Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - FC

Pages: 1 2 3 [4] 5 6 ... 184
46

ศิลปิน 3 รุ่นร่วมโชว์สุดตัว “มรดกพื้นบ้านผสานสู่สากล”












จัดเต็มทุกองศาเรียกเสียงฮือฮาจากแฟนเพลงที่หลั่งไหลเข้าชมฟรีคอนเสิร์ต “มรดกพื้นบ้านผสานสู่สากล” ซึ่งจัดโดย กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม เมื่อวันเสาร์ที่ 5 ธันวาคม 2563 ตั้งแต่เวลา 17.00-19.00 น.ณ หอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย

การจัดการแสดงฟรีคอนเสิร์ตครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ และวันพ่อแห่งชาติ ทั้งยังเป็นการแสดงความยกย่อง อนุรักษ์ เชิดชูศิลปินไทย ถึงความสามารถ ความงดงาม เป็นแรงผลักดันให้ศิลปินไทยที่มากไปด้วยความสามารถ ให้มีกำลังใจสร้างสรรค์ผลงานต่อไป ตลอดจนเพื่อเป็นอีกหนึ่งพื้นที่การเรียนรู้ของประชาชนทั่วไปกับศิลปินนักร้องนักดนตรี ผ่านวิธีการนำเสนอการแสดงดนตรีสดออนไลน์ (Live streaming) ที่กำลังอยู่ในกระแสนิยมปัจจุบัน

สำหรับรูปแบบของฟรีคอนเสิร์ตครั้งนี้เป็นการจัดการแสดงดนตรีพื้นบ้านในรูปแบบคอนเสิร์ตของศิลปิน อาทิ ศิลปินแห่งชาติ หรือศิลปินพื้นบ้าน  ร่วมกับนักร้อง นักดนตรีร่วมสมัย โดยการรวบรวมบทเพลงดนตรีพื้นบ้าน มาดัดแปลงผสมผสานกับดนตรีสากลให้เป็นหนึ่งเดียว ร่วมด้วยศิลปินนักร้องชั้นแนวหน้าและมากความสามารถร่วมยุคร่วมสมัย

​ไฮไลต์สุดพิเศษของการแสดงครั้งนี้คือการขับขานบทเพลง “อีแซวตอบจดหมาย” โดย “แม่ขวัญจิต ศรีประจันต์” ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (เพลงพื้นบ้าน-อีแซว) ประจำปี 2539 ซึ่งจะมาขับขานคู่กับลูกสาว คือ “สมหญิง ศรีประจันต์” เพราะบทเพลงนี้วงอินดี้ร็อค “My Morning Jacket” ได้นำไปใส่เนื้อร้องภาษาอังกฤษของบทเพลง “Holding On To Black Metal” และบรรจุลงในอัลบัม พร้อมให้เครดิตอย่างสมเกียรติจนสร้างความเซอร์ไพรส์ในวงการดนตรีระดับโลกมาแล้วเมื่อไม่นานมานี้
แฟนเพลงที่เข้าร่วมรับชมคอนเสิร์ตครั้งนี้ยังได้ร่วมอิ่มเอมกับบทเพลงจากศิลปินรุ่นใหญ่อีกหนึ่งท่านคือ “ชรัส เฟื่องอารมย์” ซึ่งนำบทเพลง“พ่อ” และ“ผีเสื้อ” มาขับกล่อมให้แฟน ๆ ได้ล่องลอยกับบทเพลงซึ้ง ๆ จากน้ำเสียงอันเป็นเอกลักษณ์

ขณะเดียวกัน “แจ๊ค ธนพล” ยังนำบทเพลง“เจ้าชู้บ้านไกล” และเพลง “ช่วยน้องทำนา” มาสร้างความคึกคักให้แฟนเพลงได้เปลี่ยนอารมณ์ได้อย่างไม่เคอะเขิน นอกจากนั้นยังมี “หลิว อาจารียา” ซึ่งนำบทเพลง “อุ้ยว้าย” พร้อมด้วย “สมหญิง ศรีประจันต์” ที่นำบทเพลง “ผัวหาย” มาสร้างความสนุกสนานอย่างต่อเนื่อง โดยมี “ฝน ธนสุนธร” ซึ่งมาโชว์ลูกคอในบทเพลง “หม้ายขันหมาก” ชนิดที่เรียกว่าสะกดผู้ฟังให้หยุดนิ่งอยู่กับที่นั่ง และยังได้ร่วมร้องเพลงฉ่อย “กับข้าวเพชฌาต” อันเป็นเพลงดังของแม่ขวัญจิตในอดีตอีกด้วย

สำหรับแขกพิเศษ ที่มาร่วมให้กำลังใจแม่ขวัญจิต คือ ศิลปินแห่งชาติ ชัยชนะ บุญนะโชติ กับ พิกุล บุญนะโชติ ที่เคยร่วมวงดนตรีเดียวกัน แถมยังมาร่วมขับร้องเพลงแก้เกี้ยวกันสนุกๆ คือเพลง “แบ่งสมบัติ” “เบื่อสมบัติ” สร้างความคึกคักให้ไม่น้อย
การจัดฟรีคอนเสิร์ตครั้งนี้ยังเปิดเวทีให้ศิลปินรุ่นกระเตาะ “มายมิ้นท์ ณัฐกมล” มาวาดลวดลายในบทเพลง “น้ำตาดอกคำใต้” ให้แฟน ๆ ได้ทึ่งในความสามารถ พร้อมกับนักดนตรีไทยวัยจิ๋ว น้องถ่าน- น้องเสก จากวง “บ้านเด็กรักดนตรีไทย” จังหวัดอ่างทองที่มาวาดลวดลายน่าประทับใจ โดยตลอดการแสดงฟรีคอนเสิร์ตทั้ง 2 ชั่วโมงเต็มยังมีการนำบทเพลงต่าง ๆที่คุ้นหู แต่หาฟังได้ยาก รวมเกือบ 20 บทเพลงที่เหล่าศิลปินมาฟีเจอริ่งร่วมกันเพื่อสร้างความเพลิดเพลินให้แฟน ๆ ได้ลืมเวลากันเลยทีเดียว

ฟรีคอนเสิร์ต “มรดกพื้นบ้านผสานสู่สากล” จึงเป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยทำให้ประชาชนคนไทยตระหนักถึงการนำแนวทางการสานต่อของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาประยุกต์ใช้ในการอนุรักษ์มรดกศิลปะการแสดงดนตรีรูปแบบใหม่ เกิดการต่อยอดจากกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้มากขึ้น ในขณะเดียวกันเยาวชนคนรุ่นใหม่ยังจะได้ซึมซับรับรู้ผ่านการแสดงของศิลปินรุ่นใหม่ที่มีชื่อเสียงและนำศิลปวัฒนธรรมด้านดนตรีไทยรูปแบบใหม่ไปประยุกต์ใช้และเกิดการต่อยอด ถ่ายทอดศิลปวัฒนธรรมต่อไปอีกด้วย

47

ฟรีคอนเสิร์ต “มรดกพื้นบ้านผสานสู่สากล” เมื่อดนตรีพื้นบ้านไทยขจรไกลถึงต่างแดน


กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม จัดการแสดงดนตรีพื้นบ้านในรูปแบบฟรีคอนเสิร์ตภายใต้ชื่อ “มรดกพื้นบ้านผสานสู่สากล” ในวันเสาร์ที่ 5 ธันวาคม 2563 ตั้งแต่เวลา 17.00-19.00 น.ณ หอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย

ภายในคอนเสิร์ตครั้งนี้จะได้พบกับความยิ่งใหญ่ของการแสดงดนตรีพื้นบ้านไทย นำโดยศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (เพลงพื้นบ้าน-อีแซว) ประจำปี 2539 “แม่ขวัญจิต ศรีประจันต์” ซึ่งวงอินดี้ร็อค “My Morning Jacket” ได้นำบทเพลง “อีแซวถามปัญหาหัวใจ” หรือ “อีแซวตอบปัญหาหัวใจ” ของ “ขวัญใจ – ขวัญจิต ศรีประจันต์” ไปใส่เนื้อร้องภาษาอังกฤษของบทเพลง “Holding On To Black Metal” และบรรจุลงในอัลบัมใหม่ล่าสุด พร้อมให้เครดิตอย่างสมเกียรติ

