enjoyjam.net
ภาพยนตร์ => ข่าวภาพยนตร์ => Topic started by: FB on July 07, 2014, 03:20:56 PM
-
สุดหินคุณชายอดัม ใช้เวลาร่วม 2 ปี เตรียมงานถ่ายทำจนปิดกล้อง “ผีห่าอโยธยา” หนังผีย้อนยุคแอ็คชั่นสยองขวัญมันส์เลือดสาด ระดมนักแสดงถ่ายทำทีเซอร์พร้อมฉายในโรงภาพยนตร์


เดินเครื่องเต็มสูบในโค้งสุดท้ายสำหรับ “ผีห่าอโยธยา” ผลงานการเขียนบท และกำกับภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของ ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคคล หรือคุณชายอดัม หลังจาก รวบรวมข้อมูล รีเสิร์ช เตรียมงานเกือบ 2 ปี เปิดกล้องและถ่ายทำไปร่วมปีจนปิดกล้องไปเป็นที่เรียบร้อย ผ่านการตัดต่อ และเตรียมตัวเข้าสู่กระบวนการโพสต์-โปรดักชั่น และปรึกษาผู้สร้างอย่าง เสี่ยเจียง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐผู้อำนวยการสร้าง ประธานกรรมการบริหาร บ.สหมงคลฟิล์มฯ เชื่อว่านี่คือภาพยนตร์ผีแอ็คชั่นสยองขวัญย้อนยุคมันส์เลือดสาดประจำปี 2558 ที่เต็มไปด้วยความแปลกใหม่ และสร้างความแตกต่างจากทุกๆหนังผี และหนังแอ็คชั่นที่ผ่านๆ มา พร้อมด้วยเชิญบรรดาพี่น้องสื่อมวลชนเข้าเยี่ยมชมการถ่ายทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการถ่ายทำภาพยนตร์ทีเซอร์ตัวอย่าง เพื่อเรียกน้ำย่อย ให้กับผู้ชมที่จุดถ่ายทำใน โลเกชั่น ณ พร้อมมิตรสตูดิโอ ค่ายสุรสีห์ จ.กาญจนบุรี งานนี้เราเลยได้เห็นเหล่าทีมนักแสดงวัยรุ่น ไม่ว่าจะเป็น เต้ย พงศกร เมตตาริกานนท์, แคท ซอนญ่า สิงหะ, แมกกี้ อาภา ภาวิไล, แต๊บ AF 5 ธนพล มหธร และขอแนะนำ ฮิปฮอปสาวสุดเซ็กซี่จากวง fullclips โซดา-วีรี ละดาพันธ์ กลับมาแต่งชุดย้อนยุคในบรรยากาศสมัยอโยธยา จับดาบ จับค้อน เนื้อตัวเปื้อนเลือดฟาดฟันหั่นคอเหล่าผีห่าอีกครั้ง
โดยจุดแรกในการเยี่ยมชม 2 นักแสดงหนุ่ม เต้ย-พงศกร และ แต๊บ-ธนพล ที่รับบทเป็น 2 เพื่อนซี้เด็กวัด เข้าฉากร่วมกับนักแสดงสมทบ ชาวบ้านในสมัยอโยธยาที่ต่างขนข้าวของติดตัวเตรียมอพยพหนีออกจากหมู่บ้าน หลังจากเกิดเหตุการณ์ประหลาดที่ผู้คนล้มตายกันอย่างมากมายจากอุบัติของผีห่า ซึ่งเชื่อว่ามาจากการระบาดของโรคห่าในยุคสมัยนั้น ขณะที่ทั้งสองต่างช่วยกันลากเกวียนเพื่อขนศพไปทิ้ง สำหรับฉากนี้ทางทีมงานมีการเซ็ทบ้านเรือนในหมู่บ้าน พร้อมกับวัวที่ต้องลากเกวียนขนศพเข้าฉาก จุดเริ่มต้นของเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทั้งเต้ย และแต๊บต่างเจอศึกหนัก เพราะมีนักแสดงรุ่นใหญ่ที่มารับเชิญพิเศษดูจะไม่ค่อยตั้งใจแสดงสักเท่าไหร่จนต้องมีการเทคอยู่หลายครั้ง นั่นคือพี่วัวที่ต้องลากเกวียนนั่นเองเพราะในระหว่างถ่ายทำ ที่แต๊บต้องพูดคุยไดอะล็อคสำคัญ ที่เจ้าตัวยืนยันว่าบทพูดยาวมาก และเป็นถ้อยคำโบราณที่ยากในการจดจำพี่วัวก็จะคอยทั้งเบียดกระแซะ และดันพี่แต๊บอยู่ตลอดเวลา แต่ถึงกระนั้นการถ่ายทำก็ผ่านพ้นไปด้วยดี
จนกระทั่งมาถึงไฮไลท์การถ่ายทำ ภาพยนตร์ทีเซอร์ช่วงเวลา magic hour (ตะวันชิงพลบ) ซึ่งเป็นการทำงานเพื่อแข่งกับเวลา แต่แลกมาด้วยวิช่วลทางด้านภาพที่คุณชายอดัม ตั้งใจถ่ายทอดรับกับความสวยงามของแสงอาทิตย์สุดท้ายของวันที่กำลังจะดับมืดลง ในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยกลุ่มควัน เราจะได้เห็นเหล่าหนุ่มสาวซึ่งเปรียบได้กับผู้รอดตายกลุ่มสุดท้ายในหมู่บ้าน ทั้ง เต้ย พงศกร ประคอง แคท ซอนญ่า หญิงคนรักที่ยอมทิ้งชีวิตจากครอบครัวอันมั่งคั่งหนีตายไปด้วยกัน, แมกกี้ อาภา หญิงคณิกาใบ้หูหนวกแห่งโรงชำเรา แต๊บ AF5 ลูกค้าคนสำคัญที่หนีตายออกมาจากโรงชำเราชาย และสุดท้าย โซดา-วีรี คือช่างตีดาบหญิงแกร่งคนเดียวในหมู่บ้านที่มีเพลงดาบไม่เป็นรองชายใด กำลังเดินมุ่งหน้าสู่ดวงอาทิตย์ที่กำลังจะดับลง โดยผ่านซากศพของผู้คน และฝูงผีห่าที่ล้มตายเป็นจำนวนมาก งานนี้มีการขนเหล่านักแสดงสมทบและซากศพผีห่าที่นับร้อยชีวิตที่ถูกเนรมิตขึ้นและคละคลุ้งไปด้วยเลือดที่ถูกนำมาชโลมไปทั่วตัวผีห่า และรวมไปถึงเหล่านักแสดงหลักของภาพยนตร์
คุณชายอดัม : ก็สำหรับวันนี้นะครับเป็นการเชิญทุกท่านได้มาชมการถ่ายทำภาพยนตร์ และทีเซอร์หรือตัวอย่างขนาดสั้นของภาพยนตร์เพื่อเตรียมไปฉายในโรงภาพยนตร์ครับผม ด้วยความตั้งใจคืออยากจะมีช็อตหนึ่งที่เราจะได้เห็นกลุ่มนักแสดงหลัก ปรากฎอยู่ก็เลยตัดสินใจมาถ่าย หลังจากที่ตัวหนังปิดกล้องไปเรียบร้อยแล้ว ช็อตนี้จะมีความพิเศษตรงที่ผมอยากให้เห็นนักแสดงผ่านด้านหลังที่มีฉากหลังเป็นพระอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้า ตัวละครจะมีคาแรคเตอร์แตกต่างกัน ซึ่งจะเป็นการบอกถึงภาพรวมของตัวละครและบุคลิกของหนังเรื่องนี้ แค่เราได้เห็นศพนอนเรียงกันอยู่แสดงว่ามันจะต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่นอนกับบุคคลเหล่านี้ ซึ่งจะอิงกับการเอาชีวิตรอดนะครับ ก็ช็อตที่วางไว้ พยายามให้ได้พระอาทิตย์ตกอยู่ข้างหลัง ไม่รู้ว่าจะได้ไหวรึเปล่า เพราะว่าตอนถ่ายทำมันค่อนข้างมืดเร็วมาก ถือว่าพอใจครับสำหรับวันนี้ เพียงแต่หลายๆ ครั้งในการทำงานเราต้องทำงานแข่งกับเวลา และมีอุปสรรค รายละเอียดเยอะที่ยากแก่การคาดเดา เหมือนฉากที่เต้ยกับแต๊บลากเกวียนเข็นศพ ถ่ายๆ กันอยู่แต๊บก็โดนวัวขวิดไปถ่ายไปขวิดไปหยุดไม่ได้ๆ วัวมันก็ดันๆๆ และนี่ขนาดตัวใหญ่แล้วนะยังเอาไม่อยู่ คือเพราะฉะนั้นงานของผีห่าอโยธยาไม่เคยมีคำว่าง่าย แต่ทุกอย่างก็เสร็จสิ้นด้วยดีครับ สำหรับทีเซอร์ก็จะได้ชมกันเร็วๆ นี้ส่วนตัวภาพยนตร์ผีห่าอโยธยา ยังไงก็ฝากติดตามชมเข้าฉายวันที่ 18 ก.พ.ทุกโรงภาพยนตร์ทั้งประเทศครับ”
-
ร่วมงาน คุณชายอดัม ผกก. ผีห่าอโยธยา 7 นักแสดงงานเข้าทุ่มสุดชีวิตกับกลุ่มผู้เหลือรอดจากอุบัติผีห่ากัดกินผู้คน




อีกหนึ่งผู้กำกับภาพยนตร์ที่ทุกอย่างต้องพร้อม สำหรับ คุณชายอดัม-ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคลโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนักแสดง ที่ผ่านการคัดเฟ้น มากับมือด้วยแล้ว อย่างเรื่อง “ผีห่าอโยธยา” ภาพยนตร์เรื่องที่ 2 กับ สหมงคลฟิล์ม อินตอร์เนชั่นแนล และเป็นหนังพีเรียด แอ็คชั่น สยองขวัญเลือดสาด ที่เรื่องเกิดขึ้นในสมัยอโยธยาปีพ.ศ. 2108 ที่มีโรคห่าระบาด ผู้คนล้มตายจำนวนมาก ศพกลับฟื้นมีชีวิตไล่กัดกินผู้คนทั่วทั้งหมู่บ้าน เหลือเพียงคนกลุ่มหนึ่งท่ามกลางสถานการณ์แห่งความเป็นความตาย และต้องมาเผชิญหน้าเพื่อเอาตัวรอดกับวิกฤติผีห่ากัดกลืนกินผู้คนในหมู่บ้านร่วมกัน งานนี้ทุกตัวละครจะต้องถูกถ่ายทอดแต่ละอารมณ์ออกมา และตัวละครหลักจาก 7 นักแสดงที่มีตั้งแต่รุ่นใหม่ไฟแรงถึงรุ่นใหญ่มากฝีมือประกอบไปด้วย
เต้ย พงศกร เมตตาริกานนท์ พระเอกหนุ่มหล่อเข้มดาวรุ่ง รับบทไอ้คง เทพบุตรเด็กวัด ที่ตั้งมั่นในความดี และยึดมั่นในความรักต่ออีเมี้ยนอย่างเต็มเปี่ยม แคท ซอนญ่า สิงหะ นางเอกสาวที่เก่งฉกาจบทดราม่า รับบทอีเมี้ยน ลูกสาวคหบดีผู้มั่งคั่ง แต่กลับหลงรักเด็กวัดอย่างไอ้คงจนหมดใจ ยอมเสียสละละทิ้งทุกอย่างในชีวิต แม็กกี้ อาภา ภาวิไล กับบท คณิกาใบ้หูหนวก แห่งโรงชำเราชาย หน้าตาสะสวยที่ยอมทำทุกอย่าง เพื่อเอาตัวรอด การแสดงที่ใช้เพียงแค่ภาษากายเท่านั้น แต๊บ AF 5 ธนพล มหธร รับบทเด็กวัดเจ้าสำราญ ที่หลงใหลอยู่กับนารีและเมรัย พร้อมกับการแสดงที่เรียกได้ว่าเต็มไปด้วยเซอร์ไพรส์กับภาพยนตร์เรื่องแรก ขอแนะนำ วีรี ละดาพาณิชย์ดี สาวเซ็กซี่ กับบท อีบัวช่างตีดาบหญิงเดียวในหมู่บ้าน ที่จับดาบถือค้อนไล่ทุบหัวปาดคอผีห่าเคียงข้างบุรุษ คานธี อนันตกาญจน์ รับบท เทพ อดีตหัวหมู่ทะลวงฟัน มีความสามารถในการใช้ศาสตราวุธ ชายขี้เมาที่จมจ่อมอยู่กับไห หนึ่ง ชลัฎ ณ สงขลา กับบทนายจัน ตัวละครที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมแบบสุดกู่ เจ้าของโรงชำเราชาย และเจ้าหนี้ขาใหญ่ของผู้คนยากไร้ในหมู่บ้าน
เตรียมพบกับการแสดงที่เรียกได้ว่าทุ่มชีวิต ของเหล่านักแสดงหลัก ที่พร้อมสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับผู้ชมภายใต้การกำกับแบบบ้าพลัง ของผู้กำกับที่มากด้วยไอเดีย ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล เตรียมสัมผัสความมันส์ของหนังผีเลือดสาด แอ็คชั่น-สยองขวัญ ท่ามกลางบรรยกาศเมื่อ 400 กว่าปีที่แล้ว 18 ก.พ.นี้กับ ผีห่าอโยธยา ทุกโรงภาพยนตร์
-
Movie Guide: ตัวอย่างภาพยนตร์ “ผีห่าอโยธยา” เข้าฉาย 18 กุมภาพันธ์ 58


ปีพุทธศักราช 2108 ท่ามกลางมหาศึกระหว่างอโยธยาและหงสายังมีคำบอกเล่าถึงโรคาพิบัติภัยครั้งใหญ่ที่ประวัติศาสตร์มิได้จารึกไว้นั่นคืออุบัติแห่ง “ผีห่า” หายนะอาเพศที่ทำให้ศพที่เสียชีวิตจากโรคห่ากลับฟื้นชีวิตขึ้นใหม่อีกครั้งในคราบของอสูรร้ายที่ไล่ล่ากันกินผู้คนเพื่อแพร่เชื้อร้ายให้มนุษย์กลับกลายมาเป็นพวกของมัน โดยที่ไม่มียาใดจะรักษาได้ทางเดียวที่จะหยุดมันได้คือการฟันที่หัวของมันให้ขาดออกจากร่างเท่านั้น
สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล และ ฟุ๊คดุ๊ค ฟิล์มพาคุณสัมผัสกับความมันส์แบบสยองขวัญ ในภาพยนตร์แอ็คชั่นสยองขวัญเลือดสาดย้อนยุคPERIOD -SURVIVAL ACTION-HORROR
จากผลงานเขียนบท-กำกับภาพยนตร์ โดย ม.ร.ว. เฉลิมชาตรี ยุคล ร่วมด้วย เต้ย-พงศกร เมตตาริกานนท์, แคท-ซอนญ่า สิงหะ, แม็กกี้- อาภา ภาวิไล, แต๊บ-เอเอฟ ธนพล มหธร,โซดา-วีรี ละดาพันธ์, คาน-คานธี วสุวิชย์กิต, หนึ่ง-ชลัฎ ณ สงขลา, ชาติ อรรถจินดา, แนน-ปรางค์วลัย วงศ์สว่างวงศ์
๑๘ ก.พ. ๕๘ ถึงคราที่อุบัติผีห่า.....จักรุกรานพี่น้องกลืนกินอโยธยาจนแทบสิ้นแผ่นดิน
-
Movie Guide: ความจริงของอุบัติแห่ง “ผีห่า” ประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยถูกจารึก ผีห่าอโยธยา – 18 กุมภาพันธ์ 2015 ในโรงภาพยนตร์



ผีห่าอโยธยา มหาวิบัติโรคา ศพกินคน
ในปีพุทธศักราช 2108 ท่ามกลางสงครามระหว่างอโยธยาและหงสา ได้เกิดการระบาดของโรคห่าขึ้นอย่างหนัก มีคำบอกเล่าหนึ่งที่ประวัติศาสตร์ไม่ได้จารึกไว้ว่า กาลครั้งนั้น คือ อุบัติแห่ง “ผีห่า” หายนะอาเพศที่ทำให้ศพซึ่งตายไปแล้วจากโรคห่า ลุกฟื้นขึ้นมาอีกครั้งในคราบอสูรร้าย ไล่ล่ากันกินผู้คนเพื่อแพร่เชื้อให้กลายเป็นพวกเดียวกับมัน ไม่มียารักษา มีเพียงการฟันหัวของมันให้ขาดเท่านั้นจึงจะหยุดมันได้
สมองสุดคลั่ง ที่ขังความหิวกระหายเลือดและเนื้อ ถือเป็นจุดตายเพียงหนึ่งเดียวของมัน
นัยตาดุจผีร้าย จากขุมนรก มองเห็นเหยื่อได้ดีทั้งในที่มืดและสว่าง
ฟันแหลมคม พร้อมกัดกินฉีกร่างเหยื่อและแพร่เชื้อให้เป็นพวกเดียวกับมัน
มือแข็งแรงผิดมนุษย์ จับเหยื่อฉีกร่างได้ด้วยมือเปล่า
ขาทรงกำลัง ว่องไว ไล่ล่าเหยื่อไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
ผีห่าอโยธยา - 18 กุมภาพันธ์ 2558 ในโรงภาพยนตร์
-
สวยหวาน ไหวพริบรอบตัว เซ็กซี่ดุดัน แคท-ซอนญ่า, แม็กกี้-อาภา, โซดา วีรี ทุ่มสุดชีวิตละเลงเลือดเผชิญหน้าผีห่า 3 คาแรคเตอร์นางเอกสาว “ผีห่าอโยธยา” ย้อนยุคเลือดสาด

“ผีห่าอโยธยา” ภาพยนตร์ผีแอ็คชั่น-สยองขวัญ-เลือดสาด ที่มาในฉากหลังย้อนยุค ในสมัยอยุธยา 400 กว่าปีที่แล้ว เกิดโรคห่าระบาดที่ส่งผลให้ผู้คนในหมู่บ้านล้มตาย และลุกขึ้นมามีชีวิตกัดกลืนกินผู้คนที่เหลือรอด จากไอเดียที่กลั่นมาจากมันสมองของ ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล หรือคุณชายอดัม ที่ต้องยกนิ้วในความแปลกใหม่ผสมผสานแนวคิดออกมาเป็นที่น่าจับตามอง พร้อมระดมทีมงานที่อยู่เบื้องหลังงานสร้างภาพยนตร์แอ็คชั่นอิงประวัติศาสตร์เรื่องยิ่งใหญ่อย่าง “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” มาร่วมสร้างสรรค์ผลิตผลงานภาพยนตร์สุดมันส์ประเดิมปีพ.ศ. 2558 ที่รับประกันไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า, ฉาก, โลเกชั่นต่างๆ ที่ถูกเซ็ทขึ้นมาในภาพยนตร์ รวมไปถึงการดีไซน์ออกแบบตัว “ผีห่า” ตัวละครสำคัญที่จะออกกัดกลืนกินผู้คนตลอดทั้งเรื่องซึ่งได้ ป็อบ-เมธาพันธ์ ปิธันยพัฒน์ มือออกแบบ และแต่งหน้าเทคนิคพิเศษระดับแถวหน้าของประเทศ ที่มีส่วนร่วมสำคัญตั้งแต่สุริโยไทมารับหน้าที่
สำหรับ 3 นักแสดงสาวที่จะมาถ่ายทอด 3 ตัวละครสำคัญ นำเสนอคาแรคเตอร์ตัวละครผู้หญิงที่มีความแตกต่างกัน เก่ง สวย เซ็กซี่ ฉลาด ไหวพริบเป็นเลิศ และแกร่งไม่แพ้ชายอกสามศอก สามารถหยิบอาวุธลุกขึ้นมาฟาดฟันบั่นคอผีห่าได้ ทัดเทียมชาย ได้นักแสดงสาวที่น่าจับตามองอย่าง แคท-ซอนญ่า สิงหะ นางเอกสาวจากช่อง 7 (คือหัตถาครองพิภพ) มารับบท เมี้ยน ถ่ายทอดบทที่สื่อถึงอารมณ์ความรู้สึกในแง่มุมความรัก ที่เต็มไปด้วยความผูกผัน , แม็กกี้-อาภา ภาวิไล รับบท พลอย คณิกาใบ้ ฉลาดแกมโกงเต็มไปด้วยไหวพริบเอาตัวรอดเก่ง และ โซดา-วีรี ละดาพันธ์ รับบท บัว ซึ่งเป็นตัวแทนของ หญิงสาวที่มีความแกร่งกล้าไม่แพ้ชายอกสามศอก โดยเฉพาะการต่อสู้ที่ต้องจับดาบอาวุธแต่ในขณะเดียวกันเต็มไปด้วยความเซ็กซี่ทุกอณู
“นางเอกคนแรกผมเลือกน้องแคท ซอนญ่า สิงหะ มารับอีเมี้ยน ลูกคหบดีที่ไปหลงรักเด็กวัด (เต้ย-พงศกร) เป็นตัวละครที่มีความดรามาติกสูงอยู่ได้ด้วยความรัก เป็นสาวหวาน มีชาติตระกูล แต่ยอมทุ่มเททุกอย่างสละทิ้งทุกอย่างในชีวิตเพื่อชายคนรัก เป็นตัวละครที่มีเรื่องของการแสดงออกทางอารมณ์สูง ต้องร้องไห้เยอะ ซึ่งแคทเป็นนางเอกที่ตรงกับที่เราต้องการร้องไห้แบบสั่งได้ แต่ในขณะเดียวกันเมื่อถึงตาจนก็พร้อมที่จะลุกขึ้นมาหยิบจอบขึ้นมาจามมาสับคอผีห่า
แม็กกี้-อาภา ภาวิไล มีความสามารถทางการแสดงอยู่แล้วมาเล่นเป็นหญิงสาวหน้าตาสวยแต่เป็นใบ้ชื่ออีพลอยเป็นคณิกาอยู่ในโรงชำเราชาย สถานที่เที่ยวสำหรับผู้ชายในสมัยก่อน เป็นคนหนึ่งที่ต้องเอาตัวรอดเก่ง ทั้งเรื่องเล่นโดยไม่มีบทพูดสักคำเดียว แต่ต้องหนีผีต้องตกใจกลัวโดนไล่ล่าถูกทำร้ายจากทั้งคนและผี แสดงออกได้จากแววตาท่าทางและภาษากายเท่านั้น พูดได้เลยว่าเป็นบทที่ยากและหินสำหรับแม็กกี้มากๆ
ในขณะที่ อีบัว ตัวละครที่บู๊เยอะสุดแล้วต้องเซ็กซี่ที่สุดในเรื่อง เป็นครั้งแรกที่ผมทำหนังแล้วรู้สึกว่าตัวละครมันเซ็กซี่มันดูวาบหวิวเอาเรื่องเลยทีเดียว เป็นช่างตีดาบหญิง มีค้อนคู่ดาบคู่เป็นอาวุธ บั่นคอผีห่าเคียงบ่าเคียงไหล่ตัวละครผู้ชาย เราได้นักแสดงหน้าใหม่คือโซดา ซึ่งไม่เคยผ่านการแสดงใดๆ มาก่อนเลยเป็นนักร้องฮิปฮอปวง fullclips มารับบทที่หนักมากๆ ต้องสู้กับผีห่าทั้งเรื่องตัวเปื้อนเลือดทุกซีนเจอทั้งระเบิดลงน้ำลุยไฟครบเลยสำหรับหนังเรื่องแรก แล้วน้องตั้งใจมากหลายครั้งที่ติดคาแรคเตอร์ตัวเองกลับไปบ้านเพราะถอดไม่ออก จนแอ็คติ้งโค้ชหรือนักแสดงรุ่นพี่ต้องช่วย เพราะเขาตั้งใจมากๆ อินกับบทมากๆ”
สิ่งที่ 3 นางเอกสาวต้องเผชิญร่วมกัน คือความโหดของตารางการถ่ายทำ ที่ต้องถ่ายกันตั้งแต่เช้า-เช้าของอีกวัน และต้องคลุกฝุ่นละเลงเลือดไปทั้งตัว เตรียมพบกับอีกหนึ่งความสามารถทางการแสดง และทุ่มเทชีวิตแบบจัดเต็มของ3นางเอกสาวที่ คุณชายอดัม-ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล คัดเลือกนักแสดงเองกับมือ และการันตีจากฝีไม้ลายมือแล้วว่านี่จะเป็น 3 นักแสดงสาวที่เป็นคลื่นลูกใหม่ที่น่าจับตามองทั้งในมุมดราม่า, โรแมนติค, แอ็คชั่น ชนิดครบทุกอารมณ์ซึ่งจะถูกถ่ายทอดใน “ผีห่าอโยธยา” 18ก.พ. นี้ทุกโรงภาพยนตร์
-
คุณชายอดัม พร้อม เต้ย, แคท, แม็กกี้, แต๊บ เอเอฟ, โซดา, หนึ่ง, คาน 7 ผู้รอดตายรุดแจ้งแถลงข่าวเตือนชาวกรุงเทพเตรียมรับมือ “ผีห่าอโยธยา”บุก หลังกัดกลืนกินผู้คนทั่วทั้งอโยธยา

