ผลงานระทึกขวัญจากสตูดิโอผู้สร้าง DISTRICT 9
40 ปี 60 ศพ เรื่องจริงสุดหฤโหดเกิดขึ้นที่นี่
กระชากแฟ้มอาชญากรของสองคู่หูต่างขั้ว
แซม เวิร์ทธิงตัน เจฟฟรีย์ ดีน มอร์แกน
3 พฤศจิกายน นี้ เฉพาะที่ SFW เซ็นทรัลเวิลด์ และ APEX สยามสแควร์
เรื่องย่อ
ณ เมืองเท็กซัส ซิตี้ มลรัฐเท็กซัส นายตำรวจหัวรั้นเจ้าถิ่น ไมค์ ซูเดอร์ (แซม เวิร์ทธิงตัน) และนักสืบไบรอัน ไฮจ์ (เจฟฟรีย์ ดีน มอร์แกน) ผู้ถูกส่งตัวมาจากนิวยอร์ค ต้องร่วมมือกันสืบสวนคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญ ที่ศพผู้เคราะห์ร้ายหลายรายถูกนำมาทิ้งในบริเวณที่รกร้างของเมืองซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ “ทุ่งสังหาร” และเมื่อลิทเทิล แอน (โคลอี้ มอเรทซ์) เด็กสาวผู้อยู่ในความดูแลของไบรอันหายตัวไป เขาจึงหวั่นใจว่าเธออาจกลายเป็นเหยื่ออีกรายที่ต้องเข้าไปอยู่ในทุ่งแห่งนั้น ไบรอันออกไปตามหาเธอ ในเวลาไล่เลี่ยกับที่ไมค์ออกไปตามหาไบรอันเช่นกัน แต่ทั้งคู่ไม่รู้เลยว่า ใครก็ตามที่เข้าไปในทุ่งสังหารแล้ว จะไม่มีวันได้กลับออกมาพร้อมกับลมหายใจอีก
ใน Texas Killing Fields ผู้กำกับ เอมี คานัน มานน์ บอกเล่าเรื่องราวนี้ผ่านตัวละครอย่างไมค์, ไบรอัน, แอน และอื่นๆ มานน์ยังทำให้สภาพภูมิทัศน์อันเวิ้งว้างห่างไกลของเท็กซัส ซิตี้ มีชีวิตและลมหายใจขึ้นมาเหมือนตัวละครตัวหนึ่ง ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำที่เมืองนิวออร์ลีนส์ ผู้กำกับ มานน์สามารถทำให้นิวออร์ลีนส์กลายเป็นเท็กซัส ซิตี้ได้ เนื่องจากทั้งสองเมืองนี้ต่างก็มีประวัติว่าเคยประสบภัยพิบัติจากพายุเฮอร์ริเคนเหมือนกัน นิวออร์ลีนส์กับพายุแคทรินา ส่วนเท็กซัส ซิตี้กับพายุริตา และไอเค เมื่อปี 2008 และที่เลวร้ายที่สุดคือพายุกัลเวสตัน ที่ทำลายล้างเมืองนี้ในปี 1900 นอกจากนี้ เท็กซัส ซิตี้ยังเป็นที่รู้จักในฐานะเมืองที่เกิดอุบัติเหตุทางอุตสาหกรรมครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเรียกขานกันว่า “หายนะเท็กซัส ซิตี้ 1947”

สนทนากับผู้กำกับ เอมี คานัน มานน์
ถ: ทำไมคุณถึงอยากทำหนังเรื่องนี้?
ต: มันคืองานที่ไมเคิล (มานน์) กับดอน (เฟอร์ราโรเน) ปลุกปั้นอยู่นานหลายปี และบทหนังก็ผ่านมือผู้กำกับมาหลายคนแล้ว สิ่งที่ทำให้ฉันสนใจอยากทำหนังเรื่องนี้คือ หลักฐานการค้นคว้าที่มาพร้อมบทหนัง มันคือบทความหนังสือพิมพ์ที่มีภาพแผนผังของบริเวณที่เกิดเหตุ ภาพเหยื่อ และจุดที่พบศพพวกเขา เราสร้างแผนผังเลียนแบบขึ้นมา ซึ่งคนดูจะเห็นมนอยู่บนผนังออฟฟิศของไบรอัน เรื่องที่ติดอยู่ในใจฉันคือ มีการพบศพเหยื่อตั้งแต่ปลายยุค 60 จนถึงปัจจุบัน นี่ไม่ใช่ฆาตกรธรรมดาคนเดียวแล้ว แต่เป็นคนจำนวนหนึ่งที่สามารถก่ออาชญากรรม แล้วขนร่างเหยื่อมาทิ้งได้ ฉันรู้สึกว่านี่อาจเป็นคำถามสำคัญของเรื่องราวที่น่าสนใจนี้ ฉันจำเป็นต้องหาข้อมูลทุกแง่มุมให้มากที่สุดเท่าที่จะหาได้ ฉันไปที่แผนกคดีฆาตกรรมของ LASD, ห้องเก็บศพ, เรือนจำแองโกลาในหลุยเซียนา และเท็กซัส ซิตี้ด้วย พวกนักแสดงอย่างแซม, เจฟฟรีย์, เจสสิกา ก็ทำแบบนี้เหมือนกัน เพราะเหตุการณ์ทุกอย่างเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง เราทุกคนจึงต้องซื่อสัตย์ต่อความจริง ด้วยการพยายามเข้าใจเรื่องราวให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
ถ: ช่วยอธิบายเทคนิคที่คุณใช้ถ่ายทอดลักษณะของตัวละครอย่างลูซีและแอน?
