
ชื่อภาพยนตร์: KUNG FU PANDA 2
ชื่อไทย: กังฟูแพนด้า 2
เว็บไซต์: www.kungfupanda.com
ทีมพากย์
แจ็ค แบล็ค (Jack Black) พากย์เสียง โป กังฟูแพนด้า พากย์ไทยโดย ดีเจ เชา เชา ชวลิต ศรีมั่นคงธรรม
แองเจลินา โจลี่ (Angelina Jolie) พากย์เสียง ไทเกรส พยัคฆ์เสือ
พากย์ไทยโดย แคทรียา อิงลิข
ลูซี หลิว (Lucy Liu) พากย์เสียง ไวเปอร์ อสรพิษไฟ
พากย์ไทยโดย ใหม่ สุคนธวา เกิดนิมิตร
ดัสติน ฮอฟแมน (Dustin Hoffman) พากย์เสียง ชิฟู ปรมาจารย์กังฟู
พากย์ไทยโดย ดีเจ เชา เชา เชาว์ลิต
มิเชลล์ โหยว (Michelle Yeoh) พากย์เสียง ผู้ทำนาย
พากย์ไทยโดย ท็อป ดารณีนุช โพธิปิติ
แกรี โอลด์แมน (Gary Oldman) พากย์เสียง ลอร์ดเชน
พากย์ไทยโดย ดีเจ บ็อบบี้ นิมิตร ลักษมีพงศ์
เฉินหลง (Jackie Chan) พากย์เสียง มังกี้ เจ้าวานร
เซธ โรแกน (Seth Rogen) พากย์เสียง แมนทิส ตั๊กแตนจอมต่อย
เดวิด ครอส (David Cross) พากย์เสียง เครน กระเรียนทอง
เจมส์ ฮอง (James Hong) พากย์เสียง มิสเตอร์พิง พ่อของโป
ฌอง-คล็อดด์ แวน เดมม์ (Jean-Claude Van Damme) พากย์เสียง มาสเตอร์คร็อก
วิคเตอร์ การ์เบอร์ (Victor Garber) พากย์เสียง มาสเตอร์ธันเดอริง ไรโน
เดนนิส เฮย์สเบิร์ท (Dennis Haysbert) พากย์เสียง มาสเตอร์สตอร์มมิง อ็อกซ์
แดนนี่ แม็คไบรด์ (Danny McBride) พากย์เสียง วูล์ฟ บอส
ทีมผู้สร้าง
เจนนิเฟอร์ หยู เนลสัน (Jennifer Yuh Nelson) –ผู้กำกับ
เมลิสซา ค็อบบ์ (Melissa Cobb)—ผู้อำนวยการสร้าง
โจนาธาน เอเบล และ เกลนน์ เบอร์เกอร์ (Jonathan Aibel & Glenn Berger)—บทภาพยนตร์โดย/ผู้ร่วมอำนวยการสร้าง
กังฟูแพนด้า 2 ภาคต่อสุดสนุกของแอนิเมชั่นสุดฮิต ขวัญใจแฟนๆทั่วโลก
พร้อมกลับมาทวงบัลลังก์เจ้ายุทธจักรแห่งความบันเทิงแล้ว
บัดนี้ โพได้ใช้ชีวิตในฝันในฐานะนักรบมังกร ที่คอยคุ้มครองหุบเขาสันติภาพ ร่วมกับเพื่อนพ้องและอาจารย์กังฟูทั้งห้า ซึ่งได้แก่พยัคฆ์สาว, นกกระเรียน, ตั๊กแตน, งูพิษและลิง แต่ชีวิตใหม่ของโพกลับถูกคุกคามด้วยการปรากฏตัวของวายร้ายที่น่าสะพรึงกลัว ผู้วางแผนที่จะใช้อาวุธลับในการเข้ายึดครองประเทศจีนและทำลายกังฟู เป็นหน้าที่ของโพและอาจารย์กังฟูทั้งห้าที่จะต้องเดินทางข้ามจีนแผ่นดินใหญ่เพื่อเผชิญหน้าและกำจัดภัยคุกคามนี้ แต่โพจะหยุดอาวุธที่สามารถหยุดยั้งพลังกังฟูได้ยังไงกันล่ะ เขาจะต้องมองย้อนกลับไปยังอดีตของตัวเอง เพื่อไขปริศนาที่มาอันลึกลับของตัวเอง เมื่อนั้นเขาจึงจะสามารถปลดพันธนาการพลังที่จำเป็นต่อความสำเร็จของเขาออกมาได้