กำลังอยู่ในกระแสความสนใจของเหล่าคอหนัง และสร้างความร้อนแรงอยู่ในสังคมโซเชี่ยลและสื่อออนไลน์อยู่ในขณะนี้ ทันทีที่ตัวอย่างภาพยนตร์ “ผีห่าอโยธยา” ภาพยนตร์ไทยแอ็คชั่นสยองขวัญเลือดสาดถูกปล่อยออกมาเพียงไม่กี่วัน ด้วยไอเดียแนวคิดและวิช่วลทางด้านภาพที่ทั้งแปลก แหวก พร้อมแฝงด้วยจินตนาการอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน เมื่อโรคห่าที่เคยคร่าชีวิตผู้คนในอดีตถูกนำมาผสมผสานกับรูปแบบการนำเสนอในแนวทางของภาพยนตร์ผีสยองขวัญภายใต้บรรยากาศย้อนยุคกลับไปในอดีต 400 กว่าปีในสมัยอโยธยา
งานนี้ สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล และ ฟุ๊คดุ๊คฟิล์ม ต่างช่วยกันเนรมิต ลาน SKY DINING (สกาย ดายนิ่ง) ชั้น 6 Siam DISCOVERY (สยามดิสคัพเวอรี่) ให้เป็นสถานที่เล่าแจ้งแถลงข่าวเตือนภัยแก่พี่น้องชาวกรุงเทพผ่านพี่ๆ สื่อมวลชนถึงการมาของ “อุบัติผีห่า” มหันตภัยครั้งใหญ่ของโรคห่าระบาดที่ยากในการรับมือ และหาได้มียารักษาหรือตำรับสมุนไพรอื่นใดจะแก้ไขได้ ส่งผลให้ ณ บัดนี้ “ผีห่า” ได้ระบาดไปทั่วทั้งอโยธยาแล้ว ผู้คนต่างล้มตายเป็นจำนวนมาก เดือดร้อนไปทั่วทุกหนระแหง เมื่ออยู่ดีๆ ศพคนตายกลับฟื้นมีชีวิตและไล่กัดกินชาวบ้านลูกเล็กเด็กแดงไปทั่วหนำซ้ำต่างติดเชื้อผีห่ากันยกใหญ่ งานนี้เลยทำให้เหล่าบรรดาผู้ประสบเหตุโดยตรง ซึ่งประกอบไปด้วย คุณชายอดัม ม.ร.ว. เฉลิมชาตรี ยุคล พร้อมด้วย 7 หนุ่มสาวผู้รอดตายกลุ่มสุดท้ายของหมู่บ้านอโยธยา ไม่ว่าจะเป็น “ไอ้คง” (เต้ย-พงศกร เมตตาริกานนท์), “อีเมี้ยน” (แคท-ซอนญ่า สิงหะ) คู่รักหนุ่มสาวที่พากันหนีตาย, “อีพลอย” (แม็กกี้- อาภา ภาวิไล) คณิกาหน้าสวยแต่เป็นใบ้หูหนวก, “ไอ้ขวัญ” (แต๊บ เอเอฟ- ธนพล มหธร) หนุ่มนักเที่ยวผู้แสวงหาความสุขจากโรงชำเราชายจากเหล่าคณิกาสาว, “อีบัว” (โซดา-วีรี ละดาพันธ์)ช่างตีดาบหญิงประจำหมู่บ้าน, “ไอ้เทพ” (คาน-คานธี วสุวิชย์กิต) อดีตหัวหมู่ทะลวงฟันทหารหาญจากศึกหงสา, “นายจัน” (หนึ่ง-ชลัฎ ณ สงขลา) เจ้าหนี้รายใหญ่และเจ้าของโรงชำ ต่างอดรนทนไม่ไหวรวมตัวกันหนีตายมายังมหานครเพื่อแจ้งข่าว และให้ข้อมูลบอกเล่าถึงสิ่งที่ทุกคนต่างประสบพบเจอมาด้วยกัน ความสยดสยองที่ยากจะต้านทาน รวมไปถึงหนทาง และวิธีการที่จะรับมือและหยุดฝูงผีห่าได้นั่นคือ ต้องบั่นคอสับหัวเจ้าผีร้ายเพียงสถานเดียว
พร้อมกันนี้ยังได้นำเอา “ผ้าพิเศษป้องกันผีห่า” ที่ว่ากันว่าผู้ใดก็ตามมิอยากติดเชื้อร้ายจากโรคผีห่าที่กำลังระบาดก็จงนำเอาผ้าผืนนี้ไปปิดป้องที่ปากของตนเสีย ฉับพลันนั้นเองเหล่าฝูงผีห่าที่ได้ติดตามชาวอโยธยามายังกรุงเทพต่างลุกฟื้นคืนชีพขึ้นมา แต่เดชะบุญที่พวกมันถูกจับขังไว้ในกรงมิสามารถออกมาทำร้ายกัดกินผู้คนได้ ภายหลังจากแจ้งข่าวแก่พี่น้องแล้วก็ได้ชักชวนให้ คุณอวิกา เตชะรัตนประเสริฐ รองประธานกรรมการฝ่ายการตลาด และ คุณจาตุศม เตชะรัตนประเสริฐ รองประธานกรรมการฝ่ายสื่อสารการตลาด บ.สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด รวมไปถึง คุณพลอยพิชชา พิภพวรไชย ผู้ควบคุมงานสร้างของภาพยนตร์ และไอ้เล็ก (พฤกษ์ รัตนฐิตินันต์) อีกหนึ่งชาวบ้านจากอโยธยามาร่วมด้วยช่วยกันแจ้งข่าวสารบอกต่อไปยังพี่น้องในทุกตำบาลอำเภอในแต่ละจังหวัดทั่วประเทศต่อไปเพื่อเตรียมรับมือกับมหันตภัยร้ายแรงจาก “ผีห่าอโยธยา” ที่กำลังจะเกิดขึ้นครั้งใหญ่สุดในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ตามโรงภาพยนตร์ต่างๆ ต่อไป
-
“ผีห่าอโยธยา” ขยับวันฉาย เป็น 14 พฤษภาคม 2558

สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล และ ฟุ๊คดุ๊คฟิล์ม ขอประกาศแจ้งเปลี่ยนวันฉาย ภาพยนตร์เรื่อง “ผีห่าอโยธยา” ผลงานการกำกับภาพยนตร์ โดย คุณชายอดัม - ม.ร.ว. เฉลิมชาตรี ยุคล ซึ่งเดิมมีกำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ ในวันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ เป็นวันพฤหัสบดีที่ 14 เดือนพฤษภาคม 2558 เนื่องจากความล่าช้าในการทำงานด้านเทคนิคภาพพิเศษที่ไม่สามารถเสร็จสมบูรณ์ตามกำหนดได้
ทั้งนี้หลังจากที่กำหนดฉายภาพยนตร์ไม่เป็นไปตามแผนการโปรโมทที่วางไว้ ทางบริษัทฯจึงขอขยับวันเข้าฉายใหม่ และหาโปรแกรมที่ดีที่สุดสำหรับภาพยนตร์เรื่อง ผีห่าอโยธยา โดยสรุปว่าจะขยับวันฉายไปเข้าในเดือน พฤษภาคม หลังจากโปรแกรม แคทอ่ะแว้บ#แบบว่ารักอ่ะ (4มีนาคม) และ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อวสานหงสา (9 เมษายน)
-
แปลกใหม่ท้าทายหนังผีเรื่องแรก เต้ย-พงศกร ประกบ แคท-ซอนญ่า พร้อมจับดาบลุยฝูงผีห่าอโยธยา



ความเป็นหนัง “แอ็คชั่นสยองขวัญเลือดสาด” สำหรับภาพยนตร์ “ผีห่าอโยธยา” ที่นำแสดงโดย “เต้ย พงศกร เมตตาริกานนท์” หนุ่มหล่อเข้มสุดฮอต ที่โชว์บู๊แอ็คชั่นตะลุยตัดคอผีห่าฆ่าไม่ตายชนิดสะใจเหล่าบรรดาคอหนังแอ็คชั่นแน่นอน แถมหนุ่มเต้ยยังมีโอกาสได้ถ่ายทอดอารมณ์ดราม่า-โรแมนติค กับ “แคท ซอนญ่า สิงหะ” นางเอกสาวจากวิกหมอชิต ในบทคู่รักเพื่อพิสูจน์รักแท้ท่ามกลางอุบัติผีห่าภายใต้บรรยากาศย้อนยุคกลับไป 400 กว่าปี ในสมัยอยุธยา ที่แต่ละตัวละครนุ่งโจงกระเบน, ผ้าแถบห่มสไบ จับดาบไล่ฟาดฟันฝูงผีห่า ที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยแผลผุผองตะปุ่มตะป่ำ น่าเกลียดน่ากลัว และเต็มไปด้วยความท้าทายชนิดที่ว่าฉีกทุกกฎของหนังผีสยองขวัญที่เคยมีมาเลยทีเดียว โดยหนุ่มเต้ยเผยว่า
“ผมคิดว่ามันแปลกใหม่ดี ท้าทายด้วยเป็นหนังผีที่มากกว่าหนังผี ซึ่งผมไม่เคยเล่นเกี่ยวกับผีมาก่อน และยังเป็นหนังที่ให้มุมมองของตัวละคร เขาจะทำอะไรต้องการอะไร แต่ละตัวละครมีความเห็นแก่ตัวอย่างไร จุดมุ่งหมาย มีความรักต่อกันอย่างไร ส่วนของผมมันจะรับหนักตรงที่ต้องเป็นเรื่องของอารมณ์มากที่สุดเลยในเรื่อง ผมกับแคทก็จะเน้นทางด้านอารมณ์ความรัก ความรู้สึกทุกอย่างมีแอ็คชั่นด้วย ผมรู้สึกว่ามันเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่จากที่เคยเล่นพีเรียดอยู่แล้ว แต่อันนี้ต้องบอกว่ามันไม่ได้เป็นพีเรียดธรรมดาครับ เพราะมันมีผีด้วยมันเป็นผีห่า เป็นคล้ายๆ แบบศพที่อยู่ก็ฟื้นขึ้นมา เป็นผีขึ้นมา มันจะไม่เคยมีแบบนี้เลยที่จะลุกขึ้นมากัดคน”
แถมตัวละครที่หนุ่มเต้ยได้รับ ยังเป็นตัวละครสำคัญในภาพยนตร์ที่ได้เห็นพัฒนาการของตัวผีห่าที่ค่อยๆ กลายร่างจากคนธรรมดากลายเป็นผีห่าด้วย
“เราจะเริ่มเห็นอาการ จะมีเส้นเลือดขึ้นตามตัว ตัวเริ่มซีด ตาคล้ำ น่ากลัวมาก ผีห่าก็ต้องนึกถึงผีหรือศพที่ต้องตายด้วยโรคห่าที่ก็เกิดขึ้นในสมัยก่อน ลักษณะก็มีแผลพวกพุพองตามตัว แขนขาร่างกาย เป็นฝีที่เน่า มีน้ำหนองไหล เต็มไปด้วยเลือด แล้วพอเป็นผีห่าอโยธยา ก็คือเป็นผีที่เกิดขึ้นในสมัยอยุธยา เพราะฉะนั้นผีก็ต้องแต่งตัวเป็นแบบนุ่งโจงถ้าเป็นผู้หญิงก็นุ่งสไบ ไม่มีอาวุธ ใช้อย่างนี้อย่างเดียวเลยคือวิ่งไล่กัดอย่าเดียวเลย มันพร้อมที่จะกัดอย่างเดียวเลย ได้วิ่งหนีผีตอนตี 2 ตี 3 อดหลับอดนอนแต่ทุกคนทุ่มเทมาก จะได้เห็นผีที่ทุกคนต้องกลัว ผมยังกลัวเลย เขาแต่งมาตอนไปอยู่มุมมืดสักมุมอย่างนี้ เดินหรือหันไปเจอตกใจ นี่ยังไม่รวมถึงพาร์ทแอ็คชั่นต้องมีฉากที่แบบตัดคอผีห่า แล้วทางทีมเอฟเฟกต์ ทำออกมาดีมาก ลองติดตามดูว่ามันจะเลือดสาดกระจุยกระจายแค่ไหน เพราะขนาดตอนถ่ายนี่เลือดกระจายเข้าหน้าเต็มเลย”
เตรียมพบกับอุบัติผีห่ากัดกลืนกินผู้คนอย่างไม่รู้จักจบจักสิ้นใน ผีห่าอโยธยา 14 พฤษภาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์
-
ตัวอย่าง ผีห่าอโยธยา (The Black Death- Official Trailer HD)
-
ทั้งโหดทั้งหิน หนีฝูงผีห่าขย้ำคอยันเช้า แม็กกี้อาภาสวมบทคณิกาสาวสวยเป็นใบ้หูหนวก แสดงออกแค่เพียงสีหน้าแววตาล้วนๆ


เรียกได้ว่าทั้ง “ฉีกบทบาท” และ “แหกกฎ” พอสมควรเลยทีเดียว สำหรับตัวละคร “อีพลอย” คณิกาสาวใบ้หูหนวก ใน “ผีห่าอโยธยา” ภาพยนตร์แอ็คชั่นสยองขวัญเลือดสาดย้อนยุค เหนือจินตนาการที่เค้นจากไอเดียในการเขียนบท และกำกับภาพยนตร์ร่วม 2 ปีของ “คุณชายอดัม-ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล” เพราะถือได้ว่าเป็นบทบาทที่ “แม็กกี้ อาภา ภาวิไล” ต้องใช้ความสามารถทางการแสดงอย่างสูงทีเดียว ตั้งแต่เป็นตัวละครที่ไร้บทพูดตลอดทั้งเรื่อง แต่ขณะเดียวกันเป็นทั้งตัวละครที่ถูกกระทำ แสดงออกจากความรู้สึกได้เพียงผ่านแค่สีหน้า แววตา ท่าทาง เท่านั้น แต่ยังลุกขึ้นมาหาของข้างกายเป็นอาวุธ เพื่อให้รอดจากเหล่าฝูงผีห่าที่อยู่รายล้อมรอบตัว ซึ่งพร้อมจะบุกขย้ำกัดกลืนกินในทุกวินาที และที่สำคัญนี่คือภาพยนตร์ย้อนยุคเรื่องแรกเรื่องแรกในชีวิตที่สาวแม็กกี้อยากลองมานานแล้ว
“ก็รู้สึกว่าดีเหมือนกันนะคะ ที่ได้ฉีกบท ฉีกแนว อย่างเรื่องผีห่าอโยธยาเป็นแนวย้อนยุคมาในสมัยอยุธยา ซึ่งจริงๆ แล้วอยากลองเล่นพีเรียดแบบนี้มานานแล้ว ถือได้ว่าเป็นโอกาสที่ดี ความเป็นหนังผีที่เป็นแบบไทยๆ เรื่องนี้ก็น่าสนใจเพราเราต้องเล่นเป็นนางคณิกา คือเหมือนเป็นนางโลมในโรงชำเราชาย หน้าตาสะสวยแต่เป็นใบ้หูหนวก ต้องสื่อสารด้วยสายตาอย่างเดียว ข้อดีคืออีพลอยจะเป็นผู้หญิงที่ฉลาดเป็นกรด เรียนรู้ในการเอาตัวรอดได้เก่ง ช่างสังเกตทุกสิ่งทุกอย่างทุกเหตุการณ์ด้วยดวงตาล้วนๆ อย่างเดียวเลย มันเป็นอะไรที่ท้าทายแล้วก็ยาก ไม่ได้แต่งสวยอีกแล้ว ก็อาจจะมีฉากสวยนิดหน่อย นอกนั้นก็คือมอมแมมอย่างที่เห็น แล้วก็เลือดสาดเปียกโชกกันทั้งเรื่องค่ะ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นฉากวิ่งหนีผีห่าเอาตัวรอด หนีกลัว หนีตาย หนีออกจากที่เราไม่อยากจะอยู่และด้วยความที่เป็นหนังผี ทำให้งานนี้สาวแม็กกี้เลยต้องออกมาวิ่งหนีผีกันตั้งแต่พระอาทิตย์ตกดินไปจนถึงเช้ากันเลยทีเดียว
“ช่วงถ่ายทำหนังผีเรื่องนี้ เหตุการณ์ทั้งหมดส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในตอนกลางคืน เราก็เลยต้องถ่ายกันตั้งแต่เย็นค่ะ สตาร์ท 6 โมงเย็นยัน 6 โมงเช้า ก็เปลี่ยนเวลานอนเหมือนกันค่ะ กลางวันเราก็นอนไม่หลับ กลางคืนเราก็ต้องทำงาน ต้องมีสโมค วิ่งหนีผีจริงแล้วก็จะต้องเปียกมอมแมม เดี๋ยวต้องมาม็อกอัพตัวฉีดเลือด ฉีดเหงื่ออะไรกันจริงแต่ไอ้เรื่องบู๊จะมีน้อยหน่อย ไม่ต้องจับดาบโชคดีหน่อย แต่ว่าต้องเล่นยากกว่าคนอื่นในเรื่องอินเนอร์ความรู้สึก แล้วก็ประสาทสัมผัส ตา หู จมูก ปาก จะเน้นมาทางด้านนี้มากกว่า คือตัวอีพลอยก็ต้องแสดงความรู้สึกผ่านทางสายตาอย่างเดียวเลยแล้วก็ค่อนข้างที่จะต้องให้ชัดและหนักมากจะเน้นในเรื่องของอารมณ์”
เตรียมพบกับอีกหนึ่งการแสดงที่เรียกได้ว่าท้าทายสุดชีวิตของสาวแม็กกี้ในบทคณิกาสาวหน้าหวานที่ต้องเอาตัวรอดจากอุบัติผีห่ารุมกัดกลืนกินให้ได้ 14 พ.ค. ไปร่วมระทึกเลือดสาดลุ้นว่าใครจะรอดใครจะตายได้ใน “ผีห่าอโยธยา” ทุกโรงภาพยนตร์
-
เซ็กซี่ทุกอณู จับตาดู “โซดา”นางเอกใหม่บั่นคอผีห่าด้วยสองมือ บู๊สุดชีวิตแอ็คชั่นสุดโหดลงเรือลุยน้ำผจญระเบิด


ดูเหมือนว่าไม่ใช่แค่พล็อตเรื่องซะแล้วที่เตะตา เรียกได้ว่าทั้งสร้างความแปลกแหวกจากหนังแอ็คชั่นสยองขวัญทั่วไปอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว เพราะ “ผีห่าอโยธยา” ผลงานที่กลั่นมาจากไอเดียและมันสมองของคนทำหนังรุ่นใหม่ที่น่าจับตาอย่างคุณชายอดัม ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล ที่กล้าแหกกรอบหยิบเอาสไตล์หนังผีเลือดสาดมาผสมผสานกับหนังพีเรียดย้อนยุค (หลังจากที่ตัวเองผ่านประสบการณ์ในฐานะ 1 ในฟันเฟืองสำคัญของภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราชมากว่าทศวรรษ) ที่มีฉากหลังคืออโยธยาเมื่อ 400 กว่าปีที่แล้ว มานำเสนอพร้อมกับขนเอาเหล่านักแสดงหนุ่มสาววัยรุ่นคลื่นลูกใหม่มาร่วมสร้างสีสันให้ตัวภาพยนตร์เต็มไปด้วยความเข้มข้น คือความทุ่มสุดตัวให้ภาพยนตร์ไทยเรื่องนี้เต็มไปด้วยการจัดเต็มอย่างร้อนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของ 3 นางเอกวัยรุ่นที่จะมานุ่งโจงกระเบนคาดผ้าแถบจับดาบถือค้อนปาดสับหั่นคอผีห่ากันชนิดที่ว่าเลือดสาดกระจายโดยไม่แพ้ชายอกสามศอกถึง 3 คนไม่ว่าจะเป็นแม็กกี้-อาภา ภาวิไล หรือ แคท-ซอนญ่า สิงหะ รวมไปถึงนักแสดงสาวหน้าใหม่ที่มีดีกรีเป็น 1 ในอดีตเกิร์ลกรุ๊ปนักร้องสาวในแนว Electronics Dancehall อย่างโซดา-วีรี ละดาพาณิชย์ดี ที่เข้าตาผู้กำกับจนได้ขึ้นจอใหญ่เปิดซิงทางด้านการแสดงเป็นครั้งแรกในบท “อีบัว” นักดาบสาวแกร่งที่เรียกได้ว่าบู๊สุดชีวิตแอ็คชั่นสุดโหดทั้งลงเรือลุยน้ำผจญระเบิดเผชิญฝูงผีห่าไล่ล่ากัดกิน แถมยังมีฉากที่ต้องใช้ทั้งค้อนทุ่มหัวผีห่าจับดาบคู่ด้ามโตไล่ฟาดฟันหั่นคอผีห่าเป็นว่าเล่น แถมต้องโชลมชุ่มไปด้วยเลือดพุ่งเต็มตัวตลอดทั้งเรื่อง พูดได้ว่าเป็นประสบการณ์การทำงานที่ไม่ได้จะเกิดขึ้นกันง่ายๆ เลยทีเดียว นี่ยังไม่รวมกับการที่จะต้องถูกส่งไปเรียนการใช้ดาบถึงสำนักดาบพุทไธสวรรย์กันเลยทีเดียว
“ก็ค่อนข้างหนักเหมือนกันนะคะสำหรับโซดาเองกับภาพยนตร์เรื่องแรกที่เราได้ก้าวเขามาเต็มตัวค่ะ คือความยากมันมีอยู่แล้วในทุกการทำงาน แต่หนูมองว่ามันเป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ นะคะที่เราได้ทำได้เจออะไรที่มันหนักแบบนี้ซึ่งมีทั้งระเบิดในหนังเรื่องนี้และเป็นระเบิดที่ค่อนข้างใหญ่พอสมควร มีการวางจุดเอฟเฟกต์มากถึง 20 จุด ไม่ใช่สแตนอิน เราแสดงเอง ซ้อมเองก่อนเข้าฉากประมาณ 20 -30 รอบค่อนข้างหนัก คอเคล็ดไปหมดเลย แต่เราก็อยากให้ผ่านในเทคเดียวเพราะทุกๆ ฝ่ายก็เตรียมพร้อมก็ยากมาก ภาพของทุกคนอาจจะคิดว่าเราเล่นภาพยนตร์มันก็ต้องมีแบบบทสวย ใส แต่จริงๆ ตัวบัวนี้ไม่มีเลย ทุกๆ ฉากเต็มไปด้วยเลือดที่ต้องเจออยู่ตลอดเวลา เป็นปกติของบัวอยู่แล้วเพราะชีวิตประจำวันที่เขาสู้เขาก็มีเลือดอยู่แล้วยิ่งสู้กับผีห่าด้วนนะคะ ฉากเลือดสาดก็มีฟันคอผีบ้าง แทงคอบาง เลือดกระฉูดแบบเต็มตัวแทบจะแยกไม่ออกว่าผีหรือคนค่ะ ก็ดีค่ะ เรียกว่าเหมือนว่าจะโหดเลยทีเดียว คือหนังเรื่องนี้เป็นหนังผีที่แอ็คชั่นค่อนข้างแรงเหมือนกันนะคะ หนักมากก็มีทั้งเลือดสาดมีทั้ง ต่อสู้ ทั้งกระโดด ใช้แรง ใช้ค้อนแล้วอีกอันก็คือการตีดาบของบัว แล้วด้วยความสมจริงก็ต้องใช้ค้อนจริงในฉากที่ต้องตีดาบซึ่งหนักอย่างต่ำ 5 กิโลได้ 5-10 กิโล แล้วเป็นผู้หญิงที่แบบใช้ดาบร้อนๆ ที่เพิ่งขึ้นมาจากไฟแล้วมาตี ตีจริงทำจริงทุกอย่าง ผลจากการเล่นภาพยนตร์เรื่องนี้คือแผลเยอะมาก ก็จะมีตามมือตามข้อเท้า ไฟลวกบ้าง อะไรบ้าง แต่ก็สนุกมาก แล้วก็มีฉากหนึ่งที่ใหญ่รองมาจากฉากระเบิดเลยก็ว่าได้เป็นการที่เราหนีนะค่ะเพื่อเอาตัวรอดขึ้นเรือโดดน้ำว่ายน้ำไปขึ้นเรือใหญ่มากเพื่อที่เอาตัวรอด จริงๆ เป็นคนว่ายน้ำไม่เป็นนะคะ แต่เราก็ไปฝึกว่ายน้ำมา”
ทุ่มสุดตัวขนาดนี้รับรองว่าหนุ่มๆ มีสิทธิ์ตกหลุมรักและหลงใหลในเสน่ห์ความดุดันของอีบัวจากการถ่ายทอดบทบาทของโซดา-วีรี ละดาพาณิชย์ดี อย่างแน่นอน แถมเป็นตัวละครหญิงในลุคส์ที่เราไม่ค่อยได้เห็นในภาพยนตร์ไทยสักเท่าไหร่แต่จับตาดูให้ดีว่าต่อให้เปื้อนเลือดเหงื่อท่วมตัวก็ไม่ได้ลดทอนความเซ็กซี่ให้โซดาลดลงแต่อย่างใดไปร่วมให้กำลังใจกับการทุ่มเกินร้อยของโซดาได้ใน “ผีห่าอโยธยา” 14 พ.ค.นี้ทุกโรงภาพยนตร์
-
“แม็กกี้-อาภา ภาวิไล จาก ผีห่าอโยธยา”