นอกจากนั้นยังจะได้พบกับศิลปินอีกหลากหลาย ทั้ง หญิง สมหญิง ศรีประจันต์, ชรัส เฟื่องอารมย์, ฝน ธนสุนธร, แจ๊ค ธนพล, หลิว อาจารียา และมายมิ้นท์ ณัฐกมล

ฟรีคอนเสิร์ต “มรดกพื้นบ้านผสานสู่สากล” จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 5 ธันวาคม 2563 ณ หอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ตั้งแต่เวลา 17.00-19.00 น. (ประตูเปิดเวลา 16.00 น.) ผู้สนใจสำรองที่นั่งได้ที่ เฟซบุ๊กแฟนเพจ ศิลปะ ดนตรี กวี วัฒนธรรมไทย โทร.0 9 2291 4245

48





น้ำตาท่วมรายการ “เจ - ชนาธิป” วีดีโอคอลสดจากญี่ปุ่น เซอรไพรส์ “พ่อจุ้ง - ก้องภพ” ใน “GUESS MY AGE รู้หน้า ไม่รู้วัย”






นับว่าเป็นปรากฏการณ์สร้างซีนซึ้งไปทั้งสตูดิโอ GUESS MY AGE รู้หน้า ไม่รู้วัย ให้น้ำตาฉ่ำอีกครั้ง เมื่อทางรายการได้เชิญ “พ่อจุ้ง” ก้องภพ สรงกระสินธ์” คุณพ่อผู้เป็นเบื้องหลังความสำเร็จของ “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์” สุดยอดดาวเตะทีมชาติไทย มาเป็นปรัศนีให้ทายอายุในรายการ

แล้วทางรายการเซอร์ไพรส์ด้วยการให้ “เจ” วิดีโอคอลจากประเทศญี่ปุ่น หา “พ่อจุ้ง” พูดคุยกันสดๆ กลางรายการ ด้วยความที่ เจ เป็นนักฟุตบอล สโมสรฟุตบอลคอนซาโดล ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น ทำให้ต้องย้ายไปใช้ชีวิต เป็นนักบอลอาชีพ แข่งขันและฝึกซ้อมอย่างหนักอยู่ที่ญี่ปุ่น เลยทำให้ไม่ค่อยมีเวลาให้กับครอบครัว

ขณะที่กำลังถ่ายรายการ ระหว่างที่ “เอ-วราวุธ” กำลังซักถามเรื่องราวเบื้องความสำเร็จของ “เจ” จาก “พ่อจุ้ง” อยู่ๆ จอ LED ในรายการก็เปลี่ยนเป็นวิดีโอคอลของ “เจ” สดจากญี่ปุ่น สร้างความเซอร์ไพรส์ให้กับแขกรับเชิญ อย่าง “บีม” กวี ตันจรารักษ์” และภรรยา “ออย” อฏิพรณ์ จิตต์ธรรมวงศ์”

รวมถึงแก๊งสายสืบส่องหน้า “หมอริท, เอกกี้, แอร์, แจ็ค” เป็นอย่างมาก แต่ที่ซาบซึ้งสุดๆ จนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ คือ “พ่อจุ้ง” ที่หลั่งน้ำตาด้วยความคิดถึงลูกชายเป็นที่สุด เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 เลยทำให้ เจ ยังไม่ได้กลับประเทศไทยเลย

แม้แต่ “เจ” เอง ก็ไม่อาจกลั้นน้ำตาแห่งความคิดถึงคุณพ่อไว้ได้ ต่างคนต่างเก็บน้ำตาแห่งความคิดถึงไว้ไม่ไหว เรียกว่าการเซอร์ไพรส์ในครั้งนี้ ก็ทำให้ทุกคนพากันน้ำตาไหลตามเช่นกัน เพราะอินฉ่ำในความรักความคิดถึงของพ่อลูกคู่นี้

นอกจากนี้ “เจ” ยังเล่าถึงเรื่องราวการฝึกฝน ความมุ่งมั่น ความอดทนของตัวเจเอง และคุณพ่อที่ผลักดันพร้อมทั้งสนับสนุนให้เจมายืนอยู่ในจุดนี้ได้ รวมถึงยังเล่าให้ฟังว่าตารางในแต่ละวันของ เจ ขณะอยู่ที่ญี่ปุ่นว่าต้องทำอะไรซ้อมหนักแค่ไหนอีกด้วย

ติดตามการทายอายุปรัศนีของ “บีม-ออย” และวินาทีแห่งความซาบซึ้งของพ่อลูก “พ่อจุ้ง – เจ” ในรายการ GUESS MY AGE รู้หน้า ไม่รู้วัย วันพุธที่ 11-วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน เวลา 18.00 น. ทางช่อง 7HD หมายเลข 35

49

ตอกย้ำ SPORTAINMENT!! เอ –วราวุธ คว้า “ตั้ม ธนบูรณ์” ดวลแข้งกลางรายการ  “GUESS MY AGE รู้หน้า ไม่รู้วัย”




นักฟุตบอลจะไม่อยู่แค่ในสนามอีกต่อไป!! เซ้นส์ เอนเตอร์เทนเมนท์ เดินหน้า! สานต่อนิยามคำว่า SPORTAINMENT ด้วยการผสมผสานระหว่าง กีฬาและ บันเทิง ให้ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ พร้อมทั้งคว้านักเตะมากฝีมือ มาร่วมรายการอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเจ้าของฉายา ห้องเครื่องช้างศึก!! อย่าง “ตั้ม – ธนบูรณ์ เกษารัตน์” มาร่วมเป็นปรัศนีทายอายุ ในรายการ “GUESS MY AGE รู้หน้า ไม่รู้วัย” พร้อมท้าดวลแข้ง เปลี่ยนเวที ให้กลายเป็นสนามบอล ประชันฝีเท้ากับ “เอ-วราวุธ เจนธนากุล” และ “แจ็ค-เฉลิมพล ทิฆัมพรธีรวงศ์” กันแบบลูกต่อลูก!

“ตั้ม” เผยประวัติในวงการฟุตบอลว่า “ผมเริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่ 8 ขวบครับ เพราะมีพี่ชายเป็นไอดอล คุณพ่อจะพาผมไปดูพี่แข่งตั้งแต่เด็ก ผมก็อยากเก่งเหมือนพี่ชายบ้าง พออายุประมาณ 19 ปี ตอนนั้นก็ติดทีมชาติไทย ก็เคยมีคนตั้งฉายาว่า บุสเก็สต์เมืองไทย หลังจากอายุ 19 ก็ขยับมาติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ครับ”

พร้อมทั้งเผยถึงการมาออกรายการวันนี้ว่า “วันนี้มาออกรายการก็รู้สึกตื่นเต้นครับ เป็นอีกหนึ่งบรรยากาศที่ต้องเรียนรู้น้อยครั้งที่จะได้ออกรายการโทรทัศน์ เอาจริงๆ ตื่นเต้นกว่าลงสนามอีก (หัวเราะ) คือไม่ใช่ง่ายๆนะครับ ต้องซ้อม มีมุมกล้อง มีการบล็อกกิ้งจังหวะที่ต้องเดินออกมา ขอบคุณรายการที่ให้โอกาสครับ นอกจากวันนี้มาเป็นปรัศนีให้พี่ๆดาราทายอายุผมแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกของผมเลยครับ กับการเป็นปรัศนีให้ทายอายุ ซึ่งในรายการผมก็ได้โชว์ฝีเท้าเล็กๆน้อยๆ มีเกมแข่งดวลกับ คุณเอและแจ็คด้วย สนุกมากๆครับ อยากให้ลองติดตามชมกัน”

แฟนบอลห้ามพลาด ติดตามรายการ GUESS MY AGE รู้หน้า ไม่รู้วัย วันพุธที่ 4 พฤศจิกายนนี้ เวลา 18.00 น. ทางช่อง 7HD หมายเลข 35










50



“เอก ธีรธร” บวงสรวงยิ่งใหญ่บุญหล่นทับ “พระแว่น” อนุญาตให้สร้าง “ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์”

