enjoyjam.net
news & activity => news & activity => Topic started by: sianbun on June 10, 2009, 11:11:39 AM
-
KTAM ลุยพลังงานทั่วโลกเปิดขายกองทุน KT-Energy ลงทุนในบริษัทพลังงานชั้นนำ

นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทจะเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ เอ็นเนอร์จี ฟันด์ ( KTAM World Energy Fund : KT-Energy) ในวันที่ 10 - 30 มิถุนายน 2552 มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท โดยกองทุน KT-Energy เป็นกองทุนที่ลงทุนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิในกองทุนรวมหลัก BGF World Energy Fund บริหารโดย BlackRock หนึ่งในบริษัทจัดการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปัจจุบัน BGF World Energy Fund มีขนาดกองทุนประมาณ 91,000 ล้านบาท (ข้อมูล ณ สิ้นเดือน เมษายน 2552) นอกจากนี้ กองทุนยังได้รับการจัดอันดับ AA ทั้งจาก S&P และบริษัทชั้นนำด้านกองทุนรวมของอังกฤษอย่าง Old Board Street Research Fund Ratings Service (OBSR) กองทุนรวมหลักจะลงทุนในตราสารทุนของบริษัททั่วโลกที่ประกอบธุรกิจด้านการสำรวจ พัฒนาผลิต และจัดจำหน่ายพลังงาน ซึ่งรวมถึงพลังงานทางเลือก ทั้งนี้ ผู้จัดการกองทุนรวมหลักสามารถหาโอกาสการลงทุนในกลุ่มพลังงาน ได้ตามความต้องการโดยไม่ถูกจำกัดด้วยมูลค่าตลาด ภูมิศาสตร์ และรูปแบบการลงทุน
นายสมชัย กล่าวต่อไป กองทุน BGF World Energy บริหารโดย นาย Robin Batchelor ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็น1 ใน 20 ผู้จัดการกองทุนที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก ที่จัดอันดับโดย Forbes Magazine ในปี 2544 และยังมีทีมงานด้านทรัพยากรธรรมชาติที่มีประสบการณ์ทั้งด้านการเงินและธรณีวิทยาเป็นที่ยอมรับอย่างสูงในระดับโลก โดยมีทรัพย์สินภายใต้การจัดการเฉพาะที่เกี่ยวเนื่องกับทรัพยากรธรรมชาติสูงถึง 600,000 ล้านบาท
การลงทุนในกองทุนดังกล่าว มีความน่าสนใจต่อการลงทุน เนื่องจาก กองทุน KT-Energy เปิดโอกาสให้นักลงทุนรับผลตอบแทนจากทั้งราคาหุ้นพลังงานชั้นนำ ซึ่งขึ้นอยู่กับผลประกอบการ และการขยายตัวของบริษัท และการปรับขึ้นของราคาพลังงานในหนึ่งเดียว โดยจากข้อมูลในอดีต พบว่าเมื่อราคาพลังงานเพิ่มขึ้น หุ้นในกลุ่มพลังงานมักเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกัน และมีแนวโน้มปรับตัวสูงกว่า เมื่อตลาดหุ้นโดยรวมปรับตัวเพิ่มขึ้น เชื่อว่ากองทุนจะได้รับประโยชน์จากที มงานผู้จัดการกองทุน ที่แข็งแกร่งของ BlackRock ศักยภาพที่โดดเด่นของบริษัทด้านพลังงานที่กองทุนหลักลงทุน รวมถึงแนวโน้มความต้องการใช้พลังงานที่ยังคงมีอยู่สูงเมื่อเทียบกับปริมาณผลิตในระยะยาว ปัจจุบันจะเห็นได้ว่ามูลค่าหลักทรัพย์ในกลุ่มพลังงาน ได้ปรับตัวลดลงมาอย่างมาก เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ในฐานะตัวแทนสนับสนุนการขาย นายปวิณ รอดลอยทุกข์ ผู้อำนวยการสายบุคคลธนกิจ ธนาคารซิตี้แบงก์ กล่าวว่า การกลับมาของการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับตัวสูงขึ้น จากสภาวะตลาดที่ผ่านมา เรากำลังจะเข้าสู่ช่วงของการพักและสร้างฐาน นักวิเคราะห์ซิตี้เชื่อว่าการปรับตัว ลงในช่วงหน้าร้อนของประเทศสหรัฐฯ (เดือนมิถุนายน-สิงหาคม) น่าจะเป็นโอกาสในการลงทุน