ไม่ว่าเมื่อไหร่ Eternity - เพลงประกอบภาพยนตร์ ผีห่าอโยธยา [Official Lyric Video]
อีพลอย คณิกาสาวใบ้หูหนวก ประจำโรงชำเราชาย
เสน่ห์ความอ่อนหวานและใบหน้าที่สะสวย อ่อนหวานของมัน
พร้อมแปรเปลี่ยนและทำทุกอย่างเพื่อให้เป็น 1 ในผู้รอดชีวิตกลุ่มสุดท้าย
ที่ต้องร่วมฝันฝ่าอุบัติผีห่าที่พร้อมกลืนกินผู้คนจนหมดสิ้น
แม็กกี้-อาภา ภาวิไล
Q. แนะนำตัวเองหน่อย
สวัสดีค่ะ แม็กกี้ อาภา ภาวิไล ภาพยนตร์เรื่องแรกนะคะเรื่องคนโลกจิต จนกระทั่งมาถึงภาพยนตร์เรื่องล่าสุดเรื่องนี้เรื่องผีห่าอโยธยา แต่ละเรื่องก็จะแตกต่างกันไปหมดเลย ดีเหมือนกันนะคะที่ได้ฉีกบท ฉีกแนว อย่างเรื่องนี้เป็นแนวที่ย้อนยุคมาในสมัยอยุธยา ถือได้ว่าเป็นโอกาสที่ดี มีทั้งความเป็นหนังผี แต่เป็นผีที่เป็นแบบไทยๆ ยุคอยุธยาอะไรแบบนี้ค่ะ เรื่องนี้น่าสนใจที่เรานี้จะต้องเป็นใบ้ หูหนวกด้วย ต้องสื่อสารด้วยสายตาอย่างเดียว มันเป็นอะไรที่ท้าทายแล้วก็ยากค่ะ
Q.ช่วยเล่าให้ฟังถึงบทบาทการแสดงในผลงานภาพยนตร์เรื่องใหม่อย่าง “ผีห่าอโยธยา”
ในภาพยนตร์เรื่องผีห่าอโยธยา รับบทเป็น อีพลอย ค่ะ ก็จะเป็นผู้หญิงที่ฉลาดเป็นกรด เก่งมาก เป็นคนที่เรียนรู้ในการเอาตัวรอดได้เก่ง จะเป็นคนที่ช่างสังเกตมาก ทุกสิ่งทุกอย่างทุกเหตุการณ์ด้วยดวงตา ด้วยความที่อีพลอยเป็นนางคณิกา คือเหมือนเป็นนางโลมในโรงชำเราชาย เป็นสถานที่ผู้ชายมาหาความสุขกันอะไรประมาณนี้นะคะ เสียอย่างเดียวอีพลอยเป็นใบ้ หูหนวกก็เลยต้องสื่อสารด้วยสายตาอย่างเดียว มีอะไรเราก็คือใช้ดวงตาเป็นสื่อ สำหรับตัวพลอยก็จะเกี่ยวข้องกับบุคคลอยู่สองคน คนแรกก็คือ นายจันเป็นเจ้าของโรงชำเราชาย จะเป็นคนที่ชอบกดขี่ข่มเหง แล้วก็ทำโทษ ทำร้ายร่างกายเราอยู่ตลอดเวลา แล้วอีพลอยนี้ก็เกลียดนายจันมาก ทั้งเกลียดแล้วก็ทั้งกลัว มีบาดแผลที่นายจันทำร้าย กับอีกหนึ่งตัวละครก็คือไอ้ขวัญ เป็นเด็กวัด ทำให้เขามีจิตใจที่มีความเมตตา จนเรารู้สึกได้ว่าไม่เคยมีผู้ชายคนไหนที่มาใส่ใจมาดูแลมาให้ความช่วยเหลือเราเท่าไอ้ขวัญ เป็นเหมือนคนพิเศษที่เข้ามาดูแล แล้วก็เข้ามาช่วยเหลือเรา เพราะส่วนใหญ่มีแต่ผู้ชายที่มาทำร้ายเรา มากดขี่ข่มเหง แต่มีเพียงผู้ชายคนเดียวเท่านั้นคือไอ้ขวัญ ซึ่งเราก็ไม่แน่ใจว่ามันคือความรัก ผูกพันหรือว่าถูกชะตากัน แต่ที่สำคัญเลยคือไอ้ขวัญก็ยังเป็นผู้มีพระคุณกับเราอีก เราเองที่เป็นหูหนวกเป็นใบ้ก็ต้องพยายามเอาตัวรอด และแต่ละคนในเรื่องก็ต้องพยายามเอาตัวเองให้รอดกันทั้งนั้น แต่มันก็ค่อนข้างที่จะยากพอสมควร
Q.เป็นอีกบทบาทหนึ่งที่ท้าทายความสามารถทางการแสดง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ต้องเล่นเป็นตัวละครที่ไม่มีบทพูด และส่งเสียงไม่ได้ตลอดทั้งเรื่อง
ต้องสื่อสารด้วยสายตาอย่างเดียวยากมากๆ เรื่องย้อนยุคมาเป็นสมัยอยุธยาด้วยก็ยิ่งน่าสนใจเข้าไปอีก อย่างที่เห็นแล้วก็เลือดสาดเปียกโชคกันทั้งเรื่องค่ะ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นฉากวิ่งหนีผีห่าเอาตัวรอด หนีตาย หนีออกจากที่เราไม่อยากจะอยู่ แล้วก็ต้องถูกเฆี่ยน แม้กระทั่งต้องโดนเฆี่ยนเราก็ร้องไม่ได้สักแอะเลย แต่เราต้องส่งความรู้สึกว่าเราเจ็บมากๆ นะ ผ่านดวงตาอย่างเดียว ก็บังคับยากที่เราบังคับไม่ให้หูได้ยิน อย่างเราได้ยินเสียง ปึ้ง แค่นี้เราก็หันแล้ว แต่เราต้องฝึกใหม่เลย ฝึกจากการมองอย่างเดียวเลย ไม่ต้องจับดาบโชคดีหน่อย แต่ว่าต้องเล่นยากกว่าคนอื่นในเรื่องอินเนอร์ความรู้สึกแล้วก็ประสาทสัมผัส ตา หู จมูก ปาก มีอยู่ฉากหนึ่งที่ผีห่าเข้ามาบีบคอเราจะกินเราอยู่แล้ว เราก็กลัวจนกระทั่งอีบัวมาช่วยไว้ โดยการถือค้อนมาฟันหัวผีห่า ต้องเอาค้อนมาทุบหัวผีห่าซึ่งใกล้กับหน้าเรามาก ขอเทกเดียวผ่าน เรานักแสดงด้วยกันต้องไว้ใจกัน ต้องแสดงอารมณ์ความกลัวออกมาให้ชัดเจน
Q.ลองให้คำจำกัดความหรืออธิบายถึงลักษณะของผีห่า
เรื่องนี้ก็เหมือนกับเราจะได้ยินคนโบราณเล่ากันมาว่าแต่ก่อน มันมีโรคห่าระบาดโรคที่เหมือนกับว่าอาจจะเป็นติดเชื้อโรคอะไรบางอย่างแล้วก็ตายเลย แต่ผู้กำกับนะคะคุณชายอดัม ก็ได้เอามาดัดแปลงดู ถ้าสมมติโรคห่านี้มาเกิดขึ้นในสมัยอยุธยาเป็นเชื้ออะไรบางอย่างที่เข้าสู่กระแสเลือดคน แล้วคนๆ นั้นก็ค่อยๆ ตาย แล้วฟื้นขึ้นมาได้ แต่สมองอาจไม่ได้ถูกสั่งการแล้ว กลายเป็นผี บีบคอชาวบ้าน กินเลือดกินเนื้อคนในหมู่บ้านค่ะ เป็นเชื้อโรคที่น่ากลัวโหดร้ายรุนแรงอะไรแบบนี้ค่ะ เกิดขึ้นและเป็นได้กับทุกเพศทุกวัย ลูกตานี่คือจะเปลี่ยนสีเป็นสีขาวขุ่นเนื้อตัวก็จะเริ่มเน่า เริ่มมีน้ำเหลืองไหล คนรอดชีวิตที่เหลืออยู่ ก็ต้องเอาชีวิตรอดให้ได้ ต้องหนี
Q.เรื่องราวของผีห่าอโยธยา
เรื่องราวเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นในสมัยอยุธยา หมู่บ้านของพวกเรา ได้เกิดเหตุการณ์มีคนพบศพซึ่งไม่ทราบสาเหตุว่าโดนอะไรกัดหรือว่าโดนอะไรทำร้ายมา จนเริ่มมีศพตายกันมาขึ้นหลายๆ คนใน สันนิษฐานกันว่าเหตุการณ์แบบที่มีคนตาย อาจจะเกิดจากโรคห่าระบาด จนกระทั่งวันหนึ่ง ผีห่าก็ได้เข้ามาบุกในหมู่บ้านของเราซึ่ง ขวัญ (แต๊บ เอเอฟ5) / คง (เต้ย พงศกร) ที่เป็นเพื่อนรักกัน ก็สงสัยว่ามีเหตุการณ์แปลกๆ เกิดขึ้น ส่วน จัน (หนึ่ง-ชลัฎ) ก็มัวแต่ไปสนใจอยู่กับ บัว (โซดา) ซึ่งเป็นช่างตีดาบ ไอ้เทพ (คานธี) ก็สื่อความหมายว่าหายนะนี้กำลังจะเข้ามาถึงในหมู่บ้านของเรา ผีห่าบุกทุกคนไม่ทันตั้งตัว ไม่ได้มีใครเคยเจอเรื่องอะไรแบบนี้มาก่อน ทำให้ทุกๆ คนได้เข้ามาเจอกันแล้วก็ได้คิดแผนการกันว่า เฮ้ย! แล้วเราจะทำอย่างไรต่อไปเราจะเอาตัวรอดยังไง ต้องดูกันต่อไปว่าใครจะรอดบ้างใครจะอยู่ใครจะตายค่ะ
Q.เสน่ห์ความน่าสนใจของหนังเรื่อง “ผีห่าอโยธยา”
เสน่ห์ของหนังเรื่องนี้ตั้งแต่ชื่อเรื่อง ผีห่าอโยธยา และเป็นผีที่ไม่ธรรมดา โหดร้าย แล้วก็หลายๆ คน คงไมได้คุ้นเคยกับผีแบบนี้ โหดดิบ เถื่อน ดุร้ายมากกว่าเดิม ตัวละครแต่ละตัวนี้ก็โดดเด่น แตกต่างกันไปแต่ละคนจะมี อีบัว ก็จะเป็นช่างตีดาบที่แข็งแรงไม่ยอมคน นายจัน ซึ่งดูเหมือนจะแข็งแรง แต่ตัวเองอ่อนแอมาก แล้วก็ไอ้ขวัญเป็นชายร่างอ้วนดูเหมือนเป็นคนไม่เอาไหน แต่จริงๆ แล้วเป็นคนที่มีจิตใจเมตตา หรือ ไอ้คง ที่เป็นคนที่มั่นคงในความรัก อีเมี้ยน ที่รักเดียวใจเดียวรักไอ้คงเพียงผู้เดียว แต่ละคนก็จะมีที่มาที่ไปของตัวเอง เทพ นี้น่าสนใจมากๆ ซึ่งเป็นเหมือนผู้รู้เหตุการณ์ทุกอย่างล่วงหน้า สำคัญมากในเรื่องนี้
Q.เนื่องจากเป็นภาพยนตร์ที่รวบรวมเอานักแสดงรุ่นใหม่มารวมตัวกัน อยากให้เล่าถึงบรรยากาศการทำงานในกองถ่ายผีห่าอโยธยา
สนุกสุดๆ ค่ะ อย่างคิวแรกๆ เราก็ยังตื่นเต้น ที่จะได้สวมใส่เสื้อผ้า ตื่นเต้นกับฉากที่อลังการ เรือนไม้เรือนไทย แล้วทุกๆ คนจะบ้าพลังกันมาก เราได้ร่วมงานกับทั้งนักแสดงรุ่นใหญ่ แล้วก็รุ่นเดีวยกัน พี่แต๊ปนี้น่ารักค่ะ แล้วก็เขาจะเป็นสายเอ็นเตอร์เทน
Q.การร่วมงานกันกับคุณชายอดัม ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล
การทำงานของคุณชายจะค่อนข้างเน้นเรื่องภาพมากๆ สวยและละเอียดมากๆ เลยค่ะ กว่าจะได้แต่ละซีนยากมากๆ ค่อนข้างละเอียด ถ้าอย่างสมมติอารมณ์ของนักแสดงได้แล้วเทคเดียวก็ผ่านเลย ส่วนใหญ่จะใส่ใจเรื่องรายละเอียดของภาพมากกว่า ก็อาจจะเป็นเพราะว่ามันเป็นหนังแอ็คชั่นด้วยค่ะ เราก็ต้องดูความต่อเนื่องด้วยแล้วก็ทุกอย่างมันต้องค่อนข้างเป๊ะ ถ่ายใหม่มันก็ค่อนข้างที่จะลำบาก
Q.ฝากผลงานกับแฟนๆ
กลุ่มนี้เป็นกลุ่มสุดท้ายที่รอดชีวิต และต้องต่อสู้กับฝูงผีห่าที่ฆ่าไม่ตาย แล้วแต่ละคนจะเป็นอย่างไรก็ต้องติดตามชมก็จากเรื่องนี้นะคะ เราก็จะได้เห็นทั้งเรื่องความผูกพันระหว่างตัวละครด้วยกัน การเสียสละ การทรมาน การกดขี่ข่มเหง เรื่องของโชคชะตา สัญชาตญาณของคนเรา ธาตุแท้ของคนเรามันจะเผยออกมาจากเหตุการณ์สำคัญ ที่เกิดขึ้นในสมัยอยุธยาหรือว่าโรคห่าในสมัยนั้น แต่แท้จริงแล้วอยุธยาอาจไม่ได้ล่มสลายด้วยทัพสงครามจากหงสาวก็เป็นได้อาจจะมีเหตุการณ์บางอย่าง ก็ฝากอีกหนึ่งบทบาทนะคะที่เป็นบทบาทที่ท้าทายของแม็กกี้อีกบทหนึ่ง รับรองว่ามันส์ สนุก แน่นอนค่ะ 14 พฤษภาคมนี้
-
ทำหนังผีห่าอโยธยาใช้เลือดเยอะ คุณชายอดัม พร้อมทีมนักแสดง เต้ย พงศกร, แคท ซอนญ่า, โซดา วีรี ร่วมกิจกรรม “รวมพลชาวสยาม บริจาคเลือดช่วยชาติ”




สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล ร่วมกับ ฟุ๊คดุ๊ค ฟิล์ม จัดกิจกรรม “ผีห่าอโยธยา รวมพลชาวสยามบริจาคเลือดช่วยชาติ” เพื่อรณรงค์ และรับบริจาคเลือดให้กับศูนย์บริการโลหิตสภากาชาดไทย ไปเมื่อวันอังคารที่ 28 เมษายน 2558 โดยการนำทีมของผู้กำกับหนุ่มไฟแรง ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล พร้อมด้วยนักแสดงจากภาพยนตร์ อาทิ พระเอกหนุ่มสุดฮ็อตอย่าง หนุ่มเต้ย-พงศกร เมตตาริกานนท์ ควงคู่นางเอกสาวแคท-ซอนญ่า สิงหะ และเพื่อนๆ นักแสดง โซดา-วีรี ละดาพันธ์, แนน-ปรางค์วลัย วงศ์สว่างวงศ์, พฤกษ์ รัตนฐิตินันต์ ที่เชิญชวนบรรดาแฟนคลับ และประชาชนทั่วไป มาร่วมกันรณรงค์ และร่วมบริจาคเลือด พิเศษสุดงานนี้เหล่าทีมนักแสดงยังมีเสื้อยืดที่ระลึกจากภาพยนตร์มอบให้กับผู้ร่วมบริจาคเลือดในครั้งนี้อีกด้วย
คุณชายอดัม : “ครับก็เป็นโอกาสอันดี และมีหลายเหตุผลสอดคล้องกับที่มาของการที่เรามาร่วมกิจกรรมกันในวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นตัวภาพยนตร์ของเราเองที่ค่อนข้างเลือดอาบกันเยอะอยู่พอสมควร มีการใช้เลือด(เทียม)นะครับ รวมไปถึงการที่เราทราบว่าปริมาณเลือดที่มีอยู่ในธนาคารเลือดปัจจุบันมีค่อนข้างน้อยมากถึงมากที่สุด ไม่เพียงพอต่อการใช้ในแต่ละวัน และสืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งในไทย และต่างประเทศที่ทำให้มียอดปริมาณการใช้เลือดที่เยอะอยู่ ก็จะเป็นเรื่องที่ดีที่เราจะปลูกจิตสำนึกหรือตระหนักถึงคุณค่าในเรื่องของการเสียสละที่ เราจะสามารถเชิญชวนชาวบ้านหรือพี่น้องประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมเพื่อสังคมหรือเพื่อชีวิตของคนอื่น ก็จะได้ใช้ช่องทางในหลายช่องทางแล้วพอเรามารวมกันปั๊บก็จะคิดว่าเวลานี้ก็น่าจะเหมาะสมนะ ก็ควรจะมีการจัดกิจกรรมดีๆ แบบนี้ที่เป็นประโยชน์ให้กับสังคมได้บ้างครับ”
งานนี้ได้รับเกียรติจาก นาวาโทหญิงแพทย์หญิงอุบลวัณณ์ จรูญเรืองฤทธิ์ รองผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ให้เกียรติร่วมถ่ายภาพ และอำนวยความสะดวกในกิจกรรมครั้งนี้ให้สำเร็จลุล่วงเป็นอย่างดี
-
เชื่อมั่นในรักแท้ สละได้ทุกอย่างในชีวิต และพร้อมลุกขึ้นมาบั่นคอผีห่า “แคท ซอนญ่า สิงหะ” รับบท “เมี้ยน” หญิงสาวผู้สูงศักดิ์ กับประสบการณ์สุดท้าทายในชีวิตการแสดง ในภาพยนตร์ผีแอ็คชั่นเลือดสาดย้อนยุคเรื่องแรกในชีวิต “ผีห่าอโยธยา”


