับโลกจากนานาประเทศ มาวางในผลิตภัณฑ์ของตนเอง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ เครื่องยนต์ดีเซลระดับโลกอันลือชื่อ ยี่ห้อคัมมินส์ จาก สหรัฐอเมริกา
ในการทำตลาดรถตู้เพื่อการพาณิชย์ครั้งนี้ ทางบริษัทได้เปิดตัวรถตู้เพื่อการพาณิชย์ แบรนด์ โฟตอน-คัมมินส์ รุ่น โคลัมบัส อย่างเป็นางการครั้งแรกในประเทศไทย ด้วยเครื่องยนต์คัมมินส์รุ่น ISF2.8 ขนาดความจุ 2800 ซีซี 16 ที่นั่ง พร้อมชิ้นส่วนชั้นนำของโลกอีกมากมาย อาทิ เช่น เพลาท้ายยี่ห้อ DANA จากสหรัฐเอมริกา ชุดเกียร์ของ GETRAG จากเยอรมนี ระบบเบรก ABS ของ BOSCH และ ชุดคลัชของ AISIN จากญี่ปุ่น เป็นต้น เป็นการผสมผสานที่ลงตัวของเทคโนโลยีตะวันออกและตะวันตก ให้ได้มาซึ่งรถยนต์คุณภาพสูง ในราคาที่คุ้มค่า
ตลาดรถตู้เพื่อการพาณิชย์ มียอดจำหน่ายรวมประมาณ 25,000 คันต่อปี และถือเป็นพาหนะหลักของการโดยสารของประชากรไทย ทั้งในภาคขนส่งปละในภาคครัวเรือน สำหรับรถตู้เพื่อการพาณิชย์ โฟตอน-คัมมินส์รุ่น โคลัมบัส นี้ ทางบริษัทเปิดตัวด้วยราคาช่วงเปิดตัวพิเศษเพียง 859,000 บาท ชูสโลแกน "กล้าที่จะเปลี่ยน กล้าที่จะต่าง กับเทคโนโลยีระดับโลก" และตั้งเป้าไว้ที่ 1,000 คันในปี 2558 หรือ 4% ของเซกเมนท์ตลาด
รถตู้ของโฟตอน-คัมมินส์ รุ่นโคลัมบัส เป็นรถตู้ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้สอยแบบเต็มรูปแบบ รูปลักษณ์ภายนอกที่สวยงาม ภายในโอ่โถง หลังคาสูง หรูหราด้วยวัสดุหุ้มพื้นและผนังอย่างดี เบาะนั่งที่ปรับเอนได้ 16ที่นั่ง รองรับการโดยสารได้ทุกระดับ มีถาดรองอาหารและที่วางแก้วสำหรับทุกที่นั่ง เบาะแถวหลังพับขึ้นได้เพื่อการบรรทุกสัมภาระ เพิ่มฟังก์ชันการใช้งาน เครื่องปรับอากาศทั้งหน้าและหลังส่งความเย็นได้อย่างทั่วถึง ช่วงล่างที่แข็งแรงและนุ่มนวล เพิ่มความสบายในการโดยสาร และที่สำคัญที่สุดคือเครื่องยนต์ดีเซลระดับโลก ขนาด 2800 ซีซี ยี่ห้อ คัมมินส์ ที่มีอัตราเร่งที่ดี สมรรถนะสูง ประหยัดน้ำมัน และรับประกันคุณภาพถึง 5 ปี หรือ 200,000 กิโลเมตร
จากการทำตลาดที่มุ่งเน้นคุณภาพและบริการหลังการขายตลอด 5 ปีที่ผ่านมา รถยนต์ตงฟงได้มีอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่องและได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคในตลาดในฐานะรถกระบะเชิงพาณิชย์เล็กที่คุ้มค่า วันนี้ ทางบริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มรถตู้ ในคำมั่นสัญญาเดียวกัน คือ คุณภาพที่ดี และบริการหลังการขายที่เป็นมืออาชีพ ด้วยรถตู้ของโฟตอน-คัมมินส์ รุ่น โคลัมบัส รุ่นนี้
สำหรับปี2558 บริษัทมีการแต่งตั้งผู้แทนจำหน่าย 21 สาขา ครอบคลุม 16 จังหวัดทั่วทุกภาคประเทศไทย อาทิเช่น กรุงเทพและปริมณฑล สมุทรสาคร เพชรบุรี เชียงใหม่ พิษณุโลก นครราชสีมา อุบลราชธานี สงขลา และ ภูเก็ต
-
บริษัท แครี่ ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด นำทัพ “รีลาย” ลุยตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็กเมืองไทย
บริษัท แครี่ ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมมือกับ Chery International และ Chery Automobile Co., Ltd. นำเข้าและจัดจำหน่ายยานยนต์แบรนด์ "รีลาย" (Rely) อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย โดยมีผู้แทนจำหน่ายทั่วทุกภูมิภาค และไม่พลาดนำ "รีลาย" อวดโฉมในงาน 2014 Motor Expo รวมแล้ว 5 รุ่น ประกาศศักดาพร้อมลุยตลาดรถเพื่อการพาณิชย์และรถอเนกประสงค์อย่างเต็มตัว ความเป็นมาของบริษัทฯ / ผู้บริหาร / ผู้แทนจำหน่าย
บริษัท แครี่ ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2555 โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่เลขที่ 60/4 หมู่ที่ 2 ถนนพหลโยธิน ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี 12120 ภายใต้การบริหารงานโดย คุณทวีศักดิ์ ควรประดิษฐ์ กรรมการผู้จัดการด้วยการร่วมมือระหว่าง บริษัทฯ และ Chery Automobile Co.,Ltd. โดยได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถภายใต้แบรนด์ "รีลาย" (Rely) อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวภายในประเทศไทย ปัจจุบันได้ขยายเครือข่ายของผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศไปแล้วถึง 18 สาขา ครอบคลุมทุกภูมิภาค ทั้งกรุงเทพฯและปริมลฑล ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้
รีลาย เป็นแบรนด์รถจาก ประเทศจีน โดยเป็น 1 ใน 4 แบรนด์หลักของกลุ่ม เฌอรี่(Chery) ซึ่งประกอบไปด้วย เฌอรี่ (Chery) ริช (Riich) รีลาย (Rely) และ แครี่ (Karry) ปัจจุบันมีโรงงานผลิตอยู่ที่ เมืองไคฟง หรืออย่างที่ทราบกันดีคือ เมืองเปาบุ้นจิ้น โดยจะเป็นโรงงานประกอบเฉพาะรถเพื่อการพาณิชย์ประเภทต่างๆ ทั้งรถกระบะและรถตู้ขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ด้วยเงินลงทุนกว่าหมื่นล้านบาท ใช้เทคโนโลยีเครื่องจักรในไลน์ประกอบทั้งหมด อาทิ ฝ่ายขึ้นรูปโลหะ (Stamping) ฝ่ายเชื่อม (Welding) ฝ่ายทำสี (Painting) ฝ่ายประกอบ (Assembly Flame) และฝ่ายตรวจสอบคุณภาพ (Vehicle Quality) เป็นอุปกรณ์จากประเทศเยอรมนี อิตาลี และญี่ปุ่น อีกทั้งยังนำลักษณะของการออกแบบตัวรถและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆที่อยู่ในรถยนต์นั่งมาไว้ในรถเพื่อการพาณิชย์อีกด้วย
โดยโรงงานประกอบที่เมืองไคฟงแห่งนี้จะประกอบรถโดยใช้แบรนด์อยู่ 2 แบรนด์ คือ รีลาย และ แครี่แต่รถที่นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยจะเป็น รีลาย ทั้งหมด เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายการรีแบรนด์ของบริษัทแม่ โดยเริ่มผลิตมาตั้งแต่ปี 2008 มีความสามารถในการผลิตได้ปีละหลายแสนคัน ส่งออกไปแล้วมากกว่า 15 ประเทศทั่วโลก และปัจจุบัน รีลาย ยังไปตั้งโรงงานผลิตในหลายๆ แห่งในโลก อาทิ บราซิล อิหร่าน ฯลฯ และในอนาคตก็มีแผนที่จะเปิดโรงงานประกอบในประเทศไทยด้วย
ผลิตภัณฑ์ในปัจจุบัน
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ทำตลาดในขณะนี้นั้นจะมีทั้งหมด 5 รุ่น คือ
โยกิ (Yo-Ki) รถมินิทรัค เครื่อง 1100 cc.ความยาวกระบะ 2.5 เมตร ราคา 329,000 บาท โยกิ (Yo-Ki) รถมินิทรัค เครื่อง 1200 cc.ความยาวกระบะ 3.0 เมตร ราคา 369,000 บาท โยโย (Yo-Yo) รถมินิแวน ตู้เอนกประสงค์ ราคา 429,000 บาท โยโย 11 (Yo-Yo 11) รถอเนกประสงค์ 11 ที่นั่ง โดยจำหน่ายในราคา 559,000 บาท โยกิ คีออส (Yo-Ki Kiosk) รถมินิทรัคต่อตู้สำเร็จรูป ฝีมือระดับโรงงาน ใช้วัสดุอลูฯ คอมโพสิทเพื่อความแข็งแรงและน้ำหนักที่เบา ไม่เป็นสนิม ไม่เป็นภาระต่อช่วงล่าง เพื่อการค้าขายในรูปแบบใหม่ จำหน่ายในราคา 449,000 บาท
เป้าหมาย / วิสัยทัศน์ / จุดแข็ง
บริษัท แครี่ ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด มุ่งหวังให้ลูกค้าชาวไทยได้ใช้รถจากประเทศจีนที่มีคุณภาพเกินราคา ทั้งสมรรถนะ ความประหยัด ประโยชน์ใช้สอย และความสะดวกสบาย ซึ่งตอบสนองความต้องการได้อย่างรอบด้าน ทั้งนี้เพราะ รถรีลาย มีจุดแข็งในหลายๆ ส่วน ไม่ว่าจะเป็น รถเพื่อการพาณิชย์ที่มีรูปลักษณ์ดีไซน์ด้วยการออกแบบอันทันสมัย สวยงาม พร้อมทั้งมีออฟชั่นเหมือนกับรถยนต์ ทั้ง ไฟหน้าโปรเจคเตอร์เลนส์ พวงมาลัยพาวเวอร์ผ่อนแรง กระจกไฟฟ้ารอบคัน เซ็นทรัลล็อค กุญแจรีโมท ล้ออัลลอยด์พร้อมดิสค์เบรค 4 ล้อ นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีความชำนาญในการเลือกและติดตั้ง แก๊สติดรถยนต์อีกด้วย เพราะที่ผ่านมาบริษัทฯ ในเครือเคยเป็นผู้ติดตั้งแก๊สติดรถยนต์ให้แก่บริษัทรถหลายๆ ยี่ห้อ โดยเราจะเลือกแก๊สที่เป็นของอิตาลีทั้งชุด ทั้งระบบ และยังมีขนาดของถังแก๊สที่ใหญ่ถึง 42 ลิตร สำหรับในส่วนที่เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ในรถ ส่วนมากจะควบคุมหรือทำงานด้วยอะไหล่ของ Bosch เพื่อให้เกิดความเสถียร ทนทาน และเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพสูงสุด
นอกจากนี้ รีลาย ยังมี ระบบการบริการหลังการขาย ทั้งในส่วนการดูแลหลังการขายและอะไหล่ที่มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว ทันต่อความต้องการลูกค้า เนื่องจากเราตระหนักถึงความต้องการใช้รถประเภทนี้ของลูกค้าที่จะต้องใช้เพื่อทำมาหากินทุกวัน เราจึงให้ความสำคัญในเรื่องบริการหลังการขายมาเป็นลำดับต้นๆ โดยคิดค่าอะไหล่ในราคาที่ย่อมเยา และมีคุณภาพอีกด้วย
สำหรับลูกค้าที่สนใจเป็นเจ้าของรถรีลาย สามารถชมและทดลองขับได้ในงาน Motor Expo ระหว่างวันที่ 29 พย. - 10 ธค. 2557 ที่อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี พร้อมรับขอเสนอสุดพิเศษในงาน ประกันภัยชั้น 1 และแคมเปญใช้รถฟรี
ท่านสามารถพิสูจน์สมรรถนะของเครื่องยนต์ การบรรทุก รวมทั้งการขับขี่ พร้อมสอบถาม รายละเอียดของ รีลาย ทุกรุ่น ได้ที่ บริษัท แครี่ ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัดโทร. 0-2901-2708, 08-1705-9946, www.relythai.com หรือที่ผู้แทนจำหน่าย รีลาย ทั่วประเทศ แล้วท่านจะได้พบกับสุดยอดยนตกรรมที่มีแต่ความคุ้มค่า คุ้มราคา สมดังสโลแกน รีลาย..นี่สิคุ้ม
-
ตงฟง มอเตอร์ส ย้ำตำแหน่งผู้นำอันดับหนึ่งเรื่องรถอาชีพ เอาใจทุก SME เปิดตัวหลังคามาตรฐานอเนกประสงค์จากโรงงาน พร้อมตัวรถ สนนราคาเริ่มต้นเบ็ดเสร็จเพียง 38x,xxx บาท




ตงฟง มอเตอร์ส เสริมทัพแบรนด์รถจีนเพื่อการพาณิชย์อันดับหนึ่ง ชูความเป็นผู้นำรถอาชีพ สนองเทรนด์ตลาดรถอาหารเคลื่อนที่ (Food Truck) เปิดตัวหลังคาอาชีพจากโรงงาน ราคาเริ่มต้นเพียง 50,000 บาท หวังครองใจเหล่าลูกค้าพร้อมเริ่มธุรกิจติดล้อ
ด้วยกระแสรถอาชีพ หรือ “ร้านค้าติดล้อ” ที่กำลังมาแรงทั่วประเทศ ตงฟง มอเตอร์สผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ขนาดเล็กภายใต้แบรนด์ตงฟง ถือเป็นค่ายรถยนต์เจ้าแรกที่นำไอเดียร้านค้าติดล้อเข้ามาสู่เมืองไทย ซึ่งในปัจจุบันธุรกิจ “รถอาชีพตงฟง” กำลังเป็นที่สนใจในหมู่เจ้าของร้าน ทั้งกลุ่มผู้ที่มีร้านค้าอยู่แล้วและกลุ่มผู้ที่กำลังตัดสินใจอยากเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง เนื่องจากมีข้อดี คือ ความสะดวกคล่องตัวในการเคลื่อนย้ายทำเล ไม่ต้องเสียค่าเช่าพื้นที่ ทุนที่ใช้ในการเปิดรถร้านค้าไม่สูงมาก รวมทั้งความน่ารักแปลกตา เนื่องจากรถอาชีพตงฟงนั้นเป็นที่โดดเด่น เรียกได้ว่าขับไปตรงไหนก็เรียกลูกค้าได้อย่างง่ายดาย
นายพิทยา ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตงฟง มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ขนาดเล็กภายใต้แบรนด์ตงฟง ได้เปิดเผยว่า “ในปี 2557 นี้ ทางตงฟงเห็นยอดจำหน่ายของรถยนต์ตงฟง ที่ถูกนำไปดัดแปลงเป็นรถอาชีพ ถึงกว่า 40% หรือ กว่า 800 คัน จากสัดส่วนเพีงแค่ ไม่ถึง 10% ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงเทรนด์ตลาดที่นิยมรถอาชีพมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เพื่อตอบสนองกับเทรนด์ตลาดใหม่ของรถอาชีพ นี้ ทางบริษัทได้มีการลงทุนในการจัดตั้งไลน์ผลิตและประกอบหลังคาดังกล่าว โดยจะมีการผลิตหลังคาทั้งแบบเพื่อการขนส่ง (แบบ Cargo) และ แบบเพื่อการอาชีพ (Food-Truck) ทั้งนี้เพื่อการเพิ่มประโยชน์ใช้สอยของรถยนต์ ตงฟง ให้หลากหลายมากขึ้น และตอบโจทย์ในเรื่องของความเป็นมาตรฐาน และที่สำคัญที่สุดคือเพิ่มความสะดวกสำหรับลูกค้าไม่ต้องไปเร่หาโรงงานทำหลังคาเอง ทางบริษัทจะทำการติดตั้งให้จากโรงงาน และ รับประกันให้ 1 ปี พร้อมใช้งานทันที โดย เพิ่มราคาจากรถยนต์รุ่นมาตรฐานของบริษัท เริ่มต้นเพียง 50,000 บาท เท่านั้น
รถอาชีพมีมานานแล้ว แต่ที่ผ่านมายังไม่มีใครลงมาจับการจำหน่ายรถยนต์ประเภทนี้อย่างจริงจัง มีเพียงแต่การดัดแปลงรถของเหล่าพ่อค้าแม่ค้ากันเอง ซึ่งรถกระบะเล็กของตงฟง มอเตอร์ส ทุกรุ่นได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ตอบโจทย์เหล่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้า ให้สามารถดัดแปลงได้ง่าย กะทัดรัด มีความคล่องตัว และมีความเป็นมาตรฐาน จึงทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่นิยมซื้อรถตงฟงเพื่อไปดัดแปลงเป็นรถอาชีพ เพื่อค้าขายอาหารและเครื่องดื่มเคลื่อนที่ โดยทางตงฟงจะช่วยเหลือแนะนำและร่วมออกแบบให้กับลูกค้าซึ่งจะรวมถึงหลังคา ระบบไฟฟ้า เคาน์เตอร์ หรือสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมด ข้อดีของรถตงฟง คือ ลูกค้าสามารถผ่อนเช่าซื้อหลังคารูปแบบต่างๆรวมกับตัวรถได้เลย ทำให้ใช้เงินเริ่มต้นธุรกิจเพียง 50,000 – 60,000 บาท และเนื่องจากรถอาชีพนั้นสามารถลดต้นทุนการขายได้หลายอย่าง อาทิ ไม่ต้องเสียค่าเช่าพื้นที่ร้าน สามารถปรับเปลี่ยนหรือย้ายทำเลการขายได้ตามต้องการ จึงทำให้ตอบโจทย์ของการค้าขายอาหารและเครื่องดื่มได้อย่างครบถ้วน นายพิทยากล่าว
ในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมาของปี 2557 ทางบริษัทมีการจำหน่ายรถยนต์ตงฟงไปแล้วกว่า 2,000 คัน โดยตั้งเป้าปีนี้ไว้ที่ 2,300 คัน บริษัทคาดว่าด้วยการเพิ่มฟังชั่นการใช้งานของหลังคาแบบ Cargo และ Food-Truck จะเป็นการขยายฐานลูกค้าของตงฟงให้กว้างยิ่งขึ้น และจะทำให้บริษัทบรรลุเป้าหมายของปีนี้ และ 2,500 คันของปี 2558 ได้อย่างแน่นอน
ตงฟง มอเตอร์ส มีรถกระบะอเนกประสงค์ให้เลือก 3 รุ่น ตอบโจทย์ได้หลากหลายความต้องการ
“ตงฟง พลัส” รถกระบะขนาดเล็กเชิงพาณิชย์มีแค๊บรุ่นใหม่จากตงฟง ที่เพิ่มพื้นที่ความสุขและความสบายให้มากยิ่งขึ้นด้วยการเพิ่มพื้นที่ห้องโดยสารให้กว้างขึ้นด้วยแค๊บขนาด 31.2 เซนติเมตร สามารถเก็บของหรือปรับเอนพนักพิงได้มากถึง 130 องศา หรูหรา ทันสมัย กับคอนโซลดีไซน์ใหม่ที่มาพร้อมหน้าปัดเรือนไมค์ดิจิตอล เพลิดเพลินด้วยเครื่องเสียง พร้อมช่องยูเอสบี และ SD CARD สมรรถนะแข็งแกร่ง แรง แต่ประหยัดพลังงานด้วยระบบเครื่องยนต์ใหม่ขนาด 1,100 ซีซี ที่ให้พลังสูงถึง 63 แรงม้า ที่ 5,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 91 นิวตันเมตร ที่ 2,800 – 3,600 รอบต่อนาที ระบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด พิเศษขึ้นกว่ารุ่นเดิมด้วยพวงมาลัยพาวเวอร์ และกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ ที่มาพร้อมไฟหน้าดวงใหญ่แบบคริสตอลโปรเจคเตอร์และไฟเดย์ไลท์สไตล์สปอร์ตบ่งบอกถึงบุคลิกความเป็นตัวตนของคุณ กระบะท้ายอเนกประสงค์เปิดท้ายได้ 3 ด้าน ไม่มีซุ้มล้อ สะดวกในการใช้ได้อย่างคุ้มค่า และเต็มประสิทธิภาพ วงเลี้ยวแคบเพียง 4.9 เมตร เพื่อความคล่องตัวในการขับรถในเมือง อีกทั้งยังใช้พลังงานสองระบบทั้งแก๊สโซฮอล์และก๊าซแอลพีจี มาตรฐานจากโรงงานยี่ห้อโลวาโต้จากประเทศอิตาลีช่วยประหยัดต้นทุนค่าขนส่ง พร้อมรับประกันตัวรถยนต์พร้อมระบบแก๊สนานถึง 3 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร ทั้งหมดนี้ในราคาเพียง 328,000 บาท
“ตงฟง เซฟเว่อร์” รถกระบะขนาดเล็กเชิงพาณิชย์ที่ไมเนอร์เช้นจ์มาจากรุ่น ตงฟง มินิทรั๊ค โดยมีจุดเด่นที่ ความประหยัด เซฟสุดๆ ด้วยพลังงานทางเลือก 2 ระบบ ได้แก่ ระบบเบนซิน แก๊สโซฮออล์ และ ก๊าซแอลพีจีระบบหัวฉีด ติดตั้งมาตรฐานพร้อมจากโรงงาน ยี่ห้อโลวาโต้ ประเทศอิตาลี คุ้มเว่อร์ๆ กับระบบเครื่องยนต์ใหม่ขนาด 1,100 ซีซี ให้ขุมพลังสูงถึง 63 แรงม้าที่ 5,200 รอบต่อนาที แรงบิด 91 นิวตันเมตร ที่ 2,800 – 3,600 รอบต่อนาที ระบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด พิเศษขึ้นกว่ารุ่นเดิมด้วยพวงมาลัยพาวเวอร์ คอนโซลหน้าดีไซน์ใหม่ เครื่องเสียงพร้อมช่องยูเอสบี และ SD CARD ตอบรับความโฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้นด้วยไฟหน้าสไตล์สปอร์ต โดดเด่นด้วยกระบะท้ายอเนกประสงค์เปิดท้ายได้ 3 ด้าน ไม่มีติดซุ้มล้อ เพิ่มในการใช้งานได้มากขึ้น รับน้ำหนักได้มากกว่าเดิม วงเลี้ยวแคบเพียง 4.9 เมตร เพื่อความคล่องตัวในการขับรถในเมือง รวยเร็วกว่าเห็นๆ เนื่องจากลงทุนต่ำ คืนทุนเร็ว แถมผ่อนน้อยเพียงวันละร้อยกว่าบาท ส่งผลให้กำไรมาไวกว่าที่คิด ทั้งหมดนี้ให้คุณเป็นเจ้าของได้ในราคาเพียง 308,000 บาท
“ตงฟง V 21 แชมเปี้ยน” รถกระบะบรรทุกขนาดเล็ก ดีไซน์ใหม่ ที่จะทำให้คุณบรรทุกได้อย่างจุใจมากขึ้น มาพร้อมความปลอดภัย และความสะดวกในการขับขี่ที่มากกว่า พร้อมพรั่งไปด้วย สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1300 ซีซี ให้กำลังเครื่องยนต์สูงถึง 82 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 102 นิวตันเมตร ที่ 3,000 – 3,500 รอบต่อนาที ระบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด พวงมาลัยแบบแร๊คแอนด์พิเนียนพร้อมเพาเวอร์ไฟฟ้า ให้ความคล่องตัวในการบังคับควบคุมทุกการขับขี่ แอร์คอนดิชั่น ระบบวิทยุ เครื่องเสียงพร้อมช่อง USB และ SD CARD ที่จะช่วยให้คุณเพลิดเพลินในทุกเส้นทาง
และจุดเด่น ของV21 แชมเปี้ยนของเรา คือความกว้างขวางของกระบะท้าย ที่ใหญ่มากขึ้นกว่าเดิม 25% และยังสามารถเปิดได้อย่างอิสระทั้ง 3 ด้าน พื้นกระบะบรรทุกเรียบไม่มีซุ้มล้อ ทำให้สะดวกและสุดคุ้มค่าสำหรับการบรรทุกขนส่ง หรือทุกกิจกรรม โดยได้ดัดแปลงติดตั้งจอแอลอีดีขนาดใหญ่ความละเอียดขนาด P10 กว้าง 2.56 เมตร และสูงถึง 1.92 เมตร เข้าไป เป็นสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่ ที่ตอบโจทย์ธุรกิจในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังใช้พลังงานสองระบบทั้งแก๊สโซฮอล์และก๊าซแอลพีจี มาตรฐานจากโรงงานยี่ห้อ LOVATO จากประเทศอิตาลีช่วยประหยัดต้นทุนค่าขนส่ง พร้อมความปลอดภัยที่เรารับประกันตัวรถยนต์พร้อมระบบแก๊สนานถึง 3 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร
-
“อีซูซุ” ยนตรกรรมแห่งไลฟ์สไตล์ นำ “อีซูซุมิว-เอ็กซ์” และ “ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ ซูเปอร์เดย์ไลท์” ร่วมงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31