พบกับทีมพากย์ไทยจัดเต็มสตรีม เรื่องความฮา ความสนุก จากภาคแรก
ดีเจ เชา เชา / แคทรียา อิงลิช / ใหม่ สุคนธวา/ รอง เค้ามูลคดี
พร้อมด้วยตัวละครใหม่ฝ่ายร้าย ดีเจ บ๊อบบี้ นิมิตร และ ท็อป ดารณีนุช
แอ็คชั่นมันส์ฮา ยิ่งกว่าเดิมหลายเท่า รับเปิดเทอมใหญ่ 26 พค.นี้ ในระบบ 3D ที่โรงภาพยนตร์

การหวนคืนสู่โลกโบราณที่งดงาม…
“ถ้ามันง่ายหรือเห็นได้ชัด มันก็ไม่อยู่ในหนังเรื่องนี้หรอก”
นั่นเป็นคำมั่นที่ปรากฏอยู่ใน “Kung Fu Panda” โดยผู้อำนวยการสร้างค็อบบ์และทีมผู้สร้างและระดับความยอดเยี่ยมนั้นก็ถูกสานต่อเมื่อการถ่ายทำซีเควลนี้เริ่มต้นขึ้น สำหรับหลายๆ คนที่เกี่ยวข้องกับทั้งสองภาค มันดูเหมือนความท้าทายที่น่าหวาดหวั่นที่ต้องพยายามทำให้เหนือกว่าความสำเร็จเชิงศิลป์ของภาคที่แล้ว
แจ็ค แบล็คให้ความเห็นว่า “ผมคิดไม่ออกเลยว่า พวกเขาจะทำยังไงให้เหนือกว่าซีเควนซ์น่าทึ่งของไต้หลุงในภาคแรก พวกมันน่าอัศจรรย์มาก แต่นั่นคือสิ่งที่เจนและทุกคนตั้งใจจะทำ และพวกเขาก็ทำได้ ไม่เพียงแต่กังฟูจะถูกยกระดับขึ้น แต่พวกฉากก็เหมือนกัน ทั้งเมือง ทิวทัศน์ ภูมิประเทศจีนโบราณที่งดงาม ฉากอาทิตย์อัสดง แถมตอนนี้ ทุกอย่างก็อยู่ใน 3D ด้วย ผมรู้ว่าผมพูดบ่อยแล้ว แต่มันเจ๋งจริงๆ นี่ มันมีภาพเจดีย์ขนาดใหญ่ที่เป็นฐานบัญชาการของลอร์ดเชน แค่ภาพเรนเดอร์มันก็สวยจับตาแล้ว แล้วผมยังต้องพูดออกมาอีกหรือ ฉากต่อสู้ ที่โปพุ่งมาทางคุณ ด้วยความเร็วปานสายฟ้าแลบ ในสองมิติ มันจะทำให้คุณทึ่ง แต่ใน 3D มันจะทำให้ครอบครัวคุณทึ่งไปด้วย ทั้งๆ ที่พวกเขาอาจไม่ได้อยู่ในโรงหนังด้วยซ้ำ”
เจนนิเฟอร์ หยู เนลสัน มองเห็นโอกาสที่จะพัฒนาภาพยนตร์เรื่องนี้มากขึ้นไปอีก “ตอนนี้ เอฟเฟ็กต์ที่เราสามารถทำได้จะล้ำสมัยกว่าเมื่อสองสามปีที่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเลเยอร์ 3D ที่เพิ่มเข้ามา เราก็เลยสามารถทำอะไรที่เราต้องการได้กับแอ็กชัน ด้วยความที่เราอยากจะสานต่อพื้นฐานจากภาคแรก และภาคแรกทุกอย่างก็เกิดขึ้นภายในขอบเขตที่ค่อนข้างปลอดภัยของหุบเขาสันติ เราก็เลยอยากผลักดันโปให้พ้นจากโซนปลอดภัยของเขาไปสู่โลเกชันที่กว้างขวางขึ้น และน่าสะพรึงกลัวมากขึ้น เราอยากจะสำรวจเรื่องนั้นและสร้างความรู้สึกของสเกลที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมา รวมไปถึงความสาหัสของความท้าทายที่โปและเจ้าตำนานผู้พิชิตทั้งห้าต้องเผชิญด้วยค่ะ”
