enjoyjam.net
news & activity => news & activity => Topic started by: activity on March 13, 2011, 12:18:25 PM
-
งานแถลงข่าวการจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ โชว์ ครั้งที่ 32

ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา (ที่ 8 จากซ้าย) ประธานกรรมการบริหาร พร้อมด้วย นายจาตุรนต์ โกมลมิศร์ (ที่ 7 จากซ้าย) รองประธานบริหารอาวุโส นายอโณทัย เอี่ยมลำเนา (ที่ 6 จากขวา) รองประธาน บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด พร้อมคณะผู้สนับสนุน ร่วมถ่ายภาพภายหลังเสร็จสิ้นงานแถลงข่าวการจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ โชว์ ครั้งที่ 32 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 มีนาคม -5 เมษายน 2554 ถือเป็นการจัดงานแสดงยนตรกรรมครั้งยิ่งใหญ่และถือเป็นครั้งแรก ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ในการนี้ นายพอลล์ กาญจนพาสน์ (ที่ 4 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ให้การต้อนรับและร่วมในงานแถลงข่าวดังกล่าว เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2554 ณ ห้องแกรนด์ไดมอนด์ บอลรูม อาคารศูนย์ประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0-2833-5061-3 ฝ่ายสื่อสารประชาสัมพันธ์ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด
Press Conference The 32nd Bangkok International Motor Show

Dr. Prajin Aiemlumnao (8th from left), Chairman of Grand Prix International Group, presided over the Press Conference The 32nd Bangkok International Motor Show Along with Mr. Jaturon Komolmit (7th from left), Vice President of Grand Prix International Company Limited , And Team Support. The event will be held during March 25-April 5, 2011 and to be bigger than ever-First time at IMPACT Challenger 1-3 ,Muang Thong Thani and was welcomed by Mr. Paul Kanjanapas (4th from left), Managing Director of IMPACT Exhibition Management Company Limited, was held on March 3, 2011 at Grand Diamond Ballroom Convention Center, Muang Thong Thani.
-

เผยโฉมครั้งแรกในโลก เชฟโรเลต โคโลราโด รุ่นใหม่ล่าสุด สัมผัสตำนานแห่งรถกระบะก่อนใคร
เชฟโรเลต สานต่อตำนานรถกระบะพันธุ์แท้ เผยโฉมรถต้นแบบ เชฟโรเลต โคโลราโด รุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมเตรียมให้ประชาชนชาวไทยได้สัมผัสตัวจริงก่อนใครในโลกที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32 ซึ่งจะเปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 25 มีนาคม 2554 นี้
ส่วนเหตุผลหลักในการเผยโฉมรถต้นแบบ เชฟโรเลต โคโลราโด รุ่นใหม่คันดังกล่าวนี้ ครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย มร.มาร์ติน แอพเฟล ประธานกรรมการ ประจำประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เนื่องมาจากอัตราการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดรถปิกอัพซึ่งถือเป็นตลาดที่มีความสำคัญสำหรับ เชฟโรเลต ในภูมิภาคนี้ ซึ่งปี 2553 ที่ผ่านมา ตลาดรถปิกอัพมียอดจำหน่ายสูงถึง 43% จากยานยนต์ทั้งหมดที่จำหน่ายในประเทศไทย ทั้งนี้ เชฟโรเลต โคโลราโด รุ่นใหม่ล่าสุดพร้อมเปิดตัวรถและจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปี 2554 นี้
“รถกระบะ มีบทบาทสำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย ซึ่งรถกระบะอย่าง เชฟโรเลต โคโลราโด สามารถตอบสนองและผสมผสานกับทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้าชาวไทย จึงเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งที่ลูกค้าชาวไทยจะได้สัมผัสกับ เชฟโรเลต โคโลราโด รุ่นใหม่นี้ก่อนใครในโลก” มร. มาร์ติน กล่าว
ทั้งนี้ ประชาชนผู้ที่สนใจสามารถรับชม และสัมผัสได้ภายในบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32 ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม ถึง 5 เมษายนนี้
หากท่านต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมท่านสามารถเข้าชมได้ที่เวบไซต์ www.gmthailand.com
สำหรับข้อมูลหรือรูปภาพเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
ปภาดา ตวงหิรัญวิมล หรือสถาปนา กาญจนประกร
เวเบอร์ แชนวิค
บริษัท แมคแคน เวิลด์กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด
โทร. 02 343 6057
อีเมล์: Paphada@webershandwick.com, Satapana@webershandwick.com
หรือ
ศศินันท์ ออลแมนด์
ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ประจำประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน
บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด
โทร. 0-2791-3400 โทรสาร 0-2937-0171
อีเมล์: sasinan.allmand@gm.com
Chevrolet Offers Sneak Peek at New Colorado Show Truck
Chevrolet Offers Sneak Peek at New Colorado Show Truck Midsize pickup to make its global debut at Bangkok Motor Show in Thailand
Chevrolet today offered a sneak peek at its Colorado show truck that will officially be unveiled prior to the 32nd Bangkok International Motor Show, which begins on March 25. The show truck offers a preview of the next-generation Colorado midsize pickup truck, which will build on Chevrolet’s strong truck DNA and a heritage of award-winning trucks.
Thailand was chosen as the site of the global debut because of the popularity of pickup trucks and the growing importance of the Thai market to Chevrolet. In 2010, the pickup truck segment alone accounted for 43% of vehicles sold in Thailand. The new Colorado will go on sale in Thailand later this year.
“Trucks play a key role in most Southeast Asian markets,” said Martin Apfel, President of GM Thailand/SEA and Chevrolet Sales Thailand. “Nowhere is this more evident than in Thailand, where trucks like the Colorado are ingrained in the local lifestyle. Thailand was a natural place to give the public a first glimpse of our all-new Colorado.”
More information on the truck will be revealed at the global premiere. The public can get their first look at the Chevrolet Colorado show truck at the Bangkok International Motor Show from March 25 – April 5, 2011.
For further information, please visit www.gmthailand.com
-
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ร่วมงาน มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เตรียมเผยรถต้นแบบอีโคคาร์ “มิตซูบิชิ โกลบอล สมอล” ในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32 พร้อมโชว์รถรุ่นต่างๆ ครบไลน์ ดึงสองหนุ่มพรีเซ็นเตอร์ “ตูน บอดี้แสลม” และ “อนันดา” เพิ่มความร้อนแรงในงาน ตั้งเป้ายอดขายตลอดงานทะลุ 2,000 คัน
มร.โนบุยูกิ มูราฮาชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงการเข้าร่วมงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32 ซึ่งจะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 25 มีนาคม ถึง 5 เมษายนนี้ว่า ในปีนี้ มิตซูบิชิ เตรียมนำรถต้นแบบอีโคคาร์ “มิตซูบิชิ โกลบอล สมอล” ที่ผลิตขึ้นจากแนวคิด “กระทัดรัด” “สามารถเป็นเจ้าของได้ง่าย” และ “ประหยัดน้ำมัน” ซึ่งจัดแสดงโชว์เป็นครั้งแรกของโลกในงานเจนีวา อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 81 เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มาร่วมแสดงเป็นไฮไลท์ของงานครั้งนี้ร่วมกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า “ไอมีฟ” และยนตรกรรมรุ่นต่างๆ ทั้ง “แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ ใหม่” ที่เพิ่งผ่านการไมเนอร์เชนจ์มาพร้อมดีไซน์โฉบเฉี่ยวสุดเร้าใจ พร้อมอุปกรณ์ตกแต่ง สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบความปลอดภัยครบครัน นอกจากนี้ยังมี “มิตซูบิชิ ไทรทัน” และ “ปาเจโร สปอร์ต” ที่มากับนิยาม “แรงจัดประหยัดเหนือชั้น” และสมรรถนะที่เป็นเยี่ยม จากเครื่องยนต์ใหม่ล่าสุด 2.5 วีจี เทอร์โบ ให้พละกำลังสูงสุดถึง 178 แรงม้า โดดเด่นทั้งด้านรูปลักษณ์และประโยชน์ใช้สอยซึ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น รวมทั้ง “มิตซูบิชิ สเปซ แวกอน” ตลอดจน รถในกลุ่มซีเอ็นจี ได้แก่ “แลนเซอร์ รุ่น 1,600 ซีซี. ซีเอ็นจี” รถกระบะ “ไทรทัน ซีเอ็นจี รุ่น เมกะแค็บ และ ดับเบิลแค็บ ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ล่าสุด ” ทั้งนี้จากความหลากหลายของรถรุ่นต่างๆ ประกอบกับข้อเสนอพิเศษที่บริษัทฯ ได้มอบให้กับลูกค้า ทำให้เชื่อว่ามิตซูบิชิจะสามารถทำยอดขายในงานมอเตอร์สโชว์ ได้กว่า 2,000 คัน อย่างแน่นอน
พร้อมกันนี้บริษัทฯ ยังได้เตรียมนำ 2 พรีเซ็นเตอร์ล่าสุดของมิตซูบิชิได้แก่ “ตูน บอดี้แสลม” พรีเซ็นเตอร์ มิตซูบิชิ ไทรทัน และ “อนันดา” พรีเซ็นเตอร์ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ มาร่วมกิจกรรมและพบลูกค้าภายในงาน
เผยโฉมรถต้นแบบอีโคคาร์ “มิตซูบิชิ โกลบอล สมอล”
“มิตซูบิชิ โกลบอล สมอล” เป็นรถยนต์ต้นแบบของรถเก๋งขนาดเล็กที่มิตซูบิชิวางแผนจะทำการผลิตในโรงงานในประเทศไทยและเปิดตัวในเดือนมีนาคม 2555 สำหรับรถต้นแบบคันนี้มีความโดดเด่นทั้งในด้านความคล่องตัวและง่ายต่อการขับขี่ และมีความสมบูรณ์แบบในการออกแบบจัดวางพื้นที่รองรับผู้โดยสารที่เป็นผู้ใหญ่ได้ 5 ที่นั่ง ในขณะเดียวกันยังให้การประหยัดน้ำมันในระดับสูงสุด ด้วยระดับควบคุมมลพิษในระดับกลาง 90 กรัมต่อกิโลเมตร และจาก:
การใช้ระบบดับเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อรถจอดนิ่ง ( Auto Stop and Go)
เครื่องยนต์ขนาด 1.0 ลิตร ที่ติดตั้งร่วมกับระบบชาร์จพลังงานกลับขณะเบรก (Brake energy regeneration system)
การลดน้ำหนักของชิ้นส่วนประกอบที่ซับซ้อน
การลดแรงเสียดทานในเครื่องยนต์ ระบบ CVT เจนเนอเรชั่นใหม่ เบรก รวมถึงยาง
รูปทรงของรถที่ช่วยลดค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานได้เป็นเยี่ยม
ข้อมูลผลิตภัณฑ์
ความยาวตลอดคัน
3.74 เมตร
ความกว้างตลอดคัน
1.68 เมตร
ความสูง
1.49 เมตร
เครื่องยนต์
เครื่อง MIVEC 3 สูบ (เบนซิน)
ปริมาตรกระบอกสูบ
1.0 ลิตร
ระบบส่งกำลัง
เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ
ระบบหยุดและทำงานเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อจอดนิ่ง (Automatic Stop and Go)
ระบบชาร์จพลังงานกลับอัตโนมัติขณะเบรค (Brake energy regenerative system)
ยางลดแรงต้านการหมุนล้อ 185/55 R 16 (Low Rolling Resistance Tires)
ข้อเสนอพิเศษในงาน มอเตอร์โชว์
เงื่อนไขพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์มิตซูบิชิในงานมอเตอร์โชว์ และที่โชว์รูมรถยนต์มิตซูบิชิทั่วประเทศ
ในระหว่างวันที่ 25 มีนาคม จนถึง 5 เมษายน นี้
ดอกเบี้ย 0%* เงื่อนไขเงินดาวน์ 25% ผ่อน 36 เดือน หรือเลือกรับคูปองน้ำมันมูลค่า 40,000 บาท พร้อมรับฟรีอุปกรณ์นำทางGPS Garmin จำนวน 1 เครื่อง เมื่อซื้อรถกระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน เมกะแค็บ พลัส
ดอกเบี้ย 0.99%* เงื่อนไขเงินดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน เมื่อซื้อรถกระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน ดับเบิ้ลแค็บ ขับเคลื่อน 2 ล้อ และรับฟรีอุปกรณ์นำทาง GPS Garmin จำนวน 1 เครื่อง เมื่อซื้อรถกระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน ดับเบิ้ลแค็บ พลัส (ยกเว้นรุ่นดับเบิ้ลแค็บ พลัส เครื่องยนต์ เบนซิน 2.4 ลิตร)
ดอกเบี้ย 0.99%* เงื่อนไขเงินดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน เมื่อซื้อมิตซูบิชิ สเปซ แวกอนทุกรุ่น
ดอกเบี้ย 1.69%* เงื่อนไขเงินดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน เมื่อซื้อรถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ใหม่ ทุกรุ่น
ดอกเบี้ย 1.69%* เงื่อนไขเงินดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน เมื่อซื้อรถยนต์มิตซูบิชิ แลนเซอร์ 1.6 ลิตรทุกรุ่น และมิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ ใหม่
ทุกรุ่นฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง “ไดมอนด์ อินชัวรันซ์” **
* ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถาบันการเงินที่ร่วมรายการ
** ประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับลูกค้าที่สนใจสามารถเข้าชมพร้อมทดลองขับยนตรกรรมของมิตซูบิชิได้ในงานมอเตอร์สโชว์ ครั้งที่ 32 ที่ บูธรถยนต์มิตซูบิชิ หมายเลข A06 ฮอล์ล 2 อาคารชาเลนเจอร์ ฮอล์ล เมืองทองธานี ในระหว่างวันที่ 25 มีนาคม ถึง 5 เมษายน หรือ ที่โชว์รูมรถยนต์มิตซูบิชิทั่วประเทศ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 1800 900 009 ฟรี เฉพาะโทรศัพท์พื้นฐาน และโทรศัพท์เคลื่อนที่เครือข่าย AIS หรือ โทร. 02-529-9500 ในวันและเวลาทำการ หรือที่เว็บไซต์ www.mitsubishi-motors.co.th
สอบถามรายละเอียดข่าวเพิ่มเติมติดต่อ:
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์
บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด
โทร. 02-529-9000
-
จีเอ็ม ประเทศไทย ชวนแฟนๆเล่นเกม ชิงรางวัลสุดไฮเทคจากเฟซบุ๊ค GM Thailand
บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส ประเทศไทย ต้อนรับการเผยโฉมรถต้นแบบของรถกระบะเชฟโรเลต โคโลราโดสายพันธุ์ใหม่ ที่เตรียมให้ประชาชนชาวไทยได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32 ด้วยแคมเปญทางเฟซบุ๊ค GM Thailand เพียงแฟนๆร่วมสนุกด้วยการตอบคำถามเกี่ยวกับเชฟโรเลต โคโลราโดสายพันธุ์ใหม่ ชิงรางวัลใหญ่สุดร้อนแรง อาทิ ไอแพด และโมเดลรถเชฟโรเลตรุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น ติดตามรายละเอียดและร่วมสนุกได้ที่ www.facebook.com/generalmotorsthailand ตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคมเป็นต้นไป
-
World Premiere: New Generation Chevrolet Colorado
- New generation Chevrolet Colorado premieres at the 32nd Bangkok International Motor Show
- Extreme sports with the Chevrolet Cruze World Touring Car Championship
- Special promotional offers
For the first time, Chevrolet Sales (Thailand) will be unveiling to the world its latest pickup truck, the new generation Chevrolet Colorado show truck at the 32nd Bangkok International Motor Show. Built on a century of Chevrolet truck heritage with true American truck values, the new generation Chevrolet Colorado will mark the start of a new chapter in the history of pickup trucks in Thailand and around the world.
Mr. Antonio Zara, Vice President, Marketing, Sales and Aftersales, Chevrolet Sales (Thailand), said, “We are proud to be unveiling the new generation Colorado show-truck to the world at the Bangkok International Motor Show. Pickup trucks consist of 43 percent of the automotive market last year. There is no better time and I can’t wait for the new generation Colorado to occupy our showrooms.”
“Just like how pickup trucks have a heritage in Thailand, the new generation Chevrolet Colorado is built on almost 100 years of Chevrolet truck DNA and award-winning heritage,” Mr. Zara continued.
He added, “Therefore, the world premiere of the new generation Colorado is also a celebration of a century of Chevrolet excellence. Since Chevrolet was founded in Detroit 100 years ago, Chevrolet has gone on to become one of the largest automotive brands in the world, embodying performance, durability and value in all its vehicles. Key attributes that will be built into the new generation Colorado.”
Chevrolet’s pavilion will also feature a static display of its heritage in trucks, including an original 1926 Chevrolet pick-up truck. Other crowd-pleasers include Chevrolet’s winner – the Cruze WTCC (World Touring Car Championship) replica, which is modeled after the actual race car that won both the WTCC Manufacturer’s and Driver’s Championship in 2010.
“All WTCC race cars, show cars and replicas are built on a standard Cruze platform – not different from the ones you see in our showrooms. That the Cruze has such a strong baseline on which to build a championship winner speaks volumes about the engineering brilliance of the Cruze,” Mr. Zara said.
He added, “In addition to the all new Chevrolet Colorado and the Cruze WTCC, other interesting Chevrolet models will also be on display. Our lineup will include the current Cruze, Captiva, Colorado and our ever popular Aveo and Aveo CNG.”
“In addition to our displays, visitors to our pavilion will also be treated to an exciting selection of special promotions and packages, including free accessories and insurance,” Mr. Zara concluded.
Experience 100 years of Chevrolet heritage at zone A2 at the 32nd Bangkok International Motor Show, Challenger Hall, Muangthong Thani, from 25 March – 5 April 2011.
About Chevrolet
Founded in Detroit in 1911, Chevrolet is celebrating its centennial. Last year, the brand had sales of about 4.25 million vehicles in more than 120 countries. Chevrolet provides consumers fuel-efficient, safe and reliable vehicles that deliver high quality, expressive design, spirited performance and value. The Chevrolet portfolio includes iconic performance cars such as Corvette and Camaro; dependable, long-lasting pickups and SUVs such as Silverado and Suburban; and award-winning passenger cars and crossovers such as Spark, Cruze, Malibu, Equinox and Traverse. Chevrolet also offers “gas-friendly to gas-free" solutions including Cruze Eco and Volt. More information regarding Chevrolet models can be found at www.chevrolet.com.
About GM
General Motors Company, one of the world's largest automakers, traces its roots back to 1908. With its global headquarters in Detroit, Michigan, USA. GM employs 209,000 people in every major region of the world and does business in some 120 countries. GM and its strategic partners produce cars and trucks in 31 countries, and sell and service these vehicles through the following brands: Buick, Cadillac, Chevrolet, GMC, GM Daewoo, Holden, Opel, Vauxhall and Wuling. More information on the new General Motors Company can be found at www.gm.com
For further information, please visit www.gmthailand.com and www.chevroletthailand.com or www.facebook.com/generalmotorsthailand please contact:
Sasinan Allmand
Public Relations Director Thailand/ SEA
General Motors (Thailand) Limited & Chevrolet Sales (Thailand) Limited
Tel: +662 791 3400
Email: sasinan.allmand@gm.com
Or
Paphada Tuanghirunvimon / Satapana Karnjanaprakorn
Weber Shandwick
McCann Worldgroup (Thailand) Ltd.
Tel: +662 343 6057
Email: Paphada@webershandwick.com / Satapana@webershandwick.com
-
เปิดตัว ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ครั้งแรกในอาเซียน

ผู้บริหารบริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี (จากซ้าย) มร. ปีเตอร์ ฟลีท ประธานฟอร์ด อาเซียน มร. โจ ฮินริคส์ ประธานฟอร์ด ประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกและแอฟริกา มร. แกรี่ โบส์ ผู้อำนวยการสายการผลิตรถกระบะขนาดคอมแพ็คระดับโลก และ มร. เครก เมทรอส หัวหน้าทีมนักออกแบบ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ร่วมแถลงข่าวในประเทศไทยเพื่อเปิดตัว ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ รถกระบะขนาดคอมแพ็คครั้งแรกในภูมิภาคอาเซียน โดยประเทศไทยจะเป็นหนึ่งในสามฐานการผลิตและส่งออกระดับโลกสำหรับฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ เพื่อจำหน่ายในประเทศต่างๆ กว่า 180 ประเทศทั่วโลก
ฟอร์ดจะมีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ระดับโลกที่พัฒนาขึ้นจากการทำงานภายใต้กลยุทธ์ One Ford ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการผลิตสินค้าระดับโลกที่นำเอาความรู้ความเชี่ยวชาญจากวิศวกรของฟอร์ดทั่วโลกมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยจะเปิดตัวรวม 8 รุ่นด้วยกัน ภายใน 5 ปีนับจากนี้ โดยเริ่มจาก ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ รวมถึงการขยายโชว์รูมฟอร์ดอีกมากในภูมิภาคอาเซียน และแนะนำแบรนด์ฟอร์ดเข้าสู่กลุ่มลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้น
ติดต่อ:
ปัณฑ์ชนิต โรจน์อมรสวัสดิ์
คมสัน สิงห์ทอง
ชยภัค ลายสุวรรณ
โทร. 02 686 4647
โทร. 02 686 4643
โทร. 02 686 5912
proatamo@ford.com
ksingha1@ford.com
claisuwa@ford.com
-

เมอร์เซเดส-เบนซ์นำเสนอโปรโมชั่นสุดพิเศษ พร้อมลุ้นรับทองคำหนัก 125 บาท ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์
บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด นำเสนอโปรโมชั่นพิเศษเนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 125 ปีแห่งการบุกเบิกโลกยนตรกรรม ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32 ดังนี้
1. สำหรับผู้สั่งซื้อรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ทุกรุ่นภายในงาน (ยกเว้นรถยนต์เพื่อการพาณิชย์) จะได้รับสิทธิ์ร่วมลุ้นเป็นผู้โชคดีได้รับทองคำหนัก 125 บาท มูลค่ากว่า 2.5 ล้านบาท
2. ดอกเบี้ยเพียง 1.25% นานสูงสุดถึง 60 เดือน สำหรับรุ่น C 200 CGI *และ 1.25% นานสูงสุด 48 เดือน สำหรับรุ่น E 200 CGI และ S 300 L *(เฉพาะรุ่นที่ร่วมรายการเท่านั้นและเป็นไปตามเงื่อนไขของบริษัทฯ)
3. เบี้ยประกันภัยชั้นหนึ่งราคาพิเศษเพียง 12,500 บาท (เฉพาะรุ่นที่ร่วมรายการเท่านั้นและเป็นไปตามเงื่อนไขของบริษัทฯ)
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ขอเชิญท่านพบกับขบวนสุดยอดยนตรกรรมรุ่นใหม่ล่าสุดและยนตรกรรมหลากหลายรุ่นที่มาพร้อมกับเทคโนโลยียานยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อมในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ พร้อมร่วมสัมผัสมิติใหม่ของการจัดแสดงบูธยนตรกรรมของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม ถึง 5 เมษายน 2554 นี้ ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานี
-
มาสด้า3 สปอร์ตคอมแพ็คคาร์เจเนอเรชั่นใหม่ นำขบวนยกทัพรถ ซูม-ซูมเข้ามอเตอร์โชว์


มาสด้า3 สปอร์ตคอมแพ็คคาร์เจเนอเรชั่นใหม่ นำขบวนยกทัพรถ ซูม-ซูมเข้ามอเตอร์โชว์ เตรียมมีทแอนด์กรี๊ดกับ "ณเดชน์" และ "เป้ อารักษ์" 2 พรีเซนเตอร์สุดฮอตของเมืองไทย
- เนรมิตพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 1,500 ตรม. รองรับแฟนมาสด้า3 เจนเนอเรชั่นใหม่
บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เตรียมเปิดตัวแนะนำรถยนต์นั่งสปอร์ต All New Mazda3 เจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด สู่สาธารณะชนอย่างเป็นทางการ เดินหน้านำทัพยานยนต์สายพันธุ์สปอร์ตของมาสด้าเตรียมลุยสู้ศึกกับสนามแห่งใหม่ โดยเนรมิตพื้นที่จัดแสดงไว้ขนาดใหญ่มหึมาถึง 1,456 ตารางเมตร พร้อมเอาใจผู้หลงไหลความเป็นสปอร์ตด้วยการแนะนำรถมาสด้า2 รุ่นพิเศษ Limited Edition ภายใต้ชื่อรุ่น GENETIC ที่ตกแต่งด้วยอุปกรณ์สปอร์ตรอบคันในจำนวนจำกัด นอกจากนี้ยังเอาใจแฟนคลับของ 2 พรีเซนเตอร์หนุ่มสุดฮอตที่จะได้มีทแอนด์กรี๊ดกันแบบเต็มๆ ติดขอบเวที กับ ณเดชน์ และ เป้ อารักษ์ ที่จะมาร่วมสร้างสีสันตลอดงานในครั้งนี้ นอกจากนี้ อุณหภูมิความสปอร์ตจะร้อนแรงถึงขีดสุดกับข้อเสนอฮอตโดนใจครบทุกรุ่นที่บูธมาสด้าภายในงาน และที่โชว์รูมทั่วประเทศตั้งวันนี้ถึงวันที่ 5 เมษายนศกนี้เท่านั้น
มร. โชอิชิ ยูกิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า วันนี้ตลาดรถยนต์ของประเทศไทยได้ทะยานเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะรถยนต์ในกลุ่มบีคาร์และคอมแพคคาร์ เป็นกลุ่มที่มียอดการเติบโตสูงสุด ซึ่งมาสด้ามีความพร้อมอย่างยิ่งในทั้งสองเซ็กเม้นนี้ และคาดว่าทั้งมาสด้า2 และมาสด้า3 เจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด จะเป็นรถธงรุ่นหลักในการทำตลาดของมาสด้าในปีนี้ และจะช่วยผลักดันให้ยอดขายเป็นไปตามเป้าหมายที่เราวางไว้สูงถึง 38,500 คันในปีนี้ การเปิดตัวมาสด้า3 เจเนอเรชั่นใหม่ ในวันนี้ เป็นมากกว่าแค่การเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ในตลาดที่มีการแข่งขันสูงมาก การเปิดตัวมาสด้า3 เจเนอเรชั่นใหม่นับว่าเป็นการต่อยอด เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์มาสด้า ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญที่จะทำให้มาสด้ากลายเป็นแบรนด์ที่ฮิตติดตลาดตลอดไป ซึ่งรถยนต์นั่งสปอร์ต All New Mazda3 เป็นรถยนต์รุ่นเจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด ภายใต้แนวคิดสายพันธุ์สปอร์ต...สร้างมุมมองที่เป็นเอกลักษณ์ ผสานเทคโนโลยีอันก้าวล้ำ...สู่สมรรถนะยานยนต์อันทรงค่า กับรถยนต์ในฝัน...ที่ขับสนุกไม่เหมือนใคร และคงเอกลักษณ์สไตล์ “ซูม-ซูม” ไว้อย่างเหนียวแน่น พร้อมแล้วกับรูปลักษณ์ใหม่อันปราดเปรียว… All New Mazda3 "Create Your Own Definition" มาสด้า3 เจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด เปลี่ยน...ทุกคำจำกัดความที่เคยมี
รถยนต์นั่งสปอร์ต All New Mazda3 เจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด ที่ได้รับการถ่ายทอด DNA จากยนตกรรมสายพันธุ์สปอร์ตของมาสด้า นับเป็นการผสานรวมคุณสมบัติที่โดดเด่นของกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ของมาสด้าทั่วโลก โดยมีดีไซน์อันล้ำสมัยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คุณภาพที่ยอดเยี่ยม นวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่โดดเด่นของมาสด้า และสมรรถนะที่เหนือกว่าใครยิ่งไปกว่านั้น การออกแบบภายใต้แนวคิด Center Focus Design ที่เน้นความสมดุลของการออกแบบในทุกองค์ประกอบไปที่จุด Center ของรถ อันเป็นแนวคิดการออกแบบของรถต้นแบบ Mazda KIYORA นอกจากนี้ การดีไซน์กระจังหน้า 5 เหลี่ยม รวมทั้งการออกแบบภายใน ยังถอดแบบมาจากรถต้นแบบ Mazda RYUGA ที่ได้รับรางวัลการออกแบบยานยนต์ต้นแบบยอดเยี่ยม ด้านความคิดสร้างสรรค์ จากแบรนด์ดีไซน์เนอร์ชั้นสูงระดับโลก หลุยส์ วิตตอง (Louis Vuitton Classic Concept Award) เมื่อปี 2007
สุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กล่าวว่า สำหรับงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32 ที่กำลังจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 25 มีนาคม – 5 เมษายน 2554 นี้ ซึ่งเป็นสถานที่แห่งใหม่ ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี ในปีนี้มาสด้าได้เตรียมพื้นที่จัดแสดงขนาดใหญ่สุดถึง 1,456 ตารางเมตร เพื่อรองรับกับคลื่นมหาชนที่จะหลั่งไหลเข้ามาชมการเปิดตัวรถยนต์นั่งสปอร์ต All New Mazda3 เจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด และการแสดงชุดพิเศษสไตล์ ซูม-ซูม รวมทั้งการเดินทางมาปรากฏตัวของพรีเซนเตอร์รถมาสด้า2 สปอร์ตซีดานใหม่อย่าง ณเดชน์ คูกิมิยะ และสปอร์ตแฮตช์แบค 5 ประตู ที่มีเป้ อารักษ์ อมรศุภศิริ ซึ่งทั้ง 2 เป็นศิลปินดาราหนุ่มที่ฮอตที่สุดแห่งทศวรรษนี้ รวมทั้งขบวนยานยนต์สายพันธุ์สปอร์ตของมาสด้าที่มากันครบทุกรุ่น โดยเฉพาะรถยนต์นั่งสปอร์ตน้องใหม่ของมาสด้าที่กำลังร้อนแรงและสร้างความฮือฮามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ด้วยรูปลักษณ์ดีไซน์อันสปอร์ตหรูหรา โฉบเฉี่ยว กับสมรรถนะการขับขี่อันเหนือชั้น
มร.ยูกิ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีที่ผ่านมารถยนต์มาสด้า2 ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ารถที่มีความเป็นตัวตน มีความเป็น ซูม-ซูม สูงนี้ สามารถชนะใจลูกค้า และไปไกลถึงตำแหน่งผู้นำในตลาดรถเก๋งเล็กกลุ่มห้าประตูได้อย่างรวดเร็ว นั่นเป็นเพราะรูปลักษณ์ที่บ่งบอกสไตล์สปอร์ต สมรรถนะการขับขี่ที่สนุกจัดจ้าน คุณภาพของตัวรถในทุกด้าน และที่สำคัญการประหยัดน้ำมันในระดับที่ลูกค้าพึงพอใจ สำหรับงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งนี้ อุณหภูมิความสปอร์ตจะร้อนแรงถึงขีดสุด กับข้อเสนอจากมาสด้าที่ฮอตโดนใจ ด้วยโปรโมชั่นสุดพิเศษเฉพาะช่วงนี้สำหรับรถทุกรุ่น และมั่นใจว่าจะสามารถได้รับยอดจองของรถทุกรุ่นในงานนี้มากกว่า 3,000 คัน
นอกจากนี้มาสด้ายังเอาใจคนหลงใหลความเป็นสปอร์ตด้วยการนำเอารถยนต์มาสด้า2 ซีดาน 4 ประตู มาตกแต่งสไตล์สปอร์ตภายใต้คอนเซ็ปต์พิเศษ "GENETIC" ที่นำมาตกแต่งพิเศษรอบคันให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้า ด้วยชุดสเกิร์ตด้านหน้า ด้านข้าง สเกิร์ตด้านหลัง ชุดกันสาด ชุดคิ้วขอบประตู ชุดแต่งปลายท่อไอเสียทรงสปอร์ต รวมทั้งสัญลักษณ์บ่งบอกรุ่นพิเศษ "GENETIC Limited Edition" ให้ความเป็นเอกลักษณ์สไตล์สปอร์ตแบบสุดๆ ในจำนวนจำกัดเพียง 500 คันเท่านั้น โดยมีให้เลือก 2 สี คือ สีขาว Cool White และสีเทา Metropolitan Gray จำหน่ายในราคา 635,000 บาท ในรุ่น Spirit และราคา 695,000 บาท ในรุ่น Maxx
ที่สำคัญมาสด้ายังมาสด้ายังมีรถยนต์อีกหลายรุ่นให้ท่านได้สัมผัสอัดแน่นไปด้วยความสปอร์ต อาทิ รถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า3 เครื่องยนต์ 1600 ซีซี ทั้งรุ่นซีดาน 4 ประตู และรุ่นแฮตช์แบค 5 ประตู ที่ยังคงได้รับความความนิยมอย่างต่อเนื่อง รถสปอร์ตปิคอัพพลังแรงมาสด้า บีที-50 ที่มาพร้อมระบบช่วงล่างอัจฉริยะ DE-S ทั้งแน่นและหนึบ รถสปอร์ตโรดสเตอร์ที่ขายดีที่สุดในโลกมาสด้า เอ็มเอ็กซ์-ไฟท์ และรถสปอร์ครอสโอเวอร์สุดหรู 7 ที่นั่งมาสด้า ซีเอ็กซ์-ไนท์ นอกจากนี้ เรายังมอบข้อเสนอสุดพิเศษพลาดไม่ได้เฉพาะงานนี้เท่านั้นนอกจากยนตรกรรมสายพันธุ์สปอร์ตจากมาสด้าที่มากันครบทุกรุ่นแล้ว ที่สำคัญมาสด้ายังคงมุ่งมั่นเสริมสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งด้วยกลยุทธ์ของเราที่มุ่งให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นอันดับหนึ่ง ทั้งในด้านการขายและบริการหลังการขาย
โปรโมชั่นสุดพิเศษที่ให้คุณเป็นเจ้าของรถยนต์สปอร์ตสายพันธุ์จากมาสด้าได้ง่ายขึ้น ด้วยเงื่อนไขพิเศษสุดๆ ในงานมอเตอร์โชว์ และที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ
1. รถยนต์นั่งสปอร์ต All New Mazda3 เจเนอเรชั่นใหม่ รุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เปิดตัวพร้อมให้ประกันภัยชั้นหนึ่งหนึ่ง 1 ปีพร้อมกับตัวรถ พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง
2. รถยนต์นั่ง Mazda3 รุ่นเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร สามารถเติมน้ำมันแก็สโซฮอลล์ E20 ราคาเริ่มต้นเพียง 755,000 บาท ดอกเบี้ยอัตราพิเศษเพียง 0.99% เท่านั้น รับทันทีฟรีค่าบำรุงรักษานาน 3 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร ประกันภัยชั้นหนึ่งฟรี 1 ปี พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง
3. รถยนต์นั่งมาสด้า2 สปอร์ตซีดานใหม่ และมาสด้า2 สปอร์ตแฮตช์แบค 5 ประตู รับฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี พร้อมมอบแพ็คเก็จบำรุงรักษาตามระยะ 3 ปีหรือ 60,000 ก.ม. พร้อมกับตัวรถ
4. รถสปอร์ตปิคอัพช่วงล่างดี มาสด้า บีที-50 รับเงื่อนพิเศษดาวน์เริ่มต้นเพียง 49,999 บาท เพิ่มมูลค่ารถมาสด้าคันเก่าสูงถึง 20,000 บาท พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี
5. รถพรีเมียมสปอร์ตโรดสเตอร์ Mazda MX-5 หลังคาไฟฟ้า รับเงื่อนไขพิเศษด้วยการรับประกันคุณภาพนานถึง 5 ปีหรือ 140,000 กิโลเมตร มอบแพ็คเก็จบำรุงรักษาตามระยะ 3 ปีหรือ 100,000 ก.ม. พร้อมรับฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง
6. รถสปอร์ตครอสโอเวอร์สุดหรู 7 ที่นั่ง Mazda CX-9 มอบแพ็คเก็จบำรุงรักษาตามระยะ 3 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตร พร้อมประกันภัยชั้นหนึ่ง
พร้อมกันนี้รถยนต์มาสด้าทุกรุ่นยังรับประกันคุณภาพนานสูงสุดถึง 3 ปีหรือ 100,000 ก.ม. พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉินฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมงหรือ "24 Hrs Mazda Roadside Assistance" ฟรีนาน 3 ปี
ดังนั้น ลูกค้ามาสด้าทุกท่านไม่ควรพลาดโอกาสการในการเป็นเจ้าของยานยนต์สายพันธุ์สปอร์ตจากมาสด้า ที่ให้ความสนุกสนานในการขับขี่ที่เร้าใจ แบบ ซูม-ซูม ด้วยสมรรถนะเป็นเยี่ยม ให้ความมั่นใจในความปลอดภัย อบอุ่นใจตลอดการเดินทาง พร้อมทดลองขับก่อนตัดสินใจเป็นเจ้าของ และรับข้อเสนอสุดพิเศษจากมาสด้าได้แล้ววันนี้ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ หรือที่โชว์รูมมาสด้าทั้ง 120 แห่งทั่วประเทศ
http://www.mazda.co.th
Zoom-Zoom เราใส่ความเป็นสปอร์ตลงไปในรถทุกคันที่เราผลิต
-
เชฟโรเลต เผยโฉม โคโลราโด รถกระบะต้นแบบรุ่นใหม่