อีซูซุร่วมเปิดบูธในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31 ชูแนวคิดยนตรกรรมแห่งไลฟ์สไตล์ นำทัพ “อีซูซุมิว-เอ็กซ์” (Isuzu MU-X) รถอเนกประสงค์สุดหรู ที่เพิ่งฉลองความสำเร็จกวาดยอดขาย 20,000 คันในเวลาเพียง 1 ปีไปหมาดๆ และรถปิกอัพ “ใหม่! อีซูซุ ดีแมคซ์ ซูเปอร์เดย์ไลท์” หลากรุ่นหลายสไตล์มาร่วมสร้างสีสันด้วยการตกแต่งสุดแนวเสริมรูปลักษณ์ให้โดดเด่นมีเอกลักษณ์ และสอดรับกับฟังก์ชั่นการใช้งานที่เข้าถึงการใช้ชีวิตทุกรูปแบบ พร้อมกันนี้ยังตอกย้ำสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้น ด้วยการนำรถ “อีซูซุมิว-เอ็กซ์” สุดแกร่งที่สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ในในรุ่น Diesel Production Car พร้อมรางวัลเกียรติยศอีก 5 รางวัล จากการแข่งขันสุดหฤโหด “ออสเตรเลเชียน ซาฟารี 2014” มาโชว์ในงานนี้อีกด้วย
มร. ฮิโรชิ นาคางาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า “ความสำเร็จของรถปิกอัพ “อีซูซุดีแมคซ์” และรถอเนกประสงค์สุดหรู “อีซูซุมิว-เอ็กซ์” ได้รับการพิสูจน์ในตลาดรถยนต์เมืองไทยแล้วถึงความเชื่อมั่นในสมรรถนะ ความประหยัดน้ำมัน และที่สำคัญไม่แพ้กันคือ การออกแบบที่ไม่เพียงโฉบเฉี่ยวทันสมัย แต่ยังสามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้ใช้รถในเมืองไทยได้เป็นอย่างดีในด้านอรรถประโยชน์ที่ครบครันในเชิงไลฟ์สไตล์ โดยเฉพาะผู้ใช้รถรุ่นใหม่ๆ ที่มีกิจกรรมสุดโปรดหลากรูปแบบนอกเหนือจากการทำงาน ไม่ว่าจะแคมป์ปิ้ง ขี่จักรยาน หรือเรซซิ่ง ซึ่งทำให้ผู้ที่ไม่เคยมีประสบการณ์กับรถอีซูซุมาก่อน หันมาให้ความสนใจมากขึ้น ดังนั้นในงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31” อีซูซุจึงได้นำ “อีซูซุมิว-เอ็กซ์” ที่เพิ่งสร้างประวัติศาสตร์ครั้งยิ่งใหญ่ให้กับอีซูซุด้วยยอดขายสูงถึง 20,000 คัน ในเวลาเพียง 1 ปี และยังพิสูจน์สมรรถนะแกร่งในฐานะรถแข่งในการแข่งขันสุดทรหดบนเส้นทางป่าซาฟารี และทะเลทรายสุดโหดถึง 3,513 กม. ที่ประเทศออสเตรเลียในแรลลี่ระดับโลก “ออสเตรเลเชียน ซาฟารี 2014” ด้วยการคว้าแชมป์ในรุ่น Diesel Production Car พร้อมรางวัลเกียรติยศอีก 5 รางวัล ตั้งแต่ปีแรกที่ลงแข่งขัน ซึ่งอีซูซุได้นำรถ “อีซูซุมิว-เอ็กซ์” คันประวัติศาสตร์นี้มาโชว์โฉมในงานนี้ด้วย พร้อมกันนี้อีซูซุยังได้นำรถปิกอัพ “ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ ซูเปอร์เดย์ไลท์” หลากรุ่นมาตกแต่งพิเศษในสไตล์ต่างๆ สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ใช้รถที่ชื่นชอบในกิจกรรมสไตล์ X-treme ได้นำไปปรับใช้ในสไตล์ของตัวเอง”
บูธอีซูซุในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31 ออกแบบในสไตล์โมเดิร์น เพิ่มความมีสีสันด้วยการเล่นแสงสี สะท้อนการใช้ชีวิตที่มีหลากหลายมิติ โดดเด่นด้วยสัญลักษณ์ “X” ที่สื่อถึงยนตรกรรมแห่งไลฟ์สไตล์ที่พร้อมจะตอบสนองกับทุกกิจกรรมในชีวิตของผู้ใช้รถ โดยรถอีซูซุที่นำมาโชว์ในครั้งนี้ นอกจากรุ่นมาตรฐานแล้วยังมีการตกแต่งรถพิเศษเฉพาะงานนี้เพื่อสร้างสีสันให้กับผู้ใช้รถที่มีใจรักการแต่งรถและกิจกรรมสไตล์ X-treme ได้แก่
“อีซูซุมิว-เอ็กซ์” (ISUZU MU-X) สีขาวมุกเอเวอเรสต์ (Everest Pearl White) สุดยอดยนตรกรรมที่รวมความโดดเด่นด้านรูปลักษณ์จากดีไซน์อันน่าหลงใหล สมรรถนะขับเคลื่อนอันยอดเยี่ยมสมบูรณ์แบบประทับใจ พร้อมความอเนกประสงค์ที่สามารถตอบทุกโจทย์ความต้องการของผู้ใช้รถรุ่นใหม่ได้อย่างครบถ้วนลงตัว มอบความภาคภูมิใจแก่ผู้ครอบครอง โดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบ 3-DIMENSION มิติเฉียบคมอารมณ์สปอร์ต หรูหราปลอดภัยสไตล์ยุโรปด้วย SUPER DAYLIGHT ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน ไฟท้ายดีไซน์พิเศษแบบ ARC-DIMENSION เพิ่มมิติทุกมุมมอง ROOF RAIL ดีไซน์รับกับตัวรถ เสาอากาศโฉบเฉี่ยวแบบ SHARK-FIN ภายในโอ่โถงสไตล์ PREMIUM & EXCLUSIVE ให้ความรื่นรมย์ทุกการขับขี่กับระบบความบันเทิงสมบูรณ์แบบ ISUZU MEDIA SOLUTIONS พร้อมปฏิวัติช่วงล่างใหม่ แบบคอยล์สปริงทั้ง 4 ล้อ ช่วงล่างด้านหลังแบบ “5-LINK SUSPENSION” ให้เสถียรภาพในการทรงตัว เกาะถนนดีเยี่ยม พร้อมความนุ่มนวลดุจรถยนต์นั่งระดับหรู ล่าสุด “อีซูซุมิว-เอ็กซ์” มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ 3.0 Ddi VGS Turbo และ 2.5 Ddi VGS Turbo พร้อมเสนอทางเลือกใหม่ “อีซูซุมิว-เอ็กซ์” รุ่น 2.5 Ddi VGS Turbo DVD Navi ทั้งแบบเกียร์ออโตเมติก และเกียร์ธรรมดา รวมทั้งได้เพิ่ม PUSH START ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะเป็นอุปกรณ์มาตรฐานเฉพาะรุ่น เติมเสน่ห์เร้าใจด้วยการตกแต่งพิเศษในแนว URBAN LIFE ตอบโจทย์สไตล์ชีวิตคนเมืองด้วยชุดโหลดเตี้ยแนวเรซซิ่งจาก Hot Bits เติมเต็มความเท่ด้วยล้อแม็ก TAM ขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง TOYO 265/50R20 ชุดแต่งสติ๊กเกอร์และชุด Kit พร้อมกล่องอเนกประสงค์บนหลังคาจาก THULE
ในส่วนของรถปิกอัพ “ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ ซูเปอร์เดย์ไลท์” ที่นำมาแต่งโชว์ในครั้งนี้ ประกอบด้วย “อีซูซุดีแมคซ์ วี-ครอส 4x4” สีแดงเวเนเชียน (Venetian Red) สปอร์ตออฟโรดที่ก้าวข้าม...ทุกความท้าทาย ผสานความแข็งแกร่งดุดันให้เข้ากับดีไซน์เท่มีระดับแบบไลฟ์สไตล์เมือง ตอบรับการใช้ชีวิตออฟโรดและชีวิตเมืองไปพร้อมกัน ด้วยความสะดวกสบายอันสมบูรณ์แบบกับมิติการดีไซน์ที่เข้ากับทุกไลฟ์สไตล์ด้วย UNIVERSAL DESIGN ศาสตร์แห่งการออกแบบโดยให้ผู้ใช้รถเป็นศูนย์กลาง ด้วยการจัดวางตำแหน่งที่นั่ง และอุปกรณ์ต่างๆ ภายในรถให้เข้ากับทุกสรีระเพื่อการใช้งานง่ายและหลากหลายรูปแบบ ขับสนุกสะใจด้วยช่วงล่างสมรรถนะสูง รองรับได้ทุกสภาวะ ทั้งเส้นทางออฟโรดสุดโหด หรือเส้นทางที่ต้องการความนุ่มนวล พร้อม TERRAIN COMMAND สวิตช์ปรับเปลี่ยนระบบการขับเคลื่อนจาก 2H เป็น 4H ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ปรับได้ตามใจสั่งเรียกพลังออฟโรดเพื่อการลุยโดยเฉพาะ แต่งพิเศษด้วยการเติมเต็มความเท่ ร้อนแรงในแนว RED THEME สุดขั้วตลอดทั้งคัน ด้วยชุดกันชนหน้า ARB พร้อมระบบไฟ LED กันกระแทกด้านข้าง กันชนท้ายและกันกระแทกใต้ท้องรถจาก ARB ล้อแม็ก Procomp ยาง BF Goodrich 285/70R17 เสริมความดุดันด้วยชุด WRAP สีดำ
“อีซูซุดีแมคซ์ เอ็กซ์-ซีรี่ส์” รุ่น Speed ฉีกความร้อนแรง...แซงทุกความโดดเด่น ปฏิวัติความแรงเรซซิ่งพันธุ์แท้กับดีไซน์ใหม่ สปอร์ตเข้มข้นทั้งภายนอกและภายใน สะท้อนความแรงกับรายละเอียดใหม่ด้วยชุดแต่งสเกิร์ตรอบคัน ดีไซน์ด้านหน้าและหลัง เสริมความดุดันด้วยสีทูโทน สายคาดคู่หน้า-หลังใหม่ ดีไซน์โฉบเฉี่ยวสไตล์ X กระจังหน้ารถสี Dark Grey สะท้อนความร้อนแรงด้วยสัญลักษณ์ ISUZU สีแดง เสริมความสปอร์ตด้วยกระจกมองข้างและมือจับประตูสีเดียวกับตัวรถ ใหม่! เบาะหนังดีไซน์ เท่หรูหรา พร้อมสัญลักษณ์ X-SERIES สปอร์ตพรีเมี่ยม เกาะทุกความแรงกับช่วงล่างสไตล์เรซซิ่งสปอร์ต ที่สุดแห่งการทรงตัว ขับสนุกมันส์ได้เต็มสปีด สุดแนวกับการจัดเต็มทั้งในเรื่อง แสง สี เสียง จากการ WRAP STICKER สีพิเศษตลอดทั้งคันสไตล์รถ SUPER CAR เข้มด้วยยาง TOYO รุ่น Proxes ST2 ขนาด 255/40R20 พร้อมล้อแม็ก TAM ชุดสตรัทปรับเกลียวพร้อมโช๊คอัพที่ช่วงล่างหน้า และชุดปรับช่วงล่างแหนบหลังพร้อมโช๊คอัพหลัง พิเศษชุดเครื่องเสียงสุดหรูมูลค่ากว่า 500,000 บาท และเล่นสีสันด้วยไฟ LED รอบคัน
“ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ ซูเปอร์เดย์ไลท์” นอกจากจะให้ความสมบูรณ์แบบด้านดีไซน์ สะกดทุกสายตาด้วย 3-DIMENSION STRUCTURE เผยมัดกล้ามที่แฝงซึ่งพลัง และเส้นสายต่อเนื่องรอบคันที่ล้ำสมัย รวมถึงความสะดวกสบายครบครันกับมิติการออกแบบที่เข้ากับทุกไลฟ์สไตล์แล้ว ยังพร้อมด้วยฟังก์ชั่นการขับขี่ด้วยมาตรฐานปิกอัพระดับโลก ทั้ง SUPER DAYLIGHT ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน เพิ่มทัศนวิสัยที่ชัดเจนให้กับผู้ร่วมทาง ระบบ Push Start ระบบสตาร์ทอัจฉริยะ สตาร์ทเครื่องยนต์เพียงปลายนิ้ว พร้อม ISUZU GENIUS ENTRY และ ISUZU INSIGHT VERSION 1.1 เทคโนโลยีวิเคราะห์พฤติกรรมการขับขี่ หนึ่งเดียวแห่งวงการรถปิกอัพ ที่ช่วยให้ผู้ขับสามารถพัฒนาการขับขี่ของตัวเองทั้งด้านความประหยัดน้ำมัน และความปลอดภัยได้เต็มศักยภาพยิ่งขึ้น โดยมาโชว์ครบทั้งรุ่น 4 ประตู 2 ประตู และไฮแลนเดอร์
พร้อมกันนี้อีซูซุได้สร้างชื่อเสียงในวงการมอเตอร์สปอร์ตในการแข่งขันแรลลี่ระดับโลก ด้วยการชนะเลิศรายการ “ออสเตรเลเชียน ซาฟารี” แรลลี่สุดหฤโหดติดต่อกันมา 3 ปีซ้อน และในปีนี้อีซูซุได้นำอีซูซุมิว-เอ็กซ์คว้าแชมป์ในรุ่น Diesel Production Car พร้อมรางวัลเกียรติยศอีก 5 รางวัล เป็นการพิสูจน์สมรรถนะแกร่งในการแข่งขันสุดทรหดบนเส้นทางป่าซาฟารี และทะเลทรายสุดโหดถึง 3,513 กม. ที่ประเทศออสเตรเลีย และเป็นการตอกย้ำความทนทานในสุดยอดเครื่องยนต์ “อีซูซุ ดีดีไอ ซูเปอร์คอมมอนแรล” ที่นำร่วมโชว์ในงานด้วย
งานนี้เตรียมพบกับ “ก้อง-สหรัถ สังคปรีชา” พรีเซ็นเตอร์สุดหล่อของ “อีซูซุมิว-เอ็กซ์” เจ้าของเสียงนุ่มๆ ของเพลงประกอบโฆษณาใหม่ “The way you make me feel” “บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์” พรีเซ็นเตอร์สุดเท่ของ “อีซูซุดีแมคซ์ วี-ครอส” ร่วมเฮฮากับ “โก๊ะตี๋” และยลโฉมนางสาวไทยประจำปี 2557 พร้อมรองอันดับ 1-4 ซึ่งจะหมุนเวียนมาสร้างความสนุกสนานร่วมกับพิธีกรคนดัง เอ๊าะ-กีรติ เทพธัญญ์ มิค-บรมวุฒิ หิรัณยัษฐิติ เป๊ก-เปรมณัช สุวรรณานนท์ และจอย – ชลธิชา นวมสุคนธ์ เป็นต้น พร้อมกันนี้ยังมีกิจกรรมความบันเทิงต่างๆ และลุ้นรับรางวัลมากมายได้ที่บูธอีซูซุตลอด 12 วันของงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31”
- Isuzu Motor Expo Photo Contest 2014 : การประกวดภาพถ่ายกิจกรรม หรือมุมต่างๆ ภายในบูธอีซูซุ แล้วส่งภาพจากกล้อง Digital หรืออัพโหลดผ่าน Instagram เพียงใส่ Hashtag #isuzuinstagram ลุ้นรับรางวัลบาดใจรวมกว่า 200,000 บาท
- Isuzu Social Corner : ไม่พลาดกับการอัพเดทความเคลื่อนไหวต่างๆ ผ่าน Facebook Register
- Lifestyle Fashion Show : ตื่นตากับไลฟ์สไตล์แฟชั่นโชว์จากนางแบบสาวสวยที่ตอกย้ำภาพลักษณ์การใช้งานได้หลากแนวของรถอีซูซุทั้งในแนว OFFICE, SPORTY, OUTDOOR และ RACING
- Battle Juggling Show การแสดงมายากลที่จะสร้างรอยยิ้มและความสนุกสนานแก่ผู้ชมทุกวัย
- สอบถามข้อมูลรถอีซูซุหรือกิจกรรมต่างๆ ภายในงานได้จากสาวๆ I-Girl
เชิญสัมผัส “อีซูซุมิว-เอ็กซ์” และ “อีซูซุดีแมคซ์ ใหม่! ซูเปอร์เดย์ไลท์” หลากรุ่น หลากเครื่องยนต์ ณ บูธอีซูซุ ร่วมงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31 ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2557 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี พร้อมรับโปรโมชั่นสุดพิเศษทั้งในงาน มหกรรมรถยนต์ และโชว์รูมอีซูซุทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ - 30 ธันวาคม ศกนี้
- จองรถอีซูซุในงานมหกรรมรถยนต์ ครั้งที่ 31 ลุ้นรับทองคำทุกวัน รวม 62 รางวัล รางวัลละ 20,000 บาท มูลค่ารวม 1,240,000 บาท
- ทดลองขับรถ "อีซูซุมิว-เอ็กซ์" วันนี้ - 30 ธันวาคม ศกนี้ รับเอกสิทธิ์พิเศษ ลุ้นโชคใหญ่กว่า 3 ล้านบาท จับรางวัล 2 ครั้ง ได้แก่ ส่วนลดสำหรับซื้อ "อีซูซุมิว-เอ็กซ์" 100,000 บาท รวม 2 ครั้ง 18 รางวัล และรางวัลใหญ่ส่วนลด 50% รวม 2 ครั้ง 2 รางวัล รวมมูลค่า 3.2 ล้านบาท)
- ซื้อง่าย ตี๊ด...เดียว อีซูซุดีแมคซ์ ซูเปอร์เดย์ไลท์" ด้วยข้อเสนอโดนใจ 4 แบบ รับทันทีบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 15,000 บาท หรือเลือกรับดาวน์ต่ำสุดๆ เริ่มต้น 29,100 บาท หรือเลือกผ่อนสบาย 4,900 บาท/เดือน พร้อมบัตรกำนัลอีซูซุ 15,000 บาท หรือเลือกรับไฟแนนซ์พิเศษ พร้อมประกันภัยชั้น 1
-
มาเซอร์ราติ ในงานไทยแลนด์ อินเตอร์ เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ๊กซ์โป 2014