หลังจากที่ได้ฤกษ์จากพระคุณพุทธเจติยา ภิมนฑ์ (พระอาจารย์แว่น) เจ้าอาวาสวัดเจดีย์ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช มาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “เอก-ธีรธร เชาวนโยธิน” ผู้สร้างและผู้กำกับ แห่งบริษัท ไอยารา แอนนิเมชั่น แอนด์ สตูดิโอ จำกัด จึงได้ฤกษ์ทำพิธีบวงสรวงเปิดกล้องภาพยนตร์ความเชื่อและความศรัทธาเรื่อง “ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์” อย่างยิ่งใหญ่อลังการ ณ ปะรำพิธี หน้าพระอุโบสถที่ประดิษฐานรูปปั้นไอ้ไข่ วัดเจดีย์ โดยมีทีมงานและนักแสดง ทั้งรุ่นเล็ก รุ่นกลาง และรุ่นใหญ่ เดินทางมาร่วมพิธีเพื่อความเป็นสิริมงคลกันอย่างพร้อมหน้า

สำหรับนักแสดงนำทีมโดยดารารุ่นใหญ่ อาทิ โกวิท วัฒนกุล, ปราปต์ปฎล สุวรรณบาง, บุ๋มบิ๋ม สามโทน, จอหน์ บราโว่, หลุยส์ ชวนชื่น, ช.เอ ณ บางช้าง, ร่วมด้วย ป๊อก-โฆษวิส ปิยะสกุลแก้ว, นุ่น-อัจฉรา เหลืองสวัสดิ์, เก่ง-ชัชวาล เพขรวิศิษฐ์, ปาล์ม-ศุภชัย สุวรรณอ่อน, พลอยวรินทร์ แสนเมือง, พระ-นางคู่ใหม่ ต้น-ศักราช ศรีวังพล และ ครีมมี่-พลอยปภัส อิสระพงศ์พร, ด.ญ.โอโบ ธีรยา (นักแสดงผีเด็กจากเรื่อง “บ้านขังวิญญาณ”) และ ด.ช.โกฮัง-ณัฐวรรธ สุ่มพลอย รับบท “ไอ้ไข่” (คัดเลือกจากเด็กทั่วทุกภาคที่สมัครเข้ามาแคสติ้งเกือบ 1,000 คน)

พิธีบวงสรวงเริ่มขึ้นในเวลาประมาณ 8 โมงเช้าโดยพิธีพราหมณ์นานนับชั่วโมง หลังจากที่ผู้สร้าง ทีมงาน และนักแสดง ได้ปักธูปของบวงสรวงเสร็จแล้ว จึงได้เรียนเชิญพระอาจารย์แว่น เจ้าอาวาสวัดเจดีย์ และ อาจารย์ฉันท์ทิพย์ พันธรักษ์ราชเดช ลูกชายขุนพันธ์ ทำพิธีเจิมที่ตีสเลท (Slate) บทภาพยนตร์ กล้องในการถ่ายทำ และพรมน้ำมนต์ของบวงสรวง ท่ามกลางบรรยากาศที่ร่มรื่น เพราะแดดไม่ร้อนเลย

จากนั้นพระอาจารย์แว่นจึงได้นำนักแสดงทั้งหมด เข้าไปกราบไหว้ขอพรจากรูปปั้น “ไอ้ไข่” ในพระอุโบสถ และ อาจารย์ฉันท์ทิพย์ ได้ทำพิธีเจิมหน้าผากให้กับนักแสดงและทีมงานด้วย เสร็จแล้วจึงเคลื่อนขบวนกันไปที่บริเวณจุดประทัด โดยมีขบวนรถบิ๊คไบค์กว่า 100 คัน ได้มาร่วมกันเบิ้ลเครื่องให้เกิดเสียงดังสนั่นลั่นวัด เพื่อเอาเคล็ดให้หนังดังเหมือนเสียงรถและเสียงประทัด หลังจากนั้นผู้สร้างจึงได้จุดประทัด เพื่อถวายไอ้ไข่จำนวน 200,000 นัด พอเสร็จสิ้นพิธีการต่างๆเรียบร้อยแล้ว เทวดาเบื้องบนก็ได้พรมน้ำมนต์ให้กับทีมงานและนักแสดงในทันที ก่อนเดินทางกลับทุกคนได้เข้าไปกราบลาพระอาจารย์แว่น พร้อมทั้งได้รับผ้ายันต์และเหรียญไอ้ไข่กลับมาบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคลกับชีวิตด้วย

ทางด้าน เอก-ธีรธร ผู้สร้างและผู้กำกับ ได้เปิดใจถึงหนังเรื่อง “ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์” ว่า “สำหรับหนังเรื่องนี้ผมได้รับลิขสิทธิ์ในการสร้าง จากพระอาจารย์แว่นอย่างถูกต้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ก่อนที่ท่านจะเซ็นมอบให้ ทางผมต้องเขียนเรื่องมาให้ท่านอ่านก่อนว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร แต่ผมก็ได้เรียนให้ท่านได้ทราบแล้วว่า การสร้างเป็นหนังจะต้องมีการเพิ่มเรื่องราวลงไปด้วย เพื่อให้คนดูเกิดความสนุกสนานในการดูด้วย แต่โครงเรื่องต่างๆของไอ้ไข่ยังเหมือนเดิม พอท่านอ่านแล้วจึงได้อนุญาตให้ผมสร้างได้ และผมขอบอกให้ทุกๆคนได้ทราบว่า หนังเรื่องนี้ผมเป็นคนลงทุนสร้างเอง ไม่ได้เอาเงินของทางวัดมาสร้างแต่อย่างใด แค่ท่านอนุญาตให้ผมสร้างหนังเรื่องนี้ได้ ผมก็ดีใจเป็นอย่างมากแล้วครับ ตอนที่แคสติ้งเด็กรอบสุดท้ายที่จะมาเล่นเป็นไอ้ไข่ ผมก็มาแคสติ้งที่วัดนี้ เพื่อขอบารมีของไอ้ไข่ในการช่วยคัดเลือกด้วย ซึ่งก็ได้น้องโกฮังซึ่งมีความสามารถ และมีความคล้ายกับไอ้ไข่ด้วย และนักแสดงบางคนก็มีส่วนคล้ายกับตัวละคร ที่มีตัวตนในชีวิตจริงด้วยครับ

การถ่ายทำคงจะเริ่มประมาณปีใหม่ เพราะตอนนี้เราต้องเตรียมตัวสร้างฉากต่างๆ เพราะเป็นเรื่องย้อนยุค ซึ่งของบางสิ่งบางอย่างเราก็หาไม่ได้แล้ว และผมต้องยกกองไปถ่ายทำที่นครศรีธรรมราชหลายคิวด้วย ที่ผมตั้งใจสร้างหนังเรื่องนี้ เพราะชีวิตของไอ้ไข่มีอะไรที่อยากให้ทุกคนได้นำมาใช้ ทั้งเรื่องความซื่อสัตย์ ความมีน้ำใจ และมิตรภาพระหว่างเพื่อน และทุกคนก็จะได้รู้ถึงความเป็นมาของไอ้ไข่ ที่คนทั้งประเทศให้ความศรัทธาและเชื่อถือในบารมีของไอ้ไข่ด้วยครับ” เอก ธีรธร ได้พูดทิ้งท้ายเอาไว้





















51
อย่าตัดสินใคร เพียงแค่ใจเราไม่ชอบ !!!


แรงโน้มถ่วงจักรวาล ต้องเขย่าอีกครั้ง หลังจากเมื่อวาน การประกาศผลการประกวด Miss Universe South Africa ได้คนมง ด้วยรูปร่างอันโดดเด่นเป็นสไตล์ตัวเอง จากปีที่แล้ว ที่หลายคนเคยบอกว่า "รองทรงก็มงได้" มาปีนี้ "ไม่มีทรงก็มงได้เช่นกัน" นางงามสายสปีช ที่พูดแล้วทัชใจคนฟัง รวมทั้งกรรมการมากที่สุด เพราะความงาม มีนิยามที่หลากหลาย งามตามแบบฉบับของใครของมัน โดยที่เราไม่สามารถเอาความชอบ ไม่ชอบส่วนตัวไปตัดสินคนอื่นได้

ในสังคมไทย เรามักจะมีพิมพ์นิยม ที่เข้าใจกันตั้งแต่จำความได้ว่า คนสวยงาม จะต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ สีผิวขาวผ่องดังยองใย ผมยาวสลวย หรือต้องตีฟูด้วยฟาร่า ดังเราจะเห็นรูปแบบนางงามสมัยก่อนจนติดตา แต่ "ความงาม" ในวัฒนธรรมสากลในวันนี้ ได้เปลี่ยนไป จนหลายคนรับแทบไม่ได้ จนเกิดคำว่า "บูลลี่" เพียงเพราะความชอบไม่ชอบส่วนตัว #เต้าอั้น

