CLOUD ATLAS

จัดจำหน่ายโดย เอ็ม พิคเจอร์ส
ชื่อภาษาไทย คลาวด์ แอตลาส หยุดโลกข้ามเวลา
ภาพยนตร์แนว ไซไฟ
จากประเทศ สหรัฐอเมริกา
กำหนดฉาย 29 พฤศจิกายน 2555
ณ โรงภาพยนตร์ ทุกโรงภาพยนตร์
ผู้กำกับ Tom Tykwer (ทอม ไทเควอร์)
Andy Wachowski (แอนดี้ วาโชว์สกี้)
Lana Wachowski (ลานา วาโชว์สกี้)
อำนวยการสร้าง Stefan Arndt (สเตฟาน อาร์นด์)
นักแสดง Tom Hanks (ทอม แฮงค์) จาก Philadelphia , Forrest Gump , The Davinci Code , Cast Away , Angels & Demons , The Terminal
Halle Berry (ฮัลลี เบอร์รี) จาก Monster’s Ball , X-Man : The Last Stand , Die Another day , Catwoman
Jim Sturgess (จิม สเตอร์เกส) จาก One Day , The Way Back, Across the Universe
Jim Bruadbent (จิม บรอดเบนท์) จาก Moulin Rouge , Gang of New York , Harry
Potter amd the Half Blood Prince
Susan Sarandon (ซูซาน ซาแรนดอน) จาก Dead Man Walking,The Client,The
Rocky Horror Pictures , Thelma & Louise Show
Hugh Grant (ฮิวจ์ แกรนท์) จาก Nothing Hill , Music and Lyrics , About a Boy , Love Actually
Hugo Weaving (ฮิวโก้ วีฟวิง) จาก The Matrix , Captain America : The First Avenger , The Lord of the ring
Doona Bae (ดูนา เบย์) จาก The Host , Sympathy for Mr.Vengeance
จุดเด่น
ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่รวบรวมเอานักแสดงระดับแม่เหล็กของแวดวงฮอลลีวู้ดไว้มากที่สุดมาร่วมสร้างสีสัน นำโดย นักแสดงเจ้าของรางวัลอคาเดมี อวอร์ด ทอม แฮงค์” จากภาพยนตร์เรื่อง Philadelphia และ Forrest Gump ,“ฮัลลี เบอร์รี” จากภาพยนตร์เรื่อง Monster’s Ball ,“จิม บรอดเบนท์” นักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์ จากภาพยนตร์เรื่อง Iris , “ซูซาน ซาแรนดอน” เจ้าของรางวัลออสการ์จากภาพยตร์เรื่อง Dead Man Walking ร่วมด้วยฮิวโก้ วีฟวิง, จิม สเตอร์เกส, ดูนา เบย์, เบน วิชอว์, เจมส์ ดิ อาร์ซี, โจว ชุน, คีธ เดวิดและเดวิด เจซี , ฮิวจ์ แกรนท์ ซึ่งนักแสดงแต่ละคนต่างก็ได้สวมหลายบทบาทขณะที่เรื่องราวเคลื่อนตัวผ่านกาลเวลา