มาเซอร์ราติ ในงานไทยแลนด์ อินเตอร์ เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ๊กซ์โป 2014 แนวคิดการเฉลิมฉลองในวาระครบรอบ 100 ปี ของมาเซอร์ราติ รถยนต์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรูปแบบซึ่งเป็นมรดกตกทอดมาจนถึงปัจจุบันและการสะท้อนถึงแนวทางที่จะก้าวต่อไปในอนาคตของรถยนต์มาเซอร์ราติ
จุดหมายของงานแสดงสำหรับมาเซอร์ราติในประเทศไทยโดย บริษัท เอ็มไพร์ มอเตอร์ สปอร์ต จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์มาเซอร์ราติอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย มีความภาคภูมิใจที่ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31 (Thailand International Motor Expo 2014) ในงานนี้ทางมาเซอร์ราติได้นำรถรุ่นที่จำหน่ายอยู่ในปัจจุบันมาร่วมแสดง คือ Maserati Quattroporte (ควอตโตรปอร์เต้) รวมไปถึงรุ่นล่าสุดที่จะนำมาจำหน่ายในปีนี้ คือ Maserati Ghibli (กิบลี) ที่ใช้เครื่องยนต์ Diesel (ดีเซล) โดยเป็นรถใหม่ในวาระเฉลิมฉลอง มาเซอร์ราติ ครบรอบ 100 ปีที่เมือง Modena (โมเดนา) ประเทศอิตาลี รวมไปถึงรถยนต์รุ่นพิเศษอีกหนึ่งรุ่น คือ Maserati GranTurismo MC Stradale รถสปอร์ต 4 ที่นั่ง ได้นำมาเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยและจัดแสดงในงานนี้ด้วย
ในวาระครบรอบ 100 ปี ทางบริษัทมาเซอร์ราติ ได้วางแผนงานใหญ่ซึ่งได้เริ่มต้นในปี 2013 โดยรถยนต์รุ่น Ghibli และ Quattroporte มีการปรับแนวทางการผลิตของโรงงานในอิตาลีไปสู่ผลิตภัณฑ์รถสปอร์ตในระดับพรีเมียม แค่ในระยะเวลาสั้นๆ เพียง 1 ปี จากปี 2013 - 2014 มาเซอร์ราติ มียอดจำหน่ายที่เพิ่มสูงขึ้นถึง 150% จาก 6,200 คัน เป็น 15,400 คัน ปัจจุบันมาเซอร์ราติ คือผู้ผลิตรถยนต์ในระดับโลกที่มีผลิตภัณฑ์ในรุ่นต่างๆ อย่างสมบูรณ์แบบ เช่น การผลิตรถซีดานมีด้วยกันถึง 2 รุ่น และ สปอร์ต 2 ประตู 1 รุ่น โดยผลิตเครื่องยนต์ออกมาถึง 4 รุ่น Twin-Turbo 3.8 ลิตร V8 สูบและ 3.0 ลิตร V6 สูบ เครื่องยนต์ 4.7 ลิตร V8 สูบ และ 3.0 ลิตร V6 สูบ Turbo-Diesel นอกจากนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการผลิตรถ SUV (เอสยูวี) ที่จะออกมาให้ชมกันในเร็วๆ นี้
Maserati Quattroporte Diesel
Quattroporte รุ่นดั้งเดิมได้ถือกำเนิดขึ้นในปี 1963 ตามแนวความคิดของมาเซอร์ราติ ที่ต้องการสร้างสปอร์ตซีดานที่มีความหรูหรา และ Quattroporte รุ่นใหม่ก็ยังคงมีความต่อเนื่องในการเป็นผู้นำในด้านวิศวกรรมชั้นสูงถือได้ว่าเป็นรถซูเปอร์คาร์ที่ทรงพลัง รวมไปถึงการเป็นรถลีมูซีนที่มีความสะดวกสบาย รวมอยู่ในรถคันเดียวกัน
มาเซอร์ราติเปิดตัว Quattroporte รุ่นใหม่ในปี 2013 รถสายพันธุ์ที่ 6 นี้จะมีความก้าวหน้าทั้งในเรื่องเทคโนโลยีขั้นสูงและยังคงเอกลักษณ์ของมาเซอร์ราติ ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน รถธงรุ่นใหม่จะมีขนาดตัวที่ใหญ่ขึ้นแต่มีน้ำหนักตัวเบาลง มีความหรูหราและใช้งานง่ายขึ้นเมื่อเทียบกับรถคู่แข่งทั่วโลก เครื่องยนต์ที่ทรงพลัง ห้องโดยสารขนาดใหญ่ หน้ารถที่ยาว มีสัญลักษณ์ตรีศูลอยู่ที่ตรงกลางกระจังด้านหน้าที่มีส่วนคล้ายกันระหว่างรุ่น Quattroporte และ Granturismo
เครื่องยนต์ดีเซลตัวใหม่ของมาเซอร์ราติ มีขนาด 3.0 ลิตร V6 สูบ Turbo ได้รับการพัฒนามาเป็นพิเศษโดย VM Motori ตามแนวทางที่มาเซอร์ราติ เป็นผู้กำหนดซึ่งให้ความสำคัญในเรื่องของ สมรรถนะ ประสิทธิภาพ และความพึงพอใจในการขับขี่
เทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยมในการสร้างพละกำลัง คือ เทอร์โบแบบแปรผัน พร้อมลูกปืนที่จะช่วยลดแรงเสียดทานภายในและลดอาการรอรอบการทำงานของเทอร์โบ หัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงมีประสิทธิภาพสูงให้แรงดันถึง 2,000 บาร์ ฉีดเข้าไปยังห้องเผาไหม้ ในขณะที่ท่อไอดีจะปรับค่าแปรผันตามความเร็วของเครื่องยนต์ ส่วนท่อไอเสียจะเป็นแบบ Air Gap Technology ที่จะรักษาอุณหภูมิความร้อนของไอเสีย เพื่อให้สามารถผลิตพละกำลังออกมาให้มากที่สุด
ส่วนประกอบต่างๆ มีส่วนทำให้มาเซอร์ราติ รุ่นใหม่ล่าสุดเต็มเปี่ยมด้วยพละกำลัง ในรุ่น Quattroporte Diesel จะให้แรงบิดสูงถึง 600 นิวตัน-ม. ที่รอบเครื่องยนต์ 2,000-2,600 รอบ/นาที กำลังสูงสุด 275 แรงม้าที่ 4,000 รอบ/นาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ในเวลา 6.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. ค่าปริมาณไอเสียคาร์บอนไดออกไซด์ 163 กรัม/กม. ความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ยต่ำกว่า 6.2 ลิตร/100กม. หรือ 16.1 กม./ลิตร แต่ Maserati Quattroporte ยังคงเป็นรถที่มีสมรรถนะสูง
บุคลิกที่เป็นเอกลักษณ์ของมาเซอร์ราติ อีกอย่างหนึ่ง คือ เสียงจากท่อไอเสียที่ไพเราะและดุดัน ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีความสำคัญในการผลิตรถของมาเซอร์ราติ จากการใช้ Maserati Active Sound Technology ของระบบไอเสียของ Maserati Quattroporte Diesel ทำให้เกิดเสียงที่ให้ความสปอร์ต อย่างเป็นธรรมชาติ โดยสามารถปรับระดับด้วยการกดปุ่ม จะมีเสียง 2 ระดับ มีกลไกติดตั้งอยู่ใกล้กับปลายท่อไอเสียเพื่อให้เกิดโทนเสียงที่มีความพิเศษ ปรับคลื่นเสียงตามความเร็วรถที่ใช้อยู่ ขณะที่ผู้ขับขี่กดปุ่มสปอร์ตที่คอนโซลกลาง จะเกิดเสียงที่มีการสั่นสะเทือนที่สูงและเพิ่มความเร้าใจต่อการขับขี่
Quattroporte Diesel
เครื่องยนต์ : 3.0 ลิตร V6 สูบ
กำลังสูงสุด : 275 แรงม้า
ระบบเกียร์ : ZF 8 จังหวะ อัตโนมัติ
แรงบิดสูงสุด : 600 นิวตัน-เมตร
ความเร็วสูงสุด : 250 กม./ชม.
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. : 6.4 วินาที
อัตราความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง โดยเฉลี่ย / นอกเมือง / ในเมือง
6.2 / 5.2 / 7.8 ลิตร/100 กม.
ปริมาณไอเสีย โดยเฉลี่ย / นอกเมือง / ในเมือง
163 / 137 / 206 กรัม/กม.
Maserati Ghibli Diesel
Ghibli รุ่นใหม่ล่าสุด ทางมาเซอร์ราติ ออกแบบมาเพื่อให้เข้าอยู่ใน E-segment เป็นการผสมผสานระหว่างงานออกแบบเข้ากับคุณภาพในการขับขี่และสมรรถนะที่ดีเยี่ยม เป็นรถที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น เป็นรถสปอร์ตซีดานหรูที่น่าเย้ายวนใจเป็นอย่างยิ่ง
Ghibli ถูกวางแผนว่าในปี 2015 ให้มีการผลิตเป็นจำนวน 50,000 คันต่อปี และจะเป็นรถธงรุ่นที่ 2 ของค่ายมาเซอร์ราติ ในขณะที่ Quattroporte จะสร้างมาตรฐานใหม่ในเรื่องของคุณภาพที่เต็มเปี่ยมไปด้วยผลงานด้านศิลปะ โดยจะทำการผลิตที่ Grugliasco ใกล้กับเมือง Turin
Ghibli Diesel เป็นรถรุ่นแรกในประวัติศาสตร์ของมาเซอร์ราติที่ใช้เครื่องยนต์แบบดีเซล เครื่องยนต์ขนาด 3.0 ลิตร V6 สูบ ได้รับการพัฒนามาสำหรับมาเซอร์ราติโดยฝีมือของ VM Motori เฉพาะภายใต้การควบคุมอย่างใกล้ชิดโดย Paolo Martinelli ซึ่งดำรงตำแหน่ง Powertrain Director ในอดีตเขาเคยเป็นผู้ออกแบบเครื่องยนต์สำหรับรถแข่งฟอร์มูล่า วัน มาเป็นเวลายาวนาน
เครื่องยนต์ดีเซลตัวนี้ถือว่าแรงที่สุดในคลาส ให้กำลังสูงถึง 275 แรงม้า ในขณะที่มีปริมาณ ไอเสียเพียงแค่ 158 กรัม/กม. เท่านั้น อัตราความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงต่ำกว่า 6.0 ลิตร/100 กม. ถังน้ำมันที่มีความจุขนาด 70 ลิตร เพียงพอต่อการเดินทางไกลเป็นระยะทางกว่า 1,000 กม. มีผลทำให้ Ghibli Diesel ได้ครองตำแหน่งแชมป์ในบรรดารถประเภท แกรนด์ ทัวริงค์ ที่ใช้น้ำมัน 1 ถังจะวิ่งได้เป็นระยะทางไกลที่สุด Ghibli Diesel ให้แรงบิดสูงสุดถึง 600 นิวตัน-ม. ที่รอบเครื่องยนต์ 2,000-2,600 รอบ/นาที (จากการโอเวอร์บูสต์ของเทอร์โบชาร์จ) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ในเวลาเพียงแค่ 6.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม.
เครื่องยนต์ออกแบบมาได้อย่างสวยงามราวกับงานศิลปะรวมไปถึง ระบบหัวฉีดแบบคอมมอนเรล ไดเรค อินเจคชัน ซึ่งในระบบจะมีแรงดันถึง 2,000 บาร์ หัวฉีดแบบมัลทิเพิลจะช่วยลดอัตราความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและระดับเสียงรบกวนจากเครื่องยนต์ลง ในขณะเดียวกันจะช่วยให้มีการตอบสนองของเครื่องยนต์ที่รวดเร็วยิ่งขึ้น และจากการใช้เทคโนโลยีเทอร์โบแบบแปรผัน จะทำให้เครื่องยนต์มีพละกำลังและแรงบิดที่สูงในรอบต่ำ ระบบ Start-Stop จะช่วยลดอัตราความสิ้นเปลืองและปริมาณไอเสียลงถึง 6% (ระบบนี้จะหยุดทำงานโดยอัตโนมัติในขณะใช้โหมดสปอร์ต และเมื่อ ESC OFF ผู้ขับสามารถสั่งให้ระบบนี้หยุดทำงานโดยกดปุ่มเมนูที่ด้านขวาของวงพวงมาลัย)
Ghibli Diesel ยังคงมีเสียงเครื่องยนต์ที่ไพเราะอันเป็นเอกลักษณ์ของ Maserati จากการใช้ Maserati Active Sound technology มีตัวควบคุมเสียง 2 ตัวติดตั้งอยู่ที่บริเวณปลายหม้อพักท่อไอเสีย เพื่อให้เกิดโทนเสียงที่มีความพิเศษ ปรับคลื่นเสียงตามความเร็วรถที่ใช้อยู่ ผู้ขับสามารถปรับโทนเสียงได้ตามต้องการที่จะเกิดเสียงที่มีการสั่นสะเทือนสูงที่เป็นเอกลักษณ์ ผู้ขับสามารถเลือกให้มีความสปอร์ตและสุ้มเสียงที่ดุดันมากขึ้นเพียงแค่กดปุ่มปรับโทนเสียงเท่านั้นเอง
Ghibli Diesel
เครื่องยนต์ : 3.0 ลิตร V6 สูบ 60 องศา
กำลังสูงสุด : 275 แรงม้า
ระบบเกียร์ : ZF 8 จังหวะ อัตโนมัติ
แรงบิดสูงสุด : 600 นิวตัน-เมตร
ความเร็วสูงสุด : 250 กม./ชม.
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. : 6.3 วินาที
อัตราความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง โดยเฉลี่ย / นอกเมือง / ในเมือง
5.9 / 4.9 / 7.8 ลิตร/100 กม.
ปริมาณไอเสีย โดยเฉลี่ย / นอกเมือง / ในเมือง
158 / 129 / 206 กรัม/กม.
Maserati Granturismo MC Stradale
มาเซอร์ราติได้ปรับแต่งทั้งทางด้านความงดงามและพละกำลังของ Granturismo MC Stradale ไปสู่เครื่องจักรกลที่มีความเร็วสูง แต่สามารถควบคุมบังคับได้อย่างไม่ยากเย็นด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยผสมผสานเข้ากับรูปทรงที่มีความงดงาม
การเปิดตัวครั้งแรกมีขึ้นในปี 2010 Granturismo MC Stradale รถสปอร์ต 2 ที่นั่งซึ่งได้รับการพัฒนาแนวความคิดมาจากรถแข่ง Trofeo จนกลายมาเป็น Granturismo คูเป้ และในปีนี้มาเซอร์ราติ ได้มีความคิดที่จะปรับให้รถรุ่นนี้ซึ่งเป็นสปอร์ต 2 ที่นั่ง น้ำหนักเบา ให้กลายมาเป็น รถสปอร์ต 4 ที่นั่ง ในนามของ Granturismo MC Stradale 2013
ฝากระโปรงหน้าใหม่ทำจากวัสดุคาร์บอน-ไฟเบอร์ ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยสร้างแรงกดในขณะใช้ความเร็วสูงและยังช่วยในเรื่องการระบายความร้อนอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีผลทำให้ Granturismo MC Stradale 4 ที่นั่ง มีน้ำหนักตัวที่ใกล้เคียงกับเวอร์ชัน 2 ที่นั่งด้วย (1,700 กก.) ซึ่งหมายความว่า Granturismo MC Stradale จะยังคงเป็นรถที่มีน้ำหนักเบาที่สุดและเร็วที่สุดในคลาสนี้ แม้ว่าจะให้ความสะดวกสบายสำหรับผู้ใหญ่ถึง 4 ที่นั่ง แทนที่รถยนต์แบบ 2 ที่นั่ง ซึ่งเคยผลิตออกมา การพัฒนาของ Granturismo MC Stradale ได้พิสูจน์แล้วว่า ทางมาเซอร์ราติไม่เคยละเลยในการให้ความสำคัญกับรถประเภท 2 ประตู คูเป้ แม้ว่าในระดับโลกจะหันไปมองเป้าหมายไว้ที่ Quattroporte รุ่นใหม่ล่าสุด
Granturismo MC Stradale ติดตั้งเครื่องยนต์ที่ให้พละกำลังสูงสุดจากค่ายมาเซอร์ราติ แบบ V8 สูบ 4.7 ลิตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ในเวลาแค่ 4.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 303 กม./ชม. Granturismo MC Stradale เป็นรถที่มีกำลังสูงสุดถึง 460 แรงม้า (338 กิโลวัตต์) ในเวอร์ชั่นเครื่องยนต์ 4.7 ลิตร V8 สูบ จะทำงานร่วมกับเกียร์ที่มีน้ำหนักเบาและเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็ว แบบ 6 สปีด ควบคุมการทำงานด้วยไฟฟ้า ที่เรียกว่า “MC Race Shift” พื้นฐานจากรุ่น Granturismo Sport
ในเวอร์ชันนี้ติดตั้งเครื่องยนต์ที่ออกแบบมาอย่างคลาสสิค ขนาด 4.7 ลิตร V8 สูบ ชิ้นส่วนในเครื่องยนต์ได้รับการเคลือบมาเป็นอย่างดีเพื่อลดแรงเสียดทานซึ่งจะมีผลต่อการเพิ่มพละกำลังและประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง การวางตำแหน่งระบบเกียร์นอกจากจะมีผลให้ Granturismo MC Stradale มีการกระจายน้ำหนัก หน้า : หลัง ที่ใกล้เคียงกันในอัตรา 48:52 แล้ว ยังมีผลทำให้ต่อการเปลี่ยนตำแหน่งไปสู่เกียร์ที่สูงขึ้นในเวลาเพียง 60/1000 วินาที เทียบได้ว่าเร็วกว่าการกระพริบตา 1 ครั้งถึง 5 เท่าตัว
ภายในห้องเกียร์จะติดตั้งเฟืองท้ายแบบ ลิมิเต็ด-สลิพ มาให้อย่างสมดุลด้วย ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดถ่ายทอดกำลังตามการใช้งานในขณะนั้น แบ่งออกเป็น Automatic, Sport และ Race modes ในแต่ละระดับจะมีการตอบสนองอัตราเร่งที่แตกต่างกัน รวมไปถึงเสียงจากท่อไอเสียและระบบป้องกันล้อหมุนฟรี เป็นประสบการณ์ที่ได้รับจากสนามแข่งรถ การทำงานของเกียร์จะอนุญาตให้ลดตำแหน่งเกียร์ลงต่ำได้ทีละตำแหน่งโดยผู้ขับขี่สามารถควบคุมไม่ให้เกียร์ลดตำแหน่งลงได้โดยใช้นิ้วดึงไว้ที่แป้น แพดเดิล ชิฟท์ ขณะเบรก และระบบจะยอมเปลี่ยนให้เกียร์ลงในสู่ตำแหน่งที่ต่ำลงไปได้ตามปกติก็ต่อเมื่อแป้นแพดเดิลถูกปลดปล่อยออก
จากการที่ Granturismo MC Stradale เป็นรถที่มีสมรรถนะสูง ระบบเบรกจึงต้องมีพละกำลังตามไปด้วย ทางผู้ผลิตได้เลือกใช้จานเบรกแบบเซรามิคทั้ง 4 ล้อ ลูกสูบเบรกตัวหลักจะมีเส้นผ่าศูนย์กลางถึง 27 มม. ให้พละกำลังในการหยุดรถที่สูง มีระยะการทำงานที่สั้นกว่ารถธรรมดาทั่วไป จานเบรกด้านหน้ามีขนาด 380 x 34 มม. แคลิเปอร์เบรกมี 6 สูบ ในขณะที่จานเบรกด้านหลังมีขนาด 360 x 32 มม. แคลิเปอร์เบรกมี 4 สูบ วงล้อฟอร์จน้ำหนักเบาขนาด 20 นิ้ว พร้อมยางที่ได้รับการพัฒนามาจาก Pirelli รุ่น PZero Corsa ยางหน้าขนาด 255/35 ZR20 ด้านหลังขนาด 295/35 ZR 20 ให้การยึดเกาะถนนขณะเข้าโค้งได้อย่างยอดเยี่ยม ระบบรองรับและแชสซีส์ ได้รับการออกแบบมาเพื่อการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพบนแทรค โดยที่มิได้ละเลยการนำรถมาใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวกสบาย แชสซีส์ได้รับการพัฒนาให้รถรุ่นนี้ขับง่าย รวมไปถึงความสะดวกสบายเท่าที่สามารถจะทำได้ ตอบสนองได้อย่างเป็นธรรมชาติ จากการที่ฐานล้อยาวจะช่วยเพิ่มความมั่นคงในการขับขี่ได้เป็นอย่างดีฐานล้อขนาด 2,938 มม. มีส่วนสำคัญอย่างมาก แต่ประสิทธิภาพในการควบคุมบังคับรถในสภาพต่างๆ สามารถเปลี่ยนความรู้สึกในการขับขี่จากความดุดัน ก้าวร้าว ของรถสำหรับวิ่งในสนามแข่งมาสู่รถถนนใช้งานประจำวัน หรือ การขับด้วยความเร็วสูงบนออโทบาร์น รถจะสามารถรองรับอารมณ์ที่หลากหลายของนักขับได้เป็นอย่างดี จากการปรับสภาพรถแข่งให้สามารถนำมาใช้งานบนท้องถนนอย่างถูกกฎหมาย ความสูงของตัวรถด้านหน้าถูกปรับให้ลดต่ำลง 10 มม. ที่ด้านหน้า และ 12 มม. ที่ด้านหลัง เมื่อเทียบกับมาตรฐานของรุ่น Granturismo sport เพื่อให้การควบคุมบังคับทำได้อย่างดีเยี่ยมในบุคลิกของ super-sports car ที่สามารถรองรับการใช้งานในระดับสูงสุด ตัวรถได้รับการพัฒนาให้มีความสะดวกสบาย, ล้ำสมัย, สมดุล และให้ความสุนทรีภาพแก่ผู้ขับขี่ทุกท่าน
ในขณะที่ Race modes ได้ถูกออกแบบมาในการทำความเร็วต่อรอบได้อย่างรวดเร็วที่สุด แต่ยังคงไว้ซึ่งความปลอดภัยในระดับสูงอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้รถรุ่นนี้มีผลดีในด้านอากาศพลศาสตร์ คือ การเลือกใช้ฝากระโปรงหน้าทำจากวัสดุ คาร์บอน-ไฟเบอร์ ซึ่งได้รับบทเรียนมาจากรถแข่ง Trofeo และ GT4 ฝากระโปรงมีส่วนช่วย 2 ประการ คือ ช่วยลดน้ำหนักด้านหน้าลงและทำให้มีแรงกดที่ด้านหน้ารถเพิ่มขึ้นถึง 25% ในขณะรถวิ่งด้วยความเร็ว 140 กม./ชม. การพัฒนาที่อาศัยประสบการณ์จากข้อมูลที่ได้รับจากสนามแข่งและการทดสอบด้วยคอมพิวเตอร์ในเรื่องของการค้นคว้าด้านอากาศพลศาสตร์ ฝากระโปรงหน้าแบบใหม่จะช่วยเพิ่มความมั่นคงในขณะใช้ความเร็วสูง โดยไม่เพิ่มการต้านลมที่จะมีแรงดันเกิดขึ้นบริเวณใต้ฝากระโปรง
นอกจากฝากระโปรงหน้าทำจาก คาร์บอน-ไฟเบอร์ ซึ่งจะมีผลดีด้านอากาศพลศาสตร์แล้ว สปอยเลอร์ใต้กันชนด้านหน้า รวมไปถึงแผ่นสเกิร์ตด้านข้างตัวรถ กันชนด้านท้ายรถ และสปอยเลอร์หลังที่ติดตั้งอยู่บนฝากระโปรงท้าย ล้วนแต่มีผลต่อความมั่นคงของตัวรถขณะใช้ความเร็วสูงทั้งสิ้น การออกแบบในส่วนต่างๆ ของตัวรถเพื่อเพิ่มแรงกด และเป็นการนำอากาศเข้าไประบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์และระบบเบรก และพยายามทำให้กระแสลมที่หมุนเวียนอยู่บริเวณใต้ท้องรถให้มีปริมาณน้อยที่สุด
กระจังหน้าสีดำตัดกับเครื่องหมายตรีศูลสีแดง เป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นสะดุดตาของ Maserati ในสายพันธุ์ MC แต่ภายในตัวรถ Maserati Granturismo MC Stradale กลับมีการพัฒนาอย่างมากมาย เช่น เบาะนั่งน้ำหนักเบาทั้ง 4 ตัว ถูกทดแทนด้วยเบาะ 2 ตัว ในเวอร์ชัน 2 ที่นั่ง ของรถในปี 2010 เบาะคู่หน้าทำจาก คาร์บอน-ไฟเบอร์ น้ำหนักเบา แต่ยังคงความหรูหราที่เป็นเอกลักษณ์ของมาเซอร์ราติด้วยการนำมาบุด้วยหนังแท้สลับกับ Alcantara พนักพิงศีรษะของเบาะนั่ง 4 ตำแหน่งออกแบบมาเพื่อรองรับการกระแทกของศีรษะได้อย่างปลอดภัยในยามเกิดอุบัติเหตุตามปกติของการตกแต่ง เบาะนั่งจะถูกคาดด้วยสีเทาเข้ม แต่เบาะนั่งสามารถเปลี่ยนวัสดุมาเป็น Alcantara ที่เดินเส้นตามขอบด้วยด้ายสีแดงคู่เพื่อให้เข้ากับสีแดงที่สัญลักษณ์ตรีศูลที่กระจังด้านหน้า
Maserati Granturismo MC Stradale มีพวงมาลัยที่เป็นอุปกรณ์พิเศษให้เลือกติดตั้งเพิ่มถึง 3 รูปแบบ ทุกแบบจะมีปุ่มควบคุมแบบ มัลติฟังก์ชัน และด้านใต้วงพวงมาลัยจะมีลักษณะเรียบตรงไม่โค้งไปตามแนวของวงพวงมาลัย คุณสามารถเลือกวัสดุหุ้มพวงมาลัยว่าจะเป็นหนังแท้ทั้งหมดหรือเป็นหนังแท้สลับกับ Alcantara หรือจะเป็นหนังแท้สลับคาร์บอน-ไฟเบอร์ ก็ย่อมทำได้ตามที่คุณปรารถนา เพื่อเพิ่มบุคลิกที่ดุดันมากขึ้นในการตกแต่งภายในรถ ใน Maserati Granturismo MC Stradale จะมีแป้นแพดเดิล ชิฟท์ สำหรับเปลี่ยนเกียร์ ทำจากวัสดุอัลลอยซึ่งมีความยาวมากกว่า Granturismo รุ่นอื่นๆ เพื่อให้ง่ายต่อการเปลี่ยนเกียร์ในสถานการณ์ต่างๆ
Maserati Centenry
ในปี 2014 มาเซอร์ราติเฉลิมฉลองในวาระครบรอบ 100 ปี นับตั้งแต่ Alfieri, Ettore และ Ernesto Maserati ได้ทำการเปิด workshop เป็นครั้งแรกที่เมือง Bologna ในวันที่ 1 ธันวาคม 1914 มาเซอร์ราติได้จัดงานเฉลิมฉลอง 100 ปี ด้วยความยิ่งใหญ่ทั่วทั้งโลก งานฉลองเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 2 ธันวาคม 2013 ซึ่งเป็นวันที่บริษัทฯ เริ่มต้นเข้าสู่วาระ 100 ปี และจะทำการฉลองไปอีกเป็นเวลา 12 เดือนเต็มจนถึงเดือน ธันวาคม 2014 การเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่ในระดับโลกจัดขึ้นที่เมือง Modena ซึ่งเป็นเมืองที่ทางมาเซอร์ราติ ได้ย้ายมาทำการอยู่ที่นี่ตั้งแต่ปี 1933 และในปัจจุบันสำนักงานใหญ่ของ มาเซอร์ราติตั้งอยู่ที่เมืองนี้ จากเดือนมิถุนายนถึงเดือนธันวาคม Museo Casa Enzo Ferrari จะเป็นเจ้าภาพในการจัดนิทรรศการในวาระครบรอบ 100 ปี ของมาเซอร์ราติในเดือนกันยายน มาเซอร์ราติ ทั่วโลกมีการรวมตัวกันที่เมือง Modena อย่างเป็นทางการ โดยมีมาเซอร์ราติรุ่นเก่าจากทั่วทุกมุมโลกมารวมตัวกันกว่า 300 คัน
บริษัท เอ็มไพร์ มอเตอร์ สปอร์ต จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์มาเซอร์ราติอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย สำนักงานใหญ่ โทร. 0-2900-5353 และสาขาสยามพารากอน โทร. 0-2610-9441
ฝ่ายการตลาด: โทรศัพท์ 0-2900-5353 ต่อ 41 หรือ 080-077-7881
อีเมล์ waew@ferma.co.th
-
The Maserati at the Thailand International Motor Expo 2014