ความงามในการประกวด แน่นอนว่ารูปร่างหน้าตาที่เป็นองค์ประกอบ เป็นส่วนหนึ่ง แต่ความงามที่มาจากภายใน มาจากความคิด ส่งผลถึงการกระทำ แสดงชัดเจนขึ้นในปัจจุบัน จากเวทีหลากหลายมากมาย ที่ส่งผลคะแนนรวมการตัดสิน ชนะใจกรรมการ ไม่ได้ชนะใจของใครบางคนเพียงอย่างเดียว

วันนี้ ผ่านไปไม่ถึง 24 ชั่วโมง ฝั่งประเทศแคนาดา ก็ได้ตัวแทนของ Miss Univere Canada สาวผิวสีเข้ม "ทรงไหนก็ได้มง" ทำเอาแรงโน้มถ่วงของจักรวาลกระเทือนกันอีกครั้ง

ในวันนี้ วัฒนธรรม องค์รวมของความงาม ในระดับสากลนั้นเปลี่ยนไป แต่จะมีคนไทยสักกี่คนที่ออกมายอมรับ ว่า "ความงามมันมีความหลากหลาย" ไม่ใช่เพียงพิมพ์นิยมตามชม ตามใจฉัน #เต้าอั้น จำวลีตอนเป็นเด็กได้เสมอว่า "ขี้แห้งชอบตาหมา" ... คนธรรมดา อาจจะมีคนพิเศษบางคนมาชอบได้เช่นกัน

วันนี้ ชาน่า ล้านนา ในฐานะเจ้าของเพจ ต่างก็ดี และเป็น #แฟนนางงาม คนธรรมดา ที่กล้า "โล้นซ่าหน้าหวาน" ยอมให้สังคมมอง และตัดสินว่า "หัวโล้น" แล้วช่างกล้าแต่งสวย ชาน่าใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศมา 16 ปี ที่เดินทางไปทั่วโลก เราได้เรียนรู้วัฒนธรรม ผู้คน ศิลปะ จากทั่วทุกมุมโลก จนสุดท้าย เราเอามาเกี่ยวโยงกับหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา ที่ว่า "ความงาม ภายนอกเป็นเพียงกายหยาบ แต่ความงามภายในจะอยู่กับดวงจิตของเราตลอดไป ไม่ว่าภพนี้หรือภพหน้า" การตัดสินใจ ช่างกล้า ในการโกนผม แต่งสาว จึงเป็นอีกวิธีในการฝึกจิต ขันติบารมี ภาวนาบารมี เมตตาบารมี ไม่ว่า #คนอื่น จะมองเราอย่างไร เราจำเป็นต้องเอาความสุขเราไปแขวนไว้ที่เขาเหรอ ? ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้เป็นคนมาจ่ายค่ากับข้าวให้เรา ไม่ได้เป็นบุพการีของเรา ไม่ได้เป็นนายของเรา ไม่ได้อะไร ๆ เกี่ยวข้องเรา แต่อย่างใด ทำไมเราไม่เอา "ความสุข " และ "หัวใจ" กลับมาครองใจเรา กลับมาสร้างสุข ด้วยตัวเราเอง ด้วยวิธีแนวคิด เพราะการเป็นเช่นนี้มันไม่มีกฎข้อไหนตายตัวว่า ความสวยจักต้องเป็นเช่นนี้ ต้องผมยาว ต้องขาว ต้องสูง ของทุกอย่างเป็นเพียงแค่สิ่งสมมุติ สุดท้ายเราก็สลายไปเป็นเพียงเถ้าถ่าน

ถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราจะ ปรับเปลี่ยน Mind Set และ Attitude ของเราต่อผู้อื่น ฝึกเจริญจิต เจริญใจ เป็นผู้ให้เกียรติคนอื่นด้วย กาย วาจา ใจ เป็นคนดี คนงามทั้งต่อหน้าและลับหลังตัวเอง หรือคนอื่น ถ้าเราทำได้ ความสุขมันก็เกิดขึ้นง่าย และกลายเป็นคนที่งามอย่างมีค่า งามกว่ารูปร่างหน้าตา ต่อให้ศัลยกรรมกี่ครั้งๆ แต่ถ้าใจยังไม่งาม มันก็คงไม่มีค่าต่อศีลธรรมจรรยา และ กรรมดี

วันนี้ ชาน่าได้เรียนรู้สัจธรรมอีกมากมาย สุดท้ายอยากจะฝากให้คนที่มีสติในการอ่านครั้งนี้ ได้แรงบันดาลใจ มีความเชื่อมั่นในสิ่งที่คิดดี ทำดี อย่างถูกทาง โดยไม่ได้เดือดร้อนใคร จงอย่าอาย ทำไปเลย เพราะสุดท้ายความสุข ความสำเร็จ #มันอยู่ที่เรา #ไม่ใช่เขา

หากใครได้อ่านแล้วเห็นด้วย คล้อยตาม และได้แรงบันดาลใจ สามารถแชร์ได้ และ ปันสุขให้คนอื่นได้ชื่นชม

ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดสุดท้าย
#คนไทยบางคนอ่านหนังสือเกิน3บรรทัด แล้ว เน้อเจ้าาาา

ชาน่า ล้านนา
แฟนนางงาม และ เจ้าของเพจ ต่างก็ดี
เร็วๆ นี้ พบ CHANA Cosmetic #ชาน่าใช่สำหรับทุกหน้า

ฮักคนอ่านจ๊าดนักเจ้าา

👍 #ชอบใช่LikeShare
YouTube : ชาน่า ล้านนา
IG : chanalanna9
Line : somratchana
Twitter : sochana9
FB : ชาน่า ล้านนา
FB : ต่างก็ดี
FB : โล้นซ่าพาชิม
📌ร่วมกลุ่ม “เม้าท์มง ทุกเว แฟนนางงาม”
https://www.facebook.com/groups/514392585678018/?ref=share

52

ESC Idol เปิดรับสมัครออนไลน์


หลังขยายฐานธุรกิจด้านงานบันเทิงโดยเข้าสู่เวทีการประกวด "นางสาวถิ่นไทยงาม" มากว่า 5 ปี ล่าสุดสองพี่น้อง เป๊ก-สัณณ์ชัย และ ปุ๊กกี้-สินีนารถ เองตระกูล ลงทุนเปิดบริษัท เอส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (ESC Entertainment) เพื่อเฟ้นหาศิลปินหน้าใหม่เข้าสู่วงการ

โดยเริ่มโปรเจ็คท์แรกกับ “ESC Idol Audition : เส้นทางสู่ศิลปินอาชีพ" เพื่อเฟ้นหา หนุ่มหล่อ สาวสวย ร้องเพลงได้ ที่พร้อมฉายแววเป็นดาวดวงใหม่เพื่อเป็นศิลปินเบอร์แรกของค่าย เปิดรับสมัครออนไลน์จากทั่วประเทศ เริ่มวันนี้ -30 พฤศจิกายนนี้ โดยประตูแห่งโอกาสพร้อมเปิดรับสมัคร ผู้ที่มั่นใจว่ามีบุคลิกหน้าตาดี มีเสน่ห์ มีความสามารถและมีพื้นฐาน ด้านการร้องเพลง เต้น แร้พ อายุระหว่าง 15-25 ปี (ไม่จำกัดสัญชาติและเชื้อชาติ) โดยสมัครออนไลน์ผ่านทาง https://2ww.me/mcM2o แนบไฟล์รูปถ่ายเต็มตัวและครึ่งตัวเห็นใบหน้าชัดเจน พร้อมคลิปวิดีโอแนะนำตัวและแสดงความสามารถพิเศษ (ร้องเพลง / เต้น / แร้พ) ความยาวไม่เกิน 5 นาที ส่งมาที่ Email:esc.entertainmentcenter@gmail.com

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Fanpage: ESC Entertainment หรือ โทร: 02-516-3943

53
สำราญราษฎร์  4 หนุ่ม BOY BAND แบบไทย..ไทย ส่ง “พระรัก พระรอง” ซิงเกิ้ลใหม่สไตล์ Culture Pop!!!


สำราญราษฎร์  4 หนุ่ม BOY BAND แบบไทย..ไทย ส่ง “พระรัก พระรอง” ซิงเกิ้ลใหม่สไตล์ Culture Pop!!!