สำหรับ แคลร์ ไนท์ มือลำดับภาพที่กลับมารับหน้าที่นี้อีกครั้ง จริงอยู่ว่า 3D เป็นความท้าทาย แต่มันก็ยังเป็นส่วนขยายที่เธอยินดีตอบรับมันด้วย “สิ่งที่ฉันพบเกี่ยวกับ 3D คือมันทำให้คนอินมากขึ้น สำหรับฉันแล้ว การลำดับภาพใน 3D ทำให้ฉันต้องดูหน้าจอมากขึ้น และผู้ชมก็จะได้เห็นอะไรเยอะขึ้น ดังนั้น ในตอนนี้ เราก็จะใช้ความระมัดระวังมากขึ้นไปอีก ตอนนี้ ฉันจะต้องดูว่าดวงตาบ่งบอกอะไรบ้างจริงๆ พอฉันดูมากเกินไป ด้วยความเร็วเกินไป ฉันก็จะเกิดอาการปวดหัวและปวดตาตามมา มันเป็นความท้าทายที่หนักกว่าค่ะ แต่ก็น่าตื่นเต้นกว่าด้วย และโลกนี้ก็งดงามมาก มันเป็นทั้งแอ็กชันและสิ่งแวดล้อมที่เหลือเชื่อ มันเป็นกระบวนการเล่าเรื่องราวที่สมบูรณ์แบบและน่าตื่นเต้นมากๆ ค่ะ”
ผู้ที่กลับมา ‘ดูแล’ ลุคของภาพยนตร์เรื่องนี้อีกครั้งคือผู้ออกแบบงานสร้างเรย์มอนด์ ซีบาค เขาพูดถึงหน้าที่ของเขาว่า “โดยพื้นฐานแล้ว ผมรับผิดชอบกับภาพทุกอย่างในหนังเรื่องนี้ ตั้งแต่การออกแบบตัวละคร การออกแบบโลเกชัน ไปจนถึงสีสันของหนังทั้งเรื่อง ทั้งแสงและอาร์ตเวิร์ค สรุปแล้วว่าผมเป็นซูเปอร์ผู้กำกับศิลป์ครับ ถ้าคำนั้นใช้ได้ล่ะก็นะ”

…ด้วยการไปเยี่ยมเมืองจีนปัจจุบัน
มีการใช้ทั้งเวลาและความทุ่มเทมากพอสมควรเพื่อสร้าง “Kung Fu Panda 2” ขึ้นในผืนผ้าใบที่กว้างขวางกว่าที่เคยเป็นเมื่อตัวละครก้าวเท้าออกจากหุบเขาสันติไปยังเมืองกงเหมิน สิ่งแวดล้อมที่มากขึ้นหมายถึงรายละเอียดที่เพิ่มมากขึ้น ดังนั้น หัวหน้าของแผนกต่างๆ ก็เลยเดินทางไปเมืองจีน ที่ซึ่งพวกเขาได้รับแรงบันดาลใจจากโลเกชันจริงๆ บางแห่ง
เกลนน์ เบอร์เกอร์ให้ความเห็นว่า “ผมไม่รู้ว่าเรย์มอนด์สร้างทุกอย่างขึ้นมาได้ยังไง แต่ผมดีใจที่เขาทำได้ เราโชคดีที่ได้เขียนภายในโลกใบนั้น ในตอนที่เราได้เดินทางไปจีนกับแผนกอื่นๆ พวกเขาก็มักจะดึงสมุดสเก็ตช์มาขีดๆ เขียนๆ และถ่ายรูปอยู่เสมอ และเราก็จะได้เห็นช่วงเวลาที่การเดินทางเหล่านั้นปรากฏในภาคที่สอง ทั้งภูมิประเทศและทิวทัศน์เมืองที่เป็นแรงบันดาลใจ…เราทึ่งกับสิ่งที่พวกเขาทำจริงๆ”