This centenary concept explores Maserati’s stylistic heritage and hints at the brand’s future design language
As a landmark event for Maserati in Thailand, Empire Motor Sport, the sole authorized dealer and service provider in Thailand, is proud to be a part of the Thailand International Motor Expo 2014. At this event, the current line-up of Maserati models will be on display including the newly launched Ghibli and Quattroporte Diesel models, new for the 2015 season as well as the iconic Maserati GranTurismo MC Stradale.
In this, its 100th year, the Maserati company is racing forward. An ambitious plan that took off in 2013 with the presentation of the Quattroporte and Ghibli models is transforming the Italian manufacturer into a serious player in the premium sports car segment. In just one year, from 2012 to 2013, global sales increased by 150%, from 6,200 to 15,400 cars.
Today, Maserati, a global automotive player with a complete model range, will be displaying a sample of three four-door saloons and one two-door GranTurismo MC Stradale exhibiting four engine types (twin turbos 3.8L V8 and 3.0L V6, a 4.7L V8 and 3.0L V6 turbo Diesel).
Maserati Quattroporte Diesel
With the original Quattroporte in 1963, Maserati invented the concept of the luxury sports sedan and the new Quattroporte continues to be the benchmark for high quality engineering, supercar performance and limousine comfort.
Maserati launched the all-new Maserati Quattroporte in 2013. The sixth-generation model delivers a leap forward that not only sets the high-technology tone for Maserati’s upcoming new-model onslaught, but also remains faithful to Maserati’s long history. The flagship of the Maserati product range is larger, lighter, more luxurious and more practical than the globally acclaimed car it replaces.
The powerful engine and the large cabin are at the core of the Quattroporte’s design, dominated by a long, powerful nose and a concave Trident grille and providing a clear link to both the outgoing Quattroporte and the GranTurismo.
Maserati’s new diesel engine, a 3.0 litre V6 Turbo, has been specifically developed by VM Motori according to Maserati’s requirements in terms of performance, efficiency and driving satisfaction.
The excellent technological characteristics of this power unit are based on a variable geometry turbocharger (VGT) with ball bearing to reduce internal friction and consequently turbo lag. Specific, high-efficiency injectors coupled with a 2000 bar fuel injection system optimise combustion, while variable geometry intake manifolds optimise output at all engine speeds. Specific steel double thin wall exhaust manifolds with Air Gap technology maintain a higher exhaust gas temperature, energise the flow of exhaust gas and contribute to the high specific power delivered.
These features lend this new Maserati the dynamic characteristics that have always distinguished all Maserati power units. The Quattroporte Diesel delivers 600 Nm of torque between 2000–2600 rpm and a maximum power of 275 hp at 4000 rpm. The engine accelerates the Quattroporte from 0-100 km/h acceleration in 6.4 seconds up to a maximum speed of 250 km/h. With a CO2 figure of 163 g/km and fuel consumption of less than 6.2 l /100 km (combined) the Maserati Quattroporte is also highly efficient.
The characteristic Maserati exhaust sound is one of the most desirable features of any Maserati product. Thanks to the Maserati Active Sound technology the Quattroporte Diesel exhaust system produces a characteristic Maserati sound that underlines the sporting nature of the car and can be varied at the touch of a button. Two sound actuators, fitted near the exhaust tailpipes, accentuate the engine’s most distinctive tones and modulate them according to the way the car is being driven. When the driver presses the Sport button on the central tunnel, the sound becomes even more resonant and utterly inspiring.
Quattroporte Diesel
Engine: 3.0L V6
Power: 275 hp
Transmission: ZF Eight Speed Automatic Gearbox
Torque: 600 Nm
Top Speed: 250 km/h
Acceleration 6.4s 0-100km/h
Consumption combined / extra-urban / urban: 6.2 / 5.2 / 7.8 (l/100 km)
CO2 emissions combined / extra-urban / urban: 163 / 137 / 206 (g/km)
Maserati Ghibli Diesel
With the all-new Ghibli Maserati enters the E-segment by combining breath-taking design with exceptional handling qualities and outstanding performance. Making inspirational motoring more accessible, Maserati’s new 4-door sports executive sedan appeals to the heart, the head and the soul.
The Ghibli provides a cornerstone in Maserati’s plan to build 50,000 cars a year by 2015. It is the second model after the flagship, the Quattroporte, to be manufactured to new benchmark quality standards in Maserati’s new state-of-the-art production facilities in Grugliasco close to Turin.
The Ghibli Diesel is the first ever diesel-powered car in Maserati’s history. The 3.0 litre V6 has been exclusively developed for Maserati under the watchful eye of Powertrain Director Paolo Martinelli, a legendary ex-Ferrari F1 engine designer. This new engine produces a best-in-its-class power output of 275 hp, while still achieving a CO2 figure of 158 g/km. A fuel consumption of less than 6.0 l /100 km and a 70-litre tank ensure a long range of over 1,000 kilometres, making the Ghibli Diesel a real grand touring long-distance champion.
The Ghibli Diesel boasts a maximum torque of 600 Nm between 2000-2600 rpm (with overboost turbocharging). It accelerates from 0 to 100 km/h in 6.3 seconds before going on to a top speed of 250 km/h.
The state-of-the-art engine includes a Common-Rail direct injection with a system pressure up to 2,000 bar. Multiple injections reduce fuel consumption and noise levels while also improving responsiveness and agility. In addition, the variable geometry turbocharger with variable nozzle turbine allows the engine to deliver both a high output and high torque from low revolutions.
The Start&Stop-System allows to further reduce consumption and CO2 emissions up to 6% (automatically disabled in Sport Mode and ESC OFF mode). It can be deactivated from the cluster display controls available on the right menu button of the steering wheel.
The Ghibli Diesel sounds like a Maserati should, thanks to the Maserati Active Sound technology. Active Sound gives an emotional sound signature to the exhaust note. Two sound actuators, fitted near the exhaust tailpipes, accentuate the engine’s most distinctive tones and modulate them according to the way the car is being driven. Depending on the requirement, the actuator is stimulated to produce the desired sound signature. The driver can select a more sporty and aggressive sound with the touch of a button.
Ghibli Diesel
Engine: 3.0L 60°V6
Power: 275 hp
Transmission: ZF Eight Speed Automatic Gearbox
Torque: 600 Nm
Top Speed: 250 km/h
Acceleration 6.3s 0-100km/h
Consumption combined / extra-urban / urban: 5.9 / 4.9 / 7.8 (l/100 km)
CO2 emissions combined / extra-urban / urban: 158 / 129 / 206 (g/km)
Maserati Granturismo MC Stradale
Maserati has turned its beautiful and potent GranTurismo MC Stradale into a machine that is just as fast but even more practical, technically advanced and even more beautiful.
First launched in 2010, the two-seat GranTurismo MC Stradale took development ideas from its Trofeo racing cars seamlessly blending them into its GranTurismo coupe. This year Maserati took those ideas and evolved its light-weight two-seat super coupe into the four-seat 2013 GranTurismo MC Stradale.
Its all-new carbon-fibre bonnet not only creates high-speed downforce and improves cooling, but also means the four-seat GranTurismo MC Stradale retains almost the same dry weight as the discontinued two-seat version (1700 kg.). This means it continues to be the lightest and fastest car in the Maserati GranTurismo range, even though it now offers comfort to four adults instead of two.
The ongoing development of the GranTurismo MC Stradale also proves that Maserati has not neglected the importance of its two-door coupe range even with the world’s focus on its all-new Quattroporte model.
Powered by the most potent version of Maserati’s 4.7-litre V8 engine, the GranTurismo MC Stradale hits 100km/h in just 4.5 seconds on its way to a top speed of 303km/h.
GranTurismo MC Stradale utilizes the most powerful 460CV (338kW) version of the 4.7-litre V8 and mates this to the lightning-fast gear shifts from its six-speed electro-actuated “MC Race Shift” transaxle gearbox.
Drawn from the GranTurismo Sport, this version of the classic 4.7-litre V8 benefits from diamond-like coating of its tappets and camshaft lobes as part of Maserati’s Low Friction Program to be both powerful and fuel efficient.
The transaxle gearbox layout not only helps the GranTurismo MC Stradale to retain an ideal 48:52 front-to-rear weight distribution, but also incorporates the brilliant MC Race gear shifting strategy that allows it to change to higher gears in just 60 ms, 5 times faster than a blink of an eye. The transaxle layout means that it sits in the same housing as the asymmetrical limited slip differential.
The powertrain package also delivers its drivers the choice of Automatic, Sport and Race modes, with each level delivering additional rewards in the throttle response, the exhaust note and the skid-control systems.
In another lesson drawn from its racing experiences, the gearbox also offers Sequential Downshifting, where the driver can simply hold the downshift paddle in while braking and allow the car to change to sequentially lower gears until the paddle is released.
All of the dynamic performance the GranTurismo MC Stradale generates is backed up by some of the most powerful brakes in production, with enormous carbon-ceramic brake discs at all four corners.
The brake master cylinder has a diameter of 27mm to add consistent power and to deliver a shorter pedal stroke than the standard car. The front brake package has 380mm x 34mm brake discs and six-piston calipers, while the rear has 360mm x 32mm discs and four-piston calipers.
It also rides four 20-inch forged alloy wheels that are lighter than the standard wheels, while Pirelli has developed its PZero Corsa tyres (255/35 ZR20 at the front and 295/35 ZR20 at the rear) specifically to deliver more mid-corner grip and progression for this layout.
The suspension and chassis layout enhance the already-impressive track performance of the GranTurismo MC Stradale without losing any of its abilities as a day-to-day car.
Its chassis poise was developed to be easy to drive and as comfortable as possible to retain all of the inherent handling, ride and stability benefits of the GranTurismo’s long wheelbase.
This long (2938mm) wheelbase is the key which unlocks the GranTurismo MC Stradale’s broad range of handling abilities across different conditions, allowing it to switch from a super-aggressive track car to a city commuter or autobahn express in the time it takes for the driver’s mood to change.
It has the speed to be a road-legal racing car, with its ride height lowered by 10mm at the front and 12mm at the rear compared to the standard GranTurismo Sport, yet it has the progressive handling to be considered an extremely usable super-sports car.
The car has been developed specifically to be comfortable, progressive, balanced and entertaining for all drivers, while its Race mode is designed to deliver fast lap times in complete security.
Another key to the delivery of this potential has been the retention of the 2012 GranTurismo MC Stradale’s aerodynamic benefits with the addition of the sculpted carbon-fibre bonnet. With lessons take directly from the Trofeo and GT4 racing programs, the bonnet contains an air inlet vent and two hot air extraction vents and delivers the twin benefits of reducing weight and adding 25 percent more frontal downforce at 140 km/h.
Developed from both track feedback and complex computational fluid dynamics (CFD) research, the new bonnet adds high-speed stability without increasing drag, largely by relieving under-bonnet pressure.
The new carbon-fibre engine cover joins a host of other Trofeo-derived aerodynamic updates that add high-speed stability and efficiency through the air. These include a deep front splitter integrated into the front bumper, deep functional side skirts, a re-profiled rear bumper and a pronounced rear lip spoiler on the boot.
All of these units combine as one integrated aerodynamic device to use the entire length of the car to generate downforce and to refocus the air from the engine and brake cooling systems into areas of maximum downforce and minimum turbulence.
Its black grille and the red accents on the Trident mark it as one of Maserati’s MC range even to casual observers, but some of the biggest developments have been inside the Maserati GranTurismo MC Stradale, where four lightweight seats replace the two seats from the discontinued 2010 two-seat version.
Front seats utilize carbon fibre back to achieve their low weight and also cater for Maserati’s traditional luxury with a combination of leather and Alcantara trims. All four seats also have integrated head restraints for safety and support.
The standard trims are soft black. The seats can be delivered with grippy Alcantara with “drilled” perforations to achieve a stylish, practical finish, coupled with red stitching to match the accents on the grille’s Trident.
The Maserati GranTurismo MC Stradale has three steering wheel options, all of which have multi-function buttons and a flat-bottomed section on the circumference.
They can be delivered in full leather, a combination of leather and Alcantara or a combination of leather and carbon-fibre.
To continue its more aggressive interior theme, the Maserati GranTurismo MC’s gearshift paddles are longer than those in other GranTurismos to facilitate easier gear shifting in more demanding driving situations, and come in concert with drilled alloy pedals.
Maserati Centenary
Maserati celebrated its centenary in September of 2014. One hundred years have passed since Alfieri, Ettore and Ernesto Maserati opened their first workshop in Bologna on December 1, 1914.
Maserati celebrated 100th anniversary in grand style all over the world. Celebrations started on December 2, 2013, the day the company entered its 100th year and will last for twelve whole months until December 2014.
The epicentre of these truly global celebrations was held in Modena, the town to which Maserati moved in 1939 and where the company’s global HQ is still located.
From June through December the Museo Casa Enzo Ferrari hosted a special exhibition dedicated to the Maserati centenary. In September, the official international Maserati gathered bringing to Modena at least 300 vintage Maseratis from all over the world.
-
นิสสัน เอ็กซ์เทรล ใหม่ พร้อมให้ยลโฉม ที่งานไทยแลนด์อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2014




- นิสสันเปิดตัว รถรุ่นใหม่ นิสสัน เอ็กซ์เทรล และ อัลเมร่า สปอร์ตเทค
- ดีไซน์ใหม่ทั้งรถและการจัดแสดงบูธ ที่ตอกย้ำความเป็นนวัตกรรมที่ตื่นเต้น เร้าใจ
นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย จัดแสดงกระบวนรถยนต์ระดับโลกที่เน้นย้ำคำมั่นสัญญาของบริษัทในการสร้างนวัตกรรมที่ตื่นเต้นเร้าใจ นอกเหนือจากการจัดแสดงรถที่ดึงดูดใจแล้ว นิสสันยังมีข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับรถทุกรุ่นเพื่อเป็นของขวัญปลายปีให้กับลูกค้าในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปครั้งนี้
ในงานนี้ นิสสันได้นำรถทุกรุ่นมาจัดแสดง ซึ่งรวมถึง นิสสัน เอ็กซ์เทรล รุ่นใหม่ล่าสุด รถผู้นำเทรนด์ อัลเมร่า สปอร์ตเทค และรถกระบะแข็งแกร่งอย่างมีสไตล์ เอ็นพี 300 นาวารา
นิสสัน เอ็กซ์เทรล ใหม่ ที่นิสสัน เชื่อมั่นว่า จะเป็นรถอเนกประสงค์ ที่จะได้รับความนิยมในประเทศไทยเนื่องจากเป็นรถที่มีนวัตกรรมใหม่ ที่ใช้เป็นครั้งแรกในโลกและในระดับกลุ่มรถอเนกประสงค์ในระดับเดียวกัน ซึ่งเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับผู้ผลิตรายอื่น และด้วยประสบการณ์กว่า 80 ปีของความรู้และความเชี่ยวชาญไปทั่วโลกพร้อมกับความน่าเชื่อถือระดับตำนาน ทำให้เอ็กซ์เทรล รุ่นใหม่นี้ ถูกออกแบบมาสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการรถคุณภาพที่พรั่งพร้อมด้วยสมรรถนะการทำงานที่ยอดเยี่ยมอีกทั้งยังประหยัดและปลอดภัย
นิสสัน เอ็กซ์เทรล ใหม่ มาพร้อมระบบเครื่องยนต์สมรรถนะสูงสองรุ่นที่ได้รับการพัฒนาให้ประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น รูปโฉมภายนอกถูกปรับเปลี่ยนรวมถึงฐานล้อที่ยาวขึ้น และการออกแบบรูปทรงใหม่ ที่ทำให้หลุดจากรูปลักษณ์ความเป็นกล่อง การตกแต่งภายในหรูหรากว่ารถในกลุ่มเดียวกัน รวมถึงความพร้อมด้วยเทคโนโลยีที่ทำให้การขับขี่รถเอ็กซ์เทรลนั้นเต็มไปด้วยประสบการณ์การขับขี่ที่รื่นรมย์
รถอีกรุ่นที่เปิดตัวพร้อมเอ็กซ์เทรล ใหม่ คือ นิสสัน อัลเมร่า รุ่น สปอร์ตเทค ใหม่ อัลเมร่าเป็นรถอีโค คาร์ ซีดาน ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทย ดังนั้นอัลเมร่ารุ่นใหม่นี้ถูกออกแบบมาเฉพาะสำหรับผู้นิยมความเป็นรถสปอร์ต ท่านจะได้พบกับกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ พร้อมช่องกันชนล่างลายรังผึ้งแบบสปอร์ต กระจังหน้า
แบบโครเมียม รมดำ สเกิร์ตด้านข้างและด้านหลัง ไฟหน้าฮาโลเจนพร้อมด้วยภายในสีโครเมียม รมดำ ไฟส่องสว่าง เวลากลางวัน พร้อมกับล้ออัลลอยด์ใหม่ขนาด 15 นิ้ว สีรมดำพิเศษ และโลโก้รุ่นด้านท้าย Sportech
และพวงมาลัยหุ้มหนัง ทั้งหมดนี้เป็นการออกแบบเพื่อให้อัลเมร่า สปอร์ตเทค เป็นรถที่ดูทันสมัยแต่เต็มไปด้วยพละกำลัง รถที่ร่วมแสดงด้วยอีกคันได้แก่เอ็นพี 300 นาวารา ซึ่งเป็นรถรุ่นที่ทำการเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทยเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
เอ็นพี 300 นาวารา เป็นรถกระบะของนิสสันรุ่นที่ 12 กระบะของนิสสันนั้นมีชื่อเสียงยาวนานในเรื่องความแข็งแกร่งและทนทาน และเป็นที่นิยมอย่างสูงในรถกลุ่มเดียวกัน รุ่นล่าสุดนี้นำเสนอความสะดวกสบายแบบใหม่ รวมถึงเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำจากประสบการณ์ที่มีมาทั่วโลก นิสสัน เอ็นพี 300 นาวาราจึงเป็นรถที่ตอบสนองต่อความต้องการส่วนบุคคลหรือผู้เป็นเจ้าของธุรกิจ เพิ่มความเป็นพิเศษมากขึ้นในวันนี้ด้วย เอ็นพี 300 นาวาร่า รุ่น King Cab Calibre S ลิมิเต็ด เวอร์ชั่น ซึ่งมีจำนวนจำกัด โดยได้มีการเพิ่มอุปกรณ์ชุดแต่งให้กับลูกค้าฟรีด้วยคิ้วกระจังหน้า ขอบไฟหน้า และกันชนหน้าโครเมียม พร้อมพื้นปูกระบะท้ายหรือเพิ่มเบดไลน์เนอร์
“ในปีนี้นิสสันต้องการตอกย้ำคำสัญญาที่มีให้แก่ประเทศไทย ดังจะเห็นได้จากโรงงานผลิตรถยนต์แห่งที่สองที่ลงทุนด้วยเงิน 1.1 พันล้านบาทได้เปิดทำการแล้ว และบริษัทได้ทำการเปิดตัวรถยนต์รุ่นสำคัญๆ หลายรุ่น ดังที่ท่านได้เห็นในงานครั้งนี้ รถยนต์ที่เรานำมาแสดงทั้งหมดนี้บ่งบอกถึงดีเอ็นเอของแบรนด์นิสสันคือ “นวัตกรรมที่เร้าใจ” จะเห็นได้ว่าลูกค้าได้ให้การตอบรับอย่างดีต่อรถรูปลักษณ์ใหม่ที่มาพร้อมเทคโนโลยีอันก้าวล้ำของเอ็กซ์เทรลและรถกระบะเอ็นพี 300 นาวารา โดยเราคาดว่ายอดขายน่าจะเป็นดังที่ตั้งไว้แม้ว่าปีนี้จะเป็นปีที่ยากลำบากสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทย” นาย ฮิโรยูกิ โยชิโมโตะ ประธาน บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าว
บูธของนิสสันในงาน Thailand International Motor Expo ครั้งที่ 31 นี้ถูกออกแบบโดยทีมผู้เชี่ยวชาญการสร้างสรรค์เทคโนโลยีพร้อมกับอุปกรณ์สื่อสารรูปแบบต่างๆ ภายใต้พื้นที่ 1,452 ตารางเมตร ภายใต้วงแหวนแห่งประสบการณ์ โดยจะเน้นการถ่ายทอดสัมผัสแห่งความปิติยินดีที่นำเสนอจากความสำเร็จอันน่าภาคภูมิใจในอดีตของนิสสันในฐานะที่เป็นหนึ่งในบริษัทผลิตยานยนต์ที่ใหญ่และดีที่สุดในโลก
นอกจากนี้ นิสสันได้นำเสนอสิ่งน่าสนใจรูปแบบใหม่ได้แก่การใช้พลังของกลิ่นหอม ซึ่งนับได้ว่าเป็นครั้งแรกในการจัดงานแสดงมอเตอร์โชว์ในประเทศไทย โดยนิสสันได้เริ่มใช้นวัตกรรมของการสร้างกลิ่นหอมในบูธให้กับผู้เยี่ยมชมพื้นที่ของนิสสันในงานปารีสมอเตอร์โชว์เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ผู้ชมพื้นที่ในบูธนิสสันต่างชื่นชมในกลิ่นหอมของอโรมาที่ฟุ้งกระจายซึ่งก่อให้เกิดความรู้สึกสงบและผ่อนคลายภายใต้บรรยากาศความ
พลุกพล่านและวุ่นวายของงานเอ็กซ์โป ระบบกลิ่นอโรมาแบบเดียวกันนี้จะช่วยสร้างบรรยากาศความสงบสุขและเยือกเย็นที่บูธนิสสันในกรุงเทพ
นอกเหนือจากขบวนรถยนต์หลากหลายรุ่น และข้อมูลนวัตกรรมอื่น ๆ ที่นิสสันได้นำมาจัดแสดงแล้ว นิสสันยังมีข้อเสนอที่น่าสนใจส่งท้ายปีให้กับลูกค้าผู้สนใจมากมาย ครบทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็นดาวน์ต่ำ หรืออัตราดอกเบี้ย 0% หรือโปรแกรมการผ่อนชำระแบบพิเศษกับนิสสัน อีซี่เปย์ รวมทั้งข้อเสนอพิเศษอื่นๆ โดยท่านสามารถหารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นิสสันเวปไซต์ หรือเพียงแต่เข้ามาเยี่ยมชมบูธนิสสันในงานตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2014 ที่เมืองทองธานี
-
วอลโว่ S60 Polestar STCC โชว์สมรรถนะระดับแชมป์โลก บุกมอเตอร์เอ็กซ์โปด้วยทัพวอลโว่เครื่องยนต์แรง ประหยัดเชื้อเพลิง พร้อมโปรโมชั่นโดนใจ




วอลโว่ยกต้นฉบับความแรงจากสนามแข่งระดับโลกบุกมอเตอร์เอ็กซ์โป 2014 ส่ง “S60 Polestar STCC” ตัวจริงที่คว้าแชมป์ Swedish Touring Car Competition (STCC) 2 ปีซ้อนตรงจากสวีเดนมาโชว์ตัวให้คนไทยได้ยลโฉมกันแบบเต็มๆ พร้อมนำขบวนรถยนต์วอลโว่ที่มาพร้อมเครื่องยนต์สมรรถนะสูงแต่ประหยัดเชื้อเพลิง ครบเครื่องด้วยนวัตกรรมความปลอดภัยเหนือระดับ ให้ลูกค้าขับสนุก มั่นใจ ปลอดภัยทุกเส้นทาง รวมทั้งโปรโมชั่นสุดพิเศษเฉพาะในงาน
นางฉันทนา วัฒนารมย์ ประธาน บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “งานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2014 เป็นอีกครั้งหนึ่งในชีวิตที่คนไทยจะได้สัมผัสกับความเหนือชั้นด้านสมรรถนะของวอลโว่ ไม่ว่าจะเป็นแชมป์รถแข่งระดับโลกตัวจริงของวอลโว่ S60 Polestar STCC ที่เพิ่งคว้าชัยชนะใน STCC มาหมาดๆ เป็นปีที่ 2 ซึ่งเรานำมาโชว์เป็นไฮไลต์ในงานปีนี้ สุดยอดสมรรถนะของเครื่องยนต์ทรงพลังแห่งอนาคต Drive-E Powertrains ในรถยนต์รุ่นใหม่ของวอลโว่ที่นำมาโชว์ในงาน ซึ่งเป็นเครื่อง 4 สูบ พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ที่ให้พลังเท่ากับรถ 6 สูบในปัจจุบันแต่ประหยัดและปล่อยไอเสียต่ำกว่า รวมทั้งเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยระดับโลกที่ช่วยให้คุณใช้สมรรถนะของรถยนต์วอลโว่เต็มที่ ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่คุณจะได้สัมผัสด้วยตนเองที่บูธวอลโว่”
สุดยอดสมรรถนะระดับโลก - วอลโว่ S60 Polestar STCC
วอลโว่ S60 Polestar STCC สีฟ้าสดใสที่เป็นสัญลักษณ์ของทีมวอลโว่ โพลสตาร์ เรซซิ่ง พัฒนาขึ้นจากความร่วมมือระหว่างวอลโว่และ Polestar ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยียานยนต์ เพื่อให้ได้รถยนต์สมรรถนะสูงสุดสำหรับการประลองความเร็วและแม่นยำในสนามแข่ง Swedish Touring Car Competition หนึ่งในรายการแข่งรถยนต์ที่ทั่วโลกจับตามอง วอลโว่ S60 Polestar STCC ติดตั้งเครื่องยนต์ 6 สูบ ความจุ 3500 ซีซีให้พลังสูงสุด 420 แรงม้า เกียร์ 6 สปีดแบบซีเควนเชียล แรง ตอบสนองทันใจ และเป็นพาหนะสำคัญที่ทำให้เท็ด บียอร์ค นักแข่งมือฉกาจที่หาตัวจับยากของทีมวอลโว่ โพลสตาร์ คว้าแชมป์รายการนี้มาได้ถึง 2 ปีซ้อน โดยในปี 2557 นี้ วอลโว่ ครองแชมป์ทั้งประเภทนักขับ และประเภททีม ทำให้ทีมวอลโว่พร้อมจะลงสู่สนามแข่งในปีหน้าด้วยแต้มต่อที่เหนือกว่าคู่แข่ง
จากสนามแข่งสู่รถบ้าน – Drive-E Powertrains และ Polestar Performance Optimisation
จากประสบการณ์กว่า 10 ปีในสนามแข่ง โพลสตาร์และวอลโว่ร่วมกันนำความรู้ ความชำนาญและประสบการณ์จากสนามแข่งมาร่วมกันพัฒนาเครื่องยนต์ใหม่ในรถยนต์วอลโว่ ทั้งในรูปของเครื่องยนต์ใหม่ Drive-E Powertrains พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด และชุดเพิ่มสมรรถนะ Polestar Performance Optimisation เพื่อเพิ่มสมรรถนะแรงม้าและแรงบิดให้แก่รถยนต์วอลโว่ ซึ่งนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 จนถึงปัจจุบันมีการจำหน่ายและติดตั้งชุดเพิ่มสมรรถนะดังกล่าวให้แก่ลูกค้าแล้วมากกว่า 60,000 คันในกว่า 60 ประเทศ
DRIVE-E Powertrains เครื่องยนต์แห่งอนาคตของวอลโว่
Drive-E Powertrains เป็นนวัตกรรมเครื่องยนต์แห่งอนาคตผลงานความร่วมมือระหว่างวอลโว่และ Polestar ที่จะติดตั้งในรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ของวอลโว่
“เพราะวอลโว่มีจุดยืนในการพัฒนารถยนต์โดยใช้คนเป็นศูนย์กลาง หรือ Designed Around You เราพัฒนาและนำเสนอรถยนต์และเทคโนโลยีที่สอดคล้องกับชีวิตและความต้องการของคนอย่างแท้จริง เราทราบดีว่านอกจากความปลอดภัยที่ทุกคนเชื่อมั่นในวอลโว่ สมรรถนะเหนือระดับคือสิ่งที่ลูกค้าทุกคนต้องการเช่นกัน วอลโว่จึงได้ร่วมกับโพลสตาร์นำประสบการณ์จากสนามแข่งมาพัฒนาเป็น Drive-E Powertrains เครื่องยนต์สำหรับวอลโว่ใหม่ทุกรุ่น โดยเป็นเครื่องยนต์ที่มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบาลงกว่าเดิม ประหยัดน้ำมันมากกว่าเดิม และเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ขนาดเดียวกัน เทคโนโลยีใหม่นี้ให้พลังสูงกว่าแต่ปล่อยไอเสียต่ำกว่า ซึ่งเป็นประโยชน์ทั้งต่อลูกค้าและโลกของเรา” นางฉันทนากล่าว
เครื่องยนต์ Drive-E Powertrains มีทั้งเครื่องเบนซินและดีเซล โดยเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ T5 แบบ 4 สูบมาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด แต่ให้พลังมากถึง 220 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตัน-เมตรในช่วง 1,500-4,000 รอบต่อนาที และยังประหยัดน้ำมันมากขึ้นกว่าเดิมประมาณ 10-30% ส่วนเครื่องยนต์ Drive-E Powertrains แบบดีเซล มาพร้อมเทคโนโลยี i-ART ที่ติดตั้งคอมพิวเตอร์ไว้ในหัวฉีดของแต่ละลูกสูบ ทำให้ฉีดจ่ายน้ำมันได้อย่างแม่นยำเหมาะสมในทุกจังหวะการเผาไหม้ เครื่องยนต์ D4 ดีเซลคอมมอนเรลทวินเทอร์โบ ให้พลังสูงถึง 181 แรงม้า ที่ 4,250 รอบต่อนาที แรงบิด 400 นิวตัน-เมตร (Nm) ในช่วง 1,740-2,500 รอบต่อนาที นอกจากนี้ เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดยังเปลี่ยนเกียร์ได้นุ่มนวลราบรื่น ตอบสนองดีในทุกย่านความเร็ว จึงให้การขับขี่ที่ประทับใจเต็มที่
เทคโนโลยีระดับโลก
นอกจากนี้ยังพบกับสุดยอดเทคโนโลยีระดับโลกด้านความปลอดภัยและความสะดวกสบายของผู้ขับขี่ได้ในรถยนต์ชั้นนำที่วอลโว่นำมาโชว์ในงาน โดยวอลโว่ได้พัฒนาระบบความปลอดภัยต่างๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ เทคโนโลยีที่ช่วยให้รถไม่ชนรถขณะขับขี่ที่ความเร็วต่ำ (City Safety) รถไม่ชนคน (Pedestrian Detection with Full Auto Brake) และรถไม่ชนจักรยาน (Cyclist Detection with Full Auto Brake) นอกจากนี้ยังมี ระบบที่คอยเป็นตาหลังให้ขณะถอยรถออกจากช่องจอดได้อย่างปลอดภัย โดยระบบ Cross Traffic Alert จะส่งสัญญาณเตือนหากมีรถคันอื่นวิ่งมาจากด้านข้าง และระบบช่วยในการจอดรถขนานขอบทาง (Park Assist Pilot) และอื่นๆ อีกมากมาย
ไฮไลต์รถยนต์พร้อมแพ็คเกจพิเศษ
นอกจาก Volvo S60 Polestar STCC แล้ว ยังมีรถยนต์หรู 3 รุ่นที่วอลโว่เพิ่มชุดแต่งเพิ่มความเท่ เพื่อลูกค้าที่สนใจสั่งจองในงานได้แก่
S60 T4F R-Design Styling Kit ราคา 2,325,000 บาท
ซีดานหรูขนาดกะทัดรัดสไตล์สปอร์ตแรงด้วยเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ ไดเร็คอินเจ็คชั่น จุ 1.6 ลิตร ให้พลังสูงสุด 180 แรงม้าที่ 5,700 รอบต่อนาที และทอร์ค 240 นิวตันเมตรในช่วง 1,600-5,000 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 9 วินาที อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยใน-นอกเมือง 14.7 ก.ม. ต่อลิตร (สำหรับน้ำมันเบนซิน) และ 10.6 กิโลเมตรต่อลิตร สำหรับน้ำมัน E85
ชุดแต่ง R-Design Styling Kit
กันชนหน้า R-Design
แผงกันชนหลัง R-Design
ท่อไอเสียคู่ R-Design
ครอบกระจกมองข้าง silk metal
ล้ออะลูมิเนียมขนาด 8 x 19” ลาย Ixion II
V60 T4F R-Design Styling Kit ราคา 2,425,000 บาท
สปอร์ตแวกอนพร้อมชุดแต่ง R-Design เครื่องยนต์ GTDi ความจุ 1.6 ลิตร ทำจากอลูมิเนียมน้ำหนักเบา ให้พลังสูงสุด 180 แรงม้าที่ 5,700 รอบต่อนาที และทอร์ค 240 นิวตันเมตรในช่วง 1,600-5,000 รอบต่อนาที จึงตอบสนองได้ทันใจในทุกรอบเครื่อง อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 9.2 วินาทีและทำความเร็วสูงสุดได้ 220 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมทั้งประหยัดน้ำมันได้อย่างน่าทึ่ง โดยสามารถวิ่งเฉลี่ยใน-นอกเมือง 12.9 กิโลเมตรต่อน้ำมันเชื้อเพลิง 1 ลิตร หรือ 10.2 กิโลเมตรต่อลิตรเมื่อเติมด้วย E85
ชุดแต่ง R-Design Styling Kit
กันชนหน้า R-Design
แผงกันชนหลัง R-Design
ท่อไอเสียคู่ R-Design
ครอบกระจกมองข้าง silk metal
ล้ออะลูมิเนียมขนาด 8 x 19” ลาย Ixion II
S80 T4 Sport Package ราคา 3,099,000 บาท
ซีดานหรูรุ่นใหญ่ ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ (GTDi) T4 ความจุ 2 ลิตร ให้พลังงานสูงสุด 203 แรงม้าที่ 6,000 rpm และแรงบิดสูงสุด 300 Nm ที่ 1,750-4,000 rpm พร้อมเกียร์เพาเวอร์ชิฟท์ 6 สปีด ปรับตามสไตล์การขับขี่ และเกียร์ทรอนิก อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเพียง 11.9 กิโลเมตรต่อ 1 ลิตร ในดีไซน์เรียบหรู ทันสมัย สะท้อนสมรรถนะสูง ด้วยชุด Sport Package
ชุด Sport Package
ซอฟแวร์ Polestar Performance Optimisation เพิ่มแรงม้าและแรงบิด
ชุดท่อไอเสียพร้อมปลายท่อแบบคู่
ชุดโครเมียมบริเวณฝากระโปรงท้าย
สปอยเลอร์หลัง
ชุดชายกันชนล่างด้านหลัง
ล้ออะลูมิเนียม ขนาด 8x19 ลาย Bor สี Tech Black Grossy
แคมเปญพิเศษในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31 ได้แก่
Volvo XC90 D5 ข้อเสนอพิเศษสุดแห่งปี 5 ปี 4 รายการ ดอกเบี้ย 0% นาน 5 ปี ฟรี ประกันภัยชั้น 1 นาน 5 ปี ฟรีบริการบำรุงรักษานาน 5 ปี และฟรีประกันคุณภาพสูงสุด 5 ปี
Volvo V40 T5 ผ่อนเริ่มต้นที่ 18,880 บาท
Volvo S80 T4 ดอกเบี้ย 0% นาน 5 ปี ฟรีบริการบำรุงรักษานาน 5 ปี ฟรีประกันคุณภาพสูงสุด 5 ปี และฟรีประกันภัยชั้น 1 1 ปี
Volvo S60 T4F และ V60 T4F ดอกเบี้ย 0.6 % นาน 5 ปี
เพิ่มสมรรถนะวันนี้ในราคาพิเศษ
เพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะที่วอลโว่ได้คว้าแชมป์ การแข่งขัน Swedish Touring Car Competition (STCC) ในปีนี้ วอลโว่มอบข้อเสนอพิเศษให้ลูกค้าเพิ่มสมรรถนะรถยนต์ ได้ในราคาเพียง 39,900 บาท จากราคาปกติ 53,000-57,400 บาท (ราคาอาจแตกต่างในแต่ละรุ่นรถ) สำหรับลูกค้าทุกท่านที่ใช้รถยนต์วอลโว่รุ่นที่สามารถเพิ่มสมรรถนะด้วย Polestar Performance Optimisation ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธันวาคมนี้ ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมวอลโว่ทั่วประเทศ หรือ Volvo Care Center โทร. 02 305 4499
-
Volvo S60 Polestar STCC showcases world champion performance Powerful, fuel efficient cars and hot promotions offered at Motor Expo