ภาพยนตร์เรื่องนี้เขียนบทและกำกับโดยลานา วาโชว์สกี้, ทอม ไทเควอร์และแอนดี้ วาโชว์สกี้ ก่อนหน้านี้ พี่น้องวาโชว์สกี้เคยร่วมงานกันในฐานะมือเขียนบท/ผู้กำกับไตรภาคแหวกแนว “Matrix” ซึ่งรวมแล้วทำรายได้ไป 1.6 พันล้านเหรียญในบ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลก ส่วน ทอม ไทเควอร์ ได้รับรางวัลอินดีเพนเดนท์ สปิริต อวอร์ดและได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลบาฟตา อวอร์ดในฐานะผู้กำกับ/มือเขียนบทภาพยนตร์เรื่อง “Run Lola Run” และล่าสุด เขาก็เพิ่งกำกับทริลเลอร์รางวัลเรื่อง “Perfume: The Story of a Murderer”
เรื่องย่อ
“Cloud Atlas” สร้างขึ้นจากนิยาย best seller ที่เขียนโดย David Mitchell (เดวิด มิทเชล) โดยเนื้อหาของภาพยนตร์เรื่องนี้ได้บอกเล่าเรื่องราวการกระทำของมนุษย์ที่จะส่งผลต่อชีวิตใหม่ ที่ไม่มีใครกล้าปฏิเสธความเป็นไปที่ผ่านมาในครั้งอดีตจนถึงปัจจุบันและส่งผลถึงโลกอนาคต ด้วยปริศนาความลับเมื่อครั้งอดีตที่ข้ามผ่านห้วงแห่งศตวรรษของมนุษยชาติ โดยเรื่องราวที่ร้อยเรียงสอดคล้องกันด้วยความสมบูรณ์ที่สุดผ่าน 6 เรื่อง ราวในหลายศตวรรษทั่วทุกทวีป เริ่มต้นขึ้นในปี คศ. 1849 การเดินทางท่องมหาสมุทรของ อดัม เอวิ่ง (ศตวรรษที่19 , มหาสมุทรแปซิฟิก) , คศ. 1936 จดหมายรักจาก โฟรบิเชอร์ , คศ. 1973 ครึ่งชีวิต : เรื่องราวอันลึกลับของ หลุยซ่า เรย์ , คศ. 2012 ประสบการณ์หฤโหดของ ทิโมธี คาเวนดิช , คศ. 2144 การภาวนาสู่การปฏิวัติของ ซอนมี451 จวบจนปี คศ. 2346 การก้าวข้ามผ่านของ แซ็ครี และทั้งหมดคือเรื่องราวเดียวกันที่มีสาเหตุและผลลัพธ์ที่มาเกี่ยวโยงกันในทุกช่วงเวลา ซึ่ง “Cloud Atlas” จะเผยให้เห็นถึงความลับของเส้นทางคู่ขนานหกเส้นอย่างชัดเจน
“Everything is connected”
บทสัมภาษณ์นักแสดงนำ “ทอม แฮงค์ vs ฮัลลี่ เบอร์รี่”
Q : ประสบการณ์การถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นอย่างไรบ้าง เมื่อพิจารณาถึงความซับซ้อนของสิ่งที่ทุกคนต้องทำ ไม่ว่าจะเป็นการนำตัวเองเข้าไปอยู่ในโลกหลากมิตินี้ และการมีส่วนร่วมกับการเล่าเรื่องผ่านบทต่างๆ…
Tom Hanks : ตอนที่ผมได้ยินว่าพวกเขาจะสร้างหนังบล็อกบัสเตอร์เยอรมันที่เขียนบทในคอสตา ริก้า ผมก็บอกเลยว่า “ผมเอาด้วย!” เพราะผมไม่เคยได้ยินวิธีการแบบสหประชาชาติในการสร้างหนังมาก่อน (หัวเราะ) หนังเรื่องนี้เป็นเหมือนภาพที่เป็นจริงของวิสัยทัศน์ที่พวกเขานำเสนอให้กับเราตั้งแต่เริ่มต้น พวกเขาได้ตั้งเป้าหมายไว้กับวรรณกรรมที่มีความเป็นหนังเรื่องนี้ และสิ่งที่เราต้องทำก็มีเพียงอ่านแบบพิมพ์เขียวเพื่อดูว่าเราต้องทำอะไรบ้าง ผมบอกว่า ‘มันฟังดูเหมือนทุกสิ่งทุกอย่างของการแสดงหนังเลย มันจะต้องสนุกสุดๆ แล้วเราก็ได้ไปที่เจ๋งๆ หลายที่ด้วย ซึ่งหลายครั้งมันก็คงจะเป็นงานหนักมากๆ และเราก็จะต้องผ่านขีดจำกัดทางด้านอารมณ์เพื่อไปถึงช่วงเวลาที่ถูกเน้นย้ำทั้งในหนังสือและบทภาพยนตร์” ผมกระโจนเข้าใส่โอกาสนี้ทันทีครับ