รูปทรงแข็งแกร่งสะท้อนตัวตนของรถกระบะรุ่นใหม่อันทรงพลัง
เชฟโรเลต เผยโฉมรถต้นแบบ โคโลราโด รุ่นใหม่ ที่ได้รับการพัฒนาจากดีเอ็นเอสายพันธุ์แกร่งของรถกระบะเชฟโรเลตที่ได้รับรางวัลมาแล้วมากมาย ก่อนนำออกโชว์ตัวสู่สายตาชาวไทยครั้งแรกในโลกที่งานบางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32 พร้อมเปิดตัวออกจำหน่ายจริงภายในปีนี้
“ตลาดรถกระบะในประเทศไทยมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ประเทศไทยจึงเหมาะสมที่สุดในการเผยโฉมโคโลราโด รุ่นใหม่ของเรา” มร.มาร์ติน แอพเฟล ประธานกรรมการ ประจำประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
“รถกระบะเชฟโรเลต โคโลราโด เจนเนอเรชั่นใหม่ จะมาพร้อมกับตำนานอันยาวนานร่วม 100 ปีซึ่งคว้ารางวัลมาแล้วมากมาย เรามีความภาคภูมิใจที่ได้ผลิตโคโลราโด รุ่นใหม่ในประเทศไทย และเชื่อมั่นว่าจะตรงกับความต้องการและตอบสนองต่อทุกการใช้งานของลูกค้าชาวไทย” มร.แอพเฟล กล่าว
ซูซาน โดเชอร์ตี้ รองประธานกรรมการฝ่ายการขาย การตลาด และบริการหลังการขาย เจนเนอรัล มอเตอร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล โอเปอเรชั่นส์ กล่าวว่า “รถกระบะได้อยู่เคียงคู่กับประวัติศาตร์อันยาวนานของเชฟโรเลตมาเป็นเวลาเกือบ 100 ปี และโคโลราโด เจนเนอเรชั่นใหม่นี้จะตอกย้ำความสมบูรณ์แบบทั้งด้านการออกแบบ ความพิถีพิถัน และประสิทธิภาพอันเหนือระดับได้อย่างแน่นอน”
รถกระบะเชฟโรเลต โคโลราโด ต้นแบบคันนี้ มาพร้อมกับรูปทรงที่แข็งแกร่งบึกบึน ตัวถังแบบเอ็กซ์เทนเดด-แค็บ หรือแบบ 2 ประตูพร้อมแค็บและที่นั่งด้านหลังคนขับ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ยกสูง สะดุดตาด้วยล้ออลูมิเนียมขนาด 20 นิ้วและยางแบบออฟโรด พร้อมสมรรถนะแห่งความแรงอันยอดเยี่ยมด้วยขุมพลังดีเซลเทอร์โบขนาด 2.8 ลิตร ให้แรงบิดต่อเนื่องตอบสนองทุกการใช้งาน และประหยัดเหนือชั้น
มร.แบรด เมอร์เคล ผู้บริหารระดับสูงด้านสายผลิตภัณฑ์ของจีเอ็ม กล่าวว่า “ถึงแม้จะเป็นเพียงรถต้นแบบ แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงแนวทางในการพัฒนารถกระบะเชฟโรเลต โคโลราโดรุ่นใหม่ในก้าวต่อไป โดยมีการวางแผนเพื่อเปิดตัวออกสู่ตลาดและจัดจำหน่ายจริงในปีนี้อย่างแน่นอน จากรูปลักษณ์อันแข็งแกร่ง ทรงพลัง ล้ำสมัย ตลอดจนเทคโนโลยีต่างๆ ที่จะถูกถ่ายทอดจากรถกระบะต้นแบบสู่รถเชฟโรเลต โคโลราโดรุ่นใหม่นี้ จะทำให้เชฟโรเลต โคโลราโดรุ่นใหม่ตอบสนองความต้องการในการใช้งานได้ทุกรูปแบบทั้งการใช้งานในเชิงพาณิชย์ ไปจนถึงการใช้งานอเนกประสงค์ทั่วๆไป”
โคโลราโด ได้รับการสร้างสรรค์จากหน่วยงานพัฒนาผลิตภัณฑ์ระดับโลกของจีเอ็ม โดยฝีมือทีมวิศวกรที่ทำงานอย่างพิถีพิถัน พร้อมกับการเข้ามาใช้ชีวิตในเมืองไทยนานหลายเดือนของทีมหัวหน้าวิศวกร ที่เฝ้าสังเกตภาวะตลาดรถเมืองไทย และการใช้งานรถกระบะของลูกค้าชาวไทย ตลอดจนสำรวจคุณภาพท้องถนนเกือบทั่วประเทศไทย เพื่อให้แน่ใจว่ารถกระบะรุ่นใหม่นี้จะตรงกับความต้องการของลูกค้าชาวไทยมากที่สุด
“รถกระบะ มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย และผู้ที่ใช้งานรถกระบะมีความภาคภูมิใจในรถของพวกเขาเป็นอย่างมาก เพราะพวกเขาสามารถใช้รถกระบะในการทำงาน และในชีวิตประจำวันส่วนตัวได้อย่างเต็มที่ ลูกค้ามีจุดประสงค์และความต้องการใช้งานรถกระบะให้คุ้มค่ามากที่สุด ดังนั้นเครื่องยนต์ และโครงสร้างตัวถังจะต้องมีความแข็งแกร่ง ทนทานและนั่นคือสิ่งที่เราพร้อมจะมอบให้ลูกค้าของเชฟโรเลต โคโลราโดรุ่นใหม่ล่าสุดคันนี้” มร.เมอร์เคล กล่าว
รายละเอียดการออกแบบ
เป้าหมายการออกแบบของรถต้นแบบโคโลราโด คือ การนำเสนอความแข็งแกร่งออกมาทางตัวถังที่มีขนาดใหญ่และมั่นคง ด้านหน้าโดดเด่นด้วยเอกลักษณ์กระจังหน้าสองชั้น และโลโก้โบไทสีทองอันโดดเด่นของเชฟโรเลตนำสายตาทุกคู่ไปสู่กรอบไฟหน้าที่พาดเฉียงขึ้นไปบนฝากระโปรงรถ ซึ่งเชื่อมต่อกับซุ้มล้อขนาดใหญ่ดูทรงพลัง
“การพัฒนารถกระบะทั่วโลก เกิดขึ้นจากการเชื่อมโยงกันระหว่างความแข็งแกร่ง การรองรับการขับขี่ และการใช้งาน ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าวนี้ถูกบรรจุอยู่ในรถต้นแบบโคโลราโดคันนี้” เอ็ด เวลเบิร์น รองประธาน จีเอ็ม โกลเบิล ดีไซน์ กล่าวพร้อมเพิ่มเติมว่า “ความบึกบึนด้านข้างของตัวถังรถเป็นการสานต่อเอกลักษณ์อันโดดเด่นของรถกระบะในตระกูลเชฟโรเลตมานานนับศตวรรษ”
สีสันของตัวถังด้านหน้ารถเลือกใช้สีเมทัลลิกชนิดพิเศษที่เรียกว่า ‘เปปเปอร์ดัสต์’ ตัดกับอลูมิเนียมขัดเงา เข้าคู่กับบันไดด้านข้างที่เป็นส่วนประกอบหนึ่งของตัวรถ การออกแบบกรอบไฟหน้าโคมดำพร้อมหลอดไฟแบบแอลอีดี เช่นเดียวกับไฟท้ายแบบแอลอีดีทั้งหมดจะสามารถดึงดูดสายตาทุกคู่ในยามค่ำคืน
การออกแบบตัวถังภายนอกส่วนอื่น ประกอบด้วย
- การออกแบบช่วงแค็บที่ไหลลื่น พร้อมปิดกระบะท้ายสีเดียวกับตัวถังรถ
- แถบสีเทาเข้ม พาดผ่านด้านหน้า ด้านข้าง และด้านท้ายรถ
- ล้ออลูมิเนียมขนาด 20 นิ้ว สีเทาเข้ม ตกแต่งแบบ “ลิควิด เมทัล”
- ยางออฟโรด คูเปอร์ ซีออน แอลทีแซด ขนาด 285/50 R20
- กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวแอลอีดี
ภายในห้องโดยสารแบบดูอัล-ค็อกพิท เป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของเชฟโรเลตที่เน้นความสมดุลลื่นไหลตลอดคอนโซลหน้าไปจนถึงแผงข้างประตู มีการแทรกดีไซน์แบบบิดโค้งเพื่อเพิ่มความล้ำสมัย แสงไฟในห้องโดยสารสีฟ้าไอซ์บลู เบาะหนังตัดเย็บอย่างพิถีพิถัน เน้นให้เห็นสัมผัสของความสะดวกสบาย กว้างขวาง และรื่มรมย์ตลอดการเดินทาง
มร.เวลเบิร์น กล่าวว่า “การออกแบบภายในของโคโลราโด เน้นให้ผู้โดยสารรู้สึกเหมือนได้รับคำเชิญชวนให้นั่งไปพร้อมกับความรู้สึกพิเศษ ด้วยความกว้างขวางที่เหนือกว่ารถกระบะค่ายอื่นในระดับเดียวกัน และในขณะเดียวกัน ทุกรายละเอียดของห้องโดยสาร จะได้รับการพัฒนามาเพื่อมอบคุณภาพสูงสุด ทั้งในด้านความรู้สึก หรือแม้แต่เพียงแค่การมองเห็น”
มาตรวัดแบบ 3 ช่อง โดดเด่นสะดุดตา ให้อารมณ์ความรู้สึกสปอร์ต และตอบสนองทุกการใช้งานได้อย่างชัดเจน
ภายในห้องโดยสารเน้นโทนสีต่างเพิ่มความหรูหรา เบาะหนังสีอ่อนตัดกับลายไม้สีเข้มและโครเมียม พร้อมพื้นผิวที่ไม่มีความมันมากนัก และวัสดุอื่นๆที่ให้สัมผัสอ่อนนุ่ม ช่องเก็บของหลากหลายขนาดถูกติดตั้งทั่วห้องโดยสาร รวมถึงช่องเก็บของที่มีฝาปิดมิดชิดเพื่อเก็บของมีค่าและช่องเก็บของขนาดใหญ่บริเวณคอนโซลด้านหน้าแบบสองชั้นแสดงความหรูหราและตัวตนของเจ้าของรถ ตลอดจนช่วยสร้างความรู้สึกแบบพรีเมียมให้ผู้โดยสารแทบทั้งสิ้น
อุปกรณ์ในการอำนวยความสะดวกครบครัน ระบบปรับอากาศแบบแยกส่วน และระบบให้ความบันเทิงแบบ “อินโฟเทนเมนท์” เป็นเทคโนโลยีล่าสุดของเชฟโรเลต โคโลราโด ส่วนคอนโซลกลางติดตั้งหน้าจอแอลซีดีขนาด 7 นิ้วสำหรับระบบนำทางเนวิเกเตอร์ พร้อมฟังก์ชั่นการเชื่อมต่อเว็บไซต์ การปรับเลือกเพลง และการใช้งานโทรศัพท์แบบแฮนด์ฟรี
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมของรถกระบะเชฟโรเลต โคโลราโด จะได้รับการเปิดเผยอีกครั้งภายในปีนี้
ท่านสามารถติดตามรายละเอียดอย่างของเชฟโรเลต โคโลราโดได้อย่างใกล้ชิดก่อนใครที่ www.gmthailand.com
เกี่ยวกับ เชฟโรเลต
เชฟโรเลต ก่อตั้งในปีพ.ศ. 2454 ปีนี้จึงเป็นปีแห่งการเฉลิมฉลองครบรอบหนึ่งศตวรรษแห่งความสำเร็จ โดยเมื่อปีที่แล้ว เชฟโรเลต มียอดจำหน่าย 4.25 ล้านคันในมากกว่า 120 ประเทศทั่วโลก เชฟโรเลต มอบยานยนต์คุณภาพ ทั้งในด้านความประหยัดเชื้อเพลิง ความปลอดภัย สมรรถนะการขับขี่อันยอดเยี่ยม การออกแบบอันโดดเด่น และความคุ้มค่า ยานยนต์แบรนด์เชฟโรเลต ประกอบด้วยรถสปอร์ต อาทิ คอร์เวทท์ และคามาโร รถอเนกประสงค์เอสยูวีและรถปิกอัพ อาทิ ซิลเวอร์ราโด และเซอเบอร์แบน รถยนต์นั่งที่ได้รับรางวัลมามากมายและรถครอสโอเวอร์ อาทิ สปาร์ก ครูซ มาลิบู อิควิน็อกซ์ และทราเวิร์ส เชฟโรเชต ยังมอบรถประหยัดพลังงาน อย่างครูซ อีโค และโวลต์ ข้อมูลเพิ่มเติมของเชฟโรเลต เข้าชมได้ที่ www.chevrolet.com
สำหรับข้อมูลหรือรูปภาพเพิ่มเติมสามารถเยี่ยมชมเวบไซต์www.gmthailand.com, www.chevroletthailand.com, www.facebook.com/generalmotorsthailand
สำหรับข้อมูลหรือรูปภาพเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
ปภาดา ตวงหิรัญวิมล หรือสถาปนา กาญจนประกร
เวเบอร์ แชนวิค
บริษัท แมคแคน เวิลด์กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด
โทร. 02 343 6057
อีเมล์: Paphada@webershandwick.com, Satapana@webershandwick.com
หรือ
ศศินันท์ ออลแมนด์
ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ประจำประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน
บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด
โทร. 0-2791-3400 โทรสาร 0-2937-0171
อีเมล์: sasinan.allmand@gm.com
-
เอเอเอส กรุ๊ป ขนทัพรถหรูปอร์เช่ เบนท์ลี่ย์ และจากัวร์ ร่วมโชว์ในงานมอเตอร์โชว์ 2011
เอเอเอส กรุ๊ป (AAS Group) ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่ เบนท์ลี่ย์และจากัวร์ อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ศูนย์รวมสุดยอดนวัตกรรมยานยนต์ระดับโลกขนทัพรถหรูปอร์เช่ เบนท์ลี่ย์ และจากัวร์ เข้าร่วมงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32 พร้อมประกาศและตอกย้ำความเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย โดยภายในงานท่านจะมีโอกาสได้สัมผัสสุดยอดนวัตกรรมยานยนต์อย่างใกล้ชิด อาทิเช่น เบนท์ลี่ย์ มูซาน (Bentley Mulsanne) รถยนต์ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น Flagship ของเบนท์ลี่ย์ , ปอร์เช่ จีที3 อาร์เอส (GT3 RS) รถแข่งที่สามารถขับขี่บนท้องถนนได้ และจากัวร์ เอ็กซ์เจ ดีเซล (XJ Diesel) เครื่องยนต์ดีเซลคันแรกของจากัวร์
โดยในงานนี้เอเอเอส กรุ๊ปในฐานะผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่ เบนท์ลี่ย์และจากัวร์ อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยและรถทุกคันที่ทางเอเอเอส กรุ๊ป นำเข้าและจัดจำหน่าย จะผ่านการทดสอบ โฮโมโลเกชั่น (Homologation) ของประเทศไทยอย่างถูกต้องและเต็มกระบวนการที่จำเป็นและสำคัญสำหรับการนำมาใช้งานในประเทศไทย ระบบจัดการของเครื่องยนต์ที่ได้รับการปรับแต่งและปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับกฎระเบียบและสภาพภูมิประเทศของประเทศไทยอย่างดีที่สุด รวมถึงยังมีศูนย์บริการของรถยนต์ปอร์เช่ เบนท์ลี่ย์และจากัวร์ ที่ได้มาตรฐานตามโรงงานกำหนดไว้ พร้อมทั้งมีทีมวิศวกร (Service Teams) ที่มากประสบการณ์ ซึ่งได้รับการฝึกอบรมจากทางโรงงานโดยตรง พร้อมให้การดูแลและบริการรถยนต์ปอร์เช่ เบนท์ลี่ย์และจากัวร์ของท่าน โดยลูกค้าสามารถมั่นใจในบริการที่จะได้รับ หากซื้อรถยนต์กับเอเอเอส กรุ๊ปแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการบริการหลังการขายที่ได้คุณภาพโดยตรงจากโรงงานรถยนต์นั้นๆ ราคาที่เสียภาษีนำเข้ารถยนต์อย่างถูกต้องตามกฎหมายและคุณภาพของรถยนต์ที่ได้มาตรฐาน ไม่เพียงเท่านั้นทางเอเอเอส กรุ๊ป ยังได้มีแคมเปญสุดพิเศษมามอบให้ลูกค้าที่ซื้อรถภายในงานนี้ อาทิ :
ซื้อรถยนต์ปอร์เช่ (Porsche) รุ่น Cayenne S Hybrid และ Panamera S Hybrid รับทันทีข้อเสนอพิเศษ ผ่อนสบาย 0% นาน 36 เดือน พร้อมรับประกันจากโรงงานปอร์เช่เยอรมนีนาน 9 ปี
ซื้อรถยนต์เบนท์ลี่ย์ (Bentley) ทุกรุ่น รับข้อเสนอสุดพิเศษ และรับประกันจากโรงงานเบนท์ลี่ย์ประเทศอังกฤษ 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
ซื้อรถยนต์จากัวร์ (Jaguar) รับข้อเสนอสุดพิเศษ เฉพาะในงานนี้ Jaguar Premium Care 5 ปี หรือ 120,000 กม.
นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอพิเศษอื่นๆ อีกมากมายที่ทาง AAS Group ได้จัดเตรียมให้ทุกท่านร่วมสัมผัสและค้นหา ความสุนทรีย์ของสุดยอดนวัตกรรมยานยนต์กันอย่างใกล้ชิดในงาน Motor Show 2011 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี อาคาร ชาเลนเจอร์ 1-3 ตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค. - 5 เม.ย. 2554 นี้
-
เล็กซ์ซัส กรุงเทพ พร้อมลุยยอดขายมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32 หลังขึ้นแท่นกวาดรางวัลพนักงานขายดีเด่น

เล็กซ์ซัส กรุงเทพ เตรียมเผยรถแฮชแบคไฮบริด “CT200h” ในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32 พร้อมโชว์รถรุ่นต่าง ๆ ครบไลน์ เพิ่มความร้อนแรงในงาน ตั้งเป้ายอดขายตลอดงานทะลุ 50 คัน
สุทธิกัญญา ไทยเพ็ชร ผู้อำนวยการขาย บริษัท เล็กซ์ซัส กรุงเทพ จำกัด เปิดเผยว่า “จากการที่บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้จัดงาน Lexus Dealer Annual Meeting 2011 เพื่อมอบรางวัลให้กับพนักงานขายดีเด่นประจำปี 2554 ที่ผ่านมานั้น ในปีนี้พนักงานขายของบริษัทฯ ได้รับรางวัลพนักงานขายดีเด่น โดยกวาดมาทั้งหมด 7 รางวัล ได้แก่ รางวัลพนักงานขายยอดเยี่ยม ซึ่งผ่านหลักเกณฑ์ในการพิจารณาพนักงานดีเด่นหลักๆ มีดังนี้ 132 คันโดยได้รับการจัดอันดับเป็นลีดเดอร์ดีลเลอร์ ครองแชมป์ยอดขายสูงสุดแห่งปี ตอกย้ำความสำเร็จสู่การเป็นดีลเลอร์เลกซัส อันดับ 1 ของประเทศไทย
โดยในงานมอเตอร์โชว์ครั้งที่ 32 ซึ่งจะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 25 มีนาคม ถึง 5 เมษายน ในปีนี้ เล็กซ์ซัส กรุงเทพ เตรียมนำรถเลกซัส CT200h มาโชว์ในงาน ซึ่งถือเป็นไฮบริดแฮทช์แบครุ่นแรกของเลกซัส และคันแรกของโลก ด้วยระบบไฮบริดเต็มรูปแบบรุ่นแรกและรุ่นเดียวในเซ็กเม้นท์รถขนาดคอมแพ็คท์ระดับพรีเมี่ยม ด้วยการยึดหลักการออกแบบของคอนเซ็พท์คาร์ LF-Ch ทำให้รูปลักษณ์ของ CT 200h มีเส้นสายที่คมหนักแน่น และเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นจากคู่แข่งทั้งหมดในตลาด ออกแบบและสร้างสรรค์ตามปรัชญา “Yet Philosophy” อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเลกซัส สะท้อนความหรูหรา โฉบเฉี่ยว ก้าวล้ำด้านนวัตกรรม และความปลอดภัยระดับโลก ด้วยเทคโนโลยีใหม่ทันสมัย รวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกระดับเฟิร์สคลาส ด้วยแนวคิดอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกับเทคโนโลยีการผลิตที่รับผิดชอบต่อสังคม และระบบ Lexus Hybrid Drive ตามมาตรฐานระดับโลกของเลกซัส นับเป็นอีกหนึ่งโมเดลจากเลกซัสที่ช่วยตอกย้ำความเป็นผู้นำด้าน Hybrid Technology รวมทั้งมีความสำคัญต่อแบรนด์เลกซัส โดยถือเป็นโมเดลเริ่มต้นในการช่วยเพิ่มลูกค้ากลุ่ม Young Generation และเติมความหนุ่มสาวให้กับแบรนด์ สามารถเป็นเจ้าของได้ง่าย และที่สำคัญประหยัดน้ำมันในยุคที่ราคาน้ำมันแพง ซึ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นำมาร่วมแสดงเป็นไฮไลท์ของงานในครั้งนี้ นอกจากนี้ยังมียนตรกรรมรุ่นต่าง ๆ อาทิ RX270 โดดเด่นทั้งด้านรูปลักษณ์และประโยชน์ใช้สอยซึ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมี IS250 ที่มาพร้อมดีไซน์โฉบเฉี่ยวสุดเร้าใจ และสมรรถนะที่เป็นเยี่ยม ซึ่งนอกจากกลยุทธ์สำคัญในด้านบริการก่อนและหลังการขายภายใต้มาตรฐานการให้บริการแบบเอ็กซ์คลูซีฟด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพแล้ว ยังมีแผนการจัดกิจกรรมทางการตลาดที่หลากหลาย อาทิ เทสไดร์, โรดโชว์โดยยึดพื้นที่ตามหัวเมืองใหญ่ ทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด อาทิ ขอนแก่น, ภูเก็ต เป็นต้น ประกอบกับข้อเสนอพิเศษที่บริษัทฯ ได้มอบให้กับลูกค้าในงานมอเตอร์โชว์ คือ ลูกค้าที่จอง LEXUS ในงานมอเตอร์โชว์ มีสิทธิลุ้นรับ แม็ก 17 นิ้ว พร้อมยาง จำนวน 3 ชุด ทำให้เชื่อว่าเลกซัสจะสามารถทำยอดขายในงานมอเตอร์โชว์ได้กว่า 50 คัน อย่างแน่นอน” สุทธิกัญญา กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับลูกค้าที่สนใจสามารถเข้าชม พร้อมทดลองขับยนตกรรมของเลกซัสได้ในงานมอเตอร์โชว์ครั้งที่ 32 ที่บูธเล็กซ์ซัส กรุงเทพ อาคารชาเลนเจอร์ ฮอล์ล 2 เมืองทองธานี ในวันที่ 25 และ 29 มีนาคม และ 1 2 และ 5 เมษายน หรือที่โชว์รูมรถยนต์เล็กซ์ซัส กรุงเทพ พระราม9 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 0-2716-8999
-
ราชยานยนต์ฯเปิดตัวเจ้าหนูแซนดี้ในบางกอกมอเตอร์โชว์ 2011

ราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดตัว เจ้าหนูแซนดี้ สตูวิค นักซิ่งไทย วัย 15 ปี แชมป์เอเชี่ยนฟอร์มูล่าเรโนลด์ 2010 เป็นตัวแทนนักกีฬาไทย เข้าร่วมชิงชัยในศึกฟอร์มูล่าเรโนลด์ยูโรคัพ 2011 พร้อมแถลงรายละเอียด วันเสาร์ที่ 26 มีนาคม 2554 เวลา 16.00 น. ในงานบางกอกมอเตอร์โชว์ 2011 บูธราชยานยนต์สมาคมฯ เลขที่ 6/4 ฮอลล์2 อาคารชาเลนเจอร์ 2 อิมแพค เมืองทองธานี งานนี้ท่านสื่อมวลชน และบรรดาแฟนคลับของแซนดี้ พลาดไม่ได้ซะแล้ว !!!
-
เมอร์เซเดส-เบนซ์เปิดตัว 5 ยนตรกรรมโฉมใหม่สุดตระการตา ฉลองครบรอบ 125 ปี เมอร์เซเดส-เบนซ์ทั่วโลก ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์

- ฉลองครบ 125 ปีแห่งความสำเร็จของเมอร์เซเดส-เบนซ์ชมการแสดงรถยนต์คันแรกของโลก “Benz Patent Motor Car”
- พบกับโฉมใหม่ล่าสุด The new SLK-Class, The new CLS-Class, The new generation CL-Class, G 55 AMG, The new Vito ตามด้วยสุดยอดยนตรกรรมอีกกว่า 20 คัน ครบครันในทุกเซ็กเมนต์
- สัมผัสมิติใหม่ของบูธเมอร์เซเดส-เบนซ์ กับการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่เป็นแห่งแรกของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในเอเชีย
- ชมตำนานนวัตกรรมยานยนต์ด้วยโชว์สุดตระการตาด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริงล้ำยุค Augmented Reality สี่มิติเป็นครั้งแรกในประเทศไทย
- พบกับแคมเปญพิเศษ ลุ้นรับทองคำหนัก 125 บาท มูลค่ากว่า 2.5 ล้านบาท
ศาสตราจารย์ ดร. อเล็กซานเดอร์ เพาฟเลอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 125 ปีของการเป็นผู้นำนวัตกรรมยานยนต์ระดับโลกที่เพียบพร้อมด้วยองค์ประกอบด้านการออกแบบอันน่าหลงใหลและทันสมัย พร้อมด้วยคุณภาพอันเป็นเลิศ และมีมาตรฐานความปลอดภัยสูง ดังนั้นแนวคิดในการออกแบบบูธเพื่อจัดแสดงสุดยอดยนตรกรรมจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งนี้จึงเป็นรูปโฉมใหม่ที่แตกต่างจากปีอื่นๆ ที่ผ่านมา ที่จะสะท้อนถึงความมีพละกำลัง แรงขับเคลื่อน และความเป็นผู้นำ ซึ่งนับเป็นการเปิดตัวภาพลักษณ์ใหม่ของเมอร์เซเดส-เบนซ์เป็นแห่งแรกของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในเอเชีย
“ไฮไลท์พิเศษของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ปีนี้ คือ การฉลองครบรอบ 125 ปีแห่งนวัตกรรมของเมอร์เซเดส-เบนซ์ เมื่อ Carl Benz ได้ประดิษฐ์รถยนต์คันแรกของโลกและจดทะเบียนลิขสิทธิ์เมื่อวันที่ 29 มกราคม 1886 เมอร์เซเดส-เบนซ์ประเทศไทยจึงถือโอกาสนี้เปิดตัวยนตรกรรมใหม่ถึง 6 รุ่นด้วยกัน โดยเริ่มจากการนำเสนอรถยนต์สามล้อต้นแบบ “เบนซ์ เพเทนท์ มอเตอร์ คาร์” ซึ่งถือเป็นยนตรกรรมคันแรกของโลกมาโชว์ในงานเคียงคู่กับ The new CLS-Class ซึ่งเป็นยนตรกรรมโฉมใหม่รุ่นล่าสุด สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของนวัตกรรมยานยนต์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ตั้งแต่อดีตที่ผ่านมาจวบจนปัจจุบันและสู่อนาคตอย่างยั่งยืน นอกจาก The new CLS-Class ยังเปิดตัว The new SLK-Class โดยยนตรกรรมโฉมใหม่ทั้งสองรุ่นพร้อมที่จะอวดโฉมความร้อนแรงแต่เปี่ยมไปด้วยขุมพลังอันทรงประสิทธิภาพที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีเครื่องยนต์ที่พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด BlueEFFICIENCY นวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่ให้กำลังและแรงบิดที่มากขึ้นกว่ารถรุ่นก่อนแต่ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้มากกว่าเดิมถึง 25%
นอกจากนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังมีการนำเสนอยนตรกรรมใหม่ที่โดดเด่นอีก ได้แก่ CL 500 BlueEFFICIENCY ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ BlueDIRECT แบบ V8 ด้วยสมรรถนะการเผาผลาญน้ำมันเชื้อเพลิงน้อยกว่าเครื่องยนต์รุ่นเดิมมากกว่า 20% การเปิดตัวรถยนต์ตู้แวนใหม่ล่าสุด The new Vito ที่มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง หรูหราและสะดวกสบายเหมาะทั้งใช้งานธุรกิจและครอบครัว และการจัดแสดงรถยนต์ G-Class รุ่น G 55 AMG รถยนต์ออฟโรดขับเคลื่อน 4 ล้อ” ดร.เพาฟเลอร์ กล่าว
The new SLK 350 BlueEFFICIENCY Roadster
The new SLK 350 BlueEFFICIENCY ตระกูลเมอร์เซเดส-เบนซ์ เอสแอลเค โรดสเตอร์ สปอร์ตระดับไฮคลาสรุ่นใหม่นี้เป็นรุ่นที่สามของตระกูล SLK รูปลักษณ์ภายนอกบริเวณด้านหน้าปรับปรุงใหม่หมดที่ให้ความสปอร์ตและคลาสสิคขึ้นโดยได้รับอิทธิพลมาจากรุ่นซุปเปอร์สปอร์ตคาร์ย้อนยุค SLS AMG ประตูปีกนก ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานนี้ เครื่องยนต์ทรงพลัง V6 ความจุกระบอกสูบ 3,498 ซีซี กำลังสูงสุด 225 กิโลวัตต์ / 306 แรงม้าที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตรที่ 3,500 รอบ/นาที อัตราเร่งจาก 0 - 100 กม./ชม. ภายในระยะเวลา 5.6 วินาที และความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. มาพร้อมกับหลังคาแบบใหม่ล่าสุด panoramic vario-roof แบบ MAGIC SKY CONTROL ที่สามารถปรับระดับความสว่างได้
The new CLS 350 BlueEFFICIENCY
The new CLS 350 รถยนต์คูเป้สี่ประตูโฉมใหม่ที่ได้รับการออกแบบทั้งรูปลักษณ์ภายนอกและภายในใหม่หมดจดของรุ่นที่สอง ด้านหน้าได้รับการออกแบบพิเศษให้ปราดเปรียวขึ้น พร้อมกระจังหน้ารูปตัว V-shaped ลายเส้นนูนโค้งเว้าด้านข้างมีมิติและสวยสะดุดตาเน้นย้ำความปราดเปรียวเด่นชัดมากขึ้น ด้านท้ายโค้งมนให้ความสปอร์ต พร้อมไฟท้ายแบบ LED ประสิทธิภาพสูง CLS ใหม่มาพร้อมเครื่องยนต์ V6 ความจุกระบอกสูบ 3,498 ซีซี กำลังสูงสุด 225 กิโลวัตต์ / 306 แรงม้าที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตรที่ 3,500 -5,250 รอบ/นาที อัตราเร่งจาก 0 - 100 กม./ชม. ภายในระยะเวลา 6.1 วินาที และความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. ให้ความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงกว่ารุ่นก่อนถึง 25%
The new generation CL-Class
The new generation CL-Class ยนตรกรรมล่าสุดในกลุ่ม CL-Class บทสรุปแห่งสุดยอดรถยนต์คูเป้ระดับไฮเอ็นด์ มาพร้อมเครื่องยนต์ขุมพลัง V8 ไบเทอร์โบดีไซน์ใหม่ขนาด 320 กิโลวัตต์ 435 แรงม้าในรุ่น CL 500 BlueEFFICIENCY มีอัตราสิ้นเปลืองโดยเฉลี่ยเพียง 9.5 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร และโดดเด่นด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด BlueDIRECT สามารถประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้มากถึง 23 เปอร์เซ็นต์ และยังปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่ชั้นบรรยากาศลดลงจาก 288 กรัมเป็น 224 กรัมต่อกิโลเมตร
The new Vito
The new Vito ยนตรกรรมอเนกประสงค์ระดับหรูโฉมใหม่ที่โดดเด่นทั้งรูปลักษณ์ภายในและภายนอก ตอบสนองการใช้งานได้อย่างหลากหลายและลงตัว ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล แถวเรียง 4 สูบ เทอร์โบพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ความจุกระบอกสูบ 2,148 ซีซี ขุมพลัง 110 กิโลวัตต์/ 150 แรงม้าที่ 3,800 รอบ/นาที มีแรงบิดสูงสุดที่ 330 นิวตันเมตรที่ 1,800 – 2,400 รอบ/นาที อัตราเร่งจาก 0 - 100 กม./ชม. ภายในระยะเวลา 12.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 180 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองโดยเฉลี่ยเพียง 8.1 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร พรั่งพร้อมด้วยระบบความปลอดภัยตามมาตรฐานเมอร์เซเดส-เบนซ์
G 55 AMG: ออฟโรดสมบุกสมบันพร้อมความแรงสไตล์ AMG
เป็นครั้งแรกที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้นำรถ G-Class เข้ามาแสดงในไทย โดย G-Class เป็นรถออฟโรด SUV สมบุกสมบันกว่าทุกคลาสของเมอร์เซเดส-เบนซ์ และเมื่อ Mercedes-AMG นำรุ่นนี้มาโมดิฟายเป็น G 55 AMG จึงให้พละกำลังพร้อมความแรงระดับ AMG ที่ดุดันขึ้นแต่ยังแฝงรูปลักษณ์สไตล์คลาสสิก ด้วยเครื่องยนต์ V8 ขนาดความจุ 5.5 ลิตร พร้อมระบบซูเปอร์ชาร์จ สามารถให้ขุมพลังถึง 373 กิโลวัตต์/ 507 แรงม้า มีแรงบิดสูงสุดที่ 700 นิวตันเมตร มีอัตราเร่งจาก 0 - 100 กม./ชม. ภายในระยะเวลา 5.5 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม. นอกจากนี้ยังเพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยต่างๆ ครบครัน
นอกจากไฮไลท์ข้างบนดังกล่าวเมอร์เซเดส-เบนซ์ยังได้เตรียมขนขบวนสุดยอดยนตรกรรมรวมทั้งสิ้นกว่า 20 คันในทุกเซ็กเมนต์ ภายใต้แนวคิด “BlueEFFICIENCY” นวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ทั้งที่เป็นเครื่องยนต์เบนซินแบบ CGI, เครื่องยนต์ดีเซล CDI และเครื่องยนต์ใหม่ล่าสุด BlueDIRECT ที่จะทำให้มีขนาดเล็กลง แต่ให้พละกำลังสูง ที่สำคัญเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยสามารถลดคาร์บอนไดออกไซด์จากท่อไอเสียได้มากขึ้นและให้ความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น
ยนตรกรรม C-Class
รถยนต์ยอดนิยมอย่างเมอร์เซเดส-เบนซ์ C-Class ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นรถยนต์ที่ให้ความสนุกในการขับขี่อย่างยิ่งนั้น รุ่นที่บริษัทนำมาแสดงในงานนี้ คือ
- C 200CGI BlueEFFEICIENCY ELEGANCE,
- C 250CDI BlueEFFEICIENCY AVANTGARDE, และ
- C 250CGI BlueEFFEICIENCY AVANTGARDE
ยนตรกรรม E-Class
ยนตรกรรมยอดนิยมของเมอร์เซเดส-เบนซ์อย่าง E-Class นั้น บริษัทได้นำรุ่น
- E 200CGI BlueEFFEICIENCY ELEGANCE,
- E 250CDI BlueEFFEICIENCY ELEGANCE,
- E 250 BlueEFFICIENCY AVANTGARDE พร้อมชุดแต่ง MercedesSport และ
- E 300 AVANTGARDE Sport
นอกจากนี้ยังมีเมอร์เซเดส-เบนซ์ S-Class รุ่น S 300 L และ S 350 CDI BlueEFFICIENCY L รวมถึง Niche models อาทิรุ่น E 250 CGI BlueEFFICIENCY AVANTGARDE Estate, E 250CGI BlueEFFICIENCY AVANTGARDE Cabriolet, E 250CGI BlueEFFICIENCY AVANTGARDE Coupé, R 300 CDI 4MATIC Executive with Panoramic glass sunroof และ ML 300 CDI BlueEFFICIENCY Premium Edition
ไม่เพียงแต่สุดยอดยนตรกรรมใหม่ล่าสุดที่เมอร์เซเดส-เบนซ์เตรียมมาอวดโฉมให้ทุกท่านได้ชมพร้อมกันครั้งแรกในงานนี้เท่านั้น แต่ในฐานะผู้นำแห่งนวัตกรรมยานยนต์ที่ทุกๆ ปีจะมีผู้ชมเฝ้าติดตามการแสดงใหม่ๆ จากเมอร์เซเดส-เบนซ์ด้วยเช่นกัน เพื่อสร้างสีสันและดึงดูดความสนใจจากทั้งสื่อมวลชนและผู้เข้าชมงาน สำหรับในปีนี้ถือเป็นปีพิเศษฉลอง 125 ปีแห่งนวัตกรรมเมอร์เซเดส-เบนซ์ การจัดแสดงโชว์ภายในบูธเมอร์เซเดส-เบนซ์จะโดดเด่นเป็นพิเศษอีกครั้ง และถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทยด้วยการนำเอาเทคโนโลยีเสมือนจริง Augmented Reality หรือ AR สี่มิติมาใช้ในการแสดงโชว์ชุดพิเศษ “The world without an innovator”
เพื่อถ่ายทอดตำนานแห่งความสำเร็จแห่งนวัตกรรมยานยนต์ ในฐานะผู้บุกเบิกโลกแห่ง ยนตรกรรม และความเป็นผู้นำเทคโนโลยีชั้นนำของโลกไว้อย่างตระการตา และประทับใจผู้ชมมากที่สุด
โปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าภายในงาน
นอกเหนือจากขบวนรถมากมายที่นำมาจัดแสดงภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์แล้ว เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังจัดโปรโมชั่นพิเศษเนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 125 ปีแห่งการบุกเบิกโลกยนตรกรรมดังนี้
1. สำหรับผู้สั่งซื้อรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ทุกรุ่นภายในงาน (ยกเว้นรถยนต์เพื่อการพาณิชย์) จะได้รับสิทธิ์ร่วมลุ้นเป็นผู้โชคดีได้รับทองคำหนัก 125 บาท มูลค่ากว่า 2.5 ล้านบาท
2. ดอกเบี้ยเพียง 1.25% นานสูงสุดถึง 60 เดือน สำหรับรุ่น C 200 CGI *และ 1.25% นานสูงสุด 48 เดือน สำหรับรุ่น E 200 CGI และ S 300 L *(เฉพาะรุ่นที่ร่วมรายการเท่านั้นและเป็นไปตามเงื่อนไขของบริษัทฯ)
3. เบี้ยประกันภัยชั้นหนึ่งราคาพิเศษเพียง 12,500 บาท (เฉพาะรุ่นที่ร่วมรายการเท่านั้นและเป็นไปตามเงื่อนไขของบริษัทฯ)
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ขอเชิญท่านพบกับขบวนสุดยอดยนตรกรรมรุ่นใหม่ล่าสุดและยนตรกรรมหลากหลายรุ่นที่มาพร้อมกับเทคโนโลยียานยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อมในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ พร้อมร่วมชมเทคโนโลยีอันล้ำสมัยกับการแสดงโชว์ AR 4 มิติ ตำนานแห่งการบุกเบิกโลกยนตรกรรม และสัมผัสมิติใหม่ของการจัดแสดงบูธยนตรกรรมของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม ถึง 5 เมษายน 2554 นี้ ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานี
-
สัมผัสรถต้นแบบ เชฟโรเลต โคโลราโด ที่งานมอเตอร์โชว์ ก่อนใครในโลก!

