
ภาพยนตร์ “ซามูไรอโยธยา” (YAMADA)เป็นภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่ของเมืองไทยโดยจัดจำหน่ายออกฉายทั่วโลก หลังจากประสบความสำเร็จในการฉาย Trailer โปรโมทภาพยนตร์ในงาน FILM FESTIVAL ที่เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศสที่ผ่านมา
กำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ 2 ธ.ค. 53 นี้
ในปี พ.ศ. 2550 เป็นอีกวาระหนึ่งได้มีการจัดกิจกรรมฉลองงานครบรอบ 123 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-ญี่ปุ่น ต่าง ๆ มากมาย และทางบริษัท มหากาพย์ จำกัด จึงขอสานวัฒนธรรมไทยเข้าไว้ด้วยกัน
จึงได้จัดสร้างภาพยนตร์ “ซามูไรอโยธยา” เพื่อต้องการให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเหมือนความทรงระหว่างไทย-ญี่ปุ่นที่มีมากว่า 600 ปี โดยความสัมพันธ์ส่วนมากนั้นเป็นไปในทางติดต่อค้าขาย ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาได้มีพ่อค้าญี่ปุ่นเข้ามาตั้งรกรากอยู่เป็นจำนวนมาก จนกลายเป็นชุมชนหรือหมู่บ้านญี่ปุ่น และมีการจัดตั้งกองอาสาญี่ปุ่นขึ้น ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ “ยามาดะ นางามาสะ”
ทางผู้สร้างต้องการนำเสนอศิลปวัฒนธรรม การต่อสู้ของยามาดะ นางามาสะ ที่ได้เข้ามาอยู่ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ด้วยคงรักษาขนบธรรมเนียมของชาวญี่ปุ่นไว้อย่างดี ยามาดะเข้ามาอยู่ในสังคม วัฒนธรรมอันดีงามและสวยงามแบบไทย ด้วยความมีน้ำใจของคนไทยช่วยเหลือยามาดะไว้ในการสู้รบ ทำให้ยามาดะมีเพื่อนรักที่คอยสู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่เป็นคนไทย จนเพื่อนรักคนหนึ่งของยามาดะได้สละชีวิตเพื่อช่วยยามาดะไว้จากการสู้รบ ยามาดะ นางามาสะใช้ความเก่งกล้าของวิชาซามูไร และวิชามวยไทยที่ได้ร่ำเรียนจากครูมวยคนไทย เข้าคัดเลือกเป็นทนายเลือก ทหารเอกองครักษ์ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จนได้รับความไว้วางใจเป็นทหารใกล้ชิดผู้กล้า ผู้ปกปักรักษาพระมหากษัตริย์และแผ่นดินไทย
จนกระทั่งในสมัยพระเจ้าทรงธรรม ยามาดะ นางามาสะ ได้รับความไว้วางใจจนได้รับความดีความชอบเป็นพระเสนาภิมุข มีตำแหน่งเป็นเจ้ากรมอาสาญี่ปุ่น ก่อนที่จะได้เลื่อนบรรดาศักดิ์เป็น “ออกญาเสนาภิมุข” และในสมัยพระเจ้าปราสาททอง ยามาดะ นางามาสะ ก็ได้รับคำสั่งให้ไปปกครองเมืองนครศรีธรรมราชในเวลาต่อมา
ยามาดะซาบซึ้งในน้ำใจคนไทย และต้องการทดแทนบุญคุณชีวิตครั้งนี้ให้กับคนไทย เขาจึงสัญญากับตนเองว่า
“แม้มิใช่แผ่นดินเกิด แต่จักขอเป็นแผ่นดินตาย”

บทประพันธ์ของ นพพร วาทิน
............................................................