ผู้อำนวยการสร้างค็อบบ์กล่าวว่า “เรย์มอนด์ไม่กลัวเลยกับการผลักดันขอบเขตด้านวิชวล เขามีไอเดียในหัว และก็ไม่เกรงกลัวกับการทำให้แน่ใจว่าภาพพวกนั้นจะปรากฏบนหน้าจอ ดังนั้น เขากับเจนก็กลายเป็นทีมชั้นเยี่ยม พวกเขาทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด พวกเขาร่วมงานกันบ่อยในภาคแรก และในภาคนี้ พวกเขาก็ได้ร่วมงานกันอย่างใกล้ชิดค่ะ พวกเขามีวิสัยทัศน์ร่วมกันว่าหนังเรื่องนี้จะออกมาเป็นยังไง และเรย์มอนด์ก็นำวิสัยทัศน์เชิงศิลป์มายกระดับโปรเจ็กต์นี้ ทั้งเรื่องแสง เอฟเฟ็กต์ ลุคของตัวละคร รายละเอียดของโลกใบนั้น และรายละเอียดของพื้นผิว พวกเขาเป็นศิลปินที่ยอดเยี่ยมจนสามารถดึงเอาส่วนที่ดีที่สุดของกันและกันออกมาได้ค่ะ”
เอเบลกล่าวว่า “เมื่อเร็วๆ นี้ ผมเพิ่งได้ดูภาพที่เราไปถ่ายกันมาตอนไปจีน เป็นภาพที่เรายืนอยู่ตรงกำแพงเมืองจีน ตรงหน้าวัดและอนุสาวรีย์ แล้วพอผมได้ดูภาพของเรย์มอนด์และผู้กำกับศิลป์ทัง ก็เห็นมีแต่ภาพอิฐ ตะไคร่ ไม้เก่าๆ เศษผ้า ของทุกอย่างที่พวกเขาใส่ลงไปในหนัง ‘เสมือนจริง’ ทุกอย่างในหนังเรื่องนี้จะต้องถูกสร้างขึ้น ทุกพื้นผิว ทุกรายละเอียด ทุกเท็กซ์เจอร์ พอผมดูภาพพวกนั้น มันก็ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นสถานที่จริงๆ ทั้งหมดเป็นเพราะสิ่งที่พวกเขาทำครับ”
เบอร์เกอร์กล่าวต่อว่า “ใช่ครับ มันทำให้คุณรู้ด้วยว่า เราสนุกกับช่วงเวลาในจีนมากกว่าพวกเขา พวกเขาทำงานกันจริงๆ จังๆ เชียวล่ะ! ผมหมายถึง เราสามารถเขียนถึงแพะนักทำนายที่เคี้ยวชายผ้าเสื้อคลุมผ้าไหมของนกยูงได้อย่างสบายๆ เพียงเพราะเราคิดว่ามันตลก แต่พวกเขาจะต้องออกแบบเสื้อคลุมผ้าไหม ฟันของแพะ และภาพที่ว่าเนื้อผ้านั้นจะมีลักษณะยังไงเวลาถูกเคี้ยวและเปียกชุ่มไปด้วยน้ำลายของเธอ…มันน่าทึ่งมากสำหรับผม และผมก็ดีใจที่นั่นไม่ใช่หน้าที่ของเรา!”
ในขณะที่ภาคแรกได้รับแรงบันดาลใจและถูกกำหนดด้วยวัตถุดิบอ้างอิงบางอย่าง เช่นหนังสือกองแล้วกองเล่า (และเสิร์ชทางอินเทอร์เน็ต) เกี่ยวกับศิลปะ สถาปัตยกรรม สัญลักษณ์ เครื่องแต่งกาย อาหาร ภูมิประเทศของจีน ร่วมด้วยการพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านวัฒนธรรม ภาคที่สองแรงบันดาลใจเกิดจากประสบการณ์โดยตรงของทีมผู้สร้าง ผู้สำรวจแง่มุมต่างๆ ในประเทศนั้นด้วยตาตัวเอง ซีบาคเล่าว่า “แม้กระทั่งการทำงาน ‘ทางไกล’ ของเราในภาคแรก ยังถูกใจที่นั่น (จีน) เลย มีคนพูดว่า ‘คุณมาจากอเมริกา ทำไมคุณถ่ายทอดภาพพวกนี้ได้ล่ะ’ มันเป็นคำชมที่ดีที่สุดสำหรับผม ผมต้องบอกว่า ผมรักวัฒนธรรม ผมคิดว่าการที่เราเริ่มต้นจากแรงบันดาลใจจากอาร์ตเวิร์ค ซึ่งมาจากวัฒนธรรมนี้ และการทำให้เรื่องพวกนั้นส่งอิทธิพลต่อเรื่องราว ทุกแง่มุม ทำให้เรื่องราวนี้ให้ความรู้สึกสมจริง แม้กระทั่งสำหรับชาวจีนเองก็ตามครับ”