- เผยโฉมครั้งแรกในโลก รถกระบะต้นแบบ เชฟโรเลต โคโลราโด
- ฉลองครบรอบ 100 ปี เชฟโรเลต
- ชมรถกระบะคลาสสิกของเชฟโรเลต
- โปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าที่จับจองในงาน
เชฟโรเลต ประเทศไทย เผยโฉมรถกระบะต้นแบบ เชฟโรเลต โคโลราโด รุ่นใหม่ล่าสุดสู่สายตาชาวไทยครั้งแรกในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 32 โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์อันบึกบึน แข็งแกร่งสะท้อนดีเอ็นเอรถกระบะอเมริกันพันธุ์แกร่งของเชฟโรเลต ที่เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการภายในปีนี้อย่างเต็มตัว
“ประเทศไทย มีตลาดรถกระบะที่ใหญ่ที่สุดในโลก ไทยจึงเป็นประเทศที่เหมาะสมที่สุดในการเผยโฉมรถต้นแบบ โคโลราโด รุ่นใหม่ล่าสุดของเรา” มร.มาร์ติน แอพเฟล ประธานกรรมการ ประจำประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด
รถกระบะเชฟโรเลต โคโลราโด ต้นแบบคันนี้ มาพร้อมกับรูปทรงที่แข็งแกร่งบึกบึน ตัวถังแบบเอ็กซ์เทนเดด-แค็บ หรือแบบ 2 ประตูพร้อมแค็บและที่นั่งด้านหลังคนขับ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ยกสูง สะดุดตาด้วยล้ออลูมิเนียมขนาด 20 นิ้วและยางแบบออฟโรด พร้อมสมรรถนะแห่งความแรงอันยอดเยี่ยมด้วยขุมพลังดีเซลเทอร์โบขนาด 2.8 ลิตร ให้แรงบิดต่อเนื่องตอบสนองทุกการใช้งาน และประหยัดเหนือชั้น
โคโลราโด ได้รับการสร้างสรรค์จากหน่วยงานพัฒนาผลิตภัณฑ์ระดับโลกของจีเอ็ม โดยฝีมือทีมวิศวกรที่ทำงานอย่างพิถีพิถัน พร้อมกับการเข้ามาใช้ชีวิตในเมืองไทยนานหลายเดือนของทีมหัวหน้าวิศวกร ที่เฝ้าสังเกตภาวะตลาดรถเมืองไทย และการใช้งานรถกระบะของลูกค้าชาวไทย ตลอดจนสำรวจคุณภาพท้องถนนเกือบทั่วประเทศไทย เพื่อให้แน่ใจว่ารถกระบะรุ่นใหม่นี้จะตรงกับความต้องการของลูกค้าชาวไทยมากที่สุด
นอกจากกระบวนการพัฒนาโคโลราโด ในประเทศไทยเช่นนี้แล้ว ทีมวิศวกรของจีเอ็ม ยังศึกษาแนวทางการตลาดของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อให้เหมาะสมลงตัวกับการความต้องการลูกค้าอีกด้วย
นอกจากการโชว์รถต้นแบบ โคโลราโด แล้ว เชฟโรเลต ยังนำรถกระบะสุดคลาสสิคมาจัดแสดงอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นเชฟโรเลต ซูพีเรียร์ ซีรีส์ เอ็กซ์ ปี 1926 เชฟโรเลต 3100 ซีรีส์ สเตปไซด์ ปี 1956 และรถกระบะเชฟโรเลต รุ่นปี 1960 ที่ผ่านเส้นทางมาถึง 16,100 กิโลเมตร
“การนำรถกระบะคลาสสิกมาโชว์ เพื่อแสดงให้เห็นถึงตำนานอันยาวนานเกือบ 100 ปีของเชฟโรเลต ซึ่งถูกถ่ายทอดสู่รถต้นแบบโคโลราโด รุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมกับการเฉลิมฉลองความสำเร็จและเปิดศตวรรษใหม่ของเชฟโรเลตอีกด้วย” มร.มาร์ติน กล่าว
มร.อันโตนิโอ ซาร่า รองประธานฝ่ายขาย การตลาด และบริการหลังการขาย บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แม้โคโลราโด ที่บริษัทฯ นำมาโชว์จะเป็นรถต้นแบบ แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงตำนานความแข็งแกร่งของรถกระบะที่อัดแน่นอยู่ในรถโคโลราโด เจนเนอเรชั่นใหม่ ที่เตรียมจะเปิดตัวออกสู่ตลาดอย่างเป็นทางการในอนาคตอันใกล้
ความบึกบึนแข็งแกร่ง สมรรถนะอันยอดเยี่ยม และเทคโนโลยีอันล้ำหน้าของรถต้นแบบโคโลราโด จะถูกถ่ายทอดสู่รถกระบะโคโลราโด รุ่นใหม่ล่าสุดของเรา ซึ่งได้รับการออกแบบให้รองรับทุกการใช้งาน ทั้งเชิงพาณิชย์ และการใช้งานส่วนตัว บนถนนธรรมดาทั่วไป และสมบุกสมบันบนเส้นทางออฟโรด
ผู้เยี่ยมชมบูธเชฟโรเลต ยังจะได้สัมผัสรถแข่งต้นแบบเชฟโรเลต ครูซ ดับบลิวทีซีซี (World Touring Car Championship) ของมร.อีวาน มุลเลอร์ นักแข่งแชมป์โลกชาวฝรั่งเศส ซึ่งได้รับการพัฒนาจากรถเชฟโรเลต ครูซ รุ่นที่ออกวางจำหน่ายทั่วไป กลายเป็นรถแข่งสุดร้อนแรงที่ทำให้ทีมแข่งเชฟโรเลต สามารถคว้าแชมป์โลก ทั้งประเภทนักแข่ง และทีมผู้ผลิตมาครองได้อย่างยิ่งใหญ่เมื่อปี 2010 ที่ผ่านมา
“รถแข่งเชฟโรเลต ครูซ ดับบลิวทีซีซี ทั้งคันที่ใช้แข่งจริง คันที่ใช้จัดแสดง หรือคันที่ใช้ทดสอบขับต่างๆ ล้วนได้รับการพัฒนาจากรถเชฟโรเลต ครูซ รุ่นปกติที่คนทั่วไปใช้ในชีวิตประจำวันทั้งสิ้น สิ่งนี้เองที่สะท้อนให้เห็นถึงพื้นฐานและสมรรถนะอันยอดเยี่ยมทางด้านวิศวกรรมของเชฟโรเลต ครูซ” มร.ซาร่า กล่าว
นอกเหนือจากรถกระบะต้นแบบเชฟโรเลต โคโลราโด รุ่นใหม่ล่าสุด และเชฟโรเลต ครูซ ดับบลิวทีซีซี ในบูธเชฟโรเลต ยังมีรถอีกหลายรุ่น ทั้งเชฟโรเลต ครูซ รถคอมแพกต์ซีดานระดับโลกที่มีให้เลือกชมครบทุกรุ่น ทั้งรุ่นเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร รุ่นเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร และรุ่นสูงสุดเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 2.0 ลิตร ที่มาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอย่างครบครัน
เชฟโรเลต ยังนำรถเอนกประสงค์สุดล้ำ แคปติวา ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.4 ลิตรรุ่นใหม่ให้พละกำลังมากกว่าเดิม ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงแต่ขุมพลังสุดแรงเท่านั้น แคปติวา ยังได้รับการติดตั้งระบบ 3DSS (3D Sound Stage) ระบบเครื่องเสียงเทคโนโลยีสามมิติจากยุโรปอีกด้วย เชฟโรเลต อาวีโอ CNG รถซับคอมแพกต์ซีดานเชื้อเพลิง 2 ระบบที่ให้ความประหยัดเหนือกว่ารถในระดับเดียวกัน พร้อมกันนี้ ผู้เยี่ยมชมบูธเชฟโรเลตจะได้รับข้อเสนอและโปรโมชั่นสุดพิเศษ อาทิ รับฟรีชุดแต่งสไตล์สปอร์ตรอบคัน พร้อมประกันภัยชั้นหนึ่งฟรี 1 ปี
ร่วมสัมผัสตำนานอันยิ่งใหญ่ 100 ปีเชฟโรเลต ได้ที่บูธ A2 ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ณ อาคารชาลเลนเจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม – 5 เมษายน 2554
-
อีซูซุจัดเต็ม..ยกทัพยนตรกรรมไลฟ์สไตล์แห่งยุค พร้อมเผยโฉม “รุ่นพิเศษ! อีซูซุ มิว-เซเว่น ช้อยส์” ครั้งแรกในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32
อีซูซุตอกย้ำความเป็นผู้นำยนตรกรรมไลฟ์สไตล์แห่งยุค นำ “รุ่นพิเศษ! อีซูซุมิว-เซเว่น ช้อยส์” (Isuzu Mu-7 Choiz) สนุกกับชีวิตที่เลือกได้...ในสไตล์คุณ (Your way…Your Choiz) ประเดิมงานแรกที่มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32 พร้อมกองทัพยนตรกรรมหลากสไตล์เอาใจผู้ใช้รถ ทั้ง “อีซูซุ ดีแมคซ์ ซูเปอร์ ไททาเนียม” และ “อีซูซุมิว-เซเว่น ซูเปอร์ ไททาเนียม” ควงคู่ “อีซูซุดีแมคซ์ เอ็กซ์-ซีรี่ส์ เดอะ นิว ลุค!” ไลฟ์สไตล์ปิกอัพ ตอกย้ำความเป็นปิกอัพสำหรับการใช้ชีวิตอันหลากหลายที่ตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
มร.ฮิโรชิ นาคางาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า “ด้วยแนวคิดที่ “คิดต่าง” อีซูซุจึงมุ่งเน้นสร้างความแปลกใหม่ให้กับวงการรถยนต์เมืองไทย ด้วยการสร้างสรรค์ยนตรกรรมหลากสไตล์ที่โดนใจผู้บริโภค ดังนั้นอีซูซุจึงไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี และบริการอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อรองรับความต้องการในการใช้ชีวิตที่แตกต่างของผู้ใช้รถในแต่ละกลุ่ม ซึ่งในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32 นี้ อีซูซุได้แนะนำรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ใหม่ล่าสุด “รุ่นพิเศษ! อีซูซุมิว-เซเว่น ช้อยส์” ตอบรับไลฟ์สไตล์ Your way…Your Choiz สนุกกับชีวิตที่เลือกได้...ในสไตล์คุณ โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวแนวสปอร์ตสะดุดตา สะท้อนภาพลักษณ์สำหรับผู้ที่มีหัวใจสปอร์ต มุ่งมั่นจริงจัง รับผิดชอบกับการทำงานและครอบครัว แต่ไม่ได้ทิ้งชีวิตสุดมันกับกลุ่มเพื่อน พร้อมนำ “อีซูซุดีแมคซ์” และ “อีซูซุมิว-เซเว่น” รุ่น “ซูเปอร์ ไททาเนียม” ที่สามารถเติมเต็มไลฟ์สไตล์ด้วยนวัตกรรมอันล้ำสมัย ควงคู่ “อีซูซุดีแมคซ์ เอ็กซ์-ซีรี่ส์ เดอะ นิว ลุค!” ไลฟ์สไตล์ปิกอัพเวอร์ชั่นที่สอดรับทุกความต้องการของคนรุ่นใหม่อย่างลงตัว ซึ่งรถแต่ละรุ่นมาพร้อมความแตกต่างด้วยชุดแต่งหลากสไตล์ นอกจากนี้ ภายในบูธอีซูซุยังบรรจุความบันเทิง อาทิ การแสดง Juggling Show สั่งตรงจากประเทศญี่ปุ่นของ มร. เทมเป อาราคาวะ (Mr. Tempei Arakawa) สุดยอดแชมป์โลก Juggling จากญี่ปุ่น พร้อมโซนกิจกรรมที่ผสานความสนุก ตื่นเต้น และทันสมัยอย่างมากมาย และชมกิจกรรมบันเทิงบนเวทีพร้อมเล่นเกมชิงรางวัลจากอีซูซุภายในบูธตลอดงานอีกด้วย”
ภายในบูธอีซูซุถูกออกแบบด้วยโทนสีอันเป็นเอกลักษณ์ ดำ-แดง ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Rev Up the X-style Excitement” ด้วยรูปลักษณ์ที่ทันสมัย ให้ความรู้สึกตื่นเต้นและสนุกสนาน สะท้อนเอกลักษณ์การใช้ชีวิตในรูปแบบเฉพาะตัวที่คุณเลือกเองได้กับยนตรกรรมยอดนิยมแห่งยุค ทั้ง “อีซูซุดีแมคซ์ ซูเปอร์ ไททาเนียม”, “อีซูซุมิว-เซเว่น ซูเปอร์ ไททาเนียม” และ “อีซูซุดีแมคซ์ เอ็กซ์-ซีรี่ส์ ลุคใหม่” หลากรุ่นมาให้เลือกเติมเต็มไลฟ์สไตล์ในรูปแบบการตกแต่งที่แตกต่าง แต่ยังคงความไฮเทคสุดล้ำด้วยนวัตกรรมแห่งคุณภาพและความปลอดภัยสูงสุด และพบกับ “อีซูซุดีแมคซ์ เอ็กซ์-ซีรี่ส์ สปีด” พร้อมชุดแต่งอารมณ์รถแข่ง “Isuzu One Make Race” พร้อมเผยโฉมครั้งแรกกับสุดยอดยนตรกรรมรุ่นใหม่ล่าสุดจากอีซูซุ “รุ่นพิเศษ! อีซูซุมิว-เซเว่น ช้อยส์”
“รุ่นพิเศษ! อีซูซุมิว-เซเว่น ช้อยส์” อินเทรนด์ด้วยเอกลักษณ์ที่โดดเด่น ทั้งภายนอกและภายใน ทั้งด้านหน้าจดด้านท้าย สะท้อนลักษณะเฉพาะตัว สปอร์ต สะดุดตา โดยยังคงรักษาสมดุลระหว่างรูปลักษณ์ สมรรถนะ และความประหยัดน้ำมันอันเป็นเยี่ยมในแบบฉบับอีซูซุ ภายในห้องโดยสารโดดเด่นด้วยโทนสีเทาดำทั้งคัน เปิดรับความเร้าใจทุกครั้งที่ขับเคลื่อน ด้วยเครื่องยนต์ทรงพลังรุ่น 4JJ1-TCX3000Ddi VGS Turbo กำลังสูงสุด 163 แรงม้า ขับเคลื่อน 2 ล้อพร้อมเกียร์ออโตเมติก เพื่อให้ชีวิตเทรนดี้เต็มที่กับการใช้ชีวิตสุดๆ ในแบบ “สนุกกับชีวิตที่เลือกได้...ในสไตล์คุณ” (Your way…Your Choiz) ด้วยคำนิยามที่แตกต่าง
- Career-focused เฉียบกับงาน...มุ่งมั่นกับชีวิต
- Hip ฉีกกฎไลฟ์สไตล์...ดีไซน์ชีวิตเอง
- Outstanding ไล่ล่าความท้าทาย...เป้าหมายคือความสำเร็จ
- In-Trend เหวี่ยงให้สุด...ไม่หลุดกระแส
- Zesty สนุกสุดมัน...ทุกวันของชีวิต
“อีซูซุดีแมคซ์ เอ็กซ์-ซีรี่ส์ สปีด” เร้าใจสไตล์สปอร์ตดุดันได้ใจในทุกมุมมองด้วยชุดแต่งรอบคัน พร้อมกับ Sticker wrap ในสไตล์รถแข่ง “Isuzu One Make Race” รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ สีดำไมก้า ภายในสุดเท่ด้วยมาตรวัดใหม่และแผงควบคุมเรืองแสงสีส้มแอมเบอร์ พร้อมระบบความบันเทิงสมบูรณ์แบบ ด้วยเครื่องเสียงชุดใหญ่จาก KENWOOD เท่ยิ่งกว่าด้วยล้ออะลูมินั่มอัลลอยด์ TAW ขนาด 9 x 20 นิ้ว ลายสปอร์ต RE30 พร้อมยาง FALKEN ติดตั้งชุดช่วงล่าง AIR SUSPENSION เพื่อให้โยกรับกับทุกจังหวะการขับขี่
นอกจากนี้ อีซูซุยังได้รวบรวมสุดยอดกิจกรรมแห่งความบันเทิงเพื่อมอบความสุขให้แก่ผู้ร่วมชมงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32 ตลอด 12 วัน
- “Choiz” Corner ตื่นตาตื่นใจกับการแสดงแฟชั่นโชว์ “X-Series” Life Style Show พร้อมแดนซ์สุดมันส์โดย “X-Series” Dancers กับดีเจสุดฮอตที่จะมาเปิดแผ่นเพลงมันกันแบบสดๆ
- “Juggling” Show โดย มร. เทมเป อาราคาวะ (Mr. Tempei Arakawa) สุดยอดแชมป์ Juggling จากญี่ปุ่น ที่ขนรูปแบบการแสดงทั้งประเภท Devil Sticks, Club และ Diabolo ที่คว้ารางวัลชนะเลิศมาแล้วทั่วโลก
- “Photo Contest” Corner การประกวดภาพถ่ายสะท้อนมุมมองและแนวคิดที่แตกต่าง ชิงรางวัล Mac Book Pro ขนาด 13 นิ้ว และรางวัลไฮเทคอื่นๆ อีกมากมาย รวมมูลค่ากว่า 100,000 บาท ติดตามรายละเอียดได้ทาง www.isuzux-series.com
- “Titanium Vision” Corner สนุกสนานกับเทคโนโลยีของกล้องมองภาพหน้ารถ Front View Camera ที่เมื่อคุณเข้าไปอยู่ในรัศมีของกล้องที่ให้มุมกว้างพิเศษถึง 190 องศา แสงไฟจะปรากฏขึ้นทันที
- “Photo Booth” Corner ถ่ายภาพสุดไฮเทค ตอบรับ Social Network อันล้ำสมัย ส่งต่อภาพถ่ายให้เพื่อนในโลกออนไลน์ได้ชมฝีมือของคุณก่อนใคร
- พบความสนุกสนานบนเวทีจากดารานักแสดงที่สลับสับเปลี่ยนมาให้ความบันเทิง พร้อมทั้งร่วมเล่นเกมมอบของรางวัลจากอีซูซุอย่างมากมาย
พบกับรถยนต์นั่งอเนกประสงค์สไตล์สปอร์ต “รุ่นพิเศษ! อีซูซุมิว-เซเว่น Choiz” Your way…Your Choiz และสัมผัสยนตรกรรมไลฟ์สไตล์หลากรุ่นจากอีซูซุ พร้อมทดลองขับและร่วมสนุกกับกิจกรรมอันหลากหลาย ณ บูธอีซูซุ ในงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนลมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32 ได้ ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม – 5 เมษายน ศกนี้ ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี
ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานองค์กรสัมพันธ์
บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด
โทร. 02-966-2127-9
-
ปตท. ร่วมสนับสนุนงาน “The 32nd Bangkok International Motor Show” ตอกย้ำความเป็นผู้นำทางด้านพลังงาน น้ำมันเชื้อเพลิงเกรดพรีเมียม
บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ร่วมสนับสนุนงาน The 32nd Bangkok International Motor Show ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม – 5 เมษายน 2554 ณ อาคาร Challenger Hall 1 อิมแพค เมืองทองธานี กรุงเทพฯ ตอกย้ำความเป็นผู้นำทางด้านพลังงาน เน้นเรื่อง PTT Blue Innovation นวัตกรรมน้ำมันเชื้อเพลิงคุณภาพสูง ด้วยเทคโนโลยีระดับพรีเมียมสูตรเฉพาะของ ปตท. ที่มีส่วนผสมพิเศษ จากการคัดเลือกสารเติมแต่ง ที่ถูกพัฒนาขึ้นด้วยเทคโนโลยีระดับสูงและได้รับการยอมรับในระดับมาตรฐานโลก ทำให้น้ำมันทั้งเบนซินและดีเซลทุกชนิดของ ปตท. เป็นเกรดพรีเมียม ในราคาเท่าเดิม ช่วยให้เครื่องยนต์เผาไหม้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น เพิ่มอัตราเร่งให้รถทุกคันทำงานได้แรงเต็มสมรรถนะ สามารถตอบสนองได้ทุกไลฟ์สไตล์การขับขี่ ผ่านการทดสอบทั้งในห้องปฏิบัติการและการทดสอบภาคสนามกับผู้ขับขี่จริง สามารถใช้ได้ดีกับรถทุกประเภท ตั้งแต่รถที่มีเครื่องยนต์รอบจัด สมรรถนะสูง ที่สามารถใช้แก๊สโซฮอลได้ ให้แรง เร่งได้ดั่งใจ หรือรถดีเซลธรรมดาจนถึงรถดีเซลระดับหรู ก็พร้อมสู้ทุกทางชัน ไม่มีอุปสรรค และยังสามารถเลือกแรงแบบรักษ์โลก เพื่อคืนลมหายใจให้ธรรมชาติ ได้อีกด้วย
นอกจากนี้ ยังเปิดโอกาสให้ผู้ชมงานได้สัมผัสกับผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น PTT Performa Super Synthetic 0w-30 ที่ได้มาตรฐานโลก API SN รายแรกของไทย โดยในปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น ปตท. มี Market share เป็นอันดับที่ 1 ของประเทศ และยังได้รับการคัดเลือกจากผู้บริโภค ให้เป็นผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นที่น่าเชื่อถือที่สุด จากการสำรวจ Thailand's Most Admired Brand ของ นิตยสาร BrandAge อีกด้วย ซึ่งไม่เพียงประสบความสำเร็จในประเทศเท่านั้น ผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น ปตท. ยังขยายตลาดในต่างประเทศแล้ว อีกกว่า 20 ประเทศ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
โดยในงานนี้ ปตท. ยังได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายลดราคาพิเศษ สำหรับผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นทุกชนิด ถึง 30% รวมถึง มีร้านค้า Jiffy และร้านกาแฟ Café Amazon ที่นำสินค้า Premium มาแสดงในงาน อีกทั้ง จัดการแสดงที่สนุกสนาน สวยงาม พร้อมกับเชิญชวนทุกท่านเล่นเกมส์ รับแจกของรางวัลมากมาย
Booth ปตท. อยู่ ณ อาคาร Challenger บริเวณ Hall 1 ขอเชิญชวนผู้ที่สนใจทุกท่านแวะมาเยี่ยมชมบูธ ปตท. ซึ่งล้วนมีผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงระดับพรีเมียมที่พัฒนาและผลิตโดยคนไทย เพื่อคนไทย ในราคาที่ยุติธรรม
-

ฮอนด้ากระหึ่มกลางงานมอเตอร์โชว์ 2011 ผุดกลยุทธ์ใหม่ ประกาศลั่นเดินหน้าปั้นแบรนด์ขึ้นแท่นอันดับหนึ่งในทุกด้าน
รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ประกาศนโยบายสร้างแบรนด์ มุ่งเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในทุกด้าน นำเสนอกลยุทธ์เชิง Attitude รูปแบบใหม่ให้กับวงการรถจักรยานยนต์ ภายใต้แบรนด์แมสเสจ “ชีวิตสนุกถ้าไม่หยุดค้นหา Discover Your Fun” ตอกย้ำภาพลักษณ์ “ผู้นำมอเตอร์ไซค์หัวฉีด” และ “ผู้นำไลฟ์สไตล์ความสนุก” ลั่นอีก 3 ปีหน้า (2011–2013) พร้อมส่งมอบความยินดี ความสนุกสู่มหาชนทั่วไทย เดินหน้าพัฒนาฮาร์ดแวร์ด้านเทคโนโลยีประหยัดเชื้อเพลิง ขับขี่สนุกสนาน ความเชื่อมั่นในตัวสินค้า และดีไซน์ที่สวยงาม พร้อมนำเสนอสินค้ามีเสน่ห์เต็มเปี่ยมด้วยคุณค่าใหม่ เหมาะกับค่านิยมและไลฟ์สไตล์วัยรุ่น ควบคู่กับพัฒนาด้านซอฟต์แวร์ ที่จะเพิ่มดีกรีความสนุกจากรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในรูปแบบที่ใหญ่ ใหม่ และไม่เคยปรากฏมาก่อน และเตรียมวางตลาดรถกลุ่ม FUN และรถขนาดใหญ่ รุกหนักจัดกิจกรรมเจาะกลุ่มวัยรุ่นเป็นพิเศษ เพื่อเสริมให้แบรนด์ฮอนด้าเป็นมากกว่าเรื่องของคุณภาพและความน่าเชื่อถือ ตั้งเป้าเป็นแบรนด์ที่เปี่ยมด้วยความสดใหม่ทันสมัย พร้อมรังสรรค์ความสนุกใหม่ออกสู่ตลาดต่อเนื่อง
มร. จิอากิ คาโต ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด กล่าวว่า “จากวิสัยทัศน์ปี 2020 ของฮอนด้าทั่วโลก ในการมุ่งมั่นที่จะเป็นองค์กรที่สังคมปรารถนาให้ดำรงอยู่ โดยแบ่งปันความยินดีกับผู้คนทั่วโลก ด้วย “ความยินดีสามประการ” ได้แก่ “การสร้างสรรค์ความยินดี (Create Joy)” “การแบ่งปันความยินดี (Expand Joy)” และ “การส่งต่อความยินดีสู่ชนรุ่นหลัง (Joy for the Next Generation)” เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มอบความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้าด้วยความรวดเร็ว ในราคาย่อมเยา และมีคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำ โดยสำหรับรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย มีความมุ่งมั่นที่จะสานต่อวิสัยทัศน์เรื่องความยินดีทั้ง 3 ประการนี้ ผ่านการนำเสนอสินค้าที่ดีที่สุดมาตั้งแต่เมื่อปี 2008 โดยเริ่มจากการบุกเบิกยุคแห่งการขับขี่ใหม่ เพื่อสิ่งที่ดีกว่าด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงระบบการจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีด PGM-FI ถ่ายทอดประสิทธิภาพคุณสมบัติของฮอนด้าหัวฉีดสู่ผู้ใช้ให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ภายใต้รูปแบบของความสนุกหลากหลายกว่า 10 รุ่น จนได้รับการยอมรับจากผู้ใช้จริงมากถึงกว่า 2 ล้านคนในปัจจุบัน ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว วันนี้ฮอนด้าจะต่อยอดแนวความคิดในการสร้างความยินดีสูงสุดสู่ผู้ใช้ ภายใต้แมสเสจ “ชีวิตสนุกถ้าไม่หยุดค้นหา Discover Your Fun” โดยจะมุ่งเน้นและเดินหน้าอย่างเต็มที่ในการจัดกิจกรรมอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน เพื่อมุ่งสู่การเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในทุกด้าน ทั้งการเป็นผู้นำมอเตอร์ไซต์หัวฉีด และผู้นำไลฟ์สไตล์ความสนุก ซึ่งจะถูกถ่ายทอดให้เห็นเป็นรูปธรรมครั้งแรกในบูธรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2011”
สำหรับแบรนด์กลยุทธ์เชิง Attitude ที่ฮอนด้าจะสร้างสรรค์ในฐานะ ผู้นำไลฟ์สไตล์ความสนุก หรือ “Fun Leader” ภายใต้การสื่อสารผ่านข้อความเชิงทัศนคติ “ชีวิตสนุก ถ้าไม่หยุดค้นหา Discover Your Fun” เพื่อเป็นการถ่ายทอดแนวความคิด และจุดประกายแรงบันดาลใจ กับรถจักรยานยนต์ฮอนด้าหัวฉีดที่สร้างเทรนด์ใหม่ๆ ให้กับวัยรุ่นยุคนี้ ประกอบกับกิจกรรมที่จะมาสร้างปรากฎการณ์ความสนุกที่เรียกว่าเป็นครั้งแรก ที่ใหญ่ที่สุด ในแบบที่ใหม่ไม่เคยมีมาก่อนให้กับกลุ่มวัยรุ่นอย่างครอบคลุม เพื่อให้เกิดมุมมองหรือทัศนคติใหม่ๆ ว่า มอเตอร์ไซค์ไม่ได้เป็นเพียงแค่เทคโนโลยีด้านยานพาหนะ หากยังเป็น Gadget ที่เข้ากับ Lifestyle ใหม่ๆ ที่เสริมเข้ากับภาพลักษณ์ บุคลิก รวมถึงการเข้าสังคมแบบเท่ๆ เก๋ๆ แนวๆ ตามสไตล์ตัวเองได้อีกด้วย เพราะสิ่งสำคัญคือ ฮอนด้าเชื่อว่า ชีวิตมีแต่เรื่องสนุก ความสนุกมีอยู่ทุกที่ ทุกเวลา แม้กระทั่งช่วงเวลาเล็กๆ อยู่ที่เรานั่นแหละที่พร้อมจะเปิดรับความสนุกเหล่านั้นในช่วงเวลาใด ตอนไหน ถึงเวลาแล้วที่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าจะพาคุณไปค้นพบและโลดแล่นไปกับเส้นทางที่เป็นมุมมองสนุกของชีวิต แล้วคุณจะรู้ว่าความสนุกมันมีมากกว่าที่คุณคิด “ชีวิตสนุกถ้าไม่หยุดค้นหา Discover You Fun”
ส่วนไอเดียการสร้างสรรค์บูธรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ถูกสร้างสรรค์ขึ้นภายใต้แนวคิด “Discover Your Fun @ Honda Fun Factory” โดยถ่ายทอดตัวตนในฐานะผู้ผลิตความสนุกเจ้าแรก ที่จะส่งผ่านความสุขจำนวนมากให้ลูกค้า ผ่านผลิตภัณฑ์รถจักรยานยนต์ที่หลากหลายรูปแบบและเทคโนโลยี เพื่อนำเสนอรูปแบบความสนุกใหม่ๆให้กับผู้ใช้ทุกคน จนกระทั่งวันนี้ด้วยผลผลิตของความสนุกที่ฮอนด้าสร้างสรรค์ออกมาครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ ฮอนด้าจึงเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ผลิตความสนุกให้กับทุกคนได้อย่างทั่วถึง ด้วยการออกแบบบูธที่ดูสร้างสรรค์ แปลกใหม่ ในสไตล์แฟคทอรี่สุด FUN โรงงานความสนุก ผ่านการนำเสนอความสนุกสนานด้วยเทคโนโลยีที่เข้าถึงได้ง่าย สร้างการรับรู้ว่าฮอนด้าคือองค์กรชั้นนำที่มักนำเสนอสิ่งใหม่ๆ มีความคิดสร้างสรรค์ให้ผู้ชมอยากค้นหาความสนุกในแบบของตัวเอง
“เพราะเราใช้ความสนุกเป็นเป้าหมาย มีไลฟ์สไตล์ผู้ใช้เป็นวัตถุดิบ ลองคิดต่าง ออกนอกกรอบ กล้าลองอะไรใหม่ๆ สู่สูตรการผลิตที่ตรงตามมาตรฐานความ “สนุก” เพื่อทุกคน เราเชื่อว่า “ชีวิตสนุก...ถ้าไม่หยุดค้นหา” มาค้นพบหลากหลายความสนุกในแบบที่เป็นคุณด้วยกัน!” ซึ่งภายใต้ผลผลิตแห่งความสนุกในบูธรถจักรยานยนต์ฮอนด้าคอนเซปต์ Discover Your Fun @ Honda FUN FACTORY ถูกแบ่งเป็นแต่ละแผนกงาน ดังนี้
1. Premium Lifestyle Department
แผนกงานผู้มีหน้าที่สร้างสรรค์ความต่างของไลฟ์สไตล์แบบพรีเมี่ยม คูลๆ กับรถจักรยานยนต์ไลฟ์สไตล์เท่จัดของฮอนด้าหัวฉีดอย่าง CBR250R, CBR150R และ PCX โดยส่วนผสมในโซนนี้จะถูกเน้นไปที่ “ความเท่ห์” เป็นวัตถุดิบหลัก ผสมผสานจิตวิญญาณของชายหนุ่มเจ้าสำราญ ให้ออกมาเป็นเทรนด์การตกแต่งรถจักรยานยนต์สไตล์พรีเมี่ยม หล่อ ดุดัน เต็มไปด้วยความน่าค้นหา พร้อมการจับมือกับพาร์ทเนอร์ผู้เชี่ยวชาญด้านความเท่สไตล์สปอร์ตจากประเทศญี่ปุ่น อย่าง MUGEN, MORIWAKI และ KITAKO งานนี้จัดเต็ม! รูปแบบความแมนของไลฟ์สไตล์
2. Advance Department
แผนกงานผู้มีหน้าที่เสาะหาความสนุกแนวใหม่ เพื่อการใช้ชีวิตมันส์ๆ ในวันข้างหน้า ส่วนผสมในโซนนี้เน้นที่ “แรงบันดาลใจ” และ “ความท้าทาย” เพื่อให้เกิดขึ้นเป็นนวัตกรรมเชิงดีไซน์ สร้างสรรค์ในทุกไลฟ์สไตล์ความต้องการของอนาคต ตั้งแต่รถเพื่อพลังงานในวันข้างหน้าอย่าง Honda EV-NEO รถเพื่อการใช้งานเอนกประสงค์ไร้มลพิษทางเสียงและไร้ไอเสีย 100% รถต้นแบบคอนเซ็ปต์พี่ใหญ่คันหรูระดับบิ๊กไบค์ผสมผสานความเป็นสปอร์ตกับความสะดวกสบายของรถแบบ เอ.ที Honda NM Concept และ Honda VFR800X (Cross Runner) รถสปอร์ตทัวร์ริ่งกับสมรรถนะเครื่องยนต์หัวฉีด V4-VTEC 800 ซีซี
3. People Department
แผนกงานที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มีดีกรีความแนวเป็นเอกลักษณ์ มีเสียงกรี๊ดและกระแสเรียกร้องจากมหาชนเป็นแรงบันดาลใจในการขับเคลื่อน ให้สร้างสรรค์ผลผลิตจากฮอนด้าหัวฉีดออกมาอย่างไม่หยุดยั้ง หลายต่อหลายรุ่น ตอกย้ำความสนุกของทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างตรงแนว พร้อมพรีเซนต์เทรนด์แต่งแนวใหม่จากฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ ลายเพียบ! สีจัด! ผลงานสุดวิจิตรจากศิลปินชั้นนำ อาทิ อย่าง P7, จิดา, The Jukks, Joe the Secret, Miss Ink, ทรงศีล ทิวสมบูรณ์, Spanky, URI และ Thaitanium
พร้อมกันนี้พบกับกิจกรรมความสนุกอื่นๆ มากมายภายในบูธรถจักรยานยนต์ฮอนด้า อาทิ การประกวดภาพถ่าย, สินค้าฮอนด้าคอลเลคชั่นและอะไหล่ตกแต่งราคาพิเศษ รวมถึงมินิคอนเสิร์ตจากสครับ ขวัญใจชาวอินดี้เด็กแนวภายในบูธรถจักรยานยนต์ฮอนด้า, ฟรีคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบของ “บี้ เดอะสตาร์” และความกวนซ่าของ “หนูนา หนึ่งธิดา” และกิจกรรมเท่ๆ มากมายของฮอนด้าคลิก ไอ ในกิจกรรม Click Show Day ณ ลานกิจกรรมหลังชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1-3 ในวันเสาร์ที่ 26 มีนาคม 2554 ตลอดจนกิจกรรมการแข่งขันประกวดแต่งรถ Mo’cye Idea Challenge พร้อมชมสุดยอดความมันส์จากฟรีคอนเสริต์สุดซ่าของศิลปินสุดจี๊ดจากฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ ทั้งหนูนา เดอะริชแมนทอย และไทยเทเนี่ยม ณ ลานกิจกรรมหลังชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1-3 พร้อมพบปะใกล้ชิดกับมาริโอ้ภายในบูธ ในวันเสาร์ที่ 2 เมษายน 2554
ค้นหาความสนุกหลากหลายในโรงงานแห่งความสนุกของบูธรถจักรยานยนต์ฮอนด้า รวมถึงกิจกรรม เกมส์ความสนุกและรายละเอียดต่างๆ ตลอดจนกำหนดการเหล่าดารา และศิลปินนักร้องยอดนิยมที่จะมาแสดงโชว์พิเศษภายในบูธที่ www.aphonda.co.th/motorshow2011 และ/หรือ www.facebook.com/hondamotorcyclethailand
-
ไทยรุ่งฯ พร้อมรุกตลาด เปิดตัวรถยนต์ต้นแบบ TR TRANSFORMER ในงาน Bangkok International Motor Show ครั้งที่ 32

ไทยรุ่งฯ ผู้นำการออกแบบและผลิตรถยนต์อเนกประสงค์ของไทย เปิดตัวรถยนต์ต้นแบบใหม่ TR TRANSFORMER ซึ่งเป็นรถตรวจการณ์เชิงพาณิชย์ที่ทางบริษัทได้พัฒนาต่อยอดมาจากรถยนต์ตรวจการณ์ MUV4 โดยเน้นความหรูหราและเพิ่มอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ ให้เหมาะกับการใช้งาน ในราคาที่เหมาะสม หวังเจาะตลาดลูกค้ากลุ่มที่ต้องการใช้ รถยนต์ Hummer หรือ Land Rover (Defender) พร้อมเปิดตัวให้ยลโฉมในงาน Bangkok International Motor Show ครั้งที่ 32 ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม – 5 เมษายน 2554
นายสมพงษ์ เผอิญโชค กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าTR TRANSFORMER เป็นรถต้นแบบที่ออกแบบและพัฒนาแนวความคิดต่อยอดมาจาก TR MUV4 ซึ่งทางบริษัทฯมองเห็นว่าตลาดรถยนต์ตรวจการณ์เฉพาะทางลักษณะนี้น่าจะมีอนาคตที่ดี สำหรับแนวคิดในการออกแบบและพัฒนา รถยนต์ TR TRANDSFOMER และ MUV4 ทางบริษัทฯได้ทำการวิจัยและพัฒนาร่วมกับทาง MTEC ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช) ในการวิจัยและทดสอบในเรื่องโครงสร้างแชสซีส์ ระบบสั่นสะเทือนช่วงล่าง โดยการนำเอาโครงสร้างของรถยนต์บรรทุกปิกอัพ (Pick up) ขับเคลื่อน 4 ล้อ เครื่องยนต์ ดีเซล ขนาด 3.0 ลิตร เกียร์ธรรมดา ที่มีการผลิตขายในประเทศไทยมาพัฒนาออกแบบผลิตตัวถังใหม่ เพื่อให้เป็นรถยนต์ที่มีความสมบูรณ์ได้มาตรฐานสากลที่ง่ายในการบำรุงรักษาและประหยัดน้ำมัน
คุณลักษณะของรถ TR TRANSFORMER
- การออกแบบโดยระบบคอมพิวเตอร์ CAD , CAE , CAM ที่ทันสมัยมาตรฐานสากล และมีการวิเคราะห์ความแข็งแรงของโครงสร้าง (Simulation) ด้วยระบบคอมพิวเตอร์
- การผลิตชิ้นส่วนด้วยโลหะขึ้นรูป ตัวถังรถทั้งคันผ่านระบบชุบสีกันสนิม โดยประจุไฟฟ้า (EDP) และขบวนการพ่นสีมาตรฐานเดียวกับกับผู้ผลตรถยนต์
- มีการทดสอบจากสนามจริง ลุยน้ำได้ถึง 500 มิลลิเมตร สามารถไต่ทางลาดชัน ได้ 40 องศา และไต่ทางลาดเอียง ได้ 30 องศา
นายสมพงษ์ เผอิญโชค กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้แล้ว ไทยรุ่งได้ส่ง นิว ทีอาร์ ออลโรดเดอร์ เครื่องยนต์ 3000 ซีซี ขับเคลื่อน 4 ล้อ ( NEW TR ALLROADER 3.0 4WD) รถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ตัวจริง ที่มากด้วยความคุ้มค่า โดดเด่นด้วยพื้นที่ใช้สอบกว้างขวาง สามารถโดยได้จริงทั้ง 7 ที่นั่ง รูปลักษณ์ทันสมัย สง่างาม ตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่ ที่เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก และได้นำ ทีอาร์ เอ็กซ์คลูซีฟ ลีมูซีน ( TR EXCLUSIVE LIMOUSINE) ซึ่งเป็นรถลีมูซีนที่มีรูปลักษณ์ภายนอกที่หรูหรา ภายในโอ่โถง กว้างขวาง เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายของห้องโดยสาร
สุดท้ายนายสมพงษ์ เผอิญโชค กล่าวว่า สำหรับราคา ทีอาร์ เอ็กซ์คลูซีฟ ลีมูซีน ( TR EXCLUSIVE LIMOUSINE) ราคาเริ่มต้นเพียง 1,359,000 บาท และพิเศษสุดสำหรับ ทีอาร์ ออลโรดเดอร์ ราคาเริ่มต้นเพียง 799,000 บาท พิเศษสุดเฉพาะในงาน Bangkok International Motor Show ทั้งนี้สามารถชมและสัมผัสรถดังกล่าวได้ที่งาน Bangkok International Motor Show ครั้งที่ 32 ณ. บูธไทยรุ่ง ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม – 5 เมษายน 2554
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม :
จุฑามาศ สุภณชัย (จอย)
ส่วนงานประชาสัมพันธ์ บริษัท ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ จำกัด (มหาชน)
โทรศัพท์ : 0-2420-0076 # 543
โทรสาร : 0-2814-503
-

มาสด้าดึงณเดชน์และเซเลบร่วมสร้างสีสีนในมอเตอร์โชว์
มร. โชอิชิ ยูกิ กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วยสุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ทำการเปิดตัวรถยนต์นั่งสปอร์ต All New Mazda3 เจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด ต่อสาธารณะชนอย่างเป็นทางการในงานมอเตอร์โชว์ พร้อมกับแนะนำรถมาสด้า2 รุ่นพิเศษ GENETIC ที่มีเพียง 500 คันเท่านั้น แถมเอาใจบรรดาแฟนคลับของพรีเซนเตอร์หนุ่มสุดฮอตที่จะได้มีทแอนด์กรี๊ดกันแบบเต็มๆ ติดขอบเวทีกับนักแสดงหนุ่มหล่อขั้นเทพ ณเดชน์ คูกิมิยะ และเซเลบวัยซนอย่างน้องเต้ย จรินทร์พร จุนเกียรติ, เต็งหนึ่ง ดารานักร้องจากวง B.O.Y และพัดชา จากเวที AF ที่จะเดินทางมาร่วมขับกล่อมบทเพลงสนุกสนานและสร้างสีสันในบูธมาสด้า
เตรียมพบกับมินิคอนเสิร์ต
วันเสาร์ที่ 26 มีนาคม เวลา 16.45 – 18.30 น. เต็งหนึ่ง กฤษณกันท์ มณีผกาพันธ์ ดารานักร้องจากวง B.O.Y
วันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม เวลา 16.30 – 18.15 น. ณเดชน์ คูกิมิยะ พรีเซ็นเตอร์รถยนต์มาสด้า2 ซีดาน
วันเสาร์ที่ 2 เมษายน เวลา 16.45 – 18.30 น. เต้ย จรินทร์พร จุนเกียรติ
วันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน เวลา 16.30 – 18.15 น. พัดชา อเนกอายุวัฒน์ จากเวที AF2
-
ไทยรุ่งขยายตลาดใหม่ เปิดตัวรถตรวจการณ์ลาดตระเวน MUV4 ต้อนรับงาน Bangkok International Motor Show ครั้งที่ 32

ไทยรุ่งฯ ผู้นำการออกแบบและผลิตรถยนต์อเนกประสงค์ของไทย เปิดตัวรถต้นแบบใหม่ MUV4 (Military Utility Vehicle) ซึ่งเป็นรถตรวจการณ์ลาดตระเวน ที่ออกแบบขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานทางการทหาร,ตำรวจและหน่วยงานราชการต่าง ๆ หวังเจาะตลาดลูกค้ากลุ่มที่ต้องการใช้ รถยนต์ Hummer หรือ Land Rover (Defender) ในราคาประหยัด เตรียมเปิดตัวได้ยลโฉมในงาน Bangkok International Motor Show ครั้งที่ 32 ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม – 5 เมษายน 2554
นายสมพงษ์ เผอิญโชค กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทางบริษัทฯ มองว่าตลาดรถยนต์ทหารเฉพาะทางน่าจะมีอนาคตที่ดี เพราะคาดว่ากองทัพไทย มีความต้องการที่จะใช้รถยนต์ ที่มีลักษณะเฉพาะคล้ายคลึงกับรถ Hummer , Land Rover (Defender) หรือ รถ Jeep ลาดตระเวน เพื่อเพิ่มเติมจากรถยนต์ที่ใช้อยู่ในกองทัพ ดังนั้นเพื่อเป็นการช่วยเหลือประเทศให้ประหยัดงบประมาณ และลดการสูญเสียเงินตราจากการนำเข้ารถยนต์ที่มีราคาแพงจากต่างประเทศ บริษัทฯ จึงได้คิดพัฒนารถยนต์ตรวจการณ์ลาดตระเวน รุ่น MUV4 ขึ้นมา โดยพัฒนาขึ้นตามความต้องการในการใช้งานของทางกองทัพ โดยการนำเอาโครงสร้างของรถยนต์บรรทุกปิกอัพ (pick up) ขับเคลื่อน 4 ล้อ เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 3.0 ลิตร ที่มีการผลิตขายในประเทศมาพัฒนาออกแบบผลิตตัวถังใหม่ทั้งหมด เพื่อให้เป็นรถยนต์ที่มีความสมบูรณ์แบบได้มาตรฐานสากล ที่ง่ายในการซ่อมแซมและบำรุงรักษา อีกทั้งมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมต่ำ เพราะใช้ชิ้นส่วนหลักเช่นเดียวกันกับรถทั่วไป ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีการผลิตที่เป็นมาตรฐานสากลในประเทศ รถตรวจการณ์ลาดตระเวน MUV4 ที่บริษัทฯ จะพัฒนาขึ้น มี 2 รุ่น คือ
1. รุ่นหลังคาเหล็ก (Hard Top)
2. รุ่นหลังคาผ้าใบ (Soft Top)
คุณลักษณะของรถ MUV4
- สามารถที่จะใช้งานได้หลากหลาย ตามความต้องการ โดยสามารถถอดหลังคาได้ และเปลี่ยนรูปแบบต่าง ๆ ได้ตามความต้องการใช้งาน เช่น เป็นหลังคาแข็ง หลังคาผ้าใบ
- การออกแบบโดยระบบคอมพิวเตอร์ CAD , CAE , CAM ที่ทันสมัยมาตรฐานสากล และมีการวิเคราะห์ความแข็งแรงของโครงสร้าง (Simulates) ด้วยระบบคอมพิวเตอร์
- การผลิตชิ้นส่วนด้วยโลหะขึ้นรูป ตัวถังรถทั้งคันผ่านระบบชุบสีกันสนิม โดยประจุไฟฟ้า (EDP) และขบวนการพ่นสีมาตรฐานเดียวกับกับผู้ผลตรถยนต์
- มีการทดสอบจากสนามจริงตามข้อกำหนดต่างๆ เพื่อนำมาปรับปรุงในการออกแบบให้ได้คุณภาพในการใช้งานอย่างแท้จริง
- มีการออกแบบที่มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น ทันสมัย และมีความเป็นสากลและมีความคิดที่สร้างสรรค์
นายสมพงษ์ เผอิญโชค กล่าวต่อไปว่า ตลาดรถยนต์ตรวจการณ์เฉพาะทางนี้น่าจะมีอนาคตที่สดใส เพราะคาดการว่าทางกองทัพไทย ตำรวจ หน่วยงานราชการ จะมีความต้องการรถประเภทนี้ไม่น้อยกว่า 3,000 – 4,000 คัน และเนื่องจากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ส่วนใหญ่ไม่ได้ให้ความสนใจในการพัฒนารถยนต์ประเภทนี้ เพราะมีปริมาณไม่มากและมีรุ่นที่หลากหลาย และเนื่องจากบริษัทฯ มีขีดความสามารถในการออกแบบผลิตชิ้นส่วน และประกอบรถยนต์อย่างครบวงจร จึงทำให้บริษทมีโอกาสขยายตลาดนี้ได้มากยิ่งขึ้น และหากทำการตลาดภายในประเทศสำเร็จแล้วก็ยังสามารถขยายตลาดไปยังประเทศต่างๆอีกด้วย ซึ่งกลุ่ม เป้าหมาย คงเป็นประเทศที่กำลังพัฒนาในอาเซี่ยน , แอฟริกา และตะวันออกกลาง นอกจากนี้รถยนต์ตรวจการณ์ MUV4 ยังสามารถพัฒนาต่อยอดไปเป็นรถยนต์ที่ใช้ในเชิงพาณิชย์ได้ด้วย เช่นเดียวกับรถยนต์ของ HUMVEE ซึ่งพัฒนาไปเป็รถยนต์ HUMMER สำหรับราคาขายคาดว่าจประมาณ 1.3 -1.4 ล้านบาท ทั้งนี้สามารถชมและสัมผัสรถดังกล่าวได้ที่งาน Bangkok International Motor Show ครั้งที่ 32 ณ. บูธไทยรุ่ง ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม – 5 เมษายน 2554
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม :
จุฑามาศ สุภณชัย (จอย)
ส่วนงานประชาสัมพันธ์ บริษัท ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ จำกัด (มหาชน)
โทรศัพท์ : 0-2420-0076 # 543
โทรสาร : 0-2814-503
-
ทีอาร์ เอ็กซ์คลูซีฟ ลีมูซีนรถฝีมือคนไทย

บริษัท ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำรถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่งตัวจริง ก้าวล้ำไปอีกขั้นของการพัฒนาเทคโนโลยีมาตรฐานระดับสากล เปิดตัวนวัตกรรมยานยนต์ใหม่ล่าสุด ทีอาร์ เอ็กซ์คลูซีฟ ลีมูซีน (TR EXCLUSIVE LIMOUSINE) ดีไซน์สวย หรูหรา สะกดสายตาทุกการเคลื่อนไหว พร้อมห้องโดยสารที่กว้างขวางและยาวขึ้นอีก 60 เซนติเมตร โดยได้รับความร่วมมือในการวิจัยและทดสอบ จากศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
นายสมพงษ์ เผอิญโชค กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทีอาร์ เอ็กซ์คลูซีฟ ลีมูซีน (TR EXCLUSIVE LIMOUSINE) พัฒนาขึ้นโดยใช้พื้นฐานของรถยนต์ชั้นนำ เชฟโรเลต โคโรลาโด เครื่องยนต์ 3,000 ซีซี เกียร์อัตโนมัติ ที่มีชื่อเสียงในเรื่องความประหยัดน้ำมัน เพราะใช้เครื่องยนต์ดีเซล ซูเปอร์คอมมอนเรล ทีอาร์ เอ็กซ์คลูซีฟ ลีมูซีน (TR EXCLUSIVE LIMOUSINE) เป็นรถลีมูซีนที่มีรูปลักษณ์ภายนอกที่หรูหรา ภายในโอ่โถง กว้างขวาง เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายของห้องโดยสาร ที่ได้มีการขยายช่วงล้อให้มีความยาวขึ้นอีก 60 เซนติเมตร โดยได้รับความร่วมมือจาก MTEC สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ในการวิจัยและทดสอบในเรื่องโครงสร้างแชสซีส์ ระบบกันสะเทือนช่วงล่าง และระบบเก็บเสียงภายในห้องโดยสารให้มีความเหมาะสม และยิ่งไปกว่านั้น รถรุ่นนี้ยังได้รับการพัฒนาระบบช่วงล่างให้เป็นแบบคอยสปริง เพื่อเป็นทางเลือกเสริมให้กับผู้ที่ต้องการความนุ่มนวลในการขับขี่มากยิ่งขึ้น