Q. ผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิตของ “แคท ซอนญ่า” กับ “ผีห่าอโยธยา” ในการก้าวสู่นางเอกภาพยนตร์ครั้งแรก
A. ครั้งแรกมีโอกาสได้คุยกับคุณชายอดัม (ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล ผู้กำกับผีห่าอโยธยา )หลังจาก 3-4 ปีแล้วนะคะ ก็อัพเดตกันว่าคุณชายกำลังทำหนังเรื่องนี้อยู่เปิดแคสท์ตัวนักแสดงนะมาไหม พอไปถึงตรงนั้น คุณชายให้บทมานะคะ นางเอกชื่ออีเมี้ยน ก็มาดูบท โหเป็นคำที่ตอนนั้นช็อคมาก คำพูดอะไรนะ ภาษาอ่านไม่รู้เรื่อง พูดไม่ได้ แคสท์ไปจนถึงจุดที่ร้องไห้ได้ แต่ว่าเรื่องร้องไห้นี่หลังจากเจอเรื่องหัตถาครองพิภพมา มันมีฝังในอินเนอร์เลยว่าการร้องไห้ต้องเป็นเรื่องสำคัญมาก ตอนแรกเรากลับบ้านเราก็ไม่คิดอะไรนะคะ หลังจากนั้นเดือนหนึ่ง คุณชายโทรมาบอกว่า ได้นะ วันนั้นดีใจมาก ซึ่งเรารู้สึกว่ามันอาจจะมีคนที่ทำได้ดีกว่าเรา แต่พอทางคุณชาย แล้วก็ทางเสี่ยเจียง (สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ ผู้อำนวยการสร้าง, ประธานบริษัทสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล) เขาได้เห็นความสามารถเรา และได้ให้โอกาสเรามาทำตรงนี้ แล้วก็รู้สึกประทับใจ แล้วก็รู้สึกเป็นเกียรติ ก็คือรู้สึกว่าเราต้องทำให้ดีที่สุดนะ เพื่อไม่ให้ผู้ใหญ่ผิดหวังค่ะ
Q.เสน่ห์ความน่าสนใจของภาพยนตร์เรื่อง ผีห่าอโยธยา
A. ต้องพูดเลยว่าไม่ใช่หนังธรรมดา ค่อนข้างเป็นหนังไอเดีย เพราะว่าอย่างคำว่าหนังผีนี่ทุกคนก็จะเข้าใจว่าเป็นผี แต่พอมาถึงหนังผีห่าอโยธยา มันมีหลายอย่างผสมผสานกันมาก คือใครจะเชื่อว่าคุณเอาพีเรียดมาผสมกับความเป็นผี ซึ่งทุกคนจะต้องติดตามว่าผีห่าคืออะไร ไม่เหมือนผีทั่วไป แล้วความเป็นดราม่านี่มีพาร์ทที่เป็นคอมมิดี้อยู่ด้วยนะคะ ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับตัวละครที่เราแสดงอยู่ด้วย แต่ก็พอมาผสมผสานกัน ถ้าหลายๆ คนมีโอกาสได้สัมผัสคุณชาย หรือว่าเห็นผลงานของคุณชาย จะค่อนข้างเป็นคนที่มีไอเดียใหม่ๆ ตลอดเวลา เป็นคนที่เขาจะอินกับโลกไซเบอร์ เขาจะทันข่าว ทันยุคสมัยใหม่มาก ซึ่งเขาเป็นคนที่กล้าทำ กล้าหยิบโน่น หยิบนี่มาผสมผสานกันค่ะ
Q.เรื่องราวของผีห่าอโยธยา
A. คือเป็นยุคอโยธยาอย่างตัวแคทเองไม่เคยมีพื้นฐานหรือความรู้เกี่ยวกับยุคนี้มาก่อน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ภาษา หรือว่าการแต่งกาย หรือว่าหลายๆ อย่าง พอมีโอกาสได้มาแสดงหนังเรื่องนี้ ก็ทำให้เราได้ซึมซับอะไรเยอะขึ้น ต้องบอกว่าเรื่องนี้ตัวละครแต่ละตัว หรือทุกตัวละครล้วนมีความสำคัญหมด ตัวเรื่องหลักๆ ก็จะพูดถึงคนกลุ่มๆ หนึ่งในหมู่บ้านสมัยอโยธยานะคะ ซึ่งก็จะแตกต่างกันด้วยฐานะ อาชีพ ก็จะมี เมี้ยน ที่แคทรับบท เป็นลูกสาวของผู้มีฐานะร่ำรวยของหมู่บ้าน แต่ไปชอบกับเด็กวัดคือคง (เต้ย-พงศกร) แต่แตกต่างด้วยฐานะทำให้พ่อแม่ของเมี้ยนก็ไม่อยากให้คบหากัน คงก็จะมีเพื่อนคือ ขวัญ เป็นเด็กวัดด้วยกันเจ้าสำราญ อยู่กับไหสุรา และการหาความสุขตามประสาผู้ชายที่โรงชำเราชาย ซึ่งที่นั้นก็จะมีคณิกาที่เป็นใบ้ชื่อ พลอย (แม็กกี้-อาภา) โดยมีเจ้าของโรงชำที่นิสัยเห็นแก่ตัวชอบกดขี่ข่มเหงผู้อื่นคือ นายจัน (หนึ่ง-ชลัฎ) คนส่วนใหญ่ในหมู่บ้านก็จะติดหนี้ติดสินนายจันรวมทั้งครอบครัวของ บัว ทำให้นายจันพยายามจะเอาบัวเป็นเมียเพื่อขัดดอก ซึ่งบัวเองจะมีฝีไม้ลายมือในการต่อสู้เพราะมีอาชีพเป็นช่างตีดาบหญิงคนเดียวประจำหมู่บ้าน แต่ในขณะเดียวกันก็จะมีอดีตหัวหน้าหมู่ทะลวงฟันทหารจากกองทัพที่กลายเป็นขี้เมาในหมู่บ้านช่วยชีวิตไว้ ทั้งหมดจะต้องมาใช้ชีวิตร่วมกันหลังจากผีห่าเข้ามาในหมู่บ้าน มีศพลุกขึ้นมามีชีวิตกัดกินผู้คนล้มตายกลายเป็นผีห่ากันทั้งหมู่บ้าน ก็ต้องหาวิธีว่าจะต่อสู้ยังไงกับผีด้วยกัน จะพากันเอาตัวรอดอย่างไร ซึ่งก็จะได้เห็นว่าแต่ละคนมีน้ำใจมากน้อยแค่ไหน คนไหนเห็นแก่ตัว คนไหนนิสัยอย่างไรนะคะ คือเราจะได้เห็นสันดานดิบของมนุษย์ ตอนที่ทุกคนต้องเอาตัวรอดค่ะซึ่ งหนังเรื่องนี้ต้องพูดเลยว่านักแสดงทุกตัวจะมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร
Q.บทบาทของตัวละครที่ได้รับ
A : จริงๆ แล้วตัวเมี้ยนเองก็คือเหมือนเป็นเด็กสาววัยรุ่นนี่ละค่ะ แต่เกิดมาในครอบครัวที่ค่อนข้างเข้มงวด เนื่องด้วยที่บ้านค่อนข้างมีฐานะ เพราะฉะนั้นตัวเมี้ยนก็จะออกไปในลักษณะของลูกผู้หญิงที่เหมือนกับเป็นไข่ในหินที่ไม่ค่อยได้มีโอกาสออกไปข้างนอก แต่ถึงกระนั้นด้วยความที่ตัวเมี้ยนค่อนข้างเป็นคนรักอิสระ จะค่อนข้างหัวสมัยใหม่นิดหนึ่งนะถ้าเกิดว่าเทียบกับคนในสมัยโบราณ ความพิเศษของตัวละครตัวนี้ก็คือจะเป็นคนที่ค่อนข้างยึดมั่น และก็เชื่อมั่นในตนเองมากๆ โดยเฉพาะเรื่องความรัก ค่อนข้างที่จะมีความเป็นลูกคุณหนู เอาแต่ใจตัวเองสูงมาก โดยบางครั้งไม่ได้สนใจเลยว่าคนรอบข้างจะเป็นอย่างไร แม้แต่กับพ่อแม่บางครั้งเขามองข้าม เพราะว่าเรื่องความรักที่มีต่อตัวพระเอกก็คือไอ้คง สถานการณ์หลายๆ อย่างบีบบังคับว่าเขาคบกันไม่ได้ ถึงแม้ว่าจะรักกันมากเลยนะคะ เป็นวัยรุ่นที่เชื่อเรื่องความรักว่าคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต คือเราสามารถสละหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตเราได้เพื่อคนๆ นี้คนที่เรารัก ขณะที่ตัวไอ้คงเองเป็นเหมือนเด็กวัดซึ่งมีฐานะที่แตกต่างกัน เหมือนอุปสรรคที่กีดขวางอยู่แล้ว พอมีอุบัติผีห่าเข้ามาก็เลยทำให้เหตุการณ์หลายๆ อย่างเกิดพลิกผัน เป็นโอกาสที่ทำให้เมี้ยนตั้งใจว่าจะหนีไปกับไอ้คง เพื่อที่จะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ ทำอย่างไรละจะหนี แล้วถ้าเกิดมันเป็นอุบัติผีห่าเลยละ แบบทั้งหมู่บ้านเลย มันไม่ได้หนีไปด้วยกันง่ายๆ คือกลายเป็นว่ามีเรื่องดราม่าเกิดขึ้น มันไม่ใช่แค่เรากับเมี้ยนละ มีคนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง มันเลยทำให้เรื่องราวนี้น่าสนใจมากขึ้นค่ะ
Q.ถ้างั้นต้องเล่าให้ฟังแล้วละว่าประสบการณ์ในการเล่นหนังเรื่องแรก เป็นอย่างไรบ้างครับ
A หลังจากที่ผ่านละครเรื่องแรกที่เพิ่งจบไป เราว่าเรื่องนั้นยุคเก่าแล้วพูดจาไม่เหมือนเดิม พอมาเจอยุคนี้คือแคทตึงเลยนะคะไม่เคยเจอภาษาแบบนี้มาก่อน มาเล่นตอนแรกเราก็รู้สึกตื่นเต้น แล้วได้เล่นหนังผีเรื่องแรกด้วย มันไม่ใช่ผีอย่างที่เราเข้าใจ มันเป็นเรื่องที่คุณนึกไม่ออกว่ามันคืออะไร สำหรับแคทต้องบอกเลยว่าประทับใจมาก รู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้รับเล่นเป็นนักแสดงเรื่องนี้ ซึ่งมีผู้กำกับเป็น คุณชายอดัม โดยส่วนตัวแคทรู้จักคุณชายอดัมมาตั้งแต่เด็กแล้ว ซึ่งคุณชายจะคอยแนะนำตลอด ซึ่งต้องบอกเลยว่าเรื่องนี้หนัก ด้วยทั้งไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาษาที่แคทไม่คุ้นเคยนะคะ ต้องฝึกกันเยอะ แล้วก็นักแสดงคือต้องเข้ามาทำความรู้จักกันใหม่ ที่ทำความรู้จักด้วยมากเป็นพิเศษก็คือพี่เต้ยพงศกร เขาก็เป็นคนเฟรนด์ลี่เข้ากันได้ดีค่ะ มาถ่ายหนังรู้เลยว่ามันไม่เหมือนกันความยากง่ายจริงๆ แล้วอาจจะเป็นด้วยตัวของเรื่องซีนค่อนข้างที่จะดราม่า แอบเสียใจเพราะไม่ค่อยได้สวยนะคะ เราจะต้องไปบุกป่า ฝ่าดง อยากเล่นแอ็คชั่น เล่นบู๊มานานแล้ว แล้วอากาศที่กาญจนบุรีขึ้นๆ ลงๆ บางวันฝนตก บางวันหนาว บางวันร้อน อันนี้ก็ต้องฝ่าฟันกันไปนะคะ แต่ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีมากคะ ทีมงานทุกคนให้ความร่วมมือกันดีมากซึ่งมันทำให้รู้สึกว่าเราแฮปปี้ทุกครั้งที่จะมาที่นี่ รู้สึกเหมือเป็นครอบครัว คือทำงานกันแบบว่าด้วยตัวคุณชายเขาเป็นคนที่ค่อนข้างรีแลกซ์นะค่ะ ก็จะทำให้ทุกคนในกองรีแลกซ์ รู้สึกว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มันทำให้เราเห็นแง่มุมหลายๆ อย่างว่าตัวเนื้อหานี่คนเราจริงๆแล้วมันเป็นแบบนี้โลกมันไม่สวย เหมือนชีวิตที่หลายๆ คน แคทก็รู้สึกว่าได้เห็นอะไรมากขึ้น
Q.เห็นว่าได้ทำอะไรที่ไม่เคยทำมาก่อนอย่างเช่นวิ่งหนีผีตอนตีสี่ตีห้ากันเลย
A. เวลาเพื่อนแอบเห็นภาพ ทุกคนจะถามว่าเล่นเป็นอะไร เรียบร้อยใช่ไหม แต่งตัวดูเป็นหญิงไทยเหมาะมาก คือจริงๆแล้วเห็นเราแต่งตัวแบบนี้ ก็เพราะว่ามันเป็นยุคสมัยนั้น เห็นแบบนี้นี่สถานการณ์พอมีผีห่ามา คือทุกอย่างพลิกค่ะ คือกลายเป็นว่าเรานี่ซ่าส์เลย คือทำหลายอย่างที่ไม่เคยคาดคิดว่าเราจะได้ทำ คือหนังเรื่องนี้มันทำให้แคทรู้สึกว่าหลายๆ อย่างในชีวิตนี่ง่ายไปเลยค่ะ บางวันนี่ตีสี่ต้องลุกขึ้นมาเอาขวาน เอาจอบฟันผีห่า แล้วแคทพูดเลยว่าแขนแคทนี่เล็กมาก ถือจอบทีหนึ่งนี่ไม่ใช่เรื่องง่าย ถือยังไงให้สวย ฟันยังไงให้คอขาด มันยากมาก ไหนจะเลือดปลอมอีก เห็นอย่างนี้นี่ ต้องบอกว่า 80% ของเรื่องนี้คือแคทหน้าเขรอะ แล้วก็มีเลือดสาดเต็มตัว คลุกอยู่กับเลือดปลอม 24 ชั่วโมงมันเหนื่อย และบางทีเข้าป่า บุกป่าจริง สรุปแล้วออกมาเจ็บมาก เป็นแผล ไม่รู้ว่าอันไหนเลือดจริง เลือดปลอมต้องเช็ดให้หมด คือทุกครั้งที่มาจะต้องได้แผล เพราะว่าด้วยความที่ทุกคนทุ่มเท ถ้ากลัวตัวเองเจ็บมันก็รู้สึกแย่นะ ทำไมคนอื่นเขาเจ็บได้ คนอื่นเขาจริงจัง เพราะฉะนั้นเวลาที่มีซีนที่ต้องบู๊กัน ต้องหนีผี สู้กับผีนี่คือทุกคนต้องเต็มที่ ซึ่งเรื่องเจ็บไว้ก่อน ล้มจริง โดนกระชากนี่จริง ไม่มีสแตนอินนะคะ บางทีล้มทีหนึ่งนี่ 10 รอบ ล้มแล้วมันไม่สวย ล้มแล้วท่ามันไม่เป๊ะ พอหันมาดูหน้ามอนิเตอร์ แบบโหยมันได้นะ
Q.ต้องกรีดเสียงร้องกรี๊ดกรี๊ดจนคอพัง
A. เรื่องการที่จะเปล่งเสียงออกมาให้รู้สึกว่ามันกลัวจริงนะ ออกมาจากอินเนอร์คุณกลัวจริงๆ นะ มันยาก แล้วบางทีนี่กรี๊ดทั้งคืน จนบางทีต้องหันไปบอกคุณชายไปว่า คุณชายค่ะหนูไม่ไหวแล้ว เจ็บคอมาก ก็ต้องเตรียมน้ำอุ่นมา แล้วคือเชื่อไหมว่ากองนี้นี่ไม่รู้นะอาจจะเป็นดวงแคทหรือเปล่า ตอนกลางวันไม่ค่อยมีซีนคะ ไม่รู้ทำไม วันไหนนัดเช้าก็มีสองซีน สามซีน พอพระอาทิตย์ตก หกโมงเย็นปุ๊บ กินข้าวเสร็จนี่คือ ซีนเราอยู่คนเดียวทั้งคืนไปเลย
Q.กับสมญานาม “นางเอกกดปุ่มประมาณว่าสั่งน้ำตาได้”
A. ไม่ใช่กดได้ตลอดนะคะ คือแคทพยายามแต่บางทีมันต้องมาจากข้างในนิดหนึ่ง เพราะเวลาเราคั้น หรือบีบมันออกมานี่ มันดูรู้ ซึ่งพี่อดัมเขาจะบอกเลยว่า ไม่ได้ ต้องเอามาจากข้างใน คือถ้าซีนไหนที่รู้สึกว่าโชคดีที่มีพี่หนึ่ง (ภาสกร มหากนก) ซึ่งเป็นแอคติ้งโค้ช จะคุยกับเราว่าแคท คือเขาจะเล่าเรื่องให้เราฟังนะคะ แล้วทำให้เรารู้สึกว่าเอาอินเนอร์มาจากข้างใน หลายๆ อย่างที่มันอยู่เบื้องลึกในจิตใจเรามา บางครั้งการอินกับบทกับซีนนี่บางทีเราไม่ต้องอินกับเรื่องนั้นเราเอามาอะแดปเรื่องที่คล้ายคลึงกัน แล้วทำให้เรารู้สึกว่า เฮ้ยถ้านี่มันคือเรื่องจริงละ คุณจะรู้สึกอย่างไรซึ่ง ถามว่ายากไหมตรงเรื่องน้ำตา ยาก บางครั้งนี่ ซีนคนเยอะ เอ็กซ์ตร้าเยอะมาก ทำให้เราหลุดสมาธิตลอดเวลา เพราะว่าซีนหนึ่งไม่ได้ใช้เวลาแค่ 10-20 นาทีถ่าย บางที2-3ชั่วโมง แค่ซีนเดียว ซีนใหญ่ซึ่งนักแสดงเยอะมาก ซึ่งแคทก็พยายามทำให้ดีที่สุดคะ ซึ่งก็หวังว่าทุกคนจะเป็นกำลังใจให้ด้วยคะ
Q.อุปสรรคสำคัญในการแสดงภาพยนตร์เรื่องผีห่าอโยธยา
A. การถ่ายหนังก็จะไม่เหมือนการถ่ายละคร ซีนเดิมพูดเหมือนเดิม เล่นเหมือนเดิมแต่เลนส์กว้างขึ้น แคบขึ้น ซึ่งบางทีต้องเปลี่ยนแสงต้องมาจัดไฟใหม่ หรือว่าต้องเอาตัวนักแสดงมาเพิ่มขึ้น บางทีมันไม่ได้ใช้เวลาแค่สิบนาที ยี่สิบนาทีอย่างที่พูดไป เรื่องการโฮลฟีลลิ่งนะคะ บางที 2-3 ชั่วโมงในการจัดไฟ แค่กล้องเดียวด้วยซ้ำ ซึ่งมันทำให้เหมือนคนเรานั่งอยู่เฉยๆ สองชั่วโมง มันหลุดแล้ว ซึ่งมันก็ค่อนข้างที่จะยากมาก กับการที่จะต้องทำความรู้สึกนี้ให้คงอยู่ เพราะฉะนั้นเราก็เลยต้องมีสมาธิมากกว่าในชีวิตประจำวันจริงต้องโฟกัสว่าตอนนี้เราทำอะไรอยู่ อุปสรรคเรื่องนี้ที่สำคัญมากที่สุดก็คือการถ่ายทำไม่มีการเรียงซีน ซีนแรกเริ่มจากการที่การกุ๊กกิ๊กกับไอ้คงอยู่ กำลังหวานแหววนะคะ ซีนที่สองเป็นซีนฆ่ากันตาย ซีนที่สามบางทีเป็นซีนแบบว่าผีห่ากัดเรา ซีนที่สี่อยู่ดีๆ ก็กลับมาเป็นแบบว่าเฮฮา คือพูดเลยว่าทำอารมณ์ไม่ได้ สีหน้า ร้องไห้มา โดนป้ายเลือด คือบางทีมันเป็นอะไรที่เหมือนคุณต้องพร้อมที่จะล้างตัวเองตลอดเวลา ล้างคาแรคเตอร์ ล้างอารมณ์นี้ทิ้ง เพราะว่าทุกซีนจะมีการเปลี่ยนไปตลอดเวลา แล้วล้างตัวเองด้วยค่ะ เพราะว่าเลือดเลอะมาก อีกฟีลหนึ่งกลับไปเป็นแบบว่าสวย อีกฟีลหนึ่งกลับไปเป็นสกปรก คือมันจะเป็นการที่คือเราต้องเรียกว่าทุ่มเทจริงๆ มันทั้งวันนะคะ ทั้งวันจริงๆ แล้วมันมีการเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ซึ่งบางทีสภาพอากาศก็เป็นใจ บางทีก็ไม่เป็นใจ
Q.อธิบายลักษณะของผีห่าให้ฟังหน่อย
A.แคทเชื่อว่านักแสดงทุกคนอธิบายน่าจะไม่เหมือนกันเลย ความรู้สึกของแคทนี่รู้สึกว่าน่าเกลียด น่ากลัวจริงๆ ทุกครั้งที่เราต้องเข้าซีนกับผีห่า แคทจะขนลุกโดยปริยาย บางทีจับแล้วมันแบบไม่ไหวแล้ว มันเน่า มันมีทั้งเลือด ทั้งหนอง เหมือนเป็นพองๆ ตะปุ่มตะป่ำเหมือนเป็นโรค ตัวผีห่าคือคาแรคเตอร์ของเขา เหมือนศพ แต่คือเขาไม่มีสมองคุยกับเราไม่ได้ เขาไม่ฟัง จะกินเนื้อ จะกินเนื้อทุกคน ทั้งหมู่บ้าน เขาจู่โจมเราลูกเดียว สื่อสารกับเขาไม่ได้ ไม่มีจิตใจ ที่สำคัญเขามีแรงเยอะกว่าคนทั่วๆ ไป มันก็จะค่อนข้างยากที่เวลาต่อสู้กับเขานี้ค่ะ และด้วยความที่ว่าไม่ได้มีแค่ตัวเดียว มีทั้งหมู่บ้านนี่ มันทำให้มีอุปสรรคต่อการต่อสู้ ซึ่งบางทีเราเป็นแค่ผู้หญิง โชคดีมี “คง” เขาจะคอยช่วย คอยปกป้องเรา บางทีมันก็จะมีช่วงที่เราคลาดกัน ก็ต้องเอาตัวรอดกันไป เราก็ต้องหาอาวุธช่วยนะ
Q.วิธีการรับมือกับผีห่า เมื่อถูกจู่โจมเล่นงาน
A. อาวุธที่สำคัญที่สุด ก็น่าจะเป็นจอบค่ะ ไม่เคยจับจอบมาก่อนเลยในชีวิตนี้ ใช้จอบฆ่าผีค่ะ บอกเลยว่าหนักมาก สำหรับในภาพยนตร์ซีนที่เราจะเห็น เมี้ยน หยิบจอบมาสับหัวผีห่า เป็นซีนที่เมี้ยนต้องหนีผีนะคะ ต้องบอกเลยว่าซีนนี้ใช้เวลาถ่ายมากกว่า 2-3 วัน 3 คืนประมาณนี้เต็มๆ เป็นตอนมืดจนถึงหกโมงเช้า คือมันเหนื่อยมาก เจาะหลายรอบมากค่ะ คือเจาะด้านแคบ เจาะในบ้าน ถอดหลังคาบ้านออก เจาะจากด้านบน ถอดหลังคาบ้านด้านข้างออก คือเจาะกันทุกมุมจริงๆ แล้วคือกว่าจะกรีดร้องได้สมจริง สามคืนนี่ต้องเป็นร้อยนะ กรีดไปเรื่อยๆ ผลักตรงนี้ไม่ดี ถีบตรงนี้ไม่สมจริงทำอย่างไรดี แล้วคือบ้านกระท่อมนี่เป็นเหมือนฟาง ซึ่งมันบาดค่ะ มันเจ็บมาก มีใบหลายๆ อย่างที่มันคมมาก คือเราโดนบาดมือ ทุกอย่างหมดเลย คือแคทต้องถามพี่ที่เป็นผีห่าเลยว่าไหวไหม เจ็บมากไหม เพราะว่าคือเวลาเล่น แคทนี่ถีบจริง เพื่อให้สมจริง เราต้องเล่นจริงกันหมด คนเราเวลาเจอเหตุการณ์ที่น่าขนลุกนี่คือมันจะมีแรงมากกว่าเวลาปกติ คือมันแบบจะฮึดขึ้นมาเลยให้เรารอดให้ได้ค่ะ ซึ่งมันจะค่อนข้างเจ็บ มันไม่ใช่แค่ตัวแคท ตัวพี่นักแสดงท่านอื่นด้วย นั่นก็คือต่างคนต่างเจ็บ เขาก็ทำเราจริง เราก็ทำเขาจริง คือมันก็เลยเป็นเหตุการณ์ที่พอเห็นในภาพแล้วมันออกมาดูสมจริงค่ะ
Q.วีรกรรมที่ไม่คาดคิดของนางเอกผีห่าในกองถ่ายทำ
A. คือด้วยความที่แคทเป็นคนกินเยอะมาก มาม่านี่เรียกว่าแก้ง่วงหรือแก้หิวดี คือสองอย่างเลยนะคะ คือมาละตอนประมาณตีสาม แคทจะหาละ แคทเป็นคนที่กินมาม่าเปลี่ยนรสตลอด คือแคทก็จะไปซื้อของแคทเอง เพราะว่ามาม่าที่กองเขาจะมีรสประจำ คือรสหมูสับหรือต้มยำกุ้ง คือไม่ใช่รสโปรดแคท แคทต้องมีรสหลายอย่าง บางวันเกาหลีค่ะ บางวันมาเลยแบบว่าต้มโคล้ง บางทีแบบว่าเย็นตาโฟ แคทก็จะสลับสับเปลี่ยนเมนูของแคทไป แต่ว่าบังคับว่าจะต้องเป็นมาม่านะคะ
Q.เป็นนางเอกหุ่นดีขนาดนี้แน่นอนว่าย่อมต้องไม่ได้มีแค่เรื่อง eat eat แน่นอน
A. แคทก็ไม่เคยวิดพื้นนะ แต่แคทก็มาวิดในเรื่องนี้นะ คืออยู่ดีๆ พักซีนกันไปสามชั่วโมง ตีสามนี่เป็นเวลาเคลิ้มๆ ง่วงๆ กัน อยู่ดีๆ บอกว่าลุกขึ้นมา คุณต้องสู้กับผีตอนนี้ แล้วมันต้องเหนื่อยมาก เหมือนกับมันสู้มานานแล้ว ทำอย่างไรล่ะให้เหนื่อย ก็พยายามเดินกันค่ะ เล่นตบแปะกัน มันไม่หาย มันไม่เหนื่อย เหงื่อมันไม่ออก ทำอย่างไรดี ไปวิดพื้นกัน วิดจริงจังจนเหนื่อย แล้วถึงจะลุกขึ้นมา แล้วมันดูแบบหนีผีมาจริงๆ อย่างงี้นะคะ แคทก็วิดจนไม่รู้ว่ากล้ามแขนจะขึ้นหรือยัง ส่วน.พี่เต้ยเขาทำหลายอย่างเลยค่ะ เขาทั้งวิดพื้น กระโดดตบ พี่เต้ยนี่เขาจะมีการวิดพื้นเป็นพิเศษ ช่วงเวลาที่มีซีนที่ต้องถอดเสื้อผ้า มีการไปบิ้ว ไปปั๊มซิคแพคขึ้นมาก่อนค่ะ
Q.เป็นตัวละครที่เป็นตัวแทนเรื่องความรัก ก็เลยต้องมีฉากที่ต้องพิสูจน์เรื่องความรักเยอะหน่อย
A. ซีนของแคทกับพี่เต้ย คือมันจะมีซีนหนึ่ง ที่เป็นซีนริมน้ำนะคะ ซึ่งก็อาจจะมีการเจ็บตัวนิดหน่อย ซึ่งเป็นซีนที่เรากับพี่เต้ยนี่กำลังพลอดรักกันเบาๆ คือกำลังคุยกุ๊กกิ๊กกัน ตัวเรากำลังจะชวนหนี แล้วด้วยความที่พ่อเราเข้ามาพอดี พี่เต้ยเขาก็ทำอะไรไม่ถูก เขาเลยกระโดดน้ำไป ซึ่งเบื้องหลังการทำงานในซีนนี้คือพี่เต้ยเจ็บจริง เวลาทำงานก็มีการเขินกันนิดหน่อย เพราะว่าซีนนั้นก็เป็นซีนแรกๆ ที่เราถ่ายกันค่ะแต่ก็สนุก ออกมาดีคะ
Q.ร่วมงานกับพระเอกอย่างเต้ยพงศกร เป็นอย่างไรบ้าง
A. คือตอนแรกแคทยอมรับว่าก็เกร็งนะ เล่นไม่ได้เลย แต่พอตอนหลังเริ่มสนิทกับพี่เต้ยมากขึ้นก็เลยกลายเป็นว่าเล่นด้วยกันได้ การถูกเนื้อถูกตัวกัน มันก็จะไม่ใช่เรื่องใหญ่มาก ด้วยความที่สนิทกันเป็นพี่เป็นน้องก็คุยกันง่ายขึ้นซีนนี้พี่เต้ยทำอย่างนี้นะ แคทหันด้านนี้นะ เขาจะเป็นคนค่อนข้างที่จะจริงจังกับการถ่ายทำ เขาค่อนข้างมีความสามารถในเรื่องดราม่า หลายๆซีนที่แคทเล่นออกมาได้ ร้องไห้ได้ ก็เป็นเพราะว่าสายตาเขา ท่าทางเขา เขาส่งให้เราด้วยซึ่งนักแสดงจะส่งกันซึ่งมันจะรู้สึกจริงๆ
Q.แล้วทำไมพอถ่ายไปๆ จนจะจบเรื่อง จากคู่พระคู่นางสุดซึ้งถึงกลายเป็นคู่หูคู่ฮาไปได้
A. (หัวเราะ) คือสนิทกันไงค่ะ แล้วก็จะเล่นกันอยู่นั่นละ พี่เต้ยชอบจะแกล้งแคทมาแซวๆว่าห้อยๆเขาจะชอบแซวว่าแคทปากห้อย แคทก็จะแบบดำๆ ไปมาๆ สักพักก็ขำค่ะ หลุด โดนพี่อดัมตะโกนมา หยุดขำได้หรือยัง เวลาพอเขาแกล้ง เขาก็จะเนียนไปเลย พอเวลาโดนด่า เขาก็จะเนียนเหมือนเขาไม่ได้ทำอะไร แล้วเราผิดคนเดียว แล้วพี่เต้ยเขาจะมาหยอดมาทิ้งอารมณ์ได้ เขาก็กลับไปเล่นอินได้เหมือนเดิม แต่เราไม่ได้ หลุดเลย ก็เลยโดนดุ
Q.แล้วการทำงานกับนักแสดงคนอื่นๆเป็นอย่างไรบ้าง บรรยากาศในกอง
A. สำหรับนักแสดงท่านอื่นๆ ก็จะมี ไม่ว่าจะเป็น พี่แต๊บ เอเอฟ แม็กกี้ แล้วก็ พี่โซดา พี่หนึ่งชลัฎ หรือว่า อาตุ่ย (ชาติ อรรถจินดา) ที่เล่นเป็นนายมั่นพ่อของเมี้ยน หรือว่าพี่แนน-ปรางค์วลัย เล่นเป็นอำแดงแก้วแม่ของเมี้ยนก็ต้องพูดเลยว่าทุกคนมีสปิริตที่สูงมาก ทุกคนไม่ได้ลำบากน้อยไปกว่าพวกเราเลย ทุกคนคือสำคัญหมดนะคะ พาร์ทที่หนักของทุกๆ คนนี่มีหมด อย่างพี่โซดา บางทีด้วยความที่เขาเป็นผู้หญิงแกร่งในเรื่องต่อสู้เยอะมาก เขาจะต้องถ่ายซีนคนเดียวค่อนข้างเยอะ บางทีแคทเห็นถ่ายมาตั้งแต่ตีสี่ จนถึงสี่โมงเย็น นั่นซีนเขาคนเดียวเลยนะ สู้รบบนเรือ แล้วก็โดนผีแบบโอ้โฮ แบบว่ารุมซัดกันมาก เขาสู้กับผีเป็นสิบๆ ตัว แล้วบางทีเลอะเลือด คือโดนเยอะคะ สาดน้ำตอนมืดๆ ดึกๆ แล้วแบบมันหนาวนะ แล้วก็ตัวพี่แต๊บเอง พี่แต๊บเขาค่อนข้างที่จะเป็นหนุ่มนักดนตรี เขาจะเป็นเหมือนสีสันในกองเลยคะ ก็คือถ้าไม่มีเขาคือเงียบเลย เพราะว่าทุกครั้งที่เขามาเขาจะพกกีตาร์คู่ใจมาหนึ่งตัว ทุกคนก็จะฟังพี่แต๊บร้องเพลง แล้วก็มีความสุขกัน ตอนดึกๆ บางทีกินข้าวกัน ก็จะมีเสียงเพลงให้ฟัง
Q.ท้ายนี้อยากฝากอะไรกับ ผีห่าอโยธยา ภาพยนตร์แอ็คชั่นเลือดสาดย้อนยุคซึ่งเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิต
A. สำหรับหนังเรื่องนี้นะคะ แคทก็อยากจะขอฝากเนื้อฝากตัว แล้วก็ฝากทุกๆ คนด้วยว่าหนังเรื่องนี้จริงๆ แล้วมีความพิเศษมากๆ ค่อนข้างจะไม่เหมือนหนังเรื่องอื่น นักแสดงทุก ๆคนก็มีความตั้งใจ แล้วก็ทุ่มเทกับหนังเรื่องนี้จริงๆ ก็ขอฝากทุกๆ คนด้วยนะคะ ก็อย่าลืมไปดูหนังพวกเราด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ
-
“จักมีชีวิตรอดแบบมีลมหายใจ หรือตายทั้งเป็นในร่างผีห่า” อุบัติแห่งความ กล้าและท้าทาย ของ hack and slash horror film