เรื่องราวของ ยามาดะ นางามาสะ ซามูไรชาวอาทิตย์อุทัยที่มาตั้งรกรากอยู่ที่หมู่บ้านญี่ปุ่น ครั้งรัชกาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราชแห่งกรุงอโยธยา เขาเคยร่วมรบในคราวสงครามยุทธหัตถีฝากฝีมือให้ปรากฏแก่แผ่นดินอโยธยาจนเลื่องชื่อ
แม้เสร็จศึกยุทธหัตถีแล้ว อโยธยาก็หาได้มาความสงบสุขไม่ เนื่องจากมีกลุ่มชายฉกรรจ์แต่งกายเป็นทหารหงสาวดีออกปล้นฆ่าชาวสยาม ยามาดะ (เซกิ โอเซกิ)ได้รับมอบหมายจากหัวหน้าหมู่บ้านญี่ปุ่นให้ออกค้นหาคนร้าย แล้วเขาก็ทราบความจริงอันแสนอัปยศว่ากลุ่มชายฉกรรจ์เหล่านั้นเป็นชาวญี่ปุ่น โดยมีคุโรดะรองหัวหน้าหมู่บ้านญี่ปุ่นเป็นหัวหน้า การที่ยามาดะล่วงรู้ความลับของคุโรดะ ทำให้เขาถูกสะกดรอยทำร้ายจนปางตาย แต่โชคดีที่กลุ่มของขาม กลุ่มคนไทยจากหมู่บ้านป่าแก้วมาช่วยไว้ได้
หมู่บ้านป่าแก้ว เป็นหมู่บ้านผลิตนักรบและตีดาบ ฝึกการรบด้วยยุทธวิธีต่าง ๆ โดยมีพระครูวัดป่าแก้ว (สรพงษ์ ชาตรี) เป็นที่เคารพนับถือของคนในหมู่บ้าน และมีหลวงราชเสนาเป็นหัวหน้าคอยดูแลความสงบในหมู่บ้าน ยามาดะถูกนำมาที่หมู่บ้านป่าแก้วในสภาพบาดเจ็บ ขามให้น้องสาวของเขาคือจำปา(ธรรมรส ใจชื่น) กับกระถิน เด็กหญิงแสนแก่นแก้วผู้ช่วยจำปาคอยรักษาพยาบาลจนยามาดะมีอาการดีขึ้น
ในวันนั้นเองทหารลาดตระเวนทราบว่าหงสาวดีส่งทหารมาลอบสังหารพระนเรศวร จึงมากราบทูลให้ทรงทราบ พระครูให้ทนายเลือกที่เพิ่งได้รับการคัดเลือกออกไปปราบทหารลาดตระเวนซึ่งเป็นทหารของชนเผ่าต่าง ๆ ริมชายแดนอโยธยา กลุ่มของยามาดะสามารถปราบกองทหารลาดตระเวนของ หงสาวดีได้สำเร็จ เสร็จศึกครั้งนั้น ยามาดะเตรียมตัวเข้ารับราชการเป็นทนายเลือก แต่จิตใจที่คุ่มแค้นของเขา ทำให้เขาคิดจะชำระแค้นกับคุโรดะให้รู้ผลไป เขาคิดว่าความลับที่สู้เก็บไว้ในใจ มิอาจบอกแก่ผู้ใดได้ว่าเหตุใดเขาจึงหนีตายมาอยู่ที่หมู่บ้านป่าแก้วจะได้รับการสะสางจากใจเสียที เขากล่าวลาจำปาบอกเป็นนัยว่าเขามีใจต่อเธอ และจะกลับมาเพื่อเธอ
ประวัติผู้กำกับภาพยนตร์ “ซามูไรอโยธยา”
ชื่อ : นพพร วาทิน
เกิด : 6 พฤศจิกายน 2504
ภูมิลำเนา : กรุงเทพมหานคร
การศึกษา : จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจาก มหาวิทยาลัยรามคำแหง คณะรัฐศาสตร์
ผลงาน : พ.ศ.2526 – พ.ศ.2533
- เป็นผู้จัดละคร และผลิตละครให้กับทางช่อง 3 หลายเรื่อง เช่น
- ละคร “นางสาวโพระดก”
- ละคร “คาราวานคลองเตย”
- ละคร “หลายชีวิต”
- ละคร “ไฟเสน่ห์หา”
- ละคร “ร้อยรสบทละคร”
- ละครเ “นิยายรักนักศึกษา”
- ได้รับรางวัลกำกับการแสดงดาวรุ่งยอดเยี่ยม ช่อง 3 (กำกับ หัทยา เกษสังข์)
พ.ศ.2534 – พ.ศ.2535
- เป็นเจ้าของรายการทางช่อง 3 ได้แก่
- รายการ “4+1 ถึงจะเท่ห์”
- รายการ “นะคะ”
- รายการ “โชว์ออฟ”
- ละครวันเสาร์-อาทิตย์ และอีกหลายรายการทางช่อง 3
พ.ศ.2536 – พ.ศ.2538
- เริ่มเข้าสู่วงการภาพยนตร์ ด้วยการกำกับการแสดงภาพยนตร์ เช่น
- ภาพยนตร์เรื่อง “เด็กเสเพล”
- ภาพยนตร์เรื่อง “เด็กอั้งยี่ ลูกผู้ชายสายพันธุ์มังกร”
- ภาพยนตร์เรื่อง “วัยระเริง”
- ภาพยนตร์เรื่อง “ตุ๊ ต๊ะ ต๋อม แต๋ม สุภาพบุรุษตัว ต.”