คุณลักษณะเด่นของรถยนต์ทีอาร์ เอ็กซ์คลูซีฟ ลีมูซีน (TR EXCLUSIVE LIMOUSINE)
ภายนอก
- รูปร่างสง่างาม สไตล์ภูมิฐาน หรูหรา แตกต่างอย่างเหนือระดับ
- ทีอาร์ เอ็กซ์คลูซีฟ ลีมูซีน (TR Exclusive Limousine) มาพร้อมโครงสร้างตัวถังที่แข็งแกร่งและมีความยาวกว่ารถทั่วไป 60 เซนติเมตร (ความยาวรวม 5.55 เมตร) สะท้อนความโดดเด่น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
- กระจังหน้าดีไซน์ใหม่เพิ่มความโดดเด่น
- ไฟหน้าแบบฮาโลเจนสว่างชัดทุกการเดินทาง
- สะกดสายตาด้วยล้อแม็กลายใหม่ ขนาด 17 นิ้ว
- ระบบกันสะเทือนช่วงล่าง ออกแบบปรับปรุงให้มีความนุ่มนวลเหนือระดับ
ภายใน
- ห้องโดยสารหรูหรา โอ่อ่ากว้างขวาง สะดวกสบาย ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน
- ภายในห้องโดยสารแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนคนขับและส่วนห้องโดยสาร ซึ่งเพิ่มความเป็นส่วนตัวด้วย พาร์ติชั่น
- เพียบพร้อมด้วยเครื่องอำนวยความสะดวก อาทิ ตู้เย็น กล่องอเนกประสงค์
- ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบและติดตั้งฉนวนกันเสียงและความร้อนจากภายนอกเพิ่มเป็นพิเศษ ทำให้ห้องโดยสารเงียบมากยิ่งขึ้น
- เติมเต็มสุนทรียภาพสำหรับทุกการเดินทางด้วยเครื่องเสียงระบบ Car Entertainment ประกอบด้วย เครื่องเล่น DVD พร้อมจอ LCD ขนาด 18.5 นิ้ว พร้อมลำโพงซับวูฟเฟอร์พิเศษ ที่ออกแบบรวมอยู่ที่คอนโซลกลาง
- เบาะนั่งจากหนังแท้กว้างนั่งสบาย ปรับตำแหน่งที่นั่งและพนักพิงด้วยระบบไฟฟ้า 8 ทิศทาง และที่พักเท้ามีลักษณะเดียวกับที่นั่งบนเครื่องบิน เพื่อให้ผู้โดยสารรู้สึกผ่อนคลายตลอดการเดินทาง
- พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระได้มากที่สุด
ทั้งนี้บริษัทฯ มีความเชื่อมั่นว่า รถยนต์ ทีอาร์ เอ็กซ์คลูซีฟ ลีมูซีน (TR Exclusive Limousine) จะได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกลุ่มนักธุรกิจ เจ้าของกิจการ นักการเมือง ข้าราชการระดับสูง โรงแรมต่างๆ ที่ต้องการรถลีมูซีนที่มีความหรูหรา สะดวกสบาย กว้างขวาง ราคาไม่แพง ประหยัดน้ำมัน มีความคงทน และค่าบำรุงรักษาต่ำ ทั้งนี้สามารถชมและสัมผัสรถดังกล่าวได้ที่งาน Bangkok International Motor Show ครั้งที่ 32 ณ. บูธไทยรุ่ง ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม – 5 เมษายน 2554
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม :
จุฑามาศ สุภณชัย (จอย)
ส่วนงานประชาสัมพันธ์
บริษัท ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ จำกัด (มหาชน)
โทรศัพท์ : 0-2420-0076 # 543
โทรสาร : 0-2814-5033
-


ยามาฮ่าล้ำไปอีกก้าว ชูคอนเซ็ปต์ The Art of Technology ศิลปะแห่งการสร้างสรรค์ เทคโนโลยีเพื่อคุณ โชว์เทคโนโลยีระดับโลกสุดล้ำจากยามาฮ่า พร้อมกรี๊ดกับพรีเซ็นเตอร์ล่าสุด 2NE1
ยามาฮ่าชูเทรนด์ไลฟ์สไตล์เทคโนโลยี ดึงกระแสเทคโนโลยีสุดล้ำผนวกเข้ากับความมีดีไซน์ที่ลงตัวของรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า โชว์ความเป็นผู้นำด้านความแตกต่าง พร้อมดึงเอา 2NE1 4 สาวเกาหลี พรีเซ็นเตอร์ยามาฮ่าฟีโอเร่ หัวฉีดอัจฉริยะ ร่วม Meet and Greet พร้อมยกขบวนพรีเซ็นเตอร์ยามาฮ่าฟีโน่สุดฮอตร่วมทำกิจกรรม
มร.ฟูมิอากิ นางาชิมา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวถึงที่มาของคอนเซ็ปต์บูธยามาฮ่า The Art of Technology ศิลปะแห่งการสร้างสรรค์ เทคโนโลยีเพื่อคุณ ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32 ว่า
“สืบเนื่องจากแคมเปญ Yes! We are Different ตั้งแต่ปี 2008 ยามาฮ่าได้สร้างความแตกต่างให้กับวงการรถจักรยานยนต์เสมอมา ทั้งดีไซน์ที่แตกต่างของยามาฮ่าฟีโน่ และฟีโอเร่ หัวฉีดใหม่ ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นที่ยอมรับของลูกค้า รวมทั้งกิจกรรมยิ่งใหญ่มากมายภายใต้กลยุทธ์ ไลฟ์สไตล์ มาร์เก็ตติ้ง เช่น กิจกรรม Yamaha Yes D!Day the Unlimited Outdoor Festival เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ในงานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้ ยามาฮ่าตอกย้ำความเป็นผู้นำที่แตกต่างอีกครั้ง ด้วยคอนเซ็ปต์ “Yamaha…The Art of Technology ศิลปะแห่งการสร้างสรรค์เทคโนโลยีเพื่อคุณ” โดยเน้น 3 เทคโนโลยีระดับโลกสุดล้ำของยามาฮ่า เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกด้าน และเหมาะสมกับทุกไลฟ์สไตล์ ด้วย Design technology, DiASil Technology และ YMJet Technology พร้อมย้ำกลยุทธ์ด้านไลฟ์สไตล์มาร์เก็ตติ้งของยามาฮ่าให้แข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งดีไซน์ของบูธในปีนี้ ยังมีสถาปัตยกรรมขนาดใหญ่ ที่เคลื่อนไหวอย่างอิสระ และดึงดูดสายตา พร้อมด้วยแบ่งสัดส่วนอย่างลงตัว และเต็มไปด้วยเทคโนโลยีที่สร้างสรรค์เพื่อคุณ”
นางสรวงสุดา มนัสบุญเพิ่มพูล ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายโฆษณาและส่งเสริมการตลาด บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ได้กล่าวถึงแนวความคิด และกิจกรรมต่างๆในบูธยามาฮ่าว่า “จากแนวคิดของบูธในปีนี้ที่เรามุ่งเน้นในเรื่อง 3 เทคโนโลยีระดับโลกจากยามาฮ่า การแบ่งโซนของบูธยามาฮ่าจึงแบ่งออกได้เป็น 6 โซน ด้วยกัน ได้แก่
The Progress Creation : นวัตกรรมแห่งเทคโนโลยี
เป็นโซนที่นำเสนอ ความเหนือชั้นต่าง ๆ ของเทคโนโลยียามาฮ่า คือ กระบอกสูบ ไดอะซิล เทคโนโลยีระดับโลก ลิขสิทธิ์เฉพาะจากยามาฮ่า ที่พัฒนาเพื่อให้ความทนทานและประหยัดมากกว่ากระบอกสูบทั่วไป และระบบหัวฉีดอัจฉริยะ ยามาฮ่า เอ็มเจ็ท (YMJet) ที่สุดของเทคโนโลยีความประหยัดของรถจักรยานยนต์ในปัจจุบัน
The Trendsetting : สร้างเทรนด์ใหม่ ให้โลกแตกต่าง
เป็นโซนที่นำเสนอเทคโนโลยีรถไฟฟ้ารักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยามาฮ่า อีซี-ศูนย์สาม (EC-03) ยามาฮ่าฟีโอเร่หัวฉีด สุดยอดเทคโนโลยีหัวฉีดอัจฉริยะล่าสุด YMJET และกระบอกสูบไดอะซิล ให้คุณสมาร์ทแบบมีสไตล์ พร้อมด้วยรถจักรยานยนต์ล้อ 12 นิ้ว เทรนด์ใหม่ล่าสุดจากประเทศไต้หวัน และญี่ปุ่น ทั้ง Vino, Cuxi, BW’S X และ VOX
The Leader : ผู้นำเทคโนโลยีด้านการดีไซน์
พบสุดยอดเทคโนโลยีด้านการดีไซน์ของรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ทั้งยามาฮ่าฟีโน่ สปอร์ตคลาสสิค ออโตเมติกสุดฮิตกับโฉมใหม่ ที่หล่อมากขึ้น ยิ่งรักมากขึ้น การันตีความ ฮอตฮิต ด้วยรางวัล The Innovator of Fashion Automatic จาก BIKE OF THE YEAR 2011 ยามาฮ่าตระกูลมีโอ 125 และ 115 อินเทรนด์ทุกที่กับเทคโนโลยีความแรงเกินซีซี การันตีความเท่ห์ด้วยรางวัล Best Automatic – Sport จาก BIKE OF THE YEAR 2011 และสุดยอดรถจักรยานยนต์ออโตเมติกสมรรถนะดีเยี่ยม ยามาฮ่า นูโว อีลีแกนซ์
The Exciting : ศิลปะแห่งการสร้างสรรค์ความเร้าใจ
แรง เร้าใจ ไปกับสุดยอดเทคโนโลยีจากสนามแข่งสู่ถนนจริงของคุณ ทั้ง YZR-M1 สุดยอดจักรกลที่ถูกพัฒนาเพื่อโมโตจีพี โดยเฉพาะ และซูเปอร์ไบค์จาก YAMAHA RIDER’S CLUB ทั้ง 4 รุ่นมาจัดแสดง YZF-R1, FZ1, FJR1300A และ TMAX พร้อมด้วยข้อเสนอสุดพิเศษที่คุณไม่ควรพลาด
The Performance : ศิลปะแห่งการสร้างสรรค์สมรรถนะ
มาพร้อมกับยามาฮ่า สปาร์ค 135 หัวฉีด ที่รวมเอาสุดยอดเทคโนโลยีมาเจอกัน ทั้งนีโอเทคโนโลยีด้วยกระบอกสูบไดอะซิล และระบบระบายความร้อนด้วยน้ำสมบูรณ์แบบการันตีความแรงด้วยรางวัล Best Family – Sport จาก BIKE OF THE YEAR 2011 และยามาฮ่าสปาร์ค นาโน ซูเปอร์ประหยัด 110 ซีซี ประหยัด ทนทาน ดูแลง่ายไม่จุกจิก แกร่ง ทน ทุกสภาพถนนและอากาศ
The Recreation : เทคโนโลยีเพื่อประสบการณ์ใหม่ ให้ชีวิตแตกต่าง
สัมผัสความโดดเด่นแบบผู้นำเทรนด์กับยานยนต์ทางน้ำ ยามาฮ่า เวฟรันเนอร์เอฟ แซด อาร์ (FZR) และเครื่องยนต์ติดท้ายเรือ F225A นวัตกรรมทางเทคโนโลยีของยานยนต์ทางน้ำของยามาฮ่า และหรูหราอีกระดับกับกอล์ฟ คาร์ วายดีอาร์ (YDR) ที่ออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายของนักกอล์ฟ
เติมสีสันใส่แฟชั่นในทุกไลฟ์สไตล์ ด้วย “YAMAHA APPAREL & ACCESSORIES” อีกหนึ่งความภูมิใจของยามาฮ่ามาพร้อมกับ SUMMER COLLECTIONS สไตล์ TRENDY ARMY ตอกย้ำความเป็นผู้นำในทุกเทรนด์อย่างแท้จริงให้เลือกช้อปปิ้งกันอย่างจุใจ
มันส์ไม่หยุด... กับกิจกรรมไลฟ์สไตล์โดนใจมากมาย ในวันที่ 5 เมษายนนี้ ลานกิจกรรมด้านนอก Challenger Hall 1
เซอร์ไพร์สกับ 2NE1 พรีเซ็นเตอร์ยามาฮ่าฟีโอเร่ หัวฉีด และกิจกรรมสุดมันส์
- กิจกรรม Meet & Greet กับพรีเซ็นเตอร์ยามาฮ่า ฟีโน่ สุดฮอต ณเดชณ์ ซันนี่ และ มิน พิชญา ตัวจริงเสียงจริงแบบใกล้ชิด แฟนคลับตัวจริงห้ามพลาด!!!
- การประกวดรถจักรยานยนต์แต่ง ยามาฮ่า ฟีโน่ และยามาฮ่า ฟีโอเร่ หัวฉีด ใหม่
- ร่วมสนุกกับการถ่ายโฆษณา ทำไมถึงรักฟีโน่ ในแบบที่เป็นตัวเอง
- Yamaha Technology Zone เทคโนโลยีที่สร้างสรรค์เพื่อตอบสนองทุกการใช้งาน
- Cover Dance Show เทรนด์ใหม่ สไตล์เกาหลี
- Make up Show 3 แบบ 3 สไตล์ Chic Cute Cool จากเครื่องสำอางค์แบรนด์ดัง Lola และ Etude
- ประดิษฐ์ของใช้ในสไตล์เทรนด์ดี้ ไม่ซ้ำแบบใคร!
- มินิคอนเสิร์ต 4 สาว 2NE1 พรีเซ็นเตอร์ยามาฮ่า ฟีโอเร่ หัวฉีด ใหม่
- ปิดท้ายความมันส์กับมินิคอนเสิร์ต ชิน ชินวุฒ
ชาวมอเตอร์ไซค์ เตรียมตัวพบกับความสนุก และเทคโนโลยีสุดล้ำได้ที่บูธ “Yamaha…The Art of Technology ศิลปะแห่งการสร้างสรรค์ เทคโนโลยีเพื่อคุณ” วันที่ 25 มีนาคม – 5 เมษายน นี้ ที่ Challenger Hall พร้อมชมความสมาร์ทแบบมีสไตล์ของ YAMAHA TECHNO GIRLS ทั้ง 12 คน และอัพเดทความเคลื่อนไหวของบูธ Yamaha…The Art of Technology
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
- แผนกประชาสัมพันธ์หมายเลข 0 2740 8000 คุณสมเจตน์ ต่อ 8093
คุณปิยะพงษ์ ต่อ 8056, คุณจิรนันท์ ต่อ 8044 และคุณติ๊ก ต่อ 8044
- Yamaha Call Center โทร.0-2263-9999
- www.yamaha-motor.co.th
-
ซูซูกิฉลองยอดโต 223% เผยโฉม Suzuki Swift Range Extender สุดยอดนวัตกรรม ยานยนต์ต้นแบบประหยัดพลังงาน

ซูซูกิฉลองยอดโต 223% เผยโฉม Suzuki Swift Range Extender สุดยอดนวัตกรรม ยานยนต์ต้นแบบประหยัดพลังงาน ความเหนือชั้นของยนตรกรรม เพื่อชีวิตคนเมือง ในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32
- ทำลายสถิติยอดขายเกินเป้าที่ตั้งไว้ หลังเปิดตัวสู่ตลาดไทยเพียง 1 ปี พร้อมตั้งเป้าขายทะลุ 8,500 คันภายในปี 2554
- ทุ่มงบ 20 พันล้านเยนญี่ปุ่น (7.4 พันล้านบาท, 1 บาท = 2.7 เยนญี่ปุ่น) ก่อสร้างโรงงาน Suzuki Eco Car ที่นิคมอุตสาหกรรมเหมราช อีสเทิร์นซีบอร์ด จังหวัดระยอง และจะเริ่มทำการผลิตในเดือนมีนาคม ปี 2555
- เจาะตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็กและตลาดรถยนต์ Eco Car ภายใต้งบการตลาด 380 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าขยายโชว์รูมและศูนย์บริการ 100 แห่งทั่วประเทศภายในปี 2558
- มั่นใจครองส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ 5% ภายในปี 2558
ซูซูกิตอกย้ำความเป็นผู้นำเทคโนโลยีและวิศวกรรมการสร้างสรรค์ ยนตรกรรม เผยโฉมนวัตกรรมใหม่เพื่อสิ่งแวดล้อม Suzuki Swift Range Extender มั่นใจผลักดันให้ซูซูกิเติบโตเพิ่มสูงอีก 55% อย่างงดงามภายในสิ้นปี
มร. ทาคายูคิ ซูกิยามา ประธาน บริษัท ซูซูกิ ออโตโมบิล แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า อัตราการเติบโตของรถยนต์ซูซูกิในปี 2010 ที่ผ่านมาอยู่ที่ 223% ซึ่งถือเป็นหนึ่งในแบรนด์รถยนต์ญี่ปุ่นในประเทศไทยที่มีการเติบโตสูงที่สุด ความสำเร็จดังกล่าวนั้น สืบเนื่องมาจากการตอบรับที่ดียิ่งจากตลาด กอรปกับในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีการแนะนำรถรุ่นใหม่ๆ ออกสู่ตลาด อาทิ Suzuki Swift คอมแพคคาร์ที่ดีที่สุดจากซูซูกิ ตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่ใช่ในแบบคุณ, Suzuki SX4 Crossover ยนตรกรรม Crossover เพื่อทุกด้านของชีวิตเป็นไปได้, เสริมจากรถยนต์ Suzuki Grand Vitara สุดยอดรถยนต์ SUV แกร่ง เพื่อการเดินทางไปทุกที่อย่างที่ใจอยาก, Suzuki APV รถนั่งอเนกประสงค์สำหรับทุกคนในครอบครัว, และ Suzuki Carry รถบรรทุกเล็กแห่งความคุ้มค่า เพื่อนแท้คู่ธุรกิจคุณ
โดยปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ซูซูกิประสบความสำเร็จนั้น เกิดจากเทรนด์ผู้บริโภคที่หันมานิยมรถยนต์นั่งขนาดเล็ก (Compact Car) ทั้ง B-Car และ Eco-Car เพื่อใช้งานในชีวิตประจำวันมากขึ้น โดยเริ่มมองหารถยนต์ขนาดเล็กที่มีมูลค่าเพิ่มมากกว่าเดิม เช่น การประหยัดน้ำมันที่มาพร้อมกับสมรรถนะความคล่องตัวปราดเปรียว เหมาะกับชีวิตในเมือง ให้ความสะดวกสบายและมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากกว่าในราคาที่สมเหตุสมผล ซึ่งส่งผลให้ Suzuki Swift ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นรถยนต์ที่มีความแตกต่างและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วย Cubical ดีไซน์ ที่ไม่เหมือนใคร รวมถึงสมรรถนะความปราดเปรียวคล่องตัว ประหยัดน้ำมัน พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายที่มีครบครันกว่า อีกทั้งถือได้ว่า Suzuki Swift เป็นผู้นำเทรนด์สปอร์ตแฟชั่นที่กำลังมาแรงในขณะนี้ ซึ่งในปี 2553 นั้น Suzuki Swift ประสบความสำเร็จอย่างดงามด้วยยอดขายเกินเป้าที่ตั้งไว้ ซึ่งทั้งหมดนี้มาจากความแข็งแกร่งในด้านกิจกรรมส่งเสริมการตลาดที่หลากหลายและต่อเนื่องรวมถึงกิจกรรมบนโซเชียลเน็ตเวิร์คที่ซูซูกิให้ความสำคัญมาโดยตลอด
จากความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นนี้เอง ซูซูกิทุ่มงบลงทุนถึง 20 พันล้านเยนญี่ปุ่น (7.4 พันล้านบาท, 1 บาท = 2.7 เยนญี่ปุ่น) ก่อสร้างโรงงาน Suzuki Eco Car ที่นิคมอุตสาหกรรมเหมราช อีสเทิร์นซีบอร์ด จังหวัดระยอง และจะเริ่มทำการผลิตในเดือนมีนาคม ปี 2555
และเพื่อตอกย้ำปรัชญาของซูซูกิ Suzuki…Way of Life! ความพยายามในการสร้างสรรค์นวัตกรรมยานยนต์ที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของผู้บริโภคที่ไม่ว่าจะมีไลฟ์สไตล์อย่างไร ก็สามารถใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการได้ ตลอดปีที่ผ่านมา ซูซูกิจึงเดินหน้าขยายโชว์รูม รวมทั้งศูนย์บริการอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าจำนวนโชว์รูมและศูนย์บริการไว้ 100 แห่ง ทั่วประเทศภายในปี 2558 โดยคาดว่าจะมีโชว์รูมและศูนย์บริการ ทั้งสิ้น 60 แห่งทั่วประเทศภายในสิ้นปีนี้
มร.ซูกิยามา กล่าวเพิ่มเติมว่า ปี 2011 นี้ ซูซูกิจัดสรรงบประมาณไว้ 380 ล้านบาท สำหรับกิจกรรมทางการตลาด โดยตั้งเป้ายอดขายในปี 2011 เติบโตขึ้น 55% จาก ปี 2010 โดยในระยะยาว ซูซูกิตั้งเป้าครองส่วนแบ่งการตลาดรถยนต์ไว้ที่ 5% ภายในปี 2015 โดยมุ่งทำตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็กและตลาดรถยนต์ Eco Car ซึ่งซูซูกิมั่นใจว่าด้วยประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีและขีดความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรมรถยนต์ Compact Car และ Sub-Compact Car ที่มีมาอย่างยาวนานนั้น จะผลักดันให้ซูซูกิประสบความสำเร็จในตลาดรถยนต์ประเภทนี้ได้อย่างงดงาม
นอกจากนี้ซูซูกิยังจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดอีกมากมายที่สร้างการรับรู้แบรนด์ซูซูกิสู่ผู้บริโภค อาทิ การผสานความร่วมมือกันระหว่าง บริษัท ซูซูกิออโตโมบิล แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท ไทยซูซูกิมอเตอร์ จำกัด สนับสนุนทีมสโมสร ศรีราชา ซูซูกิ เอฟ.ซี. ร่วมแจกรางวัลรถยนต์ Suzuki Swift แก่ผู้โชคดีที่ซื้อบัตรชมภาพยนตร์ เลิฟ จุลินทรีย์...รักมันใหญ่มาก รวมถึงจัดแข่งขัน Suzuki Challenge Cup และกิจกรรมที่น่าสนใจอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ในกลุ่มผู้บริโภค
และเพื่อเป็นการเปิดตัวเทคโนโลยี และสร้างความมั่นใจให้แก่ทุกท่านในที่นี้ รวมถึงผู้บริโภคในประเทศไทย ในรถยนต์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบประหยัดพลังงานของเรา ในโอกาสนี้ เราจึงทำการเผยโฉมรถยนต์ SUZUKI SWIFT Range Extender ซึ่งรถยนต์รุ่นนี้ เป็นรถยนต์โดยสารขนาดเล็กที่ใช้เครื่องยนต์ขนาด 0.66 ลิตร เป็นแหล่งผลิตและจ่ายพลังงานไฟฟ้าเช่นเดียวกับรถยนต์ไฟฟ้าอื่นๆ ซึ่งหมายความว่ารถยนต์รุ่นนี้สามารถขับเคลื่อนได้ด้วยพลังไฟฟ้าโดยสมบูรณ์แบบ และเมื่อกระแสไฟฟ้าอยู่ในระดับต่ำ ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องเผชิญกับปัญหาในการขับขี่เนื่องจากกระแสไฟฟ้าหมด เพราะมอเตอร์จะทำการผลิตไฟฟ้าส่งเข้าแบตเตอรี่ นอกจากนี้แล้วเครื่องยนต์ขนาดเล็กนี้ยังเป็นคำตอบที่จะเข้ามาทดแทนการใช้แบตเตอรรี่ขนาดใหญ่ที่นอกจากจะมีราคาแพงแล้วยังมีน้ำหนักมากอีกด้วย โดย SWIFT Range Extender นี้ ได้รับการขึ้นทะเบียนอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้มีการศึกษาการใช้งานจริงบนท้องถนนอีกด้วย
สำหรับงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32 นี้ ผู้บริโภคจะได้รับสิทธิพิเศษ ดังนี้
- ฟรีประกันภัยชั้น 1 เมื่อซื้อ Suzuki Swift, Suzuki SX4 และ Suzuki Carry
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 3 ปี เมื่อซื้อ Suzuki Swift และ Suzuki SX4
- พิเศษ สำหรับผู้จองรถทุกรุ่นในงาน Motor Show 2011 ช่วงวันที่ 25 มี.ค. – 5 เม.ย. และรับรถภายใน 30 เม.ย. นี้ รับฟรีคูปองเติมน้ำมัน มูลค่า 5,000 บาท
ซูซูกิคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคเหมือนเช่นเคย โดยประมาณการยอดจองในงาน รวมทั้งศูนย์บริการและโชว์รูมทั่วประเทศในช่วงระยะเวลาการจัดงานอยู่ที่ 600 คัน มร.ซูกิยามา กล่าวสรุป
สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับโชว์รูม และตัวแทนจัดจำหน่ายได้ที่ Call Center ตลอด 24 ชั่วโมง (สำหรับหมายเลขโทรศัพท์พื้นฐาน โทร. 1800-600-900 ไม่เสียค่าบริการ, สำหรับหมายเลขโทรศัพท์มือถือ โทร. 1401-600-900) หรือ www.suzuki.co.th
-
สโกด้า ดัน 3 รุ่น เยติ, ซูเพิร์บ, ฟาเบีย เจาะไลฟ์ไตล์คนเมือง ชูความหรูหรา โก้ แกร่ง มาตรฐานความปลอดภัยเหนือชั้น



ยูโรเปียน เอ็นเตอร์ไพรซ์ มั่นใจ แบรนด์ สโกด้า รถยนต์นำเข้า (CBU) สายพันธุ์ยุโรปจากสาธารณรัฐเชก โดดเด่น_แตกต่างจากคู่แข่ง ด้วยบุคลิกคนเมืองที่ผสานความหรู โก้ แกร่ง สมรรถนะการขับขี่ในเมืองได้อย่างลงตัว และเทคโนโลยี ด้านความปลอดภัยมาตราฐานยุโรปเช่นเดียวกับรถในเครือ VW กรุ๊ป โดยได้นำรถยนต์เด่น 3 รุ่นภายใต้แนวคิด ซิตี้ ไลฟ์, ซิตี้ ไดร์ฟ ประกอบด้วย ซิตี้ คาร์, ซิตี้ เอสยูวี และ ซิตี้ ลักซ์ ชัวรี่ ซาลูน ซึ่งเป็นการเปิดตัวครั้งแรกของรถยนต์ถึง 2 รุ่นคือ ซิตี้ เอสยูวี ใหม่ถอดด้ามอย่าง สโกด้าเยติ น้องใหม่ที่ฉีกความจำเจของเอสยูวีเดิมๆ ด้วยเส้นสายโครงสร้างที่สะท้อนความโก้ แกร่ง การันตีคุณภาพด้วยตำแหน่งรองชนะเลิศ ยูโรเปียน คาร์ ออฟ เดอะ เยียร์ ปี 2010 และในกลุ่มซิตี้ ลักซ์ ชัวรี่ ซาลูน เป็นการอวดโฉมครั้งแรกของ สโกด้า ซูเพิร์บ รถยนต์นั่งซีดานขนาดกลาง ที่สะท้อนความหรูหรา กว้างขวาง และให้ความคุ้มค่าด้านความปลอดภัย รวมถึงการรถเล็ก ซิตี้ คาร์ สโกด้า ฟาเบีย ที่เปิดตัวมาแล้ว มาจัดแสดงอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท ยูโรเปียน เอ็นเตอร์ไพรซ์ หนึ่งในกลุ่ม บริษัท ไดเรคชันแนล ออโตโมบิลส์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด หรือ กลุ่ม ดีเอดี ยนตรกิจ ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์สโกด้าผู้เดียวในประเทศไทย ได้เปิดตัวแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ 2 รุ่น คือ สโกด้า เยติ และ สโกด้า ซูเพิร์บ อย่างเป็นทางการในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32 ภายใต้แนวคิด ซิตี้ ไลฟ์, ซิตี้ ไดร์ฟ นอกจากนั้นยังได้นำรถสโกด้า ฟาเบีย ซึ่งทำตลาดในประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่องมาร่วมแสดงด้วยเช่นกัน แนวคิดซิตี้ไลฟ์, ซิตี้ ไดร์ฟ ในการแสดงรถยนต์ครั้งนี้ ประกอบด้วย กลุ่ม ซิตี้ เอสยูวี, กลุ่มซิตี้ ลักซ์ ชัวรี่ ซาลูน ที่เน้นความหรูหรา สะดวกสบาย และกลุ่มรถเล็ก ซิตี้คาร์ เพื่อตอบสนองการใช้งานภายในเมืองโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นการนำเข้ารถยนต์ประกอบนอกทั้งคัน (CBU) รองรับความต้องการของผู้นิยมความสมบูรณ์แบบของรถยนต์นำเข้าอย่างแท้จริง และเอาใจคนรักรถยุโรปที่ให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยในการขับขี่
ซิตี้ เอสยูวี สโกด้า เยติ (SKODA Yeti) รถเอสยูวีขนาดกลาง น้องใหม่สำหรับคนในเมือง ที่สร้างความแตกต่างด้วยเส้นสายโครงสร้างที่สะท้อนความ โก้แกร่ง ทรงมนเหลี่ยม มีลายเส้น สัน บนฝากระโปรง นูน เน้นความแข็งแรง ไฟหน้าชิ้นเดียว ไฟตัดหมอก ทรงกลมขนาดใหญ่ ติดตั้งระหว่างกระจังหน้า ดูสะดุดตาให้ทัศนวิสัยที่ดี กระจังหน้าแนวตั้ง ทรงเหลี่ยม พร้อมขอบโครเมี่ยมด้านบน สไตล์รถสโกด้า ภายใน สโกด้า เยติ ซิตี้ SUV มีห้องโดยสารที่กว้างขวาง พร้อมอุปกรณ์ อำนวยความสะดวกครบครัน ให้ชีวิตการขับขี่ในเมือง และเดินทางไกล มีความเพลิดเพลินขึ้น เบาะนั่งที่สูงกว่า ทำให้ สโกด้า เยติ มีทัศนวิสัยรอบคันที่ดี เหนือกว่ารถแบบอื่น เบาะหลังชนิด Vario Flex แยก 3 ส่วน ใช้งานได้หลายรูปแบบ ทำให้ใส่สัมภาระได้สะดวก ขนย้ายได้ง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบอิสระใช้ชีวิตได้อย่างลงตัวในเมืองและนอกเมือง สโกด้า เยติ ยังได้รับการ การันตีคุณภาพด้วยตำแหน่งรองชนะเลิศ ยูโรเปียน คาร์ ออฟ เดอะ เยียร์ ปี 2010
สโกด้า เยติ SUV 5 ประตู ขับเคลื่อน 2 ล้อ เปิดตัวด้วยกัน 2 รุ่น คือรุ่น Classic และ รุ่น Ambiente เครื่องยนต์เบนซินประหยัดและให้กำลังสูง 1.2 ลิตร เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ ระบบหัวฉีดมัลติพอยท์ ไดเร็คอินเจคชั่น มีแรงบิดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ขับขี่ได้ดี ในทุกสภาวะ พร้อมกับระบบส่งกำลังคลัทช์คู่ แทนอุปกรณ์ Torque Convertor เดินหน้า 7 จังหวะ ไดเร็คชิฟท์ เข้าเกียร์ด้วยระบบ ทิปทรอนิคส์ ง่ายสะดวกนุ่มนวล เลือกการขับขี่ในแบบสปอร์ต หรือ แบบประหยัด ในรุ่น Ambiente ติดตั้งหลังคาซันรูฟ แบบพาโนรามิค 2 ชิ้น ให้วิวที่เป็นอิสระ โปร่งใส พร้อมแร๊คหลังคาที่ปรับบรรทุกได้หลากหลาย
ด้านความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป สโกด้า เยติ มีความปลอดภัยสูงสุด ตามมาตรฐานรถยุโรป โดยผ่านการทดสอบการชนสูงสุด 5 ดาว จากสถาบัน Euro NCAP จากการทดสอบชนด้านหน้า ชนเยื้อง ด้านข้าง ให้ความปลอดภัยสูงสุด 92% สำหรับอุปกรณ์ความปลอดภัย ที่ติดตั้งมากับรถ อาทิ ระบบเตือนการรัดเข็มขัดนิรภัย ระบบช่วยการทรงตัว ESP, ระบบป้องกันเบรกล้อล็อคตาย ABS, ระบบช่วยเบรก HBA ระบบป้องกันการลื่นไถล ASR และระบบลิมิเต็ดสลิป ช่วยล็อคเพลาเมื่อล้อข้างใดข้างหนึ่งหมุนฟรี EDS ระบบไฟส่องสว่างรอบคันที่ชัดเจน ระบบไฟ Day Light
นอกจากนั้น โครงสร้างของสโกด้าเยติ ออกแบบให้มีความแข็งแรง รับแรงกระแทกได้ดีในทุกๆ ด้าน และมีถุงลมนิรภัย รอบคันถึง 8 ตำแหน่ง เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ถุงลมนิรภัยทำงาน ระบบจะตัด หรือ ปิดการส่งน้ำมันเชื้อเพลิงทันที เพื่อหลีกเลี่ยงการรั่วของน้ำมันเชื้อเพลิงที่อาจทำให้เกิดการลุกไหม้ จากน้ำมันเชื้อเพลิงได้
ในสวนของ ซิตี้ ลักซ์ ชัวรี่ ซาลูน สโกด้า ซูเพิร์บ (Skoda Superb) เป็นรถยนต์อีกรุ่นที่ถูกคัดเลือกเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ซูเพิร์บเป็นรถยนต์นั่งซีดานขนาดกลาง ได้รับการออกแบบโดยสะท้อนความหรูหรา โอ่อ่า ความกว้างขวาง ล้ำสมัยด้วยเทคโนโลยีที่ให้ความปลอดภัยสูงสุด ภายนอกได้รับการออกแบบโดยเน้น สง่างาม ลายเส้นบนตัวถังทรงนูน เน้นรูปทรงที่สง่างามแฝงด้วยพลัง กลมกลืนทุกๆ ส่วน ในทุกมุมมอง ตั้งแต่ด้านหน้าจนถึงด้านหลัง
สโกด้าซูเพิร์ป ซีดานหรูหรา 4 ประตู ที่เป็นมากกว่ารถซีดานธรรมดา โดยได้ออกแบบประตูท้ายแบบทวิน (Twin Door System) ประตูท้ายขนาดใหญ่ เปิดได้สูงกว้าง ทำให้รถซูเพิร์บซีดาน มีคุณลักษณะการใช้งานได้หลากหลาย ดั่งรถ 5 ประตู สามารถขนถ่ายสัมภาระได้ง่าย มีพื้นที่ห้องสัมภาระที่ใหญ่ สะดวกด้วยระบบล็อคประตูท้ายด้วยไฟฟ้า ทำให้การเปิด / ปิด ประตูท้ายและล็อคโดยอัตโนมัติ ทำให้ง่ายขึ้น ปลอดภัยกว่า
ภายในเน้นความโอ่อ่า สะดวกสบาย ไม่อึดอัด ออกแบบให้ผู้โดยสารและผู้ขับขี่ได้รับความสุข ความสะดวก เพลิดเพลินสูงสุดในการเดินทาง ด้วยเบาะนั่งที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ หุ้มด้วยหนังอย่างดี ความหนาแน่นของเนื้อโฟม แต่ละชิ้นส่วนให้ความนุ่มนวล นั่งสบาย รูปทรงที่รองรับสรีระของร่างกายได้สมดุลย์ ในทุกๆ การเดินทาง และลดการเมื่อยล้าเมื่อเดินทางไกล ชิ้นส่วนทุกชิ้นของอุปกรณ์ภายในรถถูกคัดเลือกจากวัสดุอย่างดี การประกอบที่ประณีต อุปกรณ์ระบบต่างๆ ที่ทันสมัย ระบบปรับอากาศแบบ Climatronic ทำงานได้โดยอัตโนมัติ ควบคุมด้วยอิเล็คทรอนิคส์ ชนิด Dual Zone สามารถตั้งและควบคุมอุณหภูมิด้านคนขับและผู้โดยสารให้แตกต่าง เพื่อความสดชื่น สะดวกสบายในทุกๆ พื้นที่
เครื่องยนต์ขนาด 1,800 ซีซี 4 สูบ ของสโกด้า ซูเพิร์บ เสริมพลังและความประหยัดด้วยเทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์ Startified อินเจ็คชั่น เทคโนโลยีของเยอรมัน จากบริษัทแม่ Audi และ VW กรุ๊ป ให้กำลังสูง 160 แรงม้า หรือ 118 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงถึง 250 นิวตันเมตร ตอบสนอง ยืดหยุ่นได้ดี ตั้งแต่รอบต่ำ 1,500 ถึง 4,200 รอบ/นาที ทำให้ขับขี่ได้ดี เร่งแซงออกตัวได้ทันใจ ในทุกๆ สภาวะการจราจร มาพร้อมกับเกียร์ที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมยานยนต์ ไดเร็คชิฟท์ DSG (Direct Shift Gear) เดินหน้า 7 จังหวะ ใช้ระบบการส่งแรงด้วยระบบคลัทช์คู่ แทนอุปกรณ์ Torque Convertor พร้อมด้วยระบบการเปลี่ยนเกียร์แบบทิปทรอนิคส์ – Tiptronics เข้าเกียร์ได้ง่ายเพียงนิ้วสัมผัส สามารถเลือกการขับขี่แบบสปอร์ต ว่องไว -รวดเร็ว หรือแบบนุ่มนวล – ประหยัด
สโกด้า ซูเพิร์บ มีมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดและเป็นที่ยอมรับสำหรับความปลอดภัยก่อนและหลังการเกิดอุบัติเหตุ ด้วยโครงสร้างที่รับแรงกระแทกได้สูง ห้องโดยสารที่แข็งแรง คงสภาพพื้นที่ในห้องผู้โดยสาร ที่ได้มาตรฐานสูงสุดของยุโรป ด้วยคะแนนสูงสุด 5 ดาว จากการทดสอบการชนของสถาบัน EURO – NCAP ภายในห้องโดยสาร ติดตั้งถุงลมนิรภัยคู่หน้า ถุงลมนิรภัยด้านข้างหน้า เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และเสริมพิเศษในรุ่น Ambiente ด้วยม่านนิรภัย และถุงลมข้างด้านหลัง และถุงลมนิรภัยหัวเข่า (Knee) พร้อมเข็มขัดนิรภัยหลังชนิด Pretensioner ทำให้ ซู เพิร์บ มีความปลอดภัยสูงสุด มีถุงลมนิรภัยรอบคัน 9 ตำแหน่ง และด้วยระบบพวงมาลัย Electromechanical ควบคุมด้วยไฟฟ้า ทำให้การควบคุมทิศทางได้อย่างมั่นใจปลอดภัยในทุกสภาวะผิวถนนและสภาพอากาศ
พร้อมกันนี้ ยังนำรถ ซิตี้คาร์ รุ่นเล็ก สโกด้า ฟาเบีย (Skoda Fabia)ซึ่งเปิดตัวเมื่อปลายปีที่ผ่านมา มาจัดแสดงในงานมอเตอร์โชว์ 2011 นี้ ด้วยรูปลักษณ์ที่ทันสมัย ปราดเปรียว กระฉับกระเฉง แฝง ความโก้หรู ซึ่งเป็นบุคลิกของความเป็นรถยุโรปที่เรียบง่าย แข็งแรง กระทัดรัด ภายในเน้นความหรูหราเรียบง่าย สามารถสัมผัสได้ถึงคุณภาพความลงตัว ในทุกๆชิ้นส่วน ตำแหน่งสวิทซ์ควบคุม และแกนควบคุมต่างๆ บนแผงหน้าปัด ใช้งานง่าย มาตราวัดเห็นได้ชัดเจนสบายตา พวงมาลัยขนาดกระทัดรัด กระชับมือ ปรับระยะได้ ควบคุมทิศทางได้ง่าย เบาะนั่ง ออกแบบให้นั่งอย่างสบาย รูปทรงรับกับสรีระของร่างกาย ทำให้ไม่เมื่อยล้า ในการทางเดิน ปรับตำแหน่ง สามารถเห็นทัศนวิสัยได้รอบคัน
สโกด้าฟาเบีย ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร TSI ที่ให้ความประหยัดและพลังในการขับเคลื่อนด้วยขนาดความจุ 1,200 ซีซี เสริมกำลังด้วยเทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงหัวฉีดแรงดันสูง ไดเร็คอินเจ็คชั่น ให้กำลังมาตราฐานยุโรป 105 แรงม้า หรือ 77 กิโลวัตต์ อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 18 กิโลเมตร/ลิตร
แรงบิดที่มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ รอบต่ำ ทำให้ขับขี่ได้อย่างคล่องตัว ทันใจ ในทุกสภาพการจราจรด้วย ระบบที่ส่งกำลังที่ทันสมัยที่สุด ที่ใช้กับรถสมรรถณะสูง ด้วยเกียร์ไดเร็คชิฟท์ DSG ใช้ระบบถ่ายทอดกำลังโดยตรงด้วยคลัชคู่ Dual-Clutch รวดเร็วประหยัด แทนอุปกรณ์ Torque Convertor มีเกียร์เดินหน้า 7 จังหวะ เปลี่ยนเกียร์ได้ทันใจนุ่มนวลด้วยระบบ Tiptronic ด้วยปลายนิ้วสัมผัส สามารถเลือกการขับขี่แบบสปอร์ตอย่างเกียร์ธรรมดาหรือแบบประหยัด เครื่องยนต์เบนซินที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีมลพิษต่ำมาตราฐานยุโร 5
มาตรฐานด้านความปลอดภัย สโกด้า ฟาเบีย ติดตั้งถุงลมนิรภัยคู่หน้าสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ม่านนิรภัยด้านข้างหน้า และ หลัง พร้อมเข็มขัดนิรภัย ชนิด Pretensioner มั่นใจในการขับขี่ด้วยระบบเบรก ABS พร้อมหม้อลงช่วยผ่อนแรงขนาดใหญ่ ระบบป้องกันการลื่นไถล MSR/ARS ระบบช่วยเบรก HBA ระบบช่วยการทรงตัว ESP ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี EDS และพิเศษด้วยระบบกันรถไหลบนเนิน Hill Hold Control
พบรถยนต์ สโกด้า ในราคาแนะนำเริ่มต้นเพียง 990,000.-บาท ดอกเบี้ยพิเศษ เริ่มต้น 1.99% หรือเลือกผ่อนนาน 72 เดือน
พร้อมกันนี้สโกด้า หนึ่งในแบรนด์รถยนต์นำเข้าของ กลุ่ม ดีเอดี ยนตรกิจ ยังได้ร่วมแคมเปญในงานดังกล่าวอีก 3 แคมเปญ คือ D.A.D Back Home บริการตรวจเช็กสภาพรถฟรี 10 รายการ สำหรับลูกค้าสโกด้า ทั้งเก่าและใหม่ ไม่ว่าจะเป็นรถปีใดก็ตามสามารถเข้ารับบริการได้ที่ศูนย์บริการของแบรนด์รถยนต์ในเครือ ดีเอดี ยนตรกิจได้ทุกสาขา ทั้งนี้เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าที่ให้ความมั่นใจในยนตรกิจ และตอกย้ำถึงความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลรถยุโรปของกลุ่ม D.A.D ที่ยังยืนหยัดให้การดูแลลูกค้าที่ชื่นชอบรถยุโรปอย่างต่อเนื่อง
ส่วนอีก สองแคมเปญ เป็นแคมเปญสำหรับลูกค้าใหม่ของสโกด้าและแบรนด์ในเครือ สำหรับลูกค้าใหม่ ที่จองรถในงานมอเตอร์โชว์ จะได้รับ “บัตร D.A.D. VVIP” เพื่อเป็นส่วนลดค่าอะไหล่(10%) และส่วนลดค่าแรง(15%) พร้อมบริการรถสไลด์รับ-ส่งรถเพื่อนำเข้าเชคระยะ พร้อมกันนี้ร่วมกับ Life star wedding Studio มอบแพคเกจถ่ายภาพคู่และภาพครอบครัวให้เป็นการสมนาคุณพิเศษอีกด้วย โดยแคมเปญทั้งหมดจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 25 มีค. – 5 เม.ย. 2554 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของงานมอเตอร์โชว์เท่านั้น
สัมผัสรถยนต์ภายใต้แนวคิด ซิตี้ ไลฟ์, ซิตี้ ไดร์ฟ ทั้ง 3 รุ่น ซิตี้ คาร์ สโกด้า ฟาเบีย , ซิตี้ เอสยูวี สโกด้า เยติ และ ลักซ์ ชัวรี่ ซาลูน สโกด้า ซูเพิร์บ ที่ให้ความคุ้มค่าด้านความปลอดภัย ภายใต้บุคลิกที่โก้หรู ได้ที่บูธสโกด้า ในบางกอกอินเตอร์ เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2011 ได้แล้วตั้งแต่บัดนี้
ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อมวลชนกรุณาติดต่อ
นางสาวปิยะรัตน์ โรจน์นครินทร์
นางสาวชนัญชิดา พัฒนพันธุ์พงศ์
บริษัท ไดเรคชันแนล ออโตโมบิลส์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด
โทร. 02 934 5634 แฟกส์ 02 934 5633
-
DAD ยนตรกิจ ยกทัพรถใหม่ 6 รุ่น อัดแคมเปญ กระหึ่มมอเตอร์โชว์2011
ดีเอดี ยนตรกิจ จัดหนักนำรถใหม่ของแบรนด์ในเครือ พาเหรดเข้าร่วมงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2011 นำขบวนโดย “ซีตรอง ดีเอส3และจัมเปอร์” “เอ็มทีเอ็ม ออดี้ เอ7และ เอ็มทีเอ็ม ออดี้ คิว5” “สโกด้า ซูเพิร์บและ สโกด้า เยติ” พร้อมปล่อย 3 แคมเปญเด็ดเอาใจลูกค้าทั้งใหม่และเก่า ตรวจเช็คสภาพฟรี ยืนยันความเป็นมืออาชีพด้านการดูแลรถยุโรป พิเศษสุดสำหรับลูกค้าที่จองรถในงาน รับบัตรวีวีไอพี เพื่อเป็นส่วนลดค่าแรงค่าอะไหล่ พร้อมรับแพคเกจถ่ายภาพจากสตูดิโอชั้นนำ
นางสาว วิชชุดา ลีนุตพงษ์ รองประธานกรรมการ บริษัท ไดเรคชันแนล ออโตโมบิลส์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด หรือกลุ่มดีเอดี ยนตรกิจ ผู้นำเข้า ผู้จัดจำหน่ายและผู้ให้บริการหลังการขายรถยนต์ ยี่ห้อ “ซีตรอง” “โฟตอน” “เอ็มทีเอ็ม ออดี้” “เซียท” “สโกด้า” “สปีด อาร์ต พอร์ช” “สปายเกอร์ ” อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับการเข้าร่วมแสดงรถยนต์ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานี บริษัทฯได้นำรถยนต์รุ่นใหม่เข้าร่วมแสดงถึง 6 รุ่น 3 ยี่ห้อได้แก่ ซีตรอง เอ็มทีเอ็มออดี้ และสโกด้า เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ชื่นชอบรถยนต์มาตรฐานยุโรป
สำหรับแบรนด์รถยนต์ ซีตรอง นำทีมโดยรุ่น “ดีเอส3”(DS3) ด้วยรูปทรงดีไซน์รถแบบสปอร์ตแฮตช์แบ็ค สร้างความโดดเด่นและสะดุดตาบนท้องถนน สามารถสะท้อนบุคลิกของผู้ขับขี่ที่ชื่นชอบความแตกต่าง ทันสมัยและมีแฟชั่นอยู่ในใจได้เป็นอย่างดี
ซึ่งในงานนี้ ซีตรอง ดีเอส3 ยังคงมากับทางเลือกเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปลผันVTi ให้พละกำลังสูงสุดถึง 120 แรงม้า และคงความเร้าใจด้วยแรงบิดสูงสุด 160 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีดพร้อมระบบ Triptonic อันทันสมัยของซีตรอง ประเทศฝรั่งเศส
ขณะที่ ซีตรอง รุ่น “จัมเปอร์”(Jumper) รถเอนกประสงค์ระดับวีไอพี ได้รับการตกแต่งใหม่เพิ่มความหรูหราและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกให้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม อาทิ เบาะหนังแท้แบบเฟิร์ส คลาสพร้อมระบบนวดไฟฟ้า, บันไดขึ้นลงไฟฟ้าทั้งด้านซ้าย-ขวา และระบบโฮม เอนเตอร์เทนเมนท์ เติมเต็มความสมบูรณ์แบบ
นางสาววิชชุดา กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้านของแบรนด์ เอ็มทีเอ็ม ออดี้ จะมีแสดงได้แก่รุ่น “เอ7”(A7) รถสปอร์ตซีดานแนวคิดใหม่ที่ไม่จำกัดความสปอร์ตไว้เพียงแค่รถ 2 ประตูเท่านั้น ด้วยรูปทรงที่ออกแบบให้เป็น 4 ประตูแต่ผสานเอาความสปอร์ตไว้ได้อย่างลงตัว บวกกับเครื่องยนต์อันทรงพลังที่ได้รับการปรับแต่งเพิ่มจากเอ็มทีเอ็มจนทำให้เครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตรมีพละกำลังถึง 285 แรงม้าตอบโจทย์ความเป็นสปอร์ตได้เหนือกว่าใคร
นอกจากนั้น เอ็มทีเอ็มยังนำเอารุ่น “คิว5”(Q5) รถสปอร์ตเอนกประสงค์ , รุ่น “เอ5”(A5) รถสปอร์ตแบบคูเป้ 2 ประตู ที่ได้รับการปรับแต่งเพิ่มเติม และรุ่น “เอ1”(A1) รถสปอร์ตแฮตซ์แบ็คน้องเล็กของค่าย มาเข้าร่วมแสดงด้วย
สำหรับแบรนด์ สโกด้า นำทีมโดย 2 ดาวรุ่งโฉมใหม่ล่าสุด “ซูเพิร์บ”(Superb) และรุ่น “เยติ”(Yeti) ซึ่ง ซูเพิร์บ เป็นรถยนต์นั่งแบบซีดานขนาดกลางที่หรูหราและมีความปลอดภัยสูงตามมาตรฐานยุโรป พร้อมทั้งอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีทันสมัย เครื่องยนต์อัจฉริยะ 1.8 TSI ที่ให้กำลังสูงสุดถึง 160 แรงม้า ผสานกับเกียร์อัตโนมัติ DSG 7 สปีด อันเลื่องชื่อ ทำให้มีอัตราเร่งดี แต่อัตราบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงต่ำ
ส่วนรุ่น เยติ จะเป็นรถยนต์แบบซีตี้ เอสยูวี ที่สามารถตอบสนองลูกค้าผู้ชื่นชอบความแปลกใหม่ ที่มีทั้งความประหยัดและระดับความปลอดภัยตามมาตรฐานรถยุโรป ซึ่งเยติจะตอบโจทย์นี้ได้เป็นอย่างดี เครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตรTSI ผสานกับเกียร์สุดอัจฉริยะ DSG 7 สปีด ทำให้พละกำลังสูงสุดถึง 105 แรงม้าและมีอัตราเร่ง 0-100 ในเวลาเพียง 12 วินาที แต่คงความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงระดับ 6.4 ลิตรต่อ 100 กม.เอาไว้ได้ นางสาววิชชุดา กล่าวว่า บริษัทฯได้จัดแคมเปญพิเศษในระหว่างเวลาเข้าร่วมจัดแสดงรถในงานดังกล่าวนี้ถึง 3 แคมเปญ คือ “ D.A.D. Back Home” บริการตรวจเชคสภาพรถฟรี 25 รายการ สำหรับรถยนต์ทุกรุ่นของแบรนด์ในเครือ ดีเอดี ยนตรกิจ ทั้งรถเก่าและรถใหม่ไม่ว่าจะเป็นรถปีใดก็ตามสามารถเข้ารับบริการได้ศูนย์บริการของแบรนด์รถยนต์ในเครือ ดีเอดี ยนตรกิจทั้งหมดทุกสาขา
“แคมเปญนี้เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าของดีเอดี ยนตรกิจที่ยังคงรักและชื่นชอบรถยนต์ของยุโรป ทั้งยังแสดงให้เห็นว่าเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลรถยุโรปและยืนหยัดให้บริการลูกค้าอันทรงเกรียติของเราได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ท่านจะขับรถรุ่นใดก็ตามขอให้เป็นแบรนด์ในเครือที่ดีเอดี ยนตรกิจทำตลาดอยู่ในปัจจุบันสามารถนำรถของท่านเข้ารับบริการได้ฟรี” วิชชุดากล่าว
ส่วน แคมเปญที่ 2 และ3 สำหรับลูกค้าใหม่ ที่จองรถในงานมอเตอร์โชว์ จะได้รับ “บัตร D.A.D. VVIP” เพื่อเป็นส่วนลดค่าอะไหล่(10%) และส่วนลดค่าแรง(15%) พร้อมบริการรถสไลด์รับ-ส่งรถเพื่อนำเข้าเชคระยะ พร้อมกันนี้ร่วมกับ Life star wedding Studio มอบแพคเกจถ่ายภาพคู่และภาพครอบครัวให้เป็นการสมนาคุณพิเศษอีกด้วย
โดยแคมเปญทั้งหมดจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 25 มีค. – 5 เม.ย. 2554 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของงานมอเตอร์โชว์เท่านั้น
ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อมวลชนกรุณาติดต่อ
นางสาว ปิยะรัตน์ โรจน์นครินทร์
นางสาว ชนัญชิดา พัฒนพันธุ์พงศ์
บริษัท ไดเรคชันแนล ออโตโมบิลส์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด
โทร. 02 934 5634 แฟกซ์ 02 934 56 33
-
ซีตรองนำทัพ DS3 และ Jumper อัดแคมเปญเด็ด สนั่นมอเตอร์โชว์
ซีตรองลั่นกรองรบ นำ “ดีเอส3” อวดโฉมในงานมอเตอร์โชว์ ด้วยรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยว มีดีไซน์ทันสมัย หรูหราเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ พร้อมส่ง “จัมเปอร์” จับกลุ่มลูกค้าผู้บริหารและครอบครัว ชูความเอนกประสงค์คู่ความสบายระดับเฟิร์สคลาส ชู 3 แคมเปญเด็ดมัดใจลูกค้า
นายเต็ม ทรงเจริญ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซีที. ยูโรพาร์ท จำกัด ผู้นำเข้า จัดจำหน่ายและให้บริการหลังการขายรถยนต์ซีตรองแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย กล่าวว่า บริษัทฯ มีความตั้งใจที่จะสร้างความพึงพอใจให้กับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องและเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าเฉพาะกลุ่มที่ชื่นชอบไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างจากคนธรรมดาทั่วไป จึงมีความภูมิใจที่จะนำเสนอ “ซีตรอง ดีเอส3” และ “ซีตรอง จัมเปอร์” ในการเข้าร่วมแสดงรถยนต์ในงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี ระหว่าง 25 มีนาคม ถึง 5 เมษายน ศกนี้