【 LYRIC VIDEO 】พระรัก พระรอง - สำราญราษฎร์
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=Fus00tMoBvM" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=Fus00tMoBvM</a>

“สำราญราษฎร์”4 หนุ่ม BOY BAND แบบไทย..ไทย จากค่าย KS GANG โปรเจกต์ PLAY IT FORWARD (ในเครือ Khaosan Entertainment )  ปล่อยเพลงใหม่ “พระรัก พระรอง” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว  สำหรับความน่ารักของ   4 หนุ่ม ไม้ - สุรดิษ สานธิยากูล , ชัช - ชัชรินทร์ อย่างจา , วา - จิราเจตน์ หนูน้อย , เลฟ กันตพิชญ์ ประชีสำราญราษฎร์ คาแรคเตอร์ไว้หนวด  หนุ่มมาดเข้ม ออกแนววินเทจ  อารมรณ์ดี ยิ้มเก่ง ทะเล้น

สำหรับเพลง “พระรัก พระรอง”4 หนุ่ม สำราญราษฎร์ เผยว่า เป็นซิงเกิ้ลที่สอง ในค่าย KS GANG โปรเจค PLAY IT FORWARD (ในเครือ Khaosan Entertainment) เพลง พระรัก พระรอง จะเป็นแนว Culture pop เมโลดี้กลิ่นไอไทย..ไทย ที่ทุกคนฟังได้ ดนตรีจะ แนว R&B ผสม HIP HOP เนื้อหาจะเป็นแนวผู้ชายที่ทำยังไงก็ต้องเป็นตัวสำลองไม่สมหวังทำได้แค่พระรอง แต่ยังไงก็มีความหวังกับความรักอยู่ ในส่วนของการทำงาน พวกเรามีส่วนร่วมในการดีไซน์การร้อง และมีการพูดคุยถึงสไตล์ เพลงต่างๆ ในซิงเกิ้ลนี้ ดีใจคับที่ ได้พี่หนุ่ม เศรษฐ์สัณห์  เป็นโปรดิวเซอร์ให้ด้วย และแอบตื่นเต้นที่ได้ พี่โจ เหมือนเพชร แต่งเนื้อร้อง โดยแอบมีความเป็นพวกเรานิดๆ (ยิ้ม) อยากให้ลองฟังดูคับ พวกเราทั้ง 4 คนตั้งใจมาก แฟนๆ เข้าไปฟังกันได้ ทาง https://youtu.be/Fus00tMoBvM และอยากให้คอยติดตามพวกเราทางช่องทางต่างๆ ของ ค่าย KS GANG กับ โปรเจกต์ PLAY IT FORWARD (ในเครือ Khaosan Entertainment ) ทาง www.facebook.com/KsgangOfficial

54

เจ้าพ่อเพลงช้ำ “แมน มณีวรรณ” ได้ฤกษ์ปล่อยเพลง พร้อมเปิดตัวธุรกิจ “น้ำปลาร้าอ้ายแมน” ส่งขายยุโรป


ได้ฤกษ์ปล่อยเพลงใหม่ชุดพิเศษ เอาใจแฟนคลับแล้วสำหรับซุปตาร์ลูกอีสานเจ้าของฉายา “เจ้าพ่อเพลงช้ำ” แมน มณีวรรณ โดยค่าย กรุงไทย ออดิโอ หยิบเอาเพลงกลอนลำอมตะมาร้องใหม่ รับประกันว่าม่วนหลายกับ 6 บทเพลงทรงคุณค่า อาทิ เพลงกล่อมนางนอน ,เถียงนาน้อย , ออกพรรษาอีกแล้ว , มักสาวใส่ยีนส์ และอีกผลงานเพลงเศร้าๆตามแนวถนัดของ แมน มณีวรรณ  อย่างเพลง รูปเจ้ากระเป๋าอ้าย

นอกจากนี้แฟนๆยังได้มีโอกาสฟังเพลงคู่กับนักร้องสาวสวยเสียงแหบเสน่ห์ นุช วิลวัลย์ อาร์สยาม กับเพลง อีสานโฮแซว สนุกกับแนวดนตรีตามแบบฉบับศิลปะวัฒนะธรรมอีสาน โดยถ่ายทำมิวสิควิดีโอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เตรียมปล่อยออกมาให้แฟนเพลงได้ฟังเร็วๆนี้  นอกจากนี้ แมน ยังได้ถือโอกาสเปิดตัวธุรกิจ น้ำปลาร้าปรุงสุกสำเร็จรูป “อ้ายแมน” เตรียมส่งออกขายตลาดนอกด้วย

โดย แมน เผยว่า “ก่อนอื่นขอขอบคุณแฟนคลับทุกท่านที่ให้การต้อนรับ แมน มณีวรรณ ด้วยดีเสมอ  คอยถามว่าเมื่อไหร่จะได้มีโอกาสฟังเพลงใหม่ของแมน ตอนนี้เพลงเสร็จเรียบร้อยแล้วนะครับ มีทั้งหมด 6 เพลงกลอนลำอมตะ ม่วนหลายแน่นอน แต่ก็ยังไม่ทิ้งความเป็น แมน มณีวรรณ เจ้าพ่อเพลงช้ำ กับเพลง รูปเจ้ากระเป๋าอ้าย รับรองเพลงนี้โดนใจคนช้ำแน่นอน

นอกจากฝากเพลงแล้ว แมน ขอถือโอกาสฝากธุรกิจใหม่ของแมนด้วยนะครับ น้ำปลาร้าปรุงสุกสำเร็จรูป แบรนด์ อ้ายแมน เป็นธุรกิจที่ลงทุนลงแรงและตั้งใจมาก ด้วยความที่เป็นลูกอีสานเต็มขั้นก็จะรู้ว่าน้ำปลาร้าแบบไหนแซ่บโดนใจคนปรุง เราพัฒนาสูตรต่างๆจนออกมาเป็นแบรนด์อ้ายแมน แต่ยังไม่ได้ฤกษ์ขายที่เมืองไทยนะครับ แมนประเดิมตลาดยุโรปก่อน โดยมี บริษัท เอ.เอ็ม. เวิลด์ มิวสิค เอเอส ประเทศนอร์เวย์ ผู้จัดคอนเสิร์ตรายใหญ่เป็นผู้จัดจำหน่ายในประเทศแถบยุโรปทั้งหมด เพราะได้ทำการสำรวจมาแล้วว่ามีคนไทยและร้านอาหารไทยมากมายในยุโรป ก็อยากให้คนไทยได้รับประทานของดีอีสานแท้ๆ รับประกันความอร่อยโดย แมน มณีวรรณ”.

ติดตามข่าวสารและความม่วนในทุกบทเพลงของแมนได้ที่ facebook.com : แมน มณีวรรณ อาร์สยาม FanPage และ Youtube : แมน มณีวรรณ (OFFICIAL)







55

ข่าวประชาสัมพันธ์ “สตาร์ดอม เอเชีย” จัดแคมเปญ “Star Reborn” ค้นหาดาวรุ่งดวงใหม่ ผ่าน TikTok

สตาร์ดอม เอเชีย ผู้นำด้านการสร้างสรรค์งานอีเว้นต์ระดับประเทศ จัดแคมเปญ “Star Reborn” เพื่อค้นหา Influencer ดาวรุ่งดวงใหม่ผ่าน TikTok ที่มีความสามารถรอบด้าน บันเทิงดี รีวิวดัง โซเชียลปัง และจะมาเป็นดาวประดับวงการที่เฉิดฉายอีกหนึ่งดวง

พลาดไม่ได้! โอกาสทองของสาย TikTok ที่จะก้าวขึ้นเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ของวงการโซเชียล กับโปรเจกต์สุดปัง “Star Reborn” การแข่งขันประกวดคลิปผ่าน TiKTok ที่โชว์ความสามารถและเป็นตัวของตัวเอง รูปแบบใดก็ได้ ภายใต้คอนเซปต์ “บันเทิงดี รีวิวโอ โซเชียลปัง” ผู้ชนะ 3 คนสุดท้ายจะได้รับรางวัล ดังนี้

“Star Reborn Platinum” จะได้รับรางวัลเงินสดถึง 100,000 บาท พร้อมคอร์สทรีทเมนท์และศัลยกรรมจาก API Clinic มูลค่า 100,000 บาท รวมถึงผลิตภัณฑ์ Star Reborn และ Dr. Reborn 5D Concentrated Serum