กับการผสมผสานในแนวทางของภาพยนตร์ผี+แอ็คชั่น+สยองขวัญ+เลือดสาด
ที่มีฉากหลังย้อนเวลากว่า 4 ศตวรรษ
จากไอเดียและความบ้าพลังของมันสมองและสองมือกำกับของ
คุณชายอดัม-ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล
Q. ความเป็นมาเป็นไปของโปรเจกต์ที่2 “ผีห่าอโยธยา”
คุณชายอดัม : เรื่องมันเกิดขึ้นในช่วงท้ายๆ หลังจากปิดกล้องภาพยนตร์เรื่องสารวัตรหมาบ้าแล้ว ผมกำลังคิดอยากทำหนังเรื่องต่อไปจะทำเรื่องอะไรดี คือตอนนั้นคนกำลังฮิตพวก warm bodies มาก ผมจำได้เลยว่า Warm Bodies, Zombyland, Shaun of the dead หนังที่เป็นแนวแปลกใหม่ของซอมบี้ทั้งนั้นเลย คือตอนนี้ฝรั่งรู้วิธีแล้วว่าจะทำให้หนังซอมบี้แตกต่างอย่างไรแต่ว่าคนไทยยังไม่รู้ เพราะคนไทยถ้าเกิดทำหนังซอมบี้ที่แตกต่าง ก็คือลอกฝรั่งนั่นเองนะครับ ทั้งแก๊งเพื่อนผม ทอมมี่ เวอร์โกลาที่ทำ Hazel & Gretel :The Witch Hunter ทางฝั่งนั้นเขาก็ทำหนังของเขา แก๊งเพื่อนที่เรียนด้วยกันมาเลยนะครับชื่อ Dead Sno เป็นนาซีซอมบี้ เมืองไทยก็มีพี่ๆ ที่ทำโพสต์เตติกพี่หมูวศิน สุจิตย์ ซึ่งเป็นคนทำ hangover ทำหุ่นทำหมูระเบิดซึ่งพวกเขาก็ชวนผมตลอด ตัวผมเองเป็นคนชอบแล้วก็กลัวหนังซอมบี้มาก ก็นั่งอยู่กับพี่เต้งปรึกษากัน ทำซอมบี้พีเรียด สมัยอยุธยา เอาไอเดียตรงนี้จากพี่เต้งดีเจ สไปดาร์มังกี้ แล้วผมก็นำคิดต่อยอดออกมาเป็นเรื่องราว ผมเองรู้จักประวัติศาสตร์ในช่วงสมเด็จพระนเรศวร เนื่องจากว่าเราทำรีเสิร์ชตรงนี้แล้ว ก็รู้ว่าโรคห่ามีในประวัติศาสตร์เป็นมาช้านาน ผมก็เลยเริ่มศึกษาว่าช่วงเวลาปีไหนที่เหมาะสม ช่วงที่เริ่มทำรีเสิร์ชคือช่วงสักประมาณปิดสารวัตรหมาบ้า ก.ค. ส.ค. มาผมก็เริ่มเขียนบท ทำแคสติ้งซึ่งก็ไม่นานนะผมก็ได้ตัวละครครบทุกตัว มาเสนอสหมงคลฟิล์มประมาณปลายๆ ส.ค.ได้ เขาก็บอกลองไปเขียนบทให้เรียบร้อยดู จนได้เปิดกล้องจริงๆ ช่วงปี57 แต่ปีนึงเลยนะครับที่ผมทำบทเตรียมงาน ผมก็คิดว่าคงใช้เวลาจนถึงวินาทีสุดท้ายที่จะทำงานให้มันดีที่สุด ถ้ามันยังไม่ดีผมก็จะแก้แล้วปรับจนกว่าจะดีที่สุดครับ มันออกไปครั้งเดียวมันก็คือตัวงาน รวมๆ แล้วก็จะประมาณเกือบสองปีได้แล้วครับ แต่ตัวงานที่ถ่ายจริงๆ ก็ร่วมปีครับ
Q. เป็นผู้กำกับที่เป็นนักดูหนังตัวยง สารพัดแนว และทุกครั้งที่หยิบหนังขึ้นมาทำมักจะมีกลิ่นอายหรือประเภทของหนังที่ตัวเองชอบ หลงใหลและสนใจ จากครั้งที่แล้วคือในแนว Cop-Drama พอมาถึงผีห่าอโยธยา เห็นว่าก็เช่นเดียวกันแต่เป็นอีกแนวทางหนึ่งคือหนังในแนวสยองขวัญเลือดสาด
คุณชายอดัม : ผมมักจะนำเอาสิ่งที่ผมชื่นชอบในวัยเด็ก หรือในช่วงหนึ่งของการใช้ชีวิตมา คราวนี้มาก็ยังเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของภาพยนตร์ที่ตัวเองชื่นชอบ และก็ชอบมาตั้งแต่ต้นก็คือ hack and slash horror หรือประเภทหนังสยองขวัญนะครับผม แต่ว่าในขณะเดียวกันก็มีอีกประเภทหนึ่งอยู่ในข่ายที่เขาเรียก hack and slash ก็ในเรื่องการฆ่ากันเยอะหน่อย จะมีเลือดอาบพอสมควร ระทึก และก็ตัวละครต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่จำกัด เพราะต้องแสดงธาตุแท้ของตัวเองภายใต้ภาวะกดดัน เมื่อคนเราอยู่ในจุดที่ชิวิตอยู่ในภาวะอันตรายสุดๆ แล้วคนๆ นั้นก็จะเริ่มแสดงชีวิตของตัวเองขึ้นมา ผมชอบและคิดว่าน่าจะมีหนังไทยที่มีหนังแนวนี้ให้ดูกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนังที่เป็นหนังสยองขวัญที่มีเรื่องของผีเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ถึงแม้ว่ามีหนังผีมากมายเลยเมืองไทย แต่หนังผีประเภทนี้ยังไม่ค่อยมี เลยกลับมาจับเป็นโปรเจกต์เรื่องที่สอง หนังสยองขวัญที่เป็นพีเรียดไม่ใช่ภาพยนตร์ที่สร้างง่ายสักเท่าไรนัก ก็คิดว่าน่าจะทำได้ลองดู แล้วก็ออกมาเป็นภาพยนตร์อย่างที่เห็นครับ
Q. แค่ฟังจากชื่อภาพยนตร์ตามมาด้วยคำถาม ทำไมต้อง “ผีห่า”
คุณชายอดัม : ผมว่าผีแทบจะทุกชนิดมีคนเคยสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้ว แต่ผีห่าเป็นผีชนิดหนึ่ง ซึ่งอยู่ในคำพูดของคนไทยมาตลอด โรคห่าความจริงแล้วแปลว่าโรคระบาดดีกว่า มันจะมีโรคปัจจุบันเวลาได้ยินกับตำนานสมเด็จพระนเรศวรเป็นโรคปัจจุบัน พวกนี้คือเส้นเลือดในสมองแตก หัวใจวาย โรคเรื้อรังอย่างเช่นเบาหวาน แต่โรคห่าคือโรคที่เป็นโรคระบาดอย่างเช่นอย่างที่บอกอหิวาต์ ไข้ทรพิษ ซาร์ หรืออีโบล่าพวกนี้ ดังนั้นคนไทยจึงมีความเชื่อในโบราณว่าเวลาเกิดโรคระบาดแต่ละครั้งมันเกิดจากผี ผมก็เลยคิดในใจว่าถ้าโรคห่าเกิดจากผี รูปร่างของผีชนิดนี้จะทำหน้าที่อย่างไร ก็ออกมาเป็นคนที่ติดเชื้อโรคแล้วก็ไปฆ่าคนอื่นมีการกัด พอกัดปุ๊บมันก็จะเป็นเชื้อโรคติดต่อ ซึ่งถ้าเกิดขึ้นในสมัยที่อยู่อยุธยาละ ในสมัยนั้นตามพงศาวดารเปิดอ่านดูมันมีโรคห่าเกิดขึ้นตลอด สิ่งที่เห็นในตอนนั้นจะเป็นอย่างไร ทำงานฆ่าคนอย่างไรในการแพร่โรคระบาดเหล่านี้ ก็เลยลองจินตนาการขึ้นมาเราลองคิดถึง Post-apocalyptic ใช่ไหมฮะ แต่นี่เป็น Pre-apocalyptic มันเป็นยุคสมัยโบราณแล้วก็เหมือนวันสิ้นโลกในสมัยโบราณ ก็คิดออกมาเป็นตัวภาพยนตร์
Q. พอเกิดเป็นไอเดียแล้วความเป็นไปของเรื่องราว หรือทิศทางของหนังที่เราต้องการจะเล่าซึ่งอยู่ท่ามกลางความเป็นหนังผีแอ็คชั่นสยองขวัญเลือดสาด และยังพีเรียดอย่างที่เราต้องการได้อย่างไร
คุณชายอดัม : อย่างแรกพอผมพบว่าตัวเองอยากทำผีห่าอโยธยาปุ๊บ เราสร้างคาแรกเตอร์ขึ้นมาก่อน สร้างโรคนี้อย่างไรหน้าตา 360 องศาจะเป็นอย่างไร สร้างตัวละครขึ้นมา เป็นคีย์ 3 คู่ 6 ตัวละครที่มีเรื่องราวแตกต่างกัน เราสร้างตัวละครเหล่านี้ขึ้นมาก่อน ตัวนี้เป็นตัวบู๊ ตัวนี้เป็นนักรัก ตัวนี้เป็นคนอารมณ์ดี เราก็สร้างโลกครอบเขา เราก็สร้างกลไกของผีห่าจะเป็นอย่างไรบ้าง มันติดต่อได้อย่างไร วิ่ง กัดได้หรือเปล่า ตาสีอะไร เราก็จะหาคนที่เป็นงานแขนงต่างๆ ตัวผมเองก็จะรู้เรื่องพีเรียดพอสมควรอยู่แล้ว เราเคยสร้างฉากของตำนานสมเด็จพระนเรศวรซึ่งเอามาดัดแปลงใช้ในภาพยนตร์เรื่องนี้ระดับหนึ่งเลย เป็นการแปลงจากหมู่บ้านของพระนเรศ ความจริงแล้วเป็นยุคเดียวกันปีพ.ศ. 2108 ช่วงที่หงสาวดีเข้ามาตีพิษณุโลกพอดี แล้วก็เราจะดัดแปลงอย่างไรเราหาช่างฉากที่เคยทำงานกับตำนานสมเด็จพระนเรศวรทีมงานจากส่วนนั้นเข้ามา ตากล้องที่เป็นตากล้องคู่บุญผม ไชทัญญา กุมาร์ กาลละกุรี ที่เป็นตากล้องจากอินเดียอิมพอร์ตเข้ามาหนึ่งคน แล้วก็ตัวผมเอง ผมก็ทำหน้าที่ส่วนใหญ่อยู่แล้ว กำกับ ตัดต่อ บท อาร์ตไดเรกเตอร์ แล้วก็คอสตูม รอบนี้ก็ทำแทบจะทุกอย่างเองในการควบคุม แคสติ้งด้วย
Prosthetics เรื่องนี้ผมคิดว่าพอเป็นหนังสยองขวัญผมอยากจะกลับมาสู่ความดิบแบบดั้งเดิม เรื่องนี้มีซีจีนะ แต่อะไรที่สามารถทำให้มันเกิดขึ้นได้หน้ากองเราทำ ดังนั้นเรามีมือ Prosthetics พี่ป๊อบ (เมธาพันธ์ ปิธันยพัฒน์) ซึ่งเป็นยอดฝีมือทางด้านนี้เลย เราได้เห็นงานหลายๆ งานที่ผ่านมาของหนังสยองขวัญหนังผีหลายเรื่อง ทั้งที่ออกไปแล้วสองสามเรื่องที่ผมได้เห็นตัวงาน และก็รู้สึกว่าพี่แกเก่งเว่อร์มีแนวคิดที่แปลกประหลาดมาก ในการที่จะทำงาน จะแบบวิธีง่ายๆเลย วิธีที่เราคิดไม่ถึงแต่สามารถทำออกมาได้เจ๋งมากๆ แต่ในขณะเดียวกันกับที่สร้างความอลังการในตัวงานออกมาได้ซึ่งเหมาะกับผม คือตัวภาพที่ดูสมจริง ตัวเมืองที่ดูมีบรรยากาศที่อึมครึมในช่วงสมัยนั้นตัวผีที่ดูโหดจริงๆดูดุจริงๆนั่นก็เป็นงานประเภทหนึ่งที่เอาคนรู้แต่ละด้านเข้ามา
Q.แต่สิ่งที่โดดเด่นไม่แพ้กันคือตัวบทภาพยนตร์ ที่จะขับเคลื่อนให้คนดูติดตามไป รวมไปถึงการออกแบบตัวละครแต่ละตัวที่จะโลดแล่นไปกับแอ็คชั่นสยองขวัญเลือดสาดและพีเรียดเรื่องนี้ด้วย
คุณชายอดัม : ทุกครั้งเวลาผมเขียนบทภาพยนตร์ผมจะแคสติ้งก่อน ถึงเริ่มเขียนบท แล้วค่อยถ่ายทำหลังจากนั้น เพราะว่าผมอยากได้ภาพที่อยู่ในหัวเยอะๆ จริงๆ เลือกนักแสดงเป็นอย่างแรก เช่นเดียวกันเรื่องนี้ในผีห่าอโยธยาผมมีตัวละคร 7 ตัว แล้วก็มีตัวเมนอยู่ 3 คู่อีกตัวกึ่งร้ายกึ่งดีอยู่อีก 1 คน ดังนั้นผมก็จะคละนักแสดงใหม่ที่ไม่เคยผ่านงานแสดงมาก่อนเลยทั้งชีวิต คนที่ผ่านงานแสดงมาบ้าง พระเอกนางเอกที่กำลังเป็นดาวรุ่ง และก็มีนักแสดงที่มากฝีมือมารวมกัน แล้วก็ไล่ดูชีวิตเขาหมดเลย ทุกอย่างทุกรูป แล้วก็ไปดูงานทั้งหมด ผมโทรคุยกับผู้กำกับที่เคยร่วมงานกับเขาทั้งหมดเป็นอย่างไรคนนี้โอเคไหม เพราะฉะนั้นเราจะเห็นภาพเขาแล้วก็นั่งคุย ผมจะไม่ใช้วิธีแบบมาแคสท์นะ เราถึงจะเริ่มเขียนบทที่ท้าทายของนักแสดงแต่ละท่าน เช่น แม็กกี้-อาภา ภาวิไล เป็นนักแสดงที่เล่นมีประวัติ ผลงานเช่น คน-โลก-จิต, เธอ เขา เรา ผี มีภาพยนตร์หลายเรื่อง พอมาถึงเรื่องนี้เราจะหาโจทย์ที่แม็กกี้ไม่เคยเล่น แต่ในขณะเดียวกันกับที่ดูดีแล้วก็ดูเหมาะสมกับในตัวเรื่อง เป็นตัวละครตัวหนึ่งที่คิดนานมาก เรื่องนี้ผมไม่อยากให้แม็กกี้พูด ผมอยากให้แม็กกี้ลองแสดงแค่ตาแค่แอ็คชั่นด้วยมืออย่างเดียว แม็กกี้ก็จะได้โจทย์การแสดงที่ท้าทายมากขึ้น โดยที่กลับบ้านไปแม็กกี้ต้องเล่นอยู่หน้ากระจกคนเดียว ลองทำ workshop กันก่อนล่วงหน้าด้วยหลายครั้งหลายหนมากๆ ทั้งนักแสดงทุกคนเพื่อละลายพฤติกรรม
Q.7นักแสดง 7 ตัวละครหลักแต่ละคนรับบทบาทแตกต่างกันอย่างไรบ้างใน ผีห่าอโยธยา
คุณชายอดัม : แม็กกี้ เล่นเป็น อีพลอย เป็นคณิกาใบ้ เป็นคนแกมโกงคิดเห็นแก่ตัวเล็กๆ น้อยๆ แค่ใช้ชีวิตไปวันๆ จนกระทั่งมาพบกับคู่ขา ซึ่งเป็นคนที่ชอบเที่ยวโรงชำเรา เขาก็รู้สึกว่ามีคนเทคแคร์เขาจริงๆ ตัวละครตัวนี้เมื่อมีโอกาสพอมาถึงในจุดที่ผีห่าเข้ามาในหมู่บ้าน เขาไม่ได้เป็นพลเมืองชั้นสองอีกต่อไป เขาจะต้องเอาชีวิตรอด แม็กกี้ จะต้องถ่ายทอดความรู้สึกจากการแสดงภายนอกล้วนๆ ไม่มีไดอะล็อกเลย เป็นตัวละครตัวหนึ่งที่มีสีสันมากๆ เล่นคู่กับ แต๊บ-เอเอฟ ไอ้ขวัญ เป็นคนอารมณ์ดี อ้วนท้วมสมบูรณ์ เป็นเด็กวัดแต่ติดฝิ่นขายเหล้า เป็นคนที่เอกเขนกสำมะเลเทเมา แต่พอถึงเวลาคนที่เป็นเด็กเที่ยวมาอยู่ในเหตุการณ์คับขันแล้ว เขามีความเป็นคนดีได้หรือเปล่า
Q.ฟังๆ ดูแล้วแต่ละตัวละครก็จะมีดีมีเลว มีความเป็นมนุษย์ปุถุชนที่เราพบเห็นกันได้ในสังคมซึ่งแตกต่างกันไป
คุณชายอดัม : ใช่ครับ อย่างตัวละครต่อไป เป็นละครที่มีสีสันเยอะ ที่ผมว่าแหกคอกแหกขนบมากที่สุดตัวหนึ่งก็คือนายจัน นำแสดงโดย พี่หนึ่ง ชลัฎ ณ สงขลา พี่หนึ่งเองเป็นคนที่ผมรู้มือการแสดงมาตั้งแต่ไหนแต่ไร งานกำกับแรกก็มีพี่หนึ่งชลัฎเป็นนักแสดง เป็นนักแสดงที่ส่งเสริมนักแสดงอื่นรอบข้างโดยตลอด ในเรื่องนี้นายจัน เป็นเจ้าของโรงชำเราชาย เป็นคนที่มองทุกอย่างเป็นมูลค่าเป็นเงิน คนที่มูลค่าต่ำกว่าก็จะถูกคัดออก มีเรื่องกับทุกๆ คน จะเป็นคนที่จะโดนเกลียดซะเยอะ ในเรื่องนี่ อีบัว เป็นลูกหนี้ของนายจัน แล้วนายจันไม่ได้อยากแค่จะเอาต้น แต่จะเอาดอก โดยการเอาอีบัวไปเป็นเมีย ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยกลก็ใช้กำลัง ในเรื่องก็พยายามจะประทุษร้ายอีบัวมาโดยตลอด พี่หนึ่ง-ชลัฎเป็นคนผิวดำ ผิวคล้ำอยู่แล้วน แต่ผมให้ใส่ชุดจีนให้ใส่อะไรแปลกๆ แหวนเต็มมือ วิธีการแสดงเราพูดกันติดตลกนะในกองถ่ายว่าเมโทรเซ็กชวลสมัยอยุธยา เราก็ลองตีความกันดูว่าจะออกมาเป็นอย่างไร เขาก็สามารถที่จะตีออกมาได้ด้วยวิธีการของเขาเอง แล้วเป็นการแสดงที่สนุกไม่ได้ดูเว่อร์มาก แต่เป็นการแสดงที่ดูแล้วเพลิน
ไอ้เล็ก, ไอ้น้อย ผมก็ตีความจากสังคมไทยโดยทั่วไปคนที่มีเงินมีอำนาจ เขาก็ต้องระแวงตัวเองเป็นธรรมดาคงไม่ใช่เป็นคนโง่ซะทีเดียว ผมก็คิดว่าถ้าเกิดในสมัยอยุธยามีบอร์ดี้การ์ดหน้าตาจะเป็นอย่างไร ผมเลยคิดถึงพวกแบบใส่ผ้าเตี่ยว เป็นนักกล้ามหัวโล้นเดินตามอยู่สองคนตลอดเวลา พยายามทำเรื่องไม่เป็นเรื่องตลอดเวลาก็ได้ชื่อคือ พี่พฤกษ์ กับพี่โอ๋ สองคนนี้เป็นนักกล้ามอยู่แล้ว ต้องหาอาวุธหาอะไรให้เขาถือแล้วรู้สึกว่าโอ้โห ท้ายสุดแล้วไอ้เล็กมีอาวุธประจำตัวก็คือปืนใหญ่อันเบ้อเริ่มเลย อีกคนก็จะเป็นค้อนปอนด์ มีอะไรก็จะไอ้สองตัวนี้พยายามออกหน้าก่อน
อีบัว เป็นตัวละครที่มันส์มากผมชอบ femme fatale เรารู้สึกว่าผู้หญิงสมัยนี้ ผมเชื่อในการที่เป็นเท้าซ้ายเท้าขวา แล้วเชื่อผู้หญิงมีความแข็งแรงไม่แพ้ผู้ชายมาโดยตลอด คือผู้หญิงที่มั่นใจในตัวเองไม่ห่วงภาพลักษณ์ตัวเอง เป็นผู้หญิงเซ็กซี่เลยนะแต่ต้องแมนมากๆ อีบัวเป็นช่างตีดาบ มีทักษะการใช้อาวุธ ถือเป็นค้อนตีดาบอาวุธประจำตัวเลยดีไซน์คู่ออกมาว่าตัวละครตัวนี้เป็นผู้หญิงที่แกร่งฉันยืนได้ด้วยตัวเอง มีลูกน้องด้วยไอ้ทูล พี่แฟรงค์ (สมเดช แก้วลือ) ขาประจำผมอีกคนหนึ่งเหมือนกัน เป็นคนไม่กลัวใคร ระมัดระวังตัวพอสมควร จนกระทั่งเกือบจะเห็นแก่ตัว แล้วก็ทำให้เขาต้องพึ่งพาบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้เขาอยู่รอดได้ ผมเรียกว่าบัดดี้กับตัวละครที่สู้เก่งที่สุดในหนังเรื่องนี้ก็คือไอ้เทพ เป็นครั้งแรกที่ผมทำหนังแล้วรู้สึกว่าตัวละครมันเซ็กซี่มันดูวาบหวิวเอาเรื่องเลยนะ แต่ในขณะเดียวกันกับที่ยังไม่ดูน่าเกลียด ในเรื่องมีฉากที่บู๊เยอะมีโป๊อยู่ด้วย เห้ยโซดาได้นะได้ค่ะเอาเลย เขาก็เป็นนักแสดงที่ทุ่มทุนคนหนึ่ง แม้ว่าจะเป็นการแสดงครั้งแรกในเป็นตัวละครที่คนจะชอบตัวหนึ่งเลยเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นสำหรับผมนะในฐานะผู้กำกับ
อีเมี้ยน นางเอก เป็นตัวละครที่เป็นนักรัก ต้องเล่นอารมณ์เยอะ ผมไปดูงานแผลเก่าทั้งของคุณเชิด และของหม่อมน้อยดูชั่วฟ้าดินสลายผมอ่านอะไรที่มันไทยๆ เพราะในขณะเดียวกันผมดูนังจากหนัง hack and slash ของต่างประเทศเยอะแต่ผมต้องการกดอะไรบางอย่างให้รู้สึกว่า นี่คือไทยโบราณที่ยังดูป็อบ ดูร่วมสมัยอยู่ หนังเรื่องนี้จะไม่เปื้อนกลิ่นอายของเมืองนอกเยอะเกินไป ก็เลยสร้างอีเมี้ยนกับไอ้คงขึ้นมา เป็นคนที่มีเงินแต่ดันไปรักไอ้เด็กวัดซึ่งเป็นเรื่องที่ simple ที่สุดในโลก ผู้หญิงคนนี้ก็จะต้องโดนพ่อลากออกไปจากหมู่บ้านเรียบร้อยแล้ว อีเมี้ยนกลับมาหาคนที่มันรัก ผีห่ามันอยู่เต็มไปหมดพอเป็นอย่างนี้จะเอายังไงดี เป็นตัวละครที่รักซึ่งกันและกันมาก ความรักตรงนี้อาจจะไปส่งผลกับผู้อื่นได้นะผมเคยร่วมงานกับแคทมาก่อน แคท ซอนญ่า สิงหะ เป็นคนที่โผงผาง โก๊ะ รู้สึกว่าเด็กคนนี้มีดีมากเลยนะยังไม่เคยมีใครนำมา เทปเดิน แอ็คชั่น น้ำตาไหล เล่นไดอะล็อกได้ ผมรู้สึกว่าเขาทุ่มเทมากเขาอยากที่จะให้มันดีที่สุดเสมอ เดย์-ไนท์ เช้า-เย็น เป็นบททดสอบที่ดีเลยให้กับนักแสดงคนนี้ ผู้หญิงที่ทำเพื่อคนรักมันจะไม่ได้ทำเพียงแค่ฉันรักเธอเขาต้องทำอย่างอื่นได้ เขาต้องเลวได้ หลอกคนได้ เขาต้องมีมารยานะ ผู้ชายเป็นผู้นำนะแต่ผู้หญิงเป็นคนที่สามารถจะชักใยได้อะไรได้
ไอ้คง ตัวละครตัวนี้เป็นตัวละครที่ผมวางไว้ตัวแรกเลย เป็นเทพบุตรผู้ชายหน้าตาดี แมนๆ ดูล่ำๆ เป็นเด็กวัดนิสัยดี แต่ว่าไปชอบผู้หญิงที่เกินเอื้อมเยอะเลย แล้วก็มีการแสดงที่ดี เล่นบู๊ได้ พีเรียดได้ ซึ่ง เต้ย-พงศกร คือคำตอบที่มองตั้งแต่ต้น ไม่ค่อยมีดาราที่จะผ่านมือ พี่อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ ท่านมุ้ย แล้วยังสดอยู่ เขาเป็นคนที่ดีทั้งภายในและภายนอกและดูดีมาก แล้วการแสดงก็ไม่ได้ขี้เหร่ดูดีมากทีเดียว ขี่ม้าเป็นฟันดาบเป็นทำทุกอย่างเป็น แล้วก็เป็นคนที่เสื้อผ้าไม่จำเป็นต้องไปนุ่งผ้าให้ เดินมาปุ๊บนุ่งผ้าเอง ทำงานเร็วได้อานิสงฆ์จากท่านพ่อผมมาเต็มๆเลยโอ้โหขอบคุณพ่อมากๆ ที่หาพระเอกอย่างงี้มาประเคนให้ใส่พานรอไว้แล้ว พยายามปกป้องคนรักต้องก้าวข้ามผ่านตรงนี้ไปเป็นผู้นำให้ได้ เป็นบทที่ไม่ค่อยง่ายสำหรับเต้ย เต้ยเป็นคนที่ไม่ต้องเทรนอะไรเพิ่มเติมเลยนะในความเป็นจริงแล้ว เพราะว่าทุกอย่างที่เราจะทำเขาเราผลักเขาตกน้ำเอย เราถีบเขา ให้เขาเล่นบทคิวบู๊ เราให้เขาเล่นวิ่งหนีสู้กับผีห่า ฟันกันไปฟันกันมา ทำได้หมดด้วยความที่เป็นนักแสดงมืออาชีพ และฝึกด้านนี้มาโดยตลอด ทำให้ไม่ค่อยมีปัญหา ยิ่งไดอะล็อกทุกอย่างเข้าปากเต้ยเป็นธรรมชาติหมด เพราะเล่นพีเรียดมาโดยตลอด ทำงานด้วยง่ายและก็มีวินัยดี พูดคุยง่าย ไม่มีปัญหาอะไรเลย
-
Q. การเลือกเข้าคู่กันของคู่พระนางที่เลือกมากับมืออย่างแคท-เต้ย พอได้ร่วมงานกันเคมีทางด้านการแสดงของพระเอกนางเอกคู่นี้เป็นอย่างไรบ้าง คุณชายอดัม : นักแสดงทั้งกลุ่มนี่เขาจะคุยกันอยู่ตลอด เที่ยวกันอยู่ตลอดเฮฮากัน และก็รู้จักกันเป็นอย่างดี ดังนั้เต้ยกับแคทมีเคมีที่ดีอยู่แล้วตั้งแต่หลังกล้อง เป็นเพื่อนที่สนิทกันพอสมควร ก็พอมาอยู่หน้ากล้องปุ๊บ ความอายในการเล่นด้วยกัน เคมีเขาโอเคเลยทีเดียว เพียงแต่ให้เขาปรับมาเล่นในอารมณ์ของภาพยนตร์แค่นั้นเอง ที่เหลือก็โอเคเลยครับ คงกับเมี้ยนน่าจะเป็นตัวละครที่เข้าถึงง่ายที่สุดในเรื่องนี้นะครับ แล้วก็เป็นเรื่องของทางฝั่งรักมากกว่าที่จะเป็นเรื่องฝั่งบู๊ หรือฝั่งสยองขวัญ ไอ้เทพ เป็นตัวละครที่โผล่มาในหนังน้อยที่สุด แต่มีความสำคัญเทียบเท่ากับทุกคนเลยนะ ดูเก่งที่สุดในเรื่อง ผมเป็นคนชอบตัวละครแบบนี้มาโดยตลอด พูดน้อย แต่ทุกครั้งที่เขาโผล่มายืนเฉยๆ มันกลับกลายเป็นบางสิ่งบางอย่างที่มีพลังมากๆ ผมต้องการตัวละครประเภทนั้นตัวละครที่หยั่งรู้ทุกอย่าง เพียงแต่พยายามแก้ปัญหาให้ด้วยวิธีการที่ฉายเดี่ยว ศึกษาเอง รู้เอง ทุกอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ไอ้เทพเป็นคนแบบนั้น ทั้งที่ความจริงแล้วเป็นแค่ไอ้ขี้เมาธรรมดา แต่ก็มีภูมิหลังอยู่พอสมควร เราก็ได้อธิบายตรงนี้ให้กับ พี่คานธี อนันตกาญจน์ ซึ่งเป็นนักแสดงละครเวทีที่เก่งมากๆ เขาสามารถสะกดคนทั้งฮอลล์ได้หมดเลย หลังจากนั้นเขาก็เริ่มไว้ผมยาว ไว้หนวด พอมาถึงหน้าเซ็ทปุ๊บ เขาก็จะปลีกตัวไปอยู่ในบ้านเรือนไทยคนเดียว แล้วก็เริ่มคิดถึงตัวละครที่เป็นหัวหมู่ทะลวงฟันเก่าซึ่งเคยเห็นแก่ตัว มันทำให้เขาแบกรับภาระชีวิตมาโดยตลอด แม้ว่าจะไม่เคยเล่นภาพยนตร์มาก่อน แต่ด้วยการที่เป็นนักแสดงมืออาชีพอยู่แล้วในฝั่งละครเวทีทำให้เขาไม่มีปัญหาเรื่องของอารมณ์ นักแสดงคนนี้ไม่ต้องพูดเยอะสั่งเยอะ เขาตีความของเขาเอง ถ้าเขาไม่รู้เขาจะถามเรา ยิ่งตัวละครอย่างไอ้เทพเอง ก็เป็นตัวละครที่เก่งมาก ถือดาบสองมือ ต้องบู๊ ต้องฟันหัวขาดทีเดียว มีสัญชาติญาณดี เทพกับอีบัวมาเป็นคู่กัน เพราะฉะนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือเป็นคู่ที่บู๊หนักสุด เท้าเปล่าบู๊กัน วิ่งไปฟันกันไปกันมา ดังนั้นตัวละครสองตัวออกจะมีสปิริตแรงกล้า และมีลูกบ้าเยอะ Q. ด้วยความที่เป็นหนังพีเรียดทำให้การทำงานในหลายๆ ส่วนทวีคูณความยากยิ่งขึ้นไปอีก แต่นั้นยังไม่พอ ด้วยความที่ ผีห่าอโยธยา ไม่ใช่หนังรักแต่เป็นหนังแอ็คชั่นที่มีผีด้วยคุณชายอดัม : เรื่องที่น่าจะเป็นไปได้ยากที่สุดในโลกคือการที่อยู่ดีๆ ไอ้พวกผีพวกนี้ ลุกขึ้นมาไล่กัดกินคนอยู่ทั้งหมู่บ้าน แล้วในขณะเดียวกันกับที่ตัวแสดงจะต้องไปเล่นในยุคพีเรียดไดอะล็อกแบบพีเรียด ซึ่งผมไม่ใช่คนเขียนไดอะล็อกง่ายๆ พูดยาก แสดงยาก แล้วต้องแสดงให้ดูน่าเชือถือ ต้องให้คนดูที่นั่งอยู่ในโรงหนังรู้สึกเห็นคนแสดง เขาเหมือนอยู่ในยุคอยุธยาจริงๆ เขาต้อง workshop เยอะ ต้องฝึกโปรเจกต์เสียง ฝึกทำโน่นทำนี่ นักแสดงทุกคนทุ่มเท ผมใช้คำว่าตั้งใจ และเชื่อในผู้กำกับ เชื่อในสิ่งที่เรานำเสนอ เราลงเรือลำเดียวกัน ผมเป็นคนที่ทำงานเป็นผู้กำกับที่ไม่ใช่ผู้กำกับที่นิสัยดีสักเท่าไร ผมทำงานผมดีมานด์กับนักแสดง ผมให้เขาเล่นโน่นเล่นนี่ วันแรกๆ นักแสดงมาแบบเปื้อนเลอะเทอะขนาดนี้เลยเหรอ หลายคนอยู่ในช่วง 20-30 ปี ก็ยังมีอนาคตสดใสรออยู่อีกเยอะ หนังเรื่องนี้เป็นหนังกึ่งวัยรุ่น ผมต้องการทำให้คนเชื่อด้วย นักแสดงสามารถเฉลี่ย หรือเกลี่ยให้มันออกมาดูลงตัวกันทีเดียว อีกอย่างหนึ่งก็คือด้วยความที่หนังเป็นพีเรียดย้อนยุคไปสี่ร้อยกว่าปี เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย เวลาแต่งตัวพอเราจัดได้แล้ว เราก็เย็บเลย ทุกครั้งที่เข้าห้องน้ำต้องแกะออกแล้วก็เย็บใหม่ มาอยู่ในเซ็ทอยู่ในพื้นที่อยู่ในบรรยากาศ เจอผีจริง ฟิลลิ่งมันมา แล้วพวกเขารู้สึกว่าเขาอยู่ในโลกย้อนยุคจริงๆ นักแสดงจะต้องย้อนกลับไปให้รู้สึกแบบนั้นให้ได้ ซึ่งเราในฐานะผู้กำกับก็จะต้องช่วยเขา สร้างฉาก สร้างบรรยากาศ สร้างทุกอย่างให้มันเอื้อ ส่วนในพาร์ทของแอ็คชั่นเรื่องนี้ผมทำคิวบู๊เอง มีฟันผีสู้กันวิ่งกันเยอะวิ่งฟันสู้ แล้วก็ต้องเล่นอารมณ์เยอะ อารมณ์กลัว อารมณ์ต่างๆ ตีสองตีสามกระโดดน้ำกระโดดท่ากัน ก็ในป่าในเขาแมลงกัดแล้วป่าผมไม่ใช่ป่าง่ายๆ ป่าผมป่าหนามทั้งนั้นเลย เราถ่ายทำกันที่กาญจนบุรีมีแต่หนามมีแต่แมลงโหดๆ ทั้งนั้น แต่นักแสดงเราเต็มที่นะ แต่ว่าในขณะเดียวกันกับที่นักแสดงก็โดนทรมานพอสมควรในเรื่องของด้านอารมณ์ ด้านบทผมไม่ค่อยแก้บทให้นักแสดง แล้วผมก็ไม่ให้นักแสดงดูภาพด้วย เชื่อผมเท่านั้นแล้วผมจะบอกเองว่าตอนนี้โอเคหรือไม่โอเค ซึ่งส่วนใหญ่เราโอเคส่วนใหญ่90%เราโอเคจำนวนเยอะมากที่เทคเดียวผ่านเพราะนักแสดงเข้าใจตรงกับผู้กำกับ
Q. คิดว่าเสน่ห์ของ “ผีห่าอโยธยา”อยู่ที่ตรงไหนอย่างไรคุณชายอดัม : เสน่ห์ของหนังเรื่องนี้คือ คนมาดูหนังไทยจะได้กลิ่นอายของความเป็นฝรั่งในบท หรือรูปแบบการเล่าเรื่องแบบฝรั่ง ดังนั้นสองอย่างนี้เป็นจุดที่พบกันครึ่งทางผีห่ามันไม่ใช่ซอมบี้ วันแรกที่ผมทำผมคิดถึงโรเมโร่ ผมคิดว่าเราอยากทำหนังแบบ Land of the Dead ไหม แต่เราไม่อยากเป็นแบบ Land of the Dead เราไม่อยากเป็นหนังซอมบี้ เราจะสร้างอะไรขึ้นมาที่ไม่ใช่ซอมบี้ แต่คนที่ดูซอมบี้ก็จะรักมันไปได้ด้วย พวกเราค้นพบว่าเราสามารถทำให้เกิดกลิ่นอายหรือมุมมองใหม่ๆของhack and slashฟิล์มในเมืองไทยได้แล้วนะ เราทำหนังประเภทสยองขวัญเป็นหนังผีสยองขวัญอีกแบบหนึ่งที่หาจุดพอดีได้แล้วซึ่งโชคดีมาก เพราะผมกลัวมากเลยนะ วันแรกที่ผมทำว่ามันจะไม่ใช่หนังผีไทย และมันจะไม่ใช่หนังผีฝรั่งแล้วมันจะสนุกเหรอเพราะผมเป็นคนดูหนังฝรั่งแล้วก็หนังไทยด้วย แล้วผมก็จะเห็นว่าความกลัวสองแบบนี้มันจะต่างกัน เราก็ต้องทำโจทย์ทำresearchอย่างหนักว่าเราจะทำอย่างไรดี ตัวละครจะเป็นอย่างไร ผีจะมาทางไหนเพราะฉะนั้นเสน่ห์ในหนังเรื่องนี้คุณได้สองแบบคุณจะอยู่ในสองโลกนี้ได้ Q.เราจะได้เห็นหนังแอ็คชั่นที่ตัวละครต่อสู้กับผีฟันคอขาด ทะลุกะโหลก เลือดพุ่งกระฉูด โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการถ่ายทำที่เน้นความสดในกล้อง ณ ตอนถ่ายเลยมากกว่าที่จะเน้นทางด้านซีจี คุณชายอดัม : ใช่ครับ ต้องบอกว่าเป็นพระเอกอีกตัวหนึ่ง อยู่ทุกที่เลยไปไหนก็จะเห็นไอ้เจ้านี่โผล่มาพอๆกับพระเอกนางเอกของหนังเลย คอนี่ตัดแล้วตัดอีก ตัดเสร็จแล้วก็เย็บกลับไปใหม่ เป็นงานที่ตัวศพเหล่านี้ แล้วก็การทำ Prosthetics เนี่ยมันเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งนะ รู้สึกว่านอกเหนือจากหนังโรเมโร่ที่เราได้ดู หรือว่าหนังผีไทยอย่าง นางนาก ในขณะเดียวกันผมไปดูงานผู้กำกับ เรย์ แฮร์รี่เฮาเซน ซึ่งเป็นนักทำอนิเมชั่น เขาจะชอบเอาโครงกระดูกมาถ่ายทีละภาพๆ แล้วค่อยๆ ขยับๆ แล้วมันจะกลายเป็นกระดูกกองทัพกระดูกสู้กับคนอยู่ในหนัง แล้วเรารู้สึกว่ามันดูเหมือนจริงมากเลยนะ เพราะมันถ่ายสิ่งที่มันอยู่ได้จริง ผมเชื่อว่าซีจี ทำให้หนังดูดีขึ้น แต่เราจะต้องมีพื้นที่ดีด้วย ผมพยายามสร้างฐานให้มันกว้างขึ้น โดยการทำอะไรก็ตามให้เป็นไปได้ ให้ได้ให้หมดก่อน แล้วถ้าได้หมดปุ๊บ แล้วจะเสริมมันด้วยซีจีนี่มันก็จะดูดียิ่งขึ้นอีก มันเป็นการทำงานคู่กัน ถ้าสองอย่างมาส่งเสริมซึ่งกันและกัน ตัวหนังก็จะดูน่าเชื่อถือขึ้น ดูจริงจังขึ้น แล้วหนังเรื่องนี้ทำ realistic ไม่แหวะ ตัดก็เห็น ผมไม่คิดว่าความแหวะ หรือความอี๊มันเป็นอะไรที่น่าสนใจ แต่คนจะดูหนังแล้วแบบ ปึ้ง น่ากลัว หลายโมเม้นต์ในหนังพอสมควรเลย อยู่ดีๆ มาถึงไอ้เทพมาฟัน ฉัวะ ขาด ซีจีก็จะมีแค่เลือด แต่ที่เหลือสมองเราทำขึ้นมาหมดเลย ผมเชื่อว่านักศึกษาทั่วไปน่าจะเอาเป็นกรณีศึกษาได้เลย เราไม่ได้ทำแบบฝรั่ง เราจะเห็นว่าพวกฝรั่งลงทุนเยอะมากกับการทำตัวละคร ตัวหุ่นขึ้นมาเราไม่ได้ใช้เยอะขนาดนั้น แต่เราใช้วิธีคิดที่ดีกว่า เราคิดเยอะว่าจะแต่งอย่างไรให้ผี 20-30 ตัววิ่งเต็มหมู่บ้าน แล้วก็ในขณะเดียวกันให้ดูเป็นผีห่า ก็ใช้วิธีแบบดิบๆ หน่อย เราใช้มาร์กเกอร์ไวท์บอร์ดวาดเส้นเลือดเองเลย ใช้เจลกันความชื้นทำเป็นแผล เป็นตุ่มออกมา ซึ่งดูในหนังแล้วแบบน่ากลัวจริง Q.มาถึงตัวละครสำคัญในภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ไม่พุดถึงไม่ได้ก็คือ “ตัวผีห่า”คุณชายอดัม : ผีห่าคือพระเอกตัวจริงของเรื่องนี้ ตัวจุดชนวนให้เรื่องมันเกิดขึ้น เรื่องนี้ติดพอกัดแล้วติดเชื้อข้ามวันข้ามเดือน หรือว่าภายใน 24 ชั่วโมง เราต้องสร้างกฎของเราขึ้นมาด้วยนะ ของผมวิ่งได้ กัดได้ ฟังเสียงได้ แต่ปีนกระโดดไม่ได้ สร้างกฎขึ้นมาก่อน ถึงจะดีไซน์ตัวขึ้นมา เราคิดถึงโรคระบาดพวกไข้ทรพิษ โรคอหิวาต์เป็นตุ่มเล็กๆ อยู่เต็มตัวไปหมด เราก็สร้างเป็นตุ่มหนองขึ้นมาเต็มตัวหมด เป็นแผงๆ ตามระยะของเส้นเลือด โดนกัดตรงไหนมันก็เข้าไปตามเส้นเลือด แผลก็จะอยู่ตามเส้นเลือด แล้วก็เป็นแผลมันจะเริ่มลามเป็นเลือดเสียหมดเลย เส้นเลือดในร่างกายก็จะดำแล้วผิวก็จะแห้งลงเรื่อยๆ เป็นสะเก็ดขาวบ้างดำบ้างแล้วแต่คน เป็นสเต็ปว่าผิวแบบช่วงแรก 2-3-4-5 เป็นอย่างไร ตัวละครจะเดินแบบไหน การสั่งงานด้วยสมองเป็น สิ่งเดียวที่มันเกิดมาแล้วมันรู้ก็คือมันจะต้องฆ่าคนมันต้องกินคนแล้วแพร่เชื้อให้คนๆ นั้นฟื้นกลับมาใหม่ นี่คือกฎสำคัญที่สุดของมัน และนั่นทำให้หนังมันสยอง พอสิ่งที่ไม่รู้จักอะไรเลยมันเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุด เราไม่สามารถหยุดสิ่งที่เรามองเห็นได้ชัดเจนจริงๆ แล้วทุกคนมีสิทธิ์เป็นได้หมดครับ เรามีซีนหนึ่งเลยที่โบสถ์ ทุกคนเป็นผีห่าได้หมด ในบทที่ผมเขียนมาผีห่ามันเป็นตัวแทนของความชั่วร้ายที่เกิดขึ้นในสังคมเหมือนโรคระบาด มันไม่จำกัดว่ามันจะไปที่ไหน ท้ายที่สุดแล้วเราจะไปหลบตรงไหนกัน เราไปหลบอยู่ในโรงชำเราชาย มันออกจะตรงข้ามกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงอยู่ Q. ก่อนเปิดกล้องคุณชายอดัมมีการเตรียมงานก่อน ถึงขนาดจับทีมงานมาแสดงเป็นตัวละครและถ่ายหนังทั้งเรื่องตามมุมกล้องจริงไปตั้งแต่แรกเลย
คุณชายอดัม : เนื่องจากผมไม่ชอบเน้นกองใหญ่ๆ แล้วเราก็มีทีมงานที่มีการเปลี่ยนแปลงเสมอๆ ผมจะต้องเป็นคนที่เตรียมงานเยอะมากๆ ผมจะถ่ายหนังทั้งเรื่องก่อนหนึ่งครั้งแล้วตัด ผมจะมีผู้ช่วยมาเล่นแทนเล่นหนังทั้งเรื่องเลยนะครับ ครบตั้งแต่วินาทีแรกจนถึงวินาทีสุดท้าย แล้วทุกอย่างสมบูรณ์บนโต๊ะ พอเห็นภาพทั้งหมดปุ๊บต้องเตรียมอะไรบ้างยังไงบ้างคอสตูมดีไซน์ คือผมเรียนทั้งอาร์ทไดแรกเตอร์เองกำกับตัดต่อ แล้วก็บทเอง แล้วก็มี
ส่วนร่วมโปรดิวซ์เองเพราะฉะนั้นทุกอย่างจะอยู่ในมือผม แม้กระทั่งคิวแอ็คชั่น ดังนั้นผมจะรู้ทั้งหมดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นในหนังบ้าง 100% แล้วผมก็จะจดทุกอย่างเป็นตาราง ช่วยกันลิสต์กับทีมที่ทำงานใกล้ชิดกัน ลิสต์ออกมาทุกอย่างหนังทั้งเรื่องมีหมดในมือถือผมในเครื่องคอมผมจะมีในกูเกิ้ลไดร์ฟนี้จะมีทุกอย่างครบหมดเลยรายละเอียดหนังทั้งเรื่องตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเวอร์ชั่นแรกทุกอย่างจะเป็นไฟล์อยู่ในอินเทอร์เน็ตหมด แล้วก็เวลาทำงานมันจะได้ทำงานง่าย เพราะเราจะไปโฟกัสที่การแสดงจริงๆ เวลาถ่ายทำ
Q. ในฐานะผกก.อยากให้เล่าฟังถึงเรื่องราวของภาพยนตร์ และการทำหนังเรื่องนี้ต้องการจะบอกอะไรกับคนดู คุณชายอดัม : เรื่องผีห่าอโยธยาเป็นเรื่องที่ง่ายนะครับ แต่ขณะเดียวกันก็ต้องมีอะไรบางอย่างที่เราอยากจะสื่ออยู่นะครับ คือเรื่องมันก็แค่ตัวละคร 6 ตัว ซึ่งมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน ทั้งรักทั้งเกลียด ทั้งชอบ ทั้งไม่เข้าใจกัน ตัวละครทั้งหมดนี้อยู่ในภาวะกึ่งจำยอมด้วยสภาพแวดล้อมทั้งภายใน และภายนอกของตนเอง จนกระทั่งวันหนึ่งมีผีเข้ามาล้อมในหมู่บ้าน คนเริ่มตายในหมู่บ้านในป่า มันเป็นโรคห่าคนก็เลยจะอพยพจะหนีกันหมู่บ้านก็เริ่มจะตกอยู่ในสภาวะย่ำแย่อยู่แล้ว เพราะอยู่ในช่วงสงครามด้วยยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ แล้วท้ายสุดแล้วไอ้โรคห่าในที่นี้ที่คนคิดว่ามันเป็นโรคความจริงแล้ว ไม่ใช่มันเกิดจากผีไม่ได้เกิดจากโรคมันระบาด เราไม่รู้วิธีการระบาดของมันซึ่ง ดังนั้นไอ้ 6-7 คนที่อยู่ในสังคมตรงนี้ ในระหว่างที่ผีห่าฆ่าเขาจะทำอย่างไรในเมื่อเขารู้ว่า แต่ละคนชอบกันไม่ชอบกัน แต่ในขณะนี้เราจะตายหมู่ด้วยกันอยู่แล้วเขาจะต้องทำอย่างไรต่อ คนเรามันไม่เหมือนกัน มีแบล็คกราวน์ที่แตกต่างกันความคิดแตกต่างกัน มีแนวทางการใช้ชีวิตที่ต่างกันเหมือนสังคมไทย เมื่อเราถูกล้อมกรอบอยู่ในภาวะที่จะกดดัน แต่ละคนจะแสดงออกอย่างไร จะเห็นทุกแบบ ตั้งแต่ คณิกา,เศรษฐี,เด็กวัด,ทหารหนีทัพ,ช่างตีดาบ ทั้งเพศหญิง-ชาย เราจะให้เห็นความรัก ความบู๊ ฉากที่ทั้งแบบดิบ แบบสยอง แบบน่ากลัว แบบเซ็กซี่ แบบรันทด นผมเชื่อว่าเราจะชอบตัวละครตัวใดตัวหนึ่งในนี้ แล้วในทุกตัวละครล้วนแล้วแต่จะมีฉากของตัวเอง ที่มีฉากเด่นหมด
-
บทสัมภาษณ์ “โซดา วีรี ละดาพันธ์ จาก ผีห่าอโยธยา