เนลสันกล่าวว่า “การได้ไปจีนน่าทึ่งมากเพราะมันจะก่อให้เกิดความรู้ด้านพื้นผิวบางอย่างสำหรับสถานที่ที่คุณจะไม่มีวันรู้ได้จากหนังสือ การได้ไปอยู่ที่นั่นและได้สัมผัสว่าอากาศที่นั่นเป็นยังไง หรือลักษณะที่แสงส่องกระทบด้านข้างตึกหรือกระเบื้อง มันเป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ช่วยผลักดันให้หนังเรื่องนี้ดียิ่งขึ้นไปอีกค่ะ”
สำหรับแรงบันดาลใจด้านภาพ ทีมงานได้ไปเยี่ยมชมเมืองโบราณปิงเยา วัดเส้าหลิน และปักกิ่ง แต่เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับเฉิงตู ทางตอนตะวันตกเฉียงใต้ของมณฑลเสฉวน พวกเขาใช้เวลาไปกับสถานอนุรักษ์แพนด้าและตามวัดและวิหารของพุทธและลัทธิเต๋า ซึ่งส่วนมากตั้งอยู่ท่ามกลาง “หุบเขาลึกลับในหมอก ใกล้ๆ กับบริเวณนั้น” ซีบาคบอก “ซึ่งสำหรับผมแล้ว นั่นเป็นสิ่งที่กำหนดลุคหลายๆ อย่างในหนังเรื่องนี้ครับ”
มณฑลเสฉวนเป็นถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติของแพนด้า และเป็นที่อาศัยของ 80% ของประชากรแพนด้าทั่วประเทศ เนื่องด้วยศูนย์เพาะพันธุ์และวิจัยแพนด้า ที่อยู่ห่างจากเฉิงตูไม่กี่ไมล์ โจนาธาน เอเบลกล่าวว่า “ไม่น่าแปลกใจเลยที่แพนด้าจะอ่อนโยน ตลกและมีชีวิตชีวาอย่างที่คุณหวังไว้น่ะครับ”
เกลนน์ เบอร์เกอร์ให้ความเห็นว่า “เราได้พบ ได้สัมผัสและจูบแพนด้าบางตัวในศูนย์ด้วย มันมีเปลที่เต็มไปด้วยลูกแพนด้าห้าตัว และถ้าผมจะแอบเอาแพนด้าซักตัวใส่มาในแจ็คเก็ตของผมได้ ผมก็คงจะทำไปแล้ว แต่ผมก็สังเกตเห็นว่าถึงแม้พวกมันจะน่ารักแค่ไหน แต่มันก็ไม่ตลกเท่าแจ็คหรอกครับ”
ส่วนหนึ่งที่ทำให้แจ็คตลก (ในบทของโป) คือสิ่งที่ตัวละครของเขาสามารถทำได้บนหน้าจอ ซูเปอร์ไวเซอร์ฝ่ายวิชวล เอฟเฟ็กต์ อเล็กซ์ พาร์กินสัน พูดถึงหน้าที่ของเขาว่าเป็น “ที่ที่อนิเมชันพบกับคอมพิวเตอร์ อนิเมชัน เราจับเอาไอเดียเพี้ยนๆ ของผู้กำกับ มือเขียนบทและทีมงานฝ่ายเรื่องราวมารวมกับอาร์ตเวิร์คน่าทึ่งที่ผู้ออกแบบงานสร้างและผู้กำกับศิลป์สร้างขึ้น เพื่อฉายมันขึ้นบนหน้าจอ เราเป็นผู้ดูแลคอมพิวเตอร์ กราฟฟิคทั้งหมด เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการน่ะครับ”
พาร์กินสันเป็นอีกคนหนึ่งที่เคยทำงานใน “Kung Fu Panda” มาก่อน “เหมือนกับคนอื่นๆ ในโลก ผมก็อยากรู้เรื่องราวความเป็นมาของโปเหมือนกัน ผมคิดว่าหนึ่งในสิ่งที่วิเศษสุดเกี่ยวกับภาคแรกคือมันทิ้งคำถามเอาไว้ ทุกคนอยากจะรู้ว่าทำไมพ่อของโปถึงเป็นห่าน ทำไมเขาถึงเป็นแพนด้าตัวเดียวในหมู่บ้าน ผมเลยคิดว่าวิธีที่ดีที่สุดในการหาคำตอบสำหรับคำถามเหล่านั้นคือการสร้างภาคสองขึ้นมาครับ”