“Star Reborn Gold” รับรางวัลเงินสด 60,000 บาท คอร์สทรีทเมนท์และศัลยกรรมจาก API Clinic มูลค่า 100,000 บาท และผลิตภัณฑ์ Star Reborn และ Dr. Reborn 5D Concentred Serum

“Star Reborn Silver” รับรางวัลเงินสดและผลิตภัณฑ์จาก Star Reborn 40,000 บาท คอร์สทรีทเมนท์และศัลยกรรมจาก API Clinic มูลค่า 100,000 บาท และผลิตภัณฑ์ Star Reborn และ Dr. Reborn 5D Concentred Serum 

นอกจากนั้น ยังมีรางวัลสำหรับผู้เข้ารอบ 10 คนสุดท้าย จะได้รับเงินรางวัล 5,000 บาท และผลิตภัณฑ์ Star Reborn และ Dr. Reborn 5D Concentred Serum 

ผู้สนใจเข้าแข่งขันแคมเปญ “Star Reborn” ต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป ไม่จำกัดเพศ และไม่เคยเซ็นสัญญากับสังกัดไหนมาก่อน แล้วส่งคลิป TikTok ที่แสดงออกความเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด พร้อมรูปถ่าย และข้อความแนะนำตัวมาที่ LINE ID @stardomasia ผู้ผ่านเข้ารอบ 10 คนแรกจะต้องเข้าแข่งขันเพื่อค้นหาผู้ชนะ 3 คนสุดท้าย โดยงานนี้ได้ 3 กรรมการคนดังแห่งวงการมาเป็นผู้ตัดสิน ได้แก่ คุณอั้ม-จรีลักษณ์ แห่ง Stardom Asia  “มาดามฟันนี่” หรือพี่โอ๋ ผู้กำกับภาพยนตร์ ดาว TikTok ที่ฮอตที่สุดในชั่วโมงนี้ และ “หมอต้น เอเอฟ” แห่ง API Clinic ซึ่งจะประกาศผลรอบชิงชนะเลิศในวันที่ 21 พ.ย. 2563 พร้อมถ่ายทอดการประกวดผ่านไลฟ์ทางเพจเฟซบุ๊ก Star Reborn และ Madam Funny

56

ข่าวประชาสัมพันธ์ สถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา ริเริ่มโครงการเทิดพระเกียรติ เเทศการดนตรีและนวัตศิลป์นานาชาติ สืบสานพระปณิธานในการเผยแพร่ดนตรีคลาสลิกสู่สังคมไทย

สถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนาริเริ่มโครงการเทศกาลดนตรีและนวัตศิลป์นานาชาติโดยใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า Princess Galyani Vadhana International Music Festival (PGMF) โดยมีจุดมุ่งหมาย เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาและสืบสานพระปณิธานในการเผยแพร่ดนตรีคลาสสิกสู่สังคมไทย

ในปีแรกนี้  Princess Galyani Vadhana International Music Festival จะจัดขึ้นที่สถาบันฯระหว่างวันที่ 25 - 27 พฤศจิกายน 2563 นี้ ภายใต้หัวข้อ Classical Music Next Normal เพื่อเป็นการ ค้นหาแนวทางของดนตรีคลาสสิกว่าจะดำเนินต่อไปอย่างไรหลังจากยุคของ New Normal โดยเทศกาลดนตรีจะแบ่งกิจกรรมเป็นสองส่วนประกอบไปด้วยการแสดงดนตรีจากศิลปินรับเชิญ และการประกวดการเขียนแผนธุรกิจ รวมถึงการนำเสนอโครงการการแสดง
 
การแสดงดนตรีนำเสนอการเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัยของบทประพันธ์จากอดีตจนถึงปัจจุบัน โดยเริ่มจากการแสดงบทประพันธ์ The Brandenburg Concerto ทั้ง 6 บทของ Johann Sebastian Bach ไปสู่การเสวนาและการแสดงบทประพันธ์ของ Hans Gunther Mommer ไปสู่ดนตรีแห่งอนาคตผ่านบทประพันธ์ 4 บทที่จะมาออกแสดงเป็นรอบปฐมทัศน์ของโลก (world premiere)

การประกวดการเขียนแผนธุรกิจ รวมถึงการนำเสนอโครงการการแสดงมีเป้าหมายเพื่อเป็นเวทีในการสนับสนุน Startup ด้านดนตรีคลาสสิกและวงดนตรีคลาสสิกในไทยต่อไป โดยการประกวดการเขียน แผนธุรกิจและการนำเสนอโครงการการแสดง เปิดรับสมัครแล้ววันนี้จนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2563 และแบ่งการแข่งขันออกเป็น 2 ประเภท 

Category A: Business Model Pitching Competition ภายใต้หัวข้อ “The Future of Classical Music in Thailand: What is Next” เป็นการประกวดเขียนแผนธุรกิจ เพื่อนำเสนอแนวทางใหม่หรือแก้ไขปัญหา ในวงการอุตสาหกรรมดนตรี โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อค้นหาแผนธุรกิจที่สามารถเพิ่มคุณค่า เพิ่มมูลค่า และสามารถสร้างความสนใจในการที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับดนตรีคลาสสิกให้มีความยั่งยืนต่อไปในสังคมไทย

รางวัลชนะเลิศ   100,000.00 บาท
รางวัลชมเชย (3 รางวัล)   25,000.00 บาท   

Category B: Performance Proposal Competition ภายใต้หัวข้อ “The Future of Classical Music in Thailand: Promoting Music Performance” เป็นการประกวดการเขียน Proposal โดยเน้นถึงการนำเสนอ Concept ของการแสดงและแนวทางในการประชาสัมพันธ์ เพื่อเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของแสดงในช่วงเทศกาลดนตรีฯ โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อเป็น kickstart platform สำหรับนักดนตรีคลาสสิกในไทยให้ได้แสดงผลงานสร้างสรรค์และให้ผู้สมัครได้มีความรู้ ความเข้าใจ ตลอดจนเห็นถึงความสำคัญต่อของการประชาสัมพันธ์ และการเพิ่มคุณค่าของตนเองในยุคปัจจุบัน 
                                                                 
รางวัลชนะเลิศ   60,000.00 บาท
รางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง  45,000.00 บาท
รางวัลรองชนะเลิศอันดับสอง  30,000.00 บาท
รางวัลพิเศษ (จำนวน 2 รางวัล)     5,000.00 บาท

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0 2447 8594 ต่อ 3101 หรือ http://www.pgvim.ac.th/musicfestival

57
เผยเบื้องหลังการทำหนังสั้น “Shining Silence” สะท้อนชีวิตของผู้พิการทางการได้ยิน 
 
ดร.ทอแสงรัศมี ถีถะแก้ว ผู้ช่วย (ขวา)

Shining Silence teaser
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=Chy7PeHaxjo" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=Chy7PeHaxjo</a>

ภาพยนตร์สั้น “Shining Silence” ประกายแสงจากความเงียบ นวัตกรรมสื่อสร้างสรรค์ ที่ถ่ายทอดอารมณ์ของคนพิการทางการได้ยินให้สังคมเห็นคุณค่าของคนพิการ สามารถจุดประกายความหวัง ความฝันของใครได้อีกหลายคนหลังจากรับชมหนังสั้นเรื่องนี้ ซึ่งผลิตและสร้างสรรค์ผลงาน โดย สจล.