Bringing the world champion racing car from Sweden to Thailand, Volvo showcased the “S60 Polestar STCC”, the actual racing car that recently won Swedish Touring Car Competition for the second consecutive year, at Motor Expo 2014. Joining the world’s champion racing car are a full line-up of Volvo luxury cars with high performance and low fuel consumption engines with a full package of world’s leading safety innovation and impressive drivability. Not-to-be-missed promotions offered are designed to satisfy customers.
Mrs. Chantana Vatanaromya, President of Volvo Car (Thailand) Ltd., said, “Thai consumers will have another once-in-a-lifetime moment as they will witness closely the racing car that has just claimed its championship at the Swedish Touring Car Competition for the 2nd year. The Volvo S60 Pole Star STCC car is just one proof of Volvo’s outstanding performance. At the Motor Expo 2014, visitors will have a great opportunity to explore other Volvo’s proofs of performance, including the Drive-E Powertrains, the 4-cylinder engine that is as powerful as 6-cylinder engine but consumes less fuel and emits less carbon dioxide, and many world’s first technologies that allow Volvo drivers to enjoy the superior performance of their vehicles.”
Volvo S60 Polestar STCC – the world’s powerful champion
Volvo S60 Polestar STCC in Volvo Polestar Racing Team’s signature bright blue color is the fruit of cooperation between Volvo and Polestar, the automotive technology specialist. Both companies have been working closely together to make a car that is fast and accurate in the STCC race track. Volvo Polestar STCC is powered by 6-cylinder 3,500 cc engine that produces 420 HP. The 6-speed sequential with paddles on the steering wheel also allows the vehicle to be controlled effectively. The vehicle is one of the main factors enabling Ted Bjork, Volvo Polestar Racing team to wind up the recent STCC with the championship title. This year, Volvo Polestar Racing Team won both team and racer championship title, leaving Volvo in a stronger position to begin the next year racing season.
From the race track to road cars
From over 10 years of experience in the race track, Volvo and Polestar have been working together in bringing experience on the race track to road cars through the Volvo Drive-E Powertrains and Polestar Performance Optimisation. Polestar has also been playing a vital role in the development of the new Volvo Drive-E Powertrains that produces high power but low fuel consumption and emission. The Polestar Performance Optimisation, meanwhile, has enabled Volvo cars to enjoy additional power and torque. Since launched in 2009, more than 60,000 cars in over 60 countries worldwide have been optimized.
Drive-E Powertrains: Engine the Future
Drive-E Powertrains are the latest engine innovations in which Polestar’s experience and racing expertise have been integrated into Volvo’s engine and will be installed in future Volvo cars.
“Based on “Designed Around You” concept in which people are the center of everything we do, Volvo has been offering the cars and technologies that are relevant to people’s need. We know that in addition to safety that people expect from Volvo, performance is another area people believe in us. We therefore work with Polestar in integrating racing experience and expertise into Volvo’s Drive-E Powertrains, which is a smaller, lighter and consumes less fuel compared to other engines of the same size but delivers higher power and emits less carbon dioxide. This is the real engine for the future that brings greater benefits to our customers and to the world,” said Chantana.
Drive-E Powertrains include both benzene and diesel. The benzene turbo T5 engine comes with 8-speed automatic transmission and delivers as much as 220 horse power and high torque of 350 Nm in the 1,500-4,000 rpm range. It consumes 10-30% less engine. The diesel D4 commonrail engine with twin turbocharger is equipped with the world’s first i-ART technology which integrates a sensor on each injector, allowing for precise fuel injection for greater responsiveness and fuel efficiency. The diesel commonrail D4 engine produces as high as 181 hp at 4,250 rpm, 400Nm torque in the 1,740-2,500 rpm range. The 8-speed automatic transmission also allows for smooth operations and gear change and great responsiveness for impressive drivability.
World’s best technologies found in Volvo
Also featured at the Motor Expo 2014 are many world’s first and impressive safety technologies and driver’s comfort that are integrated in Volvo cars. Among those technologies are City Safety, Pedestrian Detection with Full Auto Brake, Cyclist Detection with Full Auto Brake, Cross Traffic Alert that warns driver when another car approaching at the back, Park Assist Pilot and many more.
?
Highlights
In addition to Volvo S60 Polestar STCC, other highlights at Volvo booth are three models with sporty styling kits as follows:
S60 T4F R-Design Styling Kit available only at Bt2,325,000
The sporty compact luxury sedan comes with 1.6Lt benzene turbo charger direct injection, delivering 180 Hp at 5,700 rpm range and torque of 240 Nm within 1,600-5,000 rpm range. Acceleration from 0-100 kmh takes only 9 seconds. Average fuel consumption is 14.7 km/lt (benzene engine) and 10.6 km/lt for E85 fuel.
The vehicle comes now with R-Design Styling Kit:
R-Design front bumper
R-Design rear diffuser
R-Design sport exhaust pipes
Silk metal door mirror covers
8x19” Ixion II aluminum wheels
V60 T4F R-Design Styling Kit available at Bt2,425,000
The sports wagon designed for people who would like some extra space and flexibility without the slightest compromise on sporty design and exciting driving properties. The 1.6 Lt engine is made from light-weight aluminium, producing 180Hp at 5,700rpm and delivers maximum torque of 240Nm from just 1,600 and all the way up to 5,000 revs a minute. It can accelerate from 0-100 km in only 9.2 seconds and maximum speed of 220 km/h. The average fuel consumption (city and highway driving combined) is 12.9 km per one litre of fuel or 10.2 k.m. per one litre of E85 fuel.
R-Design Styling Kit:
R-Design front bumper
R-Design rear diffuser
R-Design sport exhaust pipes
Silk metal door mirror covers
8x19” Ixion II aluminum wheels.
S80 T4 Sport Package, Bt 3,099,000
The luxury sedan is powered by 2.0Lt T4 benzene engine delivering 203 Hp at 6,000 rpm and the highest torque of 300 Nm at 1,750,-4,000 rpm. The 6-speed Powershift transmission system with Geartronic provides smooth operations and responsive gearshift, enhancing driving enjoyment. The average fuel consumption is 11.9km per one litre. Its stylish design is enhanced by the Sport Package, including:
Polestar Performance Optimisation
Dual exhaust with end pipes
Chrome strip on trunk lid
Trunk spoiler
Lower bumper spoiler
Bor “Alloy wheel 8x19”, Tech Black Glossy color.
Not-to-be-missed promotion
Volvo XC90 D5: comes with the best offer for the year – 0% interest for 5 years, Free first-class insurance for 5 years, Free maintenance for 5 years and Free warranty for 5 years
Volvo V40 T5 – low installment payment starting from Bt18,880
Volvo S80 T4 -- 0% interest for 5 years, Free maintenance for 5 years and Free warranty for 5 years, Free first-class insurance for 1 years,
Volvo S60 T4F and V60 T4F – 0.6% interest rate for 5 years
Optimised at special price
To celebrate Volvo’s championship at the Swedish Touring Car competition (STCC), Volvo allows its customers to optimize their vehicles with Polestar Performance Optimisation at only Bt39,900 from normal Bt53,000 – Bt57,400 price (depending on model). For more information, contact nationwide Volvo showrooms or call Volvo Care Center at 0 2305 4499.
-
เชลล์ จัดงาน “The Ultimate Excitement” มอบข้อเสนอสุดพิเศษในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2014


เชลล์ จัดงาน “The Ultimate Excitement” มอบข้อเสนอสุดพิเศษในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2014 ตื่นเต้นไปกับรถแข่งฟอร์มูล่า วัน เฟอร์รารี่ และพบข้อเสนอสุดพิเศษมากมายในงาน
บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด จัดงาน ‘The Ultimate Excitement’ มอบข้อเสนอสุดพิเศษส่งท้ายปี เชิญผู้ใช้รถทุกท่านร่วมรับของรางวัลพิเศษในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2014 เพียงซื้อบัตรเติมน้ำมันเชลล์ครบตามที่กำหนด รับทันที! สินค้าลิขสิทธิ์เฟอร์รารี่ที่ผลิตขึ้นเป็นพิเศษสำหรับลูกค้าเชลล์โดยเฉพาะหลากหลายรายการ
มร. แกรนท์ แมคเกรเกอร์ กรรมการบริหารธุรกิจค้าปลีก บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “ในฐานะผู้นำเทคโนโลยีน้ำมันเชื้อเพลิงระดับโลก เชลล์ มุ่งมั่นในการนำเสนอนวัตกรรมน้ำมันเชื้อเพลิงคุณภาพสูงให้ผู้บริโภคมาโดยตลอด โดยในปีนี้ เราได้จับมือกับบริษัท สื่อสากล จำกัด เพื่อร่วมงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2014 พร้อมตกแต่งบูธภายใต้คอนเซ็ปต์ Ultimate Excitement เพื่อสะท้อนภาพขุมพลังและความล้ำหน้าในการพัฒนานวัตกรรมน้ำมันคุณภาพสูงระดับโลกอย่าง เชลล์ วี-เพาเวอร์ ไนโตร+ ที่ลูกค้าสัมผัสได้ถึงความเร้าใจในการขับขี่เมื่อเติมน้ำมันเชลล์ นอกจากนี้ เรายังได้นำรถแข่งฟอร์มูล่า วัน เฟอร์รารี่ มาจัดแสดง โดย เชลล์ เป็นพันธมิตรทางเทคนิคกับเฟอร์รารี่ในการพัฒนาสูตรน้ำมันร่วมกันมากว่า 60 ปี”
ทั้งนี้ ภายในงาน เชลล์ได้นำเสนอความตื่นเต้นเร้าใจในแบบ เชลล์ วี-เพาเวอร์ ไนโตร+ ผ่านโชวป๊อปปิ้งแดนซ์สุดตระการตาและการเล่นเกมส์จำลองการขับขี่ที่ชื่อว่า Shell V-Power Nitro+ Racing และจัดแสดงข้อมูลนวัตกรรมเชื้อเพลิงคุณภาพอื่นๆ อาทิ เชลล์ E20 แก๊สโซฮอล์ และ เชลล์ ฟิวเซฟ ภายในงาน รวมถึงนำเสนอ Shell?Motorist App สำหรับมือถือและแท็บเล็ตเพื่อหาสถานีบริการน้ำมันเชลล์ที่ใกล้ที่สุดได้อย่างสะดวกและสบายยิ่งขึ้น
โดยนอกเหนือจากการจัดแสดงนวัตกรรมต่างๆ เชลล์ ยังมอบข้อเสนอสุดพิเศษมากมายให้แก่ผู้เข้าชมงานเพื่อส่งท้ายปี เพียงลูกค้าซื้อบัตรเติมน้ำมัน เชลล์ ครบตามที่กำหนด รับทันที! สินค้าลิขสิทธิ์เฟอร์รารี่ที่ผลิตขึ้นเป็นพิเศษสำหรับลูกค้าเชลล์โดยเฉพาะ นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถซื้อน้ำมันเครื่อง ‘เชลล์ เฮลิกส์ HX8’ และ ‘เชลล์ เฮลิกส์ อัลตร้า’ ในราคาพิเศษ พร้อมรับสินค้าไอที อาทิ เครื่องเล่น MP3 และกล้องติดรถยนต์ระบบอินฟาเรด ไปเป็นที่ระลึก และพิเศษสุดสำหรับลูกค้าที่สมัครบัตร ‘เชลล์คลับสมาร์ท’ ในงาน รับฟรี! 50 คะแนนในบัตร ส่วนลูกค้าที่เป็นสมาชิก ‘เชลล์คลับสมาร์ท’ อยู่แล้ว เพียงโชว์บัตรดังกล่าวให้กับพนักงานในงาน ก็สามารถรับฟรีเพิ่มอีก 50 คะแนน เช่นกัน
อย่าพลาด! พบกับข้อเสนอพิเศษส่งท้ายปีจาก เชลล์ ได้ที่งานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2014 ณ บูธหมายเลข D2 อาคารชาเลนเจอร์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2557 นี้เท่านั้น
-
“MOTOR EXPO 2014” ยิ่งใหญ่ รถใหม่เพียบ พร้อมแคมเปญเร้าใจ ฟื้นตลาดโค้งสุดท้ายต้อนรับ AEC


“มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31” เริ่มแล้ว ค่ายรถพร้อมใจเปิดตัวรถใหม่ กระหน่ำแคมเปญร้อนแรงแห่งปี คาดตลาดยานยนต์คึกคัก ยอดจองแตะ 50,000 คัน ผู้ชมงานทะลุ 1.5 ล้านคน วันนี้ - 10 ธันวาคม 2557 ชาลเลนเจอร์ 1-3 อิมแพคท์ เมืองทองธานี
ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31” หรือ “The 31st THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2014” เปิดเผยว่า “ในปี 2558 จะเกิดเหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจ นั่นคือ การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน อันจะนำมาซึ่งความร่วมมือกันอย่างเป็นรูปธรรมของ 10 ประเทศสมาชิกอาเซียน ทั้งด้านธุรกิจและอุตสาหกรรม เพื่อสร้างความแข็งแกร่ง และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจให้แก่ภูมิภาค ดังนั้น เราจึงตั้งใจจัดงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31” ให้เป็นเวทีแสดงออกถึงความสามัคคี และอนาคตที่สดใสของอุตสาหกรรมยานยนต์ในภูมิภาคนี้ ภายใต้แนวคิด “ก้าวเคียงกัน ยานยนต์อาเซียน” (Moving Forward Together…ASEAN Autos)”
ประธานจัดงาน กล่าวต่อไป ผู้จัดยังคงพัฒนามาตรฐานของงานอย่างต่อเนื่อง โดยหลังจากได้เป็นสมาชิกสมาคมอุตสาหกรรมการจัดงานแสดงสินค้าโลก UFI: Union des Foires Internationales ตั้งแต่ปี 2555 ส่วนปีนี้ก็ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. ในการเชิญสื่อมวลชนจากต่างประเทศเข้าร่วมงาน
ด้านสถานการณ์ตลาดรถยนต์ในเมืองไทย ขวัญชัย ชี้แจงว่า “อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยได้ผ่านจุดตกต่ำที่สุดไปแล้ว ขณะนี้ปัจจุบันอยู่ในช่วงเศรษฐกิจขาขึ้นอีกครั้ง ช่วงปลายปีนี้จึงเป็นโอกาสดีของผู้บริโภคที่จะได้รับข้อเสนอที่ดีที่สุดแห่งปี จากบริษัทรถยนต์ที่ต่างแข่งขันนำเสนอโปรโมชันดึงดูดใจลูกค้าเพื่อสร้างยอดขาย โดยคาดการณ์ยอดจองรถในงานไว้ 50,000 คัน ผู้ชมงานราว 1.5 ล้านคน และเม็ดเงินสะพัดในงานประมาณ 5.4 หมื่นล้านบาท”
บนพื้นที่จัดแสดงงานทั้งภายในและภายนอกอาคารทั้งสิ้น 85,000 ตารางเมตร ผู้ชมงานจะพบ รถยนต์ถึง 41 ยี่ห้อ ได้แก่ AUDI, AUTO-SLEEPERS, BENTLEY, BMW, CARLSSON, CHEVROLET, CITROEN, DEVA, DFSK, FORD, FOTON, HONDA, HYUNDAI, ISUZU, JAGUAR, JEEP, LAND ROVER, LEXUS, MASERATI, MAXUS, MAZDA, MERCEDES-BENZ, MG, MINI, MITSUBISHI, MOKE, MTM, NISSAN, PEUGEOT, PORSCHE, PROTON, RELY, SAMMITR GREEN POWER, SKODA, SUBARU, SUZUKI, SWIFT, TATA, TOYOTA, VOLKSWAGEN และ VOLVO
ยิ่งกว่านั้น ยังมีการแสดงรถแนวคิดและรถต้นแบบ 2 คัน ได้แก่ “HYUNDAI HND-9” รถแนวคิดแบบสปอร์ทคูเป ขับเคลื่อนล้อหลัง ประตูปีกผีเสื้อ ออกแบบตามแนวคิด FLUIDIC SCULPTURE DESIGN เครื่องยนต์เบนซิน 3.3 ลิตร หัวฉีดตรง (GDI) พร้อมเทอร์โบ กำลังสูงสุด 370 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ล้ออัลลอยผสมคาร์บอนขนาด 22 นิ้ว และ SUBARU VIZIV CONCEPT รถยนต์ต้นแบบสไตล์ ครอสส์โอเวอร์เอสยูวี หลังคากระจก ประตูปีกนก ขุมพลังดีเซล พลัก-อิน ไฮบริด ประกอบด้วยเครื่องยนต์บอกเซอร์ 4 สูบ 2.0 ลิตร กับมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้า 1 ตัว และด้านหลัง 2 ตัว แบทเตอรีลิเธียม-ไอออน เกียร์อัตโนมัติแปรผัน (CVT) ขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ AWD
ขณะที่โซนรถจักรยานยนต์ ปีนี้เป็นปีที่ 4 ที่ ผู้จัดร่วมกับ บริษัท นิตยสารโมโตครอส จำกัด เปิดพื้นที่ให้สาวกบิกไบค์ได้สัมผัสรถเด่นอย่างใกล้ชิดถึง 12 ยี่ห้อ ได้แก่ BMW, DUCATI, GPX, HONDA, KAWASAKI, KTM, MV AGUSTA, SUZUKI, TRIUMPH, UDA, YAMAHA และ ZERO
ส่วนนิทรรศการและกิจกรรมอื่นๆ มีมากมาย อาทิ นิทรรศการสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย, ลานศิลปวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ไทย, นิทรรศการ ศิลปินน้อย MOTOR EXPO, โครงการ "ขับเป็น...ขับปลอดภัย กับ สื่อสากล", โครงการประกวดภาพถ่าย MOTOR EXPO, โครงการประกวดนวัตกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 5, CAR STEREO ACTIVITIES ชมการแสดงรถพลังเสียงขั้นเทพ ณ บริเวณลานอเนกประสงค์ แอคทีฟสแควร์ และกิจกรรมโรงเรียนพัฒนาทักษะการขับขี่รถขับเคลื่อน 4 ล้อ เป็นต้น
สำหรับกิจกรรมคืนกำไรแก่ผู้เข้าชมงาน ซึ่งมีรางวัลรวมมูลค่ากว่า 4 ล้านบาท ได้แก่ ซื้อรถ ชิงรถ, ซื้อบัตร ชิงรถ, SMS ชิงรถ, ซื้อรถมอเตอร์ไซค์ ชิงบิกไบค์, ซื้อสินค้า ชิงรางวัล ฯลฯ มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1. “ซื้อรถ ชิงรถ” เมื่อจองหรือซื้อรถยนต์ใหม่ภายในงาน มีสิทธิ์ชิงรางวัลรถยนต์ MG รุ่น MG6 FASTBACK 1.8X TURBO SUNROOF มูลค่า 1,128,000 บาท จำนวน 1 รางวัล
2. “ซื้อบัตร ชิงรถ” ผู้ที่ซื้อบัตรชมงาน มีสิทธิ์ชิงโชครถยนต์ FORD ALL-NEW ECOSPORT รุ่น TREND มูลค่า 759,000 บาท จำนวน 1 รางวัล พร้อมรางวัลพิเศษอีกมากมาย
3. “SMS ชิงรถ” หรือ กิจกรรม “ร่วมลุ้นแบบคนรุ่นใหม่” สำหรับผู้ชมที่ใช้โทรศัพท์มือถือในระบบเครือข่าย TRUEMOVE และ TRUEMOVE H 3G+ สามารถร่วมลุ้น ชิงรถยนต์ SUZUKI CELERIO รุ่น GL มูลค่า 439,000 บาท จำนวน 1 รางวัล พร้อมรางวัลพิเศษอีกมากมาย
4. “ซื้อมอเตอร์ไซค์ ชิงบิกไบค์” เมื่อจองหรือซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ในงานมีสิทธิ์ชิงรางวัลรถจักรยานยนต์ HONDA รุ่น CBR 650F มูลค่า 300,000 บาท จำนวน 1 รางวัล
5. “ซื้อสินค้า ชิงรางวัล” เมื่อซื้อสินค้าภายในงานจากร้านเดียวกันทุกๆ 1,000 บาท จะได้รับคูปอง ชิงโชค 1 ใบ เพื่อลุ้นรางวัล รวมมูลค่า 549,600 บาท
6. MOTOR EXPO SMART PRETTY VOTE 2014 โหวท PRETTY ในงาน ชิงสร้อยคอทองคำ และของรางวัลมูลค่ารวมกว่าแสนบาท
สำหรับการเดินทางไปชมงานมีรถ Express Shuttle Bus บริการรับ-ส่งฟรี วันธรรมดา เวลา 12.00-22.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 11.00-22.00 น. ใน 4 เส้นทางหลัก ประกอบด้วย
1. หมอชิต-อิมแพค-หมอชิต MRT สถานีจตุจักร EXIT 4
2. อ่อนนุช-อิมแพค-อ่อนนุช สถานีอ่อนนุช EXIT 2
3. สีลม-อิมแพค-สีลม MRT สถานีสีลม EXIT 1
4. รังสิต-อิมแพค-รังสิต ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ลานจอดรถตู้ หน้าห้างบิกซี
ห้ามพลาด.. “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31” ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพคท์ เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน -10 ธันวาคม 2557 พร้อมรับชมการถ่ายทอดสดงานได้ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ในวันเสาร์ ที่ 29 พฤศจิกายน 2557 ตั้งแต่เวลา 14.00–16.00 น. ชมรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานได้ที่ www.motorexpo.co.th
-
ภาพข่าว: “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31” เปิดยิ่งใหญ่ ชูแนวคิด “ก้าวเคียงกัน ยานยนต์อาเซียน”

อุฤทธิ์ ศรีหนองโคตร รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม (ที่ 3 จากซ้าย) เป็นประธานในพิธีเปิดงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31" โดยมี ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงาน (ที่ 4 จากซ้าย) ให้การต้อนรับ ณ ห้องรอยัล จูบีลี อิมแพค เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2557
-
ภาพข่าว: ยามาฮ่ายกทัพบิ๊กไบค์ร่วมงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31 พร้อมเผยโฉมโมเดล 2015