ซีตรอง ดีเอส 3 เป็นรถที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “แฟชั่นคาร์แห่งเมืองน้ำหอม” ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่โฉบเฉี่ยว สะดุดตา ด้านหน้าจดด้านท้าย มีความสมดุลและลงตัวในทุกส่วนสัด ทั้งยังให้ความรู้สึกสปอร์ตผสานกับความทันสมัยและสะดวกสบายเฉกเช่นวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่
สีสันภายนอกผู้บริโภคสามารถเลือกได้ตามความต้องการ โดยมีล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว และท่อไอเสียทรงสปอร์ต เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกคัน
การตกแต่งภายในของดีเอส3 ให้ทั้งความหรูหราตามเทรนด์แฟชั่นสไตล์ฝรั่งเศส และความสะดวกสบายของฟังก์ชั่นใช้งานต่างๆ ภายในรถ อาทิระบบปรับอากาศอัตโนมัติ วิทยุ-ซีดีฝังในคอนโซลหน้า พวงมาลัยรูปทรงสปอร์ต และแผงหน้าปัดเรือนไมล์ดีไซน์ใหม่แบบ 3 ช่องให้ความรู้สึกสปอร์ตเช่นเดียวกัน
ด้านของเครื่องยนต์ ดีเอส3 มากับทางเลือกของเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร VTi 4 สูบ 16 วาล์ว ที่เป็นการพัฒนาร่วมกันระหว่าง PSA(เปอร์โยและซีตรอง) และ BMW ซึ่งให้พละกำลังสูงสุดถึง 120 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 160 นิวตันเมตรที่ 4,200 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีดพร้อมระบบ Tiptonic ให้ความสนุกในการขับขี่ได้เฉกเช่นเกียร์ธรรมดา
ความปลอดภัยซีตรอง ดีเอส3 มีบรรจุไว้อย่างครบครันตามสไตล์รถยุโรปทั้ง ดิสก์เบรก4 ล้อที่มากับระบบเบรก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD และระบบเสริมแรงเบรก EBA ถุงลมนิรภัย พวงมาลับแบบแรคแอนด์พิเนี่ยนพร้อมปั๊มไฟฟ้า รัศมีวงเลี้ยวแคบสุดเพียง 5.2 เมตร ระบบช่วงล่างหน้า แบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท หลังแบบอิสระ คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง

ส่วนซีตรอง จัมเปอร์ มากับรูปทรงเอนกประสงค์หรูหราสอดรับกับผู้บริหารหรือครอบครัวขนาดใหญ่ที่ชื่นชอบการเดินทาง โดยมากับ 3 ทางเลือกย่อยได้แก่ J2, JL1/JL2 และPresident
ซีตรอง จัมเปอร์ President มีขนาดตัวถังที่กว้างใหญ่และสูงที่สุดด้วยมิติความยาว 5,413 มม. กว้าง 2,050 และสูงถึง 2,524 มม. พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกระดับ VVIP ครบครัน ทั้งเบาะนั่งหนังแท้แบบเฟิร์สคลาสพร้อมระบบนวดไฟฟ้าให้ความรู้สึกสบายตลอดการเดินทาง ระบบเครื่องเสียง โฮม เธียเตอร์ สมบูรณ์แบบพร้อมจอ LCD กระจกกันระหว่างห้องผู้โดยสารกับคนขับ
สำหรับเครื่องยนต์ของรุ่น President จะมีขนาดใหญ่ที่สุดเช่นกันโดยเป็นเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 3.0 ลิตร เทอร์โบ 4 สูบ 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 157 แรงม้าที่ 3600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตรที่รอบกว้าง 1700-2550 รอบต่อนาที
ซีตรอง จัมเปอร์ JL1/JL2 มากับขนาดตัวถังที่ยาว 5,413 มม. แต่สูงเพียง 2,254 มม. กว้าง2,050 มม. โดยบรรจุเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.2 ลิตร เทอร์โบ 4 สูบ 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 120 แรงม้าที่ 3500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตรที่ 2000 รอบต่อนาที
ด้านการตกแต่งภายในและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกนั้น JL2 จะมากับเบาะนั่งหนังแท้แบบเฟิร์สคลาสพร้อมระบบนวดไฟฟ้า พร้อมจอ LCDและระบบเครื่องเสียงสมบูรณ์แบบ ประตูเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้าทั้งซ้ายและขวา กระจกกั้นระหว่างห้องผู้โดยสารกับคนขับ และระบบช่วยจอดพร้อมจอภาพแสดงผล
ขณะที่ JL1 มากับเบาะนั่งหนังแท้ 11 ที่นั่ง (เบาะแถวที่ 2 ปรับไฟฟ้า) คอนโซลหน้าลายไม้แบล็คเปียโน คอนโซลการเรียบหรูพร้อมปุ่มควบคุมการทำงาน และกระจกกั้นระหว่างห้องผู้โดยสารกับคนขับ
ส่วนซีตรอง จัมเปอร์ J2 มากับขนาดตัวถังสั้นกว่ารุ่นอื่น โดยมีความยาว 4,963 มม. กว้าง2,050 มม. สูง 2,254 มม. เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.2 ลิตร เทอร์โบ 4 สูบ 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 120 แรงม้าที่ 3500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตรที่ 2000 รอบต่อนาที ภายในตกแต่งด้วยเบาะนั่งหนังแท้ 11 ที่นั่ง จอ LCDพร้อมระบบเครื่องเสียงสมบูรณ์แบบ บันไดเลื่อนข้างประตูอัตโนมัติ (เฉพาะด้านซ้าย)
ซีตรอง จัมเปอร์ทุกรุ่น ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด เครื่องยนต์ผ่านมาตรฐานไอเสียยูโร4 ระบบกันสะเทือน หน้า แบบแมคเฟอร์สันสตรัทคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง หลัง แบบคานแข็ง ถุงลมพร้อมโช้คอัพและเหล็กกันโคลง ส่วนระบบความปลอดภัยถุงลมนิรภัยด้านคนขับ ระบบดิสก์เบรก 4 ล้อพร้อมเบรก ABS
นายเต็ม กล่าวว่า แคมเปญพิเศษสำหรับผู้ที่จองรถในระหว่างงานมอเตอร์โชว์ จะได้รับแพ็คเกจถ่ายภาพคู่ มูลค่า 10,000 บาท และแพ็คเกจถ่ายภาพครอบครัว มูลค่า 5,000 บาท จำนวนจำกัด ทั้งยังจะได้รับบัตร VVIP เพื่อใช้เป็นส่วนลดค่าบริการและค่าอะไหล่ และรถยนต์ซีตรองทุกรุ่นสามารถเข้ารับการตรวจเชคฟรี 25 รายการที่ศูนย์บริการซีตรองทุกแห่งในระหว่างระยะเวลาแสดงของงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32 ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม ถึง 5 เมษายน ศกนี้อีกด้วย
-
“เอ็มทีเอ็ม” จัดชุดใหญ่ ขนทัพรถใหม่-แรงอวดโฉมมอเตอร์โชว์
เอ็มทีเอ็มยกทัพรถแรง 4 รุ่นอวดโฉมในงานมอเตอร์โชว์ครั้งที่ 32 นำทีมโดย “เอ7” รถสปอร์ตซีดานแนวคิดใหม่ที่พกพาความแรงระดับ 285 แรงม้ามาโชว์ “เอ1” รถเล็กซ่อนความแรง ขับสนุกสไตล์ยุโรป “คิว5” รถเอสยูวีที่ผสมความเอนกประสงค์กับความแรงไว้รวมกัน และ “เอ5” รถสปอร์ตคูเป้สายพันธ์เยอรมันแท้ พร้อมจัดแคมเปญชุดใหญ่ทั้งบัตรวีวีไอพีและแพคเกจถ่ายภาพคู่
นายกิติภัฎ เฉลยทรัพย์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอ็มทีเอ็ม มอเตอเรน เทคนิค เมเยอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นเผยว่า บริษัทฯ นำรถยนต์เอ็มทีเอ็มเข้าร่วมแสดงในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานีในระหว่างวันที่ 25 มีค. – 5 เม.ย.ศกนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคโดยมีให้เลือก 4 รุ่น 4 สไตล์แตกต่างกันได้แก่

“เอ็มทีเอ็ม ออดี้ เอ7 (MTM Audi A7)” ทื่ถือเป็นไฮไลท์ของการเข้าร่วมแสดงงานในครั้งนี้ ซึ่ง เอ7เป็นรถสปอร์ตซีดานแนวคิดใหม่ ด้วยรูปทรงที่ออกแบบให้เป็น 4 ประตู ฉีกกฏความเชื่อเดิมที่ว่ารถสปอร์ตต้องมีเพียง 2 ประตูเท่านั้น ดีไซน์ภายนอก หลังคาหลังลาดโค้งรับกับประตูคู่หลังดูอย่างลงตัวตามแบบฉบับรูปทรงของรถแบบคูเป้
การตกแต่งภายในของ เอ7 เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์อันทันสมัยที่ถูกจัดวางให้อยู่ในตำแหน่งใช้งานง่าย ทั้งยังให้ความรู้สึกสปอร์ตด้วยพวงมาลัยหนังแท้ 3 ก้านพร้อมระบบมัลติฟังก์ชัน เบาะนั่งหนังแท้ปรับไฟฟ้า แผงคอนโซลหนังคุณภาพสูงตัดสลับด้วยลายไม้และวัสดุอลูมิเนียม
หัวใจบรรจุเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ(TDI) ขนาด 3.0 ลิตรที่ได้รับการปรับแต่งเพิ่มจากเอ็มทีเอ็มจนทำให้มีพละกำลังสูงสุดถึง 285 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตรที่รอบต่ำเพียง 1,400 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด (S-Tronic) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ในเวลา 5.8 วินาที ความเร็วสูงสุดทำได้ 270 กม./ชม. ตอบโจทย์ความเป็นสปอร์ตได้เหนือกว่าใคร
อีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจ “เอ็มทีเอ็ม ออดี้ เอ1”( MTM Audi A1) รถสปอร์ตแฮตช์แบคน้องเล็กจากค่ายเอ็มทีเอ็ม ที่ผสานความลงตัวระหว่างความแรงกับความคล่องตัวในแบบฉบับของรถขนาดเล็กตามสไตล์ยุโรปโดยเน้นในเรื่องของสมรรถนะ การทรงตัว การเกาะถนนและสิ่งสำคัญที่สุดคือความปลอดภัยในระดับสูงสุด

เอ็มทีเอ็ม ออดี้ เอ1 มากับขนาดตัวถังกว้าง 1,740 มม. ยาว 3,954 มม. และสูง 1,416มม. พร้อมอุปกรณ์ตกแต่งภายนอกที่ครบครัน ขณะที่อุปกรณ์ตกแต่งภายในให้ความหรูหราและคงอรรถประโยชน์ในสไตล์ของรถยูโรปไว้อย่างครบถ้วน
เครื่องยนต์ของเอ1 เป็นแบบเบนซินขนาด 1.4 ลิตร เทอร์โบ (TFSi) ให้กำลังสูงสุดถึง 152 แรงม้าที่ 6,900 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 235 นิวตันเมตรที่ 4,400 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีดแบบ S-Tronic อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ในเวลา 8.0 วินาที ความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม. ให้การขับขี่ที่สนุกเร้าใจแบบยุโรปได้เป็นอย่างดี

ส่วน “เอ็มทีเอ็ม ออดี้ คิว5”( MTM Audi Q5) นำเสนอความแตกต่างของรถเอสยูวีที่ผสมผสานเอนกประสงค์กับความแรงในแบบฉบับของเอ็มทีเอ็ม ด้วยเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร ที่มาพร้อมกับระบบ เทอร์โบ FSI โดยได้รับการปรับแต่งให้มีกำลังสูงสุดถึง 270 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 390 นิวตันเมตรที่ต่ำเพียง 1,500 รอบต่อนาที พละกำลังระดับนี้เรียกว่าไม่น้อยหน้ารถสปอร์ตแต่อย่างใด
ด้านระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีดแบบ S-Tronic ผสานการทำงานกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Quatto อันเลื่องชื่อ ส่งผลให้ คิว5 มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 8.0 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึงระดับ 248 กม./ชม.

สำหรับ “เอ็มทีเอ็ม ออดี้ เอ5”( MTM Audi A5) รถสปอร์ตคูเป้สายพันธ์แท้ ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นในเรื่องของดีไซน์สวยสะดุดตาทั้งภายนอกและภายใน อาทิ เบาะนั่งหนังแท้สีแดง ขณะที่ภายในห้องโดยสารเป็นหนังสีดำหุ้มอยู่โดยรอบพร้อมตัดขอบด้วยวัสดุสีอลูมิเนียมให้ความรู้สึกสปอร์ตอย่างสมบูรณ์แบบ
เครื่องยนต์เป็นแบบเบนซินขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบ FSI ที่มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (Quatto)โดยได้รับการปรับแต่งจากเอ็มทีเอ็มให้มีกำลังสูงสุดถึง 270 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 390 นิวตันเมตรที่ต่ำเพียง 1,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีดแบบ S-Tronic ทำให้ เอ5 มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 6.0 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 255 กม./ชม. ทำให้การขับขี่สนุกเร้าใจจนไม่อยากลุกจากหลังพวงมาลัย
นายกิติภัฎ กล่าวว่า แคมเปญสำหรับลูกค้าใหม่ ที่จองรถในงานมอเตอร์โชว์ จะได้รับ “บัตร D.A.D. VVIP” เพื่อเป็นส่วนลดค่าอะไหล่(10%)และส่วนลดค่าแรง(15%) พร้อมบริการตรวจเชคระยะสภาพรถฟรี 25 รายการ ในระหว่างระยะเวลาแสดงของงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32 ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม ถึง 5 เมษายน ศกนี้พร้อมกับรับ แพ็คเกจถ่ายภาพคู่ มูลค่า 10,000 บาท จาก Life star wedding Studio จำนวนจำกัด
ราคาของรถยนต์MTM
MTM Audi A7 ราคา 6.5 ล้านบาท
MTM Audi A5 ราคา 4.89 ล้านบาท
MTM Audi Q5 ราคา 4.29 ล้านบาท
MTM Audi A1 ราคา 1.9 ล้านบาท
-
Audi เน้นเทคโนโลยีประหยัดน้ำมัน TFSI ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32
- ชูเทคโนโลยีเครื่องยนต์เบนซิน TFSI ที่ให้สมรรถนะสูงและประหยัดน้ำมันมากกว่าเครื่องยนต์ระดับเดียวกัน 15%
- พบรถซาลูน Audi A4 1.8 TFSI , รถสปอร์ตคูเป้ Audi A5 Coupe 2.0 TFSI quattro และรถพรีเมียมเอสยูวี Audi Q5 2.0 TFSI quattro
- พร้อมรับสิทธิพิเศษในการเป็นเจ้าของรถยนต์ Audi ด้วยเงื่อนไขพิเศษมูลค่ากว่า 100,000 บาท
นายกิตติ มาไพศาลสิน กรรมการบริหาร บริษัท เยอรมัน มอเตอร์เวอร์ค จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ Audi ในประเทศไทยกล่าวว่า “ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32 นี้ ทาง Audi ได้นำเทคโนโลยี TFSI ซึ่งเป็น 1 ในเทคโนโลยีสำคัญที่ทำให้แบรนด์ Audi ประสบผลสำเร็จในด้านยอดขายทั่วโลกในปีที่ผ่านมา ด้วยตัวเลขสูงสุดถึง 1,092,400 คัน และทำให้ Audi ครองตำแหน่งรถพรีเมียมที่มียอดขายรถดีที่สุดในยุโรป ดังนั้นในงานนี้ทางบริษัทฯ จึงได้นำรถยนต์ 3 รุ่นหลักของ Audi ได้แก่รถซาลูน Audi A4 1.8 TFSI , รถสปอร์ตคูเป้ Audi A5 Coupe 2.0 TFSI quattro และรถเอสยูวี Audi Q5 2.0 TFSI quattro ซึ่งทั้ง 3 รุ่นนี้เน้นใช้เทคโนโลยี TFSI(Turbo Fuel Stratified Injection) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเครื่องยนต์เบนซินระบบฉีดจ่ายน้ำมันเข้าสู่ห้องเผาไหม้เครื่องยนต์โดยตรง ที่ให้ทั้งสมรรถนะยอดเยี่ยม ให้ความสนุกเร้าใจในการขับขี่ และให้ความประหยัดน้ำมันมากกว่าเครื่องยนต์ระดับเดียวกันถึง 15% ซึ่งแนวคิดในเรื่องการประหยัดน้ำมัน เป็นนโยบายสำคัญที่ทาง Audi ให้ความใส่ใจมาโดยตลอด นอกจากเทคโนโลยี TFSI แล้ว Audi ยังมีเทคโนโลยี quattro ซึ่งเป็นระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ ตลอดเวลาที่ Audi เป็นผู้บุกเบิกในวงการอุตสาหกรรมรถยนต์โลกเป็นรายแรก พัฒนาขึ้นมานานถึง 30 ปี โดย quattro รุ่นปัจจุบันนี้สามารถตอบสนองการทำงานได้ดีและรวดเร็ว ให้การทรงตัวที่ดีมาก ทำให้สนุกกับการขับขี่อย่างเต็มที่ในทุกสภาพถนน ด้วยความมั่นใจในความปลอดภัยสูงสุด”

Audi A4 1.8 TFSI เป็นรถซาลูนที่สปอร์ตที่สุดในเซกเมนต์ ทั้งด้วยรูปลักษณ์ สปอร์ตโฉบเฉี่ยว โดดเด่นเหนือใคร ไฟหน้าซีนอนพลัสใหม่ พร้อมไฟ LED14 ดวง มีโอเวอร์แฮงค์ด้านหน้าสั้น ฝากระโปรงและฐานล้อที่ยาวขึ้นอย่างเด่นชัด จึงทำให้ Audi A4 เป็นรถยนต์นั่งขนาดกลางที่ใหญ่ที่สุด ดูสปอร์ตที่สุดเหนือกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน
ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง DOHC พร้อมระบบฉีดจ่ายน้ำมันเข้าสู่ห้องเผาไหม้เครื่องยนต์โดยตรง จึงให้ทั้งสมรรถนะความแรงเกินพิกัด แต่ช่วยประหยัดน้ำมันมากถึง15 % เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ระดับเดียวกัน ให้กำลังสูงสุด 160 แรงม้าที่ 4500-6200 รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตรที่ 1500-4500 รอบต่อนาที จึงทำให้สามารถเร่งแซงได้รวดเร็วทันใจ คล่องแคล่ว ปราดเปรียว แต่คงความประหยัดน้ำมันได้อย่างเหลือเชื่อ ด้วยอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 13.51 กิโลเมตร ต่อ ลิตร

Audi A5 Coupe 2.0 TFSI quattro รถสปอร์ตพรีเมียมคูเป้ 2 ประตู รุ่นใหม่ ดุลยภาพแห่งความสปอร์ตและความงามสง่า ดีไซน์สวยงามหมดจดตั้งแต่ด้านหน้าจรดด้านท้าย ด้วยเส้นสายที่โฉบเฉี่ยวทรงพลัง เจ้าของรางวัลชนะเลิศรถยนต์ออกแบบยอดเยี่ยมแห่งประเทศเยอรมนีประจำปี Design Oscar ซึ่งถือเป็นรางวัลออสการ์ด้านดีไซน์ของวงการอุตสาหกรรมรถยนต์ จัดขึ้นโดยสถาบันอันทรงเกียรติของเยอรมนี “The German Design Council” ด้านมิติตัวรถมีความยาว 4,625 มม. ความกว้าง 1,854 มม. และความสูง 1,372 มม.
Audi A5 Coupe 2.0 TFSI quattro เป็นรถคูเป้เพียงยี่ห้อเดียว ที่โดดเด่นและแตกต่างเหนือรถยนต์คูเป้พรีเมี่ยม ยี่ห้ออื่น ด้วย quattro ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Audi จึงทำให้ผู้ขับขี่ได้รับประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่างและเหนือกว่าระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อทั่วไป ให้ทั้งความสนุกแรงเร้าใจแบบเกินพิกัด ที่มาพร้อมกับความปลอดภัยสูงสุดและมั่นใจในทุกสภาพถนน สำหรับเครื่องยนต์ เป็นเบนซิน 4 สูบแถวเรียง DOCH ขนาด 1,984 ซีซี ใช้เทคโนโลยี TFSI และ Audi valvelift system ที่ให้ความประหยัดน้ำมันมากกว่าเครื่องยนต์ขนาดเดียวกันถึง 15% เครื่องยนต์ตัวนี้ให้กำลังสูงสุด 211 แรงม้า ที่ 4,300 – 6,000 รอบต่อนาทีให้แรงบิดสูงสุดถึง 350 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 4,200 รอบต่อนาที ระบบเกียร์ S tronic 7 สปีด ทำความเร็วสูงสุด 245 กม./ชม. มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.5 วินาที มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ยเพียง 13.33 กม./ลิตร

Audi Q5 2.0 TFSI quattro ได้รับการออกแบบให้ดูทันสมัย สวยงาม สปอร์ต ปราดเปรียว แตกต่างจาก SUV ทั่วไปที่เป็นรูปทรงเหลี่ยม เหนือกว่าคู่แข่งด้วยมิติตัวรถมีความยาวรถถึง 4,629 มม. มีความกว้างตัวรถ 1,880 มม. มีความสูง 1,653 มม. มีฐานล้อยาว 2,807 มม. ที่สำคัญมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศต่ำที่สุดเพียง 0.33 ซึ่งถือว่าดีที่สุดในบรรดารถคู่แข่งระดับเดียวกัน
Audi Q5 2.0 TFSI quattro ใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2 ลิตร พร้อม TFSI ซึ่งเครื่องยนต์รุ่นนี้ได้รับรางวัลเครื่องยนต์ยอดเยี่ยมระดับโลก (Engine of The Year) ติดต่อกัน 5 ปี (พ.ศ.2548-2552)ให้กำลังสูงสุด 211 แรงม้าที่ 4,300 – 6,000 รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูงสุดถึง 350 นิวตันเมตรที่ 1,500 – 4,200 รอบต่อนาที มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ยเพียง 11.76 ก.ม./ลิตร เท่านั้นและสามารถวิ่งทางไกลได้ถึง 13.70 ก.ม./ลิตร
ความโดดเด่นทางเทคโนโลยีของ Audi Q5 ที่สำคัญอีกด้านคือ quattro ซึ่งเป็นระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ ตลอดเวลาที่มีการทรงตัวดีมาก จากการสมดุลของการกระจายแรงขับเคลื่อน จึงรู้สึกได้ถึงความแตกต่างในการขับขี่ คุณสามารถสนุกกับการขับขี่อย่างเต็มที่ในทุกสภาพถนน ด้วยความมั่นใจในความปลอดภัยสูงสุด แม้การเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง หรือการขับขี่บนพื้นถนนลื่น หรือ บนเส้นทางออฟโรด
สำหรับแคมเปญพิเศษในงานนี้
- Audi A4 1.8 TFSI ราคา 2,690,000 บาท แถมฟรี ชุดล้อแม็ก 18 นิ้ว มูลค่า 150,000 บาท
- Audi A5 Coupe 2.0 TFSI quattro ราคา 3,990,000 บาท แถมฟรี ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี
- Audi Q5 2.0 TFSI quattro ราคา 3,890,000 บาท แถมฟรี ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี
Audi กำลังสูงสุด/แรงม้า/รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด/นิวตันเมตร/รอบต่อนาที อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย ก.ม./ลิตร
Audi A4 1.8 TFSI 160/4500-6200 250/1500-4500 13.51
Audi A5 Coupe 2.0 TFSI quattro 211/4300-6000 350/1500-4200 13.33
Audi Q5 2.0 TFSI quattro 211/4300-6000 350/1500-4200 11.76
Audi Group ขายรถ Audi ได้ทั้งหมด 1,092,400 คันในปี 2553 บริษัทฯมีรายได้ 29.8 พันล้านยูโรและมีกำไร 1.6 พันล้านยูโร รถยนต์ Audi ผลิตที่เมืองอิงโกลสตัดช์ และ เนคกาซูลม (เยอรมนี), เกเยอร์ (ฮังการี), ชางชุน (จีน) และ บรัสเซลส์ (เบลเยี่ยม) ที่เมืองอารางบัด ประเทศอินเดีย มีการผลิต Audi A6 ในช่วงปลายปี 2550 และ Audi A4 ในช่วงต้นเดือนตุลาคม 2551สำหรับ Audi A1 เริ่มทำการผลิตที่โรงงานบรัสเซลส์ในเดือนพฤษภาคม 2553 บริษัททำการตลาดเติบโตขึ้น 100 ประเทศทั่วโลก บริษัท Audi AG ถือหุ้นบริษัททั้งหมด รวมถึงเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมดของบริษัทลูกในเครือ ได้แก่ บริษัท AUDI HUNGARIA MOTOR Kft. บริษัท Automobili Lamborghini Holding S.p.A ในเมือง Sant’Agata Bolognese อิตาลี และบริษัท quattro GmbH เมือง Neckarsulm Audi มีพนักงานประมาณ 58,000 คน ทั่วโลก รวมพนักงาน 45,500 คนในเยอรมนี ในช่วงปี 2553 ถึง 2555 Audi วางแผนจะลงทุนประมาณ 5.5 พันล้านยูโรในเรื่องของผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ เพื่อรักษาความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีให้สมกับสโลแกนของบริษัทว่า “Vorsprung durch Technik” Audi วางแผนที่จะผลิตรถยนต์เพิ่มขึ้นเป็น 42 รุ่นภายในปี 2558
-
ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) เชิญลูกค้าสัมผัสกับตัวจริงของ All-New Hyundai Sonata Sport และ H-1 Series MY2011 ในงานมอเตอร์โชว์ปีนี้
ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) เชิญลูกค้าสัมผัสกับตัวจริงของ All-New Hyundai Sonata Sport และ H-1 Series MY2011 ในงานมอเตอร์โชว์ปีนี้ พร้อมเสริมทัพรถพรีเมี่ยมด้วย The New Hyundai Tucson MY2011 และ The New Grand Starex VIP
ร่วมทดสอบสมรรถนะและความประทับใจในรถยนต์ 4 รุ่น ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2011 ตอกย้ำแนวคิด New Thinking. New Possibilities. “คิดใหม่....เพื่อสิ่งที่เหนือกว่า”
พบแคมเปญพิเศษ
- ฟรี อุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ มูลค่าตั้งแต่ 10,000 - 20,000 บาท สำหรับ The New Hyundai H-1 Series
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี สำหรับ The New Hyundai Tucson ทุกรุ่น
- พิเศษ ดอกเบี้ยอัตราพิเศษจากลีสซิ่ง กสิกรไทย
บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายรถยนต์ฮุนไดอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เสริมทัพรถใหม่ 2 รุ่น 2 สไตล์ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าฮุนไดระดับไฮเอนด์ ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2011 ด้วย All-New Hyundai Sonata Sport สปอร์ต 4 ประตูในสไตล์คูเป้ เจ้าของฉายา Call Me Coupe และ The New Hyundai H-1 Series MY2011 ที่อัดแน่นไปด้วยอุปกรณ์ต่างๆที่ยกระดับความเป็น Luxury MPV ให้เหนือชั้นกว่าเดิม สร้่างความแข็งแกร่งให้ฮุนไดในตลาดพรีเมี่ยมซึ่งมี The New Hyundai Grand Starex VIP และ The New Hyundai Tucson – The Sexy SUV เป็นตัว ชูโรง

All-New Hyundai Sonata Sport ออกทำตลาดด้วยกันถึง 2 รุ่น คือ รุ่น S และรุ่น G นำเข้าทั้งคันจากประเทศเกาหลีในราคาแนะนำที่ 1,550,000 บาท และ 1,870,000 บาท ตามลำดับ โดยราคาเริ่มต้นอยู่ในระดับใกล้เคียงกับรถยนต์รุ่นอื่นๆใน Segment เดียวกัน แต่เหนือกว่าด้วยความสดใหม่ ดีไซน์ให้เป็นรถ 4 ประตูคูเป้ ภายใต้แนวคิด Fluidic Sculpture Design ที่ล้ำสมัยและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของฮุนได โดดเด่นด้วยเส้นสายที่โฉบเฉี่ยวและซับซ้อน และอุปกรณ์มาตรฐานที่เน้น Character ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวโดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
- เครื่องยนต์ที่ตอกย้ำสมรรถนะความเป็นสปอร์ตคูเป้ ขนาด 2,000 ซีซี 165 แรงม้า ที่ 6,200 ต่อนาที และแรงบิดสูงสุดที่ 198 นิวตัน-เมตร ที่ 4,600 รอบต่อนาที
- เีกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด แบบขั้นบันได พร้อม Paddle Shifts เปลี่ยนเกียร์ได้ทุกระดับความเร็วที่พวงมาลัย
- ช่วงล่างแบบ Sport Suspension ให้ความมั่นใจได้ทุกระดับความเร็ว
- หลังคาแก้ว Panoramic Sunroof สร้างพลังแห่งบุคคลิกที่ไม่เหมือนใคร
- กุญแจรีโมทแบบ Smart Entry
- ปุ่ม Start Button ทันสมัย
- มาตรวัดแบบ Super Vision สวยสะดุดตา มองเห็นได้ชัดเจน และคอมพิวเตอร์แสดงข้อมูลการเดินทางในรูปแบบต่างๆ
- ไฟหน้าแบบ HID ปรับตั้งระดับอตโนมัติ (รุ่น G) และไฟท้าย LED ล้ำสมัย
- ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
- เบาะหลังพับได้แบบ 60:40 เพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ
- พวงมาลัย Multi-function
- Parking Brake แบบใช้เท้าเหยียบ
- กระจายแรงเบรค EBD ระบบป้องกันล้อล็อค ABS
- เบาะไฟฟ้าหนังแท้คู่หน้าพร้อมหน่วยความจำ (รุ่น G)
- ล้ออัลลอยสปอร์ต 17 นิ้ว (รุ่น S) และ 18 นิ้ว (รุ่น G)
- ระบบรักษาเสถียรภาพ ESP (รุ่น G)
- ระบบรักษาความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control (รุ่น G)
- เครื่องเสียงระดับพรีเมี่ยม พร้อม External Amplifierและลำโพง 7 ตำแหน่ง (รุ่น G)

