ด้านนางสาว สุมินตรา จินดาขัด ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดแพร่ เผยว่า การแข่งขันแพร่ไตรกีฬา Phrae Triathlon 2024 ในปีนี้มีนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันเต็มจำนวน 400 คน แบ่งประเภทการแข่งขันทั้งชาย และหญิง ออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะมาตรฐาน สำหรับนักไตรกีฬาที่เคยลงแข่งขันเป็นประจำ และระยะสปริ้นท์(ระยะสั้น) สำหรับนักไตรกีฬามือใหม่ ภายใต้แนวคิด “เมืองแพร่ต้องมนต์ มากล้นเสน่ห์ล้านนา” ซึ่งทั้งหมดจะดำเนินกิจกรรมภายใต้โมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ BCG Model โดยการแข่งขันจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 14 ก.ค. 2567 และเริ่มต้นปล่อยตัวนักกีฬา (Start) ด้วยการว่ายน้ำที่อ่างเก็บน้ำแม่สาย ต่อเนื่องด้วยการแข่งขันจักรยานในเส้นทางมุ่งสู่ น้ำตกเชิงทอง และจบด้วยการวิ่งเข้าเส้นชัย (Finish) ที่ลานกิจกรรมวัดพระธาตุช่อแฮพระอารามหลวง ตลอดเส้นทางแข่งขันจะเป็นเส้นทางตามธรรมชาติที่สวยงาม และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดแพร่ โดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทางน้ำ ทางบก ฝ่ายควบคุมเส้นทาง หน่วยพยาบาลเคลื่อนที่ และกู้ชีพฉุกเฉิน ตามแผนการรักษาความปลอดภัยนักกีฬาอย่างสูงสุดตามมาตรฐาน ISO พร้อมทั้งจัดวางจุดบริการน้ำดื่มระหว่างเส้นทาง และใช้ระบบจับเวลาแบบ Chip Timing
สำหรับนักกีฬาที่เข้าเส้นชัยทุกคนจะได้รับเหรียญที่ทำจากวัสดุรีไซเคิล เป็นที่ระลึก นอกจากนี้ฝ่ายจัดการแข่งขันยังได้จัดเตรียมอาหารไว้บริการนักกีฬาหลังจากเข้าเส้นชัยอย่างเพียงพออีกด้วย ที่สำคัญการแข่งขันในครั้งนี้ การกีฬาแห่งประเทศไทย จัดให้ฟรี นักกีฬาทุกคนที่เข้าแข่งขันไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่อย่างใด การกีฬาแห่งประเทศไทย มั่นใจว่าการแข่งขันแพร่ไตรกีฬา Phrae Triathlon 2024 นี้ จะพัฒนาศักยภาพของนักไตรกีฬาในทุกระดับ และยังสามารถที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยวของจังหวัดแพร่ ด้วยกิจกรรมกีฬาตามนโยบายของรัฐบาล ได้อย่างยั่งยืน

ขณะที่ นายชนาธิป ศุภศิริ นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดแพร่ กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วยความพร้อมและประสบการณ์จากการจัดการแข่งขันปีที่ผ่านมาๆ มั่นใจว่า แพร่ไตรกีฬา Phrae Triathlon (จังหวัดแพร่) 2024 ภายใต้แนวคิด “เมืองแพร่ต้องมนต์ มากล้นเสน่ห์ล้านนา” ครั้งนี้ จะกลับมาสร้างความประทับใจให้กับผู้เข้าแข่งขันได้อีกครั้ง และจะทำให้เกิดความตื่นตัวสร้างกระแสความนิยมในกีฬาชนิดนี้ของชาวจังหวัดแพร่ ได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ภาคธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในจังหวัด จากการใช้จ่ายเงินของนักกีฬา และผู้ติดตามในรูปแบบนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งสามารถสร้างภาพลักษณ์ด้านการพัฒนากีฬาเพื่อการท่องเที่ยวของจังหวัดแพร่สอดรับกับ “นโยบาย 55 เมืองรองน่าท่องเที่ยว” ของรัฐบาล ซึ่งเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะสามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศให้เข้ามาใช้เวลาในการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดแพร่ ได้เป็นอย่างดี