ต: ฉันโชคดีมากที่ได้ทีมนักแสดงที่มีพรสวรรค์และไหวพริบ พวกเขาสมควรได้รับคำชมสำหรับการรับบทของแต่ละคน ฉันคิดว่าลูซีคือสาวสวยที่ยึดมั่นอยู่กับความหวังและคำสัญญา ซึ่งเชอรีล (ลี) ก็ทำงานของเธอได้อย่างเหลือเชื่อ ในการทำให้เราเข้าใจทั้งในความเป็นผู้หญิงและความเป็นแม่ของตัวละครตัวนี้ ส่วนตัวละครแอนที่ดูเป็นผู้ใหญ่เกินตัวแต่แท้จริงก็ยังขาดความรอบคอบนั้น โคลอี้ (มอเรทซ์) ก็สามารถพาเราเข้าไปสัมผัสแก่นแท้ของบทที่เธอแสดงได้เป็นอย่างดี
ถ: คุณเคารพหรือรู้สึกเห็นใจตัวละครในเรื่องใช่ไหม?
ต: แน่นอนที่สุด ฉันเคารพและเห็นใจตัวละครทุกตัว ไม่มีใครเลวทั้งหมดหรือดีทั้งหมด ในชีวิตประจำวัน เราทุกคนต้องเลือก และพวกเขาก็มีสิทธิ์เลือก แต่คำถามคือ ทำไมพวกเขาถึงเลือกอย่างนั้น พวกเขาคิดยังไง ความรู้สึกของฉันคือคำถามเหล่านี้จะทำให้เราสร้างเรื่องราวที่น่าสนใจได้
ถ: ภูมิประเทศคือตัวละครสำคัญของ Texas Killing Fields คุณใช้มันช่วยในการเล่าเรื่องอย่างไรบ้าง
ต: ทุ่งสังหารของจริงเป็นพื้นที่กว้างใหญ่ที่อยู่นอกเท็กซัส ซิตี้ ซึ่งเป็นบริเวณที่มีการพบศพคนมากมาย สิ่งหนึ่งที่สะดุดใจฉันตอนไปดูสถานที่จริงคือ โรงทำน้ำตาลหลายแห่งที่ตั้งอยู่บริเวณนั้น ฉันคิดว่ามันดูเหมือนบ้านผีสิง มีสิ่งแปลกๆ เกิดขึ้นโดยไม่รู้สาเหตุ เราอยากรู้แต่ก็กลัว เมื่อฉันและน้องสาว อาแรน ผู้ออกแบบงานสร้าง ไปสำรวจโลเคชั่นถ่ายทำในหลุยเซียนา เราพบพื้นดินว่างเปล่าที่เต็มไปด้วยต้นไม้ไร้ใบตายซาก มันทั้งสวยและน่ากลัว มีคนบอกว่าเมื่อก่อนที่ตรงนี้เป็นป่าทึบ แต่เพราะสภาวะโลกร้อนทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูง และกินพื้นที่เข้ามาในแนวป่า จนทำให้ต้นไม้ค่อยๆ ตายไป ต้นไม้พวกนี้เปรียบเสมือนภาพสัญลักษณ์ของทุ่งสังหารนั่นเอง
ถ: ใครคือคนทำหนังที่เป็นต้นแบบของคุณ และเขาให้แรงบันดาลใจในการทำหนังเรื่องนี้อย่างไร
ต: ฉันมีต้นแบบมากมายเลย นักทำหนังหลายๆ คน และแน่นอน ยังมีดนตรี, หนังสือ, ภาพถ่าย ทั้งหมดช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ฉัน สำหรับเรื่องทุ่งสังหารเท็กซัสนี้ แรงบันดาลใจสำคัญที่สุดมาจากตัวเหยื่อและพวกนักสืบ ฉันเชื่อว่าเรื่องราวของชายที่แตกต่างกันสองคน และเด็กหญิงที่พวกเขาผูกพันด้วย จะทำให้เราสามารถบอกเล่าเรื่องราวบางอย่างได้
ถ: อะไรคือสิ่งที่คุณอยากบอกผู้ชมเมื่อพวกเขาเข้ามาดูหนังเรื่องนี้?
ต: ตั้งใจดูนะคะ