The New Hyundai H-1 Series MY2011 รถ Luxury MPV เจ้าของรางวัล Car of the Year 3 ปีซ้อน ปรับราคาเพื่อรองรับอุปกรณ์พื้นฐานที่เพิ่มขึ้น โดยยังคงรุ่นต่างๆไว้เช่นเดิมคือ รุ่น Touring รุ่น Executive และรุ่น Deluxe โดยทั้ง 3 รุ่นมาพร้อมรางเลื่อนนิรภัยในเบาะแถวที่ 1, 2 และ3 ของห้องโดยสารจึงทำให้การปรับพื้นที่ใช้งานเหนือกว่าเดิมซึ่งมีรางเลื่อนเพียงแถวที่ 1 และ3 เท่านั้น
ในรุ่น Touring ยังเป็นเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ภายในเบาะผ้า แต่เสริมเบาะ VIP 1 คู่ที่หมุนได้ 180 องศาเข้าไปเพื่อความสะดวกสบาย ในขณะที่รุ่น Executive เป็นรุ่นเกียร์อัตโนมัติ ภายในเป็นเบาะผ้า และมีเบาะ VIP 1 คู่เช่นเดิม บนรางเลื่อน 3 แถว ส่วนในรุ่นท็อป H-1 Deluxe ยังคงความ Luxury และสะดวกสบายไว้เต็มระดับด้วยอุึปกรณ์มาตรฐานดังต่อไปนี้
- เครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล คอมมอนเรล ขนาด 2,500 ซีซี ให้กำลังสูงสุดที่ 175 แรงม้า ที่ 3,800 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดที่ 392 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 – 2,500 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด พร้อมโหมดแมนนวล
- ขับเคลื่อนล้อหลัง ช่วงล่างให้ความทนทานแบบแม็กเฟอสันสตรัทด้านหน้า และคอยล์สปริงในด้านหลัง
- รางเลื่อน 3 แถว
- เบาะ VIP 1 คู่ หมุนได้ 180 องศา ปรับห้องโดยสารเป็นห้องนั่งเล่น และสำนักงานเคลื่อนที่
- เบาะหนังแท้ลายใหม่
- พวงมาลัย Multi-function
- เครื่องเล่น DVD พร้อมจอ LCD ด้านหน้ารุ่นใหม่ ความละเอียดจอภาพสูง
- จอ LCD ขนาด 10 นิ้ว รุ่นใหม่เปิด/ปิดจอด้วยไฟฟ้า
- ไฟเลี้ยว LED แบบหลอดทันสมัย
- ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว ลายใหม่ดูพรีเมี่ยม
- ดิสเบรค 4 ล้อ พร้อม ABS
- กล้องช่วยจอด พร้อมสัญญาณเตือน
- สปอยเลอร์หลัง
The New Hyundai H-1 Series MY2011 ทั้ง 3 รุ่น มีการปรับราคาเพื่อความเหมาะสม โดยในรุ่น Touring มีราคา 1,086,000 บาท รุ่น Executive ราคา 1,412,000 บาท และรุ่น Deluxe ราคา 1,494,000 บาท ตามลำดับ

The New Hyundai Grand Starex VIP รถยนต์ระดับ Super Luxury MPV 7 ที่นั่ง ในราคาพิเศษเพียง 1,898,000 บาท มาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลคอมมอนเรลขนาด 2,500 ซีซี ที่ให้กำลังสูงสุดที่ 175 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดที่ 392 นิวตัน-เมตร ประกบคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ที่มีโหมดแมนนวลปรับเปลี่ยนเกียร์ได้ตามความต้องการ ถ่ายทอดกำลังทั้งหมดไปยังล้อคู่หลังบนช่วงล่างแบบคานแข็งบนคอยล์สปริงที่มีขายึดแบบ 5 จุด และแม็กเฟอร์สันสตรัทในด้านหน้า การออกแบบโดดเด่นกว่าด้วยกระจังหน้าแบบซี่ตัดด้วยโครเมี่ยมเพิ่มความหรูหรา ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้างทั้ง 2 ด้าน เป็นแบบใหม่ LED ชนิดหลอด ล้อและยางขนาด 17 นิ้ว 235/60/17 นุ่มนวล แต่ทรงสมรรถนะ ภายในเหนือกว่าอย่างชัดเจนด้วยเบาะ Double VIP Seats ที่ปรับเอนนอน และปรับระดับที่วางขาด้วยไฟฟ้า บนรางเลื่อนที่สะดวกสบายและปลอดภัยภายใต้มาตรฐานโรงงาน ระบบ Entertainment Dashboard ประกอบไปด้วยจอ LCD ขนาด 19 นิ้วที่เลื่อนขึ้นลงได้ด้วยไฟฟ้า พร้อมเครื่องเล่น DVD จาก Alpine และลำโพง JBL นอกจากนี้ยังมีช่องต่อสายกับอุปกรณ์เสริมต่างๆอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นเครื่องเล่นเกมส์ หรือเครื่องเล่นไฟล์เพลง ด้านหน้ามาพร้อมเบาะทรงสปอร์ต พวงมาลัย multi-function และกระจกมองข้างปรับ และพับด้วยไฟฟ้า เบาะนั่งสำหรับคนขับเป็นดีไซน์พิเศษที่โฉบเฉี่ยว พร้อมพวงมาลัยหุ้มหนังแท้และระบบ Multi-Function ที่พวงมาลัยปรับแต่งเครื่องเสียงตอนหน้าได้ กล้องส่องหลังส่งภาพขึ้นจอ LCD บนจอเครื่องเสียงด้านหน้าช่วยให้การจอดรถสะดวกสบายสุดๆ กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า และพับเก็บได้ด้วยไฟฟ้า และทั้งหมดนี้คืออีกระดับของความหรูหราในแบบ Super Luxury MPV 7 ที่นั่งจาก ฮุนได

The New Hyundai Tucson – ในแบบ 2.0 2WD และ 2.0 4WD รถนำเข้าจากประเทศเกาหลีทั้งคันแบบ Full-Option ในราคาเพียง 1,791,000 บาท และ 1,895,500 บาท ตามลำดับ เจ้าของฉายา The Sexy SUV ที่ไม่เป็นรองใครในด้านการออกแบบภายใต้คอนเซ็ป Fluidic Sculpture Design ที่ล้ำสมัย มีบุคลิก และอุปกรณ์ชั้นนำมากมาย อาทิ เช่น
- เครื่องยนต์เบนซินพลังสูงรุ่นใหม่ขนาด 2.0 ลิตร DOHC พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่ (D-CVVT) และ ระบบปรับระยะทางเดินไอดี (VIS) ช่วยเพิ่มความประหยัด ลดมลพิษและให้กำลังสูงสุด 166 แรงม้า
- เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมดแมนนวล เพื่อการเร่งแซง และ engine brake
- หลังคาแก้ว และ Sunroof แบบ panorama เปิด/ปิดด้วยไฟฟ้า
- ระบบ Smart Key เปิดปิดประตูได้โดยไม่ต้องถือกุญแจ
- ปุ่มสตาร์ท (Start Button) ที่ทันสมัย
- กล้องส่องหลังช่วยจอดมีภาพปรากฏบนจอ LCD ที่กระจกมองหลัง เพื่อความปลอดภัย
- ระบบรักษาเสถียรภาพ Electronic Stability Program (ESP) ระบบ Downhill Brake Control (DBC) ระบบป้องกันรถไหล Hill-start Assist Control (HAC) ระบบเบรค ABS ระบบกระจายแรงเบรค EBD และระบบเพิ่มแรงเบรคในภาวะฉุกเฉิน BA
- พวงมาลัย Multi-Function ควบคุมเครื่องเสียงและ Cruise Control
ภายในงานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้ ฮุนไดยังนำคอนเซ็ปคำขวัญใหม่ล่าสุด New Thinking. New Possibilities. หรือ “คิดใหม่....เพื่อสิ่งที่เหนือกว่า” มาสร้างสีสันให้กับบู๊ธฮุนไดภายในงาน โดยแนวคิดใหม่นี้เพิ่งจะถูกนำมาใช้กับการทำตลาดรถยนต์ฮุนไดทั่วโลกเพื่อประกาศแนวทางที่ชัดเจนว่าฮุนไดต้องการพัฒนาด้านคุณภาพ และเทคโนโลยีให้ล้ำสมัยมากขึ้นหลังจากที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่มียอดจำหน่ายสูงสุดเป็นอันดับ 4 อย่างเป็นทางการ
แบรนดิ้งคอนเซ็ปของฮุนได ตอกย้ำการเอาใจใส่ในความต้องการของลูกค้าในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการพัฒนารถยนต์ให้ตอบสนองการใช้งานในยุคปัจจุบัน และอนาคต วิธีการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการให้ความสำคัญต่อความคุ้มค่าคุ้มราคาที่เป็นเสมือนหัวใจหลักของการสร้างแบรนด์ฮุนไดในตลาดต่างๆทั่วโลก สำหรับฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) แนวทางใหม่ในการสร้างแบรนด์ครั้งนี้จะเป็นเครื่องยืนยันความมั่นใจที่ดีแก่ลูกค้ารถยนต์ฮุนไดในปัจจุบัน และในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของคุณภาพ ความพึงพอใจ และการนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ๆออกสู่ตลาดมากขึ้น
พบกับทัพรถยนต์ฮุนไดได้ที่งาน งานบางกอก อินเตอร์เนชัลแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32 บู๊ธ A13 ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม – 5 เมษายน 2554
-
“มิทสึโอกะ” อวดโฉม ”โอโรจิ” ซุปเปอร์คาร์ใหม่ สปอร์ตพันธุ์อสรพิษ ในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32
บริษัท ยนตรกิจ มอเตอร์เซลส์ จำกัด เผยโฉมสปอร์ตพันธุ์อสรพิษใหม่ “โอโรจิ” ตกแต่งดุดันยิ่งขึ้น พร้อมนำเสนอรถยนต์รุ่นเล็ก “บิวท์โตะ” ยอดขายอันดับ 1 ของมิทสึโอกะในประเทศญี่ปุ่น
คุณพัฒนศิริ เดชากุล ผู้อำนวยการฝ่ายการขายและการตลาด บริษัท ยนตรกิจ มอเตอร์เซลส์ จำกัดในเครือ ยนตรกิจ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า มิทสึโอกะ เป็นนวัตกรรมยานยนต์สุดหรูจากประเทศญี่ปุ่น โดดเด่นด้วยการดีไซน์ และการประกอบมือทุกคัน (แฮนด์เมด) แต่ละรุ่นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ในงาน Motor Show ครั้งที่ 32 นี้ ได้นำรถมาจัดแสดงรวม 5 รุ่น ได้แก่

1. รุ่น “ Orochi – โอโรจิ ” รถยนต์สปอร์ตพันธุ์อสรพิษ “โอโรจิ” ที่ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบจากรูปลักษณ์อสรพิษในตำนานโบราณของญี่ปุ่น สะท้อนความลึกลับ แฝงไว้ด้วยความน่าเกรงขาม ปราดเปรียวด้วยการออกแบบโครงสร้างตัวถังรถแบบ Space Frame ซึ่งประกอบขึ้นในลักษณะพิเศษ ตกแต่งสปอยเลอร์หน้า - หลังใหม่ ให้ความรู้สึกที่โฉบเฉี่ยว และดุดันยิ่งขึ้น
รถที่นำมาจัดแสดงในครั้งนี้ เป็นรถรุ่นใหม่ล่าสุดที่ตกแต่งให้มีความดุดัน ปราดเปรียวยิ่งขึ้นด้วย สปอยเลอร์หน้า - หลังใหม่ สมรรถนะเครื่องยนต์ขนาด 3311 ซีซี. V6 VVTi แรงม้าสูงสุดที่ 233 แรงม้า รอบเครื่องยนต์สูงสุดที่ 5600 รอบต่อนาที ระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 5 สปีด อัตราเร่ง 0 – 100 กม.อยู่ที่ 4 วินาที

2. รุ่น “ Himiko - ฮิมิโกะ ” รถยนต์สปอร์ต 2 ที่นั่ง ที่นำแนวคิดการออกแบบจากเกียรติยศ และรัศมีแห่งความสง่างามของเจ้าหญิงญี่ปุ่นในอดีตกาล ผสานความลงตัวของความงามในรูปลักษณ์ ถ่ายทอดลงสู่รถสปอร์ต คลาสสิค สไตล์โมเดิร์น รูปทรงปราดเปรียว หรูหรา สวยสง่า และภูมิฐาน ทำให้ยานยนต์คันนี้ เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ น่าหลงใหล “ฮิมิโกะ” ทุ่มเทสร้างสรรค์จากกายและจิตวิญญาณของช่างฝีมือของ มิทสึโอกะ มอเตอร์ ที่มากด้วยประสบการณ์ ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 2000 ซีซี กำลังสูงสุดที่ 162 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 189 นิวตัน-เมตร ที่ 5000 รอบ/นาที ระบบหัวฉีด EGI เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และสามารถปรับเปลี่ยนเป็น Manual Shift Mode เปี่ยมไปด้วยสมรรถนะในการขับขี่ เร่งแซงทันใจ โฉบเฉี่ยว สไตล์สปอร์ตอย่างแท้จริง เปิดประทุนได้เพียงปลายนิ้วสัมผัสในเวลา 12 วินาที สะดวกสบายในการควบคุม ควบคู่ไปกับความสง่างามของศิลปกรรมยานยนต์ อันเปรียบประดุจเพชรน้ำเอกแห่งโลกยนตรกรรม

3. รุ่น “ Galue Limousine - กาลู ลีมูซีน ” รถยนต์ดีไซน์สวยคลาสสิค ที่มีต้นแบบจากรถยนต์อังกฤษ ในช่วงปีคริสตศักราช 1950 ถึง 1960 รูปลักษณ์สง่างาม หรูหรา ภูมิฐาน ออกแบบให้ตัวถังรถให้มีความยาวเพิ่มขึ้นจากรุ่น Galue อีก 50 เซนติเมตร ทำให้เนื้อที่ห้องโดยสารตอนหลัง มีขนาดกว้างขวาง โอ่อ่า มีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 ขนาด คือเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5 ลิตร กำลังสูงสุดที่ 210 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 265 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที และเครื่องยนต์เบนซินขนาด 3.5 ลิตร กำลังสูงสุดที่ 280 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 363 นิวตัน-เมตร ที่ 4,800 รอบต่อนาที ระบบหัวฉีด EGI และECCS ขับเคลื่อนอย่างนุ่มนวลด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด สามารถปรับการทำงานของเกียร์เป็นแบบเกียร์ธรรมดาได้ ภายในตกแต่งหรูหราเป็นพิเศษ อาทิเช่น ชุดตกแต่งโครเมี่ยม คอนโซลหน้าตกแต่งด้วยลายไม้สุดคลาสสิค เบาะที่นั่งบุด้วยหนังแท้ สามารถปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า สวยสง่า สมกับความเป็นยานยนต์ที่เคียงคู่ผู้นำเช่นคุณ

4. รุ่น “ Galue IV - กาลู โฟร์ ” รถยนต์ดีไซน์สวยคลาสสิก อันเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์รุ่นนี้ - กาลู ได้รับการพัฒนารูปลักษณ์เป็นรุ่นที่ 4 ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 2,500 ซีซี ให้มีความทันสมัยในสไตล์ที่หรูหรา สง่างามยิ่งขึ้น ตกแต่งคิ้วโครเมี่ยมและรูปลักษณ์ให้มีความโดดเด่น หรูหรา พร้อมระบบอำนวยความสะดวกสบายครบครัน อาทิเช่น ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมระบบโอโซน และกรองอากาศในตัว เพิ่มความสุนทรีย์ในการขับขี่ด้วยวิทยุ ซีดี MP3 6 แผ่น

5. รุ่น “ Viewt – บิวท์โตะ ” รถยนต์รุ่นเล็ก สวยงาม มีเสน่ห์ ให้ความคล่องตัวในการใช้งาน ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1200 ซีซี. เป็นรถยนต์รุ่นที่มียอดขายอันดับ 1 ของมิทสึโอกะในประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1996 เป็นต้นมา ด้วยยอดการขายมากกว่า 20,000 คัน ทั้งนี้ ได้มีการพัฒนารูปลักษณ์ และอุปกรณ์ตกแต่งอย่างต่อเนื่อง ให้ตอบสนองการใช้งานอย่างครบครัน
ราคารถยนต์มิทสึโอกะที่นำมาจัดแสดงในครั้งนี้
1. Orochi ราคาจำหน่าย 11,700,000 บาท
2. Himiko ราคาจำหน่าย 3,750,000 บาท
3. Galue Limousine เครื่องยนต์ 2500 cc ราคาจำหน่าย 5,890,000 บาท
เครื่องยนต์ 3500 cc ราคาจำหน่าย 6,980,000 บาท
สำหรับรุ่น Galue IV และ Viewt เป็นรุ่นที่นำมาจัดแสดง จะเปิดการขายอย่างเป็นทางการในโอกาสต่อไป
ปัจจุบัน มิทสึโอกะ มีโชว์รูมและศูนย์บริการ อยู่ที่ถนนเพชรพระราม (ถนนริมคลองแสนแสบ) พระราม 9
โทร. 02 719 7942 – 4
และศูนย์บริการที่ถนนเทียมร่วมมิตร รัชดา-ห้วยขวาง ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย โทร. 02 247 5555
ท่านสามารถเยี่ยมชมและติดต่อกับรถยนต์ Mitsuoka ได้ที่ www.mitsuokathai.com
บริษัท ยนตรกิจ มอเตอร์เซลส์ จำกัด
ฝ่ายการขายและการตลาดรถยนต์มิทสึโอกะ
โทร. 02 915 1991 ต่อ 145
-
ฮอนด้า บริโอ้ เปิดตัวสู่สาธารณชนเป็นครั้งแรกที่งาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32
- นำเสนอรถยนต์ขับสนุกรุ่นใหม่ล่าสุดจากฮอนด้าที่มาพร้อมเทคโนโลยี การออกแบบ อุปกรณ์ความปลอดภัยและอัตราการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงระดับแนวหน้า

บริษัท ฮอนด้า (ประเทศไทย) จำกัด นำรถยนต์อีโคคาร์รูปลักษณ์โฉบเฉี่ยว ฮอนด้า บริโอ้มาเปิดตัวต่อสาธารณชนที่งานมหกรรมรถยนต์บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 32 ในวันนี้ การปรากฏโฉมของบริโอ้ในงานนี้จะเปิดโอกาสให้ลูกค้าที่ติดตามความเคลื่อนไหวของบริโอ้มาโดยตลอดได้สัมผัสกับนวัตกรรมล่าสุดด้านการออกแบบและเทคโนโลยีจากฮอนด้า
มร. อาซึชิ ฟูจิโมโตะ ประธานบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ก่อนการเปิดตัวครั้งแรกของโลกที่เมืองไทย บริโอ้สร้างความตื่นเต้นเป็นอย่างมากแก่ลูกค้าของเราที่ต้องการทราบว่า จุดเด่นเฉพาะตัวของรถยนต์อีโคคาร์ของฮอนด้าคันนี้มีอะไรบ้าง เราเชื่อว่านวัตกรรมใหม่ล่าสุดคันนี้ จะสอดคล้องตรงตามความต้องการด้านการขับขี่และไลฟ์สไตล์ของผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ที่มีรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวสะดุดตา ขนาดกะทัดรัดแต่ดูกว้าง โปร่งสบาย ประหยัดน้ำมันเชี้อเพลิง อีกทั้งเป็นแบรนด์ที่สามารถไว้ใจได้ในเรื่องความทันสมัยและเทคโนโลยีความปลอดภัย”
บริโอ้ ซึ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรกของโลกที่เมืองไทยเมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมาจะช่วยเสริมสถานภาพ ผู้นำของฮอนด้าในตลาดรถยนต์นั่งพร้อมกำหนดมาตรฐานใหม่ให้แก่รถยนต์อีโคคาร์ในด้านการออกแบบ การจัดวาง ความสะดวกสบายในห้องโดยสาร ความปลอดภัยและการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง
ฮอนด้า บริโอ้ มาพร้อมกับเทคโนโลยีนำสมัยด้านความปลอดภัยที่มุ่งปกป้องทั้งคนขับและผู้โดยสาร โดยติดตั้งถุงลมคู่หน้าสำหรับคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า นอกจากนี้ประสิทธิภาพของตัวถังยังผ่านมาตรฐานความปลอดภัยจากการทดสอบการชนทั้งด้านหน้าและด้านข้างตามที่ระบุโดย UNECE 94 และ 95 ตามลำดับ อีกทั้งยังมีอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยอย่างครบครัน อาทิ ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) และเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติ
ฮอนด้า บริโอ้ มีให้เลือก 2 รุ่น S กับ V ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ i-VTEC 4 สูบ ความจุ 1.2 ลิตร ที่ให้พลัง 90 แรงม้า สามารถใช้น้ำมันเชื้อเพิลง E20 และประหยัดเชื้อเพลิงได้ถึง 20 กิโลเมตรต่อลิตร และคายไอเสียสะอาดตามมาตรฐานที่เข้มงวดยูโร – 4 โดยมีราคาจำหน่ายดังนี้ รุ่น S (เกียร์ธรรมดา) ราคา 399,900 บาท รุ่น V (เกียร์ธรรมดา) ราคา 469,500 บาท และรุ่น V (เกียร์อัตโนมัติ CVT) ราคา 508,500 บาท
“ความต้องการรรถยนต์ขนาดกะทัดรัด คายไอเสียสะอาดและราคาย่อมเยาจะเป็นกระแสนิยมของวงการ อุตสาหกรรมรถยนต์ในช่วงสองสามปีข้างหน้า ขณะเดียวกันราคาเชื้อเพลิงที่มีแนวโน้มสูง ขึ้นจะผลักดัน ให้ผู้บริโภคหันมาสนใจรถยนต์นั่งที่มีขนาดกะทัดรัดและประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งยอดขายในกลุ่ม คอมแพ็คท์ ซับ-คอมแพ็คท์และกลุ่มเอ-เซ็กเม้นท์ มียอดจำหน่ายรวมกันเกือบ 300,000 คัน หรือร้อยละ 85 ของยอดขายรถยนต์นั่งทั้งหมดในปี 2553 ที่ผ่านมา” มร. ฟูจิโมโตะกล่าว
นอกจากบริโอ้แล้วฮอนด้ายังได้นำรถรุ่นต่างๆ มาจัดแสดงในงานเพื่อสนองตอบความต้องการอันหลาก หลายของลูกค้าทั้งซิตี้ แจ๊ซ ซีวิค แอคคอร์ด ซีอาร์-วี และฟรีด
ในปี 2554 ฮอนด้ากำหนดเป้าการขายรวม 145,000 คัน ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของวงการอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ 850,000 คัน และฮอนด้าคาดว่าในส่วนของบริโอ้ ความต้องการ ของตลาดจะอยู่ที่ 40,000 คันในช่วงปีแรกหลังเปิดตัว
-
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เผยโฉมรถต้นแบบอีโคคาร์ “มิตซูบิชิ โกลบอล สมอล” ในงานมอเตอร์โชว์

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เผยโฉมรถต้นแบบอีโคคาร์ “มิตซูบิชิ คอนเซ็ปต์ โกลบอล สมอล” ที่ได้รับการออกแบบใหม่เพื่อจำหน่ายทั่วโลก พร้อมโชว์ มิตซูบิชิ ไอมีฟ และรถรุ่นต่างๆ ครบไลน์ ในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32 ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม ถึง 5 เมษายนนี้ ที่ อิมแพค เมืองทองธานี
มร.กายู อูเอสุกิ คณะกรรมการบริหาร มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น กำกับดูแลงานด้านกลยุทธ์และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ สำนักงานใหญ่ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ประกาศแนะนำ รถต้นแบบ อีโคคาร์ กับสื่อมวลชนชาวไทยเป็นครั้งแรกในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 32
“มิตซูบิชิ โกลบอล สมอล จะเป็นหนึ่งในรถยนต์รุ่นใหม่ในกลุ่มรถขนาดเล็กที่ได้รับการพัฒนาขึ้นสำหรับประเทศเศรษฐกิจใหม่และประเทศที่พัฒนาแล้วจาก 3 แนวคิดหลักคือ “เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม”, “มีความคุ้มค่า” และ “ ใช้งานได้อย่างสะดวก” นอกจากนี้ด้วยความยาวตลอดคันเพียง 3.7 เมตร จึงทำให้มีความโดดเด่นทั้งในด้านความคล่องตัวและง่ายต่อการขับขี่พร้อมการออกแบบจัดวางพื้นที่ให้สามารถรองรับผู้โดยสารที่เป็นผู้ใหญ่ได้ 5 ที่นั่ง ในขณะเดียวกันยังให้การประหยัดน้ำมันในระดับสูง ด้วยระดับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 90 กรัมต่อกิโลเมตร จากเครื่องยนต์ขนาด 1 ลิตร สำหรับตลาดยุโรป ซึ่งตรงกับคุณลักษณะของโครงการรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล หรือ อีโค คาร์ ของรัฐบาลไทย ที่มีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศ และลดปริมาณการใช้น้ำมันตลอดจนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่บรรยากาศโลก โดยบริษัทฯ จะกำหนดราคาขายไว้ต่ำกว่า 400,000 บาท “ มร.อูเอสุกิ กล่าว
ทั้งนี้บริษัทฯ มีแผนจะเริ่มดำเนินการผลิตรถยนต์ อีโคคาร์ ได้ในช่วงเดือนมีนาคม 2555 ณ โรงงานใหม่แห่งที่ 3 ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับโรงงานแห่งที่ 1 และ 2 ในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง และบริษัทฯ จะทำการแนะนำรถรุ่นนี้เป็นครั้งแรกของโลกในประเทศไทยในเดือนเดียวกัน โดยในเบื้องต้นโรงงานแห่งใหม่นี้จะมีกำลังการผลิตอยู่ที่ระดับ 150,000 คัน ต่อปี และในอนาคตสามารถขยายเพิ่มได้จนถึงระดับ 200,000 คันต่อปี
สำหรับ “มิตซูบิชิ โกลบอล สมอล” ถูกวางตำแหน่งให้เป็นรถรุ่นเริ่มต้นของผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น และมีแผนจะส่งออกจากประเทศไทยไปจำหน่ายทั่วโลกในฐานะรถเพื่อตลาดโลกที่สามารถสนองตอบความต้องการของทั้งตลาดในประเทศและประเทศเศรษฐกิจใหม่ที่คาดว่าจะมีความต้องการเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงตลาดประเทศพัฒนาแล้วซึ่งให้ความสนใจในขนาดของรถที่เล็กลงมากขึ้น ตามแนวโน้มความตื่นตัวด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม
“ในส่วนของรถต้นแบบ “มิตซูบิชิ คอนเซ็ปต์ โกลบอล สมอล” ที่นำมาโชว์ถูกติดตั้งด้วยเครื่องยนต์เบนซินใหม่ขนาด 1.0 ลิตร ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยีที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพด้านการประหยัดน้ำมันของตัวรถ อาทิ เครื่องยนต์ MIVEC รวมไปถึงรูปทรงของรถที่ช่วยลดค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานได้เป็นเยี่ยมซึ่งยังช่วยให้รถคันนี้มีระดับมลพิษน้อยมากโดยอยู่ในระดับ กลาง 90 กรัมต่อกิโลเมตรเท่านั้น นอกจากนี้ เรายังมีแผนจะแนะนำรถ “มิตซูบิชิ โกลบอล สมอล” ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100 % ภายในปีงบประมาณ 2556 ในตลาดที่มีความต้องการถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสูง ” มร.อูเอสุกิ กล่าว
ทั้งนี้ นายวิกรานต์ อมาตยกุล ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานขาย ยังได้กล่าวเสริมถึงการเข้าร่วมงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32 ว่า นอกจากการนำรถต้นแบบอีโคคาร์ “มิตซูบิชิ คอนเซ็ปต์ โกลบอล สมอล” มาร่วมแสดงเป็นไฮไลท์ของงานครั้งนี้แล้ว ทางมิตซูบิชิ ยังได้นำรถยนต์พลังงานไฟฟ้า “ไอมีฟ” และยนตรกรรมรุ่นต่างๆ ทั้ง “แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ ใหม่” ที่เพิ่งผ่านการไมเนอร์เชนจ์มาพร้อมดีไซน์โฉบเฉี่ยวสุดเร้าใจ พร้อมอุปกรณ์ตกแต่ง สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบความปลอดภัยครบครัน นอกจากนี้ยังมี “มิตซูบิชิ ไทรทัน” และ “มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต” ที่มากับนิยาม “แรงจัดประหยัดเหนือชั้น” ด้วยสมรรถนะที่เป็นเยี่ยมจากเครื่องยนต์ใหม่ล่าสุด 2.5 วีจี เทอร์โบ ที่ให้พละกำลังสูงสุดถึง 178 แรงม้า ซึ่งโดดเด่นทั้งด้านรูปลักษณ์และประโยชน์ใช้สอยที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น รวมทั้ง “มิตซูบิชิ สเปซ แวกอน” ตลอดจนรถในกลุ่มซีเอ็นจี ได้แก่ “แลนเซอร์ รุ่น 1,600 ซีซี. ซีเอ็นจี” รถกระบะ “ไทรทัน เมกะแค็บ ซีเอ็นจี และ รุ่นใหม่ล่าสุด “ไทรทัน ดับเบิลแค็บ พลัส ซีเอ็นจี” ทั้งนี้จากความหลากหลายของรถรุ่นต่างๆ ประกอบกับข้อเสนอพิเศษที่บริษัทฯ ได้มอบให้กับลูกค้า ทำให้เชื่อว่ามิตซูบิชิจะสามารถทำยอดขายในงานมอเตอร์โชว์ ได้กว่า 2,000 คัน อย่างแน่นอน พร้อมกันนี้บริษัทฯ ยังได้เตรียมนำ 2 พรีเซ็นเตอร์ล่าสุดได้แก่ “ตูน บอดี้แสลม” พรีเซ็นเตอร์ มิตซูบิชิ ไทรทัน และ “อนันดา” พรีเซ็นเตอร์ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ มาร่วมกิจกรรมและพบลูกค้าภายในงาน อีกด้วย
รถต้นแบบอีโคคาร์ “มิตซูบิชิ คอนเซ็ปต์ โกลบอล สมอล”
“มิตซูบิชิ โกลบอล สมอล” เป็นรถยนต์ต้นแบบของรถเก๋งขนาดเล็กที่มิตซูบิชิวางแผนจะทำการผลิตในโรงงานในประเทศไทยและเปิดตัวในเดือนมีนาคม 2555 สำหรับรถต้นแบบคันนี้มีความโดดเด่นทั้งในด้านความคล่องตัวและง่ายต่อการขับขี่ และมีความสมบูรณ์แบบในการออกแบบจัดวางพื้นที่รองรับผู้โดยสารที่เป็นผู้ใหญ่ได้ 5 ที่นั่ง ในขณะเดียวกันยังให้การประหยัดน้ำมันในระดับสูงสุด ด้วยระดับควบคุมมลพิษในระดับกลาง 90 กรัมต่อกิโลเมตร และจาก:
- เครื่องยนต์ MIVEC ขนาด 1.0 และ 1.2 ลิตร ที่ติดตั้งระบบดับเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อรถจอดนิ่ง และระบบชาร์จพลังงานกลับขณะเบรก
- การลดน้ำหนักของชิ้นส่วนประกอบที่ซับซ้อน
- การลดแรงเสียดทานในเครื่องยนต์ ระบบ CVT เจนเนอเรชั่นใหม่ เบรก รวมถึงยาง
- รูปทรงของรถที่ช่วยลดค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานได้เป็นเยี่ยม
ข้อมูลผลิตภัณฑ์ รถต้นแบบอีโคคาร์ “มิตซูบิชิ คอนเซ็ปต์ โกลบอล สมอล”
ความยาวตลอดคัน 3.74 เมตร
ความกว้างตลอดคัน 1.68 เมตร
ความสูง 1.49 เมตร
เครื่องยนต์ เครื่อง MIVEC 3 สูบ (เบนซิน)
ปริมาตรกระบอกสูบ 1.0 ลิตร
ระบบส่งกำลัง เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ
ระบบหยุดและทำงานเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อจอดนิ่ง (Auto Stop and Go)
ระบบชาร์จพลังงานกลับอัตโนมัติขณะเบรค (Brake energy regenerative system)
ยางแบบลดแรงต้านการหมุนของล้อ 185/55 R 16 (Low Rolling Resistance Tires)
สำหรับลูกค้าที่สนใจสามารถเข้าชมพร้อมทดลองขับยนตรกรรมของมิตซูบิชิได้ในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32 ที่ บูธรถยนต์มิตซูบิชิ หมายเลข A06 ฮอล์ล 2 อาคารชาเลนเจอร์ ฮอล์ล เมืองทองธานี ในระหว่างวันที่ 25 มีนาคม ถึง 5 เมษายน หรือ ที่โชว์รูมรถยนต์มิตซูบิชิทั่วประเทศ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 1800 900 009 ฟรี เฉพาะโทรศัพท์พื้นฐาน และโทรศัพท์เคลื่อนที่เครือข่าย AIS หรือ โทร. 02-529-9500 ในวันและเวลาทำการ หรือที่เว็บไซต์ www.mitsubishi-motors.co.th
-
วอลโว่รุกตลาดเอสยูวีระดับพรีเมี่ยม ส่ง XC60 รุ่นใหม่ล่าสุดลงตลาดเสริมทัพ XC90

วอลโว่บุกชิงเจ้าตลาดเอสยูวีระดับพรีเมี่ยม มั่นใจความแรงจากเทรนด์ยอดขายทั้งเซ็กเมนต์ที่เพิ่มขึ้น 33% ในปีที่ผ่านมา สานต่อความแรงด้วยการเปิดตัว XC60 D3 ใหม่ เอสยูวีหรูขนาดกลางเครื่องยนต์ดีเซลที่ให้ทั้งสมรรถนะและความประหยัด พร้อมนวัตกรรมเทคโนโลยีความปลอดภัยเพื่อคนเดินถนน “ระบบตรวจจับคนเดินถนนและระบบเบรกแบบเต็มแรงเบรก” (Pedestrian Detection with Full Auto Brake” เข้ามาเสริมทัพ XC90 ทำให้วอลโว่มีรถยนต์ในตลาดเอสยูวีระดับพรีเมี่ยมที่มีความหลากหลาย สนองได้ทุกความต้องการของลูกค้า
นางฉันทนา วัฒนารมย์ ประธานบริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “ตลาดรถเอสยูวีระดับพรีเมี่ยมนับเป็นอีกตลาดหนึ่งที่มาแรง โดยมียอดขายรวม 848 คันในปี 2553 เพิ่มขึ้น 33% จาก 636 คันในปี 2552 วอลโว่ XC90 ก็มียอดขายเพิ่มอย่างก้าวกระโดดจาก 95 คันในปี 2552 มาเป็น 151 คันในปีที่ผ่านมา หรือประมาณ 59% ซึ่งสูงกว่าการขยายตัวโดยเฉลี่ยของตลาด นอกจากนี้ ใน XC60 รุ่นขับเคลื่อน ล้อหน้าล็อตแรกหลังจากเปิดตัวในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ก็ขายหมดเกลี้ยงและส่งมอบให้ลูกค้าครบแล้ว ทำให้เรามั่นใจในเทรนด์ตลาดเป็นอย่างมาก จึงได้รีบเสริมทัพด้วย XC60 D3 ใหม่ ซึ่งนอกจากจะประหยัดด้วยเครื่องยนต์ดีเซลสมรรถนะสูงแล้ว ยังมีนวัตกรรมเพื่อความปลอดภัยหนึ่งเดียวในโลก “ระบบตรวจจับคนเดินถนนและระบบเบรกแบบเต็มแรงเบรกด้วย”
“เรามั่นใจว่าจากเทรนด์รถเอสยูวีที่มาแรง ประกอบกับรถยนต์ที่มีคุณภาพของวอลโว่ซึ่งโดดเด่นทั้งรูปลักษณ์ สมรรถนะ ความประหยัด และเทคโนโลยีที่สะท้อนถึงความใส่ใจที่วอลโว่มีต่อเพื่อนร่วมทางและสิ่งแวดล้อม จะช่วยผลักดันให้เราก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดรถยนต์เอสยูวีได้แน่นอน” นางฉันทนากล่าวเสริม
เสริมทัพด้วย XC60 D3 โฉมใหม่ล่าสุด
เพื่อสานต่อความแรงในตลาดรถเอสยูวี วอลโว่ได้ประกาศเปิดตัว XC60 D3 ใหม่ เครื่องยนต์ 2 ลิตร ราคา 2.99 ล้านบาท ในงานมอเตอร์โชว์ 2011 ยกระดับความปลอดภัยด้วยนวัตกรรม “ระบบตรวจจับคนถนนพร้อมระบบเบรกแบบเต็มแรงเบรก” ที่คอยตรวจจับว่ามีคนอยู่ในรัศมีทางเดินรถหรือไม่ และหากประเมินได้ว่าคนๆ นั้นมีโอกาสที่จะเดินตัดหน้ารถในระยะกระชั้นชิด จะสั่งการให้เบรกทำงานทันทีแบบเต็มแรงเพื่อหยุดรถก่อนชน หรือลดความรุนแรงของอุบัติเหตุเมื่อใช้ความเร็วเกิน 35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
นวัตกรรมความปลอดภัยในวอลโว่ XC60 D3 รุ่นใหม่ยังรวมถึง ระบบควบคุมความเร็วรถแบบแปรผันพร้อมฟังก์ชั่นหยุดและออกตัวรถอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control with Queue Assist) ซึ่งช่วย ปรับระดับความเร็วของรถให้เหมาะกับสภาพการจราจรและระยะห่างจากคันหน้า รวมทั้งหยุดและออกตัวรถให้โดยอัตโนมัติ ส่วนระบบ Distance Alert ที่ทำงานในทุกระดับความเร็วไม่เกิน 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะส่งสัญญาณเตือนเมื่อเข้าใกล้รถคันหน้ามากเกินไป นอกจากนี้ยังมี “ระบบป้องกันการชนขณะขับขี่ที่ความเร็วต่ำ” หรือ City Safety ที่รถจะหยุดได้เองอัตโนมัติเมื่อเข้าใกล้รถคันหน้ามากเกินไป เมื่อขับขี่ที่ความเร็วไม่เกิน 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ส่วนภายในของ XC60 D3 ใหม่ ให้อารมณ์หรู ด้วยแผงคอนโซลหน้ามีสไตล์สะท้อนถึงความลื่นไหล ปุ่มควบคุมขลิบโครเมี่ยม จอแสดงผลเป็นสีแบบใหม่ขนาด 7 นิ้ว และเครื่องเสียงรุ่น High Performance Multimedia ซึ่งสามารถฉายภาพยนตร์จากแผ่นดีวีดี หรือไฟล์ภาพยนตร์วีดิโอได้ หรือฟังไฟล์เพลงแบบ MP3/WMA/CD นอกจากนี้ ระบบสตรีมมิ่ง (audio streaming) ที่ติดตั้งในรถยังช่วยให้เปิดเพลงจากโทรศัพท์มือถือที่มีบลูทูธ ออกทางเครื่องเสียงในรถยนต์ด้วย
เอสยูวีหรูครบไลน์
วอลโว่ XC60 ใหม่ ติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล คอมมอนเรลความจุ 2 ลิตร ให้พลังสูงสุด 163 แรงม้าที่ 3,000 รอบต่อนาที และให้แรงบิดสูงสุด 400 Nm ที่ 1,400-2,850 รอบต่อนาที ให้ความแรงต่อเนื่องนุ่มนวลไม่สะดุด พร้อมทั้งประหยัดสูงสุดด้วยน้ำมันดีเซล และประสิทธิภาพในการเผาไหม้ที่ทำให้มีไอเสียต่ำ
XC60 D3 ใหม่จะเข้ามาเสริมทัพเอสยูวีระดับพรีเมี่ยมของวอลโว่ ซึ่งในตลาดเอสยูวีขนาดใหญ่ มีวอลโว่ XC90 เครื่องยนต์ 2.4 ลิตร สนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าอยู่แล้ว โดย XC90 เครื่องยนต์ดีเซลให้พลังสูงสุด 185hp ที่ 4,000 rpm และแรงบิด 400 Nm ที่ 2,000-2,750 rpm รวมทั้งยังมีเทคโนโลยีล่าสุดครบครันที่ช่วยให้มีการทรงตัวดี เกาะถนนเป็นเยี่ยมในทุกสภาพถนน ภายในห้องโดยสารเงียบ โอ่โถง และสะดวกสบาย พอเหมาะสำหรับผู้โดยสาร 5 ท่าน และสามารถปรับขยายเพิ่มได้อีกสำหรับ 2 ท่านตามต้องการ และเป็นเอสยูวีคันแรกที่มีเบาะที่นั่งพิเศษสำหรับเด็ก และเบาะนั่งแยกปรับได้อย่างอิสระ 3 ทิศทางในแถวกลาง ขณะเดียวกัน เบาะที่นั่งแถวที่สามยังสามารถพับเก็บได้ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามความเหมาะสม
สำหรับใน XC90 รุ่นนี้ วอลโว่ได้เพิ่ม ระบบ speed sensitive steering ที่ช่วยให้พวงมาลัยนิ่งมากขึ้นเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ รวมทั้งยังมีระบบ integrated Bluetooth handsfree ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถติดต่อสื่อสารได้โดยไม่ต้องละมือจากพวงมาลัยในการบังคับรถ
ในเรื่องนวัตกรรมเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย XC90 ไม่เป็นรองใครด้วยระบบความปลอดภัยมากมาย อาทิ ระบบกล้องและสัญญาณเตือนมุมอับสายตา (Blind Spot Information System: BLIS) ระบบป้องกันการกระแทกจากด้านข้าง (SIPS) ระบบป้องกันการพลิกคว่ำ (ROPS) ระบบป้องกันการกระแทกจากด้านหลัง (WHIPS) ม่านนิรภัย (IC) ถุงลมนิรภัยด้านข้างสำหรับคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า แกนพวงมาลัยยุบตัวได้ และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งนอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุแล้วยังช่วยปกป้องผู้ขับขี่และผู้โดยสารยามเกิดอุบัติเหตุด้วย
พิเศษในมอเตอร์โชว์
นอกจากนี้ ผู้ที่จองรถยนต์รุ่นต่างๆ ในงานมอเตอร์โชว์ 2011 จะได้รับข้อเสนอพิเศษ ผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 19,900 บาท นาน 72 เดือน พร้อมเลือกรับของขวัญพิเศษที่จัดไว้ให้สำหรับรถแต่ละรุ่น อาทิ iPad 32GB (Wi-Fi + 3G) หรือที่พักสุดหรู ส่วนสำหรับวอลโว่ C30 ทุกคัน รับเพชรน้ำงาม 1 กะรัต สอบถามรายละเอียดโปรโมชั่นพิเศษได้ที่โชว์รูมวอลโว่ตั้งแต่บัดนี้หรือที่บูธวอลโว่ A5/1-2 อาคารชาเลนเจอร์ 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม – 5 เมษายน 2554 นี้
-
Proton เปิดตัว Proton Exora Special Edition ที่สุดของ สไตล์ที่เหนือกว่า ที่งาน Motor Show 2011
บริษัท พระนครโอโตเซลส์ จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ Proton ในประเทศไทย นำรถต้นแบบ Proton Lekir (โปรตอน เลอเค้) มาอวดโฉมในประเทศไทยเป็นครั้งแรกในงาน Bangkok International Motor Show ในปีนี้ Proton Lekir ได้รับแรงบันดาลใจมาจากนักรบผู้กล้า ในการทำสงครามของอาณาจักรมะละกาที่โด่งดังในประวัติศาสตร์ชนชาติมาเลเซีย สู่แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ยนตกรรมที่ตื่นตาตื่นใจ ผสมผสานระหว่างความปราดเปรียวแข็งแกร่งและสง่างาม Proton Lekir ยานยนต์ในฝัน ที่มาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบ 1,600 ซีซี ขุมพลัง 220 แรงม้า พร้อมช่วงล่างเทคโนโลยีรถ Lotus ประเทศอังกฤษ และพบกับการเปิดตัวใหม่ของรถยนต์ Proton Exora Special Edition ที่สุดของสไตล์ที่เหนือกว่า สะดุดตากว่าเดิมด้วยชุดสเกิร์ตตกแต่งรอบคัน โฉบเฉี่ยวด้วยไฟหน้าแบบสปอร์ตโคมดำ สะดวกสบายกว่าเดิมด้วยเบาะนั่งแถวที่ 2 แบบแยกอิสระ พร้อมทั้งจอ LCD แบบสัมผัส บนหมอนพิงศีรษะคู่หน้า รวมทั้งติดกล้องมองภาพขณะถอยหลัง และพบกับยนตรกรรมรุ่นต่างๆเริ่มต้นที่ Proton Saga ซีดานแห่งความคุ้มค่า Proton Persona ซีดานทางเลือกใหม่ที่รองรับเชื้อเพลิง 2 ระบบทั้งเบนซินและ CNG Proton Gen-2 Compact Car 5 ประตู สมรรถนะสูง Proton Neo ผู้นำในวงการ Motor Sport และ Proton Savvy ยานยนต์ขับสนุกยอดนิยม มั่นใจมากยิ่งขึ้นกับการรับประกัน 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร พร้อมตอแพทย์ (Medical Assist) บริการเลขานุการส่วนตัว (Concierge Service) พร้อมรับสิทธิพิเศษในงาน Motor Show ครั้งนี้ Proton ทุกรุ่น บสนองความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า ด้วยบริการ “Proton 24 Hour I Care” บริการฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง (Roadsite Assistance) บริการช่วยเหลือฉุกเฉินทางการ
ดาวน์เพียง 5 % ผ่อนนาน 84 เดือน
ฟรีประกันภัยชั้น 1 (ยกเว้น Exora Special Edition และ Exora Base Line)