หนึ่งในกลยุทธ์การลงทุนหุ้นให้สอดคล้องกับสภาวะตลาด ในระยะแรกของการเติบโต คือการลงทุนกลุ่มธุรกิจ โครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งทั่วโลกมีงบการลงทุนโดยรวมเฉลี่ยถึงปีละ 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ทุกๆปีจนถึงปี 2558 และมากกว่าครึ่งของงบการลงทุนจะอยู่ในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ การเติบโตทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศ เกิดใหม่ทำให้มีความต้องการใช้น้ำมันมากขึ้น และทำให้เกิดปัญหาคอขวดในโครงสร้างพื้นฐานของธุรกิจ น้ำมัน ดังนั้นเราคาดว่าจะมีเม็ดเงินของบริษัทน้ำมันใหญ่และบริษัทน้ำมันแห่งชาติเข้ามาลงทุนในโครงสร้าง พื้นฐานของธุรกิจน้ำมัน
อย่างไรก็ดี กลยุทธ์นี้เป็นหนึ่งในการลงทุนที่น่าสนใจ ซึ่งนักลงทุนทุกท่านจะต้องมีวินัยในการประเมินพอร์ต และตัดสินใจลงทุนให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์และความเสี่ยงที่รับได้ นายปวิณสรุป
-
KTAMขายกองทุนพันธบัตรเกาหลีใต้ 9เดือนชูผลตอบแทนไม่ต่ำกว่า2.40%
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในสัปดาห์นี้บริษัทยังคงเปิดขายกองทุนประเภทกำหนดอายุโครงการอย่างต่อเนื่อง โดยในรอบระหว่างวันที่ 10-16 มิถุนายน 2552 บริษัทจะเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 9 เดือน4
(KTFIF9M4) อายุโครงการ 9 เดือน มูลค่า 5,000 ล้านบาท เป็นกองทุนที่จะลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลที่ออกโดยธนาคารกลางของประเทศเกาหลีใต้ ( Monetary Stabilization Board (MSB) Bond ) ทั้ง 100% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม ซึ่งพันธบัตรรัฐบาลดังกล่าว มีบทบาทในการรักษาเสถียรภาพการเงินของเกาหลีใต้ มีสถานะเป็นหน่วยงานภาครัฐ และกองทุนจะทำการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน โดยผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณการที่ 2.40 - 2.60 % ต่อปี และไม่เสียภาษี หัก ณ ที่จ่าย
นอกจากนี้ บริษัท อยู่ในระหว่างการเปิดซื้อขายรอบใหม่ ( Roll Over) ของกองทุนเปิดกรุงไทยประจำ6เดือนคุ้มครองเงินต้น3 (KTFIX6M3 ) ถึงวันที่ 12 มิถุนายนนี้ โดยกองทุนจะลงทุนในพันธบัตรภาครัฐในประเทศ 98% และลงทุนในเงินฝากของธนาคารสินเอเชีย จำกัด (มหาชน) 2% ส่งผลให้กองทุนได้รับผลตอบแทนประมาณการที่ 0.80% ต่อปี
สำหรับอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ มีการปรับตัวขึ้นอย่างมากในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยพันธบัตรภาครัฐรุ่นอายุไม่เกิน 1 ปี ปรับเพิ่มขึ้นอยู่ในช่วง 1 .00 -1.25% แนวโน้มดังกล่าวเกิดจากการคาดการณ์ปริมาณตั๋วเงินคลังที่จะเพิ่มขึ้น หลังจากแผนการก่อหนี้วงเงิน 4แสนล้าน ได้รับการพิจารณาว่าไม่ขัดรัฐธรรมนูญ รวมถึงแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศที่ส่งสัญญาณดีขึ้น ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรทั่วโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกรุ่นอายุ
-
KTAMเปิดกองทุนพันธบัตรเกาหลีใต้ อายุ12เดือนชูผลตอบแทน2.90%ต่อปี