ศ. ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า  ภาพยนตร์สั้น เรื่อง “Shining Silence” ประกายแสงจากความเงียบมาจากโครงการ 7 Inspirations โดยเงินทุนสนับสนุนจากกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ดำเนินการสร้างโดยอาจารย์จากวิทยาลัยวิจัยนวัตกรรมทางการศึกษาสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง จัดขึ้นเพื่อการสื่อสารสังคมด้านคนพิการที่ให้คุณค่ากับสังคมไทยและสังคมโลก ถือเป็นนวัตกรรมสื่อสร้างสรรค์ผลงานอีกชิ้นหนึ่ง

สำหรับเบื้องหลังการถ่ายทำภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้จัดทำขึ้นโดยบุคลากรของวิทยาลัยวิจัยนวัตกรรมทางการศึกษา สจล. ที่ถ่ายทอดออกมาดี ซึ่งมีต้นเรื่องมาจากแรงบันดาลใจในการนำเรื่องราวของคนพิการซึ่งเป็นต้นแบบ มุมมองการใช้ชีวิตอย่างไรให้มีความสุข โดยเรื่องราวของ “Shining Silence” เป็นการสะท้อนชีวิตมุมหนึ่งของคุณปุ๊กกี้  กาญจนา พิมพา Miss Deaf Thailand และ Miss deaf Asia ปี 2019 ที่นำมาร้อยเรียงเป็นเรื่องราวเพื่อให้ผู้ชมได้รู้จัก ได้เข้าใจมุมมองการคิด การใช้ชีวิตของสตรีพิการทางการได้ยิน และถ่ายทอดออกมาให้สังคมได้สัมผัสรับรู้ผ่านภาพยนตร์สั้น

สำหรับการผลิตภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้นั้น ดร.ทอแสงรัศมี ถีถะแก้ว หัวหน้าโครงการ 7 Inspirations กล่าวว่า ได้คัดเลือกนักแสดงที่เป็นผู้พิการทางการได้ยินมารับบท ทั้งปุ๊กกี้ตอนเด็ก และปุ๊กกี้ตอนโต รวมถึงได้เชิญคุณนับดาวองค์อภิชาติ ผู้จัดการกองประกวด Miss deaf Thailand มาร่วมแสดงในเรื่องนี้ และช่วยเขียนบทด้วย ซึ่งการทำงานกับผู้พิการทางการได้ยินนั้น มีความน่าสนใจ เพราะต้องมีล่ามมาช่วยในการสื่อสาร และสื่อให้ตรงความหมายของเรื่อง ทีมงานเองได้ศึกษาวิธีการสื่อสาร และแนวทางผลิตสื่อที่เหมาะสมเพื่อนำเสนอเรื่องราวด้านคนพิการ และการสื่อสารสำหรับคนพิการที่จะมารับชมรับฟัง เพื่อให้ผลงานที่ออกมานั้น บอกเล่าเรื่องราวได้อย่างงดงามที่สุด

สำหรับผู้ที่มารับบทบาทนักแสดงนำในภาพยนตร์สั้น เรื่อง Shining Silence ก็คือ “แม๊กกี้” “เนตรชนก จันทา” มารับบท “ปุ๊กกี้” ในเรื่องนี้ ซึ่งเธอเล่าถึงความรู้สึกว่า “หนูตั้งใจเล่นและมีความรู้สึกไปกับบท ซึ่งสามารถเข้าใจตัวละครนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นเรื่องจริงของเพื่อนหนู หนูเข้าใจความรู้สึกของปุ๊กกี้ เข้าใจอารมณ์ของบทบาทมากในการแสดงครั้งนี้ หนูสามารถรับรู้ถึงอารมณ์จนหนูร้องให้ได้จริง และการแสดงครั้งนี้ทำให้ได้มีประสบการณ์ดี ๆ มากมาย”

ด้าน “ปุ๊กกี้” “กาญจนา พิมพา” Miss Deaf Thailand 2019 และ Miss Deaf Asia 2019 นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาคอมพิวเตอร์ หลักสูตรเทคโนโลยีสารสนเทศมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร เล่าว่า “ปุ๊กกี้ พิการหูหนวกตั้งแต่กำเนิด โดยเข้าศึกษาที่โรงเรียนโสตศึกษาที่จังหวัดอุดรธานี และสมัครเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ แต่ไม่มีที่เรียนเพราะไม่มีล่ามดูแลจึงกลับไปศึกษาที่จังหวัดสกลนคร และถึงแม้ปุ๊กกี้จะไม่ได้ยินเสียงใครและพูดไม่ได้แต่ก็สามารถสื่อสารกันได้หากเราเปิดใจต่อกัน และสำหรับน้อง ๆ ผู้พิการทุกคน ปุ๊กกี้อยากให้ทุกคนมีความฝัน และทำตามความฝันมาสร้างโลกแห่งความสุข ที่เปล่งประกายแสงแห่งความหวัง ความฝัน และพลังสร้างสรรค์ร่วมกัน” 

ทั้งนี้ สจล. มุ่งหวังให้หนังสั้นเรื่องนี้เป็นตัวแทนของสื่อสร้างสรรค์ที่ช่วยส่งเสียงและฉายภาพบอกเรื่องราวมุมมองการใช้ชีวิต เพื่อสร้างเจตคติที่ดีต่อคนพิการ อย่างน้อยก็ทำให้สังคมไทยมองเห็นว่า แม้คนพิการอาจมีข้อจำกัดบางประการ แต่พวกเขาก็สามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุข และทำทุกๆ อย่างได้เต็มความสามารถที่พวกเขามี









ผู้สนใจติดตามรับชมภาพยนตร์สั้น Shining Silence ได้ที่https://www.facebook.com/shiningsilencemovie/ หรือhttps://www.youtube.com/watch?v=Chy7PeHaxjo

58
งาน “Delights and Surprises ครบรอบ31 ปี ฉลอง 31วัน ช้อปมันส์ วันไม่มีไฟลต์”


14 ตุลาคม 2563 – พระเอกหนุ่มสุดฮอต มาริโอ้ เมาเร่อ ร่วมแสดงความยินดี ในโอกาสครบรอบ 31 ปี คิง เพาเวอร์ พร้อมส่งความสุขและเซอร์ไพรส์ แฟนคลับ ไทย-จีน ผ่าน Live Streaming ใน งาน “Delights and Surprises ครบรอบ 31 ปี ฉลอง 31 วัน ช้อปมันส์ วันไม่มีไฟลต์” โดยงานนี้ มาริโอ้ จะมาร่วมโชว์สุดพิเศษภายในงาน ในวันที่ 15 ตุลาคม 2563 เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป และพบกับกิจกรรมความสนุก มินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง ได้ตั้งแต่ วันที่ 15-18 ตุลาคม 2563 ณ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ

59
“Shining Silence” ประกายแสงจากความเงียบ หนังสั้นที่สะท้อนชีวิตของผู้พิการทางการได้ยิน

รู้หรือไม่ผลงานสร้างสรรค์ภาพยนตร์สั้นในหลาย ๆ เรื่องที่ผลิตออกมาเมื่อไปถึงสายตาผู้ชม ไม่ว่าจะใช้ทุนในการจัดสร้างมากบ้างน้อยบ้าง ย่อมทำให้เกิดแง่คิดมุมคิดที่เปลี่ยนแปลงไปได้ จากแรงบันดาลใจ หรือ Inspirations ที่ภาพยนตร์สั้นนั้น ๆ ได้ถ่ายทอดออกมา และภาพยนตร์สั้นที่จะขอกล่าวในที่นี่มีชื่อเรื่องว่า “Shining Silence”  ต้นเรื่องมาแรงบันดาลใจในการนำเรื่องราวของคนพิการต้นแบบ มุมมองการใช้ชีวิต ใช้ชีวิตอย่างไรให้มีความสุขของคนพิการทางการได้ยินเรื่องราวของ “Shining Silence” ก็เช่นเดียวกันเป็นการนำเรื่องราวของคุณปุ๊กกี้ กาญจนา พิมพา Miss Deaf Thailand และ Miss deaf Asia ปี 2019 มาร้อยเรียงเป็นภาพยนตร์สั้น เผยแพร่ให้ผู้ชมได้รู้จัก เข้าใจมุมมองการคิด การใช้ชีวิตของสตรีพิการทางการได้ยินที่ถ่ายทอดออกมาให้สังคมได้สัมผัสรับรู้ผ่านภาพยนตร์สั้น ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวในบทบาทของการดูแลคนพิการ ดูแลบุตรอย่างไรให้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในสังคม

ภาพยนตร์สั้น “Shining Silence” นับเป็นนวัตกรรมสื่อสร้างสรรค์เพื่อการสื่อสารสังคมด้านคนพิการอย่างแท้จริง เพราะนอกจากจะเป็นแรงผลักดันให้สังคมเห็นความสำคัญมุมหนึ่งก็ได้สะท้อนให้สังคมเห็นคุณค่าของคนพิการทางการได้ยิน เพราะแม้เขาจะอยู่ในโลกเงียบแต่เสียงและพลังของสังคมที่ถ่ายทอดออกมาไม่ว่าจะทางใดทางหนึ่ง คนพิการทางการได้ยินย่อมสัมผัสได้ทั้งการบอกเล่าจากคนรอบข้างและสื่อต่างๆ การจัดสร้างภาพยนตร์สั้น Shining Silence  จากโครงการ 7 Inspirations โดยเงินทุนสนับสนุนจากกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ดำเนินการสร้างโดยอาจารย์จากวิทยาลัยวิจัยนวัตกรรมทางการศึกษาสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) จึงนับเป็นนวัตกรรมสื่อสร้างสรรค์เพื่อการสื่อสารสังคมด้านคนพิการ ซึ่งให้คุณค่ากับสังคมไทยและสังคมโลกมาก