Proton Lekir
มาพร้อมเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำทันสมัย ด้วยสมรรถนะการขับขี่โดดเด่นแบบรถสปอร์ต ขับขี่เร้าใจและเป็นวิวัฒนาการของรถยนต์จาก Lotus Europa พื้นผิวนุ่มลื่นและมันวาวแสดงออกถึงความรวดเร็ว ปราดเปรียว และมีรสนิยม เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบขับรถแข่ง มาพร้อมกับเครื่องยนต์เทอร์โบขนาด 1.6 ลิตร เพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่เพลิดเพลิน มีขนาดกะทัดรัด ง่ายต่อการขับขี่ ด้วยความยาว 3,900 มม.ความกว้าง 1,850 มม. และความสูง 1,130 มม. แซสซีสทำจากอลูมิเนียมน้ำหนักเบา เพื่อให้ได้อัตรากำลังต่อน้ำหนักที่ดีขึ้น กันชนและตัวถังรถยนต์แบบ Aerodynamic เพื่อสมรรถนะการขับขี่ที่ดีขึ้น ด้วยล้อขนาด 235/40R18 วงล้อที่มีน้ำหนักเบาเพื่อการเข้าโค้งที่ดีเยี่ยม

Proton Exora Special Edition
ยานยนต์เหนือระดับ ประสบการณ์ความกว้างสบายที่สุดของสไตล์ที่เหนือกว่า ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร รหัส CamPro แบบ 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 125 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตัน-เมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที และมีการ เพิ่มเทคโนโลยีระบบวาล์วแปรผัน (CPS : Cam Profile Switching) สำหรับในส่วนของเครื่องยนต์มีการใช้เทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยมสองแบบ คือ เทคโนโลยีระบบวาล์วแปรผัน (CPS or Cam Profile Switching) และเทคโนโลยีท่อไอดีแปรผัน (Variable Intake Manifold technology) ทำให้กำลังและแรงบิดของเครื่องยนต์เพิ่มมากขึ้น ในขณะที่สามารถดำรงประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงไว้ได้ เทคโนโลยีการรวมเครื่องยนต์ทั้งสองอย่างที่แตกต่างกันมาอยู่ในชุดเดียวกันนี้ ทำให้ Exora มีความโดดเด่นที่ได้จากการรวมเทคโนโลยีทั้งสอง กล่าวคือ สามารถใช้ช่องของท่อไอดีที่มีขนาดยาว ช่วยทดแทนแรงบิดที่ลดลงอันเกิดจากเพลาลูกเบี้ยวยกตัวสูงขึ้น ในขณะที่ช่องของท่อไอดีที่มีขนาดสั้น ช่วยให้เครื่องยนต์มีพลังขับเคลื่อนด้วยความเร็วที่สูงขึ้น
ภายนอกออกแบบให้สวยสะดุดตาด้วยชุดสเกิร์ตตกแต่งรอบคัน โฉบเฉี่ยวด้วยไฟหน้าแบบสปอร์ตโคมดำจรดไฟท้ายแบบ LED ดีไซน์ใหม่ พร้อมไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง ไฟตัดหมอกพร้อมคิ้วโครเมี่ยม มั่นใจทุกการขับขี่ด้วยช่วงล่างจากเทคโนโลยีรถ Lotus ประเทศอังกฤษ ทำให้มีสมรรถนะและการทรงตัวที่ยอดเยี่ยม บังคับควบคุมได้ง่าย พร้อมระบบความปลอดภัยสูงสุด ระบบเบรก ABS และระบบกระจายแรงเบรกอัตโนมัติ ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBD (Electronic Brakeforce Distribution) ทำหน้าที่กระจายแรงเบรกระหว่างล้อคู่หน้าและหลังได้อย่างสมดุลและแม่นยำ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการหยุดรถได้อย่างปลอดภัยในทุกสภาวะบนท้องถนน เพื่อให้เบรกด้านหลังทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ภายในห้องโดยสารออกแบบเป็นพิเศษ ให้ความสะดวกสบายในการเดินทาง เบาะหนังสีเบจ รวมทั้งแผงประตูด้านข้าง เบาะนั่งแถวที่ 2 แบบแยกอิสระ พร้อมพนักวางแขน ปรับเลื่อนหน้า-หลังได้ พร้อมทั้งจอ LCD แบบสัมผัส ขนาด 7” พร้อม USB AUX และช่องต่อหูฟังที่หมอนพิงศีรษะที่นั่งแถวหน้า พวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนัง มาตรวัดแนวสปอร์ตลายใหม่ เพลิดเพลินไปกับทุกการเดินทางด้วยอุปกรณ์ให้ความบันเทิงด้วยวิทยุ DVD จอ LCD แบบสัมผัสขนาด 6.2” พร้อม Bluetooth, USB, SD-Card ได้ และนอกจากนี้ยังมาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ระบบนำทางด้วยดาวเทียม กล้องมองภาพขณะถอยหลังพร้อมสัญญาณเตือนระยะถอยหลัง และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ( Cruise Control System) ราคาจำหน่าย 899,000 บาท

Proton Exora Base Line
ยานยนต์เหนือระดับ สัมผัสประสบการณ์ความกว้างสบายใหม่กับ รถยนต์ MPV7 ที่นั่ง ซึ่งเป็นผลิตผลของโปรตอนที่ได้จากการวิจัยและพัฒนาอย่างละเอียดรอบคอบเป็นเวลาหลายปี โดยได้รวมองค์ประกอบเรื่องพื้นที่ รูปแบบ สมรรถนะและความปลอดภัย จึงได้รับการออกแบบให้เป็นสุดยอดยานยนต์เหนือระดับ ผสานเทคโนโลยีช่วงล่างจากรถ Lotus ประเทศอังกฤษ
Exora มีความเหมือนกับโปรตอน Gen 2 และ Neo คือ ใช้การทดลองและทดสอบกับเครื่องยนต์ที่ให้พละกำลัง 1.6 ลิตรเหมือนกัน แต่ Exora มีการเพิ่มเทคโนโลยีระบบวาล์วแปรผัน (CPS : Cam Profile Switching) สำหรับในส่วนของเครื่องยนต์มีการใช้เทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยมสองแบบ คือ เทคโนโลยีระบบวาล์วแปรผัน (CPS or Cam Profile Switching) และเทคโนโลยีท่อไอดีแปรผัน (Variable Intake Manifold technology) ทำให้กำลังและแรงบิดของเครื่องยนต์เพิ่มมากขึ้น ในขณะที่สามารถดำรงประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงไว้ได้ เทคโนโลยีการรวมเครื่องยนต์ทั้งสองอย่างที่แตกต่างกันมาอยู่ในชุดเดียวกันนี้ ทำให้ Exora มีความโดดเด่นที่ได้จากการรวมเทคโนโลยีทั้งสอง กล่าวคือ สามารถใช้ช่องของท่อไอดีที่มีขนาดยาว ช่วยทดแทนแรงบิดที่ลดลงอันเกิดจากเพลาลูกเบี้ยวยกตัวสูงขึ้น ในขณะที่ช่องของท่อไอดีที่มีขนาดสั้น ช่วยให้เครื่องยนต์มีพลังขับเคลื่อนด้วยความเร็วที่สูงขึ้น
สำหรับห้องโดยสารภายในกว้างขวาง ให้ความสะดวกสบายในการเดินทาง เบาะนั่ง ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ หุ้มด้วยผ้า มือปิดประตูภายในห้องโดยสาร กระจกมองข้างปรับด้วยไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยวแบบ LED เพลิดเพลินไปกับทุกการเดินทางด้วยอุปกรณ์ให้ความบันเทิงด้วย วิทยุ CD แบบ 1 แผ่น เล่นไฟล์ MP 3 / WMA และนอกจากนี้ยังมาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานไม่ว่าจะเป็น ถุงลมนิรภัยฝั่งผู้ขับขี่ พร้อมเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติช่วยเพิ่มความปลอดภัยหากเกิดการชนกระแทก กระจกไฟฟ้า เบาะคนขับปรับสูง-ต่ำได้ และระบบปรับอากาศพร้อมชุดปรับแรงลมส่วนหลังและช่องลมสำหรับที่นั่งแถวที่ 3 นอกจากนี้ ยังให้ความรู้สึกสบายในการขับขี่ระยะไกล Exora จึงได้ติดตั้งที่วางเครื่องดื่มถึง 10 จุด เพื่อช่วยให้ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถวาง และหยิบขวดเครื่องดื่มได้สะดวกสบายมากขึ้น ในส่วนของสัมภาระ Exora มีพื้นที่กว้าง โดยออกแบบให้เก้าอี้ทั้ง 6 ที่นั่งสามารถปรับพับได้ ซึ่งเป็นการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้มากขึ้น กลไกการพับพนักที่นั่งนั้นช่วยให้การพับพนักที่นั่งแถวที่สองทำได้ง่ายขึ้น เปิดช่องกว้างให้ผู้โดยสารเข้าไปยังแถวที่นั่งที่สามได้ ประตูหลังสามารถเปิดได้กว้างถึง 85 องศา เอื้อต่อการขึ้นลงของผู้โดยสาร
นอกจากนี้จุดเด่นอีกจุดหนึ่งของ Proton Exora คือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แบบ BCM หรือ Body Control Module ซึ่งติดตั้งในรถยนต์ยุโรประดับสูง Exora เป็นรถรุ่นแรกในค่ายโปรตอนที่มีการติดตั้งอุปกรณ์ BCM พร้อมตัวเลือกและอุปกรณ์ใหม่อื่นๆ มากมายเพื่อเพิ่มการใช้งานและความปลอดภัย BCM
-

Proton Saga
มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.3 ลิตร รหัส CamPro IAFM แบบ 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 95 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 120 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที สูงกว่ารถยนต์ในระดับเดียวกัน ในส่วนของระบบส่งกำลังมีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติ โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่พร้อมดึงดูดทุกสายตา ด้วยราคาที่คุ้มค่า การขับขี่ที่นุ่มนวล ภายนอกออกแบบให้ โฉบเฉี่ยวสวยหรู มั่นใจทุกการขับขี่ด้วยช่วงล่างจากเทคโนโลยีรถ Lotus ประเทศอังกฤษ ทำให้ Proton Saga มีสมรรถนะและการทรงตัวที่ยอดเยี่ยม บังคับควบคุมได้ง่าย พร้อมระบบความปลอดภัยสูงสุด
ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง ให้ความสะดวกสบายในการเดินทาง เบาะนั่ง ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ หุ้มด้วยผ้าลายพิเศษ ไฟหน้าปัดเรืองแสงสีส้มช่วยให้มองเห็นได้ชัดในเวลากลางคืน มือปิดประตูภายในห้องโดยสารสีเงิน กระจกมองข้างปรับด้วยไฟฟ้า เพลิดเพลินไปกับทุกการเดินทางด้วยอุปกรณ์ให้ความบันเทิงด้วย วิทยุ CD แบบ 1 แผ่น เล่นไฟล์ MP 3 ได้พร้อมทั้งช่องรับสัญญาณภายนอก AUX และ USB Port พร้อมสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย (เฉพาะในรุ่น Medium Line) ขับเสียงผ่านลำโพงคู่หน้าหลัง ภายในตกแต่งด้วยสีเทาดำ เพิ่มความสปอร์ตและภูมิฐาน และนอกจากนี้ยังมาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ถุงลมนิรภัยคู่ด้านหน้า สัญญาณเตือนในกรณีลืมคาดเข็มขัดนิรภัยด้านคนขับ รวมถึงเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติช่วยเพิ่มความปลอดภัยหากเกิดการชนกระแทก กระจกไฟฟ้า เบาะคนขับปรับสูง-ต่ำได้ เพิ่มความสะดวกยิ่งขึ้นด้วยไฟที่ห้องเก็บสัมภาระด้านท้าย และสัญญาณเตือนขณะถอยหลัง

Proton Persona
ซึ่งตอบทุกโจทย์ของยนตรกรรมสไตล์สปอร์ตได้เป็นอย่างดี สู่ความสมบูรณ์แบบที่เหนือกว่า โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่พร้อมดึงดูดทุกสายตา เหนือระดับกับรูปลักษณ์ของสปอร์ต ซีดาน โดดเด่นด้วยกระจังหน้าสไตล์ใหม่ผสานความสปอร์ตและความหรูหราไว้อย่างลงตัว มั่นใจทุกการขับขี่ด้วยพวงมาลัยที่ตอบสนองได้รวดเร็วเท่าที่ใจต้องการ โฉบเฉี่ยวด้วยไฟหน้าแบบสปอร์ต โคมดำจรดไฟท้ายแบบ LED ดีไซน์ใหม่ พร้อมไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง ล้ออัลลอยด์ลายใหม่แบบ 9 ก้าน สะกดทุกสายตาพร้อมยางขนาด 195/60 R15 เพิ่มลูกเล่นเน้นฟังก์ชั่นเพื่อความสะดวกสบายสูงสุด เบาะนั่งได้รับการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า เข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติ Pre-tensioner ให้ความปลอดภัยสูง ระบบเบรก ABS และระบบกระจายแรงเบรกอัตโนมัติ ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBD (Electronic Brakeforce Distribution) ทำหน้าที่กระจายแรงเบรกระหว่างล้อคู่หน้าและหลังได้อย่างสมดุลและแม่นยำ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการหยุดรถได้อย่างปลอดภัยในทุกสภาวะบนท้องถนน เพื่อให้เบรกด้านหลังทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง ให้ความสะดวกสบายในการเดินทาง ภายในตกแต่งด้วยหนังสีดำ (เฉพาะในรุ่น High line) แผงคอนโซลเป็นสี 2 โทน สวยสะกดทุกสายตา เรือนไมล์แบบใหม่ โดดเด่นทุกมุมมอง อ่านข้อมูลได้ง่ายในทุกสภาพแสง วิทยุ CD แบบ 1 DIN บลาวฟุ้ง (Blaupunkt) เล่นไฟล์ MP 3 ได้พร้อมทั้งช่องรับสัญญาณภายนอก AUX และ USB Port พร้อมสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียง ที่พวงมาลัย ระบบความคุมความเร็วอัตโนมัติ Auto Cruise Control เบาะนั่งด้านหลังพับได้แบบ 60 : 40 เพื่อเพิ่มเนื้อที่บรรทุกสัมภาระ

Proton Persona CNG
อีกหนึ่งความคุ้มค่ากลับพลังงานทางเลือก 2 ระบบ ไปได้ไกลกว่าด้วย Proton Persona CNG ที่เพิ่มขนาดความจุถังให้สูงสุดถึง 90 ลิตรน้ำ เหนือกว่ารถในระดับเดียวกัน มั่นใจในความปลอดภัยด้วยถัง CNG ที่ได้รับมาตรฐาน ISO 11439-2000 พร้อมวาล์วนิรภัยที่ตัวถัง CNG ปลอดภัยทุกสถานการณ์ สามารถระบายก๊าซทิ้งเมื่อความดัน หรืออุณหภูมิสูงเกินกำหนด เพื่อป้องกันถัง CNG ระเบิดและยังสามารถตัดการจ่ายก๊าซเมื่อเกิดการไหลเกินกำหนด หรือในกรณีท่อแตกหักอีกด้วย
นอกจากนี้ Proton Persona CNG ยังคงพื้นที่ห้องสัมภาระด้านท้ายกว้างขวาง สวยงามและปลอดภัย ด้วยชุดครอบถัง CNG ผลิตจากวัสดุกันลามไฟตามมาตรฐาน FMVSS (Federal Motor Vehicle Safety Standards) เพิ่มความมั่นใจให้ทุกเส้นทางการขับขี่ เพิ่มความสะดวกสบายเป็นพิเศษด้วยหัวเติมก๊าซ CNG ที่บริเวณเดียวกับช่องเติมน้ำมันเชื้อเพลิง
ท่านั้น ทั่วไป
-

Proton Gen 2
สมดุลยภาพที่กลมกลืนระหว่างสมรรถนะของเครื่องยนต์ และการควบคุมบังคับที่เฉียบคม ภายใต้รูปทรงสปอร์ตอันทันสมัย สง่างาม รังสรรค์ผลงานการออกแบบจากยนตรกรรมรถสปอร์ต Lotus การขับขี่และควบคุมบังคับ โดยเฉพาะในเรื่องของระบบกันสะเทือน เป็นฝีมือการปรับแต่งโดยทีมงาน Lotus ซึ่งถือได้ว่าอยู่ในระดับสุดยอดในรถระดับเดียวกัน มีผลทำให้การตอบสนองการขับขี่ในขณะเข้าโค้งทุกรูปแบบเต็มไปด้วยความแม่นยำและเฉียบคม การเปลี่ยนเลนแบบกะทันหันทำได้อย่างง่ายดายและมั่นใจ
ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบที่ Lotus Design Studio ในประเทศอังกฤษ เน้นความสะดวกสบายตามหลักสรีรศาสตร์ ภายในตกแต่งให้ความรู้สึกเรียบหรู ทันสมัย วิทยุ CD แบบ 2 DIN จากบลาวฟุ้ง (Blaupunkt) ให้คุณภาพเสียงดีเยี่ยม พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมเบาะนั่งด้านหลังพับได้แบบ 60 : 40 เพิ่มเนื้อที่ใช้สอยได้ตามต้องการ

Proton Neo
ยานยนต์หัวใจสปอร์ตที่จะพาคุณทะยานไปในทุกหนแห่ง ด้วยความยอดเยี่ยมของพละกำลัง และสมรรถนะในการขับขี่บนรูปทรงอันปราดเปรียวสะดุดตาแฝงไว้ด้วยความสปอร์ตด้วยไฟหน้าโปรเจคเตอร์ 4 ดวง ท่อไอเสียติดตั้งกลางตัวรถด้านท้าย มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ อีกทั้งระบบควบคุมบังคับและระบบกันสะเทือนได้รับการปรับแต่งโดยทีมวิศวกรของรถ Lotus ให้การตอบสนองการขับขี่ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำมั่นใจได้ในขณะขับเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงหรือในสภาพถนนที่มีกระแสลมแรง
ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง ให้ความสะดวกสบายในการเดินทาง เบาะนั่งหุ้มด้วยลายผ้าที่ทันสมัยมีสไตล์ ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ แดชบอร์ด แบบสปอร์ต วิทยุ 1 DIN บลาวฟุ้ง (Blaupunkt) พร้อมสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียง ที่พวงมาลัย เบาะนั่งด้านหลังพับได้แบบ 60 : 40 เพื่อเพิ่มเนื้อที่บรรทุกสัมภาระ

Proton Savvy
ยานยนต์ขับสนุก สไตล์คอมแพค 5 ประตู กะทัดรัด ให้ความคล่องตัวสูงสำหรับการใช้งานในเมือง มั่นใจสูงสุดด้วยระบบความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน พร้อมระบบควบคุมบังคับและระบบกันสะเทือนที่เหนือชั้นด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีโดยทีมวิศวกรจากรถ Lotus ประเทศอังกฤษ ระบบเกียร์มีให้เลือกทั้งแบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์ 5 สปีด แบบ AMT (Automated Manual Transmission) สามารถปรับเปลี่ยนการทำงานระหว่างเกียร์อัตโนมัติและเกียร์ธรรมดาได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง เหมาะกับสภาพเศรษฐกิจและวิกฤติราคาน้ำมันในปัจจุบันนี้
สำหรับลูกค้าที่สนใจ เข้าเยี่ยมชมในงาน และตัดสินใจเป็นเจ้าของรถยนต์ Proton บริษัทฯ มอบสิทธิพิเศษ ดังนี้
- ดาวน์เพียง 5 % ผ่อนนาน 84 เดือน
Proton ทุกรุ่น ฟรีประกันภัยชั้น 1ยกเว้น Exora Special Edition และ Exora Base Line ไม่แถมประกันภัยชั้น 1
สิทธิพิเศษนี้เฉพาะผู้ที่จองรถยนต์ Proton ภายในงาน Motor Show 2011 ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม ถึง 5 เมษายน เท่านั้น
สำหรับ Proton ทุกรุ่น รับประกัน 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร พร้อมตอบสนองความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า ด้วยบริการ “Proton 24 Hour I Care” บริการฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง (Roadsite Assistance) บริการช่วยเหลือฉุกเฉินทางการแพทย์ (Medical Assist) บริการเลขานุการส่วนตัว (Concierge Service)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:
กมลพร อาภารัตนกุล (หมวย)
เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์
OFF : 0-2579-0888 ต่อ 121
-
เวสปิอาริโอเปิดตัวสกู๊ตเตอร์ “พิอาจิโอ” และ “เวสป้า” รุ่นใหม่

อลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับ มร.คอสตานติโน่ แซมบุย รองประธานกรรมการบริหาร พิอาจิโอ กรุ๊ป ประจำภูมิภาคเอเชีย เป็นประธานงานเปิดตัวรถสกู๊ตเตอร์สายพันธุ์อิตาเลี่ยน “พิอาจิโอ ลิเบอร์ตี้ 125 ไออี” และ “เวสป้า เอส 150 ไออี” ครั้งแรกในเมืองไทย ให้ ประณิธาน พรประภา, วิสุทธิ์ เตชะไพบูลย์ และ พรนฎา นิวาตวงศ์ ณ บูธเวสปิอาริโอ ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2011
-

ฮอนด้ากวาด 5 รางวัลใหญ่ “Thailand Bike of the Year 2011” ตอกย้ำแบรนด์ที่พร้อมส่งมอบความเป็นหนึ่งในทุกด้านสู่ประชาคม
รถจักรยานยนต์ฮอนด้าประกาศความยิ่งใหญ่ กวาด 5 สุดยอดรางวัลแห่งความภาคภูมิใจ “Thailand Bike of the Year 2011” กลางงาน “มอเตอร์โชว์ 2011” ตอกย้ำความเป็นจ้าวตลาดรถจักรยานยนต์ของเมืองไทยตัวจริงเหนือใคร สะท้อนการยอมรับจากผู้ใช้และมติมหาชน “ฮอนด้าเป็นแบรนด์ที่หนึ่งในทุกด้าน” ทั้งสมรรถนะ ดีไซน์ล้ำยุคทันสมัย ขับขี่สนุกสนาน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุด และสามารถเติมเต็มไลฟ์สไตล์ความสุข ความสนุกให้แก่ผู้ใช้ได้ตรงจุด
สำหรับรางวัล “Thailand Bike of the Year 2011” ในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2011” ที่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าได้รับการตัดสินจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในครั้งนี้ ประกอบด้วย 5 สุดยอดรางวัลแห่งเกียรติยศ ได้แก่
1.”22 YEARS CONTINUOUSLY MOTORCYCLE BEST SELLER” : รางวัลแชมป์ยอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์อันดับ 1 เป็นรางวัลที่สะท้อนถึงความเป็นผู้นำตัวจริงที่สุดของวงการรถจักรยานยนต์เมืองไทย การันตีความเป็นที่หนึ่ง 22 ปีต่อเนื่องกันยาวนานขึ้นทศวรรษที่ 3 ด้วยยอดจำหน่ายสูงสุดตลอดกาลนานถึง 22 ปีติดต่อกัน
2.“BEST AUTOMATIC FASHION/Honda Scoopy i” : รางวัลรถจักรยานยนต์ระบบออโตเมติกยอดเยี่ยม จาก Honda Scoopy i รางวัลของผู้นำด้านเทคโนโลยี ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพ และมีดีไซน์ที่เหนือระดับที่สุดในโลกแห่งเทคโนโลยีของการขับเคลื่อน 2 ล้อ
3.“BEST AUTOMATIC PREMIUM/Honda PCX” : รางวัลรถจักรยานยนต์แบบออโตเมติกระดับพรีเมียมยอดเยี่ยม จาก Honda PCX ที่มีคุณภาพระดับโลกและได้การยอมรับจากทุกมุมทั่วโลก ทั้งในด้านสมรรถนะ ดีไซน์ที่ล้ำยุคทันสมัย ขับขี่สนุกสนาน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุด
4.”BEST FAMILY BIKE/Honda Wave 125 i” : รางวัลรถจักรยานยนต์แบบครอบครัวที่สุดแห่งคุณภาพยอดเยี่ยม จาก Honda Wave 125 i โดดเด่นยอดเยี่ยมทั้งสมรรถนะการขับขี่ สุดประหยัด ที่พิสูจน์มาแล้วจากผู้ขับขี่ตัวจริง ด้วยอัตราบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 60.4 กิโลเมตรต่อลิตร จนกลายเป็นรถจักรยานยนต์ขวัญใจมหาชน
5.”BEST SPORT BIKE/Honda CBR 250R” : รางวัลรถจักรยานยนต์แบบสปอร์ตยอดเยี่ยม จาก Honda CBR 250R รถจักรยานยนต์แบบสปอร์ตดีไซน์ระดับโลก เปี่ยมด้วยที่สุดแห่งเทคโนโลยีการขับขี่ ซึ่งฮอนด้าปลุกตลาดด้วยการนำกลับมาสร้างความยิ่งใหญ่อีกครั้งหลังจากเคยรุ่งเรืองในอดีตเมื่อราว 10 ปีที่ผ่านมา
นางจุฑามาศ อินปิงกานันท์ ผู้จัดการฝ่ายส่งเสริมการจำหน่าย ส่วนงานการตลาด บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด กล่าวถึงความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าสามารถคว้ารางวัลเกียรติยศสูงสุดมาครองถึง 5 รางวัล จากการตัดสินของคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ “Thailand Bike of the Year 2011” ในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2011” ว่า นับเป็นความภาคภูมิใจสูงสุดของผู้ใช้รถจักรยานยนต์ฮอนด้าทุกคน ที่ได้รับประสบการณ์อันทรงคุณค่าของผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมด้วยคุณภาพและประสิทธิภาพ ทั้งในด้านสมรรถนะการขับขี่ ดีไซน์สวยล้ำสมัย ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และให้ความคุ้มค่ากับเงินทุกบาท ซึ่งฮอนด้าตั้งใจส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดในทุกๆ ด้านสู่ประชาคมโลก
“รถจักรยานยนต์ฮอนด้าทุกรุ่นที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ ทางคณะกรรมการฯ ได้นำไปทดสอบในด้านต่างๆ ทั้งคุณภาพ สมรรถนะ การดีไซน์ของผลิตภัณฑ์ และการยอมรับสูดสุดจากผู้ใช้รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ที่สำคัญคือ การนำไปขับขี่ใช้งานจริง จึงพิสูจน์ชัดในตัวแล้วว่า ฮอนด้าเป็นสุดยอดแบรนด์ที่ครองใจมหาชนมาอย่างยาวนาน ส่งผลให้รถฮอนด้าทุกรุ่นมียอดจำหน่ายสูงสุด 22 ปีติดต่อกัน และยังได้สร้างมาตรฐานในการต่อยอดความสำเร็จของวงการอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์เมืองไทย รวมถึงความภูมิภาคใจของคนไทยไปทั่วทุกมุมโลก”
“ที่ผ่านมาฮอนด้านำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดผ่านทางผลิตภัณฑ์ไปสู่ผู้ใช้ เพื่อให้ทุกคนมีความสุขความสนุกจากการที่ได้ขับขี่รถฮอนด้า ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีเครื่องยนต์ระบบหัวฉีดแบบ PGM-FI ที่ฮอนด้าเปลี่ยนรถทุกรุ่นมาใช้ถึง 10 รุ่นแล้ว และมีผู้ใช้จริงมากกว่า 2 ล้านคน ประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 60.4 กม.ต่อลิตร ใน Honda Wave 125 i รถแบบแฟมิลี่ และรางวัล BEST AUTOMATIC FASHION/Honda Scoopy i และ BEST AUTOMATIC PREMIUM /Honda PCX ยังสะท้อนความเป็นผู้นำรถกลุ่ม เอ.ที.ตัวจริง โดยสามารถครองสัดส่วนในตลาดรวมเกินครึ่ง ส่วน BEST SPORT BIKE/Honda CBR 250R ถือเป็นการนำรถแบบสปอร์ตที่เคยยิ่งใหญ่ในอดีตกลับสร้างสีสันแก่วงการอีกครั้ง ทั้งหมดนี้ต้องขอขอบคุณผู้ใช้ที่ไว้วางใจในผลิตภัณฑ์ฮอนด้า และอยากให้ผู้ใช้และคนไทยทุกคน เตรียมพบผลิตภัณฑ์คุณภาพที่เป็นหนึ่งในทุกด้าน ที่ฮอนด้าจะส่งมอบความสุข ความสนุกในการใช้มอเตอร์ไซค์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ชีวิตสนุกถ้าไม่หยุดค้นหา Discover Your Fun” ตอกย้ำ “ผู้นำมอเตอร์ไซค์หัวฉีด” และ “ผู้นำไลฟ์สไตล์ความสนุก” ในเร็วๆ นี้ต่อไป”
นอกเหนือจากการนำเสนอและส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพและเป็นที่หนึ่งในทุกด้านแล้ว รถจักรยานยนต์ฮอนด้ายังห่วงใยใส่ใจต่อสังคมไทยโดยรวมเกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ล่าสุดเดินหน้าเต็มตัวกับการร่วมรณรงค์ลดอุบัติเหตุในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์กับแคมเปญ “อุบัติเหตุเป็นศูนย์ เริ่มที่ตัวคุณ” หรือ Zer0 Accident
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณธัญลักษณ์ ไชยปะ
ฝ่ายสื่อสารการตลาด ส่วนงานบริหารธุรกิจ บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด
โทร.0-2757-6111 ต่อ 2503, 2508
-
ยามาฮ่ารับ 3 รางวัลชนะเลิศที่สุดในประเทศไทย

นายประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์ รองประธานกรรมการบริหาร (คนที่ 5 จากด้านขวา) และผู้บริหารระดับสูง บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด รับรางวัลรถจักรยานยนต์แห่งปี (Bike of the Year 2011) ด้วยการคว้า 3 รางวัล คือ รางวัลรถออโตเมติกยอดเยี่ยมสไตล์สปอร์ต (Best Automatic-Sport) ได้แก่ รุ่น ยามาฮ่า มีโอ 125 รางวัลรถครอบครัวยอดเยี่ยมสไตล์สปอร์ต (Best Family-Sport) ได้แก่ รุ่น ยามาฮ่า สปาร์ค 135 หัวฉีด และรางวัลผู้บุกเบิกรถจักรยานยนต์ออโตเมติกสไตล์แฟชั่น (The Innovator of Fashion Automatic) ได้แก่ รุ่น ยามาฮ่า ฟีโน่ ซึ่งจัดโดย บริษัท กรังค์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด โดยมี ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานจัดงาน ให้เกียรติถ่ายภาพร่วมกัน ณ ศูนย์แสดงสินค้า และการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี เมื่อเร็วๆ นี้
-
เยี่ยมชมบูธเชฟโรเลต

คุณแก้วขวัญ วัชโรทัย เลขาธิการสำนักพระราชวัง (ที่ 2 จากซ้าย) และท่านผู้หญิงเพ็ญศรี วัชโรทัย ภริยา (ที่ 1 จากซ้าย) ให้เกียรติเยี่ยมชมบูธเชฟโรเลต พร้อมถ่ายภาพร่วมกับรถกระบะต้นแบบ เชฟโรเลต โคโลราโด รุ่นใหม่ล่าสุดที่เผยโฉมสู่สายตาชาวไทยเป็นครั้งแรกในโลกที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ และเตรียมเปิดตัวออกจำหน่ายจริงภายในปีนี้ โดยมี มร.มาร์ติน แอพเฟล ประธานกรรมการ ประจำประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด (ที่ 2 จากขวา) พร้อมด้วยคุณจาตุรนต์ โกมลมิศร์ ประธานจัดงานบางกอก มอเตอร์โชว์ (ที่ 3 จากซ้าย) และคุณพีระพงษ์ เอี่ยมลำเนา รองประธานจัดงาน (ที่ 1 จากขวา) ให้การต้อนรับ
โดยผู้สนใจสามารถเยี่ยมชมที่สุดแห่งยานยนต์ในบูธเชฟโรเลตได้อย่างใกล้ชิด นอกจากรถกระบะต้นแบบโคโลราโดแล้ว ยังมีการจัดแสดงรถกระบะเชฟโรเลตสุดคลาสสิกที่สั่งตรงจากพิพิธภัณฑ์ของจีเอ็ม ประเทศสหรัฐอเมริกา รถแข่งเชฟโรเลต ครูซ เวิลด์ทัวริ่งคาร์แชมเปี้ยนชิพ พร้อมด้วย เชฟโรเลต ครูซ ซึ่งคว้าทั้งรางวัลการออกแบบยอดเยี่ยมและรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี เชฟโรเลต แคปติวา ที่มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินรุ่นใหม่ รวมถึงเชฟโรเลต อาวีโอ ซีเอ็นจี รถยนต์เชื้อเพลิงสองระบบประหยัดเหนือชั้น ได้ที่บูธ A2 ของเชฟโรเลต อาคารชาลเลนเจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานี ในระหว่างวันที่ 25 มีนาคม-5 เมษายนนี้
สำหรับข้อมูลหรือรูปภาพเพิ่มเติมสามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์www.gmthailand.com, www.chevroletthailand.com, www.facebook.com/generalmotorsthailand
สำหรับข้อมูลหรือรูปภาพเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
ปภาดา ตวงหิรัญวิมล หรือสถาปนา กาญจนประกร
เวเบอร์ แชนวิค
บริษัท แมคแคน เวิลด์กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด
โทร. +662 343 6057
อีเมล์: Paphada@webershandwick.com, Satapana@webershandwick.com
หรือ
ศศินันท์ ออลแมนด์
ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ประจำประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน
บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด
โทร. +662 791 3400 โทรสาร +662937 0171
อีเมล์: sasinan.allmand@gm.com
-
‘กรุงศรี ออโต้’ ยกระดับบริการทันใจ อนุมัติสินเชื่อออนไลน์ พร้อมรู้ผลทันทีที่งานมอเตอร์โชว์ พร้อมมอบโชค ลุ้นบัตรเติมน้ำมันฟรี 100,000 บาท


กรุงศรี ออโต้ ผู้นำสินเชื่อยานยนต์ครบวงจร เดินหน้านำทัพผลิตภัณฑ์และบริการสินเชื่อยานยนต์ร่วมในงานมอเตอร์โชว์ มอบข้อเสนอพิเศษจากกรุงศรี นิว คาร์ พร้อมสิทธิ์ลุ้นรับบัตรเติมน้ำมันมูลค่าสูงสุด 100,000 บาทฟรี พิเศษบริการให้คำปรึกษาและประเมินวงเงินเบื้องต้น บน iPad มั่นใจสร้างประสบการณ์และความประทับใจแก่ลูกค้าอย่างแน่นอน
นางชูศรี แพทย์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาดและวางแผนกลยุทธ์ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) หรือกรุงศรี ออโต้ เปิดเผยว่า กรุงศรี ออโต้ ได้เข้าร่วมงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32 ซึ่งนับเป็นปีแรก ในฐานะพันธมิตรอย่างเป็นทางการในด้านผู้ให้บริการสินเชื่อยานยนต์ ภายใต้แนวคิด “KRUNGSRI AUTO: Your Financial Consultant” ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 มีนาคม – 5 เมษายน 2554 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อตอบรับความต้องการของผู้บริโภคที่เข้าชมงานและตัดสินใจซื้อรถในงานมอเตอร์โชว์ โดยกรุงศรี ออโต้ ได้จัดเตรียมผลิตภัณฑ์และข้อเสนอพิเศษ รวมทั้งสิทธิ์ในการลุ้นรับของรางวัลแก่ผู้เข้าชมงานมากมาย เพื่อสร้างความประทับใจและประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า
“กรุงศรี ออโต้ ได้จัดเตรียมบริการนวัตกรรมในการประเมินวงเงินสินเชื่อเบื้องต้นสำหรับลูกค้าที่มีความประสงค์จะซื้อรถภายในงานมอเตอร์โชว์ ด้วยระบบการประเมินวงเงินสินเชื่อและการอนุมัติแบบออนไลน์ บน iPad ด้วยระบบการอนุมัติ I-Application ของกรุงศรี ออโต้ เพื่อความสะดวกและรวดเร็วสำหรับลูกค้าในการตรวจสอบวงเงินสินเชื่อและความสามารถในการผ่อนชำระภายในเวลาไม่กี่นาที และสามารถลดระยะเวลาการอนุมัติสินเชื่อเพียง 30 นาทีเท่านั้น” นางชูศรี กล่าว
ภายในงาน กรุงศรี ออโต้ ยังได้เตรียมข้อเสนอพิเศษจาก “สินเชื่อเพื่อรถใหม่ กรุงศรี นิว คาร์” ด้วยดาวน์ขั้นต่ำเพียง 5% หรือเลือกผ่อนสบายสูงสุด 84 เดือน โดยไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน และสามารถทราบผลอนุมัติได้ทุกวัน เมื่อเอกสารประกอบการสมัครครบถ้วน พร้อมกันนี้ ผู้ที่ขอสินเชื่อเพื่อซื้อรถใหม่กับกรุงศรี ออโต้ จะได้รับสิทธิ์ลุ้นรับบัตร เติมน้ำมันมูลค่าสูงสุด 100,000 บาท หากสมัครสินเชื่อ และทราบผลอนุมัติเบื้องต้นภายในงานรับฟรีทันที บัตรของขวัญมูลค่า 500 บาท
“ทั้งนี้จากความหลากหลายและโดดเด่นของรถรุ่นต่างๆ ที่นำมาจัดแสดงในงานและแคมเปญมากมายของผู้ผลิตรถค่ายต่างๆ ประกอบกับข้อเสนอพิเศษของกรุงศรี นิว คาร์ ที่มอบให้กับลูกค้าภายในงานมอเตอร์โชว์นี้ เชื่อว่า กรุงศรี ออโต้ จะสามารถกระตุ้นยอดขายสินเชื่อรถใหม่ในงานมอเตอร์โชว์ได้อย่างแน่นอน” นางชูศรี กล่าว
พบกับ บูธกรุงศรี ออโต้ ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ได้ที่บริเวณด้านหน้า ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ กรุงศรี ออโต้ คอลเซ็นเตอร์ โทร. 0-2740-7400 และ www.krungsriauto.com
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ:
บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน)
ฐิติภา ลักษณพิสุทธิ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กรและรัฐกิจสัมพันธ์
โทรศัพท์ 0-2627-8930 อีเมล์ thitipa.laxanaphisuth@krungsriauto.com
-
พบ ‘กรุงศรี ออโต้’ ที่งานมอเตอร์โชว์ มุ่งสร้างความประทับใจและประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้า

นางชูศรี แพทย์เจริญ (กลาง) ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาดและวางแผนกลยุทธ์ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) หรือกรุงศรี ออโต้ พร้อมคณะผู้บริหาร มุ่งสร้างความประทับใจและประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า นำทัพผลิตภัณฑ์และบริการสินเชื่อยานยนต์ร่วมในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32 ในฐานะพันธมิตรอย่างเป็นทางการด้านผู้ให้บริการสินเชื่อยานยนต์ ภายใต้แนวคิด “KRUNGSRI AUTO: Your Financial Consultant” มอบข้อเสนอพิเศษจากกรุงศรี นิว คาร์ ด้วยดาวน์ขั้นต่ำเพียง 5% หรือเลือกผ่อนสบายสูงสุด 84 เดือน โดยไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน และรับสิทธิ์ลุ้นรับบัตรเติมน้ำมันมูลค่าสูงสุด 100,000 บาท พร้อมกันนี้ กรุงศรี ออโต้ ยกระดับบริการทันใจ โดยการให้คำปรึกษาและประเมินวงเงินเบื้องต้นบน iPad เป็นครั้งแรก ด้วยระบบการอนุมัติ I-Application ของกรุงศรี ออโต้ ในการตรวจสอบวงเงินสินเชื่อและความสามารถในการผ่อนชำระ เพื่อความสะดวกและรวดเร็วสำหรับลูกค้าภายในงาน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ:
บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน)
ฐิติภา ลักษณพิสุทธิ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กรและรัฐกิจสัมพันธ์
โทรศัพท์ 0-2627-8930 อีเมล์ thitipa.laxanaphisuth@krungsriauto.com
-
ฟอร์ดสร้างปรากฏการณ์สุดล้ำสมัยในงานบางกอกมอเตอร์โชว์ กับบูธและอุปกรณ์จัดแสดงสุดไฮเทค ครั้งแรก ในประเทศไทย