Q: แล้วคุณล่ะฮัลลี การทำงานในภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่มีผู้กำกับสามคน และต้องรับบทตัวละครหลายตัวในหลายช่วงเวลาเป็นอย่างไรบ้าง
Halle Berry : อย่างแรกเลย ฉันรู้สึกซาบซึ้งมากที่พวกเขานึกถึงฉัน ฉันก็เลยตอบตกลงทันที และสิ่งที่ฉันได้รับจากประสบการณ์ครั้งนี้คือคนพูดกับฉันว่า “คุณถูกกำกับโดยผู้กำกับสามคน! คุณต้องบ้าแน่ๆ ที่รับบทตัวละครทั้งหมดนี้” แต่ฉันก็เห็นด้วยกับสิ่งที่ทอมพูดค่ะ และสิ่งที่สวยงามเกี่ยวกับเรื่องนี้คือลานาและแอนดี้พูดราวกับเป็นคนๆ เดียวกัน พวกเขาต่อประโยคของกันและกัน พวกเขาคิดอ่านแบบเดียวกัน พวกเขาคุยกันเรื่องนี้มานานมากจนวิสัยทัศน์ของพวกเขาชัดเจนและมันก็ทำให้เกิดความรู้สึกปลอดภัยตามมาค่ะ ฉันคงจะพยายามลองทำทุกอย่างที่พวกเขาบอกเพราะฉันคิดว่า “ถ้าฉันไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ พวกเขาก็คงคิดไว้แล้ว ซึ่งมันน่าจะเวิร์คนะ” ดังนั้น มันก็เลยมีความรู้สึกปลอดภัยค่ะ ส่วนทอมก็เหมือนกัน ฉันรู้สึกปลอดภัยและสบายใจเมื่ออยู่กับเขา แล้วฉันก็มีความสุขค่ะ เขามีความสุขที่ได้เจอฉันทุกวัน ซึ่งฉันก็ยินดีกับเรื่องนั้น (หัวเราะ) มันเป็นประสบการณ์ที่สนุกจริงๆ และฉันก็คิดว่าทุกคนในหนังเรื่องนี้ตั้งแต่ระดับล่างสุดไปจนถึงบนสุด ก็จะพูดแบบนั้น แม้ว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นหนังฟอร์มใหญ่ ที่มีงานหนักอึ้งมากมาย แม้แต่สำหรับทอม, ลานาและแอนดี้ แต่พวกเขาก็ไม่เคยปล่อยให้มันมาเป็นอุปสรรคของเราเลย ฉันคิดว่าเราทุกคนต่างก็ได้รับประสบการณ์ด้านการแสดงที่ดีค่ะ
Q : มีบทพูดหนึ่งที่คุณพูดเป็นภาษาสเปน ที่มันน่าทึ่งมาก ซึ่งเราคิดว่าภาษาสเปนของคุณเยี่ยมมาก คุณทำได้ยังไงน่ะ เราคิดว่ามันน่าจะเป็นรายละเอียดที่สำคัญสำหรับคุณใช่มั้ย
Halle Berry : แหม ขอบคุณค่ะ! ฉันได้ฝึกกับโค้ชสำเนียงชื่อเพ็กกี้ ฮอล-พลีแซสค่ะ และฉันก็จริงจังมากๆ ฉันอยากให้คนที่พูดภาษาสเปนในโลกนี้บอกว่าฉันพูดเก่งน่ะค่ะ (หัวเราะ) มันเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับบทพูดตอนนั้น ซึ่งฉันจะไม่มีวันลืมเลยจนวันตาย ฉันท่องบทพูดตรงนั้นซ้ำไปซ้ำมา ฉันสอนบทพูดนั้นให้ลูกสาวฉันไปเรียบร้อยแล้วด้วย