พ.ศ.2539 – พ.ศ.2544
- จัดตั้งบริษัทชาโดว์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด และบริษัทเมจิก เอ็นเตอร์เม้นท์
จำกัด ร่วมกับ บริษัท อาร์เอส โปรโมชั่น จำกัด (มหาชน)
- ผลิตและเป็นเจ้าของรายการโทรทัศน์ เกมโชว์ วาไรตี้โชว์ ทางช่อง 3 เช่น
- รายการ “ช็อคเกม”
- รายการ “ซุปเปอร์คอนเสิร์ต”
- ผลิตและเป็นเจ้าของการ์ตูน ชัย ราชวัตร ทางช่อง 3 ในช่วงข่าวภาคค่ำ
พ.ศ.2545 – พ.ศ.2548
- ผลิตและเป็นเจ้าของละครหลังข่าวหลายเรื่อง เช่น
- ละครเรื่อง “มือปืน”
- ละครเรื่อง “อาจารย์โกย”
- ละครเรื่อง “เทวดาเดินดิน”
- ละครเรื่อง “ตากสินมหาราช”
- ผลิตและเป็นเจ้าของรายการ “หักหลังผู้ชาย ON TV”
พ.ศ.2549 – ปัจจุบัน
- จัดตั้งบริษัทฟิล์ม เอเซีย จำกัด ร่วมกับ บริษัทสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล
จำกัด (ผู้ผลิตภาพยนตร์เรื่ององค์บาก , ต้มยำกุ้ง) ผลิตภาพยนตร์หลายเรื่อง เช่น
- ภาพยนตร์เรื่อง “มอ ๘”
- ภาพยนตร์เรื่อง “คู่แรด”
- ภาพยนตร์เรื่อง “ฮะ...เก๋า”
- เปลี่ยนบริษัทฟิล์ม เอเชีย จำกัด เป็นบริษัท มหากาพย์ จำกัด เพื่อผลิตภาพยนตร์
ภาพยนตร์เรื่อง “ซามูไรอโยธยา”
- จัดตั้งบริษัท บอสส์ บ็อกซิ่ง 2000 จำกัด ผลิตและเป็นเจ้าของรายการ
“ศึกจ้าวมวยไทย” ทางช่อง 3 จนถึงปัจจุบัน
- เป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์บันเทิง “ดาราเดลี่”
- คอนเสิร์ต “หม่ำ-โปงลาง สะออน”
- รายการ “ยามาดะ...ซามูไรแห่งอโยธยา เดอะ มูฟวี่ สเปเชียล”
- ร่วมกับสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 จัดทำโครงการ “รักชาติ รักษ์มวยไทย”
ผลงานในอนาคต
- ภาพยนตร์เรื่อง “บอด”
- ภาพยนตร์เรื่อง “THAI FIGHT” ร่วมกับสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 จัดการแข่งขันชกมวยไทยนานาชาติ 16ประเทศชื่อว่า “THAI FIGHT”
นักแสดง “ซามูไรอโยธยา”
เซกิ โอเซกิ ....................................................... ยามาดะ นางามาสะ
ธรรมรส ใจชื่น ....................................................... จำปา
บัวขาว ป.ประมุข ....................................................... ไอ้เสือ
สรพงษ์ ชาตรี ....................................................... พระครู
วินัย ไกรบุตร ....................................................... พระนเรศวร
บิณฑ์ บันลือฤทธิ์ ....................................................... พระเจ้านันทบุเรง
ธนาวุฒิ เกสโร ....................................................... ขาม
Mukuda Haan ...................................................... คุโรดะ
ยุทธนา เหมือนวาจา ....................................................... ยอด
ละม้าย โมลิพันธ์ ....................................................... จั่น
ยอดแสนไกล แฟร์เท็กซ์ ....................................................... ทนายเลือก
สมจิตร จงจอหอ ....................................................... ทนายเลือก
เจริญทอง เกียรติบ้านช่อง....................................................... ทนายเลือก
แสนชัย ส.คิงส์สตาร์ ....................................................... ทนายเลือก
อนุวัฒน์ แก้วสัมฤทธิ์ ....................................................... ทนายเลือก
อำนวยการสร้าง
นพพร วาทิน
ควบคุมงานสร้าง
สาลินี ภักดีผล
กำกับภาพยนตร์
นพพร วาทิน
ดูแลการผลิต
นพรัตน์ พุทธรัตนมณี