มร.เท็ตสึยะ อินะมูระ ประธานกรรมการบริหาร (ที่ 4 จากขวา) พร้อมผู้บริหารระดับสูง บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เปิดบูธยามาฮ่าในงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31 (The 31st Thailand International Motor Expo 2014) ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Yamaha - Inspired Rider Ever” “เร้าทุกจังหวะหัวใจของนักบิดตัวจริง” โดยไฮไลต์พิเศษภายในงานฯ ยามาฮ่าได้เปิดตัวรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ปี 2015 รุ่นใหม่ล่าสุดครั้งแรกในเมืองไทย นำโดย “ซูเปอร์ เทเนเร่” ปี 2015 ซึ่งได้รับความสนใจจากสื่อมวลชน พร้อมให้การต้อนรับคุณชลัทชัย ปถัสร์พงษ์ รองประธานจัดงานฯ (ที่ 3 จากขวา) และคุณวราทิพย์ เชยศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มอเตอร์ไซต์เคิลเอ็กซ์โป จำกัด (ที่ 2 จากซ้าย) ที่เข้าเยี่ยมชมบูธยามาฮ่า ณ อาคารชาเลนเจอร์ 3 อิมแพค เมืองทองธานี เมื่อเร็วๆ นี้
-
“MV AGUSTA” บิ๊กไบค์ดีไซน์สวยที่สุดในโลก ประติมากรรม 2 ล้อสัญชาติอิตาเลียน อวดโฉม ในงาน “Motor Expo 2014”

บริษัท โมโต วิชั่น จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ ลักชัวรี่ แบรนด์ “MV AGUSTA” (เอ็มวี ออกุสต้า) บิ๊กไบค์สัญชาติอิตาเลียน อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ร่วมนำสุดยอดประติมากรรมสองล้อแสดงในงาน “Motor Expo 2014” พร้อมข้อเสนอและโปรโมชั่นสุดพิเศษ ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง 10 สิงหาคม 2557ณ บูธ MV AGUSTA (G 01) ชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพคเมืองทองธานี
“MV AGUSTA” ถือเป็นประติมากรรม 2 ล้อ ที่เก่าแก่ของอิตาลี มีประวัติยาวนานมาตั้งแต่ปี 1945 ทั้งยังได้โลดแล่นและคว้าชัยในการแข่งขันมาแล้วไม่ต่ำกว่า 75 สนามทั่วโลก และที่สำคัญ MV AGUSTA เป็น แบรนด์ที่เหล่าคนรักมอเตอร์ไซค์ทั่วโลกต่างยอมรับว่า MV AGUSTA คือ “ประติมากรรมที่เคลื่อนไหวได้” ด้วยความพิถีพิถันในการออกแบบตลอดจนความใส่ใจในทุกๆรายละเอียดทุกๆชิ้นส่วน และยังใช้วิธีการประกอบในแบบเดียวกันกับแบรนด์รถยนต์สปอร์ตสุดหรูชั้นนำ นั่นคือ “ประกอบด้วยมือ” อีกทั้งด้านเพอร์ฟอร์มานซ์ที่มีการพัฒนาศักยภาพในเรื่องเครื่องยนต์และระบบควบคุมในการขับขี่อย่างต่อเนื่อง ทำให้แบรนด์ MV AGUSTA นี้เป็นที่หลงใหลของเหล่าคนรักมอเตอร์ไซค์อย่างแท้จริง
โดยคุณปอนด์ จงเสรี Chief Operating Officer เปิดเผยว่า... “มอเตอร์ไซค์ของ MV AGUSTA นั้นเป็นมากกว่าแค่มอเตอร์ไซค์ มันคืองานศิลปะที่ผสานเข้ากันกับเครื่องยนต์สมรรถสูง ทุกขั้นตอนในการผลิตนั้นจะเกิดขึ้นในโรงงานที่อิตาลีทั้งหมด ทำให้มั่นใจได้ว่าผลงานที่ออกมานั้นเป็นแบรนด์สัญชาติอิตาเลียน 100% MV AGUSTA มีสายการผลิตมอเตอร์ไซค์ในหลากหลายรุ่น ซึ่งสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างหลายหลากสไตล์ ทั้งในรุ่นBrutale (บูทาเล่) ที่เป็นสไตล์ Naked Bike ให้การขับขี่สบาย หรือ Rivale (ริวาเล่) ที่เป็นสไตล์ Super Moto และยังได้ถูกโหวตให้เป็นมอเตอร์ไซค์ที่มีการออกแบบสวยที่สุดจากงาน EICMA นอกจากนี้สำหรับไลน์สปอร์ตก็ยังมี รุ่น F3และ F4 ที่มาตอบโจทย์สาวกสายเรซซิ่งอย่างแท้จริง ซึ่งสำหรับการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในงาน Motor Expo 2014 ครั้งนี้ทางบริษัท โมโต วิชั่น จำกัด ได้จัดเตรียมมาแสดงให้ได้ชมและได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิดครับ”
สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่โทร 02-3180100, 09-2259-0849 หรือค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่www.facebook.com/MVAGUSTATHAILAND
-
เบนท์ลี่ย์ ประเทศไทยขนทัพรถหรู ร่วมงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2014
- พบกับยนตรกรรมสุดหรู 2 รุ่นจากประเทศอังกฤษ ฟลายอิ้ง สเปอร์ ดับบลิว 12 (The New Flying W12) และ คอนติเนนทัล จีที วี 8 (Continental GT V8) อวดโฉมในงาน Motor Expo 2014
- พร้อมรับข้อเสนอพิเศษเมื่อซื้อรถยนต์เบนท์ลี่ย์จากเอเอเอสฯ ภายในงาน
- สิทธิพิเศษเหล่านี้มีเพียง เอเอเอสฯ ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการเท่านั้นที่มอบให้ท่านได้




เบนท์ลี่ย์ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลี่ย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ขนทัพ ยนตรกรรมหรู เข้าร่วมงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31 (The 31st Thailand International Motor Expo 2014) เพื่อเป็นการประกาศและตอกย้ำความเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย โดยภายในงานท่านจะได้สัมผัสสุดยอดนวัตกรรมยานยนต์ระดับโลกจากประเทศอังกฤษอย่างใกล้ชิด อาทิ เบนท์ลี่ย์ ฟลายอิ้ง สเปอร์ W12 (Flying Spur) ซึ่งเป็นรถที่ได้รับการขนานนามว่า ที่สุดแห่งยนตรกรรมซาลูน 4 ประตูสุดหรูจากประเทศอังกฤษ มาพร้อมกับ เบนท์ลี่ย์ คอนติเนนทัล จีที วี8 (Continental GT V8) คูเป้สุดหรู 2 ประตู 2 ที่นั่ง พร้อมให้ท่านได้สัมผัสและเป็นเจ้าของสุดยอดนวัตกรรมยานยนต์สุดหรู ได้แล้วภายในงานนี้
เอเอเอสฯ ในฐานะผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลี่ย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ให้ความมั่นใจว่ารถยนต์ทุกคันที่ทางเอเอเอสฯ นำเข้าและจัดจำหน่ายได้ผ่านการทดสอบโฮโมโลเกชั่น (Homologation) ของประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมายและครบทุกกระบวนการที่จำเป็นและสำคัญสำหรับการนำมาใช้งานในประเทศไทย ระบบจัดการของเครื่องยนต์ที่ได้รับการปรับแต่งและปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับกฎระเบียบและสภาพภูมิประเทศของประเทศไทยอย่างดีที่สุด รวมถึงยังมีศูนย์บริการของรถยนต์เบนท์ลี่ย์ที่ได้มาตรฐานตามโรงงานเบนท์ลี่ย์ประเทศอังกฤษกำหนดไว้ พร้อมทั้งมีทีมวิศวกรที่มากประสบการณ์ ซึ่งได้รับการฝึกอบรมจากทางโรงงานโดยตรง พร้อมให้การดูแลและบริการรถยนต์เบนท์ลี่ย์ของท่าน โดยลูกค้าสามารถมั่นใจในบริการที่จะได้รับ หากซื้อรถยนต์กับทางเอเอเอสฯ อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการบริการหลังการขายที่ได้คุณภาพโดยตรงจากโรงงานเบนท์ลี่ย์ประเทศอังกฤษ ราคาที่เสียภาษีนำเข้ารถยนต์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และคุณภาพของรถยนต์เบนท์ลี่ย์ที่ได้มาตรฐาน
เอเอเอสฯ ยังได้จัดแคมเปญสุดพิเศษมากมายมามอบให้ท่านลูกค้าที่จองรถยนต์เบนท์ลี่ย์ภายในงานนี้ :
- รับทันทีประกันจากโรงงานเบนท์ลี่ย์ประเทศอังกฤษ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง (5 Years Factory Warranty)
- รับการบริการดูแลและบำรุงรักษารถยนต์เบนท์ลี่ย์จากผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆเพิ่มเติม ตลอด 5 ปี (5 Years Free Service Package)
- บริการช่วยเหลือและสายด่วนให้คำปรึกษาทางเทคนิคตลอด 24 ชั่วโมง
*Term & Condition Apply
นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอพิเศษอื่นๆ อีกมากมายที่ทาง เอเอเอสฯ ได้จัดเตรียมให้ทุกท่าน ร่วมสัมผัสและค้นหาความสุนทรีย์ของสุดยอดนวัตกรรมยานยนต์กันอย่างใกล้ชิด รวมถึงรถยนต์ไฮไลท์ประจำบูธ ที่จะสะกดทุกสายตาให้หลงใหลไปกับสมรรถนะอันลือเลื่อง ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก และสินค้า Accessories ต่างๆ ของเบนท์ลี่ย์มาให้ท่านเลือกสรรมากมายในราคาพิเศษ ภายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม 2014 นี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์เบนท์ลี่ย์ ได้ที่ 02-261-1050-51 หรือ เยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ www.bentleymotors.com
เกี่ยวกับรถยนต์ไฮไลท์ของบูธเบนท์ลี่ย์
เบนท์ลี่ย์ ฟลายอิ้ง สเปอร์ W12 (Flying Spur) ที่สุดแห่งยนตรกรรมซาลูน 4 ประตูสุดหรูจากประเทศอังกฤษ เบนท์ลี่ย์ ฟลายอิ้ง สเปอร์ ตัวแทนของการผสมผสานระหว่างพละกำลังเครื่องยนต์อันทรงพลัง พร้อมด้วยประสิทธิภาพการขับเคลื่อนที่ยอดเยี่ยม เส้นสายต่างๆ ของรถได้รับการออกแบบให้มีความคมชัด ประกอบกับทางส่วนท้ายที่ดูทรงพลังหรูหราสง่างาม รวมถึงงานหัตถกรรมอันปราณีตเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ ผสานกับความเป็นเอกลักษณ์ของเบนท์ลี่ย์ได้อย่างลงตัว เครื่องยนต์ขนาด 6 ลิตร Twin-turbo W12 และระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พละกำลังเครื่องยนต์สูงสุดถึง 616 แรงม้า ให้แรงบิดอันมหาศาลถึง 800 นิวตันเมตร ซึ่งถือได้ว่าเป็นเบนท์ลี่ย์ 4 ประตูที่ทรงพลังมากที่สุดตั้งแต่ เบนท์ลี่ย์เคยมีมา อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่ 4.3 วินาทีเท่านั้น ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ทำให้มีประสิทธิภาพในการเกาะถนนและทรงตัวบนพื้นผิวถนนได้อย่างดีเยี่ยม
ภายในห้องโดยสารเสริมด้วยเทคโนโลยีและอุปกรณ์ให้ความบันเทิงต่างๆ อย่างครบครัน ระบบ infotainment แบบสัมผัส รวมไปถึงการเชื่อมต่อเข้ากับโทรศัพท์ และเชื่อมต่อ Wi-Fi มาพร้อมกับ TSR รีโมทคอนโทรลแบบไร้สายหรือเรียกใช้งานด้วยการสัมผัสกับหน้าจอ ซึ่งทำให้ผู้โดยสารสามารถควบคุมระบบต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย และทั้งหมดนี้สรรสร้างเป็น เบนท์ลี่ย์ ฟลายอิ้ง สเปอร์ ให้ท่านได้สัมผัสและยลโฉมกันอย่างใกล้ชิด
เบนท์ลี่ย์ คอนติเนนทัล จีที วี8 (Continental GT V8) คูเป้สุดหรู 2 ประตู 2 ที่นั่ง ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 มีพละกำลังเครื่องยนต์สูงสุดถึง 500 แรงม้า (507PS/373 กิโลวัตต์) ที่รอบเครื่องยนต์ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 660 นิวตันเมตร (487 lb ft) ที่ระหว่างรอบเครื่องยนต์ 1,700 ถึง 5,000 รอบ/นาที ถือได้ว่าเป็นรถที่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพและมีพละกำลังที่เหนือชั้นตามแบบฉบับของเบนท์ลี่ย์ทุกประการ เสริมด้วยระบบส่งกำลังหรือระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดที่ทำการปรับเปลี่ยนเกียร์ได้รวดเร็วขึ้น ทำให้รถคันนี้มีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียงแค่ 5 วินาทีกว่าๆ เท่านั้น อีกทั้งยังมีความเร็วสูงสุดที่ 290 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอีกด้วย ในขณะเดียวกัน คอนติเนนทัล (Continental) เครื่องยนต์ V8 คันนี้มีอัตราบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงที่ดีเยี่ยม และยังมีการปล่อยมลพิษหรือก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ต่ำลงอีกด้วย หากเปรียบเทียบกับรถคันอื่นๆ ในคลาสเดียวกัน เมื่อเติมน้ำมันเต็มถังรถเบนท์ลี่ย์เครื่องยนต์ V8 คันนี้จะสามารถวิ่งได้ไกลถึง 800 กิโลเมตรเลยทีเดียว
-
ภาพข่าว: เชฟโรเลต แคปติวาคว้ารางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยม

น.ส. อุณา ตัน ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด (ที่ 2 จากซ้าย) ตัวแทนรับรางวัล เชฟโรเลต แคปติวา รถเอสยูวีชั้นนำได้รับรางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยมด้านความพึงพอใจเชิงคุณภาพประเภทรถอเนกประสงค์ ปี 2557 TAQA (Thailand Automotive Quality Award) โดยได้รับเกียรติจาก นายปราโมทย์ วิทยาสุข ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรม (ที่ 2 จากขวา) เป็นผู้มอบ ภายในงาน 2014 ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 31
-
ภาพข่าว: รถมอเตอร์โฮม “ออโต้ สลีพเพอร์” ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31

คุณวิรัช จิตสมานกุล (ที่ 2 จากขวา) กรรมการผู้จัดการ พร้อมคุณสิทธิชีพ สมเกียรติ (ที่ 2 จากซ้าย) ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท มอเตอร์โฮม แอนด์คาราวาน (ไทยแลนด์) จำกัด ให้การต้อนรับ คุณชลัททชัย ปภัสร์พงษ์ รองประธานจัดงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31” ในโอกาสเข้าเยี่ยมชมรถมอเตอร์โฮม ณ บูธ “ออโต้ สลีพเพอร์” (Auto-Sleepers) ภายในงานมหกรรมยานยนต์ ณ อาคาร ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 อิมแพค เมืองทองธานี เมื่อเร็วๆ นี้
-
บริดจสโตนคว้ารางวัล “TAQA Award 2014 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5”

บริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้รับรางวัล “ธุรกิจยานยนต์ยอดนิยม ด้านผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่องกับรถยนต์-ยางรถยนต์” หรือ “THAILAND AUTOMOTIVE QUALITY AWARD – Outstanding Satisfaction for Tyre” ประเภท Excellence Award ซึ่งมอบให้แก่บริษัทที่ได้รับรางวัลต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเวลา 5 ปี รางวัลอันทรงเกียรตินี้สะท้อนถึงความสำเร็จของบริดจสโตนที่ได้ทุ่มเท มุ่งมั่น พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่เปี่ยมด้วยคุณภาพนำเสนอต่อผู้บริโภค ตลอดระยะเวลาการดำเนินธุรกิจ โดยมี นายปราโมทย์ วิทยาสุข ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธานมอบรางวัลในพิธีประกาศผลและมอบรางวัล TAQA Award 2014 ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี
THAILAND AUTOMOTIVE QUALITY AWARD (TAQA) เริ่มจัดครั้งแรกในปี พ.ศ. 2545 และเพิ่มรางวัลผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่องกับรถยนต์เมื่อปีพ.ศ.2553 ด้วยความร่วมมือจาก 4 ภาคส่วนหลักๆ ประกอบด้วย บริษัท สื่อสากล จำกัด บริษัท คัสต้อม เอเซีย จำกัด หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และสถาบันยานยนต์ โดยรางวัลนี้ได้มีส่วนช่วยพัฒนาการผลิตรถยนต์ที่มีคุณภาพ ตลอดถึงการปรับปรุงด้านการขายและบริการ ในธุรกิจยานยนต์ ที่ได้จากภาพสะท้อนการสำรวจความพึงพอใจของลูกค้าต่อบริษัทนั้นๆ โดยในปีนี้ได้ทำการสำรวจกลุ่มตัวอย่างที่เป็นเจ้าของรถ จำนวนทั้งสิ้น 5,800 ราย ทั่วประเทศ
มร.ฮิโรชิ โยชิซาเนะ ผู้อำนวยการสายงานผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์นั่งและรถบรรทุกขนาดเล็ก บริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวหลังจากรับรางวัลว่า “บริดจสโตนรู้สึกภูมิใจและเป็นเกียรติที่ได้รับรางวัลซึ่งเป็นเสียงสะท้อนของผู้บริโภค ถึงบริดจสโตนในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการด้วยคุณภาพที่เหนือกว่า ซึ่งเรามีเจตนารมย์ที่แน่วแน่ที่จะมุ่งมั่นสร้างสรรค์ พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดสู่มือผู้บริโภค อย่างหลากหลายและครอบคลุมทุกความต้องการ อย่างแท้จริง”
-
Bridgestone Receives Thailand Automotive Quality Award (TAQA) for fifth Consecutive Year

Bridgestone Sales (Thailand) Co., Ltd., today received the “THAILAND AUTOMOTIVE QUALITY AWARD (TAQA) – Outstanding Satisfaction for Tyre”, Excellence Award for Tyre which only presented to those companies whom has won for at least 5 consecutive year. The award recognizes Bridgestone’s success in developing and offering outstanding products and high quality services to customers. The award was presented by Mr. Pramode Vidtayasuk, Vice Minister for Industry at the Challenger Hall, IMPACT Muang Thong Thani, Bangkok.
Held annually since 2002 with additional awards on car accessories introduced in 2010, the “THAILAND AUTOMOTIVE QUALTY AWARD (TAQA)” is conducted by organizations across the public and private sectors, which include Inter-Media Consultant Co., Ltd., Custom Asia Co., Ltd., Manager Newspaper and Thailand Automotive Institute. The award aims to improve the overall performance of products and services within Thailand’s automotive industry, through a nationwide customer satisfaction survey. This year, 5,800 car owners participated in the survey.
“We are honored to be recognized by consumers that Bridgestone provides products and services of superior quality,” commented Mr. Hiroshi Yoshizane, Director of Consumer Products Group, Bridgestone Sales (Thailand) Co., Ltd., after receiving the award. “Our commitment to customers is that Bridgestone will continue to provide the best products and services possible, while striving to serve each and every customer as an individual with unique requirements.”
-
เอเอเอสฯ เตรียมเผยโฉม ปอร์เช่ คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด (Cayenne S E-Hybrid) ครั้งแรก พร้อมจัดแคมเปญพิเศษขนทัพรถหรูร่วมงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2014




ปอร์เช่ ประเทศไทย โดยบริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ขนทัพรถหรูเข้าร่วมงาน The 31st Thailand International Motor Expo 2014 งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 31 ซึ่งครั้งนี้ เอเอเอสฯ พร้อมขนทัพสุดยอดยนตรกรรมระดับโลกจากประเทศเยอรมนี อาทิเช่น พานาเมร่า เอส อี-ไฮบริด (Panamera S E-Hybrid) รถสปอร์ตซีดานสุดหรูที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ที่มีระบบขับเคลื่อนแบบ plug-in ไฮบริดคันแรกของโลกในคลาสรถยนต์หรู, มาคันน์ (Macan) รถสปอร์ตอเนกประสงค์ขนาดคอมแพ็ค (Compact SUV) 5 ประตู 5 ที่นั่ง รุ่นใหม่ล่าสุด ที่เหมาะสำหรับทุกการขับขี่ในชีวิตประจำวัน, เคย์แมน ใหม่ (The new Cayman) รถสปอร์ตเครื่องยนต์วางกลาง 2 ที่นั่ง, บ็อกซ์เตอร์ ใหม่ (The new Boxster) รถสปอร์ตเครื่องยนต์วางกลาง เปิดประทุน 2 ที่นั่ง และไฮไลท์ของงานที่เอเอเอสฯ จะเผยโฉมอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทยนั่นคือ คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด (Cayenne S E-Hybrid) รถสปอร์ตอเนกประสงค์ SUV คันแรกในคลาสรถหรูที่มาพร้อมระบบ Plug-in Hybrid รถยนต์ที่คุ้มค่าเงินที่สุดในเวลานี้ มาพร้อมราคาเปิดตัวที่ 7.99 ล้านบาทเท่านั้น เตรียมให้ท่านได้ยลโฉมและสัมผัสอย่างใกล้ชิดแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ข้อเสนอสุดพิเศษเมื่อซื้อรถยนต์ปอร์เช่จากเอเอเอสฯ
- รับแคมเปญ ดอกเบี้ย 0% พร้อมประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี
- รับทันทีบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 100,000 บาท
- รับบัตรกำนัลแทนเงินสดจากเอเอเอสฯ มูลค่า 100,000 บาท
- พร้อมการรับประกันจากโรงงานปอร์เช่ ประเทศเยอรมนี นาน 9 ปี (9 Years Factory Warranty)
- หรือบริการดูแลและบำรุงรักษารถยนต์ปอร์เช่ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ นาน 4 ปี
(4 Years Free Service Package)
สิทธิพิเศษเหล่านี้มีเพียง เอเอเอสฯ ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการเท่านั้นที่มอบให้ท่านได้
และพลาดไม่ได้สำหรับนักสะสมและผู้ที่หลงใหลในแบรนด์รถยนต์หรูอย่าง Porsche เอเอเอสฯ จึงได้นำสินค้า Porsche Driver’s Selection ที่ออกแบบโดยดีไซเนอร์เจ้าของแบรนด์และนำเข้าจากโรงงานปอร์เช่ ประเทศเยอรมนีโดยตรง มาให้ท่านเลือกสรรในราคาพิเศษไม่ว่าจะเป็นโมเดลรถ เสื้อ หมวก พวงกุญแจ และ Accessories อื่นๆ อีกมากมาย ภายในงาน Thailand International Motor Expo 2014 ณ อิมแพค เมืองทองธานี อาคารชาเลนเจอร์ ตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม 2557 นี้
และอีกหนึ่งกิจกรรมพิเศษที่ทางเอเอเอสฯ ร่วมกับทางผู้จัดงานฯ จัดโครงการประกวดถ่ายภาพ ‘Motor Expo Photo Contest 2014’ ภายใต้โครงการ ‘Porsche Car Photo Studio Workshop’ ขึ้นเป็นครั้งแรก โดยเนรมิตพื้นที่กว่า 400 ตารางเมตร จัดแสดงรถยนต์ปอร์เช่รุ่นพิเศษที่ทางเอเอเอสฯ จัดเตรียมไว้อย่าง Porsche 356 ต้นกำเนิดรถยนต์คันแรกของปอร์เช่ ที่ปัจจุบันได้ขึ้นชื่อว่าเป็นรถยนต์ Porsche Classic ที่ทรงคุณค่า และ Porsche 911 Carrera S ไอคอนที่เป็นตำนานของแบรนด์ปอร์เช่ เพื่อเป็นไฮไลท์ของกิจกรรมและดึงดูดผู้รักการถ่ายภาพเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้
-
ยามาฮ่าเผยโฉม “ซูเปอร์ เทเนเร่ 2015” บิ๊กไบค์สไตล์ Adventure Touring พันธุ์แท้เปิดตัวครั้งแรกในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 31

บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าบิ๊กไบค์ เปิดตัวรถบิ๊กไบค์โมเดล 2015 ใหม่ล่าสุด “ซูเปอร์ เทเนเร่ 2015” บิ๊กไบค์สไตล์ Adventure Touring พันธุ์แท้ เร้าใจนักบิดที่หลงใหลการขับขี่แบบท่องเที่ยว ด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ 1,200 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ 4 จังหวะ 2 สูบเรียง ขับเพลา เสริมด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงของยามาฮ่าแบบเต็มสูบ ไม่ว่าจะเป็น ระบบ YCC-T® (Yamaha Chip Controlled Throttle), Traction Control, Yamaha D-mode (Drive Mode), ระบบเบรก ABS และปรับแต่งรายละเอียดอื่นๆ อีกมากมาย พร้อมออพชั่นตกแต่งครบ เพื่อให้พร้อมไปได้ ทุกที่ ขับขี่สนุกเหนือทุกความคาดหมาย มีให้เลือก 2 สี คือ เทาด้าน และแดง ราคาเริ่มต้น 749,000 บาท สัมผัสความเร้าใจของ “ซูเปอร์ เทเนเร่ 2015” ได้แล้ววันนี้ที่ศูนย์บริการยามาฮ่าไรเดอร์สคลับ และตัวแทนจำหน่ายยามาฮ่าบิ๊กไบค์ทุกสาขา
-
“ยามาฮ่า ย้ำภาพผู้นำเทรนด์ พร้อมเผยบิ๊กไบค์โมเดล 2015” ในงาน The 31st Thailand International Motor Expo 2014