บั่นคอผีห่าด้วยสองมือกับ “โซดา-วีรี ละดาพันธ์”
“อีบัว” นักดาบสาวแกร่ง เซ็กซี่ทุกอณู บู๊สุดชีวิต
บทบาทแรกในชีวิตสุดท้าทาย กับ “ผีห่าอโยธยา”
แอ็คชั่นสยองขวัญเลือดสาดในบรรยากาศย้อนยุค
Q.ก่อนอื่นให้โซดาแนะนำตัวเองก่อนเลย
โซดา: ชื่อ โซดา วีรี ละดาพันธ์ ค่ะ ก่อนที่จะมาเล่นหนังเรื่องนี้เราเป็นนักร้องวงเกิร์ลกรุ๊ปสามคนค่ะ มีทำเอ็มวี ถ่ายทำเพลงกับเพื่อน เป็นแนว Electronics Dancehall เป็นแนวสนุกๆ เต้นๆ หน่อยค่ะ ในส่วนของภาพยนตร์ได้มาเล่นหนังเป็นครั้งแรกก็รู้สึกสนุกค่ะ เรารู้สึกว่าอาจเป็นเพราะเราได้เป็นตัวละครที่มันสนุกด้วย มันมีมุมหลายๆ มุมมีทั้งแอ็คชั่นมีอะไรหลายอย่าง ส่วนตัวชอบการแสดง แต่ไม่เคยลอง ตอนแรกเราดูละครดูหนังก็ไม่เคยคิดถึงลึกๆ ของอารมณ์แต่ละตัวละครนั้นๆ พื้นฐานหรือแบ็คกราวด์มีที่มาที่ไปอย่างไรเราดูเพื่อความบันเทิงอย่างเดียว แต่พอเรามาได้เล่นเองเราต้องคิดว่าตัวละครนั้นคิดอะไร มันเป็นจุดยาก และมันเป็นจุดที่เราได้เรียนรู้อะไรเยอะขึ้นลึกขึ้นมันเป็นจุดดีนะคะสำหรับเรา
Q. เห็นสวยๆ เซ็กซี่แบบนี้เห็นว่ามีไลฟ์สไตล์ที่เอ็กซ์ทรีมไม่แพ้บทบาทในเรื่องโดยเฉพาะความเร็ว
โซดา: (หัวเราะ) ก็ชอบรถแข่งค่ะ เราก็เคยแข่งรถบ้าง ไปเรียน เคยมีความใฝ่ฝันอยากเป็นนักแข่งรถ ไปเรียนอยู่โต้โยต้าเรสซิ่งค่ะ จะแข่งจริงจังเลย เรารู้สึกว่ามันมันส์แต่มันก็มีจุดกลัวน่ะคะ แต่เราคิดว่ามันน่าจะเอ็กซ์ตรีมมาก เพราะว่าเข้าโค้งรึอะไรอย่างนี้มันสุดเวลารถคว่ำอย่างนี้ ทุกอย่างมันต้องเซฟ ก็คิดว่าน่าจะมันส์ดี ชอบแข่งรถไปเรียนอยากจะเข้าไปวงการแข่งรถ
Q. แล้วสำหรับภาพยนตร์เรื่องแรก ผีห่าอโยธยา รับบทเป็นใครอย่างไร
โซดา: รับบทเป็น บัว ก็จะเป็นผู้หญิงที่มีบุคลิกค่อนข้างเงียบ ใจเด็ด และก็เหมือนมีความอดทน มีความแกร่งในตัวเองไม่แพ้ชายอกสามศอก ดูจากภายนอกก็จะเห็นว่าบัวเป็นสาวสวยประจำหมู่บ้าน เป็นช่างตีดาบผู้หญิงคนเดียวในหมู่บ้านอีกเหมือนกัน เพราะว่าจริงๆ แล้วพื้นเพของหมู่บ้านเราผู้ชายจะโดนเกณฑ์ไปเป็นทหาร ไปรบหมดแล้ว เราโตมากับอาชีพนี้เหมือนกับว่าเราจะต้องสานต่ออาชีพนักตีดาบของพ่อที่สร้างไว้ ตัวบัวจะถนัดมีอาวุธประจำกายก็คือ ค้อนคู่ ทักษะการใช้ดาบ เรียกว่าเก่งไม่แพ้ผู้ชายเลยก็ว่าได้ ที่โรงตีดาบบัวเขาก็จะมีลูกน้องเป็นผู้ชายคนหนึ่งนะค่ะ ชื่อ ไอ้ทูน ตัวละครบัว ก็จะมีความเกี่ยวข้องกับตัวละครอื่นๆ อย่างคนแรกก็คือ ไอ้เทพ (คานธี อนันตกาญจน์) คู่นี้ก็จะมีความผูกผันกันพอสมควรเลยตั้งแต่ในเรื่องของการถือดาบเหมือนกัน เป็นนักต่อสู้เหมือนกัน แล้วในเรื่องเราก็จะมีมอบดาบให้เทพด้วย พูดได้ว่าเทพเป็นคนที่ช่วยชีวิตบัวให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของ นายจัน (หนึ่ง ชลัฎ ณ สงขลา) กับพรรคพวก พอเรามาเจอสถานะการณ์ผีห่าบุกเข้ามา ทำร้ายผู้คนในหมู่บ้านก็จะไม่มีใครที่จริงใจกันแล้ว นายจันนี้ต้องบอกว่าเป็นผู้ชายที่เราไม่ชอบเลย คือหาโอกาสคอยข่มเหงเราทุกอย่าง แม้กระทั้งเรื่องหนี้ของพ่อเราเขาก็มาเบียดเบียนเราอยู่ตลอดเวลา มาแทะโลมเรามารังแก อวดรวย เพราะว่าเป็นคนที่รวยที่สุดในหมู่บ้าน จะเอาเงินมาซื้อบัวไปเป็นเมียอยู่หลายครั้งเหมือนกัน นายจันนี้เป็นหนึ่งคนที่เราแบบอยากฆ่าอยู่ตลอดเวลา
Q.ในภาพยนตร์มีการพูดถึงผู้รอดตาย มีพูดถึงเรื่องโรคห่า มีพูดถึงผี เรื่องราวมันเป็นอย่างไร
โซดา : เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในสมัยอโยธยา เกิดโรคระบาดขึ้นค่ะ ที่มาพร้อมกับผีห่าเกิดขึ้นมาซึ่งสามารถฆ่าชีวิตทุกคนได้ แต่กลับกันคือฆ่าผีห่าฆ่ายังไงก็ไม่ตายนอกจากตัดหัว จะฟัน จะแทงก็ไม่เข้าค่ะ แล้วมันเกิดขึ้นกับผู้คนในหมู่บ้าน สำหรับตัวบัวก็เป็นผู้รอดชีวิตกลุ่มสุดท้ายของหมู่บ้านนี้ โดยที่ไม่รู้ว่าสุดท้ายจะลงเอยอย่างไร ผู้คนที่มีชีวิตรอดกลุ่มหนึ่งมาเจอกัน ซึ่งเราเชื่อว่าแต่ละบุคลิกแต่ละตัวละครมีจริงในทุกสังคม บางคนก็เห็นแก่ตัว บางคนก็ช่วยเหลือคนอื่นได้ บางคนก็ต้องการเอาตัวรอดแค่ตัวเอง มันคล้ายกับว่าสมมติว่าโลกเรากำลังจะแตกเราจะทำอย่างไร แล้วทุกๆคนก็จะแสดงความเป็นตัวเองออกมาจริงๆ หรืออย่างที่จะมีบางคู่ที่เขามีความรักเขาก็จะเหมือนค่อยช่วยเหลือแต่คนรักเขาค่ะ มันจะเป็นการสะท้อนความเป็นคนในปัจจุบัน ต้องไปดูว่าความคิดเห็นแต่ละคน คาแรคเตอร์ของแต่ละคนแต่ละตัวละครจะเป็นอย่างไร แต่สำหรับตัวบัวเอง พอเกิดโรคผีห่าขึ้นมาทำให้ต้องจับดาบต้องจับค้อน สู้เพื่อเอาตัวรอดค่ะ ทำอย่างไรให้เราหนีไปให้ได้ เขาต้องช่วยคนอื่นด้วยจากที่เป็นคนที่ไม่เคยจะยุ่งกับใคร ก็มีเหตุการณ์ที่ผลิกผันทำให้เรามองเพื่อนรอบๆ ข้างเพื่อนที่อยู่ด้วยกันรอดไปด้วยกัน
Q. จากบทบาทนักร้อง แล้วมามีผลงานการแสดง แถมเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิตด้วยเป็นอย่างไรบ้าง
โซดา : ก็ค่อนข้างหนักเหมือนกันนะคะ คือความยากมันมีอยู่แล้วในทุกการทำงาน การถ่ายหนังหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่หนูมองว่ามันเป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ ที่เราได้ทำได้เจออะไรที่มันหนักแบบนี้ มีทั้งระเบิดในหนังเรื่องนี้และเป็นระเบิดที่ค่อนข้างใหญ่พอสมควร ยี่สิบจุดที่ทีมงานตั้งไว้ ทุกคนอาจจะคิดว่าเราเล่นภาพยนตร์มันก็ต้องมีแบบบทสวย ใส ตัวบัวนี้ไม่มีเลย ทุกๆ ฉากเต็มไปด้วยเลือด พูดถึงเรื่องระเบิดก่อนเราก็ทำการบ้านมาค่อนข้างหนักเหมือนกัน พอบอกระเบิดเพราะว่าคือทีมอาร์ท ทีมเอฟเฟกต์ ทีมงานทุกคนทั้งผู้กำกับเขาก็คาดหวังว่าจะออกมาดีที่สุดไร เขาก็วางใจ ก็อยากให้มันออกมาดีก็ทำเต็มที่ ก็ดีใจที่มันผ่านมาได้ อย่างเช่นคราบเลือด ที่ต้องเจออยู่ตลอดเวลา เป็นเหมือนพระเอกของหนังก็ว่าได้ นอกจากผีห่า พระเอกเรื่องนี้อีกสองอย่างคือ 1 เลือด 2 สโมก (ควันที่ใช้ในการควบคุมแสงในการถ่ายทำ) เพราะว่าทุกๆ ฉากเราต้องนั่งดมควันสโมกอยู่ตลอดเวลาค่ะ จะเป็นในโรงชำเราชายหรือแม้กระทั่งในป่า ทุกๆ ฉากมีสโมกแต่ว่าก็ดีทุกอย่างฟูลออฟชั่นไปหมดเลย เต็มไปด้วยทั้งเรื่องอุปสรรคในการถ่ายกลางคืนตลอด ทั้งภาพทั้งควันทั้งลมทำให้ทุกอย่างพอมาประกอบกันทำให้เป็นความยากที่หนูรู้สึกว่ามันเป็นประสบการณ์ที่ดีกับเรื่องแรก แล้วถ้าเราเจอเรื่องอะไรยากๆ เราก็จะผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ
Q.ที่บอกว่าต้องเจอระเบิด ทราบมาว่าเป็นนักแสดงคนเดียวที่ต้องเข้าฉากระเบิดแถมเป็นผู้หญิงด้วย ยังไม่รวมกับที่จะต้องเจอเลือดในทุกๆ ฉาก เล่าให้ฟังว่าเป็นอย่างไรบ้าง
โซดา : ค่ะก็อย่างฉากระเบิดนะคะ เราแสดงเอง ซ้อมเองประมาณ 20 -30 รอบเหมือนกัน ค่อนข้างที่หนัก คอเคล็ดไปหมดเลย อยากให้ผ่านในเทคเดียวเพราะว่าทุกๆ ฝ่ายก็เตรียมพร้อมกัน ก็ยากมาก หลังจากที่เราผ่านฉากระเบิดไปมันมีเอฟเฟกต์ที่กระเด็นมาใส่ เป็นแผลที่หลัง เออพอเรามีรอยแล้วเรารู้สึกว่า เฮ้ย! เราผ่านการโดนระเบิดมาเพราะว่าคนปกติก็คงไม่มีใครได้เจอได้มีรอยแผลเพราะระเบิด กลับบ้านไปก็แทบป่วย หรืออย่างเลือดสาดก็มีฟันคอผีบ้าง แทงคอบ้าง เลือดกระฉูดแบบเต็มตัวแทบจะแยกไม่ออกว่าผีหรือคน หนังเรื่องนี้เป็นหนังผีที่แอ็คชั่นค่อนข้างแรงเหมือนกัน มีทั้ง ต่อสู้ ทั้งกระโดด ใช้แรง ใช้ค้อนแล้วอีกอันก็คือการตีดาบของบัว แล้วด้วยความสมจริงก็ต้องใช้ค้อนจริงในฉากที่ต้องตีดาบ ซึ่งหนักอย่างต่ำ 5-10 กิโล แล้วเป็นผู้หญิงที่แบบใช้ดาบร้อนๆ ที่เพิ่งขึ้นมาจากไฟแล้วมาตี ทำจริงทุกอย่าง บัวทำเองหมด ไม่มีสแตนอิน ได้แผลเยอะมากคือตัวเราเองเป็นคนซุ่มซามอยู่แล้วก็จะมีตามมือตามข้อเท้า ไฟลวกบ้าง อะไรบ้าง แต่ก็สนุกมาก แล้วก็มีฉากหนึ่งที่ใหญ่รองมาจากฉากระเบิดเลยก็ว่าได้ เป็นการที่เราหนีขึ้นเรือโดดน้ำว่ายน้ำไปขึ้นเรือใหญ่มาก จริงๆ เป็นคนว่ายน้ำไม่เป็นนะคะ เราได้ไปฝึกว่ายน้ำมา คือจริงๆ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่แต่ว่าเหมือนคนไม่เคยว่ายน้ำ แล้วมันเป็นการว่ายน้ำแบบต้องหนีตายจะว่ายแบบไหนก็ได้ พอว่ายน้ำไปถึงเรือเสร็จก็ต้องปืนขึ้นเรือไปอีก เพื่อที่เราจะรอดแล้วต้องดูว่าบัวจะรอดรึเปล่า
Q.เป็นนักแสดงมือใหม่หน้าใหม่เมื่อเทียบกับนักแสดงคนอื่นๆ ในเรื่องที่ผ่านทั้งงานหนังงานละครมาแล้ว เครียดใหม่ กดดันใหม่โดยเฉพาะบทที่ต้องใช้พลังในตัวเยอะขนาดนี้
โซดา : เราเป็นมือใหม่ความเครียดมันเยอะมาก ความกดดันสูงมาก รอบข้างเราต้องเล่นกับนักแสดงหลายๆ คนที่มีผีมือ เราก็กลัวว่าเราจะทำได้ไม่ดีเป็นตัวถ่วงบ้าง แต่ก็ฝึกค่ะ อยากทำให้ดีที่สุด สมมติว่าต้องเป็นซีนอารมณ์ที่เราต้องใส่อารมณ์เครียดมากๆ เพราะว่าบัวจะเป็นตัวละครที่ไม่มียิ้มเลยสักครั้งเดียว คิดอยู่ตลอดเวลา ฉันจะอยู่ต่อไปได้ยังไง พรุ่งนี้จะเป็นยังไง มันเก็บจนเรารู้สึกว่าเราเป็นคนนี้จริงๆ จนกลับบ้าน ความรู้สึกเอ๊ะ! เครียดตลอดเวลา คิ้วผูกโบว์ตลอดเวลา ก็คือปล่อยมันไม่ได้ เพราะว่าเราอยู่กับตัวละครตัวนี้ทุกวันๆ บางฉากในหนังนี้ไม่มีร้องไห้แต่ด้วยความเครียด คือผู้กำกับจะบอกว่าเอาเป็นเครียดกลัว แต่เขาเป็นคนค่อนข้างเก็บนะฟูมฟายออกมาไม่ได้ พอคัตปุ๊บเราร้องออกมาเพราะว่าเราไม่ไหวแล้วก็มีนั่งร้องไห้ ก็จะมีพวกพี่คอยแนะนำ อย่างเป็นซีนที่ถูกนายจันจะมาล่วงเกินเรา จะพยายามจับเราไปเป็นเมีย พี่หนึ่ง (ภาสกร มหากนก-แอ็คติ้งโค้ช) อยู่ก็จะช่วยบอกให้เราปลดปล่อย เรามีพฤติกรรมหลายอย่างที่เราเป็นตัวละครตัวนี้แล้วก็ติดจากกองถ่ายกลับไปบ้านด้วย เราต้องเรียนรู้ที่จะต้องปรับ ต้องหยุด ก็พยายามจะทำให้ดีที่สุด ก็เหมือนเป็นบันไดก้าวแรกของเราด้วย ก็อยากให้กำลังใจและก็ติดตามด้วยนะคะ
Q.มีฉากไหนที่รู้สึกหนักใจที่สุดในการทำงานในภาพยนตร์เรื่องนี้
โซดา : คือมันเหมือนเป็นการถ่ายทอดให้เห็นว่าผู้หญิงคนหนึ่งที่โดนรังแก นึกภาพไม่ออกว่ามันจะออกมาเป็นอย่างไร ผู้กำกับก็พยามบอกว่าไม่ต้องเครียดเพราะว่าคือโดยภาพหนังแล้ว หนังของเราไม่ได้แบบเซ็กซี่จ๋า หรือเลิฟซีนอะไรขนาดนั้น แต่ว่ามันจะมีที่มาที่ไปก็คือ นายจันที่เราเกลียดนี้เขาชอบเรา อยากรังแกอยากข่มเหงเรา เพราะเห็นว่าเราเป็นผู้หญิงที่ไม่ยอมใครก็เครียดมาก เพราะว่าเราไม่รู้อะไรเลย ประสบการณ์เราไม่มีเลย แล้วต้องเล่นกับพี่หนึ่งด้วย เขาก็เซฟให้เราเยอะมาก มันเป็นการสื่อสารในเรื่องของอารมณ์ที่มันเยอะที่สุดของหนังเรื่องนี้ของเรากับตัวเรา เราต้องสร้างจินตนาการเหล่านี้ขึ้นมา แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี มันก็เป็นการแก้แค้นกันไปกันมาเหมือนว่าเป็นการสื่อถึงที่มาที่ไปของตัวละครให้คนดูรู้ ตอนแสดงพี่หนึ่งเขาก็ส่งบทมาทำให้เรารู้สึก เออพอเขาจริงมาเราก็ต้องจริงกลับ เราจะตะโกนกรี๊ดๆ ไม่ได้ ด้วยตัวบัว จะเป็นคนเก็บเจ็บไว้ข้างในอารมณ์ที่จะสื่อออกมาได้แค่ความ ก็ถ่ายอยู่หลายเทคมาก 10-20 เทคเพราะว่ามันหลายอย่างค่ะ
Q.หนังเรื่องแรกต้องเตรียมตัวมากน้อยแค่ไหนอย่างไร
โซดา : ค่ะก็ตัวละครตัวนี้จากที่เราอ่าน ที่จริงแล้วว่าตัวละครมันจะต้องมีแบ็คกราวน์ นั่นก็คือเราต้องเวิร์คช็อป ต้องฝึกการแสดง มานานเหมือนกัน แล้วก็สำคัญสำหรับตัวละครบัวตัวนี้นะค่ะก็มีตั้งแต่ต้องเข้าฟิตเนสค่ะ เป็นเวลาเกือบ 4 เดือนก่อนหน้าที่จะเปิดกล้อง เราก็จะไปแบบฝึกตัวเองแล้วก็เรียนดาบ ฝึกค้อน แล้วก็มีมวย คือฝึกความแข็งแรงทุกอย่างเพื่อทำตัวเองให้พร้อม เพราะว่ามันหนักจริงๆ แต่ว่าพอย้อนกลับไปแล้วรู้สึกดีที่เราได้ฝึกตัวเองแล้วก็ฝึกความแข็งแรงมาเยอะเพราะว่าซีน แต่ละซีนนี้หนักมากๆ เลยค่ะ
Q.ถ้าให้คำอธิบายถึง “ผีห่า”
โซดา : โอ้โห้! ลักษณะของผีห่าก็มีอยู่หลายแบบเหมือนกันนะคะ แล้วแต่ละตัวนี้เหมือนมันก็มีที่มาที่ไปไม่เหมือนกัน จริงๆ มันเป็นโรคโรคหนึ่งที่สมมติว่าใครก็ตามที่โดนกัดแล้วมันก็จะติดต่อ แล้วมันก็จะเหมือนมีอาการของโรคแตกต่างกันไป บางตัวก็จะมีเน่าเฟะ หน้าแบบมีรอยแผล บางตัวก็เป็นตุ่มเป็นเม็ด บางตัวก็จะตัวซีด ตัวขาวค่ะ แต่มีแผลมีหลายๆ แบบ แต่ทุกอย่างก็จะเป็นมาจากโรคผีห่าทั้งหมด จะดุมากเห็นสิ่งมีชีวิต เห็นคนไม่ได้จะไปกัด เข้าไปกัดคือเหมือนพยายามจะสร้างขยายอาณาจักรต่อไป จะต้องเข้าฆ่าเพื่อให้เราเป็นบ้าง เพื่อให้คนทุกคนกลายเป็นผีห่ากันหมด แล้วก็ไม่มีสติสัมปชัญญะ เจอใครต้องเข้าไปกัด มีพละกำลังเยอะ ฆ่ายังไงก็ไม่ตาย ต้องตีหัวหรือฟันคอขาดค่ะ
Q.เสน่ห์ความน่าสนใจของภาพยนตร์เรื่อง ผีห่าอโยธยา
โซดา: การนำเอาเรื่องยุคสมัยความเป็นหนังพรีเรียด ที่ยกโรคห่าที่มีอยู่ในชีวิตจริง ซึ่งเราหลายคนก็คงเคยได้ยินว่ามีโรคชื่อนี้จริงๆ แต่หมายถึงเราหยิบเอาอาการของโรคที่มันเกิดขึ้นมาดัดแปลง พร้อมใส่ไอเดียหลายๆ อย่างเข้าไปให้เกิดเป็นอุบัติโรคผีห่าที่เกิดขึ้นในหนัง เราจะเห็นว่าผีห่าแต่ละตัวก็จะมีรายละเอียดไม่เหมือนกัน เช่น สมมติว่าบางตัวเดินเร็วบางตัวเดินช้า บางตัวก็อาจจะเป็นเม็ดผื่น บางตัวก็ซีดขาวทุกตัวจะมีลักษณะแตกต่างกันไป แต่ทั้งหมดมันคือเกิดขึ้นจากไอเดียของผู้กำกับ พอเป็นหนังพีเรียดที่ถ้าเราสังเกตรายละเอียดในหนัง เราก็จะรู้ว่าสมัยก่อนนี้อย่างบ้านเรือนเราอยู่กันแบบนี้แล้วก็ข้าวของใช้อะไรต่างๆ เช่นสมมติฉากบ้านของบัว ก็จะมีการใช้ไฟจริงใช้สูบ (สูบลมเวลาที่จะเผาหรือตีดาบ) ที่เราย้อนกลับไปจริงๆ หลายๆ คนก็คงนึกภาพไม่ออก ว่าพ่อแม่เราสมัยก่อนเราอยู่กันแบบนี้แล้วก็ใช้ชีวิตกันแบบนี้ ทำกับข้าวกันแบบนี้ แล้วก็ทำมาหากินกันยังไง แล้วเป็นหนังที่มีครบทุกอารมณ์ มีความโรแมนติกเข้ามาถึงแม้จะเป็นหนังผีห่าที่มีเลือดตลอดเวลา แต่เราก็เห็นความน่ารักของพระเอกนางเอก ที่เขามีความรักให้กันอยู่ตลอดเวลา ห่วงใยกันตลอดเวลา มันก็จะเป็นฉากที่หลายๆ คนยิ้มได้ บู๊แอ็คชั่นนี้มีแน่นอนซึ่งถ่ายทอดผ่านตัวละครบัวก็คือมันจะได้เห็นถึงเสน่ห์ของผู้หญิงที่แกร่งสามารถจับดาบจับค้อนได้ ผู้หญิงก็เตะได้ต่อยได้กระโดดหลบระเบิดได้อย่างนี้ เครื่องแต่งกายแนวพีเรียดก็เป็นส่วนหนึ่งที่สื่อสารความเป็นไทยจริงๆ ว่าเราใช้ผ้าแถบ โจงกระเบน เราใช้ผ้าเตี่ยว ที่สมัยก่อนพ่อแม่เรามีผ้าผืนเดียวก็อยู่ได้ไม่ต้องมีเสื้อผ้าเยอะแยะก็อยู่ได้ เสื้อผ้าของตัวละครไม่มีคล้ายกันในเรื่องการแต่งกาย เพราะว่าคือเราจะแยกชัดเจนในเรื่องฐานะชนชั้นกลางก็จะมีฐานะก็จะมีเสื้อผ้าใส่แบบ นายจันก็จะรวยมากหน่อยก็จะมีแก้วแหวนเงินทอง คือมันเป็นชีวิตจริงของคนสมัยนั้นว่า คือคนมีทอง คนรวยก็ต้องใส่ทองใส่เพชรนิลจินดา บัวเองก็เป็นคนที่เรียกได้ว่าหาเช้ากินค่ำ ก็จะมีผ้าผืนหนึ่งเป็นผ้าแถบ แล้วที่ใส่นี้คือเราก็ใส่จริงคือๆ ไม่ได้มีซิป เรามาผูกกันจริงว่าถ้าสมมติเรามีผ้าพื้นเดียวเราจะใส่ปิดบังร่างกายของเรา แล้วก็ออกไปนอกบ้านได้ไหมทำมาหากินได้ไหม เข้าห้องน้ำก็ลำบากมากเหมือนกัน เพราะว่าเราก็ต้องรื้อออกมาใหม่ ทุกอย่างคือใส่ใจรายละเอียดแทบจะทุกอย่างในหนังเรื่องนี้ในทุกๆ ซีนไม่ว่าจะเรื่องเลือดหรือเรื่องอะไร อย่างหน้าตัวก็มีการใส่เลือดไม่เหมือนกัน ความสมจริงทุกอย่างคือเราชอบค่ะมันมีเสน่ห์หลายๆ อย่างอยู่ในตัวของหนังด้วย
Q. พูดถึงผกก.คุณชายอดัม
โซดา : ในมุมของโซดา ชัดแต่ชัวร์นะ เราให้คำนิยามผู้กำกับคนนี้เหมือน เขาจะรู้จุดว่า สมมติว่าอย่างซีนนี้ต้องการอะไร อารมณ์เป็นไงเขาจะพูดให้เราฟังว่า อ๋อ อารมณ์เป็นแบบนี้เป้าหมายของหนังเป็นแบบนี้ อย่างฉากที่ต้องเซ็กซี่เขาจะบอกว่าเราเซ็กซี่ เพราะว่ามันคือที่มาที่ไปของตัวละครที่ทำให้มันเป็นแบบนี้ไม่ให้เราเซ็กซี่พร่ำเพรื่อ แล้วเราก็คิดตามมันก็จะจินตนาการได้ฉะนั้นทุกซีนที่ออกมามันก็จะเป็นเหมือนกับ เราจะนึกภาพออกโดยกว้างๆ คือเขาก็จะบอกเราน้อยๆ ชัวร์ และชัดหลายๆ อย่างเราได้ประสบการณ์จากผู้กำกับมากค่ะเยอะมาก
Q. ท้ายนี้อยากให้ฝากผลงานกับแฟนๆ
โซดา : ก็ฝากหนังเรื่อง ผีห่าอโยธยา ด้วยนะคะเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของโซดา ทุกๆ คนไม่ว่าจะนักแสดงทุกคน ผู้กำกับ ทั้งทีมงานทุกคนตั้งใจมากๆ ยังไงก็ต้องติดตามดูเป็นหนังไทยที่สะท้อนเรื่องราวสมัยก่อนสมัยอโยธยา จริงๆ แล้วอโยธยาอาจไม่ได้แตกเพราะเป็นสงครามก็ได้นะคะ
-
Movie Guide: ผีห่าอโยธยา