มันเป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ฉันคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญถ้าเราจะบอกเป็นนัยๆถึงรากเหง้าของตัวละครตัวนั้น การสามารถใส่รายละเอียดแบบนั้นเข้าไปในเวลาที่สำคัญจริงๆ ฉันคิดว่ารายละเอียดเล็กๆน้อยๆนั้นแหละที่ช่วยเสริมสร้างความสมจริงให้กับตัวละคร ฉันอยากจะใช้สำเนียงนี้ตลอดเลยแต่บอสบอกว่าอย่าเลยน่ะค่ะ (หัวเราะ)
Q : คุณมีตัวละครตัวโปรดไหม ที่คุณหลงใหลเป็นพิเศษน่ะ
Halle Berry : ฉันคงต้องบอกว่ามันน่าจะเป็นบทผู้หญิงผิวขาวเยอรมันชาวยิวน่ะค่ะ ตอนนั้นฉันกำลังลองชุดอยู่ ฉันจำได้ว่าทอมพูดกับฉัน ในตอนที่ฉันลองสวมชุดสวยๆ พวกนั้น และพยายามนึกว่าชุดไหนที่จะดูดีที่สุดสำหรับบทนี้ ทอมบอกฉันว่า “คุณเคยแสดงหนังพีเรียดมั้ย” ซึ่งฉันก็ตอบอย่างลังเลว่า “ก็เคยค่ะ” เขาถามว่า “คุณเคยสวมเสื้อผ้าแบบนี้ในหนังเรื่องอื่นมั้ย” ฉักน็ตอบว่า “ทอม ลองนึกดูก่อนนะ” แล้วพอเขานึกจริงๆ มันก็เป็นช่วงเวลาที่อึดอัด แต่เราก็หัวเราะกันเรื่องนี้ในตอนหลัง (หัวเราะ) ถ้าฉันได้แสดงในช่วงเวลานั้น ฉันอาจจะเป็นทาสหรืออะไรที่ใกล้เคียงนั้น และไม่ได้สวมชุดสวยๆ แบบนี้ ดังนั้น สำหรับเราแล้ว มันเป็นช่วงเวลาที่หนักอึ้ง แต่เราก็หาทางที่จะหัวเราะกับมัน และฉันก็คิดว่า “เยี่ยมเลย นั่นเป็นสาเหตุให้ฉันมาทำงานนี้ เพราะฉันจะได้สวมบทบางอย่างที่ฉันไม่มีโอกาสได้ทำในชีวิตจริง ฉันจะไม่มีวันได้แต่งตัวแบบนั้น และเป็นตัวละครแบบนั้น ถ้าฉันเป็นตัวฉันจริงๆ” ดังนั้น การที่ฉันได้ทำอะไรแบบนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างมากต่อฉันในฐานะนักแสดงค่ะ สำหรับฉัน Cloud Atlas เป็นภาพยนตร์ที่ผู้ชมจะได้ข้อคิดอะไรมากมายจากมัน และก็จะได้อะไรมากกว่านั้นอีกในการดูครั้งที่สองและสามน่ะค่ะ…
ผมคิดว่ามันเป็นการผสมผสานที่สมบูรณ์แบบของนิยายโดยเดวิด มิทเชลและพลังแห่งโลกภาพยนตร์ของทอม ไทเควอร์, แอนดี้ วาโชว์สกี้และลานา วาโชว์สกี้ ผมคิดว่า ถ้าคุณจะมีคำอธิบายถึงประเภทของหนังแบบนี้ มันไม่ใช่หนังหกเรื่องที่แตกต่างกัน มันไม่ใช่หนังสองเรื่องที่แตกต่างกันด้วยซ้ำ แต่มันเป็นตัวอย่างของวรรณกรรมที่มีความเป็นหนัง ที่ล้วงลึกถึงความเชื่อมโยงสัมพันธ์ของมนุษยชาติผ่านกาลเวลา และผมก็คิดว่าในตอนที่คุณอ่านไปถึงตอนจบของบทเรื่องนี้ คุณจะรู้ว่ามันเป็นเรื่องของอะไร และมันก็คุ้มค่าแล้วล่ะครับ…แค่ได้เห็นฮิวจ์ แกรนท์ในบทมนุษย์กินคนเดินไปมาในสตูดิโอระหว่างเซสชันเมคอัพน่ะครับ (หัวเราะ)