นอกเหนือไปจากการตอบคำถามที่ถูกทิ้งไว้ยังเป็นโอกาสของการได้ทำงานในผืนผ้าใบที่ใหญ่กว่าภาคแรก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งแวดล้อมของเมืองกงเหมิน (“มันเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมจีนยิ่งใหญ่ครับ!”) และหนึ่งในคุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดของลอร์ดเชน นกยูงเผือก “การสร้างขนนกยากกว่าขนชนิดอื่น เพราะคุณจะสามารถเห็นส่วนที่มันทิ่มทะลุผิวหนัง ด้วยความที่ขนชนิดอื่นบางกว่า มันก็เลยสามารถผ่านไปได้โดยไม่มีใครสังเกต แต่กับขนนก ถ้ามันแทรกผ่านกันและกัน คุณจะเห็นการชนกัน ดังนั้น การทำให้แน่ใจว่าขนนกทุกเส้นจะแยกจากกันและไม่ทะลุผ่านกันและกันคือการแยกส่วนการทะลุ ขนแต่ละเส้นจะต้องถูกจัดการแยกกันครับ”
แล้วซีเควนซ์ที่ผสมผสานแง่มุมที่ท้าทายทุกอย่างเกี่ยวกับอนิเมชัน ดิจิตอลล่ะ ทีมผู้สร้าง “Kung Fu Panda 2” ไม่เคยเลือกเส้นทางเดินที่ง่ายดายเลย มือเขียนบท/ผู้ร่วมอำนวยการสร้างเกลนน์ เบอร์เกอร์กล่าวว่า “เราอาจจะเขียนในสคริปต์ง่ายๆ ว่า ‘แล้วก็เกิดสงครามครั้งใหญ่ตรงนี้ ซึ่งมีเรื่องนั้นเรื่องนี้เกิดขึ้น มีปืนใหญ่และโปก็ได้เผชิญหน้ากับกระสุนปืนใหญ่’ แต่การได้เห็นตอนนั้นกลายเป็นสงครามอีพิคห้านาทีก็เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อจริงๆ”
มือเขียนบท/ผู้ร่วมอำนวยการสร้างโจนาธาน เอเบลกล่าวว่า “และนั่นก็กลายเป็นประสบการณ์การทำงานยาวนานสองปีสำหรับคนหลายร้อยคน สิ่งที่เราใช้เวลาเขียนเพียงไม่กี่วันกลายเป็นงานสำหรับทุกแผนก และเราก็ได้เรียนรู้สิ่งที่น่าสนใจบางอย่างเกี่ยวกับอนิเมชันด้วย ยกตัวอย่างเช่น สิ่งที่เราคิดว่าน่าจะเป็นสิ่งที่แพงที่สุดและใช้เวลานานที่สุด ซึ่งก็คือปืนใหญ่ระเบิดเมืองทั้งเมือง กลับไม่แพงเท่ากับฉากตัวละครเปียกโชก ขนที่เปียก ขนนกที่เปียก นอกเหนือจากการสร้างมันขึ้นมา และทำให้มันเหมือนจริงและมีลักษณะเหมือนจริง ซึ่งก็ท้าทายมากพออยู่แล้ว ตอนนี้ เรายังต้องทำให้มันเปียกอีก…เราได้เรียนรู้แล้วว่ามันแพงมากๆ”
เบอร์เกอร์กล่าวติดตลกว่า “ใช่ครับ เราทุ่มทุนให้กับหนังเรื่องนี้ไม่อั้น เราใช้ระเบิดมากมายและมีทั้งขนและขนนกที่เปียกเต็มเลย! มีคนพูดล้อเล่นว่าบรรทัดที่แพงที่สุดที่มือเขียนบทจะเขียนขึ้นมาได้คือ ‘แล้วฝนก็เริ่มตก’ แล้วฝนก็ตกในหนังเรื่องนี้ด้วยนะครับ”