ผีห่าอโยธยา - การกลับฟื้นชีวิตขึ้นใหม่อีกครั้งในคราบของอสูรร้าย
ปีพุทธศักราช 2108 โรคห่าได้แพร่ระบาดไปทั่วอโยธยา
ศพคนตายกลับฟื้นคืนชีพเป็นผีห่า
ไล่ล่ากัดกินผู้คนอย่างสยดสยอง
พวกเขาจึงต้องลุกขึ้นสู้ ก่อนความตายจะยึดแผ่นดิน
'ผีห่าอโยธยา'
14 พฤษภาคมนี้ในโรงภาพยนตร์
-
แต๊บ AF ยกนิ้ว แม็กกี้ คณิกาใบ้น้ำตาไหลเป็นสายเลือด ถูกหนึ่งชลัฏเฆี่ยนยิ่งกว่าทาส ปมแค้นจุดเริ่มต้นก่อนอุบัติผีห่า




เรียกได้ว่าเป็นเงื่อนปมสำคัญ ที่คุณชายอดัม ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล ผู้กำกับตั้งใจถ่ายทอดให้มิติของแต่ละตัวละครมีที่มาที่ไป อุบัติผีห่าตัวแรกออกมาเล่นงานชาวอโยธยา ซึ่งตอกย้ำความเป็นหนังผีแอ็คชั่นสยองขวัญเลือดสาด ที่ย้อนยุคกลับไป 400 กว่าปี จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อผีห่าบุกกัดกลืนกินชาวอโยธยา โดยความสัมพันธ์ของ 3 ตัวละครสำคัญ ที่เกี่ยวโยงกันด้วยความรัก เสน่ห์หา ความเคียดแค้น ที่จะส่งผลต่อไป
โดยเป็นฉากที่ อีพลอย คณิกาสาวสวยแต่เป็นใบ้ (อาภา ภาวิไล) ที่ต้องแสดงความรู้สึก และอารมณ์ที่เต็มไปด้วย รัก โกรธ เจ็บปวด เจ้าเล่ห์ เคียดแค้น กลัวสุดขีดโดยไม่มีบทพูด แม้จะโดนลงหวายจนแผ่นหลังแตกเป็นสายเลือด ออกหรือถูกผีห่ารุมขย้ำก็ตาม ถูกนายจัน (ชลัฎ ณ สงขลา) เจ้าของโรงชำเราชายผู้มั่งคั่ง จับมัดกับเสาและลงโทษด้วยการเฆี่ยนตีจนปางตาย โทษฐานที่แอบลักขโมยเบี้ยกับลูกค้า ที่เชื่อว่าจะสร้างความเกลียดชังให้ผู้ชมได้อย่างถึงขีดสุด ซึ่งหนึ่ง-ชลัฏ ได้กล่าวว่า
“บุคลิกคาแรคเตอร์ของนายจัน คือ ขี้โกง หน้าเลือด เอาเปรียบคน เป็นเจ้าหนี้ของคนในหมู่บ้าน เจ้าของกิจการโรงชำเราชาย เป็นเศรษฐีมาตั้งแต่ต้นตระกูล คอยกดขี่ชาวบ้าน ในหนังจะเห็นว่านายจันจะเกี่ยวพันกับผู้หญิง 2 คนๆ แรกคือ อีบัว ช่างตีดาบประจำหมู่บ้าน ที่นายจันอยากเอามาเป็นเมีย กับอีพลอยที่เป็นใบ้นายจันเสียดาย ไม่อยากปล่อยให้คนอื่นได้เป็นเจ้าของ ก็หลอกอีพลอยมาทำงานอยู่โรงชำเรา เพียงแต่นายจันจะเลี้ยงดูโดยมองว่าเป็นทาสคนหนึ่ง ไม่พอใจก็จะทุบตีและใช้กำลังอยู่เสมอ”
ส่วนสาวแม็กกี้ได้พูดถึงฉากนี้ว่า “ฉากในโรงชำเราชาย ที่อีพลอยต้องถูกนายจัน ฟาดเราด้วยหวาย โอ้โห! รู้สึกเป็นคิวแรกด้วยแล้วก็หนักมาก เราเหนื่อยมาก ฟาดแล้วฟาดอีก รับภาพแคบภาพกว้าง เราต้องแสดงอาการเจ็บออกมาจริงๆซึ่งตอนถ่ายทำ เราก็ต้องหันหลังให้พี่หนึ่งที่เล่นเป็นนายจัน ซึ่งเราไม่สามารถมองเห็นข้างหลังเราได้เลย ว่าจะฟาดลงมาเมื่อไหร่ เพราะฉะนั้นเวลาเขาฟาดเราที จะมีพี่หนึ่ง (แอ็คติ้งโค้ช) เขาก็จะคอยสะกิด เราก็ต้องแอ็คติ้งกระแทกเสาเอง ด้วยเวลาที่เราเจ็บเราโดนฟาดแล้วก็ไม่สามารถร้องออกมาเป็นเสียงได้ ในเมื่อเราไม่สามารถพูดได้ มันจะออกมายังไง มันก็เก็บกั้นข้างในมันก็ยาก ก็เลยออกมาเป็นน้ำตาแทน กัดฟันแทน อ่อนล้าอ่อนเพลียไปหมดอะไรอย่างนี้ ก็ถือว่าเป็นบทที่ท้าทายมากๆ เลยค่ะ การที่เป็นใบ้การสื่อสารก็จะเหลือแค่ดวงตาอย่างเดียว”
ขาดไม่ได้คือยังมีไอ้ขวัญ เด็กวัดเจ้าสำราญ ซึ่งเป็น1ในลูกค้าประจำ ของโรงชำเราชายแห่งนี้ อีกตัวแปรสำคัญที่ผูกโยงกับตัว อีพลอยคณิกาใบ้ มีส่วนสำคัญที่เข้ามาช่วยเหลืออีพลอย ท่ามกลางอุบัติผีห่า และวิกฤติต่างๆ แม้กระทั่งในตอนที่อีพลอยถูกนายจันลงโทษด้วยการเฆี่ยน ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการขึ้นจอแบบเต็มๆ ตัวครั้งแรกในชีวิตของนักร้องหนุ่มอารมณ์ดีจากบ้านเอเอฟ แต๊บ AF 5 ธนพล มหธร
“สำหรับผมเป็นการแสดงภาพยนตร์ครั้งแรกในชีวิตเลยนะครับ ต้องบอกว่าเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่มาก ยิ่งภาพยนตร์สไตล์พีเรียด แอ๊คชั่น ผี มีดราม่าอยู่ในนั้นด้วย ก็ถือว่าเป็นอะไรที่ค่อนข้างท้าทายมากสำหรับผมนะครับ แล้วก็รู้สึกสนุกที่ได้ทำ คือเป็นสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นในชีวิตจริง แล้วเราจะสร้างภาพพวกนั้นขึ้นมาในหัวเราได้ยังไรอะไรแบบนี้นะครับ แต่พอเราได้มาถ่ายเราก็ได้ฝึกฝนวิชาจากแอ็คติ้งโค้ช เพื่อนๆนักแสดงที่มาร่วมงานช่วยเหลือกันในเรื่องของการแสด ส่วนน้องแม็กกี้ที่ต้องเล่นเป็นใบ้ ซึ่งผมคิดว่ามันเป็นงานหินสำหรับเขา ที่ มันต้องแสดงออกมาจากสีหน้า แววตา ภาษามือ คือผมยังคิดอยู่เลยว่าถ้าได้รับบทแบบนี้การบ้านต้องเยอะมากเลย ด้วยการที่เขาเป็นนักแสดงที่ผ่านมาหลายเรื่องแล้ว ผมเลยรู้สึกว่าเขาเก่งมาก มีสปิริตมาก คือเวลาถ่ายทำ ถ้าเขาต้องมีสมาธิ เขาจะเงียบมากเลยไม่พูดกับใครเลยจะอยู่กับตัวเอง ทั้งๆ ที่ยังเด็กอยู่เลย แต่เก่งมากครับ”
เตรียมตัวร่วมฟันฝ่าไปกับอุบัติผีห่าที่พร้อมจะกัดกลืนกินทุกคนได้แล้ว
14 พ.ค.นี้ ผีห่าอโยธยา ทุกโรงภาพยนตร์
-
“ผีห่าอโยธยา ผีไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก” สุดฮือฮากระแสเซลฟี่ แชะ & แชร์ ฝูงผีห่ารุมขย้ำกัดกินผู้คน ฝรั่งคนไทย ถูกใจให้ผีหายใจรดต้นคอ