ดร.ทอแสงรัศมี ถีถะแก้ว ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายสื่อสารองค์กรสจล. และในฐานะหัวหน้าโครงการ 7 Inspiration ผู้มีบทบาทสำคัญอีกท่านหนึ่งในการผลักดันให้ภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้เป็นที่รู้จักต่อสังคมกล่าวว่า “ในโลกของความเงียบของใครหลายคนมีความหวังความฝันที่ไม่ใช่แค่เพื่อตนเอง และเพื่อผู้อื่นและโลกใบนี้ ภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้จึงเป็นตัวแทนของสื่อสร้างสรรค์ที่ช่วยส่งเสียงและฉายภาพบอกเรื่องราวของพลังใจ ส่งต่อให้ผู้คนทั่วไปได้เข้าใจชีวิต คุณค่า ผ่านมุมคิดของคนพิการมากขึ้น เพื่อสร้างเจตคติที่ดีต่อคนพิการแทนภาพการสื่อสารที่ส่วนใหญ่จะฉายภาพชีวิตที่ด้อยโอกาสของคนพิการในสังคมไทยทำให้คนในสังคมเห็นว่า คนพิการอาจมีข้อจำกัดบางประการ แต่พวกเขาก็สามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุข และทำทุกๆ อย่างได้เต็มความสามารถที่พวกเขามี ไม่ต่างจากคนทั่วไป



สำหรับผู้ที่มารับบทบาทนักแสดงภาพยตร์สั้น Shining Silence นำแสดงโดย “แม๊กกี้”“เนตรชนก จันทา” มารับบท “ปุ๊กกี้” ในเรื่องนี้  ซึ่งเธอเล่าถึงความรู้สึกว่า “หนูตั้งใจเล่นละครและมีความรู้สึกไปกับบทละครและเข้าใจตัวละครนี้เพราะเป็นเรื่องจริงของเพื่อนหนู หนูเข้าใจความรู้สึกของปุ๊กกี้  เข้าใจอารมณ์ของบทมากในการแสดงครั้งนี้ การแสดงละครเรื่องนี้หนูรับรู้ถึงอารมณ์จนหนูร้องให้ได้จริง และการแสดงครั้งนี้ทำให้ได้มีประสบการณ์ดี ๆ มากมาย” 



และที่จะไม่กล่าวถึงไม่ได้ คือ “ปุ๊กกี้” “กาญจนาพิมพา” Miss Deaf Thailand 2019 และ Miss Deaf Asia 2019 กำลังศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาคอมพิวเตอร์ หลักสูตรเทคโนโลยีสารสนเทศมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร ปุ๊กกี้พิการหูหนวกตั้งแต่กำเนิดโดยเข้าศึกษาที่โรงเรียนโสตศึกษาที่จังหวัดอุดรธานี และมาสมัครที่มหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ แต่ไม่มีที่เรียนเพราะไม่มีล่ามดูแลจึงกลับไปศึกษาที่จังหวัดสกลนคร

เธอเล่าว่า “ถึงปุ๊กกี้จะไม่ได้ยินเสียงใครและพูดไม่ได้แต่ก็สามารถสื่อสารกันได้หากเราเปิดใจต่อกัน และสำหรับน้อง ๆ ผู้พิการทุกคน ปุ๊กกี้อยากให้ทุกคนมีความฝันและทำตามความฝันมาสร้างโลกแห่งความสุข ที่เปล่งประกายแสงแห่งความหวัง ความฝัน และพลังสร้างสรรค์ร่วมกัน” 




และบุคคลสำคัญอีกท่านหนึ่งที่ต้องกล่าวถึงก็คือ คุณนับดาว องค์อภิชาต ผู้อำนวยการกองประกวด Miss & Mister, Miss Queen, Mrs. Deaf Thailand เธอเล่าว่า รู้สึกภูมิใจที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ จะช่วยฉายภาพและช่วยประชาสัมพันธ์ให้คนทั่วไปในสังคม ได้รู้จักเวทีความสามารถของคนพิการทางการได้ยิน เพราะไม่ใช่แค่การจัดประกวดความงาม แต่กลุ่มคนพิการเองได้รวมพลังทำงานนี้ โดยเฉพาะคุณนับดาว ที่ใช้เวลาตลอดชีวิต10ปีที่ผ่านมา สร้างโอกาสในชีวิตให้แก่เด็กๆ และหนุ่มสาวคนพิการ ได้มีความเชื่อมั่นในตนเองมีโอกาสในการประกอบอาชีพ และประสบความสำเร็จในชีวิตได้
 
ผู้สนใจติดตามรับชมภาพยนตร์สั้น Shining Silence ได้ที่ https://www.facebook.com/shiningsilencemovie/ หรือ

YouTube : Shining Silence

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ติดต่อ  คุณ อทิตา พรหมสุนทร ผู้ประสานงานโครงการ 7 Inspirations 089-0595997

60
“แมน" จัดเต็มเพื่อ "ใบเตย" สุดหวานเว่อร์!! โชว์สวีทฉลองครบรอบแต่งงานบนตึกเลอบัว! พร้อมโพสต์ซึ้งขอบคุณที่รักกัน







ฉลองครบรอบวันแต่งงาน 1 ปี เมื่อวานนี้ (5 ต.ค.) ของนักร้องลูกทุ่งสาวสั้นเสมอหู ใบเตย-สุธีวัน กับสามีดีเจสุดหล่อ แมน-พัฒนพล ซึ่งทั้งคู่เพิ่งให้กำเนิดทายาทตัวน้อย น้องเวทย์มน เมื่อวันที่ 13 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยทั้งคู่แอบหนีลูกสาวตัวน้อยควงกันไปโชว์สวีทแบบสองต่อสอง ซึ่งแมน ทำเซอร์ไพรส์ใบเตย ด้วยการพาไปฉลองท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติกของ Sirocco บนยอดตึกของโรงแรมเลอบัว (Lebua) จุดหมายสุดฮิตใจกลางกรุงเทพฯ ที่กำลังมาแรงและได้รับความนิยมด้วยอาหารรสเลิศและวิวสุดตระการตา ซึ่งทำเอาสาวใบเตยสุดดีใจและซาบซึ้งเป็นอย่างมากจนต้องชวนคุณสามีเก็บภาพคู่สุดโรแมนติกไว้เป็นที่ระลึก

โดยล่าสุดในอินสตาแกรม dj_man9999 ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความสุดหวานว่า "ขอบคุณที่รักผู้ชายคนนี้นะครับ .... หลายครั้งที่ทุกคนรอบข้างมองผมเหมือนคนร้าย พูดถึงผมในทางที่ไม่ดี วันนี้ผมได้เรียนรู้อะไรหลายสิ่งเพราะคนเหล่านั้นไม่เคยรู้จักตัวตนของผมเลย นอกจากครอบครัวของผมพ่อแม่น้องและก็มีคุณที่เข้าใจตัวตนของผมมากที่สุด ชีวิตที่เหลืออยู่ผมขอมอบให้กับคุณและลูกสาวของผม รักคุณที่สุดลูกทุ่งสาวยอดกตัญญ ขอบคุณที่ทำให้วายร้ายในตัวผมค่อยๆหายไป ขอบคุณเอมมี่เพื่อนรักและพี่เป็กมากครับที่จัดสถานที่สวย ๆ ให้เรา"




ด้านอินสตาแกรมของสาวใบเตยก็โพสต์ภาพสวมชุดราตรียาวซีทรูสีดำพร้อมแคปชั่นที่อ่านแล้วชวนอมยิ้มว่า "หลัวบอกว่าใส่ขนาดนี้ถอดเลยดีกว่า # ชอบอะแหละ # เป็นคนโปร่งใสชัดเจน 555" ทำเอาโดนเพื่อนดาราและแฟนคลับเข้าไปแซวกันอย่างมากมาย และชมว่าสาวใบเตยดูแลรูปร่างหลังคลอดได้ดีมาก แบบนี้น้องเวทย์มนน่าจะมีน้องตามมาเร็วๆ นี้

Pages: 1 2 3 [4] 5 6 ... 184