และผู้ที่กลับมาช่วยงานเขาคือโรดอล์ฟ กูโนเดน ซูเปอร์ไวซิง อนิเมเตอร์, นักวาดภาพเรื่องราวและที่ปรึกษาและออกแบบศิลปะการต่อสู้ของเรื่อง เขาพูดถึงภาคล่าสุดนี้ด้วยความรู้สึกที่สอดคล้องไปกับทีมงานเดิมของ KFP คนอื่นๆ ว่า “สเกลเป็นเรื่องใหญ่ครับ หนังเรื่องนี้ยิ่งใหญ่กว่าภาคแรก ในทุกๆ แง่มุม ทั้งแบ็คกราวน์ ทิวทัศน์ จำนวนตัวละครบนหน้าจอ อารมณ์ที่ปรากฏ ภาพมันน่าทึ่งมากๆ ผมคิดว่ามันน่าทึ่งจริงๆ”
แต่แม้กระทั่งในโลก 3D ที่ใหญ่กว่าและสวยงามกว่า บางสิ่งก็ยังคงเหมือนเดิม เขากล่าวต่อไปว่า “เราไม่อยากให้โปกลายเป็นบรูซ ลี กลายเป็นคนจริงจังอย่างฉับพลัน เรายังอยากให้เขาซุ่มซ่ามนิดๆ แม้ว่าเขาจะได้รับการฝึกฝนมากขึ้นแล้วในตอนนี้ และสามารถวาดลวดลายได้ เขายังคงเรียนรู้และพัฒนาสไตล์ของตัวเอง เพียงแต่มันก็ยังมีโอกาสสำหรับคอเมดี แม้กระทั่งในฉากแอ็กชันก็ตาม โปฝึกฝนกังฟูคลาสสิก แต่เขาทำมันออกมาในสไตล์แพนด้า ดังนั้น คอเมดีก็เลยเกิดจากความจริงที่ว่า ในตอนเขาต่อสู้ มันก็จะกลายเป็นงานหนัก ดังนั้น สีหน้าเขาก็จะแสดงออกมา และบางครั้ง เราก็จะได้เห็นเขาหอบอย่างหนัก เขาไม่ได้มีสีหน้าพร้อมรบแบบไทเกรสน่ะครับ”
เมื่อมีเชน วายร้ายตัวใหม่เกิดขึ้น โอกาสในการใช้อิทธิพลใหม่ๆ (ที่อาจคาดไม่ถึงด้วย) ก็เกิดตามมาด้วย ระหว่างที่คิดเรื่องสไตล์การต่อสู้ของคู่ปรับล่าสุดของโป กูโนเดนก็นึกถึงการใส่เอาท่าแปลกๆ ที่เขาสังเกตเห็นระหว่างการดูการแข่งโอลิมปิคที่ปักกิ่งเข้าไป “เชนสง่างาม ดูดี แต่ก็สามารถเปลี่ยนตัวเองมาเป็นน่ากลัว น่าหวาดหวั่น หรือแม้กระทั่งอันตรายด้วยซ้ำไป การได้เล่นกับตัวละครตัวนี้สนุกมากจริงๆ ตอนที่เราเริ่มสำรวจเขาครั้งแรก ผมกำลังอยู่ระหว่างการร่างภาพสเก็ตช์และดูยิมนาสติกในการแข่งขันโอลิมปิคครับ พวกสาวๆ ใช้อุปกรณ์หลายอย่าง ซึ่งพวกเธอก็พลิ้วไหวและยืดหยุ่นมากๆ ผมคิดว่ามันคงจะเยี่ยมถ้าได้ผสมผสานศิลปะการต่อสู้เข้ากับท่าที่คาดไม่ถึงพวกนั้น…ซึ่งบางอย่างค่อนไปทางแปลกด้วย การมีนักสู้ที่สามารถทำท่าพวกนั้น ยกขา และยืดมันออกเกือบถึงหัว พร้อมๆ กับถือดาบได้น่ะ สำหรับนกยูง เรายังใส่หางยาวเฟื้อยของเขาเข้าไปในการต่อสู้ด้วย เพื่อเป็นโล่ เป็นเกราะป้องกัน หรือใช้โบกสะบัด มันมีการใช้ความคิดสร้างสรรค์มากมายกับตัวละครตัวนี้ที่สนุกทีเดียวครับ”