ออกอาละวาด สร้างความแปลกแหวกตั้งแต่การดีไซน์ผีที่หยิบเอา “โรคห่า มาผสมผสานกับผี กลายเป็นศพที่ลุกฟื้นขึ้นมากัดกินผู้คนแถมฆ่าเท่าไหร่ก็ฆ่าไม่ตาย ภายใต้บรรยากาศแบบย้อนยุคไป400กว่าปีในสมัยอยุธยา” ได้ชนิดที่เรียกว่าเป็นไอเดียสุดล้ำตอกย้ำคำพูดที่ว่า “ผีไทยก็ไม่แพ้ชาติใดในโลก” สำหรับตัวคาแรคเตอร์เอกของ “ผีห่าอโยธยา” ภาพยนตร์ผีแอ็คชั่น-สยองขวัญ เลือดสาดย้อนยุค ที่กลั่นจากมันสมองและสองมือในการเขียนบทและกำกับภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของ คุณชายอดัมหรือ ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล และทันทีที่ เหล่าฝูงผีห่าที่ลุกฟื้นคืนชีพ ปรากฎร่างออกไล่ล่ากัดกลืนกิน ขย้ำคอผู้คน ไปตามสถานที่ต่างๆ ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นแหล่งชุมชน,โรงภาพยนตร์, อีเวนท์ นำไปสู่ปรากฎการณ์พร้อมเสียงตอบรับที่เรียกได้ว่าเกิดเป็นกระแสฮือฮาขึ้นทันที เมื่อผู้คนทั้งหลายได้เผชิญหน้า กลับถูกอกถูกใจ ที่ได้พบและสัมผัสตัวผีห่าอย่างใกล้ชิด เกิดเป็นกระแสที่ทุกคน “เซลฟี่ ผีห่า ทั้งขอแชะ แอนด์แชร์รูป” ผีห่าไปตามๆ กัน จนเกิดเป็นสีสันสนุกๆ ที่กำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังโลกของโซเชี่ยลเน็ทเวิร์ค งานนี้รู้สึกว่ากระแสผีห่าจะได้เสียงตอบรับดีเกินคาด ลุกลามจากพี่น้องคนไทยไปจนถึงชาวต่างชาติ ก็ยังขออินกับกระแสขอแชะภาพผีห่า กันอย่างใกล้ชิดสุดๆ ประมาณหายใจรดต้นคอ เผชิญหน้าตาต่อตาฟันต่อฟัน
งานนี้เรียกได้ว่าทุกชาติทุกเผ่าพันธุ์พร้อมเล่นใหญ่ทั้งผวาและเอ็นจอยแอ็คติ้งแบบจัดเต็มกับ “ผีห่าที่มาในลุคส์ผีซอมบี้แบบไทยๆ แต่งกายในชุดสมัยอโยธยาที่ฆ่าไม่ตายทั้งๆ ที่สะอิดสะเอียไปกับแผลผุผอง ตามร่างกายที่เห็นแล้วสยอง จ้องหน้ามีขนลุกขนชัน ตามเนื้อตัวเต็มไปด้วยบาดแผล และเส้นเลือดปูดโปน” ก็ไม่มียอมกัน
14 พฤษภาคม จะอยู่อย่างไร้ลมหายใจ หรือตายทั้งเป็นในร่างผีห่า เตรียมพบกับอุบัติ “ ผีห่าอโยธยา” พร้อมกัดกินผู้คนทุกโรงภาพยนตร์
-
MV. ไม่ว่าเมื่อไหร่ Eternity – เพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง “ผีห่าอโยธยา”

Mv.ไม่ว่าเมื่อไหร่ Eternity - เพลงประกอบภาพยนตร์ ผีห่าอโยธยา [Official Mv]
ปีพุทธศักราช 2108 โรคห่าได้แพร่ระบาดไปทั่วอโยธยา
ศพคนตายกลับฟื้นคืนชีพเป็นผีห่า ไล่ล่ากัดกินผู้คนอย่างสยดสยอง
พวกเขาจึงต้องลุกขึ้นสู้ ก่อนความตายจะยึดแผ่นดิน
'ผีห่าอโยธยา' 14 พฤษภาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์
เพลง ไม่ว่าเมื่อไหร่ eternity
เพลงประกอบภาพยนตร์ ผีห่าอโยธยา
ศิลปิน : จีน กษิดิศ
เนื้อร้อง : ชยานนท์ เครือเอี่ยม , บัญชา เธียรกฤตย์
ทำนอง : ชยานนท์ เครือเอี่ยม , บัญชา เธียรกฤตย์
เรียบเรียง : บัญชา เธียรกฤตย์
-
สาวๆ เตรียมฟิน หนุ่มเต้ย-พงศกร นำทีมนักแสดง ผีห่าอโยธยา ปั๊มอกเป็นว่าเล่นทั้งฟิตแอนด์เฟิร์มพร้อมลุย

แม้ว่าหนัง “ผีห่าอโยธยา” เรื่องราวส่วนใหญ่จะเกิดในเวลาพลบค่ำ-ย่ำรุ่งสาง แต่จากภาพเบื้องหลังที่ฟ้องอยู่นี้ บอกให้รู้ว่าการที่ตัวหนังได้เหล่านักแสดงหนุ่มสาวคนรุ่นใหม่มาถ่ายทอด 7 ตัวละครหลัก ที่กลายเป็นกลุ่มผู้รอดตายสุดท้าย ซึ่งต้องมาร่วมฟันฝ่าผ่าอุบัติผีห่าศพฟื้นมีชีวิตขึ้นมากัดกลืนกินผู้คนด้วยแล้ว ทำให้ภาพชินตาของเหล่านักแสดง และทีมงานในกองถ่ายทำ “ผีห่าอโยธยา” ที่ย้อนยุคอดีตกาลกลับไปยังสมัยอโยธยากว่า 400 ปี อย่าง 3 นางเอกสาว แคท ซอนญ่า สิงหะ,แม็กกี้ อาภา ภาวิไล,โซดา-วีรี ละดาพันธ์ นุ่งโจงกระเบนคาดอกด้วยผ้าแถบ หรือ แต๊บ เอเอฟ 5 -ธนพล มหธร ,คาน-คานธี วสุวิชย์กิต นักแสดงหนุ่มสายละครเวทีที่ขึ้นจอใหญ่แบบเต็มๆ ตัวเป็นครั้งแรก และรุ่นใหญ่มากฝีมือนักแสดงคู่บุญของ คุณชายอดัม ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล อย่าง หนึ่ง ชลัฎ ณ สงขลา ต้องลุกขึ้นมาจับดาบสับบั่นหั่นคอผีห่าข้ามคืนแล้ว
พอมีเวลาว่าง ช่วงจัดแสงเปลี่ยนมุมกล้อง หรือรอเข้าฉาก ก็จะได้เห็นเหล่านักแสดงทั้ง เต้ย พงศกร เมตตาริกานนท์ พระเอกสุดฮอตหุ่นเป๊ะจากบางระจัน เปลือย อุ๊บส์ แต่งตัวย้อนยุคเข้าฉาก (อย่างที่เห็น) งานนี้สาวๆ เตรียมฟินกันได้ เพราะพระเอกเราทั้งฟิตแอนด์เฟิร์ม ปั้มอกเป็นว่าเล่น พร้อมกับนักร้องหนุ่มอารมณ์ดีอย่าง แต๊บ เอเอฟ 5 เพราะในเรื่องต้องหนี และเผชิญหน้ารับมือเอาชีวิตตัวเองให้รอดจากฝูงผีห่าตลอดทั้งเรื่อง ก็ต้องเหนื่อย หอบ ล้า เพื่อความสมจริงก็เลยต้องมีการลุกขึ้นวอร์มอัพเรียกเหงื่อซะหน่อย ซึ่งรวมไปถึงเหล่านักแสดงคนอื่นๆ เช่นกันทั้งสาวสวนหุ่นดีอย่างน้อง แคท ซอนญ่า ที่ก็ลุกขึ้นมา ชกลม วิดพื้น หรือแม้แต่ แม็กกี้ ที่ทั้งกระโดดตบ วิ่งรอบโบสถ์กันทีเดียว ไม่เว้นแม้แต่นักดาบหนุ่มอดีตหัวหมู่ทะลวงฟันแห่งกองทัพอโยธยาที่รับบทโดย คานธี หรือหญิงแกร่งช่างตีดาบสาวในภาพยนตร์อย่าง โซดา ที่ซ้อมเหวี่ยงค้อนตลอดทั้งคืน เพราะต้องมีฉากไฮไลท์ทุบหัวผีห่าเลือดกระจาย
และนี่เป็นเพียงบรรยากาศเบาๆ แค่บางส่วนที่เกิดขึ้นตลอดการถ่ายทำ “ผีห่าอโยธยา” ที่เรียกได้ว่าทุ่มเทพลังกายพลังใจกันอย่างถึงขีดสุดของเหล่าบรรดานักแสดงรุ่นใหม่มากพลังที่ตั้งใจเกินร้อย เพื่อให้ผลงานภาพยนตร์ออกมาดีที่สุดให้คุ้มค่ากับที่แฟนๆ ตั้งใจรอชม เตรียมพบกับอุบัติความมันส์เลือดสาดของหนังผีย้อนยุคแนวใหม่ได้ใน “ผีห่าอโยธยา” 14 พ.ค. นี้ทุกโรงภาพยนตร์
-
ผีห่า ออกขย้ำกลางงานปาร์ตี้เปิดตัวหนังรอบปฐมทัศน์ สะใจผู้ชมกลุ่มแรกในโลก แหวก แปลก มันส์ครบรส




จัดหนักความเข้มข้นแอ็คชั่นมันส์สยองเลือดสาด ที่ผสมผสานไอเดียความแปลกแหวกแนว ระหว่างหนังผีกับโรคห่า ภายใต้ฉากหลังที่ย้อนยุคกลับไป 400 กว่าปี ก่อนกรุงศรีอยุธยาจะแตก คุณชายอดัม ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล ผู้กำกับ และทีมนักแสดง “ผีห่าอโยธยา” กับภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของ สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล และฟุ๊คดุ๊ค ฟิล์ม ที่จัดฉายรอบปฐมทัศน์ให้กับสื่อมวลชน แขกผู้มีเกียรติกลุ่มแรกในโลก ได้สัมผัสถึงทุกอรรถรสในภาพยนตร์ที่ถูกอกถูกใจคอหนังผี-แอ็คชั่นอย่างแน่นอน งานนี้หลายคนยังลุ้นไปกับความพยายามเอาตัวรอดของแต่ละตัวละคร จากวิกฤติผีห่ากัดกลืนกินผู้คนทั่วทั้งหมู่บ้านกัน ชนิดที่ว่าเกิดอาการนั่งเกร็งหลังไม่ติดเบาะกันไปตามๆ กัน!!!
การเปิดตัวภาพยนตร์ที่แหวก แปลกกับคอนเซ็ปท์ “ปาร์ตี้ผีห่า” ที่เหล่าแขกผู้มีเกียรติจะได้กับเซลฟี่ใกล้ชิดห้อมล้อมไปด้วยฝูงผีห่า ที่หลุดออกมาจากสมัยอโยธยา พร้อมเก็บบันทึกความสยองชวนขนลุกกับผีห่าที่กำลังจะขย้ำคอ ผ่านรูปภาพจาก กล้องฟูจิ INSTAX กลับบ้านไปด้วย ยังมีมิวสิคปาร์ตี้สุดพิเศษจาก จีน กษิดิศ ที่จัดเต็มกับโชว์เสียงร้องเพราะๆ ในซาวน์ 80 มาร้องสดๆ ให้ฟังโดยมีไฮไลท์อยู่ที่บทเพลง “ไม่ว่าเมื่อไหร่” ที่แต่งขึ้นมาเพื่อประกอบภาพยนตร์ “ผีห่าอโยธยา” กับโชว์พิเศษที่ตั้งใจดีไซน์ขึ้นโดยเฉพาะหลังจากนั้นเหล่านักแสดงนำทั้ง 7 คน ทั้ง เต้ย-พงศกร เมตตาริกานนท์, แคท-ซอนญ่า สิงหะ, แม็กกี้- อาภา ภาวิไล, แต๊บ-ธนพล มหธร, โซดา-วีรี ละดาพันธ์, คาน-คานธี วสุวิชย์กิต, หนึ่ง-ชลัฎ ณ สงขลาและคุณชายอดัม ผู้กำกับ ขึ้นพูดคุยถึงบทบาท และประสบการณ์ที่ได้รับ และเสียงตอบรับถึงตัวผีห่าที่อยู่ในกระแสความสนใจของผู้ชมอยู่ในขณะนี้
ก่อนที่ทั้งหมดจะร่วมถ่ายรูปรวม โดยได้รับเกียรติจาก ท่านมุ้ย หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล, หม่อมกมลา ยุคล ณ อยุธยา, หม่อมราชวงศ์ ศรีคำรุ้ง ยุคล รัตตกุล, คุณเตือนใจ เตชะรัตนประเสริฐ รองประธานกรรมการบริษัทสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และพลตรี พชร รัตตกุล, พลอยพิชชา พิภพวรไชย ผู้ควบคุมงานสร้าง รวมถึงนักแสดงรับเชิญอย่าง ชาติ อรรถจินดา, แนน ปรางค์วลัย งานนี้เรียกได้ว่าได้รับความสนใจจากบรรดาผู้คนในวงการต่างมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง รวมไปถึงเหล่าผู้กำกับชั้นแนวหน้าของเมืองไทยอาทิ ปรัชญา ปิ่นแก้ว,บัณฑิต ทองดี, พิง ลำพระเพลิง, ภาคภูมิ วงศ์จินดา รวมไปถึงนักแสดงและเซเลปในวงการที่มาร่วมให้กำลังใจอาทิ เกรซ มหาดำรงค์กุล, นาวาอากาศโทจงเจต วัชรานันท์
เตรียมตัวร่วมฟันฝ่าไปกับอุบัติผีห่าที่พร้อมจะกัดกลืนกินทุกคนได้แล้ว
14 พ.ค.นี้ ผีห่าอโยธยา ทุกโรงภาพยนตร์
-
“อุบัติผีห่าบุกขย้ำไล่ล่าผู้คนทั่วทั้งกรุง” จากกลางสี่แยกราชประสงค์ทะลุห้างดังจนถึงโรงภาพยนตร์ กระแสเซลฟี่ผีห่าแรง ไทย-เทศร่วมแชะแอนด์แชร์กันทั้งกรุง


เรียกได้ว่าเป็นที่กล่าวถึงกันไปทั่วบ้านทั่วเมืองจนเกิดเป็น “กระแสทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์” สำหรับ “ผีห่าจากอโยธยา” ที่หลุดมาจากสมัยอโยธยาราว 400 กว่าปีก่อน ผีร้ายที่เกิดจากอุบัติโรคห่า กัดกลืนกินเปลี่ยนศพไร้วิญญาณ ให้มีชีวิตฟื้นขึ้นมา ไล่กัดกินผู้คนในรูปลักษณ์ของชาวบ้านทั้งชาย และหญิง ห่มสไบ คาดผ้าแถบ นุ่งโจงกระเบน เนื้อตัวเหวอะหวะเต็มไปด้วยบาดแผลพุผอง ตาโตเบิกโพลง จ้องจะเขมือบขย้ำคอผู้คนตลอดเวลา ที่ออกมาอาละวาดไล่ล่าผู้คนไปตามสถานที่ต่างๆ ทั่วกรุงเทพอยู่ในขณะนี้
โดยเฉพาะกลางเมืองที่รวบรวมไปด้วยผู้คนทั้ง กลางสี่แยกราชประสงค์ สยามสแควร์ ชิดลม จะพบเห็นว่าตอนนี้กลุ่มผีห่า ได้ออกเดินเปะปะปนไปกับผู้คนยามกลางวันแสกๆ แม้แต่แหล่งชอปปิ้งยอดนิยมของชาวกรุงและคนต่างชาติอย่าง สวนจตุจักร ฝูงผีห่าชายหญิงก็บุกถล่มสร้างความหวาดผวา บุกจู่โจมแก่ผู้คนทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ เป้าหมายหลักคือผู้คนทุกเพศทุกวัย วัยรุ่น นักท่องเที่ยว หนุ่มสาวชาวออฟฟิศ ล้วนตกเป็นเหยื่อจนเกิดป็น “อุบัติผีห่าบุกขย้ำไล่ล่าผู้คนทั่วทั้งกรุง” ขยายอาณาเขตบุกเข้าสู่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำใจกลางเมือง ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซ่าลาดพร้าว,เซ็นทรัลพลาซ่าพระราม 2, เซ็นจูรี่เดอะมูฟวี่พลาซ่า พร้อมขย้ำผู้คนในโรงภาพยนตร์ พารากอนซีนีเพล็กซ์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน, โรงภาพยนตร์เอสเอฟเวิลด์ซีเนม่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ฯลฯ
จนเกิดเป็นอุบัติผีห่าสร้างปรากฎการณ์เหนือความคาดหมายเมื่อคนไทย และชาวต่างชาติลุกขึ้นมาให้การตอบรับฝูงผีห่าร่วม ''เซลฟี่กับผีห่าสร้างสีสันแชร์รูปไป ในสังคมออนไลน์ กันอย่างสนุกสนาน เรียกได้ว่าจัดเต็มทั้งผี และคนแอ็คติ้งกันอย่างหนำใจ จนเกิดเป็นไลฟ์สไตล์ที่กำลังอินของผู้คนชาวกรุงกันอยู่ในขณะนี้ต้อนรับการเข้าฉายของ “ผีห่าอโยธยา” หนังผีไอเดียล้ำ ที่หลายๆ เสียงที่ได้ชมแล้วต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ผีไทยไม่แพ้ผีชาติใดในโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผีไทย ยังไงก็น่ากลัวที่สุด ไปร่วมลุ้นและเอาใจช่วยว่า ใครจะรอดใครจะตาย และใครจะเป็นผีห่าคนต่อไปได้แล้ววันนี้กับ “ผีห่าอโยธยา” ทุกโรงภาพยนตร์
-
โซดา วีรีทุ่มทั้งตัว โนสแตนอิน เซ็กซี่สุดสุด บู๊สุดชีวิตแจ้งเกิดในบทอีบัวค้อนคู่คู่ปรับผีห่า

เรียกได้ว่าแจ้งเกิดกันไปเต็มๆ กับบทที่บู๊สุดชีวิต เซ็กซี่ทั้งตัว เผยให้เห็นถึงสปิริทในการทุ่มเทหยาดเหงื่อ พลังกายพลังใจในการแสดงชนิดที่ว่า ได้ใจทีมงาน เพื่อนนักแสดงทั้งกองโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้กำกับคุณชายอดัม ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล ที่เลือก โซดา-วีรี ละดาพันธุ์เองกับมือเพื่อให้มารับบท อีบัว นักสู้หญิงแกร่ง สวย เอ็กซ์ เซ็กซี่ ช่างตีดาบประจำหมู่บ้านในสมัยอโยธยา ผู้มีอาวุธคือค้อนคู่ประจำตัวออกไล่ล่าทุบหัวผีห่าตัวแล้วตัวเล่า พูดได้ว่านี่คือตัวละครในแบบฉบับของ femme fatale?หญิงแกร่งที่มีความมั่นใจในตัวเองยืนหยัดต่อสู้ได้ด้วยสองมือและลำแข้งของตัวเองไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าชายอกสามศอก
?“จำไม่ได้ว่าฟันไปกี่ตัวค่ะ เพราะมันเยอะมาก จำได้แค่ เลือดกระฉูด คอขาด กระดูกโผล่ ตัวขาด อะไรจำพวกนั้น 555 กับบทที่ได้รับนี่ต้องบอกเลยค่ะว่าผู้กำกับจัดเต็มมากๆ เพราะอย่างที่บอกว่าบทบัวนี่สุดทุกทางจริงๆ บู๊สุด โดนข่มเหงบ้าง เซ็กซี่บ้าง ยังมีในเรื่องของอารมณ์อีกด้วย ยอมรับว่าตอนแรกท้อมากๆ รู้แค่ว่าได้เล่นหนังแต่ไม่เคยคิดว่าจะต้องเจอกับอะไร เรียนการแสดงเรียนฟันดาบ แถมยังต้องฟิตเนสอาทิตย์ละ 5 วัน ฟันดาบเสร็จกลับมาเข้ายิม คือบางครั้งมันปวดทรมานมากจนร้องไห้ไปเลย 555 แต่ดีใจผ่านมันมาได้ค่ะ ซิทอัพทุกวันๆ ละ 100 ครั้งเลยค่ะ กว่าจะได้แพ็คหน้าท้องแบนเรียบแบบนั้น เพราะว่าชุดที่เราต้องใส่เป็นหนังพีเรียดก็ต้องเป็นผ้าแถบ แล้วผู้กำกับต้องการความสมจริง ในเรื่องที่เห็น เป็นโซดาทุกฉาก ทุกตอนค่ะ ไม่มีสแตนอินเลย....... ผู้กำกับต้องการผู้หญิงที่ดูแล้วเซ็กซี่ แต่ในขณะเดี๋ยวกันก็ต้องแข็งแรงด้วยก็ประมาณว่าโชคดีเราเป็นคนมีหน้าอกอยู่แล้ว?จำได้ว่าโปรดิวเซอร์เป็นคนแคสเองเลย เขาอยากได้ความสมจริง อันนี้ก็ต้องบอกว่าแม่ให้มาเลยค่ะ
แต่ถึงกระนั้นเมื่อมีโอกาสได้เห็นผลงานตัวเองในจอภาพยนตร์แล้ว ความเหนื่อย ความท้อก็หายเป็นปลิดทิ้งเมื่อเสียงตอบรับที่ได้กลับมาล้วนเป็นความชื่นชม แต่อาจเขินสักหน่อยเมื่อพูดถึงความเซ็กซี่
เสียงตอบรับค่อนข้างดีนะคะ สำหรับตัวโซดาเอง เป็นการเริ่มต้นที่เราไม่คิดว่าจะได้รับอะไรกลับมาขนาดนี้ แน่นอนว่าข้อบกพร่องข้อเสียมันก็มี ซึ่งเราก็น้อมรับหมดทุกอย่าง เขินมากกก?มันบอกไม่ถูกค่ะ เคยแต่นั่งดูหนังมีนักแสดงที่เราชอบอยู่ในนั้น พอเป็นตัวเองแล้วมันเขินยังไงบอกไม่ถูก..ยิ่งพอฉากที่ต้องเซ็กซี่แล้วดูตัวเองนี่ถึงกับหน้าแดงเลย555??
ทุ่มสุดตัวขนาดนี้ แถมยังเป็นนักแสดงรุ่นใหม่ที่ทั้งสวย กล้าและสปิริทแรงยังไงก็ไปร่วมให้กำลังใจกับโซดา วีรี ละดาพันธุ์กับ ผีห่าอโยธยา อีกรสชาติใหม่ของหนังผีไทยกันได้แล้ววันนี้ทุกโรงภาพยนตร์