- ฟอร์ดพร้อมนำเสนอบูธจัดแสดงอุปกรณ์และเทคโนโลยีสุดทันสมัยที่ผู้เข้าชมงานสามารถร่วมสนุกได้มากที่สุดเป็นครั้งแรกสำหรับงานมหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย ด้วยอุปกรณ์ในการจัดแสดงต่างๆ มากมาย พร้อมด้วยเกมสุดมัน และเทคโนโลยีใหม่ๆ อีกจำนวนมาก
- ผู้เข้าชมงานมหกรรมยานยนต์ บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32 เตรียมสัมผัสกับการเปิดตัวครั้งแรกในอาเซียนของรถกระบะสไตล์แกร่ง ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่
- รถยนต์ขนาดเล็กเจ้าแห่งรางวัล ฟอร์ด เฟียสต้า ใหม่ แนะนำสีสันใหม่โดนใจ เพิ่มอีกหนึ่งตัวเลือกด้วยตัวถังภายนอกใหม่สีม่วง ‘Phantom Purple’
ฟอร์ดทุ่มสุดแรงในงานมหกรรมยานยนต์ บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32 กับการจัดแสดงอุปกรณ์และเทคโนโลยีอันทันสมัยเพื่อสร้างความประทับใจให้แก่ผู้เข้าชมงานบางกอก มอเตอร์โชว์ ครั้งแรกในอาเซียน ผ่านประสบการณ์แบบ “เสมือนจริง” ที่ผู้เข้าร่วมงานสามารถทดลองเทคโนโลยีทันสมัยต่างๆ พร้อมร่วมสัมผัสการเผยโฉมครั้งแรกในภูมิภาคอาเซียนของรถกระบะระดับโลก อย่าง ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ และต้อนรับรถยนต์ขนาดเล็กสุดฮอต ฟอร์ด เฟียสต้า ในเฉดสีใหม่ ‘Phantom Purple’
ส่วนหนึ่งของอุปกรณ์ในการจัดแสดงสุดทันสมัยในบูธฟอร์ดที่สามารถเรียกความสนใจจากผู้เข้าชมงานได้อย่างล้นหลาม ประกอบด้วย พรีเซ็นเตอร์โรบ็อต มินิเธียร์เตอร์ 3 มิติ เครื่องจำลองการขับฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ แบบเสมือนจริง (Driving Simulator) วิดีโอเกมจำลองการขับขี่อย่างปลอดภัย และเกมท้าประลองความสามารถในการลากจูง เป็นต้น
นอกจากนี้ ฟอร์ดยังเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยผู้เข้าชมงานสามารถร่วมสนุกกับ Fuel Efficiency Touch Table ซึ่งจัดแสดงข้อมูลเกี่ยวกับนวัตกรรมเทคโนโลยีเครื่องยนต์อีโคบู๊สต์ (EcoBoost) ของฟอร์ดที่ช่วยประหยัดน้ำมัน ซึ่งอุปกรณ์ในการจัดแสดง 3 ชุดที่สามารถโต้ตอบสื่อสารกับผู้เข้าชมงานได้ จะสาธิตให้เห็นว่าเหตุใดอีโคบู๊สต์จึงเป็นเครื่องยนต์ที่ประหยัดน้ำมัน ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และมอบการขับขี่ที่เหนือชั้น
ไฮไลต์อุปกรณ์จัดแสดงสุดล้ำสมัยที่บูธฟอร์ด
- Ranger Capability Simulator ชุดจำลองการขับแบบเสมือนจริงอันแสนสนุกและน่าตื่นเต้น ที่ผู้เข้าชมงานสามารถทดลองขับเรนเจอร์ ใหม่ ด้วยตนเอง และพิสูจน์ความสามารถในการเกาะถนน รวมทั้งระบบป้องกันล้อหมุนฟรีในรุ่นขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ และเทคโนโลยีต่างๆ อีกมากมายทั้งระบบ Adaptive Load Control ระบบ Hill Launch Assist และ Trailer Sway Control
- Ranger Towing Game ร่วมมอบความสนุกสนานให้แก่ผู้เข้าชมงานที่ต้องการประลองความสามารถในการลากสิ่งของเทียบกับความสามารถของเรนเจอร์ ใหม่ ซึ่งมีความสามารถในการลากจูงสูงสุดถึง 3,350 กิโลกรัม นอกจากนี้ ผู้เข้าชมงานยังสามารถเปรียบเทียบศักยภาพแรงบิดของตนเองกับเรนเจอร์ ใหม่ ได้ที่ชุดอุปกรณ์ Ranger Torque and Power Touch Table
- PowerShift Touch Table แสดงให้เห็นถึงการทำงานของระบบเกียร์พาวเวอร์ชิฟท์ และการอธิบายถึงระบบเกียร์พาวเวอร์ชิฟท์ที่ช่วยประหยัดน้ำมันและลดค่าใช้จ่ายโดยรวมได้ นอกจากนี้ ผู้เข้าชมงานยังสามารถแวะชมภาพยนตร์จากมินิเธียเตอร์ 3 มิติ เพื่อศึกษาเกี่ยวกับเทคโนโลยีเสมือนจริงที่ใช้ในการออกแบบ งานวิศวกรรม และการผลิตของฟอร์ดในปัจจุบันอีกด้วย
- Control Blade Challenge การทดสอบความคล่องแคล่ว ความแม่นยำ และความสามารถในการหยุดของรถฟอร์ด โฟกัสอย่างสนุกสนาน ที่แสดงให้เห็นถึงระบบกันสะเทือนช่วงล่างที่สามารถมอบการขับขี่อันเหนือชั้น
- Slot Car Racing ช่วยเพิ่มอรรถรสในการร่วมสนุก โดยผู้เข้าชมบูธฟอร์ดสามารถประลองการแข่งขับรถเพื่อชิงตำแหน่งผู้ที่ทำเวลาได้น้อยที่สุด
- Driving Skills for Life อุปกรณ์จัดแสดงแสนสนุกเกี่ยวกับการขับขี่ปลอดภัยที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานได้จำลองการขับรถฟอร์ดบนสภาพถนนที่แตกต่างกันเพื่อวัดความสามารถในการควบคุมรถภายใต้สภาพแวดล้อมการขับขี่แบบต่างๆ
นอกจากฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่แล้ว ภายในบูธฟอร์ดยังมีการจัดแสดงรถฟอร์ด เฟียสต้า ใหม่ รถยนต์ขนาดเล็กที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้วและได้รับความนิยมอย่างมากทั้งในประเทศไทยและทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียน โดยในงานนี้ ฟอร์ดได้เผยโฉมอีกหนึ่งตัวเลือกโดนใจด้วยตัวถังภายนอกใหม่สีม่วง ‘Phantom Purple’ และเปิดตัว ฟอร์ดเฟียสต้า สปอร์ต 1.6 ลิตร รุ่นพิเศษ ลิมิเต็ด เอดิชั่น พร้อมเกียร์อัตโนมัติพาวเวอร์ชิฟท์ ตัวถังภายนอกสีขาวตัดกับภายในห้องโดยสารสีน้ำเงินสด ซึ่งมีจำนวนจำกัดเพียง 300 คันเท่านั้น
งานมหกรรมยานยนต์ บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ อันยิ่งใหญ่ระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีขึ้นระหว่างวันที่ 25 มีนาคม-4 เมษายน 2554 ที่ศูนย์แสดงสินค้า อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี
ข้อมูลเกี่ยวกับฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี
ฟอร์ด มอเตอร์คัมปะนี เป็นบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมยานยนต์ของโลก ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ที่เมืองเดียร์บอร์น มลรัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยผลิตและจำหน่ายรถยนต์ใน 6 ทวีปทั่วโลก มีพนักงานประมาณ 164,000 คน และมีโรงงานประมาณ 70 แห่งทั่วโลก บริษัทฯ มีรถยนต์แบรนด์ชั้นนำอันได้แก่ ฟอร์ด และลินคอล์น นอกจากนี้ ยังให้บริการด้านสินเชื่อรถยนต์ผ่านบริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ เครดิต สามารถเรียกดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของฟอร์ดได้ที่ www.ford.co.th หรือ www.fordmotorcompany.com
-
เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัวยนตรกรรมใหม่ 5 รุ่นในงานมอเตอร์โชว์ครั้งที่ 32

นายแก้วขวัญ วัชโรทัย (ที่ 4 จากขวา) เลขาธิการพระราชวัง ประธานในพิธีเปิดงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32 พร้อมด้วย ท่านผู้หญิงเพ็ญศรี วัชโรทัย (ที่ 3 จากขวา) ภริยา ให้เกียรติเยี่ยมชมบูธของเมอร์เซเดส-เบนซ์ และทดลองนั่งรถจำลองต้นแบบ “เบนซ์ เพเทนท์ มอเตอร์ คาร์” โมเดลรถยนต์คันแรกของโลก โดยมีศาสตราจารย์ ดร.อเล็กซานเดอร์ เพาฟเลอร์ (ที่ 4 จากซ้าย) ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมด้วย มร.สเตฟาน เมอบิอุส (ที่ 1 จากซ้าย) รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด และนายฉัตวิทัย ตันตราภรณ์ (ที่ 1 จากขวา) ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการตลาดและสื่อสารองค์กร ให้การต้อนรับ พร้อมนำชมยนตรกรรมใหม่ทั้ง 5 รุ่น ได้แก่ The new SLK, The new CLS, The new generation CL-Class, G55 AMG และ The new Vito ซึ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรกในประเทศไทย
-
เชฟโรเลต ครูซ คว้า 2 รางวัล รถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี
- กระบะพันธุ์แกร่ง โคโลราโด รับรางวัลรถปิกอัพขุมพลัง 3.0 ลิตร ขับเคลื่อน 4 ล้อยอดเยี่ยม
เชฟโรเลต ครูซ เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร คว้ารางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี พ่วงรางวัลรถยนต์ที่มีการออกแบบยอดเยี่ยมมาครอง ขณะที่เชฟโรเลต โคโลราโด คว้ารางวัลรถปิกอัพ เครื่องยนต์ 3.0 ลิตร ขับเคลื่อน 4 ล้อยอดเยี่ยมแห่งปี สะท้อนคุณภาพปิกอัพอเมริกันพันธุ์แกร่งสไตล์เชฟโรเลต ขนานแท้
บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศความสำเร็จในการพัฒนายานยนต์คุณภาพเยี่ยม เมื่อเชฟโรเลต ครูซ รถยนต์คอมแพกต์ซีดานระดับโลก เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร ผงาดเหนือคู่แข่งในระดับเดียวกัน คว้ารางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี หรือ Car of The Year พร้อมได้รับรางวัลยานยนต์ที่มีการออกแบบยอดเยี่ยมหรือ Best Design ประจำปี 2554 มาครองจากการตัดสินของคณะกรรมการที่เป็นกลาง ทั้งคณาจารย์และผู้เชี่ยวชาญภาควิชาวิศวกรรมยานยนต์จากสถาบันต่างๆ ซึ่งจัดโดย บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
เชฟโรเลต ครูซ เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร ที่เพิ่งคว้ารางวัลมาครองนี้ มาพร้อมกับขุมพลังเบนซิน ECOTEC 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC ให้พละกำลังสูงสุดที่ 141 แรงม้าที่ 6,200 รอบ/นาที ซึ่งเหนือกว่ารถในระดับเดียวกัน พร้อมแรงบิดสูงสุดที่ 177 นิวตันเมตรที่ 3,800 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด DSC (Driver Shift Control) โดยมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งระบบ Passive Entry Passive Start เปิด-ปิดประตูโดยไม่ใช้กุญแจ ระบบไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ พร้อมความปลอดภัยเต็มพิกัด และการออกแบบอันโดดเด่นทั้งรูปลักษณ์ภายนอกและภายในห้องโดยสาร มุ่งตอบสนองต่อทุกการขับขี่อย่างแท้จริง
ขณะเดียวกัน การประกาศรางวัลในปีนี้ เชฟโรเลต โคโลราโด Z71 CTi Max ยังได้รับรางวัลรถกระบะเครื่องยนต์ต่ำกว่า 3,200 ซีซียอดเยี่ยม พิสูจน์ให้เห็นถึงคุณภาพของรถปิกอัพอเมริกันพันธุ์แกร่งขนานแท้สไตล์เชฟโรเลต ที่พร้อมรองรับการใช้งานทุกรูปแบบ
สำหรับรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปีในแต่ละประเภทนั้น ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการที่เป็นกลางที่มาจาก คณาจารย์และผู้เชี่ยวชาญภาควิชาวิศวกรรมยานยนต์จากสถาบันต่างๆ ที่ได้รับเชิญจากบริษัท กรังด์ปรีซ์ฯ ซึ่งการให้คะแนนจะตัดสินจากรายละเอียดในทุกๆ ด้านของรถยนต์ ตั้งแต่ การออกแบบ ความสะดวกสบาย ความปลอดภัย ความประหยัดเชื้อเพลิง การบังคับควบคุมรถยนต์ สมรรถนะ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การสร้างความพึงพอใจให้กับผู้ขับขี่ และความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคาของรถยนต์

จากภาพ : เชฟโรเลต คว้า 3 รางวัล ๐ คุณวรวิทย์ วิชัยธนพัฒน์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ (ที่ 3 จากซ้าย) และคุณศรุต อิงควัต ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ (ที่ 4 จากซ้าย) บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ถ่ายภาพคู่กับเชฟโรเลต ครูซ รถยนต์คอมแพกต์ซีดานระดับโลก ซึ่งในปี 2554 นี้ เชฟโรเลต ครูซ สามารถคว้ามาได้ 2 รางวัล ได้แก่ รถซีดานเครื่องยนต์ 1.8 ลิตรยอดเยี่ยม และรางวัลรถยนต์ที่มีการออกแบบยอดเยี่ยม พร้อมกันนี้ เชฟโรเลต โคโลราโด ขุมพลัง 3.0 ลิตร ยังคว้ารางวัลรถปิกอัพขับเคลื่อนสี่ล้อยอดเยี่ยมมาครองได้อีกด้วย จากการตัดสินของคณะกรรมการที่เป็นกลาง ทั้งคณาจารย์และผู้เชี่ยวชาญภาควิชาวิศวกรรมยานยนต์จากสถาบันต่างๆ ซึ่งจัดโดย บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
เกี่ยวกับ เจนเนอรัล มอเตอร์ส
เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอมพานี หนึ่งในบริษัทผู้ผลิตรถที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2451 มีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองดีทรอยท์ รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา จีเอ็ม มีพนักงานรวม 209,000 คนใน 120 ประเทศทุกในภูมิภาคทั่วโลก จีเอ็ม มีฐานการผลิตรถยนต์ และรถปิกอัพอยู่ใน 31 ประเทศ และจำหน่ายรถแบรนด์ที่มีชื่อเสียง อย่าง บูอิค คาดิลแลค เชฟโรเลต เอฟเอดับเบิลยู จีเอ็มซี จีเอ็มแดวู โฮลเด้น โอเปิล วอกซ์ฮอลล์ และวูหลิง ตลาดที่ใหญ่ที่สุดของจีเอ็ม อยู่ในสหรัฐอเมริกา ตามมาด้วยจีน บราซิล เยอรมนี สหราชอาณาจักร แคนาดา และอิตาลี แผนกออนสตาร์ของจีเอ็ม นั่นถือเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมความปลอดภัย และการให้บริการข้อมูลในรถยนต์ เจนเนอรัล มอเตอร์ส ดำเนินงานแทนเจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2552 ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับจีเอ็ม ใหม่ คลิกเข้าชมได้ที่ www.gm.com
สำหรับข้อมูลหรือรูปภาพเพิ่มเติมสามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์www.gmthailand.com, www.chevroletthailand.com, www.facebook.com/generalmotorsthailand
สำหรับข้อมูลหรือรูปภาพเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
ปภาดา ตวงหิรัญวิมล หรือสถาปนา กาญจนประกร
เวเบอร์ แชนวิค
บริษัท แมคแคน เวิลด์กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด
โทร. +662 343 6057
อีเมล์: Paphada@webershandwick.com, Satapana@webershandwick.com
หรือ
ศศินันท์ ออลแมนด์
ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ประจำประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน
บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด
โทร. +662 791 3400 โทรสาร +662937 0171
อีเมล์: sasinan.allmand@gm.com
-

ULTIMATE AUTO GROUP CO., LTD ผู้แทนของ BRABUS GmbH, Wiesman GmbH และ 9FF Fahrzeug technik GmbH ได้เข้าร่วมงาน BANGKOK INTERNATIONAL MOTORSHOW ครั้งที่ 32 นี้ ช่วงวันที่ 25 มีนาคม – 5 เมษายน 2554 ณ Challenger, Import Muang Thong Thani ภายใต้ Concept “Made in Germany” เพราะยนต์กรรมทั้งหมดที่นำมาแสดงในครั้งนี้เป็นสุดยอด Super Luxury Car, Super Sport Car และ Super Compact Car ที่ผลิตจากประเทศเยอรมันทั้งสิ้น

ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งนี้ BRABUS GmbH โรงงานผลิตรถยนต์ Luxury และ High Performance ได้นำรถยนต์ระดับสุดยอดมาร่วมแสดง เช่น BRABUS SV12R Bi-Turbo 800 ซึ่งเป็นเจ้าของสถิติ ‘World Fastest Linousine” ด้วยขุมพลังขนาด 800 แรงม้า และแรงบิดสูงถึง 1,420 นิวตันเมตร BRABUS G55 K8 ตำนานของรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อที่ไปได้ทุกเส้นทาง จนถูกจัดเข้ากลุ่มรถยนต์ SPV (Special Purpose Vehicle) และเป็นรถยนต์ที่รูปแบบของตัวถังไม่มีการเปลี่ยนแปลงมายาวนานกว่า 30 ปี G55 K8 จาก BRABUS ใช้เครื่องยนต์ V8 มีกำลังขับเคลื่อน 551 แรงม้า และแรงบิดขนาด 780 นิวตันเมตร และนอกเหนือจากสุดยอดยนต์กรรมทั้งสองคันแล้ว ทาง BRABUS ยังได้นำ รถ BRABUS EV8 6.1 Convertible, BRABUS SMART Ultimate 112 Limited Edition, BRABUS B25S ทั้ง Coupe และ Estate มาให้ท่านได้ยลโฉมเช่นกัน

Wiesmann GmbH โรงงานผลิตรถยนต์ Supersport Car ที่มีตราสัญลักษณ์เป็นรูปตุ๊กแก ซึ่งสื่อความหมายว่ารถ Sport Wiesmann ทุกคันจะถูกออกแบบมาให้การขับเคลื่อนยึดเกาะถนนอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เฉกเช่นตัวตุ๊กแกที่เกาะอยู่กับฝ้าเพดาน
โรงงาน Wiesmann ผลิตรถยนต์โดยช่างฝีมือระดับแนวหน้า ตามนิยามของคำว่า GERMAN HANDCRATED และยนต์กรรมที่ผลิตนั้นถูกผลิตตามคำสั่งของลูกค้าทุกๆรายละเอียด (Customized) เพราะฉะนั้น Supersport Car Wiesmann ทุกๆคันที่ออกจากโรงงานจะเป็นเพียงหนึ่งเดียว (Invidualist)

ในงาน Motor Show ครั้งที่ 32 นี้ Wiesmann ได้นำ Wiesmann MF5 Roadster ซึ่งเป็นรุ่นที่ใหญ่และหรูหราที่สุดมาแสดง MF5 Roadster คั้นนี้วางเครื่องยนต์ของ BMW V10 ให้พลัง 507 แรงม้า และแรงบิดขนาด 520 นิวตันเมตร ทำความเร็วสูงสุด 310 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 3.9 วินาที นอกเหนือจากนี้ ภายในห้องโดยสารยังได้ถูกออกแบบตกแต่งด้วยหนังแท้ชั้นดีอย่างหรูหราตามแบบฉบับของ German Super Sport Car
และในงานนี้ Wiesmann GmbH ก็ยังได้นำรถยนต์รุ่น MF4S Roadster ที่เพิ่งได้รับรางวัล “Sportcar of the Year” เมื่อเดือนธันวามคม 2010 ที่ผ่านมา โดยผู้อ่านนิตยสาร Autobild Sport ลงคะแนนให้ร่วมกันมากกว่า 68,000 คะแนน
9FF Fahrzeug technik GmbH โรงงานผลิตแรงม้าที่ตั้งอยู่ที่เมือง Dortmund ในประเทศเยอรมัน โดย MR. JAN FATTHAUSER มีปรัญญาเกี่ยวกับรถยนต์ว่ารถที่เขาใช้จะต้องไม่มีใครแซงได้ และนั่นคือจุดเริ่มต้นในการดำเนินธุรกิจของ 9FF
จากประสพการณ์มายาวนานกว่า 15 ปี 9FF ได้เลือกนำเอาเครื่องยนต์ Porsche มาเป็นพื้นฐานในการพัฒนาโดยลูกค้าทุกท่านสามารถเลือกรถ Porsche รุ่นที่ชื่นชอบ และแจ้งความประสงค์ให้กับทาง 9FF เพื่อสร้างรถในฝันให้กับลูกค้า ตามจำนวนแรงม้าที่ต้องการโดยสามารถเลือกขุมพลังได้ถึง 1,200 แรงม้า และแน่นอนที่สุดนอกเหนือ จากเครื่องยนต์ใน 9FF Supersport ที่ถูกพัฒนาให้มีพลังที่แรงมากขึ้น ระบบเบรค ระบบช่วงล่าง ระบบ Aerodynamic และภายในตัวรถก็ได้รับการออกแบบ และสร้างขึ้นให้สอดคล้องกัน เพื่อความปลอดภัยและความหรูหรา
9FF ยังเป็นเจ้าของสถิติโลกด้านความเร็วมากกว่า 7 รายการ นั่นคือสิ่งที่ยืนยันว่า 9FF Fahrzeug technik GmbH คือ “The Power Factory” อย่างแท้จริง
-
Gossip News: โตโยต้า พริอุส
แฟนๆโตโยต้าพริอุส สมหวังดั่งใจเมื่อนายใหญ่โตโยต้า เคียวอิจิ ทานาดะ ปล่อยรถพระเอกของปีนี้ พริอุสรุ่นตกแต่งพิเศษ “Prius TRD Sportivo” มาเอาใจคนหลงใหลความสปอร์ตสไตล์ ทีอาร์ดี แต่ยังคงไว้เรื่องการประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อม ตามคอนเซ็ปต์ยนตกรรมประหยัดพลังงาน เปิดตัวครั้งแรกในงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2011 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันนี้จนถึง 5 เม.ย.นี้
-
รถยนต์มิตซูบิชิ กวาด 4 รางวัล “รถยอดเยี่ยมแห่งปี”
มิตซูบิชิ ปลื้มเครื่องยนต์ใหม่ 2.5 วีจีเทอร์โบ โชว์สมรรถนะเด่น ส่งไทรทันและปาเจโร สปอร์ต ซิว 2 รางวัล “รถยอดเยี่ยมแห่งปี 2554” ส่วน ไทรทัน ซีเอ็นจี ที่โดดเด่นเรื่องความคุ้มค่าคุ้มราคาคว้ารางวัล “รถกระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ ยอดเยี่ยม” ในขณะที่แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ ครองตำแหน่ง “รถยนต์พลังงานทางเลือกยอดเยี่ยม” เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน
นายวิกรานต์ อมาตยกุล ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานขาย บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศความสำเร็จในการผลิตรถยนต์คุณภาพอีกครั้ง หลังจากรถยนต์มิตซูบิชิ 3 รุ่น ที่วางจำหน่ายในประเทศไทย ได้แก่ มิตซูบิชิ ไทรทัน มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต และ มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ สามารถคว้ารางวัล “รถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี 2554” หรือ “Car of The Year 2010” มาครองได้ถึง 4 รางวัล จากผลการตัดสินของคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย โดยรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี 2554 ที่มิตซูบิชิ ได้รับประกอบด้วย;
ประเภทรางวัล
รุ่น
1. รถกระบะ เครื่องยนต์ต่ำกว่า 2,500 ซี.ซี. ขับเคลื่อน 2 ล้อ ยอดเยี่ยม
(BEST PICKUP 2WD UNDER 2,500 c.c.)
มิตซูบิชิ ไทรทัน 2.4 ซีเอ็นจี
2. รถกระบะยกสูง เครื่องยนต์ 2,500 ซี.ซี. ยอดเยี่ยม
(BEST HIGH-LIFTED PICKUP 2,500 c.c.)
มิตซูบิชิ ไทรทัน พลัส 2.5 วีจี เทอร์โบ
3.รถกระบะอเนกประสงค์ เครื่องยนต์ดีเซล ขับเคลื่อน 4 ล้อ ยอดเยี่ยม
(BEST PPV DIESEL 4WD)
มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต 2.5 วีจี เทอร์โบ
4. รถยนต์พลังงานทางเลือกยอดเยี่ยม
(BEST FLEXIBLE ENERGY CAR)
มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ 1.8 FFV
นายวิกรานต์ กล่าวภายหลังจากการรับมอบรางวัลในปีนี้ว่า “รางวัลที่มิตซูบิชิได้รับในครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ที่มาช่วยการันตีถึงคุณภาพของรถยนต์มิตซูบิชิรุ่นต่างๆ ที่จำหน่ายในประเทศได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นรถกระมิตซูบิชิ ไทรทัน และมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ซึ่งมาพร้อมเครื่องยนต์ใหม่ล่าสุด 2.5 วีจี เทอร์โบ ที่แม้จะมีเครื่องยนต์ที่เล็กลงแต่กลับให้สมรรถนะที่เป็นเยี่ยม ในขณะที่ไทรทัน 2.4 ซีเอ็นจี ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2,400 ซีซี. รองรับทั้งน้ำมันเบนซินธรรมดา แก๊สโซฮอล์ 95 91 และ อี 20 พร้อมการติดตั้งระบบซีเอ็นจี และการรับประกันคุณภาพจากทางบริษัทฯ จึงทำให้รถมีความโดดเด่นในเรื่องของความคุ้มค่าคุ้มราคาจนสามารถคว้าคะแนนสูงสุดในประเภทรถยนต์ขับเคลื่อน 2 ล้อเครื่องยนต์ต่ำกว่า 2,500 ซี.ซี มาครอง รวมไปถึงแลนเซอร์ อีเอ็กซ์ รุ่น 1.8 ลิตร ซึ่งมีความโดดเด่นด้านพลังงานทางเลือกเนื่องจากเป็นรถแบบ Flexible Fuel Vehicle หรือ FFV ที่รองรับน้ำมันเชื้อเพลิงได้หลากหลายตั้งแต่เบนซินจนถึงแก๊สโซฮอล์ อี 85 นั้น ก็ยังคงได้รับการยอมรับในฐานะ “รถยนต์พลังงานทางเลือกยอดเยี่ยม” ด้วยคะแนนที่เป็นเอกฉันท์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 สำหรับ 4 รางวัลที่นำมาซึ่งความภาคภูมิใจของบริษัทฯ ในครั้งนี้ นอกจากจะมีส่วนช่วยให้ผู้ใช้เกิดความมั่นใจในรถยนต์มิตซูบิชิได้มากยิ่งขึ้นแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของมิตซูบิชิในการผลิตยนตรกรรมที่มีคุณภาพเพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าชาวไทยได้อย่างแท้จริง” นายวิกรานต์ กล่าวในตอนท้าย

ในภาพ : วิกรานต์ อมาตยกุล ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานขาย บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด (ที่ 1 จากขวา) รับมอบรางวัล “รถยอดเยี่ยมแห่งปี” จำนวน 4 รางวัล จากนายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม (ที่ 2 จากซ้าย) โดยมี นายอโณทัย เอี่ยมลำเนา ประธานจัดงานรถยอดเยี่ยม และรองประธาน บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (ที่ 1 จากซ้าย) ร่วมแสดงความยินดี ในงานประกาศผลรางวัลรถยอดเยี่ยม ณ ชาเลนเจอร์ ฮอล์ เมืองทองธานี เมื่อเร็วๆ นี้
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ :
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์
โทร. 02-529-9000
-
“กันต์” “แน็ก” ควง “แซมมี่” เปิดตัวสกู๊ตเตอร์ “พิอาจิโอ ลิเบอร์ตี้ 125 ie” “เวสป้า S150 ie” ...อวดโฉมครั้งแรกในเมืองไทย...
ชั่วโมงนี้คงไม่ใครฮอตเกินหนุ่มหล่อ กันต์ กันตถาวร, แน็ก – ชาลี ไตรรัตน์ และเซเลบริตี้สุดเท่ห์ สงกรานต์ เตชะณรงค์ ที่งานนี้ขอควงสาวสวยหุ่นดี แซมมี่-บัณฑิตา ภูวิจารณ์ เคาวเวลล์ มาร่วมโชว์ขี่รถหรู เปิดตัวโฉมใหม่ของไอคอนแบรนด์สุดคลาสสิก “เวสป้า S150 ie” และแบรนด์น้องใหม่ “พิอาจิโอ” พรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์สายพันธุ์อิตาเลี่ยนครั้งแรกในเมืองไทย ของ บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด ในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32” ณ บูธเวสปิอาริโอ C4 อาคารชาเลนเจอร์ 1 อิมแพค เมืองทองธานี เมื่อวันก่อน
ภายในบูธ เวสปิอาริโอ ถูกเนรมิตให้มีกลิ่นอายของความเป็นอิตาลีแท้ๆ ด้วยการจำลองหอเอนเมืองปิซา หนึ่งใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก พร้อมดีไซน์เป็นมินิแกลลอรี่และคาเฟ่สไตล์อิตาเลี่ยนสุดชิก ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าแฟนคลับเวสป้าเลิฟเวอร์ทั้งรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ ความตื่นเต้นเร้าใจและเรียกเสียงกรี๊ดเริ่มขึ้นเมื่อหนุ่มหล่อมาดเนี้ยบ กันต์ กันตถาวร ขอโชว์รถ เวสป้ารุ่น เอส 150 ไออี (Vespa S150 ie) สีขาว ด้วยรูปทรงและดีไซน์สปอร์ตมาพร้อมกับไฟหน้าทรงสี่เหลี่ยม รวดเร็ว กระทัดรัด ตามติดมาด้วย แน็ก – ชาลี ไตรรัตน์ ที่มีสาวสวยหุ่นดี แซมมี่ – บัณฑิตา มาเคียงคู่ให้หนุ่มๆ อิจฉาตาร้อน กับ พิอาจิโอ ลิเบอร์ตี้ 125 ไออี (Liberty 125 ie) จากนั้นจัดเต็มมายั่วน้ำลายสาวกสกู๊ตเตอร์ด้วย ลิเบอร์ตี้ เบเวอร์ลี่ 300 ไออี (Beverly 300 ie) โดยหนุ่มเท่ห์ สงกรานต์ เตชะณรงค์ เซเลบริตี้คนดังที่มีไลฟ์สไตล์และคาแรคเตอร์ชัดเจน ร่วมโชว์ขี่ปิดท้าย
โดยหนุ่ม “กันต์” กล่าวว่า โดยส่วนตัวเป็นคนชอบตกแต่งรถอยู่แล้วและ เวสป้า เป็นอีกหนึ่งคำตอบที่บ่งบอกไลฟ์สไตล์ได้ยอดเยี่ยมมาก และเหมาะกับการขับขี่ไปได้ทุกที่โดยเฉพาะในเมืองใหญ่
-
เมอร์เซเดส-เบนซ์ต้อนรับคณะผู้จัดการโรงงานประกอบรถยนต์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์

เมอร์เซเดส-เบนซ์ต้อนรับคณะผู้จัดการโรงงานประกอบรถยนต์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์
กรุงเทพฯ– เร็วๆ นี้ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด นำโดย ศาสตราจารย์ ดร. อเล็กซานเดอร์ เพาฟเลอร์ (ที่ 4 จากซ้าย) ประธานบริหาร และ มร.อัคเซล เอดิเกอร์ (ที่ 1 จากขวา) รองประธานบริหารฝ่ายวิศวกรรมและการผลิต พร้อมด้วยคุณณรงค์ ไหลมา ผู้อำนวยการโรงงานธนบุรีประกอบรถยนต์ ร่วมให้การต้อนรับคณะผู้จัดการโรงงานประกอบรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์จาก 6 แห่งทั่วโลก ได้แก่ ประเทศอียิปต์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม อินเดีย และไทย ในโอกาสที่เดินทางมาร่วมประชุมผู้จัดการโรงงานประกอบรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ในไทย ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุก 2 ปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนทัศนะและประสบการณ์ต่างๆ เพื่อรักษามาตรฐานของรถยนต์ประกอบในประเทศให้มีคุณภาพเทียบเท่ากับรถยนต์ที่ผลิตจากบริษัทแม่ที่ประเทศเยอรมนี พร้อมนำเยี่ยมชมบูธ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานี
-
แสดงความยินดี ยอดสั่งจองงานมอเตอร์โชว์ทะทุเป้า

นายพอลล์ กาญจนพาสส์ (ซ้าย) กรรมการผู้จัดการ บริษัทอิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จับมือแสดงความยินดีกับ ดร. ปราจิน เอี่ยมลำเนา (ขวา) ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ในโอกาสงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ โชว์ 2011 มียอดสั่งจองรถยนต์ภายในงานทะลุเป้า ทำลายสถิติจากทุกปีที่ผ่านมา ซึ่งปีนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ย้ายมาจัดที่อิมแพ็ค และประสบความสำเร็จอย่างสูง
-
“พิอาจิโอ กรุ๊ป” ขยายธุรกิจในประเทศไทย ประกาศแผนการขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชีย

“พิอาจิโอ กรุ๊ป” ผู้ผลิตรถ 2 ล้อที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรปและเป็นหนึ่งในผู้นำในธุรกิจรถประเภทนี้ ได้ประกาศแผนการในการขยายธุรกิจในประเทศไทยด้วยการเปิดตัวแบรนด์ “พิอาจิโอ” เป็นครั้งแรกในประเทศไทยในพิธีเปิดงาน “บางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32”
นอกจากนี้ พิอาจิโอ กรุ๊ป ยังมีแผนการที่จะจำหน่ายรถสกู๊ตเตอร์ พิอาจิโอ รวมถึงแบรนด์เวสป้าในประเทศไทยผ่านทาง บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรายเดียวในประเทศไทย โดยรถสกู๊ตเตอร์ที่นำมาจำหน่ายในประเทศไทยนั้น ได้ทำการผลิตจากโรงงานผลิตประจำภูมิภาคของ พิอาจิโอ ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัด Vinh Phuc ทางตอนเหนือของประเทศเวียดนาม และการขยายธุรกิจในครั้งนี้จะทำให้ประเทศไทยเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองที่นำเข้ารถ พิอาจิโอ และ เวสป้า จากฐานการผลิตในประเทศเวียดนาม
การขยายธุรกิจดังกล่าวนับเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ของ พิอาจิโอ กรุ๊ป ซึ่งเล็งเห็นศักยภาพของตลาดในภูมิภาคเอเชียเป็นกุญแจสำคัญของการเติบโตของธุรกิจของบริษัทในอนาคตด้วยความต้องการยานพาหนะ 2 ล้อที่ล้มหลามทั่วทั้งภูมิภาค โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พิอาจิโอ นับเป็นผู้ผลิตรถ 2 ล้อในระดับพรีเมี่ยมรายใหญ่ของทวีปยุโรป โดยแบรนด์ พิอาจิโอ และ เวสป้า มีลักษณะที่คล้ายคลึงกันคือการใช้เทคโนโลยีระดับสูงและการออกแบบที่ทันสมัย ซึ่งสะท้อนถึงศิลปะวัฒนธรรมของประเทศอิตาลีผสมผสานกับคุณภาพที่สุดยอดและการออกแบบที่ไม่เหมือนใคร
มร. คอสตานติโน่ แซมบุย รองประธานกรรมการบริหาร พิอาจิโอ กรุ๊ป ประจำภูมิภาคเอเชีย ในส่วนของธุรกิจรถ 2 ล้อ กล่าวว่า “แผนการตลาดของเราคือการเน้นในการเสริมและขยายธุรกิจมายังภูมิภาคเอเชียโดยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยมีประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดที่มีความสำคัญมาก ตั้งแต่การเปิดตัวของรถสกู๊ตเตอร์เวสป้าในงานบางกอก มอเตอร์โชว์ เมื่อปีที่แล้ว ความต้องการของรถสกู๊ตเตอร์และอุปกรณ์ต่างๆ มีมากกว่าที่ทางบริษัทฯ ตั้งเป้าไว้ ด้วยเหตุนี้ ในปีนี้เราได้นำเข้ารถสกู๊ตเตอร์แบรนด์ พิอาจิโอ รุ่นใหม่ล่าสุด เพื่อเป็นการขยายตลาด
รถสกู๊ตเตอร์ในประเทศไทย ด้วยตลาดยานยนต์ที่คึกคักและความต้องการที่อยู่ในระดับสูง ทำให้เรามองเห็นศักยภาพในการเติบโตของตลาดในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชีย”
ทางบริษัทได้มีการวางโครงสร้างในการลงทุนสำหรับภูมิภาคเอเชียโดยเฉพาะและได้ตั้งเป้าว่า 40% ของรายได้รวมจากทั่วโลกจะมาจากภูมิภาคเอเชียภายในระยะเวลา 2 ปี
ซึ่งตลอดระยะเวลา 18 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชียอย่างรวดเร็ว โดยการตั้งโรงงานผลิตประจำภูมิภาคที่ประเทศเวียดนาม นับจากการเริ่มการผลิตในปี 2552 บริษัทฯ ได้เพิ่มกำลังการผลิตจากเดิมถึง 2 เท่าเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของตลาดในประเทศเวียดนามและในภูมิภาคเอเชีย และในขณะนี้ทางบริษัทฯ ได้มีแผนในการเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“ในขณะที่ประชากรในภูมิภาคเอเชียเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ชีวิตและไลฟ์สไตล์ในสังคมเมืองที่พัฒนาขึ้น และความสามารถในการซื้อที่สูงขึ้นของประชากรในภูมิภาคทำให้เราคาดการณ์ว่าจะมีความต้องการในผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้นอย่างแน่นอน” มร. แซมบุย กล่าวเสริม
โดยการจัดจำหน่ายของ บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด โดยทำการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ล่าสุด 2 รุ่น ในงาน บางกอก มอเตอร์โชว์ ได้แก่ พิอาจิโอ ลิเบอร์ตี้ 125 ไออี (Liberty 125 ie) และ เวสป้า เอส 150 ไออี (S150 ie) โดยรถทั้ง 2 รุ่นจะใช้ระบบหัวฉีดในการจ่ายน้ำมันเพื่อสมรรถณะที่สูงขึ้น ประหยัดน้ำมันมากขึ้น และลดปริมาณการเผาผลาญพลังงาน
นอกจากนั้นภายในงาน พิอาจิโอ กรุ๊ป จะทำการเปิดตัวรถคอนเซ็ป คาร์ เอ็นที 3 (Concept Car NT3) ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ทางยนตกรรมที่ไม่เหมือนใครที่ถูกออกแบบเพื่อตอบสนองความต้องการรถในประเทศที่มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจรวดเร็วที่สุดโดยเฉพาะในประเทศอินเดีย เวียดนาม และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เอ็นที 3 (NT3) เป็นผลจากนวัตกรรมและเทคโนโลยีรวมถึงการออกแบบที่ไม่เหมือนใครของ พิอาจิโอ กรุ๊ป โดยเป็นรถ 4 ล้อ 3 ที่นั่ง ที่ไม่เคยมีมาก่อนในท้องตลาด ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากคุณสมบัติพื้นฐานของผึ้ง (Ape ในภาษาอิตาเลี่ยน) เอ็นที 3 (NT3) เป็นรถที่มีขนาดกระทัดรัด ปลอดภัย สะดวก คล่องตัว และมีเสน่ห์ ในราคาที่ไม่แพง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-572-4444 ต่อ 343 ณัฏฐณิชา (ดีดี้)สังขะทรัพย์ , ศิริรัตน์ น้ำแก้ว (เล็ก)
-
เปิดตัวพรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์ เวสป้า S150 ie

มร.คอสตานติโน่ แซมบุย รองประธานกรรมการบริหาร พิอาจิโอ กรุ๊ป ประจำภูมิภาคเอชีย และ พรนฎา นิวาตวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวพรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์สุดคลาสสิก เวสป้า รุ่น S150 ie ที่ปรับโฉมใหม่ มาในลุคสปอร์ต มีให้เลือก 2 สี ขาว และดำ พร้อมปรับเปลี่ยนไฟหน้าเป็นทรงสี่เหลี่ยม ในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32”
-
ฮอนด้าคว้ารางวัลออกแบบบู๊ธยอดเยี่ยม The Best Design Award 2011

มร.จิอากิ คาโต ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด พร้อมด้วย ดร.อรรณพ พรประภา รองประธานกรรมการบริหาร รับมอบสุดยอดรางวัลการออกแบบบู๊ธยอดเยี่ยมแห่งปี หรือ “The Best Design Award 2011” ภายในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์ 2011” จาก ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานการจัดงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2011” และคุณจาตุรนต์ โกมลมิศร์ รองประธานจัดงานฯ ณ อาคารแชลเลนเจอร์ เมืองทองธานี นับเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ล่าสุดที่ เอ.พี.ฮอนด้าและรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ได้มุ่งมั่นรังสรรค์ความสนุกเพื่อส่งมอบให้แก่ผู้เข้าชมงาน ภายใต้แนวคิด “Discover Your Fun @ Honda Fun Factory”
สำหรับไอเดียการสร้างสรรค์บู๊ธรถจักรยานยนต์ฮอนด้านั้นถูกสร้างสรรค์ขึ้นภายใต้แนวคิด “Discover Your Fun @ Honda Fun Factory” โดยถ่ายทอดตัวตนในฐานะผู้ผลิตความสนุกเจ้าแรก ที่จะส่งผ่านความสุขจำนวนมากให้ลูกค้า ผ่านผลิตภัณฑ์รถจักรยานยนต์ที่หลากหลายรูปแบบและเทคโนโลยี เพื่อนำเสนอรูปแบบความสนุกใหม่ๆให้กับผู้ใช้ทุกคน จนกระทั่งวันนี้ด้วยผลผลิตของความสนุกที่ฮอนด้าสร้างสรรค์ออกมาครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์