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในสัปดาห์นี้ บริษัทจะเปิดจำหน่าย2 กองทุนตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้เอฟไอเอฟ 12เดือน 5 ( KTFIF12M5) ในระหว่างวันที่ 17-23 มิถุนายน 2552 อายุโครงการ 1 ปี มูลค่า 5,000 ล้านบาท เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ (Korea Treasury Bond) หรือพันธบัตรธนาคารกลางเกาหลีใต้ (Monetary Stabilization Bond) ซึ่งมีสถานะเป็นตราสารหนี้ภาครัฐ (Sovereign Status) ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับสูงสุด A1 โดย S&P โดยคาดว่าผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.90% ต่อปี และกองทุนจะทำการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน โดยกองทุนนี้ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการลงทุนในประเทศที่ระดับความเสี่ยงใกล้เคียงกัน
นอกจากนี้ บริษัทได้เปิดซื้อขายหน่วยลงทุนรอบใหม่ (Roll Over) ของกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ท อินเวสท์ 3 เดือน3 (KTSIV3M3) อายุโครงการ 3 เดือน มูลค่า 2,000 ล้านบาท เปิดรับคำสั่งซื้อหน่วยลงทุนถึงวันที่ 19 มิถุนายน และรับคำสั่งขายคืนหน่วยลงทุนถึงวันที่ 18 มิถุนายน นี้ เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารการเงินของสถาบันการเงินและบริษัทเอกชนในประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถือระดับ Investment grade โดยคาดว่าผู้ถือหน่วยจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 1.40% ต่อปี จึงเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในประเทศ ซึ่งทั้ง 2 กองทุนที่เปิดจำหน่ายในขณะนี้ ผลตอบแทนจากการลงทุนไม่เสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย
นายสมชัย กล่าวถึงภาวะตลาดตราสารหนี้ในประเทศ ว่า มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยพันธบัตรภาครัฐอายุไม่เกิน 1 ปี ซื้อขายอยู่ในช่วง 1.00% – 1.30% โดยเป็นไปตามภาวะตลาดทั่วโลกที่อัตราผลตอบแทนทยอยปรับเพิ่มขึ้นตามสัญญาณทางเศรษฐกิจที่ใกล้จุดสิ้นสุดภาวะการถดถอย ซึ่งตลาดการเงินได้ตอบสนองในทางบวกต่อการคาดการณ์ดังกล่าว โดยเห็นได้จากราคาหลักทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่างๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ก็เพิ่มขึ้นตามแรงขายของนักลงทุนที่มีการปรับพอร์ตการลงทุนไปยังตราสารที่มีความเสี่ยงสูงกว่าซึ่งให้ผลตอบแทนดีกว่า รวมถึงการทยอยปรับดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารพาณิชย์เพื่อรักษาฐานเงินฝาก และแผนการออกพันธบัตรออมทรัพย์ของรัฐบาลก็มีส่วนกระตุ้นให้ผู้ออมเงินมีการเตรียมเงินออมไว้สำหรับลงทุนในพันธบัตรดังกล่าว
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในพันธบัตรภาครัฐเกาหลีใต้ มีกระแสการลงทุนไหลเข้าค่อนข้างสูงจากภาวะเศรษฐกิจที่แสดงสัญญาณดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตาม ภาวะความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีมีส่วนทำให้ส่วนต่างด้านเครดิตปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า ทิศทางการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรทั่วโลกส่งผลให้อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนเมื่อแปลงกลับเป็นสกุลเงินบาทปรับตัวขึ้นตาม แม้ต้นทุนการป้องกันความเสี่ยงสกุลวอนจะเพิ่มขึ้น แต่ขณะเดียวกันค่าเงินบาทในตลาดล่วงหน้าที่มีแนวโน้มอ่อนค่าช่วยชดเชยต้นทุนการป้องกันความเสี่ยงดังกล่าวได้