ยามาฮ่า ยกทัพบิ๊กไบค์จัดโชว์ และจำหน่ายให้นักบิดตัวจริงได้เป็นเจ้าของ ในงาน “The 31st Thailand International Motor Expo 2014” หรือ “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Yamaha - Inspired Rider Ever” “เร้าทุกหัวใจของนักบิดตัวจริง” พร้อมมอบโปรโมชั่นสุดพิเศษ ที่บูธ G05 อาคารชาเลนเจอร์ 3 อิมแพค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม นี้
มร.เท็ตสึยะ อินะมูระ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ผู้ผลิต และจำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า กล่าวว่า “จากภาพรวมตลาดรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี ยามาฮ่าในฐานะผู้นำเทรนด์ในการขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ จึงไม่หยุดยั้งในการนำเสนอนวัตกรรมที่มีคุณภาพระดับโลก เพื่อตอบสนองความต้องการของนักบิดอย่างต่อเนื่อง โดยยามาฮ่าได้นำรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ทุกรุ่นที่ทำตลาดในเมืองไทย และถือโอกาสเผยโฉมยามาฮ่าบิ๊กไบค์โมเดล 2015 รวมทั้งนำรุ่น SR400 และ Tricity ที่ถือเป็นโมเดลโดดเด่นในปีที่ ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ ครบรอบ 50 ปี ในปีนี้ เข้าร่วมจัดโชว์ และจำหน่ายในงาน “The 31st Thailand International Motor Expo 2014” หรือ “มหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 31” ซึ่งเป็นงานที่รวบรวมรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ชั้นนำมาจัดแสดง และจำหน่ายอย่างครบครัน ในระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม 2557 ที่อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี
การเข้าร่วมงานในครั้งนี้ ยามาฮ่าหวังจะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับลูกค้ายามาฮ่าไรเดอร์สคลับ และผู้ที่สนใจ เข้าเยี่ยมชมบูธยามาฮ่าในงานฯ ด้วยคอนเซ็ปต์ “Yamaha - Inspired Rider Ever” รูปแบบการจัดโชว์รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ สไตล์พรีเมี่ยม เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ และสะท้อนตัวตนที่แตกต่างของผู้ขับขี่ ที่แฝงไว้ด้วยเสน่ห์ เร้าใจ ผนวกกับความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ของยามาฮ่า”
ไฮไลท์พิเศษที่บูธยามาฮ่า เป็นการเผยโฉมรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ โมเดล 2015 ใหม่ล่าสุด ดังนี้
Super Tenere 2015 เผยโฉมเป็นครั้งแรกที่เมืองไทยในงานฯ นี้ บิ๊กไบค์สไตล์ Adventure Touring พันธุ์แท้ ขุมกำลัง 1,200 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ 2 สูบเรียง ขับเพลา เสริมด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงของ ยามาฮ่าแบบเต็มสูบ ไม่ว่าจะเป็น ระบบ YCC-T® (Yamaha Chip Controlled Throttle), Traction Control, Yamaha D-mode (Drive Mode), ระบบเบรก ABS และปรับแต่งรายละเอียดอื่นๆ อีกมากมาย พร้อมออพชั่นตกแต่งครบ เพื่อให้เป็นรถที่พร้อมไปได้ทุกที่ ขับขี่สนุกเหนือทุกความคาดหมาย พร้อมให้ผู้ที่หลงใหลการขับขี่แบบท่องเที่ยว กับสมรรถนะความแรงที่ตอบสนองความต้องการได้เต็มประสิทธิภาพตลอดการเดินทาง
Bolt R Spec 2015 ที่ยังคงความเท่ และคลาสสิกเหนือกาลเวลา กับสีตัวถังใหม่ โดนใจคนรักความแรง สไตล์ครุยเซอร์ ก้าวสู่ความล้ำสมัยด้วยการสลัดชิ้นส่วนโครเมียมเงาวับ แล้วกลายร่างเป็น “รถคนเมืองสไตล์ Bobber” ด้วยโครงรถเข้ารูปกับเครื่องยนต์ขนาด 942 ซีซี ระบายความร้อนด้วยอากาศ เครื่องยนต์เอียง 60 องศา V-Twin ซึ่งเป็นหัวใจของตัวรถ เทคโนโลยีแห่งอนาคตที่จะสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ในการขับขี่ ให้เหนือชั้นกว่ารถมอเตอร์ไบค์รุ่นอื่นๆ ระบบหัวฉีด และระบบจุดระเบิดถูกออกแบบใหม่ทั้งหมด เน้นสมรรถนะขั้นสูง รวมถึงขุมกำลังทอร์คที่มหาศาล
Motor Cross YZ-250F ปี 2015 รุ่นหัวฉีดใหม่ ส่งกำลังได้อย่างไหลลื่น และมหาศาลรวมทั้ง ให้ประสิทธิภาพการเข้าโค้งได้อย่างน่าอัศจรรย์ ผ่านการออกแบบอย่างพิถีพิถัน ทำให้รถมีศูนย์ถ่วงทั้งหมดรวมอยู่ที่กึ่งกลาง ดีไซน์รูปแบบของโครงรถได้อย่างประณีต และถี่ถ้วน โดยรถรุ่นนี้สามารถสร้างให้เกิดความสมดุลจากองค์ประกอบ 3 ส่วน จนเกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อนักบิดสายทางฝุ่นอย่างแท้จริง นั่นคือ การเข้าโค้งที่ง่าย และรวดเร็ว น้ำหนักรถเบากระชับในทุกท่วงท่า และกำลังเครื่องยนต์อันมหาศาลที่น่าหลงใหล YZ-250F จึงให้การตอบสนองที่ว่องไว และใส่ขุมกำลังมหาศาลที่เหนือคู่ต่อสู้ในคลาสเดียวกัน
Motor Cross YZ-450F ปี 2015 ออกแบบเครื่องยนต์ให้มีองศาเอียงกลับไปด้านหลังเพื่อให้จุดศูนย์ถ่วงอยู่บริเวณกึ่งกลาง เสริมความกะทัดรัดของโครงรถ และระบบกันสะเทือนที่พัฒนามาเป็นอย่างดี ทำให้ YZ-450F สามารถขับกำลังสูงสุดของเครื่องยนต์ 450 ซีซี ออกมาได้เต็มที่ โดยมิติรถภายนอกดูพลิ้ว ปราดเปรียว และกระชับเท่ากับในรุ่น 250 ซีซี โดยถ่ายทอดเทคโนโลยี และพิสูจน์ความแรงตระกูล YZ ฝีมือของนักแข่งระดับโลก Jeremy Martin ที่การันตีตำแหน่งแชมป์ AMA Motocross 2014 ในรุ่น 250 Class (รายการชิงแชมป์ อเมริกา ประจำปี 2014)
นอกจากนี้ ยามาฮ่ายังนำเสนอรถจักรยานยนต์สายพันธุ์สปอร์ต ได้แก่ ตระกูล “R Series” ทั้ง YZF-R1 สุดยอดรถซูเปอร์สปอร์ตที่ยังคงสไตล์ของความเป็นรถแข่งที่มีต้นกำเนิดมาจากสนามแข่งระดับโมโตจีพี ที่สุดของความเร็ว และแรงเหนือทุกสัญชาตญาณนักแข่ง และ YZF-R6 รถซูเปอร์สปอร์ตดีกรีแชมป์ระดับโลก สุดยอดเทคโนโลยีจากสนามแข่ง
FZ-09 รถสปอร์ตสไตล์ Street Naked ที่มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ “The Dark Side of Japan” ใหม่ล่าสุดกับการรวมสไตล์ Naked และ Motard เข้าด้วยกันอย่างลงตัว พร้อมเครื่องยนต์สามสูบเรียงที่มีเสียงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว แท็กทีมมากับเทคโนโลยีระดับรถแข่ง Crossplane Crankshaft ส่งกำลังได้อย่างต่อเนื่อง มั่นใจได้ในอัตราเร่ง และแรงบิด ตัวรถใช้เฟรมอลูมิเนียมน้ำหนักเบา ตัวถังเพรียว เบาะไม่สูง เหมาะกับ คนเอเชีย แฮนด์บาร์ขนาดกว้าง ทำให้ควบคุมรถได้อย่างมั่นใจ ขับขี่สนุกในทุกความเร็ว
TMAX Big Scooter “อีกขั้นที่เหนือชั้น...ที่สุดแห่งความสปอร์ต” สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่ที่ผสมผสานได้อย่างลงตัวระหว่างสมรรถนะของรถสปอร์ต และการขับขี่ที่สะดวกสบายสไตล์บิ๊กสกู๊ตเตอร์ เครื่องยนต์ 2 สูบ ขนาด 530 ซีซี ขับเคลื่อนด้วยสายพานเปลือย ระบบเกียร์ Automatic CVT (Continuous Variable Transmission) ให้อัตราเร่งดีที่สุด เข้าโค้งมั่นใจด้วยสวิงอาร์มอลูมิเนียม เบรกหน้าคู่ และเบรกหลังขนาดใหญ่ ยืนยันสายพันธุ์สปอร์ตด้วยไฟหน้าโปรเจคเตอร์คู่ และไฟท้าย LED ที่ถอดแบบมาจากยามาฮ่า R1
สำหรับผู้สนใจความคลาสสิก จะได้สัมผัสกับ SR400 หนึ่งเดียวที่ครองใจนักบิดได้เสมอ นับตั้งแต่วันเปิดตัวครั้งแรกเมื่อ 30 ปีก่อน ยามาฮ่า SR400 ได้กลายเป็นรถในดวงใจของนักบิดที่ชื่นชอบความเรียบง่าย คล่องตัว และผูกพันกับรถมอเตอร์ไซค์มายาวนาน ไม่ว่าจะกี่ปี ความนิยมในตัว SR ก็ไม่เคยจางหาย ยามาฮ่า SR400 กับเทคโนโลยีใหม่ พร้อมแล้วที่จะเป็นส่วนเติมเต็มชีวิตประจำวันของนักบิดรุ่นใหม่ ผู้หลงในเสน่ห์เรโทรที่อยู่เหนือกาลเวลา
พบกับรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์จากยามาฮ่า พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษในการเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าได้ง่ายๆ กับโปรโมชั่น ผ่อน 0% สูงสุดถึง 48 เดือน สำหรับรุ่น TMAX และเพิ่มความพิเศษให้กับลูกค้าที่ซื้อรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ภายในงานฯ 10 คันแรก รับสิทธิ์แพ็คเกจเคลือบแก้วฟรี มูลค่าสูงสุด 10,000 บาท จากศูนย์ Beauty Car Garage (BCG) ผลิตภัณฑ์เคลือบแก้วนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น สำหรับลูกค้ายามาฮ่าไรเดอร์สคลับ รับสิทธิ์ซื้อแพ็คเกจเคลือบแก้ว ได้ในราคาพิเศษลดสูงสุดถึง 50% และสำหรับผู้ที่ซื้อรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทุกรุ่นภายในงานฯ ก็จะได้รับสิทธิ์ซื้อแพ็คเกจเคลือบแก้วราคาพิเศษลดสูงสุด 50% เช่นกัน ยามาฮ่ายังได้จัดเตรียมโปรโมชั่นพิเศษสุดสำหรับลูกค้าที่ต้องการเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่น SR400 และ Tricity กับเงินจองเพียง 1,000 บาท รับเสื้อแจ็คเก็ต และหมวกกันน็อคจากยามาฮ่าฟรีทันที
-
ซูบารุ คืนความสุขส่งท้ายปีให้ชาวไทย นำ “รัส สวิฟท์” เจ้าพ่อนักขับขี่รถยนต์ผาดโผนที่มีความแม่นยำอันดับ 1 ของโลก ร่วมสร้างสีสันภายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31


บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ ซูบารุอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ร่วมคืนความสุขส่งท้ายปีให้กับชาวไทย นำการแสดงขับรถผาดโผนสุดตื่นเต้นระดับโลก โดยเจ้าพ่อนักขับรถยนต์ผาดโผนที่มีความแม่นยำอันดับ 1 ของโลก “รัส สวิฟท์” กลับมาสร้างความบันเทิงให้กับผู้เข้าชมชาวไทยอีกครั้งภายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31
ชมการโชว์ขับรถผาดโผนระดับตำนานของ รัส สวิฟต์ หนึ่งในสตั้นท์แมนที่มีชื่อเสียงของโลกชาวอังกฤษ เจ้าของ 3 สถิติของกินเนส เวิลด์ เรคอร์ด ที่จะกลับมาสร้างตำนานหน้าใหม่ในเมืองไทยอีกครั้ง โดยความพิเศษของการโชว์ในประเทศไทยในปีนี้ คือการนำเอารถรุ่นใหม่ล่าสุดของซูบารุที่มีการเปิดตัวในปีนี้ ได้แก่ Subaru XV – STI Performance ใหม่ รถยนต์ all-new Subaru WRX และ WRX STI มาใช้เป็นรถที่แสดงในการขับขี่ผาดโผนเป็นครั้งแรก
พบกับการแสดงอันน่าตื่นตาตื่นใจของ รัส สวิฟท์ ภายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31 ซึ่งจะเปิดแสดงให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าชมฟรี ระหว่างวันที่ 5-7 ธันวาคม ศกนี้ วันละสามรอบ ได้แก่รอบเวลา 15.00 น. 17.00 น. และ 19.00 น. ณ ลาน P9 ศูนย์การแสดงสินค้า อิมแพ็ค เมืองทองธานี ติดต่อ-สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือขอรับบัตรเข้าชมได้ที่บูธซูบารุ หมายเลข A07 ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3
-
เชฟโรเลต แคปติวาคว้ารางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยม



- นับเป็นครั้งที่สองที่เชฟโรเลตได้รับรางวัลนี้
- แคปติวาเป็นรถเอสยูวีชั้นนำของเชฟโรเลต โดดเด่นด้วยหลักการสร้างคุณภาพในกระบวนการผลิตของจีเอ็ม
เชฟโรเลต แคปติวา รถเอสยูวีชั้นนำได้รับรางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยมหรือ TAQA (Thailand Automotive Quality Award) ด้านคุณภาพแรกใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทรถยนต์กิจกรรมกลางแจ้ง (Outstanding Initial Quality Satisfaction for SUV) ภายในงาน 2014 ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 31
“ถือเป็นเรื่องน่ายินดีที่ได้ทราบว่าความมุ่งมั่นของพนักงานของเราในการผลิตและจัดจำหน่ายยานยนต์ที่มาพร้อมหลักการสร้างคุณภาพในกระบวนการผลิต (Built-in Quality) ได้รับการยกย่องโดยลูกค้าซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญที่สุดสำหรับเรา” ริชาร์ด จอห์นสัน ผู้อำนวยการส่วนภูมิภาคอาเซียนด้านคุณภาพ เจนเนอรัล มอเตอร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวภายในพิธีรับรางวัล
“รางวัลนี้เป็นขวัญกำลังใจที่ดีเยี่ยมสำหรับเราและเป็นแรงกระตุ้นให้เราเดินหน้านำเสนอ ยานยนต์และประสบการณ์ที่ผู้คนรัก เราให้ความสำคัญที่การให้ลูกค้าเป็นหัวใจในทุกสิ่งที่เราทำและดูแลลูกค้าให้อยู่กับเราตลอดไป” มร.จอห์นสันกล่าวเพิ่มเติม
การตัดสินรางวัลนี้ใช้วิธีการสำรวจความคิดเห็นของลูกค้าผู้ใช้รถ 5,800 รายใน 77 จังหวัดทั่วประเทศไทยทางโทรศัพท์ด้วยแบบสอบถามที่พัฒนาขึ้นล่วงหน้า การสำรวจครอบคลุมรถยนต์ 11 ยี่ห้อ รวมกว่า 45 รุ่น โดยแบ่งการประเมินคุณภาพออกเป็น 3 ด้านดังนี้
1. คุณภาพการบริการด้านการซื้อ-ขายรถใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการบริการด้านการขายของพนักงาน สภาพโชว์รูมและการส่งมอบ
2. ความพึงพอใจในคุณภาพรถแรกใช้
3. การบริการหลังการขาย ซึ่งพิจารณาจากสภาพศูนย์บริการ การต้อนรับของพนักงาน คุณภาพและความสามารถในการซ่อมบำรุง ราคาบริการอะไหล่และบริการด้านการชำระเงิน
เชฟโรเลตเพิ่งยกระดับรถแคปติวาที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ให้เป็นเวอร์ชั่นพิเศษในชื่อแคปติวา สปอร์ต เอดิชั่น (Captiva Sport Edition) และจัดแสดงภายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป แคปติวา สปอร์ต เอดิชั่นมาพร้อมกล้องมองหลังที่ทำงานเมื่อผู้ขับขี่เข้าเกียร์ถอยหลัง ภาพบริเวณด้านท้ายรถจะปรากฏขึ้นทันทีบนหน้าจอทัชสกรีนสีขนาดเจ็ดนิ้วบนคอนโซล เส้นกำหนดระยะ (gridline) จะปรับตำแหน่งทิศทางโดยอัตโนมัติตามการควบคุมพวงมาลัยเพื่อแสดงขอบเขตของตัวรถ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถตัดสินใจได้ว่าพื้นที่ดังกล่าวกว้างขวางเพียงพอสำหรับรถแคปติวาหรือไม่
แคปติวา สปอร์ต เอดิชั่นยังติดตั้งไฟแอลอีดีส่องสว่างขณะขี่เวลากลางวัน (LED daytime running lights) เพิ่มทัศนวิสัยสำหรับยานพาหนะที่วิ่งสวนมาและยกระดับความปลอดภัยโดยเฉพาะเมื่อขับขี่ในสภาพแสงสว่างน้อย รูปลักษณ์ภายนอกโฉบเฉี่ยวด้วยสปอยเลอร์และชุดแต่งบอดี้คิท ประทับ โลโก้ ‘Sport Edition’ และบันไดข้าง (สำหรับรุ่นเบนซิน) เสริมให้แคปติวา สปอร์ต เอดิชั่นมีความโดดเด่นเหนือกว่า
นับเป็นครั้งที่สองที่เชฟโรเลตได้รับรางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยม โดยในปี 2555 เชฟโรเลตคว้าสองรางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยมในด้านภาพลักษณ์ ‘ขับขี่สนุก- ควบคุมการขับขี่ได้แม่นยำ’ ตอกย้ำสมรรถนะอันเหนือชั้นสไตล์ยุโรปของรถเชฟโรเลตและความมุ่งมั่นผลิตยานยนต์ที่มีสมรรถนะโดดเด่นและการควบคุมที่แม่นยำ
แคปติวาและรถเชฟโรเลตรุ่นอื่นๆ จัดจำหน่ายภายในงานไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 31 ตั้งแต่วันนี้ถึง 10 ธันวาคมและที่ผู้จัดจำหน่ายเชฟโรเลตทั่วประเทศ
-
ภาพข่าว: ฮอนด้า คว้า 3 รางวัล ธุรกิจยานยนต์ยอดนิยม ประจำปี 2557 ในมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด นำโดย นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร (ที่ 2 จากขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ และนายสมภพ ปฏิภานธาดา (ที่ 2 จากซ้าย) ผู้จัดการทั่วไปส่วนการตลาด กับ 3 รางวัล “ธุรกิจยานยนต์ยอดนิยม” ประจำปี 2557 (TAQA-Thailand Automotive Quality Award 2014) ได้แก่ รางวัลด้านภาพลักษณ์ดีเด่นประเภทยี่ห้อที่น่าเชื่อถือ ซึ่งได้รับรางวัลติดต่อกันถึง 3 ปีซ้อน นอกจากนี้ ฮอนด้า แจ๊ซ ยังคว้ารางวัลด้านคุณภาพแรกใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทรถยนต์นั่งส่วนบุคคล-ซิตี้คาร์ และ ฮอนด้า แอคคอร์ด คว้ารางวัลด้านคุณภาพแรกใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทรถยนต์นั่งส่วนบุคคลขนาดกลาง ตอกย้ำพันธสัญญาในการมุ่งมั่นสร้างสรรค์ยนตรกรรมล้ำสมัย เพื่อร่วมสร้างความสุขให้แก่ลูกค้าชาวไทย และเติบโตเคียงข้างสังคมไทยตลอดไป
รางวัลนี้จัดขึ้นภายใต้ความร่วมมือของภาครัฐและเอกชน ได้แก่ สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ บริษัท คัสต้อม เอเชีย จำกัด หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และบริษัท สื่อสากล จำกัด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดการพัฒนาในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยอย่างต่อเนื่อง และนำไปสู่การยกระดับมาตรฐานของประเทศสู่มาตรฐานสากล
-
ลูกแม่โดม คว้ารางวัลนวัตกรรมยานยนต์ 3 ปีซ้อน ในงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31”



ชลัทชัย ปภัสร์พงษ์ รองประธานจัดงาน ควบคุมงานด้านการบริหารงานทั่วไป “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31” มอบรางวัลโล่เกียรติยศ ประกาศนียบัตร และทุนการศึกษามูลค่า 25,000 บาท แก่นักศึกษาทีม BACKPACKING สาขาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ ประกอบด้วย วิจิตรา เสริมจันทร์ และณัฐพงษ์ ศินารา ที่คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ1 การประกวดนวัตกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 5 โดยปีนี้ไม่มีทีมใดได้รับรางวัลชนะเลิศ
สำหรับผลงานของทีม BACKPACKING มีแนวคิดจากการจราจรที่ติดขัด และปัญหามลภาวะเป็นพิษที่มากขึ้น นำไปสู่การพัฒนานวัตกรรม BACKPACKING พาหนะไฟฟ้าที่สามารถพับเก็บเป็นกระเป๋าสะพายหลังได้ ช่วยให้การเดินทางสะดวกสบายด้วยขนาดกระทัดรัด น้ำหนักเบาเพียง 8 กิโลกรัม และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีเคล็ดลับอยู่ที่การเลือกใช้มอเตอร์บรัชเลสส์ขนาดเล็ก ประสิทธิภาพสูงร่วมกับชุดเฟืองทดขนาดเล็ก การออกแบบโครงสร้างน้ำหนักเบา ทำให้พาหนะชิ้นนี้มีความเร็วสูงกว่า 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสามารถใช้งานได้นานกว่า 1 ชั่วโมง ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
โครงการประกวดนวัตกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 5 หรือ THE 5th MOTOR EXPO AUTOMOTIVE INNOVATION AWARD 2014 เวทีประลองความคิดของนักเรียน นิสิต นักศึกษา สนับสนุนโดย KARSHINE มุ่งพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ด้านสิ่งประดิษฐ์ยานยนต์ สู่วงการอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในอนาคต เชิญผู้สนใจชมผลงานได้ที่บูธโครงการฯ ภายในชาเลนเจอร์ 2 อิมแพค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันนี้ถึง 10 ธันวาคม 2557
-
ครึ่งทาง MOTOR EXPO 2014 ยอดจองรถทะลุ 20,000
“มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31” สรุปงาน 7 วัน มียอดจองรถยนต์และบิ๊กไบค์รวม 20,655 คัน โตโยต้า ฮอตสุด 3,382 คัน ตามด้วยฮอนด้า 2,948 คัน และอีซูซุ 2,231 คัน คาดจบงานยอดจองใกล้เคียงกับที่คาดหมายไว้ 50,000 คัน ส่วนจำนวนผู้ชมน่าจะได้ตามเป้า 1.5 ล้านคน
ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31” เปิดเผยว่า “ยอดจองภายในงานตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน-5 ธันวาคม 2557 จำนวนรวมอยู่ที่ 20,655 คัน ค่ายรถยนต์ที่มียอดจองสูงสุด ช่วง 7 วัน อันดับ1 ได้แก่ โตโยต้า 3,382 คัน ส่วนแบ่งร้อยละ 17.5 อันดับ2 ฮอนด้า 2,948 คัน ส่วนแบ่งร้อยละ 15.3 อันดับ3 อีซูซุ 2,231 คัน ส่วนแบ่งร้อยละ11.6 อันดับ4 มาสด้า 2,045 คัน ส่วนแบ่งร้อยละ10.6 และอันดับ5 นิสสัน 2,045 คัน ส่วนแบ่งร้อยละ 10.6
รถยนต์ระดับหรูมียอดจองที่น่าพอใจ โดยเมร์เซเดส-เบนซ์ มียอด 686 คัน ตามด้วยบีเอมดับเบิลยู 496 คัน ส่วนรถจักรยานยนต์ใหญ่ หรือ บิ๊กไบค์ ได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมมากมาย มียอดจอง 1,368 คัน โดยฮอนดา ขายไปแล้วกว่า 327 คัน และไทรอัมฟ์ 282 คัน แสดงให้เห็นถึงความร้อนแรงของตลาดบิ๊กไบค์
นอกจากนี้ ผู้จัดได้เก็บรวบรวมข้อมูลจากกิจกรรมซื้อรถ ชิงรถ จนถึงวันที่ 5 ธันวาคม 2557 พบว่า รุ่นรถที่มาแรงและมียอดจองสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1) ฮอนด้า ซิตี 2) มาสด้า 2 ซีดาน และ 3) ฮอนด้า เอช-อาร์วี
“ส่วนจำนวนผู้ชมนั้นยังเหลือเวลาจัดงานอีก 5 วัน (6-10 ธันวาคม) ประกอบด้วยวันทำงาน 2 วัน และวันหยุด 3 วัน คาดว่าจะมีผู้ชมงานสูงมากในช่วงวันหยุดราชการ โดยประเมินว่าตลอดงานยอดผู้ชมจะอยู่ที่ประมาณ 1.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนประมาณ10%” ขวัญชัย กล่าวทิ้งท้าย
-
ภาพข่าว: “กรมควบคุมมลพิษ” ชมระบบควบคุมเสียง ในงาน “MOTOR EXPO 2014”

นิภาภรณ์ ใจแสน รักษาการผู้อำนวยการส่วนมลพิษทางเสียงและความสั่นสะเทือน สำนักจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ ให้เกียรติเยี่ยมชมระบบควบคุมเสียงภายในงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31” โดยมี ชลัทชัย ปภัสร์พงษ์ รองประธานจัดงาน ควบคุมงานด้านการบริหารงานทั่วไป ให้การต้อนรับ ณ ชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพค เมืองทองธานี เมื่อเร็วๆ นี้
-
“MOTOR EXPO 2014” สร้างสถิติหรู ยอดจองรถ 42,254 คัน ยอดผู้ชมกว่า 1.38 ล้านคน

“มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31” ปิดฉากยิ่งใหญ่ ยอดจองรถใหม่พุ่งแรงส่งท้ายปี รถยนต์นั่งขนาดเล็กอันดับหนึ่ง ตามด้วย รถเอสยูวี รถกระบะ และรถเก๋งหรู สร้างเม็ดเงินสะพัดในงานกว่า 52,000 ล้านบาท
ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31” เปิดเผยว่า “ยอดจำหน่ายรถยนต์ตั้งแต่ต้นปีจนถึงไตรมาส 3 ลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อถึงไตรมาสสุดท้ายในช่วงงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด การซื้อขายกลับมาคึกคักเหมือนทุกปี ส่งผลให้มียอดจองรถในงานตลอด 12 วัน รวม 42,254 คัน จำนวนผู้เข้าชมงานสูงถึง 1,384,182 คน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1.2% และคาดว่ามีเม็ดเงินหมุนเวียนในงานกว่า 52,000 ล้านบาท (รวมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ รถมือสอง และอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง)
ค่ายรถยนต์ที่มียอดจองรถในงานสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1 โตโยตา มียอดจองทั้งสิ้น 7,830 คัน อันดับ 2 ฮอนดา 6,719 คัน อันดับ 3 นิสสัน 4,318 คัน อันดับ 4 อีซูซุ 4,227 คัน และอันดับ 5 มิตซูบิชิ 4,196 คัน ส่วนรถเก๋งหรู นำโดยเมร์เซเดส-เบนซ์ มียอดจอง 1,414 คัน ตามด้วยบีเอมดับเบิลยู 965 คัน
ด้านจักรยานยนต์ระดับพรีเมียม มียอดจองรวม 2,718 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 29.4% โดยฮอนดาขายได้ 548 คัน ไทรอัมพ์ 497 คัน และคาวาซากิ 241คัน
ผู้จัดได้รวบรวมข้อมูลจากผู้ร่วมรายการซื้อรถ ชิงรถ ปีนี้ พบว่า รถเก๋ง มียอดจองคิดเป็นสัดส่วน 57.1% ของยอดจองทั้งหมดในงาน โดยรถกิจกรรมกลางแจ้ง (เอสยูวี) มียอดจอง 17.8% ส่วนรถกระบะ มียอดจอง 17.7% และรถประเภทอื่นๆ 7.4%
ที่น่าสนใจคือราคาเฉลี่ยรถที่ขายได้ในงานปรับเพิ่มขึ้นเป็น 1,141,896 บาท จากปีก่อนเฉลี่ยอยู่ที่ 1,046,457 บาท เนื่องจากปีนี้ผู้บริโภคให้ความสนใจกับรถยนต์นั่งขนาดเล็ก รถเอสยูวี และเก๋งหรู เพิ่มมากขึ้น
-
ปอร์เช่ ขนทัพขบวนรถหรูร่วมงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2014
ปอร์เช่ ประเทศไทย โดยบริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ขนทัพรถหรูเข้าร่วมงาน The 31st Thailand International Motor Expo 2014 งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 31 ซึ่งครั้งนี้ เอเอเอสฯ พร้อมขนทัพสุดยอดยนตรกรรมระดับโลกจากประเทศเยอรมนี มาให้ท่านสัมผัสได้อย่างใกล้ชิดแล้วตั้งแต่วันนี้ – 10 ธันวาคม 2014
พบกับบูธรถยนต์ปอร์เช่ได้ที่ บริเวณอาคารชาเลนเจอร์ 1 พร้อมใกล้ชิดสุดยอดยนตรกรรมระดับโลกจากประเทศเยอรมนี อาทิเช่น 911 Carrera S (911 คาร์เรร่า เอส) รถสปอร์ตในตำนานที่เดินทางมาถึงเจเนอเรชั่นที่ 7, บ็อกซ์เตอร์ ใหม่ (The new Boxster) รถสปอร์ตเครื่องยนต์วางกลาง เปิดประทุน 2 ที่นั่ง, เคย์แมน ใหม่ (The new Cayman) รถสปอร์ตเครื่องยนต์วางกลาง 2 ที่นั่ง เจเนอเรชั่นที่ 3, พานาเมร่า เอส อี-ไฮบริด (Panamera S E-Hybrid) รถสปอร์ตซีดานสุดหรูที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ที่มีระบบขับเคลื่อนแบบ plug-in ไฮบริดคันแรกของโลกในคลาสรถยนต์หรู, มาคันน์ (Macan) รถสปอร์ตอเนกประสงค์ขนาดคอมแพ็ค (Compact SUV) 5 ประตู 5 ที่นั่ง รุ่นใหม่ล่าสุด ที่เหมาะสำหรับทุกการขับขี่ในชีวิตประจำวัน
และไฮไลท์ของงานที่เอเอเอสฯ พร้อมเผยโฉมอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทยนั่นคือ คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด (Cayenne S E-Hybrid) รถสปอร์ตอเนกประสงค์ SUV คันแรกในคลาสรถหรูที่มาพร้อมระบบ Plug-in Hybrid รถยนต์ที่คุ้มค่าเงินที่สุดในเวลานี้ ซึ่งเปิดตัวไปที่งานมหกรรมยานยนต์ ณ กรุงปารีส เตรียมให้ท่านได้ยลโฉมและสัมผัสอย่างใกล้ชิดแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
“เรารู้สึกเป็นเกียรติและตื่นเต้นกับการได้เป็นส่วนร่วมในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งนี้ และมีความยินดีที่จะเรียนเชิญทุกท่านเยี่ยมชมบูธรถยนต์ปอร์เช่ พร้อมร่วมสัมผัส คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด (Cayenne S E-Hybrid) ใหม่ เป็นครั้งแรกในประเทศไทย” วินธร บุนนาค กรรมการผู้จัดการ ปอร์เช่ ประเทศไทย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด กล่าว
-
นิสสัน ปลื้ม รถยนต์ เทียน่า ได้รับคะแนนเต็มจากการทดสอบมาตรฐานความปลอดภัยจาก ASEAN NCAP

บริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด ประกาศความภาคภูมิใจกับรถยนต์ นิสสัน เทียน่า ที่ได้รับคะแนนสูงสุดในการทดสอบมาตรฐานความปลอดภัยจาก ASEAN NCAP* ทั้ง 2 ประเภท ได้แก่ ประเภทคุ้มครองผู้ขับขี่/ผู้โดยสาร และ ประเภทคุ้มครองเด็ก โดยประเภทคุ้มครองผู้ขับขี่/ผู้โดยสารได้รับคะแนนเต็ม 16 คะแนน และ ประเภทคุ้มครองเด็ก ได้คะแนน 5 ดาว หรือ 88 เปอร์เซ็นต์ จาก 100 เปอร์เซ็นต์
ซึ่งคะแนนสูงสุดทั้ง 2 ประเภทนี้ถือเป็นคะแนนที่ยังไม่เคยมีรถยนต์รุ่นใดในภูมิภาคนี้ได้รับมาก่อนและนับว่าเป็นคะแนนสูงสุดเท่าที่ ASEAN NCAP เคยทำการทดสอบมา
ดร. วอง ซอ วูน ประธาน ASEAN NCAP ได้ให้เกียรติเดินทางมามอบประกาศนียบัตรผลการรับรอง เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2557 ที่ผ่านมา ณ งานไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2014 พร้อมกล่าวว่า
“ผลคะแนนการทดสอบนี้มีความหมายที่สำคัญอย่างยิ่งต่อผู้ผลิตรถยนต์และลูกค้า ซึ่งการที่นิสสัน เทียน่า ได้รับคะแนนเต็มในการทดสอบการชนประเภทคุ้มครองผู้ขับขี่/ผู้โดยสารและยังได้คะแนน 5 ดาวในประเภทคุ้มครองเด็ก เป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจและสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยสูงสุดในรถยนต์รุ่นนี้ พร้อมยังเป็นการสร้างมาตราฐานใหม่ให้กับกลุ่มรถยนต์นั่งซีดาน จึงขอแสดงความยินดีกับนิสสันในความสำเร็จนี้ด้วย”
นอกจากนี้ คุณโทรุ ฮาเซกาวา รองประธาน บริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด และ ประธาน บริษัท นิสสัน มอเตอร์ เอเชีย แปซิฟิก จำกัด กล่าวว่า “นิสสันรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้รับการยอมรับในเรื่องด้านมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล เราจะยังคงเดินหน้าที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องด้วยคุณภาพและเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยเพื่อแสดงความสนับสนุนและตระหนักด้านความปลอดภัยและการใส่ใจต่อทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารในรถยนต์นิสสันทุกรุ่นทุกคัน”
นิสสัน เทียน่า มาพร้อมกับระบบด้านความปลอดภัยซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่น ซึ่งได้แก่ ระบบถุงลม 6 จุด คือ ถุงลมคู่หน้า ถุงลมด้านข้าง และ ม่านถุงลมด้านข้าง ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค และ ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ รวมทั้งจุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็กและจุดยึดบนเพดานซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานเพื่อเพิ่มความมั่นใจและความปลอดภัยสูงสุด
จากรูปซ้ายไปขวา:
1. (ที่ 5 จากซ้าย) คุณฮิโรยูกิ โยชิโมโตะ ประธาน บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
2. (ที่ 6 จากซ้าย) ดร. วอง ซอ วูน ประธาน ASEAN NCAP
-
ภาพข่าว: สมาคมผู้ผลิตยานยนต์ญี่ปุ่น ชมงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31”

ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงาน ร่วมกับ ชลัทชัย ปภัสร์พงษ์ รองประธานจัดงาน ควบคุมงานด้านการบริหารงานทั่วไป “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31” ให้การต้อนรับ ชินิชิโร่ โอกะ และ ทาดาชิ โทยา ตัวแทนสมาคมผู้ผลิตยานยนต์ญี่ปุ่น JAMA (Japan Automobile Manufacturers Association) ประจำสำนักงานสิงคโปร์ ในโอกาสเยี่ยมชมงาน ณ ชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพค เมืองทองธานี เมื่อเร็วๆ นี้
-
โหวทพริทที “MOTOR EXPO 2014” ลุ้นชิงทอง

“มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31” ชวนผู้ชมร่วมสนุกโหวทพริททีโดนใจผ่านแผ่นพับในงาน หรือส่ง SMS ชิงรางวัลรวมมูลค่ากว่า 100,000 บาท ตั้งแต่วันนี้ - 31 ธันวาคม 2557
อัครเรศ เตชะบูรณะเทพาภรณ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจและการตลาด บริษัท สื่อสากล จำกัด หัวหน้าโครงการประกวด “Motor Expo Smart Pretty Vote 2014” เปิดเผยว่า ปีนี้ได้รับความสนใจจากค่ายรถส่งพริททีร่วมประกวดถึง 16 ท่าน ซึ่งล้วนมีความโดดเด่นทั้งความสวย ความสง่างาม และปฏิภาณไหวพริบ โดยผู้จัดเปิดโอกาสให้ผู้ชมร่วมสนุกผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่
1) โหวททางแผ่นพับในงาน ลุ้นรับรางวัลที่ 1 ทองคำหนัก 1 บาท จำนวน 1 รางวัล รวมมูลค่าประมาณ 20,000 บาท รางวัลที่ 2 ทองคำหนัก 2 สลึง จำนวน 2 รางวัล รวมมูลค่าประมาณ 20,000 บาท รางวัลที่ 3 ลำโพง ติดรถยนต์ ยี่ห้อ ROCKFORD FOSGATE รุ่น P1692C จำนวน 2 รางวัล รวมมูลค่า 30,000 บาท
2) โหวทผ่าน SMS (สิทธิพิเศษเฉพาะลูกค้า truemove และ truemove H 3G+ เท่านั้น) พิมพ์ P ตามด้วยหมายเลขของ PRETTY ที่ต้องการโหวท เช่น P01 จากนั้นส่ง SMS ไปยังหมายเลขต่างๆ ดังนี้
- หมายเลข 4677306 เพื่อการโหวท 1 ครั้ง ค่าบริการครั้งละ 3 บาท
- ยังหมายเลข 4677307 เพื่อการโหวท 5 ครั้ง ค่าบริการครั้งละ 15 บาท
- หมายเลข 4677308 เพื่อการโหวท 10 ครั้ง ค่าบริการครั้งละ 30 บาท
- หมายเลข 4677309 เพื่อการโหวท 20 ครั้ง ค่าบริการครั้งละ 60 บาท
- หมายเลข 4677310 เพื่อการโหวท 50 ครั้ง ค่าบริการครั้งละ 150 บาท
ลุ้นรางวัล รางวัลที่ 1 จอ TFT MONITOR ติดเพดานรถยนต์ยี่ห้อ ROSEN รุ่น CM 7000 ขนาด 7 นิ้ว มูลค่า 8,000 บาท จำนวน 1 รางวัล และรางวัลที่ 2 น้ำมันเครื่อง ปตท.PERFORMA RACING SAE 5W-50 API SN/CF ขนาด 4.0 ลิตร มูลค่า 1,350 บาท จำนวน 10 รางวัล รวมมูลค่า 13,500 บาท
สำหรับพริททีที่ได้รับการโหวทสูงสุด จะได้รับของรางวัลดังนี้ รางวัลที่ 1 ทองคำหนัก 3 บาท จำนวน 1 รางวัล รวมมูลค่าประมาณ 60,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ทองคำหนัก 1 บาท จำนวน 1 รางวัล รวมมูลค่าประมาณ 20,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ทองคำหนัก 2 สลึง จำนวน 1 รางวัล รวมมูลค่าประมาณ 10,000 บาท สำหรับ ขวัญใจ SOCIAL NETWORK จากคะแนนโหวทสูงสุด จะได้รับทองคำหนัก 1 บาท จำนวน 1 รางวัล รวมมูลค่าประมาณ 20,000 บาท
ในปีที่ผ่านมา พริททีจากบีเอ็มดับเบิลยู คว้ารางวัลชนะเลิศคะแนนโหวทสูงสุด ส่วนปีนี้สาวสวยมากความสามารถจากค่ายรถยนต์ใดจะคว้าตำแหน่งไปครอง เชิญร่วมโหวทและร่วมลุ้นได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธค. 2557โดยผู้จัดจะรวบรวมคูปองทั้งหมดพร้อมจับคูปอง จากการโหวทผ่านข้อความ (SMS) ในวันที่ 29 มกราคม 2558 ต่อหน้าสักขีพยาน สื่อมวลชน และคณะกรรมการผู้ทรงเกียรติ ประกาศรายชื่อผู้โชคดีในนิตยสาร "ฟอร์มูลา", คาร์ สเตอริโอ, 4 WHEELS ฉบับประจำเดือนเมษายน 2558 และ www.motorexpo.co.th ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2558 ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง http://www.motorexpo.co.th/2014/pretty.php
-
ภาพข่าว: ‘เชลล์ เฮลิกส์’ คว้ารางวัล ธุรกิจยานยนต์ยอดนิยม 2557

บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด หนึ่งในผู้นำนวัตกรรมน้ำมันหล่อลื่นระดับโลก นำโดย นางสาวสิริวิภา ยุกตะทัต ผู้จัดการฝ่ายขายผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด (จากซ้ายคนที่ 5) เข้ารับมอบโล่ประกาศเกียรติคุณในรางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยม 2557 หรือ Thailand Automotive Quality Award 2014 (TAQA) ด้านผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่องกับรถยนต์ประเภทน้ำมันหล่อลื่น จากนายปราโมทย์ วิทยาสุข ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (จากซ้ายคนที่ 6) โดยมีนายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธาน (จากซ้ายคนที่ 4) และนายชลัทชัย ปภัสร์พงษ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท สื่อสากล จำกัด (จากซ้ายคนที่ 2) ร่วมแสดงความยินดีในงานประกาศรางวัลที่จัดขึ้นในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 31 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ฮอลล์ เมืองทองธานี อีกด้วย
สำหรับรางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยม 2557 หรือ Thailand Automotive Quality Award 2014 (TAQA) จัดต่อเนื่องเป็นปีที่13 โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทยให้ก้าวไกลสู่มาตรฐานสากล จึงได้ตกลงให้มีการดำเนินการสำรวจความพึงพอใจ ของผู้บริโภคต่อผลิตภัณฑ์รถยนต์และการบริการของรถยนต์ยี่ห้อต่างๆ และนำข้อมูลนั้นมอบให้ผู้ประกอบการ เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ในที่สุด
-
ภาพข่าว: โชว์รถ 3 ล้อ ยอดนิยมในงาน Motor Expo 2014

บริษัท กุศมัย มอเตอร์ จำกัด เจ้าของแบรนด์ ซูโมต้า ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถ ปิ๊คอัพ 3 ล้อ เอนกประสงค์เจ้าแรกในประเทศไทย ร่วมออกบูธในงาน Thailand Motor Expo 2014 เพื่อนำเสนอสุดยอดนวัตกรรมรถ 3 ล้อเอนกประสงค์แห่งปี ได้แก่รุ่น Sumota Smartyรถ 3 ล้อ ยอดนิยม เครื่องยนต์ขนาดเล็ก 110 CC ขับขี่ด้วยเกียร์อัตโนมัติ และสตาร์ทมือ Sumota TRANSFORMER รุ่นใหญ่ ทน พันธุ์อึด ด้วยขนาดเครื่องยนต์ 200-250 CC พร้อมระบบเกียร์ทด และไฮโดรลิค ดัมพ์ สามารถบรรทุกน้ำหนักได้สูงสุดถึง 2 ตัน รวมถึงซูโมต้า E-GO 3 ล้อไฟฟ้าขนาด 800 วัตต์ รถเพื่อสิ่งแวดล้อม โดยมีบริษัทชั้นนำและหน่วยงานราชการต่างๆให้ความสนใจเข้าชมภายในงาน ณ อิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี
-
ภาพข่าว: BRG ฉลองยอดทะลุเป้า

คุณสมศักดิ์ ศรีรัตนประภาส ประธานกรรมการบริหาร BRG GROUP พร้อมคณะผู้บริหารในเครือ และทีมงานเจ้าหน้าที่ของ BRG GROUP ร่วมฉลองความสำเร็จยอดจองทะลุเป้าหมายที่วางไว้ ภายในงาน MOTOR EXPO 2014 โดยทำยอดขายได้ 125 คัน จากเป้าหมายที่วางไว้ 100 คัน ซึ่งในงานนี้ BRG เป็นผู้จำหน่ายรถยนต์นำเข้าอิสระเจ้าเดียวที่ได้รับเกียรติให้เข้าร่วมงานนี้ ณ อาคารชาแลนเจอร์ เมืองทองธานี เมื่อเร็วๆนี้
-
จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ ทุบยอดขายทะลุ 160 ล้าน จากงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31 ณ อิมแพ็คเมืองทองธานี ยนตกรรมหรูแรงเหนือระดับ จากัวร์ เอ็กซ์เอฟ 2.0 ครองตำแหน่งดาวเด่นในงาน

จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ แบรนด์รถยนต์ระดับพรีเมี่ยมจากสหราชอาณาจักร ทำยอดขายถล่มทลายมากกว่า 160 ล้านบาทจากงานมหกรรมยานยนต์ที่ผ่านมา ซึ่งจัดขึ้น ณ อิมแพ็คเมืองทองธานี โดยบู้ทของสองแบรนด์ดังชูยนตกรรมเกรดพรีเมี่ยมและเอสยูวีระดับหรูที่มาพร้อมนวัตกรรมเพื่อการขับขี่ที่แรงเต็มขั้นหลากหลายรุ่น ซึ่งรุ่นที่สร้างกระแสฮือฮาในหมู่ผู้เข้าชมงานมากที่สุดคือ จากัวร์ เอ็กซ์เอฟ สุดยอดสปอร์ตซาลูนสมรรถนะสูง ตลอดจนรถยนต์รุ่นอื่นๆ จากจากัวร์ แลนด์โรเวอร์ ล้วนดึงดูดกลุ่มผู้บริโภคหน้าใหม่ได้เป็นจำนวนมาก แสดงถึงกำลังซื้อของนักขับรุ่นใหม่ที่เพิ่มสูงขึ้นท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดของตลาดรถหรูเมืองไทยในปัจจุบัน
จากัวร์ เอ็กซ์เอฟ คือผลงานขั้นสุดยอดแห่งการผสานสมรรถนะระดับสูงของรถสปอร์ตเข้ากับภาพลักษณ์อันหรูหราสไตล์รถซาลูน พร้อมมอบการควบคุมที่เฉียบคมทุกองศา ติดตั้งด้วยเทคโนโลยีทางวิศวกรรมที่คว้ารางวัลระดับโลกมากกว่า 100 รางวัล โดยผนวกรวมภาพลักษณ์อันเลิศหรูอย่างมีระดับในแบบฉบับจากัวร์ เข้ากับนวัตกรรมยานยนต์อัจฉริยะระดับพรีเมี่ยม เพื่อให้ จากัวร์ เอ็กซ์เอฟ เป็นรถสปอร์ตระดับหรูที่เหนือล้ำกว่ายานยนต์ทั่วไปที่คุณเคยสัมผัส ด้วยความหรูหราโออ่าของห้องโดยสารภายในและวัสดุบุผิวชั้นเยี่ยมที่ถอดแบบมาจากรุ่น เอ็กซ์เจ และมอบอีกหนึ่งทางเลือกกับเครื่องยนต์ดีเซลรุ่น AJ-i4D เพื่อประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานสูงสุดจากจากัวร์โดยวิ่งระยะทางไกลกว่า 500 ไมล์ ด้วยกำลัง 190 แรงม้าและแรงบิด 450 นิวตันเมตร ใช้เทคโนโลยี Intelligent Stop/Start เพื่อการประหยัดน้ำมันสูงสุด และปล่อยไอเสียเพียง 149 กรัม/กม. พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดรุ่นใหม่ที่ให้การตอบสนองที่เต็มประสิทธิภาพจึงช่วยเสริมสมรรถนะในการขับขี่อย่างเหนือระดับและคล่องตัวในทุกสถานการณ์
ส่วนรถเอสยูวีรุ่นยอดนิยมติดอันดับอย่าง เรนจ์โรเวอร์ อีโวค ยังคงเป็นที่สนใจของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง โดย อีโวค รุ่นเดียวสามารถทำยอดขายรวมจากงานมหกรรมยานยนต์ได้มากกว่า 60 ล้านบาท และสำหรับรุ่นอื่นๆ นั้น เรนจ์ โรเวอร์ สปอร์ต นับเป็นรถเอสยูวีที่ได้รับความนิยมสูง ด้วยสมรรถนะอันทรงพลังและประสิทธิภาพในการขับขี่อย่างเต็มอารมณ์
เช่นเดียวกับสุดยอดยานยนต์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดจากจากัวร์อย่าง จากัวร์ เอ็กซ์เจ ซึ่งจะปรากฏโฉมให้เห็นกันมากยิ่งขึ้นบนท้องถนนในประเทศไทย เนื่องจากรถจากัวร์ เอ็กซ์เจ นั้นนับเป็นยานยนต์ระดับโลกอีกรุ่นหนึ่งที่มีผู้สั่งจองในงานเป็นจำนวนมาก
มร. ริชาร์ด เฮก ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซิตี้ ออโต้โมบิล จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เปิดเผยว่า “ผู้บริโภคที่สั่งซื้อรถยนต์จากัวร์หรือแลนด์โรเวอร์ภายในงาน จะได้รับโปรโมชั่น 1:1:1
ของเรา ซึ่งมอบความคุ้มค่าให้แก่ถึง 3 ต่อ ได้แก่ ประกันภัยรถยนต์ฟรี 1 ปี ค่าน้ำมันฟรี 1 ปี และค่าบำรุงรักษาฟรี 1 ปี ทั้งนี้ ผมต้องขอขอบคุณทีมงานฝ่ายขายทุกท่าน จากตัวแทนจำหน่ายของเรา อันได้แก่ เพรสทีจ มอเตอร์ คาร์ส, จีที คาร์ส, และ จีบี ออโต้โมบิลส์ ที่พยายามปฏิบัติหน้าที่ให้คำแนะนำแก่ผู้ซื้ออย่างดีเยี่ยมในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งนี้ โดยทุกท่านแสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพและองค์ความรู้ของบุคลากรของเราในการต้อนรับลูกค้ารายใหม่เข้าสู่ครอบครัวจากัวร์แลนด์โรเวอร์อย่างอบอุ่น แม้ว่าการแข่งขันของตลาดรถยนต์หรูในประเทศไทยจะทวีความดุเดือดและท้าทายมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะสำหรับผู้ถือประโยชน์ในธุรกิจ หากเรายังคงภาคภูมิใจในการให้บริการหลังการขายชั้นเลิศแก่ลูกค้าทุกท่าน และจะมุ่งมั่นพัฒนาแบรนด์ให้เติบโตในตลาดเมืองไทยต่อไป”
ท่านสามารถค้นหารายละเอียดเกี่ยวกับยานยนต์และข้อมูลเชิงเทคนิคได้ที่เว็บไซต์ www.landroverthailand.com และ www.jaguarthailand.com
-
Gossip News: ปั้มยอดโค้งสุดท้ายไตรมาส 4/57

ปิดฉากไปเรียบร้อยแล้วสำหรับงานมอเตอร์โชว์ปี 2557 ซึ่งว่ากันว่า..กระแสตอบรับค่อนข้างดีพอสมควร อานิสงส์คงตกมาถึงบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไม่มากก็น้อยจริงมั๊ยล่ะคร้า ซึ่งพอเหลียวมองเจ้าตลาดอะไหล่ชิ้นส่วนยานยนต์ระดับโลกอย่าง บมจ.ฟอร์จูนพาร์ท อินดัสตรี้ หรือ FPI หัวเรือใหญ่อย่าง “เฮียพอล” แอบกระซิบมาว่า ช่วงนี้กำลังรอลุ้นออร์เดอร์ที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย แถมออร์เดอร์ที่ทะลักอยู่ขณะนี้ เฮียก็กำลังเร่งเดินเครื่องผลิตอย่างต่อเนื่องชนิดตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน็อต แถมไตรมาส 4 ยังถือเป็นช่วงช่วง”ไฮซีซั่น” หรือช่วงที่พีคสุดของอุตสาหกรรมยานยนต์ งานนี้คงปั๊มยอดขายกระฉูดรับปีใหม่เลยคะเฮียขา!!!